รีวิว Stories บางนา สุวรรณภูมิ ทาวน์โฮม 2 ชั้นในย่านกิ่งแก้ว บางพลี เป็นโครงการขนาดกลางที่มีความแตกต่างจากที่อื่นพอสมควร เพื่อไม่ให้หลุดประเด็นที่น่าสนใจ เราจึงขอสรุปออกมาเป็นหัวข้อ ดังนี้

  • จำนวนยูนิตไม่มากนัก : เมื่อเทียบกับหมู่บ้านราคา 2 ล้านกว่าๆ ในละแวกนี้แล้วหละก็ ส่วนใหญ่จะมีจำนวน 400+ ยูนิต เลยนะคะ ซึ่งโครงการนี้ก็มีจำนวนเพียง 187 ยูนิต จึงเหมาะกับครอบครัวที่เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
  • การออกแบบ : เป็นทาวน์โฮมที่รองรับการจอดรถกระบะในรั้วบ้านได้ และแยกครัวหลังบ้านให้เป็นสัดส่วน กลิ่นควันจากการทำครัวจะไม่รบกวนในตัวบ้าน
  • ฟังก์ชันยืดหยุ่น : แม้ว่าโครงสร้างหลักของบ้านจะเป็น Precast แต่เค้าทำผนังระหว่างห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ไว้เป็นผนังเบา เผื่อให้ทุบเชื่อมกันได้ ตามเทรนด์ของยุคสมัยนี้ที่นิยมมีลูกคนเดียว ลูกจะได้ห้องนอนใหญ่เลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Stories Bangna-Suvarnabhumi (เดอะ สตอรี่ บางนา-สุวรรณภูมิ) ณ วันที่ 16 กันยายน 2564

 ชื่อโครงการ   Stories Bangna-Suvarnabhumi (เดอะ สตอรี่ บางนา-สุวรรณภูมิ)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
 SEGMENT CLASS   ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
 ที่ดิน 15-3-21.5 ไร่
 จำนวนยูนิต จำนวน 187 ยูนิต
 ประเภทบ้าน ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 16.25-27.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 99 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้น 1 – 2.6 เมตร, ชั้น 2 – 2.7 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      80,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี N/A
 เว็บไซต์โครงการ   https://www.realasset.co.th/townhome/storiesbangnasuvarnabhumi
 Call Center   1232

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.683515, 100.719301
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Stories บางนา-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 29 มีระยะห่างจากมอเตอร์เวย์ประมาณ 7 km. และมีระยะไปขึ้นทางด่วนประมาณ 13 km. กว่าๆค่ะ

ที่ตั้งโครงการ Stories บางนา-สุวรรณภูมิ มีของให้เลือกกินพอสมควรแต่เนื่องจากตัวโครงการอยู่ในซอย จึงไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินได้ (ประมาณ 500 ม.) ต้องขับรถไปค่ะ ซึ่งบรรยากาศในย่านกิ่งแก้วส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม, โกดังสินค้า, บริษัทขนส่งสินค้า ส่วนโครงการพักอาศัยจะเป็นแนวราบเป็นหลักทั้งบ้าน, ทาวน์โฮม, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ และจะคึกคักหน่อยบริเวณตลาดบางพลีใหญ่(กิ่งแก้ว) ซึ่งจะอยู่ตรงแยกติดกับถนนบางนา-ตราด และจะคึกคักอีกที่ตรงแถวรพ.จุฬารัตน์ 9 ซึ่งจะติดกับซอยกิ่งแก้ว 25/1 ที่เป็นซอยลัดไปออกถนนเลียบวงแหวนกาญจนาได้ ทำให้แถวรพ.และซอย 25/1 มีพวกอพาร์ทเม้นต์ ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ก็เปิดตามมาในบริเวณนั้น เป็นต้น

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เส้นกิ่งแก้วเจริญขึ้นมากเราจะเห็นปั๊มน้ำมันมาเปิดมากขึ้น ก็จะเป็นปั๊มใหญ่ที่มีร้านอาหารมากมายให้ฝากท้องกันได้ แต่เส้นกิ่งแก้วนี่จะไม่ได้มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่นะคะ ต้องขยับออกมาที่เส้นบางนา-ตราด ก็จะมีตั้งแต่ห้างเล็กไปจนถึงห้างใหญ่, ศูนย์รวมวัสดุต่างๆ และโรงพยาบาล ค่อนข้างครบครัน

ทำเลโครงการ Stories บางนา-สุวรรณภูมิ นี้ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้วซึ่งเป็นที่ถนนเชื่อมระหว่างลาดกระบัง, บางนา-ตราด, เทพารักษ์ ไปยังสมุทรปราการได้ และเข้าเมืองได้หลายเส้นทาง เช่น ทางถนนมอเตอร์เวย์ สามารถวิ่งตรงไปจนถึงพระราม 9 ได้ หรือใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีฝั่งถนนบางนา-ตราดก็สามารถเข้าเมืองฝั่งพระราม 3, พระราม 4 ได้ ส่วนถ้าจะออกเมืองก็ใช้เส้นลาดกระบังวิ่งไปถึงฉะเชิงเทราได้ และสามารถใช้ถนนบางนา-ตราดออกไปชลบุรีได้ค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยระบบรถสาธารณะ จะต้องมาพึ่งพิงบนถนนกิ่งแก้ว ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายทั้งรถสองแถว รถแท็กซี่ ผ่านอยู่ตลอด มีทั้งที่วิ่งไปทางลาดกระบังและที่วิ่งไปตลาดบางพลีใหญ่(กื่งแก้ว) หรือถ้าจะใช้ระบบรางที่ใกล้สุดคือ Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ห่างจากโครงการไป 7.1 km. ใครที่จะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถขับรถออกจากโครงการไปจอดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปได้เลยค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ซูมเข้ามาให้เห็นตำแหน่งโครงการ Stories บางนา สุวรรณภูมิ กันชัดขึ้น โครงการไม่ได้อยู่ติดถนนกิ่งแก้วเลยนะคะแต่ต้องเข้าไปในซอยกิ่งแก้ว 29 จากหน้าปากซอยประมาณ 950 m. ก็จะถึงซุ้มประตูโครงการ เพื่อการเข้า-ออกโครงการที่สะดวกจึงเหมาะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก

พูดถึงซอยกิ่งแก้ว 29 เป็นซอยที่ทาง Real Asset มีที่ดินขนาดใหญ่อยู่ด้านใน แล้วนำมาแบ่งพัฒนาเป็นโครงการย่อยๆ อย่างเช่น Sense บางนา สุวรรณภูมิ ซึ่งจะอยู่ด้านหน้า แล้วค่อยถัดเข้าไปเป็นโครงการ Stories นะคะ บรรยากาศรอบๆ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยนี่แหละค่ะ แต่ด้วยความที่ตัวโครงการอยู่บนถนนกิ่งแก้ว จึงหนีไม่พ้นที่จะมีบางส่วนของโครงการที่ติดกับโกดังสินค้า โดยสรุปพื้นที่รอบโครงการ ดังนี้

  • ด้านทิศเหนือ ติดกับที่ดินเปล่า (บ่อน้ำ)
  • ด้านทิศใต้ ติดกับโกดังสินค้า และบางบริษัทก็เปิดเป็นหน้าร้านค่ะ
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับโครงการ Sense บางนา สุวรรณภูมิ
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับหมู่บ้านพฤกษา วิลล์ วงแหวน อ่อนนุช

ตัวช่วยในการเดินทางของโครงการ Stories บางนา สุวรรณภูมิ

ทางพิเศษบูรพาวิถี

ถ้าต้องการเข้าเมืองก็มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางด่วน โดยทางด่วนฝั่งเข้าเมืองที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือทางขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีมีระยะห่างจากโครงการ 13.8 km.

มอเตอร์เวย์

นอกจากนี้สำหรับใครที่วิ่งเข้าเมืองก็จะมีตัวช่วยอย่างมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ โดยทางเข้ามอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าเมืองมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7 km. เป็นอีกทางเลือกไว้เลี่ยงรถติดบนเส้นอ่อนนุช สามารถวิ่งเข้าเมืองไปพระราม 9 ได้สะดวก

การเดินทางไปโครงการ

สำหรับเส้นทางที่จะพาไปโครงการในวันนี้จะใช้เส้นทางจากถนนตำหรุ-บางพลีแล้วขึ้นสะพานข้ามแยกเพื่อเข้าถนนกิ่งแก้ว ตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นรพ. จุฬารัตน์ 9 ทางซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกิ่งแก้ว 29 ประมาณ 950 m. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการค่ะ

Image 1/9
เริ่มเดินทางจากถนนตำหรุ-บางพลี แล้วใช้สะพานข้ามถนนบางนา-ตราด เพื่อเข้าสู่ถนนกิ่งแก้วได้เลยค่ะ

เริ่มเดินทางจากถนนตำหรุ-บางพลี แล้วใช้สะพานข้ามถนนบางนา-ตราด เพื่อเข้าสู่ถนนกิ่งแก้วได้เลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • The Paseo Mall ลาดกระบัง ~7 km.
  • Lotus กิ่งแก้ว ~ 8.7 km.
  • Makro บางพลี ~ 10.8 km.
  • Central Village ~ 17.4 km.
  • Mega บางนา ~ 16.3 km.
  • ซีคอนสแควร์ ~ 20.8 km.
  • Central บางนา ~ 23.9 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.สัตว์กิ่งแก้ว ~ 6.1 km.
  • รพ.จุฬารัตน์ ~ 7.5 km.
  • รพ.สิรินธร ~ 8.1 km.
  • รพ.รามคำแหง ~ 22.3 km.

สถานศึกษา

  • รร.สาธิตรามฯ บางนา ~ 7.9 km.
  • รร.พร้อม ~ 8.5 km.
  • ม.รามคำแหง 2 ~ 9 km.
  • รร.สารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า ~ 9.2 km.
  • ม.เทคโนโลยี พระจอมเกล้า ลาดกระบัง ~ 10.4 km.
  • รร.สาธิตนานาชาติ พระจอมเกล้า ~ 12 km.

สถานที่สำคัญอื่นๆ

  • Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ~ 7.1 km.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 9.5 km.
  • มอเตอร์เวย์ กทม.-ชลบุรี ~ 12.8 km.
  • ทางด่วนกาญจนาภิเษก ~ 14.3 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • จำนวนยูนิตไม่มากนัก : เมื่อเทียบกับหมู่บ้านราคา 2 ล้านกว่าๆ ในละแวกนี้แล้วหละก็ ส่วนใหญ่จะมีจำนวน 400+ ยูนิต เลยนะคะ ซึ่งโครงการนี้ก็มีจำนวนเพียง 187 ยูนิต จึงเหมาะกับครอบครัวที่เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย


โครงการ Stories บางนา สุวรรณภูมิ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้นจำนวน 187 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการเกือบ 14 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดกลางในย่านกิ่งแก้ว – บางพลี ซึ่งย่านนี้มีทาวน์โฮมหลายโครงการให้เลือกแต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทาวน์โฮมขนาดใหญ่ 400+ ยูนิต ทำให้ Stories จัดเป็นตัวเลือกของคนที่เน้นความเป็นส่วนตัวหน่อย ยูนิตไม่มากนัก ในขณะที่ส่วนกลางก็ไม่น้อยหน้าโครงการอื่นที่ระดับราคาเดียวกันค่ะ

แปลงที่ดินของโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ดูดี เพราะไม่ใช่แปลงยาวแบบเส้นก๋วยเตี๋ยวที่หมู่บ้านมักทำกันบ่อยๆ มีระยะจากซุ้มประตูโครงการถึงซอยท้ายสุดโครงการไม่ลึกนักประมาณ 300 m. เท่านั้น นั่นทำให้ลูกบ้านทั้งหมดสามารถเข้าถึง Clubhouse และสวนสาธารณะได้ไม่ไกล ซึ่งการวางสวนไว้ด้านหน้าช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ

โครงการวางทิศของบ้านทุกหลังไปทางทิศเหนือ, ใต้ เป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า จะเลือกแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ

Concept ของโครงการ Stories บางนา สุวรรณภูมิ

คอนเซปต์ของโครงการนี้คือ “Neverland” ดินแดนที่ส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดี เพราะต้องการให้ผู้อยู่อาศัยที่นี่มีอายุยืนยาว โดยมี 5 แนวคิด ดังนี้

  • Ever Active : สนับสนุนให้ทุกคนออกกำลังกาย โดยออกแบบให้มีสนามบาสเกตบอล, Jogging Track และ สระว่ายน้ำ
  • Ever Smile : เพื่อให้ลูกบ้านมีความสบายใจในการอยู่อาศัย จึงมีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • Ever Green : โครงการเชื่อว่าสวนส่วนกลางในโครงการจะเพิ่มความสดชื่น และเพิ่มโอกาสในการรับประทานผักด้วยการมีแปลงผักสวนครัวให้ลูกบ้านมาเก็บไปทำอาหารได้
  • Ever Love : เพื่อให้สมาชิกในบ้านได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน จึงเพิ่มฟังก์ชันในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น Co-Working Space, สนามเด็กเล่น, ลานนวดหิน
  • Ever Care : ลูกบ้านจะได้สิทธิพิเศษจากโรงพยาบาลรามคำแหง รวมถึงในอนาคตอาจจะมี Telemedicine เพิ่มขึ้นมาด้วยค่ะ

ซุ้มประตูโครงการ Stories บางนา สุวรรณภูมิ ทำออกมาในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค ดูเรียบๆ สะอาดตา คุมโทนสีครีมและขาว

ซุ้มโครงการมีดีเทลอย่างการปิดผิวให้ดูเหมือนกำแพงอิฐ และมีซุ้มโค้งช่วยให้ดูยุโรปขึ้น

ระบบเข้าออกโครงการจะเป็นรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ เปิดปิดด้วยระบบเดียวกับ Easy Pass ของทางด่วน ลูกบ้านจึงเข้า-ออกได้สะดวก

ที่ Main Gate จะมีพี่ รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และติดตั้ง CCTV ภายในโครงการ 17 จุด

เข้ามาด้านในบ้านโซนแรกจะไม่ได้อยู่ติดกับ Main Gate ทันทีแต่จะขยับเข้าไปด้านในเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสงบให้เหมาะกับการอยู่อาศัยมากขึ้น สำหรับถนนหลักของที่นี่มีความกว้างถึง 12 m. ซึ่งโครงการเตรียมไว้สำหรับเป็นลู่วิ่ง 2 ข้างทางบนถนนหลัก มีระยะไปกลับบนถนนหลักทั้งหมดประมาณ 380 m.

เข้ามาด้านในอีกนิดจะเจอสวนและ Clubhouse เป็นส่วนต้อนรับด่านแรก

โดยพื้นที่สวนหลักๆ มีขนาดประมาณ 200 ตร.วา จัดเป็นต้นไม้ใหญ่สลับไม้พุ่ม มีเส้นทางให้เดินเล่นชมวิว เปลี่ยนบรรยากาศและลานนวดเท้าที่เหมาะกับผู้สูงอายุ

ถัดมาที่กีฬาแบบ Active ก็จะมีสนามบาสเกตบอลที่มีแป้น 3 ระดับ ให้ซ้อมชู้ตบาสฯ ได้ทุกช่วงวัยค่ะ

ข้างสนามมีเก้าอี้ให้นั่งคอยได้ เผื่อพาเด็กๆ มาซ้อมบาสฯ คุณพ่อคุณแม่ก็นั่งรอตรงนี้ได้

สำหรับคุณหนูๆ จะมีลานอเนกประสงค์ให้มาวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ได้ เป็นพื้นที่สำคัญที่เด็กๆ ในหมู่บ้านจะได้พบปะกัน เพิ่มสังคม ไม่ต้องนั่งเล่นอยู่บ้านคนเดียวนะคะ

ด้านในสุดของสวนเป็นตำแหน่งของ Clubhouse มีชื่อว่า Wellness Club ที่มาในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคเช่นเดิม ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

เหตุผลที่โครงการวาง Clubhouse ไว้ด้านในสุดก็เพื่อให้ตำแหน่งของสระจะอยู่ในจุดที่มองเห็นวิวสวนได้กว้างๆ

สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นสระระบบเกลือ (Salt Chlorination) ขนาด 3.5 x 1.3 m. ลึก 1.2 m. เป็นสระแบบ Outdoor จึงเหมาะจะมาใช้งานในช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มหน่อยนะคะ

ปลายสุดของสระแยกเป็นสระเด็กขนาด 3.5 x 4.25 m. ลึก 0.55 m.

โดยข้างๆ สระเด็กจะมี Daybed ไว้ให้คุณพ่อคุณแม่นั่งพักผ่อน และจะได้ดูแลลูกๆ ริมสระได้สะดวก

พื้นที่นั่งเล่นริมสระออกแบบให้เป็น Semi-Outdoor จึงสามารถนั่งชมวิวได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวแดด

ข้างสระจะมีฝักบัวให้อาบน้ำล้างตัว และติดกันจะมีทางเข้าห้องน้ำส่วนกลาง ซึ่งแยกชายหญิงไว้เรียบร้อย

เราพาเข้ามาชมภายในห้องน้ำหญิงนะคะ ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้ใช้งานได้ครบถ้วน

มาดูส่วนกลางที่เป็น Indoor กันบ้างนะคะ ห้องแรกคือ Co-Working Space  ที่จัดชุดโซฟาขนาดใหญ่เอาไว้ หากใครที่มีแขกมาหาแต่ไม่สะดวกจะพาเข้าบ้าน ก็สามารถใช้ห้องนี้รับรองได้

Co-working Space ที่นี่ใช้ผนังกระจกหลายบานทีเดียว จึงได้วิวสระว่ายน้ำให้สบายตากันไป

Indoor Facility อีกห้องหนึ่งก็คือ Fitness  ซึ่งได้วิวสระอีกเช่นกันค่ะ

ภายใน Fitness ติดตั้งเครื่องออกกำลังกายไว้ประมาณ 7 เครื่อง รองรับทั้งการ Weight Training และ Cardio

ถัดมาที่ซอยบ้านพักอาศัย ถนนซอยมีความกว้างมาตรฐาน 9 m. และหากเราเลือกบ้านติดสวนก็จะได้บรรยากาศร่มรื่นจากสวนส่วนกลางด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse ประกอบไปด้วย

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ (Salt Chlorination) ขนาด 3.5 x 1.3 m. ลึก 1.2 m. แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 3.5 x 4.25 m. ลึก 0.55 m.
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Co-Working Space

  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 200 ตร.วา
    • สนามเด็กเล่น
    • สนามบาสเกตบอล
    • ลานนวดหิน
    • ลู่วิ่งกลางแจ้งบนถนนหลักของโครงการไป-กลับประมาณ 380 m. และมีลู่วิ่งริมถนนภาระจำยอมในซอยกิ่งแก้วรวมๆ แล้วประมาณ 2.3 km.
    • แปลงสวนผักกินได้

  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 17 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 m.
  • ถนนหลักกว้าง 12 m. และถนนภายในกว้าง 8.5 – 9 m.
  • Key Card Access ระยะไกล (แบบ Easy Pass ทางด่วน)
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • แบบบ้าน

    Highlight

    • ที่จอดรถของทาวน์โฮมมีความลึกให้จอดรถกระบะในรั้วบ้านได้
    • โครงสร้างผนังระหว่างห้องนอนและห้องอเนกประสงค์เป็นผนังเบาทุบเชื่อมกันได้
    • แยกครัวหลังบ้านให้เป็นสัดส่วน กลิ่นควันไม่รบกวนเข้ามาในตัวบ้าน

    แบบบ้านของโครงการ Stories บางนา สุวรรณภูมิ มีแบบเดียวเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 m. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ เหมาะกับครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก 2-4 คนกำลังดี

    วัสดุหลักๆ

    • โครงสร้าง Precast ข้อดีคือ แข็งแรงทนทาน ไม่มีเสาจึงง่ายต่อการจัดพื้นที่ใช้สอย แต่ก็จะมีข้อจำกัดเรื่องการทุบและต่อเติมค่ะ
    • ที่จอดรถเป็น Slab on Ground แยก Jiont กับโครงสร้างตัวบ้าน
    • พื้นที่หลังบ้านเป็น Slab on Ground
    • พื้นบ้าน ชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้, ชั้น 2 ปูด้วยกระเบื้องไวนิลลายไม้ ทนน้ำได้ดีกว่าไม้ลามิเนต และช่วยกันปลวก
    • บันไดโครงเหล็ก
    • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ Hafele

    หน้าตาของตัวบ้านมาในสไตล์ Modern Classic ดูเรียบๆ แต่จะมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ให้ดูหรูขึ้น เช่น ลวดลายของราวกันตก, การทำบัวผนัง และเลือกใช้โทนสีขาวครีมดูสบายตา

    แปลนบ้าน – ทาวน์โฮมของที่นี่มีหน้ากว้าง 5.2 m. สามารถใช้จอดรถได้ 2 คัน ซึ่งจุดเด่นของบ้านที่นี่เลยก็คือสามารถจอดรถกระบะได้ เพราะช่องจอดฝั่งหนึ่งลึก 5.6 m. ส่วนอีกช่องใช้จอด Eco Car ได้เพราะช่องจอดลึก 4.35 m.

    ชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ Common Area ที่ต่อเนื่องกันทั้งโซนนั่งเล่นและกินข้าว ส่วนที่เราชอบในชั้นนี้คือ 1. แยกห้องครัวไว้เป็นสัดส่วน เป็นพื้นที่ Semi Outdoor ทางหลังบ้าน ทำให้กลิ่นไม่เข้ามารบกวนพื้นที่พักอาศัยในบ้าน 2. ตำแหน่งห้องน้ำที่ได้หน้าต่างในตัว ช่วยแก้ปัญหาคลาสสิคของทาวน์โฮม ที่ห้องน้ำมักไม่มีหน้าต่าง

    ชั้นบนเป็นพื้นที่พักผ่อนค่ะ โดยชั้นนี้จะแบ่งออกเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องที่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน ซึ่งความเก๋ของโครงการนี้คือ ผนังที่กั้นระหว่างห้องนอน 2 และห้องอเนกประสงค์จะเป็นผนังเบา จึงสามารถทุบเชื่อมห้องได้ ต่างจากโครงสร้าง Precast ทั่วไปที่ทุบไม่ได้นะคะ

    รั้วบ้านเป็นประตูเหล็กบานพับ หน้ากว้าง 5.2 m. จึงจอดรถได้ 2 คัน ช่องจอดทางฝั่งขวาลึก 5.6 m. ส่วนฝั่งซ้ายลึก 4.35 m. จึงจอดรถกระบะได้ 1 คันและ Eco Car ได้อีก 1 คัน

    สำหรับใครที่อยากมีพื้นที่ปลูกต้นไม้และพอจะมีงบประมาณมากขึ้นมาหน่อยก็เลือกเป็นแปลงมุม จะได้มีพื้นที่ข้างบ้านเหมือนบ้านตัวอย่าง ซึ่งนอกจากจะได้ที่ดินเพิ่มแล้ว ตัวบ้านยังได้ช่องหน้าต่างเพิ่มด้วยนะคะ

    พื้นที่บริเวณหน้าประตูบ้านและห้องเก็บของจะมีส่วนที่มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝนให้ใช้งานได้สะดวก

    ห้องเก็บของมีขนาดกว้างพอให้เก็บอุปกรณ์ล้างรถเช่น สายยางม้วนใหญ่ๆ ได้เลย แต่อยู่ในตำแหน่งใต้บันไดพอดี จึงมีข้อจำกัดเรื่องความสูงนะคะ อีกเรื่องนึงคือหน้าบ้านจะติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันฝนไว้ให้พร้อมใช้งานค่ะ

    ประตูหน้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมิเนียม ซึ่งเป็นสเปคมาตรฐาน

    พื้นหน้าบ้านจะยกระดับขึ้นจากที่จอดรถเล็กน้อย ช่วยกันน้ำและฝุ่นเข้ามาในตัวบ้าน

    เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area กว้างๆ ที่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นกับทานข้าวไว้ต่อกัน ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.6 m. พื้นชั้นล่างจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ หน้าตาบ้านที่ได้ตามแบบในรูปล่างนะคะ

    มุมรับแขก หรือดูทีวีมีระยะดูทีวี 2.4 m. จึงสามารถติดทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วได้ ส่วนโซฟาเราคิดว่าเลือก Size ที่เหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างแทนการใช้โต๊ะกลาง จะช่วยให้บ้านดูโปร่งอยู่ค่ะ

    สำหรับใครที่เลือกแปลงมุมก็จะมีหน้าต่างเพิ่มมาอีก 2 บาน เป็นบานพับให้เปิดระบายอากาศ รับลมได้

    พื้นที่ด้านในจัดโต๊ะกินข้าว 4 ที่กำลังดีเลยค่ะ ได้ตำแหน่งโต๊ะติดหน้าต่างเลย ใช้รับแสงธรรมชาติและหากจัดสวนหลังบ้านก็จะได้เป็นวิวให้กับพื้นที่ทานอาหารด้วย

    ระยะต่างๆ ก็ถือว่าไม่อึดอัดมากค่ะ ถ้าอยู่กัน 2-4 คนก็ถือว่าสบายเลย ส่วนทางขวาจะมีประตูสำหรับออกไปที่ครัวหลังบ้าน

    พื้นที่ครัวของโครงการนี้จะให้มาไม่เหมือนกับที่อื่นนะคะ โดยเค้าให้เป็นพื้นที่ Semi-Outdoor เพื่อแยกครัวออกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่พักผ่อนในตัวบ้าน มั่นใจได้ว่ากลิ่นควันต่างๆ จะไม่เข้าไปรบกวน ซึ่งโครงการจะทำเคาน์เตอร์มาให้ตามแบบในรูปค่ะ

    ไอเดียในบ้านตัวอย่างจะทำพื้นที่บริเวณครัวนี้เป็น Family Area อีกมุมหนึ่ง ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งก่อนต่อเติมหลังบ้านก็อยากให้คำนึงถึงข้อกฎหมาย ปรึกษาโครงการก่อนก็ดีค่ะ

    บ้านตัวอย่างจะต่อเติมครัวไว้ครึ่งหนึ่งของพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งเป็นเพียงไอเดียเราสามารถปรับขนาดและฟังก์ชันตามการใช้งานของแต่ละบ้านได้เลยนะคะ

    หากกั้นครัวครึ่งเดียวของพื้นที่หลังบ้านก็ได้ฟังก์ชันครบนะคะ ทั้งซิงค์ล้างจาน, เตาไฟ, พื้นที่วางตู้เย็น แต่จะมีพื้นที่เตรียมอาหารไม่มากนัก

    ส่วนของหลังคาทำเป็นช่องแสงตามแบบในบ้านตัวอย่าง ก็ช่วยให้หลังบ้านดูโปร่งขึ้นได้

    สำหรับพื้นที่หลังบ้านจะได้มาตามแบบในบ้าน Standard คือเทพื้นปูนซีเมนต์เป็น Slab on Ground ไว้ประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มีส่วนที่เป็นดินไว้ปลูกต้นไม้ได้

    กลับเข้ามาในตัวบ้าน…ตำแหน่งของห้องน้ำจะหลบมุมอยู่ข้างบันได ดูไม่ประเจิดประเจ้อดีค่ะ

    ห้องน้ำชั้นล่างมีขนาดให้ใช้งานได้พอสมควร ฟังก์ชันครบ ใช้อาบน้ำได้ โดยจะได้สุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ยกเว้นพวกของตกแต่ง

    ภายในห้องน้ำจะถูกลดระดับพื้นลงจากโถงทางเดินอีกนิดหน่อยเพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนออกมา แต่ด้วยขนาดห้องค่อนข้างกระทัดรัด ทำให้ภายในไม่ได้แบ่งโซนเปียกแห้งนะคะ

    วัสดุที่ให้คืออ่างล้างมือของ Hafele

    สุขภัณฑ์ 2 ชิ้นของ Hafele พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวกระดาษทิชชู่

    ห้องน้ำของที่นี่เค้าทำงานระบบซ่อนไว้หลัง Low Wall ทำให้ซ่อมแซมได้ไม่ยาก และเจ้า Low Wall นี้ยังใช้วางอุปกรณ์ในห้องน้ำและของตกแต่งได้ด้วย

    ฝักบัวอาบน้ำที่โครงการติดตั้งไว้ให้ก็ของ Hafele จับได้ถนัดมือดีค่ะ

    จุดเด่นของห้องน้ำที่นี่คือมีหน้าต่าง เป็นช่องแสงและใช้ระบายอากาศไปในตัว

    ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อค่ะ ตัวบันไดจะใช้เป็นโครงสร้างเหล็กตามแบบทาวน์โฮมส่วนใหญ่ โดยมีดีเทลเซาะร่องกันลื่นไว้ให้

    บริเวณบันไดจะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างหลังบ้าน ช่วยให้ประหยัดไฟในเวลากลางวันได้นะคะ ซึ่งหน้าต่างจะได้เป็นบานเลื่อนเปิดระบายอากาศได้แบบรูปขวาค่ะ

    บันไดของบ้าน Type นี้เป็นตัว U มีชานพักบันได 2 ช่วงแต่จะไม่ได้ชานพักแบบสี่เหลี่ยมเต็มขั้นทั้งหมดนะคะ เวลาเดินขึ้นลงก็ระวังนิดนึงค่ะ

    ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับโถงทางเดินแยกไปห้องนอนต่างๆ, ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำส่วนกลาง

    บ้าน Standard จะแบ่งห้องนอนและห้องอเนกประสงค์แยกออกจากกัน (รูปล่าง) หรือหากครอบครัวไหนมีลูกคนเดียวก็สามารถรวมห้องฝั่งหลังบ้านเข้าไว้ด้วยกันได้ (รูปบน) เพราะห้องหลังบ้านกั้นโดยใช้ผนังเบานะคะ

    ห้องนอนฝั่งหลังบ้านเมื่อรวมกับห้องอเนกประสงค์แล้วจะได้เป็นห้องใหญ่พอๆ กับ Master Bedroom เลยค่ะ จึงวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบทั้งเตียงเดี่ยว 2 เตียงแบบในบ้านตัวอย่าง หรือหากบ้านใครมีลูกคนเดียวจะวางเตียง 5, 6 ฟุต เตียงเดียวเลยก็ได้ และมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ

    ซึ่งห้องฝั่งหลังบ้านนี้จะได้หน้าต่างไม่ใหญ่มาก เพราะเป็นห้องที่มองออกไปก็เห็นผนังของบ้านที่อยู่ด้านหลัง ดังนั้นหน้าต่างที่ไม่ใหญ่มากก็ช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้

    ถัดมาคือห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้ที่ต้องแชร์กันใช้ทั้งหมด ภายในจัดฟังก์ชันมาครบเช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง แต่ห้องนี้จะแยกโซนเปียกแห้งมาให้ และมีขนาดห้องที่ใหญ่กว่าใช้งานได้สะดวก ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆให้ของ Hafele เช่นกัน แต่ไม่ได้มีหน้าต่างเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง จึงต้องพึ่งพาระบบดูดอากาศแทนนะคะ

    พื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกั้นมาให้เรียบร้อยเพื่อกันน้ำกระเด็น โดยไม่ต้องไปเสียเงินติดเพิ่มนะคะ

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.35 x 0.8 m. พอให้อาบน้ำหมุนตัวได้

    ปิดท้ายที่ Master Bedroom เป็นห้องกว้างที่ได้พื้นที่ทางฝั่งหน้าบ้านตลอดแนว จึงสามารถแบ่งพื้นที่ภายในออกเป็นโซนเตียงนอนและ Walk-in Closet ได้

    สำหรับห้องนี้เราว่าวางเตียงได้ทั้ง 5 และ 6 ฟุตเลยนะคะ แต่ถ้าวาง 6 ฟุต พื้นที่ข้างเตียงก็จะลดลงหน่อยเท่านั้นเอง

    และหากต้องการนอนดูทีวี เราจะต้องมา Built-in ผนังติดทีวีเพิ่มเองนะ ซึ่งผนังส่วนนี้ก็จะใช้กั้นโซน Walk-in Closet ไปในตัวด้วย แนะนำให้ทำเพิ่มเพื่อความเป็นสัดส่วนค่ะ

    หน้าต่างในห้องนอนได้มา 2 บาน ซึ่งเป็นแบบเปิดระบายอากาศได้ โดยเจ้าหน้าต่างบานเล็กจะอยู่ตรงกับตำแหน่งของ Walk-in Closet พอดี เพราะแสงธรรมชาติจำเป็นในการแต่งหน้านะคะ

    หากทำฉากกั้นตามแบบในบ้านตัวอย่างแล้ว พื้นที่ Walk-in Closet จะมีขนาดพอให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนัง พร้อมวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยจะเหลือพื้นที่ภายในให้ยืนเลือกชุด เปลี่ยนเสื้อผ้าขนาดประมาณ 0.8 x 1.6 m. ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    Stories บางนา-สุวรรณภูมิ ราคา ณ วันที่ 16 กันยายน 2564

    • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 16.25 – 23 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 99 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
      – ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
    • จอง 999 บาท และทำสัญญา 5,000 บาท
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน และถนนภาระจำยอม 6 บาท/ตร.วา/เดือน
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
    ที่ตั้งโครงการ Stories บางนา สุววรณภูมิ อยู่ในซอยกิ่งแก้ว 29 เข้าไปจากปากซอยประมาณ 950 m. ซึ่งเป็นซอยที่ค่อนข้างร่มรื่น เงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก พูดถึงเรื่องการเดินทางเข้าออกเมืองจะมีตัวช่วยอย่างทางพิเศษบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ ส่วนความอุดมสมบูรณ์บนเส้นกิ่งแก้วเองค่อนข้างครบครันโดยเฉพาะที่ตลาดบางพลีใหญ่ (กิ่งแก้ว) และตรงแถวรพ.จุฬารัตน์ 9 ซึ่งจะติดกับซอยกิ่งแก้ว 25/1 ที่เป็นซอยลัดไปออกถนนเลียบวงแหวนกาญจนาได้ จะมีร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ก็เปิดตามมาในบริเวณนั้น แต่เส้นกิ่งแก้วนี่จะไม่ได้มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่นะคะ ต้องขยับออกมาที่เส้นบางนา-ตราด ก็จะมีตั้งแต่ห้างเล็กไปจนถึงห้างใหญ่, ศูนย์รวมวัสดุต่างๆ และโรงพยาบาล ค่อนข้างครบครัน

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
    ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะมีประตูทางเข้าโครงการเป็นไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass เหมือนทางด่วน บริเวณทางเข้าและภายในโครงการจะติดตั้ง CCTV ไว้ให้ทั้งหมด 17 จุด พร้อม รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
    ตัวบ้าน – เป็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5.2 m. จอดรถได้ 2 คัน ซึ่งมีช่องจอดนึงที่ยาวพอให้จอดรถกระบะได้ ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ตอบโจทย์ครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก 2-4 คน หรือยุคสมัยนี้นิยมมีลูกคนเดียวก็สามารถทุบเชื่อมห้องนอนและห้องอเนกประสงค์เข้าหากันได้ เพราะใช้ผนังเบากั้น เผื่อปรับฟังก์ชัน อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเค้าแยกครัวหลังบ้านให้เป็นสัดส่วน กลิ่นควันไม่รบกวนเข้ามาในตัวบ้านค่ะ

    โครงการ – ออกแบบมาเป็นโครงการขนาดกลาง จำนวนยูนิตไม่มากนักเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในละแวกนี้ จึงเหมาะกับครอบครัวที่เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย แปลงที่ดินของโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ดูดี เพราะไม่ใช่แปลงยาวแบบเส้นก๋วยเตี๋ยวที่หมู่บ้านมักทำกันบ่อยๆ มีระยะจากซุ้มประตูโครงการถึงซอยท้ายสุดโครงการไม่ลึกนักประมาณ 300 m. เท่านั้น นั่นทำให้ลูกบ้านทั้งหมดสามารถเข้าถึง Clubhouse และสวนสาธารณะได้ไม่ไกล ซึ่งการวางสวนไว้ด้านหน้าช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ

    วัสดุ :
    ได้วัสดุมาตรฐานตามระดับราคา โครงสร้างหลักใช้ Precast ที่แข็งแรงทนทานแต่มีข้อจำกัดเรื่องการทุบต่อเติม ซึ่งทำให้เค้าออกแบบส่วนที่ลูกบ้านมักต่อเติมเช่น ผนังระหว่างห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ที่ใช้เป็นผนังเบา ส่วนที่ลูกบ้านจะต้องจ่ายเงินต่อเติมเพิ่มเองก็จะพื้นที่จอดรถและด้านหลังบ้าน ซึ่งให้มาเป็น Slab on Ground (ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ค่ะ)

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
    ถนนหลักจะกว้างที่ 12 m. ส่วนถนนรองจะกว้าง 8.5 – 9 m. มีพื้นที่สีเขียวเเทรกตัวอยู่บริเวณหน้าโครงการ บรรยากาศดูเรียบร้อย สะอาดสะอ้านดีค่ะ

    สาธารณูปโภค :
    เป็นโครงการทาวน์โฮมที่มี Facility ส่วนกลางมาให้ โดย Clubhouse + สระว่ายน้ำ + สวน + สนามบาสเกตบอล + สนามเด็กเล่น จะอยู่บริเวณเดียวกันที่โซนหน้าของโครงการ ส่วนที่ถนน Main จะมี Jogging Track ที่สามารถวิ่งเชื่อมออกไปที่ถนนภาระจำยอมด้านหน้าโครงการได้ รวมๆ ระยะทางไปกลับกว่า 2 km. เลยนะ แลกมากับค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน และถนนภาระจำยอม 6 บาท/ตร.วา/เดือน

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท, 16 กันยายน 2564

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – โครงการอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 29 เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว
    • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, CCTV และ รปภ. 24 ชั่วโมง
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – มีบ้านให้เลือกแบบเดียว ฟังก์ชันยืดหยุ่นได้ แยกครัวเป็นสัดส่วน
    • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานตามราคา
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – โครงการขนาดกลาง สวนไม่ใหญ่มากประมาณ 200 ตร.วา
    • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้ใช้ครบครัน แชร์กับลูกบ้านไม่เยอะ
    • 7.55 / 10.00

    Stories บางนา-สุวรรณภูมิ เหมาะกับใคร

    โครงการ Stories บางนา-สุวรรณภูมิ เหมาะกับครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก 2-4 คน ที่มองหาบ้านในย่านกิ่งแก้ว-บางพลี ชอบโครงการขนาดกลาง เพื่อนบ้านไม่เยอะมาก และมี Facility ส่วนกลางให้ใช้ จอดรถกระบะในบ้านได้ แยกครัวเป็นสัดส่วน มีงบประมาณเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้น 19,530 บาท/เดือน


    ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
    ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc