รีวิวฉบับที่ 1615 สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปชมทาวน์โฮมในย่านรามอินทรา กับโครงการ Sixnature รามอินทรา จาก ปริญสิริ ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา 109 ในซอยพระยาสุเรนทร์ 24 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น มีแบบบ้าน 2 แบบ เน้นพื้นที่ใช้สอยโปร่งโล่ง ทุกยูนิตติดถนนหลัก พร้อมส่วนกลางภายในโครงการ ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรตามไปชมกันเลยครับ

Fact @ 19 June 2018

  • Sixnature Ramintra (ซิกเนเจอร์ รามอินทรา)
  • บริษัท ปริญสิริ จํากัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยพระยาสุเรนทร์ 24 เขตมีนบุรี
  • เนื้อที่โครงการ 14-1-12.6 ไร่ จำนวน 152 ยูนิต
  • แบบ Inner ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 3.79 – 5.59 ล้านบาท
  • แบบ Privet ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 186 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาโปรโมชั่น 3.49 ล้านบาท (บ้านแบบ Inner)
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี 2014 – 2018
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • สำนักงานขาย : 02-540-0240
  • Call Center : 1753

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.827275, 100.700451

แผนที่จากทางโครงการ ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา 109 (หรือถนนพระยาสุเรนทร์) ในซอยประยาสุเรนทร์ 24

โครงการ Sixnature รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ 24 สามารถเข้าได้จากถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปทางมีนบุรี โครงการจะเข้าไปในถนนรามอินทรา 109 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนพระยาสุเรนทร์ ซึ่งบริเวณย่านนี้จะเรียกกันว่าย่านมีนบุรี เป็นย่านที่อยู่อาศัยตอนบนของกรุงเทพมหานครที่มีคนอยู่กันเยอะ โครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นแนวราบ ทั้งหมู่บ้านเดี่ยวจัดสรร ไม่จัดสรร และทาวน์โฮม ส่วนคอนโดมิเนียมเริ่มมีให้เห็นในพื้นที่พอสมควร โดยจะอยู่ตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันตั้งแต่โรงพยาบาล ห้างร้านต่างๆ

รวมไปถึงถนนรามอินทรา 109 นี้ยังสามารถเดินทางได้สะดวก ใช้เป็นเส้นทางไปยังถนนปัญญาอินทราหรือลัดไปยังถนนเลียบคลอง 2 และสายไหมได้ นอกจากนั้นทำเลนี้อยู่ใกล้ฝั่งมีนบุรี สามารถใช้ถนนรามอินทราเชื่อมไปยังเสรีไทยไปยังลาดพร้าวหรือถนนรามคำแหงเพื่อไปพัฒนาการได้ ส่วนถนนรามอินทราเองสามารถใช้ไปยังเส้นเกษตร- นวมินทร์ และเลียบทางด่วนรามอินทราได้ นอกจากนี้ทำเลนี้มีทางด่วนวงแหวนกาญจนาที่ห่างออกไปประมาณ 5.5 km. ใช้เดินทางไปยังรังสิต-ลำลูกกา บางปะอิน หรือไปสมุทรปราการได้

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการประกอบด้วยวินมอไซค์, ร้านซักรีด และร้านไปรษณีย์ อยู่บริเวณหน้าปากซอย ในระยะทางประมาณ 90 m. ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีเซเว่น, Lotus Express, ร้านค้า และร้านอาหาร เลยออกไปอีกหน่อยจะมีตลาดนัดกองหนุนซึ่งอยู่ในระยะที่เดินไปได้ด้วย นับว่าเป็นย่านชุมชนที่มีความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยเลยทีเดียว

นอกจากนี้ย่านมีนบุรียังมีความอุดมสมบูรณ์อื่นๆอีก ทั้งห้างสรรพสินค้า Fashion Island และมีคอมมูนิตี้มอล์อย่าง Amorini ,The Promenade อีกทั้งยังมี Hypermarket อย่าง Makro หรือ Tesco Lotus มีตลาดมีนบุรี ตลาดใหม่พระยาสุเรนทร์ และตลาดนัดกองหนุนอยู่ใกล้ๆด้วย นับว่าเรื่องอาหารการกิน และการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างสะดวกสบายมากสำหรับทำเลนี้ นอกจากนี้ทำเลนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ด้านสถานที่สำหรับทำกิจกรรมอย่าง สนามกอล์ฟ , สวนสยาม, ซาฟารีเวิร์ล และวันเดอร์เวิร์ล อยู่ใกล้เคียง ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ

นอกจากนี้ถนนรามอินทรายังเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผ่านถนนอย่างติวานนท์-แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ได้ครับ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีบางชัน อยู่บริเวณหน้าปากซอยถนนพระยาสุเรนทร์ ห่างจากโครงการประมาณ 1.9 km. คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมใช้งานภายในปี 2563 ซึ่งในปัจจุบันโครงการกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง อาจมีปัญหารถติดอยู่บ้างนะ

สำหรับการใช้รถยนต์สามารถใช้วงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 5.5 km. ใช้เดินทางไปยังรังสิต-ลำลูกกา บางปะอิน หรือไปสมุทรปราการได้

สำหรับการเดินทางในวันนี้เราเริ่มจากห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ขับรถไปบนถนนรามอินทรามุ่งหน้าไปทางมีนบุรีประมาณ 2.9 km. และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรามอินทรา 109 (หรือเรียกอีกอย่างว่าถนนพระยาสุเรนทร์) ขับรถมาตามทางอีกประมาณ 1.9 km. แล้วกลับรถมาประมาณ 350 m. เพื่อเลี้ยวเข้าสู่ซอยพระยาสุเรนทร์ 24

จุดเริ่มต้นบริเวณหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ให้ขับรถตรงไปบนถนนรามอินทรามุ่งหน้าไปมีนบุรีอีกประมาณ 2.9 km. ครับ

ระหว่างทางบริเวณด้านซ้ายเราจะเจอกับ รพ.นพรัตนราชธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุด และทางขวามือจะเป็นสะพานข้ามแยกซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ (ในปัจจุบันสะพานนี้เปิดใช้งานแล้วครึ่งหนึ่ง ให้รถสวนกันได้ครับ)

เมื่อขับมาอีกสักพักเราจะเจอกับแม็คโครอยู่ทางด้านขวา ให้เตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ

สังเกตป้ายบอกทาง “พระยาสุเรนทร์” ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกข้างหน้า

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรามอินทรา 109 หรือถนนพระยาสุเรนทร์ได้เลยครับ บริเวณหน้าปากซอยมีป้ายบอกเป็นเส้นทางลัดไปสายไหมได้ด้วยนะ

บรรยากาศบริเวณต้นซอยถนนรามอินทรา 109 หรือถนนพระยาสุเรนทร์ เป็นถนนขนาด 4 เลน ตลอดสองข้างทางเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น มีร้านค้าอุดมสมบูรณ์ทั้ง เซเว่น, ร้านขายยา, คลีนิค และโรงเรียนบางชัน

ขับตรงเข้ามาอีกหน่อยจะเจอวัดบางชันอยู่ทางซ้าย ถนนจะเริ่มมีเกาะกลาง และเปลี่ยนเป็นถนน 6 เลน มีปั้มน้ำมันบางจากคอยให้บริการบนถนนเส้นนี้ด้วย

ขับตรงมาเรื่อยๆเราจะผ่านตลาดใหม่พระยาสุเรนทร์ซึ่งอยู่ไม่ไกล เลยมาอีกนิดก็จะเจอซอยพระยาสุเรนทร์ 24 อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ ซึ่งให้เราขับตรงไปอีกหน่อยเพื่อกลับรถ

ก่อนจะถึงที่กลับรถเราจะเจอตลาดอีกแห่งหนึ่ง ชื่อตลาดนัดกองหนุน จากตรงนี้ให้เตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถครับ

กลับรถเพื่อไปเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ

กลับรถมาประมาณ 350 m. แล้วเลี้ยวเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ 24 ได้เลยครับ

เรามาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกัน โดยโครงการจะอยู่เข้ามาในซอยพระยาสุเรนทร์ 24 ประมาณ 90 m. จะเห็นได้ว่าภายในซอยและบริเวณโดยรอบโครงการเต็มไปด้วยชุมชนและบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้

  • ด้านทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอยพระยาสุเรนทร์ 26 และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ด้านทิศใต้ ติดกับ เป็นทางเข้า-ออกโครงการทางถนนซอยพระยาสุเรนทร์ 24 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น หมู่บ้านร่มเย็นและบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับ คลองสาธารณะ

เราลองมาเดินดูรอบๆโครงการกันก่อนนะครับ เริ่มจากบริเวณหน้าปากซอยพระยาสุเรนทร์ 24

ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ใต้อาคารมีร้านขายยา คลีนิค ร้านขายแว่น ร้านถ่ายรูป และร้านก๋วยเตี๋ยว

หันไปทางขวาฝั่งตรงข้ามจะเจอกับเซเว่น 2 ร้าน ร้านอาหารตามสั่ง ร้านขายยา และ Lotus Express ซึ่งถัดไปอีกหน่อยเป็นตลาดนัดกองหนุนที่เราพึ่งขับรถผ่านมาเมื่อสักครู่ครับ

ส่วนทางขวาฝั่งเดียวกันจะมีป้ายรถเมล์และพี่วินมอไซค์คอยให้บริการอยู่หน้าปากซอย

เอาอัตราค่าบริการวินมอไซค์มาฝากด้วยครับ

กลับมาที่หน้าปากซอย จะเห็นได้ว่ามีอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และเปิดเป็นร้านทำป้ายและรับส่งไปรษณีย์

ทางด้านข้างมีร้าน ซัก-อบ-รีด อยู่ด้วยครับ ซึ่งใครที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านในซอยนี้ก็สามารถมาใช้บริการกันได้

ถนนภายในซอยเป็นถนน 2 เลน รถสามารถสวนทางกันได้ เมื่อเดินเข้ามาในซอยอีกนิดจะมีสะพานข้ามคลองสาธารณะ เมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

ซึ่งทางขวามือบริเวณหน้าหน้าโครงการ จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ที่ด้านข้างตึกจะมีป้ายโฆษณาของโครงการ Sixnature รามอินทรา ติดอยู่ด้วย

ที่ใต้อาคารพาณิชย์จะมีร้านขายของชำเล็กๆ ซึ่งถ้าใครไม่อยากเดินข้ามถนนไปเซเว่นฝั่งตรงข้าม สามารถแวะซื้อน้ำ น้ำแข็ง และขนมเล็กๆน้อยๆที่นี่ก็ได้นะครับ

หันกลับมามองทางซ้ายมือ ก็จะเจอกับตัวโครงการแล้วครับ

แต่ก่อนจะเข้าสู่ตัวโครงการ ผมอยากจะพอเดินดูบริเวณโดยรอบอีกสักหน่อย ซึ่งฝั่งตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้นครับ

แล้วถ้ามองตรงเข้าไปภายในซอยพระยาสุเรนทร์ 24 จะเป็นชุมชนที่พักอาศัยดั่งเดิมสูงประมาณ 1-2 ชั้น

และเมื่อหันมามองทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นซอยด้านข้างระหว่างรั้วโครงการกับหมู่บ้านร่มเย็นที่มีความสูงของตัวบ้านประมาณ 2 ชั้นครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดกองหนุน : 650 m.
  • Lotus Express : 700 m.
  • Lotus รามอินทรา 109 : 1.2 km.
  • ตลาดใหม่พระยาสุเรนทร์ : 1.5 km.
  • Makro รามอินทรา : 2.8 km.
  • รพ.นพรัตน์ : 3.8 km.
  • BigC สุวินทวงศ์ : 4.1 km.
  • สวนสยาม : 4.7 km.
  • Fashion Island : 5.2 km.
  • The Promenade : 5.5 km.
  • ซาฟารีเวิลด์ : 6.1 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Sixnature รามอินทรา เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น บนที่ดินขนาด 14-1-12.6 ไร่ จำนวน 152 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบคือ แบบ Inner ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และแบบ Privet ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 186 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

บริเวณทางเข้าด้านหน้าติดถนนซอยพระยาสุเรนทร์ 24 ใช้ระบบ Key Card Access ในการเข้า-ออก มีกล้อง CCTV และป้อม รปภ. คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ถนนของโครงการเป็นถนนหลักเส้นเดียวเป็นรูปตัว L ตามลักษณะที่ดินของโครงการ มีความกว้างประมาณ 11 – 12 m. ทำให้บ้านทุกยูนิตจะอยู่ติดกับถนนหลักของโครงการซึ่งมีความกว้างมากกว่าถนนซอยย่อยทั่วไป ข้อดีคือบริเวณหน้าบ้านจะไม่อึดอัดเพราะมีระยะห่างจากบ้านฝั่งตรงข้ามมากขึ้น และสามารถจอดรถหน้าบ้านได้โดยที่ยังสามารถใช้งานถนนโครงการได้เป็นปกติ วางสวนหย่อมและคลับเฮาส์ไว้บริเวณหัวมุมถนนเพื่อสะดวกต่อการใช้งานสำหรับลูกบ้านทั้งจากหลังที่อยู่โซนด้านหน้าและหลังที่อยู่โซนด้านใน ซึ่งคลับเฮาส์ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำขนาด 7 x 20 m. และห้องฟิตเนส ซึ่งของจริงจะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปรับชมกันได้เลยครับ

เริ่มต้นที่ทางเข้าโครงการ ซุ้มประตูทางเข้ามีการแบ่งทางเข้า-ออก เป็น 2 ฝั่งชัดเจน และมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง

เข้า-ออกโดยใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้ และมีกล้อง CCTV อยู่ตรงทางเข้า-ออกโครงการ 2 จุด

ประตูเป็นระบบเลื่อนไฟฟ้าแบบ 2 ตอน และมีประตูสำหรับคนเดินอยู่ทางซ้ายมือ

เมื่อเข้ามาภายในโครงการ บริเวณด้านหน้าจะมีขนาดถนนที่ค่อนข้างกว้างตามรูปแบบที่ดินของโครงการ

เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะพบว่าถนนโครงการจะกลับมาเป็นขนาดปกติคือประมาณ 11 – 12 m. รถยนต์สามารถขับสวนทางกันได้สะดวก

บริเวณทางโค้งของถนน โครงการได้ติดกระจกมองโค้งเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านเอาไว้ด้วยครับ

ทางด้านขวามือจะเป็นสวนหย่อมซึ่งโครงการจะปลูกต้นไม้เอาไว้เพื่อความร่มรื่นครับ

สวนมีขนาดประมาณนี้ ปลูกหญ้าและไม้ยืนต้นเอาไว้เพื่อเพิ่มความสดชื่นและพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการ

เดินเข้ามาอีกหน่อยจะสังเกตได้ว่าตัวโครงการเป็นถนนเส้นเดียวตรงยาวไปจนสุด บ้านทุกหลังจะมีหน้าบ้านติดถนนหลักความกว้าง 11 – 12 m. ทุกยูนิต บริเวณหน้าบ้านมีระยะห่างจากหลังฝั่งตรงข้ามพอสมควร ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด แล้วยังสามารถจอดรถหน้าบ้านได้ตลอด 2 ข้างทางโดยที่ยังสามารถใช้งานถนนหลักได้สะดวก ส่วนทางขวามือจะมีคลับเฮาส์ตั้งอยู่ครับ

หน้าตาของคลับเฮาส์โดยภาพรวมทำเป็นสระว่ายน้ำแบบเปิดโล่ง เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูด้านในกันครับว่ามีอะไรบ้าง

ทางเข้าคลับเฮาส์เป็นบันไดไม้และผนังกรุด้วยไม้ฝา เลือกใช้วัสดุเข้ากับบรรยากาศต้นไม้และธรรมชาติโดยรอบให้รู้สึกผ่อนคลายดีครับ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือแบบน้ำล้น ขนาด 7 x 20 m. แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ 7 x 15 m. และสระเด็ก 4 x 5 m.

ถ่ายย้อนกลับมาให้ดูตัวคลับเฮาส์ ทางขวามือจะเป็นที่ล้างตัว และทางด้านในจะเป็นห้องฟิตเนส

ที่ล้างตัวจะมี 1 จุดกลางแจ้งตรงนี้ ไว้สำหรับล้างตัวก่อนและหลังจากลงสระนะครับ

บริเวณด้านนอกจะมีม้านั่งสำหรับนั่งคอยและพักผ่อน และจะมีห้องฟิตเนสอยู่ 1 ห้อง

ด้านในห้องฟิตเนสจะมีอุปกรณ์ออกกำลังกายประมาณ 4 – 5 ชิ้น ผนังโดยรอบเป็นกระจก หันหน้าออกไปทางสวนและถนนหลักโครงการ

ถัดมาจะเป็นห้องน้ำแยก ช-ญ ครับ

เริ่มที่ห้องแรกจะเป็นห้องน้ำชาย จะมีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ติดตั้งกระจกบานเงาใหญ่ให้แบบนี้

มีโถปัสสาวะชาย 2  จุด และโถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำอีก 2 ห้องครับ

ส่วนห้องน้ำหญิงก็เช่นเดียวกันครับ จะมีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ และมีโถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ 2 ห้อง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 เมตร แบ่งสระเด็ก 4 x 5 เมตร สระผู้ใหญ่ 7 x 15 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 – 5 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ ประมาณ 105.7 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate 2 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • ถนนหลักกว้าง 11 – 12 ม.


Product Walkthrough

แบบบ้านของโครงการมีทั้งหมด 2 แบบ คือ

  • แบบ Inner ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Privet ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 186 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

โดยแบบบ้านที่เราจะไปชมกันในวันนี้นั้น ทางโครงการจะมีบ้านตัวอย่างและบ้านเปล่าให้ชมทั้ง 2 แบบ จะเป็นอย่างไรไปชมพร้อมกันได้เลยครับ

บ้านตัวอย่างแบบแรกคือ แบบ Inner เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีขนาดที่ดินมาตรฐานเริ่มต้น 19 ตารางวา มีจำนวนทั้งหมด 133 ยูนิต

พื้นที่ส่วนแรกเป็นพื้นที่หน้าบ้าน ประตูรั้วของบ้านเป็นรั้วเตี้ยแบบบานพับ 2 ชั้น สามารถจอดรถได้ 2 คัน มีชานพักเท้ากว้าง 60 cm. ยาวตลอดแนว ประตูทางเข้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน ซึ่งเมื่อเข้ามาชั้นแรกของตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ครัวที่ได้เป็นครัวเปิด มีห้องน้ำที่ชั้นล่าง 1 ห้อง แบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ พร้อมห้องเก็บของใต้บันได ส่วนซักล้างด้านหลังมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปใช้งานได้

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะเจอกับโถงบันได มีประตูสำหรับห้องเก็บของใต้บันไดที่ชั้นสองอีกจุดหนึ่ง และมีประตูทางเข้าสำหรับห้อง Master Bedroom ซึ่งกินพื้นที่ชั้นที่สองทั้งชั้น ภายในค่อนข้างกว้างขวาง มีมุมอเนกประสงค์ที่น่าสนใจเหมาะสำหรับใช้เป็นมุมพักผ่อนหรือนั่งทำงาน มีระเบียงส่วนตัวสามารถเปิดออกมาใช้งานได้ ถัดเข้ามาด้านในมีห้อง Walk in closet พร้อมกับพื้นที่ห้องน้ำขนาดใหญ่ มีการแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน

ถัดขึ้นมาชั้นที่สาม จะเจอกับโถงบันไดขนาดใหญ่สำหรับห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้องซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้งสอง โดยตำแหน่งของห้องทั้ง 2 จะอยู่ในตำแหน่งหน้าบ้านและหลังบ้าน มีหน้าต่างทั้งสองห้อง ห้องทางด้านหน้าจะมีพื้นที่มากกว่า สามารวางเตียงขนาดใหญ่ได้

ภาพรวมหน้าตาของแบบบ้าน Inner ของจริงนั้นยูนิตโซนที่อยู่ด้านหน้าโครงการจะได้เป็นระแนงไม้สีขาวหน้าตาแบบนี้เลยครับ ส่วนยูนิตมาตรฐานที่อยู่ด้านในจะไม่มีระแนงไม้สีขาวแบบนี้ให้นะ โดยยูนิตตรงกลางจะเป็นบ้านตัวอย่างซึ่งทางโครงการได้จัดตกแต่งและเปิดให้เข้าชมได้ ยูนิตทางด้านซ้ายเป็น Sale Gallery ปัจจุบันของโครงการ ส่วนยูนิตทางด้านขวาจะเป็นบ้านตัวอย่างซึ่งเป็นบ้านเปล่าของจริงครับ

เริ่มจากทางเข้าบ้าน มีความกว้าง 5 m. สามารถจอดรถได้ 2 คัน ของจริงเราจะได้เป็นรั้วเตี้ยบานพับ 2 ชั้น สีดำ

ก่อนทางขึ้นบ้านจะเป็นชานพักขนาด 60 cm. ยาวตลอดความกว้างของตัวบ้าน ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. เวลาถอดหรือใส่รองเท้าจะได้ไม่เลอะ

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม Power Coat สีขาว กระจกสีเขียวตัดแสงหนา 5 mm. สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ทาง ธรณีประตูยกสูงประมาณ 10 cm. ช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำฝนกระเด็นเข้าสู่ตัวบ้าน

หน้าตาของมือจับและตัวล็อคของบ้านประตู มีดีไซด์โค้งมน จับถนัดมือ ใช้งานสะดวก

เมื่อเข้ามาภายในส่วนแรกเราจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น มองตรงเข้าไปจะเห็นพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่ครัว และประตูกระจกบานเลื่อนอีกชุดหนึ่งซึ่งสามารถเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านหลังได้ พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังทั้งหมดที่ได้จะได้เป็นผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าก็จะได้แบบฉาบเรียบทาสี มีความสูงจากพื้นที่ถึงฝ้า 2.7 m.

ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 m. สามารถเลือกซื้อทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วมาดูได้

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ก็ได้เหมือนกัน

หันมาทางซ้ายเราจะเจอกับห้องน้ำ ซึ่งของจริงจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป UPVC สีขาว และพื้นที่ครัว ซึ่งของจริงจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ และต่อท่องานระบบต่างๆเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน

ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room คือมีเฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ ส่วนกระจกเงาเราจะได้เป็นกระจกบานใหญ่เต็มผนังแบบนี้เลยครับ และผนังห้องน้ำโดยรอบจะกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 45 x 45 cm. เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด

พื้นที่ห้องน้ำมีขนาดประมาณนี้ สามารถใช้งานได้สะดวกสำหรับห้อง Powder Room มีการลดระดับลงมาจากพื้นบ้านภายนอกประมาณ 3.5 cm. เพื่อที่เวลาล้างห้องน้ำ น้ำจะได้ไม่ไหลย้อนออกไปเปียกเลอะภายนอก

อ่างล้างหน้ามีขนาด 55 x 45 cm. มีที่วางของที่ขอบอ่างเล็กน้อย และใช้โถสุขภัณฑ์ของ Cotto มีพื้นที่โดยรอบเหลือสามารถใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด

ติดสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน

ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวแสตนเลสมาให้ ฝ้าฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 จุด และพัดลมดูดอากาศอีก 1 ตัว

ต่อมาเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งเราจะได้เป็นครัวเปิด เมื่อ Built-in เคาน์เตอร์ครัวไปแล้วจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 1.8 m. สามารถใช้งานได้สะดวก

บริเวณผนังเหนือเคาน์เตอร์ครัวมีช่องหน้าต่างบานเลื่อน สามารถเปิดระบายอากาศ และให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในได้

และมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปใช้งานพื้นที่ซักล้างหลังบ้านได้ และยังสามารถเปิดระบายอากาศพร้อมดึงแสงธรรมชาติเข้ามายังภายในได้อีกด้วย

หน้าตาของที่จับและตัวล็อคประตูกระจกบานเลื่อนจะเป็นลักษณะเซาะร่องธรรมดาแบบนี้ ซึ่งแตกต่างจากประตูทางเข้าหน้าบ้าน

พื้นที่หลังบ้านจะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบแบบ On Ground สามารถใช้งานเป็นลานซักล้าง หรือต่อเติมเป็นครัวไทยด้านนอก หรือจะปลูกต้นไม้ทำสวนก็ได้ครับ

ถ่ายย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จะเห็นได้ว่าประตูกระจกบานเลื่อนนี้ช่วยดึงแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาทำให้ภายในบ้านสว่างได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ และเมื่อเปิดประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลังแล้ว ลมจะโกรกและมีอากาศถ่ายเทดีมากครับ

ก่อนขึ้นชั้นสองจะพามาดูบริเวณหลังทีวีจะเป็นห้องเก็บของ ซึ่งประตูของจริงที่ได้นั้นจะเป็นไม้อัดยางทาสีขาว

บันไดทางขึ้นจะอยู่ทางด้านหน้าของตัวบ้าน โดยบันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ผิวบันไดเป็นไม้สำเร็จรูป ผิวขัดเรียบ ทาสียูรีเทน

ลักษณะบันไดจะเป็นขั้นโดยไม่มีชานพัก มีความกว้าง 1 m. ลูกตั้ง 19 cm. และลูกนอน 25 cm. พร้อมด้วยมีช่องหน้าต่างบาน Fixed ที่ช่วยดึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามา ทำให้บริเวณทางขึ้นบันไดสว่างเหมาะกับการใช้งานมากขึ้น

ราวบันไดสูงจากพื้นประมาณ 1 m. เป็นไม้สำเร็จรูป ผิดขัดเรียบ พร้อมทาสียูรีเทน

เมื่อขึ้นมาบนชั้นสองจะพบกับโถงบันได มีประตูเล็กๆทางด้านซ้ายเป็นประตูห้องเก็บของสำหรับชั้นที่ 2 นี้

ซึ่งข้อดีของการมีตู้เก็บของบริเวณนี้นอกจากจะเป็นการใช้พื้นที่ว่างใต้บันไดให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังช่วยในเรื่องของการอยู่อาศัยสำหรับพื้นที่ชั้นบนเช่น ใช้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ สำหรับห้องชั้นบนได้แก่ ไม้กวาด ไม้ถูพื้น และเครื่องดูดฝุ่น ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องแบกอุปกรณ์ทำความสะอาดหนักๆ เหล่านี้ขึ้น-ลงบ้านหลายชั้น

หันกลับมาทางฝั่งด้านหน้าของตัวบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งภายในมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง เพราะต้องการออกแบบให้ห้องนี้รู้สึกเหมือนอยู่ Penthouses พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 mm. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m. ซึ่งของจริงเราจะได้เป็นห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์นะ

ถ่ายอีกมุมหนึ่งของห้องจะเห็นช่องแสง 2 จุด ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามา ซึ่งทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

บริเวณส่วนหน้าของบ้านมีมุมอเนกประสงค์ที่น่าสนใจ ซึ่งจะได้รับวิวและแสงธรรมชาติจากช่องแสงขนาดใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง เหมาะที่จะใช้เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัว หรือมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือก็เหมาะดี

พื้นที่ใช้สอยของมุมอเนกประสงค์มีความกว้างประมาณ 2.4 m. พอจะวางโต๊ะทำงาน หรือโซฟาขนาดเล็กได้  และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับทำเป็นชั้นวางของหรือตู้หนังสือเล็กๆได้อีกด้วย

ทางด้านซ้ายเป็นพื้นที่ระเบียง มีขนาด 2.35 x 1.55 m. มีราวกันตกสูง 1 m. สามารถเปิดออกไปใช้งานได้

ด้านบนสามารถแขวน Condensing unit ได้ด้วย ผนังด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า และมีครีบผนังยื่นออกมาจากกำแพงเล็กน้อย ช่วยบังสายตาเมื่อแขวน Condensing unit ซึ่งเวลามองจากภายนอกจะดูเรียบร้อยมากขึ้น

ถ่ายย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จะมีประตูกระจกฝ้าบานเลื่อนซึ่งเป็น Walk in closet และมีพื้นที่ห้องน้ำอยู่ด้านในสุด

ภายใน Walk in closet ของจริงเราจะได้เป็นห้องโล่งๆ แต่เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มทั้งห้องแบบนี้ และยังสามารถ Built โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อไว้แต่งตัวได้ด้วย ส่วนทางเข้าห้องน้ำนั้นเราจะได้เป็นประตูสำเร็จรูป UPVC สีขาว ครับ

พื้นที่ Walk in closet เมื่อ Built-in ตู้เสื้อผ้าแล้วจะมีพื้นที่เหลือกว้างประมาณ 1.55 m. สามารถใช้เดินผ่านและยืนแต่งตัวได้สะดวก

พื้นที่ส่วนสุดท้ายของ Master Bedroom คือมีห้องน้ำในตัว แยกระหว่างพื้นที่ส่วนแห้งและพื้นที่ส่วนเปียกออกจากกันอย่างชัดเจน เริ่มต้นเราจะพบกับพื้นที่ใช้งานส่วนแห้งก่อน ซึ่งเราจะได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า Top หินแกรนนิต และกระจกเงาบานใหญ่เต็มผนังแบบนี้

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 cm. และตรงส่วนแห้งมีขนาดพื้นที่ใช้งานกว้างประมาณ 80 cm. สามารถยืนใช้งานได้สะดวก

อ่างล้างหน้าของ Cotto มีขนาดประมาณ 60 x 45 cm. เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาดใหญ่และยาว สามารถวางของได้เยอะเลยทีเดียว ซึ่งทางด้านขวาจะมีปลั๊กไฟสำหรับเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่น ไดร์เป่าผม

เมื่อหันหลังกลับมามองเข้าไปภายในตัวห้องน้ำจะเป็นพื้นที่รูปตัว L ยาวเข้าไปด้านใน

พื้นที่โถสุขภัณฑ์ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 1 x 0.9 m สามารถใช้งานได้สะดวก ติดสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน ด้านหลังมีขอบผนังใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้

พื้นที่สุดท้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำ ขนาดประมาณ 1 x 1.2 m. และมีการลดระดับจากพื้นห้องน้ำอีกประมาณ 3.5 cm. ซึ่งทางโครงการไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะ

โครงการติดตั้ง Hand Shower สามารถปรับระดับความสูงและแรงดันน้ำได้ พร้อมทั้งมี Junction box สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้ด้วย

มีหน้าต่าง 2 ด้าน เป็นกระจกฝ้าแบบนี้ ช่วยดึงแสงภายนอกเข้ามาทำให้ภายในห้องน้ำสว่าง ทางด้านซ้ายเป็นบานกระทุ้ง ส่วนทางด้านขวาเป็นบานเลื่อน สามารถเปิดระบายอากาศได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้เกิด Ventilation ที่ดี อากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยลดความชื้นภายในห้องน้ำ

ต่อไปเราจะขึ้นบันไดไปชั้นที่สามกัน โดยบันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ผิวบันไดเป็นไม้สำเร็จรูป ผิวขัดเรียบ ทาสียูรีเทน เช่นเดียวกับชั้นล่าง และติดราวจับไว้ทางฝั่งซ้ายมือ

เป็นบันไดแบบตัว U จะเห็นได้ว่าไม่มีชานพักเลย ที่ทำแบบนี้เพื่อต้องการประหยัดเนื้อที่บันไดให้มากที่สุด ซึ่งทำให้ต้องใช้งานบันได้ด้วยความระมัดระวังกันหน่อยนะครับ

บริเวณโถงบันไดจะมีช่องแสงช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้โถงบันไดสว่างและใช้งานสะดวกมากขึ้น

บนชั้นที่สามนี้จะมีพื้นที่โถงบันไดค่อนข้างกว้าง ขนาดประมาณ 1.7 x 3 m. และมีประตูทางเข้า 3 ห้อง ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน กับ 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 mm. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m.

เรามาเริ่มที่ห้องแรกทางซ้ายมือกันก่อน เป็นห้องนอนเล็กบริเวณหลังบ้าน ภายในห้องมีขนาดพื้นที่สามารถวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต – 5 ฟุตได้ มีช่องหน้าต่างบานเลื่อน สามารถเปิดระบายอากาศและช่วยดึงแสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้

หน้าต่างบานเลื่อน เมื่อเปิดออกมาแล้วจะพบว่ามีชานระเบียงสามารถวาง Condensing unit และมีพื้นที่ให้ช่างปีนออกไปซ่อมได้สะดวก

ห้องนอนเล็กอีกห้องจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งภายในห้องจะมีพื้นที่มากกว่าห้องนอนที่อยู่ด้านหลังของตัวบ้านเล็กน้อย

หน้าต่างบริเวณด้านหน้าเป็นแบบ Bay Window ทำให้สามารถชมวิวในมุมมองที่กว้างมากขึ้น

หน้าต่างทางซ้ายมือเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ส่วนหน้าต่างทางขวามือก็สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ทำให้ห้องนี้มี Ventilation ที่ดี และมีระเบียงด้านนอกที่สามารถวาง Condensing unit ได้ แต่ไม่สามารถออกไปใช้งานได้นะ

ถ่ายรูปย้อนกลับมาอีกฝั่งของตัวห้อง จะเห็นได้ว่าห้องตัวอย่างได้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง โดยมีพื้นที่เหลือสามารถยืนแต่งตัวหน้าตู้ได้สะดวก ซึ่งของจริงเราจะได้เป็นห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์นะ

ส่วนสุดท้ายเป็นห้องน้ำ ซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่าง 2 ห้องนอนเล็ก ภายในมีฟังก์ชั่นมาตรฐาน ให้กระจกเงาบานใหญ่มาให้เกือบเต็มผนังแบบนี้ พื้นและผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิค ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3 m.

พื้นที่การใช้งานในห้องน้ำมีขนาดประมาณนี้ สามารถใช้งานได้สะดวก พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจากพื้นด้านนอก 3.5 cm. เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมและกระเด็นออกไปเลอะเทอะข้างนอก

ฟังก์ชั่นสุขภัณฑ์มาตรฐาน ประกอบไปด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมสายชำระและกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน ขอบผนังด้านหลังสามารถวางของได้เล็กน้อย

ขนาดพื้นที่อาบน้ำมีประมาณ 1.6 x 0.8 m. และมีการลดระดับพื้นลงอีกประมาณ 3.5 cm. โดยโครงการจะไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วยนะ

โครงการติดตั้ง Hand Shower สามารถปรับระดับความสูงและแรงดันน้ำได้ พร้อมทั้งมี Junction box สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้ด้วย

ทางด้านขวาติดตั้งราวแขวนผ้าสแตนเลต 1 จุด และด้านบนเหนือพื้นที่อาบน้ำมีช่องหน้าต่างสามารถเปิดระบายอากาศและให้แสงสว่างภายนอกช่วยส่องเข้ามาภายในห้องน้ำได้

บ้านตัวอย่างแบบที่สองคือ แบบ Privet เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 186 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.5 ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีขนาดที่ดินมาตรฐานเริ่มต้น 20 ตารางวา มีจำนวนทั้งหมด 19 ยูนิต

พื้นที่ส่วนแรกเป็นพื้นที่หน้าบ้าน ประตูรั้วของบ้านเป็นรั้วเตี้ยแบบบานพับ 2 ชั้น สามารถจอดรถได้ 2 คัน มีชานพักเท้ากว้าง 60 cm. ยาวตลอดแนว ประตูทางเข้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน ซึ่งเมื่อเข้ามาชั้นแรกของตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ครัวที่ได้เป็นครัวเปิด มีห้องน้ำที่ชั้นล่าง 1 ห้อง เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำ พร้อมห้องเก็บของใต้บันได ส่วนซักล้างด้านหลังมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปใช้งานได้เหมือนกับบ้านตัวอย่างแบบแรกทุกอย่าง มีเพิ่มเติมคือพื้นที่แต่ละส่วนจะมีขนาดความกว้างที่เพิ่มมากขึ้น

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะแตกต่างจากบ้านตัวอย่างแรกคือ เราจะเจอกับโถงบันไดเป็นทางยาวและมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง กับห้องน้ำอีก 1 ห้องซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอน 2 ห้องที่อยู่ชั้นนี้ ห้องน้ำมีฟังก์ชั่นที่แปลกคือมีการแยกฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน และมีประตูกระจกบานเลื่อนตรงโถงบันไดหน้าบ้านสามารถเปิดออกไปใช้งานได้

ถัดขึ้นมาชั้นที่สาม จะเจอกับชานพักเล็กๆก่อนจะถึงห้อง Master Bedroom ซึ่งภายในค่อนข้างกว้างขวาง มีห้องน้ำที่แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งและ Walk in closet ในตัว รวมถึงมีระเบียงส่วนตัวอยู่ทางหน้าบ้าน สามารถเปิดออกไปใช้งานได้

ภาพรวมหน้าตาของแบบบ้าน Privet ของจริงนั้นยูนิตโซนที่อยู่ด้านหน้าโครงการจะได้เป็นระแนงไม้สีขาวหน้าตาแบบนี้เลยครับ ส่วนยูนิตมาตรฐานที่อยู่ด้านในจะไม่มีระแนงไม้สีขาวแบบนี้ให้นะ ซึ่งบ้านหลังซ้ายมือเป็นบ้านตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งเอาไว้ให้ดู ส่วนบานหลังขวามือเป็นตัวอย่างบ้านเปล่าจริงที่โครงการเปิดให้ชมครับ

เริ่มจากบริเวณทางเข้าด้านหน้าของตัวบ้าน มีขนาดความกว้าง 5.5 m. สามารถจอดรถได้ 2 คัน และได้รั้วเตี้ยบานพับ 2 ชั้น สีดำ เหมือนบ้านเปล่าตัวอย่างหลังทางขวามือเลยครับ

ก่อนทางขึ้นบ้านจะเป็นชานพักขนาด 60 cm. ยาวตลอดความกว้างของตัวบ้าน ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. เวลาถอดหรือใส่รองเท้าจะได้ไม่เลอะ

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม Power Coat สีขาว กระจกสีเขียวตัดแสงหนา 5 mm. สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ทาง ธรณีประตูยกสูงประมาณ 10 cm. ช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำฝนกระเด็นเข้าสู่ตัวบ้าน

หน้าตาของมือจับและตัวล็อคของบ้านประตู มีดีไซด์โค้งมน จับถนัดมือ ใช้งานสะดวก

เมื่อเข้ามาภายในส่วนแรกเราจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น มองตรงเข้าไปจะเห็นพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่ครัว และประตูกระจกบานเลื่อนอีกชุดหนึ่งซึ่งสามารถเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านหลังได้ พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังทั้งหมดที่ได้จะได้เป็นผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าก็จะได้แบบฉาบเรียบทาสี มีความสูงจากพื้นที่ถึงฝ้า 2.7 m. เหมือนกับในบ้านเปล่าตัวอย่างเลย

ระยะดูทีวีประมาณ 3.6 m. สามารถเลือกซื้อทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วมาดูได้

พื้นที่ระหว่างโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหารจะมีปลั๊กไฟอยู่ด้วย สามารถใช้งานระหว่าง 2 พื้นที่ได้สะดวก

สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้แบบนี้ มีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านด้านข้างได้สะดวก และโต๊ะยังอยู่ใกล้กับประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งได้รับแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา เหมาะสำหรับใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์นั่งทำงานอ่านหนังสือได้ด้วย โดยภาพบ้านเปล่าที่ถ่ายมาประกอบนั้นจะเป็นแปลงมุม จึงทำให้มีช่องหน้าต่างเพิ่มขึ้นทางด้านข้างครับ

หันมาทางขวาจะเจอช่องผนังหน้าตาแปลกๆอยู่กลางบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างได้ Built เป็นตู้เก็บของและที่วางตู้เย็นเอาไว้ให้ดู แต่ในความเป็นจริงแล้วเราอาจไม่สามารถวางตู้เย็นไว้จุดนี้ได้ เนื่องจากในช่องนี้ไม่มีปลั๊กไฟสำหรับตู้เย็น อาจต้องย้ายตู้เย็นไปตั้งไว้ตรงครัวแทน และ Built-in ช่องนี้ให้เป็นตู้เก็บของจะเหมาะสมกว่า โดยช่องนี้มีขนาดประมาณ 80 cm.

หันมาทางด้านซ้ายจะเจอพื้นที่ครัว ซึ่งเราจะได้เป็นพื้นที่ครัวเปิดแบบนี้

ของจริงเราจะได้เป็นพื้นที่เปล่า ซึ่งทางโครงการจะต่อท่องานระบบต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อย โดยเราสามารถเอาไอเดียจากบ้านตัวอย่างมา Built-in ได้ หรือถ้าใครอยากได้เป็นพื้นที่ครัวปิดก็สามารถ Built ผนังปิดได้เลย

เมื่อ Built เคาน์เตอร์ครัวแล้ว จะมีพื้นที่ทำครัวเหลืออยู่ประมาณ 1 x 1.9 m. สามารถใช้งานได้สะดวก

มีช่องหน้าต่างบานเลื่อน ช่วยดึงแสงสว่างภายนอกเข้ามาและยังสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งเราจะได้เป็นประตูบานสำเร็จรูป UPVC สีขาว

ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room คือมีเฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ ส่วนกระจกเงาเราจะได้เป็นกระจกบานใหญ่เต็มผนังแบบนี้เลยครับ และผนังห้องน้ำโดยรอบจะกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 45 x 45 cm. เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาจากพื้นบ้านประมาณ 3.5 cm. เพื่อที่เวลาล้างห้องน้ำ น้ำจะได้ไม่ไหลย้อนออกไปเปียกเลอะภายนอก ขนาดพื้นที่ห้องน้ำประมาณ 1.4 x 1.55 m. สามารถใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัดครับ

สุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นของ Cotto ทั้งหมด ติดสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระมาให้ มีพื้นที่ด้านข้างใช้งานได้สะดวก

ส่วนประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปใช้งานพื้นที่ซักล้างหลังบ้านได้ และยังสามารถเปิดระบายอากาศพร้อมดึงแสงธรรมชาติเข้ามายังภายในได้อีกด้วย

หน้าตาของที่จับและตัวล็อคประตูกระจกบานเลื่อนจะเป็นลักษณะเซาะร่องธรรมดาแบบนี้ ซึ่งแตกต่างจากประตูทางเข้าหน้าบ้าน

พื้นที่หลังบ้านจะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบแบบ On Ground สามารถใช้งานเป็นลานซักล้าง หรือต่อเติมเป็นครัวไทยด้านนอก หรือจะปลูกต้นไม้ทำสวนก็ได้ครับ

ถ่ายย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จะเห็นได้ว่าประตูกระจกบานเลื่อนนี้ช่วยดึงแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาทำให้ภายในบ้านสว่างได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ และเมื่อเปิดประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลังแล้ว ลมจะโกรกและมีอากาศถ่ายเทได้ดี

ก่อนขึ้นชั้นสอง บริเวณหลังทีวีจะเป็นห้องเก็บของ ซึ่งประตูของจริงที่ได้นั้นจะเป็นไม้อัดยางทาสีขาว

บันไดทางขึ้นจะอยู่ทางด้านหน้าของตัวบ้าน โดยบันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ผิวบันไดเป็นไม้สำเร็จรูป ผิวขัดเรียบ ทาสียูรีเทน

ลักษณะบันไดจะเป็นขั้นโดยไม่มีชานพัก มีความกว้าง 1 m. ลูกตั้ง 19 cm. และลูกนอน 25 cm. พร้อมด้วยมีช่องหน้าต่างบาน Fixed ที่ช่วยดึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามา ทำให้บริเวณทางขึ้นบันไดสว่างเหมาะกับการใช้งานมากขึ้น

ราวบันไดสูงจากพื้นประมาณ 1 m. เป็นไม้สำเร็จรูป ผิดขัดเรียบ พร้อมทาสียูรีเทน

โถงบันไดชั้นสองจะเป็นแนวยาวขนานไปกับแนวบันได มีห้องทั้งหมด 3 ห้อง ประกอบด้วยห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำตรงกลางอีก 1 ห้อง ซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้งสอง พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 mm. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.7 m.

เริ่มต้นที่ห้องแรกที่ขึ้นบันไดมาแล้วเจอ จะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่บริเวณทางหลังบ้าน มีพื้นที่สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต – 5 ฟุตได้ และมีพื้นที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีหรือติดทีวีแขวนผนังได้

ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้อง เป็นพื้นที่ที่มีช่องหน้าต่างสามารถเปิดระบายอากาศและช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ มุมนี้จึงเหมาะเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไว้สำหรับทำงานอ่านหนังสือได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและเป็นพื้นที่แต่งตัวก็เหมาะดี ซึ่งภาพบ้านเปล่าที่นำมาประกอบเป็นแปลงมุม จึงทำให้มีช่องหน้าต่างด้านข้างเพิ่มขึ้นอีก 1 ช่องครับ

ส่วนห้องนอนเล็กห้องที่สองจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน และมีขนาดที่เล็กกว่าห้องนอนเล็กที่อยู่หลังบ้านเล็กน้อย แต่มีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า สามารถจัดฟังก์ชั่นการใช้งานได้ง่ายกว่า

สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยที่มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือสามารถวางชั้นวางทีวีที่ปลายเตียงได้ และยังได้ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่จากพื้นจนเกือบถึงฝ้า ช่วยดึงแสงภายนอกเข้ามาภายใน และสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย

ถ่ายย้อนกลับมาให้ดูอีกฝั่งหนึ่งของห้อง สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยมีพื้นที่เหลือสามารถยืนแต่งตัวได้สะดวกครับ

ส่วนห้องสุดท้ายคือห้องน้ำซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่างสองห้องนอน ซึ่งมีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกกับพื้นที่ส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน โดยทางทีมงานได้ถ่ายรูปจากบ้านตัวอย่างและรูปจากบ้านเปล่ามาเทียบให้ดูครับว่า ห้องน้ำชั้นนอกซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งนั้นเราจะได้เป็นช่องประตูโล่งๆไม่มีประตูกั้นแบบนี้จริงๆครับ

พื้นที่ส่วนแห้งด้านนอกเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และพื้นที่ส่วนเปียกด้านในจะเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งจะมีประตูกั้นระหว่างพื้นที่ทั้งสองแยกออกจากกันอีกชั้นหนึ่ง

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 1.2 x 0.9 m. (ไม่รวมพื้นที่ใต้เคาน์เตอร์) สามารถยืนใช้งานได้สะดวก พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 45 x 45 cm. เหมาะกับการใช้งาน มีการลดระดับลงจากพื้นโถงบันได และมีท่อระบายน้ำ ติดตั้งอยู่ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า โดยออกแบบพื้นให้มีความลาดเอียดไปทางท่อน้ำ ทำให้น้ำไม่เจิ่งนองบนพื้นที่นี้

เคาน์เตอร์อ่าง Top หินแกรนนิต มีขนาดความกว้าง 60 cm. สามารถวางของได้เยอะพอสมควร อ่างเป็นของยี่ห้อ Cotto ติดกระจกเงาบานใหญ่เต็มผนังมาให้แบบนี้และมีปลั๊กไฟสามาถใช้เสียบพวกไดร์เป่าผมได้

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกภายในประกอบไปด้วยพื้นที่อาบน้ำเป็น Hand shower และโถสุขภัณฑ์ ของ Cotto

พื้นที่ส่วนเปียกมีขนาดประมาณ 1.9 x 1.8 m. มีการลดระดับพื้นลงมาจากพื้นที่ส่วนแห้งประมาณ 3.5 cm. และทำเป็นพื้นให้มีความลาดเอียงมายังท่อระบายน้ำ ทำให้สามารถล้างทำความสะอาดห้องน้ำได้

ฟังก์ชั่นห้องแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่อาบน้ำซึ่งมีขนาดประมาณ 0.8 x 1.8 m. กับพื้นที่โถสุขภัณฑ์ซึ่งติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน

ส่วนอาบน้ำจะได้เป็น Hand Shower สามารถปรับระดับความสูงและแรงดันน้ำได้ พร้อมทั้งมี Junction box สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้ และทางด้านขวายังติดตั้งที่แขวนผ้าเช็ดตัวเอาไว้อีก 1 จุด

ก่อนขึ้นไปยังชั้นที่สาม บริเวณโถงบันไดหน้าบ้านจะมีประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งสามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้ สามารถเปิดระบายอากาศและช่วยดึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาทำให้ภายในโถงบันไดสว่างและไม่อึดอัด ใช้งานได้ดี

ที่มุมขวาด้านบนติดตั้งแผงควบคุมไฟฟ้าของตัวบ้านเอาไว้ที่จุดนี้ด้วยครับ

ส่วนภายนอกระเบียง จะมีความกว้างประมาณ 70 cm. มีธรณีประตูยกพื้นสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนกระเด็นหรือไหลซึมเข้าสู่ตัวบ้าน และติดตั้งไฟส่องสว่างไว้ตรงผนังด้านข้างของระเบียง

ขึ้นบันไดมาด้านบนจะเป็นบันไดตรงยาวขึ้นมามีชานพักบริเวณหน้าประตูห้องเล็กน้อย ซึ่งนอกจากจะมีช่องแสงจากประตูระเบียงที่ชั้นสองเมื่อสักครู่แล้ว ยังมีช่องแสงอีกหนึ่งจุดทางด้านบน ซึ่งเป็นกระจกบาน Fixed บริเวณระเบียงของห้อง Master Bedroom

เมื่อเข้ามาภายในห้อง Master Bedroom จะพบกับพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ และสามารถจัดฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลาย พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 mm. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาลี และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m.

มีช่องหน้าต่างจากทางด้านหน้าของตัวบ้านช่วยให้แสงสว่างจากภายนอกส่องผ่านเข้ามา และสามารถเปิดระบายอากาศได้  ส่วนประตูกระจกทางด้านซ้ายเป็นประตูที่เปิดออกไปสู่ระเบียงภายนอก

โดยมุมข้างหน้าต่างเหมาะที่จะทำเป็นมุมพักผ่อนหรือมุมอเนกประสงค์ที่สามารถนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ เพราะได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน แล้วยังสามารถ Take view ภายนอกได้อีกด้วย

ประตูระเบียงออกแบบให้เป็นประตูกระจกแบบบานสวิงเปิดออกสู่ภายนอก เข้ากันกับชุดหน้าต่างเข้ามุม Bay Window ทางขวา ที่ช่วยเพิ่มมุมมองภายนอกและช่วยดึงแสงเข้ามาสู่ภายในมากขึ้น

ที่เปิดประตูเป็นแบบก้านโยก สามารถล็อคได้จากข้างใน

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 2.1 x 1.4 m. สามารถออกมาใช้งานเป็นมุมพักผ่อนหรือปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆได้ ส่วนผนังกระจกด้านซ้ายคือช่องแสงที่เรามองเห็นจากโถงบันไดตอนขึ้นมาที่ชั้นสาม ข้อดีของการที่กระจกอยู่ตรงนี้คือ เราสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยตัวเองนั่นเอง

กลับเข้ามาในห้องนอน ถ่ายย้อนอีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นทางไป Walk in closet ซึ่งของจริงเราจะได้เป็นประตูกระจกฝ้าบานเลื่อนตามแบบบ้านเปล่าเลยครับ

โดยบ้านตัวอย่างได้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนัง สามารถเก็บของได้เยอะเลยทีเดียว นอกจากนี้ยัง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้สำหรับแต่งหน้าภายในนี้ได้อีกด้วย ใครจะเอาไอเดียนี้ไปใช้ในการแต่งบ้านก็ได้นะ เพราะเราจะได้เป็นห้องเปล่าๆโล่งๆ

พื้นที่ภายใน Walk in closet เมื่อวางตู้เสื้อผ้าโดยรอบขนาดความกว้างประมาณ 60 cm. แล้ว จะมีพื้นที่เหลือประมาณ 1.7 x 2.7 m. สามารถยืนแต่งตัวพร้อมกันได้สะดวกครับ

ส่วนทางด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันกับพื้นที่แต่งตัว ซึ่งของจริงจะติดตั้งเป็นประตูบานสำเร็จรูป UPVC สีขาว มาให้ด้วยนะ

ภายในห้องน้ำมีการแยกพื้นที่การใช้งานส่วนเปียกกับพื้นที่การใช้งานส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจนเช่นเคย โดยพื้นที่ส่วนแห้งด้านนอกจะได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าและกระจกเงาบานใหญ่ยาวตลอดแนวผนังแบบนี้

พื้นที่ส่วนแห้งมีความกว้างประมาณ 1 m. สามารถยืนใช้งานได้สะดวก พื้นมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อย และปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 45 x 45 cm. ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

เคาน์เตอร์ครัว Top หินแกรนนิต มีความกว้าง 60 cm. สามารถวางของได้เยอะ อ่างล้างหน้าเป็นของ Cotto

ส่วนสุดท้ายจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก เริ่มต้นที่โถสุขภัณฑ์ของ Cotto ติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระมาให้ มีพื้นที่ด้านข้างเหลือเล็กน้อยสามารถใช้งานได้สะดวก ด้านหลังมีขอบผนังสามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้

อีกด้านหนึ่งเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1 x 1.2 m. ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ และพื้นจะมีการลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้งเล็กน้อย และออกแบบให้มีความลาดเอียงให้น้ำไหลไปทางท่อน้ำด้วย

จุดเด่นของห้องน้ำห้องนี้คือเราจะได้ช่องหน้าต่างซึ่งสามารถเปิดระบายอากาศได้ถึง 2 ฝั่งแบบนี้ ทำให้แสงภายนอกส่องเข้ามาทำให้ห้องน้ำสว่างและยังทำให้เกิด Ventilation ที่ดี ห้องน้ำถูกสุขอนามัยอีกด้วย โดยหน้าต่างด้านซ้ายจะเป็นบานกระทุ้ง ส่วนทางด้านขวาจะเป็นบานเลื่อน และได้เป็นกระจกฝ้าแบบนี้เลยครับ

สุดท้ายปลั๊กและสวิตซ์ไฟจะเป็นของ Schneider หน้าตาแบบนี้ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 June 2018

  • แบบบ้าน Inner แปลนที่ Moo3 ที่ดิน 22.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ราคาปกติ 3.99 ล้านบาท ราคาพิเศษ 3.69 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น 3.49 ล้านบาท)
  • แบบบ้าน Inner แปลนที่ Moo7 ที่ดิน 23.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ราคาปกติ 3.99 ล้านบาท ราคาพิเศษ 3.69 ล้านบาท
  • แบบบ้าน Inner แปลนที่ Loo4 ที่ดิน 23.0 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ราคาปกติ 3.99 ล้านบาท ราคาพิเศษ 3.79 ล้านบาท
  • แบบบ้าน Inner แปลนที่ Voo1 ที่ดิน 34.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ราคาปกติ 5.59 ล้านบาท ราคาพิเศษ 5.19 ล้านบาท
  • แบบบ้าน Inner แปลนที่ Voo2 ที่ดิน 19.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ราคาปกติ 4.39 ล้านบาท ราคาพิเศษ 4.19 ล้านบาท
  • จอง 10,000 บาท และทำสัญญา 30,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ฟรีทุกค่าใช้จ่าย (ค่าจดจำนองและค่าประกันมิเตอร์น้ำ/ไฟ) สำหรับยูนิตโปรโมชั่นที่ร่วมรายการ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล Sixnature รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา 109 หรือถนนพระยาสุเรนทร์ โดยเข้ามาในซอยพระยาสุเรนทร์ 24 ประมาณ 90 m. ซึ่งบริเวณปากซอยมีวินมอไซค์, ร้านซักรีด, ร้านไปรษณีย์ และป้ายรถเมล์ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีเซเว่น, Lotus Express, ร้านค้า และร้านอาหาร เลยออกไปอีกหน่อยจะมีตลาดนัดกองหนุนซึ่งอยู่ในระยะที่เดินถึง นับว่าเป็นย่านชุมชนที่มีความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยเลยทีเดียว นอกจากนี้ทำเลแถวนี้ยังมีทั้งห้างสรรพสินค้า Fashion Island และมีคอมมูนิตี้มอล์อย่าง Amorini ,The Promenade อีกทั้งยังมี Hypermarket อย่าง Makro หรือ Tesco Lotus มีตลาดมีนบุรี ตลาดใหม่พระยาสุเรนทร์ และตลาดนัดกองหนุนอยู่ใกล้ๆด้วย นับว่าเรื่องอาหารการกิน และการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างสะดวกสำหรับทำเลนี้ มีโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทำกิจกรรมอย่าง สวนสยามหรือซาฟารีเวิร์ล ก็อยู่ไม่ไกลอีกด้วย

การเดินทางโดยใช้รถ สำหรับโครงการนี้นับว่าสะดวกเลยทีเดียว เนื่องจากถนนรามอินทราตอนปลายนี้สามารถมุ่งหน้าไปยังมีนบุรี เชื่อมต่อไปยังถนนเสรีไทย เพื่อไปลาดพร้าวหรือรามคำแหงได้ หรือภายในซอยพระยาสุเรนทร์เองก็ใช้เชื่อมต่อไปยังถนนปัญญาอินทรา เพื่อไปสายไหมหรือรังสิตก็ได้เช่นกัน ทางด่วนที่ใกล้ก็จะมีวงเเหวนกาญจนาภิเษก ที่ใช้ไปยังรังสิตหรืออยุธยาได้ ระยะทางจากโครงการไปยังวงแหวนกาญจนาประมาณ 5.5 กม.

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ โครงการตั้งอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ 24 ซึ่งหน้าปากซอยมีวินมอไซค์และป้ายรถเมล์อยู่ในระยะเดินถึงเพียง 90 m. เท่านั้น อีกทั้งถนนรามอินทรา 109 นี้ยังเป็นถนนเส้นหลักอีกเส้นหนึ่งซึ่งมีรถสาธารณะขับผ่านตลอดเวลา จึงเรียกแท็กซี่ได้ไม่ยากนัก นอกจากนี้ถนนหลักรามอินทรายังเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต ช่วงแคราย – มีนบุรี สามารถใช้เชื่อมต่อไปยังสายสีส้มที่สถานีมีนบุรี ที่ใช้เดินทางมาตลิ่งชันผ่านรามคำแหง เพชรบุรี สนามหลวงได้อีกด้วย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีบางชัน อยู่บริเวณหน้าปากซอยถนนพระยาสุเรนทร์ ห่างจากโครงการประมาณ 1.9 km. คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมใช้งานภายในปี 2563 เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วการเดินทางเพื่อเข้ามาในเมืองจะสะดวกมากยิ่งขึ้น

การออกแบบโครงการ โครงการ Sixnature รามอินทรา เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น บนที่ดินขนาด 14-1-12.6 ไร่ จำนวน 152 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบ บริเวณทางเข้าด้านหน้าติดถนนซอยพระยาสุเรนทร์ 24 ถนนของโครงการเป็นถนนหลักเส้นเดียวเป็นรูปตัว L ตามลักษณะที่ดินของโครงการ มีความกว้างประมาณ 11 – 12 m. ทำให้บ้านทุกยูนิตจะอยู่ติดกับถนนหลักของโครงการซึ่งมีความกว้างมากกว่าถนนซอยย่อยทั่วไป ข้อดีคือบริเวณหน้าบ้านจะไม่อึดอัดเพราะมีระยะห่างจากบ้านฝั่งตรงข้ามมากขึ้น

การออกแบบบ้าน ทาวน์โฮม 3 ชั้น ได้พื้นที่ใช้สอยถึง 3 ชั้น เหมาะกับครอบครัวที่กำลังขยับขยายและเน้นใช้พื้นที่ใช้สอย ซึ่งโครงการนี้ถือว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัว ชั้นล่างมีการออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยต่างๆเชื่อมต่อกัน เน้นความโปร่งโล่งไม่อึดอัด แต่ครัวได้เป็นครัวเปิด อาจไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจัง อาจแก้ด้วยการกั้นผนังเพิ่มเติม ส่วนพื้นที่ชั้นสองห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ทั้งชั้น ออกแบบให้เหมือน Penthouse มีฟังก์ชั่นครบจบในตัว ห้องน้ำมีการแบ่งแยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันอย่างชัดเจน และหน้าต่างภายในห้องน้ำยังสามารถเปิดระบายอากาศได้ถึง 2 ฝั่ง ทำให้อากาศถ่ายเทสะดวกช่วยลดความชื้นภายในห้องน้ำได้ดี บริเวณโถงบันไดทุกชั้นจะมีช่องแสง ทำให้บันไดสว่าง เหมาะแก่การใช้งาน ส่วนชั้นที่สองจะมีห้องเก็บของใต้บันไดอีก 1 จุด ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ใต้บันไดชั้น 2 ให้เกิดประโยชน์ได้ดี เอาไว้สำหรับเก็บของอุปกรณ์ทำความสะอาดชิ้นใหญ่ๆ ที่ต้องใช้ในพื้นที่ชั้นบนได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ระเบียงบริเวณของห้องต่างๆ สำหรับวาง Condensing unit และมีพื้นที่ให้ช่างสามารถปีนออกไปซ่อมได้สะดวก

วัสดุ ภายในบ้านได้มาตรฐาน พื้นชั้นล่างได้กระเบื้องแกรนิตโต้ และห้องน้ำได้กระเบื้องเซรามิค พื้นที่จอดรถเป็นซีเมนต์ปาดเรียบ ลานซักล้างเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบ ส่วนชั้น 2  เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 mm. ผนังได้เป็นฉาบเรียบ ทาสี ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสีเช่นกัน ตัวบันได้เป็นโครงสร้างเหล็ก ลูกตั้งและลูกนอนใช้ไม้สำเร็จรูปไม้สำเร็จรูป ผิวขัดเรียบ ทาสียูรีเทน ประตูหน้าต่างกรอบบานเป็น Power Coat สีขาว ให้ความเเข็งเเรงมากกว่าอลูมิเนียมทั่วไป กระจกสีเขียวตัดแสงหนา 5 mm. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดเป็นของ Cotto ประตูห้องน้ำเป็น UPVC สีขาว ไฟที่ได้มีทั้งแบบซาลาเปาและดาวน์ไลท์ ส่วนปลั๊กและสวิตไฟจะเป็นของ Schneider

สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย เข้าประตูรั้วโครงการเป็นแบบประตูเลื่อนอัตโนมัติโดยใช้ Key Card Access ระยะใกล้ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV ที่ Main Gate 2 จุด ถนนหลักของโครงการมีความกว้าง 11 – 12 เมตร ด้วยความขนาดความกว้างของถนนที่ค่อนข้างกว้างดังนั้นจึงค่อนข้างสะดวกสบายในการขับขี่และลดปัญหารถติดขัดหากมีเพื่อนบ้านจอดรถหน้าบ้าน สำหรับความสูงรั้วของโครงการอยู่ที่ 3 เมตร และ Facility ของโครงการจะประกอบไปด้วยฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาด 7 x 20 m. และพื้นที่สวนหย่อมบริเวณหัวมุมถนนตรงกลางโครงการขนาด 270.7 ตร.วา

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 3 – 5 ล้านบาท, 19 June 2018

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอย เงียบสงบ หาของกินง่าย ไปถนนหลักได้หลายสาย
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วประตูเลื่อนนอัตโนมัติ , Key Card ระยะใกล้, รปภ.หมู่บ้าน, CCTV , รั้วโครงการ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – เน้นพื้นที่ใช้สอย 3 ช้ัน แบ่งพื้นที่การใช้งานลงตัว ตัวบ้านได้แสงและถ่ายเทอากาศดี
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานทั่วไป เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละส่วน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ปลูกต้นไม้ใหญ่ตามแนวถนน , สวนสาธารณะในโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ได้ครบที่ต้องมี คลับเฮาส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ
  • 7.58 / 10.00 

BOTTOM LINE

Sixnature รามอินทรา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบ้านทาวน์โฮมย่านมีนบุรี หรือทำงานในย่านนี้ ทำเลชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์สำหรับการอยู่อาศัย ชอบบ้านที่อยู่ติดถนนหลักกว้างๆ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง หาบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอน โปร่งโล่ง ช่องแสงเยอะ ระบายอากาศดี มีงบประมาณ 4 – 6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 28,000 – 39,000 บาท