รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.466 – รีวิวทาวน์โฮม Urbanio วิภาวดี – แจ้งวัฒนะ
13 ตุลาคม 2019
รีวิวฉบับที่ 1913 … สวัสดีค่ะ วันนี้ได้มีโอกาสพาทุกคนมาชมโครงการ Urbanio วิภาวดี-แจ้งวัฒนะ เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 ไม่ไกลจากศูนย์ราชการ โครงการมี Clubhouse 2 ชั้นและพื้นที่สีเขียวมาให้เกือบ 1 ไร่ เนื่องจากตัวบ้านมี 3 ชั้นจึงได้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ และมีหน้ากว้าง 5.5 เมตร จอดรถได้ 2 คันสบายๆ แถมมีชุด Built-in ครัวมาให้ทุกยูนิต ในราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท เราไปชมกันเลยค่ะ
Fact @ 25 JULY 2019
- Urbanio Vibhavadi – Chaengwattana (เออร์บานิโอ วิภาวดี – แจ้งวัฒนะ)
- บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
- เนื้อที่โครงการ 22-2-46.5 ไร่ จำนวน 221 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 20.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท - ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1, 2 – 2.60 เมตร / ชั้น 3 – 2.80 เมตร (ห้องด้านหน้า)
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 155,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2562
- คาดว่าแล้วเสร็จเฟส 1 ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2562
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ n/a
- เปิดขายรอบ VIP : 20 – 21 ก.ค. 2562
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02 316 2222
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.896179, 100.578599
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Urbanio วิภาวดี-แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 9-1 ซึ่งสามารถเข้าได้จากถนนหลักทั้ง 2 ฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นจากถนนแจ้งวัฒนะ เข้ามาทางซอยแจ้งวัฒนะ 10 หรือจากถนนวิภาดีรังสิต เข้ามาทางซอยกำแพงเพชร 6 ซอย 5 ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางสะดวกพอสมควรเลยค่ะ และในย่านนี้เองก็มีการเจริญเติมโตอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่จำนวนผู้เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ มีแหล่งงานทั้งราชการและเอกชน อาคารสำนักงาน รวมไปถึงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็จัดว่าครบครันเพราะมีห้างสรรพสินค้าอยู่ไม่ไกลเลย
ทำเลของโครงการนี้ถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจ นอกจากอยู่ใกล้กับจุดตัดของถนน 2 เส้นหลักแล้ว ยังอยู่ไม่ไกลจากทางยกระดับอุตราภิมุข หรือที่เรียกกันว่าดอนเมืองโทลล์เวย์นั่นเอง สามารถใช้เข้าเมืองได้สะดวก และเป็นจุดที่จะมีรถไฟฟ้า Interchange 2 สายด้วยค่ะ
ในอนาคตจะมีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามาเป็นตัวเลือกให้ได้ใช้งานนั่นก็คือ รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต และรถไฟฟ้าสายสีชมพู บนถนนแจ้งวัฒนะ ช่วยให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองและเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวกมากขึ้น โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือสถานีหลักสี่ ซึ่งเป็นสถานี Interchange ระหว่างสายสีแดงและสายสีชมพู ห่างจากโครงการราวๆ 1.80 กิโลเมตร
สถานที่สำคัญในละแวกนี้ จะเน้นไปที่ถนนแจ้งวัฒนะเป็นหลัก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนย่านนี้เลยค่ะ จะมีสถานที่ทำงานใหญ่อย่างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, บริษัท TOT สำนักงานใหญ่ มีห้างสรรพสินค้าอย่าง เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ นอกจากนั้นยังมี Big C , Lotus , The Avenue , แม็คโคร และ IT Square ค่อนข้างครบครันเลย และก็ยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองทองธานี ซึ่งเป็น Hub ของคนในย่านนี้ ภายในมีทั้งศูนย์แสดงสินค้า สถานที่จัดคอนเสิร์ตและห้างเปิดใหม่อย่าง Cosmo Bazaar ค่ะ
เส้นทางที่เราจะพาไปโครงการวันนี้ เริ่มจากทางยกระดับอุตราภิมุขนะคะ เนื่องจากโครงการอยู่ไม่ไกลจากทางด่วน ลงมายังทางคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิต และเลี้ยวเข้าถนนกำแพงเพชร 6 เข้าซอยกำแพงเพชร 6 ซอย ไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะเจอโครงการทางด้านขวามือค่ะ เราไปชมภาพการเดินทางเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นกันค่ะ
เริ่มจากบนทางด่วนอุตราภมุข มาจากดินแดงมุ่งหน้าไปยังแจ้งวัฒนะค่ะ
ขับมาเรื่อยๆจะเจอกับทางออกหลักสี่-แจ้งวัฒนะ ให้เราออกที่ทางออกนี้โดยชิดซ้ายไว้ค่ะ
ลงมาเราจะอยู่บนถนนทางคู่ขนานวิภาวดีรังสิต ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ
ตรงมาแล้วให้อยู่เลนกลางไว้ค่ะ
ขับตรงผ่านแยกถนนแจ้งวัฒนะไปก่อน ใครที่ไม่ชินทางนักอาจจะเผลอไปติดรถที่เลี้ยวเข้าถนนแจ้งวัฒนะนานเลยค่ะ
ข้ามแยกมาแล้วให้เตรียมชิดซ้าย ตรงนี้เราจะสังเกตเห็นสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ด้วย
เมื่อชิดซ้ายมาแล้วจะเจอกับทางแยกให้เราชิดซ้ายไปใช้ถนนด้านในค่ะ
ตรงมาหน่อยจะเจอกับรางรถไฟ ให้เลี้ยวขวาข้ามรางรถไฟเพื่ออยู่บนถนนกำแพงเพชร 6
ข้ามทางรถไฟมาแล้วให้เลี้ยวขวา ป้ายสีส้มข้างทางจะเขียนว่าไปทางดอนเมืองค่ะ
ตรงมาไม่ไกลนักก็จะเจอกับซอยกำแพงเพชร 6 ซอย 5 หรือจะเห็นป้ายเขียนว่าซอยโกสุมให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยค่ะ
ตรงมาอีกนิดจะมีจุดสังเกตคือ 7-Eleven ให้เราเลี้ยวเข้าซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 9 ด้านข้าง 7-Eleven นั่นเอง
เข้ามาแล้วก็จะเจอกับแยก 9-1 ให้เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ จะมีป้ายเล็กๆเขียนว่าสามารถไปแจ้งวัฒนะ 14 ได้
บรรยากาศในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยสลับกับพื้นที่โล่งสีเขียว ใกล้จะถึงโครงการแล้วค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับทางเข้าโครงการ Urbanio ทางด้านขวามือ
เรามาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันสักนิดค่ะ รอบโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น จะมีที่ดินเปล่าอยู่บางจุด เช่น ทิศเหนือ บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างสงบ แต่ก็มีรถสัญจรไป-มาอยู่เรื่อยๆนะคะ โดยทางโครงการได้ทำทางเข้า-ออกให้ติดกับซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 9-1 โดยไม่ต้องเข้าซอยย่อย (เส้นสีเหลือง) และยกที่ดินส่วนหน้าให้เป็นที่สาธารณะ เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายในซอยย่อยได้ใช้ร่วมด้วยค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูงประมาณ 2 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย สูงประมาณ 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูงประมาณ 2 ชั้น, ร้านอาหารด้านหน้าโครงการ
ฝั่งซ้ายทางทิศเหนือ ติดกับบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
ส่วนฝั่งขวา ทางทิศใต้ ติดกับร้านอาหารทับสะแก ขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งสามารถเดินออกจากโครงการมากินได้สะดวกค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับโครงการ หันไปทางทิศตะวันตก เป็นพื้นที่ดินเปล่า
ทางเข้าด้านหน้าโครงการ เป็นถนนกว้างประมาณ 14 เมตร ที่ยกให้เป็นถนนสาธารณะค่ะ
เข้ามาแล้วจะเจอกับซอยย่อยทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งเป็นซอยตัน ถัดจากซอยย่อยจึงจะเป็น Gate ทางเข้าโครงการค่ะ
บรรยากาศในซอยฝั่งซ้าย (ทิศเหนือ)
บรรยากาศในซอยฝั่งขวา (ทิศใต้)
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ถนนกำแพงเพชร 6 1.2 กม.
- ไอที สแควร์ 1.7 กม.
- ถนนแจ้งวัฒนะ 1.7 กม.
- รถไฟฟ้าสถานีหลักสี่ (สายสีแดง) 1.8 กม.
- ทางด่วนโทลล์เวย์ดอนเมือง 2.0 กม.
- โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ 2.9 กม.
- โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 3.1 กม.
- บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ 3.3 กม.
- เทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะ 4.0 กม.
- ท่าอากาศสนามบินดอนเมือง 4.0 กม.
- โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5.5 กม.
- เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ 7.4 กม.
โครงการ Urbanio วิภาวดี-แจ้งวัฒนะ มีทางเข้า-ออกอยู่บนซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 9-1 ที่ดินของโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทางเข้าด้านหน้าเป็นถนนสาธารณะกว้างประมาณ 14 เมตร เข้ามาจะเจอกับซอยย่อย ถัดไปจึงจะเป็นทางเข้าหลักของโครงการค่ะ ซึ่งจะมีประตูทางเข้า 2 จุด เข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับวงเวียนด้านหน้าให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาจากต้นไม้ใหญ่ มองเห็น Clubhouse อยู่ตรงกลาง เป็นส่วนต้อนรับ และถนนตรงกลางโครงการจะได้เกาะกลางปลูกต้นไม้มาให้ ช่วยให้บ้านแปลงมุมที่อยู่รอบๆได้ความสดชื่นจากต้นไม้และมองไม่เห็นบ้านผังตรงข้ามโดยตรงค่ะ และเนื่องจากที่ดินเป็นแนวยาวมีส่วนกลางอยู่ค่อนมาทางทิศเหนือทำให้บ้านที่อยู่ฝั่งทิศเหนือจะสามารถเดินมาใช้ส่วนกลางได้ง่าย ส่วนบ้านที่อยู่ทิศใต้จะอยู่ค่อนข้างลึกไกลจากส่วนกลาง แต่จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ ถนนซอยย่อยกว้าง 9 เมตร ซึ่งแต่ละซอยจะไม่ลึกมากทำให้ยูนิตแต่ละซอยไม่เยอะ มีความเป็นส่วนตัว หน้าบ้านจะหันไปตามแนวทิศเหนือ-ใต้ทำให้แดดไม่ส่องเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง จึงไม่ร้อนค่ะ บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ
เริ่มที่ทางเข้าของโครงการกันเลยค่ะ ด้านหน้ามีป้ายโครงการมองเห็นได้ชัดเจนจากภายในซอย ถนนด้านหน้าโครงการกว้างประมาณ 14 เมตร รถสามารถขับสวนกันได้สบายๆแม้มีรถจอดอยู่ด้านข้างค่ะ ถนนด้านหน้านี้ทางโครงการได้ยกให้เป็นสาธารณะเพื่อทำเป็นทางเข้าหลักค่ะ
ผ่านซอยย่อยมาแล้วจะเจอกับทางเข้า Gate แรกเป็นประตูบานเปิดอัตโนมัติทั้ง 2 ฝั่ง สำหรับลูกบ้านจะเป็นระบบ Easy Pass สามารถขับเข้าไปได้เลย ส่วนแขกจะต้องรถเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกดปุ่มเปิดประตูให้ค่ะ
เข้ามาแล้วจะเจอกับ Gate ที่ 2 เป็นป้อมรักษาความปลอดภัย อยู่ในตำแหน่งด้านหน้าโครงการเหมือนกัน ซึ่งปกติแล้วเรามักจะเห็นที่อื่นแบ่งอยู่ด้านหน้าโครงการ 1 จุด อีก 1 จุดที่ Facility ค่ะ ในแง่ของการใช้งานของโครงการนี้จึงไม่แตกต่างจากมี Gate เดียวมากนัก ถ้ามีเจ้าหน้าที่อยู่ทั้ง 2 จุดจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นได้ค่ะ
ทางเข้าบริเวณป้อมยามจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ด้านซ้ายมือเป็นทางเข้าของลูกบ้าน ระบบ Easy Pass และฝั่งขวาสำหรับแขก จะต้องแลกบัตรก่อนค่ะ ตรงนี้มีข้อดีคือเวลาที่มีคนเข้าโครงการพร้อมๆกัน ลูกบ้านจะสามารถเข้าโครงการได้เลยโดยไม่ต้องรอแขกค่ะ
ตัวรับสัญญาณ Easy Pass และมีกล้อง CCTV ให้บริเวณด้านหน้าโครงการ
เข้ามาแล้วจะเจอกับวงเวียนมีต้นไม้ใหญ่ตรงกลาง และมองเข้าไปเห็น Clubhouse เลยค่ะ
ถนนทางเข้าบริเวณ Clubhouse มีขนาดใหญ่ประมาณ 14 เมตร สามารถจอดรถด้านข้างได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
ที่จอดรถจะมีเส้นแบ่งให้ สำหรับแขกหรือลูกบ้านที่ขับรถออกมาใช้ Clubhouse ค่ะ
ถนนย่อยของโครงการส่วนแรกจะมีเกาะกลางปลูกต้นไม้มาให้ ช่วยให้บรรยากาศสดชื่นมากขึ้น
ในซอยย่อยจะมีถนนที่กว้าง 9 เมตร ขับรถสวนกันได้สบายๆค่ะ
เรามาดูส่วน Clubhouse กันบ้างค่ะ พื้นที่ส่วนกลางที่ลูกบ้านสามารถมาใช้งานได้จะถูกรวมไว้ที่นี่จุดเดียวเลยนะคะ ด้านหน้ามีสนามหญ้าขนาดใหญ่ รวมพื้นที่สีเขียวแล้วประมาณ 3 งานค่ะ
รอบๆสนามหญ้าจะมี Step ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้เป็นระยะๆ ในอนาคตเมื่อต้นไม้โตขึ้นกว่านี้อีกนิดจะให้บรรยากาศที่ร่มรื่นมากขึ้นค่ะ
ทางขึ้นสนามหญ้าจะมีบันไดและทางลาดมาให้สำหรับพาผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นมาสูดอากาศยามเช้า หรือตอนเย็นๆ และใช้ Facility ที่ Clubhouse ได้ค่ะ
ด้านหน้า Clubhouse สูง 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำอยู่ชั้นล่าง พร้อมกับห้องน้ำ และห้องนิติบุคคล ส่วนชั้นบนจะเป็นพื้นที่ Fitness ค่ะ
ด้านข้างสระว่ายน้ำมีบ่อน้ำพุมาให้ ช่วยเพิ่มเสียงน้ำเป็นสีสันให้กับสระว่ายน้ำมากขึ้น
ส่วนทางขึ้น Clubhouse จะอยู่ที่ด้านข้างนะคะ เราไปดูกันเลยค่ะ
ขึ้นมาแล้วจะเจอกับห้องนิติบุคคลทางด้านขวามือ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขาย ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นสระว่ายน้ำนั่นเองค่ะ
บริเวณสระว่ายน้ำจะมีที่นั่งพักคอยพร้อมหลังคามาให้ วันที่ผู้เขียนไปเก็บภาพช่างยังทำหลังคาไม่เสร็จดีนะคะ ใครไปชมโครงการมาแล้วถ่ายภาพมาอัพเดทกันได้ที่คอมเม้นต์ด้านล่างเลยค่ะ ตรงนี้ถ้าเป็นหลังคาทึบหน่อยก็จะช่วยบังแดดได้พอสมควรเลย
สระว่ายน้ำที่เราเห็นอยู่นี้เป็นสระระบบเกลือ ยาวประมาณ 15.00 x 5.50 เมตร ลึก 1.20 เมตร มีชานนั่งพักให้อีกจุดที่ด้านข้างสระด้วยค่ะ สามารถใช้เป็นที่นั่งชมวิวดูเด็กๆวิ่งเล่นที่สนามหญ้าได้เหมือนกัน
มุมมองจากอีกฝั่งของสระว่ายน้ำ จะเห็นว่ามีบันไดทางลงอยู่ตรงนี้ด้วยนะ
ด้านข้างมีสระเด็กแยกมาให้ ขนาดประมาณ 3.00 x 2.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร บ้านไหนมีเด็กก็พามาเล่นน้ำกันได้ทั้งครอบครัวเลย
จากสระว่ายน้ำจะมีทางเดินทะลุไปอีกฝั่งซึ่งเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่นค่ะ
สนามเด็กเล่นที่นี่มีเครื่องเล่นค่อนข้างน่ารักทีเดียวค่ะ พื้นปูเป็นพื้นรองรับแรงกระแทกช่วยลดการบาดเจ็บเมื่อเกิดการหกล้ม ผู้เขียนลองไปเดินดูแล้วนุ่มมากค่ะ รอบๆข้างเขาก็มีต้นไม้ใหญ่ปลูกให้โดยรอบ ให้บรรยากาศสดชื่น ผ่อนคลาย
มีเครื่องเล่นเป็นบ้านมีที่ปีนป่าย และสไลด์เดอร์ เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เด็กๆได้ออกกำลัง
อีกฝั่งเป็นม้านั่งโยกมีมาให้ 3 ตัวสำหรับเด็กเล็กลงมาหน่อยค่ะ
นอกจากนั้นใกล้กับสนามเด็กเล่นก็มีสวน และทางเดินสำหรับวิ่ง Jogging รอบๆสนามหญ้าได้ค่ะ
บรรยากาศบริเวณสนามหญ้าเมื่อมองไปยังบ้านพักอาศัย
เราไปดูพื้นที่ชั้น 2 ของ Clubhouse กันค่ะ
ด้านบนจะเป็นพื้นที่ Fitness ซึ่งเราได้ไปตอนที่ยังไม่มีเครื่องเล่นมาลงนะคะ จากขนาดห้องสามารถจุเครื่องเล่นได้ประมาณ 8 – 10 เครื่องเลย
รอบๆห้องส่วนใหญ่เน้นหน้าต่างบานกระจกให้สามารถมองเห็นวิวขณะออกกำลังกายได้ และรู้สึกโปร่งสบายไม่อึดอัดค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาดประมาณ 5.50 x 15.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร และมุม Jacuzzi
- แบ่งสระเด็กลึกขนาด 2.00 x 3.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร
- ห้องออกกำลังกายใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 – 10 เครื่อง
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 300 ตารางวา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ n/a จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.50 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 14.00 ม. และถนนภายในกว้าง 9.00 ม.
- Easy Pass Access
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและ รั้วเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
แบบบ้านของโครงการนี้มีแบบเดียวนะคะ คือทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร มีพื้นที่ใช้สอย 180 ตารางเมตร บนที่ดินเริ่มต้นที่ 20 ตารางวาค่ะ ภายในบ้าน ชั้น 1 จะมีที่จอดรถด้านหน้า สามารถจอดได้ 2 คันสบายๆค่ะ เข้ามาในตัวบ้านจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร ลึกประมาณ 6.5 เมตร มีส่วนครัวและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนฝั่งซ้ายมือ สามารถกั้นเป็นพื้นที่ครัวปิดได้ค่ะ และที่นี่ให้ชุด Built-in ครัวมาให้ด้วยนะคะ ซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นโครงการบ้านที่ทำเคาน์เตอร์ครัวมาให้กันซักเท่าไร พื้นที่ด้านหลังบ้านเป็นลานซักล้างกว้าง 2 เมตร จากรั้วเป็นโครงสร้างวางบนคาน มีถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำมาให้ค่ะ ชั้น 2 มีห้อง Master Bedroom เพียงห้องเดียว ยาวตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงหลังบ้านเลย ภายในห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัว และสุขภัณฑ์ที่อัพเกรดจากห้องอื่นๆ พร้อม Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนทำให้ใช้งานสะดวกค่ะ ตรงโถงทางเดินหน้าห้องจะได้ระเบียงทั้งข้างหน้าและหลังบ้านเลย ทำให้แสงเข้ามาในบ้านได้มาก สว่างพอดีในเวลากลางวัน ชั้น 3 เป็นชั้นที่มีห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำใช้ร่วมกัน 1 ห้อง โดยห้องนอนฝั่งด้านหน้าบ้านจะมี Walk-in Closet แยกมาให้ด้วยค่ะ
มาเริ่มกันที่ด้านหน้าตัวบ้านก่อนนะคะ ภายนอกอาคารจะใช้โทนสีเทา เน้นเข้มบริเวณขอบหน้าต่างให้ดูเด่นขึ้นมา หน้าต่างบริเวณห้องนอนจะเป็นบานกระจก 3 ตอนแนวสูงทำให้อาคารดูมีความชะลูดขึ้น ส่วนราวกันตกบริเวณระเบียงจะใช้เป็นลูกกรงอลูมิเนียมสีดำเข้ากันกับรั้วค่ะ ส่วนโครงสร้างของบ้านเป็น Pre-Cast สามารถกั้นผนังเพิ่มเติมได้แต่ไม่สามารถทุบได้นะคะ
รั้วบ้านเป็นรั้วอลูมิเนียมเคลือบสีดำน้ำหนักค่อนข้างเบาค่ะ แบ่งเป็นบานเลื่อนเปิด 2 ด้าน โค้งที่มุมทำให้ สามารถเลื่อนเข้าไปเก็บในตัวบ้านได้ทั้งหมดทำให้มีระยะที่จอดรถได้เต็ม 5.5 เมตรตามขนาดหน้ากว้างของบ้านเลยค่ะ ไม่เสียพื้นที่ระยะด้านหน้าประตูเหมือนกับบานเฟี้ยมทั่วไป ถือว่าใช้งานได้สะดวกเลย
ด้านข้างรั้วจะมีกริ่งติดตั้งมาให้ ส่วนกล่องไปรษณีย์จะมีมาให้ที่ประตูรั้วบ้านนะคะ
ด้านหน้าตัวบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถ กว้างประมาณ 5.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน พื้นจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก On Ground นะคะ มีเว้นช่องให้ระหว่างโครงสร้างตัวบ้านและพื้นลานจอดรถเพื่อป้องกันการแตกจากการทรุดของดินค่ะ และบริเวณที่จอดรถจะได้ไฟ Down Light ติดมาให้ 2 จุดนะคะ
ประตูทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมาจากพื้นที่จอดรถเล็กน้อย ป้องกันฝุ่นและเป็นพื้นที่วางชั้นวางรองเท้าได้ค่ะ ประตูหน้าบ้านเป็นบานเลื่อนกระจก กรอบอลูมิเนียม Powder Coat เปิดด้านข้าง มี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ด้วย
Digital Door Lock ดีไซน์เป็นสีดำ มีลวดลายออกทองแดงดูเก๋ไปอีกแบบนะคะ สามารถรองรับได้ 2 ระบบ คือตั้งรหัส และกุญแจค่ะ
เข้ามาดูภายในตัวบ้านกันบ้าง ในบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมเป็นบ้านแปลงมุม ทำให้มีกระจกด้านข้างตัวบ้านนะคะ เราจึงถ่ายภาพบ้านเปล่าซึ่งเป็นแปลงมาตรฐานมาเทียบให้ดูค่ะ เมื่อเข้ามาใน้านแล้วเราจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อน และเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รับแระทานอาหารและมองเห็นลานด้านหลังบ้านค่ะ ระยะความลึกของบ้านอยู่ที่ 6.50 เมตร ซึ่งไม่ลึกมากทำให้แสงจากทางด้านหน้าและด้านหลังส่องเข้ามาทั่วถึงภายในบ้าน พื้นชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และมีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตรค่ะ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ได้ค่อนข้างกว้างทีเดียว มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.50 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดใหญ่ 46 นิ้วได้เลยค่ะ
บันไดจะอยู่ด้านหน้าของบ้านและมีช่องสำหรับเก็บของใต้บันไดมาให้ด้วย ใครที่จะ Built -in ชั้นวาง TV ก็อย่าลืมเว้นที่ไว้สำหรับเก็บของใต้บันไดด้วยนะคะ
ด้านหลังบ้านเป็นส่วนนั่งรับประทานอาหาร ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว สามารถวางโต๊ะ 4 ที่นั่งได้สบายๆค่ะ สำหรับบ้านแปลงมุมก็จะได้ประตูกระจกทางออกไปยังสวนด้านข้างด้วย
ส่วนครัวของบ้านที่นี่จะให้เคาน์เตอร์ Built-in พร้อมอุปกรณ์มาให้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ ซึ่งถือว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งครัวเองไปได้เยอะเลย ใครที่ชอบพื้นที่ครัวปิดก็สามารถทำประตูบานเลื่อนเพิ่มเติมได้นะคะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือติดกับครัวเลย
ส่วนครัวจะได้เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L มีพื้นที่วางตู้เย็นมาให้ด้านข้าง
ชุดครัวจาก Lixil ติดตั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันชนิดปล่อยลมออกด้านนอกมาให้ จาก Teka มี Backsplash มาให้นะคะ ช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและช่วยไม่กันไม่ให้ผนังเสียหายค่ะ
ตู้เก็บของด้านบนจะมีช่องสำหรับเก็บวัตถุดิบเครื่องปรุงมาให้แบบเดียวกับบ้านตัวอย่างเลยค่ะ สามารถดึงลงมา หยิบของใช้ได้สะดวกสำหรับผูหญิงตัวเล็ก หรือเด็กก็จะหยิบใช้ของด้านบนได้ไม่ต้องเอื้อมเยอะเลยค่ะ
ด้านล่างนอกจากช่องเก็บของธรรมดาแล้วยังมีลิ้นชักเก็บจานฝั่งขวามือที่ออกแบบให้มี 2 ชั้น และเลื่อนเอียงได้ ให้สะดวกในการหยิบใช้ด้วยค่ะ
ฝั่งขวาเป็นอ่างล่างจานสเตนเลส และก๊อกน้ำทรงโค้งจาก Teka เช่นกันค่ะ
ด้านล่างเป็นช่องเก็บของสามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดชิ้นใหญ่ๆได้
ส่วนด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นนะคะ ใครที่ต้องการกั้นผนังออกมาเพิ่มแบบบ้านตัวอย่างให้ดูเป็นสัดส่วนขึ้นก็ทำได้ค่ะ
ห้องน้ำภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ และมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ ภายในปูกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งพื้นและผนัง โดยพื้นจะเป็นกระเบื้องลายไม้สีเข้มกว่า
พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นบานเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปด้านนอก
อ่างล้างมือติดตั้งมาให้แบบลอย เป็นอ่างเซรามิคสีขาวจาก American Standard วางของเล็กๆน้อยๆที่ขอบอ่างได้ค่ะ
โถสุขภณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก American Standard เช่นกันค่ะ
พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.7 x 1.40 เมตร อาบได้สบาย สำหรับใครที่ใช้ห้องอาบน้ำชั้นล่างบ่อยๆ แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำหรือม่านเพิ่มเติมนะคะ ฝักบัวที่ได้จาก American Standard แต่ในห้องอาบน้ำชั้น 1 นี้จะไม่มีระบบรองรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ คนที่ชอบอาบน้ำอุ่นอาจจะต้องไปอาบที่ชั้น 2 หรือ 3 แทนค่ะ
มาดูทางออกด้านหลังบ้านกันบ้าง เป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอน(กระจกเขียวตัดแสง) ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในตัวบ้านได้
ด้านหลังบ้านเป็นลานซักล้างขนาดประมาณ 2.0 x 5.5 เมตร ให้โครงสร้างมาเป็นพื้นคอนกรีตวางบนคาน ในด้านการต่อเติมจึงขอแนะนำให้ใช้โครงสร้างเบา เพื่อช่วยลดการแตกร้าวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตนะคะ
ด้านหลังบ้านจริงจะมีท่อต่อสำหรับวางเครื่องซักผ้า และมีถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำมาให้ค่ะ
บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นบันไดโครงสร้างเหล็กปิดผิวด้วยไม้ยางประสาน ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 27.5 เซนติเมตร กว้าง 1.0 เมตรเดินได้สบายค่ะ
ขึ้นชั้น 2 มาแล้วจะเจอกับระเบียงด้านหลังบ้าน ประตูเป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอนทำให้แสงเข้ามาที่โถงทางเดินเยอะ ภายในบ้านก็จะสว่างค่ะ
พื้นระเบียงลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยกันน้ำฝนไหลเข้าตัวบ้านได้ ระเบียงมีขนาด 2.2 x 0.9 เมตร เป็นจุดติดตั้ง Condensing Units ค่ะ
ชั้น 2 มีห้อง Master Bedroom เพียงห้องเดียวยาวจากด้านหน้าถึงหลังบ้านเลยนะคะ ปูพื้นด้วยลามิเนต หนา 12 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร
ภายในห้อง Master Bedroom ฝั่งด้านหน้าเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน ค่อนข้างกว้างอยู่ที่ประมาณ 4.50 x 3.10 เมตร มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 3 บานเปิดระบายอากาศได้ทุกบานนะคะ มองเห็นวิวด้านหน้าบ้านได้
ห้องนี้สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ เหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงได้ 2 ฝั่ง
นอกจากนั้นยังเหลือที่ด้านข้างสำหรับทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงาน, ชั้นหนังสือได้
ฝั่งด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำค่ะ
ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ประมาณ 1.70 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า ทำเป็น Walk-in Closet ได้ ออกจากห้องน้ำมาก็เลือกเสื้อผ้าแต่งตัวได้เลยค่ะ
ใครที่ไม่อยากใช้พื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำวางตู้เสื้อผ้า ก็สามารถมาให้พื้นที่ด้านหลังเป็น Walk-in Closet ได้ สำหรับครัวไหนมีทารก ก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้วางเตียงเด็กได้แบบห้องตัวอย่างเลยนะคะ พ่อแม่สามารถดูแลได้สะดวก แต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่
ห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom จะอัพเกรดขึ้นมาจากห้องน้ำห้องอื่นๆนะคะ โดยตัวสุขภัณฑ์ยังเป็นของ American Standard เช่นกันแต่จะได้อะไรบ้างเราไปดูกันค่ะ
อ่างล้างหน้าจะติดตั้งช่องเก็บของด้านล่างมาให้สำหรับเก็บของเป็นระเบียบมากขึ้น
สุขภัณฑ์ภายในห้องนี้จะได้เป็น สุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติด้วยค่ะ ถือว่าดีทีเดียวในบ้านทาวน์โฮมระดับเดียวกันไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไรนะคะ
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาบานเปลือยมาให้ ช่วยไม่ให้น้ำกระเด็นมาเปียกด้านนอกเวลาอาบน้ำ
ห้องนี้จะมีระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วยค่ะ
ออกจากห้อง Master Bedroom มาแล้วจะเจอกับระเบียงด้านหน้าบ้าน พื้นที่ระเบียงมีขนาดพอๆกับระเบียงด้านหลังบ้านนะคะ แต่จะไม่มี Condensing Unit สามารถออกไปกินลมชมวิวด้านหน้าบ้านได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 3 ชั้นนี้จะมีห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำใช้ร่วมกัน 1 ห้อง ซึ่งเดินขึ้นมาก็จะเจอกับห้องน้ำก่อนเลยค่ะ
ภายในห้องน้ำชั้น 3 จะแยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ แต่จะไม่ได้ฉากกั้นมาให้นะคะ สุขภัณฑ์ทั้งหมดจะได้แบบเดียวกับห้องน้ำชั้น 1 ค่ะ
เนื่องจากพื้นที่อาบน้ำเป็นสี่เหลี่ยมเข้ามุมและติดกับโถสุขภัณฑ์แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมนะคะ
บรรยากาศโถงด้านหน้าห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องค่ะ
เริ่มจากห้องด้านหลังบ้านกันก่อน ห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.10 x 3.75 เมตร สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุตได้ แต่ถ้าใครชอบพื้นที่กว้างก็แนะนำเป็นเตียง 3.5 ฟุต จะมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมากขึ้นค่ะ
ห้องนี้จะได้หน้าต่างบานเลื่อนมองเห็นวิวด้านหลังบ้านค่ะ
ห้องนอนอีกห้องอยุ่ด้านหน้าบ้าน มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บานเพิ่มช่องแสงด้านล่างทำให้รับแสงเข้ามาได้มากขึ้นค่ะ ขนาดของห้องนี้ก็ค่อนข้างใหญ่ อยู่ที่ 3.95 x 3.10 เมตร
สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ โดยยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างเดินได้สบายค่ะ
นอกจากนั้นห้องนี้ยังมีพื้นที่ Walk-in Closet แยกออกมาเป็นสัดส่วนด้านหน้าบ้านด้วยค่ะ (ประตูฝั่งขวามือ)
พื้นที่ Walk-in Closet จะมีขนาดประมาณ 2.20 x 1.80 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้
มีระเบียงด้านข้างสำหรับวาง Condensing Unit มาให้ด้วยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 JULY 2019
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 20.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.(แปลงมาตรฐาน)
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท - ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 20.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม.(แปลงมุม)
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท - จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 40,000 บาท
- ดาวน์ 5 % ผ่อนดาวน์ 3 งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 155,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ Urbanio วิภาวดี-แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 9-1 ใกล้กับจุดตัดถนนวิภาวดีรังสิต และถนนแจ้งวัฒนะ ทำให้เข้า-ออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากทางยกระดับอุตราภิมุข และในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีชมพูผ่าน ซึ่งโครงการใกล้กับสถานีที่เป็นสถานี Interchange พอดีค่ะ เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ก็ค่อนข้างครบครัน อิงถนนแจ้งวัฒนะเป็นหลัก มีทั้ง Hyper Market อย่าง Tesco Lotus หรือออกไปหน่อยก็มีห้างสรรพสินค้าอย่าง Central แจ้งวัฒนะ อยู่ไม่ไกลจากเมืองทองธานี ชุมชนขนาดใหญ่ และมีศูนย์จัดแสดงสินค้า, คอนเสิร์ต รวมถึงเป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมืองด้วย
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ความปลอดภัยของโครงการ มีประตูทางเข้า 2 จุด แต่ในแง่การใช้งานไม่ค่อยแตกต่างจาก Gate เดียวมากนัก มีกล้อง CCTV ให้ที่ด้านหน้าโครงการ ส่วนด้านในกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาว่าจะมีทั้งหมดกี่จุดค่ะ รั้วโครงการสูง 2.50 เมตร อยู่ในระดับที่ปานกลางไม่สูงมากนัก ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ ว่าถ้าโครงการสร้างแล้วเสร็จจะมีการเพิ่มเติมส่วนไหนมาให้บ้าง
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบโครงการมีการวางผังให้ Clubhouse ส่วนกลางอยู่ตรงกับทางเข้า เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับลูกบ้านที่ผ่านเข้า-ออก แต่อาจจะไกลสำหรับคนที่อยู่บ้านฝั่งทิศใต้สักหน่อยค่ะ ถนนภายในแบ่งเป็นซอยย่อยไม่ลึกมากทำให้ยูนิตไม่เยอะ ได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ ตัวบ้านให้หันหน้าทางทิศเหนือ-ใต้ ทำให้แดดไม่ส่องเข้าตัวบ้านโดยตรง โดยรวมถือว่าค่อนข้างโอเคเลย
การออกแบบตัวบ้านมีการจัดแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสัดส่วนลงตัว มีส่วนครัวที่สามารถกั้นปิดได้ และห้องน้ำอยู่ฝั่งเดียวกับครัว ซ่อนประตูไม่ให้เห็นจากห้องรับแขก ชั้น 2 มีห้อง Master Bedroom เพียงห้องเดียว ทำให้มีความเป็นส่วนตัว จัดพื้นที่ลงตัว มี Walk-in Closet เป็นสัดส่วน โดยรวมถือว่ามีการวางผังที่ลงตัวค่ะ
วัสดุ :
วัสดุเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากให้มาค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับโครงการอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน มีชุด Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อม เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาไฟฟ้า 2 หัว , เครื่องดูดควัน จาก Teka และติดตั้งอ่างล้างมือ รวมถึงชั้นเก็บของที่มีฟังก์ชั่นภายในมาให้ ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก American Standard มาให้ และอัพเกรดภายในห้อง Master Bedroom ได้สุขภัณฑ์อัตโนมัติและฉากกั้นอาบน้ำมาให้ค่ะ พื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้, ชั้น 2 ปูลามิเนตหนา 12 มม. ค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
ภายในโครงการถือว่าให้พื้นที่สีเขียวมาพอสมควร ด้านหน้าทางเข้าโครงการมีแนวรั้วต้นไม้สองข้างทาง เข้ามาแล้วเจอกับวงเวียนต้นไม้ตรงกลาง และบริเวณ Clubhouse มีพื้นที่สีเขียวและสนามหญ้าประมาณ 3 งาน ถือว่ากว้างทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นถนนบางส่วนยังมีเกาะกลางต้นไม้ ให้ความมีชีวิตชีวาภายในโครงการมากขึ้น
สาธารณูปโภค :
สาธารณูปโภคภายในโครงการให้มาเพียงพอกับจำนวนยูนิต มี Clubhouse 2 ชั้น ชั้น1 เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 15 เมตร แยกสระเด็กมาให้มี Jacuzzi พร้อมห้องน้ำ ชั้น 2 เป็นพื้นที่ Fitness วางเครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่องค่ะ ส่วนบริเวณสนามหญ้า มีสนามเด็กเล่น พื้นรองรับแรงกระแทก พร้อมเครื่องเล่น 2 ชนิด ถือว่าค่อนข้างครบค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 25 JULY 2019
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.25/10 – เข้าได้ 2 ทางจากถนนวิภาวดีและถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ทางด่วน, สนามบินดอนเมือง
- ความปลอดภัย 7/10 – ประตู 2 จุด มี CCTV ด้านหน้าโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ภายในตัวบ้านออกแบบเป็นสัดส่วนลงตัว
- วัสดุ 8.75/10 – ถือว่าดีกว่ามาตรฐานทั่วไป ได้ชุดครัว
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – มีพื้นที่สีเขียวพอสมควร ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาครบทั้งสรพว่ายน้ำ, Fitness, สนามเด็กเล่น และสนามหญ้าขนาดใหญ่
- 8.10 / 10.00
BOTTOM LINE
Urbanio วิภาวดี – แจ้งวัฒนะ เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านใกล้ถนนแจ้งวัฒนะ เดินทางสะดวก ใกล้สนามบิน มีแหล่งหาของกินและจับจ่ายใช้สอยอยู่ไม่ไกล ชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางพอสมควร ชอบทาวน์โฮมหน้ากว้าง ได้วัสดุดี คุ้มราคา มีงบประมาณ 5.5 – 7 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 38,500 – 55,000 บาท
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving