
รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.107 – รีวิวทาวน์โฮม The Preston Townhome
30 พฤศจิกายน 2014
สวัสดีค่ะ รีวิวฉบับที่ 544 วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Preston Townhome ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ดีไซน์สไตล์ Modern English ใน ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ค่ะ ซึ่งซอยนี้เป็นซอยที่สามารถลัดไปออก รามคำแหง 60 บริเวณแยกบางกะปิได้ด้วย โครงการนี้ Mr.Boom ได้เคยพาไปดูทำเลของโครงการมาแล้วตั้งแต่ช่วงโครงการยังเป็นที่ดินเปล่าๆ ไม่มีอะไรเลย จนค่อยๆเริ่มก่อสร้าง และปัจจุบันโครงการเฟส 1 ก็ใกล้จะพร้อมอยู่แล้วค่ะ ทางทีมงาน ThinkofLiving เลยมีโอกาสเข้าไปดูโครงการอีกครั้ง ตอนนี้บ้านตัวอย่างสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน เดี๋ยวลองไปดูกันค่ะ
Fact @ 4 March 2014
- The Preston Townhome พระราม 9-ศรีนครินทร์
- J Group Real Estate Development Co.,Ltd
- Segment การตลาด 5-7 ล้านบาท
- เนื้อที่โครงการประมาณ 5 ไร่
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น 58 ยูนิต แบ่งเป็น
- หน้ากว้าง 5.7 เมตร 55 ยูนิต
- หน้ากว้าง 7 เมตร 1 ยูนิต
- หน้ากว้าง 9 เมตร 2 ยูนิต
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
เนื่องจาก Mr.Boom ได้พาไปดูทำเลมาเเล้วเลยขอนำข้อมูลที่ Mr.Boom เขียนยกมาในที่นี้เลยนะคะ
เริ่มจากแผนที่โครงการกันก่อน (คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่) โครงการ The Preston Townhome นี้ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 อยู่ลึกจากปากซอยฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑาเข้าไปประมาณ 600 เมตร ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้เป็นทางลัดไปออก ซอยรามคำแหง 60 บริเวณแยกบางกะปิได้ จึงเป็นซอยที่มีความคึกคักพอสมควร มีรถวิ่งผ่านตลอดเวลา การไปโครงการก็สามารถทำได้หลายวิธีพอสมควรนะคะ คือ (1) มาจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ (2) มาจากถนนศรีนครินทร์ (3) มาจากถนนรามคำแหง และ (4) มาจากทางวงแหวนกาญจนาภิเษก หลักๆประมาณนี้ แต่เดี๋ยวจะพาไปดูทางที่ (น่าจะ) ง่ายที่สุดสำหรับหลายๆคน คือ มาจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ค่ะ
เราใช้ทางด่วนพระราม 9 (ศรีรัช) วิ่งมาทางสุวรรณภูมิ ยึดป้ายสุวรรณภูมิมาเลยจ่ะ
ขับรถมาเรื่อยๆมาทางเส้นมอเตอร์เวย์
พอลงมอเตอร์เวย์ปุ๊บ เราก็ชิดซ้าย แล้ววิ่งออกคู่ขนานไปเลย
จะมีป้ายบอกไปถนนกรุงเทพกรีฑา เราก็วิ่งตามป้ายไป
กรุงเทพกรีฑาเลี้ยวซ้ายแยกหน้า
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลย ถ้าเราวิ่งตรงไป จะไปเจอทางกลับรถลอดใต้มอเตอร์เวย์ ซึ่งจะพาเราไปถนนพัฒนาการได้
ซอยที่เราเลี้ยวเข้ามาจะเป็น ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 นะคะ
ซอยนี้ถึงสองข้างทางจะไม่ค่อยมีอะไร (เพราะทางขวามือเป็นที่สนามกอล์ฟ ยาวตลอดแนว ไปจนถึงถนนกรุงเทพกรีฑา) แต่ว่าเนื่องจากเป็นทางลัด จึงมีรถยนต์วิ่งไปวิ่งมาตลอด มีรถติดบ้าง น้อยบ้าง มากบ้าง แล้วแต่สภาพถนนข้างเคียงค่ะ
ตรงนี้จะผ่านโรงเรียนอนุบาลทับแก้ว ทางซ้ายมือด้วย หนึ่งในตัวการรถติดตอนเช้า
วิ่งตามทางในซอย 8 มา จะมาออกที่ถนนกรุงเทพกรีฑาค่ะ เราเลี้ยวขวาตามลูกศรไปเลย
ถนนกรุงเทพกรีฑานี้ เป็นถนน 2 เลนค่ะ แต่ขนาดเลนค่อนข้างกว้าง มีไหล่ทางพอสมควร แต่ไม่มีฟุตบาท ถ้ารถไม่ติด วิ่งได้ค่อนข้างสบายๆ สองข้างทางไม่ได้คึกคักมากนัก คนใช้เป็นทางผ่านมากกว่า
พอขับมาเรื่อยๆ เราจะเจอ “เส้นทางลัด รามคำแหง” ซึ่งก็คือ ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 มีจุดสังเกตคคือ ก่อนถึงปากซอย จะเจอปั๊มน้ำมัน/ปั๊มแก๊ส ขนาบข้างสองด้าน
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลย
ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 นี้ อย่างที่บอกว่าเป็นซอยลัด เชื่อมไปยัง รามคำแหง 60 ดังนั้น ในซอยนี้จะเป็นชุมชนที่ค่อนข้างใหญ่ มีหมู่บ้านจัดสรรหลายโครงการมาเปิด มีคนอยู่เยอะ มีความอุดมสมบูรณ์พอควร
เข้าซอยมาซักพัก เราจะเจอที่ว่างๆ ล้อมรั้วอยู่ เขียนป้ายว่า Market Today ที่นี่จะเป็นเหมือนแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ ออกสไตล์ตลาดนัดจตุจักร ผสมๆกับ Platinum เป็นแนวราบนะคะ ได้ยินมาว่าก็จะเน้นขายสินค้าแฟชั่น อะไรทำนองนี้
ตรงข้าม Market Today เป็น บ้านเอื้ออาทร
ถัดจากบ้านเอื้ออาทร จะเจอ บ้านกลางเมือง พร้อม Pegasus สีทอง คอยต้อนรับอยู่แบบนี้
ผ่านมาอีกหน่อย เจอ หมู่บ้าน กรองทอง วิลล่าพาร์ค
ถัดมาอีกนิดนึงจะเป็น ทาวน์พลัส พระราม 9
สุดท้ายเราจะมองเห็น สถาปัตยกรรม สี่เหลี่ยม แท่งๆ ทางขวา มันคือ ซุ้มทางเข้าของเศรษฐสิริ และ Town Avenue ที่พี่แสนเขาทำเอาไว้ -___- เว่อซะไม่มี ซึ่งข้างๆ ทางเข้านี้แหละ จะเป็นทางเข้าของโครงการ THE PRESTON TOWNHOME ค่ะ ก็เป็นจุดสังเกตง่ายๆ
ด้านหน้าที่เราเห็น คือ โรงงานนมตรามะลิ อยู่ตรงหัวมุมถนนพอดี ซึ่งจะอยู่ติดกับโครงการ เราก็เลี้ยวขวาเข้าโครงการไปได้เลยค่ะ
ถึงแล้ว! THE PRESTON TOWNHOME ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนถึงทางเข้าจริงๆของเศรษฐสิริค่ะ ถนนตรงนี้เป็นถนนสาธารณะนะคะไม่ใช่ถนนของโครงการใดๆ
ลองกลับมาดู Google Maps อีกครั้งนะคะ จะลองระบายสีให้ดูว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้างอย่างคร่าวๆ แต่นี่ไม่ใช่เขตที่ดินจริง เอาไว้ลองดูเป็น Guideline ไปก่อนนะคะ สีแดงๆ ที่อยู่ในแผนที่ คือ โครงการ The Preston Townhome ค่ะ จะอยู่ตรงหัวมุม ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 พอดีเด๊ะเลย และในละแวกเดียวกันนี้ก็จะมีโครงการแนวราบอยู่รายล้อมเพียบ เต็มไปหมด
เมื่อกี๊ที่เราขับรถมา เราใช้เส้นมอเตอร์เวย์มาเข้า ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 (ลูกศรสีน้ำเงินในรูป) แล้วก็วิ่งเข้าซอย 7 มาตามทางค่ะ
เวลาเราออกจากบ้าน ถ้าวิ่งย้อนกลับทางเดิม เราวิ่งกลับไปใช้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ไม่ได้แล้วนะคะ เพราะไม่มีด่านเก็บเงิน เราจะใช้ได้แค่ เส้นคู่ขนานที่อยู่ด้านนอกเท่านั้น วิ่งไปจนถึงถนนเลียบวงแหวน แต่ถ้าเรากลับรถ ลอดใต้มอเตอร์เวย์ เราจะสามารถวิ่งลัดไปออก ถนนพัฒนาการ ได้ ใช้ในกรณี ไปอ่อนนุช-ลาดกระบัง ก็ค่อนข้างสะดวก
(ปล. พื้นเขียวๆที่เห็นในแผนที่ คือ สนามกอล์ฟ กรุงเทพกรีฑาสโมสร อยู่ติดกับ สนามกอล์ฟ ยูนิโก้ สองสนามติดกันเลยทีเดียว เป็นข้อดีของคนชอบเล่นกอล์ฟเลยนะ)
ถ้าเราจะขึ้นทางด่วน ให้เราวิ่งเส้นกรุงเทพกรีฑา มาออก ถนนศรีนครินทร์ ค่ะ แล้วจากตรง แยกพัฒนาการ จะขึ้นทางด่วนวิ่งเข้าเมืองก็ได้ วิ่งมอเตอร์เวย์ออกนอกเมือง ไปชลบุรี, สุวรรณภูมิก็ได้ หรือจะวิ่งศรีนครินทร์ ตรงต่อไปบางนา ก็ยังได้ นอกจากนี้ ใกล้ๆกันก็จะมีสถานีรถไฟฟ้า Airport Link หัวหมาก ที่อยู่ใกล้ๆกับทางรถไฟตรงนี้ สามารถมาใช้ได้เช่นเดียวกัน
ตรงแยกพัฒนาการนี้ จะมีห้าง MaxValu ที่เป็น Supermarket ขนาดใหญ่ (และมีร้านค้าย่อยๆอีกมากมาย) วันไหนขี้เกียจวิ่งเข้าเมือง มานั่งกินพิซซ่า, กินไอติม Swensen’s ตรงนี้ได้เลยนะจ๊ะ
รามคำแหง 60
สำหรับการจะไปถนนรามคำแหง เราสามารถขับรถต่อเข้าไปในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ได้ ซึ่งเราจะข้ามคลองหัวหมาก ไปเชื่อมกับซอยรามคำแหง 60 และออกไปยังถนนรามคำแหงได้ จะไปโผล่บริเวณแยกบางกะปิพอดี จากตรงนั้นสามารถขึ้นสะพานลอยฟ้าข้ามไปลง ถนนพระราม 9 ได้เลยค่ะ
เดี๋ยวเราลองขับรถดูกัน ว่าเราจะออกไปถนนรามคำแหงยังไง วิ่งออกจากซอยก่อนเลย
ช่วงที่เราออกจากซอยนี่ ด้วยความที่มันอยู่ตรงทางโค้งพอดี ต้องระมัดระวังนิดนึงนะคะ เพราะว่ารถที่วิ่งไปวิ่งมาจะมองไม่เห็นได้
วิ่งเข้าซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ต่อไป
ผ่านโครงการ มัณฑนา กับ บ้านใหม่ ทางขวามือ
แล้วทางขวามือนี้ จะมี “Kurve 7” ที่เป็น Community Mall ในระยะใกล้ๆ อยู่ติดกับบ้านใหม่เลย เดินมาจาก Preston ได้
ด้านหน้าของ Community Mall เป็นแบบนี้ ขนาดเค้าก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไรนะคะ สำหรับคนพื้นที่จริงๆ
มีร้านกาฟงกาแฟให้เข้าไปนั่งได้
มี MaxValu Tanjai ตั้งอยู่ตรงนี้ด้วย ซึ่งแถวๆนี้หาตลาดสดยาก การที่มี MaxValu ก็ช่วยได้เยอะ เพราะเขามีของสดขายด้วย
วิ่งต่อเข้าซอยไป บรรยากาศเริ่มเงียบๆ มีแต่บ้านคนละ
ข้ามสะพานข้ามคลองหัวหมาก
เจอสามแยก เลี้ยวขวา
เลี้ยวซ้ายอีกทีที่วงเวียน
ตรงนี้เราเข้าสู่ซอยรามคำแหง 60 แล้วค่ะ
วิ่งตรงออกซอยไปเรื่อยๆ ตรงนี้มีป้อมยามอันนึง น่าจะหมายความว่าตรงนี้เป็นถนนส่วนบุคคล (รึเปล่า?) ไม่รู้ยังไง ขอคนพื้นที่มาช่วยคอนเฟิร์มด้วยนะคะ แต่เราขับรถต่อเข้าไปได้ตามปกติ
ใกล้จะถึงละ ตึกสูงๆที่เห็นในรูปนั่นคือ คอนโด Bangkok Horizon ค่ะ
มาถึงปากซอย รามคำแหง 60 แล้ว สามารถเลือกจะเลี้ยวซ้ายไปศรีนครินทร์ หรือ เลี้ยวขวา วิ่งไปทางวงแหวน ก็ได้ (แต่ห้ามตรงไปนะ)
เราเลี้ยวซ้ายมาทางศรีนครินทร์ จะเห็นว่าเราสามารถขึ้นสะพานข้ามแยกได้ทันทีเลย ซึ่งพอข้ามแยกไป ก็จะเจอทางคู่ขนานลอยฟ้า วิ่งไปลงถนนพระราม 9 ได้เลยคะ
ในรัศมีประมาณ 3-5 กิโลเมตร ก็จะมีสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่น่าสนใจประมาณนี้ค่ะ ลองดูกันเนอะ ลอง plot มาให้ดูคร่าวๆ เทียบกับแผนที่โครงการนะคะ
รอบๆโครงการ (AUGUST 2013)
*UPDATED: รูปภาพใน Section นี้จะเป็นภาพเก่าจากรีวิวทำเลของโครงการ เมื่อเดือนสิงหาคม 2013 นะคะ บรรยากาศปัจจุบันของโครงการเปลี่ยนไปพอสมควรแล้ว ซึ่งจะสังเกตได้จากรูปภาพในหัวข้อต่อไปค่ะ
กลับมาที่ที่ดินโครงการ มาดูรอบๆกันบ้างว่าจะเป็นยังไง
ทางเข้าของโครงการอยู่ตรงนี้เลย ติดกับตำแหน่งของเสาไฟฟ้าเนี่ยแหละ ตอนนี้กำลังทำอยู่
เดินถัดมาอีกนิดนึง …
ทางขวาของโครงการ จะเจอทางเข้าของ หมู่บ้าน บ้านสวนราชา มีทางเข้าเล็กๆอยู่ตรงนี้ค่ะ อันนี้สร้างเสร็จนานแล้ว
ด้านขวาจะเจอกับทางเข้าของแสนสิริ Town Avenue กับ เศรษฐสิริ สองโครงการนี้ใช้ทางเข้าเดียวกัน
ภาพนี้เป็นภาพช่วงโครงการกำลังเริ่มก่อสร้างนะคะ นำมาให้ได้ชมเนื่องจากจะเห็นอาคารด้านข้าง ๆ ชัดเจนกว่า ด้านซ้ายของแปลงที่ดิน (หันหน้าเข้าแปลง) ติดกับโรงงานนมตรามะลิ
ด้านขวาของแปลงที่ดิน (หันหน้าเข้า) ติดกับบ้านคนทรงไทยหลังนี้ อินดี้ซะไม่มี …
ถัดไปอีกหน่อย ทางขวาของแปลงที่ดินเหมือนกัน เป็นที่ของหมู่บ้านสวนราชา
เจาะลึกตัวโครงการ (UPDATED FEB 2014)
เริ่มจาก Master Plan ของโครงการค่ะ ตัวที่ดินของโครงการ จะเป็นลักษณะรูปตัว L แบบนี้ มีด้านหน้าติดถนนซอยกรุงเทพกรีฑา 7 โดยทีจะวางเฟส 1 ของโครงการไว้ด้านใน และเฟส 2 เอาไว้ด้านนอก การแบ่งเฟสอันนี้ไม่ได้แยกนิติบุคคลของโครงการนะคะ เป็นการแบ่งเฟสการก่อสร้างเฉยๆ เพื่อให้เข้าใจว่าส่วนไหนจะสร้างเสร็จก่อน เพราะเค้าใช้วิธีสร้างจากหลังด้านในสุดแล้วก็ไล่ออกมาเรื่อยๆถึงด้านหน้า โดยแต่ละเฟสมีทั้งสิ้น 29 หลังค่ะ
รูปภาพต่อจากนี้จะเป็นภาพถ่ายเมื่อโครงการก่อสร้างไปแล้วส่วนหนึ่งนะคะ (เฟส 1) – ก.พ. 57
ด้านหน้าทางเข้าโครงการค่ะ ประตูเป็นประตูไม้กระดกและมีป้อมยามอยู่หน้าโครงการ (UPDATED!! ตัวประตูกั้นไม้กระดกนี้จะไม่ใช่แบบแตะบัตร Access Card ธรรมดานะคะ แต่จะเป็นระบบ RFID คล้ายๆกับ บัตรทางด่วน Easy Pass ซึ่งจะสามารถตรวจจับรถของลูกบ้านได้จากระยะไกล และเซ็นเซอร์จะสั่งให้ประตูเปิดโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเปิดกระจกและยื่นบัตรออกมาแตะด้านนอก ซึ่งจะสะดวกกว่า ไม่ต้องควานหาบัตรในกระเป๋า หรือเปิดกระจกรถเวลาฝนตก)
ในโครงการนี้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ไว้ที่หน้า Main Gate และพื้นที่ส่วนอื่นๆรอบโครงการ รวม 25 จุดด้วยกันค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะทีเดียว เทียบกับในหมู่บ้านทั่วๆไป หรือบ้านเดี่ยวหลายๆโครงการ ที่มักจะมีแค่บริเวณทางเข้าและพื้นที่ส่วนกลางบางจุด ซึ่งจะทำให้ลูกบ้านมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้มากขึ้น
เมื่อเดินเข้ามาในโครงการจะเจอกับสวนสาธารณะของโครงการและอาคารสำนักงานนิติบุคคลค่ะ เป็นอาคารที่มีลักษณะคล้ายๆกับ Old English Cottage สีเนื้อ ซึ่งที่เขาออกแบบมาเป็นแบบนี้ เพื่อให้เป็นไปตามลักษณะของ Conceptโครงการที่เป็นสไตล์ Modern English
บ้านโซนแรกที่กำลังจะส่งมอบให้กับลูกค้าเป็นบ้านโซนหน้าสวนสาธารณะ ซึ่งจะอยู่ทางขวามือนี้นะคะ ถนนภายในดูสะอาดสะอ้าน แต่ด้วยความเป็นทาวน์โฮมต้นไม้จึงไม่มากเท่าไร
ด้านหลังของแนวตึกทางซ้ายเป็นหมู่บ้านมัณฑนาของ Land & Houses ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ติดกันค่ะ
สวนในโครงการจะอยู่ใน Concept แบบ Modern English Country ประตูจะเล็กๆ เป็นประตูเหล็กติดกับกำเเพงหิน มีโคมไฟที่ออกแนวคลาสสิกประดับอยู่ทั้งบริเวณประตูสวนและประตูบ้านแต่ละหลัง
สวนขนาดย่อมจัดวางแนว Formal Garden เป็นสวนที่ดูสะอาดตา เเละจะเห็นความสมมาตรกันระหว่างสองด้านค่ะ ปลายสุดเป็นอาคารนิติบุคคลที่ถ่ายรูปให้เห็นเมื่อครู่นี้
มองกลับไปอีกด้านจะมีศาลาเล็ก ๆ ให้นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ค่ะ ตอนนี้ต้นไม้ยังไม่ค่อยโตเท่าไหร่ เลยจะดูไม่ค่อยร่มรื่น คงต้องใช้เวลาอีกซักพัก ซึ่งถ้าต้นไม้ต้นที่เห็นในภาพนี้แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาอย่างสมบูรณ์ ศาลานี้คงจะน่านั่งยามแดดร่มลมตกนะคะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะในโครงการ
- ระบบ CCTV 25 จุดรอบโครงการ
- ระบบประตูทางเข้าอัตโนมัติแบบ Easy-Pass
- รั้วโครงการสูง 2.5 เมตร
Product Walkthrough
ตัวบ้านเป็น Townhome 3 ชั้นแบบบ้านชื่อ “Preston 1” และ “Preston 2” เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ขนาด 150 และ 163 ตารางเมตรค่ะ โดยรวมขนาดของสองห้องนี้จะใกล้เคียงกัน โดย Preston 1 จะมีความลึกที่ 13.25 เมตร เล็กกว่า Preston 2 เล็กน้อย ที่มีความลึกที่ 14 เมตร ในขณะที่มีหน้ากว้างเท่ากัน 5.7 เมตร
การออกแบบเป็นสไตล์ Modern English หน้าตาเหมือนบ้านฝรั่งๆ ซึ่งจะเห็นว่าTheme ชัด Concept ชัด โดยเป็นบ้านที่มีบริเวณหน้าบ้าน กว้าง 5.7 เมตร แปลนชั้น 1 เปิดประตูเข้าบ้านมา เจอกับส่วนรับแขก ที่ทำเป็นพื้นที่ยาวติดกับส่วนหน้าบ้านทีวีจะวางติดผนังหน้าบ้านเนื่องจากหน้าต่างบ้านบานจะไม่ใหญ่ค่ะ ถัดไปด้านในเป็นส่วนรับประทานอาหารที่อยู่ด้านหลังบ้าน ส่วนครัวจะอยู่ด้านหลังเช่นเดียวกันติดกับส่วนซักล้างหลังบ้าน พื้นที่ครัวกั้นประตูแยกส่วนได้ แต่ไม่ค่อยเหมาะเพราะจะทำให้ห้องครัวดูเเคบมากค่ะ แนะนำว่าถ้าอยากได้ครัวไทยแยกส่วนให้ต่อเติมหลังบ้านน่าจะดีกว่า ส่วนห้องน้ำชั้นล่าง จะเข้าจากทางห้องครัวอีกที ห้องน้ำห้องนี้จะไม่มีส่วนอาบน้ำให้นะคะ
ขึ้นมาชั้น 2 จะมีทางเดินที่เป็นตัว Access แจกจ่ายไปยังห้องต่าง ๆ นั่นคือ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และไปยังประตูชั้น3 ห้องน้ำชั้นนี้จะแชร์กันระหว่าง 2 ห้อง มีประตูเปิดเข้าออกสองด้าน ส่วนห้องนอนมีห้องนอนเล็กกับกลางที่มีขนาดใกล้เคียงกันทีเดียวค่ะ ต่างกันตรงให้เลือกว่าจะอยู่หน้าบ้าน กับ หลังบ้าน ห้องที่อยู่หน้าบ้าน จะได้หน้าต่าง Bay Window สวยๆ ส่วนห้องหลังบ้านจะมีห้องน้ำในตัวซึ่งมีอีกประตูที่เข้าจากทางเดิน
ส่วนขึ้นมาชั้น 3 ห้องนี้จะเป็นห้องนอนใหญ่ Master Bedroom โดยห้องนี้เค้าจะมีลูกเล่นนิดนึง คือทำเป็นแบบ Loft โดยที่เขาจะเอาประตูเข้าห้องนอนนี้ ไปไว้ที่ชั้น 2 แล้วพอเราเปิดประตูเข้ามาปุ๊บจะเจอกับบันไดขึ้นชั้น 3 แล้วพอเดินขึ้นบันไดมาจะเป็นห้องนอนเลย จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Penthouse นิดนึง ฟังก์ชั่นห้องนี้ เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว มีพื้นที่ไว้ให้กั้น Walk-in Closet วางโต๊ะทำงานอีกตัวยังได้ เป็นห้องที่สวยที่สุดในบ้านเลยทีเดียวค่ะ พื้นที่ใช้สอยเยอะเพราะพื้นที่ทั้งชั้นใช้เป็นห้องนอนหมดเลย
Preston Grande 1 เป็นบ้านที่มีขนาดพิเศษของโครงการนี้ คือหน้ากว้างมากกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นแถวบริเวณซอยกลางของโครงการ ตรงนี้จะได้บ้านหน้ากว้างและตื้น ซึ่งจะได้พื้นที่ใช้สอยอีกแนวหนึ่ง
เราไปดูบ้านตัวอย่างกันเลยดีกว่าค่ะ หน้าตาประมาณนี้ จากเเนวความคิดการออกแบบที่เป็น Modern English จะเห็นได้จากหน้าตาภายนอกและฟังก์ชั่นการใช้งานด้านในค่ะ โดยหน้าตาอาคารและสีที่ใช้จะดูเรียบ ไม่เน้นสีสันที่มากเกินไป ทั้งชั้น 2 และชั้น 3 … ภายในจะมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Bay Window ที่เราเห็นเป็นดีไซน์ของหน้าต่างที่ยื่นออกมาที่ชั้น 2-3 นั่นแหละค่ะ และบนหลังคามีหน้าต่างหลอกที่ถ้ามองจากภายนอกจะเหมือนกับว่ามีห้องใต้หลังคาด้วยค่ะ แต่จริงๆไม่มีนะคะ 🙂 เรียกได้ว่าตัวบ้านนั้น Theme ชัด Concept ชัด
ด้านข้างของตึก ถึงแม้จะเป็นหลังที่อยู่ริมสุดที่เป็นแปลงมุม จะไม่มีหน้าต่างหรือช่องเปิดใด ๆ นะคะเนื่องจากติดเรื่องระยะทางกฎหมายค่ะ
การที่จะให้มีหน้าต่างหรือช่องเปิดใดๆ แต่ละอาคารจะต้องห่างกันมากกว่านี้ค่ะ พื้นที่ด้านข้างต้องเว้น 2 เมตรขึ้นไป ดังนั้นทางโครงการจึงทำให้เป็นเหมือนสวนเล็กๆระหว่างอาคาร ซึ่งตามกฎหมายนั้นตรงนี้ไม่ต้องทำเป็นสวนก็ได้ เพราะเป็นจุดกลับรถ การที่โครงการ Treat ให้ดูดี ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของลูกบ้านในส่วนนี้นะคะ
ด้านหน้าบ้าน พื้นที่จอดรถเป็นพื้นปูนค่ะ ด้านหน้าชั้น 1 จะทาสีขาว มีหน้าต่างเล็ก ๆ 2 บานทำให้ด้านในเเสงธรรมชาติไม่ค่อยส่องเข้าไปค่ะ ข้อดีคือถ้าเป็นบ้านที่หันทิศใต้ ตรงนี้ก็จะช่วยเรื่องป้องกันแดดร้อนได้
บ้านจริงที่ได้จะไม่มีกันสาดสีเทาที่เห็นนี้นะคะ
ประตูเป็นประตูไม้สีดำบานใหญ่ ไม้จริง ตัวมือจับเป็นตัว L สีออกทองๆ ยี่ห้อ Hafele ทำให้ดูเป็นบ้านมากกว่าทาวน์โฮมสมัยใหม่ที่ใช้บานเลื่อนเป็นทางเข้า
แนวบัวด้านนอกและลวดลายของผนัง ประกอบกับโคมไฟนอกบ้านซึ่งเป็นแบบเหล็กสีดำตัดกับตัวบ้านที่เป็นสีขาว ช่วยทำให้บ้านนี้ดูมี Detail อะไรๆมากขึ้น ซึ่งสังเกตที่พื้นจะเห็นว่าพื้นบ้านจะยกระดับขึ้นมาอีกประมาณ 10 ซม.ค่ะ
เข้ามาในบ้าน ด้านขวาเป็นส่วนนั่งเล่นและทานอาหาร ด้านซ้ายจะเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้นบน ถัดไปเป็นห้องน้ำและส่วนครัว พื้นภายในเป็นเเกรนิตโต ผนังและฝ้าเพดานบ้านตัวอย่างจะมีการตกเเต่งเพิ่มเติมขึ้นมาเยอะทีเดียวค่ะ บ้านจริงที่ได้จะเป็นผนังทาสีขาว ฝ้าจะเป็นฝ้าเรียบนะคะ
พื้นที่นั่งเล่นกว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟาตัวใหญ่ ๆ ได้เลย ซึ่งขนาดเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับบ้านที่มีสมาชิก 4-5 คนเลยค่ะ
หันกลับไปดูประตูทางเข้าบ้านที่เพิ่งผ่านเข้ามาเมื่อกี้ค่ะ ด้านนี้จะเป็นตำเเหน่งวางทีวี โดยจะมีหน้าต่างบานเล็กๆสองบานแบบนี้ค่ะ เเสงธรรมชาติหลักๆจะได้จากประตูหลังบ้านซึ่งถ้าต่อเติมส่วนนั้นเป็นครัว บ้านจะทึบมากค่ะ ตอนกลางวันคงต้องเปิดไฟตลอด อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องแลกกันมา เมื่ออยากได้บ้านที่หน้าตาสไตล์อังกฤษแบบนี้
ระยะห่างระหว่างโซฟากับผนังอีกด้านที่เป็นห้องน้ำ สามารถเดินผ่านได้สะดวกค่ะ
ส่วนติดกันนั้นเป็นโต๊ะทานอาหาร พื้นที่มีให้วางโต๊ะสำหรับ 4-5 คนได้ค่ะ
โต๊ะทานอาหารจะเป็นส่วนที่ติดกับประตูหลังบ้าน ซึ่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ทำให้เเสงธรรมชาติเข้ามาส่วนนี้ได้เยอะ กระจกนี้เป็นกระจกบานใหญ่นะคะไม่ใช่กระจกบานเล็กๆมาประกอบเข้าหากัน และบานกระจกก็สามารถเปิดเลื่อนได้ทั้งสองบาน ค่อนข้างสะดวกในการเดินเข้าเดินออกหลังบ้านค่ะ
ส่วนซักล้างจะอยู่หลังบ้าน พื้นบ้านจริงที่ได้จะไม่ปูกระเบื้องให้นะคะ จะเป็นดินพร้อมปูหญ้าจริงและมีต้นไม้ดอกให้ค่ะ
คราวนี้หันมาดูอีกด้านของบ้านกันนะคะ ส่วนที่อยู่ติดกับหลังบ้านและโต๊ะทานอาหารนั้นคือส่วนครัวค่ะ ซึ่งติดๆ กันนั้นจะเป็นประตูนั่นคือห้องน้ำค่ะ
ครัวอยู่ติดกับหลังบ้านจึงมีหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ส่วนนี้ไม่ค่อยทึบค่ะ เเละจะระบายอากาศได้ดี เนื่องจากตัวกระจกนั้นอยู่ที่บริเวณเหนือท๊อปครัวพอดี
เคาน์เตอร์เป็นตัว L ซึ่งความยาวเคาน์เตอร์ถ้าวางอ่างล้างจานและเตามีพื้นที่เหลือให้เตรียมอาหารค่ะ สำหรับบ้านที่ทำอาหารหนักๆ พื้นที่แค่นี้อาจจะไม่ค่อยพอคงต้องต่อเติมตรงหลังบ้านกันนะคะ และบ้านจริงที่จะได้ เคาน์เตอร์จะไม่ยาวมาจนขอบประตูหลังบ้านนะคะ คือถ้าวางเตาในบ้านจริงนั้นก็ไม่เหลือพื้นที่เตรียมอาหารเลยค่ะ
ห้องน้ำจะอยู่ติดกับครัวค่ะ ด้านที่ติดกันนั้นจะเป็นตำเเหน่งของตู้เย็น
ห้องน้ำด้านล่างนั้นอาบไม่ได้ พื้นห้องเป็นกระเบื้องสีดำเป็นกรอบ ด้านในจะเป็นสีขาว สำหรับประตูในบ้านตัวอย่างจะไม่ได้ติดตั้งนะคะ
สุขภัณฑ์ของที่นี่จะใช้ของดีมีราคา ยี่ห้อ Kohler และ Englefield ซึ่งเป็นแบรนด์ตัวเล็กของ Kohler ค่ะ
เวลาเปิดประตูออกมาจะเห็นว่าเมื่อเปิดประตูมาจะชนกับชักโครกค่ะ ตรงนี้ควรจะติด Door Stopper หน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายนะคะ
อ่างล้างมือและหัวก๊อกเป็นสุขภัณฑ์ของ Kohler / Englefield เช่นกันค่ะ อ่างเป็นอ่างที่ติดตั้งฝังเข้าไปในชั้นทำให้มีพื้นที่วางของได้เยอะขึ้นค่ะ
ตำเเหน่งโถสุขภัณฑ์ค่ะ ซึ่งห้องน้ำนี้จำเป็นต้องติดพัดลมดูดอากาศช่วยหน่อยนะคะ เวลานั่งในห้องน้ำจะได้มีอากาศถ่ายเทเหมาะสมค่ะ
ติดกับห้องน้ำจะเป็นบันไดทางขึ้นชั้นบนค่ะ ประตูสีดำทางซ้ายมือคือประตูทางเข้าบ้านนะคะ ใต้บันไดจะมีห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดด้วยนะคะ
ซึ่งบ้านตัวอย่างจะทำประตูซ่อนไว้เเบบนี้เพื่อความสวยงามค่ะ
ขึ้นบันไดไปชั้นบนกันค่ะ บ้านตัวอย่างตกแต่งราวจับบันไดเพิ่ม ไม่ใช่สเปคบ้านจริงนะคะ
ขึ้นมาจะเจอกับชานพักบันไดตรงนี้ เป็นจุดที่ตัดระหว่างพื้นที่ชั้นล่างและพื้นที่ชั้นบน ด้วยความใหญ่ของชานพักบันได เราสามารถใช้เป็นจุดเปลี่ยน Slipper สำหรับเดินเล่นบนบ้านชั้นสองก็ได้ค่ะ
บันไดบ้าน Preston 2 นี้ไม่มีขั้นสามเหลี่ยมเลยนะคะ ทำให้ค่อนข้างปลอดภัย เดินสะดวก ส่วนบ้าน Preston 1 จะมีขั้นสามเหลี่ยมอยู่บ้าง เนื่องจากตัวบ้านตื้นกว่าทำให้ต้องพับบันไดค่ะ
ทางเดินพื้นปูด้วยลามิเนต ประตูด้านขวาที่ใกล้ที่สุดคือห้องนอนกลางค่ะ ถัดไปเป็นห้องนอนเล็ก ตรงกลางที่เห็นคือห้องน้ำ ส่วนด้านซ้ายคือประตูที่จะขึ้นไปยังชั้น 3 ค่ะ
ห้องนอนกลาง พื้นปูด้วยลามิเนตโทนสีน้ำตาลอ่อน
ภาพแรกที่เข้ามาภายในห้อง จะเห็นฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Bay Window ทางด้านขวาติดกับหน้าต่างนะคะ เป็นจุดเด่นของทาวน์โฮมที่ Preston ซึ่งไม่ค่อยพบเจอในทาวน์โฮมสมัยนี้ เนื่องจากเป็นฟังก์ชั่นที่เฉพาะทาง
ด้านข้างเตียงจะมีพื้นที่เหลือแม้จะวางตู้เสื้อผ้าและทำที่นั่งแล้วก็ตามค่ะ ทำให้สามารถขยายเตียงจาก Queen’s Size เป็น King’s Size ได้ สำหรับคนที่ชอบเตียง 6 ฟุตก็ไม่มีปัญหาค่ะ
Bay Window สามารถทำเป็นที่นั่งน่ารัก ๆ เเบบนี้ไว้พักผ่อน เวลาใช้งานนี้สามารถเปิดหน้าต่างบานซ้ายและขวาเพื่อรับลมได้ แต่บานกลางเป็นบาน Fix ที่ไม่สามารถเปิดได้นะคะ ไม่อย่างนั้นจะอันตรายค่ะ
มองกลับไปอีกด้านสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้นะคะ สามารถวางตู้ใหญ่กว่านี้ได้คะเผื่อสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ คนไหนเสื้อผ้าเยอะหน่อย
ปลายเตียงสามารถทำเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องเเป้งและติดตั้งทีวีได้ด้วยค่ะ โดยระยะห่างระหว่างเตียงกับโต๊ะเดินผ่านได้สะดวก
มาดูห้องนอนเล็กกันค่ะ อันนี้เป็นภาพแรกที่มองเข้าไปในห้องนอนเล็กนะคะ ห้องนี้แม้จะเป็นห้องนอนที่เล็กที่สุดในบ้านแต่พื้นที่ใช้งานถือว่ากว้างทีเดียวค่ะ ฟังก์ชั่นใช้งานสามารถวางได้ครบและไม่ดูอึดอัดค่ะ และมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ลงมาถึงระดับพื้นทำให้ห้องดูกว้างและสว่าง เตียงสามารถวางขนาด 3.5 ฟุตได้ค่ะ หรือถ้าไม่มีโต๊ะทำงานด้านข้างก็วางขนาด 5 ฟุตได้เลย ด้านข้างเตียงมีพื้นที่ว่างเดินผ่านได้สะดวกค่ะ โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องเเป้งก็ใหญ่ทีเดียว วางของได้เยอะและไม่ดูอึดอัดค่ะ
อีกด้านเป็นตำเเหน่งของตู้เสื้อผ้า สามารถวางตู้ที่ใหญ่ได้มากกว่านี้ด้วยนะคะ ซึ่งถ้าใช้เป็นบาน Slide ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องระยะเปิดประตูค่ะ
ปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีหรือทำเป็นชั้นวางของได้ค่ะ มีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้สะดวก
หน้าต่างห้องนี้ขนาดเหมือนเป็นประตูเลยค่ะ โดยปกติจะทำหน้าต่างต้องสูงจากพื้น 90 ซม. แต่ทางโครงการออกแบบให้มีราวกันตกด้านนอก ทำให้ยาวลงมาได้ถึงพื้น ห้องเลยยิ่งดูสว่างและดูกว้างขึ้น
ฟังก์ชั่นนี้หากมองจากหลังบ้าน จะเห็นเป็นหน้าต่างและราวกันตกสวยงาม ต่างจากทาวน์โฮมที่อื่นซึ่งไม่ค่อยสนใจหน้าตาด้านหลังบ้านสักเท่าไร
หน้าต่างเป็นบานเลื่อนซึ่งเปิดได้ทั้งสองบาน ไม่มีบาน Fix
มองออกไปด้านนอกจะเป็นแบบนี้นะคะ ซึ่งจะเห็นช่องที่ไว้วางคอมเพรสเซอร์เเอร์ของชั้น 2 เวลาซ่อมบำรุงและติดตั้งอาจจะลำบากเล็กน้อยค่ะ เพราะต้องพาดบันไดจากชั้น 1 ตรงพื้นที่ซักล้าง ซึ่งถ้าตรงนั้นต่อเติมเป็นครัวต้องดูเรื่องการติดตั้งและบำรุงคอมเพรสเซอร์เเอร์ชั้น 2 กันดี ๆ อีกทีนะคะว่าจะย้ายไว้ตรงไหน
แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อปิดกริลมิดชิด พื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะดูสวยไปถนัดตา ไม่เป็นที่รบกวนสายตาของบ้านรอบข้างค่ะ
ด้านปลายเตียงจะติดกับประตูห้องน้ำด้วย สามารถเข้าออกห้องน้ำได้จากห้องนอนเลยค่ะ
ห้องน้ำสามารถเข้าได้สองทาง มีสองประตูค่ะ ประตูหนึ่งคือที่เชื่อมกับห้องนอนเล็ก ส่วนอีกประตูเป็นประตูที่เชื่อมกับทางเดินค่ะ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีดำขนาด 30×30 ซม.
ภายในห้องน้ำ ผนังเป็นกระเบื้องสีขาวและมีช่องระบายอากาศที่เป็นช่องเเสง ทำให้ห้องน้ำสว่างทีเดียวค่ะ
อ่างล้างหน้า มีพื้นที่ให้วางของได้เยอะทีเดียวค่ะ หน้าต่างแม้จะไม่เต็มบานแต่ก็ถือว่าไม่เล็กเกินไปค่ะ โดยผนังด้านนี้เป็นสีดำตัดกับผนังส่วนอื่น ๆ ของห้องน้ำ
ตำเเหน่งโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ส่วนอาบน้ำ จะไม่มี Shower Box ให้นะคะ พื้นจะกั้นขอบขึ้นมาเล็กน้อยเวลาอาบน้ำ น้ำก็จะไม่ไหลเลอะทั่วห้อง ถ้าใครจะติดตั้ง Shower Box ก็สามารถทำได้ตาม Curb เลยค่ะ
ด้านหลังเห็นช่องว่างระหว่างผนังกับช่องเเสง ตรงนี้สามารถทำเป็นชั้นวางของได้พอดี เสริมจากชั้นวางสบู่ที่ค่อนข้างเล็กไปนิดนึงนะคะ
คราวนี้ขึ้นไปดูชั้น 3 กันค่ะ โดยชั้น 3 เป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ทั้งหมด จึงทำประตูทางเข้าตั้งแต่ก่อนขึ้นบันได ซึ่งจะคล้ายๆ Penthouse ชั้นบนสุดของบ้านในอังกฤษ ซึ่งในภาพตำเเหน่งนี้จะเป็นประตูนะคะ
พื้นจะยกระดับขึ้นไปอีก 10 ซม. เวลาเปิดประตูหลายคนอาจจะไม่ชินเพราะเปิดแล้วต้องก้าวขึ้นไปอีกเล็กน้อยเพื่อขึ้นบันไดนะคะ ยังไงต้องระวังสะดุดหกล้มด้วย เวลารีบๆ เดินไม่ดูทาง อาจจะอันตรายได้
ขึ้นมาเเล้วลองมองกลับไปตรงประตูทางเข้าจะเป็นเเบบนี้ค่ะ ส่วนราวกันตกบ้านจริงจะไม่ได้เป็นเเบบนี้นะคะ จะเป็นผนังขึ้นมาทึบถึงระดับราวกันตกค่ะ
ภายในห้องกว้างมากทีเดียวค่ะเพราะยึดพื้นที่ 1 ชั้นเต็มๆเลย เป็นพื้นที่ที่ดูสวยและกว้างที่สุดของบ้านหลังนี้
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 3 นี้ เราจะเห็นหน้าต่างตรงบันไดทางขวาของรูป ที่จะทำหน้าที่เพิ่มแสงธรรมชาติในห้องให้โถงบันไดไม่ทึบ
ด้านซ้ายกันนั้นจะเป็นส่วน Bay Window ซึ่งพื้นที่ยังเหลือเยอะ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาชุดกลางๆได้เลยค่ะ เหมือนกับ En Suite Room ตามโรงแรม
เตียงสามารถวางขนาด 5-6 ฟุตได้ค่ะ (จริงๆจะมากกว่านั้นก็ได้) พื้นที่ด้านข้างสามารถวางโต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียงได้ทั้งสองข้างเลยค่ะ
ปลายเตียงเป็นตำเเหน่งวางทีวีมีพื้นที่วางโต๊ะทำงานด้วยค่ะ ตรงส่วนนี้ถ้าวางทีวีระดับนี้อาจจะเตี้ยไปหน่อยสำหรับนอนบนเตียงแล้วดูทีวีค่ะ ถ้าใครอยากตกแต่งพื้นที่ตรงนี้ให้ Perfect ก็ควรจะสร้าง Partition โปร่งเป็นชั้นวางของขึ้นมาแทนผนัง จากนั้นวางทีวีจอใหญ่ๆอยู่ข้างใน จะทำพื้นที่ออกมาสวยมาก
คราวนี้หันไปดูอีกด้านของห้องกันค่ะ ด้านซ้ายเป็นพื้นที่ว่างที่สามารถวางตู้วางของและเก็บของได้ค่ะ ผนังด้านขวาบ้านจริงจะไม่มีผนังกั้นแบบนี้นะคะ จะเป็นห้องโล่ง ๆ ไปเลย แต่บ้านตัวอย่างหลังนี้กั้นพื้นที่เป็น Walk-in Closet ให้ดูค่ะ
บริเวณด้านหน้าชั้นวางของตรงนี้ จะมีพื้นที่เหลืออยู่นิดหน่อย สามารถวางของเพิ่มเติมได้ ในบ้านจริงพื้นที่ตรงนี้จะกว้างกว่าในห้องตัวอย่างนะคะ เพราะจริงๆแล้วด้านหลังตู้ตรงนี้จะติดกับผนังห้องน้ำ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งขึ้นมาให้เป็นมุมทำงานหรือมุมแต่งหน้าขนาดย่อมก็ได้ค่ะ
ในบ้านตัวอย่างกั้นผนังเเบ่งเป็นสัดส่วนให้เป็นห้องเเต่งตัวแบบ Walk-in-Closet โดยห้องนี้สามารถวางตู้เสื้อผ้าใหญ่ ๆ ได้ ซึ่งส่วนนี้จะอยู่ติดกับหน้าต่างด้านหลังบ้าน ที่เป็นช่องแสงขนาดใหญ่ของห้อง Master Bedroom นี้ ทำให้ห้องนั้นดูโปร่ง กว้างและสวยงาม จากแสงด้านหน้าที่ Bay Window และบานเลื่อนขนาดใหญ่ด้านหลัง
อีกด้านทำเป็นลิ้นชักหรือโต๊ะเครื่องเเป้ง หรือถ้าใครเสื้อผ้าเยอะหน่อยส่วนนี้ก็ทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้นะคะ ก็จะได้ตู้ตัว L ที่เก็บเสื้อผ้าได้เยอะขึ้นค่ะ
ตรงส่วนนี้จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่เหมือนประตูค่ะ ตัวบานหน้าต่างถูกยกจากพื้นประมาณ 30 ซม. ซึ่งถือว่าสูงมากทีเดียวสำหรับประตูระเบียง เวลาใช้งานอาจจะเดินเข้าเดินออกไม่สะดวกนัก ด้วยความที่ติดเรื่องข้อกฎหมายที่ทำให้ไม่สามารถทำเป็น “ประตู” ได้ ดังนั้น “ประตู” ตรงนี้จึงต้องมีการยกตัวบานให้สูงกว่าปกติกลายเป็น “หน้าต่าง” ค่ะ
เมื่อออกไปจะมีระเบียงที่สามารถเข้าไปซ่อมบำรุงคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ง่ายกว่าชั้น 2 ค่ะ ซึ่งของจริงจะมีการทำกริลปิดมิดชิดสวยงาม
ปิดกริลเหมือนอย่างรูปนี้นะคะ
หันกลับมาดูอีกด้านของห้องกันค่ะ ส่วนนี้จะเป็นห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องสลับสี ขนาด 30×30 ซม. แบบนี้เลย
พื้นห้องน้ำเป็นตารางหมากรุก ภายในเเละขนาดจะเท่ากับห้องน้ำของชั้น 2 ค่ะ แต่ต่างกันที่ช่องระบายอากาศและช่องเเสงตรงนี้จะโดนปิดทึบค่ะ ดังนั้นไม่สามารถใช้งานตามฟังก์ชั่นของมันเองได้ค่ะ ห้องนี้เลยจะดูทึบกว่าค่ะ และเเนะนำว่าควรติดพัดลมระบายอากาศเพิ่มเติม
อ่างล้างหน้า ในห้องนี้ จะมีพื้นที่บนเคาน์เตอร์น้อยกว่าห้องน้ำชั้น 2 นะคะ วางของได้โอเคแต่จะไม่เท่ากับชั้นสอง แต่สิ่งที่อัพเกรดขึ้นมาคือซิงก์ที่กว้างขึ้นใหญ่ขึ้นและใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
พื้นที่ส่วนอาบน้ำสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้
ฝักบัวของโครงการค่ะ เป็นแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Englefield / Kohler
เมื่อดูบ้านตัวอย่างกันเรียบร้อยแล้ว แนะนำเลยค่ะว่าต้องมาดูบ้านจริงที่ลูกบ้านจะได้ ส่วนของภายนอกนี้บ้านจริงแทบไม่แตกต่างกับบ้านตัวอย่างเลยค่ะ มีเพียงแต่กันสาดหน้าบ้านที่บ้านจริงจะไม่ได้ แต่ภายในจะมีจุดที่แตกต่างอยู่บ้าง เดี๋ยวลองเข้าไปดูกัน
พื้นหน้าบ้านระหว่างตัวบ้านกับที่จอดรถจะปูด้วยวัสดุต่างกันค่ะ พื้นบ้านก็จะสูงกว่าพื้นภายนอกประมาณ 10 ซม.
ภาพแรกเมื่อเข้ามาในบ้านค่ะ ผนังจะเป็นสีขาว พื้นเเกรนิตโต้ เพดานสูง 2.70 ม.
หลังบ้านค่ะ ภาพนี้จะเห็นครัวว่าเคาน์เตอร์ไม่ได้ยาวมาถึงประตูหลังบ้านเหมือนในบ้านตัวอย่างนะคะ ของจริงจะสั้นกว่าในบ้านตัวอย่าง ท๊อป Counter ใช้เป็นหินแกรนิตสีดำ
ส่วนซักล้างด้านหลังบ้าน จะเทพื้นคอนกรีตไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อวางถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำที่แถมให้ทุกบ้าน ปูหญ้าให้เรียบร้อย
อีกด้านแถมต้นไม้ดอกอีกต้นหนึ่งด้วย
ส่วนของครัวที่ได้จริงหลังบ้านนะคะ หลักๆที่ให้มาจะเป็นครัวก่อ ท้อปหินแกรนิตสีดำ ไม่มีหน้าบาน (ซึ่งจะดีสำหรับลูกบ้านที่อยากเลือกสีของหน้าบานและมือจับเอง) มีอ่างล้างจานแบบเสตนเลสมาให้
พื้นที่เคาน์เตอร์ค่อนข้างเล็ก ถ้าวางเตาไปแล้วก็เเทบจะไม่เหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารเลย แต่ถ้าดูจากห้องตัวอย่าง เขาจะยืดขนาด Pantry มาอีกจนชิดขอบประตูที่อยู่ทางขวา จะทำให้มีพื้นที่เพียงพอ ซึ่งถ้าจะทำแบบเดียวกันก็ทำได้ แต่คงต้องทุบเคาน์เตอร์ทำใหม่ ไม่งั้นพื้นที่ตรงนี้ก็ทิ้งให้เป็นอ่างล้างจานเฉยๆต่อไป แล้วต่อเติมหลังบ้านเอาส่วนทำอาหารไปไว้นอกบ้านเลยก็จะพอแก้ปัญหาได้ค่ะ
ซิงก์ตรงนี้ยี่ห้อ MEX จัดว่าโอเคค่ะ
ประตูห้องน้ำชั้น 1 ค่ะ
เปิดเข้าไปอ่างหน้าตาและที่วางเหมือนบ้านตัวอย่างแต่เพียงไม่มีกระจกให้ค่ะ
ส่วนด้านหน้าบ้านเป็นบันได พื้นปูราวบันไดเหมือนบ้านตัวอย่างเป็นไม้สีดำแต่ราวกันตกจะต่างกัน โดยบ้านจริงจะเป็นเหล็กสีดำ เห็นประตูเล็กๆ ใต้บันได นั่นคือห้องเก็บของค่ะ
ภายในห้องเก็บของ ติดหลอดไฟไว้ด้วยนะ
ขึ้นมาชั้นบน พื้นเป็นลามิเนตโทนสีน้ำตาลอ่อนค่ะ จะเห็นว่าประตูทุกบานตัวจับเป็นเเบบตัว L ชั้นนี้ความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.6 ม.
ห้องนอนกลางที่อยู่ชั้น 2 ค่ะ สังเกตงานฝ้า และ ผนัง จะมีการดรอปและเว้าเข้าไปอย่างที่เห็น เหมือนกับในบ้านตัวอย่างเลย แต่ถ้าจะให้สวยต้องติดบัวงามๆเพิ่มพร้อมกับม่านพับลายสวยๆ และแน่นอนว่าพอมี Bay Window เราก็ควรจะ Built-in Sofa หรือโต๊ะทำงานติดตั้งเข้าไป เพื่อให้ใช้ประโยชน์ของ Bay Window ให้ถึงที่สุดค่ะ
ห้องนอนเล็กค่ะ ด้านหลังที่เห็นเป็นบ้านเดี่ยวของ ม. มัณฑนา
ซึ่งถ้าเราบังเอิญได้บ้านที่สามารถมองลอดช่องข้ามไปได้ ก็จะได้วิวสวนสาธารณะใหญ่ๆของหมู่บ้านข้างเคียงมาด้วยล่ะ
ห้องน้ำที่อยู่ชั้น 2 ห้องนี้เหมือนบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ช่องเเสงช่วงให้ห้องน้ำสว่างขึ้นมากทีเดียว
ประตูห้องน้ำเปิดได้สองทางเเบบนี้ค่ะ
ประตูที่อยู่ติดกับห้องน้ำเป็นประตูที่จะขึ้นไปชั้น 3 ค่ะ
เมื่อขึ้นมามองกลับไปยังบันไดค่ะ จะเห็นระยะประตูที่เปิดกว้างออก
ห้องนอนใหญ่ชั้นสาม เวลาเปิดโล่งแล้วจะดูกว้างมากๆเลย
มองกลับไปยังอีกด้านของห้องค่ะ ด้านขวาจะเห็นราวกันตกที่ไม่เป็นราวเหล็กแต่จะเป็นราวก่อปูนขึ้นมาเเบบนี้ค่ะ
ด้านหลังห้องส่วนที่เป็นระเบียงและที่วางคอมเพรสเซอร์เเอร์ ในบ้านจริงไม่ได้ติดแอร์มาให้นะคะ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 February 2014
- Preston 1 พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. พื้นที่ดิน 18.60-28.30 ตารางวา ราคา 5.29-6.21 ล้านบาท
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5.7 ม.ลึก 13.25 ม.
- ราคาจะเเตกต่างกันไปตามตำเเหน่งและขนาดพื้นที่ดิน
- Preston 2 พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. พื้นที่ดิน 20.00-27.80 ตารางวา ราคา 6.14-6.21 ล้านบาท
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5.7 ม.ลึก 14.0 ม.
- ราคาจะเเตกต่างกันไปตามตำเเหน่งและขนาดพื้นที่ดิน
- Preston Grande 1 พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม. พื้นที่ดิน 21.7 ตารางวา ราคา 6.97 ล้านบาท
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 7 ม.
- Preston Grande 2 พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. พื้นที่ดิน 24.4 ตารางวา ราคา 7.19-7.29 ล้านบาท
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 9 ม.
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 65 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
- ปั๊มน้ำ, ถังเก็บน้ำ
- Gift Voucher สำหรับซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ Chic Republic มูลค่า 200,000 บาท
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลโครงการ The Preston นี้ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 อยู่ลึกจากปากซอยฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑาเข้าไปประมาณ 600 เมตร เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทางจึงมีรถวิ่งผ่านตลอดเวลา โดยรอบมีโครงการบ้านพักอาศัยอยู่จึงเป็นซอยที่มีความคึกคักพอสมควรเลยค่ะ และถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ทั้ง Community Mall ที่มีอยู่แล้วอย่าง Kurve 7 หรือที่กำลังจะเปิดในอนาคต เรียกได้ว่าวันไหนอยากเเวะซื้อของหรือชอบปิ้งก็ออกมาไม่ไกลจากบ้านมากนัก แม้ว่าหน้าโครงการจะเป็นถนนที่พลุกพล่านแต่เมื่อเข้ามาภายในโครงการก็ยังไม่เสียความเป็นส่วนตัวและยังคงความเป็นเขตที่อยู่อาศัยไว้ได้ และเนื่องจากโครงการมีขนาดไม่ใหญ่นัก บ้านหลังที่อยู่ด้านในสุดก็ยังสามารถเดินออกมาตรงถนนได้แบบไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นตัวเลือกหลักๆในถนนละแวกนี้ค่ะ ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้เป็นทางลัดไปออก ซอยรามคำแหง 60 บริเวณแยกบางกะปิได้ การขึ้น-ลงทางด่วนค่อนข้างสะดวก เนื่องจากทางด่วนพระราม 9-มอเตอร์เวย์ มีทางออกถนนกรุงเทพกรีฑาด้วย (แถวๆซอยกรุงเทพกรีฑา 8) ซึ่งถือเป็นจุดแข็งเพราะเป็นทางลงที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยใช้ และจะ by-pass รถติดได้ ไม่ต้องใช้ทางลงศรีนครินทร์ แต่ถ้าเป็นการขึ้นทางด่วน ก็ต้องวิ่งย้อนกลับไปขึ้นที่ด่านศรีนครินทร์-พัฒนาการ ตามปกติ อ้อ แล้วก็การขับรถไปสุวรรณภูมิก็ทำได้ไม่ยาก
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถจะลำบากหน่อย เพราะโครงการตั้งอยู่ในซอยลึกเหมือนกัน แต่เราสามารถเรียก Taxi ได้ ซึ่งแถวๆหมู่บ้าน Preston นั้น เรียกว่าเป็นดงหมู่บ้าน ทั้งมัณฑนา เศรษฐสิริ และ Town Plus ทำให้มีรถโดยสารแวะเวียนผ่านมาตลอดอยู่แล้วค่ะ
การออกเเบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน Concept ของโครงการคือ Modern English สะท้อนออกมาให้เห็นตั้งแต่หน้าตาภายนอก สีสันและรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้าบ้านหรือการตกแต่งที่ทำให้ดูเหมือนมีห้องใต้หลังคา เหล่านี้ทำออกมาได้ชัดเจน และเป็นไปในทางเดียวกันทั้งโครงการตั้งแต่ทางเข้า, พื้นที่ส่วนกลาง จนถึงตัวบ้าน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคนแล้ว ว่าชอบการตกแต่งแนวนี้หรือเปล่านะคะ
สำหรับการเเบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานจัดเป็นแบบบ้านถือว่าลงตัวทีเดียวค่ะ ให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างหน่อย ส่วนโต๊ะอาหารก็วางโต๊ะใหญ่ได้ ขนาด 4-6 คนสบายๆ ห้องนอนก็แบ่งได้ค่อนข้างลงตัวค่ะ คือ ขนาดห้องนอนที่มีพื้นที่น้อยสุดก็ไม่ได้เล็กมาก สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องทำเป็นห้องทำงานของเหมือนหลายๆโครงการ ห้องนอนใหญ่ก็ครอบคลุมพื้นที่ทั้งชั้น แต่ก็มีบางจุดที่เป็นข้อด้อยที่ได้กล่าวไปแล้วในรีวิว
ส่วนวัสดุโครงสร้างของโครงการที่ให้นี้ใช้ถือว่ามาตรฐานค่ะ เป็นการก่ออิฐฉาบปูนที่สามารถซื้อสองห้องติดกันแล้วทุบผนังตีทะลุได้ วัสดุปูพื้นที่เป็นลามิเนตและแกรนิตโตที่ชั้น 1 ก็จัดว่าโอเค โคมไฟก็มีทั้งซาลาเปาและดาวน์ไลท์ มีเรื่องของครัวที่เตรียมเอาไว้สำหรับคนที่ไม่ได้ทำอาหารหนักเป็นประจำทุกวัน เพราะพื้นที่ที่จำกัด หากต้องการพื้นที่ครัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวที่ชอบทำอาหาร ก็คงจะต้องต่อเติมครัวไทยด้านหลัง ดั่งเช่นทาวน์โฮมหลายๆแห่งค่ะ
ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ของที่นี่จัดว่าทำออกมาได้ใหญ่กว่าทาวน์โฮมปกติทั่วๆไป ถ้าได้เดินเข้าไปดูจะทราบว่าค่อนข้างโล่งกว่า ในขณะที่ทำฟังก์ชั่นเท่ากัน ซึ่งตัวโครงการจะให้สุขภัณฑ์ของ Kohler / Englefield มีการทำท๊อป Counter ด้วยวัสดุหินแท้ จัดเป็นข้อดีของโครงการนี้ ซึ่งห้องน้ำชั้น 1 และชั้น 3 ควรจะติดตั้งพัดลมดูดอากาศเพิ่มเติมให้ระบายอากาศได้ดีขึ้นค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการจัดว่าสะอาดสะอ้าน ดูไม่รกหูรกตา จากแนวความคิด Modern English สวนจึงเป็นสวนสไตล์อังกฤษที่มีความสมมาตรกัน ส่วนต้นไม้ใหญ่ในโครงการตอนนี้ยังไม่เยอะนักค่ะ และพื้นที่สวนก็มีขนาดไม่ใหญ่มากเนื่องจากเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก ต่อจากนี้ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าหลังจากที่โครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้ว ต้นไม้ก็คงจะเจริญเติบโตสวยงามขึ้นค่ะ
สุดท้ายคือเรื่องสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ที่ต้องบอกว่ามีน้อย เพราะโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก ไม่มีสโมสร สระว่ายน้ำหรือฟิตเนส แต่ส่วนที่เป็นข้อดีคือ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ให้มาเพิ่ม เช่น ประตูทางเข้าโครงการแบบ RFID และ CCTV 25 จุดรอบๆโครงการ ที่ติดตั้งมาให้
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5–7 ล้านบาท @ 4 March 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ทำเลอยู่ในซอยลึกจากถนนใหญ่ เเต่สะดวก เข้า-ออกได้หลายทาง อยู่ใกล้ทางด่วน มีทางลัดไปบางกะปิได้
- ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดกระบบ RFID แบบ Easy Pass, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV 25 จุดรอบโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ออกแบบเข้ากับ Concept และพื้นที่ใช้สอยลงตัวดี การเเบ่ง Space ในห้องนอนดี จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ไม่ยาก แต่บางพื้นที่บางมุมยังมีข้อด้อย
- วัสดุ 7.5/10 – วัสดุโดยรวมถือว่ามาตรฐาน เทียบกับราคา ซึ่งวัสดุในห้องน้ำจะพรีเมี่ยมกว่าปกติ
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – โครงการดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาบ้านบ่งบอกสไตล์และ Theme ที่สวยงาม แต่ด้วยความที่เป็นทาวน์โฮมจึงมีพื้นที่สีเขียวไม่มากเท่าไร
- สาธารณูปโภค 6/10 – มีสวนสาธารณะ ซึ่งเป็น Formal Garden แต่ไม่มีสโมสรหรือสระว่ายน้ำ
- 7.56 / 10.00
BOTTOM LINE
The Preston Townhome เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยแบบทาวน์โฮมในโครงการเล็กๆ มีความ Private ในตัว ยูนิตน้อย และอยู่ในทำเลแถวๆกรุงเทพกรีฑา-หัวหมาก-ศรีนครินทร์โซนนี้ โดยอาจจะเคยอยู่แถวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลักและสามารถไปได้หลายเส้นทาง รู้ทางเลี่ยงทางลัดในซอย ชอบ Theme และ Concept การตกแต่งของโครงการ มีงบประมาณ 5– 7 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ