…วันนี้ขอเอาใจคนทำงานในนิคมอมตะชลบุรี กับการรีวิวโครงการ อารักษ์ อมตะนคร ที่อยู่ใกล้กับนิคมอมตะและโรบินสันชลบุรี เป็นทาวน์โฮม 1 – 2 ชั้น ที่มีการออกแบบโดดเด่นไม่ซ้ำใครในย่าน กับดีไซน์หลังคาทรงจั่วเล่นระดับ และได้ห้องนอนฝ้าเพดานสูงสไตล์ Loft ที่สามารถขึ้นบันไดไปใช้บนชั้นลอยได้อีกด้วย โดยจุดเด่นหรือ Highlights หลักๆของโครงการจะมีดังนี้ครับ

  • การออกแบบ : ดีไซน์โดดเด่น ด้วยหลังคาทรงจั่วเล่นระดับ ที่เกิดจากห้องฝ้าเพดานสูงสไตล์ Loft ภายในบ้าน ทำให้ Facade ของทาวน์โฮมดูมีมิติมากขึ้น
  • ทำเล : ตั้งอยู่บนถ.ศุขประยูร ใกล้กับนิคมอมตะนคร มอเตอร์เวย์ และโรบินสันชลบุรี
  • Facilities : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ทั้งอาคาร Clubhouse สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และสวนสาธารณะ ซึ่งโครงการเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีให้ใช้

ข้อมูลโครงการ

Arak Amata Nakorn (อารักษ์ อมตะนคร) ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2564

 ชื่อโครงการ   Arak Amata Nakorn (อารักษ์ อมตะนคร)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แสนพอเพียง พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด
 SEGMENT CLASS   ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถ.ศุขประยูร ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี
 ที่ดิน  59-2-14 ไร่
 จำนวนยูนิต  จำนวน 358 ยูนิต (แบ่งเป็น 1 ชั้น = 264 ยูนิต, 2 ชั้น = 94 ยูนิต)
 ประเภทบ้าน  

  • ทาวน์โฮม 1 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 65.5 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 107.83 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ประมาณ 3 เมตร, ห้อง Loft สูงประมาณ 4.75 – 5.6 m.
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      28,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   Q2 ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   Q4 ปี 2568
 เว็บไซต์โครงการ   https://bit.ly/3BcqkN4
 โทร  061-175-5534

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ใกล้นิมคมอมตะเฟส 4 – 9 เป็นถนนฝั่งขาเข้า เหมาะกับคนทำงานโรงงานในนิคม
  • เดินทางไป-กลับกรุงเทพฯสะดวก เพราะอยู่ใกล้กับมอเตอร์เวย์เพียง 5 km.
  • ความอุดมสมบูรณ์อยู่ไม่ไกล มีห้างโรบินสันและตลาดอยู่บนถนนศุขประยูรเยอะ
  • ทำเลในซอย และขยับออกมาจากนิคมหน่อย ทำให้ได้ความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว

พิกัด Google Maps : 13.406577, 101.077330
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ อารักษ์ อมตะนคร ตั้งอยู่บนถนนศุขประยูร หรือถ้าเป็นคนในพื้นที่ก็จะเรียกว่าเส้นอี.เทค เพราะใกล้ๆจะเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (หรือ อี.เทค) โดยจะอยู่ในซอยตรงข้ามกับตลาดสดรถเมล์หนองตำลึง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่เราสามารถมาจับจ่ายใช้สอยใกล้ๆได้สบายๆ หรืออาจไปช้อปปิ้งแถวๆห้างโรบินสัน โฮมโปร และ JAS Village ก็ได้ รวมถึงยังสามารถเดินทางเข้านิคมอมตะได้ง่ายอีกด้วย หรือถ้าใครที่ต้องมีการเดินทางไป-กลับกรุงเทพฯบ่อยๆ ก็สามารถใช้มอเตอร์เวย์ที่อยู่ไม่ไกลเดินทางได้สะดวกเลยครับ

ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นว่า ทำเลย่านนี้เริ่มมีคอนโดมาเปิดใหม่กันค่อนข้างเยอะ โดยคนที่พักอาศัยหลักๆก็จะเป็นคนในนิคมเองนี่แหละครับ แต่คอนโดส่วนมากก็จะเกาะกลุ่มอยู่ในเขตนิคมกันซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะค่อนข้างมีความวุ่นวายและแออัดมากกว่า เลยทำให้ที่อยู่อาศัยแนวราบในทำเลนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะมีราคาจับต้องได้ง่ายใกล้เคียงกับคอนโด เพียงแต่ยอมขับรถไปทำงานเพิ่มสัก 10 นาที ก็จะได้ที่อยู่พร้อมที่ดินและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมากขึ้นนั่นเอง

ตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาภายในซอยประมาณ 1.3 km. ซึ่งบริเวณปากซอยปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายครับ (อนาคตถ้าโครงการแล้วเสร็จประมาณนึง ก็อาจย้ายสำนักงานเข้าไปอยู่ในโครงการเลย ลองเช็คดูที่หน้างานและโทรสอบถามกับพนักงานอีกครั้งได้ครับ)

ส่วนจุดขึ้นมอเตอร์เวย์ก็จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5 km. ใช้เวลาขับรถประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้วครับ

การเดินทางมายังโครงการ :

Image 1/10
สำหรับการเดินทางวันนี้ ก็พอดีว่าผมมาจากกรุงเทพฯ และใช้มอเตอร์เวย์มาลงที่ถนนศุขประยูรพอดี ซึ่งก็ให้ขับตรงมาตามทางเรื่อยๆ จากนั้นกลับรถแล้วขับย้อนกลับมาประมาณ 950 m. จะเจอกับป้ายซอย ถนนเทศบาล 3 ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ขับตรงมาประมาณ 1.3 m. ก็จะเจอกับซอยทางเข้าโครงการทางขวามือ เลี้ยวซ้ายและตรงเข้ามาก็จะเจอกับซุ้มประตูโครงการอยู่ด้านในสุดทางครับ

สำหรับการเดินทางวันนี้ ก็พอดีว่าผมมาจากกรุงเทพฯ และใช้มอเตอร์เวย์มาลงที่ถนนศุขประยูรพอดี ซึ่งก็ให้ขับตรงมาตามทางเรื่อยๆ จากนั้นกลับรถแล้วขับย้อนกลับมาประมาณ 950 m. จะเจอกับป้ายซอย ถนนเทศบาล 3 ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ขับตรงมาประมาณ 1.3 m. ก็จะเจอกับซอยทางเข้าโครงการทางขวามือ เลี้ยวซ้ายและตรงเข้ามาก็จะเจอกับซุ้มประตูโครงการอยู่ด้านในสุดทางครับ

 

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบส่วนใหญ่เป็นที่ว่างและชุมชนแนวราบอีกเล็กน้อย บรรยากาศเงียบสงบ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวนะครับ เพราะถนนเทศบาล 3 จะมีชาวบ้านและรถบรรทุกผ่านเข้า-ออกตลอดเวลาเลย

ที่น่าสนใจคือ โครงการนี้จะมีทางเข้า-ออก 2 จุด ซึ่งจะออกจากซอยสาธารณะเล็กๆ ที่อยู่ติดกับโครงการได้ 2 เส้นทาง โดยปัจจุบันโซนที่จะเริ่มเปิดขายและเปิดใช้งานซุ้มประตูก่อน จะเป็นถนนเส้นสีแดงตรงประตูทางเข้าที่ 2 ซึ่งถูกจัดเป็นทางรองทั้งที่อยู่ใกล้ปากซอยมากกว่า เป็นเพราะซอยสีแดงนี้ถนนเป็นขนาดเล็ก ที่รถไม่สามารถขับสวนทางกันได้นั่นเอง

แต่ในอนาคตเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ ก็จะมีการเปิดใช้งานทางเข้าที่ 1 ซึ่งเป็นซุ้มประตูหลัก และถนนเส้นสีเหลือจะมีความกว้างมากกว่า ให้รถพอจะขับสวนกันได้พอดีๆครับ โดยอาจต้องแลกมากับระยะทางเข้าบ้านที่ขับอ้อมไกลขึ้นสักหน่อยนั่นเอง ส่วนบริเวณรอบๆที่ดินโครงการจะมีดังนี้

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่าง
  • ทิศใต้ : ติดกับ ซอยสาธารณะ ที่ว่าง และชุมชนแนวราบ
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ซอยสาธารณะ และที่ว่าง
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ ซอยสาธารณะ ที่ว่าง และชุมชนแนวราบ

นี่คือภาพบรรยากาศของถนนเทศบาล 3 ด้านหน้า และถนนสาธารณะที่จะเข้าสู่โครงการ ซึ่งมีความกว้างถนนที่ไม่มากนัก จนรถอาจขับสวนกันได้ลำบาก หรือสวนกันไม่ได้เลย ยังไงก็รอดูในอนาคตและลองใช้งานจริงอีกครั้งนะครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ชลบุรี ~ 5.5 km.
  • แจส วิลเลจ อมตะ ~ 5.9 km.
  • โฮมโปร ชลบุรี (อมตะ) ~ 7 km.
  • ไทวัสดุ ~ 8.4 km.
  • เทสโก้ โลตัส พนัสนิคม ~ 14.5 km.
  • เทสโก้ โลตัส พลัสมอลล์ ~ 15.9 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.วิภารามอมตะนคร ~ 14.1 km.

โรงเรียน

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อีเทค) ~ 2.8 km.
  • รร.พนัสพิทยาคาร ~ 13.6 km.
  • ม.ศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี ~ 14.6 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • มีส่วนกลางให้ใช้งานครบ ทั้งอาคาร Clubhouse สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนบ้านในย่านเดียวกันส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีให้ใช้
  • มีการพยายามแบ่งที่อยู่อาศัยเป็นซอยย่อย เพื่อทำให้มีเพื่อนบ้านร่วมซอยน้อยลง ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น (เมื่อเทียบกับขนาดโครงการ) โดยพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่หันหน้าบ้านมายังถนนหลัก
  • ส่วนกลางถูกจัดอยู่ในตำแหน่งที่เน้นความเป็นส่วนตัว ซึ่งจะอยู่ภายในซอยๆหนึ่ง ที่บ้านส่วนใหญ่จะหันด้านหลังมาให้ และยังมีการออกแบบผนังช่วยบังสายตาจากถนนที่ Clubhouse จึงทำให้คนที่มาใช้งาน Facilities ทั้งหมดจะค่อนข้างรู้สึกเป็นส่วนตัวดี

โครงการ อารักษ์ อมตะนคร มีขนาดที่ดิน 59-2-14 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 358 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีทางเข้า-ออก 2 จุดด้วยกัน ปัจจุบันโครงการจะเริ่มเปิดขายเฟสใกล้สวนด้านในก่อน ซึ่งจะมีทั้งแบบทาวน์โฮมชั้นเดียวและ 2 ชั้นให้เลือกครับ โดยจะเป็นโซนที่สามารถเดินมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาคาร Clubhouse และสวนสาธารณะ

ซึ่งจากลักษณะการวางผังโครงการ เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 โซนใหญ่ๆคือ โซนทางทิศเหนือ (หรือด้านซ้ายของโครงการ) ซอยพักอาศัยจะเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาว เลยทำให้ดูเหมือนมีเพื่อนร่วมซอยค่อนข้างเยอะสักหน่อย แต่ก็จะมีถนนที่สามารถขับรถวนได้รอบ โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลากลับรถในซอยเลยครับ

ในขณะที่บ้านในโซนทางทิศใต้ (หรือด้านขวาของโครงการ) จะมีการแบ่งที่อยู่อาศัยออกเป็นซอยย่อยหลายซอยและเป็นซอยตัน จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวที่มากกว่านิดนึงครับ รวมถึงยังอยู่ใกล้กับซุ้มประตูทางเข้าหลักของโครงการอีกด้วย ทำให้การเข้า-ออกค่อนข้างสะดวก เพราะไม่ต้องขับรถเข้ามาลึกๆนั่นเอง

ส่วน Facilities จะอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างเน้นความเป็นส่วนตัวนิดนึงครับ คือจะอยู่ในซอยย่อย และบ้านส่วนใหญ่ก็จะหันด้านหลังมาให้ รวมถึงตัว Clubhouse ยังมีการทำ Facade เป็นหนังทึบช่วยบังสายตาจากคนที่ผ่านไป-มาตรงถนนอีกด้วย เลยทำให้คนมาใช้ส่วนกลางรู้สึกได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ

ซึ่งผมต้องบอกก่อนว่า ณ วันที่ผมเข้ามาถ่ายรีวิวนี้ โครงการกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะครับ โดยคาดการณ์ว่าพวกส่วนกลางต่างๆน่าจะแล้วเสร็จ และมีของจริงให้ได้ชมกันประมาณช่วงปีหน้าเลย (ซึ่งเราอาจมีการนำภาพมาอัพเดตให้ในอนาคตอีกครั้งนะครับ) แต่เบื้องต้นผมก็ได้นำภาพบรรยากาศจำลองจากทางโครงการมาฝากกันด้วย จะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันเลยครับ

ภาพบรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าโครงการ จะมีลักษณะเป็นหลังคาทรงจั่วสไตล์ Modern สอดคล้องไปกับตัวบ้านในโครงการ และมีป้อม รปภ. อยู่บริเวณตรงกลาง ซึ่งระบบการเข้า-ออกจะใช้ไม้กั้นกระดก และ Key Card Access แบบระยะใกล้สำหรับลูกบ้าน ส่วน Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามตามปกติครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณอาคาร Clubhouse มีลักษณะการออกแบบโดยใช้รูปทรงเรขาคณิตมาวางซ้อนทับกัน ทำให้ดูมีความแปลกตา และเข้ากับบรรยากาศของ Facade บ้านทาวน์โฮมโดยรอบได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ภาพบรรยากาศจำลองอาคาร Clubhouse จะมีทั้งหมด 2 ชั้น โดยตำแหน่งของอาคารนี้ก็จะอยู่ตรงข้ามกับบ้านตัวอย่างในปัจจุบันพอดีครับ ซึ่งผมเลยมองว่าผนังสีขาวที่ถูกดีไซน์เป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ในภาพ(ด้านซ้าย) จะทำหน้าที่ช่วยบังสายตาจากรถที่ขับผ่านไป-มา บนถนนหลักโครงการที่อยู่ด้านข้างของอาคารได้ และช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำได้ระดับหนึ่งนั่นเองครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณชั้น 1 ของอาคาร Clubhouse ประกอบด้วยสระว่ายน้ำและพื้นที่นั่งเล่นริมสระ ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบ Day Bed ที่อยู่กลางแจ้ง และโต๊ะเก้าอี้นั่งในร่มสบายๆครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ข้างสระว่ายน้ำ โดยจะเป็นสระแบบกลางแจ้งนะครับ เราอาจมาใช้งานช่วงตอนเย็นๆแดดร่มๆหน่อยน่าจะดี ซึ่งสระจะมีขนาด 14.5 x 5.5 m. พอที่จะว่ายออกกำลังกายได้อยู่บ้างครับ แต่อาจต้องว่ายวนหลายๆรอบอยู่สักหน่อย

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณบนชั้น 2 จะเป็นห้อง Fitness ที่โดยรอบจะเป็นผนังกระจกทั้งหมดเลย ซึ่งเราสามารถขึ้นมาออกกำลังกาย พร้อมกับชมวิวสระว่ายน้ำและบรรยากาศโดยรอบไปด้วยได้แบบนี้ครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสวนสาธารณะ จะมีขนาดพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ แต่จะมีการจัดสวนหรือปลูกต้นไม้อะไร ร่มรื่นแค่ไหน เราอาจต้องรอชมของจริงในอนาคตอีกทีนะครับ แต่เบื้องต้นเราก็สามารถมาเดินเล่นพักผ่อน หรือพาลูกๆหลานๆมาเล่นเครื่องเล่นบริเวณนี้ได้นั่นเอง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • สระว่ายน้ำ ขนาด 14.5 x 5.5 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ รวมประมาณเกือบ 1 ไร่
  • ความกว้างถนนหลัก 12 เมตร และถนนซอย 8 – 10 เมตร
  • รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร
  • ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และกล้อง CCTV บริเวณหน้าโครงการ

แบบบ้าน

Highlights :

  • หลังคาทรงจั่วเล่นระดับ มองจากภายนอกดูมีมิติมากขึ้น
  • ห้องนอนใหญ่เป็นสไตล์ Loft ได้ฝ้าเพดานสูงประมาณ 5 – 6 m. รวมถึงมีชั้นลอยให้ขึ้นไปใช้งานได้ด้วย
  • มีการทำหลังคาพื้นที่จอดรถมาให้พร้อมใช้ อีกทั้งยังเป็นการคุมโทนให้บรรยากาศโครงการเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้อีกด้วย
  • ถือเป็นทาวน์โฮมขนาดเล็กที่มีฟังก์ชันยืดหยุ่นดี อย่างแบบชั้นเดียวก็มีชั้นลอยให้ใช้งาน และแบบ 2 ชั้นก็มีการกั้นห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างมาให้เพิ่มด้วย

โครงการนี้มีแบบบ้าน 2 Type นะครับ ประกอบด้วย

  • ทาวน์โฮม 1 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 65.5 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 107.83 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

ดีไซน์และการออกแบบบ้าน

จุดเด่นของแบบบ้านโครงการ “อารักษ์ อมตะนคร” คือหลังคาทรงจั่วเล่นระดับ ซึ่งจะทำให้ภาพรวม Facade ของโครงการดูมีการเคลื่อนไหวเหมือนเป็นคลื่น ดูไม่น่าเบื่อ อีกทั้งยังส่งผลต่อความสูงฝ้าเพดานของห้อง Loft ภายในบ้านที่จะไม่เท่ากันด้วยครับ

คือจากในภาพจะเป็นบ้าน Type เดียวกันและแบบแปลนเดียวกันเลย แต่จะมีอยู่ 2 ระดับความสูงให้เลือก ซึ่งส่งผลต่อทั้งหน้าตาภายนอกของตัวบ้าน และความสูงโปร่งของฝ้าเพดานด้านในด้วยนั่นเอง อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ

โครงสร้างบ้าน

เป็นระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งจะหล่อสำเร็จมาจากโรงงาน แล้วยกมาประกอบเป็นแผ่นๆที่หน้างานเลย มีความแข็งแรงทนทานดีมาก แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องการทุบ/เจาะ หรือต่อเติม จะทำได้ค่อนข้างยากกว่าผนังก่ออิฐแบบทั่วไปอยู่สักหน่อยนะครับ เพราะผิวคอนกรีตเค้าค่อนข้างแข็งและแน่นมาก อีกทั้งบางจุดก็ยังเป็นผนังรับน้ำหนัก และเป็นส่วนหนึ่งของงานโครงสร้างอีกด้วย ดังนั้นเวลาจะทุบ/ต่อเติมอะไรในบ้านประเภทนี้ ก็ควรสอบถามช่างประจำโครงการให้ดีๆก่อนอีกครั้งนะครับ

แต่ทั้งนี้ผมก็คิดว่าผนัง Precast ยังเหมาะกับบ้านทาวน์โฮมตรงที่ เค้ามีคุณสมบัติกันเสียงได้ดี เพราะมีค่า STC อยู่ที่ 50 ซึ่งมากกว่าผนังชนิดอื่นๆ (ค่า STC คือค่าที่บอกประสิทธิภาพการป้องกันเสียงของระบบผนัง ยิ่งค่ามากยิ่งกันเสียงได้ดี) ซึ่งทาวน์โฮมมักจะมีปัญหาเสียงเพื่อนข้างบ้าน ดังผ่านผนังที่อยู่ติดกันมาบ่อยๆนั่นเองครับ ดังนั้นผนังชนิดนี้ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่งนะ

  • ทาวน์โฮม 1 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 65.5 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

เป็นทาวน์โฮมขนาดกระทัดรัด ที่เหมือนยกเอาแปลนคอนโดมาวางไว้บนพื้นเลยครับ โดยที่เราจะมีพื้นที่ดินรอบบ้านที่ให้ใช้สอยได้เต็มที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถหน้าบ้าน และพื้นที่ทำครัวหลังบ้าน ฟังก์ชันเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน คือถ้าเป็นพนักงานในนิคมมาพักร่วมกัน ก็สามารถแบ่งกันอยู่ 2 ห้องแยกกันเป็นส่วนตัวได้สบายๆ อาจอยู่กันแบบพี่น้อง หรืออาจมีลูกสักคนในอนาคตก็ได้เหมือนกัน โดยจะมีการแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก และมีที่จอดรถให้ 1 คัน หรืออาจจอดรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มตรงพื้นที่หน้าบ้านอีกสักคันก็ได้เหมือนกันครับ

จุดเด่นของบ้านหลังนี้อยู่ที่ห้องนอนใหญ่หน้าบ้าน ซึ่งจะเป็นห้องสไตล์ Loft ได้ฝ้าเพดานสูงประมาณ 4.75 – 5.6 m. (แต่ละยูนิตสูงไม่เท่ากัน สอบถามหน้างานเป็นรายแปลงอีกครั้งนะครับ) โดยภายในจะมีการทำชั้นลอยเพิ่มเข้ามา สามารถใช้เป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มอีกฟังก์ชันหนึ่งได้ตามอเนกประสงค์ ถือเป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใครในย่านเลยครับ ซึ่งของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยดีกว่า

หน้าตาของตัวบ้านจะเป็นหลังคาทรงจั่วเล่นระดับ ซึ่งในภาพจะเป็น 2 หลังอยู่ติดกันนะครับ โดยด้านขวา(ที่เป็นบ้านตัวอย่าง)จะเป็นหลังที่ได้ฝ้าเพดานห้อง Loft สูงกว่าหลังซ้ายมือ อีกทั้งยังมีการทำทรงหลังคาแยกเป็นหลาย Layer เลยทำให้ภาพรวมของบ้านดูมีมิติมากขึ้นอีกด้วย ส่วนประตูรั้วก็จะเป็นเหล็กบานเฟี้ยมอย่างที่เห็นเลยครับ

สิ่งที่สะดุดตาผมอย่างแรกเลยก็คือ “ถังขยะ” ถามว่าแปลกยังไง? คือถ้าเป็นบ้านในตัวเมืองเราอาจเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีฟังก์ชันนี้ใช่มั้ยครับ แต่สำหรับทาวน์โฮมที่มีราคาแค่ล้านต้นๆ เราแทบไม่เคยเห็นว่าจะมีการใส่ฟังก์ชันนี้เข้ามาด้วยเลย

ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น เจ้าของบ้านสามารถเปิดทิ้งได้จากในบ้าน ส่วนคนเก็บขยะก็สามารถเปิดรับจากด้านนอกได้เลย อีกทั้งยังทำให้ภาพรวมโครงการดูสวยงามและเรียบร้อยมากขึ้นด้วยครับ เพราะเราจะไม่เห็นถังขยะมาตั้งเรียงรายอยู่หน้าบ้านแต่ละหลังนั่นเอง

อีกจุดหนึ่งที่ผมมองว่าดีมากๆคือ เค้าจะทำหลังคาที่จอดรถยื่นออกมาให้ถึงประตูรั้วหน้าบ้านเลย ทำให้เราสามารถจอดรถในร่มแบบเต็มๆคันได้ ไม่ต้องเสียเงินไปจ้างช่างมาทำเพิ่มเอง แถมยังช่วยคุมโทนให้ทาวน์โฮมแต่ละหลังมีหน้าตา Facade เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้อีกด้วยครับ

โดยพื้นที่จอดรถจะกว้างประมาณ 2.55 m. และไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะ แต่จะเป็นการบดอัดให้ดินแน่นก่อน จากนั้นก็เทพื้นคอนกรีตลงไป ดังนั้นจึงมีการตัด Joint แยกโครงสร้างของพื้นและตัวบ้านออกจากกัน เพื่อป้องกันกรณีที่พื้นทรุดตัวในอนาคต น้ำหนักของพื้นจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้าน (รวมถึงตรงบริเวณใต้ชานพักบันไดที่เห็นว่าลอยอยู่เหนือพื้น ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยเช่นกันครับ)

ส่วนซ้ายมือจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่เราสามารถจัดเป็นสวน มุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือที่จอดรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มอีกสักคันก็ได้ครับ โดยเค้าจะเทเป็นพื้นคอนกรีตมาให้ และจะมีถังน้ำฝังอยู่ใต้ดิน เวลาช่างมาซ่อมบำรุงก็จะได้ไม่ต้องเข้าไปในบ้านให้เสียความเป็นส่วนตัว

ส่วนท่อน้ำด้านซ้ายของจริงจะมีปั๊มน้ำติดตั้งบริเวณนี้ด้วยครับ แน่นอนว่าเวลาเราอยู่หน้าบ้าน หรือแม้แต่ห้องนอนข้างๆนี้ ก็อาจต้องทำใจเรื่องเสียงปั๊มสักหน่อยนะ แต่ที่ผมมองว่าดีก็คือ “รั้วบ้าน” จะเป็นแบบก่ออิฐทึบ และมีความสูงประมาณ 2 m. ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนบ้านหลังข้างๆพอสมควรเลยทีเดียว

ส่วนผนังบ้านก็ไม่ได้เป็นผนังทาสีเรียบๆแบบทั่วไปนะครับ แต่จะมีการทำลวดลายโดยวัสดุที่ใช้จะเป็นไม้อัด นำมาติดตั้งเป็น Facade ที่ผนังภายนอก และทาสีทับลงไป ช่วยเพิ่มรายละเอียดของตัวบ้านให้มีมากขึ้น (แต่ระยะยาวอาจต้องดูเรื่องการบำรุงรักษากันอีกที ซึ่งวัสดุประเภทไม้ก็อาจมีการสึกหรอ ผุกร่อน หรือมีโอกาสโดนแมลงกัดกินได้ง่ายกว่าปูนพอสมควรครับ)

และถ้าทาวน์โฮมหลังไหนเป็นแปลงมุม ก็จะมีพื้นที่ข้างบ้านให้ใช้งานด้วย รวมถึงยังได้ช่องแสงด้านข้างเพิ่มขึ้นมา ทำให้ในบ้านสว่างโปร่งโล่งขึ้นอีกด้วยครับ

เข้ามาดูภายในบ้านกันบ้างครับ โดยพื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Common Area ที่เชื่อมต่อหน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน ซึ่งของจริงเราจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆเป็นมาตรฐาน ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และได้ฝ้าสูง 3 m. โดยบ้านตัวอย่างก็แต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบ Minimal ดูน่ารักมากเลยทีเดียว

สำหรับฟังก์ชันแรกที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปที่มักจะอยู่ทางหลังบ้านใช่มั้ยครับ นั่นเป็นเพราะบริเวณหน้าบ้านจะเน้นเป็นทางสัญจร ให้มีทางเดินแยกไปห้องนอนอื่นๆได้ด้วย แต่ก็จะทำให้มีระยะเดินยกจานกับข้าวไกลจากครัวมากขึ้นสักหน่อยนะครับ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นชุดโซฟานั่งเล่น และมีผนังทึบให้สามารถวางทีวีตรงกลางได้เต็มที่ รวมถึงยังมีความกว้างมากพอที่จะใช้โซฟาแบบ 3 ที่นั่ง ให้นอนดูทีวีสบายๆได้อีกด้วยครับ โดยมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้เลย

ซึ่งข้อดีของการที่โซฟานั่งเล่นมาอยู่ทางโซนหลังบ้านแบบนี้ จะช่วยลดโอกาสที่จะมีคนเดินตัดผ่านหน้าจอทีวีเราน้อยลง เพราะจะเดินไปครัวหลังบ้านก็แค่ตอนจะกินข้าวหรือเอาน้ำดื่มเท่านั้น เลยทำให้เรามีสมาธิในการดูหนังได้ดีมากขึ้นนั่นเองครับ

ส่วนประตูหน้าต่างทุกบานจะเป็นกรอบ UPVC สีขาว พร้อมกระจกใสปกติ สามารถเลื่อนเปิด-ปิดทั้ง 2 ฝั่งได้ง่าย โดยหากเราต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็อาจติดผ้าม่านเพิ่มเติมได้นะครับ

บริเวณหลังบ้านของจริงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งครับ มีความกว้างตามมาตรฐานอยู่ที่ 2 m. และพิเศษหน่อยคือกำแพงจะสูงกว่าปกติอยู่ที่ 2.8 m. ซึ่งนอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยรองรับการต่อเติมหลังคาเพื่อทำเป็นครัวในร่มได้อีกด้วย

ส่วนพื้นก็จะมีการแบ่งเป็นโซนปูกระเบื้องสำหรับทำครัว และโซนของพื้นปูนสำหรับส่วนซักล้างมาให้เป็นไกด์ไลน์ โดยพื้นก็จะใช้การบดอัดดินแบบปกติเหมือนส่วนจอดรถหน้าบ้าน ไม่ได้ลงเสาเข็มให้นะครับ และเราก็จะได้เคาน์เตอร์ติดผนัง พร้อมติดตั้งอ่างล้างจานมาให้อีก 1 ชุดด้วย

โดยบ้านตัวอย่างก็จะต่อเติมครัวไทยแบบปิดมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งจะทำให้เราสามารถออกมาใช้งานทำกับข้าวได้จริงจังมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝน แต่ก็อาจทำให้บริเวณหลังบ้านได้รับแสงสว่างน้อยลงด้วยเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าบ้านแปลงมาตรฐานส่วนใหญ่ จะไม่มีช่องแสงด้านข้างเหมือนบ้านตัวอย่างนี้นะครับ

ดังนั้นบ้านของจริงก็อาจมืดกว่านี้ ผมจึงแนะนำให้ทำ Skylight หรือเปิดช่องแสงบนฝ้าเพดานส่วนหนึ่งเพิ่มเติม ก็จะช่วยให้ครัวของเรามีแสงสว่างเพียงพอ และใช้งานตอนกลางวันได้ดีมากขึ้น รวมถึงอย่าลืมเรื่องช่องระบายอากาศเวลาประกอบอาหารด้วยนะครับ

นอกจากนี้บ้านตัวอย่างยังมีการกั้นผนัง แยกส่วนครัวและพื้นที่ซักล้างออกจากกันเป็นสัดส่วนไปเลย ซึ่งจริงๆถ้าเราจะใช้พื้นที่ตรงนี้ตากผ้า/ปลูกต้นไม้ด้วยล่ะก็ อาจไม่ต้องทำหลังคาปิดส่วนซักล้างก็ได้นะครับ สามารถเปิดโล่งเพื่อรับแดดรับลมไปได้เลยก็ได้ แถมห้องครัวก็จะได้มีช่องแสงด้านข้างเพิ่มมาอีก 1 ด้าน หรือถ้าใครอยากได้ครัวใหญ่ๆ จะทำพื้นที่ด้านหลังบ้านนี้เป็นครัวปิดทั้งหมดเลยก็ไม่ว่ากัน

อ่านบทความเรื่องครัวเพิ่มเติมคลิก :

กลับมาที่โซนหน้าบ้านกันอีกครั้ง ซึ่งจะมีโถงทางเดินแยกไปยังห้องนอนและห้องน้ำเป็นสัดส่วน โดยถ้าใครอยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวของโซนพักผ่อนให้มากขึ้น เช่น เราอาจเป็นคนที่มีเพื่อนมาหาบ่อยๆ แล้วไม่อยากให้มองเห็นแฟนหรือลูกเรา เดินเข้า-ออกห้องนอนกับห้องน้ำ เพราะโถงทางเดินนี้จะอยู่โซนหน้าบ้านพอดี ก็อาจติดผ้าม่านหรือประตูบานเลื่อนเล็กๆเพิ่มเติม เพื่อช่วยพรางสายตาได้นะครับ

เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนใหญ่ทางหน้าบ้านกันก่อน ที่ถือว่าเป็น Highlight หลักของบ้านหลังนี้เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งจะเป็นห้องฝ้าเพดานสูงสไตล์ Loft และมีการทำพื้นที่ชั้นลอยเพิ่มเข้ามา เพื่อใช้เป็นฟังก์ชันหรือพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมได้

โดยบ้านตัวอย่างหลังนี้จะเป็นหลังใหญ่ของทาวน์โฮมชั้นเดียว ซึ่งผมวัดความสูงจากพื้นถึงฝ้าด้านบนได้สูงสุดประมาณ 5.6 m. (หลังเล็กจะสูงประมาณ 4.75 m.) เลยทำให้ตัวห้องมีความสูงโปร่งพอสมควร เดินเข้ามาแล้วให้อารมณ์เหมือนอยู่ในคอนโดเลยครับ

เรามาเริ่มกันจากพื้นที่ชั้นล่างกันก่อนครับ ซึ่งมีความสูงใต้พื้นชั้นลอยประมาณ 2.3 m. สามารถยืนใช้งานได้ตามปกติโดยที่ไม่ต้องก้ม และมีพื้นที่ใช้สอยกว้างประมาณ 2.7 x 2.9 m. สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงกับตู้เสื้อผ้าเล็กๆได้พอดี โดยที่ยังมีพื้นที่รอบเตียงให้เดินใช้งานได้สะดวก

ส่วนผนังปลายเตียงก็สามารถติดทีวีแขวนผนังเพิ่มเติมได้ด้วย สามารถนอนดูทีวีไป หรือนอนรับวิวจากหน้าต่างข้างเตียงได้สบายๆ

โดยชุดหน้าต่างที่ให้มาก็มีขนาดใหญ่ดีครับ สูงจากพื้นจนเกือบถึงฝ้าเพดานด้านบนเลย ซึ่งถ้าเราจะติดผ้าม่านก็จะต้องติดแบบแนวเฉียง ไปตามความลาดเอียงของหลังคาและฝ้าเพดานแบบบ้านตัวอย่างนี้ครับ

ซึ่งตามปกติแล้วเราก็อาจต้องปิดม่านอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ผ่านไป-มาหน้าบ้าน มองเข้ามาในห้องของเราได้ หรือเราอาจปลูกต้นไม้หน้าบ้านเพิ่มเติม เพื่อช่วยพรางสายตา และยังทำให้เรามองเห็นต้นไม้เขียวๆสดชื่นๆจากในห้องเราแทน ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะครับ

เพิ่มเติมสำหรับทาวน์โฮมหลังเล็ก ฝ้าเพดานจะมีความสูงน้อยกว่า จึงไม่มีพื้นที่ผนังทึบเหนือช่องแสงเหมือนบ้านตัวอย่างก่อนหน้านี้ครับ กลายเป็นว่าบ้านหลังเล็กจะเหมือนเราได้ช่องแสงสูงจากพื้นถึงฝ้าเลยทีเดียว (พอดีว่าเค้าใช้หน้าต่างชุดเดียวกัน แต่ความสูงฝ้าต่างกัน)

ส่วนการจะขึ้นไปใช้งานชั้นลอยด้านบน ทางโครงการจะมีบันไดลิงให้เราได้ใช้งานครับ ซึ่งบันไดนี้จะถูกออกแบบให้มีลักษณะเบา โดยใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด (แต่งสีเป็นลายไม้) เวลาเราไม่ได้ใช้งานก็สามารถยกถอด เพื่อนำไปแขวนพักไว้ที่ผนังปลายเตียงได้ (จะมีตะขอเหล็กเกี่ยวเพื่อยึดบันไดให้เข้าที่ทั้ง 2 จุด)

ซึ่งพอเรายกบันไดไปเก็บไว้แล้ว ก็จะทำให้ห้องนอนดูโปร่งโล่งขึ้นเยอะเลยทีเดียวครับ และสามารถใช้งานพื้นที่ชั้นล่างได้เต็มที่มากขึ้น

แต่การใช้งานบันไดนี้ผมขอแนะนำให้ใช้งานอย่างระมัดระวังสักหน่อยครับ เพราะตัวบันไดมีลักษณะค่อนข้างชัน แถมยังปีนขึ้นมาสูงพอสมควร รวมถึงการยึดเกี่ยวด้วยตะขอเหล็ก กับบันไดที่มีลักษณะเบาแบบนี้ อาจทำให้การใช้งานรู้สึกไม่มั่นคงและเป็นอันตรายได้ง่าย ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุ

ดังนั้นผมขอให้การใช้งานพื้นที่ชั้นลอยถือเป็น “ฟังก์ชันเสริม” ที่นานๆเราอาจได้ขึ้นไปใช้งานสักที หรือถ้าใครคิดจะขึ้นมาใช้ด้านบนบ่อยๆ ผมแนะนำให้ยอมเสียเงิน เพื่อทำบันไดใหม่ที่แข็งแรงและมั่นคงกว่านี้ จะใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นนะครับ

สำหรับพื้นที่บนชั้นลอยจะมีขนาดประมาณ 2.6 x 1.7 m. โดยบ้านตัวอย่างก็จัดเป็นพื้นที่นั่งทำงานเก๋ๆมาให้ดูเป็นไอเดียครับ ซึ่งพอ Built-in โต๊ะกับตู้หนังสือไปแล้ว ก็ยังพอจะมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้พอดีตัว

โดยของจริงก็จะเป็นชั้นโล่งๆ ที่เป็นแผ่นพื้นยิปซั่มสำเร็จรูปวางอยู่บนโครงสร้างเหล็ก ซึ่งเราจะต้องมา Built-in และตกแต่งเพิ่มเติมเองอีกครั้งนะครับ ส่วนฝ้าเพดานบนชั้นลอยของบ้านหลังใหญ่ จะมีจุดสูงสุด-ต่ำสุด(ตามความลาดเอียงของหลังคา) อยู่ที่ประมาณ 2 – 2.5 m. ซึ่งสามารถยืนใช้งานเต็มตัว ได้สบายๆแบบไม่ต้องก้มเลยครับ

อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตคือ จะมีหน้าต่างบานเลื่อนอีกชุดหนึ่งอยู่ที่ด้านบนด้วย โดยห้องที่มีความสูงฝ้ามากกว่าปกติแบบนี้ มักจะมีปัญหาความร้อนที่ลอยตัวขึ้นมาสะสมบริเวณด้านบน ซึ่งเราสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้ และยิ่งเปิดคู่กันทั้งชั้นบน-ชั้นล่าง อากาศเย็นก็จะไหลเข้ามาแทนที่ด้านล่าง ในขณะที่ลมร้อนก็จะถูกพัดพาออกไปจากด้านบน ก็จะทำให้ห้องเย็นและอยู่สบายมากขึ้นได้นั่นเองครับ

ซึ่งจากบนชั้นลอยนี้เราก็สามารถมองลงไปเห็นชั้นล่างได้ด้วย และด้วยความที่ห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก ก็อาจเห็นได้แค่บริเวณพื้นที่ปลายเตียงเท่านั้นนะครับ แต่ก็พอจะมองเห็นได้ว่ามีใครเข้า-ออกห้องเราบ้างหรือเปล่านั่นเอง

และนี่ก็เป็นภาพจากบ้านมาตรฐานหลักเล็ก ซึ่งเราจะได้ตามที่เห็นนี้เลยครับ แต่จะมีความแตกต่างกันของหลังใหญ่-หลังเล็ก ตรงความสูงฝ้าเพดานเท่านั้น โดยหลังเล็กจะมีพื้นที่ใต้ชั้นลอยสูงประมาณ 2.15 m. ส่วนพื้นที่บนชั้นลอยจะมีจุดสูงสุด-ต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 1.3 – 2 m. ตามลำดับ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันระหว่าง Common Area และห้องนอนทั้ง 2 โดยภายในเราจะได้สุขภัณฑ์จาก Zenza ประกอบด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และกระจกเงาอีก 1 บาน ส่วนพวกตู้ Built-in ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ในการเพิ่มพื้นที่เก็บของในห้องน้ำครับ โดยขนาดพื้นที่ใช้งานส่วนแห้งจะกว้างประมาณ 1.5 x 1.25 m. สามารถใช้งานได้สะดวก

อีกด้านหนึ่งจะเป็นพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 90 x 90 cm. สามารถใช้งานได้พอดีๆ โดยที่เราอาจติดฉากกั้นอาบน้ำหรือม่านพลาสติกเพิ่มเติม เพื่อที่ตอนอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นเปียกไปทั่วห้องได้นะครับ ส่วนด้านในก็จะติดตั้ง Hand Shower พร้อมจุดวางสบู่และ Junction Box สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว

สุดท้ายจะเป็นห้องนอน 2 ที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ซึ่งได้ช่องแสงที่เปิดเชื่อมต่อไปยังส่วนซักล้างได้ด้วย ผมเลยแนะนำว่า เราควรให้พื้นที่หลังบ้านมีแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาสักหน่อย ก็จะทำให้ห้องนอนนี้ได้รับแสงสว่างที่เพียงพอและน่าอยู่มากขึ้นครับ

โดยของจริงเราก็จะได้เป็นห้องเปล่าตามมาตรฐาน และมีขนาดห้องประมาณ 2 x 2.6 m. สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตกับโต๊ะอเนกประสงค์เล็กๆข้างเตียงได้พอดี ส่วนความสูงฝ้าเพดานของห้องนี้จะอยู่ที่ 2.85 m.

  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 107.83 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

สำหรับทาวน์โฮม 2 ชั้น ปัจจุบันยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ชมนะครับ แต่ฟังก์ชันก็จะมีความเป็นสัดส่วน และเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากขึ้น โดยชั้นล่างจะมีการกั้นห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเหมาะที่จะเป็นห้องทำงานในช่วง WFH แบบนี้ หรืออาจทำเป็นห้องสตูดิโอไว้ Live สดขายของ และทำเป็นห้องนอนเสริมชั้นล่างก็ได้ จึงทำให้แบบบ้านหลังนี้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ส่วนชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง และใช้งานห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดพื้นที่ทำให้ห้องนอนแต่ละห้อง มีขนาดใช้งานได้เพียงพอ ซึ่งถ้าใครมีลูก 1 – 2 คนก็สามารถอาศัยอยู่ได้สบายๆ โดยจุดเด่นอยู่ที่ห้อง Master Bedroom ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน จะมีความกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยครับ ทำให้จัดแบ่งพื้นที่เตียงนอนแยกกับพื้นที่แต่งตัวได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น แถมยังเป็นห้องสไตล์ Loft ที่ได้ฝ้าเพดานสูงอีกด้วย จึงได้ความโปร่งโล่งดีทีเดียวครับ

…โดยเบื้องต้นผมได้ข้อมูลมาว่า ห้องนี้จะมีชั้นลอยให้ใช้งานได้ เหมือนกับแบบบ้านชั้นเดียวที่เราได้ชมกันไปเลยครับ (แต่แบบบ้านปัจจุบันอาจยังไม่ Final และมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ยังไงก็ลองสอบถามกับทางโครงการอีกครั้งนะ)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่าครับ

ราคา

อารักษ์ อมตะนคร ราคา ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2564

  • ทาวน์โฮม 1 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 65.5 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 107.83 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท
  • จอง 1,000 – 2,000 บาท
  • ทำสัญญา 5,000 – 7,500 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 28,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 950 บาท/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ลงทะเบียน : https://bit.ly/3BcqkN4

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ อารักษ์ อมตะนคร ตั้งอยู่บนถนนศุขประยูร โดยจะเป็นถนนฝั่งขาเข้านิคม ซึ่งเหมาะกับพนักงานหรือทำอยู่โรงงานในนิคมอยู่แล้ว เพราะเดินทางประมาณ 10 – 15 นาทีก็ถึงที่ทำงานแล้วครับ อีกทั้งยังมีแหล่งช้อปปิ้งครบครันอยู่บนถนนศุขประยูรเส้นนี้ด้วย โดยเฉพาะตลาดสดรถเมล์หนองตำลึง ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่และอยู่ตรงข้ามซอยโครงการเลย รวมถึงยังมีตัวเลือกอื่นๆให้เลือกเดินได้ เช่น ห้างโรบินสัน โฮมโปร และ JAS Village เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถเดินทางไป-กลับกรุงเทพฯได้ง่าย เพราะอยู่ห่างจากมอเตอร์เวย์เพียง 5 km. เท่านั้นเองครับ

แต่จุดที่ต้องคำนึงอาจเป็นเรื่อง ถนนทางเข้า-ออกโครงการ โดยทางเข้าปัจจุบันจะเป็นถนนเส้นเล็กที่รถขับสวนทางกันได้ลำบากนิดนึง (หรืออาจสวนกันไม่ได้เลย) ส่วนทางเข้าหลักอีกเส้นที่จะเปิดในอนาคตก็อาจสวนทางกันได้พอดีๆ ซึ่งอันนี้อาจต้องรอดูกันในอนาคตอีกทีนะครับ ว่าเวลาใช้งานจริงจะราบรื่นดีหรือเปล่า เพราะจำนวนยูนิตโครงการนี้ก็ค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน

และหากเรามองเป็นภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น ปัจจุบันทำเลย่านนิคมนี้ก็เริ่มมีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่เยอะขึ้น แต่ส่วนมากจะเกาะกลุ่มกันอยู่ในเขตนิคมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีความคึกคักและวุ่นวายมากกว่า จึงทำให้บ้านแนวราบที่อยู่รอบนอกออกมาหน่อย แต่มีราคาจับต้องได้ง่ายเหมือนคอนโดล้านกว่าๆแบบนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยครับ เพราะเราจะได้ทั้งความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และมีพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นนั่นเอง

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : เป็นโครงการจัดสรรที่มีรั้วรอบขอบชิด พร้อมพี่ยามและกล้อง CCTV ดูแลตลอด 24 ชม. โดยระบบการเข้า-ออกรถยนต์จะมีไม้กั้นกระดก และใช้ Key Card Access ระยะใกล้ แต่จุดที่ให้มาเพิ่มแล้วดีก็คือ กำแพงรั้วของบ้าน โดยบริเวณหน้าบ้านเราจะได้รั้วสูง 2 m. และหลังบ้าน 2.8 m. ซึ่งจะทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้นครับ

การออกแบบโครงการ : ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่ก็เห็นความพยายามจัดผังโครงการให้มีความเป็นส่วนตัวอยู่นะครับ โดยจะแบ่งเป็นซอยย่อยหลายซอย เพื่อทำให้มีเพื่อนบ้านร่วมซอยไม่มากนัก รวมถึงยังมีการวางตำแหน่งส่วนกลางที่ค่อนข้างแปลก คือจะตั้งอยู่ภายในซอยๆหนึ่ง ซึ่งจะอยู่ติดกับด้านหลังของบ้านส่วนใหญ่ และมีเพียงไม่กี่หลังที่หันหน้าเข้ามาตรงๆ รวมถึงยังออกแบบ Facade อาคาร Clubhouse ให้ช่วยบังสายตาจากถนนด้านหน้าอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนที่มาใช้งานส่วนกลางได้รับความเป็นส่วนตัวมากที่สุดนั่นเองครับ

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : นับว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ โดยเค้าจะมีคอนเซ็ปต์ในการทำหลังคาทรงจั่วเล่นระดับ ซึ่งเวลาที่เรามองทาวน์โฮมหลายหลังเป็นภาพรวมใหญ่ๆ จะทำให้ดูเหมือนตัวอาคารและ Facade มีการเคลื่อนไหวขึ้น-ลงที่ไม่น่าเบื่อ โดยเกิดจากการทำห้องนอนใหญ่เป็นสไตล์ Loft ที่ได้ฝ้าเพดานสูงประมาณ 5 – 6 m. ซึ่งนอกจากจะได้ความสูงโปร่งแล้ว ยังมีชั้นลอยให้สามารถขึ้นไปใช้งานด้วยครับ ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่แปลกแหวกแนว ไม่เหมือนใครในย่านเลยทีเดียว

สำหรับโปรดักส์ทาวน์โฮม 1 ชั้น จะมีพื้นที่ใช้สอยเพียง 65.5 ตร.ม. เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนกำลังดี แต่ถ้าใครที่ต้องการบ้านฟังก์ชันยืดหยุ่นมากขึ้น แนะนำเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 107.83 ตร.ม. ซึ่งจะมีการกั้นห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างเพิ่มมาให้ และด้านบนก็ยังมีอีก 3 ห้องด้วยกัน เหมาะกับคนที่อาจมีลูก 1 คน หรือกำลังต้องการห้องทำงานอยู่บ้านในช่วง WFH แบบนี้นั่นเองครับ

วัสดุ : โครงสร้าง Precast มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถกันเสียงจากเพื่อนบ้านข้างๆได้ดี โดยจุดที่ผมชอบมากๆก็คือ เค้าจะทำหลังคาจอดรถในร่มมาให้แบบเต็มคันเลยครับ ซึ่งเราไม่ต้องเสียเวลาและเสียเงินจ้างช่างมาทำเพิ่มเอง แถมยังเป็นการคุมโทนให้บรรยากาศโครงการเป็นไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วย

โดยที่พื้นจอดรถและครัวหลังบ้าน จะใช้วิธีบดอัดดินให้แน่นแทนการใช้เสาเข็ม แต่ก็จะมีการตัด Joint แยกโครงสร้างออกจากตัวบ้านมาให้แล้วเรียบร้อย รวมถึงผมยังชอบตรงกำแพงหลังบ้านสูง 2.8 m. ที่สามารถรับน้ำหนักหลังคาทำเป็นครัวปิดเพิ่มได้ง่ายๆเลย และอีกจุดหนึ่งก็คือ ช่องแสงภายในห้อง Master Bedroom ที่ให้มาใหญ่และสูงจากพื้นเกือบถึงฝ้าเลยครับ ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นชุดหน้าต่างแบบนี้ในทาวน์โฮมระดับล้านต้นๆได้บ่อยๆนัก

ส่วนฟังก์ชันพิเศษอย่างบันไดลิงและชั้นลอย ก็เห็นถึงความพยายามที่จะใส่ไอเดียเพิ่มเข้ามาดีครับ แต่ด้วยวัสดุน้ำหนักเบาและความลาดชันค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะกับการใช้งานเป็นประจำ รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุด้วย ดังนั้นผมขอแนะนำให้การใช้งานชั้นลอยถือเป็น “ฟังก์ชันเสริม” ที่นานๆเราอาจได้ขึ้นไปใช้งานสักที หรือถ้าใครคิดจะขึ้นไปใช้ด้านบนบ่อยๆ ผมแนะนำให้ยอมเสียเงิน เพื่อทำบันไดใหม่ที่แข็งแรงและมั่นคงกว่านี้ จะทำให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นนะครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : เนื่องจากในวันที่เข้าไปถ่ายรีวิว ทางโครงการยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จึงยังไม่มีความเห็นเรื่องบรรยากาศของโครงการนะครับ อาจต้องรอชมภาพบรรยากาศของจริงในอนาคตอีกครั้ง ซึ่งถ้าเรามีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไร จะรีบมาอัพเดตให้นะ

สาธารณูปโภค : มีให้ใช้งานครบ ทั้งอาคาร Clubhouse สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนสาธารณะ ซึ่งโครงการในย่านเดียวกันหรือในแถบต่างจังหวัดแบบนี้ มักจะไม่ค่อยมีส่วนกลางให้ใช้งานกันสักเท่าไหร่ครับ แต่ก็ยังเป็นส่วนที่ต้องรอดูในอนาคตกันอีกครั้งนะครับ ว่าสร้างเสร็จของจริงจะน่าใช้งานมากน้อยแค่ไหน

Judgement

เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่อาจให้คะแนนความคุ้มค่าได้นะครับ

อารักษ์ อมตะนคร เหมาะกับใคร

โครงการ อารักษ์ อมตะนคร เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในนิคมอมตะ-ชลบุรี และกำลังมองหาทาวน์โฮมหรือที่อยู่อาศัยแนวราบที่ราคาจับต้องได้ไม่ยาก แต่มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยหลังคาทรงจั่วเล่นระดับ และห้องฝ้าเพดานสูงสไตล์ Loft ซึ่งมีฟังก์ชันให้ใช้งานยืดหยุ่น รวมถึงเป็นโครงการที่มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบอีกด้วย โดยจะต้องมีงบประมาณเริ่มต้นที่ 1.69 – 2.29 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 12,000 – 16,000 บาท


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc