รีวิวฉบับที่ 1891 … ใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยแนวราบในย่านจตุโชติ แวะเข้ามาดูโครงการนี้กันนะคะ…The Ricco Town วงแหวนฯ – หทัษราษฎร์ ทาวน์โฮม 2 ชั้น ในซอยไทยรามัญ ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนหทัยราษฎร์และถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนด่านจตุโชติ ที่เข้าออกเมืองสะดวก แบบบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอย ขนาด 134 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ

Fact @ 20 June 2019

  • The Ricco Town Outering-Hathairat (เดอะริคโค้ ทาวน์ วงแหวนฯ-หทัยราษฎร์)
  • บริษัท พูลผลทรัพย์ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ซอยไทยรามัญ เขตคลองสามวา
  • เนื้อที่โครงการ 8-3-15 ไร่ จำนวน 85 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 21.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.75 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.90 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี Q3/2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2563
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 081-933-2888

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.896192, 100.716751
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ที่ตั้งของโครงการ The Ricco Town วงแหวนฯ – หทัษราษฎร์ ตั้งอยู่ในซอยไทยรามัญ ที่เชื่อมต่อระหว่างถนนกาญจนาภิเษก และถนนหทัยราษฏร์ ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกเลย เรียกได้ว่าเป็นทำเลเปิดใหม่ก็ได้นะคะ เพราะเป็นซอยที่มีโครงการเปิดใหม่หลากหลายโครงการเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว แต่สำหรับโครงการเราถือเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยที่ใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยว ในราคาที่ถูกกว่าโครงการในละแวกเดียวกัน แต่ก็ต้องแลกกับพื้นที่รอบบ้านกับส่วนกลางนะคะ

ทำเลเน้นเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก เพราะอยู่ใกล้กันกับทางด่วนทั้ง 2 สาย คือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และด่วนวงแหวน-กาญจนาภิเษก นอกจากนี้ยังเป็นซอยที่มีทางลัดที่สามารถหลีกเลี่ยงรถติดได้ดี ยกตัวอย่างเช่น ซอยไทยรามัญ > ลัดไปซอยหทัยราษฎร์ 39  > ออกถนนเลียบคลอง 2 > เชื่อมเข้าถนนคู้บอน > ออกถนนรามอินทรา หรือถ้าใครเลือกใช้เส้น ถนนปัญญาอินทรา และถนนพระยาสุรินทร์ ก็เชื่อมไปออกถนนรามอินทราได้เช่นกัน

รถสาธารณะภายในซอยมีให้เห็นกันพอสมควร เนื่องจากภายในซอย มีหมู่บ้านและโรงเรียน ทำให้ในซอยนี้คึกคักทีเดียว แต่ถ้าช่วงเวลาในหารถยาก แนะนำให้ใช้ Application เรียกรถแท็กซี่ หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์แทนก็ได้นะคะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการถือว่ายังมีไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเป็นทำเลเปิดใหม่ แต่ใกล้ๆกับโครงการจะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่อยู่ในระยะ 200 เมตร ที่ถือว่าเดินไป-มาได้สบายอยู่ นอกจากนี้รอบๆยังมี ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ พอสมควร ที่เราสามารถฝากท้องได้อยู่นะ หรือถ้าต้องการไปตลาดที่ใหญ่หน่อย ใกล้สุดเลยก็จะเป็นตลาดมารวย และตลาดหทัยมิตร ที่ตั้งอยู่แนวถนนหทัยราษฏ์ นอกจากนี้ยังมี Hypermarket ให้เลือกช้อปของใช้ก่อนเข้าบ้านได้อีกด้วย แต่ถ้าจะไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้สุดก็จะเป็น Fashion island และ Promenade บริเวณถนนรามอินทราค่ะ

เนื่องจากจุดเด่นทำเลของโครงการนี้คือทางด่วน เรามาดูจุดขึ้นลงทางด่วนทั้ง 2 สายกันดีกว่าค่ะ

  • ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นเส้นวงเเหวนที่วิ่งรอบเมืองกรุงเทพ จุดขึ้น-ลงทางด่วน อยู่ที่จุดตัดถนนระหว่างกาญจนาภิเษกกับถนนหทัยราษฎร์ เป็นเส้นที่เดินทางไป Motorway กรุงเทพ-ชลบุรีได้ (ลงด้านล่าง) ทำให้เดินทางไปสุวรรณภูมิได้ไม่ยากเลย หรือถ้าไปอีกฝั่ง (ขึ้นด้านบน) ก็จะเป็นแถวรังสิต-ปทุมธานีค่ะ
  • ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ที่วิ่งไปยาวๆได้เลย เริ่มตั้งแต่ จตุโชติ, เกษตรนวมินทร์, ลาดพร้าว, พระราม 9,อ่อนนุช จนถึงบางนา-ตราด โดยถ้าเข้าเมืองจะเสีย 40 บาท หรือถ้ามาจากบางนาก็มีราคาเพียง 30 บาทเอง (ช่วงเวลาปกติใช้เวลาประมาณ 20-25 นาทีเท่านั้น)

เส้นทางการเดินทางที่เราพาไปดู เราจะมาจากทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ลงมายังทางออกด่านจตุโชติ > เลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกฝั่งขาออก > ขับตรงไปถึง 3 แยกให้เลี้ยวขวาไปฝั่งตรงข้าม > หลังจากนั้นให้ขับไปตามทาง > เจอ 3 แยกให้เลี้ยวขวาอีก 1 รอบและตามทางไป > โครงการจะอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

ถนนตรงนี้จะขับยากเล็กน้อยสำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเส้นทางนะคะ แต่ถ้าคุ้นเคยอาจจะง่ายเลย เพราะเราจะต้องกลับรถไปยังอีกฝั่งหนึ่งของทางด่วน เพื่อเลี้ยวเข้าโครงการค่ะ เราไปดูภาพประกอบกันดีกว่าจะได้เข้าใจกันมากขึ้นค่ะ

เรามาเริ่มต้นกันบนทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ (ฝั่งขาออกเมือง) มุ่งหน้าตามป้ายถนนกาญจนาภิเษกไปเลย

ให้เราออกมาทางถนนจตุโชตินะคะ ทางออกหมายเลข 26 จะออกก่อนถึงเส้นลำลูกกาค่ะ

ตามทางมาจะเจอกับทางด่วนกาญจนาภิเษกตัดผ่านพอดี ให้เราเลี้ยวซ้ายนะคะ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาจะไปยังฝั่งคู้บอน ที่ขับไปยังแฟชั่นไอซ์เเลนด์ได้เลย

ขับตรงมาตามทาง พอถึง 3 แยก ให้เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถไปฝั่งตรงข้าม

ให้ขับตามทางไปเรื่อยๆ ซึ่งเส้นทางก็จะโค้งๆหน่อยต้องระวังรถวิ่งสวนดีๆ

พอกลับรถมา เราจะมาอยู่อีกฝั่งนึงของทางด่วนกาญจนาเเล้วค่ะ ขับตรงมาสักพักจะเจอ 3 แยก ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยไทยรามัญ

ภายในซอยไทยรามัญ โครงการแรกเลยที่เจอ คือ The Ricco Residence วงแหวนฯ – จตุโชติ แสดงว่าเรามาถูกซอยแล้วนะคะ

หลังจากนั้นพอถึงแยกให้เลี้ยวซ้าย หรือถ้าขับตรงไปจะเป็นโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย

หลังจากนั้นให้ขับไปตามทาง สังเกตว่าในซอยนี้จะมีโครงการเกิดใหม่หลากหลายเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นทำเลเปิดใหม่ที่เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก

ขับมาสักพัก เราจะเห็น 7-11 อยู่ฝั่งซ้ายมือ ซึ่งด้านหน้ามีที่จอดด้วยนะ

ขับตามทางมาเรื่อยๆ เราจะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพเเวดล้อมรอบๆโครงการโดยทั่วไป เป็นโครงการที่มีทางเข้าติดซอยไทยรามัญ ซึ่งพื้นที่เลียบถนนนี้ส่วนมากยังเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา มีอาคารสำนักงาน,โรงงาน บ้างประปราย รวมถึงเริ่มเห็นโครงการเกิดใหม่ในย่านนี้ค่อนข้างเยอะทีเดียว

  • ทิศเหนือ ติดกับ โครงการข้างเคียง
  • ทิศใต้ ติดกับ ซอยไทยรามัญ และโรงงาน
  • ทิศตะวันออก ติดกับ โครงการข้างเคียง
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นรอการพัฒนา (ทุ่งนาขนาดใหญ่)

เราจะขอพามาดูบรรยากาศหมู่บ้านเก่ากันก่อน (ฝั่งขวา) เนื่องจากอาคารที่ติดซอยไทยรามัญเป็นตึกแถวเรียงกัน ซึ่งชั้นล่างทำเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร ที่สำคัญคือมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่เราสามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชม. เลยนะคะ

ทิศตะวันใต้ : ซอยไทยรามัญ ติดกับโรงงาน

ทิศตะวันออก : โครงการข้างเคียง

ทิศตะวันตก : ที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นรอการพัฒนา (ทุ่งนาขนาดใหญ่)

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ถนนหทัยราษฎร์ ~ 550 เมตร
  • จุดขึ้นลงทางด่วนจตุโชติ ~ 5 กม.
  • ถนนรามอินทรา ~ 9 กม.

สถานศึกษา

  • โรงเรียนนวมินทราชินูทิศเบญจมราชาลัย ~ 2.4 กม.
  • โรงเรียนสาธิตพัฒนา ~ 4.9 กม.
  • มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ~ 6.2 กม.

ห้างสรรพสินค้า/ตลาด

  • ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ~ 250 เมตร
  • Big C หทัยราษฎร์ ~ 4.7 กม.
  • ตลาดหทัยมิตร ~ 4.7 กม.
  • Safari World ~ 6.7 กม.
  • ตลาดวงศกร ~ 7.0 กม.
  • ตลาดออเงิน ~ 10.6 กม.
  • Big C สุขาภิบาล5 ~ 10.5 กม.
  • Fashion Island ~ 16 กม.
  • Max Valu คู้บอน ~ 9.3 กม.
  • Promenade ~ 12 กม.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลสายไหม ~ 7.1 กม.

ศูนย์ราชการ

  • สำนักงานเขตคลองสามวา ~ 6.4 กม.
  • สำนักงานเขตสายไหม ~ 10.7 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Ricco Town วงแหวนฯ – หทัษราษฎร์ เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดิน 8-3-15 ไร่ ที่จะมีเพียง 85 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดเล็ก มีทางเข้า-ออกเดียว จากซอยไทยรามัญ ทำให้รักษาความปลอดภัยได้ทั่วถึง บริเวณซุ้มประตู จะมีรปภ.ดูแล 24 ชม. พร้อม Key Card Access และกล้อง CCTV 2 ตัว

ลักษณะที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวเข้าไปข้างใน โดยภายในโครงการมีถนนกว้างเท่ากันคือ 9 เมตร โดยทำให้ตัวบ้านจะถูกวางในทิศเหนือใต้ ซึ่งเราจะไม่โดนแดดโดยตรง ข้อดีในการวางผังแบบนี้ คือบ้านด้านหลังจะไม่ติดกับโครงการอื่น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในส่วนของ Facilities จะมีเพียงสวนหย่อมด้านหน้าเท่านั้น ซึ่งมีพื้นที่เหมาะออกกำลังกายได้นิดหน่อย หรือจะพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นก็ได้ ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่เน้นใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง แต่เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน

สำหรับแบบบ้าน เป็นแบบเดียวกันทั้งโครงการ โดยโครงสร้างเป็น Pre cast ทั้งหมด ยกเว้นผนังด้านหลัง Common Area ที่เป็นก่ออิฐฉาบปูน ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นประตูบานเลื่อนได้ ข้อดีสำหรับโครงสร้างแบบ Pre Cast คือผนังมีความแข็งแรง และร้อนน้อยกว่าผนัง Conventional โดยโครงการให้หน้าบ้านกว้างถึง 5.7 เมตร ที่จอดรถ 2 คัน ขนาดใหญ่ได้สบายๆ

บริเวณ Main Gate ฝั่งซ้ายมือจะเห็นป้ายโครงการชัดเจน แต่จะไม่ได้เอียง 45 องศา ทำให้เวลาขับรถผ่านต้องสังเกตดีๆนะคะ ส่วนการออกแบบการออกแบบซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีหลังคาปกคลุมเรียบร้อย

เรามาดูสภาพโครงการกันต่อดีกว่าค่ะ ทางเข้าโครงการจะมีทางเข้าออก 2 ฝั่ง เข้าฝั่งซ้าย ออกฝั่งขวานะคะ โดยมีป้อมยามอยู่ตรงกลาง พร้อมรปภ.ดูเเลตลอด 24 ชม. รั้วทางเข้ารถเป็นรั้วไม้กั้นกระดก เข้า-ออกโดยใช้ Key Card ระยะใกล้ ทั้ง 2 ฝั่งมีทางคนเดินอยู่ด้วย เเละบริเวณซุ้มประดูทางเข้าเป็นการออกแบบให้มีหลังคาปกคลุม ทำให้ผู้ที่มาติดต่อ ถ้าฝนตก หรือเเดดร้อน ขณะเเลกบัตรก็จะมีร่มเงาให้หลบเเดดหลบฝนได้ประมาณนึงค่ะ

ถนนบริเวณนี้เป็นคอนกรีตแสตมป์ ดูเรียบร้อยสวยงาม ป้อมยามที่อยู่ตรงกลางเลยก็ถือว่าสะดวกนะคะ ทั้งเข้าเเละออกจะอยู่ฝั่งขวามือของคนขับพอดี

บริเวณป้อมรปภ. จะมีเครื่องติด Key Card Access ระยะใกล้ รวมถึงมีกล้อง CCTV ถึง 2 ตัว ที่ส่องทั้งคนขับและทะเบียนรถได้ชัดเจนค่ะ

เมื่อเข้ามาในโครงการ เราจะเจอกับถนนภายในโครงการซึ่งจะกว้าง 9 เมตรเท่ากันหมดทุกซอย สองข้างทางที่ตรงไปถึงด้านหลังก็จะมีต้นไม้ปลูกตลอดเเนวเลย คาดว่าอีกไม่นานต้นไม้โตเต็มที่โครงการจะร่มรื่นเเน่นอนค่ะ

เข้ามาด้านในฝั่งขวามือ เราจะเจอพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ

โดยสวนหย่อมจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เราจะมาเดินออกกำลังกาย หรือพบปะเพื่อนบ้านบริเวณนี้ก็ได้นะคะ รวมถึงถ้าใครมีสัตว์เลี้ยงก็พามาวิ่งเล่นได้เลยนะ

ถนนภายในโครงการจะกว้าง 9 เมตร ที่ขับรถสวนทางกันได้สบายๆ

บรรยากาศภายใน Sale Gallery มีที่นั่งให้สำหรับลูกค้าด้วยนะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อม
  • ถนนหลักกว้าง 9 เมตร
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ระบบ CCTV / Key Card Access บริเวณป้อมยอม


Product Walkthrough

ในส่วนของแบบบ้านของโครงการ The Ricco Town วงแหวนฯ – หทัษราษฎร์ นี้จะมีแบบให้เลือก 1 แบบค่ะ (ซึ่งก็จะมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างแปลงกลางและเเปลงมุม ที่เเปลงมุมจะได้หน้าต่างด้านข้าง และที่ดินที่เยอะกว่าเเปลงกลาง)

แบบบ้านของโครงการนี้เป็นทาวน์โฮม 2 ขนาด 134 ตร.ม แม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็มีขนาดพอๆกับบ้านเดี่ยวในละแวกเลย ซึ่งแตกต่างที่เราจะไม่มีพื้นที่รอบบ้าน เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในมากกว่า โดยตั้งอยู่บนที่ดินมาตรฐานขนาด 21.1 ตร.วา ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ โดยจุดเด่นเลยคือหน้ากว้าง 5.7 เมตร และมีความลึกของที่จอดถึง 6 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันเเบบสบายๆเลยค่ะ และด้วยความลึกที่มากกว่าโครงการอื่นๆจึงทำให้สามารถจอดรถกระบะหรือจะต่อเติมทำเป็นพื้นที่ใช้สอยในบ้านก็ได้

ภายในตัวบ้านเปิดประตูมาจะเจอกับ Common Area ที่ยาวต่อเนื่องจนถึงหลังบ้านเลย จัดเป็นพื้นที่ครัวเปิด แต่ถ้าใครเน้นทำอาหาร แนะนำให้ยกครัวไทยไปหลังบ้านแทน นอกจากนี้ด้านล่างทางโครงการได้กั้นห้องเอนกประสงค์มาให้ ซึ่งเราจะทำเป็นอะไรก็ได้ แต่ถ้าใครมีผู้สูงอายุ ถือว่าสะดวกเลย เพราะไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ รวมถึงยังมีห้องน้ำใต้บันไดไว้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งพอฝ้าเพดานสูงถึง 2.75 ทำให้ภายในห้องน้ำดูไม่อึดอัด แต่ก็ยังต้องใช้เครื่องระบายอากาศช่วยอยู่

ส่วนชั้น 2 จะประกอบไปด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องที่อยู่หน้าบ้าน + ห้องน้ำในตัว ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้าง บริเวณหน้าห้องน้ำสามารถจัดฟังก์ชันเป็น Walk in Closet ได้อีกด้วย โดยจะไม่มีระเบียงมาให้ เน้นพื้นที่ใช้สอยด้านในมากกว่า ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะเป็นห้องที่อยู่ทางด้านหลังค่ะ โดยจะใช้ห้องน้ำรวมกันที่ตำแหน่งกลางบ้านได้ โดยรวมถือว่าจัดพื้นที่ใช้สอยออกมาได้คุ้มค่า เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ที่มีสมาชิกประมาณ 4-5 คันค่ะ

หน้าตาภายนอกของบ้านจะเป็นสไตล์ Neo Modern เน้นสีขาวน้ำเงิน ออกแบบให้ชั้น 2 มี Vertical Fin ทำให้บังแดดบริเวณนี้ได้ดีขึ้น รวมถึงมีเเนวยื่นของผนังอาคาร ช่วยให้หน้าตาของบ้านดูมีมิติมากขึ้น และด้วยความสูงของห้องชั้นที่ 2 อยู่ 2.90 เมตร ทำให้ตัวบ้านดูสูงมากยิ่งขึ้นค่ะ เราจะพาไปดูบ้านมาตรฐานกันเล็กน้อยก่อนที่จะเข้าไปดูห้องตัวอย่างกันดีกว่า

รั้วหน้าบ้านเป็นเหล็กกล่องสีดำสามารถพับเปิดได้สุดทั้ง 2 ฝั่งค่ะ ทำให้แบ่งใช้งานได้ โดยลักษณะรั้วเป็นแบบโปร่ง และด้วยความสูง 1.5 เมตร ทำให้บรรยากาศดูโล่งมากยิ่งขึ้น รวมถึงหน้าบ้านจะมีไฟส่องสว่าง พร้อมกริ่งสำหรับคนภายนอก

พื้นของที่จอดรถในบ้านลงเสาเขาแบบ Slap on ground พร้อมเทปูนขัดเรียบค่ะ ส่วนขนาดที่จอดรถ เนื่องจากตัวบ้านจะมีหน้ากว้าง 5.7 x 6 ม. (ช่องจอดมาตรฐานอยู่ที่ 2.50 x 5 ม.) ทำให้จอดรถคันใหญ่ SUV หรือ รถกระบะนี่ก็จอดได้ชิวๆเลย สังเกตดีๆ พื้นและรั้วจะเชื่อมเข้ากับตัวบ้านเลยนะคะ

ประตูหน้าบ้านเป็นบานเลื่อน 2 ตอน ที่ได้กรอบอลูมิเนียม powder coat สีดำ พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง ช่องลดแสง UV ได้ระดับนึงเลย

นอกจากนี้จะยกระดับหน้าบ้านเล็กน้อย เพื่อให้เดินเข้าบ้านง่ายขึ้น และยังสามารถนั่งเปลี่ยนร้องเท้าบริเวณนี้ได้อีกด้วย ส่วนประตูจะเป็น Double Lock นะคะ เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน

เข้ามาในบ้านแล้วจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ โดยชั้นนี้จะมีความสูงที่ 2.75 ม. พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. รูปล่างเป็นบ้านมาตรฐาน ซึ่งของจริงภายในจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมบัวลายไม้ และไฟโคมซาลาเปาค่ะ

ฝั่งซ้ายมือ ในบ้านตัวอย่างจะวางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง มาให้ดูระยะใช้งาน แต่ของจริงเราสามารถจะวางเองได้ตามใจชอบเลยนะคะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางทีวี ซึ่งรูปด้านบนทางโครงการได้ต่อเติมผนังขึ้นมา ไว้สำหรับทำเป็นห้องเก็บของด้านหลัง ซึ่งเราสามารถดูเป็นไอเดียได้ แต่สำหรับบ้านของจริงจะได้เป็นแบบรูปด้านล่างนะคะ

เราจะขอแวะชมห้องเก็บของด้านหลัง ซึ่งถ้าเราทำตามบ้านตัวอย่าง ก็จะได้พื้นที่เก็บของประมาณนี้นะคะ

ระยะดูทีวีประมาณ 2.90 ม. เราสามารถวางทีวีขนาด 42-47 นิ้วได้เลย

ไฟเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ของจริงจะได้เป็นโคมซาลาเปา 2 จุดค่ะ

ถัดมาที่ห้องน้ำชั้นล่าง จะอยู่ใต้บันไดระหว่างห้องอเนกประสงค์และพื้นที่ Common ค่ะ

ภายในห้องน้ำใหญ่กว่าห้องน้ำใต้บันไดทั่วไป เนื่องจากความสูงของชั้นนี้จะอยู่ที่ 2.75 ม. ทำให้โดนส่วนของบันไดบางส่วนเท่านั้น แต่ห้องนี้ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ เวลาใช้งานอาจจะกระเด็นไปโดนจุดอื่นๆได้ ส่วนพื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด

พื้นห้องน้ำลดลงมา 5 ซม. ภายในห้องน้ำกว้างใช้งานได้สบายค่ะ

ชุดกระจกและอ่างล้างหน้าได้หน้าตาเเบบนี้เลยค่ะ เป็นของ Marvel มีพื้นที่วางของเล็กๆบนอ่าง สามารถวางเเปรงสีฟัน หรือสบู่ล้างมือได้

ชุดโถสุขภัณฑ์ของ Marvel พร้อมติดตั้งสายชำระด้านหลัง และที่ใส่กระดาษทิชชู่ด้านข้าง มาให้ใช้งานได้อย่างสะดวก แต่ตำแหน่งตรงนี้จะอยู่ด้านข้างที่อาบน้ำ ซึ่งเวลาอาบน้ำ ก็จะทำให้ตรงนี้เปียกนิดหน่อยนะคะ

สายชำระมีที่จับแสตนเลสถนัดมือค่ะ พร้อมที่ใส่กระดาษทิชชู่ แต่จะไม่มีที่กั้นเปียกมาให้ เวลาใช้งานต้องระวังกันด้วยนะคะ

ฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Marvel ขนาดพอดีกับมือ พร้อมช่อง Junction ที่ทางโครงการเตรียมงานระบบไว้ให้สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติมได้ในภายหลังค่ะ นอกจากนี้ยังมีที่วางสบู่ก้อนได้ และด้านล่างยังมีก๊อกที่ไว้รองน้ำใส่ถังได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟของจริงเป็นโคมซาลาเปา พร้อมพัดลมดูดอากาศค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร ซึ่งต่อเนื่องไปจนถึงหลังบ้านได้ โดยในบ้านตัวอย่างได้วางโต๊ะทานข้าวสำหรับ 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งพอวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ก็มีพื้นที่ทางเดินวนรอบๆโต๊ะได้สบายๆไม่อึดอัดนะคะ

ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งภายในกว้างสามารถจัดเป็นพื้นที่ห้องนอนได้

ตำแหน่งของตัวห้องจะอยู่หลังบ้าน ที่ภายในห้องมีหน้าต่างรับแสงจากภายนอกได้ดี รวมถึงยังช่วยระบายอากาศภายในห้องได้อีกด้วย โดยภายในห้องสามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ กำลังดี แต่จะไม่ทางเดินบริเวณปลายเตียงนะคะ

ฝั่งตรงข้ามสามารถวางตู้เสื้อผ้าชิดมุมได้ โดยมีพื้นที่หน้าตู้กว้างประมาณ 1 เมตร ทำให้สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก

ในบ้านจริงห้องชั้นล่างจะมีพื้นที่ขนาด 2.50 x 2.80 เมตร ที่ถือว่าค่อนข้างกว้าง สามารถจัดฟังก์ชั่นใช้งานได้ตามใจชอบค่ะ

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟของจริงเป็นโคมซาลาเปานะคะ

สำหรับผนังด้านหลังจะมีความพิเศษ เนื่องจากโครงสร้างจุดนี้ เป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน เพื่อที่เราจะสามารถดัดแปลงเป็นประตูบานเลื่อนแบบบ้านตัวอย่างได้

ในบ้านตัวอย่างต่อเติมหลังบ้าน แล้วทำเป็นห้องครัวมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

หลังบ้านกว้างตามมาตรฐานที่ 2 ม. เหมาะกับทำเป็นครัวไทยเล็กๆได้ โดยจะมีกำแพงสูงด้านหลังบ้าน 2.70 ม. แต่ด้านข้างจะสูงเพียง 1.50 เมตร เราสามารถต่อเติมรั้วเพิ่มเองได้นะคะ

หันกลับไปอีกฝั่งในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการได้จัดเป็นพื้นที่ Laundry หลังบ้าน สำหรับบ้านของจริงทางโครงการจะมี  แทงค์น้ำ 600 ลิตร และเครื่องปั้มน้ำ 250w มาให้ทุกหลัง

พื้นหลังบ้านลงเสาเข็มแบบ Slap on Beam โดยเข็มจะมีขนาดเท่าตัวบ้านเลยนะคะ รวมถึงทางโครงการเทคอนกรีตมาให้เรียบร้อย

ด้านหลังบ้านไม่มีพื้นที่ตั้ง Condensing Unit มาให้ จึงต้องใช้วิธีแขวนแทนค่ะ

กลับมาที่หน้าบ้าน ข้างประตูบ้านจะมีบันไดขึ้นชั้นสอง โดยโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเล็ก ลูกตั้งเป็นแผ่นสมาร์ทบอร์ดฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนลูกนอนจะเป็นพื้นไม้ประสาน ความกว้างประมาณ 90 ซม.

ลูกตั้งของบันไดมีขนาด 20 ซม. ซึ่งสูงกว่าปกติเล็กน้อยแต่ตัวลูกนอนมีขนาด 25 ซม. ที่ได้ตามมาตรฐานเลย สามารถวางได้เต็มฝาเท้าเลย

ผนังฝั่งหน้าบ้าน จะมีหน้าต่างบาน Fix อยู่ ช่วยให้แสงส่องเข้ามาด้านในได้มากขึ้น ซึ่งช่วงกลางวันเราก็ไม่ต้องเปิดไฟใช้งาน เป็นการประหยัดค่าไฟได้อีกแรงค่ะ

บริเวณโถงบันได ไฟจะเป็นโคมซาลาเปาแบบนี้เลย ฝ้าเพดานของชั้นสูง 2.90 เมตร ทำให้ภายในห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ด้านข้างยังมีพื้นที่เหลือจะวางเป็นชั้นวางของ หรือ Sofa นั่งเล่นหน้าห้องก็ได้

พื้นที่โถงทางเดินกว้าง ใช้งานง่าย โดยพื้นชั้นบนจะเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

สำหรับห้อง Master Bedroom กันก่อน โดยตำแหน่งจะอยู่หน้าบ้าน ภายในห้องกว้างวางเตียง King Size ได้สบายๆ และด้วยความสูงถึง 2.90 ม. ทำให้ภายในห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น

หน้าต่างตรงห้องนอนมีดีไซน์มาเป็นช่องแสง 4 บาน ตรงกลางเป็นบาน Fix ส่วนฝั่งริมจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถระบายอากาศได้ ส่วนหน้าต่างฝั่งขวามือจะเป็นช่องสำหรับวาง Condensing Unit ค่ะ

โดยหน้าต่างบานกระทุ้ง จะมีตัวล็อคมาให้ เพื่อความปลอดภัย ส่วนมือจับเป็นก้านโยกเปิดใช้งานได้ง่ายค่ะ

หลังจากวางเตียง 5 ฟุตตามห้องตัวอย่างแล้ว มีพื้นที่ด้านข้างกว้างพอสมควรเลยค่ะ

ด้านข้างเตียงฝั่งประตู จะมีแนวผนังเข้ามาในตัวห้องเป็นมุม โดยมีพื้นที่ประมาณ 1.05 x 0.60 ม. ที่เราสามารถวางโต๊ะทำงานเล็กๆได้ หรือจะทำเป็นชั้นวางของก็ได้นะคะ

ส่วนฝั่งที่ติดหน้าต่างก็มีพื้นที่กว้างประมาณ 2.18 x 0.60 ม. สามารถทำเป็น Window Seat นั่งเล่นชมวิวก็ได้นะคะ

สำหรับปลายเตียงจะกว้าง 1.10 ม. เป็นระยะที่เดินได้สบายๆเลยนะคะ

บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่เหลือขนาดใหญ่ทีเดียว เหมาะทำเป็น Walk-in Closet ค่ะ เพราะเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ไม่ต้องเดินผ่านจุดอื่นก่อนค่ะ

ความพิเศษของบ้านแบบนี้คือ มีมุมเว้าเข้าไป ขนาดประมาณ 1.50 x 0.60 ม. ที่สามารถ Built in เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้

ซึ่งถ้าวางเฟอร์นิเจอร์ตามบ้านตัวอย่าง จะมีระยะการใช้งาน 1.30 เมตร ที่ใช้งาน 2 คนพร้อมกันได้สะดวก

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟของจริงได้เป็นโคมซาลาเปานะคะ

สำหรับห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว ไม่ต้องไปใช้ร่วมกับคนอื่นนะคะ ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวสูง

ห้องน้ำนี้จะแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่แห้ง ทั้งอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ซึ่งบริเวณนี้จะได้กระจกยาวเต็มบาน ทำให้ใช้งานได้เต็มที่ ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งโครงการไม่ได้ติดฉากกั้นมาให้ แนะนำให้ติดเพิ่มเองนะคะ

พื้นภายในห้องน้ำค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก โดยพื้นที่อาบน้ำจะมี Step ลงไปประมาณ 5 ซม. ป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกมาด้านนอก ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.06 x 90 ซม. เป็นระยะที่ใช้งานกำลังดีค่ะ

อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Marvel ของจริงจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ

สำหรับบ้านหลังมุม จะมีหน้าต่างมาให้ด้วย สามารถระบายอากาศได้ดีค่ะ

กลับออกมาที่โถงทางเดิน จะมีประตูอีก 3 บาน ซึ่งบานซ้ายสุดจะเป็นห้องน้ำ ส่วนอีก 2 บานจะเป็นห้องนอนค่ะ

ห้องน้ำนี้ เป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่ต้องใช้ร่วมกันนะคะ ภายในแบ่งการใช้งานส่วนเปียกแห้งชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมด

พื้นภายในห้องน้ำค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก โดยจะลดระดับจากตัวห้องลงมา 7 ซม และพื้นอาบน้ำจะลงไปอีก 5 ซม. ทำให้ป้องกันน้ำไม่ไหลออกนอกห้องนะคะ

อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Marvel ของจริงจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ

พื้นที่อาบน้ำกว้าง 80 x 76 ซม. เป็นระยะที่ใช้งานได้พอดี โดยลักษณะพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยม หัดมุมเล็กน้อย ซึ่งถ้าใครจะติดตั้งฉากกั้นต้องสั่งทำเท่านั้นนะคะ แนะนำให้ติดผ้าม่านใช้งานก็พอค่ะ

ฝักบัวจะเหมือนห้องที่ผ่านๆมาเลย ซึ่งเราสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มได้เองนะ

ห้องนอน 2 ของบ้าน จะเป็นลักษณะของห้องที่เป็นแนวยาว ใหญ่กว่าอีกห้องนึงเล็กน้อย โดยห้องตัวอย่าง วางเตียง 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างมาให้ ทำให้ได้รับแสง และระบายอากาศได้ดี

หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว จะมีระยะห่างพอสมควรเลย ซึ่งดูแล้วก็วางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆเลย บริเวณปลายเตียงแนะนำให้ทำเป็นทีวีแบบแขวน เพื่อระยะเดินด้วยนะคะ

ภายในห้องตัวอย่าง ได้วางตู้เสื้อผ้าแบบเปลือยมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งก็ทำให้ห้องดูไม่อึดอัดนะคะ

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟของจริงเป็นโคมซาลาเปานะคะ

ส่วนอีกห้องนอน แม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ยังสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งต้องวางชิดผนังนะคะ นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างมาให้ ทำให้ได้รับแสง และระบายอากาศได้ดี

หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ถ้าวางเตียง 3.5 ฟุต เราก็จะมีพื้นที่เหลือด้านข้างเยอะ สามารถวางโต๊ะทำงานได้เลย

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟของจริงเป็นโคมซาลาเปานะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 June 2019

  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 21.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ทำเลของโครงการ The Ricco Town วงแหวนฯ – หทัษราษฎร์ เป็นทำเลใหม่ในซอยไทยรามัญ ที่เชื่อมระหว่างถนนกาญจนาภิเษก และถนนหทัยราษฏร์ เน้นเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก ภายในซอยมีทางลัดไปออกถนนเลียบคลอง 2 ได้ รวมถึงยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนทั้ง 2 ทางคือ ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ เอาไว้วิ่งไปเส้นลาดพร้าวได้ในระยะเวลาประมาณ 20 นาทีแบบรถไม่ติดมาก และถนนกาญนาภิเษกที่เอาไว้ใช้ไปโซนบางนา สนามบินสุวรรณภูมิได้ ส่วนความอุดมสมบูรณ์มีให้เห็นบ้างประปราย เนื่องจากภายในซอยมีโครงการเกิดใหม่ขึ้นเยอะ คาดว่าในอนาคตแถวนี้จะเจริญมากกว่านี้ แต่ปัจจุบันก็มี ตลาด, hypermarket, และห้างสรรพสินค้า อยู่ไม่ไกลมากนัก

ความปลอดภัยในโครงการ : ให้มาในระดับมาตรฐานทั่วไป ซุ้มหน้าโครงการมีป้อมรปภ. 24 ชม. พร้อมไม้กั้นกระดก แบบ Access Card ระยะใกล้ พร้อม CCTV เฉพาะทางเข้า-ออก รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร ส่วนภายในตัวบ้านรั้วด้านหลังบ้านสูง 2.75 ม. แต่ด้านข้างจะสูง 1.50 เมตรค่ะ

การออกแบบโครงการ : ตัวโครงการมีบ้านเพียง 85 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดเล็ก ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง วางผังบ้านเป็นแนวทิศเหนือ-ใต้ทั้งหมด ข้อดีคือเราจะไม่ต้องรับแสงโดยตรงค่ะ ส่วนการวังตำแหน่งบ้านในโครงการ แม้จะอยุ่ด้านในสุดก็ห่างจากด้านหน้าโครงการเพียง 200 เมตร ซึ่งถ้าใครอยู่บ้านด้านหลัง แล้วจะออกมาใช้พื้นที่สวนหย่อมด้านหน้าโครงการ ก็เป็นระยะที่เดินได้สบายอยู่นะคะ

การออกแบบบ้านและพื้นที่ใช้สอย : ตัวบ้านมีให้เลือก 1 แบบ โดยมีพื้นที่ใช้สอยมาตรฐานที่ 134 ตร.ม. ถึงแม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็มีขนาดเทียบเท่ากับบ้านเดี่ยวในละแวกเดียวกันเลย เหมาะกับคนที่เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นหลัก ไม่เน้นพื้นที่รอบบ้านและส่วนกลาง ในราคาไม่แพง จับต้องได้ง่าย โครงสร้างตัวบ้านเป็นแบบ Pre Cast แต่ยังให้ผนังด้านหลัง Common Area เป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน(Conventional) ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นกระจกบานเลื่อนเต็มบาน ตามบ้านตัวอย่างได้ สำหรับส่วนอื่นที่เป็น Pre-Cast จะต่อเติมค่อนข้างลำบากนะคะ

ตัวบ้านได้หน้ากว้างถึง 5.7 ม. ซึ่งใหญ่กว้าง Townhome ทั่วไป ที่สามารถจอดรถขนาดใหญ่ 2 คนได้สบายๆ จุดเด่นเลยคือห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ที่เหมาะจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ พร้อมออกแบบห้องน้ำใต้บันไดมาได้ใหญ่กว่าปกติ เนื่องจากได้ความสูงถึง 2.75 เมตร ส่วนชั้นบนก็เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด ที่ห้อง Master Bedroom จะได้ห้องน้ำในตัว ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน บ้านแบบนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง สมาชิกประมาณ 4-5 คน นะคะ

วัสดุ : ได้ตามมาตรฐานของทาวน์โฮมระดับราคานี้ ผนังได้เป็นฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง พื้นชั้นล่างได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนชั้นบนจะได้เป็นพื้นลามิเนต 8 มม. หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียม ชุดสุขภัณฑ์ของ Marvel ไฟส่องสว่างในบ้านเป็นแบบดวงโคมซาลาเปาทั้งหมด

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ถนนภายในโครงการกว้าง 9 เมตร พร้อมสวนหย่อมด้านหน้าโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก แต่โครงการทำเป็นสนามหญ้าให้วิ่งเล่นออกกำลังกายได้ รวมไปถึงบริเวณทางแยกของซอยย่อยและช่องว่างระหว่างอาคารตามกฎหมายก็มีการทำพื้นที่สีเขียวไว้ให้เพิ่มความร่มรื่นมากขึ้น

สาธารณูปโภค : สาธารณูปโภคที่ได้ตามราคาที่จ่ายไปเช่นกัน สำหรับพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะมีไม่เยอะ เหมาะกับคนที่เน้นการอยู่อาศัยมากกว่าเน้นการใช้งาน Facilities โดยมีสวน ที่นั่งพักผ่อน และสนามเด็กเล่นให้ ซุ้มหน้าโครงการถือว่าสวยเข้ากับรูปแบบของโครงการ ทางเข้าออกติดตั้งกล้อง CCTV และระบบ Key Card Access ระยะใกล้ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเข้าออกโครงการ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 20 June 2019

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยไทยรามัญ มีทางลัด ใกล้ทางด่วนทั้ง 2 เส้น
  • ความปลอดภัย 7.25/10 – มีรั้วกั้นไม้กระดก รปภ. 24 ชม. CCTV ที่ทางเข้าด้านหน้าหมู่บ้าน พร้อม Access Card แบบระยะใกล้
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.75/10 – ยูนิตน้อย บ้านหน้ากว้าง เน้นพื้นที่ใช้สอย พื้นถึงฝ้า 2.75-2.90 ม.
  • วัสดุ 7.25/10 – พื้นชั้นล่างกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นบนลามิเนต , สุขภัณฑ์ Marvel , กระจกเขียวตัดแสง พร้อมกรอบอลูมิเนียม
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวให้พอสมควร ทั้งสวนส่วนกลางและตามพื้นที่ด้านข้างถนน
  • สาธารณูปโภค 6.5/10 – ไม่เน้น Facilities ได้พื้นที่สวนหย่อมด้านหน้า
  • 7.53 / 10.00

BOTTOM LINE

The Ricco Town วงแหวนฯ – หทัษราษฎร์ เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่บนทำเลที่เน้นการใช้รถยนต์เเละทางด่วนเป็นหลัก เหมาะกับคนที่ทำงานในเมือง ที่ต้องการขยับขยายที่อยู่อาศัย จุดเด่นคือ ยูนิตน้อย  หน้าบ้านกว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะ เน้นอยู่อาศัยส่วนกลางมีสวนมาให้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 20,000 บาท/เดือน