รีวิวฉบับที่ 1091 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Connect เพชรเกษม 48 โครงการตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 สามารถเข้า-ออกได้ทางถนนเพชรเกษมและถนนจรัญสนิทวงศ์(บางแวก) ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีเพชรเกษม 48 ประมาณ 2.1 กิโลเมตร ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ขนาดเนื้อที่ดิน 19.90-40.40 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 4.48 ล้านบาท หน้าตาของโครงการและตัวบ้านจะเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมๆกันเลยค่าา ^^
Facts @ 19 May 2016
- เดอะ คอนเนค เพชรเกษม 48
- The Connect Phechkasem 48
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยเพชรเกษม 48 ถนนเพชรเกษม แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. 10140
- เนื้อที่โครงการ : 9-3-74 ไร่ จำนวน 95 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
- เนื้อที่ดินขนาด 19.90- 40.40 ตร.วา
- เพดานชั้น 1 สูง 2.75 เมตร, ชั้น 2 และ 3 สูง 2.55 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 4.48 ล้านบาทหรือ 225,125 บาท/ตร.วา หรือ 28,000 บาท/ตร.เมตร
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : มกราคม 2558
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปี 2560
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call centre : 1739
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.727142, 100.434918
จากแผนที่ของโครงการจะเห็นว่า The Connect เพชรเกษม 48 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 สามารถเข้าออกได้ทั้งทางถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 (บางแวก) และถนนเพชรเกษม ซึ่งบนถนนเพชรเกษมในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีเพชรเกษม 48 ห่างจากปากซอยเพชรเกษม 48 ประมาณ 100 เมตร หรือห่างจากโครงการประมาณ 2.1 เมตร
ย่านบางแคเป็นทำเลย่านชานเมือง ที่อยู่ระหว่างทางเข้าเมืองกับจังหวัดนครปฐม ที่อยู่อาศัยจะเป็นแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ โดยบ้านที่ติดกับถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ ด้านล่างมักเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยก็เป็นบ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์โฮม แต่หลังจากที่มีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายก็เริ่มมีการสร้างคอนโดเกาะตามแนวรถไฟฟ้า มีคนย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้นส่งผลให้บริเวณโดยรอบพื้นที่ก็มีความเจริญมากขึ้นกว่าเดิม การจราจรจึงหนาแน่นขึ้นตามไปด้วย ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้มีค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มอยู่บนถนนเพชรเกษม ร้านอาหารส่วนมากจะเป็นร้านในตึกแถว มีตลาดบางแคให้จับจ่ายซื้อของสดของแห้งกัน ส่วนห้างที่ใกล้ๆก็มี ซีคอน บางแค, The Mall บางแค, Tesco Lotus, Big C หรือจะแวะไปเส้นราชพฤกษ์ก็มี The Circle และ ร้านอาหารสวยๆนั่งสบายๆ อยู่หลายร้านค่ะ
หากโฟกัสมาที่ทำเลรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและตึกแถวเก่าแก่ที่สร้างมานานแล้ว ไม่มี 7/11 ในระยะใกล้ แต่จะมีร้านขายของชำและร้านโชว์ห่วยอยู่รอบๆโครงการประมาณ 2-3 ร้าน หากต้องการซื้อขนม, น้ำดื่ม หรือของใช้ในบ้านเล็กๆน้อยๆก็พอมีให้ซื้อกันได้ ออกไปจากโครงการหน่อยจะมี Comminity mall ที่กำลังจะเปิดใหม่สไตล์จีน ชื่อ Dragon Mall ให้ไปกินข้าว ซื้อของ ช็อปปิ้งกันได้ ส่วนถ้าใครอยากไปจ่ายตลาดก็ต้องออกไปทางช่วงต้นซอยเพชรเกษม 48 จะมีตลาด, Tesco Lotus express และมีของให้เลือกหลากหลายเลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : หลักๆเลย สามารถเข้า-ออก ได้ 2 เส้นทาง คือ ทางถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 (บางแวก)ห่างจากโครงการ 1.1 กิโลเมตร และทางถนนเพชรเกษม ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร โดย
- จากโครงการหากไปออกทางถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 (บางแวก) เลี้ยวซ้าย จะไปทะลุถนนพุทธมณฑลสาย 1 ไปออกเพชรเกษม หรือไปบรมราชชนนีก็ได้ หากเลี้ยวขวา จะไปทะลุถนนราชพฤกษ์หรือถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ได้
- จากโครงการ หากไปออกทางถนนเพชรเกษม จะบังคับเลี้ยวซ้าย สามารถตรงไปออก ถนนราชพฤกษ์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ หรือออกไปวงเวียนใหญ่เชื่อมไปออกสาทรได้ และจากหน้าปากซอยเพชรเกษม 48 จะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีเพชรเกษม 48 ประมาณ 100 เมตร
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เนื่องจากโครงการอยู่ในซอย หากจะมาที่ถนนใหญ่ก็ต้องอาศัยพี่วิน แท๊กซี่ หรือรถสองแถวที่มีวิ่งผ่านเข้า-ออกภายในซอยทั้งวัน สำหรับรถไฟฟ้าคงต้องอดใจรออีกซักระยะ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเพชรเกษม 48 ที่ห่างจากหน้าปากซอยเพชรเกษมแค่ 100 เมตร สามารถนั่งพี่วินหรือแท๊กซี่จากโครงการแล้วยิงยาวมารถไฟฟ้าเลยก็ได้ค่ะ
สำหรับรถไฟฟ้า ในอนาคตจะมีมาผ่านบริเวณใกล้ๆกับโครงการอยู่ 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งต่อขยายมาจาก สถานีบางหว้า วิ่งตรงมาตาม ถนน ราชพฤกษ์ สถานีที่น่าจะใกล้กับโครงการคือ สถานีบางเชือกหนัง อยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนบางแวกกับถนน ราชพฤกษ์พอดี ส่วนอีกสายที่แน่นอนคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งจะแยกเป็น 2 ช่วงคือช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ต่อขยายมาจากสถานีบางซื่อ วิ่งผ่านเตาปูน บางโพ มาเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ส่วนช่วงหัวลำโพง – บางแค ต่อขยายมาจากสถานีหัวลำโพง วิ่งมาตามถนนเพชรเกษม สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ เพชรเกษม 48 โดยมีสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีบางหว้า ตอนนี้สายสีน้ำเงินยังอยู่ในระหว่างการสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 ส่วนสายสีเขียวส่วนต่อขยายคงต้องอดใจรอกันไปก่อนค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากสามแยกที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 1 เข้าสู่ถนนเพชรเกษม ซึ่งจะอยู่ในช่วงซอยเพชรเกษม 60/1 ขับไปบนถนนเพชรเกษมเพื่อดูสภาพแวดล้อมทั้งสองข้างทาง ผ่านรถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญที่กำลังก่อสร้าง จนมาถึงซอยเพชรเกษม 48 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ ดูบรรยากาศทั้งสองข้างทางประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงโครงการค่ะ
เราเริ่มจากถนนพุทธมณฑลสาย 1 เข้าสู่ถนนเพชรเกษม จะเห็นว่าข้างหน้ามีรางรถไฟฟ้าให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
เมื่อเราเลี้ยวเข้ามาบนถนนเพชรเกษม จะอยู่ในช่วงซอยเพชรเกษม 60/1
บรรยากาศสองข้างทางของถนนเพชรเกษม ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว สลับกับบ้านพักอาศัย มีการประกอบธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางอยู่ใต้อาคารพาณิชย์นั้นๆ โดยธุรกิจที่เห็นเยอะที่สุดจะเป็นร้านเกี่ยวกับรถยนต์ ทั้งอู่ซ่อมรถ ศูนย์เปลี่ยนยาง ประดับยนต์ รวมทั้งโชว์รูมรถก็มีตามประสาทำเลที่ค่อนมาทางชานเมือง ทางขวามือจะเป็นรางรถไฟฟ้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
เราขับมาเรื่อยๆจนถึงรถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญ ทางขวามือของรถไฟฟ้าจะติดกับห้าง Seacon บางแค เลย
บริเวณรถไฟฟ้ากำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในจุดที่ตั้งของป้ายรถเมล์พอดี จึงมีการตั้งป้ายรถเมล์ชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกผู้คนที่มารอรถเมล์ค่ะ
ขัยมาเรื่อยๆเราจะเห็นป้ายซอยเพชรเกษม 48/1 ซึ่งเราจะยังไม่เข้าซอยนี้นะคะ แต่เราจะเตรียมชิดซ้ายเพื่อเข้าซอยเพชรเกษม 48 ที่อยู่ข้างหน้า
โดยซอยเพชรเกษม 48 นี้จะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ซอยวัดจันทร์ประดิษฐาราม บรรยากาศของหน้าซอยทั้งสองด้านจะเป็นอาคารพาณิชย์ ทางซ้ายมือเป็นร้านทองและทางขวามือเป็นร้านขายของชำค่ะ
ช่วงต้นซอยคึกคักมาก ทั้งสองข้างทางเป็นตึกแถว 2 ชั้น ที่มีทั้งร้านขายเสื้อผ้า เบเกอรี่ บิวตี้ ทำผม ฯลฯ
ร้านรับทำกุญแจ ร้านอัดรูปดิจิตอล ร้านขายยา ร้านทอง ร้านขายโทรศัพท์ ฯลฯ
ทางซ้ายมือเป็นตลาดเล็กๆ มีทั้งของสด ของคาว กับข้าวขาย
ใกล้ๆกันมี Tesco Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมง
ระหว่างที่เราอยู่ภายในซอย จะเห็นแท๊กซี่ พี่วิน และรถสองแถวขับผ่านเข้า-ออก ตลอดเวลาโดยรถสองแถวนี้เป็นรถสองแถวสีแดงสาย 1450 วัดจันทร์-นิศาชล ดังนั้นแม้ว่าโครงการจะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ทั้งถนนบางแวกและถนนเพชรเกษม แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัวก็สามารถไปไหนมาได้ด้วยรถโดยสารสาธารณะเหล่านี้ค่ะ
ขับมาเรื่อยๆเราจะเจอสามแยก หากเลี้ยวขวาจะไปยังถนนเพชรเกษม 46 แต่เราจะเลี้ยวซ้ายไปทางวัดจันทร์ประดิษฐารามกัน
พอเลี้ยวมาเราจะเจอทั้งสองข้างทางเป็นตึกแถวสูง 2-4 ชั้น ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายยา คลีนิคเวชกรรม
ตรงมาสุดซอยจะเจอโรงเรียนจันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายไปตามทางนะคะ
จากโรงเรียน เราตรงมาเรื่อยๆจะเจอสะพานข้ามคลองบางจาก
ลงจากสะพานมาจะเป็นทางเข้าวัดจันทร์ประดิษฐาราม บริเวณหน้าวัดค่อนข้างคึกคัก มีของกินขายตามแนวรั้ววัดและใต้ตึกแถวฝั่งตรงข้าม
ของกินแถวนี้เยอะมาก 7/11 ก็มีให้ซื้อของกัน
ถัดจากวัดมาก็มีโรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐารามอีกแห่ง
ระหว่างทางเราจะเจอทางโค้งขวาา..
ทางโค้งซ้ายย… และเจอบ้านพักอาศัย รวมทั้งอพาร์ทเมนต์ให้เห็นเป็นช่วงๆ
ในชุมชนแถวนี้จะมี “Dragon Mall” ซึ่งเป็น Community Mall ที่มีร้านค้า สินค้า และการบริการที่เน้นกิจกรรมสไตล์จีน เช่น สอนกังฟู ร้านชาจีน ของเสริมมงคล เป็นต้น
ใกล้ๆกับ Dragon Mall ค่อนข้างคึกคัก มีทั้งอพาร์ทเม้นต์ ร้านขายของ ร้านขายอาหาร และมีพี่วินประจำการด้วย 1 จุด
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอหมู่บ้านจันทร์ประดิษฐ์ ทางซ้ายมือ
ไม่ไกลกันก็จะเจอโครงการ The Connect เพชรเกษม 48 แล้วค่าา
สภาพแวดล้อมของโครงการส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวเก่าแก่ บ้านพักอาศัย หมู่บ้านใหญ่ และที่ดินว่างเปล่า รวมทั้งภายในโครงการยังมีคลองเล็กๆพาดผ่านถึง 2 คลอง คือ คลองลำกระโดง และคลองสาธารณะที่กลางหมู่บ้าน โดย
- ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้นและหมู่บ้านธีรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทางทิศนี้ค่อนข้างเงียบสงบไม่มีเสียงรบกวน
- ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนเพชรเกษม 48 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4 ชั้นที่มีร้านขายของชำเล็กๆให้ไปซื้อของได้
- ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินของบุคคลอื่น
- ทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ที่ดินว่างเปล่า และตึกแถว 4 ชั้น
ทางทิศใต้ของโครงการ จะติดกับตึกแถว 4 ชั้น และบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ทางทิศตะวันตก หรือฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นตึกแถวเก่าแก่ 4 ชั้น ซึ่งเป็นของคนดั้งเดิมที่อยู่มานานแล้ว ใต้ตึกแถวมีร้านขายของชำและร้านขายของเล็กๆน้อยๆให้ซื้อของได้
ทางทิศเหนือ ของโครงการจะติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้นที่เป็นบ้านไม้ค่อนข้างเก่า
คลองลำกระโดง ที่พาดผ่านโครงการและอยู่ติดกับรั้วโครงการด้วย สภาพเป็นคลองเล็กๆ น้ำออกเป็นสีใบบัวบก ไม่มีกลิ่นค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Dragon Mall ~700 เมตร
- มหาวิทยาลัยสยาม ~ 2.4 กิโลเมตร
- ซีคอน บางแค ~ 3.3 กิโลเมตร
- ไอที แกรนด์ บางแค ~ 4.1 กิโลเมตร
- Tesco Lotus บางแค ~ 5.2 กิโลเมตร
- เดอะมอลล์ บางแค ~ 6.2 กิโลเมตร
- ตลาดบางแค ~ 6.5 กิโลเมตร
- รพ. เกษมราษฎร์ บางแค ~ 7 กิโลเมตร
- บิ๊กซี ซุเปอร์เซ็นเตอร์ ~ 9.7 กิโลเมตร
จาก Master Plan จำลองผังโครงการ จะเห็นว่าโครงการมีทางเข้า-ออก ทางเดียว คือจากซอยเพชรเกษม 48 ภายในโครงการจะมีสะพานข้ามคลอง 2 จุด คือสะพานข้ามคลองลำกระโดงที่อยู่ก่อนถึงซุ้มทางเข้าโครงการ และสะพานข้ามคลองสาธารณประโยชน์ที่อยู่ด้านหลังโครงการ โดยเมื่อเลี้ยวเข้าโครงการมาเข้ามาจะเจอสะพานข้ามคลองเล็กๆแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอกับซุ้มประตูทางเข้า-ออก ที่มีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนหย่อมเล็กๆทางซ้ายมือ เข้ามาในโครงการจะเจอถนน Main ของโครงการกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนในซอยย่อยกว้าง 9 และ 10 เมตร ตามลำดับ โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีสวนหย่อม และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ที่หน้าโครงการ ส่วนยูนิตพักอาศัยจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น มีแบบเดียวทั้งโครงการ ขนาดที่ดิน 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยส่วนสีส้มเข้มเป็นทาวน์โฮมแปลงมุม ส่วนสีเทาเป็นทาวน์โฮมแปลงกลางขนาดเนื้อที่บ้านจะต่างกัน ขณะนี้โครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จึงยังมีบางส่วนที่ไม่เรียบร้อย 100% แต่หน้าตาโครงการก็พอให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูบรรยากาศของโครงการกันค่ะ
เรามาเริ่มที่หน้าโครงการจะเป็นถนนสาธารณะ มีการล้อมรั้วเหล็กโปร่งและปลูกไม้พุ่มสร้างพื้นที่สีเขียว สองข้างทางมีฟุตบาทเผื่อลูกบ้านใช้เดินออกมาจากโครงการได้ มองตรงไปจะเห็นสะพานข้ามคลองลำกระโดง
ทั้งสองด้านของสะพานจะมีกำแพงปูนก่อขึ้นมาเป็นรั้วสะพานทึบค่อนข้างสูง สาเหตุที่ทำรั้วกำแพงทึบก็เนื่องจากต้องการไม่ให้ลูกบ้านที่เดินผ่านไปมาเห็นเจ้าคลองลำกระโดงที่เป็นคลองเล็กๆที่ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่(แต่ไม่มีกลิ่นนะ) ถือเป็นการแก้ปัญหาเรื่องมุมมองทางเข้าโครงการที่ดีค่ะ
ข้ามสะพานมาเราจะเจอซุ้มทางเข้าโครงการแล้ว มองตรงไปเราจะเห็นเขตที่ล้อมรั้วไว้เป็นเส้นทางเดินรถขณะที่โครงการกำลังทำการก่อสร้าง เมื่อโครงการแล้วเสร็จรั้วนี้ก็จะถูกปิดตายค่ะ
มองกลับไปที่สะพานข้ามคลองที่เราเดินเข้ามา จะเห็นว่าระหว่างสะพานและซุ้มทางเข้าโครงการจะมีสวนหย่อมเล็กๆ เพิ่มความร่มรื่นให้หน้าโครงการด้วย
ซุ้มประตูของโครงการมีป้อม รปภ. 1 ป้อมตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออกที่แบ่งเป็น 2 เลน โดยลูกบ้านจะเข้า-ออกโครงการด้วย Access Card ระยะใกล้ แตะบัตรแล้วประตูไม้กระดกจะเปิดอัตโนมัติ ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อนค่ะ นอกจากนี้ยังมีประตูรางเลื่อนอัตโนมัติที่จะเปิดในเวลา 6.00 น. และปิดในเวลา 20.00 น. แต่ผู้มาติดต่อที่ไม่ใช่ลูกบ้านจะเข้าโครงการไม่ได้หลัง 18.00 น. กฏเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านอีกชั้นหนึ่ง ทั้งทางเข้าและทางออกมีกล้อง CCTV รวมทั้งมีในโครงการรวม 8 จุด
ถ้ามองไปทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของนิติบุคคลและ Sale Office รวมทั้งบ้านตัวอย่าง
ซึ่งนิติบุคคลของโครงการ ปัจจุบันยังว่างอยู่เนื่องจากโครงการยังอยู่ในขณะก่อสร้าง
สาธารณูปโภคของโครงการจะมีจุดเดียวคือ สวนสาธารณะรูปตัว L ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ภายในสวนประกอบด้วยสนามเด็กเล่น ลานอเนกประสงค์ และศาลานั่งเล่น 1 จุด
สนามเด็กเล่นภายในสวนจะมีเครื่องเล่นประมาณ 2 เครื่อง และลานเล็กๆให้เด็กเล่นกัน
ถัดมาเป็นลานอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก
อีกด้านเป็นศาลานั่งเล่นที่มีเก้าอี้ยาวรองรับไว้ให้ 2 ตัว เผื่อลูกบ้านอยากมานั่งคุยกันนอกบ้าน แต่ไม่ต้องการตากแดด จากศาลานี้มีทางเดินออกไปยังซอยย่อยของทาวน์โฮมที่อยู่ข้างๆได้
โดยซอยย่อยในแต่ละซอยของโครงการจะกว้าง 9 เมตร บรรยากาศภายในซอยจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นหันหน้าเข้าหากัน ด้านหลังเป็นรั้วรอบโครงการสูง 2.50 เมตร ติดกับหมู่บ้านธีรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมหน้าโครงการและสวนสาธารณะ 1 จุด
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รวม 8 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และประตูรางเลื่อนอัตโนมัติ
- ถนนหลักกว้าง 16 เมตร และถนนภายในซอยกว้าง 9 และ 10 เมตร
แบบบ้านในโครงการเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดิน 19.90- 40.40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 160 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว โดยเข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่ลานจอดรถ 2 คัน เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ต่อเนื่องกับ ห้องรับประทานอาหารและครัวเล็กๆที่มีประตูเปิดออกไปสู่หลังบ้านเป็นที่สามารถจัดสวนหรือเป็นพื้นที่ซักล้างได้ ทางด้านขวาของตัวบ้านจะห้องน้ำรวมที่ไม่มีส่วนอาบน้ำให้ จะต้องไปอาบน้ำที่ชั้น 2 หรือชั้น 3 เท่านั้น
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งพื้นที่ด้านหนึ่งเป็น Master Room ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถจัดพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้ และยังมีห้องน้ำให้ในตัว อีกด้านหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่น หรือ Family area ของบ้าน ซึ่งเราสามารถกั้นห้องทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนเด็กเล็กได้ ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนเล็ก ห้องน้ำรวม และห้องนอนขนาดกลางที่มีขนาดเท่ากับห้องนอนใหญ่ แต่ไม่มีห้องน้ำให้ในตัว ต้องมาใช้ห้องน้ำรวมร่วมกับห้องนอนเล็กค่ะ
หน้าตาทาวน์โฮม 2 ชั้น ดีไซน์เรียบๆสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทา-ขาว-ดำ ตัวบ้านของจริงจะมีรั้วเหล็กโปร่งสีดำ สูง 1.7 เมตร เป็นประตูบานพับ 3 ตอนให้ โดยบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่ด้านข้างมากกว่าแปลงกลาง 2 เมตร
ประตูรั้วระหว่างบ้านเป็นกำแพงทึบสีขาว มองไปข้างบ้านจะได้มุมมองแบบนี้
ถ้าเป็นบ้านแปลงมุม รั้วด้านข้างจะเป็นรั้วเหล็กโปร่งทาสีดำ มีการปลูกไม้พุ่มข้างๆบ้านให้ เนื่องจากติดกับถนนของโครงการ
เราเดินมาดูพื้นที่ข้างบ้านกว้างประมาณ 2 เมตร ที่พื้นจะถมดินไว้ให้ เผื่อใครอยากปูสนามหญ้า ปลูกต้นไม้หรือจัดสวน ส่วนใครอยากถมปูนปูกระเบื้องก็ได้ค่ะ
เดินวนมาดูหลังบ้านจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 2.85 เมตร ที่พื้นเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ เผื่อไว้ให้เป็นลานซักล้าง ติดตั้งปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำให้เรียบร้อย ซึ่งหากใครอยากจัดพื้นที่หลังบ้านเป็นส่วนนั่งเล่นเล็กๆที่มี Pantry ปูพื้นด้วยสนามหญ้าเทียมแบบบ้านตัวอย่าง ก็เป็นไอเดียที่ดีอย่างหนึ่งค่ะ
เรากลับมาที่หน้าบ้านกัน บริเวณหน้าบ้านมีประตู 2 จุด คือประตูทางเข้าบ้านและประตูห้องเก็บของ
โดยประตูห้องเก็บของเป็นประตูสีขาว เมื่อเปิดออกมาจะเห็นว่าฝ้าเพดานลาดเอียงเนื่องจากห้องเก็บของอยู่ใต้บันได ที่พื้นห้องมีการยกระดับขึ้นมาจากชานหน้าบ้านและปูด้วยกระเบื้องเซรามิคเรียบร้อย ทำความสะอาดง่ายค่ะ
ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ ตัวบานเป็นกระจกใสเขียวตัดแสงกรอบอลูมิเนียมสีดำ
ตัวล็อกประตูหน้าตาแบบนี้
ตรงพื้นทางเข้าบ้านมีชานที่ยกระดับขึ้นมาจากพื้นลานจอดรถเล็กน้อย ปูด้วยประเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ส่วนพื้นภายในบ้านจะยกระดับขึ้นมาอีก Step และปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ลองหันกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องรับแขกให้เห็นชัดๆเมื่อจัดวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.30 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 42″-56″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ โดยในบ้านตัวอย่างจะเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมที่มีหน้าต่างด้านข้างให้ แต่หากเป็นบ้านแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างนะคะ
ตัวหน้าต่างที่ผนังสำหรับบ้านแปลงมุมจะมี 2 บาน เป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ
ตัวล็อกหน้าต่างเป็นแบบก้นหอย หากหมุนลงจะเป็นการล็อก และหากหมุนขึ้นจะเป็นการปลดล็อก
ผนังฝั่งตรงข้ามกันเป็นผนังข้างบันไดที่ว่างเปล่ามีการ Drop ผนังเข้าไป เราสามารถ Built-in ตู้วางทีวีแบบในบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและครัว ที่สามารถ Built-in ครัวเปิดแบบนี้ได้ ด้านหลังมีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศเวลาทำครัว และมีประตูสามารถเปิดออกไปสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้
ข้างๆกันเป็นห้องน้ำและโถงบันได โดยบ้านของจริงจะมีประตูสำเร็จรูปสีขาว มีเกร็ดระบายอากาศแบบนี้ติดตั้งมาให้ค่ะ
มองกลับลงไปจะเห็นว่าบันไดเป็นลักษณะรูปตัว U ซึ่งต้องระวังนิดนึงตรงช่วงโค้งเพราะลูกนอนบันไดเป็นรูปสามเหลี่ยม หากไม่ระวังอาจจะสะดุดล้มได้ พื้นห้องชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตลายไม้ สีใกล้เคียงกับลูกนอนบันไดค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเห็นโถงบันไดที่เป็นบันไดวนขึ้นไปยังชั้น 3 ตรงชานพักระหว่างทางขึ้นชั้น 3 มีหน้าต่าง ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าโถงบันไดได้ดี
โดยเมื่อเราขึ้นบันไดมาจะเจอ Master Bedroom ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูสำเร็จรูปสีขาว
ตัวล็อกประตูเป็นแบบ 2 ชั้น คือแบบตัวล็อกธรรมดาและแบบก้นหอยช่วยล็อกอีกชั้นหนึ่ง
พื้นที่ระเบียงขนาด 3.4 x 0.6 เมตร ขนาดค่อนข้างแคบ เหมาะกับการออกไปยืนรับลมหรือวางกระถางต้นไม้ประดับระเบียง พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีการลดระดับเล็กน้อยเพื่อกันน้ำจากภายนอกเข้าห้อง ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำสูง 0.85 เซนติเมตร
เข้ามาดูภายในห้องกันต่อ ด้วยขนาดของห้องนี้สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ ในขณะที่หัวเตียงด้านหนึ่งสามารถวางโต๊ะทำงานและอีกด้านหนึ่ง Built-in โซฟาได้อีก ที่ผนังหัวเตียงของจริงจะเป็นปูนฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา ซึ่งบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างให้แบบนี้ แต่แปลงกลางจะเป็นผนังทึบ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียง จะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆ สามารถ Built-in ฉากกั้นแบบนี้แล้วทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet แบบบ้านตัวอย่างก็ได้
ด้านหลังฉากกั้น สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้ค่ะ ข้อดีคือที่ผนังมีหน้าต่างให้ด้วย เวลาคุณผู้หญิงนั่งแต่งหน้าตอนเช้า ก็สามารถเปิดผ้าม่านใช้แสงธรรมชาติจากตรงนี้ได้เลย 🙂
ข้างๆประตูทางเข้าห้องนอนเป็นประตูห้องน้ำ ที่เป็นประตูสำเร็จรูปสีขาว มีเกร็ดระบายอากาศให้
ส่วนอาบน้ำไม่มีการลดระดับพื้นให้ แต่จะมีกรอบประตูเป็นธรณีขึ้นมา เพื่อกันน้ำไหลไปเปียกส่วนแห้งขณะอาบน้ำ ที่พื้นใช้กระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เหมือนกับส่วนแห้ง
ฝักบัวขนาดพอดีมือ ไม่ใหญ่มาก
ถัดจาก Master Bedroom จะเป็นทางเดินไปยัง Living area ชั้น 2 ซึ่งไม่มีประตูหรือฉากกั้นอะไรให้ หากใครอยากได้พื้นที่แบบปิด ก็สามารถกั้นห้องเองได้นะคะ
Living area ที่ชั้นสอง มีพื้นที่ประมาณ 4 x 2.5 เมตร หากเป็นทาวน์โฮมแปลงกลางจะมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่ทางซ้ายมือให้เพียงหน้าต่างเดียว แต่หากเป็นแปลงมุมจะมีหน้าต่างบานเปิดแบบทางขวามือให้อีก 2 บานแบบในบ้านตัวอย่างค่ะ โดยห้องนี้สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น ห้องดูหนัง หรือจะเป็นห้องนอนเด็กเล็กก็ได้ ตามต้องการ
โดยผนังด้านที่ติดกับบันไดทางขึ้นชั้น 3 จะมีการ Drop ผนังเข้าไปแบบนี้ เราสามารถ Built-in เป็นมุมนั่งทำงาน, ตู้เก็บของ โต๊ะวางทีวี หรือ Built-in ชั้นวางของลอยตัวแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ เดี๋ยวเราจะพาขึ้นบันไดไปดูชั้น 3 กัน
ที่ผนังตรงชานพักบันไดทางขึ้นชั้น 3 จะมีหน้าต่างบานเปิด 1 บาน ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าโถงบันไดได้ดีในช่วงกลางวัน นอกจากนี้ด้านนอกหน้าต่างนั้นยังมีพื้นปูนที่ยื่นออกไปเพื่อวาง Compressor แอร์ หน้าต่างนี้จึงสามารถเป็นทางเข้า-ออกให้ช่างไปเซอร์วิสได้ค่ะ
ที่ด้านนอกหน้าต่างมีพื้นปูนยื่นออกไปให้วาง Compresor แอร์ได้พอดี
ขึ้นมาที่ชั้น 3 เราจะเจอโถงเล็กๆที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำรวม เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องต่างๆโดยเริ่มจาก ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และห้องนอน 3 ตามลำดับนะคะ
เข้ามาที่ห้องนอนที่ 2 ซึ่งเป็นห้องนอนเล็กที่สุดของบ้าน ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้พอดีๆ โดยยังมีพื้นที่ไว้วางโต๊ะหัวเตียงได้อีกทั้งสองด้าน หากสังเกตดีๆจะเห็นว่าห้องนี้มีขนาดพื้นที่และช่องเปิดเท่าๆกับ Living area ด้านล่างเลยคะ จะต่างกันก็เพียงหน้าต่างทางขวามือที่ให้เป็นบานเปิดคู่มา 2 บานเท่านั้น พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. และที่ฝ้าเพดานติดโคมไฟซาลาเปามาให้
ที่ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
ส่วนอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้ ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 1 x 1.5 เมตร ที่พื้นไม่มีการลดระดับพื้นให้ แต่จะมีกรอบประตูเป็นธรณีขึ้นมา เพื่อกันน้ำไหลไปเปียกส่วนแห้งขณะอาบน้ำ ที่พื้นใช้กระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เหมือนกับส่วนแห้ง
ส่วนพื้นที่ปลายเตียง จะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆ สามารถ Built-in ฉากกั้นแบบนี้แล้วทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet แบบบ้านตัวอย่างได้ ทางซ้ายมือมีการ Drop ผนังเข้าไป
โดยเราสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะเครื่องแป้งแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ
สวิตซ์ไฟและเต้ารับภายในโครงการจะใช้ของ schneider หน้าตาแบบนี้ทั้งหมด
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 May, 2016
- TH กลาง แปลงที่ 10 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 19.90 ตร.วา ราคา 5,030,000 ล้านบาทหรือ 252,763 บาท/ตร.วา
- TH กลาง แปลงที่ 7 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 19.90 ตร.วา ราคา 5,230,000 ล้านบาทหรือ 262,814 บาท/ตร.วา
- TH มุมรั้ว แปลงที่ 9 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 33.90 ตร.วา ราคา 5,770,000 ล้านบาทหรือ 170,206 บาท/ตร.วา
- TH มุมสวน แปลงที่ 5 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 30.80 ตร.วา ราคา 6,040,000 ล้านบาทหรือ 196,103 บาท/ตร.วา
- จองและทำสัญญา 50,000 บาท
- ผ่อนดาวน์ 5 %
- ที่ดินเพิ่ม-ลด ราคาตร.วาละ 85,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ The Connect เพชรเกษม 48 เรียกว่าอยู่ในย่านชานเมืองที่กำลังพัฒนา เนื่องจากรถไฟฟ้ากำลังไปถึง ซี่งอีกไม่นานก็คงได้ใช้งานกันแล้ว แน่นอนว่าความเจริญส่วนใหญ่จะไปเกาะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า คือบนถนนเพชรเกษม ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า ซีคอนบางแค, The Mall บางแค, บิ๊กซี, โลตัส หรือถนนใกล้ๆอย่างเส้นราชพฤกษ์ ก็มี Community Mall ที่น่าสนใจหลากหลาย ถ้าเจาะลึกภายในซอยเพชรเกษมเองความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะไปกองอยู่แถวช่วงต้นซอยมีทั้งตลาด Lotus Express และร้านค้าหลากหลายมาก พอผ่านโค้งวัดจันทร์ประดิษฐารามมาก็จะเป็นโรงเรียน บ้านพักอาศัย ตึกแถว และอพาร์ทเม้นซะเป็นส่วนใหญ่ ความคึกคักจะลดลงมา สาธารณูปโภคใกล้ๆโครงการที่พอจะพึ่งพิงได้ก็มีร้านขายของชำใกล้ๆโครงการ ถ้าออกมาหน่อยก็จะมี Dragon Mall หรือจะเลยไปช่วงถนนบางแวกก็มีของกินให้เลือกหลายหลายพอสมควร
การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวก สามารถทะลุออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง โดยทางเข้าออกหลักๆคือทางถนนเพชรเกษมสามารถทะลุออกถนนราชพฤกษ์ หรือจรัญสนิทวงศ์ได้ อีกทางคือถนนบางแวก สามารถใช้เข้ามาโครงการทางถนนพุทธมณฑลสาย 1 หรือเลี้ยวไปทะลุถนนราชพฤกษ์ หรือจรัญสนิทวงศ์ก็ได้ค่ะ การจราจรภายในซอยเพชรเกษม 48 ในช่วงกลางวันจะคล่องตัว แต่ช่วงเช้ากับเย็นจะมีติดขัดบ้างเนื่องจากช่วงกลางซอยมีโรงเรียนถึงสองแห่ง และเนื่องจากซอยนี้เป็นทางลัดทะลุถนนได้หลายเส้นทาง จึงไม่แปลกที่การจราจรจะหนาแน่น
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ จากหน้าโครงการมีรถแท๊กซี่และพี่วินวิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรถสองแถวสีแดง วิ่งรับส่งภายในซอย ซึ่งจากโครงการไปถึงหน้าปากซอยเพชรเกษม 48 มีระยะทาง 2 กิโลเมตร เราสามารถนั่งรถแท๊กซี่ พี่วิน หรือสองแถวไปได้สบายๆ และถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสร้างเสร็จแล้ว ก็ยังไปใช้บริการได้ที่สถานีเพชรเกษม 48 อยู่ห่างจากหน้าปากซอยเพชรเกษม 48 ประมาณ 100 เมตร หรือถ้าไปทางถนนบางแวกก็สามารถไปใช้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวสถานีบางหว้าได้ค่ะ
ความปลอดภัยภายในโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ประตูรั้วโครงการเป็นแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูรางเลื่อนอัตโนมัติ ลูกบ้านเข้าออกโครงการโดยใช้ Key Card Access ระยะใกล้ มีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รวม 8 จุด รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 2.5 เมตร โดยรวมแล้วให้ตามมาตรฐานเหมือนโครงการทั่วไป
วัสดุที่โครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วๆไปคือ ตัวโครงสร้างเป็น Pre-Cast ตามสไตล์พฤกษา ผนังฉาบเรียบทาสี หน้าต่าง-ประตูใช้วงกบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวใสตัดแสง ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้น 1 สูง 2.75 เมตร, ชั้น 2 และ 3 สูง 2.55 เมตร โคมไฟซาลาเปา วัสดุปูพื้นใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และพื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต ส่วนกระเบื้องห้องน้ำเป็นเซรามิคแผ่นเล็กขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีฉากกั้นอาบน้ำให้ที่ชั้น 2 และชั้น 3 โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ Mogen
สภาพโครงการค่อนข้างร่มรื่น มีการปลูกต้นไม้ที่รั้วบ้านตลอดแนว ตัวถนนหลักกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 และ 10 เมตร ค่อนข้างกว้างไม่แออัด และสัญจรสบาย ภายในโครงการจะมีสะพานข้ามคลอง 2 จุด โดยคลองนี้เป็นคลองเล็กๆ ไม่มีกลิ่นและน้ำไม่ใส โครงการจึงออกแบบให้แนวรั้วสะพานทึบเพื่อไม่ให้มองเห็นคลอง สร้างมุมมองที่ดีขึ้นค่ะ
ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทา-ขาว-ดำ ส่วนการจัดวาง Function ในบ้านเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กถึงกลาง พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย มีการจัดวางพื้นที่ให้ห้อง Master Bedroom สามารถจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เช่น นั่งเล่น หรือนั่งทำงานได้ ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็น Family area ซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่ชั้น 2 และชั้น 3 เหมือนกันเลย เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งทางเข้าห้องน้ำ โดยชั้น 2 ทางเข้าห้องน้ำจะเป็นของ Master Bedroom ส่วนชั้น 3 จะเข้าห้องน้ำจากทางโถงกลาง ดังนั้นเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นห้องเองได้ตามไลฟ์สไตล์ค่ะ
สาธารณูปโภคของโครงการจะมีสวนหย่อมหน้าที่โครงการ และสวนสาธารณะด้านในโครงการอีกจุด พื้นที่ส่วนกลางให้มาไม่มากเท่าไหร่ และถ้าเทียบกับค่าส่วนกลาง 50 บาท ต่อตารางวา ก็ถือว่าสูงอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตที่น้อยแค่ 95 ยูนิต ก็แสดงว่ามีการแชร์ส่วนกลางกันน้อยตามไปด้วย
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 4.48-6 ล้านบาท, 19 May, 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – เดินทางด้วยรถสะดวก ไม่มีรถก็เดินทางง่าย อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีเพชรเกษม 48 ประมาณ 2.1 กิโลเมตร
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดกและบานเลื่อนอัตโนมัติ มี CCTV ที่ Main Gate และในโครงการรวม 8 ตัว
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – รูปแบบและฟังก์ชั่นดี ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ง่าย
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – สภาพโครงการมีสะพานข้ามคลอง 2 จุด ถนนกว้าง มีต้นไม้รอบๆร่มรื่นดี
- สาธารณูปโภค 6.75/10 –มีสวนหย่อมและสวนสาธารณะที่หน้าโครงการ
- 7.46 / 10.00
BOTTOM LINE
The Connect เพชรเกษม 48 เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มองหาทาวน์โฮมในย่านชานเมือง ที่ใช้รถส่วนตัวสะดวก มีแนวโน้มจะใช้รถไฟฟ้าในอนาคต ชอบบ้านที่มีการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลาย ไม่เน้นใช้ Facilities มีงบประมาณ 4.48-6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 31,360-42,000 บาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )