cover pleno

รีวิวฉบับที่ 830 วันนี้เราจะพาไปอัพเดตโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ติดถนนเลียบคลองสอง ใกล้ซาฟารีเวิร์ล กับโครงการ Pleno วงแหวน – รามอินทรา จาก AP ภายในเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 232 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ Sakura และ Himawari เข้าถึงได้จากถนนหลายเส้น อาทิ ถนนรามอินทรา ถนนคู้บอน ถนนหทัยราษฎร์ แล้วเข้าที่ถนนเลียบคลองสอง โครงการจะออกแบบได้ตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อแค่ไหน ลองไปชมพร้อมๆกันนะคะ

Facts @ 16 April 2015

  • Pleno วงแหวน – รามอินทรา (พลีโน่ วงแหวน – รามอินทรา)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY – MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : คันนายาว
  • เนื้อที่โครงการ 23-3-41.3 ไร่ จำนวน 232 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Himawara มีจำนวน 86 หลัง เนื้อที่ 18 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 106.9 ตารางเมตร
  • Sakura มีจำนวน 146 หลัง เนื้อที่ 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 124 ตารางเมตร
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 18 และ 20 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาทหรือ 132,800 บาท/ตารางวา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง กลางปี 2556
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2558
  • http://www.apthai.com/ทาวน์โฮม/pleno/pleno-วงแหวน-รามอินทรา/home/
  • โทร 1623

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.860101 ,100.703725

MAP โครงการ

ที่ตั้งของโครงการ Pleno วงแหวน – รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสองมุ่งหน้าถนนคู้บอนที่เป็นถนนยาวต่อเนื่องกัน โครงการอยู่ทางซ้ายมือ โดยอยู่ระหว่างจุดตัดถนนเลียบคลองสองกับถนนพระยาสุเรนทร์ และถนนปัญญาอินทรา ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดในระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตร คือทางขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ด่านจตุโชติ ใกล้กับทางเชื่อมไปยังวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก หรือทางพิเศษหมายเลข 9

MAP 1 MAP 3km

Pleno วงแหวน – รามอินทรา ตั้งอยู่ในเขตคันนายาว ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนเลียบคลองสอง เป็นทางเข้า-ออกทางเดียวของโครงการ โดยทางตะวันตกของถนนเลียบคลองสองต่อกับถนนคู้บอนที่ลอดใต้มอเตอร์เวย์ เป็นถนนเส้นที่ยาวต่อเนื่องกัน ส่วนฝั่งตะวันออกคือเส้นหทัยราษฎร์ที่มาจากเส้นสุวิทวงศ์-รามอินทราหรือสายไหม ความสามารถของทำเลไปได้ทั้งรังสิต ลำลูกกา รามอินทรา บางนา แต่ก็จะมีปัญหาเรื่องการจราจรค่อนข้างติดขัดที่ถนนเส้นใหญ่อย่างรามอินทราตลอดทั้งวัน แต่พอเข้ามาในถนนเส้นที่เล็กลง การเดินรถก็จะคล่องตัว เดินรถได้เรื่อยๆ

ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ ด่านรามอินทรา-อาจณรงค์มีจุดเชื่อมต่อไปยังวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก หรือถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สามารถไปได้โดยออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนเลียบคลองสอง ตรงไปเรื่อยๆเข้าถนนคู้บอน แล้วเลี้ยวขวาที่ทางลอดมอเตอร์เวย์ ตรงไปเรื่อยๆที่ถนนที่ขนานกันกับมอเตอร์เวย์แล้วเลี้ยวซ้ายที่เส้นเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์และวงแหวนตะวันออก จะเจอตด่านขึ้นทางด่วนอยู่ทางด้านหน้า ถ้าขึ้นเหนือ สามารถไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนเพชรบุรี  ส่วนถ้าไปทางตะวันตกบนทางด่วนจะผ่านแยกวัชรพลไปยังลาดพร้าวและพระรามสี่

MAP 2 MAP mass and places

สำหรับคนไม่ใช้รถ ในปัจจุบันยังไม่มีเส้นทางที่จะเข้าถึงตัวโครงการได้อย่างเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินต่างๆ แต่ในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูตลอดถนนรามอินทรา โดยสถานีใกล้เคียงก็จะมีตั้งแต่สถานีคู้บอน ที่เราสามารถลงจากสถานีเข้าถนนคู้บอนและยาวไปถึงถนนเลียบคลองสองได้ ส่วนสถานีวงแหวนตะวันออกจะอยู่ใกล้แยกปัญญารามอินทราที่ใกล้กับศูนย์การค้า และโรงพยาบาลต่างๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนพระยาสุเรนทร์ก็ได้ ส่วนการเรียกรถ Taxi แถวหน้าโครงการก็มีบ้าง แต่ถือว่าไม่ใช่ถนนที่เป็นเส้นทางหลัก แต่ก็เป็นถนนใหญ่ ส่วนพี่วิน รถตู้ สองแถวไม่ค่อยมีให้เห็นบนถนนเลียบคลองสอง

ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้มีพอสมควร ถ้าใกล้ๆเลยอย่างถนนเลียบคลองสอง ก็จะมีตลาดนัดแยกพระพรหมคลองสอง, Lotus Express ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชว์ห่วยทั่วไป แต่ถ้าไกลออกมาหน่อยในระยะขับรถก็จะเกาะกลุ่มกันอยู่ตามแนวถนนรามอินทราสองข้างทาง ร้านอาหารต่างๆให้เห็นเป็นระยะ พอให้เราได้พึ่งพาอาศัยได้ อย่าง The Promenade และ Fashion Island ใกล้กับจุดตัดวงแหวนตะวันออก และยังมีโรงพยาบาลขนาดกลางอยู่ในระยะไม่ไกล

MAP 3 MAP route

ส่วนเส้นทางที่เราจะพาไปกันในวันนี้คือเส้นทางหลักจากถนนรามอินทรา ที่มาจากหลักสี่ ตรงมาเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนคู้บอน ที่อยู่ก่อนจะถึงจุดรถติดแถวจุดตัดเส้นมอเตอร์เวย์ที่มีศูนย์การค้า ร้านอาหารเกาะกลุ่มกัน เข้าถนนคู้บอนมาเรื่อยๆ ลอดใต้ผ่านมอเตอร์เวย์ แล้วตรงมาเรื่อยๆเข้าถนนเลียบคลองสอง แล้ว U-turn ที่หน้าสำนักงานเขตคลองสามวา ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ

pleno-location-1 copy

เราเร่ิมต้นการเดินทางกันที่ถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรีเกือบถึงแยกรามอินทรา จะมีป้ายบอกทางคือตรงไปมุ่งหน้ามีนบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัชรพล ถ้าขึ้นสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายจะขึ้นวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก และถ้าขึ้นสะพานแล้วแยกขวาไปจะเป็นทางด่วนไปยังพระราม 9-เอกมัย หรือบางนา-ดาวคะนอง

pleno-location-2 copy

ขับมาเรื่อยๆจะถึงทางแยก ซ้ายมือจะเบี่ยงเพื่อเข้าต้นถนนวัชรพล ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าซอยรามอินทรา 47 ส่วนเราจะตรงไปตามถนนรามอินทราต่อไป ด้านหน้าจะมีทางขึ้นทางด่วนอยู่ซ้ายมือ

pleno-location-3 copy

ตรงมานิดเดียวทางซ้ายมือจะมีทางขึ้นทางวนรถเพื่อขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เดี๋ยวเราจะตรงไปลอดใต้ทางด่วนด้านหน้านะคะ ทางซ้ายมือใกล้ทางด่วนจะมีลานกิจกรรมอย่างสนามกีฬาที่ปูด้วยพื้นยาง

ผ่านทางด่วนมาก็ยังอยู่บนถนนรามอินทรากว้าง 10 เลน กั้นการเดินรถด้วยเกาะกลางที่มีไฟถนนและต้นไม้สูง ซอยทางซ้ายมือคือซอยรามอินทรา 57 ด้านหน้าจะมีสะพานลอย ป้ายรถเมล์อยู่เรื่อยๆตามระยะต่างๆ และมีรถสองแถวเดินอยู่ตามความยาวของถนนรามอินทรา

pleno-location-7 copy

ป้ายรถเมล์ตามระยะต่างๆ ซ้ายมือเป็นทางลัดเข้าสุขาภิบาล 5 ที่สามารถแยกออกไปยังถนนวัชรพลและถนนเพิ่มสิน

นอกจากนั้น บนถนนรามอินทรายังมีแยกไฟเขียวไฟแดงอยู่เรื่อยๆ อย่างด้านหน้าเป็นทางสามแยก เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 40

pleno-location-9 copy

ตรงมาเรื่อยๆจะมีป้ายบอกเส้นทางถ้าเบี่ยงซ้ายจะไปออกถนนคู้บอน แต่ถ้าตรงไปจะเข้ามีนบุรีหรือไปเข้าถนนกาญจนาภิเษก

pleno-location-10 copy

จะมีเส้นทางเบี่ยงด้านหน้า เราจะเบี่ยงซ้ายออกมาเพื่อเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าถนนคู้บอน ถ้าตรงไปขึ้นสะพานข้ามแยกจะยังอยู่บนถนนรามอินทราที่เป็นจุดตัดกับวงแหวนตะวันออกที่การจราจรติดขัด มีศูนย์การค้าและโรงพยาบาลกระจุกตัวกันอยู่อย่าง Fashion Island และ The Promenade

pleno-location-11 copy

เมื่อชิดซ้ายมาแล้ว เราจะเจอป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู้บอน เราก็จะทำตามอย่างว่าง่ายค่ะ จะเห็นว่ามีรถต่อแถวรอเลี้ยวขวาเข้าถนนนวมินทร์ที่ไปตัดกับถนนประเสริฐมนูกิจเยอะเลย

เลี้ยวซ้ายเข้ามาก็จะเป็นส่วนของตลาดที่มีทั้งที่ตั้งเป็นเต็นท์ และที่ขายอยู่ตรงชั้น 1 ของตึกแถว 3-4 ชั้น มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และพี่วินตั้งรกรากให้บริการอยู่ แท๊กซี่แถบนี้ก็เรียกง่ายดีค่ะ

ลึกเข้ามาก็จะเป็นซอยย่อย อย่างทางซ้ายมือก็จะเป็นซอยคู้บอนเลขคี่ เร่ิมต้นที่ซอย 1 ริมถนนคู้บอนก็ยังเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านบริการอย่างร้านแว่น ร้านขายทอง ร้านอาหาร ถนนคู้บอนกว้าง 4 เลน โดยสองข้างทางก็จะมีรถจอดส่งของ ซื้อของ ทำธุรกรรมแบงค์ต่างๆบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะเหลือเลนการเดินรถสะดวกอยู่เส้นทางละ 1 ช่อง

เข้ามาอีกก็จะมี BigC ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ขวามือก็เป็นร้านขายของทั่วไป ตรงเข้าไปก็จะเป็นซอยคู้บอนซอยย่อยเรื่อยๆจนไปถึงทางลอดใต้มอเตอร์เวย์

จะมีทางโค้งขวาเล็กน้อย

pleno-location-17 copy

ตรงมาจะเจอสามแยกที่ซ้ายมือจะเป็นซอยคู้บอน 27 ที่จะเป็นซอยใหญ่หน่อย เข้าไปจะเจอหมู่บ้านต่างๆ

เราตรงมาบนถนนคู้บอนเรื่อยๆ สองข้างทางก็จะมีทั้งพื้นที่ที่ได้รับการปรับปรุงโฉมเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น ยังดูใหม่ๆอยู่ และพื้นที่บางส่วนที่เป็นเจ้าของเดินก็เป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป

ไกลขึ้นมาอีกก็จะเริ่มเป็นที่ดินว่างเปล่างบ้าง ที่อยู่อาศัยประปราย

ตรงเข้ามาใกล้จะถึงทางลอดใต้มอเตอร์เวย์ จะเจอสถานีตำรวจคันนายาวอยู่ทางซ้ายมือ และสะพานข้ามคลองก่อนจะถึงวันคู้บอนทางซ้ายมือ

ข้ามสะพานมาจะเจอวัดคู้บอนที่ข้างๆจะเป็นโรงเรียนวัดคู้บอน เราจะตรงไปเรื่อยๆไปก่อนนะคะ

pleno location 22

มาถึงทางวนรถใต้มอเตอร์เวย์ที่ทำทางเหมือนจะเป็นวนเวียนขนาดใหญ่อยู่ใต้ทางยกระดับ เราจะเลี้ยวซ้ายตามทางกันที่ตรงนี้

pleno-location-23 copy

เหมือนป้ายทางขวามือที่เห็นในภาพ ทางวนรถจะมีขนาดใหญ่ และสามารถแยกออกไปยังเส้นทางต่างๆอย่างชิดซ้ายไปเรื่อยๆ ไม่วนรถใต้สะพานยกระดับ เรียบไปกับเส้นมอเตอร์เวย์เพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ที่ด่านจตุโชติได้ ส่วนทางไปโครงการ จะชิดซ้ายเข้าแถวเพื่อวนรถไปทางขวาลอดใต้มอเตอร์เวย์ค่ะ

pleno-location-24 copy

เมื่อเรามาอยู่เลนขวากันแล้ว เราก็จะเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าถนนคู้บอน มุ่งหน้าถนนเลียบคลองสอง การเดินรถตรงจุดนี้ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะจะมีรถทั้งอยากเข้าและอยากออกตรงจุดต่างๆ ถ้าเข้าผิดก็ต้องวนรถกลับมาตั้งสติวนกันอีกที แถมยังชะลอรถไม่ได้เพราะว่ามีรถคันข้างหลังและข้างๆจี้อยู่ด้วย

pleno-location-26 copy

ลอดผ่านใต้มอเตอร์เวย์กันมาแล้วก็จะมีทางแยกซ้าย-ขวาให้เลือกอีก เราจะเลือกที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู้บอน มุ่งหน้าถนนเลียบคลองสอง

pleno-location-27 copy

เลี้ยวขวาจากทางแยกมาก็จะมีป้ายบอกเส้นทางว่าถ้าเลี้ยวขวาอีกที นอกจากจะเข้าถนนเลียบคลองสองแล้ว ก็ยังสามารถไปถึงถนนพระยาสุเรนทร์และถนนหทัยราษฎร์ที่อยู่เลยไปอีกได้

pleno-location-28 copy

เราจะเลี้ยวขวาอีกทีตามป้ายเมื่อสักครู่นะคะ ส่วนถ้าเราตรงไปก็จะเป็นถนนเลียบมอเตอร์เวย์ไปเรื่อยๆ

ตรงมาบนถนนคู้บอนช่วงปลายๆก็จะมี Max Value แบบมีที่จอดรถ ที่ต่างจากร้านที่เห็นทั่วไปที่จะอยู่ใต้คอนโด เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ตรงมาเรื่อยๆก็ยังเป็นพื้นที่เรียบๆ ที่มีร้านขายอาหารบ้าง แปลงพื้นที่ว่างบ้าง มีจุดกลับรถบนถนนคู้บอนกว้าง 6 เลนแบบมีเกาะกลางคั่นบ้าง

pleno-location-33 copy

ด้านหน้าจะเป็นจุดต่อเนื่องระหว่างถนนคู้บอนและถนนเลียบคลองสอง ส่วนทางขวาจะเข้าถนนพระยาสุเรนทร์มุ่งหน้าถนนปัญญาอินทราที่สามารถไปเข้าถนนใหญ่รามอินทราได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายไปยังถนนพระยาสุเรนทร์ทางฝั่งเหนือ หัวมุมทางซ้ายจะคึกคักขึ้นมาหน่อย มีร้านขายอาหาร ร้านสะดวกซื้อ พี่วิน และตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง

เราตรงเข้ามาผ่านแยก ทางขวาจะเป็นทางเข้าโครงการบ้านจัดสรร ที่มีบ้านเดี่ยวอยู่ด้านใน และมีตึกแถวอยู่ส่วนหน้าโครงการ ส่วนทางขวาจะเป็นร้านแก๊ส และมีรถจอดอยู่ประปรายที่เลนซ้ายสุด

ตรงมาเรื่อยๆก็จะมีบ้านจัดสรรอีกโครงการทางขวามือ ที่นิยมตั้งโครงการแนวราบอยู่บนถนนเลียบคลองสองฝั่งมุ่งหน้าคู้บอนมากกว่ามุ่งหน้าถนนหทัยราษฎร์ก็เพราะใกล้เส้นทางที่ลัดเลาะไปถนนรามอินทราง่ายกว่า

ตรงมาอีกก็จะมีจุดกลับรถในระยะ 200 เมตร เราชิดซ้ายและจะกลับรถกันที่นี่ค่ะ

pleno-location-37 copy

จุดกลับรถแบบกลับได้ทั้งสองฝั่งของถนนเลียบคลองสอง

เมื่อกลับรถมาแล้วจะเจอสำนักงานเขตคลองสามวาอยู่ด้านหน้า มีรถจอดเพื่อมาทำธุระ และมีทางม้าลายอยู่ด้านหน้าด้วย

pleno-location-39 copy

ผ่านซอยเลียบคลองสอง 10 ที่กั้นสำนักงานเขตมา ก็จะเป็นทางเข้าโครงการ Pleno วงแหวน-รามอินทราอยู่ทางซ้ายมือ

ทางเข้าโครงการกันชัดๆอีกรูปหนึ่ง เราสามารถเลี้ยวเข้าไปสอบถามพี่ยามเพื่อเข้าไปชมบ้านตัวอย่างด้านในได้เลยค่ะ

MAP 5 MAP แปลงที่ดิน

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ บนถนนเลียบคลองสองกว้าง 3 เลน มุ่งหน้าถนนคู้บอน สองข้างทางของถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ทั้งที่เป็นทั้งพื้นที่ส่วนบุคคลและจัดสรร สลับกับทางเข้าหมู่บ้านหมู่บ้านจัดสรรแนวราบที่จับจองพื้นที่อยู่บ้าง สลับกับแปลงว่างที่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวทำสวนทำไร่กันอยู่ ในซอยย่อยฝั่งโครงการจะเป็นซอยเลียบคลองสองฝั่งเลขคู่ โดยโครงการจะอยู่ระหว่างซอย 8 และ 10 สองข้างจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น เป็นชุมชนพักอาศัย พื้นที่ทางตะวันออกของโครงการเป็นพื้นที่ราชการทำอย่างสำนักงานเขตคลองสามวา และมีพื้นที่จอดรถด้านหลัง ส่วนลึกเข้าไปในซอยเลียบคลองสอง 10 ก็จะเป็นพื้นที่เทศบาลที่ใช้เก็บขยะและเครื่องมือต่างๆ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สำนักงานเขตคลองสามวา 50 เมตร
  • วิทยาลัยบริหารธุรกิจและท่องเที่ยว 800 เมตร
  • ซาฟารีเวิล์ด 1 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง 1.1 กิโลเมตร
  • วัดสัมมาธัญญาวาส 1.6 กิโลเมตร
  • Big C หทัยราษฏร์ 1.9 กิโลเมตร
  • ตลาดหทัยมิตร 2.2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ รามอินทรา 2.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสาธิตพัฒนา 2.4 กิโลเมตร
  • Max Value คู้บอน 2.7 กิโลเมตร
  • วัดพระยาสุเรนทร์ 3.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ 5.8 กิโลเมตร
  • Fashion Island 6.2 กิโลเมตร
  • Promenade 6.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล นวมินทร์ 7.5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 8.8 กิโลเมตร
  • ตลาดมีนบุรี 8.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศ นิมิตใหม่ 10.5 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

re MAP แปลนโครงการ

โครงการ Pleno วงแหวน – รามอินทรา เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 232 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 23-3-41.3 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนเลียบคลองสอง มุ่งหน้าถนนคู้บอน สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ปัจจุบันกว่าครึ่งหนึ่งของโครงการขาย ตกแต่งเพิ่มเติม และย้ายเข้าอยู่เรียบร้อย แต่ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่สร้างเสร็จ กำลังตกแต่งขั้นสุดท้าย

จากทางเข้าโครงการด้านหน้า มีป้อมพี่ยามและระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Key Card Access ระยะใกล้ ที่เปิดตัวไม้กระดกอัตโนมัติ ผ่านหน้าโครงการเข้ามาจะเจอถนนหลักของโครงการที่กว้าง 15 ตารางเมตร ทางซ้ายมือจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้งหมด 4 หลัง แบ่งออกเป็นแบบ Himawara 2 หลัง หลังหนึ่งคือแบบตกแต่งภายในเป็นบ้านตัวอย่าง อีกหลังหนึ่งเป็นบ้านมาตรฐานที่ขายกัน ส่วนอีก 2 หลังคือแบบ Sakura หลังหนึ่งเป็นบ้านตัวอย่าง อีกหนึ่งหลังเป็น Sales Office ฝั่งตรงข้ามของบ้านตัวอย่างคือสวนสาธารณะขนาด 282.1 ตารางวา ลึกเข้าไปคือ Pool Pavillion ที่มีสระว่ายน้ำ ส่วนนั่งเล่น และนิติบุคคลอยู่ด้านใน

ตัวทาวน์โฮมจะไล่เข้าไปตั้งแต่ฝั่งตรงข้าม Clubhouse เข้าไป แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่อยู่ทางซ้ายหรือตะวันตก ที่เป็นทาวน์โฮมแบบหันหน้าเข้าถนนหลักของโครงการที่กว้าง 12 เมตรตั้งแต่หลังส่วน Facility เข้ามา ส่วนบ้านทางขวาหรือทางตะวันออกจะแบ่งออกเป็นซอยๆที่กว้าง 9 เมตร ภายในซอยมีทาวน์โฮมหันหน้าเข้าหากัน ไล่ยาวไปเลยไปถึงวงเวียนรถ ถนนหลักหลังวงเวียนความกว้างถนนจะอยู่ที่ 9 เมตร ส่วนที่สามคือส่วนพื้นที่ Hi-light สีแดง เป็นส่วนที่ยังไม่เปิดขาย จะเข้าได้จากสุดถนนหลักของโครงการทางใต้ แล้วอ้อมเดินมาทางขวา เป็นทาวน์โฮมที่หันหน้าเข้าหาถนนหลักโครงการเช่นกัน

การวางตัวทาวน์โฮมของแต่ละหลัง อย่างแบบแรกคือทั้งหันหน้าเข้าถนนหลักโครงการคือทิศตะวันออก ส่วนในซอยจะมีทั้งหันหน้าไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ส่วนที่สามที่ยังไม่เปิดขายหันไปทางทิศตะวันออกและตะวันตก บ้านที่อยู่ส่วนใกล้ทางเข้าก็จะใกล้พื้นที่ส่วนกลางอย่าง Clubhouse และสวนสาธารณะมากกว่า แต่ส่วนที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็จะมีพี่ยามนั่งอยู่เป็นจุดๆ และที่ขี่จักรยานวนรอบโครงการเป็นช่วงเวลา

ทางเข้าโครงการ Pleno วงแหวน – รามอินทรา ฝั่งขวาคือป้ายโครงการ ตรงกลางคือทางเข้าโครงการสำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เข้า-ออก แบ่งช่องทางชัดเจนมีป้อมพี่ยามคั่นอยู่ตรงกลางเพื่อดูแลระบบรักษาความปลอดภัย

ส่วนทางคนเดินเข้าออกจะอยู่ระหว่างป้อมพี่ยามและป้ายโครงการ

กลับมาที่ป้อมพี่ยามนะคะ ทางซ้ายคือทางเข้า และทางขวาคือทางออก ทางเข้ารถมีจุดสแกนบัตร Key Card Access ระยะใกล้ เพื่อยกไม้กั้นอัตโนมัติขึ้น

จุดสแกนบัตร Key Card Access ระยะใกล้

ไม้กั้นอัตโนมัติที่จะทำงานก็ต่อเมื่อมีการตี๊ดบัตรที่จุดรับสัญญาณเมื่อสักครู่

โดยทางขวาของไม้กั้นจะมีกล้อง CCTV ติดอยู่ 2 จุดคือสำหรับจับป้ายทะเบียนและหน้าผู้ขับขี่

ถนนหลักภายในโครงการตั้งแต่ป้อมพี่ยามจนถึง Clubhouse กว้าง 15 เมตร ทางซ้ายมือคือบ้านตัวอย่าง 4 หลัง และทางขวาคือสวนสาธารณะขนาด 282.1 ตารางวา มีรถกอล์ฟจอดให้บริการสำหรับผู้ที่สนใจเข้าไปดูบ้านจริงในแปลงจริงภายในโครงการด้านใน

บ้านตัวอย่าง 4 หลัง 2 หลังทางซ้ายมือคือ Himawara บ้านตัวอย่าง และบ้านมาตรฐาน อีก 2 หลังทางขวามือคือแบบ Sakura หลังหนึ่งเป็นบ้านตัวอย่าง อีกหนึ่งหลังเป็น Sales Office

Sales Office อยู่ขวามือหลังแรกค่ะ

ภายใน Sales Office ก็จะมีโต๊ะ Sale ต้องรับด้านหน้า พร้อม Presentation ที่เปิดอยู่ในทีวีซ้ายมือ

ส่วนห้องทางขวามือแยกออกมาจะเป็นห้องรับรองที่จัดที่นั่งเป็นจุดๆ

ออกมาที่สวนสาธารณะด้านนอกที่อยู่ตรงข้ามกับ Sales Office มีม้านั่ง มีการปลูกไม้พุ่มเป็นแนว และต้นไม้ไหญ่เป็นจุดๆ พื้นที่ตรงนี้มีขนาด 282.1 ตารางวา เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า สามารถทำกิจกรรมภายในครอบครัวหรือระหว่างลูกบ้านได้ แนะนำเป็นช่วงเย็นๆที่แดดร่มๆหน่อย ส่วนการออกกำลังกายอย่างการวิ่ง จะวิ่งตามขอบพื้นที่แปลงก็จะดูสั้นไป แนะนำให้วิ่งเป็นทางยาวจากหน้าหมู่บ้านไปยังท้ายหมู่บ้านจะได้ระยะที่กำลังดี

ในสวนสาธารณะมีศาลพระภูมิตั้งอยู่ตรงกลาง

ลึกเข้ามาอีกหน่อยจะเป็นสวนหิน ก่อนที่จะเข้าถึง Clubhouse ที่โครงการนี้มีชื่อเรียกของเขาเองว่า Pool Pavillion แต่อย่างที่กล่าวไปว่าโครงการนี้เป็นโครงการนี้ขาย ตกแต่งภายใน และเข้าอยู่แล้วกว่าครึ่งหนึ่ง ทำให้ Facility ส่วนกลางต่างๆถูกใช้งาน อย่าง Pool Pavillion นี้ก็กำลังมีลูกบ้านใช้งานพื้นที่สระว่ายน้ำอยู่ เกรงว่าจะรบกวนความเป็นส่วนตัว ทำให้การเก็บภาพอาจจะไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้มากนะคะ

อีกมุมหนึ่งของ Pool Pavillion เป็นทางเข้าหลักที่เข้าได้จากถนนหลักของโครงการ ตัวอาคารเป็นแบบ 1 ชั้น แบ่งออกเป็นส่วนในอาคารที่มีพื้นทีรับรองและห้องนิติบุคคล และพื้นที่ Outdoor นอกอาคารที่เป็นส่วนสระว่ายน้ำพร้อมพื้นที่ริมสระ และพื้นที่ล้างตัว

ด้านหน้าก่อนเข้าโครงการจะมีป้ายประชาสัมพันธ์ข่าวภายในหมู่บ้านจากตทั้งส่วนนิติบุคคลและจากส่วนลูกบ้านด้วยกัน

ทางเดินขึ้นอาคารเป็นบันได มีไฟสนามติดตั้งอยู่ด้านข้างก่อนจะขึ้นไปถึงพื้นที่ข้างสระ

พื้นที่ข้างสระว่ายน้ำมี Day bed ตั้งอยู่ เหนือขึ้นไปมีไม้ระแนงกั้นพร้อมแผ่น Polycarbonate บังแดด ขวามือจะเป็นสระว่ายน้ำ ส่วนซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ภายในอาคาร

ประตูทางเข้าอาคารจะเปิดแบบประตูคู่เปิด-ปิด

เข้ามาภายในห้องซ้ายสุดจะเป็นห้องของนิติบุคคล

ทางขวาจะเป็นพื้นที่รับรอง มีชุดเก้าอี้และโซฟาตั้งอยู่ริมห้องทั้งสองฝั่ง ไม่มีห้องอื่นๆอีก

วิวจากส่วนพื้นที่นั่งเล่น มองออกไปก็จะเห็นส่วนพื้นที่ริมสระ และสระว่ายน้ำ มีม่านบังแดดกั้นในเวลากลางวัน แต่ห้องรับรองนี้ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลาถ้ามีคนใช้งาน เพราะไม่มีส่วนระบายอากาศจากภายนอกเข้ามา หรือเป็นบานเฟี้ยมเปิดรับลม ดังนั้นเวลาปกติที่ไม่มีลูกบ้านใช้งาน พื้นที่ตรงนี้จะค่อนข้างอบทีเดียว

ออกมาส่วนพื้นที่ข้างสระที่มองกวาดไปเห็นสระว่ายน้ำขนาด 6 x 11 เมตร ระบบเกลือ มีลูกบ้านกำลังใช้งานอยู่เป็นครอบครัว เดี๋ยวจะพาเดินเข้าไปลึกๆด้านในนะคะ

เดินเข้ามาตรงๆจะเป็นส่วนพื้นที่ล้างตัว 2 จุด ที่ทำพื้นจากทรายล้าง ทำให้กันลื่นและระบายน้ำได้ดี

มองออกมาทางขวาจากพื้นที่ล้างตัว จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ล้อมด้วยหินก้อน มีไม้พุ่มบังพื้นที่ด้านหลังไว้

ส่วนมองกลับมาที่ฝั่งซ้ายจากส่วนล้างตัวมายังข้างอาคาร จะมีบันไดลงไปสู่ห้องน้ำแยกชาย-หญิง

โดยตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจก ขนาบด้วยห้องน้ำ โดยของผู้ชายจะอยู่ซ้ายมือ และของผู้หญิงจะอยู่ทางด้านขวา

กลับมาที่ถนนหลักของโครงการหน้า Pool Pavillion ความกว้างถนนจากป้อมพี่ยามถึงสุด Pool Pavillion กว้าง 15 เมตร แต่หลังจากนี้ไปถนนหลักจะกว้าง 12 เมตรไปจนถึงวงเวียนรถด้านใน ฝั่งซ้ายมือเริ่มมีซอยย่อยเป็นทาวน์โฮม 2 ฝั่งหันหน้าเข้าหากัน

หน้าซอยก็จะมีเลขป้ายบอกซอย มีพื้นที่ทางเดินเท้าอยู่ริมพื้นที่สีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่ปลูก ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับแปลงมุมของซอยนั้นๆ ข้างๆก็จะมีรถของลูกบ้านจอดอยู่ แต่ด้วยความกว้างของถนน ทำให้การเดินรถยังสวนกันสบายๆ

ภายในซอยก็จะมีทาวน์โฮม 2 ฝั่งหันหน้าเข้าหากัน โดยภายในซอยๆหนึ่งแบบบ้านจะเป็นแบบเดียวกัน แล้วแต่ความลึกของพื้นที่ซอยนั้นๆ และจำนวนทาวน์โฮมภายในซอยแต่ละซอยก็จะไม่เท่ากัน อย่างในซอยนี้มีทั้งหมด 4 หลัง หันหน้าเข้าหากัน แต่พอลึกๆเข้าไปในหมู่บ้าน ก็จะมีซอยที่มี 6 8 10 หลัง ขึ้นกับรูปร่างแปลง โดยยึดความกว้างและความตรงของถนนหลักโครงการเป็นสำคัญ ที่สุดซอยข้างรั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร เป็นรั้วทึบทั้งหมด ก็จะปลูกไม้พุ่ม ตัดแต่งตรงๆตามแนวกำแพง

พื้นที่หลังบ้านทาวน์โฮมที่หันหลังให้กัน โดยมีกำแพงหลังบ้านเป็นตัวกั้นก็ยังเหลือพื้นที่นิดหน่อย แต่สามารถต่อเติมกันสาดหลังบ้านได้เต็มพื้นที่ภายในแปลงของตัวเอง โดยที่จะต้องไม่เกย หรือส่งผลกระทบกับเพื่อนบ้าน

เดินเข้ามาภายในโครงการทางขวามือก็จะเริ่มมีทาวน์โฮมแบบหันหน้าเข้าหาถนนหลักโครงการเป็นแนวยาวไปเรื่อยๆ

โดยจะมีช่องว่างระหว่างทาวน์โฮม ในระยะไม่เกิน 40 เมตรตามที่กฎหมายได้กำหนด จะช่วยควบคุมในเรื่องของความหนาแน่นของการอยู่อาศัย รวมไปถึงการเข้าถึงของรถดับเพลิงและความปลอดภัยต่างๆ

ตรงเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอกับวงเวียนรถ จะสังเกตได้ว่าหลังจากวงเวียนไป ความกว้างของถนนจะแคบลงอยู่ที่ 9 เมตร และพื้นที่ซอยจะลึกขึ้นทำให้จำนวนทาวน์โฮมในซอยจะมีมากขึ้น

จำนวนทาวน์โฮมภายในซอยย่อยจาก 4 หลังเพิ่มเป็น 10 หลัง โดยหันหน้าเข้ากันเหมือนเดิม สุดรั้วโครงการมีไม้พุ่มที่กำลังโตไล่ความสูงของกำแพง และยังไม่มีลูกบ้านย้ายเข้ามาอยู่

โดยที่ระบบไฟของโครงการจะมีเสาไฟอยู่ข้างบ้านแปลงมุมของทุกๆซอยเพื่อจ่ายไฟโยงเข้าไปในทาวน์โฮมของแต่ละซอย โดยจะมีมิเตอร์วัดปริมาณการใช้อยู่ที่เสาทุกๆต้น

จากเสาไฟข้างแปลงมุมก็จะโยงเข้ามาที่เสาไฟต้นเล็กหน่อยหน้าบ้านของบ้านฝั่งซ้ายมือ แล้วโยงจ่ายเข้าไปที่บ้านทางขวามือ

พื้นที่หลังบ้านของบ้านมาตรฐานเวลาหันหลังหากัน มีแท๊งก์น้ำตั้งอยู่ แต่ไม่มีกันสาดให้ ปกติลูกบ้านก็จะติดเพิ่มเพื่อบังแดดเวลาซักล้างหลังบ้าน

มองกลับมาที่วงเวียนรถที่อยู่เกือบจะท้ายโครงการ

มองย้อนกลับไปหาทางส่วนทางเข้าโครงการ ไกลสุดลูกหูลูกตา แปลงพื้นที่ยาวมากจริงๆ

มองกลับมาที่ส่วนหลังโครงการก็ยังมีซอยย่อยอยู่อีกประมาณ 3 ซอย และมีทาวน์โฮมทางขวามือหันหน้าเข้าหาถนนหลักเหมือนเดิม สุดที่ทางถนนหลักด้านหน้า จะมีพี่ยามนั่งประจำการอยู่ก่อนถึงประตูหลังโครงการที่จะต่อไปถึงบ้านส่วนที่กำลังสร้างอีก phase หนึ่งทางซอยมือ

เราแอบพามาดูพื้นที่ก่อสร้างที่เป็นถนนต่อเนื่องหลังประตูพี่ยาม ที่กล่าวไปว่ายังมีบ้านอีกหนึ่งชุดที่ยังสร้างไม่เสร็จ อยู่ที่พื้นที่ทางซ้ายของโครงการ หรือทิศตะวันออกถ้ามองจากผังโครงการ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Club house ในชื่อว่า Pool Pavilion
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 11 เมตร พร้อม Day bed ข้างสระ, ที่ล้างตัว และห้องน้ำแยก
  • สวนสาธารณะขนาด 282.1 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร เป็นรั้วทึบทั้งหมด
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ถนนหลักกว้าง 15 เมตร ถนนหลักหลัง Pool Pavillion กว้าง 12 เมตร และถนนหลักในหลังวงเวียนกว้าง 9 เมตร ถนนภายในซอยกว้าง 9 เมตร

 


Product Walkthrough

himawari plan

ทาวน์โฮม 2 ชั้น ของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 2 แบบนะคะ แบบแรกที่เป็นบ้านตัวอย่างด้วยคือ Himawara เป็นทาวน์โฮมที่ขนาดเล็กกว่า เป็นแบบที่มีจำนวนยูนิตน้อยกว่าอีกแบบหนึ่งคือ 86 หลัง ขนาดที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 106.9 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 เมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ 2 คัน รอบบ้านที่เห็นตกแต่งเป็นพื้นที่สีเขียว บ้านจริงจะด้วยดิน สามารถเข้าถึงตัวบ้านได้จากประตูสไลด์หน้าบ้านเข้ามาเจอพื้นที่นั่งเล่น และจากพื้นที่ซักล้างหลังบ้านที่เข้ามาเจอส่วนครัว โดยช่องเปิดอื่นๆก็ยังมีอยู่ที่ข้างบ้าน อย่างหน้าต่างหลังชุดโซฟาและเคาท์เตอร์ครัว มีบันไดอยู่กลางบ้านข้างบ้านเป็นตัวแบ่งพื้นที่

บนชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอห้องน้ำห้องเดียวของชั้น 2 อยู่ด้านหน้า พื้นที่ที่เหลือคือห้องนอนใหญ่ทางซ้ายมือที่มีระเบียงหน้าบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีห้องน้ำในตัว จัดเตียงนอนอยู่ฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน และชั้นวางทีวี ส่วนหลังบ้านแบ่งออกเป็น 2 ห้องคือห้องนอนเล็ก ไม่มีห้องน้ำและระเบียง ห้องเล็กสุดที่เหลืออยู่มุมหลังบ้าน บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องอเนกประสงค์ จัดเป็นห้องทำกิจกรรมอเนกประสงค์อย่างวาดรูปและเล่นดนตรี แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเด็กเล็กได้

ภายนอกของบ้านแบบ Himawara เน้นดีไซน์เรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีเขียว-ขาว ตัดด้วยกระจกเขียวตัดแสงสีออกฟ้าๆ มีที่จอดรถ 2 คันอยู่ส่วนหน้าบ้าน ประตูบานเลื่อนหน้าบ้านเป็นทางเข้าหลัก เหนือขึ้นไปมีกันสาดแบบหุบเก็บเข้าไปได้ให้บังแดดและฝนที่จะสาดเข้าตัวบ้านและรถได้ระดับหนึ่ง เปิดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ที่มีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ทั้งส่วนหน้าบ้านและข้างบ้าน บนชั้นสองส่วนหน้าบ้านเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงออกมาด้านนอกขนาดไม่ใหญ่มากทางซ้ายมือ ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นเพิงแหงนเข้าหาหน้าบ้าน ความยาวยื่นออกมาไม่เยอะ ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ค่อยได้ และน้ำฝนจะลาดไหลไปทางรางน้ำหลังบ้าน

เริ่มกันจากประตูรั้วหน้าบ้าน ถ่ายจากบ้านพักจริงที่จะโอนภายในเดือนหน้านะคะ เป็นประตูเลื่อนแบบไม่อัตโนมัติปกติทั่วไป ไม่ได้เดินสายไฟไว้สำหรับให้ลูกบ้านทำประตูเลื่อนอัตโนมัติ ความสูงอยู่ที่ประมาณ 1.5 เมตร ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา ใช้เป็นแค่เหมือนการแบ่งพื้นที่ ไม่มีประตูเล็กเข้า-ออกสำหรับคนเดิน ทางขวาของประตูรั้วบ้านจะมีกล่องจดหมาย กริ่งบ้าน และมาตรวัดน้ำ

พื้นที่ข้างบ้านของบ้านตัวอย่างจะปูด้วยพื้นหญ้าจริง และมีทางซีเมนต์ยาวเป็นทางเท้าเดินไปถึงส่วนหลังบ้าน

แต่บ้านแปลงมุมของบ้านมาตรฐานที่ขายจริงจะให้มาแค่หน้าดิน ไม่ได้ปลูกหญ้าหรือลงต้นไม้ใหญ่ให้ ส่วนบ้านแปลงปกติตรงกลางที่ไม่ใช่แปลงมุมจะไม่ได้พื้นที่ว่างข้างบ้านตรงนี้

ส่วนช่องเปิดข้างบ้านของบ้านแปลงมุมอีกเช่นกัน จะมีอยู่ที่ข้างโซฟาในห้องนั่งเล่น และมุมหลังบ้านที่เคาท์เตอร์ครัว ส่วนชั้นบนจะอยู่ที่ห้องนอนใหญ่มุมตู้เสื้อผ้า สังเกตว่าองศาของหลังคาจะเป็นแบบเชิดขึ้นในส่วนหน้าบ้าน และลาดลงที่หลังบ้าน การรองรับน้ำฝนก็จะไหลตามองศาหลังคาไปยังส่วนหลังบ้านและลงไปตามท่อลงมายังพื้นที่ชั้น 1 ของหลังบ้านต่อไป

พื้นที่หลังบ้านขนาด 2.2 x 5.5 เมตร พื้นเป็นซีเมนต์เต็มพื้นที่ มีพุ่มไม้กั้นแนวรั้วบ้านทึบไว้ พื้นที่ด้านหลังบ้านอย่างที่ได้พาชะโงกบ้านมาตรฐานแล้วว่าจะมีถังเก็บน้ำวางอยู่ด้วย

ช่องเปิดหลังบ้านก็จะมีจากส่วนครัวที่ชั้น 1 เป็นประตูหลังบ้านแบบบานเลื่อน และหน้าต่างเล็กจากห้องน้ำชั้น 1 ส่วนบนชั้นสองก็จะมีหน้าต่างจากห้องนอนทั้งสองห้อง นอกนั้นก็จะเป็นตำแหน่งวาง Compressor แอร์ และไฟหลังบ้าน

กลับมาที่ส่วนหน้าบ้าน ทางเข้าหลักของบ้านเป็นประตูบานเลื่อนที่ยกพื้นขึ้นสูง มีการปลูกต้นไม้ไว้หน้าบ้าน และมีหน้าต่างจากส่วนห้องนั่งเล่น ด้านบนมีกันสาดยื่นออกมาบังแดดและฝนให้กับตัวบ้านและพื้นที่จอดรถ

มุมข้างของกันสาดจะเป็นระบบเลื่อนพับเก็บได้ในเวลาที่ไม่ต้องการใช้งาน

ด้วยหน้ากว้างของบ้าน 5.5 เมตร ทำให้พื้นที่จอดรถ กว้างพอจะจอดได้ 2 คันสบายๆ แต่ถ้ารถคันใหญ่ก็จะมีพื้นที่เปิดประตูน้อยลงและเบียดกันมากขึ้น ตัวกันสาดแม้จะยื่นออกมาเยอะ แต่ก็ไม่พอที่จะคลุมความยาวรถได้ทั้งหมด อาจจะได้แค่ส่วนหน้าของรถ ทำให้ที่นั่งตนขับไม่ร้อน

ข้างขวาของบ้านที่ด้านในเป็นตำแหน่งบันได จะมีช่องเปิดจากหน้าบ้านเป็นประตูห้องเก็บของใต้บันได แบบมีล็อกกุญแจ สามารถเก็บเครื่องมือทำสวน อุปกรณ์ล้างรถรวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ แต่ตัวช่องจะเป็นห้องทึบๆ ไม่มีจุดระบายอากาศ

ประตูทางเข้าบานหลังเป็นแบบบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมทาสีขาว ลูกฟักคือกระจกตัดแสงสีออกฟ้าๆ ด้านหน้าเป็นลานหน้าบ้านกว้าง 1.5 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแบบด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

พื้นบ้านรวมถึงประตูบานเลื่อนยกสูง 18 เซนติเมตร

ประตูบานเลื่อนมีมือจับเป็นแบบห่วงด้านใน และแบบผลักที่ด้านนอก สามารถล็อกได้จากการบิดล็อกภายใน

ห้องแรกที่เราเข้ามาจะเจอก่อนเลยคือห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาและโต๊ะกลางอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ  ลึกเข้าไปคือพื้นที่ครัวที่มีโต๊ะทานข้าวอยู่ข้างๆ ฝั่งขวาจะเป็นชั้นวางทีวี ลึกเข้าไปจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำ พื้นที่ชั้นล่างจะใช้แอร์รวมกัน 1 เครื่องตั้งอยู่เหนือประตูบานเลื่อนหลังบ้าน ความกว้างของพื้นที่บ้านตรงกลางอยู่ที่ราวๆ 4 เมตรที่ส่วนห้องนั่งเล่น และ 3.2 เมตรที่ส่วนครัว

ภาพจากบ้านมาตรฐานหรือบ้านเปล่า พื้นคือกระเบื้องสีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ของจริงที่ได้ผนังจะเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง ฝ้าเพดานจะเป็นแผ่นยิปซั่มบอร์ดเรียบ เพดานติดโคมไฟแบบซาลาเปามาให้ ช่องแสงส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหารของยูนิตปกติเลยจะมีเพียงหน้าต่างบานเลื่อนเปิดออกไปลานหลังบ้านเท่านั้นค่ะ อาจจะมืดหน่อย แต่บ้านแปลงมุมจะได้ช่องแสงเหนือเคาท์เตอร์ครัวล่างด้วย แต่สำหรับแปลงปกติตรงกลางจะมีประตูบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสงขนาดใหญ่เท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยนำแสงเข้าสู่ตัวบ้าน แต่ก็จะเสียพื้นที่ใช้งานผนังไป

หันซ้ายมาหาพื้นที่นั่งเล่น จะมีโซฟาตัว I และ Beanbag พร้อมโต๊ะกลาง มีช่องแสงทั้งหน้าต่างหน้าบ้านและข้างบ้านสำหรับแปลงมุม สามารถจัดพื้นที่ให้มีตู้เตี้ยๆเก็บของเก็บนิตยสารได้ที่ข้างๆ

พื้นที่ส่วนนั่งเล่นของบ้านมาตรฐาน จะเห็นค่อนข้างชัดเจนว่าหน้าต่างส่วนหน้าบ้านจะใหญ่กว่าส่วนข้างบ้านที่เพิ่มเติมเข้ามา มีมุมเว้าออกไปยังส่วนหน้าบ้านขนาด 0.3 x 1.9 เมตร ความสูงของชั้น 1 อยู่ที่ 2.55 เมตร

ตัวหน้าต่างเป็นแบบเลื่อนเปิด โดยจะมีล็อกให้มาทั้งสองจุดคือส่วนที่จับแบบล็อกเลื่อนขึ้น-ลง และแบบบิดที่ส่วนรอยต่อของกรอบหน้าต่าง เนื่องจากทางโครงการไม่ได้มีระบบสัญญาณกันขโมยมาให้ แต่การมีล็อก 2 ชั้น อย่างน้อยก็ช่วยในเรื่องการเผลอเรอลืมไปได้

ทางขวาของประตูบานเลื่อนทางเข้าคือชั้นวางทีวีกว้าง 2.5 เมตร มองจากพื้นที่โซฟา ระยะการดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.7 เมตร ตู้ด้านล่างสามารถเก็บของได้ บันไดจะอยู่ลึกเข้าไปจากส่วนทีวี โดยมีส่วนใต้ของบันไดระหว่างชานพักและชั้นที่ 2 ยื่นออกมาตรงเพดาน

บ้านมาตรฐานของจริงก็จะมีส่วนที่ยื่นออกมาเช่นกัน แต่ส่วนบันไดไม่มีการกั้นทึบเป็นสัดส่วน บังราวจับไว้เหมือนบ้านตัวอย่าง

ไฟด้านบนของส่วนนั่งเล่นก็จะเป็นไฟซาลาเปาอีกหนึ่งจุด

ลึกเข้าไปในส่วนของพื้นที่ครัว และพื้นที่โต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง ไม่นับการเพิ่มเก้าอี้หัว-ท้ายได้อีก 2 ตัว ชุดครัวเป็นแบบรูปตัว I มีเตาท์เตอร์ด้านล่างและช่องเก็บของด้านบน โดยมีหน้าต่างบานเลื่อนข้างบานอยู่ที่ส่วนล้างจาน

บ้านมาตรฐานจริงก็จะมีให้เป็นท่อน้ำที่ผนัง ตรงกับหน้าต่างข้างบ้านพอดี แต่จะไม่ได้ชุดครัวใดๆ รวมถึงตำแหน่งการวางตู้เย็นและตู้เสื้อผ้าก็ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจง

เคาท์เตอร์ครัวยาว 3.8 เมตร จัดจากซ้ายไปขวาคือ พื้นที่เตรียมอาหาร Hob and Hood พื้นที่เตรียมอาหารขนาดเล็กลง และอ่างล้างจาน ไม่ได้ระบุตำแหน่งตู้เย็นว่าควรอยู่จุดใดมาให้ในบ้านตัวอย่าง

พื้นที่ทานข้าว จัดเป็นฝั่งเป็นเก้าอี้เดี่ยว  2 ตัว และอีกฝั่งเป็นเก้าอี้ตัวยาวแบบไม่มีพนัก

ส่วนการเลือกเครื่องครัวเข้ามาวางในตัวบ้านก็ต้องเลือกขนาดที่พอดีกับพื้นที่ รวมถึงบานเปิดตู้และชั้นต่างๆ ให้ไม่กินพื้นที่มากเกินไป จนไปกระทบกับพื้นที่กินข้าว แต่ความจริงถ้าเราเลือกเก้าอี้เดี่ยวแบบปกติ แทนม้านั่งตัวยาว เราสามารถจะชิดเก้าอี้เข้าไปได้ ทำให้การเปิด-ปิดตู้สะดวกมากกว่าที่เห็นในภาพ

พื้นที่ครัวด้านบนมีทั้งแบบมีบานปิด และแบบเปิดโล่งไม่มีบานปิด

ส่วนตรงข้ามกับส่วนครัวคือห้องน้ำของชั้น 1 ที่ทางเข้าอยู่ข้างๆบันได

บานประตูห้องน้ำจากบ้านมาตรฐานเป็นแบบบานสำเร็จรูป UPVC แบบมีเกล็ดระบายอากาศข้างล่าง

ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้านสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากพื้นห้องปกติประมาณ 3 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 1.8 x 1.8 เมตร ภายในจัดเป็นห้องน้ำแบบ 3 ส่วน โดยจัดเป็นแบบพื้นที่อาบน้ำเข้ามุมด้านใน มีโถสุขภัณฑ์อยู่ทางขวามือ และทางซ้ายมือคืออ่างล้างหน้าแบบไม่ก่อปูนเป็นเคาท์เตอร์ มาพร้อมกระจกส่องหน้า

โถสุขภัณฑ์ ที่วางทิชชู และสายฉีดชำระจาก Cotto

พื้นที่อาบน้ำมาพร้อมฝักบัว ชั้นวางของ และก๊อกน้ำด้านล่าง มีการกั้นพื้นที่เปียกออกจากพื้นที่แห้งด้วยการก่อปูนขึ้นมากั้น ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ผนังหลังบ้านมีช่องแสงแบบบานกระทุ้งช่วยในเรื่องของการฆ่าเชื้อ ลมระบาย และแสงธรรมชาติเข้ามาภายใน

ฝักบัวขนาดกลางๆ กำลังพอดีมือ

ซ้ายสุดเป็นอ่างล้างหน้าที่มาพร้อมกระจกส่องหน้าบานไม่ใหญ่ มีที่ตากผ้าเช็ดมือ เช็ดหน้า เช็ดตัวอยู่ด้านข้าง ตัวอย่างล้างหน้าไม่ได้มีการก่อปูนขึ้นมาเป็นเคาท์เตอร์วางของหรือเป็นตู้เก็บของให้ด้านล่าง ตัวอย่างก็จะดูแคบไปหน่อยเวลาใช้งาน และไม่มีพื้นที่วางข้างของเครื่องใช้

ออกมาจากห้องน้ำก็มาถึงประตูเลื่อนส่วนหลังบ้าน ที่มีแอร์ของพื้นที่ชั้น 1 อยู่เหนือประตู

ตัวแอร์เองก็จะติดทับกับส่วนกั้นม่านของประตูหลังอีกทีหนึ่ง

พื้นที่หลังบ้านจะอยู่ต่ำกว่าพื้นที่ภายในบ้านประมาณ 20 เซนติเมตร แต่ตัวกรอบประตูอลูมิเนียมไม่ได้ยกขึ้นสูง ทำให้ไม่สะดุดและกะระยะถูกเวลาเดินเข้า-ออก

มองกลับเข้ามายังตัวบ้านด้านในจะเห็นได้ว่าแสงธรรมชาติเข้าได้จากรอบทิศทาง

บ้านมาตรฐานมองจากพื้นที่หลังบ้านย้อนเข้ามายังพื้นที่หน้าบ้าน

ต่อกันที่พื้นที่บันไดกว้าง 90 เซนติเมตร ทางขึ้นอยู่ระหว่างห้องน้ำและชั้นวางทีวี ขึ้นไป 3 ขั้นก็จะมีชานพักแรก ก่อนจะเลี้ยวขวาขึ้นไปบันไดไปอีกที

แบบบันไดบ้านเปล่า สามขั้นแรกจะไม่มีราวจับ ก่อนจะเป็นชานพัก แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นบันไดต่อ

เรามาถึงชานพักอีกอันหนึ่ง โดยบันไดจะเป็นรูปตัว U แบบอ้วนๆ เดินยากนิดหน่อย แต่ยังดีที่ไม่มีชิ้นสามเหลี่ยมที่ขั้นบันได

ขั้นบันไดลูกนอนทำจากไม้สำเร็จรูป เลือกสีและลายได้ใกล้เคียงกับพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อนของชั้น 2 ได้ดี

ราวจับบันไดก็เป็นไม้สำเร็จรูปแบบเดียวกับลูกนอนของขั้นบันได มีโครงเป็นแท่งอลูมิเนียมสีขาวประกอบกัน

พื้นที่ด้านข้างของทางขึ้นบันไดชั้น 2 ขนาด 0.8 x 1.2 เมตร เป็นพื้นที่ว่างสำหรับการวางชั้นวางของที่ใช้ได้ร่วมกันภายในครอบครัวนิดหน่อย หรือจะวางตู้เยนเล็กๆบนชั้น 2 ก็ได้

ห้องทางซ้ายที่อยู่หน้าสุดตรงกับส่วนบันไดคือห้องน้ำ ที่ต้องใช้ร่วมกันกับห้องอื่นๆทั้งหมด เพราะไม่มีห้องนอนไหนในบ้านที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องขวาถัดมาคือห้องนอนเล็ก และห้องขวาสุดเป็นห้องอเนกประสงค์บนชั้น 2 ที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่สำหรับงานอดิเรก แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานอื่นๆได้ตามใจชอบ อย่างห้องนอนเต็กเล็ก หรือห้องทำงานเต็มตัว

ส่วนทางขวาของบันได คือทางเข้าห้องนอนใหญ่ที่อยู่ส่วนหน้าบ้าน พื้นปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องไปกับส่วนทางเดินตรงกลาง

โดยบ้านจริงจะมีประตูสำเร็จรูป UPVC เป็นประตูบานทึบ แบบมีที่บิดแบบผลักเปิดออกเข้าไปในตัวห้องนอน

พื้นไม้ลามิเนตต่อเนื่องเข้าไปจากทางเดินกลางเข้าไปยังห้องนอนใหญ่

ห้องนอนใหญ่ขนาด 2.95 x 5.5 เมตร ทางซ้ายมือ จัดเป็นเตียงนอน มีโต๊ะข้างเตียงทั้งสองฝั่ง มีหน้าต่างบ้านใหญ่ส่วนหน้าบ้าน และช่องแสงแบบบาน Fix ที่อยู่ทั้งด้านล่าง และทั้งสองข้าง ตรงนี้อาจจะต้องติดม่านบังแดด เนื่องจากเป็นห้องนอนที่ความร้อนและแสงแรงๆจะรบกวนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ด้วย

ช่องแสงขนาดใหญ่ภายในห้องนอนใหญ่ในส่วนหน้าบ้าน

ทาวน์โฮมแบบขายจะเป็นห้องเปล่าๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ แต่ก็จะมีปลั๊กไฟตามมุมต่างๆ สำหรับโคมไฟของโต๊ะข้างเตียง

ส่วนพื้นที่ทางขวามือจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี มีช่องแสงข้างบ้านอยู่ข้างๆเป็นแบบบานกระทุ้ง และเหนือขึ้นไปเป็นตำแหน่งแอร์ รวมถึงทางซ้ายมีประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน

ภายในห้องของบ้านเปล่าจะมีช่องแสงข้างบ้านให้ รวมถึงไฟซาลาเปา

ตู้เสื้อผ้าภายในบ้านตัวอย่างเป็นแบบบานเปิด แต่ขอแนะนำเป็นแบบบานเลื่อนแทนนะคะ เพราะว่าขนาดของบานเปิดต้องระวังให้เปิดแล้วไม่ชนกับชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้าก็สามารถจัดให้เป็นแบบถึงเพดานความสูงได้เลย โดยสามารถเปิดช่องบนไว้ใส่พวกเครื่องนอนที่นานๆจะหยิบมาใช้ที

ประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน เป็นกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักเป็นกระจกตัดแสงเหมือนๆกับทุกบาน

โดยกรอบประตูตั้งอยู่บนส่วนยกระดับจากพื้นห้องประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วออกไปจึงจะเป็นระเบียงที่ระดับต่ำลง

ระเบียงหน้าบ้านขนาด 0.8 x 1.9 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้านสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนิตเมตร มีราวกันตกแบบซี่กั้นอยู่

ภายในพื้นที่ระเบียงไม่ต้องวาง Compressor แอร์เพราะว่าจะไปอยู่ที่ตำแหน่งหลังบ้าน ทำใหใช้ประโยชน์จากระเบียงตรงนี้ได้เต็มพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้เล็กๆ หรือการออกมารับลม

ด้านบนก็จะมีไฟระเบียงติดให้ 1 จุด

มองจากห้องนอนใหญ่ออกไปยังส่วนทางเดินชั้น 2 ด้านนอก

ต่อกันที่ห้องน้ำห้องเดียวของชั้น 2 ที่อยู่ในส่วนข้างบ้าน ประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จ UPVC มีเกล็ดระบายอากาศอยู่ข้างล่าง เปิด-ปิดไฟห้องน้ำจากสวิสซ์ด้านนอก

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้านสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ลดระดับห้องน้ำลงจากทางเดินประมาณ 3 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 1.8 x 2.0 เมตร จัดคล้ายกับห้องน้ำชั้นล่าง คือมีพื้นที่ใช้สอยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยจัดเป็นแบบพื้นที่อาบน้ำเข้ามุมด้านใน สลับตำแหน่งกันที่สุขภัณฑ์สองข้างคือ มีโถสุขภัณฑ์อยู่ทางซ้ายมือ และทางขวามือคืออ่างล้างหน้าแบบไม่ก่อปูนเป็นเคาท์เตอร์ มาพร้อมกระจกส่องหน้า

เข้ามายืนบริเวณพื้นที่อาบน้ำให้ดูนะคะ ถือว่าค่อนข้างเล็กไปหน่อย ยิ่งถ้าจะมีการติดฉากกั้นอาบน้ำด้วยแล้ว น่าจะขยับตัวยากอยู่

ต่อกันที่ห้องนอนเล็ก บานประตูเป็นแบบบานสำเร็จ UPVC แบบบิดลูกบิดผลักเข้าเหมือนกับห้องนอนใหญ่ พื้นไม้ลามิเนตปูต่อเนื่องเข้าไปทางทางเดินด้านหน้า

ห้องนอนเล็กขนาด 2.70 x 2.75 เมตร อยู่ที่ตำแหน่งมุมหลังบ้าน

ภายในตกแต่งเป็นแบบห้องนอนเด็กผู้ชาย มีเตียงวางชิดผนังหลังบ้านใกล้กับหน้าต่างบานเลื่อน และมีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือด้านบน ทางขวาเป็นชั้นวางของที่ทำเข้ากับผนัง และข้างประตูทางเข้าเป็นตู้เสื้อผ้า และกระจกส่องความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง

ฝั่งหัวนอนมีพื้นที่วางของเป็นชั้นทางซ้ายมือ และมีชั้นวางของเหนือตัวเตียง สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้อีกตัวทางซ้าย แต่ขนาดต้องพอดีกับวงสวิงการเปิดของตู้เสื้อผ้า

ถึงได้แนะนำว่าตู้เสื้อผ้าควรเป็นแบบบานเลื่อน เพื่อจะได้ไม่เกะกะเวลาเปิด-ปิดกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ทางซ้ายเป็นชั้นเก็บของและกระจกแนวยาวอีกชิ้น

ตู้เสื้อผ้าที่เป็นแบบบานเปิดและลิ้นชัก ควรจะต้องวัดขนาดรวมถึงระยะเปิด-ปิดก่อนจะเลือกซื้อ ให้พอมีพื้นที่เหลือขึ้น-ลงเตียงได้สบายๆ

ผนังส่วนปลายเตียงจัดเป็นที่แขวนกระเป๋าและหมวก แต่สามารถจัดเป็นโต๊ะอ่านหนังสือแบบพับเก็บขึ้นชิดผนังได้ แล้วใช้เตียงเป็นเก้าอี้แทนไปเลย เพื่มประโยชน์ใช้สอยให้กับห้องมากยิ่งขึ้น

ห้องสุดท้ายห้องเล็กสุดคือห้องอเนกประสงค์ของชั้น 2 ที่ทางเข้าอยู่ข้างพื้นที่ว่างข้างบันได

ห้องอเนกประสงค์ขนาด 2.25 x 2.70 เมตร เป็นห้องพื้นลามิเนตเช่นกัน

ภายในตกแต่งเป็นห้องสำหรับงานอดิเรกต่างๆภายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือการวาดรูป เก็บภาพต่างๆ สามารถประปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็กๆอีกห้องหนึ่ง หรือเป็นห้องทำงานเต็มตัวไปเลยก็ได้ มีช่องแสงส่วนหลังบ้านเป็นบานหน้าต่างแบบเลื่อน และมีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือด้านบน

มุมขวาเป็นโต๊ะทำงาน ชั้นวางของต่างๆ ทางซ้ายเป็นที่วางกีต้าร์ และชั้นวางหนังสือแบบติดผนัง

sakura plan

แบบที่สองที่เป็นบ้านตัวอย่างด้วยคือ Sakura เป็นทาวน์โฮมที่ขนาดใหญ่กว่า เป็นแบบที่มีจำนวนยูนิตมากกว่าอีกแบบหนึ่งคือ 146 หลัง ขนาดที่ดินมาตรฐาน 20 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 124 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 เมตรเท่ากับแบบแรก แต่พื้นที่แปลงจะลึกกว่า ภายในมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ 2 คัน รอบบ้านมีพื้นที่เดินรอบๆ สามารถเข้าถึงตัวบ้านได้จากประตูสไลด์หน้าบ้านเข้ามาเจอพื้นที่นั่งเล่น และจากพื้นที่ซักล้างหลังบ้านที่เข้ามาเจอส่วนทานอาหาร โดยช่องเปิดอื่นๆก็ยังมีอยู่ที่ข้างบ้าน อย่างหน้าต่างหลังชุดโซฟา โต๊ะทานข้าว และเคาท์เตอร์ครัว มีบันไดอยู่มุมหน้าบ้าน

บนชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอห้องน้ำห้องเดียวของชั้น 2 อยู่ด้านหน้า พื้นที่ที่เหลือคือห้องนอนใหญ่ทางซ้ายมือที่มีระเบียงหน้าบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีห้องน้ำในตัว จัดเตียงนอนอยู่ฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน และชั้นวางทีวี ส่วนหลังบ้านแบ่งออกเป็น 2 ห้องคือห้องนอนเล็ก ไม่มีห้องน้ำและระเบียงในตัว ห้องเล็กสุดที่เหลืออยู่มุมหลังบ้าน บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องอเนกประสงค์

ภายนอกของบ้านแบบ Sakura เน้นดีไซน์เรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีส้มอ่อน-ขาว ตัดด้วยกระจกเขียวตัดแสงสีออกฟ้าๆ มีที่จอดรถ 2 คันอยู่ส่วนหน้าบ้าน ประตูบานเลื่อนหน้าบ้านเป็นทางเข้าหลัก เหนือขึ้นไปมีกันสาดแบบหุบเก็บเข้าไปได้ให้บังแดดและฝนที่จะสาดเข้าตัวบ้านและรถได้ระดับหนึ่ง เปิดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ที่มีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ทั้งส่วนหน้าบ้านและข้างบ้าน บนชั้นสองส่วนหน้าบ้านเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงออกมาด้านนอกขนาดไม่ใหญ่มากทางขวามือ ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นเพิงแหงนเข้าหาหน้าบ้าน ความยาวยื่นออกมาไม่เยอะ ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ค่อยได้ และน้ำฝนจะลาดไหลไปทางรางน้ำหลังบ้าน

พื้นที่ข้างบ้านของบ้านตัวอย่างจะปูด้วยพื้นหญ้าจริงสลับกับหญ้าปลอม สามารถเดินไปยังพื้นที่หลังบ้านได้ แต่บ้านแปลงมุมของบ้านมาตรฐานที่ขายจริงจะให้มาแค่หน้าดิน ไม่ได้ปลูกหญ้าหรือลงต้นไม้ใหญ่ให้

ส่วนช่องเปิดข้างบ้านของบ้านแปลงมุมอีกเช่นกัน จะมีอยู่ที่ข้างโซฟาในห้องนั่งเล่นเป็นหน้าต่างบานเลื่อน และประตูบานเลื่อนใหญ่ที่ข้างบ้านส่วนทานข้าว ชั้นบนจะอยู่ที่ห้องนอนใหญ่ระหว่างหัวเตียงทั้งสองข้าง และหน้าต่างบานเล็กที่ห้องน้ำชั้นบน

ประตูบานเลื่อนข้างบ้าน ใกล้ส่วนที่เป็นโต๊ะทานข้าว

หลังบ้านจะมีถังเก็บน้ำ และปั้มน้ำวางอยู่

พื้นที่หลังบ้านขนาด 2.0 x 5.5 เมตร พื้นเป็นซีเมนต์เต็มพื้นที่ มีพุ่มไม้กั้นแนวรั้วบ้านทึบไว้ มีบานประตูเลื่อนในส่วนหลังบ้านจากห้องครัว และหน้าต่างบานเล็กจากห้องน้ำชั้นล่าง มีไฟหลังบ้านติดมาให้ที่ผนัง

ส่วนบนชั้นสองก็จะเป็นหน้าต่างจากห้องนอนเล็ก และห้องอเนกประสงค์ ด้านนอกเป็นตำแหน่งวาง Compressor แอร์

กลับมาที่ส่วนหน้าบ้าน ทางเข้าหลักของบ้านเป็นประตูบานเลื่อนที่ยกพื้นขึ้นสูง มีการปลูกต้นไม้ไว้หน้าบ้าน และมีหน้าต่างบาน Fix จากตำแหน่งบันไดทางขวามือ ด้านบนมีกันสาดยื่นออกมาบังแดดและฝนให้กับตัวบ้านและพื้นที่จอดรถส่วนหนึ่ง ด้วยหน้ากว้างของบ้าน 5.5 เมตร กว้างพอจะจอดได้ 2 คันสบายๆ

ประตูทางเข้าบานหลังเป็นแบบบานเลื่อนออกไปทั้งสองฝั่ง ต่างจากบ้านแบบที่แล้วที่เป็นแบบเลื่อนไปด้านในด้านหนึ่ง ประตูกรอบอลูมิเนียมทาสีขาว ลูกฟักคือกระจกตัดแสงสีออกฟ้าๆ ด้านหน้าเป็นลานหน้าบ้านกว้าง 1.5 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแบบด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

พื้นบ้านรวมถึงประตูบานเลื่อนยกสูง 18 เซนติเมตร เวลาเปิดให้กว้างสุดแล้ว ทางเข้าจะกว้างกว่าบ้านตัวอย่างแบบที่แล้ว เพราะเหมือนเปิดประตู 2 บานในเวลาเดียวกัน บ้านที่ย้ายเข้าอยู่แล้วส่วนใหญ่จะติดประตูมุ้งลวด หรือเหล็กดัด เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับตัวบ้านด้วย เนื่องจากโครงการนี้ไม่มีสัญญาณกันขโมยประจำบ้านให้

ห้องแรกที่เราเข้ามาจะเจอก่อนเลยคือห้องนั่งเล่นที่มีโซฟายาว เก้าอี้เดี่ยว และโต๊ะกลางอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ  ลึกเข้าไปคือโต๊ะทานข้าว และมี พื้นที่ครัวอยู่ทางขวามือใกล้กับทางเข้าห้องน้ำ ตรงข้ามกับชุดโซฟาจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ที่อยู่ส่วนหน้าของบ้าน ไล่เข้าเป็นเป็นชั้นวางทีวี พื้นที่ชั้นล่างจะใช้แอร์รวมกัน 1 เครื่องตั้งอยู่เหนือโซฟาตัวยาวที่ห้องนั่งเล่น

บ้านแบบ Sakura จะไม่มีบ้านมาตรฐานแบบขายให้ดูนะคะ แต่ก็จะเหมือนกับบ้านแบบ Himawara คือให้แบบบ้านเปล่าๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ แต่จะมีสุขภัณฑ์ห้องน้ำ และระบบต่างๆติดตั้งให้

ทางขวาจากทางเข้าบ้านเป็นบันได 2 ขั้นก่อนจะถึงชานพักแล้วจึงจะเลี้ยวซ้ายขึ้นไปยังบันไดต่อไป ด้านหน้าเป็นชั้นวางทีวี พื้นคือกระเบื้องสีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ของจริงที่ได้ผนังจะเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง ฝ้าเพดานจะเป็นแผ่นยิปซั่มบอร์ดเรียบ เพดานติดโคมไฟแบบซาลาเปามาให้

ทางซ้ายเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีโซฟาตัวยาว เก้าอี้ตัวเดียว และโต๊ะกลาง แปลงมุมจะได้ช่องแสงข้างบ้านเหนือโซฟาตัวยาวเพิ่มเข้ามา ตำแหน่งแอร์อยู่ที่กลางบ้านข้างหน้าต่างบานเลื่อน

เข้าไปพื้นที่ด้านในจะเป็นโต๊ะทานข้าว

 

โต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง ไม่นับการเพิ่มเก้าอี้หัว-ท้ายได้อีก 2 ตัว มีช่องแสงบานเลื่อนใหญ่จากรอบด้าน ทั้งข้างบ้านและหลังบ้าน เป็นกรอบอลูมิเนียมทาสีขาว ลูกฟักคือกระจกตัดแสง ต้องหาม่านหรือมู่ลี่มาติดสำหรับประเทศที่อากาศร้อนอย่างไทยเรา ไม่งั้นอุณหภูมิภายในบ้านจะสูงมาก และทำให้แอร์ทำงานหนัก

พื้นที่หลังบ้านจะอยู่ต่ำกว่าพื้นที่ภายในบ้านประมาณ 20 เซนติเมตร แต่ตัวกรอบประตูอลูมิเนียมไม่ได้ยกขึ้นสูง ทำให้ไม่สะดุดและกะระยะถูกเวลาเดินเข้า-ออก

กลับเข้ามาภายในบ้าน ทางข้างโต๊ะทานข้าวเป็นส่วนครัวรูปตัว L ขนาด 1.8 x 2.2 เมตร มีเคาท์เตอร์ครัวประกอบด้วยอ่างล้างจาน พื้นที่เตรียมอาหารและ Hob and Hood โดย ตู้และชั้นวางของด้านบนจะมีทั้งแบบบานเปิดและปิดสำหรับวางจานและอุปกรณ์เครื่องครัว ทางขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำขนาด 1.5 x 1.8 เมตร ภายในจัดเป็นห้องน้ำแบบ 3 ส่วน โดยจัดเป็นแบบพื้นที่อาบน้ำเข้ามุมด้านใน มีโถสุขภัณฑ์อยู่ทางซ้ายมือ และทางขวามือคืออ่างล้างหน้าแบบไม่ก่อปูนเป็นเคาท์เตอร์ มาพร้อมกระจกส่องหน้าภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้านสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากพื้นห้องปกติประมาณ 3 เซนติเมตร ชุดสุขภัณฑ์จาก Cotto

มองย้อนกลับเข้ามาจากหลังบ้านไปยังหน้าบ้าน ต่อไปเราจะไปพาขึ้นไปชมที่ชั้น 2 กันค่ะ

โดยบันไดขึ้นชั้น 2 จะอยู่ที่หน้าบานทางขวามือ มีช่องแสงบาน Fix จากหน้าบ้าน มีขั้นบันได 2 ชั้นก่อนจะถึงชานพักแรก แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นบันไดต่อไป

เลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอทางขึ้นบันไดยาว พร้อมราวบันไดที่มีแค่ทางซ้ายมือ

จากนั้นก็จะถึงชานพักอีกจุด ก่อนจะเลี้ยวซ้ายก้าวขึ้นอีก 2 ขั้นถึงจะถึงทางเดินบริเวณชั้น 2 ขั้นบันไดลูกนอนทำจากไม้สำเร็จรูป เลือกสีและลายได้ใกล้เคียงกับพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อนของชั้น 2

โดยข้างบันไดชั้น 2 จะมีพื้นที่เว้าว่างๆเหมือนบ้านแบบที่แล้ว ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง อย่างบ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่สำหรับเล่นของเด็กเล็ก

ส่วนพื้นที่ที่นอกจากทางเดิน จะแบ่งออกเป็นห้อง จากทางขวามือสุดใกล้ทางขึ้นบันได เป็นห้องอเนกประสงค์ ไล่มาเป็นห้องนอนเล็ก และห้องน้ำห้องเดียวบนชั้น 2 ท่ีต้องใช้ร่วมกันทั้งหมด การแบ่งห้องและพื้นที่ของบ้านทั้ง 2 แบบ ทำออกมาได้คล้ายๆกัน ต่างกันที่รูปร่างของห้องและขนาดของห้องที่แตกต่างกันไป

pleno h sakura 35

ส่วนห้องซ้ายสุดเป็นห้องนอนใหญ่ พื้นปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องไปกับส่วนทางเดินตรงกลาง บ้านจริงจะมีประตูสำเร็จรูป UPVC เป็นประตูบานทึบ แบบมีที่บิดแบบผลักเปิดออกเข้าไปในตัวห้องนอน

ห้องนอนใหญ่ขนาด 3.3 x 5.5 เมตร ทางขวามือ จัดเป็นเตียงนอนตรงกลางผนัง มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือทั้งสองฝั่ง ทางขวาจัดเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนที่ไม่กินพื้นที่ข้างเตียง ส่วนข้างบ้านมีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ ส่วนหน้าบ้านมีหน้าต่างบ้านใหญ่แบบช่องแสงแบบบาน Fixตรงนี้อาจจะต้องติดม่านบังแดด เนื่องจากเป็นห้องนอนที่ความร้อนและแสงแรงๆจะรบกวนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ด้วย

ช่องแสงขนาดใหญ่ภายในห้องนอนใหญ่ในส่วนหน้าบ้านทั้งที่เป็นแบบบานเลื่อนและแบบบาน Fix

ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน สามารถจัดแบบเต็มฝาผนังได้ถึงความสูงด้านบนและพื้นที่ด้านข้าง

อีกฝากหนึ่งของห้องนอนใหญ่จัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวีที่ระยะดูทีวีไกลมาก ไม่ต่ำกว่า 4 เมตร เหนือขึ้นไปเป็นตำแหน่งแอร์ รวมถึงทางขวามีประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน พื้นที่ทางซ้ายข้างผนังโล่งๆ สามารถใส่ตู้หนังสือ หรือโต๊ะทำงานเข้าไปได้

ประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน เป็นกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักเป็นกระจกตัดแสงเหมือนๆกับทุกบาน

ระเบียงหน้าบ้านขนาด 0.8 x 2.1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้านสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนิตเมตร มีราวกันตกแบบซี่กั้นอยู่

ด้านบนก็จะมีไฟระเบียงติดให้ 1 จุด

ต่อกันที่ห้องน้ำห้องเดียวของชั้น 2 ที่อยู่ในส่วนข้างบ้าน ประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จ UPVC มีเกล็ดระบายอากาศอยู่ข้างล่าง เปิด-ปิดไฟห้องน้ำจากสวิสซ์ด้านนอก พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้านสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ลดระดับห้องน้ำลงจากทางเดินประมาณ 3 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 1.5 x 2.5 เมตร เป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำให้จัดตำแหน่งของสุขภัณฑ์ให้ไม่เกยพื้นที่การใช้งานกันได้ พื้นที่ใช้สอยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ไล่ตั้งแต่อ่างล้างหน้าแบบไม่ก่อเป็นเคาท์เตอร์มาพร้อมกระจกบานไม่ใหญ่ โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นมาให้ และมีช่องแสงจากพื้นที่ข้างบ้านเป็นแบบบานกระทุ้ง แต่ถ้าไม่ใช่บ้านแปลงมุมน่าจะไม่มีบานหน้าต่างมาให้ ทำให้ห้องน้ำจะมืดและไม่ระบายอากาศได้เลย

อ่างล้างหน้าชิ้นเดียวและกระจกบานไม่ใหญ่นัก  ไม่มีพื้นที่วางของสำหรับเครื่องใช้ภายในห้องน้ำ

โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ และที่ใส่ทิชชู

พื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำขนาด 0.8 x 1.5 เมตร

มีฝักบัวและชั้นวางของด้านข้าง ด้านล่างมีก๊อกน้ำเพิ่มให้อีกหนึ่งจุด

ต่อกันที่ห้องนอนเล็กขนาด 2.35 x 3.35 เมตร อยู่ที่ตำแหน่งมุมหลังบ้าน บานประตูเป็นแบบบานสำเร็จ UPVC แบบบิดลูกบิดผลักเข้าเหมือนกับห้องนอนใหญ่ พื้นไม้ลามิเนตปูต่อเนื่องเข้าไปทางทางเดินด้านหน้า

ภายในตกแต่งเป็นแบบห้องนอนเด็กผู้หญิงหวานแหวว มีเตียงวางชิดผนังหลังบ้านใกล้กับหน้าต่างบานเลื่อน และมีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือด้านบนข้างเตียง ทางขวาเป็นชั้นวางของที่ทำเข้ากับผนังและตู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้าแบบไม่มีบานปิด และโต๊ะทำงานที่สามารถวางของเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปได้ด้วยในตัว

ปลายเตียงเป็นโต๊ะเล็กๆน่ารักๆสำหรับวางเล่นของเด็กเล็ก

ห้องสุดท้ายห้องเล็กสุดคือห้องอเนกประสงค์ของชั้น 2 ที่ทางเข้าอยู่ข้างพื้นที่ว่างข้างบันได ขนาด 2.35 x 2.55 เมตร เป็นห้องพื้นลามิเนตเช่นกัน

ภายในตกแต่งเป็นห้องสำหรับงานอดิเรกต่างๆภายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือการวาดรูป เก็บภาพต่างๆ สามารถประปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็กๆอีกห้องหนึ่ง หรือเป็นห้องทำงานเต็มตัวไปเลยก็ได้ มีช่องแสงส่วนหลังบ้านเป็นบานหน้าต่างแบบเลื่อน และมีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือด้านบน

จัดเป็นโต๊ะทำงานแบบเต็มตัว มีชั้นวางของอยู่ทั้งด้านล่างและบนผนัง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 16 April 2015

  • Himawara เนื้อที่ 18 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 106.9 ตารางเมตร ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคา 2.49 ล้านบาท ส่วนลด 100,000 บาท เหลือ 2.39 ล้านบาท
  • Sakura เนื้อที่ 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 124 ตารางเมตร ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคา 2.79 ล้านบาท
  • โปรโมชั้น ณ วันเข้าไปเก็บข้อมูล ฟรี ค่าธรรมเนียมการโอน, ค่าสาธารณูปโภคส่วนกลาง 2 ปี, ค่าประกันมิเตอร์น้ำ – ไฟฟ้า, ค่าอากรแสตมป์, ปั้มน้ำ, ถังน้ำสำรอง และกันสาด

  • จอง 10,000 บาท ทำสัญญาหลังจากวันจองภายใน 7 วัน และโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 30 วันหลังจากวันจอง
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 45,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

Pleno วงแหวน – รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง มุ่งหน้าถนนคู้บอน ฝั่งถนนคู้บอนซอยเลยคู่ พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรแนวราบ สลับกับพื้นที่ว่างเปล่าที่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ริมถนนเลียบคลองสองบ้างส่วนจะเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้นหันหน้าเข้าหาถนนใหญ่ บางส่วนเป็นร้านอาหาร มี Max Value อยู่ที่ทางเชื่อมต่อกับถนนคู้บอน มีตลาดนัดและร้านสะดวกซื้อ พื้นที่ข้างๆเป็นซอยย่อย และมีสถานีที่ราชการและบ้านพักอาศัยแบบชุมชนอยู่ประปราย สามารถเข้า-ออกเมืองได้ที่เส้นทางถนนเลียบคลองสองที่ทางตะวันตกต่อกับถนคู้บอนที่เชื่อมกับถนนใหญ่รามอินทรา หรือจะทางฝั่งตะวันออกที่ถนนเลียบคลองสองต่อกับถนนหทัยราษฎร์ ขึ้นไปยังสายไหม และลงใต้ที่แถบมีนบุรี มีมอเตอร์เวย์หรือทางด่วนหมายแลข 9 อยู่ไม่ไกล ความอุดมสมบูรณ์ของแถบนี้ต้องยกให้เส้นรามอินทรา ที่มีศูนย์การค้าอย่าง Fashion Island และ The Promenade รวมถึงโรงพยาบาลขนาดกลางหลายแห่ง

การเดินทางโดยใช้รถ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง มาจากนนทบุรีแถบหลักสี่ได้จากเส้นรามอินทรา ตรงยาวมาเรื่อยๆสามารถเข้าโครงการได้จากหลายเส้นทาง เส้นทางที่เราใช้คือจากถนนคู้บอนแล้วเข้าถนนเลียบคลองสอง หรือจากถนนรามอินทราเข้าที่ถนนปัญญาอินทราแล้วเข้าที่ถนนเลียบคลองสองโดยตรง หรือจะมาจากมีนบุรีเข้าที่ถนนหทัยราษฏร์ หรือจะเลียบเส้นวงแหวนตะวันออกมาเรื่อยๆ ส่วนทางขึ้นทางด่วน จะมีด่านจตุโชติที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร มีทั้งทางขึ้นและลง สามารถเข้าเมือง หรือจะไปทางตะวันออกอย่างบางนา หรือลำลูกกาปทุมธานี ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์ รถสองแถว พี่วิน แท๊กซี่ จะหาได้เรื่อยๆ แต่มีไม่มากนัก ส่วนระบบรถไฟฟ้าจะมีสายสีชมพูวิ่งตลอดเส้นทางถนนรามอินทรา ที่มีสถานีใกล้เคียงอยู่หลายสถานี แต่คงต้องรอกันไปมากกว่า 5 ปีจึงจะได้เร่ิมใช้กัน

วัสดุของโครงการที่ได้ก็มาตรฐานราคาระดับนี้ กระเบื้องพื้นชั้นล่างให้กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30×30 ซม.และผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิกขนาดเท่ากันกับพื้นปูจรดฝ้าเพดาน พื้นห้องชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. โคมไฟซาลาเปา พื้นที่จอดรถและพื้นซักล้างเป็นพื้น คสล.ปาดเรียบ บันไดเป็นไม้สำเร็จรูปที่ลูกนอน ส่วนผนังบ้านเป็น คสล.ทาสี ติดบัวสำเร็จรูปให้ที่ผนัง  ประตูหน้าต่างใช้กรอบอลูมิเนียมสีขาวกระจกใสเขียวตัดแสง, ส่วนห้องน้ำออกแบบเป็นแบบจตุรัสทำให้พื้นที่การวางสุขภัณฑ์เกยกัน และคับแคบ ใช้ของ Cotto แต่ห้องน้ำบางห้องไม่มีหน้าต่างข้างบ้านอย่างบ้านแปลงตรงกลาง และไม่มีพัดลมดูดอากาศ และระดับพื้นห้องน้ำส่วนเปียกลดระดับเพียงเล็กน้อย

การออกแบบโครงการ จัดแบ่งพื้นที่ได้ดี แปลงเป็นลักษณะยาวลึกเข้าไป แต่ก็จะมีพี่ยามคอยขี่จักรยานตรวจและนั่งเป็นจุดๆ ในแต่ละซอยมีจำนวนบ้านไม่มาก ทำให้ยังมีความเป็นส่วนตัว และซอยไม่ลึกทำให้ความปลอดภัยทำได้ง่ายขึ้น แต่ส่วน Landscape สวนสาธารณะ และส่วนกลางที่จะอยู่ส่วนหน้าของโครงการ ทำให้ลูกบ้านด้านหลังที่อยู่ในซอยแถบวงเวียนเข้าถึงยากหน่อย เพราะ Facilities เหมือนจะมารวมกันอยู่ด้านหน้าหมด พื้นที่สีเขียวส่วนโครงการลงมาให้ทั้งหญ้าจริงและต้นไม้ใหญ่ แต่ในส่วนของตัวบ้านไม่ได้ให้มา ให้แค่หน้าดินเปล่าๆ

การออกแบบบ้าน เป็นทาวน์โฮมมีทั้งหมด 2 แบบ ความกว้างของแปลงบ้านเท่ากันที่ 5.5 เมตร แตกต่างกันที่ความลึกของแปลง จำนวนห้องต่างๆเท่าๆกัน ต่างกันที่รูปร่างของห้องแต่ละแบบและขนาดการเพิ่ม-ลดตามความจำเป็น การวางตำแหน่งบันไดก็แตกต่างกัน คือวางแบบกลางบ้าน และวางแบบอยู่หน้าบ้าน มีห้องน้ำวางอยู่ส่วนข้างบ้านทั้งหมด บ้านแปลงมุมน่าจะไม่มีปัญหาเพราะจะมีหน้าต่างบานเล็กเจาะเพิ่มเข้ามาให้ แต่บ้านแปลปกติที่อยู่ตรงกลางจะไม่มีจุดระบายอากาศเลย ทำให้ต้องเจาะช่องติดพัดลมเพิ่ม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะไปออกที่จุดไหน พื้นที่ด้านล่างส่วนครัวแบบ Sakura จะดูเป็นสัดส่วนมากกว่า และบนชั้นสองห้องนอนใหญ่ก็จะมีขนาดใหญ่กว่า โดยห้องอเนกประสงค์ของแบบ Himawara ต้องจัดดีๆถึงจะเป็นห้องนอนได้อีกห้องหนึ่ง

สำหรับสาธารณูปโภคส่วนกลาง มีสวนสาธาณะขนาดเกือบไร่ มี Pool Pavillion ที่มีสระว่ายน้ำ แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เพิ่มกิจกรรมให้กับครอบครัวเล็กๆได้ ภายในอาคาร มีห้องรับรองที่สร้างเป็นแบบปิด ไม่มีบานเฟี้ยมเปิดระบายอากาศ ที่ปกติแล้วก็ไม่ได้เปิดแอร์ ทำให้ใช้งานไม่ค่อยได้จริง จะดีกว่าถ้าปรับเป็นห้องฟิตเนสเล็กๆ แล้วเปิดระบายอากาศต่อกับส่วนพื้นที่ข้างสระไปเลย พื้นที่สวนสาธารณะก็มีม้านั่ง มีการลงต้นไม้ใหญ่ การออกกำลังกายภายในโครงการจะวิ่งจ็อกกิ่งตามความยาวของโครงการเลยก็ได้ ส่วนถนนโครงการส่วนหน้ากว้าง 15 เมตร ลึกเข้ามาเป็น 12 เมตร และหลังวงเวียนคือ 9 เมตร แม้จะมีรถจอดอยู่ทั้งสองข้างของถนนหลัก แต่ก็ยังสวนกันได้สะดวก

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2 – 5 ล้านบาท, 16 April 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่เลียบคลอง 2 ไม่ไกลจากถนนใหญ่รามอินทราและทางขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดกจาก Key Card Access ระยะใกล้, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, กล้อง CCTV หน้าหมู่บ้านและภายใน, คนนอกใช้แลกบัตรเข้า 
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – เรียบๆ เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวเล็ก
  • วัสดุ 7.25/10 – มาตรฐานของระดับนี้ หักเรื่องไม่มีพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำที่ไม่มีหน้าต่างและเรื่องการลดระดับพื้นที่ส่วนเปียก
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – มีสวนสาธารณะที่ทางเข้า รอบโครงการมีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม รวมตามแนวขอบรั้วโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ไม่มีห้องฟิตเนส
  • 7.61 / 10.00

BOTTOM LINE

Pleno วงแหวน – รามอินทรา เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนภายในพื้นที่ หรือคนที่ทำงานแถบรามอินทรา – หทัยราษฎร์ – มีนบุรี มีรถยนต์ส่วนตัวใช้เป็นส่วนใหญ่ในการเดินทาง ยอมอยู่ไกลจากสีสันและความอุดมสมบูรณ์หน่อย แต่ได้บ้านในราคาสบายกระเป๋ามากกว่า มีงบประมาณประมาณ 2.5 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 12,000 – 18,000 บาท

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/