ปก-RICCO TOWN

รีวิวฉบับที่ 1051 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Ricco Town พหลโยธิน-สายไหม ตั้งอยู่ในซอยสายไหม 35 จากบริษัท พูลผลทรัพย์ ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 124 ยูนิต เรียกได้ว่าเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนตัวยูนิตน้อย แบบบ้านทั้งหมดมีแบบเดียว บนที่ดินเริ่มต้น 17.9 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท เราไปดูกันว่าที่นี่เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนค่ะ

Fact @ 8 April 2016

  • The Ricco Town Phahonyothin-Saimai (เดอะ ริคโค้ ทาวน์ พหลโยธิน-สายไหม)
  • บริษัท พูลผลทรัพย์ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สายไหม
  • เนื้อที่โครงการ 10-3-35.2 ไร่ จำนวน 124 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร
  • แบบบ้าน 1 แบบ ที่ดินเริ่มต้น 17.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 17.9 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาทหรือ 110,556 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้างเดือน มกราคม ปี 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการเดือน ธันวาคม ปี 2560
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 081-933-2888

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.926156, 100.656292

Sales-Kits_RT-PS35 - CO

แผนที่จากทางโครงการค่ะ โดยที่ตั้งของโครงการ The Ricco Town พหลโยธิน-สายไหม นั้นตั้งอยู่ในซอยสายไหม 35 เข้าออกได้ทั้งทางถนนสายไหม และทางถนนลำลูกกา โดยมีระยะห่างจากหน้าปากซอยทั้ง 2  ทางประมาณ 500 ม. บริเวณโดยรอบมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้ง ห้างสรรพสินค้า เช่น Tops Supermarket, Big C มีตลาดนัดสำหรับจับจ่ายซื้อของ ได้แก่ ตลาด เอ.ซี. ที่อยู่บนถนนสายไหมขาเข้าก่อนถึงตัวโครงการ, ตลาดวงศกร ที่อยู่ตรงมุมแยกตัดกับถนนสุขาภิบาล 5, ตลาดออเงิน ที่อยู่ตรงแยกสุขาภิบาล 5 ตัดกับถนนเพิ่มสิน และโรงพยาบาลละแวกใกล้เคียง คือโรงพยาบาลสายไหม

ricco town-Overall

ทำเลแถบสายไหมนั้นตั้งอยู่บนกรุงเทพตอนเหนือ โดยอาคารบนถนนสายไหมนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยและพาณิชยกรรมแนวราบ อย่างพวกหมู่บ้าน, ตึกแถว, Hypermarket ความเจริญและความอุดมสมบูรณ์อาจจะน้อยกว่า ถนนพหลโยธิน หรือ ถนนลำลูกกา ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพื้นที่การค้าและสำนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่ เนื่องด้วยถนนสายไหมมีถนนหลายเส้นตัดผ่าน บรรจบ และคู่ขนานกัน ทำให้เส้นทางหลักๆในการเดินทางเข้าถนนสายไหมนั้น สามารถเข้าได้อยู่หลายทางด้วยกัน หากมาจากเส้นวิภาวดีรังสิตก็สามารถเชื่อมเข้าถนนพหลโยธินได้ มีเส้นทางเข้า – ออกหลักอยู่ 2 ทาง คือ ทางถนนพหลโยธินบริเวณแยกโรงเรียนนายเรืออากาศแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน จันทรุเบกษา (ข้างโรงเรียนนายเรืออากาศ) แล้วเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าถนนสายไหม หรืออีกทางคือ เข้าซอยพหลโยธิน 54/1 เข้าถนนจันทรุเบกษาแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสายไหมได้เช่นเดียวกัน สำหรับการเดินทางผ่านพหลโยธินนั้น ต้องบอกเลยว่าการจราจรค่อนข้างติดขัดทีเดียวค่ะ เพราะเป็นแหล่งการค้า และชุมชนค่อนข้างหนาแน่น

สำหรับการเดินทางเข้าถนนสายไหม จากทางถนนลำลูกกา ซึ่งเป็นถนนใหญ่กว้าง 6 เลน คู่ขนานที่มีระยะห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีคลองหกวาคั่นเพียงเท่านั้น แต่ก็ทำให้การเดินทางนั้นไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก เนื่องจากต้องข้ามสะพานข้ามคลองที่เชื่อมถนนลำลูกกากับถนนสายไหม

และสำหรับการเดินทางแบบสาธารณะนั้น บริเวณหน้าโครงการจะหารถทั้งแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซต์ค่อนข้างยากเนื่องจากอยู่ในซอย ต้องเดินออกมาหน้าปากซอยบนถนนสายไหมจึงจะสามารถเรียกแท็กซี่ , วินมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์​สาย ปอ.1009 สะพานใหม่ – มีนบุรี ที่ผ่านหน้าปากซอยสายไหม 35 ได้ค่ะ

ในอนาคตยังมีแผนรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งระยะห่างจากตัวสถานีที่แน่นอนยังไม่สามารถบอกได้ แต่จากตำแหน่งสถานีที่ MRTA วางแผนมาเบื้องต้นคาดว่าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีคูคตมีระยะห่างจากตัวสถานีประมาณ 2 กม. จากโครงการก็วิ่งไปออกทางถนนลำลูกกาด้านหลังก็สะดวกดี แต่ถ้าต้องการที่จอดรถยนต์ สามารถไปใช้บริการที่สถานี กม. 25 ห่างจากโครงการประมาณ 5 กม. โดยรถไฟฟ้าสายนี้กำลังก่อสร้างมีแผนจะแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งถ้ามีรถไฟฟ้าความเจริญโดยรอบพื้นที่อาจจะมีมากกว่าตอนนี้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีแผนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีเขียวจากสถานีคูตตเพิ่มอีก 4 สถานีก็จะทำให้โครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากขึ้น แต่ยังเป็นเพียงแผนที่หน่วยงานราชการกำลังการศึกษาอยู่ค่ะ ยังไม่ได้ก่อสร้าง

ricco town-Place

ด้านความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านและที่พักอาศัย ดังนั้นจึงมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ ขึ้นมาตามแหล่งพักอาศัย โดยบนถนนสายไหมนี้จะมีทั้ง Big C, Tops Supermarket, Tesco Lotus, Big C, ตลาด เอ.ซี. และร้านอาหารต่างๆ เช่น ซ้งเป็ดพะโล้ ในระยะไม่เกิน 4 กม. เป็นระยะที่ต้องอาศัยรถยนต์นะคะ นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาล, ร้านค้า, โรงเรียน หมู่บ้านต่างๆ ซึ่งหากพิจารณาแล้วถนนสายไหมนี้อาจไม่ได้มีความหวือหวา หรือทำเลทองขนาดนั้น แต่เป็นย่านที่มีคนอยู่อาศัยเยอะ มีรถติดบ้าง แต่ไม่ได้พลุกพล่านหรือวุ่นวายเหมือนในตัวเมือง ถ้าวัดกันในเรื่องอาหารการกิน เครื่องอุปโภคบริโภคแล้ว สายไหมก็ถือว่าเป็นโซนอยู่อาศัยที่มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควรทีเดียว

สำหรับความอุดมสมบูรณ์บนถนนข้างเคียง อย่างถนนพหลโยธินนั้น ก็มีตลาดใหญ่ๆอย่าง ตลาดยิ่งเจริญ, Big C, Tesco Lotus และบนถนนเส้นนี้ตั้งแต่วงเวียนหลักสี่ไปจะเป็นสำนักงานข้าราชการ และแหล่งของทหารอากาศ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของฐานทัพ รวมทั้งหน่วยงานของกองทัพอากาศตลอดสองด้าน รวมถึงสนามบินดอนเมืองด้วย ดังนั้นตั้งแต่ช่วงของถนนพหลโยธินเข้ามา ในซอยจันทรุเบกษาจนเข้าไปถึงซอยสายไหมช่วงต้นๆจะเป็นที่อยู่ของบุคลากร พนักงานราชการในกองทัพอากาศ จึงค่อนข้างมีความคึกคักพอสมควร

ถัดมาที่ถนนสุขาภิบาล 5 ที่เป็นแหล่งพักอาศัย และมีหมู่บ้านเยอะพอๆกันกับถนนสายไหมนั้น ก็มีทั้งตลาดวงศกรที่อยู่ตรงหัวมุมถนนตัดกับถนนสายไหมนั้นเอง และตลาดออเงิน ที่ค่อนข้างคึกคักตลอดวัน มีโรงเรียน และห้างสรรพสินค้าอย่าง Big C ซึ่งโดยรวมแล้วมีความอุดมสมบูรณ์พอๆกับถนนสายไหมเลยค่ะ สำหรับถนนเพิ่มสินนั้นเป็นถนนเส้นคู่ขนานกับถนนสายไหม บนถนนเส้นนี้มีหมู่บ้านเยอะพอกันค่ะ แต่ความอุดมสมบูรณ์ก็ยังไม่เท่าถนนสายไหมกับถนนสุขาภิบาล 5

ricco town-expressway

นอกจากนี้สำหรับใครที่วิ่งเข้าเมืองก็จะมีตัวช่วยอย่างเส้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังลาดพร้าว-พระราม 9-บางนา ซึ่งจุดขึ้นลงอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 9.7 กม. โดยวิ่งจากเส้นสายไหมไปจนสุดแล้วเลี้ยวเข้าถนนสุขาภิบาล 5 วิ่งตรงไปเรื่อยๆจะมีจุดขึ้นลงทางด่วนอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ricco town-Route

เนื่องจากโครงการ The Ricco Town พหลโยธิน-สายไหม นั้นตั้งอยู่ในซอยสายไหม 35 ซึ่งเข้าออกได้ทั้งทางถนนสายไหม (เส้นทางหมายเลข 1) และทางถนนลำลูกกา (เส้นทางหมายเลข 2) สำหรับเส้นทางที่จะพาไปโครงการในวันนี้จริงๆจะเริ่มจากทางถนนพหลโยธินแล้วเลาะเข้าสายไหมก็ได้ แต่ที่เลือกใช้เส้นทางนี้เพราะถนนพหลโยธินกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำให้การจราจรค่อนข้างจะติดขัด ทางกองทัพอากาศจึงเปิดให้ใช้เส้นทางภายในจากถนนวิภาวดีรังสิตทะลุไปถึงแยก รร. นายเรืออากาศได้ค่ะ การเดินทางจะใช้เส้นทางตามหมายเลข 1 เริ่มต้นจากบริเวณหน้าสนามบินดอนเมืองฝั่งมุ่งหน้าออกนอกเมือง แล้วขึ้นสะพานเลี้ยวขวาไปทางแยกโรงเรียนนายเรืออากาศไปตามถนนจันทรุเบกษา แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสายไหม พอเลยตลาด เอ.ซี. ไปประมาณ 1.5 กม. ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสายไหม 35 ตรงเข้าไปในซอยประมาณ 500 ม. โครงการจะตั้งอยู่ทางขวามือค่ะ

route from ricco-1-1

เริ่มต้นเดินทางจากบริเวณหน้าสนามบินดอนเมืองในเส้นทางมุ่งออกนอกเมือง ฝั่งซ้ายจะเป็นสถานีรถไฟดอนเมือง สถานีนี้ไม่ใช่สถานีหลักที่มีขนาดใหญ่หรือรถหลายสายแต่สามารถใช้เดินทางไปชานเมืองอย่าง ลพบุรี อยุธยา หรือสามารถใช้ขึ้นเชียงใหม่ได้ แต่หากจะเดินทางด้วยรถไฟจริงๆแนะนำนั่งไปขึ้นที่หัวลำโพงจะเป็นต้นทางและมีรถให้เลือกเยอะกว่าค่ะ จากสถานีรถไฟจะมีสะพานเชื่อมไปยังฝั่งขวาซึ่งเป็นอาคารสำหรับผู้โดยสาร (Terminal) ของสนามบินดอนเมืองค่ะ

route from ricco-2-1

ตรงมาเรื่อยๆตามป้ายฐานทัพอากาศ ฝั่งซ้ายเห็นเป็นตอม่อ นั่นคือโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตที่กำลังก่อสร้างอยู่ ส่วนฝั่งขวายังเป็นเขตของสนามบินดอนเมืองอยู่ อาคารสีขาวม่วงฝั่งขวาจะเป็นสถานพยาบาลท่าอากาศยานดอนเมืองค่ะ

route from ricco-3-1

ตรงมาตามป้ายฐานทัพอากาศ ให้เลือกเลนกลางเพื่อขึ้นสะพานที่กลับรถค่ะ ถนนฝั่งซ้ายและขวาจะไปตรงไปยังรังสิตค่ะ

route from ricco-4-1

ขึ้นมาบนสะพานจะเจอป้ายกองทัพอากาศ และป้ายกลับรถไปดอนเมือง ให้ตรงไปตามป้ายกองทัพอากาศนะคะ ถ้าเลี้ยวผิดไปทางกลับรถจะกลับไปผ่านหน้าสนามบินดอนเมืองอีกรอบค่ะ

route from ricco-6-1

ตามป้ายกองทัพอากาศมาจะเป็นทางบังคับให้เข้าสู่กองทัพอากาศค่ะ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่กองทัพอากาศเปิดให้ใช้ในเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นแม้ผู้ไม่มีบัตรราชการก็สามารถใช้ได้ นโยบายนี้เพื่อแก้ไขปัญหารถติดจากการสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวบนเส้นพหลโยธินค่ะ

route from ricco-7-1

ขับตรงเข้าไปด้านในฐานทัพอากาศดอนเมืองเลยค่ะ บรรยากาศถนนโดยรอบจะเขียวขจีสวยงามกว่าถนนปกติเพราะเป็นถนนภายในสถานที่ราชการนะคะ

route from ricco-9-1

ตรงเข้ามาแล้วให้ชิดซ้าย เพื่อมุ่งหน้าไปถนนจันทรุเบกษา ตรงนี้เป็นแยกเล็กๆต้องหยุดรอให้ถนนว่างค่อยขับข้ามแยกไปค่ะ

route from ricco-12-1

ขับตามทางมาเรื่อยๆจนผ่านทางออกกองทัพอากาศ ให้เลือกอยู่ 2 เลนคือเลนขวาสุดและเลนกลาง ส่วนเลนซ้านสุดจะเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด แต่เราจะตรงไปจึงต้องอยู่ 2 เลนฝั่งขวาค่ะ

route from ricco-13-1

ขับตรงไปผ่านสี่แยก รร.นายเรืออากาศ แยกนี้จะค่อนข้างติดนิดนึงนะคะ เพราะถนนที่ตัดผ่านด้านหน้าคือถนนพหลโยธินที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ค่ะ

route from ricco-14-1

เลี้ยวเข้ามาอยู่บนถนนจันทรุเบกษา เราจะเจอหน่วยงานของกองทัพอากาศยาวไปทั้งสองข้างทางค่ะ ด้านซ้ายมือเป็นกรมควบคุมการปฎิบัติการทางอากาศ และทางขวามือเป็นโรงเรียนนายเรืออากาศ เราจะขับตรงไปเรื่อยๆนะคะ

route from ricco-15-1

สุดทางจะเจอสามแยก ซึ่งสามแยกนี้จะเป็นจุดบรรจบกันของถนนจันทรุเบกษา และถนนพหลโยธิน 54/1 ค่ะ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายไปกันนะคะ

route from ricco-16-1

ขับมาเรื่อยๆ นิดเดียวเราจะเจอแยกซึ่งเป็นทางข้ามสะพาน ให้เลี้ยวขวา เพื่อเข้าถนนสายไหมค่ะ

add (1 of 2)

เข้ามาที่ถนนสายไหม จะสังเกตว่ามีป้ายโฆษณาขายหมู่บ้านอยู่เยอะมาก เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัย จะมีทั้งโครงการทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวค่ะ

add (2 of 2)-1

ถัดเข้ามามีท็อปส์ ซุปเปอร์คุ้ม ซึ่งเป็น Supermarket ไว้ให้จับจ่ายซื้อของค่ะ

route from ricco-17

เข้ามาที่ถนนสายไหม จะสังเกตว่า 2 ข้างทางเรียงรายด้วยอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น ชั้นล่างจะเปิดเป็นร้านค้า ทั้งร้านขายยา Family Mart ร้านอาหารต่างๆ ตลอดเส้นทาง

route from ricco-18-1

ขับมาอีกหน่อยมองไปทางซ้านมือ เราเจอตลาดเอ.ซี สายไหม เป็นตลาดสร้างใหม่ที่ค่อนข้างใหญ่มาก มีทั้งพื้นที่ให้เช่าขายของและอาคารพาณิชย์ให้เช่า ทางด้านขวามือเป็นโรงเรียนอนุบาลหงษ์ทอง

ตลาดเอ.ซี. สายไหม เปิดทั้งวัน ด้านในมีทั้งตลาดสดและศูนย์อาหาร ค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน ด้านหน้าเป็นลานจอดรถ

เข้ามาด้านในตลาดจะเจอกับศูนย์อาหาร มีของกินให้เลือกเยอะอยู่ในราคาย่อมเยา ข้างในเป็นตลาดสด มีขายทั้งของสดของแห้ง ถ้าขับรถผ่านก็สามารถแวะมาซื้อของไปทำอาหารที่บ้านได้

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอหมู่บ้าน The City ทางซ้าย ซึ่งบนถนนนี้ยังมีโครงการหมู่บ้านอีกหลายโครงการค่ะ ด้านหน้าเป็นรถเมล์สาย 1009 ที่วิ่งระหว่างสะพานใหม่ – มีนบุรี ใกล้ๆปากซอยสายไหม 35 ที่เป็นที่ตั้งโครงการ ก็มีป้ายรถเมล์นะคะ ป้ายจะห่างจากปากซอยประมาณ 50 ม.ค่ะ

route from ricco-20-1

ซอยสายไหม 35 จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ สำหรับป้ายเลขหน้าซอยทางโครงการแจ้งว่าทางราชการกำลังจะนำมาติดนะคะ ตอนนี้ให้สังเกตป้ายโครงการเดอะ ริคโค้ ทาวน์ ที่ทางโครงการติดไว้ก่อน ถึงแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยเลยค่ะ

บรรยากาศภายในซอยเป็นซอยที่ค่อนข้างสงบ สองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเอกชนซึ่งเป็นที่ดินเปล่าสลับบ้านอยู่อาศัยสูง 1 – 3 ชั้น เหมาะกับผู้ที่ชอบบบรยากาศเงียบสงบ

route from ricco-22-1

ขับเข้ามาจากปากซอยประมาณ 500 ม. ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางฝั่งขวาค่ะ

plan zoom ricco (1 of 1)

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ ซอยสายไหม 35 มีถนนกว้าง 2 เลน แบ่งเป็น ไป 1 เลน กลับ 1 เลน เป็นซอยที่ใช้เชื่อมไปออกถนนลำลูกกาได้ โดยบนถนนสายไหมก็มีหลายซอยที่สามารถใช้ไปออกถนลำลูกกาได้ เช่น ซอยสายไหม 39 โครงการอยู่ฝั่งที่มุ่งหน้าถนนสายไหม ทั้งสองฝั่งถนนจะเป็นพื้นที่โครงการบ้านพักอาศัยแนวราบสลับกับที่ดินเปล่ารอการพัฒนา มีสำนักงานเล็กๆและโกดังเก็บของบ้างนิดหน่อย จึงเป็นซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีข้อดีที่สงบเหมาะกับการอยู่อาศัย เหมาะกับที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ทางเข้าโครงการอยู่ประมาณกึ่งกลางซอย เข้ามาจากถนนสายไหมประมาณ 500 ม. สำหรับบริบทโดยรอบของโครงการส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่เป็นที่อยู่อาศัยแบบแนวราบ โดยมีพื้นที่ที่ติดต่อกับโครงการคือ

  • ด้านทิศเหนือ จะติดกับที่ดินของเอกชนซึ่งรอการพัฒนาในอนาคต
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น ซึ่งจะติดกับส่วนของหลังบ้านตลอดแนวรั้วโครงการ
  • ด้านทิศใต้ ติดกับบ้าน 1-2 ชั้น คาดว่าน่าจะเป็นอู่แท็กซี่
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับถนนซอยสายไหม 35 ฝั่งตรงข้ามถนนปัจจุบันเป็นที่ดินเปล่าใช้เป็นลานจอดรถของสำนักงานที่อยู่ติดกัน

route from ricco-5 copy

แปลงที่ดินในกรอบสีเหลืองคือขอบเขตของโครงการ ส่วนแปลงที่ดินที่ติดกันฝั่งซ้ายเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น มีรถแท็กซี่จอดอยู่หลายคัน คาดว่าน่าจะทำเป็นอู่รถแท็กซี่ค่ะ

route from ricco-3 copy

แปลงที่ดินในกรอบสีเหลืองคือขอบเขตของโครงการ ส่วนแปลงที่ดินที่ติดกันฝั่งขวาของโครงการเป็นที่ดินของเอกชนที่ถูกล้อมรั้วสังกะสีไว้

route from ricco-1

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นที่จอดรถของสำนักงานสยามสไมล์ 2 ชั้นที่อยู่เยื้องกับโครงการค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C สายไหม ~1.7 กม.
  • ตลาด เอ.ซี.สายไหม ~ 1.9 กม.
  • Tops Supermarket ~ 2.6 กม.
  • ตลาดวงศกร ~ 3.6 กม.
  • โรงพยาบาลสายไหม ~ 3.8 กม.
  • โรงเรียนนายเรืออากาศ ~ 4.4 กม.
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์สายไหม ~ 4.7 กม.
  • ตลาดออเงิน ~ 5.5 กม.
  • โรงพยาบาลภูมิพลอดุยเดช ~ 6 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

Sales-Kits_RT-PS35 - CO

โครงการ The Ricco Town Phahonyothin-Saimaiเป็นโครงการ ทาวโฮม 2 ชั้น จำนวน 124 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 10-3-35.2 ไร่ สามารถเข้าถึงได้จาก 2 ทางคือ เส้นสายไหมและเส้นลำลูกกา โครงการเริ่มขายจากเฟสแรก มีจำนวน 78 หลัง ส่วนเฟส 2 มีจำนวน 46 หลัง มีกำหนดจะเสร็จทั้งโครงการภายในเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งปัจจุบันมีบ้านในเฟสแรกที่ทยอยเสร็จบางส่วนก็ได้เริ่มทยอยโอนแล้วเช่นกัน ส่วนของพื้นที่สีเขียวส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้วค่ะ

ที่ดินของตัวโครงการเป็นที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีด้านยาวติดถนนตลอดแนว การวางผังของโครงการจะวางตำแหน่งทางเข้าออกจะอยู่ตรงกลางโครงการค่อนไปทางเฟส 2 (ฝั่งขวา) เข้ามาภายในจะเจอสวนส่วนกลางเป็นลำดับแรก ป้อมยามและสวนถูกกั้นด้วยถนนหลักโครงที่วางตัวแนวเหนือ-ใต้ ตลอดความยาวของโครงการ มีความกว้าง 9 เมตรและจะแยกเป็นถนนซอยย่อยๆ ด้วยความกว้าง 9 ม. เช่นกัน โดยระยะทางจากทางเข้าถึงสุดเขตที่ดินเฟส 1 มีระยะประมาณ 180 ม. และถึงสุดเขตที่ดินเฟส 2 มีระยะ 125 ม. จากระยะที่สั้นกว่าทำให้เฟส 2 มีจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าเฟส 1 ค่ะ

การวางตัวของบ้านแต่ละหลัง จะหันหน้าเข้าหาถนนภายในโครงการ มีทั้งที่หันเข้าถนนหลัก และถนนซอยที่กว้าง 9 ม. เท่ากัน แต่ความเป็นส่วนตัวสำหรับการพักอาศัย บ้านที่อยู่บนถนนซอยจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า และโครงการออกแบบให้แต่ละซอยย่อยมีจำนวนบ้านไม่เกิน 10 หลังจึงค่อนข้างจะน่าอยู่ทีเดียว สำหรับลูกบ้านที่ชอบอยู่บนถนนหลัก มีข้อดีที่หน้าบ้านจะค่อนข้างคึกคัก เพราะรถของบ้านในซอยย่อยต้องผ่านบ้านบนถนนหลักตลอด ทำให้บ้านหลังเหล่านี้มักไม่ใช่เป้าหมายแรกๆที่ขโมยจะเลือกขึ้น แต่ก็มีข้อเสียจากความคึกคักเพราะทำให้ความสงบในการอยู่อาศัยลดลง

สำหรับบ้านยูนิตที่อยู่บนถนนหลักจะหันไปทางทางทิศตะวันออก ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยย่อยจะวางตัว 2 ฝั่งคือฝั่งที่หันไปทางทิศเหนือและฝั่งที่หันไปทางทิศใต้ บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่จ้ากว่าและลมที่แรงกว่าด้วย แบบบ้านทั้งหมดมีแบบเดียวแตกต่างกันที่ขนาดที่ดิน โดยมีให้เลือกเป็นแปลงมาตรฐานและแปลงมุม การเลือกขนาดของที่ดินขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ หากเลือกแปลงมาตรฐานคือแปลงที่อยู่ตรงกลางจะไม่มีพื้นที่สวนด้านข้าง พื้นที่นอกบ้านจะมีพื้นที่จอดรถด้านหน้าบ้านและพื้นที่ด้านหลังบ้านเท่านั้นแต่ราคาก็จะถูกกว่าแปลงมุม สำหรับผู้ที่อยากมีสวนเล็กๆส่วนตัวในบ้านและมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกแปลงมุมได้ ส่วนการเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยุ่ด้านหน้าโครงการค่ะ

facilities ricco14 (1 of 1)

ทางขวามือของซุ้มทางเข้าโครงการ มีป้ายชื่อของโครงการติดอยู่ ริมรั้วหน้าดครงการจะปลูกเป็นสวนพุ่มไม้เตี้ยๆ

ซุ้มประตูโครงการก่อด้วยคอนกรีตทึบ มีหลังคาไว้หลบฝนหลบแดดได้ ทางเข้าโครงการเป็นถนนคอนกรีตถูกยกระดับขึ้นมาจากถนน 15 ซม.เพื่อช่วยในการระบายน้ำและป้องกันน้ำไหลเข้าโครงการได้ในระดับนึงที่ฝนตกหนักและระบายน้ำไม่ทัน โดยมีความกว้างถนนบริเวณหน้าซุ้มประตูประมาณ 14.6 ม. ป้อม รปภ.จะอยู่บริเวณเกาะกลางเพื่อแยกฝั่งรถเข้า-ออกโครงการค่ะ

ทางเข้าสู่โครงการ ด้านหน้าจะมีป้อมยามสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออก โดยจะมี รปภ. ประจำอยู่ตลอด ส่วนฝั่งขวาติดป้ายชื่อโครงการไว้ชัดเจนค่ะ

ด้านข้างป้อมพี่รปภ.มีกล้อง CCTV ส่องคนขับในระยะใกล้ ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการใช้แบบรั้วไม้กระดกกั้น โดยการเข้า – ออกเป็นแบบสติกเกอร์ ส่วนรถที่เป็นแขกลูกบ้านก็จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ รปภ. แล้วก็จะได้ใบกระดาษมาเพื่อจะต้องแสตมป์และยื่นให้พี่ยามในขาออก ซ้ายมือมีช่องทางเดินเข้าออกได้ ..น่าเสียดานนิดนึงที่น่าจะมี Keycard Access มาให้ค่ะ

ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาในโครงการ ฝั่งซ้ายจะพบทาวน์โฮมบล็อกแรกที่หันหน้าเข้าหาสวนส่วนกลาง ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นบ้านตัวอย่างและสำนักงานขายอยู่ค่ะ

facilities ricco-8

บ้านตัวอย่างคือบ้านหลังมุมเป็นบ้านที่ตกแต่งลงเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่ง ส่วนของรั้วบ้านทางโครงการตกแต่งเป็นสวนหย่อมเอาไว้ไม่ได้เป็นรั้วเหมือนบ้านจริง ส่วนสำนักงานขายคือหลังที่อยู่ติดกันทางขวามือ จะพาเข้ามาเยี่ยมชมในสำนักงานสักนิดค่ะ

facilities ricco13 (1 of 1)

สำนักงานขายจะใช้บ้านที่สร้างเสร็จจริงมาตกแต่งให้เป็นพื้นที่รับรองลูกค้า

facilities ricco-10

ด้านในจะจัดที่นั่งสำหรับผู้มาเยี่ยมชมโครงการและมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและให้ข้อมูลของโครงการ

ออกมาจากสำนักงานขายจะพบพื้นที่สวนส่วนกลางของโครงการที่อยู่ด้านหน้า มีขนาดประมาณ 570 ตร.ม. สุดกำแพงด้านหลังสวนปลูกไม้พุ่มไว้เพื่อเป็นแนวสำหรับบังสายตาจากบ้านพักอาศัยด้านนอกโครงการ ส่วนพื้นที่หลังผ้าใบสีเขียวเป็นพื้นที่กำลังก่อสร้างของเฟส 2 ค่ะ

facilities ricco15 (1 of 1)

ภายในสวนปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้หลายต้น เช่น ต้นก้ามปู แม้ตอนนี้จะยังไม่แตกกิ่งก้านมากนักแต่ในอนาคตพื้นที่ตรงนี้น่าจะร่มรื่นทีเดียว นอกจากนี้จะมีทางเดินคอนกรีต เป็นเส้นทางให้เดินผักพ่อนในสวนได้สะดวก จากฝั่งนี้จะเห็นบล็อกทาวน์โฮมด้านหน้าสวน ซึ่งเป็นบล็อกที่ถือว่ามีวิวที่ดีที่สุดในโครงการจึงจะต้องถูกบวกราคาเพิ่มนะคะ

facilities ricco-5 copy

จากในสวนมองไปทางซุ้มทางเข้า ฝั่งซ้ายมือที่เป็นอาคารเล็กๆ ชั้นเดียว นั้นคือสำนักงานนิติในอนาคต ซึ่งตอนนี้ยังคงเป็นสำนักงานช่างชั่วคราวค่ะ ถนนที่คั่นระหว่างสวนและซุ้มทางเข้านั่นคือถนนหลักของโครงการ เป็นเส้นตรงยาวตลอดแนวโครงการ ถ้าไปฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่เฟส 2ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ถ้าไปฝั่งขวาจะเป็นเฟส 1 ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่เหมือนกันแต่เริ่มทยอยเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะพาไปชมฝั่งเฟส 1 กันค่ะ

ถนนหลักของโครงการที่เข้ามาในบริเวณเฟส 1 เป็นถนน 9 เมตร ฝั่งซ้ายเป็นบล็อกบ้านที่หันหน้าเข้าถนนหลัก ซึ่งด้านหน้าบ้านจะมีแนวของเสาไฟฟ้าซึ่งตัวเสาจะตั้งอยู่ระหว่างบ้านจึงไม่ได้เกะกะหน้าบ้าน ฝั่งขวาปลูกต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ร่มรื่น และจะมีซอยย่อยไปทางขวาเป็นบ้านพักอาศัยเช่นเดียวกัน โดยแต่ละซอยจะมีจำนวน 10 ยูนิต จึงต่อนข้างที่จะมีความเป็นส่วนตัวค่ะ

ระยะที่เว้นไว้ระหว่างบล็อกเพื่อเป็นพื้นที่เว้นว่างและเป็นที่กลับรถตามกฎหมาย โดยด้านในจะยกระดับจากพื้นขึ้นมาเพื่อป้องกันลูกบ้านนำรถมาจอดในพื้นที่ส่วนกลางตรงนี้และปูหญ้าปิดไว้ให้เป็นพื้นที่สีเขียว ส่วนด้านหน้าเป็นทางคอนกรีตใช้เป็นที่กลับรถบนถนนหลักของโครงการค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ 1 ตำแหน่ง
  • ระบบ CCTV 2 จุด ที่ Main Gate และภายในโครงการ 2 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนหลักกว้าง 9 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.


Product Walkthrough

planบ้าน (1 of 1)

แบบบ้านของโครงการนี้มีแค่แบบเดียวเป็นแบบทาวน์โฮม 2 ชั้น มีขนาดที่ดินมาตรฐาน 17.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 116 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.65 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตัวบ้านชั้นล่างสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของส่วน Pantry ครัวให้เป็นห้องนอนขนาดเล็กได้อีกห้องหนึ่ง โดยกั้นผนังเพิ่ม 1 ด้าน ภายในสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้

ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ 2 คัน ฝั่งหนึ่งเป็นประตูกระจกสไลด์ที่เป็นทางเข้าบ้าน อีกฝั่งจะเป็นห้องเก็บของซึ่งประตูเปิดปิดจะอยู่ด้านนอกตัวบ้าน สำหรับบ้านตัวอย่างเป็นบ้านหลังมุมจึงมีพื้นที่ดินข้างตัวบ้านเพิ่มขึ้นฝั่งหนึ่ง เข้ามาในบ้านส่วนแรกจะเจอพื้นที่นั่งเล่น ตำแหน่งวางทีวีจะอยู่ฝั่งเดียวกับบันไดซึ่งอยู่ตรงข้ามโซฟารับแขก ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว ติดกันเป็นประตูทางออกหลังบ้าน ซึ่งเป็นกระจกบานสไลด์เช่นเดียวกัน ตัวบ้านจึงมีแสงธรรมชาติเข้าจากทั้งทางหน้าบ้านและหลังบ้าน ฝั่งขวาของโต๊ะทานข้าวจะเป็นพื้นที่ครัวซึ่งสามารถปรับฟังก์ชันเป็นห้องนอนเล็กได้ โดยติดกันห้องครัวเป็นห้องน้ำส่วนกลางของชั้นล่าง ภายในติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้ให้จึงสามารถอาบน้ำที่ชั้นล่างได้ แต่ไม่ได้กั้นโซนเปียกแห้งไว้ให้ค่ะ

บนชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอห้องน้ำห้องเดียวของชั้น 2 อยู่ด้านหน้า พื้นที่ที่เหลือคือห้องนอนใหญ่ที่อยู่หน้าบ้าน มีระเบียงเป็นของตัวเอง และมีประตูเชื่อมกับห้องน้ำ ห้องน้ำบนชั้น 2 จึงสามารถเข้าได้ 2 ทางคือจากห้องนอนใหญ่และทางเดินส่วนกลาง ส่วนหลังบ้านแบ่งออกเป็น 2 ห้องคือห้องนอนเล็ก 2 ห้องขนาดเท่ากัน สามารถจัดเป็นห้องทำงาน ห้องอเนกประสงค์ หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเด็กเล็กได้

facilities ricco-8

ภายนอกของบ้านถูกดีไซน์ออกมาแบบเรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีโทนขาว-เทา ช่องแสงเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงสีออกฟ้าๆ มีที่จอดรถ 2 คันอยู่ส่วนหน้าบ้าน ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นกระเบื้องจตุลอน ช่วยระบายน้ำฝนได้ดี เพราะลักษณะท้องลอนที่มีความโค้งมน สามารถระบายน้ำได้ดีกว่ากระเบื้องในท้องตลาดอื่นทั่วไป ภายในติดฉนวนกันความร้อนไว้อีกชั้นหนึ่ง หลังคาด้านบนไม่มีกันสาดยื่นออกมาบังแดดและฝนให้ แต่จะเป็นจุดที่ลูกบ้านมักจะชอบต่อเติมกันมากที่สุดค่ะ

ตัดภาพจากบ้านตัวอย่างมากันที่บ้านจริงที่มีรั้วประตูบ้านและพื้นที่จอดรถให้ดูค่ะ พื้นลานจอดรถเป็นพื้นคอนกรีตเรียบๆ ไม่ได้ตกแต่งด้วยหญ้าเหมือนบ้านตัวอย่าง ทางขวาของประตูรั้วบ้านจะมีไฟดวงเล็ก และกริ่งบ้าน

ประตูรั้วหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นเหล็กรูปพรรณทาสี มีลักษณะเป็นบานพับแบบหลายๆตอน ล็อกด้วยการลงกลอน 4 จุด ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา ใช้เป็นแค่เหมือนการแบ่งพื้นที่ ไม่มีประตูเล็กเข้า-ออกสำหรับคนเดิน รั้วระหว่างบ้านมีความสูง 1.5 ม. ซึ่งเป็นระยะที่ไม่สูงนักมีข้อดีที่ทำให้บ้านดูโปร่ง สามารถมองวิวด้านนอกบ้านได้สะดวก แต่ก็สามารถปีนข้ามได้ง่าย ส่วนระยะจอดรถลึก 6.1 ม. สำหรับบ้านยูนิตที่หันหน้าตะวันออก และลึก 5.1 ม. สำหรับบ้านที่หันหน้าในทิศเหนือใต้ ซึ่งเป็นระยะที่สามารถจอดรถกระบะได้ค่ะ 

ricco SH (3 of 98) copy

สำหรับชั้นล่างของบ้าน กำแพงจะถูกร่นเข้าไปประมาณ 1.5 เมตร จะมีทางเข้าหลักของบ้านเป็นประตูบานกระจกสไลด์ ตัวกระจกเป็นแบบตัดแสงตามมาตรฐานทั่วไปอยู่ฝั่งเฉลียงหน้าบ้านที่ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีน้ำตาล ฝั่งขวาติดตั้งก๊อกน้ำไว้เผื่อต่อสายยางรดน้ำต้นไม้ หรือล้างรถได้ค่ะ

ricco SH (6 of 98)-down

หน้าบ้านอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องเก็บของ ด้านข้างประตูมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งข้อดีของการมีปลั๊กไฟฝั่งที่จอดรถทำให้สามารถเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดรถได้สะดวก และเป็นฝั่งที่มีกันสาดจากด้านบนยาวกว่าอีกฝั่ง ช่วยป้องกันฝนสาดเข้าปลั๊กไฟได้ค่ะ

ricco SH (8 of 98)-down

ประตูกระจกบานสไลด์หน้าบ้านมีลักษณะบานเลื่อนจะเป็น 2 ระดับซ้อนกันอยู่ ทำให้ความกว้างเวลาเปิดประตูจะมีความกว้างที่สุดได้เท่ากับบานประตูบานเดียวคือประมาณ 1.1 ม.

หน้าบ้านมีเฉลียงเล็กๆปูกระเบื้องมาให้ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากพื้นด้านนอกปลิวเข้าตัวบ้าน เวลาลมพัดฝุ่นบนพื้นลานจอดรถก็จะติดขอบเฉลียงจึงช่วยลดฝุ่นในบ้านได้ค่ะ

ตัวรางของประตูถูกกดให้มีระดับที่เท่ากับพื้นกระเบื้องด้านในตัวบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสะดุดบานประตูนะคะ พื้นภายในบ้านจะยกระดับสูงขึ้นจากเฉลียงประมาณ 5 ซม. พื้นด้านในปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60 x 60 ซม.

ลักษณะของมือจับบานประตูหน้าบ้านมีพื้นที่ให้จับได้พอดีมือค่ะ

ricco SH (13 of 98)-down

เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีเป็นพื้นที่โล่งยาวไปถึงส่วนพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร พื้นที่นี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้าง 2.4 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดที่เหมาะสมได้ถึง 55 นิ้ว

พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่าง สูง 2.75 เมตร สูงทีเดียวนะคะ ผนังในบ้านตัวอย่างจะติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่บ้านจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนดวงไฟบ้านจริงจะให้เป็นไฟซาลาเปานะคะ ไม่ได้ให้ไฟ downlight เหมือนบ้านตัวอย่างค่ะ

ricco SH (15 of 98)-down

เข้ามาภายในบ้านแล้วมองกลับไปที่ประตูหน้าบ้านจะเห็นพื้นที่อยู่อาศัยในชั้น 1 นะคะ ฝั่งซ้ายที่เห็นเป็นประตูคือทางเข้าห้องน้ำส่วนกลาง ซึ่งใช้ผนังเดียวกับตำแหน่งการวางทีวีติดผนัง ถัดไปเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ ส่วนฝั่งขวาไล่จากประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่วางโซฟาของห้องนั่งเล่น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานข้าวค่ะ

มาดูทีละจุดกันนะคะ พื้นที่ห้องนั่งเล่นจัดโซฟาขนาด 3 ที่นั่งไว้ ถ้าครอบครัวที่มีสมาชิกเกิน 3 คนก็คงจะไม่พอนั่ง คงต้องหาเก้าอี้สตูลมาเพิ่มสำหรับเวลาที่นั่งดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวค่ะ

ด้านข้างโซฟามีพื้นที่เหลือ 130 ซม. สามารถทำเป็นตู้เก็บของเพิ่มก็ได้หรือสามารถซื้อโซฟาที่ตัวใหญ่กว่าที่บ้านตัวอย่างมาวางได้ค่ะ

ต่อมาเป็นพื้นที่ด้านในของบ้าน เป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 4 ตัว ด้านหลังโต๊ะทานข้าวมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังพื้นที่หลังบ้าน ฝั่งขวาเป็นพื้นที่ครัวซึ่งสามารถกั้นห้องเพื่อทำเป็นครัวปิด หรือทำเป็นห้องนอนเล็กในชั้นล่างได้

โต๊ะอาหารวางอยู่ติดกับประตูกระจกสไลด์ทางด้านหลังบ้าน โดยสเปคของประตูจะเหมือนกับหน้าบ้านแต่ขนาดจะเล็กกว่านิดหน่อย เมื่อเปิดแล้วมีความกว้างของช่องทางเดินประมาณ 90 ซม. แสงธรรมชาติจะส่องเข้ามาจากด้านหลังทำให้เวลานั่งทานข้าวเวลากลางวันจะร้อนสักนิด ต้องติดม่านช่วยนะคะ ส่วนระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้พอสมควรค่ะ

ricco SH (24 of 98)-side

มือจับของประตูบานสไลด์จะเป็นแบบฝังลงไปกับกรอบประตูนะคะ และมีติดเส้นสักหลาดเพื่อกันฝุ่นละอองและเสียงจากภายนอกเข้าในตัวบ้านด้วยค่ะ

ricco SH (27 of 98)-side

พื้นที่หลังบ้านจะมีงานระบบทั่วไปมารอไว้อยู่แล้ว ซึ่งโครงการจะเทปูนขัดหยาบไว้ให้เหมือนตามบ้านตัวอย่าง ระดับพื้นถูกกดลงมาจากในตัวบ้าน 0.4 ม. ขนาดของพื้นที่หลังบ้านกว้างประมาณ 2 ม. เป็นระยะมาตรฐานทั่วไปไม่ได้กว้างมาก แต่พอทำครัวไทยขนาดเล็ก-กลางได้ สำหรับการต่อเติมอย่าลืมดูเรื่องข้อกฎหมายด้วยนะคะ

DSCF3082-side

อีกฝั่งหนึ่งของพื้นที่หลังบ้าน เนื่องจากบ้านตัวอย่างเป็นบ้านหลังมุมจึงมีพื้นที่สวนด้านข้างเพิ่มขึ้นให้สามารถเดินวนไปหน้าบ้านได้ แต่สำหรับบ้านมาตรฐานที่อยู่หลังกลางจะถูกขนาบด้วยบ้านข้างๆ ไม่มีพื้นที่ด้านข้างนะคะ ด้านข้างประตูมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งมีข้อดีคือสามารถเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบริเวณนอกบ้านได้สะดวก

ricco SH (32 of 98)-down copy

มาดูส่วนครัวที่อยู่มุมในของบ้านฝั่งตรงข้ามกับโต๊ทานข้าว มีพื้นที่ประมาณ 2.4 x 1.8 เมตร ไม่ได้กั้นพื้นที่แยกมาให้และไม่มีเคาท์เตอร์ครัวหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆ นอกจากเดินท่อรอไว้สำหรับต่อท่อน้ำทิ้งของซิงค์ล้างจานและติดตั้งปลั๊กไฟไว้สำหรับเป็นตำแหน่งวางตู้เย็นไว้ ฝั่งขวาจะมีประตูทางเข้าไปยังห้องน้ำของชั้น 1 ค่ะ

ในครัวสามารถจัดเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L ได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมเผื่อที่เว้นสำหรับตู้เย็น ทางที่ดีถ้าจะเอาเรียบร้อยเหมือนในบ้านตัวอย่างก็ควรจะทำเป็นครัว Built-in อย่างที่ลองจัดมาให้ดูนี้จะได้เคาน์เตอร์ขนาด 5 ช่อง เป็นซิงค์ล้างจาน 1 ช่อง วางเตาไฟฟ้า 1 ช่อง และพื้นที่สำหรับเตรียมเครื่องปรุงอีก 3 ช่อง ซึ่งเก็บไปเป็นไอเดียในการตกแต่งห้องครัวได้ค่ะ

ในพื้นที่ห้องครัวจะมีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านข้าง บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดบานประตูมาให้ดูนะคะ โดยบานประตูจะเป็นบาน HDF ตามมาตรฐานทั่วไปค่ะ

ระดับพื้นภายในห้องน้ำจะถูกกดลดลงไปประมาณ 7 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำจากในห้องน้ำไหลออกมาในส่วนของห้องครัวได้นะคะ พื้นปูด้วยกระเบื้องสีเทาขนาด 30 x 30 ซม. เป็นกระเบื้องผิวด้านเพื่อกันลื่นภายในห้องน้ำค่ะ

ricco SH (37 of 98)-side

ห้องน้ำชั้น 1 มีขนาด 1.54 x 1.8 เมตร ภายในไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ แต่ก็มีติดตั้งฝักบัวให้สามารถอาน้ำที่ชั้น 1 ได้ อย่างเวลาเร่งรีบตอนเช้าที่ทุกคนในบ้านต้องการเข้าห้องน้ำพร้มกัน การที่ห้องน้ำทั้ง 2 ห้องสามารถอาบน้ำได้คู่ทำให้สะดวกสบายขึ้น

ตัวอ่างล้างหน้าขนาดไม่ใหญ่มากและไม่มีเคาน์เตอร์มาให้ แต่ดีตรงที่ขอบอ่างมีระยะให้พอวางของได้บ้างไม่อย่างน้ันต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่ม ตัวอ่างล่างหน้าได้ของ Bathroom Design หรือเทียบเท่า ส่วนก๊อกน้ำได้ของ VRH ค่ะ

collage

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ American Standard หรือเทียบเท่า มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระยี่ห้อ VRH ด้านข้างมีการเว้นพื้นที่พอสมควรเพื่อให้สะดวกในการหยิบทิชชู่ แต่ตำแหน่งของที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระอยู่คนละฝั่งกัน ทำให้ต้องหันซ้ายทีขวาที ถ้าติดฝั่งเดียวกันได้ก็จะดีค่ะ

พื้นที่ส่วนอาบน้ำไม่มีการลดระดับสำหรับการอาบน้ำทำให้การใช้งานจริงอาจจะยากหน่อย เพราะจะเลอะกันไปทั้งห้อง จึงเหมาะกับการใช้อาบน้ำแค่บางครั้งบางคราวเท่านั้นค่ะ

หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ ด้านล่างจะมีก๊อกน้ำอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งมีข้อดีในการช่วยอำนวยความสะดวกเวลาต้องการรองน้ำใส่ถังน้ำสำหรับถูบ้าน หรือรองน้ำใส่กะละมังซักผ้าก็สะดวกดีค่ะ

ricco SH (45 of 98)-down

อุปกรณ์อาบน้ำ ได้แก่ ฝักบัว ของ Bathero และก๊อกเปิดปิด ของ VRH มีขนาดจับได้ถนัดมือดีค่ะ

บนฝ้าของห้องน้ำติดตัวดูดอากาศไว้ เพราะห้องน้ำชั้น 1 ไม่ได้มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศนะคะ จึงต้องพึงงานระบบล้วนๆค่ะ

ricco SH (48 of 98)-side

ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 ตัวโครงบันไดจะเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา แต่ลูกนอนจะเป็นไม้ยางพาราประสาน ความกว้างของพื้นที่เดินอยู่ที่ประมาณ 85 ซม. ลูกตั้งสูง 20 ซม. ลูกนอนกว้าง 25 ซม. ถือว่าเป็นขนาดมาตรฐานนะคะ

รูปร่างของบันไดโดยรวมจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม พื้นที่ตรงกลางเป็นผนังของบ้าน ไม่มีราวจับบันไดตลอดทางขึ้นทำให้การขึ้นลงบันได้ต้องระมัดระวังมากขึ้นค่ะ

ricco SH (51 of 98)-side copy

ขึ้นมาจากบันไดจะเจอโถงทางเดินชั้น 2 ห้องที่อยู่ตรงข้ามกับบันไดจะป็นห้องน้ำส่วนกลางของชั้นนี้ ซึ่งสามารถเข้าได้ 2 ทาง จากทางโถงทางเดินและจากห้องนอนใหญ่ ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องนอนใหญ่ ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องของตัวบ้าน บานประตูของห้องนอนและห้องน้ำ มีลักษณะที่เหมือนกันเป็นบาน HDF พื้นบนชั้นนี้ปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งชั้น ตั้งแต่หน้าบันไดถึงภายในห้องนอนค่ะ

ต่อไปจะพาเข้าไปชมภายในห้องนอนใหญ่กันค่ะ

ส่วนพื้นของห้องนอนจะมีตัวจบพื้นกั้นเป็นธรณีเล็กๆ เพื่อป้องกันฝุ่นเวลากวาดบ้านบริเวณโถงทางเดินฝุ่นก็จะติดขอบธรณีไม่สามารถเข้าไปในห้องได้ค่ะ

ricco SH (56 of 98)-down

ห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างกว่าห้องนอนทุกๆห้อง คิดเป็นพื้นที่เกือบ 1 ใน 2 ของพื้นที่ชั้นบนเลยทีเดียว ผังของห้องนอนใหญ่มีข้อดีนะคะคือภายในตัวห้องสามารถกั้นพื้นที่ตรงกลางได้ ทำให้เกิดสัดส่วนของพื้นที่เตียงนอนแยกจากพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet จึงมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น ตัวห้องมีระยะพื้นถึงฝ้าสูงกว่าห้องอื่นๆ คือ 2.9 ม. ภายในถูกจัดวางFurniture ต่างๆไว้ได้ครบนะคะ ได้แก่ เตียงขนาด 5 ฟุต ด้านข้างวางโต๊ะหัวเตียงไว้ฝั่งหนึ่ง ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีพื้นที่พอสำหรับชั้นวางทีวีค่ะ สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะ จะเป็นห้องเปล่า ผนังทั้งหมดจะฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ

ตำแหน่งสำหรับวางเตียงนอนที่ห้องตัวอย่างวางไว้ขนาด 5 ฟุต โดยมีพื้นที่เหลือทั้ง 2 ฝั่ง จริงๆแล้ววางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เพราะมีพื้นที่เหลือพอนะคะ แต่พื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงจะถูกลดลง

พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งซ้ายที่ติดกับผนังห้อง มีพื้นที่กว้างประมาณ 0.65 ม. สามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียง ซึ่งด้านหลังโต๊ะหัวเตียงติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือเสียบปลั๊กโคมไฟได้สะดวก

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง มีระยะประมาณ 0.45 ม. เป็นระยะให้พอเดินมาขึ้นเตียงได้ พื้นที่ด้านในมีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆอีกตัวหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกหัวเตียงที่มีชั้นวางของมากกว่าค่ะ เพราะโต๊ะหัวเตียงจะติดกับม่านเวลาเปิดปิดม่านจะไม่ค่อยสะดวก

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีระยะเดินเหลือประมาณ 1.2 ม. ตรงยาวไปถึงบริเวณหน้าห้องฝั่งขวาจะมีพื้นที่ว่างๆขนาดประมาณ 1 x 1 ม. ซึ่งสามารถทำตู้เก็บของแบบ Built-in เพิ่มในส่วนนี้ก็ได้ค่ะ

หันกลับไปดูฝั่งที่เป็นกระจกของห้องนะคะ ซึ่งโครงการติดตั้งมาให้มีขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นบานใหญ่บานเดียวแต่ก็เป็นช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ โดยหน้าต่างกระจกใสจะเป็นบานผสมระหว่างบาน Fix และบานเปิด โดยจะมีบานเปิดได้ 1 บานอยู่ฝั่งขวาเพื่อเป็นช่องระบายอากาศภายในห้องนอนค่ะ

ricco SH (63 of 98)-side

กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมอบสีดำ มือจับบานกระทุ้งสามารถจับได้ถนัดมือดีค่ะ โดยบานหน้าต่างสามารถเปิดออกไปได้กว้าง 90 องศา ทำให้สามารถรับลมและระบายอากาศในห้องได้ดีค่ะ

ricco SH (65 of 98)-down

ต่อมาเป็นส่วนปลายเตียงที่เผื่อที่ไว้สำหรับการกั้นเป็น Walk-in closet พอดี พร้อมทั้งจัดชั้นวางทีวีแบบลอยมาให้แต่บ้านจริงสามารถทำชั้นวางทีวี Built-in ได้เลยนะคะ ผนังด้านข้างได้มีการติดตั้งสวิตซ์ไฟและช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไว้เรียบร้อยค่ะ

ricco SH (66 of 98)-side

ด้านหลังของฉากกั้นทีวีเป็นพื้นที่ที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ มีข้อดีคือสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนังด้านที่ติดกำแพง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคงถูกใจคุณผู้หญิงมากเพราะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งตัวยาวได้สบายๆ ด้านในสุดของห้องเป็นประตูบานกระจกสไลด์สำหรับออกไประเบียงด้านนอก ซึ่งจะเป็นช่องรับแสงธรรมชาติอีกช่องหนึ่งของห้องด้วยค่ะ

edit (1 of 1)

ระเบียงมีขนาดไม่ใหญ่นักนะคะ มีระยะกว้างยาวประมาณ 0.60 x 2.4 ม. แต่พอวางคอมเพรสเซอร์แล้วจะเหลือพื้นที่ใช้งานได้จริงแค่ 0.6 x 1.3 ม. ซึ่งเล็กมาก สามารถวางเก้าอี้ได้สักตัวหนึ่งหรือยืนชมวิวแค่นั้น

ราวกันตกถูกออกแบบไว้เป็นกระจกเขียวตัดแสงทำให้เวลามองออกมาจากภายในห้องจะสามารถเห็นพื้นที่สีเขียวด้านหน้าบ้านได้โดยไม่มีราวระเบียงมาบังนะคะ ส่วนขอบธรณีที่กั้นระหว่างพื้นห้องนอนกับพื้นระเบียงถูกออกแบบให้มีความสูงเป็นพิเศษคือประมาณ 20 ซม. กันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้ามาในตัวห้องได้ค่ะ

พื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งที่บ้านตัวอย่างตกแต่งไว้มีขนาดกลาง ซึ่งบ้านจริงมีพื้นที่เหลือพอให้วางตัวใหญ่กว่านี้ได้นะคะ

ส่วนตู้เก็บเสื้อผ้าสามารถทำแบบมีบานประตูเปิดปิด หรือจะเปิดโล่งก็ได้ อย่างที่บ้านตัวอย่างตกแต่งไว้จะเป็นแบบเปิดโล่ง แบ่งพื้นที่ภายในตู้เสื้อผ้าออกเป็น 4 ตู้ มีราวแขวนผ้ากับช่องเก็บของต่างๆหลายช่อง ซึ่งสามารถดูไว้เป็นไอเดียในการออกแบบตู้เสื้อผ้าและสามารถเลือกฟังก์ชันภายในตู้ที่เหมาะกับแต่ละคนได้ค่ะ

ต่อมาเป็นห้องน้ำของชั้น 2 บานประตูเป็นบานสำเร็จรูปเหมือนปกติ พื้นปูกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.เหมือนพื้นห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำบนชั้น 2 แบ่งพื้นที่ออกเป็นสามส่วนมาตรฐาน คือ ส่วนอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างเลยนะคะ

ricco SH (74 of 98)-down

ประตูห้องน้ำจะมี 2 ประตู คือทางเข้าจากทางเดินส่วนกลาง และทางเข้าจากห้องนอนใหญ่ พื้นในห้องน้ำถูกลดระดับลงมา 7 ซม. เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง ความต่างระหว่างห้องน้ำชั้นล่างกับชั้นบน คือพื้นที่อาบน้ำในห้องน้ำชั้นบนถูกลดระดับลงมาอีก 5 ซม. จึงเป็นเหมือนการแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งภายในห้องน้ำ

ricco SH (76 of 98)

พื้นที่อาบน้ำที่ถูกลดระดับลงไปมีขนาด 09 x 0.9 ซม.แม้ว่าจะลดระดับแล้ว แต่คาดว่าน้ำจากฝักบัวก็คงกระเด็นออกมาอยู่ดี คงจะต้องติดม่านกั้นอาบน้ำเพิ่ม โดยพื้นที่อาบน้ำมีการออกแบบลบมุม ไม่ให้เกิดเป็นซอกเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด แต่น่าเสียดายที่ทำให้ไม่สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำมาตรฐานที่ส่วนใหญ่จะออกแบบมาสำหรับพื้นที่เข้ามุมฉากได้ค่ะ

พื้นที่วางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมีมาพร้อมที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระ ห้องนี้จะติดที่แขวนกระดาษชำระไว้ฝั่งเดียวกับสายฉีดชำระ ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ

กลับมาที่โถงทางเดินส่วนกลาง จะมีห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนใหญ่ จะพาไปชมทีละห้องนะคะ เริ่มจากห้องทางฝั่งซ้ายกันก่อน

ricco SH (87 of 98)

ส่วนพื้นของห้องนอนจะมีตัวจบพื้นกั้นเป็นธรณีเล็กๆ เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าห้องนอนเหมือนแบบห้องนอนใหญ่นะคะ พื้นเป็นลามิเนต หนา 8 มม. เช่นเดียวกับโถงทางเดินเลยค่ะ

ricco SH (78 of 98)-side

ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดไม่กว้างมาก ถูกออกแบบให้เป็นห้องที่พอดีสำหรับ 1 คนและถูกจัดวางFurniture ต่างๆไว้ ได้แก่ เตียงขนาด 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้เรียบร้อย ซึ่งจะวางเตียงไว้ชิดผนังทำให้เหลือพื้นที่ข้างเตียงแค่ฝั่งเดียว แต่ก็ทำให้พื้นที่ทางเดินภายในห้องมีระยะที่กว้างขึ้น ติดกับเตียงนอนเป็นหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง ทำให้สามารถเห็นบรรยากาศรอบนอกบ้านได้ค่ะ

พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งซ้ายที่ติดกับตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่กว้างประมาณ 1.1 ม. สามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของโคมไฟหัวเตียง เพราะถ้าวางโต๊ะหัวเตียงจะบังประตูตู้เสื้อผ้านะคะ จึงแนะนำสำหรับห้องนี้ว่าควรใช้เตียงแบบที่หัวเตียงมีชั้นวางของมาด้วยเลยค่ะ

ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 60 ซม. ถ้าต้องการติดทีวีแนะนำให้เอาทีวีแขวนกับผนังนะคะ จะได้มีพื้นที่ตรงปลายเตียงให้เดินได้

ricco SH (85 of 98)-side

ชอบผังของห้องนี้อย่างหนึ่ง คือ ทำพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ให้ ทำให้เป็นระนาบเดียวกับผนังห้อง ไม่มีเหลี่ยมมุมของตู้ค่ะ บ้านตัวอย่างจัดไว้ให้ดูเป็นตู้บานสไลด์ 2 บาน ซึ่งในขนาดพื้นที่ห้องที่ไม่ใหญ่มากแนะนำเป็นตู้บานสไลด์จะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ดีกว่าค่ะ การตกแต่งในบ้านตัวอย่างนี้สามารถเก็บไปเป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้อีกเช่นกันนะคะ เพราะบ้านจริงจะไม่ได้มีมาให้ค่ะ ติดกันกับตู้เป็นหน้าต่างอีกตำแหน่งหนึ่งของห้อง ซึ่งจะมีเฉพาะบ้านหลังมุมค่ะ ถ้าเป็นบ้านหลังกลางจะไม่มี

ต่อมาที่ห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้านอีกห้องหนึ่ง พื้นเป็นไม้ลามิเนตต่อเนื่องกันเข้าไป และมีตัวจบพื้นกั้นเป็นธรณีเล็กๆเหมือนห้องอื่นๆค่ะ

ricco SH (89 of 98)-side

ภายในห้องมีขนาดพอๆกับห้องนอนเล็กก่อนหน้านี้ ซึ่งวางเตียง 3.5 ฟุตชิดผนังข้างบ้านเช่นกัน ต่างกันที่หน้าต่างของห้องนี้จะอยู่บริเวณหัวเตียงค่ะ

ricco SH (94 of 98)-side

ด้านข้างเตียงของห้องนี้ Built-in เป็นโต๊ะทำงานและชั้นวางของเต็มผนัง จึงได้พื้นที่เก็บของมาเยอะมาก เหมาะกับผู้ที่มีข้าวของเยอะๆก็สามารถแต่งบ้านแบบนี้ได้ โดยบ้านจริงจะเป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์นะคะ แต่เราก็สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้ค่ะ

ricco SH (96 of 98)

พื้นที่ปลายเตียงจะเป็นที่ตั้งของตู้เสื้อผ้าทำให้ไม่สามารถตั้งชั้นวางทีวีบริเวณปลายเตียงได้นะคะ ซึ่งถ้าต้องการตั้งทีวีแนะนำให้ย้ายตู้เสื้อผ้าไป Built-in รวมกับโต๊ะทำงานไปเลยค่ะ

พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งซ้ายที่ติดกับโต๊ะเขียนหนังสือมีพื้นที่กว้างประมาณ 0.9 ม. สามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเลือกเป็นโคมไฟหรือเลือกเตียงที่หัวเตียงมีชั้นวางของด้วยจะเหมาะสมกว่า เพราะถ้าวางโต๊ะหัวเตียงจะทำให้ไม่สามารถเดินไปเปิดปิดกระจกได้สะดวกค่ะ

ส่วนปลายเตียงที่ติดกับตู้เสื้อผ้าเหลือพื้นที่ประมาณ 65 ซม. หากจะตั้งตู้เสื้อผ้าตรงนี้แนะนำว่าควรเลือกตู้บานสไลด์ เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่นะคะ

collage2

หน้าตาของสวิตซ์ไฟและปลั๊กไฟตามมาตรฐานของ Bticino ที่ใช้ภายในบ้านค่ะ

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 April 2016

  • แปลงบ้าน F4 ที่ดิน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. ราคา 2.39 ล้านบาท ราคาพร้อมส่วนลด 2.29 หรือ 127,222 บาท/ตร.วา
  • จองและทำสัญญา 20,ooo บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ตร.วาละ 50,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 62 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – ทำเลของโครงการ The Ricco Town พหลโยธิน-สายไหม เป็นทำเลกรุงเทพตอนหนือ บนถนนสายไหมที่เป็นถนนเชื่อมต่อไปยังถนนได้หลายสายด้วยกันทั้งถนนสาย, ถนนพหลโยธิน, ถนนลำลูกกา, ถนนสุขาภิบาล 5 และถนนหทัยราษฎร์ ตัวโครงการอยู่ในซอยสายไหม 35 ห่างจากหน้าปากซอยบนถนนสายไหม 500 ม. สำหรับความอุดมสมบูรณ์บนถนนสายไหมก็จะมีร้านค้า, Hypermaket, ตลาดสด ตลอดเส้นทาง เรียกว่าถ้าเข้าโครงการทางเส้นสายไหมก็มีที่ให้แวะกินได้ตลอด โดยรวมแล้วเป็นทำเลประเภทที่อยู่อาศัยชานเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ในด้านการอุปโภค-บริโภคต่างๆค่อนข้างจะสะดวกครบครัน เหมาะกับคนที่ทำงานในแถบพหลโยธิน หรือคนที่ทำงานในหน่วยงานย่านนั้น แต่ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้ๆในระยะเดินถึงสบายๆนั้นไม่มี ต้องอาศัยรถเท่านั้นค่ะ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยและที่ดินเปล่า บรรยากาศค่อนข้างเงียบ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่การที่จะออกไปไหนมาไหนอาจจะต้องเดินออกไปไกลหน่อย

การเดินทางโดยใช้รถ – การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวก หากจะเดินทางเข้าเมืองก็เดินทางได้ง่ายจากถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีซึ่งเป็นถนนใหญ่ที่ตัดตรงเข้าเมือง ถนนทั้ง 2 เส้นนั้นมักมีการจราจรที่หนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ก็มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างเส้นทางด่วนก็มีให้เลือกใช้ หากต้องการเข้าเมืองก็ใช้เส้นทางด่วนรามอินทรา- อาจณรงค์ ก็สามารถไปลาดพร้าว-พระราม 9ได้ หรือถ้าต้องการออกรอบนอกเมือง ก็สามารถใช้วงแหวนกาญจนาภิเษก ที่มีจุดขึ้นลงบนถนนลำลูกกาได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะค่อนข้างลำบากทีเดียว เนื่องจากอยู่ในซอยที่ค่อนข้างสงบ มีป้ายรถเมล์ไม่ไกลจากหน้าปากซอยสายไหม 35 แต่ก็มีรถเมลล์ผ่านแค่สายเดียวคือ ปอ.1009 ส่วนรถแท๊กซี่และพี่วินก็หาได้ยากหน่อยเพราะไม่ค่อยเป็นทางผ่านหลักๆเท่าไร และคนส่วนใหญ่ที่ผ่านในเส้นทางนี้ก็จะเป็นคนที่มีรถส่วนตัวค่ะ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวถ้าสร้างเสร็จจะทำให้สะดวกสบายขึ้นมาก ช่วงที่กำลังก่อสร้างอยู่มาถึงสถานีคูคตเป็นสถานีที่ใกล้สุด มีระยะห่างประมาณ 2 กม.

วัสดุ – วัสดุของโครงการนี้เป็นไปตามมาตรฐานของทาวน์โฮมระดับราคานี้ ใช้โครงสร้างแบบเสาคานก่ออิฐฉาบปูน จึงจะมีการถ่ายเทความร้อนออกนอกตัวบ้านได้ดี ผนังเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง พื้นชั้นล่างส่วนใหญ่จะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนชั้นบนทั้งหมดจะได้เป็นพื้นลามิเนต หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมเนียมอบสีดำ ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard, VRH, Bathero และ Bathroom ดวงโคมในบ้านเป็นแบบดวงโคมซาลาเปาทั้งหมด

การออกแบบโครงการ – ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีในเรื่องของการวางผัง ที่จัดให้จำนวนยูนิตในแต่ละซอยไม่เกิน 10 ยูนิต ความปลอดภัยของโครงการมี CCTV ในส่วนทางเข้าโครงการ 2 จุด และวางสวนส่วนกลางจะอยู่ด้านหน้าโครงการ มีตำแหน่งเกือบจะอยู่ตรงกลางโครงการทำให้ลูกบ้านฝั่งซ้ายและขวาไม่ต้องเดินมาใช้งานไกลมากนัก  บ้านทั้งหมดในโครงการมีแบบเดียว หน้ากว้าง 5.65 เมตรแต่ละแปลงต่างกันที่ขนาดที่ดิน ตัวบ้านมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 พื้นที่ครัวซึ่งสามารถกั้นเป็นห้องเอนกประสงค์หรือห้องสำหรับผู้สูงอายุได้ และ 2 ที่จอดรถ โดยรวมแล้วบ้านสร้างออกมาได้เรียบร้อยและเป็นสัดส่วน ขายแบบบ้านเปล่า ห้องน้ำชั้นล่างไม่ได้ลดระดับแยกพื้นที่ส่วนเปียกแห้งไว้ให้ ชั้นบนจัดพื้นที่ได้ดี โดยห้องนอนใหญ่จัดพื้นที่ให้มี Walk in Closet ทำให้การอยู่อาศัยเป็นสัดส่วนดี ส่วนห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องถูกออกแบบให้มีมุมสำหรับวางตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะทำงานที่เป็นสัดส่วน ทั้งนี้ราคาบ้านก็จะขึ้นกับขนาดที่ดิน, แปลงมุมหรือแปลงกลาง และตำแหน่งบ้าน

สาธารณูปโภค – จากซุ้มหน้าโครงการถือว่ามีขนาดใหญ่ดี ซึ่งบางโครงการในระดับนี้ไม่ได้ให้ ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมี  รปภ. ดูแลตลอด และมีรั้วไม้กระดกกั้น การเข้า – ออกเป็นแบบใช้สติกเกอร์ นอกจากนี้ยังมีระบบ CCTV ที่ Main Gate จำนวน 2 ตัว เข้ามาในพื้นที่โครงการจะพบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ คือสวนขนาดไร่กว่าอยู่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ ซึ่งถือว่าให้พื้นที่สวนน้อยไปนิด น่าจะเหมาะกับคนที่เน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยในบ้านไม่เน้นส่วนกลางเท่าไหร่ ค่าส่วนกลางเก็บสูงไปนิดหนึ่ง แต่เพื่อรักษาสภาพโครงการให้อยู่ในสภาพดีก็โอเค ยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับนิติบุคคลในการพิจารณาเก็บในอนาคตอีกทีว่าจะพอไหมนะคะ

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2-3 ล้านบาท, 8 April 2016

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 –  อยู่ในซอย แต่เข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากถนนสายไหมและลำลูกกา
  • ความปลอดภัย 7.25/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV หน้าโครงการ และ Sticker Access
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – จัดพื้นที่ใช้สอยดี สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างห้องครัว
  • วัสดุ 7.25/10 – พื้นลามิเนต 8 มิลลิเมตร, ผนังเรียบทาสีขาว, สุขภัณฑ์ American Standard, ประตู HDF
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5 /10 – ถนนหลักกว้าง 9 ม. ปลูกต้นไม่ใหญ่ฝั่งหนึ่ง
  • สาธารณูปโภค 6.5/10 – ค่อนข้างน้อยเทียบกับจำนวนยูนิต มีสวนสาธารณะขนาดประมาณ 1 ไร่กว่าตำแหน่งเดียว
  • 7.28 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ The Ricco Town พหลโยธิน-สายไหม เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาบ้านในย่านสายไหม พหลโยธิน เป็นคนใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ชอบอาศัยอยู่ในซอยมากกว่าริมถนนหลัก ทำงานในย่านดอนเมือง พหลโยธิน ลำลูกกา สายไหม เป็นครอบครัวขนาดเล็กมีสมาชิก 3-4 คนมีงบประมาณ 2-3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 21,000 บาท/เดือน

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )