รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.503 – รีวิวบ้านเดี่ยว Villaggio บางนา
21 มิถุนายน 2020
รีวิวฉบับที่ 584 …สวัสดีค่ะ:) วันนี้เราจะพาทุกท่านฝ่าลมร้อนมาเจาะลึกโครงการ Villaggio บางนา ทาวน์โฮม2ชั้นสไตล์ยุโรปย่าน ABAC บางนา ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี บนที่ดินกว่า 153 ไร่ พร้อมทะเลสาบขนาดใหญ่ในโครงการ รวมพื้นที่ส่วนกลาง 18 ไร่ ออกแบบมามีธีมมีพร๊อพแทบทุกจุด มีทะเลสาบขนาดใหญ่ล้อมพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นอาคารสไตล์ยุโรป พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนสร้างแยกกัน และดีไซน์ต่างกัน ดูเหมือนเมืองเล็กๆกลางทะเลสาป จาก Land and Houses ค่ะ ภาพรวมโครงการนี้จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราไปดูกันนะคะ 🙂
Fact @ 21 May 2014
- Villaggio Bangna (วิลเลจจิโอ บางนา)
- บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- Segment : ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางบ่อ จังหวัด สมุทรปราการ
- เนื้อที่โครงการ 152-3-98.2 ไร่
- จำนวนยูนิตรวม 1,035 ยูนิต (บ้านเดี่ยว 329 ยูนิต, ทาวน์โฮม 706 ยูนิต)
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น 706 ยูนิต
- ทาวน์โฮม หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม. 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน
- ขนาดที่ดินเริ่มต้นและแปลงมาตรฐาน 18.1 ตารางวา
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการปี 2562
- ราคาเริ่มต้น 1.82 ล้านบาท หรือ 100,553 บาท /ตารางวา
- http://www.lh.co.th/home/projects/0000001115
- TEL: 02-1751236-7
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ 🙂
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.638449,100.852142
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC บางนา) ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 7 กิโลเมตรค่ะ ถนนหลักที่ใช้ในการเดินทางคือถนน บางนา-ตราด ซึ่งเป็นถนนหลักในการเดินทางไปยังจังหวัด ชลบุรี ช่วงที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 26 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ทำให้มีรถบรรทุกวิ่งกันค่อนข้างเยอะ การเดินทางเข้าตัวเมืองชั้นในใช้เส้นทางบางนาไปยังถนนสุขุมวิท หรือถ้าจะไปโซนรามคำแหงก็ใช้ถนนศรีนครินทร์ได้ ทางด่วนสามารถใช้ทางด่วนบางนา หรือใช้ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมบนเส้นกาญจนาภิเษกก็ได้ ถ้าจะไปถนนพระราม 9 ก็สามารถใช้เส้นทางวงแหวนกาญจนาภิเษกแล้วเข้ามอเตอร์เวย์ได้
สภาพแวดล้อมในซอย ABAC บางนา ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยและจะเต็มไปด้วยคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าสำหรับนักศึกษาและคนที่ทำงานในย่านนี้ โดยแบ่งออกได้เป็น 3 โซน โซนแรกคือโซนบริเวณปากซอยเป็นช่วงที่มีความคึกคักมากที่สุดเพราะมีคอนและอพาร์ทเม้นท์อยู๋ในโซนนี้เยอะ และมีร้านสะดวกซื้อและแหล่งร้านอาหารต่างๆอยู่บริเวณวัดศิริเสาธง ถัดเข้ามาหน่อยก่อนถึง ทางเลี้ยวแยกไปยัง ABAC บางนาก็มี Community Mall อยู่ โซนที่สองคือบริเวณทางแยกไปจนถึงปากซอยทางเข้ามหาวิทยาลัย โซนนี้เริ่มคึกคักมากขึ้นเพราะมีอพาร์ทเม้นท์ใหม่ๆมาเปิดกันเยอะและยังมี Community Mall เปิดเพิ่มอีกแห่งซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควรมีร้านอาหาร Inter Brand มาเปิดมากมาย ถ้าสร้างเสร็จผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยนี้ก็สามารถมาใช้บริการได้โดยที่ไม่ต้องไปถึงห้างสรรพสินค้า โซนที่สาม คือบริเวณที่เลยปากทางเข้า ABAC บางนาไปแล้วจะเริ่มเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบไม่ค่อยมีคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์แล้ว อาหารการกินก็จะมีน้อยกว่าช่วงต้นซอยมาก ส่วนถ้าอยากจะไปเดินเที่ยวห้างก็ต้องไป Mega Bangna จะอยู่ใกล้มากที่สุดค่ะ
การเดินทางเริ่มจากเซ็นทรัลบางนา ตรงไปกลับรถแล้วเข้าโครงการเลย ถ้าใครทำงานบนเส้นบางนาก็ถือว่าสะดวกมากเลยค่ะ ช่วงต้นของการเดินทางขอใช้รูปจากรีวิวโครงการ Casa France ABAC Bangna นะคะ ทางเดียวกันไปด้วยกันนะ ไปชมกันเลยค่ะ
เรามาเริ่มต้นกันที่เซ็นทรัล บางนา นะคะ
ถัดมาจะเจอ Big C ติดๆกันเลย ตรงนี้มีทางออกจากถนนหลักเป็นทางออกสุดท้ายสำหรับขึ้นสะพานเข้าเส้นศรีนครินทร์(ไปทางเทพารักษ์)
ก่อนถึงแยกจุดตัด ถนน ศรีนครินทร์ มีจุดสังเกตคือ SB Design Square
ถึงจุดตัดถนนศรีนครินทร์ให้ตรงไป
เลยแยกมาหน่อยจะเจอกับ Index living mall
ถ้าใครใช้ถนนหลักก็วิ่งยาวๆเลยค่ะ ต่อจากนี้เราจะวิ่งในทางหลักไปสักระยะจนใกล้ๆถึงทางเข้าโครงการแล้วค่อยออกทางคู่ขนานค่ะ
ก่อนถึงทางแยกที่ตัดกับ ถนนกาญจนาภิเษก จะเจอ Tesco Lotus อยู่ซ้ายมือถ้าใช้ทางออกนี้จะมีสะพานกลับรถและเทางเชื่อมต่อเข้า Mega bangna ได้โดยตรง
วิ่งต่อมาลอดใต้สะพานที่เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ
วิ่งต่อมาจะแยกที่ตัดกับ ถนนกิ่งแก้ว
เลยสนามบินมาหน่อยถนนหลักจะเหลือแค่ 2 เลนเท่านั้น
ผ่านมหาวิทยาลัยหัวเฉียว
ช่วงนี้(พ.ค. 2014 )ถนนหลักมีการซ่อมแซมเป็นระยะๆค่ะ ทำให้รถที่วิ่งอยู่ถนนหลักต้องออกมาใช้เส้นคู่ขนานทั้งหมด ทำให้ช่วงนี้รถก็จะติดเป็นระยะๆ
หากใช้ทางด่วน ทางลงจะอยู่ก่อนถึงปากซอยไม่ไกล ลงมาจะเจอกับโชว์รูม Mitsubishi
ซอย ABAC บางนา บริเวณทางเข้าจะมีซุ้มประของวัดศิริเสาธงเป็นจุดสังเกต
ซอยทางเข้าโครงการอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 26 หรือที่เรียกกันว่า ซอย ABAC บางนาค่ะ ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยไปประมาณ 7 กิโลเมตรค่ะ สภาพแวดล้อมในซอย ABAC บางนา ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยและจะเต็มไปด้วยคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าสำหรับนักศึกษาและคนที่ทำงานในย่านนี้ โดยแบ่งออกได้เป็น 3 โซน โซนแรกคือโซนบริเวณปากซอยเป็นช่วงที่มีความคึกคักมากที่สุดเพราะมีคอนและอพาร์ทเม้นท์อยู๋ในโซนนี้เยอะ และมีร้านสะดวกซื้อและแหล่งร้านอาหารต่างๆอยู่บริเวณวัดศิริเสาธงด้วย ถัดเข้ามาหน่อยก่อนถึง ทางเลี้ยวแยกไปยัง ABAC บางนาก็มี Community Mall อยู่ โซนที่สองคือบริเวณทางแยกไปจนถึงปากซอยทางเข้ามหาวิทยาลัย โซนนี้เริ่มคึกคักมากขึ้นเพราะมีอพาร์ทเม้นท์ใหม่ๆมาเปิดกันเยอะและยังมี Community Mall เปิดเพิ่มอีกแห่งซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควรมีร้านอาหาร Inter Brand มาเปิดมากมาย ถ้าสร้างเสร็จผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยนี้ก็สามารถมาใช้บริการได้โดยที่ไม่ต้องไปถึงห้างสรรพสินค้า โซนที่สาม คือบริเวณที่เลยปากทางเข้า ABAC บางนาไปแล้วจะเริ่มเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบไม่ค่อยมีคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์แล้ว อาหารการกินก็จะมีน้อยกว่าช่วงต้นซอยมาก เราไปดูบรรยากาศในซอยกันดีกว่าค่ะ
เลี้ยวเข้ามาต้นซอยจะเห็นวินมอเตอร์ไซค์อยู่ฝั่งขวามือ (ซอยนี้เห็นวินมอเตอร์ไซค์น้อยมากค่ะ ส่วนมากท่าจะเน้นขับรถกันมากกว่า) ฝั่งซ้ายมือเปนกลุ่มหอพัก มี 7-11, CP Freshmart
ขับตรงมาอีกหน่อย โซนก่อนถึงวัดศิริเสาธงมีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำมะนาวสด ร้านหมูย่างเกาหลี ศูนย์อาหารตลาดนายน้อย
ตรงมาอีกนิดจะเห็น Tesco Lotus ฝั่งซ้ายมือ 7-11 ฝั่งขวามือ ก่อนถึงวัดศิริเสาธง
วัดศิริเสาธง เป็นวัดเดียวที่เห็นในถนนซอยABAC บางนานี้นะคะ เป็นวัดหนึ่งที่มีการบวชเณรภาคฤดูร้อน และมีการเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา ทุกๆปีจะมีการประดับไฟสวยงามสวยงาม โซนรอบๆหน้าวัดก็ดูมีร้านขายของชำ ร้านขายอาหารการกินอยู่หลายร้าน
ขับตามทางไปอีกหน่อยจะเห็น โรงพักบางเสาธงอยู่ทางขวามือ ตรงข้ามก็มีร้านอาหารและร้านค้าต่างๆอยู่พอสมควร
ขับต่อมาอีกหน่อยจะเจอที่ว่าการอำเภอบางเสาธงอยู่ทางซ้ายมือ
ถัดมาเจอตลาดเกษมสุขอยู่ทางซ้ายมือ
ขับมาอีกหน่อยจะเจอหอพัก GVC เป็นหอพักใหญ่ มีร้านมินิมาร์ท เอทีเอ็ม ร้านซักอบรีดอยู่ ตรงข้ามมีตลาดโต้รุ่งนายน้อยไว้รอขายบรรดานักศึกษาที่ชอบทานมื้อดึก
ถัดมาเป็นหอพัก Brighton หอนี้ก็ใหญ่เหมือนกัน ฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหาร บาร์เล็กๆ หลายร้าน
ตรงต่อมาจะเจอร้านขาหมูเหม่งจ๋าย ที่ขายอาหารตามสั่งด้วย ให้เลี้ยวขวาตามลูกศร
เลี้ยวขวาแล้วก็ตรงตามทางไปเรื่อยๆนะคะ
ตรงตามทางมาจะเจอ Peles Castle อยู่ซ้ายมือตรงหัวโค้ง แสดงว่ามาถูกทางแล้ว
ผ่านหัวโค้งมาจะเจอ หอพัก ฌ เฌอ ซึ่งใต้หอมี Community mall
ขับต่อมาจะเจอ View Point community mall เห็นมีร้านอาหารอย่าง Yayoi, MK, และร้านอาหารอื่นๆมาเปิดอยู่นะ
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายโครงการ Villaggio ติดอยู่ เป็นภาพสโมสรสไตล์บ้านชนบทในยุโรปที่ล้อมรอบด้วยสนามหญ้าและทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่เป็นจุดขายหลักอย่างนึงของโครงการ
ขับต่อไปซ้ายมือจะเจอทางเข้า ABAC บางนา แล้วค่ะ แต่เราขับตรงต่อไปนะ
ชิดซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆนะ
ฝั่งขวามือจะเห็นบริษัท Cool group ขนาดใหญ่อยู่เหมือนกัน เราขับตรงตามทางต่อไปนะคะ
ตรงมาเรื่อยๆพอเราเห็นต้นหูกระจง ต้นสน ก็แสดงว่าใกล้ถึงมากแล้วค่ะ เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย
ถึงแล้วค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย จุดสังเกตคือมีรถไฟตั้งอยู่ที่หน้าทางเข้าเลยค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- รร.นวมินทราชินูทิศ ประมาณ 1.5 กม.
- สนามกอล์ฟสุภาพฤกษ์ ประมาณ 2 กม.
- มหาวิทยาลัย ABAC บางนา ประมาณ 3 กม.
- Central บางนา ประมาณ 20 กม.
- โรงพยาบาลบางนา ประมาณ 10 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 32 กม
- HomePro & Lotus ประมาณ 20 กม.
- Mega บางนา ประมาณ 25 กม.
เจาะลึกตัวโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
รูปร่างของที่ดินโครงการมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มุมสองด้านยุบลงมาเหมือนในภาพ พื้นรอบข้างทั้งสามฝั่งเป็นที่ดินเปล่า ฝั่งตรงข้ามข้ามเยื้องๆออกไปหน่อยเป็นโครงการชัยพฤกษ์และโครงการ Indy บางนาค่ะ
ทางเข้าออกหลักของโครงการเป็นถนนกว้าง 22 เมตร เข้ามาจะเจอวงเวียนแจกไปสองฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นโซนโครงการบ้านเดี่ยว(ยังไม่สร้างนะคะ) และฝั่งขวาเป็นโครงการทาวน์โฮมที่เรามาทำรีวิวกันวันนี้ค่ะ จากทางเข้าด้านหน้าเราจะเห็นทะเลสาปขนาดใหญ่ มีเกาะกลางทะเลสาปปูสนามหญ้า มีกลุ่มอาคารสไตล์หมู่บ้านในชนบทของยุโรปอยู่ตรงกลาง เป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Sales Office, Bell Tower จุดชมวิว, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, อาคารนิติบุคคล, สวนสาธารณะ อยู่บนเกาะกลางทะเลสาป ถนนรองแจกเข้าโซนที่พักอาศัยกว้าง 16-14 เมตร ถนนย่อยในซอยกว้าง 8 เมตรนะคะ ตัวพื้นที่โครงการทั้งหมดกว้างประมาณ 153 ไร่ จำนวนยูนิตรวม 1,035 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 329 ยูนิตและทาวน์โฮม 706 ยูนิตค่ะ
เริ่มกันจากซุ้มทางเข้าก่อนเลย ดีไซน์ทางเข้ามาโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สุดๆค่ะ เหมือนสถานีรถไฟสไตล์ยุโรปนะ ถ้าเรามองผ่านซุ้มทางเข้าเข้าไปจะมองเห็น Bell Tower และกลุ่มอาคารสไตล์เดียวกันอยู่ข้างใน
ฝั่งขวามือของซุ้มทางเข้า ซุ้มโครงการออกแบบเป็นสถานีรถไฟค่ะ มีรถไฟสีแดงข้างบนติดป้าย Villaggio station (สถานี วิลเลจจิโอ) ทำแลนด์สเคปเป็นเนินหญ้าสีเขียว มีพุ่มดอกไม้และกอหญ้าแบบ cattail มีตุ๊กตาฝูงแกะเล็มหญ้าในอิริยาบทต่างๆกัน พร้อมต้นสนแซมเป็นฉากหลัง
ซุ้มทางเข้าโครงการเป็นไม้กระดกที่แบ่งเป็นสองช่องทางค่ะ ช่องซ้ายเป็นเลนลูกบ้านแบบแตะบัตร Access Key Card, ช่องขวาเป็นเลนคนนอกแบบแลกบัตรค่ะ
ช่องทางลูกบ้านทางซ้าย เป็นแบบแตะบัตร Access Key Card
ช่องขวาเลนคนนอกเป็นแบบแลกบัตร มีกล้อง CCTV 2 ตัว ส่องหน้ารถและป้ายทะเบียน
ภาพด้านบนเป็นซุ้มทางออกโครงการค่ะ ไม้กระดกฝั่งขาออกใช้รูปแบบเดียวกันกับขาเข้าคือแบ่งเป็นสองช่องทางเหมือนกัน คือ ลูกบ้านแตะบัตรออกช่องฝั่งซ้าย คนนอกแลกบัตรออกช่องฝั่งขวา ตัวอาคารฝั่งซ้ายมือในอนาคตมีแผนทำอาคารส่วนนี้เป็นร้านกาแฟด้วยค่ะ ด้านซ้ายมือที่เห็นจักรยานจอดอยู่ตรงนั้นเค้าทำที่จอดจักรยานไว้ให้ด้วยนะค่ะ
เข้ามาจะเจอวงเวียนวนรถ ทางซ้ายมือจะเป็นฝั่งบ้านเดี่ยวที่เป็นโครงการในอนาคตค่ะ ยังกั้นรั้วไว้อยู่นะ วันนี้เราจะไปทางขวามือที่เป็นฝั่งทาวน์โฮมกันค่ะ
ถนนวิ่งเข้าออกแบ่งเป็นสองเลน มีเกาะตรงกลางปลูกต้นไม้ที่อีกซักสองปีคงโตและสร้างบรรยากาศร่มรื่นให้ถนนได้ดีทีเดียว
มองผ่านทะเลสาบเข้าไปที่พื้นที่ส่วนกลาง เป็นอาคารสไตล์ยุโรป พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนสร้างแยกกัน ดูเหมือนเมืองเล็กๆกลางทะเลสาป ต้นสนที่ปลูกเอาไว้ก็ช่วยเสริมบรรยากาศได้ดี เห็นแล้วนึกถึงพวกโปสการ์ดภาพเมืองในหิมะสมัยก่อน (แต่ความเป็นจริงวันนั้นคือแดดร้อนเปรี้ยงเลยนะ 555+)
ถนนโครงการราด asphalt หรือยางมะตอย รั้วโครงการสูง 3 เมตรค่ะ
ขับตามทางมาเรื่อยๆ ผ่านอาคารอิฐสีส้ม ในอนาคตเป็นอาคารนิติบุคคลค่ะ
ทางเข้าพื้นที่ส่วนกลางค่ะ เราขึ้นไปดู Sales Office กันเถอะ สนามหญ้าตรงส่วนนี้เป็นหญ้าจริงที่ดูแลจัดการได้ดีค่ะ แม้ว่าจะอากาศร้อนแต่ต้นหญ้าก็ดูเขียวสดใสดี
เดินขึ้นบันไดมาจะเจอสระบัว (หญ้าที่เห็นส่วนนี้เป็นหญ้าเทียมแล้วค่ะ) และม้านั่งสีขาว
Sales office เลี้ยวซ้ายค่ะ ขวามือเป็น Bell tower หรือ จุดชมวิวโครงการตั้งอยู่ใกล้ๆกัน
หน้า Sales Office หรือ สโมสรในอนาคต แขวนป้าย Town Hall (สภาเมือง) เอาไว้ ตามธีมเมืองในชนบทของยุโรป จริงๆถ้าใครสนใจพวกการวางผังเมืองในยุโรปอยู่บ้าง จะพบว่าจริงๆ Town Hall (สภาเมือง) และ Bell Tower (หอระฆัง) ก็มักจะสร้างอยู่ใกล้ๆกันนะคะ นึกภาพจตุรัสใจกลางเมืองโบราณ ที่พื้นปูด้วยหิน มีโบสถ์ สภาเมือง หอระฆัง ใจกลางเมืองเป็นน้ำพุ หรือ อนุสาวรีย์ ทีมออกแบบน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากจุดนี้
ที่เฉลียงหน้าทางเข้า Sales office มีสแตนด์เชิญชวนให้ร่วมสนุกกิจกรรม Photo Trip @WowderlandVillaggioBangna อยู่นะคะ คือให้ถ่ายภาพมุมประทับใจในโครงการ แล้วเช็คอิน Villaggio Bangna พร้อมติด #Wowderland แชร์ผ่านเฟซบุ้คหรืออินสตราแกรมโดยตั้งเป็น Public ไว้นะคะ ภาพของใครมีคนกดไลค์มากสุดรับ Samsung Galaxy S5 ไปค่ะ เราเข้าไปดูข้างใน Sales Office กันดีกว่า
ภายในตกแต่งสไตล์วินเทจ ผนังด้านหลังเคาเตอร์เต็มไปด้วยนาฬิกาแขวน
มองออกไปนอกหน้าต่าง ผ่านระเบียงริมทะเลสาปกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
ออกมาจาก Sales Office เลี้ยวซ้ายไปดูสระว่ายน้ำกันดีกว่า ทางเดินปูหิน เชื่อมระหว่าง Sales office (สโมสร), Bell Tower (หอระฆัง), สระว่ายน้ำฝั่งผู้ใหญ่ฝั่งเด็ก, ห้องน้ำ, ฟิตเนส
สระว่ายน้ำของโครงการขนาด 26.2 x 12.5 m. ลึก 1.2 m. เป็นระบบคลอรีนค่ะ ตัวขอบสระยกสูงขึ้นมาประมาณครึ่งฟุตเป็นกระเบื้องสีดำ ในสระเป็นกระเบื้องโมเสคสีน้ำเงินฟ้าสดใส รอบสระโรยหินแม่น้ำปิดตะแกรงระบายน้ำ เดินขอบปูนอีกที พื้นรอบๆปูหญ้าเทียมค่ะ ฝั่งขวามือของสระ มีเก้าอี้ริมสระเป็นไม้สีเทา (เป็นเก้าอี้ริมสระสไตล์วินเทจน่ะนะ มีกระถางดอกไม้สีม่วงวางแต่งอยู่ด้วย) หลังเก้าอี้เป็นแนวเสาของโถงทางเดิน
ฝั่งซ้ายของสระว่ายน้ำหันไปทางทะเลสาปค่ะ มองผ่านทะเลสาบเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ(ที่ออกแบบเป็นสถานีรถไฟ ) ส่วนทางเดินสนามหญ้าในภาพเชื่อมไปที่ระเบียงของSales office หรือ สโมสรในอนาคต ส่วนหญ้าที่เห็นเป็นหญ้าเทียมเพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน เพราะบริเวณนี้จะเป็นจุดที่มีลูกบ้านมาใช้งานเยอะดังนั้นหญ้าที่ใช้จึงต้องมีความทนทานที่ดี ถ้าใช้เป็นหญ้าจริงการดูแลรักษาให้หญ้าเขียวอยู่ตลอดจะลำบากหน่อยแถมค่าใช้จ่ายก็เยอะขึ้น ภาระส่วนนี้ก็ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะจะวนกลับมาเป็นค่าส่วนกลางที่สูงขึ้นนั่นเอง
มีโซฟาหวายสีขาวเบาะลายดอก และพร๊อพจัดเต็มสำหรับถ่ายรูป ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ ด้านหลังสระว่ายน้ำมองลงไปเห็นอาคารฟิตเนสสีฟ้าอ่อน ระเบียงเชื่อมออกไปท่าเรือริมทะเลสาป มีฝูงตุ๊กตาเป็ดอยู่บนสนามหญ้าด้านล่าง ก่อนถึง ใครชอบถ่ายรูปเล่นมาชมโครงการนี้ท่าจะสนุกนะคะ พร๊อพเยอะเชียว
ระเบียงของSales office หรือ สโมสรในอนาคต เป็นเหมือนจุดนั่งพักผ่อนชมวิวทะเลสาป ที่ถ้าอากาศไม่ร้อนมาก (แบบในภาพ สังเกตเงาคมกริ๊บ 555+) ก็ดูเป็นมุมที่นั่งสบายดีนะคะ เอาไว้มานั่งเล่นพักผ่อนตอนเย็นๆบรรยากาศดีมาก
มองจากชุดที่นั่ง ผ่านแนวรั้วเหล็กทาสีขาวและพุ่มไม้ดอกออก ผ่านทะเลสาปไปที่ซุ้มทางเข้าออกโครงการ
กลับมาที่ทางเดินในร่มต่อ สังเกตแนวเสา ด้านบนทำระแนงช่วยกันแดดให้โถงทางเดิน พร้อมแต่งตัวฐานเสาปูนสองชั้น ฝั่งซ้ายมือที่เราชมกันไปแล้วคือสระผู้ใหญ่ค่ะ เราไปดูสระเด็กฝั่งขวามือกันบ้าง แยกสระอย่างนี้ก็ปลอดภัยขึ้นไปอีกระดับนะคะ กรณีที่เด็กๆแอบลงไปเล่นสระผู้ใหญ่ก็จะทำได้ยากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ที่ลงไปว่ายน้ำเล่นที่สระผู้ใหญ่ก็มองเห็นลูกๆในสระเด็กได้ แต่เก้าอี้ริมสระหันไปทางสระผู้ใหญ่นะ
สระเด็กเป็นสระในร่มค่ะ ลึก 60 เซนติเมตร เป็นระบบคลอรีนค่ะ ถัดจากมุมขวาบนของสระมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสระอยู่
ตัวขอบสระเป็นกระเบื้องสีดำ ในสระเป็นกระเบื้องโมเสคหลายสีเคลือบสีเหลือบมุก (ไม่ค่อยเห็นแลนด์แอนเฮ้าส์ใช้กระเบื้องสระว่ายน้ำแบบนี้นะ) รอบสระโรยหินแม่น้ำปิดตะแกรงระบายน้ำ พื้นรอบเป็นพื้นหินค่ะ
ข้างๆสระเด็กเป็นจุดล้างตัวค่ะ มีฝักบัวหนึ่งชุด พื้นเป็นทรายล้างสลับหินแม่น้ำ โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในความเอาใจใส่ของผู้ออกแบบค่ะ อย่างเจ้าก๊อกน้ำเนี่ยยังหาหน้าตาที่เข้ากับ Concept ของโครงการเลย ไม่ได้เอาแบบที่หน้าตาธรรมดาตามท้องตลาดทั่วๆไปนะค่ะ นอกจากตรงนี้ยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆตามจุดต่างๆที่เค้าจัดมาให้เข้ากับบรรยากาศดีมาก แต่อาจจะไม่ได้พาไปชมทั้งหมดนะค่ะ แต่ก็ขอชื่นชมผ้ออกแบบที่เอาใจใส่ในรายละเอียดดีมาก
ถัดจากสระเด็กมาเป็นศาลานั่งพักมีทางเดินเชื่อมไปที่อาคารห้องน้ำและจุดเปลี่ยนชุดค่ะ สังเกตว่าพื้นผิวของอาคารก็มีดีไซน์ที่ต่างกัน อย่างศาลาที่ผิวนอกอาคารเป็นหินเหลืองเทาเดินขอบปูนทาสีขาว และอาคารห้องน้ำที่ผิวเป็นอิฐสีส้ม ตัดด้วยเสาและหลังคาสีน้ำตาล ตามดีไซน์ตัวอาคารแต่ละแบบ สังเกตดูจะเห็นรายละเอียดที่คิดมาเยอะทีเดียวค่ะ
เข้าไปดูข้างในอาคารห้องน้ำกันดีกว่า
เข้ามาจะเห็นพื้นปูหญ้าเทียมสีเขียว ฝั่งขวามือจะเห็นชั้นวางถังไม้เป็นแถวอยู่ ..ถังอะไรอะ! ถังเบียร์ใช่มั้ย?
ไม่ใช่ถังเบียร์นะ เป็นล็อคเกอร์เก็บของตะหาก เห็นรูกุญแจเล็กๆนั่นมั้ยคะ ขอบวงกลมของบานเปิดฝั่งซ้ายมือเป็นสีเขียวสำหรับผู้ชาย ฝั่งขวามือสีแดงสำหรับผู้หญิง
ติดกันกับชั้นล็อคเกอร์ เป็นห้องน้ำหญิงค่ะ ป้าย W หน้าประตูเป็นเหล็กแผ่นตัดรูปสาวชาวไร่ให้อาหารเป็ด เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า
เข้ามาด้านในเป็นผนังทาสีฟ้าอมเทา เซาะร่องเหมือนแผ่นไม้กระดาน พื้นเป็นกระเบื้องลายหินโทนสีเปลือกไข่ มองเห็นหน้าต่างทาสีขาวนำแสงธรรมชาติเข้ามา มีห้องอาบน้ำสองห้อง ห้องโถสุขภัณฑ์สองห้อง
ฝั่งขวามือมีหน้าต่างบานเกล็ดทาสีขาว ธีมห้องน้ำหญิงตกแต่งแนวงานบ้านของผู้หญิงพวกงานผ้าต่างๆ คือพร๊อพมาตรึม กระจกผูกริบบิ้นแขวน หมวก เหยือกน้ำใส่ดอกลาเวนเดอร์ (ของปลอม) รองเท้าหนัง กระเป๋าเดินทาง หีบหวาย แลพร็อพสไตล์วืนเทจเล็กๆน้อยๆกระจุ๊งกระจิ๊งอีกหลายอย่าง
ฝั่งซ้ายเป็นอ่างล้างมือ สองอ่าง ดีไซน์ตัวอ่างล้างมือทำเป็นชามกระเบื้องสีขาวบนโต๊ะสีดำ ก็อกน้ำและมือจับแยกกัน และฝังผนังทั้งคู่ กระจกเงาทำเป็นทรงกลม ใช้Belt หนังสีอ่อนแขวนผนังไว้ ดีเทลน่ารักดี สังเกตฝั่งซ้ายมือมีเต้าเสียบทำฝากันน้ำสีดำใสเอาไว้ให้เสียบไดร์เป่าผมอยู่ด้วย
ห้องโถสุขภัณฑ์ค่ะ ผนังปูนสีขาว
ห้องอาบน้ำค่ะ ผนังเป็นกระเบื้องเคลือบเงาสีขาว
แอบเข้าไปดูห้องน้ำชายกันหน่อย ป้ายห้องน้ำชายก็ทำเป็นรูปหนุ่มชาวไร่เช่นกัน
ด้านในตกแต่งคล้ายห้องน้ำหญิงแต่พร็อพเป็นธีมหนุ่มชาวไร่แทน จะแมนๆกว่าหน่อย กระจกเงาที่แขวนจะใช้ Belt หนังสีดำ
ขวามือเป็นอ่างล้างมือดีไซน์เหมือนถังไม้โอ๊คตอกหมุด ก็อกน้ำและมือจับเปิดปิดเป็นแบบฝังผนัง ฝั่งซ้ายมือมีเต้าเสียบทำฝากันน้ำสีดำใสเอาไว้ให้เสียบไดร์เป่าผมอยู่ด้วย
ห้องน้ำชายมี ห้องอาบน้ำสอง ห้องโถสุขภัณฑ์สอง
และมีโถปัสสาวะชายอีกสอง ออกไปดูข้างนอกกันต่อดีกว่า
ออกจากอาคารห้องน้ำมองไปทางขวามือ จะเห็นทางเชื่อมไปอาคารฟิตเนสสีฟ้าหลังคาสีเทา
อาคารฟิตเนสเป็นอาคารที่ดีไซน์เป็นไม้สีฟ้าทาสีฟ้าอ่อน หลังคาสีเทา เสายื่นตรงเฉลียงทางเข้าเป็นปูนทาสีเหลืองอ่อนเดินขอบขาว ทางเดินปูหิน ที่พุ่มไม้คลุมดินข้างทางมีบ้านนกสีสันสดใสปักอยู่เต็ม
ทางเชื่อมหน้าฟิตเนสนี่เดินต่อไปถึงระเบียงของสโมสร หรือ Sales office ในตอนนี้ได้นะคะ
หน้าเฉลียงทางเข้า มีเก้าอี้ไม้โยกหวายสีอ่อน พร้อมโต๊ะข้าง ใช้ธีมการตกแต่งแบบบ้านชาวประมงค่ะ จะเห็นพร๊อพปลาไม้สลักที่แขวนอยู่กับขอเกี่ยวเหล็กด้วยค่ะ
ด้านในก็ตกแต่งคุมธีมแบบบ้านชาวประมงค่ะ โทนสีหลักคือสีฟ้าขอบขาว สุดฝั่งด้านนึงติดกระจกเงาตรงกลาง และล็อกเกอร์ไม้ทาสีฟ้าขนาบสองฝั่ง
การตกแต่งมุมล็อกเกอร์ธีมชาวประมง
ล็อกเกอร์เป็นไม้ทาสีฟ้า ดีเทบพวงกุญแจล็อกเกอร์เป็นปลาไม้สลักทาสีขาวแต่งฟ้า
เครื่องเล่นนอกจากบาร์ดัมเบล ก็มีลู่วิ่ง เครื่องวิ่ง เครื่องถีบจักรยาน เครื่องเพาะกล้าม พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนค่ะ หน้าต่างบานใหญ่มองเห็นชุดโซฟาหวายที่ระเบียงด้านนอก
ออกไปดูด้านนอกกันริมทะเลสาปกันดีกว่าค่ะ
เพื่อให้สมกับธีมชาวประมง มีการออกแบบท่าเรือไว้ด้วย
มีเรือจอดอยู่ที่กอต้นกกด้วยอะ
เรือเป็นพร็อพเฉยๆนะคะ ห้ามเอาออกไปพายเล่นนะ
กลับมาที่ระเบียงฟิตเนส นอกจากชุดโต๊ะเก้าอี้หวายแล้ว ยังมีชิงช้าผูกไว้ให้นั่งด้วย
มองออกไปจากรั้วระเบียง มีฝูงตุ๊กตาเป็ดอยู่บนสนามหญ้า
ฝูงตุ๊กตาเป็ดหันหน้าไปทางสระว่ายน้ำผู้ใหญ่และ Bell Tower ค่ะ เราจะเห็นอาคารสโมสรหรือ Sales office สีเหลืองอ่อนอยู่ใกล้ๆกัน เราขึ้น Bell Tower ไปชมวิวโครงการกันดีกวาค่ะ
ทางเข้า Bell Tower
เดินขึ้นไปกันๆ
ขึ้นบันไปเวียนไปราวๆสี่ชั้น
ถึงชั้นบนแล้ว:)
ข้างล่างอากาศร้อนๆ พอขึ้นมาข้างบนลมพัดเย็นดีค่ะ หอระฆังนี่มีระฆังแขวนอยู่จริงๆค่ะ (ลองแอบตีเล่นไปหนึ่งที)
ตัวระฆังมีข้อความเขียนไว้ว่า Happiness is a journey not a destination หรือ “ความสุขคือการเดินทาง หาใช่จุดหมายปลายทางไม่” ..คำคมจากระฆังค่ะ เดี๋ยวเรามาดูวิวรอบๆโครงการจากหอระฆังกันดีกว่า
ภาพบนเป็นไดอะแกรมที่ดินโครงการ และวิว a, b, c, d จาก Bell Tower หรือ หอระฆัง จุดชมวิวของโครงการค่ะ
วิว a มองออกไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ มองออกไปข้างนอกเราจะเห็น หลังคาของโครงการชัยพฤกษ์และโครงการ Indy บางนา
วิว b มองออกไปทางฝั่งทาวน์โฮมค่ะ มีทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว กำลังสร้างอยู่ และกำลังจะสร้าง
วิว c สวนสาธารณะและที่ดินที่ถูกเตรียมไว้ก่อสร้าง
วิว d มองออกไปที่ดินโซนบ้านเดียว มีกำหนดการสร้างเสร็จหมดช่วงปี 62 ค่ะ ตอนนี้ยังกั้นรั้วล้อมที่ดินไว้อยู่ คือสร้างทาวน์โฮมก่อน
ออกจากหอระฆังเดินมาที่ลานจอดรถของพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนที่จอดรถเป็นพื้นหินบล๊อคค่ะ ถนนส่วนนี้ราด asphalt หรือยางมะตอย เหมือนถนนโครงการ
ศาลพระภูมิออกแบบมาให้เข้าธีมกับสไตล์อาคาร
ตรงข้ามศาลพระภูมิ หลังลานจอดรถเป็นสนามหญ้า และฝูงตุ๊กตาแกะ (เห็นมีตุ๊กตาแกะดำอยู่ 2 ตัว)
ถัดมาเป็นสวนสาธารณะ ตกแต่งเหมือนลานเทศกาลตามหมู่บ้านชนบทของยุโรป มีทำฮาร์ดสเคป เป็นม้านั่งปูนแต่งผิวด้วยแผ่นหินโค้งตามแลนด์สเคปหรือตามวงโค้งของสนามหญ้า (แต่ตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จนะค่ะ)
มองไปที่ซุ้มทางเข้าออก สวนสาธารณะ
ซุ้มจากฝั่งทางเข้าค่ะ ป้ายซุ้มเขียนว่า Villaggio Farms
จากซุ้มทางเข้าสวนสาธารณะ มองไปทางทาวน์โฮมค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำขนาด 26.2 x 12.5 m. เป็นระบบคลอรีนค่ะ แบ่งสระเด็กลึก 1.2 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 0.6 เมตร
- ห้องออกกำลังกายมีบาร์ดัมเบล ก็มีลู่วิ่ง เครื่องวิ่ง เครื่องถีบจักรยาน เครื่องเพาะกล้าม
- สวนสาธารณะ 18 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกแบบสองช่องทาง แยกลูกบ้านกับคนนอก ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก
ทาวน์โฮมVillaggio มีด้านหน้ากว้าง 5 เมตร ผังอาคารชั้นล่าง ลานจอดรถจอดได้ 1 คัน เข้ามาด้านหน้าเป็นโซนห้องนั่งเล่น มีทำกรอบยื่นตรงขอบหน้าต่างห้องนั่งเล่นใช้เป็นที่วางของอย่างหนังสือหรือกระถางต้นไม้หรือตุ๊กตาเพิ่มได้ โซนนิ่งทำได้กำลังดีกับขนาดที่มีนะคะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวได้ง่าย ระยะใช้งานพอเหมาะ อย่างเช่นโซฟา สามารถใส่โซฟาแบบสามที่นั่งและอาร์มแชร์กับสตูลเพิ่มได้อีกอย่างละตัวไม่อึดอัด มีที่พอวางชั้นติดผนังได้อีกด้าน ฝั่งชั้นวางทีวี ถ้าจะวางชั้นที่กว้างเกิน 2.5 เมตร ก็ต้องหาที่วางโต๊ะทานอาหารใหม่นะ โซนทานอาหาร อยู่ใกล้ห้องครัว ถ้าจัดแบบ 4 ที่นั่งในบ้าน ตามแปลนที่จัดมาให้และในบ้านตัวอย่างเป็นไอเดียที่เวิร์คสุดแล้ว เพราะไม่ขวางทางเดินทั้งเวลาทำครัว ไปสวนหลังบ้าน ห้องน้ำ และบันไดไปชั้นสอง ห้องน้ำชั้นล่างมีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ ไม่มีฝักบัวนะคะ
ชั้นสองมี 2 ห้องนอน มีห้องน้ำในห้องนอนทั้งสองห้องค่ะ มีความเป็นส่วนตัวดี ห้องนอนใหญ่วางเตียงคิงส์ไซส์ วางชั้นทีวีหน้าเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมมีระยะเดินสบายๆค่ะ มีห้องน้ำ 1 ห้อง แปลนห้องน้ำมาตรฐาน มีระเบียงตรงมุมเอาไว้วางแอร์คอมเพรสเซอร์ ห้องนอนเล็กถ้าจัดเตียงเดี่ยวก็มีที่วาง ชั้นทีวีหน้าเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมมีระยะเดินสบายๆเช่นกันค่ะ แต่ถ้าเป็นเตียงคู่ก็ตัดเหลือตู้เสื้อผ้าถึงจะพอมีระยะเดินนะ มีห้องน้ำภายในเป็นรูปตัว L ค่ะ เราไปดูบ้านตัวอย่างกันเลยดีกว่า
ทาวน์โฮมบ้านตัวอย่างตัวอาคารทาสีเหลืองอ่อนมีเซาะร่องเหมือนแผ่นไม้กระดาน เดินเส้นกรอบหน้าต่าง ราวกันตกด้วยสีขาว ตัวหน้าต่างตกแต่งด้วยการตีลายเส้นคล้ายระแนงไม้โปร่งจากเฟรมสีขาวบนกระจกใส กรอบหน้าต่าง ตัวบานตกแต่งใช้สีเขียว หลังคาสีเทาเข้ม
เข้าไปดูข้างในกันดีกว่าค่ะ
ฝั่งซ้ายเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีขาวแบบสองบานค่ะ ฝั่งขวาเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์(คือเปิดปิดไม่ได้นะ) แต่จะเห็นว่าส่วนกรอบหน้าต่างยื่นออกมาจากระนาบผนังให้ด้านในใช้เป็นชั้นวางของอย่างกระถางต้นไม้เล็กๆได้ได้ บันไดทางขึ้นหน้าประตูทำความกว้างมาครึ่งเดียวของกรอบประตูทางเข้า คือเน้นเข้าออกและเปิดปิดฝั่งเดียวคือฝั่งที่มีบันไดค่ะ ส่วนพื้นลานจอดรถบ้านเปล่าของจริงไม่ใช่แบบนี้นะคะ
ของจริงได้แบบนี้ค่ะ เป็นพื้นคอนกรีตปาดเรียบ มีเซาะร่องแยกโครงสร้างกับตัวบ้านกันร้าว บานประตูหน้าต่างของโครงการนี้จะพิเศษกว่าทาวน์โฺฮมอื่นนิดหน่อยตรงที่มีลวดลายของเฟรมประตูเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของโครงการค่ะ
บนเพดานลานจอดรถหน้าประตูทางเข้า ได้ไฟเพดานแบบนี้ค่ะ ของจริงได้ตามนี้นะ เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า
พื้นชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้สีครีม มีฝ้าหลุมตามที่เห็น แต่ไม่มีไฟซ่อนให้และของจริงเป็นไฟซาลาเปานะ ความสูงพื้นถึงเพดานคือ 2.6 เมตรค่ะ ผนังบ้านเปล่าทาสีขาวเรียบค่ะ
โซนห้องนั่งเล่น มีทำกรอบยื่นตรงขอบหน้าต่างห้องนั่งเล่นใช้เป็นที่วางของอย่างหนังสือหรือกระถางต้นไม้หรือตุ๊กตาเพิ่มได้ ขนาดพื้นที่ห้องกำลังดีกับขนาดบ้านที่มีนะคะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวได้ง่าย ระยะใช้งานพอเหมาะ อย่างเช่นโซฟา สามารถใส่โซฟาแบบสามที่นั่งและอาร์มแชร์กับสตูลเพิ่มได้อีกอย่างละตัวไม่อึดอัด มีที่พอวางชั้นติดผนังได้อีกด้านอย่างที่บ้านตัวอย่างจัดมาให้เป็นไอเดียนะคะ
มองไปที่ชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้ามโซฟาค่ะ
ระยะห่างระหว่างชั้นวางทีวี กับโซนโซฟาประมาณ 2.5 เมตร ค่ะ สบายๆค่ะระยะนี้ ถัดจากโซนห้องนั่งเล่นเป็นห้องน้ำค่ะ อยู่ก่อนถึงบันไดขึ้นไปชั้นสอง ตรงข้ามกับโซนครัว เข้าไปดูในห้องน้ำกันดีกว่าค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงสองขั้นค่ะ กันน้ำซึมน้ำกระเด็นและบังคับประตูเปิดเข้า(เปิดเข้ามาในห้องน้าอย่างเดียว) กันชนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าห้องน้ำเวลาเปิดประตูเข้าออกค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room คือมีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ แต่ไม่มีฝัวบัวอาบน้ำค่ะ (สุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ American Standard นะ) ผนังห้องน้ำฝั่งซ้ายของอ่างล้างมือเจาะช่องแสงและติดกระจกฝ้าดึงแสงธรรมชาติเข้ามาค่ะ ด้านบนมีกระจกบานเกล็ดช่วยระบายอากาศ
ด้านบนเพดานของผนังส่วนนี้มีติดท้องบันไดอย่างที่เห็นในภาพค่ะ แต่เนื่องจากความสูงพื้นจรดผนังค่อนข้างสูงคือ 2.6 เมตร เลยไม่มีผลกระทบในแง่การใช้งานอะไรนะ
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard สายฉีดเป็นสแตนเลส ที่ใส่ทิชชู่เป็นกระเบื้องเคลือบสีขาว
หลังอ่างล้างมือทำผนังยื่นออกมาทำให้มีที่วางของเพิ่มขึ้นอย่างที่เห็นนะคะ
กระจกเงาและพื้นกระเบื้องผิวด้านของจริงได้ตามที่เห็นค่ะ แต่แบบกระเบื้องผนังอ่างล้างมือและสีผนังที่ได้จริงไม่ใช่แบบนี้นะคะ มีภาพบ้านเปล่าให้ดูค่ะ
ของจริงได้กระเบื้องที่อ่างล้างมือเป็นแบบนี้ค่ะ และ ผนังทั้งหมดอย่างที่บอกไปตอนต้นนะคะ เป็นผนังปูนเรียบทาสีขาวค่ะ
โต๊ะทานอาหาร(บ้านตัวอย่างจัดมาเป็นแบบ 2 ที่นั่งเพื่อให้ดูโปร่ง แต่จากระยะ 4 ที่นั่งก็ยังไหวนะ) และประตูบานเลื่อนเปิดออกไปสวนหลังบ้านค่ะ ครัวของจริงไม่ได้นะคะ จะมาเป็นบ้านเปล่ามีเจาะท่อระบบน้ำประปาเอาไว้ให้ จะเห็นว่าระยะถอยเข้าออกไม่อึดอัดนะ เพราะความกว้างของสเปซโซนครัวอยู่ที่เกือบ 2.5 เมตรค่ะ
ระยะการใช้งานครัว มีทำชั้นมาให้ดูเป็นไอเดีย
เปิดออกไปดูสวนหลังบ้านกันดีกว่า เป็นประตูบานเลื่อนแบบเดียวกับด้านหน้าค่ะ
ด้านหลังไม่ได้เทเป็นลานปูนมาให้นะ แต่ทำเป็นสนามหญ้ามาแทน จะแต่งเป็นสวนส่วนตัว จะปลูกผักสวนครัว หรือจะเอาไว้ตากผ้าก็ได้ หลังบ้านที่กว้างแบบนี้(ประมาณ4ม.) จะมีให้เฉพาะแปลงติดสวนเท่านั้น ส่วนแปลงอื่นๆจะลึกแค่ 2 เมตรนะค่ะ
ด้านหลังงานระบบท่อทำมาเรียบร้อยดี เห็นด้านบนประตูทางออกมาสวนหลังบ้านมีทำหลังคายื่นออกมาให้ด้วย อันนี้เป็นรายละเอียดที่แสดงถึงความใส่ใจในการออกแบบนะคะ นอกจากช่วยกันแดดแล้วยังช่วยกันฝนสาดฝนซึมเข้าตัวอาคารได้ในระดับนึงเลย อ้อ ไฟหลังบ้านได้ตามที่เห็นนะคะ
ซ้ายมือถัดจากประตูมีเจาะช่องเก็บของไว้ค่ะ น่าจะของอย่าง สายยางรดน้ำ ขาเตาบาบีคิว หรืออะไรที่ปกติเก็บไว้ในโรงรถ ด้านข้างมีก็อกน้ำมาให้ไว้รดน้ำต้นไม้ หรือซักผ้าด้วยมือ หรือถูบ้าน
เปิดออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ กลับเข้าไปดูข้างในกันต่อดีกว่า
ขึ้นบันไดไปดูชั้นสองกันค่ะ บันไดเป็นไม้ยางพาราประสานทำสีอ่อน
ชานพักเป็นบันไดสามเหลี่ยมสองขั้นค่ะ ระยะกระชั้น ความกว้างไม่พอเลยเป็นแบบนี้ ตัวราวบันไดมีข้างเดียวติดผนังฝั่งขวา เป็นไม้สีเดียวกันยึดบนโครงเหล็กสีขาว
ถึงชั้นบนแล้วค่ะ พื้นเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อนเข้ากับสีบันได โถงชั้นบนกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร แจกไปสองห้องนอน
หันกลับมามองด้านหลังโถงบันไดมีเจาะช่องแสงอย่างที่เห็น โคมไฟริมผนังของจริงไม่ได้แบบนี้นะคะ มีรูปบ้านเปล่าค่ะ
ของจริงได้แบบนี้ค่ะ
อันนี้ภาพจากบ้านเปล่านะคะ ผนังระหว่างสองห้องมีความลึกพอทำเป็นชั้นวางหนังสือ หรือ หิ้งพระได้
จะทำเป็นชั้นแบบที่บ้านตัวอย่างทำมาดูเป็นไอเดียให้ก็น่ารักดีค่ะ ทำเต็มความสูงจรดเพดานไปเลย
ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่นะ ฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก เราไปดูห้องนอนใหญ่กันก่อนนะ
ห้องนอนใหญ่ตกแต่งเป็นสไตล์วินเทจ โทนสีขาวโรแมนติกแบบเอาใจสาวๆเต็มที่ วางเตียงคู่กับเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูระยะการใช้งาน ผนังข้างเตียงมีหน้าต่างบานเลื่อนแบบสองบานข้างล่างเป็นบานฟิกซ์เฟรมอลูมิเนียมสีขาว ตกแต่งแพทเทิร์นเดียวกันกับด้านล่าง
ที่ปลายเตียงวางชั้นวางของหรือชั้นวางทีวีมาให้ ก็มีระยะเดินสบายๆ
ผนังฝั่งปลายเตียงมีหน้าต่างมาให้อีกหนึ่งบาน บานนี้มองเห็นระเบียงจุดวางแอร์คอมเพรสเซอร์ แต่ออกไปไม่ได้นะ
ระยะข้างเตียงระหว่างเตียงกับหน้าต่าง ผนังหลังโต๊ะข้างเตียงจะเห็นเต้าเสียบเอาไว้เสียบปลั๊กโคมไฟ หรือ ชาร์จแบตมือถืออยู่
มองออกไปที่ประตูทางออกห้อง เห็นโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง
โต๊ะทำงานเป็นแบบมีเก้าอี้ ระยะเลื่อนเข้าออกพอได้
ข้างเตียงทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบนั่งพื้น ข้อดีคือไม่ต้องใช้เก้าอี้ให้เปลืองพื้นที่ ข้อเสียคือถ้าเป็นคนหัวเข่าไม่ดีน่าจะปวดขาถ้าต้องใช้แบบนี้ทุกวัน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบนั่งเก้าอี้สตูลเลื่อนไปเก็บใต้โต๊ะได้เวลาไม่ใช้งาน จริงๆระยะก็พอได้อยู่นะ แต่จะดูแน่นๆหน่อย
ประตูอีกบานเป็นประตูห้องน้ำค่ะ ตรงหัวมุมเป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าที่โอเคนะ คือมันไม่แคบไปใส่ตู้เสื้อผ้าได้ไม่พอ และไม่ตื้นไปอึดอัด และออกจากห้องน้ำมาก็เปิดหยิบได้เลย ไม่ต้องเดินไปไหนไกล แต่ข้อเสียคือระยะเปิดใช้งานตู้เสื้อผ้าขวางทางเข้าออกห้องน้ำ ถ้าอยู่สองคนคงมีชนๆกันมั่งแหละ ต่อไปเราเข้าไปดูห้องน้ำกันเถอะ
ห้องน้ำเป็นทรงสีเหลี่ยนผืนผ้าแบบมาตรฐาน คือ เข้ามาเจออ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และ โซนอาบน้ำค่ะ มีทำผนังยื่นออกมาทำให้มีที่วางของเพิ่มขึ้นอย่างที่เห็นนะคะ กระจกติดมาให้บานใหญ่ดี สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ American Standard ค่ะ
ผนังเป็นกระเบื้องเคลือบสีขาวค่ะ ของจริงได้ตามนี้
หน้าต่างเป็นบานเปิดคู่ ผนังห้องน้ำตรงฝักบัว เป็นผนังกระเบื้องพิมลายไม้สีๆสไตล์วินเทจ ซึ่งโครงการจะจัดลายกระเบื้องมาให้แต่ละหลังไม่เหมือนกันมีทั้งหมด 4 ลายค่ะ
บ้านเปล่าข้างๆจะเป็นลายแบบนี้ค่ะ
พื้นก่อกั้นส่วนเปียกขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นเป็นกระเบื้องผิวด้านสีน้ำตาล ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ดังนั้นแนะนำให้ติดนะคะเพราะจะได้สะดวกในการใช้งานจริง ไม่งั้นอาบน้ำทีโซนแห้งก็จะเปียกไปด้วย
เหลือระยะเดินประมาณ 50 เซนติเมตรค่ะ ต่อไปเราไปดูห้องนอนเล็กกันต่อ
ห้องนอนเล็กจัดมาเป็นเดย์เบดเอาไว้เอนหลัง หรือนั่งพักผ่อนค่ะ ไอเดียที่ดีคือด้านล่างทำเป็นชั้นเก็บของเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ ห้องนี้มีหน้าต่างบานเลื่อนแบบสองบานมาให้ 1 ชุด
ที่เท้าแขนฝั่งขวาสุดตรงมุมห้องนั่นของจริงก็เป็นแบบนี้นะคะ มีรูปบ้านเปล่าให้ดูค่ะ
ของจริงเป็นแบบนี้ ก้อนสีขาวๆที่เห็นในรูปด้านขวามืออันนั้นคือพื้นที่ที่ถูกเบียดมาจากบันได เพราะระยะบันไดแคบเลยมีผลกระทบกับความสูงของพื้นที่บันได วิธีแก้ของเค้าคือยอมเสียพื้นที่ให้ห้องนอนเล็กเพื่อให้เวลาเดินหัวจะได้ไม่ติดกับฝ้าเพดานค่ะ ถ้าใครรู้สึกแปลกหรือไม่ชอบก็แนะนำให้ทำ Built-in แบบบ้านตัวอย่างนะคะ จะช่วยให้บรรยากาศในห้องดูดีและกลมกลืนกันไปเลย
ก่อนถึงห้องน้ำมีช่องให้วางตู้เสื้อผ้าได้ เราเข้าไปดูในห้องน้ำกัน
ห้องน้ำเป็นรูปตัว L ค่ะ ผนังยื่นออกมาเพิ่มชั้นวางของให้อย่างที่เห็น กระเบื้องโมเสคสีฟ้าน่ารักมากๆอันนี้ของจริงไม่ได้แบบนี้นะคะ เดี๋ยวมีรูปบ้านเปล่าให้ดูค่ะ
ของจริงได้เป็นแบบนี้ค่ะ ไม่ใช่โมเสคนะ เป็นกระเบื้องพิมลาย
อ่างล้างมือและที่วางของด้านหลัง
ระยะใช้งานโถสุขภัณฑ์
ตรงข้ามอ่างล้างมือเป็นโซนอาบน้ำค่ะ มีพัดลมระบายอากาศติดมาให้ที่เพดาน
ร่องระบายน้ำมาแปลกหน่อย คือเซาะร่องยาวมา
มาลงท่อเดรนฝั่งนี้ เป็นเรื่องของความเรียบร้อยของงานระบบท่อน้ำนะ
พาลงมาดูหน้าบ้านของจริงค่ะ รั้วเป็นรั้วเหล็กทาสีดำ มีตู้จดหมายทาสีขาว ออดหน้าตามาตรฐาน และเจาะช่องเก็บขยะมาให้
ถังขยะอยู่ในตัวบ้านค่ะ ไม่ต้องออกไปทิ้งข้างนอก ตัวถังเป็นสีอมน้ำตาลอ่อนดูกลมกลืนกับสีบ้าน วางบนฐานคอนกรีตกันพื้นเลอะ
ถนนรองแจกเข้าซอยกว้าง 14 เมตร ค่ะ
ป้ายซอยค่ะ
ซอยย่อยกว้าง 8 เมตร ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 May 2014
- ทาวน์โฮมวิลเลจจิโอ เนื้อที่ 89 ตาราเมตร 1 ที่จอดรถ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 18.1 ตารางวา ราคา 1.97 ล้านบาท
- ทาวน์โฮมวิลเลจจิโอ เนื้อที่ 89 ตาราเมตร 1 ที่จอดรถ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 25.6 ตารางวา ราคา 2.71 ล้านบาท
- ทาวน์โฮมวิลเลจจิโอ เนื้อที่ 89 ตาราเมตร 1 ที่จอดรถ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 47.5 ตารางวา ราคา 3.59 ล้านบาท
- จอง 50,000 บาท
- ดาวน์มาตรฐาน 5% พร้อมโอนกรรมสิทธิ์หลังจากทำสัญญา 7 วัน
- ค่าส่วนกลาง 26 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้าถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ Villaggio บางนา ตั้งอยู่ในซอย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC บางนา) ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 7 กิโลเมตรค่ะ ถนนหลักที่ใช้ในการเดินทางคือถนน บางนา-ตราด ซึ่งเป็นถนนหลักในการเดินทางไปยังจังหวัด ชลบุรี ช่วงที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 26 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ทำให้มีรถบรรทุกวิ่งกันค่อนข้างเยอะ การเดินทางเข้าตัวเมืองชั้นในใช้เส้นทางบางนาไปยังถนนสุขุมวิท หรือถ้าจะไปโซนรามคำแหงก็ใช้ถนนศรีนครินทร์ได้ ทางด่วนสามารถใช้ทางด่วนบางนา หรือใช้ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมบนเส้นกาญจนาภิเษกก็ได้ ถ้าจะไปถนนพระราม 9 ก็สามารถใช้เส้นทางวงแหวนกาญจนาภิเษกแล้วเข้ามอเตอร์เวย์ได้
สำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวจะมีรถสาธารณะให้ใช้แค่ วินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอย ABAC เท่านั้นค่ะ เนื่องจากผู้อาศัยในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ABAC ที่มีรถยนต์ส่วนตัวกัน ถ้าจะใช้บริการรถสาธารณะก็จะเรียก Taxi เอา หรือไม่ก็ใช้รถตู้ที่รับส่งนักศึกษาภายในซอยนี้ ซึ่งเรียกว่า AU Loop แต่เนื่องจากโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 7 กิโลเมตร และโดยรอบไม่มีรถสาธารณะเลย ก็ต้องบอกว่าลำบากค่ะ
สภาพแวดล้อมในซอย ABAC บางนา ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยและจะเต็มไปด้วยคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าสำหรับนักศึกษาและคนที่ทำงานในย่านนี้ โดยแบ่งออกได้เป็น 3 โซน โซนแรกคือโซนบริเวณปากซอยเป็นช่วงที่มีความคึกคักมากที่สุดเพราะมีคอนและอพาร์ทเม้นท์อยู๋ในโซนนี้เยอะ และมีร้านสะดวกซื้อและแหล่งร้านอาหารต่างๆอยู่บริเวณวัดศิริเสาธงด้วย ถัดเข้ามาหน่อยก่อนถึง ทางเลี้ยวแยกไปยัง ABAC บางนาก็มี Community Mall อยู่ โซนที่สองคือบริเวณทางแยกไปจนถึงปากซอยทางเข้ามหาวิทยาลัย โซนนี้เริ่มคึกคักมากขึ้นเพราะมีอพาร์ทเม้นท์ใหม่ๆมาเปิดกันเยอะและยังมี Community Mall เปิดเพิ่มอีกแห่งซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควรมีร้านอาหาร Inter Brand มาเปิดมากมาย ถ้าสร้างเสร็จผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยนี้ก็สามารถมาใช้บริการได้โดยที่ไม่ต้องไปถึงห้างสรรพสินค้า โซนที่สาม คือบริเวณที่เลยปากทางเข้า ABAC บางนาไปแล้วจะเริ่มเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบไม่ค่อยมีคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์แล้ว อาหารการกินก็จะมีน้อยกว่าช่วงต้นซอยมาก แต่ถ้าอยากจะไปเดินเที่ยวห้างก็ต้องไป Mega Bangna จะอยู่ใกล้มากที่สุดค่ะ
แบบบ้านของโครงการเป็นทาวน์โฮม2 ชั้นค่ะ ตอนนี้มีแบบเดียวนะคะ หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 89 ตารางเมตร 1 ที่จอดรถ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ แปลงมาตรฐานอยู่ที่ 18.1 ตารางวา แบบบ้านเป็นแปลนเดียวกับ ทาวน์โฮม Indy เลย ซึ่งออกแบบมาแบบใส่ใจรายละเอียดอยู่แล้ว แต่อันนี้เปลี่ยนสไตล์มาเป็นแบบวินเทจ โซนห้องนั่งเล่น มีทำกรอบยื่นตรงขอบหน้าต่างห้องนั่งเล่นใช้เป็นที่วางของอย่างหนังสือหรือกระถางต้นไม้หรือตุ๊กตาเพิ่มได้ โซนนิ่งทำได้กำลังดีเหมาะกับขนาดที่มีนะคะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวดูสวยได้ง่าย ระยะใช้งานพอเหมาะ แต่ต้องไม่เน้นการทำครัวนะคะ เพราะพื้นที่ครัวแชร์กับพื้นที่ทานอาหารพอสมควร ถ้าใครชอบใช้ครัวหนักๆก็คงต้องทำครัวไทยหลังบ้านแทนนะคะ ชั้นสองมี 2 ห้องนอน มีห้องน้ำในห้องนอนทั้งสองห้องค่ะ มีความเป็นส่วนตัวดี ห้องนอนใหญ่วางเตียง double bed คิงส์ไซส์ วางชั้นทีวีหน้าเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมมีระยะเดินสบายๆค่ะ มีห้องน้ำ 1 ห้อง แปลนห้องน้ำมาตรฐาน มีระเบียงตรงมุมเอาไว้วางแอร์คอมเพรสเซอร์ ห้องนอนเล็กถ้าจัดเตียงเดี่ยวก็มีที่วาง ชั้นทีวีหน้าเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมมีระยะเดินสบายๆเช่นกันค่ะ แต่ถ้าเป็นเตียงคู่ก็ตัดเหลือตู้เสื้อผ้าถึงจะพอมีระยะเดินนะ
วัสดุของโครงการนี้ถือว่าให้มากลางๆนะคะ ถ้าเทียบกับราคาเรตนี้ ตัวหน้าต่างประตูเป็นวงกบอลูมิเนียมสีขาว แบบบานเลื่อน พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องแผ่นเล็ก โคมไฟแบบ ซาลาเปา บันไดไม้ยางพาราประสานทำสีธรรมชาติ สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ค่ะ ส่วนที่ดูจะกีกว่าที่อื่นๆคือเรื่องของคุณภาพในการเก็บงานค่ะ เก็บงานดูดีและค่อนข้างสะอาดเรียบร้อย
สาธารณูปโภคของที่นี่ต้องบอกเลยว่าคุ้มมากถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายไปกับสิ่งที่ได้ พื้นที่ส่วนกลางกว่า 18 ไร่ ออกแบบมามีธีมมีพร๊อพแทบทุกจุด มีทะเลสาบขนาดใหญ่ล้อมพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นอาคารสไตล์ยุโรป พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนสร้างแยกกัน และดีไซน์ต่างกัน ดูเหมือนเมืองเล็กๆกลางทะเลสาป ต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ก็ช่วยเสริมบรรยากาศได้ดี เป็นโครงการที่ปลูกต้นสนเยอะมาก พื้นถนนโครงการราดยางมะตอยอย่างดี แต่พอมาดูที่จำนวนยูนิตทั้งหมด ที่1,035 ยูนิต (บ้านเดี่ยว 329 ยูนิต (ยังไม่สร้างแต่มีกำหนดเสร็จทั้งโครงการปี 2562), ทาวน์โฮม 706 ยูนิต) ก็ถือว่าหนาแน่นอยู่เมื่อเทียบกับปริมาณพื้นที่ส่วนกลางนะ แต่ถ้ามองเรื่องดีไซน์ ดีเทล ขนาดและ คุณภาพพื้นที่ส่วนกลางที่นี่ก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ
เรื่องความปลอดภัย ซุ้มทางเข้าโครงการเป็นไม้กระดกที่แบ่งเป็นสองช่องทางค่ะ ช่องซ้ายเป็นเลนลูกบ้านแบบแตะบัตร Access Key Card, ช่องขวาเป็นเลนคนนอกแบบแลกบัตรค่ะ มีกล้อง CCTV ติดเฉพาะที่ซุ้มทางเข้าออกโครงการนะ มีรปภ.ขี่จักรยานวนทุก 1 ชั่วโมงตลอด 24 ชั่วโมง สระว่ายน้ำเป็นระบบคลอรีน(เสียดายไม่ให้ระบบเกลือมา) ขนาด 26.2 x 12.5 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ สระเด็กลึก 60 cm สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 m ห้องฟิตเนสก็มีเครื่องเล่นประมาณ 5 เครื่อง
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2-3 ล้านบาท, 21 May 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 7 กิโลเมตรจากถนนใหญ่
- ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดกแยกระหว่างลูกบ้านและคนนอก รปภ.24 ชั่วโมง รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9.5/10 – แบบของโครงการสวยดี หน้าตาของบ้าน
- วัสดุ 7.5/10 – ถือว่ากลางๆในราคาระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – โครงการใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวมาก ออกแบบ Landscape และ Hardscape ได้ดี (ถ้าความหนาแน่นต่ำกว่านี้เอาไปเต็ม 10 เลยค่ะ)
- สาธารณูปโภค 9/10 – ทะเลสาบใหญ่ สโมสร หอชมวิว สระว่ายน้ำ ให้ต้นไม้มาเยอะทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม แถมมีพร๊อพมาให้ทุกจุด
- 7.98 / 10.00
BOTTOM LINE
Villaggio บางนา เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณามากๆ หากท่านมีงบ 2-3 ล้านบาทและต้องการที่อยู่อาศัยในย่านบางนาใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศแบบยุโรป ยอมเดินทางเข้าออกไกลหน่อยจากถนนใหญ่แต่ก็แลกมาด้วยความคุ้มค่าของส่วนกลาง ชอบออกกำลังกายทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ