CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ทาวน์โฮม 2 ชั้นและ 3 ชั้น หลังเซ็นทรัล เวสต์วิลล์และโฮมโปร ราชพฤกษ์ จาก PEACE & LIVING [รีวิวฉบับที่ 2717]

CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2567

พิกัด Google Maps : 13.816265777043816, 100.44517401604686
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ตั้งอยู่ในซอยรวมน้ำใจพัฒนา เข้ามาจากถนนราชพฤกษ์ประมาณ 850 เมตร โดยจุดเด่นโครงการคือทำเลที่อยู่ใกล้ห้างดังอย่าง Central Westville ซึ่งเป็นโซนที่มีแหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงอีกแห่งของย่านราชพฤกษ์ตอนกลาง (บรมราชชนนี – รัตนาธิเบศร์) เลย

ภาพรวมของที่อยู่อาศัยในย่านนี้แต่เดิมก็มีโครงการแนวราบขึ้นอยู่ค่อนข้างคึกคัก ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว โดยช่วงราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่ 2 – 60 ล้านบาทขึ้นไป โครงการนี้จึงถือว่าอยู่ในกลุ่มราคาที่ค่อนข้างหยิบจับง่ายทีเดียวเมื่อเทียบกับทาวน์โฮมรอบๆ เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ เริ่ม 3.29 ล้านบาท

ในแง่การเดินทาง ตัวโครงการจัดว่าอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางก็ถือว่าสะดวกมาก เพราะถนนราชพฤกษ์เป็นถนนหลักที่ยาวเชื่อมต่อ 3 จังหวัด (ปทุมธานี – นนทบุรี – กรุงเทพฯ) จึงไปตัดกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย อาทิ ถนนบรมราชชนนี , ถนนนครอินทร์ , ถนนกาญจนาภิเษก , ถนนรัตนาธิเบศร์ เชื่อมต่อไปจนถึงถนนกรุงธนบุรี  เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี หรือโซนพระราม7, จตุจักรได้เลย โดยโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น – ลงทางพิเศษศรีรัช ด่านฉิมพลี เพียง 6 km. เท่านั้น จึงทำให้การเดินทางเข้า –  ออกเมืองเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง “สถานีตลิ่งชัน” ในระยะทางประมาณ 7.5 km. ซึ่งจากสถานีนี้นั่งต่อเพียง 3 สถานีก็สามารถไป Interchange กับสายสีน้ำเงินที่สถานีกลางบางซื่อได้ จึงถือเป็นอีกตัวเลือกในการเดินทาง สำหรับคนที่อยากใช้บริการรถสาธารณะนะคะ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ นอกจากCentral Westville, Homepro, Villa Market, The Crystal, The Walk แล้ว รอบๆโครงการยังมีห้าง , ตลาดสด และ Community Mall ให้ออกไปเลือกจับจ่ายได้หลากหลาย ซึ่งก็สามารถไปอิงความอุดมสมบูรณ์ได้ทั้งบนเส้นราชพฤกษ์ บรมราชชนนีและกาญจนาภิเษก (บางใหญ่) ได้เลย จึงทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาของกินของใช้

อีกทั้งโครงการยังอยู่ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำและสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง ทั้งรัฐบาล เอกชน และนานาชาติ โดยมีให้เลือกตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย จัดเป็นทำเลที่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมาะแก่การอยู่อาศัย และสะดวกกับครอบครัวที่มีสมาชิกอยู่ร่วมกันหลาย Generations

เส้นทางลัดเลาะรอบๆ โครงการ

จากถนนราชพฤกษ์เราสามารถเข้าถึงโครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ด้วยถนนบางกรวย-กรุงนนท์ ปากซอยจะมีจุดสังเกตเป็น บริษัท ไทยคิทเช่นมาร์ท จำกัด (อาคารสีเหลืองขนาดใหญ่) ลัดเลาะเข้ามาตามซอยประมาณ 850 เมตรก็จะถึงที่ตั้งโครงการค่ะ

และจากโครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) เราสามารถไป Homepro และ Villa Market ได้สะดวก โดยเข้าทางประตูหลังเปิด 9 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ในระยะประมาณ 300 km. เท่านั้น โดยไม่ต้องขับออกถนนใหญ่ราชพฤกษ์เลยค่ะ

นอกจากนี้หากต้องการไป Central Westville ก็สามารถลัดเลาะในซอย ไปเข้าด้านหลังศูนย์การค้าได้โดยที่ไม่ต้องไปออกถนนใหญ่ราชพฤกษ์ด้วยเช่นกัน เรียกว่าไม่ต้องไปฝ่ารถติดบนถนนราชพฤกษ์เลย โดยมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.7 km.

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

รอบโครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) เป็นหมู่บ้านพักอาศัยสลับกับที่ดินเปล่า บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ซึ่งสามารถสรุปสภาพแวดล้อมแต่ละทิศได้ดังนี้

• ทิศเหนือ ติดกับ คลองบางไกรนอก
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย
• ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย, ฟาร์มเกษตร
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า

บรรยากาศในซอยรวมน้ำใจพัฒนา รอบๆ โครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์)

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Homepro ราชพฤกษ์ ~ 1.3 km. (เฉพาะช่วง 9.00-22.00 น. เข้าออกผ่านประตูด้านหลัง ~ 300 m.)
• Villa Market ~ 1.5 km.
• The Walk ราชพฤกษ์ ~ 2.6 km.
• Central Westville ~ 4.3 km.
• The Crystal SB ราชพฤกษ์ ~ 5.3 km.
• The Circle ราชพฤกษ์ ~ 11.8 km.
• Central ปิ่นเกล้า ~ 12.2 km.
• Central Westgate ~ 13 km.

โรงพยาบาล

• รพ.ตา หู คอ จมูก ~ 11.3 km.
• รพ. บางใหญ่ ~ 9.3 km.
• รพ. พระนั่งเกล้า ~ 10.3 km.
• รพ. ยันฮี ~ 13.4 km.

โรงเรียน

• รร.เด่นหล้า พระราม 5 ~ 4.8 km.
• รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี ~ 5.5 km.
• รร.ประสาทวิทยานนทบุรี ~ 6 km.
• รร.บดินทรเดชา นนทบุรี ~ 7.9 km.
• รร.สตรีนนทบุรี ~ 9.6 km.
• ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ~ 10.5 km.

สถานที่ราชการ

• กระทรวงสาธารณสุข ~ 13.1 km.
• ศูนย์ราชการนนทบุรี ~ 12.4 km.

ตัวช่วยในการเดินทาง 

• ทางพิเศษศรีรัช ด่านฉิมพลี ~ 6 km.
• รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีตลิ่งชัน ~ 7.5 km.
• รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ~ 8.7 km.
• รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์ ~ 9.9 km.

โครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical เน้นบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพราะทางโครงการตั้งใจออกแบบให้การกลับบ้านในทุกๆ วันเหมือนได้ไปพักผ่อนรีสอร์ท ซึ่งคอนเซปต์จะค่อนข้างชัดเจนบริเวณสวนและ Clubhouse ส่วนกลางนะคะ

จากซุ้มประตูโครงการเข้ามาด้านในจะเป็นถนนหลักของโครงการกว้าง 12 m. และถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นถนนรอง 9 m. ขับสวนกันได้สบาย สังเกตด้านขวาจะเป็นสวนส่วนกลางที่มาช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่นตั้งแต่หน้าโครงการเลย เมื่อดูจาก Master Plan เราเห็นประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ

อย่างแรกคือ “เป็นโครงการขนาดกลาง” มีจำนวน 203 ยูนิต ซึ่งถือว่าไม่เยอะมากนัก เมื่อเทียบกับโครงการระดับราคาเดียวกันในทำเลนี้ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น

ประเด็นที่ 2 คือ “ตำแหน่งส่วนกลาง” โครงการวาง Clubhouse และสวนส่วนกลางให้อยู่โซนด้านหน้า ทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ เสริมสร้างบรรยากาศทางเข้าให้ดูดีมากขึ้น หรือถ้ามีแขกมาหา ก็สามารถรับรองที่อาคารอเนกประสงค์ด้านหน้าได้สะดวก

ประเด็นที่ 3 คือ “ทิศของบ้าน” โครงการออกแบบให้บ้านส่วนใหญ่หันทางทิศตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ้านทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้ลมดีและแสงแดดไม่ส่องเข้าบ้านแรงมาก สำหรับคนที่ชอบตื่นสายหน่อย อยากให้หน้าบ้านร่มในตอนเช้าแนะนำบ้านที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical เลือกใช้โทนสีขาว-เทา ที่ดูทันสมัยและตกแต่งด้วยสีน้ำตาล ให้กลมกลืนกับธรรมชาติ

ทางเข้าออกแยกกันชัดเจน โดยประตูทางเข้าด้านหน้าจะผ่านเข้าออกด้วยระบบ Bluetooth เหมือน Easy Pass บนทางด่วน เวลาลูกบ้านขับรถมาถึงหน้าโครงการ ประตูจะเลื่อนเปิดให้อัตโนมัติ ขับผ่านได้สะดวกเลย โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการรวม 24 จุด

สวนส่วนกลาง

สวนส่วนกลางจะอยู่ด้านหน้าโครงการ ติดกับซุ้มประตูโครงการเลยค่ะ จึงให้บรรยากาศที่ร่มรื่นตั้งแต่เข้าโครงการมาเลย ภายในสวนมีขนาดประมาณครึ่งไร่ โดยจะมีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มเกาะตามแนวทางเดิน มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ และสนาม Street Basketball ให้มาออกกำลังกายกัน

Highlight อย่างหนึ่งในสวนนี้คือ Seating Area ในสวน ซึ่งออกแบบมาเป็นเนินดินขนาดใหญ่ (Berm) มีที่นั่งให้ลูกบ้านมาพบปะพูดคุยกัน และยังสามารถพาเด็กๆ หรือน้องหมามาเดินเล่นในสวนกันได้ทุกวันด้วยค่ะ

Clubhouse

ในส่วนของ Clubhouse ออกแบบให้ลมพัดผ่านได้ดี ดูโปร่งโล่ง และรับวิวสวนได้เต็มที่ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ฟังก์ชันประกอบไปด้วย Fitness, Co-Working Space และสระว่ายน้ำ เราไปดูทีละส่วนกันค่ะ

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 13×4.8 เมตร ลึก 1.2 เมตร พอใช้ว่ายออกกำลังกายได้อยู่นะคะ แต่เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย ในส่วนของสระเด็กจะแยกพื้นที่ไว้ชัดเจน มีขนาด 3.75×2.25 เมตร ลึก 0.6 เมตร

ใครที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำออกกำลังกายหนักๆ ก็มีพื้นที่ริมสระ ให้นั่งชมวิวผ่อนคลายได้ เสียดายวันที่เราไปถ่ายรีวิว ชุดเก้าอี้ริมสระยังไม่ได้ติดตั้ง บรรยากาศจริงจึงน่าจะสวยสมบูรณ์แบบกว่านี้นะคะ

ห้องน้ำ

โซนห้องน้ำจะหลบมุมเข้าไปด้านในจึงได้ความเป็นส่วนตัวดูมิดชิดขึ้น แยกห้องชาย/หญิง และผู้สูงอายุไว้ชัดเจน ภายในมีทั้งห้องสุขา, ห้องอาบน้ำและตู้ Locker ครบครัน

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีทางเดินแบบ Semi-Outdoor เชื่อมระหว่าง Fitness กับ Co-Working Space ซึ่งเปิดรับลม รับวิวสวนได้เต็มที่เลย

Fitness

Fitness เป็นห้องที่เตรียมอุปกรณ์ไว้ครบครัน รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training ซึ่งทางโครงการตั้งใจจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้ติดหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นวิวได้ ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด

Co-Working Space

ในส่วนของ Co-Working Space เป็นห้องแอร์ที่รองรับการนัดพบ, คุยงานต่างๆ ในกรณีที่เราอาจจะไม่สะดวกรองรับแขกที่บ้าน ก็สามารถพาแขกมาที่ห้องนี้แทนได้ ภายในมีชุดโต๊ะและโซฟาไว้รองรับ จากห้องนี้เราจะเห็นวิวสวนมุมกว้างได้เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

• Fitness
• Co-Working Space
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 13×4.8 เมตร ลึก 1.2 เมตร และสระเด็กขนาด 3.75×2.25 เมตร ลึก 0.6 เมตร

ทาวน์โฮมของ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ภายนอกจะดูเรียบง่ายทันสมัย คุมโทนด้วยสีขาวครีม เข้ากับธรรมชาติ ส่วนภายในออกแบบให้หน้าต่างมีขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านให้ได้มากที่สุด

ที่นี่โดดเด่นด้วยโครงสร้างแบบ Conventional สร้างด้วยอิฐมอญแดง จึงรองรับการทุบต่อเติมได้ในอนาคต และบริเวณหลังบ้านจะลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านมาให้แล้ว จึงช่วยให้ก่อสร้างง่ายขึ้นและช่วยประหยัดงบต่อเติมด้วยค่ะ อีกทั้งในทาวน์โฮมแบบ 2 ชั้นจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่าง ให้สามารถกั้นเป็นห้องนอนเพิ่มเติมได้ และทาวน์โฮมแบบ 3 ชั้นจะได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume โดยโครงการมีทาวน์โฮมให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ 2 ชั้นและ 3 ชั้น ดังนี้

• WAYFARING : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 115.9 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
• WHITEWOOD : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 164.4 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท

สรุปโครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

• หลังคา D-LITE แบบมีลอน วัสดุเป็นไฟเบอร์กลาสเสริมแรงพลาสติก (GRP)
• โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อด้วยอิฐมอญแดง รองรับการทุบต่อเติมได้ในอนาคต (ควรปรึกษาวิศวกรก่อนดำเนินการทุกครั้ง)
• ที่จอดรถ : คอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวขัดหยาบ ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ส่วนที่เกินชายคาบ้านเป็นพื้น On Ground
• ลานซักล้าง : คอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวขัดหยาบ ลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน
• ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูรั้วเหล็กโปร่ง ทาสี
• ประตูหลักและหน้าต่าง : กระจกเขียวตัดแสง หนา 5 มม. วงกบ UPVC สีขาว
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม.
• พื้นชั้น 2 : กระเบื้องยาง SPC
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องพอร์ซเลน
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ COTTO เป็นหลัก
• บันไดโครงสร้างเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสานทำสี
   
  **รายละเอียดของวัสดุต่างๆ เช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่าง : WAYFARING

ทาวน์โฮมส่วนใหญ่ในโครงการจะเป็นแบบ 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 115.9 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ

ชั้นล่างเป็นพื้นที่พักผ่อนหลักของบ้านที่เป็นทั้งพื้นที่นั่งเล่น, ทานอาหาร, ครัว และพื้นที่อเนกประสงค์ ส่วนห้องน้ำจะออกแบบมาให้มีที่อาบน้ำเป็นสัดส่วน หากครอบครัวไหนกั้นพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องนอนก็สามารถอาบน้ำชั้นล่างได้สะดวก

ชั้นบนแบ่งเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งทุกห้องจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน โดยห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน บ้าน Type นี้จึงรองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-5 คน ที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยกันได้ค่ะ

รั้วบ้านเป็นประตูเหล็กบานพับ ให้บรรยากาศที่ดูโปร่ง บริเวณหน้าบ้านไม่ได้ติดตั้งถังขยะมาให้ ข้อดีก็คือ เราสามารถจอดรถได้เต็มพื้นที่ แต่เจ้าถังขยะก็อาจจะต้องไปตั้งอยู่ระหว่างเสาหน้าบ้านแทน หรืออาจจะมีจุดรวมให้ทิ้งขยะ ก็ต้องรอดูวิธีการจัดการของโครงการต่อไปค่ะ

ที่จอดรถด้านหน้ากว้างประมาณ 5.7 เมตร สามารถจอดรถ 2 คันได้ ลึก 5.3 เมตร แต่ส่วนที่จอดรถได้จริงจะประมาณ 5 เมตรนะคะ หากเป็นรถรุ่นที่มีความยาวเป็นพิเศษ เช่น รถกระบะ แนะนำให้มาลองจอดดูก่อนนะ

พื้นที่หน้าบ้านจะมีชายคายื่นออกมากันแดดกันฝนได้ ซึ่งโครงการลงเสาเข็มในส่วนนี้ไว้เท่ากับตัวบ้าน ส่วนที่เกินจากชายคาจะเป็นโครงสร้างแบบ Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ หากจะต่อเติมหลังคาที่จอดรถ เราแนะนำให้ปรึกษาวิศวกรก่อนนะคะ

บริเวณหน้าบ้านจะมีห้องเก็บของใต้บันได ภายในมีความกว้างพอให้เก็บของขนาดใหญ่ได้ อย่างพวกอุปกรณ์ทำความสะอาด, อุปกรณ์ทำสวนก็ไว้ตรงนี้ได้สบาย

ในส่วนของประตูบ้านเป็นบานเลื่อนกรอบวงกบ UPVC สีขาว และเลือกใช้สเปกกระจกสีเขียวตัดแสง หนา 5 มม. จึงช่วยลดความจ้าของแสงที่ผ่านเข้ามาและยังช่วยลดความร้อนด้วยค่ะ

บริเวณหน้าบ้านจะติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้ 1 จุด รองรับการใช้งานอย่างเช่น เสียบปลั๊กเตาปิ้งหมูกระทะ หรือเสียบปลั๊กพัดลม ก็สะดวกเลย

เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area กว้างๆ เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่น – ทานข้าว ทำให้พื้นที่ดูโปร่ง

สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ตามรูปด้านล่างนะคะ

Living Area จะมีระยะดูทีวีประมาณ 3.5 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่แบบ 70″ ได้เลยค่ะ พื้นที่นั่งเล่นรองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 3-4 ที่นั่ง และเมื่อวางโต๊ะกลางแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินเข้า-ออกบ้านได้สะดวก

ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ทานอาหาร ซึ่งในบ้านมาตรฐานจะมีการเดินท่อน้ำไว้รองรับการทำ Pantry ครัวในบ้าน แต่ในทาวน์โฮมส่วนใหญ่ก็นิยมจัดลานซักล้างหลังบ้านเป็นครัวไทยแบบจริงจังแทน ทำให้เราสามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง ตามแบบในบ้านตัวอย่างได้เลย ซึ่งบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกหลังบ้านเข้ามาได้ ถ้าออกแบบหลังคาหลังบ้านให้เป็นแบบโปร่งแสงนะคะ

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทานอาหารจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2×2 เมตร เพียงพอให้วางเตียงเดี่ยวได้ ข้อดีคืออยู่ติดกับห้องน้ำเลย หากครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุพักอยู่ชั้นล่าง ก็จะมีห้องน้ำให้ใช้งานได้สะดวก ซึ่งบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งไม่ได้กั้นห้องมาให้ เราสามารถกั้นห้องเพิ่มเองได้นะคะ

บ้านตัวอย่างจัดฟังก์ชันพื้นที่อเนกประสงค์ให้เป็นห้องทำงาน ก็ดูเหมาะกับยุค Work From Home ดีนะ ภายในห้องมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติได้ด้วย หากจะต่อเติมหลังคาหลังบ้านก็แนะนำให้ทำเป็นแบบโปร่งแสงนะคะ จะช่วยให้ภายในบ้านดูโปร่งขึ้นได้ค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างออกแบบมาเพื่อรองรับการอาบน้ำด้วย โดยจะแยกพื้นที่เปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วนเลย หากมีสมาชิกนอนชั้นล่างก็สามารถใช้อาบน้ำได้สะดวก และยังสามารถแบ่งสมาชิกข้างบนมาอาบน้ำในช่วงเวลาเร่งด่วนยามเช้าได้ด้วย

สำหรับสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำจะใช้ของ COTTO เป็นหลัก ซึ่งเป็นแบรนด์มาตรฐาน หาอะไหล่สะดวกอยู่แล้ว

อ่างล้างมือมาพร้อม Low Wall ด้านหลัง ให้วางของใช้ต่างๆ ได้

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.9×1 เมตร พอให้หมุนตัวอาบน้ำได้ ซึ่งโครงการลดระดับพื้นที่อาบน้ำลงจากส่วนอื่น เพื่อแยกโซนเปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วน นอกจากนี้โครงการจะติดตั้งฝักบัวอาบน้ำมาให้เรียบร้อยและเดินระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นเตรียมไว้ให้

ด้านในสุดของตัวบ้านจะมีประตูบานเลื่อนใช้เปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้าน

ลานซักล้างด้านหลังบ้านจะเป็นโครงสร้างแบบ Slab On Beam ลงเสาเข็มไว้ให้ลึกเท่าตัวบ้านเลย ช่วยประหยัดงบประมาณในการต่อเติมและทำให้การต่อเติมง่ายขึ้นด้วยค่ะ บ้านมาตรฐานจะได้พื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ผิวขัดหยาบตามแบบในรูปเลยนะคะ

สำหรับบ้านตัวอย่างจะตกแต่งเป็นครัวไทยและ Laundry Area ให้ดูเป็นไอเดีย ก็จะได้ครัวไทยขนาดใหญ่ใช้งานได้จริงจัง ซึ่งการต่อเติมหลังบ้านก็อยากให้ทุกคนศึกษาเรื่องกฎหมายการต่อเติมด้วยนะคะ

ถัดมาที่บันไดใช้เป็นโครงสร้างเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสานทำสี และเนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูง ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่ม จะมีชานพักบางช่วงที่ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

โถงทางเดินบนชั้น 2 อยู่ตรงกลางเชื่อมห้องนอนต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ซึ่งห้องนอนทั้ง 3 ห้องจะแชร์ห้องน้ำร่วมกัน

ห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่ใช้สอยฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด จึงสามารถจัดฟังก์ชันได้ครบทั้งพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่แต่งตัว ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

หากใครชอบนอนดูทีวี ก็จะมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้ติดตั้งชั้นวางทีวีเพิ่มเติมได้ จุดที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือหน้าต่างที่ให้มาบานค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว สูงจากพื้นเกือบจรดฝ้าเพดาน จึงรับแสงธรรมชาติได้เยอะ ช่วยให้ห้องดูโปร่ง ดูสว่างดีค่ะ

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนสามารถจัดเป็นโซนแต่งตัวได้อย่างเป็นสัดส่วน เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เต็มผนังฝั่งหนึ่งได้เลย ทำให้เก็บของได้เยอะ และยังสามารถแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งตามแบบในบ้านตัวอย่างได้ด้วย

ระเบียงของห้องจะออกแบบมาเพื่อวาง Condensing Unit พร้อมมีราวกันตกไว้บังสายตา ทำให้หน้าบ้านดูเรียบร้อย น่ามอง และยังสามารถปีนหน้าต่างออกไป Mantenance ได้

ในส่วนของห้องน้ำบนชั้น 2 พอออกแบบมาให้มีห้องเดียวจึงมีความกว้างให้ใช้งานได้สะดวก ภายในจัดแบ่งโซนเปียก-โซนแห้งไว้เรียบร้อย สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้ของ COTTO เป็นหลัก เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9×1.2 เมตร พอให้หมุนตัวอาบน้ำได้สบาย และตำแหน่งที่อาบน้ำที่อยู่ด้านในแบบนี้ทำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้ง่าย และที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือ โครงการออกแบบให้มีชั้นวางของติดผนังมาเลย ถ้าอุปกรณ์อาบน้ำไม่เยอะมาก ก็ไม่จำเป็นต้องติดชั้นวางของเพิ่มก็ได้นะคะ

สำหรับห้องนอนลูกๆ อีก 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ซึ่งห้องนอนรอง 1 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องนอนรอง 2 เล็กน้อย แต่ก็เพียงพอสำหรับการวางเตียงและเฟอร์ฯ จำเป็นในห้องนอนได้ทั้งคู่

ห้องนอนรอง 1 หรือเราจะเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้เพราะมีขนาดใหญ่กว่าอีกห้องหนึ่งเล็กน้อย หากครอบครัวไหนมีลูกคนเดียวก็แนะนำให้จัดห้องนี้เป็นห้องนอนลูกค่ะ ดูจากพื้นที่แล้วน่าจะใช้อยู่อาศัยได้ยาวๆ ตั้งแต่เล็กยันโต

จะวางเตียงเดี่ยวหรือเตียง 5 ฟุตก็ได้ แต่หากใช้เป็นเตียงเดี่ยวก็จะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเขียนหนังสือได้ครบครัน ซึ่งภายในห้องมีหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศ-รับแสงธรรมชาติได้ครบถ้วน

นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องยังมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบสูงจากพื้นจรดฝ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

ห้องนอนรอง 2 แม้จะมีขนาดกะทัดรัดกว่าห้องแรก แต่ก็สามารถวางเตียงเดี่ยว พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้เช่นเดียวกัน ซึ่งภายในห้องก็มีหน้าต่างมาให้เปิดระบายอากาศได้ตามมาตรฐาน

ถ้าวางเตียงเดี่ยวตามแบบในบ้านตัวอย่างจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างกว้าง วางโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้าได้ลงตัวเลยค่ะ

บ้านตัวอย่าง : WHITEWOOD

ทาวน์โฮมอีกแบบหนึ่งจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท ฟังก์ชัน 3 ห้องนอนเท่าบ้าน Type แรกเลยค่ะ แต่ Type นี้ทุกห้องนอนจะมีขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว โดยเฉพาะ Master Bedroom จะได้พื้นที่แบบเต็มชั้นเลยทีเดียว Gimmick อย่างนึงที่น่าสนใจก็คือ Double Volume บริเวณพื้นที่นั่งเล่น ทำให้บรรยากาศดูโปร่งขึ้น

แม้ว่าพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่างจะสามารถกั้นเป็นห้องนอนเพิ่มเติมได้ แต่เรามองว่าจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ เพราะห้องน้ำที่อยู่ติดกันออกแบบไว้เป็น Powder Room ไม่ได้รองรับการอาบน้ำที่ชั้นล่างนะคะ บ้าน Type นี้จึงเหมาะกับครอบครัวขยาย อยู่กันแบบพ่อแม่และลูกๆ มากกว่าค่ะ

ชั้น 1 – เป็นพื้นที่พักผ่อนหลักของครอบครัว ใช้ดูทีวี, ทานข้าว, ทำอาหาร
ชั้น 2 – แบ่งเป็นห้องนอนของลูกๆ 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวทั้งคู่
ชั้น 3 – จัดเป็น Master Bedroom เต็มชั้น มีพื้นที่สำหรับ walk-in Closet, ห้องน้ำในตัว, มุมนั่งเล่นดูทีวี, พื้นที่วางโต๊ะทำงานและระเบียงครบครัน

ทาวน์โฮมมีหน้ากว้าง 5.7 เมตร ลึก 5.7 เมตร แต่ส่วนที่จอดรถได้จริงจะประมาณ 5.4 เมตรนะคะ ซึ่งพอให้รถกระบะทั่วไปจอดได้ แต่หากเป็นรถรุ่นที่มีความยาวเป็นพิเศษ แนะนำให้มาลองจอดดูก่อนนะ

พื้นที่หน้าบ้านจะมีชายคายื่นออกมากันแดดกันฝนได้ ซึ่งโครงการลงเสาเข็มในส่วนนี้ไว้เท่ากับตัวบ้าน ส่วนที่เกินจากชายคาจะเป็นโครงสร้างแบบ Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ หากจะต่อเติมหลังคาที่จอดรถ เราแนะนำให้ปรึกษาวิศวกรก่อนนะคะ

เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นลำดับแรก รองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 3-4 ที่นั่งกำลังดี มีระยะดูทีวีกว้างถึง 3.8 เมตร สามารถใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 100″ ได้เลย และเมื่อวางโต๊ะกลางแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินเข้า-ออกบ้านได้สะดวก

Highlights ของพื้นที่นั่งเล่นคือ ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ทำให้บรรยากาศดูโปร่งเป็นพิเศษ

สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ตามรูปด้านล่างนะคะ

ขยับเข้ามาด้านในเป็น Pantry ครัวและพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งมีพื้นที่ให้ใช้งานได้ค่อนข้างกว้างเลย

อย่างมุมโต๊ะทานข้าวในบ้านตัวอย่างจะจัดเข้ามุมไว้ ซึ่งรองรับขนาด 4 ที่นั่งกำลังดี แต่ในบ้านมาตรฐานพื้นที่บริเวณนี้จะเดินงานระบบไว้รองรับการจัดฟังก์ชันเป็น Pantry ครัวค่ะ

ประตูหลังบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ กรอบ UPVC สีขาว ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้มากทีเดียว

บ้านตัวอย่างต่อเติมลานซักล้างด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่ครัวขนาดใหญ่ และ Laundry Area ใช้งานได้จริงจัง ซึ่งการต่อเติมหลังบ้านก็อยากให้ทุกคนคำนึงถึงเรื่องกฎหมายการต่อเติมด้วยนะคะ

สำหรับในบ้านมาตรฐานจะออกแบบลานซักล้างด้านหลังบ้านจะเป็นโครงสร้างแบบ Slab On Beam ลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านทำให้ง่ายในการต่อเติมหลังบ้านมากขึ้น

ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำ ขนาดพื้นที่พอให้ใช้งานได้สะดวก สำหรับสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำจะใช้ของ COTTO เป็นหลัก

ถัดมาที่บันไดใช้เป็นโครงสร้างเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสานทำสี

เนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูง ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่ม จะมีชานพักบางช่วงที่ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

ชั้น 2

โถงทางเดินบนชั้น 2 จะมีบรรยากาศที่โปร่งโล่งกว่าปกติ เพราะสามารถมองผ่าน Double Volume ลงไปเห็นห้องนั่งเล่นได้ ทำให้สมาชิกที่อยู่ชั้นล่างและชั้นบนสามารถพูดคุยและมองเห็นกันได้ การออกแบบลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มการมีปฎิสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้านได้ด้วยนะคะ

ห้องนอนรองห้องแรกจัดไว้ให้มีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ฝั่งหน้าบ้าน ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ สิ่งที่เราชอบคือหน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจนเกือบถึงฝ้าเลย ซึ่งเค้าจะแบ่งเป็นช่องเปิดย่อยๆ ให้เปิดรับลม ระบายอากาศได้

ด้านข้างเตียงจะมีพื้นที่ให้ Built-in เป็นโต๊ะทำงาน, ตู้เก็บของ หรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้หมด ใช้งานได้หลากหลายขึ้นอยู่ไลฟ์สไตล์ของเจ้าของห้องเลยค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องน้ำในตัว และบริเวณหน้าห้องน้ำก็จะมีพื้นที่ให้ Built-in เป็นโซนแต่งตัว ได้เต็มพื้นที่

เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนังฝั่งหนึ่งได้ และออกแบบเป็นตู้ตัว L เข้ามุมได้เลย

ในส่วนของห้องน้ำมีการแบ่งโซนเปียก-แห้งไว้อย่างเป็นสัดส่วน กว้างพอให้ใช้งานได้สะดวก สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้ของ COTTO เป็นหลัก เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง

สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1×0.8 เมตร ซึ่งตำแหน่งที่อยู่เข้ามุม ทำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำได้สะดวก

ห้องนอนรองอีกห้องหนึ่งอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน มีขนาดและฟังก์ชันเท่ากับห้องนอนรองห้องแรกเลย เพียงแต่เมื่อมาอยู่ฝั่งหลังบ้านก็จะมีช่องหน้าต่างที่บานเล็กกว่าเท่านั้นเอง แต่ก็ยังมีช่องเปิดให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

บ้านตัวอย่างจัดเตียงนอนของห้องนี้ไว้เป็นเตียงเดี่ยว จึงเหลือพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างกว้าง สามารถจัดเป็นมุมทำงานหรือโต๊ะเขียนหนังสือได้จริงจัง

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องน้ำในตัวและมีพื้นที่หน้าห้องน้ำให้จัดเป็นพื้นที่แต่งตัว บ้านตัวอย่างจะวางเฟอร์ฯ ให้ดูไว้เป็นไอเดีย อย่างห้องนี้จะวางตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กกว่าห้องแรก จึงสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ติดหน้าต่างได้

ในส่วนของห้องน้ำจะเหมือนในห้องนอนรองห้องแรกทั้งขนาดและสุขภัณฑ์ที่ให้ จึงเหมาะสมกับการใช้งานดีนะคะ

ต่อไปเราจะพาไปชมชั้น 3 กัน ซึ่งบริเวณโถงบันไดจะมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบริเวณนี้ บรรยากาศจึงดูโปร่ง ไม่ทึบตัน ซึ่งจะมีพื้นที่ให้วางของตกแต่งได้ด้วย อย่างในบ้านตัวอย่างจะวางต้นไม้ประดับไว้ ให้บรรยากาศที่ดูร่มรื่น ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นค่ะ

ชั้น 3

ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แบบเต็มชั้น จึงสามารถแบ่งพื้นที่เป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้ครบตั้งแต่ Walk-in Closet, ห้องน้ำในตัว, มุมนั่งเล่นดูทีวี, พื้นที่วางโต๊ะทำงานและระเบียง

ซึ่งเมื่อเข้าห้องมาโซนแรกจะมีพื้นที่ให้สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่น ดูทีวีได้ลงตัว โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 3.3 เมตร จึงติดตั้งทีวีขนาดใหญ่แบบ 70″ ขึ้นไปได้เลย แล้วจึงดันพื้นที่วางเตียงนอนเข้าไปไว้โซนด้านใน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

โซนเตียงนอนก็สามารถวางเตียง King Size ได้สบาย ปลายเตียงมีหน้าหน้าต่างบานใหญ่จึงรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวห้องได้มาก

หากใครชอบนอนดูทีวีแนะนำให้ใช้ขาแขวนทีวีที่ปรับองศาได้ จะได้หมุนทีวีมาทางเตียงนอนได้นะคะ

ปลายเตียงมีพื้นที่พอให้จัดเป็นมุมทำงาน ซึ่งบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างมาก ช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวันได้ค่ะ

ประตูระเบียงเปิดออกได้กว้างรับลมและถ่ายเทอากาศได้ดี

ระเบียงมีขนาดประมาณ 1×2.8 เมตร เหมาะกับการจัดวางกระถางต้นไม้เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่น และเป็นตำแหน่งวาง Condensing Unit ซึ่งเราแนะนำให้ติดกริลปรับทิศทางลมตามแบบในบ้านตัวอย่างนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นส่วนของห้องน้ำและ Walk-in Closet ซึ่งเราสามารถทำฉากกั้นเพิ่มเติมได้หากต้องการความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

พื้นที่แต่งตัวมีขนาดใหญ่เลย สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังและวางโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้ตามแบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ และตำแหน่งจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำจึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก

ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ แบ่งโซนเปียกโซนแห้งไว้เป็นสัดส่วน มาพร้อมสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ของ COTTO ตามแบบในบ้านตัวอย่าง

นอกจากพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างแล้ว เจ้าอ่างล้างหน้าก็ให้มาแบบ His&Her ใช้งานพร้อมกันได้ทั้งคุณสามีและภรรยาเลยค่ะ และแม้ว่าจะเป็นทาวน์โฮมแต่ก็ออกแบบให้มีหน้าต่างในห้องน้ำ เพื่อใช้เปิดระบายอากาศได้

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะอยู่ติดกับสุขภัณฑ์ ซึ่งทางโครงการลดระดับพื้นที่อาบน้ำลงจากพื้นที่ส่วนอื่นเพื่อป้องกันน้ำไหลย้อน และอยู่ในมุมที่สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้สะดวกนะคะ

โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.3×0.9 เมตร กว้างกว่าห้องอื่นๆ จึงสามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก

CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ราคา ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2567

• WAYFARING : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 115.9 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
• WHITEWOOD : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 164.4 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา 10,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 1,000 บาท/หลัง/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) ตั้งอยู่ในซอยรวมน้ำใจพัฒนา ห่างจากถนนราชพฤกษ์ประมาณ 850 เมตร ซึ่งเป็นซอยที่เรามองว่าเหมาะกับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก โดยจุดเด่นโครงการอยู่ที่ทำเลใกล้ห้างดังเปิดใหม่อย่าง Central Westville และรายล้อมไปด้วย Homepro, Villa Market, The Walk, Crystal SB ราชพฤกษ์ ในระยะ 2-3 km. เท่านั้น

ในแง่การเดินทาง ตัวโครงการจัดว่าอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่เชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายสาย อาทิ ถนนบรมราชชนนี , ถนนนครอินทร์ , ถนนกาญจนาภิเษก , ถนนรัตนาธิเบศร์ เชื่อมต่อไปจนถึงถนนกรุงธนบุรี จึงเหมาะกับคนที่ทำงานในโซนปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี หรือโซนพระราม7, จตุจักรได้เลย และอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น – ลงทางพิเศษศรีรัช ด่านฉิมพลีด้วยค่ะ

นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง “สถานีตลิ่งชัน” ในระยะทางประมาณ 7.5 km. ซึ่งจากสถานีนี้นั่งต่อเพียง 3 สถานีก็สามารถไป Interchange กับสายสีน้ำเงินที่สถานีกลางบางซื่อได้ จึงถือเป็นอีกตัวเลือกในการเดินทาง สำหรับคนที่อยากใช้บริการรถสาธารณะนะคะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการเข้าออกด้วยระบบ Bluetooth เหมือน Easy Pass บนทางด่วน และมี CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 24 จุด ในส่วนของตัวบ้านจะมีกลอนประตูมาให้ตามมาตรฐาน หากต้องการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยอย่าง Magnetic Sensor หรือ Digital Door Lock ต้องไปติดตั้งเพิ่มเติมเอง ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานของบ้านระดับนี้นะคะ

การออกแบบโครงการ : โครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) เป็นหมู่บ้านขนาดกลาง 203 ยูนิต ถือว่ามีเพื่อนบ้านไม่เยอะมากนักเมื่อเทียบกับโครงการระดับราคาเดียวกันในทำเลนี้ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปด้วย สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บริเวณหน้าโครงการเลย ทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ เสริมสร้างบรรยากาศทางเข้าให้ดูดีมากขึ้น

การออกแบบบ้าน : ทาวน์โฮมมีให้เลือกทั้งแบบ 2 ชั้น และ 3 ชั้น ซึ่งทำราคาออกมาได้น่าสนใจเมื่อเทียบกับโครงการโดยรอบ โดยทาวน์โฮม 2 ชั้นจะเริ่มที่ 3.29 ล้านบาท ในขณะที่โครงการรอบๆ ส่วนใหญ่ราคา 3.6 ล้านขึ้นไป ส่วนทาวน์โฮม 3 ชั้นเริ่มที่ 4.29 ล้านบาท ในขณะที่โครงการรอบๆ ส่วนใหญ่ราคา 4.6 ล้านขึ้นไปเช่นกัน

ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2-4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ รองรับสมาชิก 2-5 คน ในแบบทาวน์โฮม 2 ชั้นจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถกั้นเป็นห้องนอนได้ ซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำ รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ และในแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่นั่งเล่นจะมีฝ้าเพดานแบบ Double Volume ช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งเป็นพิเศษ ซึ่งไม่ใช่ทุกโครงการจะออกแบบลักษณะนี้นะคะ

วัสดุ : ที่นี่โดดเด่นด้วยโครงสร้างแบบ Conventional สร้างด้วยอิฐมอญแดง จึงรองรับการทุบต่อเติมได้ในอนาคต และบริเวณหลังบ้านจะลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านมาให้แล้ว ช่วยให้ก่อสร้างง่ายขึ้นและช่วยประหยัดงบต่อเติม ในส่วนของวัสดุส่วนใหญ่จะได้ตามมาตรฐานราคา แต่ที่เราชอบคือกระเบื้องห้องน้ำจะใช้เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ซึ่งมีความทนทาน ดูแลรักษาง่ายกว่า และราคาสูงกว่ากระเบื้องเซรามิคที่นิยมใช้กันค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical เน้นบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เรารู้สึกว่าบริเวณสวนส่วนกลางและ Clubhouse มีบรรยากาศที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม Highlight อย่างหนึ่งในสวนนี้คือ Seating Area ในสวน ซึ่งออกแบบมาเป็นเนินดินขนาดใหญ่ (Berm) มีที่นั่งให้ลูกบ้านมาพบปะพูดคุยกัน

สาธารณูปโภค : จัดฟังก์ชันมาแบบครบครัน ซึ่งเยอะกว่าบางโครงการด้วยนะคะ ได้แก่ Clubhouse, สระ, Co-Working Space, Fitness, สนาม Street Basketball แลกกับค่าส่วนกลาง 1,000 บาท/หลัง/เดือน ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ เพราะแชร์กับลูกบ้าน 203 ยูนิตเท่านั้นค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจเริ่ม 3.29-4.29 ล้านบาท, 12 มิถุนายน 2567

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – อยู่ในซอยเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ใกล้เซ็นทรัล ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า
• ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, Easy Pass, กล้อง CCTV
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – ทาวน์โฮม 2 ชั้นมีพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่าง, ทาวน์โฮม 3 ชั้นได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume
• วัสดุ 8/10 – Conventional, ลงเสาเข็มหลังบ้านรองรับการต่อเติม, พื้นห้องน้ำใช้กระเบื้องพอร์ซเลน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – โครงการขนาดกลาง สวนส่วนกลางดูร่มรื่น
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ฟังก์ชันมากกว่าบางโครงการ แชร์กับลูกบ้าน 203 ยูนิตเท่านั้น
• 7.8 / 10.00

CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) เหมาะกับใคร

โครงการ CHER WESTVILLE Ratchaphruek (เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์) เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาบ้านในโซนราชพฤกษ์ อยากได้ทำเลใกล้ศูนย์การค้าใหญ่ แลกกับการเข้าซอยหน่อยไม่เป็นไรเพราะมีเส้นทางให้ลัดเลาะได้หลากหลาย ต้องการโครงการที่อยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น – ลงทางพิเศษศรีรัช ทำงานในโซนปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี หรือโซนพระราม7, จตุจักร จะเดินทางได้สะดวก

อยากได้บ้านที่มี 3 – 4 ห้องนอน จอดรถได้ 2 คัน รองรับสมาชิก 2-5 คน และสามารถกั้นห้องนอนชั้นล่างได้เพื่อรองรับผู้สูงอายุ ก่อสร้างด้วยระบบ Conventional รองรับการทุบต่อเติมในอนาคต ในราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่ม 23,030 บาท/เดือน

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่