วันนี้เราจะมารีวิวโครงการ สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์ Modern Japanese ที่ออกแบบบ้านได้เข้าใจไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เหมาะกับเป็นบ้านหลังแรกหรือเพิ่งเริ่มต้นครอบครัว ฟังก์ชันบ้านจะอยู่ที่ 3-4 ห้องนอน 1-2 ที่จอดรถ ในช่วงราคา 2.29-4 ล้านบาทค่ะ
จุดที่น่าสนใจของโครงการมี ดังนี้
- Modern Japanese Style : บรรยากาศที่เหมือนหมู่บ้านในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า ส่วนกลาง และหน้าตาบ้าน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ต่างจากเพื่อนบ้านในย่านเดียวกัน
- Location : โครงการตั้งอยู่บนถนนรังสิตคลอง 2 ไม่ไกลจากฟิวเจอร์และตลาดขนาดใหญ่ เข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากถนนรังสิต-นครนายก และถนนคลองหลวง
- Details in town home : โครงการนี้แม้จะเป็นทาวน์โฮม แต่ก็มีแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ เหมาะกับครอบครัวขนาดเริ่มต้นถึงขนาดกลาง จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบช่องแสงภายในบ้าน โดยเฉพาะ Skylight ที่บริเวณโถงบันไดและห้องน้ำชั้น 2 เพิ่มแสงสว่างให้ภายในบ้านได้ นอกจากนี้ที่ Master Bedroom ของห้องทุกแบบจะมีดีไซน์พื้นที่ภายในห้องที่ได้ฝ้าเพดานสูงสุดถึง 3.7 เมตร สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้อยู่สบาย ไม่อึดอัด
- Facility & Security : เดิมทีโครงการทาวน์โฮมมักจะไม่ค่อยเน้นเรื่องพื้นที่ส่วนกลางเท่าไรนัก แต่ในระยะหลังหลายๆ Developer มีการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางในโครงการประเภททาวน์โฮมให้เป็นจุดขายมากขึ้น อย่างในโครงการนี้ก็จะมีทั้งสวนสาธารณะ Clubhouse สระว่ายน้ำมาให้ครบครันตั้งอยู่ตรงกับทางเข้าเป็นหน้าเป็นตาให้กับโครงการเลย ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะมี LIV-24 มาตรฐานของแสนสิริพ่วงมา พร้อมประตูรั้วโครงการที่ไม่ใช่ไม้กั้นกระดก แต่ให้มาเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติแบบที่นิยมใช้กันในโครงการบ้านเดี่ยวค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Siri Place Rangsit-Klong 2 (สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2) ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2564
ชื่อโครงการ | Siri Place Rangsit – Klong 2 (สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอย รังสิต-นครนายก 31 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี |
ที่ดิน | 24-0-11.68 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 264 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.7-3.7 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 51,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2020 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี N/A |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.sansiri.com/townhome/siriplace-rangsit-klong-2/th/ |
โทร | 02-297-0397 |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
ทำเลโครงการ สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 น่าสนใจอย่างไร?
- ความอุดมสมบูรณ์ : ทำเลคลอง 2 ยังเป็นโซนที่ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากห้างใหญ่อย่าง “ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต” และหน้าปากซอยก็ยังมีตลาดขนาดใหญ่อีกด้วย ถือว่าหาของกินของใช้ได้ไม่ยากเลย
- การเดินทางที่สะดวก : เดินทางสะดวก เข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากถนนรังสิต-นครนายก และถนนคลองหลวง
- ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว : ที่ตั้งโครงการเป็นถนนภาระจำยอม ที่ใช้งานร่วมกับเพื่อนบ้านเจ้าของเดียวกันเท่านั้น ถนนซอยจึงไม่พลุกล่านและมีบรรยากาศที่ดี
- มีตัวช่วยในการเดินทาง ดังนี้
- ทางด่วนอุตราภิมุข (โทลล์เวย์ ดอนเมือง) ~ 5.8 km.
- วงแหวนกาญจนาภิเษก (ทางด่วนมอเตอร์เวย์) ~ 10.4 km.
- ทางด่วนอุดรรัถยา ~ 11 km.
- รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต ~ 7.8 km.
พิกัด Google Maps : 14.008115, 100.638109
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลอง 2 ซึ่งถือว่าเป็นโซนที่ยังใกล้ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก โดยจะอยู่ไม่ไกลจากห้างที่ใหญ่ที่สุดของย่านนี้อย่างฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดอย่างตลาดไท
แต่ถ้าเอาที่ความสะดวกและใกล้โครงการมากที่สุดก็คือ “ตลาดนัดพระรูป” ที่อยู่ตรงหน้าปากซอยนี่เองค่ะ ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีทั้งของกิน/ของใช้/ตลาดสด/ร้านสะดวกซื้อ และนอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่หลายแห่งอีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าถ้าอยู่กันแบบครอบครัว ก็สามารถอยู่กับลูกได้จนจบมหาลัยเลยหล่ะ
ส่วนเรื่องการเดินทางก็เข้า-ออกได้ 2 เส้นทางหลักๆ คือ ถนนรังสิต-นครนายก และถนนคลองหลวง ซึ่งช่วยทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะเราสามารถไปขึ้นทางด่วนได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนดอนเมือง-โทลเวย์ ที่ตรงเข้าเมืองไปทางห้าแยกลาดพร้าว หรือจะเป็นถนนกาญจนาภิเษก(มอเตอร์เวย์) ก็สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่ายอีกเช่นกัน
และความดีงามของถนนเลียบคลอง 2 ทำเลนี้คือ สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง โดยเราสรุปได้ดังนี้
- สีแดง : เป็นเส้นทางปกติที่จะใช้ซอยรังสิต-นครนายก 29 มาลัดเข้าสู่ถนนเลียบคลอง 2 เพื่อเลี่ยงรถติดและไม่ต้องขับรถอ้อมไปยังบริเวณหน้าตลาด
- สีเขียว : เป็นเส้นทางสำหรับคนที่อยากจะแวะซื้อของที่ตลาดนัดพระรูปที่อยู่ปากซอยก่อนเข้าบ้าน แต่การจราจรบริเวณนี้ก็จะค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร
- สีน้ำเงิน : หากต้องการเดินทางไปยังถนนกาญจนาภิเษก หรือออกเมืองไปทางนครนายก ก็สามารถใช้เส้นทางนี้เพื่อขับตรงไปต่อได้เลย เพราะเป็นถนน 2 เลนที่ขับสวนกันได้
- สีม่วง : หากต้องการไปยังฟิวเจอร์หรือถนนพหลโยธิน ก็สามารถใช้เส้นทางลัดเพื่อย้อนมากลับรถใต้สะพานได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปวนกลับรถบนถนนใหญ่ไกลๆ แต่วันที่เราไปเก็บข้อมูลเห็นปิดซ่อมอยู่ หากใครมีข่าวอัพเดทก็มาคอมเมนต์บอกกันได้นะคะ
การเดินทางจากโครงการไปทางด่วน :
สำหรับทางด่วนที่ใกล้และสะดวกที่สุดคือ ทางด่วนอุตราภิมุข ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.6 km. ส่วนถนนกาญจนาภิเษกจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 10.4 km. ทำให้เข้า-ออกเมืองได้ง่ายเช่นกัน
การเดินทางไปยังโครงการ :
การเดินทางวันนี้เราใช้ทางด่วนอุตราภิมุขมาลงตรงหน้าฟิวเจอร์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้ามายังถนนรังสิต-นครนายก ขับรถมาเรื่อยๆจนเลี้ยวเข้าสู่ซอยรังสิต-นครนายก 29 เพื่อลัดเข้าสู่ถนนเลียบคลอง 2 จากนั้นขับตรงเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอกับทางเข้าโครงการอยู่ทางขวามือ รวมแล้วจากทางด่วนก็ขับรถมาประมาณ 15 นาทีเท่านั้นค่ะ
เริ่มกันที่ถนนหน้าทางเข้าซอยโครงการ ซึ่งเป็นถนนรองวิ่งเลียบคลอง 2 ที่จะต้องข้ามคลองมาจากถนนเลียบคลอง 2 ที่เป็นเส้นหลักอีกทีนึง เลยทำให้ปากซอยไม่พลุกพล่านและเป็นส่วนตัวครับ เพราะคนที่ใช้ถนนเส้นนี้จะเป็นชุมชน และบ้านเรือนที่อยู่แค่ตรงบริเวณนี้เท่านั้น (ซึ่งทางโครงการให้ข้อมูลว่า บริษัทแสนสิริเค้าทำสะพานใหม่ให้เองด้วยนะ)
ซุ้มประตูทางเข้าถนนภาระจำยอมที่แชร์กันใช้กับลูกบ้านของแสนสิริทั้ง 2 โครงการ เป็นสไตล์ญี่ปุ่นค่อนข้างโดดเด่นมาก เพราะไม่ว่าจะเป็น “สิริ เพลส” หรือ “อณาสิริ” ในทำเลนี้ ต่างก็มีการออกแบบเป็นบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นเหมือนกันทั้งคู่เลย
ถนนภาระจำยอมเส้นนี้จะมีการแบ่งช่องจราจรออกเป็น 2 ฝั่งด้วยเกาะกลางชัดเจน และยังมีฟุตบาทที่ปลูกต้นไม้ประดับเพิ่มความร่มรื่นอีกนิดหน่อยด้วย พอขับรถเข้ามาประมาณสัก 200 m. เราจะเจอกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่นทางขวามือ ซึ่งเป็นบ้านเฟสแรกของอณาสิริ ทำให้บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนเข้าสู่ธีมญี่ปุ่นแล้วนะคะ
และเมื่อขับเข้ามาจนสุดทางประมาณ 400 m. ก็จะเจอกับทางเข้าโครงการทั้ง 2 โดยด้านซ้ายคือซุ้มประตูทางเข้าโครงการ สิริเพลส รังสิต-คลอง 2 ส่วนทางด้านขวาคือ อณาสิริ รังสิต-คลอง 2 ค่ะ
ซึ่งตรงวงเวียนจะมีน้องแมว 2 ตัวที่เป็น Mascot ของโครงการมาต้อนรับ น้องยกมือขวาขึ้นกวัก หมายถึงเป็นการกวักเงินทอง ความร่ำรวย โดยมีชื่อว่า “สิริจัง” และ “อานาโกะ” ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ที่ตั้งโครงการจะมีถนนภาระจำยอม ที่ใช้ร่วมกับโครงการเพื่อนบ้านอย่าง อณาสิริ รังสิต-คลอง 2 ที่เป็นเจ้าของเดียวกัน เลยทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวพอสมควร สำหรับที่ดินรอบๆส่วนใหญ่ก็เป็นที่ว่าง และสามารถสรุปได้ดังนี้
ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและโครงการอณาสิริ รังสิต-คลอง 2
ทิศใต้ : ช่วงต้นโครงการติดกับหมู่บ้านประดู่แดง ด้านในติดที่ดินเปล่า
ทิศตะวันออก : ติดกับโครงการอณาสิริ รังสิต-คลอง 2
ทิศตะวันตก : ติดกับถนนและคลองส่งน้ำ ซึ่งไม่ได้มีประตูทางออกด้านหลังนะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Future Park / Zpell ~ 5 km.
- Major รังสิต ~ 6.2 km.
- Tesco Lotus รังสิต ~ 6.3 km.
- Makro คลองหลวง ~ 7.5 km.
โรงพยาบาล
- รพ. บางปะกอก รังสิต2 ~ 3.4 km.
- รพ. เปาโล รังสิต ~ 4.9 km.
- รพ. ปทุมเวช ~ 5.9 km.
โรงเรียน
- รร.โชคชัย รังสิต ~ 5.3 km.
- รร. เซนต์โยเซฟ เมืองเอก ~ 9.1 km.
- รร. บีคอนเฮ้าส์ แย้มสะอาด ~ 9.9 km.
- ม. กรุงเทพ ~ 10 km.
- รร. สวนกุหลาบ รังสิต ~ 10.9 km.
- ม. ธรรมศาสตร์ รังสิต ~ 11.5 km.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 แตกต่างจากโครงการอื่นอย่างไร?
- Concept : Modern Japanese Style – บรรยากาศของโครงการที่เหมือนอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่น ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างจากเพื่อนบ้านในย่านเดียวกัน เราจะเห็นได้ตั้งแต่ตัว Main Gate เข้ามาถึง Clubhouse และส่วนกลางภายในโครงการ รวมถึงตอนนี้เค้ามีการปรับหน้าตา Facade หน้าบ้านใหม่ เติมดีเทลหลังคาสไตล์ญี่ปุ่นและปรับสีบ้านให้ออกโทนน้ำตาลดูอบอุ่นขึ้นด้วยค่ะ
- Facility & Security : ถือว่าเป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีการออกแบบ พื้นที่ส่วนกลาง และ ระบบรักษาความปลอดภัยเทียบเท่าหมู่บ้านที่เป็นบ้านเดี่ยวหลายๆ โครงการได้นะคะ
มาดูที่ตัวโครงการ สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 เป็นโครงการประเภททาวน์โฮม ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 24 ไร่กว่าๆ โดยมีบ้านรวมทั้งหมด 264 หลัง ถือว่าเป็นโครงการขนาดกลางๆ ที่มีรูปทรงที่ดินเป็นคอขวด เข้าไปขยายด้านใน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โครงการแบ่ง Facility หลักๆ ของโครงการออกเป็น 2 โซน คือ Clubhouse+สระว่าย+ฟิตเนส เป็นโซนที่ 1 วางเอาไว้ด้านหน้าโครงการติดกับป้อมยามเลย ทำให้โซนพักอาศัยถูกดันเข้าไปไว้ด้านในอีกนิด จึงไม่มีบ้านหลังไหนที่อยู่ใกล้กับป้อมยาม สร้างความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากขึ้น แถมเจ้า Clubhouse ยังทำออกมาได้สวย สไตล์ญี่ปุ่น เป็นหน้าเป็นตาใช้รับแขกได้ดีด้วย ส่วนโซนที่ 2 จะเป็นสวนส่วนกลางอยู่ด้านใน ซึ่งกำลังก่อสร้างพร้อมบ้านในเฟส 2 อยู่ค่ะ
โซนที่เราคิดว่าได้ Value พิเศษ คือกลุ่มบ้านในโซนที่อยู่รอบสวนจะได้วิวต้นไม้ดูร่มรื่นและเข้ามาใช้สวนได้ง่าย นอกจากนี้กลุ่มบ้านในโซนคอขวด เป็นตำแหน่งที่ไม่มีบ้านตรงข้าม จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเช่นกัน
โครงการวางทิศของบ้านส่วนใหญ่ไปทางทิศเหนือ, ใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีการจำลององค์ประกอบต่างๆ ของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ เช่นโคมไฟ, หน้าต่างทรงกลม เป็นต้น
รวมไปถึงการออกแบบสวนก็มีการเลือกใช้ต้นไผ่ ต้นหลิว และไม้พุ่มต่างๆ ที่ช่วยให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นดีนะคะ
จุดที่น่าสนใจเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยอันดับแรกคือรั้วที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการค่ะ โดยทั่วไปเรามักจะเจอประตูรั้วแบบไม้กั้นกระดก แต่โครงการนี้ออกแบบมาให้เป็นรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติและใช้ระบบเข้า-ออกแบบ RFID (เหมือนกับ easy pass บนทางด่วน) แยกทางเข้า-ออกของลูกบ้านกับ Visitors ทำให้ใช้งานได้สะดวก
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานแสนสิริที่มีชื่อว่า LIV 24 มีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงและคอยเดินดูแลตรวจตราตามจุดต่างๆภายในโครงการ, มี CCTV ติดตั้งไว้ที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ และใช้ VMS System (Visitor Management System) บันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อเอาไว้ด้วยค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในโครงการ อันดับแรกเราจะเจอกับ Clubhouse ที่ตั้งอยู่ติดกับซุ้มประตูทางเข้าเลย มีช่องจอดรถเตรียมไว้ให้ 3 คัน ถ้าลูกบ้านที่อยู่ด้านในจะมาว่ายน้ำเล่นฟิตเนส ก็ขับรถมาจอดก็ได้นะคะ
Clubhouse ของที่นี่ก็ยังคง Concept ญี่ปุ่นอยู่ค่ะ มีลูกเล่นอย่างการนำโคมญี่ปุ่นมาตกแต่ง ซึ่งเมื่อก่อนโครงการทาวน์โฮมส่วนใหญ่มักจะเป็นโครงการจัดสรรที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางเท่าไหร่ แต่ปัจจุบัน developer หลายๆเจ้าเริ่มพัฒนาการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางขึ้นมาให้กลายเป็นจุดขายหนึ่งของโครงการด้วย ไม่ใช่แค่ส่วนกลางที่ต้องมีครบ อย่าง สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำหรือฟิตเนสเท่านั้น การสร้างบรรยากาศให้สวยงาม Instagrammable มีมุมสวยๆถ่ายรูปไปลง IG ได้ ก็เป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้นะคะ
จุดที่น่าสนใจคือ อาคาร Clubhouse นี้เป็นอาคาร 1 ชั้น+สระว่ายน้ำที่ยกระดับจากพื้นถนน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานค่ะ
บรรยากาศทางเข้า Clubhouse ดูน่ารักๆ ด้วยแนวต้นไผ่พร้อมกระดิ่งลมแก้วสไตล์ญี่ปุ่น ช่วยให้คนที่เดินผ่านผ่อนคลายขึ้น
เข้ามาใน Clubhouse จะมี Facility หลักๆ อย่างสระว่ายน้ำ ที่นี่เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ ขนาดของสระผู้ใหญ่อยู่ที่ 20 x 6.5 เมตร ถือว่าใหญ่พอตัว ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริง
แถมมีพื้นที่ว่ายน้ำสำหรับเด็กแยกไว้ต่างหากด้วย
เราคิดว่าตำแหน่งของสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าโครงการทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง นั่นทำให้โครงการยกระดับของตัวสระให้สูงขึ้น
บริเวณริมสระจะมีที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ
เป็นพื้นที่ Semi-Outdoor ได้ลมธรรมชาติพร้อมวิวสระ พอเป็นพื้นที่ในร่มแล้วก็สามารถเข้ามานั่งเล่นได้ตลอดทั้งวันนะคะ
สำหรับ Instagrammable เราแนะนำให้ลองมาโพสต์ที่มุมนี้ดูนะ เป็นมุมสวยๆ สำหรับถ่ายรูปไปเช็คอินค่ะ
ขอแนะนำให้รู้จักกับเจ้าตัวตุ่น Mascot ประจำโครงการที่มาในคาแรกเตอร์สนุกสนาน เหมือนกับเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่นก็จะมี Mascot ประจำเมืองอย่างเช่น น้องหมีดำ Kumamon (คุมะมง) จากเมือง Kumamoto ส่วนที่สิริ เพลส แห่งนี้ก็จะมีตัวตุ่น ครอบครัวกระรอกและนกกระสาที่มาช่วยตกแต่งให้ตรงกับ Modern Japanese Style ค่ะ
ขยับเข้ามาดู Fitness มีเครื่องเล่นอยู่ประมาณ 7 เครื่องนะคะ แบ่งออกเป็นลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน Weight Trainning และมุมดัมเบล นับว่ามีให้ครบ วิวจากฟิตเนสก็สามารถมองออกไปเห็นสระและสวนได้พอดิบพอดี
ส่วนของห้องน้ำจะแยกชายหญิงเอาไว้เรียบร้อย และมี Locker สำหรับเก็บของได้อีก 10 ช่อง
ป้ายสัญลักษณ์ของที่นี่ดูเก๋ ด้วยการใช้ผ้าติดที่ประตูแบบร้านอาหารญี่ปุ่นที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า โนเรน ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องน้ำตกแต่งมาตามคอนเซปต์ญี่ปุ่น ใช้สีขาวแดงเป็นหลักและดู Minimal ดีค่ะ
สำหรับสวนส่วนกลางที่อยู่ด้านในโครงการจะยังก่อสร้างไม่เสร็จนะคะ เราจึงนำรูปตัวอย่างสวนหย่อมจากโครงการสิริ เพลส วงแหวน-ลำลูกกา ที่ทางโครงการแจ้งว่ามีคอนเซปต์สไตล์ญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ให้บรรยากาศที่ดูญี่ปุ่นด้วยองค์ประกอบต่างๆ เช่น สะพานทรงโค้งสีแดง, Pavilion สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเราคงต้องรอดูตอนเสร็จกันอีกทีว่าจะสวยงาม น่าใช้ขนาดไหนค่ะ
สำหรับบรรยากาศในโซนบ้านพัก ตอนนี้บ้านที่เปิดขายมีการปรับหน้าตาบ้านให้ดูญี่ปุ่นขึ้นเช่นเดียวกัน โดยในโครงการนี้ก็หยิบเอาองค์ประกอบของบ้านหรือตึกแถวของญี่ปุ่นมาใช้ เช่น โทนสีอาคารที่เน้นเทาและน้ำตาลเหมือนกับสีไม้ มีการเซาะร่องผนังให้เหมือนกับไม้ มีหลังคากันสาดกระเบื้องยื่นออกมา ส่วนประตูหน้าต่างก็ออกแบบให้มีการแบ่งเฟรมแนวตั้งเหมือนบ้านเรือนที่ญี่ปุ่นด้วยค่ะ
บรรยากาศถนนหน้าบ้านในโครงการนี้จะมีขนาดถนนหลักอยู่ที่ 12 เมตร ส่วนถนนรองในซอยย่อยอยู่ที่ 8 เมตร มีการจัดไม้พุ่มตามแนวถนนช่วยสร้างบรรยากาศให้ภายในโครงการดูร่มรื่นมากขึ้น
**หน้าตาบ้านในรูปนี้เป็นบ้านเฟสแรกที่โครงการเปิดขายนะคะ ซึ่งปัจจุบันเค้าปรับหน้ากากบ้านให้เป็นแบบสีน้ำตาลรูปที่แล้วทั้งหมดเลย แต่ก็มีราคาที่อัพขึ้นมาจากเฟสแรกอยู่ประมาณ 1 แสนบาทนะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 20 x 6.5 เมตร แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่
- ห้องออกกำลังกาย
- พื้นที่สวนหย่อมด้านในโครงการรวม Clubhouse ประมาณ 1 ไร่
- สนามเด็กเล่น
- Backyard สวนพืชผักสวนครัวในพื้นที่สวนหย่อม
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 เมตรและถนนภายในกว้าง 8-10 เมตร
- ระบบ RFID Sensor
- VMS System ระบบบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ
- ระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24
- Key Card Access ระยะไกล
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วทางเข้า-ออกโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า
แบบบ้าน
แบบบ้านโครงการ สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 มีจุดเด่นอะไรบ้าง?
- Skylight – ทุกแบบบ้านในโครงการ จะมีการออกแบบ Skylight ไว้ที่โถงบันได และ ห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ ช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านและห้องน้ำดูสว่างมากขึ้น เรียกได้ว่าใช้งานเวลากลางวันก็ไม่ต้องเปิดไฟด้วยค่ะ
- Master Bedroom ห้องฝ้าเพดานสูง – อีกหนึ่งการออกแบบที่ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นคือการออกแบบความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานค่ะ โดย master bedroom ของบ้านทุกแบบจะมีการออกแบบฝ้าเพดานที่สูงเป็นพิเศษ โดยมีแบบที่สูงสุดถึง 3.7 เมตร นอกจากจะได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งแล้ว ยังเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวตั้ง (Vertical) ได้อีกด้วยนะคะ
- มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 4 แบบ : จากที่เราไปเดินดูมาครบทุกแบบแล้ว คิดว่าเค้าออกแบบฟังก์ชันที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เหมาะกับเป็นบ้านหลังแรกหรือเพิ่งเริ่มต้นครอบครัว ทั้งหมดเป็นบ้านขนาด 2-4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 93 – 128 ตร.ม. พอเค้ามีแบบให้เลือกเยอะขนาดนี้แล้ว ก็เชื่อว่าจะมีสักแบบที่ฟังก์ชันถูกใจเราบ้างนะคะ
จากแปลนที่เรานำมาเทียบกันให้ดูด้านบน มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
ที่จอดรถ : บ้านแบบเล็ก Midori และ Tobiiro ทั้งสองแบบจะเป็นบ้านหน้ากว้าง 5.2 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน ส่วนสองแบบใหญ่ Haiiro และ Akai จะมีหน้ากว้างบ้าน 5.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันค่ะ
อ่านบทความเพิ่ม > ทาวน์โฮมหน้ากว้างเท่าไหร่ จอดรถแบบไหนได้บ้าง?
ห้องอเนกประสงค์ : ทุกแบบบ้าน ยกเว้น Haiiro จะมีการกั้นห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 1 ไว้ให้ ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการห้องทำงานเพิ่ม สามารถดัดแปลงเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ หรือจะทำเป็นห้องครัวภายในบ้านเลยก็ทำได้ค่ะ
ห้องนอน : ชั้น 2 ของบ้านขนาดเล็ก Midori และ Tobiiro จะมีห้องนอนอยู่ 2 ห้อง จุดต่างอยู่ที่แบบ Midori จะมีห้องน้ำ 1 ห้องใช้ร่วมกันแลกกับได้พื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ทั้งคู่ ส่วนTobiiro จะได้ห้องน้ำในตัวทั้งคู่ค่ะ แต่พื้นที่ภายในห้องนอนรองก็จะเล็กลงมานะ ส่วนบ้านใหญ่สองแบบอย่าง Haiiro และ Akai ชั้น 2 จะมี 3 ห้องนอน และ 3 ห้องน้ำเหมือนกันค่ะ การวางตำแหน่งเหมือนกัน แตกต่างที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนนะ
โครงสร้างบ้านที่นี่จะใช้เป็น Precast นะคะ เป็นระบบสำเร็จรูป ผนังรับน้ำหนัก ดังนั้นเราสามารถต่อเติมเล็กๆแบบก่อผนังได้ แต่ไม่สามารถทุบผนังได้ค่ะ อ่านบทความเพิ่มเติม > เทียบบ้าน Precast กับ ก่ออิฐฉาบปูน ดี-เสีย ต่างกันอย่างไร?
หน้าตาจะคล้ายกันทั้งหมดแตกต่างที่ฟังก์ชันภายใน
ส่วนที่ทำให้เราได้บรรยากาศญี่ปุ่นก็คือดีเทลของบ้านเรือนต่างๆ เช่น มีหลังคากันสาดกระเบื้องยื่นออกมา ส่วนประตูหน้าต่างก็ออกแบบให้มีการแบ่งเฟรมแนวตั้งเหมือนบ้านเรือนที่ญี่ปุ่น โทนสีอาคารที่เน้นเทาและน้ำตาลเหมือนกับสีไม้ มีการเซาะร่องผนังให้เหมือนไม้ ในรีวิวนี้เรามีบ้านตัวอย่างมาให้ดูครบ 4 แบบเลยนะคะ ไปดูกันเลย
แบบ AKAI
เป็นบ้านแบบใหญ่สุดในโครงการ ที่ดินเริ่มต้นอยู่ที่ 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม. ราคาประมาณ 3 ล้านบาท หน้ากว้าง 5.5 เมตรจึงจอดรถได้ 2 คัน ตัวบ้านชั้นล่างกั้นห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่างมาให้พร้อมใช้งานแบบเป็นสัดส่วน ชั้นบนให้ความสำคัญกับห้องนอนใหญ่ ได้ห้องกว้างมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรองก็ถือว่าอยู่ได้สบายไม่อึดอัด รองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 2 – 4 คนหรือหากมีผู้สูงอายุก็รองรับได้นะคะ
พื้นบริเวณหน้าบ้านจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ ลงเสาเข็มไว้ให้แค่เท่ากับตัวบ้านนะคะ จอดรถได้ 2 คัน จอดรถกระบะได้ (ลึก 5.5 เมตร ) แต่หากเป็นรถรุ่นที่มีความยาวเป็นพิเศษ แนะนำให้มาลองจอดดูก่อนนะคะ
พื้นที่หน้าบ้านจะมีหลังคาคลุมแค่บางส่วน ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นตำแหน่งที่เห็นว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ต่อเติมหลังคาออกมากันมากที่สุด ซึ่งเราแนะนำให้ลงเสาเข็มบริเวณหลังคาเพิ่มด้วย จะได้ไม่ทรุดแยกกับตัวบ้านค่ะ
หน้าบ้านจะมีห้องเก็บของ ซึ่งประตูอาจจะดูต่ำหน่อยเพราะตำแหน่งจะอยู่ด้านล่างใต้บันได เหมาะกับใช้เก็บพวกสายยางรดน้ำต้นไม้ อุปกรณ์ทำสวนต่างๆ
ประตูบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมิเนียม กระจกสีเขียวตัดแสง จึงช่วยลดความจ้าของแสงที่ผ่านเข้ามาและยังช่วยลดความร้อนด้วย ประตูเลื่อนเปิดได้ฝั่งเดียวแต่ก็มีพื้นที่ให้เดินผ่านเข้าออกได้กว้างแบบคนตัวใหญ่เดินผ่านได้สบาย และทำให้เราสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ชิดกับฝั่งที่เป็นบาน Fixed ได้เลยนะคะ
ทางเข้าบ้านมีการยกระดับทางขึ้นเป็นเฉลียงเล็กๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก เพื่อกันน้ำกันฝุ่นเข้าบ้าน
มือจับประตูขนาดใหญ่เปิดง่าย ตัวล็อกหลักจะอยู่ตรงมือจับและมีการติดตัวล็อกแบบก้นหอยเพิ่ม ทำให้ได้ความปลอดภัยมากขึ้น
เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นลำดับแรก ถัดเข้าไปเป็นห้องรับประทานอาหารและห้องอเนกประสงค์ที่ติดกับพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน
สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไฟได้เป็นดาวน์ไลท์ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานของชั้นนี้จะสูง 2.7 เมตรค่ะ
ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาแบบ 3 – 4 ที่นั่ง และโต๊ะกลางได้โดยไม่ขวางทางเดิน พื้นที่ในห้องนั่งเล่นนี้จะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างมากจากประตูกระจกด้านหน้าบ้าน จึงดูสว่างและอบอุ่น
ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและมุมวางโต๊ะทานอาหาร มีพื้นที่ให้สามารถ Built-in ตู้วางของ หรือจัดเป็นมุมนั่งทำงานก็ได้นะคะ
ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังบ้าน และหากเป็นบ้านหลังมุมก็จะได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างข้างบ้านเหมือนบ้านตัวอย่างด้วย
ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องนอน 4 (ตามแปลน) ซึ่งทางโครงการทำเป็นห้องมาให้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องเสียเงินต่อเติมเพิ่มเลยนะคะ
ประตูบานเลื่อนที่จะเปิดออกไปด้านหลังบ้าน เป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่แบบเดียวกับหน้าบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นประตูบานเฟี้ยมก็ดูน่ารักเข้ากับสไตล์ญี่ปุ่นดี ประตูแบบนี้จะช่วยให้พื้นที่ดูกว้าง แต่การเปิดปิดจะไม่ได้สะดวกเท่าแบบบานเลื่อนนะคะ
ลานซักล้างด้านหลังบ้านจะลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่าตัวบ้านไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งดีกับงานต่อเติมหลังบ้าน มากๆ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าพื้นหลังบ้านจะทรุดจนแยกกับตัวบ้าน หรือจะมาดึงผนังหลังบ้านทำให้บ้านร้าว ส่วนกำแพงจะก่อมาให้แล้วจึงสะดวกในการต่อเติมหลังคาค่ะ
พื้นที่ด้านหลังบ้านของบ้านตัวอย่างจัดเป็นครัวให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่ง เราจะมีพื้นที่ครัวใหญ่พอสมควรเลย ต้มผัดแกงทอดก็สะดวก แต่พื้นที่ครัวนี้ไม่ได้มีหน้าต่าง ก็คงจะต้องเปิดประตูเพื่อระบายอากาศกันหน่อย แนะนำว่าควรติดเครื่องดูดควัน และทำหลังคาให้มีพัดลมระบายอากาศได้นะคะ
หากใครไม่ได้ซื้อบ้านหลังมุมและอยากได้บรรยากาศที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงในห้องครัว แนะนำว่าเลือกเป็นหลังคาโปร่งแสงจะช่วยให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ค่ะ
สำหรับห้องนอน 4 จะจัดเป็นห้องดูหนังตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือถ้าจัดเป็นห้องนอนก็มีพื้นที่กว้างพอให้สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ ครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุก็แนะนำให้เลือกบ้านแบบนี้นะคะ
ความเก๋ของห้องนี้ก็คือมีหน้าต่าง Bay Window ช่วยให้ห้องไม่ทึบตัน และมองเห็นสมาชิกคนอื่นๆ ภายในบ้านได้ค่ะ
ตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่บริเวณกลางบ้าน ถัดจากผนังติดทีวี ส่วนบันไดจะถูกออกแบบให้อยู่ด้านหน้าบ้านและชิดผนังด้านหนึ่ง การออกแบบลักษณะนี้ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ในบ้านเปิดโล่งถึงกัน บ้านจึงดูกว้าง
ไปดูห้องน้ำกันก่อนนะคะ ภายในจัดฟังก์ชันมาครบสามารถใช้อาบน้ำได้ ดีตรงที่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็สามารถแบ่งสมาชิกในบ้านมาอาบที่ชั้นล่างได้ ซึ่งโครงการติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ให้ครบเหมือนบ้านตัวอย่าง
อ่างล้างมือขนาดกะทัดรัดจาก Cotto ด้านข้างก๊อกน้ำมีพื้นที่ให้วางของใช้ในห้องน้ำได้อีกเล็กน้อย
ฝักบัวที่ให้มาตามมาตรฐานโครงการ จับได้ถนัดมือดี
โถสุขภัณฑ์ได้แบบ 2 ชิ้นจาก Cotto มาพร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดน้ำ
ระดับของพื้นห้องน้ำจะลดลงมาจากพื้นบ้านเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกไปค่ะ
ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งดีกว่าบันไดโครงเหล็กที่ทาวน์โฮมหลายๆ ที่มักจะนิยมใช้กัน เวลาเดินบนบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กจะรู้สึกว่าพื้นแน่นๆ ไม่มีเสียงก๊องๆ หรือความรู้สึกว่าพื้นกลวงๆ ปิดผิวบันไดด้วยไม้สำเร็จรูป ส่วนที่ชอบคือมีช่องหน้าต่างเล็กๆ ทำให้บริเวณบันไดได้แสงธรรมชาติในช่วงกลางวันด้วย
ตลอดทางขึ้นบันไดจะมีมือจับให้ฝั่งหนึ่งเชื่อมยาวไปตลอดทางเลย
เนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูงถึง 2.7 เมตร ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่ม จะมีชานพักบางช่วงที่ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ
ส่วนที่เป็น Highlight อีกอย่างนึงคือ ช่องแสงบนฝ้าเพดานที่ช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวันได้ ทำให้บันไดและโถงทางเดินบนชั้น 2 ได้แสงสว่างไปด้วยค่ะ
ขึ้นมาชั้นบนจะแบ่งเป็นห้องนอนต่างๆ คือ ห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำส่วนพื้นในชั้น 2 จะปูด้วยไม้ลามิเนตทำให้ดูอบอุ่นขึ้น
ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดห้องเหมาะสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นที่ไม่ได้มีของใช้มากมายนัก คือมีพื้นที่เพียงพอให้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ ถือว่าครบถ้วน ห้องจริงที่ได้จะเป็นห้องเปล่าตามรูปล่างเราสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ตามใจเราได้เลย
ภายในห้องมีหน้าต่างบานเลื่อน จึงเปิดระบายอากาศได้และทำให้แสงธรรมชาติสามารถเข้ามาภายในห้องได้มาก ทำให้ห้องน่าอยู่ทีเดียว
ภายในห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าห้องแรกเล็กน้อย วางเตียง 5 ฟุต ได้ มีหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้เหมือนกัน
อีกฝั่งหนึ่งของห้องมีมุมให้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า เพิ่มขึ้นมา ทำให้การจัดวางเฟอร์ฯ ห้องนี้ดูลงตัวมากกว่าห้องนอนเล็กห้องแรก หรือจะเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้ค่ะ
ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าห้องน้ำชั้นล่างจึงใช้งานได้สะดวก ซึ่งจะใช้แชร์ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ส่วนที่เป็น Highlight ก็คือช่องแสงบนหลังคาที่เค้าออกแบบให้มีในห้องน้ำชั้นบนทุกห้อง ที่มีตำแหน่งตรงกลางบ้าน ช่วยให้ห้องน้ำแห้งเร็วขึ้น ลดความอับชื้น จึงดูแลง่ายขึ้นค่ะ
ภายในให้ฟังก์ชันการใช้งานครบ แต่อาจเป็นเพราะว่าพื้นที่ภายในห้องน้ำไม่ได้ใหญ่มาก จึงไม่ได้มีการทำขอบปูนหรือการลดระดับเพื่อแยกโซนพื้นที่อาบน้ำ ใช้การทำพื้น Slope หรือพื้นลาดเอียงไปที่ท่อระบายน้ำแทน
เวลาใช้งานจริงอาจจะเปียกไปทั่วห้องได้ สำหรับห้องนี้แนะนำให้ติดม่านกั้นอาบน้ำเพิ่มก็จะช่วยได้ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้ในห้องน้ำก็จะมีสเปคเหมือนห้องน้ำชั้นล่างค่ะ
ปิดท้ายบ้านหลังแรกด้วยห้องนอนใหญ่ ถ้าเทียบกับทาวน์โฮมทั่วไปถือว่าห้องนอนใหญ่ของโครงการนี้ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะมากจริงๆ กว้างเหมือนห้องนอนใหญ่ในบ้านเดี่ยวหลายๆ ที่แถมเป็นห้องที่ได้ฝ้าเพดานสูงถึง 3.7 เมตรด้วยค่ะ
ตำแหน่งวางเตียงจะถัดเข้ามาด้านในตัวห้องทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ ซึ่งหากวางติดผนังฝั่งหนึ่งก็จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้ทำเป็นมุมนั่งเล่นได้
พูดถึงฟังก์ชันนอกจากพื้นที่วางเตียงนอนแล้ว ปลายเตียงจะมีพื้นที่กว้างพอสมควรให้กั้นแบ่งโซนสำหรับทำ Walk-in Closet ได้ ซึ่งเราต้องปรึกษาช่างให้ดีๆ นะคะ ว่าเราอยากแขวนทีวีบนผนังมั้ย เพราะต้องเตรียมโครงสร้างให้แข็งแรงเพียงพอค่ะ
บริเวณหน้าห้องน้ำสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เต็มฝั่งหนึ่งของผนัง เพื่อทำเป็น Walk-in Closet เวลาอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก
ภายในห้องน้ำจะจัดแปลนและฟังก์ชันมาเหมือนกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นบนเลย ให้วัสดุอุปกรณ์มาครบ เป็นสเปคเดียวกัน และมีขอบกั้นพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ
แบบ TOBIIRO
บ้านขนาดต่อมาในโครงการเป็นบ้านหน้ากว้าง 5.2 เมตร จอดรถได้ 1 คัน พื้นที่ใช้สอยขนาด 93 ตร.ม. ที่ดินมาตรฐาน 16 ตร.วา ฟังก์ชันภายในบ้านจะมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง ทำให้ห้องนอนทุกห้องบนชั้น 2 มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากกว่า เหมาะกับครอบครัวยุคนี้ที่มักจะมีลูกคนเดียว ทำให้ได้ห้องนอนใหญ่ทุกห้อง
ที่จอดรถของบ้านหลังนี้ถึงแม้ว่าจะจอดได้ 1 คัน แต่ช่องจอดก็มีความลึกกว่าบ้านแบบแรก ทำให้จอดกระบะได้สบายๆ โดยแปลงมาตรฐานมีจะความลึกของที่จอดรถประมาณ 5.7 เมตร
แต่มีหลังคาคลุมแค่ครึ่งเดียวถึงแค่เท่าตัวบ้าน ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นตำแหน่งที่เห็นว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ต่อเติมหลังคาออกมากันมากที่สุด
พื้นที่หน้าบ้านอีกฝั่งจะเป็นทางเข้าบ้าน ซึ่งประตูของบ้านนี้จะเป็นกระจกบานเลื่อนแบบเปิดได้ฝั่งเดียว แต่ก็มีพื้นที่ให้เดินผ่านเข้าออกได้กว้างแบบคนตัวใหญ่เดินผ่านได้สบาย
เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่รับแขกก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นพื้นที่สำหรับทานอาหาร และห้องอเนกประสงค์ที่ติดกับพื้นที่ด้านหลังบ้าน ส่วนวัสดุที่ได้จะเหมือนกับบ้านแบบแรกเลยค่ะ
พื้นที่รับแขกสามารถวางชุดโซฟาแบบ 3 – 4 ที่นั่ง แต่เรารู้สึกว่าไม่เหมาะกับการวางโต๊ะกลางสักเท่าไหร่ เพราะจะขวางทางเดินอยู่เหมือนกันนะ แนะนำเป็นโต๊ะข้างโซฟาแบบในบ้านตัวอย่างจะเหมาะกว่าค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นจะได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่าง Bay Window เข้ามาด้วย เจ้าหน้าต่างนี้เองที่ทำให้พื้นที่ด้านในตัวบ้านสว่างด้วยแสงธรรมชาติ
พื้นที่ด้านสามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้แบบไม่อึดอัด หรือถ้าใครอยากได้พื้นที่ Work From Home กว้างๆ ก็จัดเป็นมุมทำงานได้นะคะ
สำหรับลานซักล้างด้านหลังบ้านจะลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่าตัวบ้าน และก่อกำแพงไว้ให้ จึงง่ายในการต่อเติมหลังคาเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก
กลับเข้ามาที่ห้องนอน 3 (ตามแปลน) ซึ่งหากบ้านใครไม่มีผู้สูงอายุก็สามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ อย่างเช่นในบ้านตัวอย่างที่ทำเป็นห้องสำหรับ Gamer ก็ตกแต่งให้เข้าธีมแบบเต็มที่ เป็นห้องส่วนตัวได้เลย
ความเก๋ของห้องอเนกประสงค์นี้คือมีหน้าต่างให้สามารถมองเห็นส่วนอื่นๆ ของตัวบ้าน ช่วยลดความอึดอัดได้เป็นอย่างดี
บันไดและห้องน้ำของบ้านนี้จะอยู่บริเวณกลางบ้าน ติดกับช่องหน้าต่างเล็กๆ ทำให้บริเวณบันไดสว่างในตอนกลางวัน โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟเลยนะคะ
ส่วนตัวรู้สึกว่าดีนะที่ห้องน้ำชั้นล่างมีพื้นที่อาบน้ำ เผื่อในช่วงเร่งรีบก็ยังแบ่งสมาชิกลงมาอาบน้ำได้ แต่พื้นที่ภายในไม่ได้แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกแห้งมาให้นะคะ แนะนำให้ติดม่านกั้นอาบน้ำเพิ่มก็จะช่วยได้ ส่วนที่เราชอบคือมีหน้าต่างช่วยระบายอากาศด้วย ซึ่งทาวน์โฮมส่วนใหญ่ก็จะมีปัญหาเรื่องการระบายอากาศในห้องน้ำนี่แหละ จึงต้องให้คะแนนเพิ่มสำหรับการเก็บดีเทลส่วนนี้นะคะ
ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ ติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ครบถ้วนเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก แถมมีมุมเก็บของใต้บันไดด้วยค่ะ
โครงบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ลักษณะเป็นบันไดเป็นรูปตัว U และเนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูงถึง 2.7 เมตร ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่มจะไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ
ขึ้นมาด้านบนก็ยังคงมีช่องแสงที่เป็น Gimmick ของโครงการ ซึ่งชั้นบนจะมีห้องนอนทั้ง 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัวค่ะ
เมื่อโครงการจัดแปลนให้ชั้นบนมี 2 ห้องนอนก็ทำให้ได้ห้องนอนขนาดใหญ่เต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้งคู่นะคะ ภายในสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์สำหรับอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็กจนโต และมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้เต็มที่
ภายในมีห้องน้ำในตัว โดยบริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ให้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก
ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ครบเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง จะต่างกันตรงที่มีขนาดใหญ่กว่า
ปิดท้ายด้วยห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านทั้งหมด ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ดูจากขนาดห้องแล้วมีพื้นที่ให้ Built-in สำหรับทำ Walk-in Closet ได้กว้างๆ จากพื้นถึงฝ้าเลย เพราะฝ้าเพดานห้องนี้ก็สูงเป็นพิเศษเช่นเดียวกับบ้านแบบแรกเช่นกัน
ตัวอย่างการใช้งานตู้ที่สูงเป็นพิเศษก็คือ ใช้ราวแขวนที่สามารถโยกมาหยิบของได้ และเราก็สามารถใช้งานพื้นที่เข้ามุมได้ด้วยนะคะ
สำหรับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีขนาดใหญ่ที่สุด จึงมีการกั้นโซนเปียกโซนแห้งมาเป็นกิจจะลักษณะ ได้ช่องแสงผ่านหลังคา พร้อมฟังก์ชันครบถ้วนเช่นเดียวกับห้องน้ำอื่นๆ ค่ะ
แบบ MIDORI
เป็นบ้านขนาดเริ่มต้นในโครงการ มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 93 ตร.ม. ที่ดินมาตรฐาน 16 ตร.วา ฟังก์ชันบ้านจะเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ และ 1 ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่าง จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือได้ห้องนอนขนาดใหญ่ถึง 2 ห้องเลย เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้นที่สมาชิกไม่เยอะ 2-3 คน เน้นเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเป็นหลักค่ะ
แบบบ้าน Midori
แบบ HAIIRO
Haiiro เป็นบ้านขนาดเกือบใหญ่สุด มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 111 ตร.ม. ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา บ้าน Type นี้จะได้ที่จอดรถ 2 คันนะคะ จุดเด่นจะอยู่ที่ชั้นล่าง มีพื้นที่โล่งต่อเนื่องกันเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่โล่งกว้าง open plan ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนอน 3 ห้อง ห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ได้ห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรอง 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำด้วยกันค่ะ
แบบบ้าน Haiiro
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 ช่วงราคา 2.29-4** ล้านบาท ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2564
- Midori ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 16 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 93 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท - Tobiiro ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 16 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 93 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท - Haiiro ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 111 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท - Akai ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท - จองและทำสัญญา 5,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 51,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการสิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 ถือว่าตั้งอยู่ในโซนที่อยู่ใกล้กับความเจริญสูงสุดในย่านอย่างฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และหน้าปากซอยก็มีตลาดนัดพระรูปให้ได้แวะจับจ่ายใช้สอย จึงหาของกินของใช้ได้สะดวกสบาย อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่ง แต่ก็เป็นทำเลที่เหมาะกับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักนะคะ
อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าถนนรังสิต-นครนายกช่วงกลางๆ จะมีการจราจรที่หนาแน่นมากๆ ซึ่งโชคดีที่ถนนเลียบคลอง 2 สามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนรังสิต-นครนายก และถนนคลองหลวง หรือจะขับรถย้อนกลับมานิดหน่อยเพื่อมากลับรถใต้สะพานก็ทำได้หมด ทำให้มีเส้นทางลัดเลาะให้ใช้เลี่ยงรถติดได้ดีทีเดียว และยังมีทางด่วนให้ใช้เข้า-ออกเมืองอยู่ไม่ไกลอย่าง ดอนเมืองโทลเวย์ และถนนกาญจนาภิเษก(มอเตอร์เวย์) ด้วยค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ถือว่าให้มาดีเทียบเท่ากับโครงการบ้านเดี่ยวเลยนะคะ โดยซุ้มประตูทางเข้านอกจากจะมีพี่ รปภ. กับกล้อง CCTV และระบบ RFID (หรือ Easy Pass) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านแล้ว ยังใช้ทางเข้า-ออกเป็นประตูเหล็กรางเลื่อน ที่มีความแข็งแรงและปลอดภัย รวมถึงใช้ LIV-24 ที่เป็นบริการดูแลความปลอดภัยโดยศูนย์ควบคุมแบบ Real Time 24 ชั่วโมงจากแสนสิริ ผ่านทาง Application บนโทรศัพท์มือถือ ส่วนภายในบ้านเราอาจต้องติดตั้งเพิ่มเติมเองนะ ส่วนความสูงรั้วรอบโครงการ 3 เมตร
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
พูดถึงเรื่องโปรดักส์สำหรับทาวน์โฮม 2-3 ล้านบาทบนเส้นคลอง 2 นี้ก็ต้องยอมรับว่าโครงการนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Economy นะ ซึ่งทำให้การออกแบบของที่นี่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ หลักๆ จะเป็นเรื่องของสไตล์และดีเทลตัวบ้าน
สไตล์ – โครงการนี้จะเห็นได้ว่าจุดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องสไตล์ ที่ออกแบบมาได้บรรยากาศเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลย ซึ่งต่างจากเพื่อนบ้านในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์โมเดิร์นหรือยุโรป ดังนั้นใครที่ชอบบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ชอบแนวมินิมอล โทนไม้ ใส่เสื้อผ้ายูนิโคล่ มูจิ ก็น่าจะชอบทาวน์โฮมที่นี่กันนะ สามารถคุมโทนไปตั้งแต่พื้นที่ส่วนกลาง หน้าตาบ้านไปจนถึงการตกแต่งภายใน ซึ่งเรื่องของสไตล์เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล อยากให้ลองเข้ามาชมโครงการกันก่อนว่าชอบมั้ย
ตัวบ้าน – ภาพรวมฟังก์ชันต่างๆจะยังคล้ายๆกับแบบบ้านของ “สิริ เพลส” ทำเลอื่นๆ เพียงแต่จะตกแต่ง Facade ด้านหน้าให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น เรามองว่ารายละเอียดอย่าง Skylight และห้องนอนใหญ่ฝ้าเพดานสูงก็ถือเป็นรายละเอียดที่ทำให้การใช้ชีวิตภายในทาวน์โฮมสุขสบายมากขึ้นด้วยค่ะ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็น Benefit ที่ดีกว่าทาวน์โฮมทั่วไปที่เราเจอกันนะ ส่วนที่ติดนิดเดียวคือเรื่องการแบ่งพื้นที่เปียกแห้งในห้องน้ำที่ยังไม่ได้แบ่งชัดเจนครบทุกห้องนะคะ
ตัวโครงการ – ถือว่าได้มาตรฐานดีทั้งขนาดถนนหลัก ถนนซอย มีการกระจายตำแหน่งของ Clubhouse และสวนหย่อมไว้ที่ด้านหน้าและด้านในโครงการ ทำให้ลูกบ้านแต่ละโซนเข้าถึง Facility ส่วนกลางได้ง่าย ซึ่งเค้าก็เตรียมไว้ให้ใช้ครบถ้วน ทั้งสระ+สวน+ฟิตเนส ในบรรยากาศเหมือนอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่นเลย
วัสดุ :
วัสดุของโครงการเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป ใช้โครงสร้าง Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ที่มีข้อดีในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน ได้มาตรฐานมาจากโรงงาน แต่ก็มีข้อจำกัดในการต่อเติมทุบหรือเชื่อมห้อง ที่จะทำได้ยากมากๆ หรือบางจุดอาจทำอะไรไม่ได้เลยเพราะเป็นผนังรับน้ำหนัก จึงต้องปรึกษาช่างโครงการก่อน ดังนั้นคนที่จะซื้อบ้านโครงสร้าง Precast จึงต้องพอใจกับฟังก์ชันดั้งเดิมที่เค้าจัดมาแล้วระดับนึงนะคะ
ส่วนวัสดุที่เราคิดว่าดีคือ บันไดที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินจะไม่มีเสียงดัง มีการลงเสาเข็มพื้นที่หลังบ้านมาให้เท่ากับตัวบ้าน และก่อกำแพงมาให้ทำให้ต่อเติมง่าย (ยกเว้นแบบบ้าน Midori เท่านั้นที่ไม่ได้ลงเสาเข็มหลังบ้านมาให้)
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
สภาพโครงการโดยรวมดูเรียบร้อยดี โครงการมีพื้นที่ 24 ไร่กว่าๆ กับจำนวนยูนิตทั้งหมด 264 ยูนิต ถือว่าจัดบ้านมาแบบเต็มพื้นที่เลย ถนนหลักมีแนวต้นไม้ให้บรรยากาศที่ดูเขียวๆ ไปตลอดเส้นทาง พื้นที่ส่วนกลางสวยงามดี คอนเซปต์เป็นญี่ปุ่นชัดเจนตั้งแต่ซุ้มประตู Clubhouse เหลือเพียงสวนที่ทางโครงการแจ้งว่าเป็นสไตล์ญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน แต่ต้องอดใจรอดูของจริงกันอีกสักพักนะคะ
สาธารณูปโภค :
ทาวน์โฮมส่วนใหญ่มักจะเป็นโครงการจัดสรรที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางเท่าไหร่ แต่ปัจจุบัน developer หลายๆ เจ้าเริ่มพัฒนาการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางขึ้นมาให้กลายเป็นจุดขายหนึ่งของโครงการรวมถึงสิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 ด้วยเช่นกัน และไม่ใช่แค่ส่วนกลางที่มีครบทั้ง Clubhouse, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนสาธารณะเท่านั้น เค้ายังสร้างบรรยากาศให้ดูเป็นญี่ปุ่นจ๋า แลกมากับค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา แชร์กับลูกบ้าน 264 หลัง ถือว่าราคาสูงกว่าโครงการทั่วไป แต่ก็มีเหตุผลมาจาก Facility ที่เค้าจัดเต็มมาให้นั่นเอง
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2.29 – 4 ล้านบาท, 26 มิถุนายน 2564
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่บนถนนเลียบคลอง 2 ใกล้ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และตลาดนัดพระรูป เข้าออกได้หลายเส้นทาง
- ความปลอดภัย 8.5/10 – ประตูเลื่อนไฟฟ้า, เข้าออกด้วยระบบ RFID, ระบบ LIV-24, รั้วรอบโครงการ 3 เมตร, CCTV ที่ทางเข้าออกและในโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – สไตล์ญี่ปุ่นแตกต่างจากทาวน์โฮมที่อื่น ออกแบบรายละเอียดได้ดี ติดนิดเดียวคือเรื่องการแบ่งพื้นที่เปียกแห้งในห้องน้ำ
- วัสดุ 7.5/10 – ส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานของทาวน์โฮมระดับนี้ และบางอย่างก็ดีกว่ามาตรฐาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – คอนเซปต์ชัด น่าใช้งาน (คะแนนอาจมีการปรับได้หากสวนส่วนกลางสร้างเสร็จนะคะ)
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบทั้ง Clubhouse สระ สวน ฟิตเนส แต่ค่าส่วนกลางก็สูงตามสิ่งที่ให้
- 7.98 / 10.00
สิริ เพลส รังสิต-คลอง 2 เหมาะกับใคร
สิริ เพลส รังสิต-คลอง2 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านใกล้ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต แต่ยังคงได้ทำเลสงบ เดินทางสะดวก ดีไซน์แตกต่างและชอบบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นจ๋าๆ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน รองรับตั้งแต่คนที่ต้องการซื้อบ้านอยู่คนเดียวไปจนถึงการเริ่มต้นครอบครัว 2-3 คน ในราคาที่เข้าถึงได้ 2.29 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 16,000 – 28,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc