รีวิวฉบับที่ 540 … บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 71 อ่านชื่อแล้วเหมือนจะอยู่ในซอยบนถนนลาดพร้าวใช่ไหมครับ? แต่จริงๆแล้วโครงการบ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 71 นี้อยู่ติดถนนนาคนิวาส ซึ่งเป็นถนนที่ตัดจากเส้นเกษตร-นวมินทร์ มายังถนนสังคมสงเคราะห์ ซึ่งสามารถเข้าได้จากซอยลาดพร้าว 71 และบนถนนนาคนิวาสนี้ก็มีโครงการทาวน์โฮมต่างๆมากมาย มีบ้านกลางเมืองและหมู่บ้านอื่นๆที่พัฒนาต่อเนื่องกันมาหลายโปรเจค จนทำให้ซอยนี้กลายเป็นเขตชุมชนสำคัญขึ้น ซึ่งโครงการที่เรากำลังจะพาไปดูเป็นโครงการล่าสุดของบ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 71 ที่พึ่งเปิดตัวในปี 2013 ที่ผ่านมาครับ
Fact @ 7 March 2014
- บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 71
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS
- Segment การตลาด 6-8 ล้านบาท
- เนื้อที่โครงการ 5-1-11.8 ไร่
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ประมาณ 49 ยูนิต
- 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 20 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท (Q1/2014)
- http://www.apthai.com/
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
แผนที่ของโครงการบ้านกลางเมืองอยู่ช่วงบริเวณซอยนาคนิวาส 34 เข้าไปนิดเดียวจากถนนใหญ่ โดยทางเข้าถนนนาคนิวาสนั้นจะสามารถเข้าออกได้ 4 เส้นทางหลักคือ
- ซอยลาดพร้าว 71 จากถนนใหญ่ลาดพร้าว
- โชคชัย 4 ซอย 6
- ถนนสังคมสงเคราะห์ จากเลียบทางด่วน
- ถนนสุคนธสวัสดิ์จาก เกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ)
ซอยลาดพร้าว 71 จากถนนใหญ่ลาดพร้าว เป็นระยะทาง 3.1 กิโลเมตร
ต่อมาเป็นเส้นที่เข้าจากเลียบทางด่วน ซึ่งสามารถเข้าได้ 2 ซอย – ซอยแรกคือโชคชัย 4 ซอย 6 หรือ ถนนสังคมสงเคราะห์ ในระยะทาง 2.5 กิโลเมตร และอีกซอยหนึ่งจะเป็นนาคนิวาส 16 นะครับ
ต่อมาถ้าเข้าจากโชคชัย 4 จะสามารถเข้าได้ 2 ทางเช่นกัน คือโชคชัย 4 ซอย 6 หรือถนนสังคมสงเคราะห์เป็นระยะทาง 3.9 กิโลเมตร และซอยนาคนิวาส 27 ที่ 3.2 กิโลเมตร
สุดท้ายเป็นทางเข้าจากถนนเกษตร-นวมินทร์ ผ่านถนนสุคนธสวัสดิ์ เข้ามา 3.3 กิโลเมตรครับ
เส้นทางที่เราเลือกเดินทางมาคราวนี้เป็นเส้นทางแรกนะครับ จากถนนใหญ่ลาดพร้าว ผ่านเข้าเขตวังทองหลาง
วิ่งมาเรื่อยๆผ่านแยกโชคชัย 4 … ตามทางที่จะตรงไปออกเส้นเลียบด่วน
จากนั้นชิดซ้ายก่อนถึง 4 แยก เลี้ยวเข้าซอย 71 ตามรถคันข้างหน้าไปเลย (ปัจจุบันปากทางจะมีป้ายของโครงการบ้านกลางเมืองอยู่)
ซอยลาดพร้าว 71 จัดเป็นซอยใหญ่ มีถนนกว้าง 6 เลน (แต่รถจอดไป 2 วิ่งได้จริงๆ 4 เลน)
พอตรงไปสุดก็จะถึงสามแยกที่ตัดกับถนนสังคมสงเคราะห์ หากเลี้ยวขวาจะไปออกเส้นเลียบด่วน เลี้ยวซ้ายจะไปออกโชคชัย 4
พอเราเลี้ยวซ้ายไปนิดนึง ก็จะเจออีกหนึ่งสามแยก ถ้าตรงไปตามทางเดิมก็จะออกโชคชัย 4 แต่ถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าถนนนาคนิวาส
นาคนิวาสเส้นนี้สามารถทะลุไปถึงเกษตร-นวมินทร์ได้เลยนะครับ
ถนนนาคนิวาสจัดเป็นถนนรอง มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก อยู่ที่ 4 เลน ภายในเป็นเขตชุมชนไปหมดแล้ว มีที่ทางทำเลและการค้าดี
หากเราวิ่งเข้ามาและสังเกตสองฟากข้างทาง เราจะเห็นโครงการบ้านกลางเมืองอยู่หลายแห่ง ซึ่งโปรเจคที่ภาพข้างบนนี้เป็นบ้านกลางเมือง Urbanion ลาดพร้าว 71 ที่พึ่งจะปิดโครงการกันไปไม่นาน
ภายในซอยเป็นแหล่งชุมชนอุดมสมบูรณ์ ค่อนข้างคึกคัก จากการที่สมัยก่อนมีหมู่บ้านมาเปิดมากมาย ย่านการค้าก็ตามเข้ามา ร้านสะดวกซื้อ, ธนาคาร, ตลาด, ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ มีครบครัน แต่ยังไม่มีห้างขนาดใหญ่นะครับ
ห้าง Hypermart ขนาดใหญ่จะอยู่ติดถนนเลียบทางด่วน แห่งแรกที่ไม่ไกลจากโครงการก็คือ Tesco Lotus ที่สามารถใช้ถนนสังคมสงเคราะห์ในการทะลุมาได้
ส่วนห้าง Lifestyle ใกล้ที่สุดคิดว่าน่าจะเป็น The Crystal Park ทะลุซอยนาคนิวาส 16 ออกไปได้ครับ
ตั้งแต่ช่วงปี 2554 เป็นต้นมา ภายในถนนนาคนิวาสนี้เริ่มจะมีคอนโดมิเนียมมาเปิดโครงการกันบ้างแล้ว ทำให้ในอนาคตถนนนาคนิวาสจะกลายเป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่กว่าเดิม บ้านแนวราบติดถนนใหญ่จะน้อยลงไปเรื่อยๆละครับ โดยโครงการบ้านกลางเมืองลาดพร้าว 71 นี้เป็นโครงการล่าสุดของบ้านกลางเมืองที่เปิดในย่านลาดพร้าวละครับ
ตัวโครงการอยู่ในซอยนาคนิวาส 34 ซึ่งเป็นทางเข้าร่วมกันของลูกบ้านของบ้านกลางเมืองกับบ้านเรือนข้างเคียงอีกไม่กี่หลัง
ที่ดินข้างๆที่ติดกันเป็นหมู่บ้านเก่า Areeya Resort ทำให้เรามั่นใจได้ว่าต่อไปจะไม่มีคอนโดหรืออพาร์ตเม้นท์คุณป้ามาขึ้นข้างๆนะครับ
ตัวซอยถูก Treat ใหม่ ปรับสภาพแวดล้อม ปลูกต้นใหม่ ทำถนนคอนกรีต เทให้เรียบๆตั้งแต่หน้าซอยเข้าไปถึงตัวโครงการ ซึ่งห่างจากปากซอยนิดเดียว
ถนนทางเข้ามีขนาดใหญ่พอให้รถสวนกันได้สบายๆ
เนื่องจากตัวซอยเป็นซอยตัน และมีทางเข้าทางออกของบ้านไม่กี่หลัง ทำให้ซอยนี้สะอาดสะอ้าน ไม่มีรถมาจอดอีเหละเขะขะ ดีต่อสภาพแวดล้อมโดยรวมครับ
ทาง AP ได้ปรับสภาพฟุตบาทและต้นไม้สองข้างทางใหม่ แม้ว่าทางเดินจะแคบไปหน่อย แต่สภาพแบบนี้ก็ดีกว่าทางฟุตบาททั่วไปมากมาย
ข้างๆกันมีเพื่อนบ้านเป็นบ้านสีเหลืองๆนี้ ก่อนถึงทางเข้าโครงการ
ทางเข้าโครงการจัดเป็นประตูเหล็กพร้อมป้อม รปภ. รักษาความปลอดภัย
ขอบเขตที่ดินโดยคร่าวๆของบ้านกลางเมืองลาดพร้าว 71 ขนาดประมาณ 5 ไร่เศษ มีทั้งสิ้น 49 หลังคาเรือน (แผนที่ด้านบนนี้ใช้อ้างอิงไม่ได้นะครับ แค่ลากให้เห็นพื้นที่รอบๆ) โดยจะมีแนวลำรางเล็กๆอยู่ติดอีกฟากหนึ่งของโครงการ
เจาะลึกตัวสินค้า
Main Gate นี้ถูกสร้างขึ้นโดยรวมป้อมรักษาความปลอดภัยเข้าไปข้างในด้วยเลย
ทางเข้ามีจุดให้แตะ Access Card ที่จะใช้เปิดประตูอย่างอัตโนมัติ
หากใครไม่มีการ์ดก็จะต้องแลกบัตรตามมาตรฐาน พร้อมกล้องวงจรปิดสองตัวจับทีคนขับและเลขทะเบียน แต่ถ้าจะเดินเข้าออกก็มีทางเล็กๆให้เดินได้ด้านข้าง ตรงนี้ผมติงว่าทางแคบไปหน่อยนะครับ
ขับเข้ามาปุ๊บก็จะถึงสวนส่วนกลางก่อนเลย เป็นสวนแห่งเดียวของโครงการบ้านกลางเมืองลาดพร้าว 71
เนื่องจากตัวโครงการมีขนาดเพียง 5 ไร่ จึงไม่มีสโมสรแยกต่างหาก แต่จะให้เก๋งมานั่งคลายร้อนอยู่ในสวนแทน
ฝั่งตรงข้ามสวนเป็นโซนบ้านตัวอย่าง ซึ่งปัจจุบันทำเป็นสำนักงานขายและห้องตัวอย่างบางส่วน
บริเวณในสวนช่วงนี้ก็ร่มรื่นดีนะครับ ตอนช่วงแดดแรงๆมานั่งอาจจะได้รับไอแดดร้อนไปหน่อย แต่ถ้าแดดร่มลมตกแล้วมานั่งก็จะเย็นสบาย
ตัวสวนและต้นใหม่ที่นำมาลงจัดว่าแน่นใช้ได้ มีความร่มรื่น ยิ่งด้วยสภาพแวดล้อมแปลงที่ดินที่ติดกันเป็นบ้านเดี่ยว มีต้นไม้เยอะ ก็จะทำให้ดูแออัดน้อยลงไปอีก
ตามทางเดินรถบนถนนขนาด 9 เมตร ก็ยังพยายามสร้างแนวต้นไม้ ทั้งไม้พุ่มและไม้ใหญ่ไว้โดยรอบ
ส่วนที่เป็นสวนบริเวณหน้าบ้านตัวอย่างนี้ต่อไปพอโครงการจะขายบ้านคงจะต้องรื้อออก สร้างรั้วและที่จอดรถให้แต่ละหลัง
สำนักงานขายกินพื้นที่สองหลังริมสุดนะครับ
บ้านรุ่นนี้จะเป็นบ้านรุ่น S SENSE ขนาด 20 ตารางวา หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีทั้งสิ้น 3 Types
Type A เป็นแบบที่มีห้องนอนใหญ่อยู่ชั้น 2 กินพื้นที่ทั้ง Floor เรียกว่าแบบ 2nd Floor Penthouse
Type B เป็นแบบที่มีห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง อยู่บนชั้น 2 และ 3 แต่จะกินพื้นที่ไม่เต็ม Floor เรียกว่าแบบ Double Master Bedroom
Type C เป็นแบบที่มีห้องนอนใหญ่อยู่ชั้น 3 กินพื้นที่ทั้ง Floor เรียกว่าแบบ 3rd Floor Penthouse
หลังจากเดินวนอยู่หน้าบ้านตัวอย่างสักพัก เราก็มานั่งรถรอบโครงการกันรอบหนึ่งนะครับ
โครงการนี้จะมีส่วนที่เป็นถนนโดยรอบ ทำให้หน้าบ้านของทุกหลังในโซนแรกไม่หันไปชนกับบ้านฝั่งตรงข้าม แต่จะหันเข้าหาแนวรั้วต้นไม้ ที่ประกอบด้วยไม้ใหญ่ตลอดทาง
ตรงนี้มีส่วนดีมากๆสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความร่มรื่น เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วเวลาเราไปซื้อทาวน์โฮมในโครงการ เราก็จะต้องหันหน้าเข้าหาบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้เราไม่ค่อยสะดวกใจเวลาจะเปิดหน้าต่างไว้โดยไม่ปิดม่าน เพราะเกรงสายตาของบ้านตรงข้ามครับ แต่เมื่อเป็นแบบนี้เราก็จะมองเห็นรั้วต้นไม้แทน ซึ่งจะดีกว่ามากๆ
บริเวณระหว่างตัวตึก Townhouse 1 ชุด ก็จะมีทางกลับรถเว้นช่องเอาไว้ … ตรงนี้จริงๆห้ามจอดรถนะครับ แต่ถ้าเป็นโครงการเก่าที่อยู่กันไปนานๆ ผมก็จะเห็นว่ามีคนเอารถมาจอดกันอยู่เรื่อย แล้วทีนี้ก็จะกลับรถไม่ได้ ต้องถอยเข้าถอยออกแทน
โครงการนี้ก่อสร้างแบบ Conventional ใช้อิฐมวลเบา ไม่ใช่ Precast ทำให้สามารถซื้อสองหลังแล้วทุบกำแพงเข้าหากันได้ โดยไม่กระทบกับโครงสร้าง
ส่วนสุดท้ายด้านหลังสุดก็จะเป็นบ้านโซนที่หันหน้าเข้าหาด้านข้างของทาวน์โฮมแปลงก่อนหน้า เรียกว่าไม่ได้หันระเบียงเข้ามาเจอกัน ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวได้ แม้ว่าจะไม่เท่ากับยูนิตที่หันออกไปยังรั้วต้นไม้ครับ
โครงการนี้เป็นโครงการเล็กๆมีทั้งสิ้น 49 หลัง เราขับรถวนแป๊ปเดียวก็รอบโครงการแล้ว เหมาะสำหรับคนที่ชอบอยู่แบบไม่พลุกพล่านครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ
- รั้วสูง 3 เมตร
- ประตูอัตโนมัติที่ Main Gate
- สัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic ทุกหลัง ทั้งโครงการ
- ถนนซอยกว้าง 9 เมตร
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate
Product Walkthrough
บ้านตัวอย่างแบบที่จะพาไปดูมีสองแบบด้วยกันนะครับ แบบแรกเป็นบ้านที่ตกแต่งแล้ว Type B ที่มีห้องนอน Master อยู่ชั้น 2 และชั้น 3
แบบบ้าน S-SENSE Type B ตัวบ้านหน้ากว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน บันไดพับขึ้นที่ด้านหน้า ช้ันล่างมีห้องน้ำแขก (ไม่สามารถอาบน้ำได้) ด้านหลังมีห้องครัวแยกส่วน ต่อกับลานซักล้างหลังบ้าน มีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 20 ตารางวา ซึ่งจะใหญ่กว่าแบบบ้านบ้านกลางเมืองอีกชุดหนึ่งซึ่งปลูกบนที่ดินขนาด 18 ตารางวา
บันไดที่พับขึ้นมาชั้น 2 ก็จะส่งตรงขึ้นมาที่ห้องนั่งเล่น Family Room ด้านข้างหลังห้องนอนใหญ่ที่กินพื้นที่ส่วนหน้าของบ้านและมีห้องน้ำในตัว
สุดท้ายชั้น 3 จะมีห้องนอนใหญ่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งก็คือห้องนอน 2 ขนาดเล็กกว่าห้องนอนชั้น 2 อยู่หน่อย และต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องนอนเล็กนะครับ
หน้าบ้านตัวอย่างจะไม่มีรั้วมาให้ ดังนั้นเราจะถ่ายบ้านจริงเปรียบเทียบไปด้วยพลางๆ บ้านจริงจะใช้ประตูพับแบบนี้ ซึ่งถ้าใครใช้จอดรถคันเดียวก็จะเหลือพื้นที่เอาไปทำสวนได้บ้าง แต่ถ้าจะใช้จอดรถ 2 คันก็จะแทบไม่มีที่เหลือ เพราะหน้าบ้านกว้าง 5 เมตรนะครับ
ก่อนขึ้นบ้านจะมีเฉลียงสั้นๆขนาดประมาณ 30 เซ็นติเมตร โดยใช้ประตูบานเลื่อนวัสดุเป็นอลูมิเนียมอบขาวและกระจกเขียวตัดแสง
บริเวณฝ้าหน้าบ้านติดตั้งโป๊ะไฟซาลาเปาไว้ 1 ตัว พร้อมกับกันสาดสีขาวแดงที่เอาไว้บังแดดบังฝนให้กับโรงรถ ให้เหมือนกันทุกหลังเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ตัวกันสาดไม่ได้เป็นแบบ Automaic นะครับ เป็นแบบมือหมุนแต่จะต้องใช้ขอเกี่ยว
ภายในบ้านตัวอย่างตกแต่งแนวหรูหรา เน้นพวกวัสดุมันวาวสะท้อนแสงกับสีโทนอ่อน โดยห้องนั่งเล่นมีความกว้าง 4 เมตร
แผงกั้นบันไดตรงนี้ไม่มีให้นะครับ บ้านตัวอย่างตกแต่งโดยทำผนังปูกระเบื้องลายหินซ่อนไฟด้านล่างทำให้ดูหรูกว่าปกติ
ส่วนของโซฟาก็ใช้โซฟาตัวยาวที่มีพังพิงด้านเดียว ให้นอนยืดขาได้เต็มที่ … ซึ่งถ้านอนดูทีวีแบบนี้มีโอกาสหลับคาโซฟาแน่นอน
ด้านหลังบ้านจัดเป็นโซนรับประทานอาหาร แต่งพื้นที่หลวมๆ แบบนี้ออกจะเปลืองพื้นที่ไปหน่อย ผมว่าถ้าทำตู้ด้านข้างซ้ายชิดผนังลึกไม่เกิน 60 ซม. จะได้พื้นที่เก็บของเพิ่มอีกเยอะเลย ในขณะที่ยังวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาดเท่าเดิม
บริเวณใต้บันไดมีห้องเก็บของ ซึ่งเปิดเป็นช่องประตูเอาไว้ตามนี้ ภายในเพดานจะลาดเอียงตามขั้นบันไดที่ขึ้นชั้นสอง ทำให้เก็บของได้ไม่มาก แต่ก็ไม่เป็นไรนะครับ ชั้น 2 มีห้องเก็บของอีกที่หนึ่ง
ระยะดูทีวีมองจากมุมสูงนะครับ จัดว่าสายๆและยังเหลือพื้นที่เดินอีกมาก
นั่งมองจริงๆจะเห็นว่าทีวีเล็กไปถนัดตา ถ้าจะเอาให้ชัดๆควรจะใช้ทีวีสัก 50-60 นิ้ว เป็นอย่างน้อย
ถัดมาด้านข้างห้องเก็บของจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำชั้นล่าง
ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ SCG แบบ Eco ประหยัดน้ำ มี Counter บางๆเอาไว้วางของได้เล็กน้อย แต่ทำขึ้นมาเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ไม่สามารถอาบน้ำได้นะครับ
โซนหลังของบ้านเป็นห้องครัว ซึ่งสามารถเปิดปิดได้และมีกระจกสีเขียวมาให้แผงหนึ่ง ทำให้มองเห็นคนที่อยู่ในครัว ไม่ตัดการเชื่อมต่อของคนที่ทำครัวกับคนที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะอาหาร
ชุดครัวบ้านตัวอย่างทำออกมาเหมือนกับชุดครัวที่ให้จริง โดยจะตัดอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆไปบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดลึกๆกันในบ้านจริงนะครับ
ขนาดของห้องครัวจัดออกมาใช้ได้ พอจัดของวางทุกอย่างลงไปแล้วยังเหลือพื้นที่กว้างประมาณ 1.5 x 1.5 เมตร สามารถทำอาหาร ยกอาหาร หมุนไปหมุนมาได้สบาย
พื้นห้องด้านล่างใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ต่อเชื่อมกับส่วนลานซักล้างหลังบ้าน
เปิดออกไปจะมี Step 1 ขั้นก่อนถึงพื้น ซึ่งของจริงไม่ได้ปูหญ้าเทียมแบบนี้นะครับ
หลังบ้านมีปั๊มน้ำและแทงก์น้ำเตรียมไว้ให้ใช้งานเรียบร้อย
ก่อนจะขึ้นไปข้างบนเรามาดูงานฝ้านะครับ บ้านตัวอย่างนี้ตกแต่งใหม่ทั้งชุดไม่เหลือเค้าโครงเดิม เป็นฝ้าดรอป ซ่อนไฟและฝังแอร์แบบ Cassette Type ติดหลอด Halogen ด้วย ซึ่งไม่ใช่ของที่เราจะได้พร้อมกับบ้านนะครับ
เราเดินมาที่บันไดกันก่อน พบว่าชานบันไดตรงนี้เป็นขั้นสี่เหลี่ยมเต็ม พื้นเป็นไม้ประกอบสีอ่อนๆหน่อย
ที่บริเวณผนังก่อนขึ้นบันไดจะมีกล่องควบคุมสัญญาณกันขโมยอยู่ สามารถกดรหัสตั้ง Alarm หรือปลดล็อคได้
ตรงนี้เป็นเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว และ Magnetic ที่บานประตู ถ้ามีการเปิดออกโดยที่ไม่ได้ปลดล็อคสัญญาณกันขโมย ก็จะดังไปทั่วหมู่บ้านเลยละครับ
เดินขึ้นไปชั้นสอง จุดแรกที่จะเห็นก็คือห้องเก็บของทางขวา ซึ่งมีที่ให้เก็บเพิ่มเติม ใต้บันไดชั้น 2 ที่จะขึ้นไปยังชั้น 3 เรียกว่ารีดพื้นที่ออกมาใช้ทุกเม็ด
ห้องนั่งพักผ่อนด้านหลังจัดทำเป็น Studio ห้องหนังสือเล็กๆ เอาไว้นั่งๆนอนๆดูทีวีอ่านหนังสือสบายๆ
ระยะดูทีวีก็ได้อยู่ ถ้าใครมีลูกจะให้เป็นห้องนั่งเล่นเกม ดูทีวี ของลูกๆก็ยังได้อยู่ครับ เพราะตรงนี้จะใกล้ห้อง Master ของพ่อแม่ด้วย
ระหว่างทางที่เชื่อมต่อกับห้องนอนใหญ่ก็จะมีห้องน้ำ ซึ่งจริงๆตรงนี้เป็นห้องน้ำที่อยู่ด้านในห้องนอนใหญ่นะครับ แต่พอดีเป็นบ้านตัวอย่างเขาเลยเอาประตูออกไป
วัสดุภายในอัพเกรดจากห้องน้ำด้านล่างขึ้นมา 1 ขั้น ได้โถสุขภัณฑ์ชิ้นใหญ่และซิงก์พร้อมที่ใส่ของด้านล่าง
มีกระจกบานใหญ่ ปลั๊กกันน้ำและ Counter วางของให้ด้วย
สุขภัณฑ์พร้อมที่ฉีดชำระ
ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower พร้อมก๊อกน้ำด้านล่าง
ห้องนอนใหญ่ขนาดโอเค เน้นแนวลึกมากกว่าแนวกว้าง
โดยชุดโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งจะสามารถตั้งไว้ชิดผนังอีกฝั่งหนึ่งได้ ด้วยความลึกของห้องที่เท่ากับขนาดหน้าบ้าน ห้องนี้จะลึก 5 เมตรเลยล่ะ
ด้านข้างห้องก็จะทำระเบียงขนาดใหญ่ กับหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้แสงเข้ามาได้เต็มๆ
ขนาดระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม. พอจะตากผ้าได้ แต่คงจะไปใช้นั่งเล่นไม่ได้
ริมเตียงวางเป็นตู้เสื้อผ้าได้ทั้งแถบ น่าจะเพียงพอระดับหนึ่ง แต่ถ้าใครสมบัติเยอะจริงๆ ก็สามารถกั้นห้องนั่งเล่นด้านนอกเป็นห้องแต่งตัวได้ด้วยนะครับ
ระยะดูทีวีไกลหายห่วง มีแต่จะเล็กไปมองไม่ถนัดตา
ขึ้นชั้น 3 บันไดก็ทำเป็นชานพักสี่เหลี่ยมเต็มขั้นทั้งหมด ดีนะครับที่ไม่ได้ทำแบบขั้นสามเหลี่ยมเลย ช่วยเรื่องความปลอดภัยได้เยอะ
จากชั้น 3 มองลงไปจะเห็นโคมไฟกิ่งและช่องแสงด้านข้าง ที่สามารถดูดแสงเข้ามาได้จากด้านข้าง ทำให้ห้องดูไม่ทึบ … ตรงนี้ไม่ต้องเป็นห้องมุมก็มีช่องแสงทุกห้องนะครับ เพราะจุดที่เปิดช่องแสงออกไปคือส่วนที่วางคอมเพรสเซอร์หลังห้องนอนเล็ก ทำให้ทาวน์โฮมห้องกลางก็ได้ช่องแสงด้านข้างเหมือนกัน
ห้องนี้แสงสวยดี เป็นห้องนอนเล็กที่บอกว่าด้านหลังมีที่วางคอมเพรสเซอร์อยู่
ฟังก็ชั่นต่างๆครบ โต๊ะการบ้าน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางหนังสือ เตียงแบบ 3.5 ฟุต และโต๊ะข้างเตียง
ห้องน้ำชั้นบนใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอน 2 และ 3 แต่อ่างล้างมือจะไม่ได้เป็นแบบที่มี ตู้ Built-in มาให้เหมือนห้องน้ำ Master
เราไปดูห้องนอน 2 กันบ้าง เป็นห้องนอนใหญ่อีกห้องหนึ่งที่วางอยู่หน้าบ้าน ขนาดไม่ได้ด้อยไปกว่าห้องนอน Master สักเท่าไร
จะต่างกันตรงที่แคบกว่าเล็กน้อยและไม่มีห้องน้ำในตัว
ยังวางเตียง King Size ได้ แต่ผมว่าถ้าวางเตียงเล็กกว่านี้ ก็จะมีพื้นที่ให้ทำตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้อีกนะครับ
ด้านข้างมีระเบียงออกไปได้เช่นกัน
มองออกไปจากชั้น 3 จะเห็นสภาพโครงการทั่วๆ
บริเวณหน้าสวนมีหม้อแปลงไฟฟ้าด้วย ดีที่ไว้ตรงนี้จะได้ไม่ไปอยู่ติดกับบ้านหลังใดหลังหนึ่ง
ด้านนอกตีฝ้าวางโคมไฟซาลาเปาแบบนี้ ใช้โทนสีไม้ๆดูอบอุ่นดี
สุดท้ายเรามาดูบ้านตัวอย่าง Type A กันอีกแบบ
ห้องด้านล่างที่จะได้ เราจะได้แบบนี้ ดูกว้างกว่าบ้านตัวอย่างนะครับ เพราะว่าไม่ได้ Build ผนังตรงบันไดขึ้นมา
ห้องเก็บของและห้องน้ำ
ประตูครัวที่บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดไว้
ชุดครัวที่ให้เป็นแบบนี้เลย
เตาแก๊สของ MEX พร้อมลิ้นชัก
เครื่องดูดควันของ MEX
ซิงก์แบบฝังเป็นชิ้นเดียวกับท๊อปลามิเนต
หน้าบาน Hi-Gloss สีเทา มือจับสแตนเลส ดูสวยงามดี
ลานซักล้างหลังบ้านที่ได้จะเป็นแบบนี้ ไม่มีหญ้าเทียม
เช่นเดียวกับแทงก์น้ำ ปั๊มน้ำ และราวเหล็กแบ่งเขตเรากับเพื่อนบ้าน
ห้องนอนต่างๆจะไม่มี Wallpaper และผ้าม่าน มาให้ มีเฉพาะแอร์แบบ Wall Type เท่านั้น
ห้องนอน Master Bedroom ของ Type A จะกินพื้นที่ทั้ง Floor มีห้องน้ำใหญ่อยู่ด้านหลัง และสัดส่วนที่สามารถกันเป็น Walk-in Closet ได้
ห้องนอนจะใหญ่กว่า Type B ที่เราพาไปดูบ้านตัวอย่างมาราวๆเท่าตัว แต่จะไม่มีห้องนั่งเล่นชั้น 2 นะครับ นอกนั้นชั้น 3 ก็จะคล้ายๆกันไม่มีอะไรแตกต่าง
ภาพถ่ายจากชั้น 3 ให้เห็นสวนและ Surroundings ข้างๆ
ถ่ายย้อนไปที่ปากซอยทางเข้าโครงการครับ
Price vs Performance
- แปลงมาตรฐาน 20 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 40,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 70 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของโครงการบ้านกลางเมืองลาดพร้าว 71 นี้ตั้งอยู่บนถนนนาคนิวาส ลึกเข้าไปจากซอย 34 นิดเดียว ซึ่งปากทางเข้าซอย 34 ก็มีป้ายบ้านกลางเมืองอยู่ด้วย จึงดูเหมือนว่าเป็นโครงการติดริมถนนใหญ่ สภาพแวดล้อมและทำเลด้านข้างเคียงจัดว่าดี เพราะเป็นโครงการที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านเดี่ยวไม่มีตึกสูงหรือโรงงานในระยะประชิด ทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวและยังคงความเป็นเขตที่อยู่อาศัยเอาไว้ได้
บริเวณถนนนาคนิวาสนี้จัดเป็นทำเลที่อยู่ในช่วง Transition จากบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม กลายเป็นทำเลของคอนโดมิเนียมและโฮมออฟฟิศ ด้วยเพราะสาเหตุหลักๆเรื่องความกว้างของถนน 4 เลน และการเจริญเติบโตของชุมชนรอบข้างที่เป็นไปในทิศทางดีขึ้น พัฒนาจนพร้อมสมบูรณ์ โดยมีโปรเจคคอนโดมิเนียม และ Home Office มาเปิดโครงการได้ ทำให้อนาคตของทำเลนี้โครงการแนวราบเชิงที่อยู่อาศัยจะค่อยๆหายไป และ/หรือ มีราคาแพงขึ้นตามลำดับ
เช่นเดียวกันกับ “บ้านกลางเมือง” หลายๆโครงการที่ผ่านมาและโครงการหมู่บ้านจัดสรรอื่นๆในช่วง 10 ปีนี้ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนประชากรและยกระดับให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นเขตชุมชน แต่ด้วยราคาที่ดินที่แพงขึ้นและต้นทุนค่าก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น ทำให้ราคาขายของบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้นขยับขึ้นเรื่อยๆ จาก 3-4 ล้าน จนมากลายเป็น 5-6 ล้านอย่างในปัจจุบัน ซึ่งถ้าถามว่าแพงไหม ก็ต้องตอบตรงๆว่าแพงขึ้นจากสมัยก่อนพอควร แต่ก็สะท้อนราคาปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ที่จะกลายเป็นทำเลคอนโดไปเสียหมด
ความปลอดภัยของโครงการนี้จัดมาได้โอเค มีป้อมยาม ประตูเหล็กที่แข็งแรงกว่าไม้กระดก พร้อมกับระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติด้วย Access Card ทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าจะไม่มีรถรับจ้างมั่วซั่ววิ่งเข้ามาในโครงการ ส่วนตัวหมู่บ้านนั้นเป็นหมู่บ้านขนาดย่อม มีเพียง 49 หลัง ซึ่งจะดูแลรักษาความปลอดภัยได้ง่ายกว่าหมู่บ้านขนาดใหญ่ แปลงตรงกลางที่ล้อมรอบด้วยถนนไม่ติดรั้วโครงการนั้นเป็นจุดที่ปลอดภัยขึ้นอีกขึ้น ไม่มีมุมอับให้ปีนขึ้นหลังบ้าน และถึงมีโจรผู้ร้ายจริงก็ยังมีระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic ที่ติดตั้งให้ที่บานประตูหน้าบ้านชั้นที่ 1 และหน้าต่างหลังบ้านครบทุกชั้น คอยส่งเสียงเตือนภายได้อีกชั้น
แบบบ้าน S-SENSE ขนาด 167 ตารางเมตร ของ AP จัดเป็นแบบบ้านของบ้านกลางเมืองที่ลงตัวกว่าแบบ 149 ตารางเมตร 18 ตารางวาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีพื้นที่ในชั้นต่างๆให้ใช้สอยได้ดี ครัวจัดมาพอเพียง ห้องนอนมีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบ Type A-B-C ที่มีห้องนอนใหญ่หลายๆแบบตาม Life Style ของแต่ละครอบครัว แต่ข้อเสียก็คือจะเป็นแบบบ้านที่ต้องตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ตารางวา และมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า ทำให้ต้นทุนสูงกว่า สะท้อนถึงราคาขายที่สูงกว่าแบบบ้านรุ่น 149 ตารางเมตรในหลายๆโครงการ เช่น บ้านกลางเมือง พระราม 9 – รามคำแหง ที่เราพึ่งไปรีวิวมานะครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการจัดว่าสะอาดสะอ้าน ดูไม่รกหูรกตา ต้นไม้ใหญ่เยอะเพราะวางฟุตบาทที่สามารถปลูกต้นไม้ได้ไว้รอบรั้วโครงการ ทำให้ดูแล้วเขียวกว่าโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นทั่วไปที่มีการวางบ้านอยู่สองฟากของถนน แต่ด้วยโครงการที่มีขนาดเล็กเพียง 5 ไร่เศษ สวนส่วนกลางจึงมีขนาดเล็ก คิดเป็น 5% ของพื้นที่ทั้งหมดของโครงการตามกฎหมายจัดสรร (100 ตารางวา)
สาธารณูปโภคต้องบอกว่ามีน้อย เพราะโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก ไม่มีสโมสร สระว่ายน้ำหรือฟิตเนส ตามมาตรฐานของบ้านกลางเมืองในระดับราคา 5 ล้านขึ้นไปนะครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5 – 7 ล้านบาท, 7 March 2013
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – เกือบติดถนนนาคนิวาส
- ความปลอดภัย 8.5/10 – ประตูเหล็กเปิดอัตโนมัติ, ป้อมรักษาความปลอดภัย, สัญญาณกันขโมยทุกหลัง, Access Card
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบบ้านรุ่นที่เป็นมาตรฐานของ AP
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – แม้ว่าโครงการจะเล็ก แต่ก็มีต้นไม้ใหญ่โดยรอบ
- สาธารณูปโภค 6/10 – ไม่มีสโมสร สระว่ายน้ำ และฟิตเนส
- UPPER CLASS
- 7.7 / 10.00
BOTTOM LINE
บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 71 เป็นโครงการที่มีขนาดเล็ก มีความเป็นส่วนตัวสูง เกือบติดถนนใหญ่นาคนิวาส สำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณ 6 ล้านบาทหรือกำลังผ่อนต่อเดือน 45,000 บาทขึ้นไป
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
