Town 332

รีวิวฉบับที่ 606 …วันนี้จะพาไปดู Town Avenue 60’s วิภาวดี 60 เป็นโครงการทาวน์โฮมอีกโครงการนึง ของ แสนสิริ ซึ่งมีหลายโครงการด้วยกันค่ะ สำหรับโครงการนี้แปลนบ้านมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย และหน้าตาภายนอกจะไม่เหมือนกับโครงการอื่นๆ  นะคะ ส่วนทำเลที่ทั้งอยู่อยู่ในซอยวิภาวดี 60 โดยสามารถเดินทางเข้าโครงการได้ทั้งถนนวิภาวดีและพหลโยธินค่ะ

Fact @ 12 Jun 2014

  • Town Avenue 60’s Vibhavadi 60 (ทาวน์ อเวนิว ซิกซ์ตี้ วิภาวดี 60  )
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • Segment : UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : หลักสี่
  • เนื้อที่โครงการ 18-1-96.09 ไร่ 159 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 162 ตร.ม. 
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 20.6 – 71 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 5.79 ล้านบาทหรือ 281,067 บาท/ตร.วา
  • โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • http://www.sansiri.com/townhouse/town_avenue_time/th/home/
  • Call Center : 1685

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.866763,100.583862

map

แผนที่จากโครงการค่ะ โครงการอยู่ในซอยวิภาวดี 60 ซึ่งการเดินทางสามารถเข้าได้จาก 2 ทางหลักคือเส้นพหลโยธินก็เข้าจากซอยพหลโยธิน 49/1 ถ้ามาจากถนนวิภาวดีก็เข้าจากซอยวิภาวดี 60 ได้เลยค่ะทั้งสองเส้นทางมีระยะการเดินทางเท่ากันคือ 1.8 กิโลเมตร ดั่งนั้นก็แล้วแต่ว่าใครสะดวกมาทางไหนนะคะ

map1 

ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในซอยวิภาวดี 60 ซึ่งถูกขนาบข้างด้วยถนนพหลโยธิน และวิภาวดีรังสิต ดังนั้นโครงการสามารถเข้าถนนหลักได้ถึง 2 เส้น แต่ละเส้นก็มีความสำคัญและเชื่อมต่อกับอีกถนนหลายสายแตกต่างกันออกไปค่ะ สำหรับถนนวิภาวดีจะมีทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ทำให้เข้า-ออกเมืองได้ง่าย และถนนวิภาวดีก็เชื่อมกับงามวงศ์วาน สามารถไปทางนนทบุรีได้ อีกเส้นทางหลักคือพหลโยธิน เส้นนี้จะมีชุดเชื่อมกับถนนหลัก ๆ หลายจุดค่ะ ทั้งแยกรามอินทรา แยกเกษตร แยกรัชโยธิน และห้าแยกลาดพร้าว แน่นอนว่าเส้นนี้ความอุดมสมบูรณ์เพียบ แต่ก็ตามมาด้วยการจราจรที่มักจะคึกคึกตลอดทั้งวัน

map5

จากโครงการถ้าจะขึ้นโทลล์เวย์สามารถขึ้นตรงด่านแจ้งวัฒนะ โดยไปตามเส้นทางสีน้ำเงาในแผนที่ด้านบนนี้ค่ะ โดยจะไปโผล่ตรงปากซอยแจ้งวัฒนะ 1 แล้วค่อยแล้วซ้ายเพื่อขึ้นโทลล์เวย์ แต่ขาออกจะต้องออกตรงทางดอนเมืองแล้วไปกลับรถเพื่อวิ่งมาเส้นวิภาวดีเพื่อเข้าโครงการค่ะ

map2

สำหรับเส้นวิภาวดี สามารถไปยังเดอะมอลล์งามวงศ์วานได้ สนามกอล์ราชพฤกษ์ก็อยู่ไม่ไกล สถานศึกษาสำคัญ ๆ ก็จะมีมหาวิทยาลัยเกษตรค่ะ  ทางด้านถนนพหลโยธินเส้นนี้จะคึกคักหน่อยเพราะเป็นทั้งสำนักงาน อาคารพานิชย์ โรงเรียน ทั้งในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา อีกทั้งตรงแยกรัชโยธินจะมีเมเจอร์รัชโยธินซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้งที่ใกล้ที่สุดของโครงการค่ะ ถัดมาตรงห้าแยกลาดพร้าวก็จะมีเซ็นทรัลลาดพร้าวและ MRT พหลโยธิน 

map3

อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าโครงการเชื่อมต่อกับถนนหลักสองเส้นทางคือพหลโยธินและวิภาวดี ดังนั้นวันนี้ทีมงานจะพาไปชมทั้ง 2 เส้นทางค่ะว่าลักษณะการเดินทางแตกต่างกันอย่างไรเส้นทางแรกที่จะพาไปคือจากถนนพหลโยธินเข้าตรงปากซอยพหลโยธิน 49/1 จะอยู่เยื้องๆ  กับม.ศรีปทุมค่ะ หาไม่ยากเลยและจะมีป้ายบอกว่าเป็นทางลัดไปวิภาวดีด้วยค่ะ เส้นทางสีน้ำเงินนี้จะมีความอุดมสมบูรณ์กว่าเส้นสีแดงอยู่มากเนื่องจากเป็นเส้นที่ผ่านย่านชุมชน มีทั้งบ้านเดี่ยวและเคหะ ที่ชื่อว่าเคหะบางบัวเป็นกลุ่มอาคารหลายอาคารทำให้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร สวนสาธารณะและลานกีฬาของเคหะค่ะ แต่เมื่อเข้าไปลึก ๆ เกือบถึงโครงการความอุดมสมบูรณ์ก็จะเริ่มลดลงเร่ิมแต่แต่บ้านพักอาศัยค่ะ ร้านค้าจะมีน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

การเดินทางทั้งสองเส้นมีระยะเท่ากันคือ 1.8 กิโลเมตร ดังนั้นแล้วแต่สะดวกในการเดินทางเลยค่ะว่าสะดวกทางไหน ข้อดีของทางวิภาวดีคือถนนไม่ซับซ้อน เดินทางเป็นเส้นตรงๆ  เข้ามาเลย แต่ทางพหลโยธินจะซับซ้อนกว่า แต่จะได้เห็นชุมชน ร้านค้า ร้านอาหาร ที่คิดว่าถ้ามาอยู่จริงน่าจะได้ฝากท้องตรงนี้ค่ะ

Town 12

ถ้ามาจากทางพหลโยธินโดยเริ่มจากแยกรัชโยธินค่ะ ด้านซ้ายจะผ่านเมเจอร์รัชโยธิน

Town 20

ตรงไปตามทางเมื่อจะผ่านแยกเกษตรสามารถวิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกได้จะได้ไม่ต้องมาติดไฟแดงตรงแยกค่ะ

Town 26

ถ้าขึ้นสะพานมาแล้วจะผ่านม.เกษตรทางซ้ายมือ

Town 30

ตามทางมาเรื่อย ๆ จะเห็นว่าเส้นพหลโยธินจะมีการแบ่งช่องจราจรแบบเพิ่มและลดช่องตามช่วงเวลา อย่างช่วงเวลาเร่งด่วยช่องทางเข้าเมืองก็จะเปิดให้ใช้เส้นทางมากกว่าค่ะ สังเกตได้จากสัญญาณไฟด้านบนแต่ละช่องจราจรค่ะ

Town 41

ผ่านกรมป่าไม้ และกรมวิทยาศาสรต์ทหารบก

Town 49

ไม่ไกลกันนั้นจะผ่านโรงเรียนสารวิทยา

Town 59

ถ้าถึงม.ศรีปทุมแสดงว่าใกล้ถึงปากซอยพหลโยธิน 49/1 ซึ่งเป็นทางเข้าไปยังโครงการค่ะ

Town 64

ปากซอยพหลโยธิน 49/1 จะมีป้ายบอกว่าเป็นทางลัดไปวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นถนนที่ขนานกับพหลโยธิน

Town 66

เข้ามาตรงปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ค่ะ

Town 71

ในซอยนี้จะเป็นชุมชน มีร้านค้า รถ และคนคึกคักเพราะอาคารที่เห็นเป็นเคหะบางบัวนั่งเอง

Town 74

อาคารเคหะบางบัวจะเป็นกลุ่มอาคาร Low rise หลายอาคารค่ะ

Town 81

ตรงมาตามทางเรื่อย ๆ ก็ยังคงเห็นร้านค้า ร้านอาหารตลอดทาง เรียกว่าเส้นนี้ไม่อดอยากนะคะ

Town 84

เนื่องจากมีชุมชน โรงเรียน ก็มีสถาบันกวดวิชาอย่าง Kumon อยู่ในซอยนี้ด้วยค่ะ

Town 86

เคหะบางบัวจะมีลานกีฬา ซึ่งสภาพถือว่ามีการดูแลรักษาที่ดีพอควรเลยค่ะ

Town 89

ขับมาตามทางเรื่อยๆ  ตอนนี้ก็ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่

Town 98

ถัดจากนี้จะไม่ค่อยมีร้านค้าหรือร้านอาหาร เนื่องจากจะเริ่มเป็นบ้านพักอาศัยแล้วค่ะ จากตรงนี้ก็ประมาณ 550 ม.ก็จะถึงโครงการ

Town 100

จากตรงนี้จะเริ่มเห็นป้ายของโครงการแล้วนะคะ

Town 101

ตรงนี้จะมีจุดสังเกตคือต้นไม้ใหญ่ด้านซ้ายมือค่ะ

Town 104

ตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ สังเกตง่ายๆ คือป้ายหรือบ้านทางขวามือที่จะมีรั้วเป็นไม้สีน้ำตาล

Town 109

พอเลี้ยวมาแล้วตัวถนนจะเป็นโค้งขวาให้วิ่งมาเรื่อยๆ ตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ร้านค้าจะไม่ค่อยมี ไม่เท่าบริเวณที่ใกล้กับถนนหลักค่ะ ด้านซ้ายมือเป็นโรงงานขนาดเล็ก

Town 113

โครงการจะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ถ้าตรงไปจะเป็นทางตันนะคะ มีป้ายบอกไว้เรียบร้อย

map3

เส้นทางที่ 2 ที่จะพาไปคือเส้นสีแดงนะคะ เป็นเส้นที่เข้าจากวิภาวดีรังสิต ซ.วิภาวดี 60  จากปากซอยถึงโครงการประมาณ 1.8 กิโลเมตร ทางนี้ความอุดมสมบุรณ์น้อยกว่ามาก ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว อยู่กระจาย ๆ กันไปมีบางช่วงที่ยังพอมีร้านค้าร้านอาหาร แต่ข้อดีของเส้นนี้คือเดินทางง่ายกว่ามาก ไม่คดเคี้ยวเท่าเส้นทางแรกค่ะ

1

เส้นทางอีกเส้นทางจากถนนวิภาวดี เข้าจากซอยวิภาวดี 60 เส้นทางนี้ขอยกภาพจาก Google มานะคะปัจจุบันสภาพแวดล้อมบางจุดดีขึ้น ต้นไม้ริ่มรื่นขึ้นค่ะ

2

เข้ามาในซอยวิภาวดี 60 ซอยนี้จะเป็นโซนพักอาศัยเสียส่วนใหญ่

3

ยังพอมีร้านค้า ร้านอาหารให้เห็นบ้างประปราย แต่จะไม่เยอะเท่ากับฝั่งพหลโยธิน แต่การเดินทางไปโครงการจะสะดวกกว่าเพราะไม่ซับซ้อน

4

ตรงมาตามทางเรื่อย ๆ เลยค่ะ ตรงนี้มีหอพัก จึงมีร้านค้า ร้านขายยาใต้หอ

5

ตามทางมาเรื่อย ๆ จะโค้งผ่านบ.ทรานส์ เพลสเซอร์ค่ะ

6

ตรงนี้มีปั๊มบางจากด้วยค่ะ

8

เจอวงเวียนให้เลี้ยวซ้าย แล้วอ้อมตรงไปค่ะ 

9

ตรงเข้ามาจะยังคงมีหอพักและโรงงานขนาดเล็กตั้งอยู่ประปราย ให้ตรงไปตามทางเรื่อยๆ ค่ะ

Town 104

เมื่อตรงมาเรื่อยๆ  ก็จะเจอกับแยกนี้ซึ่งเป็นทางเดียวกับเส้นทางจากพหลโยธิน สามารถย้อนกลับไปดูเส้นทางข้างบนได้ค่ะ จุดนี้ห่างจากโครงการประมาณ 250 ม.


เจาะลึกตัวโครงการ

map4

โครงการอยู่ในซอยทางทิศตะวันตกติดกับคลองเล็ก ๆ ชื่อคลองถนนสภาพคลองน้ำดำสิ่งกลิ่นเข้ามารบกวนในโครงการเป็นระยะค่ะ รอบข้างเป็นบ้านเดี่ยวไม่เกิน 3 ชั้นทั้งหมดซอยหน้าโครงการเป็นซอยตัน ดังนั้นโครงการจะมีความสงบอยู่มาก ไม่มีรถวิ่งพลุกพล่านค่ะ

DSCN3490 copy

ตัวโครงการอยู่ลึกเข้าไปอีกประมาณ 120 ม.จะถึงป้อมรปภ.และจากป้อมรปภ.อีกประมาณ 100 ม.ข้ามคลองถนนไปก็จะเป็นเขตของโครงการ Club House จะตั้งอยู่กลาง โครงการซึ่งมีทั้งสวน สระว่ายน้ำและฟิตเนส ถนนหลักจะกว้าง 12 ม. ส่วนที่เหลือภายในโครงการจะกว้าง 9 เมตรเท่ากันทั้งหมด

Town 114

หน้าทางเข้าโครงกาารจะมีป้ายบอกชัดเจน ทาวน์โฮมที่เห็นด้านหน้าเป็นของแสนสิริค่ะ แต่ยังไม่มีข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมทั้งราคาและโครงการ

Town 118

ผ่านจากป้ายโครงการก็จะมีทาวน์โฮมอยู่ตรงนี้อีก 1 จุดค่ะซึ่งก็ยังไม่เปิดเผยข้อมูลเช่นเดียวกับแปลงที่ติดกับป้ายโครงการ Town Avenue 60’s วิภาวดี

Town 120

เมื่อเลี้ยวขวามาจะเป็นถนนหลักกว้าง 12 ม. มีป้อม รปภ.ของโครงการตำแหน่งนี้ ดังนั้นพื้นที่โครงการที่แท้จริงจะเริ่มจากตรงตัวป้อมนี้ค่ะ

Town 122

ป้อม รปภ.เป็นไม้กระดก ลูกบ้านผ่านโดยใช้สติกเกอร์ที่โครงการให้มาติดหน้ารถค่ะ

Town 123

ถนนหลักโครงการกว้าง 12 ม. ริมสองข้างทางไม่มีฟุตบาทแต่มีต้นไม้ปลูกตลอดทาง

Town 125

สะพานข้ามคลองถนน เป็นคลองเล็ก ๆ ที่ติดกับโครงการเลยค่ะ

Town 126

สภาพคลองชื่อคลองถนน สภาพน้ำดำและมีกลิ่นด้วย ซึ่งกลิ่นก็มีลอยเข้าไปในโครงการเป็นระยะๆ

Town 128

เข้ามาด้านในถนนซอยจะกว้าง 9 เมตรค่ะ ริมสองข้างทางถนนจะไม่มีต้นไม้ใหญ่เรียงเหมือนตรงทางเข้า ตรงนี้ด้านซ้ายจะเป็นสำนักงานขายซึ่งมีบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งแล้วและบ้านตัวอย่างแบบบ้านเปล่าให้ลองเข้าไปชมกัน ด้านขวาจะเห็น Club house ที่มีสระว่ายน้ำและสวนอยู่ด้านหน้า

Town 129

สำนักงานขายค่ะ โดยบ้านสำนักงานขายตรงชั้น 1 จะไม่มีรั้วและพื้นที่จอดรถให้ดู แต่สามารถดูได้จากโซนอื่นๆ  ที่เป็นบ้านจริงนะคะ

Town 258

Club house จะมีสนามหญ้าด้านหน้า ต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มมีเล็กน้อย หน้า Club house จะมีสระว่ายน้ำซึ่งมีทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ค่ะ ภายในจะมีสำนักงานนิติบุคคล, พื้นที่นั่งพักผ่อน และฟิตเนส

Town 259

สวนด้านหน้า Club house ค่ะ ตรงนี้จะมีโซนบ้านที่อยู่ติดสวน จะได้วิวสวยๆ จากสวนและ Club house

Town 260

สระว่ายน้ำจะเป็นแบบ Out door ซึ่งก็ปกติทั่วไปของโครงการบ้านค่ะ

Town 266

ทางเข้า Club house จะอยู่ด้านข้าง ตรงนี้มีทางลาดด้วยนะคะสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นหรือผู้สูงอายุก็จะสะดวกหน่อย

Town 269

เข้ามาก็จะมีโต๊ะและเก้าอี้นั่งเล่นให้ ตรงนี้สามารถใช้ Wi-Fi ของสำนักงานนิติบุคคลได้ค่ะ โดยสามารถขอรหัส Wi-Fi ได้ที่นิติบุคคลค่ะ

Town 271

มุมพักผ่อนอีกมุม

Town 279

มุมนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำแบบที่เห็นค่ะ

Town 272

ข้างกันนั้นจะมีฟิตเนสอยู่ ด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำซึ่งแยกชาย-หญิง

 Town 276 

ภายในพื้นที่ไม่ใหญ่นัก สามารถวางเครื่องเล่นได้ 4 เครื่องและจะมีที่วางดัมเบลอีก 1 ชุดใหญ่ค่ะ

Town 273

ฟิตเนสก็ได้วิวสระและสวนของโครงการเช่นกัน

Town 316

ด้านนอกจะเป็นสระว่ายน้ำที่มีสระเด็กแบ่งอยู่ภายใน มุมนี้จะเห็นสระเด็กชัดเจนค่ะ และจะเห็นวิวเวลาเล่นน้ำด้วยว่าได้วิวในโครงการแบบนี้

Town 280

ข้างกันนั้นจะมีจุดล้างตัวอยู่ค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด  22 x 8 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.7 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด xxx ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4-5 เครื่อง และที่วางดับเบล
  • สวนสาธารณะ 1 ไร่
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง 3 จุด
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ใช้สติกเกอร์เพื่อผ่านเข้ามาในโครงการ


Product Walkthrough

housetype_townhouse_Town-Avenue-Vibhavadi60_xl

โครงการ Town Avenue 60’s จะ เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นมีแค่แบบเดียวนะคะ โดยชั้นล่างส่วนแรกที่เจอคือส่วนนั่งเล่น ถัดไปเป็นส่วนทานอาหารที่อยู่ใกล้กับหลังบ้าน ทำให้ส่วนนี้สว่างเพราะประตูที่เปิดไปหลังบ้านเป็นกระจกทั้งหมดค่ะ ห้องน้ำชั้นนี้ไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ ดังนั้นจะไม่เหมาะสำหรับการทำห้องนอนที่ชั้นล่างนะคะ สำหรับห้องครัวอยู่ติดกับหลังบ้านแต่มีหน้าต่างบานเล็ก ๆ เหนืออ่างล้างจานเพื่อไม่ให้ห้องดูทึบค่ะ เมื่อขึ้นมาชั้นสอง ส่วนที่ติดกับหน้าบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียงด้านหน้าบ้าน ส่วนด้านหลังจะเป็น Master bedroom ที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ ชั้น 3 เป็นห้องนอนสองห้อง ขนาดใกล้เคียงกัน ชั้นนี้มีห้องน้ำห้องเดียวใช้ร่วมกันค่ะขนาดเท่ากับห้องน้ำชั้น 2

Town 332

ทีมงานขอนำภาพบ้านจริงมาให้ชมก่อนนะคะ เพราะจะได้เห็นว่ารั้วบ้านเป็นแบบไหน และบ้านตัวอย่างมีการลงต้นไม้หน้าบ้านไว้เยอะ เลยบังหน้าต่างและระเบียงทำให้เห็นตัวบ้านได้ไม่ชัดนัก ตัวบ้านจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น โครงการนี้ใช้โทนสีน้ำตาลค่ะ มีทั้งโทนเข้มและอ่อนสลับกันไป ด้านหน้าจะมีระแนงอลูมิเนียมซึ่งจะช่วยบังคอมเพรสเซอร์แอร์ จากภาพจะเห็นว่าตัวบ้านและละชั้นมีประตูหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ส่วนด้านข้างบ้านสำหรับบ้านหลังมุมจะมีหน้าต่างบานเล็กๆ ค่ะ สำหรับแบบบ้านจะเหมือนกันทั้งแปลงกลางและแปลงบ้านมุม แต่ต่างกันตรงที่ชั้น 3 แปลงมุมจะมีระเบียงให้สำหรับห้องนอนเล็กค่ะ

Town 133

คราวนี้ทีมงานจะพาไปชมบ้านตัวอย่างที่เป็นแปลงกลางกันนะคะ ชั้น 1 หน้าบ้านจะเป็นประตูหน้าต่างกระจกทั้งหมดทำให้แสงเข้ามาในบ้านได้มาก โดยด้านข้างที่เป็นเป็นประตู HDF สีขาวนั้นเป็นประตูห้องเก็บของ

Town 325

บ้านจริงที่ได้ หน้าบ้านจะเทคอนกรีตให้ตรงส่วนจอดรถค่ะโดยจะเทลงบนพื้นดินไม่ได้มีเสาเข็มให้ สำหรับแปลงบ้านมุมด้านข้างจะไม่ได้จัดสวนให้ แต่จะมีโรยทรายเตรียมไว้ให้แบบนี้ค่ะ

Town 135

หน้าบ้านจะมีเฉลียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. กว้าง 90 ซม. ทำให้ตัวบ้านจะสูงกว่าพื้นที่จอดรถ

Town 137

ภายในจะเป็นห้องเก็บของแบบนี้ค่ะ เป็นพื้นปูคอนกรีตฉาบเรียบ ฝ้าเพดานพื้นที่ตรงนี้คือท้องบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ

Town 140

พื้นบ้านจะยกระดับสูงจากเฉลียงอีกเล็กน้อย ช่วยไม่ให้ฝุ่นหรือน้ำเข้ามาภายในบ้านได้ง่ายนัก

หน้าตามือจับและตัวล็อคเป็นแบบ 2 ชั้น (ด้านซ้ายคือภายนอก, ด้านขวามือภายใน) *ภาพนี้ขอยกมาจาก Town Avenue Time ท่าข้าม 16 ซึ่งเป็นอีกโครงการของแสนสิรินะคะ เพราะตัวบ้านคล้ายกันในหลายๆ จุด

Town 141

เข้ามาในบ้านส่วนแรกที่เจอคือส่วนนั่งเล่นค่ะ ซึ่งมีระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร สามารถติดตั้งทีวีจอใหญ่ได้สบายเลย ด้านหน้าโซฟาเมื่อวางโต๊ะก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้สะดวก จุดนี้มองจากหน้าบ้านก็จะเห็นทุกส่วนของชั้นนี้ ยาวไปถึงด้านหลังบ้านเลยค่ะ

Town 289

บ้านจริงที่ได้จะโล่ง ๆ แบบนี้ค่ะพื้นปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ไฟเป็นโคมซาลาเปา ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

Town 143

มุมนี้วางโซฟาตัวใหญ่ได้สบายๆ  จะวางเป็นตัว L หรือตัว U ก็วางได้ค่ะพื้นที่เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาด 4-5 คนได้

Town 144

ด้านตรงข้ามจะเป็นตำแหน่งติดตั้งทีวีค่ะ ด้านขวามือจะเห็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 

Town 145

พื้นที่ติดกันนั้นจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำและห้องครัว ตรงนี้จะติดกับหลังบ้านมีประตูกระจกบานใหญ่ทำให้ส่วนนี้สว่างค่ะ

Town 296

บ้านจริงที่ได้จะหน้าตาแบบนี้ ประตูห้องเป็น HDF สีขาวมือจับเป็นลูกบิดธรรมดา

Town 146

โต๊ะทานอาหารสามารถวางขนาด 4 ที่นั่งได้ เมื่อวางระยะด้านหลังเก้าอี้ที่ติดผนัง สามารถเข้าออกไปใช้งานได้สะดวก

Town 156

หันมาด้านซ้าย จะเป็นห้องครัวกับห้องน้ำ จะเห็นว่าประตูห้องครัวจะตัดมุมเล็กน้อยค่ะ

Town 157

ภายในห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ยาวตามแนวผนังด้านขวา ซึ่งเป็นส่วนที่ติดกับหลังบ้าน จะมีหน้าต่างบานเลื่อนเล็ก ๆ ทำให้ห้องนี้ดูไม่ทึบมากนักค่ะ ด้านที่วางตู้เย็นจะมีพื้นที่เหลือสามารถวางตู้ไว้เก็บของเพิ่มได้อีกค่ะ บ้านจริงที่ได้ก็จะได้ตามนี้ทุกอย่างค่ะคือทั้งตู้บน ตู้ล่างและเคาน์เตอร์ แต่จะยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ

Town 158

พื้นที่ภายในห้องครัวจะกว้างประมาณ 2.4 x 1.5 ม.

Town 159

เคาน์เตอร์และตู้บนตู้ล่างที่บ้านจริงจะได้ค่ะ บานปิดจะเป็นผิวไม้ลามิเนต

Town 176

เคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่ให้เล็กน้อย สามารถเพิ่มพื้นที่ได้ง่ายๆโดยการหาชั้นเล็ก ๆ วางไว้ข้างตู้เย็น ก็จะได้พื้นที่วางไมโครเวฟทำให้ได้พื้นที่เคาน์เตอร์ครัวเพิ่มขึ้น

Town 292

บ้านจริงจะได้ตู้แบบนี้เลยค่ะ ลองเปิดให้ดูจะเห็นว่าเก็บของได้เยอะทีเดียว ตรงเคาน์เตอร์ก็มีอ่างล้างจานเตรียมไว้ให้ แนะนำว่าเคาน์เตอร์ครัวตรงนี้ไม่ค่อยเหมาะกับการติดตั้งเตาแบบใช้งานจริงจังนะคะ เพราะการใช้งานจะไม่สะดวกติดตู้ที่ Built-in มาให้ และคราบน้ำมันต่างๆอาจไปเลอะตรงหน้าต่างทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น

DSCN3399 copy

ภายในห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำชั้นนี้จะไม่มีส่วนอาบน้ำ กระจกให้กระจกเต็มบานยาวไปเหนือโถสุขภัณฑ์เลย

Town 163

ห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นบ้าน พื้นปูด้วยกระเบื้องโทนสีเทาขนาด 30×30 ตร.ม.

Town 171

บริเวณอ่างล้างหน้ามีพื้นที่ให้วางของไม่มาก เพราะไม่มีเคาน์เตอร์มาให้

Town 172

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ค่ะ

Town 147

ประตูไปหลังบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเดี่ยว กรอบเป็นอลูมิเนียม Powder Coating สีขาว

Town 150

พื้นจะลดระดับลงไปจากพื้นบ้านประมาณ 10 ซม.

Town 151

ด้านหลังจะมีเฉลียงเล็ก ๆ เป็นคอนกรีตปูไว้แต่ไม่ได้ปูเต็มพื้นที่หลังบ้าน บ้านจริงส่วนที่เป็นหินโรยจะเป็นแค่ทรายโรยไว้ให้นะคะ

Town 152

หลังบ้านจะมีถึงเก็บน้ำและปั้๊มน้ำเตรียมไว้ให้ค่ะ หน้าต่างเล็ก ๆทางซ้ายมือคือหน้าต่างห้องครัว

Town 173

บันไดขึ้นไปชั้น 2 จะมีชานพักเป็นสามเหลี่ยมซึ่งเป็นขั้นบันไดไปในตัว

Town 174

บันไดลูกนอนจะพาราสำเร็จรูปสีเข้ม มีราวบันไดให้หนึ่งด้านค่ะ  โดนตำแหน่งด้านบนที่ตรงกับช่องบันไดจะมีหน้าต่างกระจกตรงพอดีเพื่อให้แสงพอที่จะส่องมาบันไดไม่ให้ทึบจนเกินไป

 Town 179

ขึ้นมาก็จะเจอกับส่วนนั่งเล่น ซึ่งตรงนี้จะกั้นเป็นห้องเล็ก ๆ ก็ได้อีกห้องหนึ่่งค่ะ เผื่อเอาไว้เป็นห้องทำงานหรือห้องหนังสือของลูกๆ ถ้ากั้นห้องแล้วจะช่วยประหยัดไฟกว่าเพราะแอร์จะไม่ไปตามบันไดจนเปลืองไปทั่วบ้าน พื้นชั้นนี้จะเป็นลามิเนตสีน้ำตาลเข้มทั้งหมดนะคะ

Town 299

บ้านจริงที่ได้จะโล่งๆ  ผนังจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

Town 181 

ถ้าทำห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่นเอาไว้ดูทีวี การวางโซฟาของห้องที่มุมนี้ก็จะมีปัญหาตรงที่ปิดทางเข้า-ออกของระเบียง ดังนั้นก็ต้องเลือกมุมและขนาดของโซฟาดีๆ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้ระเบียงอยุ่แล้วก็วางโซฟาตัวใหญ่ได้ แต่ถ้าใช้บ่อย  ๆ ก็ควรเหลือพื้นที่ให้เข้าออกได้ประมาณนี้ค่ะ

Town 186

ออกมาระเบียงจะลดระดับจากพื้นบ้าน ระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม. ดั้งนั้นจะใช้งานหรือตั้งเก้าอี้นั่งเล่นก็ลำบากค่ะ

Town 187

อีกด้านจะเป็นตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์

Town 184

ซึ่งจะมีระแนงมาช่วยบังสายตาเพื่อความสวยงามแบบนี้ค่ะ

Town 188

ติดกับส่วนนั้นเล่นของชั้นนี้จะเป็น Master bedroom

Town 189

พื้นเป็นลามิเนตโทนสีเดียวกับทางเดิน มีตัวจบตรงธรณีประตูเป็นลามิเนต

Town 192

ภายในห้อง เนื่องจากห้องนี้แบ่งพื้นที่กับห้องนั่งเล่นด้านนอกจึงทำให้ห้อง Master bedroom ไม่ได้ใหญ่มากนัก ก็พอเพียงพอให้วางเตียง 6 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ

Town 194

เตียงที่เห็นเป็นขนาด 5 ฟุต และมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือสามารถเดินผ่านได้สะดวก

Town 195

ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของได้ค่ะ

Town 199

ห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องสว่างค่ะ หน้าต่างกระจกตรงนี้เป็นบานเลื่อนเปิดได้เฉพาะบานตรงกลาง ส่วนด้านข้างทั้งสองด้านจะเป็นบานปิด

Town 301

ห้องจริงที่ได้จะโล่ง ๆ แบบนี้ค่ะผนังทุกด้านก็ฉาบเรียบแล้วทาสีขาว

Town 200

พื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็ก ๆได้

Town 201

หันกลับมาดูอีกด้านกันนะคะ ด้านนี้ก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าตู้ใหญ่กับโต๊ะเครื่องแป้งได้ แต่ถ้าใครเสื้อผ้าเยอะก็วางตู้เต็มผนังด้านนี้ได้ค่ะเพราะพื้นที่ข้างเตียงจะเหลือให้วางโต๊ะเครื่องแป้งได้อยู่หรือจะวางตรงปลายเตียงก็ได้ค่ะ

Town 202

พื้นที่ข้างเตียงตรงนี้จะเหลือเยอะหน่อยตรงนี้ถ้าวางเป็นโต๊ะยาวจากโต๊ะเครื่องแป้งมาถึงข้างเตียงก็จะได้พื้นที่วางของเพิ่มค่ะ

Town 204

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปเล็กน้อย

Town 205

ห้องนี้สุขภัณฑ์และการวางวัสดุแทบจะเหมือนกับห้องน้ำชั้น 1 เพียงแต่มีส่วนอาบน้ำเพิ่มเติมเข้ามาค่ะ บ้านจริงจะได้ห้องตามแบบนี้ทั้งกระเบื้องและกระจกเลยค่ะ ห้องนี้มีประตูทางเดียวคือจากห้อง Master Bedroom ค่ะดังนั้นคนที่มาใช้งานห้องนั่งเล่นชั้น 2 เวลาอยากเข้าห้องน้ำก็มีทางเลือกคือถ้าเป็นคนในครอบครัวก็สามารถเข้ามาใช้งานในห้องนี้ได้ แต่ถ้าเป็นแขกเช่นเพื่อนของลูกมาทำการบ้านกัน ก็คงต้องลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 1 นะคะ

Town 207

อ่างล้างหน้าเป็นของ  American Standard รุ่นเดียวกัน ตัวกระจกเงาที่ให้มาถือว่าใหญ่ดีค่ะ ได้เต็มพื้นที่ความกว้างของผนังส่วนแห้งเลย

Town 208

ราวแขวนผ้าเช็ดตัวจะอยู่มุมนี้

Town 209

โถสุขภัณฑ์ของ  American Standard ตำแหน่งของที่ใส่กระดาษชำระจะอยู่ติดับส่วนอาบน้ำ ซึงถ้าใช้งานจริงอาจเปียกได้ง่ายค่ะ นอกจากจะทำฉากกระจกกั้นส่วนอาบน้ำเพิ่มก็จะทำให้ทั้งกระดาษชำระและโถสุขภัณฑ์ไม่โดนน้ำกระเด็นใส่

Town 210

ส่วนอาบน้ำจะมีขอบกั้นขึ้นมา เวลาอาบน้ำน้ำก็จะไม่ไหลเข้ามาใสส่วนแห้ง แต่จะมีกระเด็นออกมาแน่นอนค่ะ ส่วนนี้สามารถกั้นฉากกระจกได้เพราะเมื่อกั้นพื้นที่ใช้งานภายในก็กว้างพอให้อาบน้ำสะดวก

Town 213

ฝักบัวพร้อมชั้นวางเล็ก ๆ ด้านข้าง

Town 215

ตรงนี้จะมีหน้าต่างกระจกฝ้าให้ทำให้ห้องน้ำไม่ทึบและสามารถระบายอากาศได้อีกทางแต่เวลาอาบน้ำจะเซ็กซี่หน่อย ดังนั้นอย่าลืมหามู่ลี่มาปิดด้วยค่ะ

Town 216

บันไดขึ้นชั้น 3  ลูกนอนบันไดสีโทนเดียวกับพื้นทางเดินคือน้ำตาลเข้ม

Town 217

ช่องแสงจะอยู่ที่โถงบันไดชั้นบน และมีราวจับให้ช่วงทางขึ้นถัดจาดบันได 3 เหลี่ยมเข้ามุมดังนั้นเวลาเดินขึ้น-ลงต้องระวังกันหน่อยนะคะ

Town 221

ขึ้นมาจะเป็นทางเดินไปยังห้องต่าง ๆ ค่ะมีราวกันตกเป็นอลูมิเนียมสีขาว ราวจับเป็นไม้สีเข้ม พื้นห้องและทางเดินเป็นลามิเนตสีน้ำตาลเข้มแบบเดียวกับชั้น 2

Town 303

บ้านจริงที่ได้จะเป็นแบบนี้เลยค่ะ แต่ผนังก็ฉาบเรียบสีขาวเช่นเคย

Town 222

ภายในห้องนอนที่อยู่ติดกับหน้าบ้านค่ะ ห้องนี้จะไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ให้แทน

Town 224

เตียงสามารถวางขนาด 3.5 ฟุตได้ ปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้ แต่ถ้าจะวางโต๊ะปลายเตียงก็ควรวางโต๊ะที่ไม่กว้างนักเพราะไม่งั้นจะเดินผ่านลำบาก

Town 225

ข้างเตียงทั้งสองด้านค่ะ ด้านซ้ายเป็นพื้นที่เหลือจากการวางตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

Town 226

หน้าต่างกระจกบานใหญ่ เป็นบานเลื่อนเปิดได้เฉพาะบานกลางค่ะบานข้าง ๆ เป็นบานปิด

Town 227

ก้มออกมาดูนอกหน้าต่างจะเป็นตำแหน่งวางคอมเพรสเซอร์เแอร์ค่ะ มีระแนงอลูมิเนียมสีดำช่วยบังสายตา

Town 230

หันกลับไปดูอีกด้านของห้อง สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ ถ้าเป็นห้องเด็กก็สามารถเปลี่ยนเป็นมุมโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ

Town 232

ปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีได้ ตรงนี้ขอแนะนำให้ติดตั้งทีวีติดผนังนะคะเพราะจะเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้สะดวกกว่าวางบานโต๊ะ

Town 234

คราวนี้มาดูห้องนอนที่อยู่ติดกับหลังบ้านค่ะ ห้องนี้จะกว้างก็ห้องที่อยู่หน้าบ้านนิดหน่อย คือสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้หรือจะวาง 3.5 ฟุตก็จะมีพื้นที่ด้านข้างเหลืออย่างที่เห็น

Town 306

ห้องจริงที่ได้จะโล่ง ๆ แบบนี้นะคะผนังทุกด้านเป็นสีขาว

Town 235

เตียงขนาด 3.5 ฟุต แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่ก็วางขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ

Town 236

พื้นที่ปลายเตียงก็จะมีมากกว่าห้องเมื่อกี้ดังนั้นสามารถวางโต๊ะวางทีวีได้ค่ะ

Town 237

ปลายเตียง

Town 238

ข้างเตียงด้านนี้จะเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงได้

Town 241

และจะมีหน้าต่างกระจก ทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติมากขึ้น

Town 242

หันกลับไปดูอีกด้าน ด้านนี้สามารถวางตู้เสื้อผ้าใหญ่กว่านี้ค่ะแต่ไม่สามารถทำเต็มผนังได้เนื่องจากความลึกของตู้จะกินพื้นที่ประตูเล็กน้อย

Town 243

พื้นที่ข้างเตียงเหลือเยอะ ถ้าจะวางเตียง 5 ฟุตก็ทำได้แต่จะต้องไม่วางโต๊ะข้างเตียงด้านนี้นะคะ

Town 244

ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันจะอยุ่สุดทางเดิน ติดกับห้องนอน

Town 245

พื้นลดระดับลงเล็กน้อย

Town 250

ภายในห้องน้ำ หน้าตาการจัดวางและสุขภัณฑ์แบบเดียวกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ

Town 247

หน้าต่างตรงส่วนอาบน้ำทำให้ห้องน้ำไม่ทึบ

Town 249

ส่วนอาบน้ำไม่มีฉากกั้นแต่มีขอบให้แบบนี้ค่ะ ความกว้างส่วนนี้ถ้าจะกั้นฉากอาบน้ำก็ไม่ทำให้อึดอัดนัก

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @  12 Jun 2014 

  • แปลงกลางใกล้สโมสร ขนาดที่ดิน 20.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยในบ้าน 162 ตร.วา  ราคา 5.79 ล้านบาท หรือ 281,067 บาท/ตร.วา (ราคาพิเศษ 4.99 ล้านบาทถึงสิ้นเดือนมิ.ย.)
  • แปลงกลางใกล้สโมสร ขนาดที่ดิน 24.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยในบ้าน 162 ตร.วา  ราคา 6.19 ล้านบาท  หรือ 254,732 บาท/ตร.วา

  • แปลงมุมใกล้สโมสร ขนาดที่ดิน 38.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยในบ้าน 162 ตร.วา  ราคา 7.09 ล้านบาท  หรือ 184,635 บาท/ตร.วา
  • แปลงมุมใกล้สโมสร ขนาดที่ดิน 71 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยในบ้าน 162 ตร.วา  ราคา 9.59 ล้านบาท  หรือ 135,070 บาท/ตร.วา
  • ส่วนแรกที่เปิดขายคือแปลงใกล้สโมสร ส่วนโซนอื่นสามารถสอบถามโครงการได้ค่ะ

  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 80,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 140,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 70 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า ถึงธันวาคนปี 2558

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในซอยวิภาวดี 60 อยู่ระหว่างถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิตที่วิ่งขนานกัน โดยตำแหน่งของโครงการอยู่ระหว่างกึ่งกลางเข้ามาด้านในพอสมควร ทำให้โครงการมีความสงบไม่พลุกพล่านมากนัก และสามารถเข้า-ออกได้ 2 เส้นทางค่ะ โดย 2 เส้นทางนี้จะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร เส้นพหลโยธินจากปากซอย 49/1 จะมีซับซ้อนในการเข้าโครงการต้องวิ่งผ่านหลายโค้ง แต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าเพราะมีเคหะบางบัวซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ทำให้มีร้านค้าร้านอาหาร ส่วนพวกห้างต่างๆจะไปอยู่บนเส้นพหลโยธินมากกว่าเช่น เมเจอร์รัชโยธิน, เซ็นทรัลลาดพร้าว และ Tesco Lotus  แต่สำหรับเส้นวิภาวดีจากปากซอย วิภาวดี 60 ความอุดมสมบรูณ์จะน้อยกว่าเพราะสภาพแวดล้อมภายในซอยจะเป็นบ้านเดี่ยวซะเป็นส่วนใหญ่ มีร้านค้า ร้านอาหารน้อยกว่า โดยคนที่อยู่ในทำเลนี้ต้องใช้รถยนต์เป็นหลักนะคะ

เดินทางด้วยรถถือว่าสะดวกมากเพราะเชื่อมต่อกับหลายเส้นทาง ไปทางวิภาวดีจะง่ายกว่าเพราะเส้นทางไม่คดเคี้ยว  เส้นนั้นจะเชื่อมกับแจ้งวัฒนะและงามวงศ์วาน สามารถมุ่งตรงไปยังรัชดาภิเษกได้ และจะมีทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ทำให้เข้า-ออกเมืองได้ง่าย สำหรับเส้นพหลโยธินจากโครงการไปปากซอยจะคดเคี้ยวกว่ามาก สำหรับถนนพหลโยธินจะเชื่อมต่อกับถนนอื่นๆ  อีกหลายสายทั้งประดิษฐ์มนูกิจ รามอินทรา ลาดพร้าว และมีแยกต่างๆ  จึงทำให้เส้นนี้คึกคักและการจราจรช่วงเวลาเร่งด่วนจะติดอยู่เป็นบางช่วงค่ะ

วัสดุของโครงการที่ให้มาถือว่ามาตรฐานทั่วไปสำหรับทาวน์โฮม ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวทั้งหมด พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. พื้นชัั้น 2-3 เป็นพื้นลามิเนตทั้งหมด ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.ผนังปูด้วยกระเบื้อง บันไดลูกนอนเป็นไม้ยางพาราประสาน มีราวจับให้ทั้ง 3 บันได ประตูและหน้าต่างเป็น อลูมิเนียมทำสี Powder Coating สีขาว ห้องน้ำเป็นสุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมด ภายในห้องน้ำส่วนอาบน้ำไม่มีฉากกั้นให้แต่ติดตั้งได้ไม่ยากค่ะ

แบบบ้านที่นี่ออกแบบมาได้ลงตัว สำหรับครอบครัวขนาดเล็กไม่เกิน 5 คน การจัดวางฟังก์ชั่นมีครบทั้งห้องนอนและห้องน้ำทุกชั้น ชั้น 2 ก็มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนั่งเล่น หรือจะกั้นเป็นห้องนอนไม่ก็ห้องทำงานก็ได้ค่ะห้องนอนใหญ่ของโครงการนี้จะไม่ได้ดูหรูหรามากนักเพราะตำแหน่งที่อยู่หลังบ้านทำให้ไม่ได้หน้าต่าง/ประตูแบบเต็มความสูงจากพื้น การจัดวางห้องนอนชั้น 3 แบ่งเป็น 2 ห้องก็ทำออกมาได้ลงตัวห้องนอนกลางก็มีพื้้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานได้ค่ะ แต่ห้องนอนเล็กสุดจะเหมาะสำหรับเด็กเพราะพื้นที่มีให้ไม่มากนัก

สำหรับสาธารณูปโภคของโครงการมีให้คือ ใน  Club House  จะมีฟิตเนสและสระว่ายน้ำ สำหรับฟิตเนสมีขนาดเล็กค่ะเพราะวางเครื่องเล่นได้เพียง 4-5 เท่านั้นถ้าลูกบ้านเข้ามาใช้ 6 คนก็เต็มที่แล้วค่ะ ส่วนสระให้มีใหญ่หน่อย สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้เพราะยาวถึง 22 ม.ค่ะ แต่สำหรับสวนสาธารณะขนาด 1 ไร่นั้นจะมีสนามหญ้า ต้นไม้ใหญ่มีเปนบางจุด โดยรอบโครงการไม่มีต้นไม้ใหญ่ตรงถนนมีแต่ตรงสวนเท่านั้นค่ะ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5-10 ล้านบาท,  12 Jun 2014

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ทำเลอยู่ในซอยลึกแต่เชือมกับถนนหลัก 2 สายทำให้เดินทางได้หลายเส้นทาง
  • ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน และในโครงการอีก 2 จุด
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – ตัวอาคารภายนอกดูดี ส่วนภายวางฟังก์ชั่นได้ลงตัวแต่ก็มีติดขัดบางส่วน
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – มีต้นไม้ใหญ่และส่วนให้ตรงคลับเฮ้าส์ และต้นไม้ใหญ่ตรงทางเข้าโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7.25 /10 –มีครบทั้ง  Club House สระว่ายน้ำและฟิตเนส แต่ฟิตเนสเล็กไปหน่อย ความหนาแน่นถือว่าอยู่กลางๆไม่สูงมาก
  • 7.58 / 10.00

BOTTOM LINE

Town Avenue 60’s วิภาวดี เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาบ้านย่านวิภาวดีหรือพหลโยธิน ไม่เน้นโครงการติดถนนใหญ่ชอบความสงบและใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก มีสมาชิกครอบครัวไม่เกิน 5 คนมีกำลังผ่อนประมาณ 35,000-60,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ