รีวิว Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) โครงการทาวน์โฮมใจกลางรัชดาฯ ที่เรียกว่าเป็น “ทาวน์โฮมทำเลคอนโด” เลยก็ว่าได้ ในราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท เบื้องต้นเราสรุปประเด็น Highlights ของโครงการไว้ ดังนี้ค่ะ

  • ทาวน์โฮมทำเลคอนโด : อยู่ในซอย 20 มิถุนาแยก 5 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนสุทธิสารวินิจฉัย จึงสามารถวิ่งเข้าถนนรัชดาฯ, ถนนลาดพร้าวได้ง่าย มีซอยลัดเลาะไปออกเลียบทางด่วนรามอินทรา, พระราม9 ด้วยเช่นกัน และมีตัวช่วยอย่างรถไฟฟ้าใกล้สุดคือสถานีสุทธิสาร ประมาณ 2.3 km. ค่ะ
  • ความปลอดภัย : เป็นโครงการจัดสรรจึงมีรั้วรอบขอบชิด มีระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน รวมถึงในตัวบ้านติดตั้งไว้ให้
  • ความเป็นส่วนตัวสูง : มีจำนวนเพื่อนบ้านเพียง 32 ยูนิต และออกแบบให้ได้ความเป็นส่วนตัวกว่าหลายโครงการที่หันหน้าบ้านเข้าหาถนนสาธารณะเลยนะคะ
  • มี Facility ส่วนกลางครบครัน : มีให้ครบทั้งอาคาร Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Jacuzzi, สวนส่วนกลาง, Fitness, Co-Working Space จำนวนฟังก์ชันไม่แพ้โครงการใหญ่เลยแต่ขนาดจะไม่ใหญ่เท่า ซึ่งก็แชร์กับเพื่อนบ้านเพียง 32 หลังเท่านั้นค่ะ
  • ไม่ต้องต่อเติมเยอะ : พื้นที่จอดรถลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน ถ้าจะทำหลังคาก็สะดวก และสามารถกั้นครัวปิดในบ้านได้ จึงไม่จำเป็นต้องต่อครัวหลังบ้านก็ได้

รายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ตามเราไปชมกันเลย

ข้อมูลโครงการ

Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2566

 ชื่อโครงการ   Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท 365 จำกัด พัฒนาและบริหารโครงการโดย บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
 SEGMENT CLASS  LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอย 20 มิถุนา แยก 5 เขตห้วยขวาง
 ที่ดิน 4-0-81 ไร่
 จำนวนยูนิต 32 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • TYST ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.9-36.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 166-186 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.8 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      370,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2566
 เว็บไซต์โครงการ  https://www.altitude.co.th/single-house/forest-ratchada
 โทร   02-027-8989

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.784633, 100.587601
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) เป็นโครงการทาวน์โฮมใจกลางรัชดาฯ ซึ่งเป็น CBD จุดหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในซอย 20 มิถุนาแยก 5 รายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์สูง ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาและโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำเลจะอิงกับถนนรัชดาภิเษก อยู่ฝั่งขาเข้าย่านพระราม 9 – เพชรบุรี – อโศก สามารถเดินทางไปยังสุขุมวิทได้ง่าย มีทางด่วนให้เลือกใช้หลายเส้นทาง และยังใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร ในระยะประมาณ 2.3 km. เท่านั้น

ที่ตั้งของโครงการ Altitude Forest รัชดา ตั้งอยู่ในซอย 20 มิถุนา แยก 5 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนรัชดา และถนนลาดพร้าวเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งยังมีสถานีรถไฟฟ้า MRT สุทธิสารอยู่บริเวณใกล้ๆกับทางเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัยด้วย บนถนนเส้นนี้มีการจราจรที่คึกคักตลอดทั้งวัน ทำให้เป็นอีกทำเลที่มีการขึ้นโครงการพักอาศัยแนวตั้งอย่างคอนโดมิเนียมอยู่หลายแห่ง โครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้าเมือง ทำให้สะดวกในการเดินทางเมืองไปยังพระราม9 – อโศก ได้เลยไม่ต้องไปกลับรถให้เสียเวลาค่ะ

ดังนั้นการเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าสะดวกสามารถออกไปทางถนนหลักต่างๆได้ ทั้งไปยังย่านรัชดาฯ-พระราม 9 ที่มีแหล่งอาคารสำนักงานอยู่หลายแห่ง หรือวิ่งตรงไปยังเส้นเพชรบุรี อโศก เชื่อมต่อไปจนถึง ทองหล่อ เอกมัยได้ และสามารถเดินทางไปยังถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดี – รังสิต ซึ่งก็เป็นอีกแหล่งอาคารสำนักงานที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งโครงการเช่นกัน การจราจรช่วงหน้าโครงในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะติดขัดเล็กน้อย ตอนเช้า-เย็นต้องเผื่อเวลากันหน่อย แต่เนื่องจากที่ตั้งโครงการใกล้ MRT จึงสามารถใช้เป็นตัวเลือกได้อีกด้วยค่ะ

นอกจากนั้นจากโครงการยังเชื่อมต่อไปออกถนนเลียบด่วนเอกมัย – รามอินทรา(ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) หรือทางพิเศษฉลองรัชได้ง่าย ซึ่งถนนเลียบด่วน(ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) เองก็เป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมีสำนักงาน ร้านอาหารและแหล่งจับจ่ายใช้สอยชื่อดังหลายแห่ง อีกทั้งยังเชื่อมต่อไปออกถนนรามคำแหง และบางกะปิได้  อีกฝั่งหนึ่งถ้าขับรถตรงขึ้นไปทางทิศเหนือสามารถไปออกรัชโยธิน, สะพานใหม่, คูคต, ลำลูกกาได้ หรือจะไปทางห้าแยกลาดพร้าวเลยไปจนถึงดอนเมือง บางบัวทองก็ได้ ซึ่งจากโครงการก็สามารถไปขึ้นทางด่วนได้หลายเส้นทางทำให้ออกเมืองและสามารถเลี่ยงรถติดได้

โครงการนี้เป็นโครงการบ้านพักอาศัยแนวราบซึ่งลูกบ้านอาจใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก การเดินทางไปทางด่วนจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ใช้เลี่ยงรถติดได้ ซึ่งทำเลนี้สามารถเลือกขึ้นทางด่วนได้ถึง 3 เส้นทางค่ะ

  • ทางพิเศษฉลองรัช

เริ่มจากทางพิเศษฉลองรัช หรือที่เรียกกันติดปากว่าทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา เริ่มจากจุดแรกคือที่ตั้งของโครงการในซอย 20 มิถุนาแยก 5 ให้ขับรถออกมาจากซอยแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอย 20 มิถุนา เพื่อมาออกยังถนนประชาอุทิศ ตรงไปเลี้ยวซ้ายออกถนนประดิษฐ์มนูธรรม และไปกลับรถเพื่อขึ้นทางพิเศษฉลองรัชที่ด่านเก็บค่าผ่านทางประชาอุทิศ ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเท่านั้นเอง สามารถไปออกยังพระโขนงเหนือ หรือสุขุมวิท 50 ได้ค่ะ

  • ทางพิเศษศรีรัช

ถัดมาเป็นทางพิเศษศรีรัช จากที่ตั้งโครงการออกมาเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอย 20 มิถุนา และเลี้ยวขวาที่ทางแยกเข้าสู่ซอยรัชดาภิเษก 48 เพื่อออกสู่ถนนรัชดาภิเษก วิ่งตรงมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายที่ถนนพระราม 9 วิ่งตรงไปก็จะเจอกับทางขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัชเลยค่ะ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นขาออกเมืองไปยังถนนศรีนครินทร์ สนามบินสุวรรณภูมิ หรือไปจังหวัดทางภาคตะวันออกได้เลย

  • ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์)

ถัดมาเป็นทางด่วนขาออกเมืองไปยังสนามบินดอนเมืองคือทางทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) มีจุดขึ้นทางด่วนอยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ออกจากโครงการเลี้ยวขวาเข้าสู่ซอย 20 มิถุนา และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุทธิสารวินิจฉัย เพื่อทะลุไปออกถนนวิภาวดี และมุ่งตรงไปขึ้นทางด่วนได้เลย ระยะทางประมาณ 6.8 กิโลเมตร ใช้ไปยังสนามบินดอนเมือง รังสิต และจังหวัดอยุธยาได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ

มาดูเรื่องการเดินทางโดยไม่ใช้รถกันบ้างค่ะ สำหรับคนที่ไม่อยากใช้รถส่วนตัวต้องการเลี่ยงรถติด หรือชอบเดินทางด้วยรถสาธารณะจากโครงการก็มีความสะดวกสบายเนื่องจากใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีสุทธิสาร ระยะทางประมาณ 2.3 กิโลเมตร ประตูที่ใกล้ที่สุดคือประตู 3 ค่ะ ซึ่งสามารถเข้าสู่อโศกได้เพียง 5 สถานีและสามารถเข้าถึงย่านรัชดาภิเษกพระราม9 ที่เป็นแหล่งอาคารสำนักงาน ซึ่งถ้านั่งรถยนต์ผ่านถนนรัชดาภิเษกไปอโศกในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้านั้นคงต้องเผื่อเวลาเป็นชั่วโมงไว้เลยค่ะ

ใครที่ต้องการเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้า BTS ก็สามารถไปเปลี่ยนที่สถานี อโศก ก็ได้ หรือจะนั่งไปรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีสวนจตุจักร ซึ่งห่างไปเพียง 4 สถานีได้เช่นกัน ซึ่งรถไฟฟ้า BTS ช่วงต่อขยายสายสีเขียวสถานีห้าแยกลาดพร้าว – สถานีคูคตก็เปิดให้บริการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถเดินทางออกเมืองไปยังฝั่งสะพานใหม่ได้ง่ายๆเช่นกัน หรือจะใช้เส้นสุทธิสารไปออกถนนลาดพร้าวก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว – สำโรง ซึ่งเป็นระบบรางเดี่ยว (Monorail) และยังไป Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีแยกลำสาลี และรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีพัฒนาการอีกด้วย

หรือใครที่ต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Airport Rail Link ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิก็สามารถไปเปลี่ยนสายที่สถานีเพชรบุรีซึ่งห่างไปเพียง 4 สถานีได้เลยค่ะ ถือว่าการเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั้นมีความสะดวกสบายมากและจะเดินทางได้หลากหลายเส้นทางมีขึ้นในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายอื่นๆเปิดให้บริการมากขึ้น

จากที่ตั้งโครงการสามารถไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ได้ 2 สถานีระยะทางใกล้ๆกันค่ะ

  • MRT สถานีสุทธิสาร : ระยะทางประมาณ 2.3 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นสักหน่อยนะคะ ทางผ่านบนถนนสุทธิสารวินิจฉัยถือว่าคึกคักสูง ด้านหน้าซอยมีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า และร้านอาหารอยู่หลายแห่ง สามารถแวะซื้อก่อนกลับบ้านได้เลย
  • MRT สถานีห้วยขวาง : ระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ผ่านซอย 20 มิถุนา และถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซึ่งจะมีความคึกคักอีกแบบหนึ่ง มีความเป็นชุมชนพักอาศัย ผ่านตลาดให้แวะซื้อของกันได้เช่นกันค่ะ

‘รัชดาภิเษก’ มีความอุดมสมบูรณ์อย่างไร

อาคารสำนักงาน

ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็ถือว่าอุดมสมบูรณ์ทีเดียวค่ะ เนื่องจากถนนรัชดาภิเษกเป็นย่านอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และติดรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษก ซึ่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆของทำเลนี้จะอยู่ที่บริเวณแยกรัชดา-พระราม 9 และบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ซึ่งจะสังเกตได้ว่าจะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ใกล้กับทั้ง 2 แยก ฝั่งพระราม 9 เองก็มี Project ใหญ่ที่ G Land ได้เข้ามาพัฒนาอย่าง Grand Rama 9 ซึ่งจะมีทั้ง G Tower ที่มีจุดเด่นของอาคารเป็นรูปตัว G มีโครงสร้างเสาเอียงถึง 8 องศา และโครงสร้างยื่นออกมาจากตัวอาคาร ด้านล่างยังมีร้านค้า ร้านอาหารและสามารถเดินเชื่อมกับ Central Plaza พระราม9 ได้, อาคาร Unilever House ซึ่งด้านล่างก็มีร้านอาหารอย่าง Mc Donald’s นอกจาก Project ใน Grand Rama 9 แล้วถนนรัชดาภิเษกเองก็มีสำนักงานระดับดีอย่างอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีห้องสมุดสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาด้านการลงทุน, AIA Capital Center ที่เป็นอาคาร Green Building ได้รับเครื่องหมาย LEED ในระดับ Gold , RS Tower สำนักงานของค่ายเพลง RS, CW Tower อาคารสำนักงานขนาดใหญ่บริเวณแยกเทียมร่วมมิตรเป็นต้น

ในส่วนของย่าน 5 แยกลาดพร้าวเองก็เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี ซึ่งมีอาคารสำนักงานขึ้นอยู่หลายอาคาร ไม่ว่าจะเป็นอาคาร SJ Infinite one ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2557 , อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารทหารไทย, Sun Tower เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของ Singha Estate มีฟิตเนสเต็มรูปแบบที่ชั้น 38, อาคารเล้าเป้งง้วน, สำนักงานใหญ่ Bangkok Airways, สำนักงานใหญ่ Thai Airways และสำนักงานไทยรัฐ เป็นต้น การที่มีอาคารสำนักงานอยู่เยอะนั้นทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆนั้นมีความเจริญมากขึ้นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารที่มาเปิดขายกันรอบๆตัวอาคารเอง หรือห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้เคียงก็มีความคึกคักมากขึ้นด้วยค่ะ

ศูนย์การค้าและแหล่ง Shopping

ศูนย์การค้าต่างๆก็กระจายตัวอยู่ตลอดทั้งเส้นถนนรัชดาภิเษกไปจนถึง 5 แยกลาดพร้าว แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใกล้กับแยกพระราม 9 และ 5 แยกลาดพร้าวเอง ซึ่งถ้าดูกันตั้งแต่ที่ถนนรัชดาภิเษก ก็จะมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่าง Central Plaza พระราม 9, Fortune Town ที่มีทั้งโรงแรมและส่วน Shopping อยู่ในตัว สามารถเดินทางมาสะดวก โดยขึ้น MRT สถานีพระราม 9 และอีกแหล่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันคือ บริเวณสถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้า Esplanade รัชดาฯ ที่มีร้านอาหาร รวมถึงลานเล่นสเก็ตน้ำแข็ง โยนโบว์ลิ่ง ร้องคาราโอเกะ ครบครัน ด้านหลังยังมีตลาดนัดรถไฟ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนที่มากรุงเทพฯแล้วจะต้องมาเดินให้ได้เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมี Supermarket อย่าง Big C Extra ที่เป็นแหล่งทานข้าวของชาวออฟฟิศในแถบนี้ และมีห้างสรรพสินค้าสไตล์ชิคๆอย่าง The Street ที่มีบางส่วนเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มีคนตลอดเวลาไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน

ตรงถนนลาดพร้าวเองก็มีห้างใหญ่ๆอย่าง Central Plaza ลาดพร้าว ที่อยู่บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว และ Union Mall เป็นแหล่ง Shopping สำหรับผู้หญิงที่ชอบ Street แฟชั่น เดินทางได้สะดวกโดยขึ้น MRT สถานีพหลโยธินได้เลย นอกจากนั้นตรงแยกรัชดา-ลาดพร้าวเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวอย่างสวนลุมไนท์บาซาร์ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวจีน ทำให้คึกคัก มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย นอกจากนี้บริเวณที่ตั้งโครงการอยู่ เมื่อไปออกลาดพร้าวแล้วยังเดินทางไปลาดพร้าววังหินได้สะดวก ซึ่งเป็นถนนที่มีร้านอาหารชื่อดังอยู่หลากหลายมากๆเลยค่ะ ถือว่าการของกินของใช้ในย่านนี้ทำได้ง่ายมากๆเลย

โรงเรียนและสถานศึกษา

ในส่วนของสถานศึกษาในย่านนี้ก็มีอยู่เยอะมากๆเช่นกันค่ะค่ะ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่างเช่น KIS International School, Regent’s International School Bangkok, Singapore international School Bangkok, Shrewsbury International School Bangkok (Campus), Lycée Français International de Bangkok เป็นต้น รวมถึงโรงเรียนภาคปกติเช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการรัชดา , โรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก, โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี, โรงเรียนบางกอกทวิวิทย์ และยังมีมหาวิทยาลัยอย่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย , มหาวิทยาลัยชินวัตร, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ St. John’s University

โรงพยาบาล

ด้านการให้บริการด้านสุขภาพเองก็มีหลากหลายที่ มีโรงพยาบาลหลายเเห่งที่มีชื่อเสียง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ถนนพระราม 9 อย่างเช่น โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลปิยะเวท, โรงพยาบาลกรุงเทพ, สมิติเวชสุขุมวิท, โรงพยาบาลพญาไท 1-2, โรงพยาบาลราชวิถี อยู่ตรงอนุสาวรีชัยสมรภูมิ และโรงพยาบาลฝั่งลาดพร้าวเช่น โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน , S Spine And Nerve Hospital เป็นตัน

สำหรับบรรยากาศในการเดินทาง ทาง Thinkofliving เคยทำรีวิวทำเลไว้โดยละเอียดแล้ว มีทั้งเส้นทางจากถนนใหญ่ ถนนรัชดาภิเษกเข้าสู่ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แล้วเข้าซอย 20 มิถุนา เพื่อไปยังโครงการ เป็นเส้นทางที่ 1

และเส้นทางจากโครงการเพื่อไปยังถนนประชาอุทิศ ย่านแห่งโรงเรียนนานาชาติชั้นนำทั้ง โรงเรียนนานาชาติ KIS International School โรงเรียน Regent’s International School Bangkok และ Singapore International school Bangkok เป็นเส้นทางที่ 2

จะเป็นอย่างไร คลิกตามไปชมกันได้เลย >> รีวิวทำเล Altitude Forest รัชดา ทาวน์โฮมใกล้ MRT สุทธิสาร จาก Altitude Development

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Altitude Forest รัชดา ส่วนใหญ่เป็นบ้านและอาคารพักอาศัยสูง 2 – 8 ชั้น บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ค่อยมีรถยนต์ผ่านเข้า – ออกภายในซอย 20 มิถุนาแยก 5 มากนัก

สภาพแวดล้อมโครงการในทิศต่างๆ

ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า และอาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น
ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
ทิศใต้ ติดกับ สนามฟุตบอล Soccer Pro Ratchada 18 และสนามกีฬา Happy Sports Club
ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนทางเข้าโครงการ ซอย 20 มิถุนาแยก 5 และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดนัดเมืองไทยภัทร ~ 1.9 km.
  • ตลาดห้วยขวาง ~ 3.1 km.
  • The Street รัชดา ~ 4.2 km.
  • Big C Extra รัชดาภิเษก ~ 4.8 km.
  • Esplanade รัชดา ~ 4.9 km.
  • Central พระราม 9 ~ 5.6 km.

โรงพยาบาล

  • Praram9 Hospital ~ 6.6 km.
  • Bangkok Hospital ~ 8 km.

โรงเรียน

  • KIS International School ~ 3.3 km.
  • Regent’s International School Bangkok ~ 4.1 km.
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ~ 5.1 km.

Business Area

  • อาคารเมืองไทยภัทร ~ 2.2 km.
  • Thailand Cultural Centre ~ 4.4 km.
  • Cyber World Tower ~ 3.8 km.
  • G Land Tower ~ 5.5 km.
  • Fortune Town ~ 5.9 km.
  • The Stock Exchange of Thailand Building ~ 5.7 km.
  • AIA Capital Center ~ 5.9 km.

รายละเอียดโครงการ

มาดูที่ตัวโครงการ Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) เป็นโครงการจัดสรรขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนที่ดิน 4 ไร่เศษ จำนวน 32 ยูนิต หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ

อย่างแรกคือ “สวนส่วนกลางและ Clubhouse อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ” ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ต้อนรับ เสริมสร้างบรรยากาศทางเข้าให้ดูดีมากขึ้น เวลาขับรถเข้าออกก็มองเห็นวิวสวนได้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย

ประเด็นที่ 2 คือ “การวางผัง” โซนที่น่าสนใจสำหรับเราคือ บ้านที่อยู่ในซอย (กรอบสีแดง) เพราะจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าบ้านที่อยู่ติดถนนหลัก แต่โซนที่ติดถนนหลัก (กรอบสีม่วง) ก็มีข้อดีตรงที่หน้าบ้านจะไม่หันหน้าชนกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว หลบสายตาของบ้านฝั่งตรงข้ามได้มากขึ้น และอีกโซนที่เราคิดว่าได้ Value พิเศษ คือ กลุ่มบ้านที่อยู่ใกล้ Clubhouse (กรอบสีส้ม) จะสามารถเดินไปใช้ Facility ส่วนกลางได้สะดวกเลยค่ะ

ประเด็นที่ 3 คือ “ทิศของบ้าน” โครงการวางทิศของบ้านมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเหนือ, ตะวันออกและตะวันตก บ้านที่ติดถนนหลักจะหันทางทิศเหนือทั้งหมด ซึ่งเป็นทิศยอดฮิต จะได้แสงธรรมชาติที่ไม่แรงมาก ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยย่อยจะหันออกทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นหลัก

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการดูทันสมัยแต่ก็ยังออกแบบให้ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยดึงเอา Clubhouse และต้นไม้ในสวนส่วนกลางเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของซุ้มประตู มีการใช้เส้นสายที่เรียบง่ายอย่างเส้นตรงมาเรียงให้เป็นจังหวะ ดูสวยงามดีทีเดียวค่ะ

หน้าประตูโครงการจะมีไม้กระดกกั้นรักษาความปลอดภัยไว้ชั้นหนึ่ง ซึ่งรถลูกบ้านจะเข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน นอกจากนี้ก็ยังมีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงและมี CCTV ติดตั้งไว้บริเวณทางเข้าออกและภายในโครงการ ด้านข้างมีฟุตบาทสำหรับคนเดินแยกไว้เป็นสัดส่วน

เข้ามาด้านในมุมมองแรก โครงการตั้งใจให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นของสวนส่วนกลาง มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนใต้ต้นไม้ และต้นไม้ที่เลือกใช้มีทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่มเขียวขจีมากๆค่ะ

Clubhouse ออกแบบผนังชั้นบนไว้เป็นกระจกโดยรอบ เพื่อเปิดให้เห็นวิวสวนได้ ในส่วนของฟังก์ชันต่างๆ ก็จัดมาให้ครบครัน ไปชมแต่ละฟังก์ชันกันเลย

Facility หลักของชั้น 1 ขอยกให้สระว่ายน้ำ ซึ่งโครงการออกแบบมาให้เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็กกับสระผู้ใหญ่ไว้เป็นสัดส่วน เราชอบตำแหน่งของสระว่ายน้ำที่วางหลบอยู่ด้านใน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานค่ะ

สำหรับสระผู้ใหญ่เป็นสระกลางแจ้ง ขนาดประมาณ 5×7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังกายได้พอสมควร

เนื่องจากตัวสระเป็นระบบน้ำล้น เวลามาเดินเล่นรอบๆ สระ ก็จะได้ยินเสียงน้ำให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายดี

Jacuzzi จะเป็นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดด จึงสามารถมาแช่ตัวได้ทั้งวันไม่ต้องกลัวผิวเสียค่ะ

ในส่วนของสระเด็กจะแยกพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน

ใกล้ๆ กันจะมีห้องน้ำรองรับไว้ 2 ห้อง สำหรับ Shower จะเป็นแบบ Outdoor ใช้ล้างเนื้อล้างตัวและเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำนะคะ

ในส่วนของชั้น 2 จะมีฟังก์ชันที่น่าสนใจอีก 2 ห้องด้วยกัน คือ Fitness และ Co-Working Space รองรับการประชุม การทำงานได้ นอกจากนี้ในส่วนของห้องนิติฯ ก็จะอยู่ที่ชั้น 2 นี่แหละค่ะ

Fitness เป็นห้องแอร์ขนาดใหญ่ มีเครื่องออกกำลังกายอยู่ประมาณ 5-6 ชิ้น แบ่งออกเป็นลู่วิ่ง, เครื่องปั่นจักรยาน, Weight Training มุมโยคะและดัมเบล นับว่ามีให้ครบ

Co-Working Space เป็นห้อง Indoor มีแอร์ฯ ติดตั้งไว้ให้ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของลูกบ้านสำหรับนัดประชุม หรือนั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศได้ มองออกไปเห็นวิวสวนพอดีเลยค่ะ

มาชมโซนพักอาศัยกันบ้าง รูปนี้จะเป็นบรรยากาศของบ้านพักอาศัยในบริเวณถนนหลัก ขนาดถนนกว้าง 9 m. และในส่วนของซอยย่อยๆ ก็กว้าง 9 m. เช่นกัน น่าจะใช้งานได้สะดวกเลยทีเดียว โครงการเดินท่อร้อยสายไฟลงดินทำให้บรรยากาศรอบๆ บ้านดูสะอาดตา

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse ด้านหน้าโครงการ ประกอบไปด้วย

  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5×7 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • แยกสระเด็กออกเป็นสัดส่วน

  • Fitness
  • Co-Working Space
  • พื้นที่สวนหย่อม
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก เข้าออกด้วยระบบ License Plate
  • ถนนหลักกว้างและถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • เดินท่อร้อยสายไฟลงดิน
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • แบบบ้าน

    Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) ทาวน์โฮมสไตล์ Modern Luxury ที่ดูเก๋ด้วยหน้าต่างทรงโค้ง เปิดให้เห็นต้นไม้สีเขียวในพื้นที่ของชั้น 2, 3 เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ต้องการความใกล้ชิดธรรมชาติแต่ยังต้องการอยู่อาศัยในเมือง

    ถึงแม้จะเป็นทาวน์โฮมแต่พื้นที่ใช้สอยก็ให้มาเยอะไม่แพ้บ้านแฝด พร้อมลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้านในส่วนของหน้าบ้านและสามารถกั้นครัวปิดในบ้านได้ จึงไม่จำเป็นต้องต่อเติมเยอะ ฝ้าเพดานแต่ละชั้นก็สูงเป็นพิเศษ 2.8 เมตรเลย รวมถึงมีชั้นดาดฟ้าให้สามารถทำเป็นพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่นั่งรับลมชมวิวเพิ่มได้อีกด้วยค่ะ

    Facade มีความเก๋ด้วยเส้นสายแบบโค้งๆ ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยบังสายตาของบ้านข้างเคียง ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

    แบบบ้านของโครงการในตอนนี้จะมีให้เลือกเพียงแบบเดียวชื่อแบบ TYST เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.9-36.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 166-186 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท

    แต่จะมีให้เลือก 3 Options คือ Standard, Courtyard และ Pavilion Zone แตกต่างกันตรงที่ Courtyard จะมีที่ดินข้างบ้านเพิ่มเติม ซึ่งแบบ Standard จะไม่มีพื้นที่ข้างบ้านนะคะ Courtyard จึงสามารถต่อเติมสระว่ายน้ำหรือสวนข้างบ้านเพิ่มได้

    ส่วน Pavilion Zone จะมีความลึกของตัวบ้านที่น้อยกว่าแบบ Standard นิดหน่อย แต่ได้ตำแหน่งบ้านที่อยู่ติดกับสวนหย่อมหน้าโครงการเลย เหมาะกับครอบครัวที่ชอบตำแหน่งใกล้สวน ไปใช้ส่วนกลางเป็นประจำก็จะเดินไปใช้งานได้สะดวก

    วัสดุและเทคโนโลยีในบ้าน

    • หลังคาแบบดาดฟ้าโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ทาสีและกันซึม
    • ระบบการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน สามารถ ทุบต่อเติมได้ ยืดหยุ่นกว่าแบบ Precast
    • ออกแบบพื้นที่ระหว่างบ้านแบบ Double Wall ช่วยลดและป้องกันเสียงระหว่างบ้าน
    • ที่จอดรถลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ปูพื้นด้วย Stamped Concrete
    • พื้นที่หลังบ้านแบบ On Ground
    • รั้วบ้านเป็นรั้วไฟฟ้าอัตโนมัติ ควบคุมด้วยรีโมท
    • พื้นชั้น 1-3 ปูด้วย SPC หน้าไม้เสมือนจริง
    • วัสดุในห้องน้ำจะใช้ของ Mogen, Kohler, COTTO เป็นหลัก
    • สุขภัณฑ์อัตโนมัติยี่ห้อ Novita ในส่วนของ Powder Room และ Master Bathroom
    • อ่างอาบน้ำยี่ห้อ COTTO ใน Master Bathroom
    • ระบบน้ำร้อน-เย็น ใน Master Bathroom
    • โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC
    • ผนังฉาบเรียบทาสี
    • Home Automation รายละเอียดสอบถามกับทางโครงการ
    • Magnetic Sensor
    • IP Camera 1 จุด
    • Digital Door Lock ยี่ห้อ Kaadas
    • ไฟในบ้าน 3 เฟส มี Junction รองรับ EV Charger

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


    บ้านตัวอย่างแบบ TYST

    ชั้น 1 – เป็นพื้นที่พักผ่อนหลักของครอบครัว ใช้ดูทีวี ทานข้าว ทำอาหาร และห้องน้ำแบบ Powder Room บริเวณหน้าบ้านจอดรถได้ 2 คัน
    ชั้น 2 – จัดเป็น Master Bedroom เต็มชั้น
    ชั้น 3 – แบ่งเป็นห้องนอนของลูกๆ ที่มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง
    ชั้น 4 – พื้นที่ Rooftop ที่สามารถต่อเติม (บางส่วน) เป็นห้องติดแอร์ฯ ได้เลย หรือจะทำหลังคาคลุมทั้งใช้ให้เป็นพื้นที่ Semi-Outdoor ก็ได้

    ที่จอดรถหน้าบ้าน

    ทาวน์โฮมมีหน้ากว้าง 5.7 เมตร จึงสามารถจอดรถ 2 คันได้ โดยมีความลึกประมาณ 4.6 เมตร ถ้าเป็นรถ Eco Car ขนาดเล็กสามารถจอดได้ หรือรถไซส์ใหญ่แนะนำให้ขับมาลองจอดดูนะคะ

    โครงการจะติดตั้งประตูรั้วอัตโนมัติไว้ให้แล้ว ควบคุมด้วยรีโมท

    ในส่วนของหลังคาหน้าบ้านเป็นส่วนที่ลูกบ้านมักจะต่อเติมมากที่สุด ซึ่งทางโครงการลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไว้ให้เลย หากต้องการต่อเติมหลังคาเพิ่มก็สามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องลงเสาเข็มเพิ่มแล้วนะคะ วัสดุปูพื้นใช้ Stamped Concrete ตามแบบในบ้านตัวอย่าง ดูเรียบร้อยดี

    สำหรับไฟในบ้านเป็นแบบ 3 เฟส จึงมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger ได้ค่ะ

    บ้านตัวอย่างจะมีการติดตั้งลิฟต์เพิ่มเติม ซึ่งจุดที่แนะนำก็คือบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งจะกินพื้นที่จอดรถเข้ามาอีกนิดหน่อยประมาณ 40 cm. ค่ะ

    สำหรับประตูหลักของบ้านดูโดดเด่นด้วยสีของไม้โทนเข้ม ดูทันสมัย มาพร้อม Digital Door Lock ของ Kaadas ในส่วนของพื้นบ้านจะมีการยกระดับขึ้นสูงจากเฉลียงหน้าบ้านอีกเล็กน้อย ช่วยป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้านได้ดี

    ชั้น 1

    พื้นที่ส่วนใหญ่ในชั้นนี้จะเป็น Common Area ที่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น – ทานข้าว เชื่อมต่อกันในลักษณะ Open Plan ทำให้พื้นที่ดูโปร่ง สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตามแบบรูปด้านล่าง พื้นปูด้วย SPC หน้าไม้เสมือนจริง ส่วนฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตรค่ะ

    พื้นที่ดูทีวีสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ 3-4 ที่นั่งพร้อมวางโต๊ะกลางได้ โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 2.7 เมตร จึงสามารถใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วได้เลย

    ติดกันเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่มองออกไปเห็นสวนหลังบ้านได้เลย การจัดเรียงพื้นที่ทานอาหารให้ต่อกับชุดโซฟา ทำให้เวลาทานอาหารไปก็ดูทีวีไปได้ด้วยนะคะ

    พื้นที่รับประทานอาหารมีขนาดรองรับโต๊ะกินข้าว 4-6 ที่นั่งกำลังดี ซึ่งตำแหน่งโต๊ะตรงนี้จะติดกับห้องครัวทางฝั่งขวา จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก

    ประตูหลังบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เพื่อให้เปิดรับลมและมองเห็นวิวสวนได้เต็มที่ ส่วนตัวเราเองมองว่าหากจะต่อเติมหลังบ้านก็ไม่อยากให้หลังคาทึบ เพื่อให้แสงธรรมชาติยังส่องผ่านเข้ามาในบ้านได้

    ข้างโต๊ะทานอาหารเป็นพื้นที่ที่ทางโครงการเตรียมงานระบบไว้สำหรับเป็นเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งเราสามารถกั้นประตูเพิ่มเติมให้เป็นครัวปิดตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ

    ภายในห้องครัวหาก Built-in ชุดครัวตามแบบในบ้านตัวอย่าง ก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้ง Hob&Hood, ซิงค์ล้างจาน, พื้นที่เตรียมอาหารและตู้เย็น ซึ่งจะเหลือพื้นที่สำหรับเดินใช้งานประมาณ 1.5 x 1.4 m. และจากห้องครัวจะมีประตูเปิดไปเชื่อมกับลานซักล้างด้านหลัง

    ลานซักล้างจะลดระดับลงจากตัวบ้านเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้าน

    หลังบ้านของบ้านตัวอย่างมีระยะที่กว้างทีเดียว ประมาณ 2.8 m. สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้าน เช่น จัดสวนหลังบ้าน, ทำครัวไทยหลังบ้าน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้นะคะ อย่างไรก็ตามการต่อเติมต้องคำนึงถึงเรื่องกฎหมาย ลองปรึกษาโครงการหรือนิติฯ อีกทีก็ได้ค่ะ

    ห้องน้ำจะมีตำแหน่งอยู่บริเวณกลางบ้านติดกับบันได

    ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำ ออกแบบมาให้ดูเรียบหรู เป็นหน้าเป็นตาใช้รับแขกได้

    สำหรับสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำจะใช้ของ Mogen, Kohler, COTTO เป็นหลัก ให้มาครบตามแบบในห้องตัวอย่างนะคะ

    Highlight ของห้องนี้เรายกให้กับสุขภัณฑ์อัตโนมัติยี่ห้อ Novita ซึ่งจะติดตั้งมาให้เฉพาะ Powder Room และ Master Bathroom เท่านั้น

    ก่อนขึ้นไปชั้นบนจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ใต้บันไดอีก 1 จุด ซึ่งตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นอ่านหนังสือไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่จริงๆ พื้นที่บริเวณนี้กว้างถึง 2 x 2.15 m. เลยนะคะ จะแบ่งพื้นที่ใต้บันไดเป็นห้องเก็บของและใช้พื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นมุมนั่งเล่นก็ยังได้

    บันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งดีกว่าบันไดโครงเหล็กที่ทาวน์โฮมหลายๆ ที่มักจะนิยมใช้กัน เวลาเดินบนบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กจะรู้สึกว่าพื้นแน่นๆ ไม่มีเสียงก๊องๆ หรือความรู้สึกว่าพื้นกลวง ปิดผิวบันไดด้วย SPC

    ชานพักจะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมแบบเต็มขั้น จึงสามารถหยุดยืนพักเหนื่อยได้สะดวกไม่ต้องกลัวตก

    ขึ้นมาที่ชานพักขั้นแรก ที่บ้านตัวอย่างจะติดตั้งลิฟต์ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งบ้าน Standard จะเป็นช่องกระจกบานใหญ่แบบรูปด้านขวานะคะ

    หากติดตั้งลิฟต์ก็จะช่วยให้ขึ้นลงได้สะดวกสบายขึ้น โดยลิฟต์ในบ้านตัวอย่างมีขนาดประมาณ 1.25 x 1 m. กว้างพอที่จะขึ้นลงพร้อมกันได้ถึง 5 คน รองรับ 410 kg. เลยค่ะ

    ชั้น 2

    โถงบันไดชั้น 2 จะมีพื้นที่ให้วางตู้เก็บของหรือวางของตั้งโชว์ตามแบบในบ้านตัวอย่างได้ พื้นบนชั้นนี้จะปูด้วย SPC หน้าไม้เสมือนจริงเช่นเดียวกับชั้นล่าง

    บริเวณโถงทางเดินจะมีประตูเปิดไประเบียง ให้เข้าไปดูและต้นไม้ได้

    แต่ในบ้านตัวอย่างจะติดตั้งลิฟต์จึงไม่มีพื้นที่ระเบียงตรงนี้นะคะ

    มาดูในส่วนของ Master Bedroom กันค่ะ ห้องนี้จะได้พื้นที่ใช้สอยแบบเต็มชั้น กว้างเหมือนห้องนอนใหญ่ในบ้านเดี่ยวหลายๆ โครงการเลย และให้ฝ้าเพดานมาสูง 2.8 เมตร ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งยิ่งขึ้น ภายในจัดฟังก์ชันครบครันทั้งมีห้องน้ำในตัว และ Walk-in Closet

    ดูจากพื้นที่แล้วเราสามารถวางเตียง King Size ได้สบายและเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

    ปลายเตียงได้วิวต้นไม้เขียวๆ ผ่านหน้าต่างทรงโค้ง เป็นมุมที่ดูเก๋มากๆ

    หน้าต่างปลายเตียงเป็นบางสวิง สามารถเปิดระบายอากาศได้นะคะ

    เจ้าต้นไม้จะอยู่ถูกปลูกไว้ให้โดยโครงการ อยู่บริเวณระเบียงบนชั้น 2 แต่เป็นพรรณไม้ชนิดไหนยังไม่ระบุนะคะ

    ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งานได้ตามชอบ เช่นเป็นพื้นที่นั่งดูทีวี หรือจะจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือพื้นที่ทำงานอดิเรก ก็ตามแต่ไลฟ์สไตล์ได้เลย

    ในส่วนของ Walk-in Closet เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถ Built-in ตู้ได้โดยรอบ เก็บของได้เยอะมาก และยังสามารถแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย

    Walk-in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุด เวลาอาบน้ำเสร็จก็สามารถเดินมาแต่งตัวในโซนนี้ได้สะดวก

    พื้นของห้องน้ำจะลดระดับลงนิดหน่อยเพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนไปส่วนอื่น ทำให้ใช้งานได้ง่าย

    ประตูห้องน้ำเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเต็มบาน ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้น เพราะอย่างไรห้องนี้เตรียมไว้ให้ใช้งานกันเฉพาะคู่สามีภรรยาอยู่แล้ว แต่หากอยากได้ประตูที่ทึบขึ้นก็สามารถติดฟิล์มแบบฝ้าเพิ่มเติมได้นะคะ

    ห้องน้ำจัดแบ่งโซนเปียกโซนแห้งไว้เรียบร้อยด้วยกระจกกั้นเป็น Shower Box สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้ของ Mogen, Kohler, COTTO เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง

    สำหรับ Master Bathroom จะได้สุขภัณฑ์อัตโนมัติยี่ห้อ Novita เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

    สิ่งที่เราชอบก็คือตำแหน่งของสุขภัณฑ์จะอยู่ข้างระเบียง ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาบริเวณนี้ ช่วยลดความชื้นและยังเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้ด้วย ซึ่งระเบียงในห้องน้ำแบบนี้ก็ทำให้เรามีที่ตากผ้าเช็ดตัวได้เป็นสัดส่วนดีเลยค่ะ

    อ่างล้างหน้าแบบ His&Her มาพร้อมเคาน์เตอร์ จึงมีพื้นที่รอบๆ สำหรับวางของใช้ และมีตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์ให้เก็บของกระจุกกระจิกได้อีกด้วย

    ข้างอ่างล้างหน้าจะมีปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากป้องกันน้ำไว้ให้ เราจึงสามารถเสียบไดร์เป่าผมในห้องน้ำได้สบาย

    อ่างอาบน้ำของ COTTO มีขนาดประมาณ 60×1.5 m. เป็นอ่างแบบลอยตัวที่มาพร้อมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ และก๊อกน้ำแบบผสมที่สามารถเลือกใช้น้ำร้อนน้ำเย็นได้

    อุปกรณ์ชุดอาบน้ำที่ให้มาจะมีทั้งแบบ Rain Shower และฝักบัวอาบน้ำ

    ภายใน Shower Box จะลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าไปรบกวนพื้นที่ส่วนอื่น จึงใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน

    ชั้น 3

    ในบ้านตัวอย่างห้องนอนรอง 1 ถูกจัดไว้เป็นห้องทำงาน หรือจริงๆ จะวางเตียงนอนก็มีพื้นที่เพียงพอให้ใช้เป็นห้องนอนได้นะคะ

    สำหรับครอบครัวไหนที่มีลูกคนเดียวก็ปรับห้องนี้เป็นห้องทำงาน หรือห้องทำการบ้านสำหรับเด็กๆ ได้

    เป็นห้องที่ได้กระจกโค้งและมองออกไปเห็นต้นไม้ด้านนอกหน้าต่างได้

    ภายในห้องนอนรอง 1 จะมีห้องน้ำในตัว

    ห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำที่มีประตูเปิดได้ 2 ฝั่ง คือจากโถงทางเดินและจากห้องนอนรอง 1

    ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้ง ออกเป็นสัดส่วน ให้สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ของ Mogen, Kohler และ COTTO เช่นเดียวกับห้องน้ำอื่นๆ

    สุขภัณฑ์ในห้องนอนรองจะให้ของยี่ห้อ COTTO

    พื้นที่อาบน้ำกั้นเป็น Shower Box มาให้ ภายในติดตั้งฝักบัวอาบน้ำมาให้เรียบร้อย พร้อมเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 1 m. จะมีการลดระดับพื้นลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลไปส่วนอื่น

    ออกมาที่โถงทางเดินจะเห็นห้องนอนรอง 2 ซึ่งอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน

    เราของยกห้องนี้ให้เป็นห้องนอนของลูกคนโปรด เพราะห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าอีกห้องหนึ่งเล็กน้อย และมีห้องน้ำในตัวแบบที่ไม่ต้องแชร์กับส่วนกลาง จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า

    ดูจากพื้นที่ในห้องเราสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้เลยนะคะ แต่หากวางขนาด 5 ฟุตก็จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงมากขึ้น

    ข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

    หากใครจะติดตั้งทีวีก็สามารถติดตั้งแบบแขวนที่กำแพงปลายเตียงได้เลย ข้างๆ กันจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ

    ภายในห้องน้ำให้สุขภัณฑ์ครบครัน ซึ่งพื้นที่อาบน้ำของห้องนี้มีขนาด 1 x 1.2 m.

    เราชอบที่ห้องน้ำนี้มีหน้าต่างให้เปิดรับแสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ค่ะ

    Rooftop

    บ้าน Type นี้จะมีชั้นดาดฟ้าให้ขึ้นมาใช้งานได้ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแบบบ้านโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เพราะช่วยแก้ปัญหาเรื่องขาดพื้นที่ปลูกต้นไม้ หรือขาดพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor รอบๆบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาคลาสสิคของทาวน์โฮมได้เป็นอย่างดี

    โดยเราสามารถจัดพื้นที่บริเวณนี้เป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้หลากหลายตาม Lifestyle ของแต่ละครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้เล็กๆ พื้นที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้ง และลาน BBQ. สำหรับปาร์ตี้กับเพื่อนๆ หรือใช้เป็นพื้นที่วิ่งเล่นพักผ่อนของน้องหมาน้องแมว เป็นต้น

    หากอยากต่อเติมห้องเพิ่มหรือ ทำหลังคาเพิ่มเหมือนในบ้านตัวอย่าง ก็สามารถสอบถามกับทางโครงการได้นะคะ ทางโครงการมีบริการเพิ่มเติมในส่วนนี้ให้ได้ แต่เราต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเองนะคะ พอต่อเติมแล้วจะได้ไม่ต้องกลัวแดด ขึ้นมารับลมชมวิวได้สะดวก

    ตัวอย่างการทำหลังคาเพิ่มเติมในบ้านตัวอย่าง ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบจะเป็นพื้นที่โล่งๆ แบบรูปขวานะคะ อย่างไรก็ตามการต่อเติมต้องคำนึงถึงเรื่องกฎหมาย ลองปรึกษาโครงการหรือนิติฯ อีกทีก็ได้ค่ะ

    ราคา

    Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2566

    • TYST ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.9-36.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 166-186 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท
    • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
    • ค่าทำสัญญา 3% ของราคาบ้าน
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 370,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 4,900 บาท/เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : เป็นจุดแข็งของโครงการ Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) เลยก็ว่าได้ เพราะทำเลนี้เป็นทำเลยอดฮิตสำหรับที่อยู่อาศัย รายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์สูง ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาและโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำเลนี้จึงเต็มไปด้วยคอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์, บ้านพักอาศัยแบบชุมชนเดิม โครงการจัดสรรที่เป็นหมู่บ้านใหม่ๆ นั้นหายากค่ะ มือหนึ่งก็ราคา 10 ล้านกลางๆ เป็นต้นไปจนถึง 30 ล้านเลยก็มีนะคะ

    ในส่วนของการเดินทางซอย 20 มิถุนา แยก 5 จะต้องเข้าซอยลึกหน่อย อิงกับถนนรัชดาภิเษก อยู่ฝั่งขาเข้าย่านพระราม 9 – เพชรบุรี – อโศก สามารถเดินทางไปยังสุขุมวิทได้ง่าย มีซอยลัดเลาะไปออกเลียบทางด่วนรามอินทราได้สะดวกด้วยเช่นกัน และมีทางด่วนให้เลือกใช้หลายเส้นทาง หากไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเรียก Grab Bike มาส่งที่รถไฟฟ้าใกล้สุดคือสถานีสุทธิสาร ประมาณ 2.3 km. ค่ะ

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ความน่าสนใจของโครงการนี้คือการเป็นโครงการจัดสรร จึงมีระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน มีไม้กั้นอัตโนมัติ CCTV รอบโครงการ พร้อมพี่ รปภ. ช่วยดูแลตลอด 24 ชม. ในส่วนของตัวบ้านจะติดตั้ง Digital Door Lock จาก Kaadas, Magnetic Sensor และ IP Camera 1 จุด

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

    โครงการ – เป็นโครงการขนาดเล็กเพียง 32 ยูนิต ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมาก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ซึ่งการผังก็ออกแบบให้แต่ละซอยย่อยมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ และบ้านที่ติดกับถนนหลักก็จะไม่มีบ้านฝั่งตรงข้ามที่หันหน้าบ้านชนกัน ช่วยให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก ส่วนบ้านที่อยู่ใกล้ทางเข้าโครงการ แม้จะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างแต่ก็ได้ตำแหน่งที่ติดสวนส่วนกลางเลยค่ะ

    ตัวบ้าน – แบบบ้านออกแบบฟังก์ชันมาเพื่อรองรับการเริ่มต้นครอบครัวใหม่แบบพ่อแม่ลูก หรือคู่แต่งงานใหม่ที่ต้องการอยู่อาศัยในเมืองแต่ก็ต้องการที่ดินและพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ห้องครัวเตรียมพื้นที่ไว้ให้ในบ้านเลย ไม่ต้องต่อเติมครัวหลังบ้านก็ได้ ตัวบ้านรองรับการติดตั้งลิฟต์ และมี Rooftop ให้ขึ้นไปรับลมชมวิวได้ อีก Gimmick หนึ่งที่ทำให้ตัวบ้านแตกต่างจากที่อื่นคือ กระจกโค้งที่นอกจากจะดูเก๋แล้ว ยังใช้รับวิวได้อย่างต่อเนื่อง

    สำหรับโครงการทาวน์โฮมหลายคนคงกลัวเรื่องเสียงระหว่างบ้าน ซึ่งที่นี่เค้าออกแบบพื้นที่ระหว่างบ้านแบบ Double Wall ช่วยลดและป้องกันเสียงระหว่างบ้านค่ะ

    วัสดุ : โครงสร้างและวัสดุส่วนใหญ่ให้มาตามมาตรฐานนะคะ เช่น ให้โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน จึงทุบต่อเติมได้ พื้นที่จอดรถลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้านมาให้แล้ว ไม่ต้องลงเสาเข็มเพิ่ม ตัวบ้านให้ไฟ 3 เฟส มี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger ได้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติยี่ห้อ Novita จะติดตั้งให้ในส่วนของ Powder Room และ Master Bathroom และมีอ่างอาบน้ำใน Master Bathroom ด้วย

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศในพื้นที่ส่วนกลางเขียวชอุ่ม สวยงามน่าใช้งานดี ในส่วนของโซนพักอาศัยก็ดูเรียบร้อยเพราะโครงการได้เดินท่อร้อยสายไฟลงดิน

    สาธารณูปโภค : เนื่องจากโครงการมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ ขนาดของพื้นที่ส่วนกลางก็จะสัมพันธ์กับจำนวนยูนิตไปด้วย อย่างไรก็ตามโครงการจัดฟังก์ชันมาให้ใช้งานกันได้ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ, Jacuzzi, Fitness, Co-Working Space, สวน, มุมพักผ่อนในสวน แชร์กับเพื่อนบ้านเพียง 32 ยูนิต ทำให้ค่าส่วนกลางมีราคาสูงหน่อย 4,900 บาท/เดือน

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ เริ่ม 16.9 ล้านบาท, 11 ตุลาคม 2566

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – อยู่ในซอย 20 มิถุนาแยก 5, ใจกลางรัชดาฯ 
    • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถ, CCTV, รปภ. 24 ชั่วโมง, Digital Door Lock, Magnetic Sensor,  IP Camera
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – แบบสวย ดูเก๋ด้วยหน้าต่างทรงโค้ง เปิดให้เห็นต้นไม้สีเขียว
    • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานตามระดับราคา
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – ออกแบบ Landscape สวย สายไฟลงดินบรรยากาศดี
    • สาธารณูปโภค 8/10 – ครบครันไม่แพ้โครงการใหญ่
    • 8.1 / 10.00 

    Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) เหมาะกับใคร

    Altitude Forest Ratchada (อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา) เหมาะกับครอบครัวที่มองหาที่อยู่อาศัยใจกลางรัชดาฯ แต่ไม่ต้องการจะอยู่คอนโดฯ มองหาทาวน์โฮมที่เป็นโครงการจัดสรร มีรั้วรอบขอบชิด มีระบบรักษาความปลอดภัยและมี Facility ส่วนกลางให้ใช้แบบครบครัน ชอบโครงการที่ได้ความเป็นส่วนตัว เพื่อนบ้านไม่เยอะ

    อยากได้บ้านที่รองรับการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ สมาชิก 3-4 คน มีที่ดินให้ปลูกต้นไม้ (บางแปลงทำสระว่ายน้ำเพิ่มได้), ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว, ไม่จำเป็นต้องต่อเติมเยอะ (มีพื้นที่ทำครัวในบ้านไม่ต้องต่อเติมครัวหลังบ้านเพิ่มก็ได้), มีดาดฟ้าให้ใช้งาน รองรับการติดตั้งลิฟต์ได้ และโครงสร้างแบบทุบต่อเติมได้ ยืดหยุ่นสำหรับการต่อเติมในอนาคต ในราคาเริ่มต้น 16.9 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้น 118,300 บาท/เดือน


    ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชันคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ

    ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น

    Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
    ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่