รีวิวฉบับที่ 439 … The Primary Ultimate เกษตร-นวมินทร์ ทาวน์โฮมรูปแบบโฮมออฟฟิค 4 ชั้นที่เน้นการออกแบบแนวโมเดิร์น ของ บ.กรุงเทพพัฒนา ซีเอ็มเอส บนทำเลซอยนวลจันทร์ 28 ถนนนวลจันทร์ สามารถเดินทางได้ทั้งจากถนนเกษตร-นวมินทร์ และรามอินทรา ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ The Primary มีด้วยกันทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ โดยวันนี้ทาง Think of Living จะพาไปชม ทาวน์โฮม 4 ชั้น กันก่อนเลยครับ
Fact @ 2 October 2013
- The Primary Ultimate Kaset – Nawamin (เดอะ ไพรมารี่ เกษตร – นวมินทร์)
- Bangkok Pattana CMS Co., Ltd.
- เนื้อที่โครงการ ประมาณ 2 ไร่
- ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.75 เมตร จำนวน 20 ยูนิต
- แบบ 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 240 ตารางเมตร
- แบบ 3 ห้องนอน 1 ห้องเมด 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 275 ตารางเมตร
- ที่ดินขนาด 24.1 – 33.2 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท
- www.theprimary.co.th
- โทร 0-2363-8678
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
การเดินทางของผมในวันนี้เราเริ่มจากเส้นถนนวิภาวดี-รังสิต มายังถนนงามวงศ์วานที่บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนขับตรงมาเรื่อยๆ เข้าสู่ถนนประเสริฐมนูกิจ (ชื่อเดิมคือถนนเกษตร – นวมินทร์) ผ่านแยกลาดปลาเค้า แยกประดิษฐ์มนูธรรม เมื่อสังเกตุเห็นบุญถาวรทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนคลองลำเจียก ขับไปจนสุดทางเลี้ยวซ้ายอีกครั้งก็จะเข้าสู่ถนนนวลจันทร์แล้วครับ เมื่อตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นซอยนวลจันทร์ 28 ทางขวามือครับ เราจะเห็นโครงการตั้งแต่หน้าปากซอยนวลจันทร์ 28 ครับ
ทำเลโครงการเดอะ ไพรมารี่ อัลทิเมด (The Primary Ultimate) อยู่ในซอยนวลจันทร์ 28 ซึ่งถนนนวลจันทร์เป็นถนนที่ตัดระหว่างถนนประเสริฐมนูกิจ หรือที่ทุกวันนี้ท่านผู้อ่านก็ยังจะคุ้นชื่อกับถนนเกษตร – นวมินทร์ กันอยู่ดีและก็ยังเรียกว่า ถนนเกษตร – นวมินทร์กันเช่นเดิม กับอีกเส้นทางหนึ่งคือถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบทางด่วนรามอินทรานั้นเอง
เส้นทางถนนนวลจันทร์ เป็นเส้นทางที่จะเชื่อมต่อไปยังจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้ไม่ยากเย็น และอีกด้านออกสู่ถนนประเสริฐมนูกิจสามารถเดินทางไปได้ทั้งถนนนวมินทร์ แหวนรอบนอกตะวันออก (ถนนกาญจนภิเษก) หรือไปยังแยกเกษตรศาสตร์ได้ ซึ่งอนาคตจะมีแผนการก่อสร้างทางด่วนจากฐานตอม่อที่ท่านผู้อ่านที่ใช้เส้นทางเห็นกันอยู่ทุกวี่วัน (ซึ่งยังต้องประเมินกันต่อไป เนื่องจากยังมีการประท้วงจากหลายๆฝ่ายอยู่)
ตอนนี้ผมอยู่บนถนนวิภาวดี – รังสิต ที่กำลังมุ่งหน้าไปดอนเมือง สภาพการจราจรในช่วงเวลาบ่ายคล่องตัวดีมากครับ สามารถทำความเร็วได้ดี เมื่อถึงแยกวิภาวดี – งามวงศ์วาน ให้เตรียมเบี่ยงซ้าย ออกคู่ขนาน จะเจอสะพานกลับรถไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ขึ้นสะพานกลับรถลงมา ให้สังเกตุป้ายเกษตรศาสตร์เข้าไว้ครับ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนงามวงศ์วานเลยครับ
บนถนนงามวงศ์วานด้านซ้ายจะเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครับ เราจะตรงไปเรื่อยๆครับ
ขับตรงไปจะเจออุโมงค์แยกเกษตรศาสตร์ – พหลโยธิน ให้ลอดอุโมงค์ ข้ามไปยังถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร – นวมินทร์)
ผ่านอุโมงค์เข้ามาจะเป็นถนนประเสริฐมนูกิจ เป็นถนนขนาด 8 ช่องจราจร สภาพถนนดีมากครับ แต่สภาพจราจรถือว่าติดขัดครับ ขนาดเวลาที่ผมผ่านเป็นช่วงเวลาบ่าย แต่ปริมาณรถมาก บวกกับมีแยกสัญญาณไฟเป็นช่วงๆ ทำให้การจราจรไม่ราบลื่นเท่าที่ควร
ตอม่อ(รอสร้าง)ทางด่วน สัญลักษณ์ของถนนเส้นนี้ครับ
สภาพการจราจรติดขัด โดยเฉพาะจุดตัดถนน แยกสัญญาณไฟจราจร
ช้อปปิ้งมอลล์ ย่านนี้มีมาแบบจัดเต็มเริ่มจากวิลล่าอเวนิว(เกษตร – นวมินทร์)
ขับผ่านมาได้ไม่นาน เจอช้อปปิ้งมอลล์อีกเจ้า เฟสติวัล วอล์คที่ตั้งอยู่แยกถนนลาดปลาเค้า
สิ่งหนึ่งที่สังเกตุให้เห็นว่า ทำเลที่เรากำลังไปสำรวจนั้นเป็นทำเลที่กำลังเกิดโครงการขึ้นมากน้อยหรือไม่ ให้สังเกตุจากป้ายโฆษณาริมถนนนี้และครับ ผมผ่านแยกตัดถนนลาดปลาเค้าการจราจรคล่องตัวดีขึ้น
ป้ายมาก = Hot … ป้ายว่าง = Slow … ตามนั้นนะครับ
เมื่อมาถึงหน้าห้างเดอะวอล์ค จะเห็นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และถนนประดิษฐ์มนูธรรมที่เชื่อมต่อระหว่างถนนรามอินทรากับถนนลาดพร้าว แต่จุดทางขึ้นลงทางด่วนจะอยู่ทางด้านถนนรามอินทรา
สภาพการจราจรที่ติดขัดในช่วงที่เป็นจุดตัดถนน ดังนั้นระมัดระวังเรื่องความเร็วสักนิดนะครับ
เมื่อถึงประมาณตอม่อที่ 205 จะสังเกตุเห็นร้านแม็คโดนัล ที่ฝั่งตรงข้ามให้เริ่มชิดซ้ายได้แล้วครับ
จุดนี้จะสังเกตุทางด้านซ้ายจะเป็นห้างบุญถาวร
มีป้ายบอกทางหน้าห้างบุญถาวรไปถนนนวลจันทร์เลี้ยวซ้าย หากต้องการไปถนนนวมินทร์ให้ขับรถตรงไป
ผ่านบุญถาวรให้เลี้ยวซ้ายติดกับห้างทันทีครับ ตรงนี้เป็นถนนคลองลำเจียกครับ สิ้นสุดถนนเส้นนี้จะเป็นถนนนวลจันทร์แล้วครับ (ขออภัยที่ภาพไม่ชัดด้วยนะครับ)
ถนนนวลจันทร์ เป็นถนน 4 ช่องจราจร แต่จะเหลือใช้ได้จริงเพียง 2 ช่องจราจร เนื่องจากริมถนนทั้ง 2 ด้านแปรสภาพที่เป็นที่จอดรถของบริษัทร้านค้าริมถนนไปหมดแล้ว รวมทั้งมีรถจากผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้งใหม่และเก่า วิ่งสัญจรกันตลอดเวลาส่งผลให้การจราจรไม่คล่องตัวเท่าที่ควร ถนนเส้นนี้มีรถเมล์สาธารณะของ ขสมก.และรถสองแถวของเอกชนครับ
ขับตรงมาสังเกตุเห็นปั๊มเอสโว่ทางซ้ายมือ ให้เตรียมชะลอความเร็วได้เลยครับ ซอยนวลจันทร์ 28 อยู่ทางขวามือครับ
ทางขวามือมีป้ายโฆษณาโครงการ มาถูกทางแน่นอนครับ ติดกับป้ายโฆษณามีร้านอาหารญี่ปุ่นตั้งอยู่
เมื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยจะเห็นโครงการทางซ้ายมือ สภาพถนนของซอยนวลจันทร์ 28 เป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กสภาพดีครับ 2 ช่องจราจรแบบไม่มีเส้นแบ่งช่องจราจรสวนทางกัน และซอยนี้เป็นซอยตันนะครับ
ท้ายซอยเป็นบ้านส่วนตัวของเจ้าของที่ดินหลายแปลงในซอย รวมทั้งสองแปลงที่ขนาบที่ดินโครงการซึ่งเซล์ได้เล่าว่าโอนให้เป็นมรดกแก่ทายาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่ดินฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นที่ว่างเปล่า
ตัวพื้นถนนซอยนวลจันทร์ 28 จะสูงกว่าถนนนวลจันทร์ประมาณ 30 เซนติเมตร ผมคาดว่าตอนปรับปรุงถนนไม่ได้มีการย้ายระบบสาธารณูปโภคทำให้เสาไฟฟ้า ล้ำเข้ามาในถนนประมาณ 15 เซนติเมตรได้ ในช่วงกลางคืนอันตรายมากครับ เพราะตัวซอยเป็นซอยแคบ แต่อาจจะยังโชคดีที่เป็นซอยตันทำให้ไม่มีรถสัญจรพลุกพล่าน (วอนเจ้าของโครงการช่วยติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวณตัวเสาด้วยนะครับ)
ด้านข้างโครงการเป็นที่ดินว่างเปล่ายังไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร มีหญ้าและวัชพืชปกคลุมแต่ไม่อันตรายเพราะไม่ได้ปกคลุมทึบ
แปลงที่ดินตรงกันข้ามด้านหน้าโครงการ เป็นที่ดินว่างเปล่าเช่นกัน ตรงกันข้ามด้านหน้าโครงการ มีการถากถางวัชพืชเรียบร้อย ในขณะที่เยื้องโครงการยังเป็นพื้นที่ที่มีวัชพืชขึ้นปกคลุมหนาทึบ
และด้านข้างโครงการอีกด้านเป็นที่ดินเปล่าที่ปรับพื้นที่ไว้ และด้านหลังโครงการเป็นซอยนวลจันทร์ 30 ที่มีตึกแถวตลอดซอย
ถึงโครงการ The Primary Ultimate แล้วครับ หน้าโครงการปลูกต้นไม้บังแนวรั้วโครงการ แนวขอบถนนหน้าโครงการมีรางระบายน้ำ
เจาะลึกตัวโครงการ
แนวคิดโครงการ
โครงการ The Primary Ultimate มีแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่การออกแบบรวมทั้งแนวคิดของบ้านแบบ Smart Home ในรูปแบบของ Modern Illusion โครงการมีเพียง 20 ยูนิต การออกแบบการก่อสร้างใช้สถาปนิก ประกอบไปด้วย Mr.Vichate Tawatnuntachai และ Mr.Wanchalearm Manowajchapan ได้รับรางวัลการออกแบบอาคารระดับเอเชียจาก Architecture @13
ผังโครงการมีจำนวนทั้งหมด 20 ยูนิต แบ่งเป็น 2 แบบโดยที่แบบเดียวกันจะอยู่ในตึกเดียวกันเป็นแบบ LUMI จำนวน 8 ยูนิต และแบบ SHINE อีกจำนวน 12 ยูนิต ในวันที่ผมไปชมโครงการ เหลือเปิดขายอยู่คือ L7, L6, S6, S4, S3, S2, S1, S10, S8, S7, L2 และ L1 (ตุลาคม 2556)
Product Walkthrough
The Primary Ultimate มีบ้านทั้งหมด 2 แบบ คือ LUMI ขนาดพื้นที่ประมาณ 275 ตารางเมตร กับ SHINE ขนาดพื้นที่เล็กกว่าประมาณ 240 ตารางเมตร
แบบ LUMI 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องทานอาหาร 1 Pantry 1 ครัว
แบบ SHINE 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องทานอาหาร 1 ห้องครัว
ทางเข้าโครงการชิดติดริมถนนซอย กั้นด้วยไม้กระดกและป้อมรักษาความปลอดภัย
พื้นถนนโครงการยกระดับสูงกว่าระดับซอยนวลจันทร์ 28 ประมาณ 50 เซนติเมตร อุ่นใจปัญหาน้ำท่วมไปอีก
ที่รั้วกำแพงโครงการ ทางโครงการตั้งศาลไว้เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของลูกบ้าน
จากภาพนี้เห็นอะไรทางด้านขวาไหมครับ
มันคือมิเตอร์ไฟฟ้าของแต่ละแปลงในโครงการครับ เอามาตั้งกันติดทั้งโครงการกันเลยทีเดียว แถมมีตู้ตัวแปลงไฟตั้งด้านหน้าโครงการอีกต่างหาก
ดีนะครับที่เอาหม้อแปลงออกมาอยู่ด้านนอกแบบนี้ หากมีปัญหาอะไรก็สามารถ Service ได้ง่าย และไม่ต้องอยู่ตรงกลางระหว่างถนน ไปขวางอยู่หน้าบ้านหลังใดหลังหนึ่ง
มองจากหน้าโครงการไปยังถนนนวลจันทร์ ระยะห่างประมาณ 50 เมตร ถ้ายังมีแสงไฟก็สามารถเดินเข้าออกได้สบาย
ระบบรักษาความปลอดภัยมีทั้ง Key Card เข้าออกโครงการ
ระบบ CCTV ด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ และรอบทั้งโครงการ
ภายในโครงการมี 4 อาคาร
จะเห็นรูปร่างเว้าโค้งของตัวอาคาร
ระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ทั้งสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ถูกเก็บในท่อ PVC ฝังใต้ดินบนถนนส่วนกลางของโครงการ
ด้านในโครงการเป็นส่วนพื้นที่สีเขียว ซึ่งอาจจะมีไม่มาก เนื่องจากโครงการมีพื้นที่เพียง 2 ไร่เท่านั้น
พื้นที่กลับรถและพื้นที่สวนระหว่างอาคาร
ด้านหลังติดรั้วโครงการ มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น
มุมมองจากด้านหลังริมรั้วโครงการไปหน้าโครงการ ถนนส่วนกลางโครงการจุดที่กว้างที่สุด กว้าง 11.50 เมตร
ส่วนจุดกึ่งกลางโครงการ พื้นถนนเป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย
ริมถนนส่วนกลางของโครงการทำรางวีระบายน้ำ
เดี๋ยวเข้าไปดูบ้านตัวอย่างกันก่อนครับ
บ้านตัวอย่างเป็นแบบบ้าน LUMI ขนาด 275 ตารางเมตร
ชั้น 1 ด้านหน้าเป็นพื้นที่รับแขก มีห้องประชุทด้านหลัง ตรงกลางจะเป็นบันได
ชั้น 2 ด้านหน้าจะเป็นห้องประชุม หรือห้องทำงานตามการออกแบบ มีห้องน้ำบริเวณหน้าบันได พื้นที่ส่วนหนึ่งเปิดโล่งเป็น Void ขึ้นมาจากชั้น 1
ชั้น 3 ด้านหน้าบันไดเป็นห้องน้ำ ด้านหน้าเป็นห้องพักผ่อน ด้านหลังเป็นครัว และห้องนอนแม่บ้าน
ชั้น 4 ด้านหน้าเป็นห้องนอนใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว ด้านหลังเป็นห้องนอนที่2 และ 3 มีห้องน้ำด้านหน้าบันไดที่ใช้ร่วมกัน
ประตูทางเข้าบ้านตัวอย่างเป็นบานสวิง 2 บาน พื้นหน้าบ้านปูกระเบื้องสีไม้ ลานจอดรถปูกระเบื้องขนาด 12 x 12 สลับลาย
เสาหน้าบ้านมีปลั๊กไฟพร้อมฝาปิดกันฝน
ห้องรับแขกด้านหน้าแปลงริม เป็นบานกระจกใสสีเขียวเข้ามุม
ตู้เก็บของอเนกประสงค์ด้านหลังเค้าท์เตอร์เซลล์
ชั้นล่างของบ้านตัวอย่างผนังเป็นแกรนิต
ห้องรับประทานอาหารอยู่ด้านหลังบ้านชั้นล่าง
โคมไฟเหล็กดัด อันเป็นสัญลักษณ์ของโครงการดูมีชีวิตชีวา
ห้องนี้สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่งได้นะครับ
พื้นที่ด้านหลังบ้านทำผนังด้วยกระจกใส ให้มองทะลุเห็นสวนหลังบ้าน
ขนาดพื้นที่ว่างด้านหลังของแบบบ้าน LUMI ลึก 3.70 กว้าง 5.75 เมตร
ระแนงไม้บังตาเก็บข้าวของเครื่องใช้แม่บ้าน เครื่องปั๊มน้ำ และถังเก็บน้ำ
ด้านข้างบ้านมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยเพราะบ้านตัวอย่างเป็นบ้านหลังมุม สามารถทำน้ำตก บ่อปลาให้รู้สึกมีชีวิตชีวา
บ้านแปลงริมมีพื้นที่ว่างด้านข้างกว้างประมาณ 1.50 เมตร
พื้นบันไดลูกนอน และบันไดลูกตั้งใช้ไม้สำเร็จรูป LEOWOOD ทั้งหมด
โคมไฟติดผนังบ้านตัวอย่าง ดีไซน์สวยดีครับ แปลกตา
พอขึ้นมาที่ชั้น 2 จะพบกับห้องน้ำอยู่ที่บริเวณบันได
ทางซ้ายมองไปยังด้านนอกเป็นถนนซอย ซึ่งสำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้ จะเห็นเป็นที่ตั้งของหม้อแปลงไฟฟ้าด้านนอกโครงการ และจะมีเพียงหลังเดียวที่ได้ผลกระทบนี้ บ้านหลังอื่นที่อยู่ถัดๆไปจะไม่โดนนะครับ
เมื่อมองลงไปยังชั้นล่างที่เป็นห้องรับประทานอาหาร เนื่องจากเปิดเพดานสูง 2 ชั้น
เข้ามาภายในห้องน้ำชั้น 2 เคาท์เตอร์ล่วงหน้าปูด้วยแกรนิตสีดำ
สุขภัณฑ์ใช้สีขาวนวลของ MOGEN
โต๊ะทำงานติดผนังห้อง ใช้กระจกเพิ่มให้ห้องดูกว้างขึ้น
ขึ้นไปดูชั้น 3 กันดีกว่าครับ
บันไดโปร่งดูดีเวลาเดินและดูเก๋เวลามองผ่าน แต่ถ้าบ้านไหนมีลูกเด็กเล็กแดง อย่าได้ทำเด็ดขาดเชียวนะครับ (รวมถึงน้องหมาหลายๆตัวด้วย) ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอันตรายได้
หน้าบันไดเป็นห้องน้ำ
ห้องพักผ่อนตกแต่งแนวโมเดิร์น ยังคงเน้นการใช้กระจกเพื่อให้ความรู้สึกกว้าง
ห้องนี้สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ ชุดรับแขกขนาดเต็มๆ
ผนังห้องตัวอย่างตกแต่งด้วยผนังไม้
โต๊ะกลางพื้นกระจก ขาโต๊ะตัว U ทำจากอลูมิเนียม
ชั้นวางทีวีลอยตัว ส่วนพื้นสำหรับบ้านตัวอย่างใช้พื้นลามิเนต
สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ผ่อนคลาย คิดเหมือนกันไหมครับ
ประตูบานเลื่อนสไลด์ได้ทั้งสามบาน
อีกด้านเป็นห้องครัว ขนาดพื้นที่ประมาณ 10.00 ตารางเมตร สำหรับบ้านจริงจะเป็นห้องเปล่านะครับ
ตำแหน่งของแม่บ้านจะติดกับห้องน้ำ
ประตูบ้านแคบ แคบ และแคบออกไประเบียง
มองไปด้านล่าง
ด้านข้างโครงการ
ตู้สวิทซ์ควบคุมไฟ ที่ชั้น 3
พื้นห้องน้ำลงไปหนึ่งระดับ
ภายในห้องน้ำ
โถงบันไดชั้น 3 ขึ้นไปชั้น 4 มีโคมไฟเหล็กดัดอันโดดเด่น
บันไดขึ้นลงสะดวก ไม่ชันเกินไป
ขึ้นมาชั้น 4 เช่นเดิมหน้าบันไดเป็นห้องน้ำ
ผนังห้องสำหรับบ้านตัวอย่างเลือกใช้กระจกเพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมสีขาวกับเคาท์เตอร์ล้างหน้าสีขาว
ที่วางสบู่เล็กไปไหมครับ ดูวางขวดสบู่เหลวมันไม่เข้ากัน
แต่โต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกเต็มบาน
ห้องจริงแอร์จะเป็นแอร์ติดผนัง ไม่ได้ซ่อนใต้ฝ้าแบบห้องตัวอย่างครับ
ติดกระจกแบบสะใจ เต็มตาและเต็มตัว
ห้องนอน 2 และ 3 ขนาดพื้นที่เท่ากัน 10.00 ตารางเมตร
เตียงขนาด 3.5 ฟุต
เหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ
อีกห้องตกแต่งโทนสว่าง
มีพื้นที่วางปลายเตียงเล็กน้อย หากจะติดทีวีต้องอาศัยตัวแขวนผนังเอาเพื่อประหยัดพื้นที่
โคมไฟซาลาเปาสำหรับห้องนอนเล็ก
ลงไปด้านล่าง ไปดูบ้านจริงกันดีกว่าครับ
ถนนโครงการด้านหน้าและท้ายโครงการเป็นคอนกรีต ถนนตำแหน่งกลางโครงการคอนกรีตพิมพ์ลายสีน้ำตาลเข้ม
ที่จอดรถ จอดรถได้ 2 คันพื้นลานจอดรถเป็นพื้นผิวขัดมันเรียบสลับผิวกรวดล้างสีน้ำตาลอ่อน เซาะร่อง
วงกบอลูมิเนียมสีดำหนา 1.2 มิลลิเมตร รางประตูกระจกเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาทซ้ายขวา
พื้นภายในห้องเป็นพื้นซีเมนต์ขัดมัน เพื่อรองรับการตกแต่งในอนาคต
ประตูด้านหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อน 2 บานซ้ายขวา กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ บานกระจกใสสีเขียวหนา 8 มิลลิเมตร
บัวผนังเป็นซีเมนต์ขัดมัน สูง 4 นิ้ว เหนือบัวเซาะร่อง PVC ผิวบัวเสมอผัวผนัง
ห้องเก็บของใต้บันได
ตู้ควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้ามีอยู่ที่ชั้น 1 สำหรับควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าชั้น 1 – 2 และชั้น 3 สำหรับควบคุมการจ่ายประแสไฟฟ้าชั้น 3 – 4
ห้องรับประมานอาหารด้านหลังบ้านเพดานเปิดโล่งระหว่างชั้น 1 – 2 มีหน้าต่างจากชั้น 2 เปิดรับแสงธรรมชาติ
ประตูกระจกบานใสสีเขียว หนา 8 มิลลิเมตร กรอบบานอลูมิเนียมสีดำหนา 1.2 มิลลิเมตร
พื้นที่เตรียมอาหารกลางบ้านชั้นล่างกว้าง 1.45 เมตร ยาว 2.25 เมตร ด้านในเป็นห้องน้ำชั้นล่าง
โครงการเตรียมท่อน้ำ และท่อน้ำทิ้งไว้ให้
พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิค COTTO สีน้ำตาลเข้ม ขนาด 30 x 60
บ้านเปล่าโคมไฟติดผนังไม่ได้ใช้โคมไฟแบบบ้านตัวอย่างนะครับ
ชั้น 2 เปล่าพื้นเป็นซีเมนต์ขัดมันเช่นกัน
พื้นที่ห้องรับประทานอาหารกว้าง 3 ยาว 16 เมตร
สุขภัณฑ์มีมาให้ทั้งชักโครก และโถปัสสาวะ
ห้องเปล่าชั้น 2
จากระเบียงชั้น 2
หลอดไฟชั้น 1 – 2 ใช้โคมไฟรางหลอดฟลูออเรสเซ็นต์
ราวบันได้ไม้เนื้อแข็งสีธรรมชาติ
ขึ้นมาชั้น 3 ครับ
ชั้น 3 – 4 จะใช้ไฟดาวน์ไลค์สีเหลืองนวล
ห้องน้ำชั้น 2
ฝนตกมาหนักมากครับ
พื้นที่ระเบียงหลังบ้านกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร
สำรวจชั้น 3 เรียบร้อยแล้วขึ้นมาชั้น 4 กันบ้างครับ
ในห้องตัวอย่างที่ท่านผู้อ่านเห็นเมื่อสักครู่จะเป็นผนังกระจก แต่ในห้องจริงจะเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาครับ
ประตูบานสไลด์ 2 บาน
พื้นทุกชั้นเป็นพื้นซีเมนต์ขัดมัน
ระเบียงชั้น 4 โดนฝนสาด
ผมสังเกตุว่าแม้ว่าฝนจะตกลงมาหนักมาก แต่น้ำฝนไหลลงท่อระบายได้ดีครับ
พื้นระเบียงจะมีส่วนโค้งเว้าตามโครงสร้างตึกครับ
ระแนงไม้ CONWOOD หนา 4 นิ้ว ทาสีน้ำอะครีลิค
DOOR STOPPER
ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่มีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายอากาศ
ผนังเสริมบล็อคแก้วเพิ่มแสงธรรมชาติ
ผนังห้องน้ำปูกระเบื้อง Grand Home Mart 30×60
โถงทางเดินไปยังห้องนอนเล็ก
ห้องนอน 2
ห้องนอน 3
ประตูห้องนอนแต่ละห้องใช้โครงไม้จริงปิดผิวไม้อัดสัก LEOWOOD สำหรับวงกบไช้ไม้เนื้อแข็ง
เต้ารับปลั๊กไฟ ด้านหน้าบ้านพร้อมฝาปิดกันฝน
ท่อระบายน้ำไม่มีรั่วแต่ประการใด
ข้ามไปดูห้องไซด์เล็กกันบ้างครับ
ผมออกจากบ้านเปล่าหลังฝนตกหนักไม่นาน น้ำระบายลงท่อได้อย่างรวดเร็ว
ข้ามฝั่งมาดูบ้านเปล่าแบบ SHINE ที่เล็กกว่า ขนาดพื้นที่ 240 ตารางเมตร
ชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับสามารถออกแบบเป็นห้องประชุมชั้นล่างได้ เหมาะสำหรับการที่มีแขกหรือลูกค้ามาหา ก็ไม่ต้องขึ้นไปกวนในพื้นที่ออฟฟิศชั้น 2 ที่เป็นส่วนตัวมากกว่า
ชั้น 2 ออกแบบเน้นการเป็นห้องทำงาน มีห้องน้ำเล็กบริเวณโถงบันได และปรับให้มีห้องผู้บริหารห้องหนึ่ง … นั่งได้ทั้งสิ้ิน 10 ชีวิต
ชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนตัวแล้ว ส่วนพักผ่อนอยู่ด้านหน้า และมีโถงเชื่อมตัวครัวด้านหลัง
ชั้น 4 มี 2 ห้องนอนเป็นห้องนอนขนาด 17.00 ตารางเมตร พร้อมห้องน้ำในตัว และห้องนอนเล็กขนาด 10.00 ตารางเมตร
บ้านเปล่าที่ผมพาชมเมื่อสักครู่คือหลังที่สามจากขวามือ
หลังนี้เป็นแปลงริม จะมีพื้นที่ใช้สอยด้านข้าง
ระบบสายไฟฟ้าฝังไว้ใต้ดินทั้งหมด จะเห็นว่าฝังไว้ไม่ลึกเท่าใดนัก
เข้ามาภายในบ้านพื้นชั้นล่างและทุกชั้นเป็นพื้นซีเมนต์ขัดมันเช่นกัน
แบบ SHINE นี้จะไม่มีผนังกันระหว่างด้านหน้า – หลังของบ้าน ประตูด้านหลังบ้านเป็นกระจกใสสีเขียวบานสไลด์
จะเห็นว่าฝนตกหนักจนน้ำขังเยอะพอสมควร
CCTV โครงการนี้มีติดตั้งรอบโครงการ
จากด้านหลังบ้านถ่ายย้อนมาหน้าบ้าน
ที่เปิดประตูบานสไลด์หน้าบ้าน
อ่างล้างหน้าชั้นล่างของบ้าน
ที่มาพร้อมกับสุขภัณฑ์เป็นชักโครก
โถงบันได ติดตั้งช่องกระจกเพื่อให้แสงธรรมชาติ
ห้องโล่งชั้น 2
เนื่องจากเป็นห้องนี้เป็นแปลงริม จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่ผนังด้านหน้าโครงการ
ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์สำหรับห้องครัว
ห้องพักผ่อนมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 บาน
ชั้น 3 และชั้น 4 ใช้ไฟดาวน์ไลท์สีเหลือง
ด้านหลังเป็นห้องครัว
ห้องน้ำสำหรับชั้น 3 มีฝักบัว
โถสุขภัณฑ์ของ MOGEN
ชั้น 3 ส่วนที่เป็นห้องครัวใช้หน้าต่างบานเกร็ค 2 บาน
พื้นที่ด้านข้างยังว่างเปล่า ถัดออกไปเป็นตึกปล่อยห้องเช่า
มุมมองจากด้านหลังบ้านไปหน้าซอย
หน้าต่างเป็นบานเกร็ด
แสงธรรมชาติบริเวณโถงบันได
ด้านขวาเป็นแบบ LUMIN จำนวน 4 ยูนิต ทางด้านซ้ายเป็นแบบ SHINE จำนวน 6 ยูนิต ฝั่งละ 10 ยูนิตจากทั้งสองฝั่งรวมทั้งโครงการ 20 ยูนิต
ห้องนอนที่ 2 อยู่ด้านหลังบ้านชั้น 4 พื้นที่ประมาณ 10 ตารางเมตรมีห้องน้ำในตัว
เปิดประตูห้องนอนไปก็เจอประตู (อีกบาน) ห้องน้ำ
ห้องนอนใหญ่อยูตำแหน่งด้านหน้าบ้านขนาดพื้นที่ประมาณ 23.50 ตารางเมตร
ห้องน้ำห้องนอนใหญ่ใช้อ่างล่างหน้าทรงเหลี่ยม รับกับเคาท์เตอร์ท็อปแกรนิตสีขาว
มีที่แขวนกระดาษมาให้เพิ่มในห้องนี้
ฝาสุขภัณฑ์ของ MOGGEN แบบ SLOW SELF CLOSING
ฝารองนั่งดูแข็งแรง
ขณะที่เค้าเตอร์อ่างล่างหน้าห้องนอนที่ 2 มีขนาดเล็กกว่า
และที่แขวนกระดาษทิชชู่ที่เคาท์เตอร์ล่างหน้า สามารถเก็บผ้าเช็ดตัวและของจุกจิกได้
ในช่วงเวลาที่ฝนซาท้องฟ้ายังมืดครึ้ม โถงบันไดก็ยังมีแสงธรรมชาติเข้ามาเพียงพอ
ดูชัดๆ เรื่องการออกแบบส่วนเว้าส่วนโค้งของตึกอีกครั้ง
วิวจากชั้น 4 ไปที่หน้าโครงการ เห็นที่ดินว่างเปล่า
พื้นถนนจุดที่เป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย ซึ่งโครงการทยอยขายแล้วและบางหลังที่โอนไปแล้ว เริ่มมีการเข้ามาตกแต่งต่อเติมภายในและด้านนอกโดยเฉพาะส่วนโรงรถ
ท้องฟ้าหลังฝนตก ยังคงครึ้มเชียว!!!!
สวิทซ์ไฟของ PANASONIC สีขาว
บานกระจกให้แสงบริเวณโถงบันได เป็นบานกระทุ้ง
ถ่ายจากโถงบันไดด้านบน ออกมาหน้าบ้าน
ขั้นบันไดไม้สำเร็จรูป
โครงการเดอะไพรมารี อัลทิเมด เป็นโฮมออฟฟิคที่สร้างด้วยอิฐมวลเบา มีบริการหลังการขายด้วยการรับประกันโครงสร้างบ้านนาน 5 ปีและรับประกันตัวบ้านนาน 1 ปี
สิ่งอำนวยความสะดวก
- รั้วโครงการสูง 2 เมตร
- ระบบ CCTV ที่ทางเข้าออก และรอบโครงการ
- ถนนโครงการกว้าง 10.65 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุด 11.50 เมตร
- พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
Price vs Performance
- แบบ LUMI 2+1 ที่จอดรถ 275 ตารางเมตร 27.1 – 28 ตารางวา ราคา 7.7 – 7.9 ล้านบาท
- แบบ SHINE 2+1 ที่จอดรถ 240 ตารางเมตร แปลงมาตรฐาน 24.1 ตารางวา ราคา 6.49 – 7.5 ล้านบาท
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
- โปรโมชั่น ฟรีค่าโอนฯ กู้ไม่ผ่านคืนเงิน 100%
- ค่าสาธารณูปโภคต่อเดือน 3,000 บาทต่อหลัง จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของโครงการ The Primary Ultimate อยู่ในซอยนวลจันทร์ 28 ห่างจากถนนนวลจันทร์เข้าไปประมาณ 50 เมตร ถนนภายในซอยเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กสภาพดี เป็นซอยตันทำให้รู้สึกสงบ ไม่พลุกพล่าน พื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา เจ้าของที่ดินโดยรอบโครงการเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ภายในซอยมาก่อนหน้า ตัวซอยนวลจันทร์ 28 กว้างประมาณ 6 เมตร มีทางระบายน้ำอยู่ริมถนน ตัวซอยสูงกว่าระดับถนนนวลจันทร์ ประมาณ 30 เซนติเมตร และตัวโครงการสูงกว่าระดับซอยอีก 50 เซนติเมตร ทำให้คลายความกังวลเรื่องฝนตกแล้วเกิดน้ำท่วมหมู่บ้านไปได้เปลาะหนึ่ง แต่ตรงนี้มีข้อควรระวังอย่างยิ่งเรื่องเสาไฟฟ้าที่ตั้งอยู่เข้ามาล้ำภายในถนน ประมาณ 15 เซนติเมตร ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในเวลากลางคืนที่แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือเวลาขับรถแบบไม่ค่อยมีสติเท่าไรได้
แม้ว่า The Primary Ultimate จะตั้งอยู่ภายในซอยไม่ติดถนนใหญ่แต่การเข้าถึงไม่ได้ลำบากเท่าใดนัก เนื่องจากริมถนนนวลจันทร์บริเวณหน้าปากซอยเป็นพื้นที่ว่าง เวลาขับรถผ่านบนเส้นถนนใหญ่จะสามารถสังเกตุเห็นตัวโครงการได้ง่าย แต่ถ้าใช้ประกอบธุรกิจที่ต้องมีหน้าร้านเป็นหลักก็คงจะดีไม่เท่าโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่เป๊ะๆ ตัวถนนนวลจันทร์เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรแต่ใช้งานได้เพียง 2 ช่องจราจรเนื่องจากช่องซ้ายและขวาสุดถูกจับจองเป็นที่จอดรถสำหรับอาคารพาณิชย์ริมถนนไปโดยปริยาย
ในส่วนการเชื่อมต่อถนนนวลจันทร์สามารถเชื่อมต่อสายสำคัญๆได้หลายสาย ได้แก่ ถนนเกษตร – นวมินทร์, ถนนรามอินทรา, ถนนนวมินทร์ และถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้ซอยนวลจันทร์นี้ถูกใช้เป็นเส้นทางลัดหลักของถนนหลายๆสาย ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็ต้องทำใจหน่อยว่าจะต้องพบกับปัญหารถติด เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ชุมชน จะมีการติดสะสมต่อเนื่องจากปากทางถนนนวลจันทร์ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ถนนสายอื่นๆ หากเป็นช่วงเวลาอื่นก็เคลื่อนตัวได้ค่อนข้างดี ซึ่งเป็นเรื่องที่พบเห็นกันได้ทั่วไปกับซอยทางลัดหลักหลายๆซอยในกรุงเทพมหานคร
สังคมโดยรอบของพื้นที่ถนนนวลจันทร์เป็นหมู่บ้านจัดสรรทั้งใหม่และเก่า มีร้านอาหาร และสาธารณูปโภคอื่นที่จำเป็นโดยรอบในรัศมีไม่เกิน 2 กม. แหล่งของกินของใช้ไม่ขาดสาย อุดมสมบูรณ์เพียงพอต่อความต้องการ ทำเลริมถนนนวลจันทร์และซอยต่างๆยังพอมีพื้นที่ว่างที่รอการพัฒนาจำนวนหนึ่ง อนาคตคาดว่าจะกลายเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ หรือหมู่บ้านเพิ่มได้อีก จัดเป็นแหล่งชุมชนสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เด่นอีกแหล่งหนึ่งในย่านรามอินทรา เช่นเดียวกับถนนลาดปลาเค้าและซอยมัยลาภ
การเดินทางด้วยระบบสาธารณะอาจจะต้องพึ่งพารถ Taxi เป็นหลัก เพราะถนนนวลจันทร์มีรถเมล์ให้บริการเพียงไม่กี่สาย และในแต่ละคันอาจจะต้องรอเป็นระยะเวลาหนึ่ง (จากการยื่นยังเกตุหน้าปากซอยนวลจันทร์ 28) ทำให้อาจไม่สะดวกต่อผู้ที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นการเดินทางหลัก ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรมากมายสำหรับผู้ที่จะมาจับจองโครงการทาวน์โฮมในระดับ 6 – 8 ล้านบาท ที่ผมเชื่อว่าน่าจะมีรถยนต์ส่วนบุคคลกันครบทุกครอบครัว
วัสดุของโครงการนี้ใช้ค่อนข้างดูดี เว้นแต่พื้นปูนซีเมนต์ขัดมันที่อาจจะไม่ใช่แนวของลูกค้าหลายๆท่านทำให้ต้องปูพื้นใหม่ ส่วนวัสดุอื่นๆ บานประตู หน้าต่างเป็นกระจกใสสีเขียวตัดแสงหนา 8 มิลลิเมตร กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ ไม่ได้ปูกระเบื้องบริเวณระเบียง โคมซาละเปาและโคมไฟหลอดฟลูออเรสเซนต์ในชั้น 1 และ 2 โดยมีดาวน์ไลท์ชั้น 3 และ 4 บันไดไม้สำเร็จรูป กระเบื้องห้องน้ำ LOLA กระเบื้องห้องครัว COTTO
แบบบ้านของที่นี่ออกแบบมาเพื่อการทำเป็นออฟฟิศสองชั้นล่าง และเป็นส่วนที่พักอาศัยสองชั้นบน เรื่องฟังก์ชั่นการใช้สอยถือว่าครบถ้วน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยครอบครัวขนาดเล็ก (หรือขนาดกลางหากไม่ต้องการทำชั้น 1 และชั้น 2 เป็นสถานที่ทำงาน) ส่วนห้องนอนที่ 2 และ 3 พื้นที่นั้นแคบไปหน่อย
ในเรื่องความสวยงามและแนวการดีไซน์ ผมถือว่าโดดเด่นมาก สมกับที่ได้รับรางวัลไป แต่ก็คงจะไม่ได้คอมเม้นท์มากเพราะว่าความสวยงามของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันนะครับ สิ่งที่จะวิจารณ์เป็นเรื่องของ “มิติ” มากกว่า การที่เห็น Facade ตึกฝั่งตรงข้ามที่ไม่เรียบเสมอกัน จะทำให้ระยะห่าง 11.5 เมตร ก็จะรู้สึกว่ากว้างขึ้นกว่าปกติ เพราะอาคารฝั่งตรงข้ามมีมิติมากขึ้นครับ
สาธารณูปโภคของที่นี่มีจุดเด่นที่ความกว้างของถนนโครงการและการเอาระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดลงดิน ทำให้ไม่มีสายระโยงระยางมาเกะกะอยู่หน้าบ้านหรืออยู่บนถนน เนื่องจากเป็นโครงการเล็กขนาดเพียง 2 ไร่กว่าๆ ซึ่งจะทำให้พื้นที่สีเขียวของโครงการนั้นดูน้อยกว่าโครงการขนาดใหญ่ในละแวกเดียวกันไปโดยปริยาย
ส่วนเรื่องของ Club House, Fitness สระว่ายน้ำ ฯลฯ นั้น ทางโครงการ The Primary Ultimate ไม่มีนะครับ เนื่องจากพื้นที่โครงการเล็ก จะให้แบ่งพื้นที่ไปทำส่วนกลางอีกคงจะไม่ไหวนะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 1 ตุลาคม 2556
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – เดินทางสะดวกในโซนกรุงเทพตอนเหนือ-ตะวันออก, รอบโครงการอุดมสมบูรณ์, แต่โครงการหน้าไม่อยู่ติดถนนนวลจันทร์
- ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV รอบโครงการ และ Key Card เข้าออกโครงการ จัดว่าดี
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ออกแบบได้สวยมีคอนเซปท์ชัดเจน พื้นที่ใช้สอยทำออกมาใช้ได้
- วัสดุ 7.5/10 – วัสดุหลักๆ จัดว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับราคา แต่จะได้พื้นปูนเปลือยทั้งหลัง สำหรับคนที่ชอบแนวนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สีเขียวมีน้อย แต่เป็นโครงการเล็ก, ยูนิตไม่เยอะ, ได้ความเป็นส่วนตัว, สายไฟลงดินทั้งหมด, ถนน 11.5 เมตร
- สาธารณูปโภค 6.5/10 – สาธารณูปโภคไม่มีอะไรนอกจากป้อมรปภ. แต่จัดเก็บค่าส่วนกลางแพงไปหน่อย
- 7.78 / 10.00
BOTTOM LINE
The Primary Utimate เกษตร – นวมินทร์ เป็นโครงการที่มีโดดเด่นด้านการออกแบบ ตัวซอย 28 นั้นเป็นซอยตันที่ไม่พลุกพล่าน แต่ส่วนกลางอาจจะไม่โดดเด่นเท่ากับโครงการอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากจะทำบ้านเป็นออฟฟิศด้วย แต่ไม่ใช่ออฟฟิศที่ต้องการหน้าร้านที่ Traffic เยอะๆ และไม่ใช่บ้านโครงการใหญ่ๆที่ยูนิตเยอะๆครับ อ้อ! และต้องชอบพื้นปูนเปลือยด้วยนะครับ 🙂
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ