รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.277 – รีวิวบ้านเดี่ยว Life Bangkok Boulevard รามอินทรา
16 กุมภาพันธ์ 2017
รีวิวฉบับที่ 535 … โครงการ Life Bangkok Boulevard- Ramindra (ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด – รามอินทรา) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้นอีกหนึ่งโครงการในกลุ่ม Bangkok Boulevard จาก SC ASSET ห่างจากศูนย์การค้า Promanade กับ Fashion Island ประมาณ 2 กม.ค่ะ จุดเด่นของโครงการนี้คืออยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา แต่เป็นการติดถนนใหญ่แบบต้องเข้าซอยของโครงการไปประมาณ 100 เมตร ถึงจะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าของโครงการนะคะ
Fact @ 19 February 2014
- Life Bangkok Boulevard- Ramindra (ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด – รามอินทรา)
- บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน
- Segment : Upper Class (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : คันนายาว
- เนื้อที่โครงการ 57 ไร่ 2 งาน 46.00 ตร.ว.
- บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด 2 ชั้น ตั้งแต่ 146.0 ถึง 205.0 ตร.ม.
- บ้านเดี่ยว New Verley พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว New Bradford พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว New Hart พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านแฝด Kalten พื้นที่ใช้สอย 146 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 35.4 – 77 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาทหรือ 168,258 บาท/ตร.วา
- ราคาเฉลี่ย/ตร.วา 110,000 บาท
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2559
- http://www.scasset.com/th/House/LBBRT/default.aspx
- Call Center : 02-949-2000
มาช่วยกันคอมเม้นท์เพื่อแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านกันนะคะ 🙂
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.813619,100.692603
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Life Bangkok Boulevard รามอินทรา เป็นโครงการย่านรามอินทราที่ตัวโครงการอยู่เกือบติดถนนใหญ่ ต้องเข้าซอยไปอีกประมาณ 100เมตร ถึงจะเจอทางเข้าหมู่บ้านที่มีซุ้มประตู ถนนในซอยทางเข้าโครงการกว้าง 6 เมตร เส้นทางหลักที่ใช้งานจะเป็น ถนนรามอินทรา ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ห่างจากจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันออก)ประมาณ 2.5 กม. ซึ่งช่วยให้การเดินทางไปโซนบางนาจะทำความเร็วได้ดี ถ้าจะใช้เส้นทางประเสริฐมนูกิจก็มีสะพานต่างระดับเส้น รามอินทรา-นวมินทร์ให้ใช้ แต่ถ้าจะเข้าเมืองแถวๆสยามนี่จะลำบากหน่อยเพราะเส้นทางที่มีระยะทางสั้นอย่างรามคำแหงดันเป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและรถติดเอาเรื่อง แนะนำว่าให้วิ่งเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามดินทรา)จะสะดวกและทำความเร็วได้ดีกว่าค่ะ
พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นส่วนมาก ทำให้มีสถานที่สำคัญที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยตั้งอยู๋ใกล้ๆโครงการหลายแห่ง พวกห้างสรรพสินค้าจะมี Fashion Island , Promenade และ แมคโครรามอินทรา ส่วน Community Mall จะเป็นAmorini สวนสยาม โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ทำเลนี้เป็นทำเลที่เอื้ออำนวยต่อการใช้จักรยานมาก แต่เป็นในแง่ของระยะห่างของสถานที่ใกล้เคียงค่ะ เพราะสถานที่ต่างๆส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะ 2 กม.เหมาะแก่การใช้จักรยานดีครับ แถมในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านหน้าโครงการด้วย ตัวสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
แผนที่จากจุดเริ่มต้นที่แยกเกษตรวิ่งเข้าถนน ประเสิรฐมนูกิจ, รามอินทรา-นวมินทร์ และไปสุดที่ ถนนรามอินทราค่ะ
เริ่มต้นที่แยกเกษตร เข้าเส้นถนนประเสิรฐมนูญกิจ (ถนนเกษตร – นวมินทร์)
สามารถงเข้าอุโมงค์ได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องรถติดด้วย
เจอแยกที่ตัดกับถนนลาดปลาเค้า-ลาดพร้าววังหินให้ตรงไปก่อน ถ้าใครจะไปเส้นลาดพร้าวเลี้ยวซ้ายเข้าลาดพร้าววังหินได้ค่ะ ภายในซอยนี้มีของกินอร่อยๆเพียบเลย ^__^
ถัดมาจะเจอแยกที่ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามอินทรา) ให้ตรงต่อไปค่ะ
เมื่อเจอ3แยกที่เชื่อมต่อกับถนนรามอินทรา-นวมินทร์ให้เลี้ยวซ้าย
ขับตามทางมาเรื่อยๆจะเจอสะพานข้ามแยก ที่ตัดกับบถนนนวมินทร์ให้ชิดขวาขึ้นสะพานค่ะ
วิ่งมาได้อีกหน่อยจะเจอสะพานข้ามแยกอีกที เป็นสะพานที่ข้ามถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนรอบนอกตะวันออก)
สะพานต่างระดับอันนี้จะยาวหน่อยนะคะ และช่วงกลางสะพานต่างระดับจะมีทางแยกไป ถนนกาญจนภิเษก(วงแหวนฝั่งตะวันออก) และถนนมีนบุรี ให้เราวิ่งชิดขวาเพื่อใช้ทางออกมีนบุรี
ช่วงทางแยกจะมีป้ายบอกว่าถ้าไปทางซ้ายจะไป หลักสี่ และแฟชั่นฯกับทางขวาไปโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
ขับลงมาก็ตรงไปเรื่อยๆค่ะ ช่วงนี้จะการเป็นช่วงที่มีการจราจรหนาแน่นต่อเนื่องมาจากแฟชั่นไอแลนด์
และจะคลายความหนาแน่นลงหลังจากผ่าน 3 แยกที่ไปเข้าซอยสวนสยาม ช่วงปากซอยทางเข้าซอยสวนสยามจะมี Community Mall Amorini อยู่ด้วย
ขับผ่านโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี บริเวณนี้แหละค่ะที่จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาขึ้นอยู่ข้างๆโรงพยาบาล
ถ้าเจอเสาๆแบบภาพข้างบนกับป้ายหมู่บ้านแมกไม้แสดงว่าใกล้ถึงมากแล้วค่ะ ชะลอรถชิดซ้ายไว้เลย
ตรงปากทางเข้าเป็นร้านอาหารชื่อ ภัตตาคาร ชายทะเล จันทร์เพ็ญค่ะ เป็นร้านอาหารซีฟู้ดแบบจีนๆหน่อย
เห็นป้ายโครงการ พร้อมกับแท่งลมสีส้มๆส่ายไปมาก็เลี้ยวเข้าไปได้เลยค่ะ
ขับเข้าไปประมาณ 100 เมตรก็จะถึงซุ้มประตูทางเข้าโครงการแล้วค่ะ
เจาะลึกโครงการ
รูปร่างของตัวโครงการมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมตัดมุม มีทางเข้าออกทางเดียวผ่านถนนกว้าง 6 เมตร ระยะประมาณ 100เมตรจากปากซอยถึงซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ตัวบ้านจะสร้างไล่จากด้านหน้าโครงการที่ติดกับ Club House ลึกเข้าไปเรื่อยๆค่ะ การสร้างจะสร้างแบบไล่เป็นล็อตๆ โดยเน้นการสร้างเสร็จก่อนเปิดขาย ทางเข้าออกโครงการจะมีทางเดียวคือด้านหน้าที่ติดกับถนนใหญ่ของโครงการ ส่วนถนนหลักในโครงการกว้าง 16 เมตร, ถนนรองบ้านเดี่ยว 9 เมตร บ้านแฝด 10 เมตร และซอยย่อย 10 เมตรค่ะ
ภาพข้างบนเป็นภาพทางเข้าโครงการค่ะ จะมีป้ายชื่อ Life Bangkok Boulevard รามอินทรา อยู่นะคะ (คำว่าบูเลอวาร์ดในอเมริกาจะใช้ในความหมายของถนนใหญ่ในตัวเมือง มีสองเลน รถวิ่งสวนกัน และมีต้นไม้ใหญ่ข้างทางค่ะ) อันนี้ขอเพิ่มเติมว่าโครงการ ไลฟ์บางกอกบูเลอวาร์ด ของ SC Asset เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ตอนนี้มีอยู่สามกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่ม แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด เป็นคฤหาสถ์สุดหรู ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 15 ล้านขึ้นไป อยู่ในกลุ่ม Super luxury, กลุ่มบางกอก บูเลอวาร์ด บ้านหรูทำเลดี ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไปอยู่ในกลุ่ม High class และที่ที่เราจะมาชมกันวันนี้อยู่ในกลุ่มที่สามคือ ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6 ล้านขึ้นไป อยู่ในกลุ่ม Upper class ค่ะ ห่างจากตัวโครงการออกไปไม่ถึง 1 กิโลเมตร จะมีโครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา อยู่ตรงทางเลี้ยวเข้าสวนสยามค่ะ คนที่งบประมาณไม่ถึงแกรนด์บางกอกบูเลอวาร์ด แต่อยากได้บ้านอยู่แถวนี้ โครงการนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีค่ะ
ทางเข้าโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security Gate คือมีสองป้อมยามช่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ป้อมยามจุดแรกเป็นประตูทางเข้าบานเลื่อนอัตโนมัต 3 ตอน มีระบบ Keycard Access เป็นแบบระยะใกล้ที่ยังคงต้องใช้ Key Card ไปแตะใกล้ๆตัวจับสัญญาณ และกล้อง CCTV ที่บริเวณป้อมยามตามมาตรฐานทั่วไป พี่ๆร.ป.ภ ทำหน้าที่เข็มแข็งกันดีค่ะ มองผ่านเข้าไปจะเห็นรั้วเหล็กสีดำข้างหน้า เป็นป้อมยามจุดที่สองอยู่ไม่ไกลนักค่ะ
เข้าโครงการมาจะเจอสำนักงานขายอยู่ด้านซ้ายมือเป็นจุดแรก ซึ่งเป็นอาคารที่รวมพื้นที่ส่วนกลางอย่างคลับเฮ้าส์เอาไว้ด้วยกันค่ะ ด้านขวามือมีรถกอล์ฟสีส้มสำหรับพาทัวร์รอบโครงการด้วย
ด้านขวามือจะเป็นสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 15 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ สระเด็กลึก 60 cm สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 m ขอบสระด้านนึงจะเป็นแบบน้ำล้นผ่านแผงหินตกแต่ง
มองไปทางด้านซ้ายจะเห็นป้อมยามที่เข้ามาค่ะ อยู่ใกล้ๆกันเลย
ส่วนที่จอดรถอยู่ฝั่งซ้ายมือของอาคารค่ะ
เข้ามาด้านในจะเป็นส่วนสำนักงานขายค่ะ ถ้าขายหมดต่อไปส่วนนี้คงจะเปลี่ยนเป็นล้อบบี้คลับเฮ้าส์ของโครงการเต็มตัวค่ะ การตกแต่งเป็นโทนสีอ่อน ขาว เบจ มีโซฟากับชุดเก้าอี้นั่งอีก 2-3 ชุดไว้รองรับลูกค้า
ด้านขวามือติดประตูทางออกไปส่วนคลับเฮ้าส์ จะเป็นแสตนด์โชว์อีกหนึ่งจุดขายของโครงการคือกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย – ปากเกร็ด – มีนบุรี) ซึ่งจะอธิบายข้อมูลสถานีใหม่ๆในสายสีชมพูที่กำลังจะมาเปิดอีก 24 สถานีที่คาดว่าเปิดใช้ในปี 2560 ค่ะ สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีนพรัตนราชธานีค่ะ
เปิดประตูออกมาก็เจอสระว่ายน้ำและ Deck สำหรับนั่งพักผ่อนโดย Design ยังคงเน้นความเรียบง่ายและใช้โทนสีฟ้าเพิ่มสีสันให้กับพื้นที่บริเวณนี้ ตามภาพข้างบนจะเห็นว่ามีการแบ่งส่วนสระเด็กและมีบันไดเดินลงสระอยู่
ทางลงสระว่ายน้ำอีกจุดค่ะ จะเห็นว่าร่องน้ำล้นข้างตัวสระถูกออกแบบให้เป็นแบบน้ำล้นที่เอาหินแม่น้ำโรยไว้ช่วยให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากขึ้น
ทางไปห้องน้ำและฟิตเนสค่ะ มีการเปลี่ยนวัสดุพื้นจากกรวดล้างริมสระมาเป็นกระเบื้องแบบผิวด้านค่ะ
ห้องน้ำ หญิงอยู่ถัดจากฟิตเนสค่ะ ห้องน้ำชายตั้งเยื้องๆอยู่ตรงข้ามห้องน้ำหญิงค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะ กระเบื้องและผนังเน้นโทนขาวดำ มีอ่างล้างมือสองอ่างบนท้อปแกรนิตสีดำ ข้อดีคือมีผ้าเช็ดมือให้บริการด้วย มีพัดลมติดเพดานอยู่หนึ่งตัว บวกกับระยะพื้นถึงเพดานที่สูง 3 เมตร ทำให้ห้องน้ำโปร่งดีค่ะ
หน้าตาสวิตช์เปิด-ปิดไฟ และพัดลมระบายอากาศ ส่วนตัวพัดลมก็ติดบนฝ้าเพดานแบบรูปด้านบนเลยค่ะ
ตัวห้องน้ำมี 6 ห้องค่ะ เป็นสุขา 4 ห้องอาบน้ำ 2 ค่ะ
มาดูห้องฟิตเนสกันบ้างนะคะ ห้องมีขนาดไม่ใหญ่มากมีเครื่องเล่นให้ประมาณ 6 เครื่องมีลู่วิ่งสองเครื่อง ถีบจักรยานสองเครื่อง แผงดัมเบล และ เครื่องบริหารรอบอกหนึ่งเครื่อง แต่เพราะขนาดห้องฟิตเนสค่อนข้างเล็ก จึงทำให้พื้นที่ดูแน่นไปซักหน่อย
ภายในห้องนี้มีแอร์มาให้ด้วย
วิวที่เห็นจากห้องนี้จะเป็นวิวสระน้ำค่ะ
ออกมาด้านนอกของคลับเฮ้าส์ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นบ่อน้ำพุของโครงการค่ะ
มีศาลาริมน้ำพร้อมเฟอร์นิเจอร์โต้ะเก้าอี้แบบเอาต์ดอร์ไว้ให้นั่งเล่นกัน พื้นเป็นกระเบื้องผิวด้านสำหรับภายนอกและกรวดล้างที่ดูทนแดดทนฝนค่ะ
ตัวชุดโต๊ะเก้าอี้ Out Door ที่ออกแบบมาเพื่อความกะทัดรัด จัดเก็บง่าย แต่ปรากฏว่าตัวเก้าอี้นั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่เลยค่ะ
รอบๆบ่อน้ำพุจะมีการปลูกต้นไม้ไว้ให้ร่มเงา แต่ตอนนี้ยังคงให้ร่มเงาไม่ได้มากนักเพราะเป็นต้นไม้ที่เพิ่งเอามาลงใหม่(โครงการเริ่มก่อสร้างปลายปี 2556) ถ้าจะหวังร่มเงาคงต้องรออีกสัก 2-3 ปีนะคะ
เข้าไปดูบ้านตัวอย่างกันดีกว่าค่ะ ภาพข้างบนเป็นป้อมยามชั้นที่สองก่อนเข้าส่วนที่พักอาศัยค่ะ โครงการนี้มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ (เท่าที่สอบถามมาคือจะมีกล้อง 2 ตัวต่อหนึ่งซอยค่ะ)
สภาพซอยในโครงการและป้ายบอกซอยค่ะ ระยะไฟถนนอยู่ในระยะที่ให้แสงสว่างได้ทั่วถึงในตอนกลางคืนค่ะ
รั้วรอบนอกสูง 3 เมตร ค่ะ พร้อมแผงเหล็กแหลมกันปีน
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Club House 1 ชั้น
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 7 x 15 m. แยกสระเด็ก( ลึก 60 ซม), สระผู้ใหญ่ (ลึก 1.3 ม.)
- ฟิตเนส มีเครื่องเล่นประมาณ 6 เครื่อง
- ศาลาพักผ่อนริมน้ำ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- ระบบ CCTV เข้า-ออก และจุดสำคัญในโครงการ
- Double Gate
- Key Card Access
- ระบบป้องกันขโมยทุกบ้าน 2 ระบบ (Magnetic & Shock Sensor)
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
Product Walkthrough
โครงการนี้มีบ้านอยู่ 4 แบบด้วยกัน บ้านเดี่ยว 3 แบบ บ้านแฝด 1 แบบ
New Bradford – 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, Double Living Room, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ส่วนทานอาหาร, ครัวปิด, 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 185 ตารางเมตร ตัวบ้านใช้หลังคาปั้นหยา มีระเบียงชั้น 2 ที่ยื่นเป็นหลังคาสำหรับทางเข้าชั้น 1 พื้นสีอาคารเป็นสีขาว มีการเล่นโทนสีพาสเทลเพิ่มมิติอาคาร มีการเจาะช่องแสงอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ตรงส่วนโถงบันไดตรงกลางมีการเจาะช่องหน้าต่างค่อนข้างสูง ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายใน
ผังบ้านชั้นล่าง บ้านนี้มีทางเข้าทั้งหมด 3 ทางค่ะ ไล่ตั้งแต่ ประตูหน้าลานจอดรถซึ่งประตูนี้เป็นประตูเข้าบ้านที่ใช้เวลาฝนตก, ทางเข้าหลักสู่ห้องนั่งเล่นด้านหน้าบ้าน,ทางเข้าห้องครัวด้านหลังบ้าน, จากผังจะเห็นว่าฟังก์ชั่น Double living room จัดเป็นส่วนรับแขกและส่วนนั่งเล่น อาจวางชั้นหนังสือกั้นตรงกลางเพิ่มมิติมุมมองและเพิ่มความเป็นสัดส่วนขึ้น ส่วนพื้นที่จัดเป็นโต๊ะกินข้าวนั้นค่อนข้างไกลครัวอาจต้องระวังเวลาลำเลียงอาหารหรือจานชามไปมา มีห้องนอนด้านล่างสำหรับผู้สูงอายุหรือจะแปลงเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ ส่วนพื้นที่ครัวเป็นแบบครัวปิด พื้นที่ค่อนข้างเล็กค่ะ รวมทั้งส่วนลานหลังบ้านที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ตากผ้ากันก็ค่อนข้างเล็กเลยค่ะ ถ้าไม่ทำลานเพิ่มอาจต้องเอาผ้ามาตากที่ลานจอดรถหน้าบ้านก็ดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่นะคะ
ผังชั้นบน จะมี 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่สุดจะมีห้องน้ำในตัวค่ะ ขึ้นบันไดมาจะเจอโถงบันไดขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆได้ แต่จะเปลี่ยนเป็นห้องพระก็เหมาะค่ะ พื้นที่ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงอยู่ใช้ปลูกไม้กระถางได้บ้างค่ะ ห้องนอนอีก 2 ห้องถึงจะเล็กกว่าแต่ก็มีพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะทำงานได้โดยไม่อึดอัดค่ะ จะวางทีวีหน้าเตียงก็ยังโอเคค่ะ
New Hart – 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, Double Living Room, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ส่วนทานอาหาร, ครัวปิด, 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร New Hart เป็นบ้านเดี่ยวขนาดเล็กที่สุดในโครงการนี้ค่ะ ตัวบ้านใช้หลังคาปั้นหยา มีระเบียงชั้น 2 ที่ยื่นเป็นหลังคาสำหรับทางเข้าชั้น 1 พื้นสีอาคารใช้สีขาว มีการเล่นโทนสีพาสเทลเพิ่มมิติอาคาร มีการเจาะช่องแสงอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ
ผังบ้านชั้นล่าง บ้านนี้มีทางเข้าทั้งหมด 3 ทางค่ะ ไล่ตั้งแต่ ประตูหน้าลานจอดรถซึ่งประตูนี้เป็นประตูเข้าบ้านที่ใช้เวลาฝนตก, ทางเข้าหลักสู่ห้องนั่งเล่น,ทางเข้าห้องครัวด้านหลังบ้าน จากผังจะเห็นว่าฟังก์ชั่น Double living room จัดเป็นส่วนรับแขกและส่วนนั่งเล่น ส่วนพื้นที่จัดเป็นโต๊ะกินข้าวนั้นเปลี่ยนมาทางด้านหน้าของบ้านก็ดูลงตัวดี ถ้าวางชั้นวางทีวีแบบฐานทีวีหมุนได้ระหว่างห้องนั่งเล่นกับส่วนโต๊ะกินข้าวก็เป็นการแบ่งพื้นที่และฟังก์ชั่นได้เป็นสัดส่วนดี ส่วนพื้นที่ครัวเป็นแบบครัวปิดพื้นที่ค่อนข้างเล็กค่ะ รวมทั้งส่วนลานหลังบ้านที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ตากผ้ากันก็ค่อนข้างเล็กเลยค่ะ แต่จากผังยังมีพื้นที่สวนด้านข้างห้องครัวที่ใช้ตากผ้าได้ค่ะ
ผังชั้นบน จะมี 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่สุดจะมีห้องน้ำในตัวค่ะ ขึ้นบันไดมาจะเจอโถงบันไดขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆได้ แต่จะเปลี่ยนเป็นห้องพระก็เหมาะค่ะ พื้นที่ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงอยู่ใช้ปลูกไม้กระถางได้บ้างค่ะ ห้องนอนอีก 2 ห้องถึงจะเล็กกว่าแต่ก็มีพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะทำงานได้โดยไม่อึดอัดค่ะ จะวางทีวีหน้าเตียงก็ยังโอเคค่ะ ห้องน้ำรวมชั้นสองวางไว้ฝั่งซ้ายสุดทางเข้าอยู่ระหว่างห้องนอนเล็กทั้งสองห้องค่ะ
สำหรับบ้านเดี่ยวที่จะพาไปชมกันคือ New Verley ค่ะ มี 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, Double Living Room, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ส่วนทานอาหาร, ครัวปิด, ห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถพื้นที่ใช้สอย 205 ตารางเมตร New Verley เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการนี้ค่ะ ตัวบ้านใช้หลังคาปั้นหยา มีระเบียงชั้น 2 ที่ยื่นเป็นหลังคาสำหรับทางเข้าชั้น 1 ซึ่งมีส่วนเสาคู่ด้านหน้าที่เชื่อมส่วนคานรับน้ำหนักระเบียงชั้นบนทาสีเดียวกันมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเจาะช่องยื่นออกมาจากระเบียงด้านหน้าเพิ่มการบังแดดและเพิ่มมิติให้กับทางเข้า พื้นสีอาคารใช้สีขาว มีการเล่นโทนสีพาสเทลเพิ่มมิติอาคาร มีการเจาะช่องแสงอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ
ผังบ้านชั้นล่าง บ้านนี้มีทางเข้าทั้งหมด 4 ทางค่ะ ไล่ตั้งแต่ ประตูหน้าลานจอดรถซึ่งประตูนี้เป็นประตูเข้าบ้านที่ใช้เวลาฝนตกและจริงๆแล้วมันจะเป็นประตูที่ใช้บ่อยกว่าประตูหน้าบ้านอีก, ทางเข้าหลักสู่ห้องนั่งเล่น,ทางเข้าห้องครัวด้านหลังบ้าน,ทางเข้าห้องแม่บ้าน จากผังจะเห็นว่าฟังก์ชั่น Double living room จัดเป็นส่วนรับแขกและส่วนนั่งเล่น ส่วนพื้นที่จัดเป็นโต๊ะกินข้าวนั้นไกลครัวไปหน่อยนึงอาจต้องระวังเวลาลำเลียงอาหารหรือจานชามไปมา มีห้องนอนด้านล่างสำหรับผู้สูงอายุหรือจะแปลงเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ ส่วนพื้นที่ครัวเป็นแบบครัวปิดซึ่งมีประตูสำหรับให้แม่บ้านเข้าได้จากหลังบ้านเลย
ผังชั้นบน จะมี 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่สุดจะมีห้องน้ำในตัวค่ะ ขึ้นบันไดมาจะเจอโถงบันไดขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆได้ แต่จะเปลี่ยนเป็นห้องพระก็เหมาะค่ะ พื้นที่ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงอยู่ใช้ปลูกไม้กระถางได้บ้างค่ะ ห้องนอนอีก 2 ห้องถึงจะเล็กกว่าแต่ก็มีพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะทำงานได้โดยไม่อึดอัดค่ะ จะวางทีวีหน้าเตียงก็ยังโอเคค่ะ
ถัดจากที่จอดรถด้านหน้าและทางเข้าบ้านค่ะ
พื้นโรงจอดรถจะมีการเซาะร่องโรยหินแม่น้ำทำร่องระบายน้ำมาให้ด้วย
ด้านซ้ายของภาพเป็นบานเปิดห้องเก็บของหรือจะเก็บอุปกรณ์ทำสวนก็ได้ค่ะ ด้านขวาของภาพประตูทางเข้าบ้านจากลานจอดรถค่ะ ถ้าซื้อของสดมาเวลาขนของเข้าครัวใช้ทางนี้จะสะดวกกว่า
เดินสำรวจรอบบ้านดูหน่อยดีกว่า ของจริงจะมีรั้วกั้นระหว่างบ้านสองหลังนะคะ
เสาที่จอดรถฝังก๊อกน้ำสำหรับรถน้ำต้นไม้ไว้ด้วยค่ะ
ทางเดินในสวนด้านข้างที่ติดกับบ้านอีกหลังค่ะ เพราะเป็นบ้านตัวอย่างเลยไม่มีรั้วกั้นให้ดู ตำแหน่งรั้วกั้นก็คือตรงกลางระหว่างบ้านสองหลังค่ะ
ด้านหลังบ้าน หน้าทางเข้าห้องแม่บ้านค่ะ มีแท้งค์น้ำกับปั๊มน้ำวางอยู่ ตัวพื้นออกแบบทางเดินเป็นแผ่นๆเว้นระยะในส่วนระบายน้ำค่ะ
ถัดมาเป็นทางเข้าห้องครัวค่ะ ตรงมุมที่สเต็ปของยกพื้นเข้าห้องครัวมีเซาะร่องระบายน้ำไว้ด้วยค่ะ
ถัดไปเป็นหน้าต่างบานเลื่อนแบบสองบานของห้องนอนข้างล่างค่ะ
เข้าไปดูในตัวบ้านกันดีกว่าค่ะ ทางเข้าหลักของบ้านนะคะ ด้านข้างระหว่างทางเข้าบ้านกับที่จอดรถ จะมีพื้นที่เล็กๆให้จัดเป็นสวนหรือปลูกต้นไม้ได้นิดหน่อยค่ะ พื้นด้านนอกปูกระเบื้องผิวด้านเดินริมด้วยผิวทรายล้าง พื้นด้านในเป็นแกรนิตโต้ค่ะ พื้นบ้านจะยกระดับสูงกว่าเฉลียงหน้าบ้าน ประมาณ 10 ซม.
ส่วนแรกของบ้านป็นส่วนที่จัดเป็นห้องรับแขกค่ะ มีการทำกั้นห้องระหว่างส่วนพื้นด้านหลังให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น ด้านหลังเป็นบานเลื่อนแบบสองบานทำเต็มผนังค่ะ บ้านทั้งหลังใช้กระจกเขียวตัดแสงหนา 6 มม.พร้อมกรองแสงยูวีลดความร้อนภายในตัวบ้าน
ส่วนพื้นที่วางทีวีก็มีให้เหลือเฟือครับ ถ้าอยากให้บรรยากาศส่วนนี้ดูโล่งๆหน่อยก็แนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนผนังเลยครับ แถมได้พื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนด้ถัดมาจะจัดเป็นส่วนนั่งเล่นและโต๊ะกินข้าวค่ะ นอกจากจะจัดเป็นส่วนนั่งเล่นแล้ว จริงๆก็สามารถให้ตกแต่งเพิ่มตามไลฟ์สไตล์ได้หลากหลายค่ะเช่นจะวางเปียโนหรือลู่วิ่งออกกำลังกายแบบชมสวนไปด้วย หรือครอบครัวไหนมีเด็กเล็กๆจะจัดเป็นพื้นที่เลี้ยงเด็กก็ยังได้
เพื่อให้เห็นภาพของจริงง่ายขึ้น เลยขอเอาภาพบ้านเปล่าจริงมาให้ดูประกอบนะคะ จะได้เห็นภาพแบบที่ยังไม่ทำแผงกั้นด้วยว่าเป็นยังไง ตัวหน้าต่างชั้นล่างเป็นบานเลื่อนแบบ 2 บาน กรอบอลูมิเนียมทั้งหลังนะคะ จะเห็นว่าขนาดของหน้าต่างเป็นแบบขนาดใหญ่ช่วยให้รับแสงธรรมชาติได้ดีขึ้นและทำให้บ้านดูโปร่ง กว้าง มากขึ้นด้วย ตัวผนังบ้านในโครงการทุกหลังใช้เป็นแบบ Q-con wall หรือคอนกรีตมวลเบาค่ะ ช่วยกันความร้อน กันไฟ กันเสียงได้ดีขึ้นอีกด้วยคะ
ทางเดินแจกไปบันได ห้องนอนด้านล่าง ประตูออกไปลานจอดรถ ครัว และห้องน้ำค่ะ ความสูงของภายในบ้าน จากพื้นถึงผนังสูง 2.6 เมตรค่ะ
หันกลับมาดูหน้าบ้าน จะเห็นว่าในบ้านตัวอย่างจัดโซฟาเป็นแบบสามที่นั่ง แต่ถ้าครอบครัวใหญ่จะจัดเป็นโซฟารูปตัว L ก็ยังได้ค่ะ ถ้าจัดสวนด้านหลังให้ร่มรื่นก็จะได้บรรยากาศคล้ายๆนั่งในสวนค่ะ
ภาพโถงบันไดค่ะ ตัวพื้นบันไดใช้ไม้ยางพาราจ๊อยท์ทำสีธรรมชาติค่ะ มีประตูห้องเก็บของอยู่ด้านข้าง
ข้างในห้องเก็บของเป็นจุดติดตั้งงานระบบค่ะ
ในห้องน้ำชั้นล่าง มีหน้าต่างเซตบานฟิกซ์ด้านบนและทำเป็นบานกระทุ้งด้านล่างค่ะ ตัวฝักบัวเป็นของ Cotto เหมือนกันค่ะ
มาดูในห้องน้ำกันบ้างดีกว่า ห้องน้ำชั้นล่างใช้อ่างล้างมือรุ่นนี้สวยดีค่ะ มีที่แขวนผ้าเช็ดมือให้ด้วย แต่ไม่มีตู้เก็บของค่ะ
ก๊อกน้ำใช้ของ Cotto ค่ะ
โครงการนี้ใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto ค่ะ
เทียบขนาดพื้นแกรนิตโต้ที่โถงและห้องครัวกับกระเบื้อง 8 x 8 นิ้วในห้องน้ำค่ะ จะเห็นว่าทางเข้าห้องครัวใช้บานเลื่อนกระจกติดผนังนะคะ ประตูบานเลื่อนแบบนี้ช่วยประหยัดที่ดีค่ะ
ห้องครัวกับประตูเปิดออกไปด้านหลังบ้านพร้อมหน้าต่าง 1 ชุดค่ะ ตัวครัวนี่บ้านเปล่าจะไม่มีแบบนี้นะคะ เดี๋ยวมีภาพมาให้ดูค่ะ
บ้านเปล่าที่ซื้อจะมีให้มาแบบนี้ค่ะ ต้องเอาไปโมกันเองนะคะ ทำหน้าบานตู้เพิ่ม ทำชั้นเพิ่มด้านบนตามบ้านตัวอย่างก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ ด้านหลังจะทำเคาเตอร์เพิ่มไว้เตรียมอาหารหรือวางของเพิ่มก็เหมาะค่ะ
อันนี้ตัวอ่างล้างจานที่มากับบ้านเปล่าค่ะ
ถัดจากห้องครัวเป็นห้องนอนที่เหมาะเอาไว้เป็นห้องนอนแขกหรือผู้สูงอายุที่ขึ้นบันไดลำบากค่ะ ตัวพื้นด้านในเป็นพื้นไม้ลามิเนตค่ะ
ในห้องนอนด้านล่างจะมีหน้าต่างบานเลื่อนแบบ 2 บานอยู่ 1 ชุดนะคะ อย่างที่เห็นในภาพห้องตัวอย่างนะคะ ห้องนี้ถ้าจะทำเป็นห้องนอนแบบมีตู้เสื้อผ้า ใช้เตียง 3.5 ฟุตจะเหมาะกว่าค่ะ พอเหลือที่ให้โต๊ะข้างเตียงกับทีวีปลายเตียงอีกหน่อยด้วย
ขึ้นไปดูข้างบนกันดีกว่าค่ะ ราวบันไดเหล็กสีดำ ส่วนปลายราวจับเป็นแบบหัวมนค่ะ
งานหน้าต่างที่โถงบันไดจะเป็นเซตกรอบอลูมิเนียมฟิกซ์สามบานและบานกระทุ้งสองบานเรียงตัวตามแนวตั้งตามภาพข้างบนค่ะ
คือตัวหน้าต่างที่สามารถปิดเปิดได้ของโถงบบันไดก็คือบานกระทุ้งสองบานด้านล่างนะคะ แต่ความสูงน้อยไปหน่อยทำให้เปิดปิดจริงๆลำบากค่ะ เพราะข้อมือเราจะไปชนกับตัวเฟรมด้านบน จากการสอบถามทางโครงการ เป็นการออกแบบเพื่อความปลอดภัยค่ะเพราะช่องเล็กสามารถเปิดได้ตลอด โจรลอดไม่ได้
พื้นที่บริเวณโถงบันได ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนั่งเล่น แต่จะทำเป็นห้องพระก็เหมาะดีเหมือนกันค่ะ พื้นชั้นบนทั้งหมดเป็นพื้นไม้ลามิเนตค่ะ
บ้านทุกหลังจะมีระบบ Magnetic & Shock sensor หรือระบบ 2 สัญญาณกันขโมย ที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัย และส่งตรงมายังมือถือของเจ้าของบ้านถ้ามีผู้บุกรุกด้วยค่ะ หลังนี้จะติดอยู่ชั้น 2 ตรงผนังห้องนอนฝั่งที่ติดกับโถงบันไดค่ะ
ไปดูห้องนอนใหญ่กันก่อนเลยดีกว่าค่ะ เป็นห้องที่มีประตูบานเลื่อนแบบ 2 บาน เปิดออกไประเบียง ระยะเดินรอบเตียงโอเคค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ ระยะความกว้างของพื้นที่ปลายเตียง ดูชั้นวางของบ้านตัวอย่างได้เลยค่ะ วางโทรทัศน์ได้ถึงขนาด 60″ ได้สบายๆค่ะ
เปิดออกไปดูระเบียงด้านนอก ปูกระเบื้อง 8 x8 นิ้ว ระเบียงไม่ได้กว้างมากนะคะ แต่อย่างที่เห็นว่าพอจะจัดสวนเล็กๆ วางเก้าอี้ 2 ตัวและโต๊ะ 1 ตัวยังโอเค
ฝั่งหัวเตียงมีหน้าต่างอีกสองเซตค่ะ เซตหน้าต่างประกอบด้วยบานเปิด 1 บาน ด้านบน และบานกระทุ้งด้านล่างค่ะ สังเกตว่ามีปลั๊กไฟสำหรับโคมไฟหัวนอนด้วยค่ะ
ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวมาให้ มีสเปซทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้ จริงๆถ้าไม่พอยังมีสเปซระหว่างเตียงกับห้องน้ำที่ทางบ้านตัวอย่างจัดเป็นโซฟาเข้ามุมมาให้ดูอีกนะคะ
สเปซระหว่างเตียงกับห้องน้ำที่ทางบ้านตัวอย่างจัดเป็นโซฟาเข้ามุมนี่ก็จะมีหน้าต่างบานเปิดมาให้อีกบานค่ะ ก็คือพื้นที่ในมุมนี้เราพอจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือ ทำชั้นติดผนังฝั่งห้องน้ำเก็บกระเป๋ารองเท้าเพิ่มก็ได้ค่ะ
ดูในห้องน้ำกันดีกว่าค่ะ ด้านในปูกระเบื้อง 8 x 8 นิ้วใช้สุขภัณฑ์ทุกอย่างของ Cotto ค่ะ
ตัวอ่างล้างมือได้ตามนี้ค่ะ
โถสุขภัณฑ์และสายฉีดค่ะ
ไปดูห้องนอน 2 กันบ้างดีกว่า ห้องตัวอย่างจัดเป็นเตียง 3.5 ฟุต กับ โซฟา มาให้นะคะ แต่ด้วยความกว้างของห้อง จะใช้เตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังโอเคค่ะ ห้องนี้ค่อนข้างสว่างเลย เพราะตัวเซตหน้าต่างทั้งสองฝั่งตามภาพค่ะ
ไอเดียตู้เสื้อผ้าและชั้นเก็บของค่ะ
ห้องนอนเล็กสุดจัดแบบห้องวัยรุ่นค่ะ มีหน้าต่าง 2 เซตนะคะ เซตหัวเตียงเป็นบานเลื่อนแบบ2บาน ข้างเตียงเป็นบานเปิด 1 บาน ห้องนี้ถ้าวางเตียงไม่ควรเกิน 3.5 ฟุต นะคะ ถ้าเป็นเตียงไซส์นี้จะวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานได้โดยไม่อึดอัดค่ะ
มาเทียบกับห้องน้ำอีกห้องของชั้นบนกันนะคะ ห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำที่ใช้รวมค่ะ ชั้นบนมีห้องน้ำสองห้อง ในห้องนอนใหญ่ห้องนึง ใช้รวมห้องนึงค่ะ การจัดวางห้องนี้ก็มาตรฐานทั่วไปค่ะ ชอบที่กระจกเงาให้มากว้างดีค่ะ
ตัวอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์อันนี้เหมือนตัวบ้านเปล่าค่ะ
มีการเซาะร่องผนังมาให้วางของนิดนึง หน้าต่างห้องน้ำใช้เป็นเชตบานฟิกซ์ด้านบน บานกระทุ้งด้านล่างค่ะ
จะพาไปชมบ้านแฝดกันต่อนะคะ บ้านแฝดจะใช้ชื่อว่า Kalten – 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, Double Living Room, ส่วนทานอาหาร, ครัวปิด, 1 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 146 ตารางเมตร Kalten เป็นบ้านแฝดแบบเดียวของโครงการนี้ค่ะ คือจริงๆบ้านแฝดก็ขายแยกเป็นหลังล่ะค่ะ เป็นราคาตั้งต้นของโครงการด้วย เพราะว่าเป็นบ้านที่ก่อสร้างติดต่อกันทีละ 2 บ้านจึงจะมีส่วนโครงสร้างหรือผนังฝั่งนึงร่วมกันอยู่ และมีทางเข้าออกของแต่ละบ้านแยกกันเป็นสัดส่วนค่ะ
ผังบ้านชั้นล่าง บ้านนี้มีทางเข้าทั้งหมด 3 ทางค่ะ ไล่ตั้งแต่ ทางเข้าด้านข้างลานจอดรถ เป็นประตูบานเปิด เหมาะเวลาไปซื้อของเข้าบ้าน เราสามารถขนลงจากรถแล้วเปิดประตูนี้เอาเข้าครัวไปได้เลยค่ะ, ทางเข้าหลักสู่ห้องนั่งเล่น, ทางเข้าห้องครัวด้านหลังบ้าน จากผังจะเห็นว่าบ้านตัวอย่างฝั่งซ้ายทำกั้นห้องเพิ่มนะคะ เป็นห้องนอนชั้นล่าง ก็คืออันนี้เป็นไอเดียให้ดูว่าเวิร์คเหมือนกัน ฝั่งขวาก็คือแบบบ้านเปล่าเป็น Double living room ส่วนครัวเพราะมีประตูเปิด 2 ฝั่ง ซึ่งในแง่ดีก็สะดวกดี แต่แง่เสียคือเสียพื้นที่ใช้งานเป็นพื้นที่สัญจรไปทำให้ใช้งานได้เฉพาะส่วนติดผนังอย่างเดียวค่ะ
ผังบ้านชั้นบน ขึ้นบันไดไปก็จะเป็นทางเดินแจก ไปห้องนอนใหญ่ซึ่งตั้งฝั่งหน้าบ้านมีห้องน้ำในตัว เท่าที่ดูจากผังตู้เสื้อผ้าไม่น่าพอจริงๆน่าจะต้องทำเพิ่ม แนะนำว่าให้ย้ายโต๊ะทำงานไปริมหน้าต่างอีกฝั่งห้องแทน แล้วมุมนั้นทำตู้เสื้อผ้าไปเลยเวิร์คกว่าค่ะ, ห้องน้ำ, ห้องนอนเล็กอีกสองห้อง
เข้าไปชมบ้านตัวอย่างกันเลยดีกว่าค่ะ
ทางเข้าทำเซาะร่องกันซึมค่ะ ก่อนจะถึงส่วนลานจอดรถ ตามในผังนะคะ คือจอดได้หลังละ 1 คันค่ะ
อันนี้ภาพทางเข้าหน้าบ้านค่ะ เอาของบ้านเปล่ามาให้ดูก่อนเลย
ทีนี้เข้ามาดูด้านในบ้านตัวอย่างกันดีกว่าค่ะ ส่วนแรกที่เห็นคือห้องรับแขกและส่วนทานอาหาร หน้าต่างหลังโซฟาเป็นบานเลื่อนแบบ 2 บาน ส่วนด้านข้างโต๊ะกินข้าวเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 บานเปิดออกไปสวนข้างบ้านค่ะ ในภาพที่เห็นเป็นหน้าต่างแบบมีมูลี่ภายในบ้านคือห้องที่บ้านตัวอย่างกั้นเพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดีย เดี๋ยวจะพาเข้าไปชมด้านในห้องกั้นอีกทีค่ะ
ถ้าเป็นบ้านเปล่าไม่ทำกั้นห้องเข้าไปจะเป็นแบบนี้ค่ะ ก็ดูโล่งโปร่งดี มีความยืดหยุ่นจัดได้หลายแบบตามไลฟ์สไตล์ค่ะ (แบบบ้านเปล่าจะกลับด้านกันกับบ้านตัวอย่างนะคะ)
จากด้านในมองออกไปนอกบ้านค่ะ อ้อ ตัวฝ้าเพดานบ้านเปล่าของจริงเป็นเพดานเรียบๆทั้งหมดนะคะ ฝังไฟให้อย่างเดียวแต่ไม่ได้ทำเพดานไฟซ่อนมาให้ค่ะ
เข้ามาดูห้องที่กั้นเพิ่มนะคะ เหมาะจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกขึ้นบันได หรือ ห้องนอนแขกค่ะมีหน้าต่างบานเลื่อนแบบ2บาน ส่วนด้านข้างเตียงเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 บานเปิดออกไปสวนหลังบ้านได้ค่ะ
ประตูออกไปสวนด้านหลังข้างเตียงค่ะ
ดูห้องน้ำชั้นล่างกันดีกว่าค่ะ ส่วนพื้นบ้านชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้นะคะ ส่วนพื้นห้องน้ำเป็นพื้นกระเบื้อง 12×12 นิ้ว สีเข้มค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดใช้ของ Cotto ค่ะ หน้าต่างห้องน้ำชั้นล่างบานใหญ่เชียว ยังไงก็คงต้องซื้อม่านมาปิดนะคะ ไม่งั้นคนเดินผ่านหลังบ้านคือเห็นเต็มๆ
อ่างล้างมือจะเป็นแบบเดียวกับที่ติดตั้งในบ้านเดี่ยวเป็นมีราวแขวนผ้าเช็ดมือข้างล่างค่ะ
ตำแหน่งโถสุขภัณฑ์และสายฉีดค่ะ ตัวพื้นส่วนอาบน้ำไม่มีฉากกั้นมาให้แต่มีการลดระดับพื้นส่วนอาบน้ำลงไปตามภาพข้างบนค่ะ
ภาพบนห้องครัวเป็นประตูบานเลื่อนติดผนังค่ะ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปเป็นประตูเปิดออกไปลานด้านหลังบ้าน เลี้ยวขวาเปิดไปเป็นทางเดินไปลานจอดรถหน้าบ้านค่ะ บ้านตัวอย่างทำครัวมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
บ้านเปล่าจะให้มาเป็นแบบนี้ค่ะ ต้องไปโมหน้าบานกับตัวชั้นเพิ่มกันเองนะคะ สังเกตว่าผนังหน้าซิ้งค์ก็ไม่เหมือนกันด้วย
บ้านตัวอย่างทำตู้ซ่อนผังงานระบบไฟด้วยค่ะ ถ้าเป็นบ้านเปล่าก็จะติดผนังเฉยๆนะคะ ไม่มีตู้ปิด
ทางออกหลังบ้านเปิดไปจะเป็นแบบนี้ค่ะ
ส่วนทางเดินออกไปลานจอดรถค่ะ จะเห็นว่าส่วนครัวเของบ้านทั้งสองหลังป็นส่วนที่ใช้โครงสร้างร่วมกันนะคะ ถ้ของจริงจะมีรั้วจะอยู่ตรงกลางของภาพค่ะ
กลับมาดูในตัวบ้านกันต่อ ตัวผนังฝั่งบันไดมีหน้าต่าง 1 บาน บ้านตัวอย่างกรุไม้เพิ่ม บ้านเปล่าเป็นผนังเรียบๆนะคะ
ขึ้นไปดูชั้นบนกันดีกว่าค่ะ บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีหน้าต่างก่อนทางขึ้นหนึ่งเซตค่ะ
ขึ้นมาก็จะเป็นทางแจกไปห้องนอนสามห้องและห้องน้ำค่ะ
ตัวหน้าต่างห้องน้ำขนาดใหญ่ทุกห้องเลย ส่วนตัวกระจกให้มาขนาดโอเคค่ะ ข้างฝักบัวจะมีที่วางสบู่ 1 อัน ที่วางของถือว่าน้อยไปหน่อยนะคะ
อ่างล้างมือไม่มีตู้เก็บของ ที่วางของก็ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ อาจต้องทำตู้เพิ่มเองค่ะ
ตัวโถสุขภัณฑ์และสายฉีดค่ะ
อันนี้ถ่ายจากส่วนอาบน้ำนะคะ เป็นระดับพื้นส่วนอาบน้ำที่ลดลงมาค่ะ
ห้องนอนใหญ่ค่ะ ไม่มีระเบียงนะคะ ระยะเดินรอบเตียงโอเค แต่อย่างที่บอกในผังค่ะ ว่าสำหรับห้องนอนใหญ่ ตู้เสื้อผ้าเล็กไปจริงๆค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ผังเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นบนอีกห้องเลยค่ะ ต่างกันเฉพาะอ่างล้างมือซึ่งของจริงได้ตามนี้นะคะ
ห้องนอนเล็กสองห้องขนาดเท่ากันค่ะ ในบ้านตัวอย่างก็จะจัดโดยการใช้เตียง 3.5 ฟุต จัดด้วยคอนเซปห้องลูกชายกับห้องลูกสาวค่ะ
ห้องลูกสาวจะมีหน้าต่างมากกว่าบานนึงค่ะตามภาพเลย
มาสำรวจรอบๆเพิ่มกันอีกหน่อยนะคะ บ้านแต่ละหลังทาสีแต่งหวานเชียว
ตัวตู้ไปรษณีย์และตู้เก็บขยะค่ะ เป็นสแตนเลส ดูเรียบร้อยดี มีบ้านเลขที่ติดไว้ให้สวยงาม
จุดทิ้งถุงขยะอยู่ด้านในบ้านค่ะ เรียบร้อยดูน่าจะกันหนูได้ดี ไม่ต้องออกไปทิ้งข้างนอกบ้านด้วย
ประตูรั้วกับรั้วของโครงการค่ะ มาตรฐานรั้วบ้านจัดสรรทั่วไป
ทางเดินเข้าครัวของบ้านเปล่าค่ะ พอมีรั้วกั้นจริงแล้วดูแคบไปเลยนะคะ
Price vs Performance
- New Hart พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 50.3 ตร.วา ราคา 8.29 ล้านบาท เงินทำสัญญา 349,500 บาท
- New Bradford พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 52.3 ตร.วา ราคา 8.89 ล้านบาท เงินทำสัญญา 379,500 บาท
- New Verley พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 52.3 ตร.วา ราคา 9.09 ล้านบาท เงินทำสัญญา 389,500 บาท
- Kalten พื้นที่ใช้สอย 146 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ 35.4 ตร.วา ราคา 5.99 ล้านบาท เงินทำสัญญา 249,500 บาท
- จอง 50,000 บาท
- กำหนดทำสัญญาภายใน 7 วัน ตามที่ได้รับแจ้ง
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตารางวา/เดือน (จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี)
- ค่าประกันมิเตอร์ประปาและมิเตอร์ไฟฟ้าผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ (ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งบริษัทเป็นผู้ชำระ)
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระคนละครึ่ง และค่าจดจำนองผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- Promotion (ภายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557)
- บ้านแบบ Kalten รับส่วนลดพิเศษ 200,000 เฉพาะเดือน ก.พ. 2557
- บ้านแบบ New Hart, New Bradford และ New Verley รับส่วนลดพิเศษ 300,000 บาท เฉพาะเดือน ก.พ. 2557
- ฟรีค่าส่วนกลางล่วงหน้า 2 ปี
- ฟรีค่าประกันมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า
- ฟรีค่าโอนและค่าจดจำนอง
เจาะลึกรวบยอด
โครงการ Life Bangkok Boulevard รามอินทรา เป็นโครงการนี้คืออยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา แต่เป็นโครงการติดถนนใหญ่แบบต้องเข้าซอยของโครงการไปประมาณ 100 เมตร ถึงจะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าของโครงการนะคะ เส้นทางหลักที่ใช้งานจะเป็น ถนนรามอินทรา ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ห่างจากจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันออก)ประมาณ 2.5 กม. ซึ่งช่วยให้การเดินทางไปโซนบางนาจะทำความเร็วได้ดี ถ้าจะใช้เส้นทางประเสริฐมนูกิจก็มีสะพานต่างระดับเส้น รามอินทรา-นวมินทร์ให้ใช้ แต่ถ้าจะเข้าเมืองแถวๆสยามนี่จะลำบากหน่อยเพราะเส้นทางที่มีระยะทางสั้นอย่างรามคำแหงดันเป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและรถติดเอาเรื่อง แนะนำว่าให้วิ่งเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามดินทรา)จะสะดวกและทำความเร็วได้ดีกว่าค่ะ
สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบซะเป็นส่วนมาก และมีสถานที่สำคัญๆหลายแห่งที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ แต่การเดินทางด้วยรถยนต์มีจุดที่ต้องระวังอยู่จุดนึงคือที่กลับรถค่ะ เพราะมันใกล้ทางทางเข้า-ออกของหมู่บ้านมากเกินไปทำให้ระยะที่จะชิดขวากลับรถค่อนข้างอันตรายแถมเป็นทางโค้งด้วย แนะนำว่าให้ตรงไปอีกหน่อยแล้วค่อยกลับรถจะปลอดภัยกว่ามาก ระยะทางที่เพิ่มขึ้นมาคือ 2.4 กม.ค่ะ ห้างที่มีให้เดินจะเป็นแฟชั่นไอแลนด์และพรอมมานาดที่ตอนนี้ตัวห้างพัฒนาไปมากและมีคนเดินเยอะเลยค่ะ ส่วน Community Mall จะมีอมอรินีอยู่ใกล้ๆ ทั้งนี้ทั้งน้ันถ้าใครสะดวกปั่นจักรยานไประยะจะสั้นมากค่ะ ปั่นไปแฟชั่นไอแลนด์ 2 กม. และไปอมอรินีแค่ 600 เมตรเท่านั้น หรือถ้าจะไปเล่นน้ำที่สวนสยามก็ปั่นไปแค่ 1.6 กม. ส่วน Hyper Market ที่ใกล้สุดจะเป็น Big C ที่อยู่ในตัวห้างแฟชั่นไอแลนด์ จุดเด่นของโครงการอีกอย่างคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย – ปากเกร็ด – มีนบุรี) สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานนีรพ.นพรัตนราชธานีซึ่งห่างจากทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 600 เมตร และคาดว่าเปิดใช้ได้ในปี 2560 ตามแผนงานของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยค่ะ
แบบบ้านในโครงการทั้งหมด มี 4 แบบค่ะ บ้านเดี่ยว 3 แบบ บ้านแฝด 1 แบบ ทางเราเข้าไปสำรวจมา 2 แบบ คือ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุด คือ Verley (205 ตารางเมตร) ซึ่งการวางผัง ฟังก์ชั่น Double living room จัดเป็นส่วนรับแขกและส่วนนั่งเล่น เป็นพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นดี โซนครัวไกลโซนกินข้าวไปหน่อยนึงลำเลียงอาหารหรือจานชามไปมาลำบากหน่อย ห้องนอนด้านล่างเหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือแขก ส่วนครัวถ้าทำเคาเตอร์ติดผนังเพิ่มตามผังก็เพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ดีค่ะ ผังชั้นบน จะมี 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำค่ะ โดยห้องนอนใหญ่สุดจะมีห้องน้ำในตัวค่ะ ขึ้นบันไดมาจะเจอพื้นที่ว่าง ตามผังจัดเป็นห้องนั่งเล่นครอบครัว แต่จะเปลี่ยนเป็นห้องพระก็เหมาะค่ะ พื้นที่ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงอยู่ใช้ปลูกไม้กระถางได้บ้างค่ะ ห้องนอนอีก 2 ห้องถึงจะเล็กกว่าแต่ก็มีพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะทำงานได้โดยไม่อึดอัดค่ะ จะวางทีวีหน้าเตียงก็ยังโอเคค่ะ
ส่วนบ้านแฝดโครงการนี้ถือว่าออกแบบมาได้สวยและปรับผังภายในให้ใช้งานได้หลากหลาย ผังชั้นล่างสามารถกั้นห้องเพิ่มก็ได้แถมเวลากั้นแล้วบรรยากาศยังคงไม่อึกอัดหรือทำให้ตัวบ้านดูแคบแต่อย่างใด เนื่องจากตัวกระจกภายในบ้านมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เกือบทุกบาน และมุมกำแพงหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นกระจกเข้ามุม ทำให้บ้านเลยดูโปร่งมากขึ้น ส่วนครัวค่อนข้างเล็กไปหน่อย ทำชั้นติดผนังเพิ่มน่าจะช่วยได้ ทางเดินด้านประตูครัวออกมาลานจอดรถพอมีรั้วแล้วแคบลงไปถนัดเลย แต่โดยรวมถือว่าแบบโอเคค่ะ
วัสดุของโครงการนี้ให้มาตั้งแต่ตัวบ้านที่ใช้ Q-con หรือคอนกรีตมวลเบาลดความร้อนให้ตัวบ้าน ตัวหน้าต่างประตูเป็นวงกบอลูมิเนียมสีขาวให้ประตูบานสไลด์กระจกมาเยอะ ซึ่งจะใช้ในฟังก์ชั่นหน้าต่างก็ได้ ขึ้นอยู่กับการจัดวางนะคะ กระจกเป็น green glass หนา 6 มม.ช่วยตัดแสงลดความร้อนให้ตัวบ้าน พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องแผ่นเล็ก หน้าต่างห้องน้ำโครงการนี้กำหนดสเป๊กไม่เหมาะสมเท่าไหร่ บานใหญ่เกิน และตำแหน่งอยู่ในส่วนที่ควรเป็นผนังเรียบมากกว่า ต่อให้ติดผ้าม่านก็ใช้งานลำบากค่ะ โคมไฟแบบ Downlight บันไดไม้ยางพาราประสานทำสีธรรมชาติ สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto ค่ะ
สาธารณูปโภคของที่นี่ จุดเด่นน่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยค่ะ ทั้งตัว Access key card และระบบ Double Gates (ป้อมยาม 2 ชั้น) ก่อนเข้าส่วนที่พักอาศัยค่ะ โครงการนี้มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ (เท่าที่สอบถามมาคือจะมีกล้อง 2 ตัวต่อซอยค่ะ) ตัวคลับเฮ้าส์ทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำถือว่าค่อนข้างเล็กถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตทั้งครงการ สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 7 x 15 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ สระเด็กลึก 60 cm สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 m ห้องฟิตเนสก็มีเครื่องเล่นประมาณ 6 เครื่อง
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 6.19 – 9.09 ล้านบาท, 19 February 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.0/10 – อยู่ติดถนนรามอินทรา(เข้าซอยของโครงการ100ม.) ใกล้ห้างฟชั่นไอแลนด์และห้างพรอมมานาด อยู่ในเส้นทาง BTS สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จให้คะแนนพิ่มเป็น 8.5 ค่ะ
- ความปลอดภัย 8.5/10 – Access key card และระบบDouble Gates หรือป้อมยาม 2 ชั้น ก่อนเข้าส่วนที่พักอาศัย มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – แบบบ้านจัดวางได้ลงตัวดี บ้านแฝดของจริงดูกว้างและโปร่งกว่าบ้านแฝดทั่วๆไป หน้าต่างส่วนห้องน้ำออกแบบไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว ทางเดินบางจุดไม่เหมาะกับการใช้งานและแคบ
- วัสดุ 7.0/10 – มาตรฐานของราคาระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.0/10 – พื้นที่สีเขียวมีมาให้ไม่เยอะ รูปแบบต้นไม้เป็นแบบทั่วไปในโครงการบ้านจัดสรร
- สาธารณูปโภค 7.0/10 – ส่วน Club House มีพื้นที่ค่อนข้างเล็กทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนสเมื่อเทียบกับปริมาณลูกบ้าน 265 ยูนิต
- 7.7 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการนี้เหมาะสำหรับคนที่หาบ้านเดี่ยวย่านรามอินทรา ต้องการความสงบไม่ชอบความพลุกพล่าน ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก มีสมาชิกในครอบครัว 4-5 คนและมีงบประมาณ 6.2 – 9.09 ล้านบาท
มาช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ