รีวิวฉบับที่ 1170 … สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชม GOLDEN TOWN 2 อ่อนนุช-พัฒนาการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่ในซอย อ่อนนุช 65 โครงการนี้เป็น 1 ใน Golden Lake Como ซึ่งจะประกอบไปด้วยบ้านจัดสรรของ Golden Land หลายๆโครงการรวมอยู่ด้วยกัน จุดเด่นคือการจัดสภาพแวดล้อมและพื้นที่ส่วนกลางที่จัดมาให้ครบครัน พร้อมทั้งสวนหย่อมและทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งหลังจากที่เปิดPre-sale ไปแค่ 2 วันก็ขายหมดทันที เราไปดูกันค่ะว่าเค้าทำออกมาเป็นแบบไหน
Fact @ 6 July 2016
- GOLDEN TOWN 2 Onnut – Pattanakarn (โกลเด้น ทาวน์ 2 อ่อนนุช-พัฒนาการ)
- Golden Land Property Development PLC.
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยอ่อนนุช 65 แยก 14 ถนนอ่อนนุช เขตประเวศ
- เนื้อที่โครงการ 26-2-77.1 ไร่ จำนวน 216 ยูนิต
- FLORENCE ที่ดิน 19.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
- VENICE ที่ดิน 21.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- เพดานชั้น 1 สูง 3 เมตร , ชั้น 2 สูง 3 – 4 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 75,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : มีนาคม 2559
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : กรกฎาคม 2560
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- สำนักงานขาย : 098-383-3323
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้ค่ะ
พิกัด : 13.728111 , 100.687111
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 65 ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ทำเลของโครงการ GOLDEN TOWN 2 อ่อนนุช-พัฒนาการ เป็นโครงการที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ จัดว่าเป็นทำเลที่อยู่อาศัยในย่านชานเมืองที่ไม่ห่างจากเมืองมากนัก ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 65 ใกล้กับสี่แยกประเวศที่ถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุชตัดกับถนนศรีนครินทร์ มีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายทั้งใช้รถ , ทางด่วน รวมไปจนถึงระบบขนส่งมวลชนแบบเก่าอย่างรถไฟหรือ Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งถนนศรีนครินทร์ตรงมาเลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) หรือเข้าไปยังถนนพัฒนาการมาออกที่ถนนอ่อนนุชก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังพระราม 9 ได้ด้วยถนนมอเตอร์เวย์ค่อนข้างสะดวก และสามารถใช้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกที่จะวิ่งรอบกรุงเทพและปริมณฑล โดยถ้ามุ่งหน้าทางฝั่งทิศเหนือตัดมอเตอร์เวย์ ถ้าอีกฝั่งจะมุ่งหน้าไปตัดกับทางด่วนบูรพาวิถีที่ด้านล่างจะเป็นถนนบางนา-ตราด
ถึงแม้ว่าโครงการจะเหมาะสำหรับการใช้รถยนต์มากกว่า แต่ในบางวันที่จำเป็นจะต้องไม่ใช้รถการเดินทางต้องต่อรถออกมาหน้าปากซอยก่อนเพราะโครงการอยู่ในซอยค่อนข้างลึก แล้วค่อยมาต่อด้วยรถสาธารณะต่างๆ โดยจะมีทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่หน้าปากซอย , Taxi , รถเมล์ , รถสองแถวซีคอน-ประเวศ จัสโก้-พระโขนง ราม2-ประเวศ , Airport Rail Link สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีบ้านทับช้าง ตัวเลือกนี้จะสะดวกหากจะไปสนามบินสุวรรณภูมิแต่หากจะเข้าเมืองด้วยการไปลงที่สถานีพญาไทแล้วต่อ BTS หรือ MRT จะใช้เวลานานพอสมควร ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีใกล้เคียงที่สุดคือสถานีอ่อนนุชห่างจากโครงการประมาณ 11 กม.
บริเวณรอบๆที่ตั้งมีความเจริญอยู่พอประมาณแต่จะเกาะกลุ่มอยู่บริเวณใกล้ๆกับถนนใหญ่ บนถนนอ่อนนุชจะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ประปราย ถ้าข้ามไปถนนลาดกระบังจะมี The Paseo Mall Community mall ที่มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 8 กิโลเมตร และบนถนนพัฒนาการก็มีสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ศูนย์การค้าอย่าง Tesco Lotus , Max Value และที่เปิดใหม่อย่าง London Street จาก MK Group รวมไปถึงม.เกษมบัณฑิต และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ส่วนบนถนนศรีนครินทร์จะมีห้างซีคอนสแควร์ Paradise Park และสวนหลวงร.9 มีอาคารสำนักงานสูงไม่เกิน 8 ชั้นบ้างประปราย ถัดมาไกลหน่อยบนถนนบางนา-ตราดจะมีทั้ง Ikea บางนา, Mega Bangna, Foodland บางนา หรือ Central City บางนาค่ะ ตลาดใหญ่ใกล้ๆจะมีตลาดเอี่ยมสมบัติ และบริเวณช่วงกลางๆซอยอ่อนนุช 65 ก็มี 7-11 และ Family Mart ไว้พึ่งพิงเวลาหิวได้อีกด้วย
การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจากถนนศรีนครินทร์บริเวณหน้า Max Valu วิ่งผ่านแยกที่จะไปถนนพัฒนาการ ตรงมาเลี้ยวเข้าถนนอ่อนนุชฝั่งมุ่งหน้าทางไปยังถนนลาดกระบัง ตรงมาตามทางเรื่อยๆไปเลี้ยวเข้าซอยอ่อนนุช 65 จากหน้าปากซอยเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวโครงการค่ะ
เราเริ่มจากถนนศรีนครินทร์วิ่งตรงมาทางด้านซ้ายผ่าน Max Valu ที่ด้านในมีร้านอาหาร ร้านค้าให้บริการพร้อมพื้นที่จอดรถอีกเพียบ สามารถฝากท้องแวะทานข้าว ช้อปปิ้งก่อนกลับบ้านได้สบายๆ
ขับตรงมาเรื่อยๆระหว่างทางจะมี Thanya Park อยู่ทางด้านซ้ายมือ
ตรงมาก็จะถึงช่วงที่ถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช เราจะเลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางไปลาดกระบัง ถ้าเลี้ยวขวาไปก็จะไปออกถนนสุขุมวิทที่มีสถานี BTS อ่อนนุชอยู่
ตรงมาเรื่อยๆมาเลี้ยวเข้าซอยอ่อนนุช 65
เข้ามาในซอยอ่อนนุช 65 บริเวณหน้าปากซอยก็จะมีพี่วินมาคอยให้บริการอยู่
ถัดเข้ามาอีกหน่อยช่วยกลางๆซอยจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร 7-11 และ Family mart รวมกันอยู่ มีความอุดมสมบูรณ์ใช้ได้
ถัดเข้ามาช่วงท้ายซอย บรรยากาศจะค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนตัวกว่าช่วงต้นซอย พอเจอแยกที่มีป้ายบอกทางไป Golden Lake Como ให้เราเลี้ยวขวาค่ะ
พอเลี้ยวมาแล้ว ขับรถมาตามทางซักระยะจะเจอกับทางเข้า Golden Lake Como ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาชุมชนหมู่บ้านจัดสรรบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยโครงการของ Golden Land หลายโครงการรวมกันอยู่ มีการตัดถนนให้ใช้ร่วมกัน แต่ทางเข้าและพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละโครงการจะแยกกัน
จากซุ้มประตูทางเข้า Golden Lake Como เข้ามาทางด้านซ้ายจะเป็นโครงการ Golden Neo บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ส่วนโครงการ Golden Town 2 ที่เราจะพาไปชมกันจะอยู่ถัดมา เราจะพาเข้าไปชมบรรยากาศด้านใน Golden Lake Como กันก่อนค่อยกลับมาที่โครงการเรานะคะ
พอวนรถตรงวงเวียนเลี้ยวมาทางขวาก็จะเจอกับทางเข้าโครงการ Golden Town 2 ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ Golden Village บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดจำนวน 217 หลัง บนเนื้อที่ประมาณ 54 ไร่ ถนน Main หลักที่ใช้ร่วมกันกว้าง 18 เมตรค่อนข้างกว้าง รถสวนกันได้สบายๆค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆจะเจอทางโค้งพอเลี้ยวมาก็จะเจอกับทางเข้าโครงการ Golden Village
ถัดไปจะเจอกับโครงการ Golden City เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นบนพื้นที่กว่า 10 ไร่
ส่วนท้ายสุดจะเป็น Golden Town ซึ่งสร้างเสร็จเป็นโครงการแรกบนพื้นที่ของ Golden Lake Como เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น รูปแบบเหมือนกับโครงการที่เราจะพาไปชมค่ะ
GOLDEN TOWN 2 อ่อนนุช-พัฒนาการ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้นตั้งอยู่ใน Golden Lake Como ที่ดินขนาดใหญ่ของ Golden Land ที่พัฒนาโครงการแนวราบหลายๆโครงการอยู่ด้วยกัน ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 65 ตัวโครงการห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งแต่ละโครงการก็จะมี Product และจุดเด่นที่แตกต่างกันไปได้แก่
- Golden Town (โครงการแรก) – เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 416 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 53 ไร่ ตัวนี้ Product จะเหมือนกับ Golden Town 2
- Golden City – ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 81 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 187 ตร.ม.
- Golden Neo – บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 134-139 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา
- Golden Village – บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 217 หลัง บนพื้นที่ประมาณ 54 ไร่ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 134-191 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา
- Golden Town 2 – ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 216 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 26 ไร่
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรแนวราบสลับกับที่ดินเปล่า ไม่ค่อยมีตึกสูงมาขึ้นบริเวณนี้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ลึกเข้ามาในซอยแต่บรรยากาศและสภาพแวดล้อมถือว่าค่อนข้างโอเค เพราะโครงการอยู่ในกลุ่มของ Golden Lake Como ซึ่งรอบๆโครงการมีการปรับทัศนียภาพเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเพื่อนบ้านของเราก็คือโครงการใน Golden Lake Como นั่นเองแต่ละด้านของโครงการติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับคลองทับช้างล่าง ซึ่งเป็นคลองที่แตกสายมาจากคลองประเวศบุรีรมย์
- ทิศตะวันออก – ติดกับโครงการ Golden City และ Golden Town (โครงการแรก)
- ทิศใต้ – ติดกับถนนหลักของโครงการ Golden Lake Como ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ Golden Village
- ทิศตะวันตก – ติดกับโครงการ Golden Neo และ Golden Village
ภาพมุมสูงให้เห็นภาพรวมของโครงการค่ะ
ทิศตะวันออก ติดกับโครงการ Golden City ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ถัดไปเป็น Golden Town (โครงการแรก)
ทิศใต้ ติดกับถนนหลักของโครงการกว้าง 18 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ Golden Village
ทิศตะวันตก ติดกับโครงการ Golden Neo และ Golden Village
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- The Paseo Mall – 8 กิโลเมตร
- สำนักงานเขตสวนหลวง – 8 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลวิภาราม – 8.6 กิโลเมตร
- London Street – 9 กิโลเมตร
- Paradise Park – 9.5 กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ – 9.9 กิโลเมตร
- Max Value พัฒนาการ – 10 กิโลเมตร
- สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น – 10 กิโลเมตร
- ซีคอนสแควร์ – 10 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 10.9 กิโลเมตร
- สถานี BTS อ่อนนุช – 11 กิโลเมตร
- สวนหลวงร.9 – 11.1 กิโลเมตร
- The Nine พระราม9 – 11.2 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต – 12 กิโลเมตร
- ราชมังคลากีฬาสถาน – 13.3 กิโลเมตร
- สนามบินสุวรรณภูมิ – 14.7 กิโลเมตร
- Mega บางนา – 16.7 กิโลเมตร
เรามาดูที่ตัวโครงการกันต่อค่ะ Golden Town 2 อ่อนนุช – พัฒนาการ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 216 ยูนิตตั้งอยู่บนที่ดิน 26-2-77.1 ไร่ เข้ามาด้านในโครงกาจะเจอกับ Facilities อยู่ตรงกลางก่อน เพื่อให้ลูกบ้านมาใช้งานได้สะดวกและใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขกได้อีกด้วย ข้อดีอีกอย่างคือพอจัดวางพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางจะทำให้รู้สึกว่าบ้านที่อยู่ท้ายๆโครงการไม่รู้สึกว่าลึกจนเกินไป จุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาครบครันซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นโครงการในระดับนี้ให้มาทั้ง Clubhouse , ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ , สวนหย่อม , ทะเลสาบอีก 2 จุด และมีการจัดสภาพแวดล้อมภายในค่อนข้างดี ส่วนตัวบ้านจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งซ้าย – ขวา มีถนนหลักกว้าง 16 เมตรตัดอยู่ตรงกลาง ส่วนถนนย่อยกว้าง 9 เมตร บ้านมีอยู่ 2 Type ให้เลือก Florence 115 ตร.ม. และ Venice 130 ตร.ม. โดยวางผังแบ่งออกเป็นซอยย่อยหลายๆซอย แต่ละซอยจะมีบ้าน 2 ฝั่งหันหน้าเข้าหากัน ฝั่งละไม่เกิน 7 ยูนิต วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ ซึ่งจะไม่มีหลังไหนโดนแดดร้อนตอนบ่ายทางทิศตะวันตก บ้าน Venice 130 ตร.ม.หรือบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่าจะอยู่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางมากกว่า ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นบ้านแบบ Florence 115 ตร.ม.
ซุ้มประตูหลักของโครงการอยู่ติดกับถนนส่วนกลางของ Golden Lake Como ดีไซน์เป็นซุ้มสีเหลืองคล้ายๆกันทุกโครงการ แยกทางเข้า-ออกกั้นด้วยไม้กระดก ป้อมรปภ.จะอยู่ตรงกลาง บริเวณด้านข้างซุ้มทั้ง 2 ฝั่งมีการจัดสวนหย่อมเล็กๆเพื่อเพิ่มความร่มรื่น สำหรับแนวคิดในการออกแบบตัวบ้าน และ ส่วนกลางได้แรงบันดาลใจจากดินแดนแห่งทะเลสาบ เลค โคโม ประเทศอิตาลีนั่นเองค่ะ
ทางเข้าโครงการจะรักษาความปลอดภัยด้วยไม้กระดกกั้น สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ลูกบ้านจะต้องติดต่อแลกบัตรเข้า-ออกกับพี่ รปภ.ค่ะ
จากซุ้มประตูหลักของโครงการเข้ามาก็จะเจอกับ Clubhouse สไตล์อิตาลีสีสันสดใสอยู่ตรงกลาง ส่วนทางด้านซ้ายและขวาจะเป็นทางไปส่วนของตัวบ้าน
หันมาทางด้านซ้ายจะเจอกับพื้นที่สวนและทะเลสาบอยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการ มีเปิดน้ำพุอยู่ตรงกลางสร้างบรรยากาศความร่มรื่นได้ดีทีเดียว
เดินเข้ามาดูด้านในค่ะ บริเวณรอบๆทะเลสาบมีการจัดสวนหย่อมและมีทำการเดินเอาไว้รอบๆ หรือจะใช้เป็น Jogging Track ก็ได้ค่ะ
ถัดจากสวนและทะเสสาบด้านหน้าโครงการจะเป็นถนนทางไปตัวบ้านฝั่งปีกซ้าย ด้านหลังจะมีทะเสสาบอยู่อีกจุดหนึ่ง
ด้วยความที่บริเวณตรงกลางของโครงการมีแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน ซึ่งตามกฏหมายแล้วพื้นที่รอบๆในรัศมีที่กำหนดไม่สามารถสร้างอาคารและต้นไม้ที่สูงเกินกว่า 3 เมตรได้ ซึ่งทางโครงการก็ได้นำพื้นที่ตรงนี้มาทำเป็นสวนหย่อมและทะเสสาบ ทำให้กลายเป็นจุดเด่นของโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะและบรรยากาศภายในร่มรื่น
บริเวณรอบๆทะเลสาบฝั่งนี้ก็มีทางเดินรอบๆสวนค่ะ ด้านหลังที่เห็นเป็นรั้วสีดำคือโครงการ Golden Town โครงการแรกค่ะ
ส่วนพื้นที่ด้านหลัง Clubhouse จัดเป็นพื้นที่สวนทั้งหมดค่ะ มีลงทั้งหญ้าและต้นไม้ใหญ่พื้นที่ประมาณ 321 ตร.วา
มีบ่อทรายและเครื่องเล่นให้คุณน้องๆ หนูๆเล่นสนุกกันด้วยค่ะ
ด้านหลัง Club house มีสระว่ายน้ำ มองมุมนี้ได้อารมณ์เหมือนรีสอร์ทหน่อยๆ
ด้านหน้าของ Club house ดีไซน์ในสไตล์อิตาลี ทางฝั่งซ้ายหรือฝั่งอาคารสีเหลืองตอนนี้ทำเป็นพื้นที่ของสำนักงานขายซึ่งในอนาคตโครงการจะทำเป็นส่วนของฟิตเนส ส่วนฝั่งขวาหรืออาคารสีส้มเป็นห้องน้ำค่ะ
บริเวณหน้า Club house มีจัดสวนไม้พุ่มดอกไม้สีสดใส ตรงกลางที่เชื่อมระหว่างอาคาร 2 หลังเป็นทางเดินที่ทำดีไซน์ผนังทั้ง 2 ฝั่งเป็นซุ้มทรงโค้ง ด้านหลังทางเดินถึงเป็นสระว่ายน้ำที่เราเดินผ่านมา
ในส่วนของสำนักงานขายที่ในอนาคตจะปรับเป็นฟิตเนสค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ขนาด 15 x 7 เมตร สระเด็ก 1.8 x 4.8 เมตร สามารถว่ายและมองวิวทะเลสาบได้
ด้านข้างสระว่ายน้ำมีจัดชุดที่นั่งพักผ่อนเอาไว้ให้หรือจะเอาไว้สำหรับนั่งรอเพื่อนหรือลูกๆเล่นน้ำก็ได้
อีกฝั่งพอผ่านซุ้มสีส้มไปก็จะเป็นห้องน้ำค่ะ มีแบ่งให้ทั้งห้องน้ำหญิงและชาย
บรรยากาศภายในห้องน้ำ ใช้กระเบื้องที่มีสีสันเข้ากับ Concept ของโครงการ
มีทั้งห้องน้ำและพื้นที่อาบน้ำ พอว่ายน้ำหรือออกกำลังเสร็จก็มาล้างเนื้อล้างตัวก่อนกลับเข้าบ้านได้
พอออกมาจาก Clubhouse หันมาอีกฝั่งก็เป็นส่วนของตัวบ้าน และ บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมค่ะ
ตัวบ้านจากถนนหลักจะแบ่งออกเป็นซอยย่อย แต่ละซอยจะมีบ้าน 2 ฝั่ง ฝั่งละประมาณ 6-7 หลังหันหน้าเข้าหากัน ถนนย่อยกว้าง 9 เมตร บ้านตัวอย่างมีให้ดูทั้ง 2 Typeค่ะ ฝั่งซ้ายคือบ้าน Venice 130 ตร.ม. ฝั่งขวาเป็นบ้านแบบ Florence 115 ตร.ม. แต่ละแบบจะต่างกันยังไง เดี๋ยวไปชมกันต่อค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Clubhouse
- สระว่ายน้ำ1 สระ ระบบเกลือ แบ่งสระผู้ใหญ่ขนาด 15 x 7 เมตร ลึก 1.2 ม. สระเด็กขนาด 1.8 x 4.8 เมตร ลึก 0.5 ม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนหย่อมประมาณ 321 ตร.วา
- ทะเลสาบ 2 จุด
- สนามเด็กเล่น
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
บ้านแบบแรกคือ Florence เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. บนที่ดิน 19.7 ตร.วา เป็นบ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร หน้าบ้านเป็นที่จอดรถสามารถจอดคันใหญ่ได้ 1 คัน Eco Car ได้อีก 1 คัน เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นและห้องอาหาร ห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยเผื่อในช่วงเวลาเร่งด่วนสามารถลงมาใช้ได้ มีห้องอเนกประสงค์มาให้ 1 ห้องซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ตามความต้องการของเราโดยจะใช้เป็นห้องดูหนัง พักผ่อน ห้องทำงาน ห้องนอน หรือห้องครัวปิดก็ได้ หลังบ้านทางโครงการเผื่อพื้นที่ให้สำหรับการต่อเติมทำเป็นครัวและมุมพักผ่อน มีการเดินงานระบบมาให้พร้อมซึ่งทำให้เราสามารถใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มที่
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงเล็กๆก่อนแจกไปยังส่วนต่างๆ มีห้องนอนใหญ่ 1 ห้องและห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ทุกห้องไม่มีห้องน้ำในตัวต้องออกมาใช้รวมกันที่ห้องน้ำตรงโถงบันได หรือจะลงไปใช้ห้องน้ำชั้นล่างก็ได้ ห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านมีพื้นที่แยกเป็นส่วนพักผ่อนและส่วนสำหรับทำเป็น Walk-in Closet มีระเบียงเล็กๆพอออกไปยืนสูดอากาศได้
ตัวบ้านจะเรียงกันเป็นแถวแบบนี้ฝั่งละประมาณ 6-7 หลัง ของจริงจะได้รั้วกั้นหน้าบ้านมาให้ด้วยนะคะ ส่วนตรงกลางระหว่างบ้านทั้งสองฝั่งจะไม่ใช่สวนแบบนี้แต่จะเป็นถนนย่อยกว้าง 9 เมตรค่ะ
ซูมให้ดูใกล้ๆตัวบ้านเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นตกแต่งในสไตล์อิตาลี โครงสร้างเป็นเสาเข็ม คอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังรับแรง(Bearing wall) บ้านหลังแรกเป็นบ้านตัวอย่าง ตกแต่งสวยงาม และหลังถัดไปเป็นบ้านเปล่าเพื่อให้ดูเป็นตัวอย่างว่าบ้านที่ลูกบ้านจะได้รับนั้นภายในจะได้อะไรบ้างนะคะ
หน้าบ้านจอดรถใหญ่ได้ 1 คัน รถเล็กอีโคคาร์ได้อีก 1 คัน ส่วนที่จอดรถของบ้านจริงจะได้เป็นพื้นคอนกรีต ประตูเป็นบานเลื่อนกรอบบาน UPVC สีขาว กระจกใสสีเขียวตัดแสง ด้านล่างของประตูจะมีทำรางเผื่อสำหรับติดตั้งมุ้งลวดมาให้พร้อม ก่อนเข้าตัวบ้านพื้นมียกระดับขึ้นจากพื้นลานจอดรถเล็กน้อย เพื่อกันน้ำกันฝุ่นและสามารถทำเป็นส่วนวางรองเท้าหน้าบ้านได้ด้วย
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร ฝั่งซ้ายหน้าบ้านเป็นบันไดทางขึ้น ห้องน้ำ ห้องอเนกประสงค์ที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องดูหนังหรือจะใช้เป็นห้องนอนที่4ก็ได้ หลังบ้านเป็นส่วนของลานซักล้างสามารถต่อเติมใช้เป็นครัวไทยได้ พื้นชั้นล่างเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว 60 x 60 cm. ฝ้าเพดานสูง 3.00 เมตร ฉาบเรียบติดไฟให้แบบดาวน์ไลท์
พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร บริเวณหน้าบ้านและหลังโซฟาในบ้านแปลงมุมจะเป็นช่องแสงทำให้บ้านดูโปร่ง (ในกรณีที่แปลงนั้นมีพื้นที่ด้านข้าง 2 เมตรตามกฎหมาย)
ความต่อเนื่องของพื้นที่เป็นประมาณนี้ค่ะ ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับทานข้าวจะมีพื้นที่พอตั้งเป็นโต๊ะทำงานเข้ามุมได้
ถัดเข้ามาฝั่งซ้ายเป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนฝั่งขวาจัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร หรือถ้าใครจะไม่ต่อเติมพื้นที่หลังบ้านบริเวณห้องอเนกประสงค์ก็ใช้เป็นครัวปิดได้ค่ะ
ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องดูหนัง ผนังรอบๆกรุวัสดุดูดซับเสียง ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหารจะต่อเนื่องกันกับส่วนของครัวไทยบริเวณหลังบ้าน (ในกรณีที่เราต่อเติม) พอทำอาหารเสร็จก็ยกมาเสริฟได้สะดวก
พื้นหลังบ้านจะลดระดับลงไปประมาณ 10 cm. เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดหรือซักล้าง
พื้นที่หลังบ้าน ในบ้านมาตรฐานเราจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆซึ่งทางโครงการมีทำงานระบบและรางระบายน้ำฝนมาให้สำหรับเผื่อให้การต่อเติม
อีกฝั่งหนึ่งก็เช่นกันค่ะ เนื่องจากพื้นที่หลังบ้านมีระยะยาวพอสมควรสามารถแบ่งทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหลังบ้านได้แบบในบ้านตัวอย่าง ส่วนความกว้างของพื้นที่หลังบ้านประมาณ 2 เมตรค่ะ
ในบ้านตัวอย่างกั้นพื้นที่ทำเป็นส่วนนั่งพักผ่อนหลังบ้านค่ะ
โครงการมีทำรางระบายน้ำฝนมาให้เพื่อรองรับในการต่อเติมพื้นที่หลังบ้านและทำให้เป็นรูปแบบเดียวกันทุกหลัง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ส่วน Condensing unit ของแอร์จะแขวนรวมกันอยู่หลังบ้าน เพราะฉะนั้นจะไม่ไปรบกวนพื้นที่ของระเบียง
กลับมาที่ภายในบ้าน เราจะพาไปดูต่อกันที่ห้องน้ำ และ ทางขึ้นชั้น 2
ห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดข้างๆห้องอเนกประสงค์แบบนี้ บ้านจริงเราจะได้บานประตูห้องน้ำเป็นบาน PVC ที่มีเกร็ดระบายอากาศด้านล่างค่ะ
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลง เพื่อทำให้ระยะของฝ้าเพดานของห้องที่อยู่ใต้บันไดสูงขึ้น
ในห้องน้ำเข้ามาจะเจอกับอ่างล้าหน้าก่อน ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านในสุดทำเป็นพื้นที่อาบน้ำ เรียกว่าจัดฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้ครบ ในช่วงเวลาเร่งด่วนสามารถลงมาอาบที่ห้องนี้ได้
อ่างล้างหน้าจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ บานประตูเป็นบานเปิดออกจึงไม่ชนกับส่วนอ่างล้างหน้าค่ะ
อ่างล้างหน้าเป็นของ Englefield หรือเทียบเท่าด้านบนมีพื้นที่วางของเล็กๆน้อยๆได้
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Englefield หรือเทียบเท่า เช่นกัน ที่วางทิชชู่ติดตั้งอยู่บริเวณผนังด้านข้างหยิบใช้งานสะดวกค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีทำช่องเอาไว้วางของพวกสบู่ แชมพู และมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศและเปิดรับแสงเข้ามาในห้อง
โถงบันไดทางขึ้นชั้น 2 กว้างประมาณ 1.00 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กฉาบเรียบทาสีขาว พื้นลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป
ขึ้นมาจะเจอกับขั้นบันไดเเบบ 3 เหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางบันได ผนังด้านข้างมีช่องแสงทำให้พื้นที่บริเวณนี้ไม่มืด ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟเวลาขึ้นลงบันไดเวลากลางวัน
ภาพถ่ายจากมุมสูงค่ะ ตรงส่วนที่เป็นขันบันไดแบบ 3 เหลี่ยมเวลาเดินเร็วๆต้องระมัดระวังสะดุดหน่อยนะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ส่วนทางขวาเป็นห้องนอนใหญ่ ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกัน ฝ้าเพดานของชั้นนี้ก็สูง 3.00 เมตร ส่วนพื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนต
บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีแผงควบคุมไฟ้าติดตั้งอยู่
ในห้องนอนเล็กค่ะ วางเตียง 3.5 ฟุต ได้แบบข้ามุมด้านข้างเตียงเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า ห้องนี้ไม่มีระเบียงแต่มีช่องแสงเอาไว้เปิดระบายอากาศได้
บริเวณหน้าห้องถัดจากส่วนของเตียงสามารถวางเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้
อีกห้องหนึ่งวางเตียงแบบ 3.5 ฟุตเช่นกัน ห้องนี้จะมีพื้นที่ใกล้เคียงกับห้องนอนเล็กห้องก่อนหน้าหน่อย
มีระยะระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าประมาณ 1.00 เมตร สามารถเปิดบานตู้แต่งตัวได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะชนกับเตียง บ้านตัวอย่างใช้เป็นคู้บานเลื่อนซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้
ภายในห้องน้ำบรรยากาศคล้ายๆกับห้องข้างล่าง มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ 3 อย่าง อ่าง, สุขภัณฑ์ และอาบน้ำ แต่ไม่มีกั้นพื้นที่อาบน้ำและลดระดับมาให้ เราสามารถกั้นเพิ่มเติมเองได้ค่ะ
ชั้นบนที่วางทิชชู่ก็ติดตั้งบริเวณผนังด้านข้างทำให้หยิบ จับ ใช้งานได้สะดวก สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Englefield หรือเทียบเท่าเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง
เราเข้ามาดูกันต่อใน Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่ค่ะ
ห้องนอนใหญ่เป็นห้องที่อยู่ทางหน้าบ้าน มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องนอนเล็ก ตัวห้องกว้างขวางจะมีความยาวตลอดหน้ากว้างของตัวบ้าน ผังของห้องนอนที่เป็นแบบนี้ มีข้อดีคือสามารถกั้นพื้นที่ทำเป็นพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet ได้ช่วยให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น
ฝ้าเพดานของชั้นบนก็สูง 3.00 เมตรทำให้รู้สึกสูงโปร่ง แต่จะได้แบบฝ้าฉาบเรียบนะคะ ไม่มีการเล่นระดับซ่อนไฟให้แบบในบ้านตัวอย่าง
ฝั่งซ้ายของเตียงมีระยะ 60 cm. ส่วนฝั่งขวามีระยะค่อนข้างกว้างเพราะเป็นพื้นที่โล่งๆไม่ติดกับอะไรค่ะ ด้านในสุดทั้ง 2 ฝั่งเป็นตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียง ด้านหลังโต๊ะหัวเตียงสามารถติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือเสียบปลั๊กโคมไฟได้สะดวก
ส่วนปลายเตียงมีระยะจากเตียงถึงผนังประมาณ 60 cm. ถ้าอยากประหยัดพื้นที่สามารถติดตั้งทีวีเป็นแบบแขวนได้ค่ะ
อีกฝั่งของห้องสามารถกั้นทำเป็น Walk-in Closet ได้ซึ่งบ้านจริงจะไม่มีกั้นฉากให้นะคะ จะเป็นห้องเปล่าโล่งๆ ทางฝั่งซ้ายเป็นทางออกไปที่ระเบียง ห้องนี้มีช่องแสงเยอะเหมือนกัน ทำให้ภายในห้องมีแสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ
ประตูทางออกไประเบียงเป็นประตูบานเลื่อน กรอบบานสีขาว
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.60 x 1.50 เมตร พอออกไปยืนสูดอากาศได้
บ้านอีกแบบคือ Venice เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. บนที่ดิน 21.2 ตร.วา การจัดวางผังและพื้นที่ใช้สอยจะคล้ายๆกับบ้านแบบ Florence ต่างกันตรงที่ สามารถจอดรถได้แบบ 2 คันเต็มๆ เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นและห้องอาหารเหมือนเดิม แต่พอไม่ต้องร่นระยะให้ที่จอดรถตัวบันไดขึ้นชั้น 2 เลยมาอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ใต้บันไดเช่นเดิม ถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์ หลังบ้านเป็นพื้นที่ซักล้างและสำหรับต่อเติมทำเป็นครัวไทย เหมือนกับบ้านแบบก่อนหน้า
ขึ้นมาที่ชั้น 1 จะเจอกับโถงก่อนแจกไปยังส่วนต่างๆ มีห้องนอนใหญ่ 1 ห้องและห้องนอนเล็ก 2 ห้อง แตกต่างตรงที่บริเวณโถงของ Type นี้จะมีชั้นลอยสำหรับทำเป็นห้องพระ และในห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวและได้ระเบียงที่กว้างขึ้น ห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันจะมีแค่ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งการจัดพื้นที่ใช้สอยต่างๆในบ้าน Type นี้จะลงตัวมากขึ้น
ตัวบ้านภายนอกต่างกับแบบก่อนหน้านิดหน่อยตรงบริเวณที่จอดรถจะไม่มีพื้นที่หน้าบ้านยื่นออกมา สามารถจอดรถได้เต็มๆ 2 คัน พื้นที่ระเบียงชั้น 2 กว้างขึ้น และ ฝ้าเดานชั้น 2 มีระยะสูงขึ้น
บริเวณหน้าบ้านของบ้านแบบ Venice ค่ะ หลังแรกเป็นบ้านตัวอย่าง ส่วนหลังถัดมาเป็นบ้านมาตรฐาน
พื้นที่จอดรถหน้าบ้านของ Type นี้จอดได้ 2 คัน พื้นของจริงจะได้เป็นคอนกรีตขัดหยาบค่ะ พื้นที่ทางเข้าหน้าบ้านจะมีการยกระดับทางขึ้นปูด้วยกระเบื้อง ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนบานคู่ ติดไฟแบบดาวน์ไลท์เอาไว้ให้ 2 จุด
เข้ามาในตัวบ้านจะคล้ายกับบ้านแบบก่อนหน้าคือจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นรับแขก ถัดไปเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร อีกฝั่งเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ ส่วนพื้นที่ซักล้างและครัวอยู่ด้านหลังบ้าน พื้นภายในบ้านปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสี ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่าง 3.00 เมตร สำหรับบ้านจริงจะได้เป็นบ้านเปล่าๆไม่มีเฟอนิเจอร์ตกแต่งนะคะ
มองย้อนกลับไปทางด้านหน้าบ้าน พื้นที่ส่วนนั่งเล่น จัดเป็นชุดโซฟา ฝั่งตรงข้ามเป็นชุดตู้สำหรับวางของและตั้งทีวี ระยะดูทีวีประมาณ 3.6 เมตร
อีกฝั่งเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ การตกแต่งบ้านตัวอย่างจะใช้กระจกเป็นส่วนใหญ่ สามารถช่วยหลอกสายตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ซึ่งเราเก็บไปใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านได้ค่ะ
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้ครบทั้ง อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และ พื้นที่อาบน้ำ แต่ไม่ได้กั้นฉากัั้นอาบน้ำมาให้ เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด
อ่างล้างมือขนาดกะทัดรัดจาก Englefield หรือ เทียบเท่าค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไป 5 cm. เพื่อกันน้ำไหลออกไปพื้นที่ด้านนอกและเพื่อความสะดวกในการซักล้าง พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิก
อีกฝั่งเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Englefield หรือ เทียบเท่าเช่นกัน
มาถึงส่วนห้องรับประทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆค่ะ อีกฝั่งเป็นห้องอเนกประสงค์ ด้านหลังมีบานหน้าต่างสามารถเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้พอสมควร
ห้องอเนกประสงค์ถึงแม้ว่าขนาดห้องจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีบานหน้าต่างเปิดออกมาได้ประมาณนี้
การจัดพื้นที่ใช้สอยของชั้นล่าง รวมๆแล้วจัดได้ประมาณนี้
ในห้องอเนกประสงค์บ้านหลังนี้จัดเป็นห้องนอนค่ะ วางเตียงขนาดเล็กได้ ด้านหลังห้องส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ และมีระยะสำหรับวางโต๊ะข้างเตียง
ส่วนปลายเตียงในบ้านตัวอย่างติดชั้นวางของแบบ Built-in เพิ่มเข้ามาทำให้เหลือระยะน้อยหน่อย
อีกฝั่งมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ ทำให้ห้องนี้ฟังก์ชั่นค่อนข้างครบถ้วนในพื้นที่ที่จำกัด
เราจะไปดูพื้นที่หลังบ้านกันต่อ
ซึ่งพื้นที่หลังบ้านของ Type นี้ก็สามารถกั้นต่อเติมเป็นครัวได้ โดยมีเผื่องานระบบให้ครบเช่นกัน
อีกฝั่งบ้านตัวอย่างหลังนี้จัดเป็นห้องซักรีดค่ะ ซึ่งก็เป็นไอเดียการใช้พื้นที่ที่ดีทีเดียว ด้านบนทำหลังคาเป็นแบบโปร่งแสงทำให้ห้องดูโปร่ง สามารถตากผ้าในห้องนี้ก็ได้
มุมมองถ่ายย้อนกลับไปฝั่งหน้าบ้านค่ะ
ไปดูชั้น 2 กันต่อนะคะ ทางขึ้นจะอยู่ด้านข้างติดกับหน้าประตูทางเข้าบ้านเลย ด้านข้างติดกระจกบาน Fixed ให้ เพื่อให้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาในส่วนโถงบันได ดูสว่างขึ้นมาหน่อยโดยไม่ต้องเปิดไฟส่วนโถงบันไดในตอนกลางวัน
เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอขั้นบันไดสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได โครงสร้างเป็นคอนกรีตเหมือนกับบ้านแบบแรก
เดินขึ้นไปจะต้องเปลี่ยนทิศทางของบันไดอีกทีหนึ่ง
ถ้ามองจากมุมสูงลงมาจะเห็นว่าลักษณะของบันไดเป็นรูปตัว U หรือบันไดแบบพับผ้า ส่วนชานพักบันไดเป็นแบบบันไดสามเหลี่ยมเข้ามุม ซึ่งจริงๆชานพักควรจะเป็นขั้นสี่เหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่พอให้ยืนพักได้ แต่เนื่องจากฝ้าสูงและมีพื้นที่บันไดน้อยจึงต้องยอมเปลี่ยนชานพักเป็นบันไดเข้ามุมแทนค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ทางฝั่งซ้ายสุดเป็นห้องนอนใหญ่ ถัดมาเป็นห้องน้ำ และฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง
ห้องนอนเล็กของบ้านขนาดห้องกะทัดรัดเหมาะกับการวางเตียงขนาดเล็ก 3.5 ฟุต เข้ามุมห้องเพื่อให้พอมีพื้นที่ทางเดินข้างเตียง
อีกฝั่งสามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆได้ค่ะ
ห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยจากห้องแรก ตำแหน่งของห้องนี้อยู่ด้านหลังบ้านเช่นกัน ลักษณะของห้องนี้เป็นแนวยาว สามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ สำหรับห้องแปลงมุมจะได้หน้าต่างทั้ง 2 ด้าน ระบายอากาศได้ดีเหมือนในบ้านตัวอย่าง
ระยะปลายเตียงจริงๆแล้วเหลือพอสมควรแต่ในบ้านตัวอย่าง Built-in เป็นชั้นวางของปลายเตียงซึ่งสามารถใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้ แต่จะได้ระยะปลายเตียงที่ลดลง
ห้องน้ำชั้น 2 มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบแต่ไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 cm. สเปคสุขภัณฑ์ต่างๆเหมือนกันห้องก่อนหน้า
ฝั่งตรงข้ามพื้นที่อาบน้ำเป็นที่วางโถสุขภัณฑ์ มีความกว้างด้านข้างให้นั่งได้สบายๆ ไม่อึดอัดมากนัก
พื้นที่อาบน้ำค่ะ สามารถกั้นให้เป็นสัดส่วนเองได้ด้วยฉากกั้นแบบ 3 ตอนหรือม่านพลาสติก
เข้ามาดูกันต่อในห้องนอนใหญ่ค่ะ การจัดพื้นที่จะคล้ายๆกับบ้านแบบ Florence คือเป็นห้องที่อยู่ทางหน้าบ้าน มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องนอนเล็ก ตัวห้องกว้างตามแนวความยาวของหน้าบ้าน สามารถกั้นพื้นที่ตรงกลางทำเป็นพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet ได้ช่วยให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น
ภายในห้องนอนใหญ่ เป็นผนังฉาบเรียบทาสี ติดไฟแบบดาวน์ไลท์ สามารถวางเตียง ขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้สบายๆ ภายในห้องมีหน้าต่างสามารถรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้
อีกฝั่งหนึ่งสามารถทำเป็น Walk – in Closet สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ ซึ่งบ้านจริงจะไม่มีให้นะคะ จะเป็นห้องเปล่าโล่งๆ ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวด้วยโดยทางเข้าจะอยู่ตรงข้ามกับประตูทางออกไปที่ระเบียง
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำจะมีทางออกไประเบียง
ด้านข้างห้องน้ำมีพื้นที่ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้
ภายในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ของบ้าน Type นี้จะต่างจากห้องอื่นๆตรงที่มีการแบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียกออกเป็นสัดส่วน สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเองได้ง่าย มีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
บริเวณโถงทางเดินของบ้าน Type นี้จะสูง 4.00 เมตร มีพื้นที่ชั้นลอยเล็กๆสามารถทำเป็นห้องพระได้
บันไดทางขึ้นไปห้องพระ มีความกว้างประมาณ 75 cm.ค่ะ
ส่วนพื้นที่ด้านบนมีขนาด 2.00 x 1.10 เมตร ระยะจากพื้นชั้นลอยจนถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.00 เมตร ถ้าไม่ทำเป็นห้องพระก็อาจจะปรับเป็นพื้นที่ทำงานเล็กๆได้ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 July 2016
- แบบบ้าน FLORENCE แปลง C08 พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. ที่ดิน 19.7 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
- แบบบ้าน FLORENCE แปลง A29 พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. ที่ดิน 27 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท
- แบบบ้าน VENICE แปลง A16 พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ที่ดิน 21.2 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- แบบบ้าน VENICE แปลง A28 พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ที่ดิน 29 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 3.61 ล้านบาท
- จอง 10,000 บาท และทำสัญญา 30,000 บาท
- ดาวน์งวดละ 15,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 75,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 39 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
GOLDEN TOWN 2 อ่อนนุช-พัฒนาการ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่ในซอย อ่อนนุช 65 เข้าซอยไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร แต่โครงการนี้จะต่างจากทาวน์โฮมในซอยลึกๆตรงที่เป็น 1 ใน Golden Lake Como ซึ่งจะประกอบไปด้วยโครงการบ้านจัดสรรของ Golden Land รวมกัน ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบค่อนข้างดี เป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นทาวน์โฮมขนาดเล็ก ราคาย่อมเยาที่ได้พื้นที่ส่วนกลางมาครบเมื่อเทียบกับโครงการในระดับเดียวกันที่จะได้แค่สวนหย่อมอย่างเดียว ทำให้ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ ทำเลจัดว่าเป็นที่อยู่อาศัยในย่านชานเมืองที่ไม่ห่างจากเมืองมากนัก เดินทางสะดวก ใกล้กับสี่แยกประเวศที่ถนนอ่อนนุชตัดกับถนนศรีนครินทร์ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ถ้าเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในละแวกนี้หรือเดินทางไปทำงานในบริเวณใกล้ๆก็ถือว่าสะดวกพอสมควร สภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินทางจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่ จะมีช่วงกลางๆที่มี 7-11 และ Family Mart ส่วนบริเวณรอบๆจะเกาะกลุ่มอยู่บริเวณใกล้ๆกับถนนใหญ่เช่น The Paseo Mall ที่ถนนลาดกระบัง บนถนนพัฒนาการก็มีสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ศูนย์การค้าอย่าง Tesco Lotus , Max Value และที่เปิดใหม่อย่าง London Street บนถนนศรีนครินทร์จะมีห้างซีคอนสแควร์ Paradise Park และสวนหลวงร.9 ถ้าถัดออกมาไกลหน่อยบนถนนบางนา-ตราดจะมีทั้ง Ikea บางนา, Mega Bangna, Foodland บางนา หรือ Central City บางนา
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งถนนศรีนครินทร์ตรงมาเลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) หรือเข้าไปยังถนนพัฒนาการมาออกที่ถนนอ่อนนุชก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังพระราม 9 ได้ด้วยถนนมอเตอร์เวย์ค่อนข้างสะดวก และสามารถใช้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกที่จะวิ่งรอบกรุงเทพและปริมณฑล โดยถ้ามุ่งหน้าทางฝั่งทิศเหนือตัดมอเตอร์เวย์ ถ้าอีกฝั่งจะมุ่งหน้าไปตัดกับทางด่วนบูรพาวิถีที่ด้านล่างจะเป็นถนนบางนา-ตราด
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ จะต้องต่อรถออกมาหน้าปากซอยก่อนเพราะโครงการอยู่ในซอยค่อนข้างลึก แล้วค่อยมาต่อด้วยรถสาธารณะต่างๆ โดยจะมีทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่หน้าปากซอย , Taxi , รถเมล์ , รถสองแถวซีคอน-ประเวศ จัสโก้-พระโขนง ราม2-ประเวศ , Airport Rail Link สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีบ้านทับช้าง ตัวเลือกนี้จะสะดวกหากจะไปสนามบินสุวรรณภูมิแต่หากจะเข้าเมืองด้วยการไปลงที่สถานีพญาไทแล้วต่อ BTS หรือ MRT จะใช้เวลานานพอสมควร ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีใกล้เคียงที่สุดคือสถานีอ่อนนุชห่างจากโครงการประมาณ 11 กม.
วัสดุโครงการถือว่าได้มาตามมาตรฐานนะคะ บ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่า ฝ้าเพดานสูง 3.0 ในชั้นล่างและ 3.0-4.0 ในชั้นบน ชั้นล่างปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และชั้นบนปูพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. ส่วนลานซักล้างเทพื้นคอนกรีตขัดเรียบให้ ได้ดวงโคมแบบดาวน์ไลท์ตรงนี้ถือว่าดีที่ไม่ให้โคมไฟแบบซาลาเปา และสุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก Engfield
การออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากอิตาลี พื้นที่ส่วนกลางต่างๆจึงตกแต่งในสไตล์นั้นซึ่งทำออกมาได้น่ารักดี การวางผังรวมของโครงการทำออกมาได้ดีมีการทำให้พื้นที่ที่มีเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านกลายเป็นสวนหย่อมและทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งเพิ่ม Value ให้โครงการได้มากพอสมควร พื้นที่ใช้สอยในบ้านก็จัดมาให้ค่อนข้างลงตัว มีห้องอเนกประสงค์ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ตามความต้องการว่าจะใช้เป็นห้องดูหนัง พักผ่อน ห้องทำงาน ห้องนอน หรือห้องครัวปิดก็ได้ หลังบ้านทางโครงการเผื่อพื้นที่ให้สำหรับการต่อเติมทำเป็นครัวและมุมพักผ่อนมาให้ มีการเดินงานระบบมาให้พร้อมซึ่งทำให้เราสามารถใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งในบ้านแบบ Venice มีทำชั้นลอยให้เป็นห้องพระถือว่าจัดพื้นที่ได้เต็มที่
สาธารณูปโภค จัด Facilities อยู่ตรงกลางเพื่อให้ลูกบ้านมาใช้งานได้สะดวกและใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขก ให้พื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาครบครันซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นโครงการในระดับนี้ให้มาแบบจัดเต็มขนาดนี้เท่าไหร่นัก โดยมีทั้ง Clubhouse , ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ , สวนหย่อม , ทะเลสาบอีก 2 จุด ถนนหลักกว้าง 16 เมตรตัดอยู่ตรงกลาง ส่วนถนนย่อยกว้าง 9 เมตร แต่บริเวณหน้าโครงการจะมีระบบรักษาความปลอดภัยแค่ไม้กั้นกระดกและรปภ.
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 1.5 – 3 ล้านบาท, 6 July 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ทำเลโดยรวมดี ในซอยอ่อนนุช 65 ใกล้ทางด่วนแต่เข้าซอยลึกหน่อย
- ความปลอดภัย 7.25/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – จัดฟังก์ชั่นลงตัว มีห้องอเนกประสงค์ มีพื้นที่สำหรับต่อเติมครัวด้านหลัง
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – โครงการใหญ่ สภาพแวดล้อมดี มีพื้นที่สีเขียวให้ค่อนข้างเยอะ
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบทั้ง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนหย่อม ทะเลสาบใหญ่สองแห่ง สโมสร
- 7.63 / 10.00
BOTTOM LINE
GOLDEN TOWN 2 อ่อนนุช-พัฒนาการ เหมาะกับคนที่ต้องการขยายครอบครัว หรืออยากได้บ้านอยู่ไกลเมืองหน่อย แต่เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ใช้รถยนต์เป็นหลัก ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง ค่อนข้างให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ มีงบประมาณ 1.99 – 3.60 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 14,000 – 25,000 บาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )