Lumpini Town Residences บางนา-ศรีนครินทร์ ทาวน์โฮมและออฟฟิศหน้ากว้าง ย่านบางนา-ตราด [รีวิวฉบับที่ 736]

รีวิวฉบับที่ 736 โครงการ ลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนา-ศรีนครินทร์ (Lumpini Town Residences บางนา-ศรีนครินทร์) เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นและโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น โปรเจคเล็กๆ เพียง 27 หลัง ที่ทาง LPN สร้างขึ้น ทดแทนโครงการคอนโดมิเนียมที่พับไปก่อนหน้านี้ โดยออกแบบใหม่ทั้งหมด กลายเป็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 6.5 เมตร และโฮมออฟฟิศหน้ากว้าง 7.5 เมตร จัดว่าเป็นสินค้าใหม่ของ LPN ที่เราจะเอามาให้ชมในช่วงสิ้นปี 2014 นี้ละครับ

Fact @ 14 December 2014

• ลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนา-ศรีนครินทร์ (LPN Town Residences บางนา-ศรีนครินทร์)
• L.P.N. Development., Plc.
• Segment : UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
• เนื้อที่โครงการ 2-3-8 ไร่
• โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 7.25 เมตร จำนวน 9 หลัง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 270 ตารางเมตร
• ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร จำนวน 18 หลัง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 210 ตารางเมตร
• ที่ดินแปลงมาตรฐาน 22 – 30 ตารางวา
• ราคาเริ่มต้น 6.49 และ 8.69 ล้านบาท
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ต้นปี 2558
• เวปไซต์ http://www.lpn.co.th/
• โทร 02-689-6888

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.668297, 100.647855

 

จุดเด่นของโครงการ Lumpini Town Residences บางนา-ศรีนครินทร์ อยู่ที่ทำเล เพราะเป็นทำเลของคอนโดมิเนียมที่ถูกปรับมาใช้เป็นทาวน์โฮม ทำให้เป็นทำเลที่ใกล้เมืองมากกว่าทาวน์โฮมโปรเจคอื่นๆ ที่ซื้อที่ดินมาเพื่อทำทาวน์โฮมโดยเฉพาะ ตัวโครงการตั้งอยู่บริเวณเกือกม้าฝั่งที่จะข้ามจากบางนาไปยังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าเทพารักษ์ โดยใช้ทางเข้าร่วมกันกับโรงแรม Maple ครับ

วัดระยะทางจากหน้าโครงการมาถึงถนนใหญ่บางนา-ตราดได้ราว 450 เมตร สามารถเดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ถ้าเป็นรถเมล์หรือรถสาธารณะ อาจจะต้องเดินไปเรียกที่ถนนใหญ่นะครับ

ถนนเกือกม้าด้านนี้สามารถเข้า-ออกได้ทั้งหมด 3 เส้นทาง คือ

• ถนนบางนา-ตราด
• ถนนศรีนครินทร์ (ฝั่งเทพารักษ์)
• ถนนสวนหลวง

จากปากซอยจริงๆแล้วไปเซ็นทรัลบางนาไม่ไกลเท่าไร ระยะทางอยู่ที่ 1.2 กิโลเมตร หรือถ้าวัดจากหน้าโครงการจะอยู่ที่ 1.7 กิโลเมตร สามารถแวะเซ็นทรัลก่อนกลับบ้านได้สบายๆ

โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคงจะหนีไม่พ้น รพ. ไทยนครินทร์ ที่อยู่ห่าง 800 เมตร จากปากทางเข้าเกือกม้า

เวลาเดินทางมาเมื่อเลยตึกไพโรจน์กิจจาและ Ample Tower (SB Design Square) ก็ให้เริ่มชิดซ้ายได้

แต่เราไม่เลี้ยวไปทางซีคอน สแควร์นะครับ ต้องตรงไปอีกนิดนึง แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายไปทางเทพารักษ์ … ตัวถนนจะอยู่ก่อนถึง Index Living Mall และ Showroom NISSAN

จากถนนใหญ่วิ่งเข้าไปประมาณ​ 300 เมตร จะเจอทางเข้าโรงแรม Maple อยู่ทางขวา

ทางขวาตามลูกศรจะมีทางเข้าโครงการ ซึ่งด้านหน้าที่ติดถนนจะเป็นอาคารคล้ายๆสำนักงานนะครับ

วิ่งเข้าไปสุด ผ่านที่จอดรถด้านหลังก็จะเจอหมู่บ้าน LPN Town Residences บางนา-ศรีนครินทร์ ตามที่มีล้อเลื่อนกั้นไว้ละครับ

ด้านหน้าปากซอย ฝั่งตรงข้ามจะเป็นแขวงการทางสมุทรปราการพอดิบพอดี

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• ห้างสรรพสินค้า – Central บางนา
• Hyper Market – Big C
• โรงพยาบาล – ไทยนครินทร์
• โรงแรม – Maple Hotel
• สถานที่ราชการ – แขวงการทางสมุทรปราการ

เจาะลึกตัวโครงการ

หลังจากชมทำเลกันแล้ว เรามาดูตัวโครงการกันบ้าง

บริเวณด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้านจะมีกลุ่มอาคาร Home Office 4 ชั้นที่สามารถเข้าได้ตรงๆจากถนนนอกโครงการตั้งอยู่ เพื่อรองรับลูกค้าข้างนอกที่มาติดต่อ ไม่ต้องให้วิ่งเข้ามาสะเปะสะปะในหมู่บ้านที่เป็นที่พักอาศัย

ทางเข้าหมู่บ้านที่นี่ใช้เป็นรั้วไม้กระดก มี ป้อม รปภ. ที่อยู่ด้านข้าง สามารถรักษาความปลอดภัยได้โดยใช้ทีมของ Lumpini Property Management เป็นทีมบริหารหลังการขาย เช่นเดียวกับคอนโด LPN ซึ่งทาง LPN ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่ดีในการบริหารชุมชนหลังการขายอยู่แล้ว เราก็คาดว่าที่นี่ LPN Property Management จะไม่ทำให้เราผิดหวังเช่นกัน

จุดเด่นของโครงการไม่ใช่เรื่องสวน สโมสร หรือสระว่ายน้ำ แต่เป็นที่จอดรถจำนวน 14 คัน เสริมให้สำหรับคนที่ต้องการใช้ที่นี่เป็นออฟฟิศ

ราคาเปิดตั้งมาค่อนข้างสูง อยู่ที่ 7.3 ล้านและ 9.2 ล้าน แต่พอขายจริงๆมีส่วนลดค่อนข้างเยอะ โดยหักส่วนลดแล้วราคาเริ่มขายจะอยู่ที่ 6.5 และ 8.7 ล้านบาท

• กลุ่มอาคารโฮมออฟฟิศมีทั้งหมด 9 หลัง ขนาด 24.4 – 33.7 ตารางวา แสดงเป็นสีน้ำตาลในผัง
• กลุ่มอาคารทาวน์โฮมมีทั้งหมด 18 หลัง ขนาด 22.2 – 32.7 ตารางวา แสดงเป็นสีเหลืองในผัง

• สิทธิจอดรถสำหรับผู้มาติดต่อจะให้จอดฟรี 100 ครั้งต่อเดือน ซึ่งถ้าเกินนี้จะคิดที่ 50 บาท … ทั้งนี้ราคานี้รวมอยู่ในค่าส่วนกลางเดือนละ 2,400 – 2,800 บาทแล้ว
• บ้าน 1 หลังจะได้สติ๊กเกอร์จอดรถ 2 ใบ สามารถซื้อเพิ่มได้บ้านละ 1 ใบ เหมาจ่ายเดือนละ 1,000 บาท

เนื่องจากไม่มีสวนสาธารณะแบบจริงๆจังๆ ต้นไม้ภายในโครงการจึงมีประมาณเท่านี้ อาจจะดูน้อยไปหน่อยเพราะต้นไม้ยังไม่โต ถ้าฟูกว่านี้คงจะสวยงามกว่านี้มาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้ที่จอดรถมาเยอะอยู่ครับ … อย่าคิดว่าที่จอดรถไม่สำคัญนะครับ จริงๆแล้วโครงการ TownHome ทั่วไปไม่มีที่จอดรถส่วนกลางให้ Extra สักคันด้วยซ้ำ รถต้องจอดตามซอกตามซอย ทำให้เกิดปัญหาขวางหน้าบ้านกันไปมาบ่อยครั้ง การที่มีที่จอดรถส่วนกลางนี่ถือว่าเป็นเรื่องดีมาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าส่วนกลางที่แพงพอควรเลยทีเดียว

ปลายสุดของโครงการฝั่งทิศตะวันตกจะติดกับอาคารจอดรถของโรงแรม Maple โดยถนนซอยของหมู่บ้านมีความกว้าง 8 เมตร รวมราง V สองข้าง ซึ่งอาจจะแคบไปหน่อยเวลามีรถมาจอดหน้าบ้าน ไม่เหมือนกับถนน 9 เมตรที่ใช้กันตาม TownHome ทั่วไปนะครับ

Product Walkthrough

สินค้าแรกที่ผมจะพาไปชมคือ HomeOffice ขนาด 4 ชั้น ที่ต้ังอยู่ด้านหน้านะครับ แต่ละหลังมีหน้ากว้าง 7.25 เมตร ขนาดที่ดินไม่ต่ำกว่า 24 ตารางวา และถ้าเป็นหลังมุมก็จะได้ที่ดินมากกว่านี้อีกมาก การออกแบบหน้าตา Facade ทำได้สวยงาม ลบภาพคอนโด LPN ที่ดูทึบๆเชยๆไปหมด กลายเป็น HomeOffice หน้าตาดี ดูทันสมัย ที่มีดีไซน์เป็นของตัวเอง

หลังริมสุดที่เห็นในภาพเป็นบ้านตัวอย่างและสำนักงานขาย หลังถัดมาเป็นบ้านเปล่าที่สามารถเข้าชมได้ตามสเปคจริง … หลายคนอาจจะงงว่าตกลงหน้าบ้านหลังหนึ่งๆมันอยู่ตรงไหนกันแน่ หนึ่งหลังก็คือช่องใหญ่หนึ่งช่อง + ช่องเล็กหนึ่งช่อง … หรือดูจากขอบเขตรั้วเอาก็ได้ เดี๋ยวเราจะพาไปชมกันนะครับ

แปลนบ้าน 4 ชั้นนี้มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ ที่จอดรถ 2 คัน รวมถึงพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นลอย ที่สามารถจัดเป็นครัวและออฟฟิศเพิ่มเติมได้อีก

ด้วยหน้ากว้างขนาด 7.25 เมตร ทำให้วางบ้านขนาดจอดรถ 2 คันได้อย่างสบาย และมีประตูเล็กสำหรับเดินเข้า HomeOffice ได้อีกด้วย

ถ้าเป็นหลังมุมแบบที่มีที่ดินด้านข้างอย่างหลังสำนักงานขาย ก็จะมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ด้านข้างอีก 2 เมตร อย่างนี้ครับ

ประตูเล็กออกแบบมาได้สวยและดูทันสมัย เก๋ดีสำหรับ Office สมัยนี้

เปิดประตูเข้าไปก็เลือกได้ว่าจะขึ้นข้างบนหรือเดินไปที่พื้นที่ด้านล่าง … โครงการออกแบบผนังด้านล่างทั้งหมดมาเป็นกระจก ทำให้ดูโปร่งทุกมุมมอง

เช่นกันกับมุมนี้ก็ดูโปร่ง สบายตา ออกแบบผนังทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านเป็นกระจกทั้งหมดเลย แต่พื้นที่มาตรฐานที่ 24 ตารางวา พอมีหน้ากว้าง 7.25 เมตร ประกอบกับต้องเว้นพื้นที่บางส่วนไว้จอดรถ ความลึกจึงเหลือไม่มาก พื้นที่ใช้สอยที่ชั้นล่างจึงไม่มากเท่าไร ต้องยกครัวและแพนทรี่ไปไว้ชั้น 2 นะครับ

ชั้นล่างมีห้องน้ำอยู่ใต้บันได ใกล้กับเฉลียงหลังบ้าน

ห้องน้ำใช้เป็นสุขาได้ ติดตั้งโถปัสสาวะเอาไว้ด้วย มีพื้นที่ให้ระบายอากาศธรรมชาติ แต่จะอาบน้ำไม่ได้นะครับ

ที่ประหลาดที่สุดคือตรงนี้แหละ … เอาห้องเก็บของมาวางไว้ใต้บันได ซึ่งต้องเดินเข้าไปเปิดใช้จากห้องน้ำอีกที … ซึ่งพอเปิดออกมาก็จะติดโถปัสสาวะ ผมว่าไม่เหมาะเท่าไรนะ

ด้านหลังบ้านเป็นบานเลื่อนวงกบอลูมิเนียมสีน้ำตาล เปิดออกไปได้

บ้านตัวอย่างวางระแนงไม้เก๋ๆ

บ้านจริงเป็นแบบนี้นะครับ มีที่ตั้งแทงก์น้ำ ปั๊มน้ำ และพื้นหญ้าบางส่วน

ถ้าได้หลังมุมมาแต่งสวยๆ จัดเป็นสวนพร้อมเปิดทางเดินให้สะดวกหน่อย มันก็จะช่วยได้เยอะ ทำให้บรรยากาศออฟฟิศน่าอยู่ขึ้น

หน้าบ้านมีหน้าต่างเปิดได้กว้างเท่านี้ พอเปิดด้านหน้ากับด้านหลังก็จะสามารถให้ลมพัดทะลุผ่านตัวบ้านได้

ฟิตติ้งของ Runner ทำออกมาคุณภาพใช้ได้ครับ

ก่อนที่จะขึ้นไปยังชั้น 2 ผมจะให้ดูส่วนโถงอีกนิดนึง เป็นพื้นที่แบบ Double Volume เปิดเพดานสูงราว 6 เมตร ช่วยให้ออฟฟิศดูโอ่อ่ามากขึ้น

ขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้ว … ชั้นนี้มีเพียงห้องเดียวนะครับ คือห้องทางซ้ายที่จัดเป็น Office อีกเช่นกัน

พื้นที่ตรงนี้จัดไว้ค่อนข้างหลวม ถ้าทำเป็นออฟฟิศจริงๆก็จะนั่งได้ 8 – 10 คนแบบสบายๆ แต่ที่นี้ LPN ใช้ขายบ้าน จึงจัดเป็นชุดนั่งพร้อมโซฟาสองตัวเอาไว้รับลูกค้า

หน้าต่างของออฟิศเป็นบานใหญ่เต็มตัวอาคารเลย ดูดแสงธรรมชาติมาใช้งานให้มากที่สุด

พื้นในส่วนของออฟฟิศชั้น G และชั้น 2 จะเป็นพื้นกระเบื้อง ลายเทาๆแบบนี้ครับ … ส่วนระเบียงทางซ้ายมือนั้นแคบมาก ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร ซึ่งก็ตรงกับการออกแบบออฟฟิศที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในให้มากที่สุด

ด้านหลังห้องทำงานเมื่อครู่สามารถกั้นเป็น Pantry ได้เช่นนี้ …

มาพร้อมกับห้องน้ำอีก 1 ห้องครับ

ขึ้นมาชั้น 3 เป็นส่วนของ “บ้าน” กันบ้างแล้ว จะเห็นว่า LPN ออกแบบชานพักมาค่อนข้างโอเค คือได้เป็นชานพักสี่เหลี่ยมทั้งสองตำแหน่ง ไม่มีขั้นสามเหลี่ยม จึงมีความปลอดภัยในการเดินขึ้นลงที่ใช้ได้ครับ

เดินขึ้นมาชั้น 3 เป็นชั้นของห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom

พื้นของชั้น 3 และชั้น 4 จะเป็นพื้นลามิเนตทั้งหมด ไม่ใช้กระเบื้องแล้ว เนื่องจากเป็นบ้านไม่ได้ใช้งานหนักและไม่ได้ใส่รองเท้าเดินในบ้าน จึงต้องการวัสดุที่อบอุ่นมากกว่าวัสดุเย็นๆแบบกระเบื้อง

การตกแต่งมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผมว่าชั้น 3 และ 4 แต่งสวยกว่าชั้น 1 และ 2 ประมาณ​ 10 เท่าได้ … อย่างห้องนอนใหญ่ห้องนี้ก็ทำออกมาได้หรูประมาณหนึ่ง มีการใช้ฝ้าเล่นระดับ ซ่อนไฟไว้ตามหลืบ

ผนังหัวเตียงตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหิน ไล่ลามาถึงชั้นวางของข้างเตียงที่ Built-in แบบไร้ขา พร้อมแขวนโคมห้อยพร้อมทำหลืบไฟด้านข้าง … สรุปว่าสวยกว่าชั้นล่างเยอะมากๆครับ

จะเห็นว่าพื้นที่ห้องนอนใหญ่ค่อนข้างกว้างและโล่งมาก ขนาดใส่เตียง King Size และ เก้าอี้พร้อมที่วางขา วางให้เกะกะๆ ก็ยังเหลือพื้นที่เดินอีกเยอะแยะ

ระยะดูทีวีจากปลายเตียงก็ค่อนข้างไกล ดังนั้นต้องใช้ทีวีใหญ่หน่อย ราวๆ 50 นิ้วขึ้นไปจะกำลังดี และด้านข้างทีวีก็มีช่องเปิดเป็นกระจกสำหรับเดินออกไปยังระเบียงอีกด้วย

ระเบียงตรงนี้เป็นระเบียงสำหรับห้องนอนใหญ่เท่านั้น พื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถใช้นั่งจิบกาแฟเช้าๆได้อย่างสบาย

ด้านหลังระเบียงเปิดเป็นช่องกระจกให้โปร่งไปถึงบันได ซึ่งก็สามารถรูดมู่ลี่ลงมาปิดได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว

ระเบียงตรงนี้ใหญ่พอที่จะทำเป็นห้องคอมพิวเตอร์ หรือห้องทำงานเอกสารก็ได้ โดยลูกบ้านสามารถปิดพื้นที่ด้านหน้าตรงนี้และติดแอร์ ก็จะกลายเป็นห้องทำงานเล็กๆที่อยู่ภายในห้องนอนแล้วครับ

เดินทะลุจากห้องนอนใหญ่ไปด้านหลังก็จะเป็นพื้นที่ของห้องแต่งตัว 

ห้องแต่งตัวหรือ Walk-in Closet ที่นี่จัดมาได้ดีมาก วางพื้นที่ใส่เสื้อผ้าได้มากมายพร้อมกับมีโต๊ะเครื่องแป้งในตัวอีก 1 ชุด ไม่ต้องเข้าไปแต่งในห้องนอนแล้วล่ะ

ห้องแต่งตัวเชื่อมกับห้องน้ำ ที่ใช้วัสดุดีขึ้นกว่าห้องน้ำชั้นล่างทั้ง 2

ขาดเพียงฉากกั้นอาบน้ำและฝักบัวแบบ Rain Shower ก็จะทำให้ห้องน้ำ Master Bathroom ดูเพอร์เฟ็ค

จากชั้น 2 เดินขึ้นมายังชั้น 3 … ส่วนแรกที่เห็นก็คือห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์ ที่น่าจะกลายเป็น Family Area ของลูกๆละครับ

ห้องนอนเล็กด้านบนมีอีก 2 ห้อง ใช้ห้องน้ำแชร์กันทางซ้ายมือ

ห้องลูกชายแต่งเป็นโทนสีฟ้า วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มีโต๊ะทำการบ้านครบครัน

ปลายเตียงมีที่แขวนหมวก กระเป๋า ตะกร้าผ้า และตู้เสื้อผ้า

ห้องลูกสาวออกแบบมาแนวเจ้าหญิงตัวน้อยหวานๆ ปลายเตียงคั่นด้วยผังกั้นห้อง ทำให้มีพื้นที่ห้องแต่งตัวขนาดเล็ก

โทนสีเป็นแนวชมพู-ขาว ดูแล้วน่ารัก พอเปิดหลอดไฟมากระทบ Prop รูปตัวโน้ตทำให้ห้องมีมิติขึ้นมาก

ผมบอกตรงๆเลยว่าชอบการออกแบบหัวนอนและการเล่น Lighting ของ Designer คนนี้ครับ

ปลายเตียงทำเป็นพื้นที่โปร่งๆแขวนทีวี แต่ลูกสาวคนนี้ไม่มีพื้นที่ทำการบ้านเหมือนห้องข้างๆนะ คงจะต้องออกไปทำข้างนอกในห้อง Family Area

เราแวะมาดูหลืบแต่งตัวกันหน่อย

ทางขวาทำตู้ยาวบานกระจกทั้งแผง เอาไว้ใส่เสื้อผ้าได้เต็มๆ

สุดท้ายคือห้องน้ำรวมของเด็กๆที่ชั้น 4 ครับ

บ้านหลังที่ 2 ที่เราจะพาไปชมเป็น Town Home 3 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร มองจากด้านหน้าก็จะเห็นได้ว่าดูเล็กกว่าทั้งความสูงและความกว้าง

แปลนทาวน์โฮม 3 ชั้นนี้เหมือนบ้านปกตินะครับ เพียงแต่พอบ้านกว้าง 6.25 เมตรแล้วก็สามารถทำให้มีฟังก์ชั่นเท่ๆเพิ่มได้มากขึ้น เช่น Walk-in Closet ทั้ง 3 ห้องนอน และครัวปิดแยกส่วนครับ

ทางเดินเข้าบ้านที่ประตูเล็กก็ถูกตัดออกให้เล็กลงตามขนาดความกว้างของบ้านนะครับ … ใช่ว่าเล็กแล้วจะไม่ดีนะ ขอบอกว่าทาวน์โฮมที่อื่นทั่วๆไปไม่มีทางเดินเข้าบ้านด้วยซ้ำ เพราะเป็นบ้านหน้ากว้าง 5-6 เมตร จอดรถ 2 คันก็จะเปิดประตูไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องทางเดินครับ

หน้าบ้านของที่นี่แปลกกว่าทาวน์โฮมทั่วไป ที่ใช้เป็นกระจกบานสวิงขนาดใหญ่แทนที่จะเป็นบานเลื่อน จริงๆผมชอบเดินเข้าจากหน้าบ้านด้วยบานสวิงมากกว่า มันรู้สึกดีกว่าบานเลื่อนครับ (คหสต)

ด้านหลังของที่จอดรถจะมีห้องเก็บของ เอาไว้วางอุปกรณ์ที่ใช้กับรถยนต์ได้

ชั้น 1 สรุปได้สั้นๆว่าโอ่โถงมาก ไม่เหมือนพื้นที่ของทาวน์โฮมแต่เหมือนพื้นที่ของบ้านหลังเล็กมากกว่า ทั้งการตกแต่งและขนาดของบ้าน รวมๆกันทำให้ดูดีขึ้นเป็นกอง ผมว่าสวยกว่าสำนักงานขายมากๆเลย

ฟังก์ชั่นเท่ๆของบ้านหลังนี้คือการวาง Counter ด้านหลังโซฟา ช่วยไม่ให้ระยะดูทีวีนั้นไกลเกินไป ทั้งยังไว้วางของและกั้นพื้นที่ทางเดินจากห้องน้ำได้ด้วย

นั่งบนโซฟา ดูทีวี ระยะพอดีครับ

มองจาก Counter ท๊อปหินอ่อนไปยังโต๊ะทานข้าวและทีวี ระยะพอดีเช่นกันละครับ

โต๊ะทานข้าวจัดวางมาให้นั่งได้ 6 คน อยู่ริมพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งในกรณีนี้เปิดเป็นพื้นที่สวนโล่งๆแบบไม่มีรั้ว ถ้าเป็นบ้านจริงพื้นที่ด้านนอกจะเป็น Terrace และลานซักล้างแยกกันนะครับ โดยส่วนของโต๊ะทานข้างจะเปิดออกไปเป็น Terrace

ห้องน้ำชั้นล่างเช่นเดิมใช้ทำธุระได้แต่อาบน้ำไม่ได้

เดินไปทางซ้ายของหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ครัวปิด โดยมีประตูเปิดไปยังลานซักล้างได้

ขนาดครัวไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่ จะติดก็อาจจะเป็นเรื่องที่ตู้เย็นอ้วนไป ทำให้พื้นที่ใช้งานซิงก์ไม่เหมาะสม

ไปดูชั้น 2 กันดีกว่า

ชานพักบันไดชั้น 2 มีลูกเล่นนิดนึงด้วย ตรงที่ด้านบนก็เป็นชานพักเหมือนกัน ดังนั้นเพดานกับพื้นก็จะล้อกันเป็น Step ดังภาพ

พื้นที่บนชั้น 2 แบ่งเป็นพื้นที่ด้านหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยด้านหลังบ้านจะจัดเป็นห้อง Family Room ส่วนหน้าบ้านเป็น Master Bedroom

Family Room ก็ใหญ่ เพียงพอให้นั่งเล่นกันได้ 5-6 คน สบายๆ ดูหนังร่วมกันในคืนวันเสาร์ กิจกรรมในครอบครัวที่ชอบทำกัน (หรือจะดูบอลก็ได้นะครับ มมปห)

แยกจากห้อง Family Room ก็มีติ่งอีกนิดนึงอยู่ด้านหลัง สามารถปรับเป็นห้องทำงาน โต๊ะคอม โต๊ะทำการบ้านสำหรับเด็กๆได้

ฝั่งหน้าบ้านของชั้น 2 เป็นที่ตั้งของห้องนอนใหญ่ คราวนี้มาแบบแต่งเรียบๆ ไม่หรูหราเหมือนบ้าน 4 ชั้นหลังแรก แต่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ สวยครับ

ปลายเตียงวางโซฟาด้วย ระยะห่างสองข้างของหัวเตียงมีให้เพียงพอกับการวางโต๊ะข้างเตียง

เนื่องจากบ้านหน้ากว้าง 6.25 เมตร ทำให้ปลายเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างมาก แม้ว่าจะวางโซฟาและกั้นผนังช่วยแล้ว ระยะดูทีวีก็ยังไกลอยู่ ต้องใช้จอใหญ่ๆช่วยอีกแรงนะครับ

ด้านหลังผนังวางทีวีกลายเป็นห้องแต่งตัว Walk-in Closet ขนาดใหญ่พอประมาณ ที่หลายๆคนไม่คิดว่าจะได้เห็นใน TownHome

ห้องน้ำ Master Bedroom ก็ขนาดใหญ่เช่นกัน และก็ยังขาดฉากกั้นอาบน้ำกับ Rain Shower เหมือนกับบ้านหลังแรก

เดินขึ้นไปชั้น 3 ก็จะเป็นพื้นที่ของลูกๆ มีห้องนอนอีก 2 ห้องและห้องน้ำอีก 2 ห้องครับ

ห้องนอนลูกชายจะแต่งเป็นโทนสีเหลือง-เทา ดูสวยงาม

ห้องแต่งตัวก็แอบทำเป็น Walk-in Closet เล็กๆได้เช่นกัน

ที่ดีกว่าบ้านหลังแรกก็คือ ห้องนอนของ TownHome 3 ชั้นนั้นจะมีห้องน้ำในตัวทั้ง 3 ห้องเลยละครับ

จุดที่ดีกว่าบ้านหลังแรกอีกอย่างก็คือ ห้องนอน 2 ไม่ใช่ห้องนอนเล็กอีกต่อไป … บ้านหลังนี้มีห้องนอนเทียบเท่าห้อง Master ถึง 2 ห้องนะครับ

ดูจากระยะปลายเตียง เราก็จะเห็นว่าห้องนอนค่อนข้างลึก วางโซฟาพร้อมโต๊ะทำงานฝีมือได้เลย

พร้อมกับ Walk-in Closet ทั้ง 3 ห้องนอน

กับห้องน้ำส่วนตัวทั้ง 3 ห้องนอน

สิ่งอำนวยความสะดวก

• ที่จอดรถส่วนกลาง 14 คัน
• Key Card Access
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 14 December 2014

• ทาวน์โฮม 3 ชั้น 11/25 ขนาด 22.3 ตารางวา ราคา 6.49 ล้านบาท
• ทาวน์โฮม 3 ชั้น 11/16 ขนาด 32.7 ตารางวา ราคา 8.29 ล้านบาท (ห้องมุม มีสวน)
• โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 11/8 ขนาด 24.6 ตารางวา ราคา 8.69 ล้านบาท
• โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 11/2 ขนาด 24.4 ตารางวา ราคา 9.09 ล้านบาท (หน้าติดถนนทางเข้า)
• โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น 11/6 ขนาด 33.7 ตารางวา ราคา 9.99 ล้านบาท (ห้องมุม มีสวน)

• จองและทำสัญญา 100,000 – 200,000 บาท
• บ้านพร้อมโอน
• ค่าส่วนกลาง 2,400 บาท/เดือน สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้น เก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าส่วนกลาง 2,800 บาท/เดือน สำหรับโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น เก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

เจาะลึกรวบยอด

การวิเคราะห์โดยรวมจะต้องแยกเป็น 2 ส่วนนะครับ แม้ว่าสินค้า HomeOffice 4 ชั้น และ TownHome 3 ชั้น จะใกล้เคียงกันก็จริง แต่การใช้งานและความคิดในการเลือกซื้อนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างหนึ่งใช้ทำธุรกิจ ต้องพาพนักงานเข้าๆออกๆ มีลูกค้าแวะเวียนมาหา กับอีกอย่างหนึ่งใช้เป็นบ้าน อยู่กัน 3-4 คนพ่อแม่ลูก ต้องการความปลอดภัยและการดูแลที่ดี ไม่ต้องการการรบกวนใดๆ ดังนั้นเราก็ต้องคิดต่างกันหน่อยละ

เริ่มที่ทำเลก่อน การที่ทำเลโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่บางนา-ตราด 500 เมตร นั้นก็จัดเป็นทำเลที่ดี ห่างจากเซ็นทรัลบางนาเพียง 1.7 กิโลเมตร และสามารถเข้าออกได้ถึง 3 ทางจากถนนบางนา-ตราด, ถนนสวนหลวง และถนนศรีนครินทร์ฝั่งเทพารักษ์ โดยตัวโครงการมีพื้นที่ 3 ไร่กว่าอยู่ด้านหลังโรงแรม Maple … ซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นบ้านก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร ถือว่าเป็นทำเลที่ดีมาก ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย จะมีข้อเสียก็แค่ตอนเช้าออกจากบ้านจะต้องไปกลับรถที่โลตัสก่อนจะเข้าเมืองไปทางขาเข้าได้ แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเมื่อเป็นออฟฟิศแล้ว การอยู่ลึกเข้าไปหลังโรงแรมที่มีตึกสูง 8 ชั้นนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ธุรกิจจะไม่สามารถเปิดเป็นหน้าร้านได้แน่นอน เพราะถูกโรงแรมบังหมด ไม่ใช่ทางผ่านของรถและลูกค้าขาจร ออฟฟิศตรงนี้จึงต้องกลายเป็น BackOffice หรือพวกธุรกิจแบบ B2B เพียงอย่างเดียว ผมจึงให้ทำเลนี้เป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยมากกว่าครับ

ความปลอดภัยนั้นใช้มาตรฐาน LPN เลย คือเป็นบริษัท Lumpini Property Management ที่คอยดูแลคอนโดอยู่หลายสิบตึกในทุกวันนี้ แบ่งทีมออกมาช่วยดูแลหมู่บ้านด้วย ซึ่งระดับนี้เชื่อมั่นได้ครับ แต่ด้วยอุปกรณ์ที่มีมาให้น้อยกว่าคอนโด คือมีเพียงรั้วกั้นไม้กระดก 1 ชิ้นและซุ้มรักษาความปลอดภัยกับ รปภ. อีก 1-2 คน ที่กั้นระหว่างบ้านเราและคนภายนอก ทำให้ความปลอดภัยโดยรวมยังด้อยกว่าคอนโดที่แน่นหนากว่า

การออกแบบบ้านที่ ลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนา-ศรีนครินทร์ นี้ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ผมชอบบ้านหน้ากว้างทั้ง 6.25 และ 7.25 เมตร ที่ปรับฟังก์ชั่นใช้สอยต่างๆทำออกมาได้สมบูรณ์มากขึ้น ดีกว่าทาวน์โฮมขนาด 5-6 เมตรที่อยู่ในตลาดทั่วๆไปทุกวันนี้ บางหลังจอดรถยังแทบจะจอดไม่ได้ 2 คันตามโฆษณา (เปิดประตูไม่ได้) แต่ที่นี่เป็นบ้านหน้ากว้างจึงไม่มีปัญหาดังกล่าว … โดยเฉพาะบ้านหลังเล็ก TownHome 3 ชั้น ที่หาข้อตำหนิแทบไม่ได้เลย เพราะได้ทั้ง Double Master Bedroom และห้องนอนพร้อมห้องน้ำ + Walk-in Closet ทุกห้อง กับพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยจริงๆ … แต่สำหรับ HomeOffice 4 ชั้น ผมกลับชอบน้อยกว่า โดยรวมจัดว่าโอเค พอใช้งานได้ แต่ก็ยังมีจุดเล็กๆน้อยๆที่ต้องแก้ไข ที่รับไม่ได้ที่สุดคงจะเป็นเรื่องประตูห้องเก็บของที่อยู่ข้างในห้องน้ำอีกที แล้วเปิดมาชนกับโถปัสสาวะนี่ละครับ

เรื่องวัสดุโดยรวมไม่มีอะไรมากมาย พื้นปูด้วยกระเบื้องหรือไม่ก็ลามิเนต ตามชั้นและการใช้งานอยู่แล้ว ผนังส่วนใหญ่ที่สัมผัสกับพื้นที่ภายนอกใช้เป็นผนังกระจกซึ่งทำให้โปร่งโล่ง อาจจะกันความร้อนได้น้อยแต่ก็ได้เรื่องแสงธรรมชาติและความสบายตามาเสริม อื่นๆจัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากเรื่องแอร์ ที่ถือเป็นโปรโมชั่น ไม่ได้แถมมากับบ้านทุกหลังนะครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการนั้นโดยรวมจัดว่าสะอาด ยกเว้นโซนที่กำลังก่อสร้างอยู่ก็ต้องมีฝุ่นและมีความไม่เรียบร้อยเป็นปกติ เมื่อสร้างเสร็จแล้วทางเราก็เชื่อมั่นว่า LPN Property Management จะดูแลให้ดีแน่นอน แต่เรื่องพื้นที่สีเขียวนั้นก็ต้องบอกตรงๆว่ามีไม่มาก ยิ่งเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ประเภทมีออฟฟิศมาด้วย พื้นที่ต้นไม้ก็จะกลายเป็นพื้นที่จอดรถกันหมด ต้นไม้ที่มีอยู่ก็ยังเล็ก ต้องรออีกสัก 2-3 ปีให้โต ฟู และสร้างร่มเงาให้กับหมู่บ้าน

สาธารณูปโภคมีมาให้ 2 อย่างหลักๆ ก็คือป้อมรักษาความปลอดภัยพร้อมที่กั้นไม้กระดก และที่จอดรถส่วนกลางเสริมอีก 14 คัน เรื่องนี้คนที่มาซื้อ Office ก็คงจะชอบมาก แต่สำหรับลูกบ้านก็ไม่ใช่ไม่ชอบนะ การที่มีที่จอดรถส่วนกลางทำให้ความระเกะระกะของรถที่จอดนอกบ้านลดลงไปทันตาเห็น แต่โดยรวมคงจะอยากได้สวนขนาดใหญ่ สโมสร ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ มากกว่า ซึ่งในระดับทาวน์โฮมราคา 6-7 ล้านบาท ควรจะมีให้ใช้ครับ กับอีกอย่างคือเมื่อหมู่บ้านนี้มีขนาดเล็ก ค่าส่วนกลางก็จะมีตัวหารน้อย แพงขึ้นเป็นเงาตามตัว ปัจจุบันเก็บที่ 2,400 – 2,800 บาท/เดือน/หลัง ก็ต้องดูว่าความต้องการของเราเป็นอย่างไร

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

HOMEOFFICE – เทียบกับแพคเกจ 8-10 ล้านบาท, 14 December 2014

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – 500 เมตรจากถนนบางนา-ตราด แต่อยู่ในทางวนเกือกม้า ไม่เด่น
• ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบบ้านโดยรวมดี แต่ยังมีบางจุดที่ต้องแก้ไข เช่นห้องเก็บของข้างในห้องน้ำ
• วัสดุ 7/10 – มาตรฐาน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – สภาพโครงการดีแต่พื้นที่สีเขียวน้อย แต่ออฟฟิศไม่ได้ต้องการตรงนี้มาก
• สาธารณูปโภค 8/10 – ที่จอดรถส่วนกลาง 14 คัน ดีมากสำหรับออฟฟิศ
• 7.40 / 10.00

TOWN HOME – เทียบกับแพคเกจ 6-7 ล้านบาท, 14 December 2014

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – 500 เมตรจากถนนบางนา-ตราด อยู่ในทางวนเกือกม้าซึ่งไม่มีปัญหาสำหรับบ้าน
• ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9.5/10 – แบบบ้านโดยรวมดีมาก
• วัสดุ 7/10 – มาตรฐาน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 6/10 – สภาพโครงการดีแต่พื้นที่สีเขียวน้อย
• สาธารณูปโภค 6/10 – ที่จอดรถส่วนกลาง 14 คัน ไม่มีสวน ไม่มีสโมสร ค่าส่วนกลางค่อนข้างแพง ตัวหารน้อย
• 7.65 / 10.00

BOTTOM LINE

Home Office ในโครงการ ลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนา-ศรีนครินทร์ เหมาะกับธุรกิจประเภท Back Office หรือ B2B ที่ไม่ต้องการหน้าร้านแต่ต้องการพื้นที่ทำงาน อยู่ในย่านบางนา เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก มีพนักงานรวมไม่เกิน 12 คน ต่อ 1 ยูนิต ในงบ 8-10 ล้านบาท

Town Home ในโครงการ ลุมพินี ทาวน์ เรสซิเดนซ์ บางนา-ศรีนคริทร์ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง มีสมาชิกไม่เกิน 5 คน ต้องการห้องนอน 3 ห้องที่มีห้องน้ำและห้องแต่งตัวในตัวพร้อม จอดรถได้ 2 คัน เดินทางสะดวกในย่านบางนา-ตราด ใกล้เซ็นทรัลบางนา ในงบ 6-7 ล้านบาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ