เลี้ยงได้…แต่ต้องนับ! กฎหมายเลี้ยงสัตว์ใหม่ที่สายทาสต้องรู้ พร้อม Update คอนโด Pet- Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ในกรุงเทพฯจะมีที่ไหนกันบ้าง
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางกรุงเทพมหานครได้ประกาศใช้ข้อบัญญัติใหม่ ควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯเท่านั้น ไม่มีผลกับจังหวัดอื่นๆค่ะ โดยใจความหลักๆจะเป็นการควบคุมจำนวนการเลี้ยงสัตว์ตามขนาดที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดเลยนะ
แน่นอนเลยว่ากลุ่มคนเลี้ยงน้องสุนัข-น้องแมวหรือกำลังวางแผนรับน้องๆมาเลี้ยงดูจะต้องศึกษาข้อบัญญัติใหม่นี้ ไม่งั้นอาจเจอโทษตามกฎหมายได้ค่ะ หากอยู่อาศัยเป็นห้องเช่าหรือคอนโดจะสามารถเลี้ยงน้องๆได้สูงสุดเพียง 2 ตัวเท่านั้น หากอยู่บ้านก็จะเลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัวค่ะ แต่นอกเหนือจากกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังมีข้อปฏิบัติที่ต้องทำตามทั้งการฝังไมโครชิป จดทะเบียนและออกบัตรประจำตัวของน้องๆ ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้อ่านในบทความนี้กันแล้ว
ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมคอนโด Pet- Friendly ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีทั้งคอนโดเปิดใหม่และสร้างเสร็จพร้อมอยู่ รวมทั้งหมด 31 โครงการ มาให้เหล่า Pet Lover ที่กำลังมองหาหรือเลือกซื้อคอนโดกันอยู่ด้วย แต่จะมีที่ไหนกันบ้างก็ตามอ่านกันต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
การเลี้ยงสุนัขและแมวตามข้อบัญญัติใหม่ ปี 2568
สำหรับข้อบัญญัติใหม่นี้ จะเป็นการควบคุมการเลี้ยงสัตว์หลายชนิด รวมไปถึงน้องสุนัขและน้องแมวที่ถือเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของคนส่วนใหญ่เลย งั้นเราจะพาไปดูรายละเอียดและเงื่อนไขในการเลี้ยงน้องๆกันเลยค่ะ
เจ้าของน้องสุนัขและน้องแมว จะต้องนำน้องๆไปฝังไมโครชิป จดทะเบียนและออกบัตรประจำตัวน้องสุนัขและแมวภายใน 120 วัน นับแต่วันที่สัตว์เกิด หรือ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่นําสัตว์มาเลี้ยงในเขตกรุงเทพมหานคร โดยดำเนินการด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน รวมถึงวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้เหมือนกัน
การจดทะเบียนสุนัข และแมว
เจ้าของสัตว์ต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่ที่กรุงเทพมหานครกำหนด หรือแจ้งโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่กรุงเทพมหานครกำหนด พร้อมแสดงบัตรประชาชนของเจ้าของสัตว์เลี้ยง ทะเบียนที่สัตว์อยู่อาศัย และแนบหลักฐาน ดังนี้
- ใบรับรอง
- หนังสือยินยอมจากผู้ให้เช่า ในกรณีเป็นผู้เช่า
- หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าไม่เกิน 1 ปี โดยระบุหมายเลขการผลิตวัคซีน และลงชื่อสัตวแพทย์พร้อมเลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ หรือผู้ได้รับมอบหมายตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองการผ่าตัดทำหมันจากสัตวแพทย์ (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
การนำสุนัขหรือแมวออกนอกสถานที่เลี้ยง
– แสดงบัตรประจำตัวสุนัขหรือแมวเมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เจ้าพนักงานสาธารณสุข หรือพนักงานเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ
– ต้องใช้สายจูงและจับสายจูงตลอดเวลา หรืออยู่ในกระเป๋า/คอก/กรงที่เหมาะสม (กรณีเป็นสัตว์ควบคุมพิเศษ ต้องใช้อุปกรณ์ครอบปากและจับสายจูงห่างจากคอไม่เกิน 50 เซนติเมตรตลอดเวลา)
– ห้ามปล่อยให้รบกวนผู้อื่น
– เจ้าของต้องเก็บอุจจาระสัตว์ในที่สาธารณะทุกครั้ง
รายชื่อสุนัขสายพันธุ์ที่ต้องควบคุมพิเศษ
ทางกรุงเทพมหานครได้มีกำหนดรายชื่อสายพันธุ์ที่ต้องควบคุมพิเศษ มีทั้งหมด 5 สายพันธุ์ ได้แก่ พิทบูลเทอร์เรีย, บูลเทอร์เรีย, สเตฟฟอร์ดเชอร์บูลเทอร์เรีย, รอทไวเลอร์ และ ฟิล่าบราซิลเลียโร หรือตามประกาศของกรุงเทพมหานคร หรือสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคนด้วย
การควบคุมจำนวนการเลี้ยงสุนัขและแมวตามพื้นที่
- ห้องเช่า / คอนโด
– พื้นที่ 20-80 ตร.ม. เลี้ยงได้ 1 ตัว
– พื้นที่ 80 ตร.ม. ขึ้นไป เลี้ยงได้ 2 ตัว - บ้านพักอาศัย
– เนื้อที่ดิน ไม่เกิน 20 ตร.วา เลี้ยงได้ 2 ตัว
– เนื้อที่ดิน 20-50 ตร.วา เลี้ยงได้ 3 ตัว
– เนื้อที่ดิน 50-100 ตร.วา เลี้ยงได้ 4 ตัว
– เนื้อที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป เลี้ยงได้ 6 ตัว
ข้อปฏิบัติและข้อกำหนดอื่นๆในการเลี้ยงสุนัขและแมว
- การเลี้ยงสัตว์เกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติใหม่ : แจ้งต่อสำนักงานเขตหรือแจ้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้ใช้บังคับ หรือหลังจากวันที่ 10 ม.ค. 2569 ไปอีก 90 วันค่ะ
- การย้ายที่อยู่ของสุนัขและแมว / บัตรประจำตัวสุนัขและแมว สูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุด / สุนัขหรือแมวตาย : แจ้งต่อสถานที่ที่กรุงเทพมหานครกำหนดภายใน 30 วัน รวมถึงสามารถแจ้งโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่กรุงเทพมหานครกำหนดได้
- สุนัขหรือแมวหาย : แจ้งความสัตว์สูญหายต่อตำรวจและสถานที่ที่กรุงเทพมหานครกำหนด รวมถึงสามารถแจ้งโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่กรุงเทพมหานครกำหนดได้ภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันที่ทราบ หากเจ้าของพบสัตว์เลี้ยงแล้ว ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ภายใน 3 วัน
- เปลี่ยนเจ้าของสัตว์เลี้ยงเป็นเจ้าของคนใหม่ : ยื่นคำขอตามแบบ คสส.4 สถานที่ที่กรุงเทพมหานครกำหนด รวมถึงสามารถแจ้งโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่กรุงเทพมหานครกำหนดได้ โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของคนใหม่,ทะเบียนบ้านที่เป็นสถานที่เลี้ยงแห่งใหม่ พร้อมแนบบัตรประจำตัวสุนัขหรือแมว, หนังสือยินยอมจากผู้ให้เช่า (กรณีเป็นผู้เช่า) และหนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
- สุนัขที่เลี้ยงไม่ใช่สุนัขควบคุมพิเศษ ได้ทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคนโดยปราศจากการควบคุม : เจ้าของสุนัขต้องแจ้งต่อคลินิกสัตวแพทย์ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานเขต หรือสถานที่ที่กรุงเทพมหานครกำหนด รวมถึงสามารถแจ้งโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่กรุงเทพมหานครกำหนดได้ เพื่อเปลี่ยนเป็นสุนัขควบคุมพิเศษตรงบัตรประจำตัวสุนัขภายใน 3 วันนับจากวันเกิดเหตุ
- บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือมากกว่า 65 ปี ห้ามนำสุนัขควบคุมพิเศษออกนอกสถานที่เลี้ยง : เว้นแต่จะอยู่ในกรง ที่ขัง หรือเครื่องควบคุมอื่นที่มั่นคงแข็งแรงเพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ถึงบุคคลภายนอก
- คลินิกสัตวแพทย์ของกรุงเทพมหานคร : รับการฝังไมโครชิป ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า และผ่าตัดทำหมัน ได้ฟรีที่คลินิกสัตวแพทย์ของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 8 แห่ง
1. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.1 สี่พระยา เขตบางรัก โทร. 0-2236-4055 ต่อ 213
2. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.2 มีนบุรี เขตมีนบุรี โทร. 0-2914-5822
3. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.3 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา โทร. 0-2392-9278
4. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.4 บางเขน เขตจตุจักร โทร. 0-2579-1342
5. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.5 วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ โทร. 0-2472-5895 ต่อ 109
6. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.6 ช่วงนุชเนตร เขตจอมทอง โทร. 0-2476-6493 ต่อ 1104
7. คลินิกสัตวแพทย์ กทม.7 บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย โทร. 0-2411-2432
8. กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง โทร. 0-2248-7417
นอกจากจะมีข้อกำหนดในการเลี้ยงสุนัขและแมวในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีการควบคุมจำนวนการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นๆด้วย ดังนี้
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ เช่น โค กระบือ ม้า กวาง : เลี้ยงได้ 1 ตัว ต่อพื้นที่ 50 ตารางวา
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น แพะ แกะ สุกร ม้าแคระ : เลี้ยงได้ 3 ตัว ต่อพื้นที่ 50 ตารางวา
- สัตว์ปีก
– ไก่ เป็ด ห่าน : เลี้ยงได้ 1 ตัว ต่อพื้นที่ 4 ตารางเมตร
– นกขนาดเล็ก : เลี้ยงได้ไม่เกิน 5 ตัว ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
– นกขนาดใหญ่ เช่น นกกระจอกเทศ : เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว ต่อพื้นที่ 50 ตารางเมตร
คอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ 31 แห่งในกรุงเทพฯ
หลังจากเราพาดูรายละเอียดข้อบัญญัติใหม่ในการเลี้ยงสัตว์แล้ว งั้นเราจะพามาดูคอนโดคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ในกรุงเทพฯกันบ้าง ซึ่งจากการที่เราได้สำรวจคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ อายุไม่เกิน 5 ปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีทั้งหมด 31 โครงการด้วยกัน มีทั้งคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่และเพิ่งเปิดตัวเลยค่ะ
- โซนเกษตร – สะพานใหม่
– Brixton Pet & Play Phahol 50 Station (บริกซ์ตัน เพ็ทแอนด์เพลย์ พหลโยธิน 50 สเตชั่น) / เริ่ม 2.59 ล้านบาท
– The Origin Phaholyothin 57 (ดิ ออริจิ้น พหลโยธิน 57) / เริ่ม 2.39 ล้านบาท
– Modiz Vault Kaset – Sripatum (โมดิซ วอลท์ เกษตร – ศรีปทุม) / เริ่ม 2.89 ล้านบาท - โซนแจ้งวัฒนะ
– Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) / เริ่ม 2.59 ล้านบาท - โซนรามอินทรา
– COZI Raminthra – Khubon (โคซี่ รามอินทรา – คู้บอน) / เริ่ม 1.2 ล้านบาท
– The Origin Plug & Play Ramintra (ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา) / เริ่ม 2.79 ล้านบาท
– Landmark @Grand Station (แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น) / เริ่ม 2.9 ล้านบาท
– Noble Create (โนเบิล ครีเอท) / เริ่ม 2.59 ล้านบาท - โซนรามคำแหง
– ORIGIN PLACE RAMKHAMHAENG 153 (ออริจิ้น เพลส รามคำแหง 153) / เริ่ม 2.89 ล้านบาท - โซนลาดพร้าว
– Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว) / เริ่ม 2.89 ล้านบาท
– LIFE JJ Interchange (ไลฟ์ เจเจ อินเตอร์เชนจ์) / เริ่ม 3.49 ล้านบาท
– The Base Ratchada 19 (เดอะ เบส รัชดา 19) / เริ่ม 2.49 ล้านบาท - โซนเตาปูน
– THE BASE Wongsawang (เดอะ เบส วงศ์สว่าง) / เริ่ม 2.19 ล้านบาท
– Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) / เริ่ม 2.29 ล้านบาท - โซนปิ่นเกล้า
– The Origin Pinklao (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) / เริ่ม 2.69 ล้านบาท
– Origin Plug & Play Sirindhorn Station (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น) / เริ่ม 3.39 ล้านบาท
– Origin Play Bangkhunnon Triple Station (ออริจิ้น เพลย์ บางขุนนนท์ ทริปเปิ้ล สเตชั่น) / เริ่ม 2.99 ล้านบาท - โซนบางแค
– The Origin Bangkae (ดิ ออริจิ้น บางแค) / เริ่ม 1.49 ล้านบาท
– The Muve Paw Bangkhea (เดอะ มูฟ พอว์ บางแค) / เริ่ม 1.49 ล้านบาท - โซนจุฬาฯ – พญาไท
– MARQUIS Phayathai (มาร์ควิส พญาไท) / เริ่ม 7.89 ล้านบาท
– CONNER RATCHATHEWI (คอนเนอร์ ราชเทวี) / เริ่ม 14 ล้านบาท
– MARU CHULA (มารุ จุฬา) / เริ่ม 4.39 ล้านบาท - โซนพระราม 9
– COBE Ratchada-Rama 9 (โค้บบ์ รัชดา-พระราม9) / เริ่ม 2.69 ล้านบาท
– NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) / เริ่ม 2.69 ล้านบาท
– PYNN Soonvijai (พินน์ ศูนย์วิจัย) / เริ่ม 13.9 ล้านบาท - โซนสุขุมวิท
– SCOPE PROMSRI (สโคป พร้อมศรี) / เริ่ม 6.9 ล้านบาท
– Via 34 (เวีย 34) / เริ่ม N/A ล้านบาท
– Via 61 (เวีย 61) / เริ่ม 10.9 ล้านบาท
– PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) / เริ่ม 8.99 ล้านบาท - โซนบางนา – แบริ่ง
– Origin Play Sri Udom Station ( ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น) / เริ่ม 1.99 ล้านบาท
– THE MUVE Sukhumvit 107 (เดอะ มูฟ สุขุมวิท 107) / เริ่ม 1.59 ล้านบาท
– Origin Play Sri Lasalle Station (ออริจิ้น เพลย์ ศรีลาซาล สเตชั่น) / เริ่ม 2.29 ล้านบาท
โซนเกษตรศาสตร์ – สะพานใหม่
Brixton Pet & Play Phahol 50 Station (บริกซ์ตัน เพ็ทแอนด์เพลย์ พหลโยธิน 50 สเตชั่น) | เริ่ม 2.59 ล้านบาท
Brixton Pet and Play Phahol 50 Station
คอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 258 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ 33 % (รวมจอดซ้อนคัน) บนที่ดิน 1 ไร่กว่า โดยตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 ติดกับ Big C สะพานใหม่ ถือว่าเป็นย่านชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาซื้อของกินของใช้ง่าย มีระยะห่างจากถนนพหลโยธินเพียง 150 เมตร ใกล้ BTS สถานีสายหยุด 350 เมตร จึงใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ทั้งโครงการ ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1 ประกอบด้วย Lobby, Mail Box, Lap Pool, Pool Deck และ Pool Step ถัดมาเป็นชั้น 2 มี Co-Working Space พื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ พร้อม Vending Machine และ Gym ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวอย่าง Courtyard, Pavigym และ Relax Zone รวมถึงส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงอย่าง Pet Workout Area และ Pet Bath
ห้องพักอาศัย
ออกแบบเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.50-25.60 ตร.ม. ส่วน 1 Bedroom Plus ขนาด 34.80 ตร.ม. ได้ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Layout ของ 1 Bedroom มีให้เลือกหลากหลายทั้งครัวปิดอยู่ด้านหน้าห้อง ช่วยกันเสียงดังจากโถงทางเดิน, ครัวปิดติดระเบียง หรือมีพื้นที่ Walk-in Closet ภายในห้อง
โดยขายในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวมาให้ครบ รวมถึงทุกยูนิตออกแบบมารองรับการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นพื้น SPC และเฟอร์นิเจอร์เคลือบเมลามีน ทนทานต่อรอยขีดข่วนและความชื้น, CCTV กล้องวงจรปิด, ยางรองกรอบประตู กันเสียงดังเล็ดลอดไปด้านนอกและ Pet Console เป็นบ้านของสัตว์เลี้ยง
อ่านพรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3jWE
The Origin Phaholyothin 57 (ดิ ออริจิ้น พหลโยธิน 57) | เริ่ม 2.39 ล้านบาท
The Origin Phaholyothin 57
ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 432 ยูนิต + 1 ร้านค้า โดยแบ่งอาคาร B เป็นอาคาร Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ สำหรับที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยพหลโยธิน 57 มีระยะห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ 170 เมตร และอยู่ห่างจาก BTS สถานีพหลโยธิน 59 เพียง 400 เมตร นั่งถัดไปอีก 1 สถานีเป็น MRT สายสีชมพู สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ที่เป็น Interchange Station จึงเดินทางเชื่อมต่อได้หลายโซน ถือเป็นคอนโด Low Rise ที่เดินทางได้สะดวกสบายทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า นอกจากนั้นฝั่งตรงข้ามของซอยที่ตั้งโครงการจะเป็น Lotus’s หลักสี่ ลูกบ้านจึงมาเดินจับจ่ายใช้สอยได้สบายๆ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางพื้นฐานมาให้ครบครัน แบ่งเป็นชั้น 1 Lobby และ Lab Pool, ชั้น 2 เป็น Co-Working Space, Fitness, Yoga Room และชั้นดาดฟ้าเป็น Rooftop Garden โดยส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงจะมีเพียงบริเวณ Lobby ที่สามารถพาน้องสัตว์เลี้ยงมานั่งเล่น เป็น Community สำหรับคนรักสัตว์ มานั่งพูดคุยกับลูกบ้านคนอื่นๆได้
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการจะเน้นห้องขนาดเล็ก อยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก มีอยู่ 2 แบบให้เลือก ได้แก่ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ได้ครัวปิดติดระเบียง และ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม. จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา ใช้เป็นห้องทำงานหรือห้องนอนวางเตียง 3.5 ฟุตได้ค่ะ ส่วนรูปแบบการขายจะเป็นแบบ Fully Fitted + Built-in เฟอร์นิเจอร์มาบางส่วน นอกจากนั้นยังมีการออกแบบและเลือกใช้วัสดุเพื่อรองรับการเลี้ยงสัตว์ เช่น ผนังหนา, ยางรองกรอบประตู กันเสียงดังรบกวน, พื้น SPC ช่วยถนอมข้อต่อสัตว์เลี้ยง กันรอยขีดข่วน-ความชื้น และเฟอร์นิเจอร์ที่ Built-in มาให้ก็มีการเคลือบเมลานีน จึงทนทานต่อรอยขีดข่วนค่ะ
อ่านพรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3DeF
Modiz Vault Kaset – Sripatum (โมดิซ วอลท์ เกษตร – ศรีปทุม) | เริ่ม 2.89 ล้านบาท
Modiz Vault Kaset – Sripatum
ตัวโครงการแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ประกอบด้วยอาคาร A สูง 21 ชั้นและอาคาร B สูง 7 ชั้น ซึ่งเป็นอาคาร Pet-Friendly แห่งแรกบนทำเลเลยค่ะ ห้องพักอาศัยรวมทั้งหมด 798 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 292 คัน หรือคิดเป็น 37% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ในย่าน แต่ก็แลกมากับพื้นที่ส่วนกลางที่มีมากถึง 60 รายการ พร้อมส่วนกลางรองรับการใช้งาน 24 ชม. และส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนเลียบคลองบางเขน ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่เชื่อมต่อถนนพหลโยธินและวิภาวดี-รังสิต ทำให้เดินทางได้สะดวก ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีบางบัว 550 เมตร ซึ่งมี Shuttle Service คอยรับ-ส่งไปที่มหาวิทยาลัยเกษตร และยังแวะส่งที่ BTS สถานีบางบัวและกรมป่าไม้ด้วยค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ด้วยตัวโครงการที่มีขนาดใหญ่สุดบนทำเลจึงออกแบบฟังก์ชันส่วนกลางมาให้หลากหลายกว่า 60 ฟังก์ชัน พร้อมสระว่ายน้ำ 2 สระ และ Co-Working Space ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
โดยส่วนกลางจะกระจายอยู่ที่ชั้น 1 เป็น Lobby และพื้นที่สีเขียวทั้ง Backyard Living Space และ Pet Park, ชั้น 3 พื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ, ชั้น 4 เป็น 1 ในชั้น Main Facilities ของโครงการ จะมีทั้งฟังก์ชัน Indoor และ Outdoor ให้ใช้งาน เช่น สระว่ายน้ำ, มุมนั่งเล่นต่างๆ, Co-Working Space 24 hrs., Recreation Space, Fit Club, Fit Studio, Boxing Zone, VR Game, Theater, Salon & Beauty Lounge และ Aroma Massage Room เป็นต้น
ส่วนชั้น 5 จะเป็น Pet Facilities ได้แก่ Seat Area, Pet Wash Station, Pet Waste Station, Pet Play Yard และ Pet Playhouse สำหรับชั้น 21 จะเป็นชั้น Main Facilities เหมือนกัน จัดฟังก์ชันมาหลากหลาย เช่น Relaxing Panoramic Lap Pool, Sunrise Lounge, Sky BBQ, Creative Studio, Live Studio, Co-Dining และ The Social Club เป็นต้น
ห้องพักอาศัย
แบบห้องของโครงการส่วนใหญ่จะเน้นไปทางห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งเหมาะกับการอาศัย 1 – 2 คน อีกทั้งยังมีแบบห้องเพดานสูงและห้องสำหรับ Pet Friendly เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ด้วยค่ะ ออกแบบมีครัวปิดทุกห้อง รูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Furinshed ตกแต่งมาให้ครบ
สำหรับห้องพักในอาคาร B มีการออกแบบและเพิ่มฟังก์ชันสำหรับสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วย เช่น เพิ่มประตูเข้า-ออกของสัตว์เลี้ยง และทำกรงเหล็กให้ตรงระเบียง เป็นต้น ตอบโจทย์คนมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว และไม่ต้องเสียเวลาไปทำเพิ่มนั่นเอง
Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) | เริ่ม 2.59 ล้านบาท
Origin Place Chaengwattana
โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise สูง 28 ชั้น รวม 700 ยูนิต+ร้านค้า 1 ยูนิต ที่มี Highlight แบบคูณ 2 เพราะเป็นคอนโดที่มีห้องฝ้าเพดานสูงและเลี้ยงสัตว์ได้ในโครงการเดียวกัน ซึ่งเป็นเพียงโครงการเดียวในย่านนี้เลยค่ะ นอกจากนั้นทำเลที่ตั้งโครงการก็น่าสนใจ อยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ Central แจ้งวัฒนะ 800 เมตร และทางด่วนศรีรัช อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูเป็นตัวเลือกในการเดินทาง ตัวโครงการตั้งอยู่ระหว่างทั้งสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 และสถานีศรีรัช จึงมีระยะห่างพอๆกัน ประมาณ 600 เมตร แต่ดีที่ทางโครงการมี Shuttle Bus บริการรับ-ส่งไป MRT สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ให้ด้วย
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบกระจาย Facilities เป็น 4 ชั้นหลักๆ ได้แก่ ชั้น 1 เน้นพื้นที่นั่งพักคอย ทำงานและสวนสีเขียว, ชั้น 5 เป็น Main Facilities ของโครงการ เน้น Active Facilities ทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness ส่วนบริเวณรอบๆก็จะเป็นพื้นที่สวนให้มานั่งเล่นได้, ชั้น 28 จะเป็น Sky Lounge และ Co-Kitchen ได้วิวมุมสูง ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็นสวนและจุดนั่งเล่นต่างๆ รวมถึงยังมี Jogging Track และ View Point ต่างๆให้ขึ้นมาชมวิวกันได้
สำหรับส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงมีมาให้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Pet Lobby ที่แยกจาก Lobby หลักเลย, Pet Courtyard สวนสีเขียวสำหรับสัตว์เลี้ยง พร้อม Pet Wash Area และมี Pet Area พื้นที่สวนอีกจุดของสัตว์เลี้ยงตรงชั้นดาดฟ้า โดยทางโครงการออกแบบมีลิฟต์ส่วนตัวสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ หรืออาศัยอยู่ในชั้น Pet-Friendly แยกออกมาจากลิฟต์โดยสารหลัก ทำให้ไม่รบกวนลูกบ้านคนอื่นๆ
ห้องพักอาศัย
มีการแบ่งโซนห้องพักอาศัยออกเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆ คือห้องแบบ Simplex ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 7-11 แต่ถ้าเป็นห้องเพดานสูงหรือ High Ceiling 4.2 เมตร จะเริ่มที่ชั้น 5-6 และชั้น 12-28 สำหรับชั้น Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้จะอยู่ที่ชั้น 10-11 และชั้น 20-24 จึงทำให้ลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์มีแบบห้องให้เลือกทั้ง Simplex และห้องเพดานสูง
การออกแบบห้องจะเน้นไปที่แบบห้องฝ้าเพดานสูงเป็นหลัก ซึ่งมีเพียงโครงการเดียวบนทำเล ได้บรรยากาศโปร่งโล่งด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.2 เมตร เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้เยอะ สำหรับตัวห้องจะมีตั้งแต่ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24-36 ตร.ม. อยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆรวมไปถึง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 34-84 ตร.ม. จึงอยู่เป็นครอบครัวได้เลย โดยทุกยูนิตจะได้เป็นครัวปิดทั้งหมด ทำอาหารได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น-ควัน รูปแบบการขายจะเป็นแบบ Fully Fitted + Built-in เฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ส่วนพื้นเป็น SPC ที่สามารถทนความชื้นและรอยขีดข่วน + ผนังห้องก็มีความหนามากกว่าปกติอยู่ที่ 15 ซม. ทำให้เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์มากขึ้น
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4fqB
โซนรามอินทรา
COZI Raminthra – Khubon (โคซี่ รามอินทรา – คู้บอน) | เริ่ม 1.2 ล้านบาท
COZI Raminthra – Khubon
ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 896 ยูนิต โดยมีอาคาร C เป็นอาคารแบบ Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ ตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยคู้บอน 16/2 ห่างจากถนนรามอินทรา 1.6 กิโลเมตร ซึ่งตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับ MRT สายสีชมพู สถานีคู้บอนเพียง 300 เมตร จึงเดินมาใช้งานได้สบายๆ แต่ทางโครงการก็มีบริการ V-Move คอยรับ-ส่งไปยัง MRT สถานีคู้บอนและรามอินทรา กม.9 ด้วย ก็ยิ่งทำให้สะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนั้นเรายังนั่งรถไฟฟ้าไปทางมีนบุรีอีก 2 สถานีก็ถึงห้าง Fashion Island กับ Promanade ที่ถือเป็นห้างหลักของคนบนทำเลนี้มาเดินเล่น ช้อปปิ้งกัน
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ส่วนกลางหลักของโครงการจะอยู่บริเวณอาคาร B ที่ตั้งอยู่ตรงกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านแต่ละอาคารเดินมาใช้งานส่วนกลางได้ในระยะพอๆกัน โดยจัดฟังก์ชันมาให้ครบตามมาตรฐานทั้ง Lobby แยกแต่ละอาคาร, สระว่ายน้ำ, Fitness และ Co-Working Space แต่จุดเด่นของโครงการนี้ คือ Fitness และ Co-Working Space ที่เปิดบริการ 24 ชม. ทำให้มาใช้งานได้ทั้งวัน นอกจากนั้นยังมีสวนสีเขียวสำหรับสัตว์เลี้ยงอยู่ข้างๆอาคาร C ที่เป็นอาคาร Pet-Allowed ทำให้ลูกบ้านพาน้องสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น รวมถึงยังมีเตรียมจุดล้างเท้าสัตว์เลี้ยงไว้ให้ใช้งานได้สะดวกดี
ห้องพักอาศัย
โครงการออกแบบเน้นห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กเหมาะสำหรับอยู่ 1 – 2 คนได้สบายๆ พร้อมตกแต่งแบบ Fully-Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมาครบทั้ง Built-in และลอยตัวในราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท จึงเป็นคอนโด Pet-Friendly ที่ราคาจับต้องได้ง่ายสุดค่ะ สำหรับแบบห้อง 1 Bedroom มีขนาด 24 – 27.50 ตร.ม. มี Layout ให้เลือกถึง 4 แบบทั้งครัวปิด, Walk-in Closet และห้องน้ำติดช่องแสง ส่วน 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 – 35 ตร.ม. จะได้ครัวปิดติดระเบียงและมีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ให้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามการใช้งาน
ส่วนวัสดุภายในห้องได้มาตามมาตรฐานของระดับราคา แต่ดีที่พื้นเป็น SPC ที่มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและความชื้น ช่วยถนอมข้อต่อสัตว์เลี้ยง รวมถึงมีพื้นที่ทิ้งมูลสัตว์บริเวณห้องพักขยะแต่ละชั้นและมี V-Move Pet ที่สามารถรับ-ส่งลูกบ้าน พร้อมสัตว์เลี้ยงด้วย
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4hZe
The Origin Plug & Play Ramintra (ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา) | เริ่ม 2.79 ล้านบาท
The Origin Plug and Play Ramintra
คอนโด High Rise สูง 18-19 ชั้น 6 อาคาร + อาคารจอดรถสูง 10 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 679 ยูนิต+ร้านค้า 3 ยูนิต โดยอาคาร F เป็น Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ สำหรับทางเข้าโครงการจะอยู่ติดถนนรามอินทราช่วงกม. 9 ระหว่างซอยรามอินทรา 79/1 และรามอินทรา 81 หรืออยู่เยื้องกับโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรานั่นเอง อีกทั้งยังอยู่ระหว่างทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์กับวงแหวนกาญจนาภิเษก จึงวิ่งเข้า-ออกเมืองได้ง่าย นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้ MRT สถานีรามอินทรา กม.9 เพียง 70 เมตร ทำให้จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าก็สะดวกมากๆ โครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เลยค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ทางโครงการจัดส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1-2 เป็น Lobby แยกแต่ละอาคาร และมี Co-Working Space ให้มานั่งทำงานได้ ส่วน Main Facilities จะจัดไว้ที่ชั้น 18-19 ที่เป็นชั้นบนสุดของอาคาร ทำให้ลูกบ้านแต่ละอาคารเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย โดยจะเชื่อมเป็นอาคาร A-D และอาคาร E-F มีความน่าสนใจที่จะได้สระว่ายน้ำและ Fitness อย่างละ 2 จุด แยกฝั่งการใช้งานของอาคาร A-D และอาคาร E-F เลย รวมถึงมี Co-Working Space ถึง 3 จุด เป็นการออกแบบเพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ดีเลยค่ะ
ห้องพักอาศัย
ถึงแม้โครงการนี้จะมีถึง 6 อาคารพักอาศัย แต่ออกแบบมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 7 ยูนิตเท่านั้น รวมถึงอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 56-60 : 1 ถือว่ามีความหนาแน่นต่ำ สำหรับโครงการ High Rise ค่ะ
รูปแบบห้องของโครงการจะเป็น 1 Bedroom ทั้งหมด แค่มีขนาดที่แตกต่างกันไปให้เลือกตั้งแต่ 21.5-33 ตร.ม. และได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งโล่งมากๆ เพราะเน้นเป็นห้องเพดานสูง 4.20 เมตร แยกโซนห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอย ได้ความสัดส่วนและส่วนตัวดี สำหรับห้อง Simplex ก็มีความสูง 2.9 เมตร ถือว่ามีความสูงมากกว่าคอนโดทั่วไป (2.40-2.50 เมตร) อีกทั้งยังมี Layout ให้เลือกเยอะทั้งห้องครัวแบบปิดอยู่ด้านหน้าห้อง, ครัวปิดติดระเบียง, มีพื้นที่ทำ Walk-in Closet หรือห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง
สำหรับห้องพักในอาคาร F ที่เลี้ยงสัตว์ได้ จะมีวัสดุแตกต่างกับอาคารอื่น เพื่อรองรับการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ ได้แก่ ประตูกันเสียง, กระเบื้องยาง ถนอมต่อข้อต่อของสัตว์เลี้ยง, ก๊อกเตี้ยในห้องน้ำ สามารถอาบน้ำหรือชำระล้างน้องๆของเราได้ง่าย, กล้อง CCTV และแถมบ้าน น้องสุนัขหรือแมวด้วย
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2PX6
Landmark @Grand Station (แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น)
Landmark @Grand Station
รูปแบบโครงการเป็นอาคาร Mixed-Use ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ออฟฟิศ ร้านค้า ร้านอาหาร และ Facilities ภายในโครงการ โดยออกแบบเป็นคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น รวม 988 ยูนิต + 12 ร้านค้า + 3 ออฟฟิศ ตั้งอยู่ติดถนนซอยรามอินทรา 64 และมีถนนที่เชื่อมต่อกับถนนรัชดา-รามอินทราได้ อีกทั้งใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก 400 เมตร และ MRT สายสีชมพูสถานีวงแหวนรามอินทรา ประมาณ 450 เมตร รวมถึง Fashion Island และ Promanade ก็อยู่ในระยะ 500-600 เมตร ทำให้ถือเป็นโครงการที่เดินทางได้ง่าย อยู่อาศัยก็สะดวกสบายเลย นอกจากนั้น Highlight ของโครงการ คือ ห้องเพดานสูงทั้งโครงการและมีการออกแบบที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ต่างๆ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ถือว่าให้มาครบตามมาตรฐาน โดยชั้น 1 จะเป็น Lobby แยกฝั่งของ Siamese Residence กับ Branded Residence รวมถึงมีร้านค้า 12 ยูนิตและออฟฟิศอีก 3 ยูนิต ทำให้ลูกบ้านมาจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย, ชั้น 3 เป็น Main Facilities ของทั้ง 2 ฝั่ง ที่ออกแบบแยกกันอย่างชัดเจน จะมี Fitness และสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็น Sky Garden ทั้ง 2 ฝั่งเลย แต่ฝั่ง Branded Residence จะมีส่วนของ Restaurant ที่ด้านบนนี้ด้วย ซึ่งลูกบ้านสามารถเข้าไปใช้งานได้ทั้ง 2 ฝั่งนะคะ
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องมีให้เลือกเยอะมากๆ แบ่งหลักๆได้ 3 แบบ ได้แก่ FLEXI, ECO และ GRAND โดยแต่ละรูปแบบก็แบ่งได้อีก 4 ลักษณะทั้ง Residential ห้องเพดานสูง 4.15 เมตร ภายในมีฟังก์ชันให้เลือกหลายไลฟ์สไตล์, Co-Living ห้องเพดานสูง 4.9 เมตร เหมือนห้อง Duplex, Elder ออกแบบรองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ (Universal Design) และ Pet Lover เป็นห้องที่อยู่ชั้น 4-5 เท่านั้น โดยออกแบบรองรับการเลี้ยงสัตว์ มีจุดเด่นคือแยกทางเข้า, ชั้นและลิฟต์โดยสารไว้เฉพาะกลุ่ม ทำให้จัดการได้ง่ายและไม่รบกวนลูกบ้านคนอื่นๆ
การจัดฟังก์ชันภายในห้องค่อนข้างแตกต่างจากห้องเพดานสูงในโครงการอื่นๆ เพราะออกแบบส่วนชั้นลอยติดหน้าต่างห้อง แตกต่างจากห้องเพดานสูงอื่นๆที่มักจะวางไว้ในโซนด้านหน้าห้อง ทำให้มีข้อดีที่ได้แสงธรรมชาติและวิวจากภายในห้องนอน รวมถึงมี Powder Room ตรงชั้นลอย ใช้งานได้สะดวก นอกจากนั้นได้ลดทอนฟังก์ชันครัวออกไป เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอื่นๆให้กว้างมากขึ้น มีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงด้านล่างชั้นลอย สำหรับเป็นห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น-ทำงานได้ แต่ดีที่เตรียมระเบียงขนาดใหญ่ไว้เผื่อทำเป็นครัวได้ด้วยค่ะ
รูปแบบการขายของโครงการจะเป็น Fully Fitted พร้อม Siamese Teqnology มาหลายอย่างทั้งระบบหมุนเวียน เติมอากาศและกรองฝุ่น PM 2.5 ภายในห้องพักอาศัย, กระจกประหยัดพลังงาน, Smell Protection Technology แยกท่อระบายอากาศของท่อน้ำเสีย ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์, Soundproof Technology ทั้งประตูกันเสียงและผนังช่วยดูดซับเสียง และระบบเดินท่อในคอนกรีตที่ง่ายแก่การซ่อมบำรุงภายในห้อง
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2YhV
Noble Create (โนเบิล ครีเอท) | เริ่ม 2.59 ล้านบาท
Noble Create
ออกแบบ High Rise 6 อาคาร จำนวน 1,250 ยูนิต โดยอาคาร F เป็นอาคาร Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ จุดเด่นของโครงการนี้คือมีทางเข้าอยู่ติดถนนประดิษฐ์มนูธรรม ใกล้กับ The Crystal เอกมัย-รามอินทราในระยะ 300 เมตร และอยู่ไม่ไกลจาก Central Eastville เป็นห้างสรรพสินค้า Pet Friendly ด้วย รวมถึงมีรถรับส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าด้วย (สายสีเหลืองและสายสีเทา) นอกจากนั้นออกแบบพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่รวมกว่า 40 ฟังก์ชัน พร้อมสวนสีเขียวกว่า 5 ไร่ มีการออกแบบทุกยูนิตเป็นห้องหน้ากว้างอยู่สบาย ส่วนใหญ่จะมี Layout ที่ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วนค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ถือเป็น Highlight ของโครงการ เพราะมีขนาด 2,500 ตร.ม. ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง, พื้นที่สำหรับเด็ก-สัตว์เลี้ยง, พื้นที่ทำงาน, สันทนาการและ Creative Space พร้อมวิวสวยๆบนชั้น 28 รวมกว่า 40 ฟังก์ชัน จึงถือว่าค่อนข้างใหญ่พอสมควรเลย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สวนสีเขียวตรงกลางโครงการขนาด 5 ไร่ เป็นทัศนียภาพที่สวยงามให้กับห้องพักอาศัย และสามารถลงมาเดินเล่น ทำกิจกรรมได้หลากหลาย
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงจะมี Pet Park ให้พาน้องๆมาเดิน-วิ่งเล่นได้ แต่ดีที่โครงการอยู่ใกล้ Central Eastville ที่เป็นห้าง Pet Friendly จึงพาน้องๆมาใช้งานภายในห้างได้สบาย
ห้องพักอาศัย
จุดเด่นของห้องโครงการนี้ คือ เป็นห้องหน้ากว้างทุกยูนิต ทำให้ภายในห้องดูโปร่งมากขึ้น เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง ส่วนรูปแบบห้องก็มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom-L, 1 Bedroom Plus และ Combine พื้นที่ 22.90-53.40 ตร.ม. มีการจัดฟังก์ชันและ Layout ที่แตกต่างกันไป เช่น ครัวปิด-ครัวเปิด, มี Walk-in Closet, โต๊ะกินข้าวติดกับเคาน์เตอร์ครัว เป็นต้น ดีที่ปูพื้นเป็น SPC จึงรองรับการสัตว์เลี้ยงได้ทั้งในเรื่องความชื้น รอยขีดข่วนและช่วยถนอมข้อต่อสัตว์เลี้ยงเวลาเดินหรือกระโดด ส่วนรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted จึงต้องเผื่องบสำหรับตกแต่งห้องด้วยนะคะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3mg0
โซนรามคำแหง
ORIGIN PLACE RAMKHAMHAENG 153 (ออริจิ้น เพลส รามคำแหง 153) | เริ่ม 2.89 ล้านบาท
ORIGIN PLACE RAMKHAMHAENG 153
ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 18 ชั้น 5 อาคาร รวม 737 ยูนิต รวมถึงมีอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 11 ยูนิต อยู่ด้านหน้าโครงการด้วย ทำให้ลูกบ้านจับจ่ายใช้สอยภายในโครงการได้ง่าย ส่วนอาคาร Clubhouse จะอยู่ด้านหลังโครงการ ได้บรรยากาศเดินริมน้ำเลย สำหรับจุดเด่นของโครงการนี้ คือ เป็นคอนโด Pet- Friendly เพราะออกแบบอาคาร B ให้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ รวมถึงมีห้องเพดานสูงให้เลือก ถือเป็น Product ที่หาได้ยากบนทำเลนี้เลย นอกจากนั้นที่ตั้งโครงการยังอยู่ติดถนนรามคำแหง ใกล้ MRT สถานีน้อมเกล้า 130 เมตรและอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือคลองแสนแสบ ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลายดีทีเดียว
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
อาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการ Lifestyle Mall 3 ชั้น จำนวน 11 ยูนิตอยู่ที่ชั้น 1-2 ส่วนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางรองรับการทำงานและพักผ่อนอย่าง Co-Living, Co-Working Space และ Meeting Room ซึ่งทางโครงการได้บอกว่าจะมีการดีลร้านบริการต่างๆสำหรับสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย อาจจะเป็นร้านอาบน้ำตัดขนก็ได้นะคะ แต่ยังไงต้องรอติดตามกันอีกที
ส่วน Clubhouse ของโครงการสูง 3 ชั้น อยู่ด้านหลังโครงการ เน้นออกแบบกระจกรับวิวสวนทางด้านฝั่งคลอง โดยส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 2-3 เป็นหลัก ได้แก่ Pool & Deck, Pool Theater, Rest Area, Yoga และ Fitness สำหรับส่วนกลางภายในอาคารจะมี Main Lobby, Mail Room และ Smart Locker อยู่ในทุกอาคาร ส่วนอาคาร B-C จะมี Sky Lounge เพิ่มขึ้นมาที่ชั้น 18 รวมถึงอาคาร B ที่เป็นอาคาร Pet-Friendly จะมีส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงทั้ง Pet Condo, Pet Area, Pet Play และ Pet Rest ทำให้น้องๆสัตว์เลี้ยงอยู่อาศัยและวิ่งเล่นภายในโครงการได้เลย
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องของโครงการจะมีทั้งห้อง Simplex 2.50 เมตรอยู่ที่ชั้น 2-9 และชั้น 10-18 จะเป็นห้องเพดานสูง 4.20 เมตร (High Ceiling) ซึ่งห้องเพดานสูงก็ถือเป็น Product หายากบนทำเลนี้ ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่งมากๆและมีพื้นที่ใช้สอยที่มากยิ่งขึ้น ส่วนการจัดฟังก์ชันภายในห้องจัดได้ลงตัวเป็นสัดส่วนดี ทุกห้องจะได้ครัวแบบปิด ทำอาหารได้จริงจัง มีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom – 1 Bedroom Plus ขนาด 22-50 ตร.ม. อยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ
การออกแบบห้องพักก็รองรับการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะทั้งวัสดุพื้น SPC ช่วยถนอมข้อต่อสัตว์ เวลาเล่นในห้อง ทนรอยขีดข่วนและความชื้น, เฟอร์นิเจอร์เคลือบเมลานีน เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก, ยางรองกรอบประตู ช่วยกันเสียงรบกวน และก๊อกน้ำเตี้ยภายในห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวกอย่างการอาบน้ำสัตว์
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3D87
โซนลาดพร้าว
Metris District Ladprao (เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว) | เริ่ม 2.89 ล้านบาท
Metris District Ladprao
ออกแบบเป็นคอนโด High Rise 45 ชั้น จำนวน 741 ยูนิต สร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมเข้าอยู่ค่ะ โดยตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวฝั่งเลขคู่ (มุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว) เชื่อมออกถนนวิภาวดี-รังสิตได้ง่าย ใกล้ MRT พหลโยธิน 230 เมตร สามารถเดินไปยัง Central ลาดพร้าว, Union Mall และ Lotus’s ลาดพร้าว ได้สบายๆ นอกจากทำเลที่ตั้งจะดีแล้ว ด้วยตัวโครงการที่เป็นคอนโด Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ทั้งโครงการ ทำให้ก่ออิฐฉาบปูนทั้งอาคาร ออกแบบผนังเป็น Double Wall with Air Gap 2 mm. สามารถกันเสียงรบกวนได้ดี พร้อม Non-Toxic Materials ช่วยยับยั้งเชื้อโรคแบคทีเรีย ไวรัสได้
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น G เน้นพื้นที่ต้อนรับ พักผ่อนอย่าง Lobby และ Co-Working Lounge รวมถึงพื้นที่สวนสีเขียวอย่าง Sensory Garden Multi-Sport Carpark, Pet Park, Therapy Garden และชั้น 42M-45 จะเป็น Main Facilities ทั้ง Sky Pool, Panoramic Gym, Weight Training Studio, Sky Lounge, Observation Deck, Sky Urban Farm, Party Deck รวมถึงส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงที่นอกจากจะมี Pet Park แล้วยังมี Cat Haus เพื่อน้องแมวโดยเฉพาะและ Multi-Pet Playroom ออกแบบให้หนู, กระต่าย, กระรอก หรือสัตว์เล็กมาวิ่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศได้
ห้องพักอาศัย
มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio-2 Bedroom ขนาด 23.7-49.6 ตร.ม. จัดวาง Layout ภายในห้องหลากหลาย เช่น ครัวเปิด, ครัวปิด, ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง เป็นต้น พร้อมตกแต่งแบบ Fully Furnished มาให้ครบ แต่ที่น่าสนใจ คือ มี Home Automation ที่เพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น Smart Switch-Plug, IR อุปกรณ์ควบคุมคำสั่งจากอุปกรณ์อื่นๆ, IP Smart Camera, Door Sensor และสามารถติดตั้ง Welocome Scene ที่สามารถเปิดไฟ และแอร์ได้
นอกจากนั้นยังเลือกใช้วัสดุต่างๆภายในห้องเพื่อรองรับการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ ได้แก่ พื้น SPC ป้องกันความชื้นและน้ำได้ดี ทนต่อรอยขีดข่วน เช็ดทำความสะอาดง่าย รวมถึงปลวกไม่กิน 100%, กระเบื้องแกรนิตโต้ประเภท Hygienic Tile ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย, ผนังทาสี DURACLEAN A+ ลดสารพิษก่อมะเร็งและยับยั้งเชื้อโรค แบคทีเรีย, เครื่องฟอกอากาศ NANO-X Air Purifier ยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสรดอกไม้ และสารอันตราย, เครื่องปรับอากาศ ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ และ Smart Floordrain ออกแบบมาดักจับขนของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ป้องกันการอุดตันในอนาคตได้
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3hBi
LIFE JJ Interchange (ไลฟ์ เจเจ อินเตอร์เชนจ์) | เริ่ม 3.49 ล้านบาท
ในที่สุดทาง AP ก็มีคอนโด Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้แล้วนะคะ โดย LIFE JJ Interchange (ไลฟ์ เจเจ อินเตอร์เชนจ์) เป็นโครงการเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกของทาง AP เลย ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการยื่นขอ EIA นะคะ ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวม 694 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 40% (ไม่รวมซ้อนคัน) บนที่ดิน 6 ไร่กว่า ซึ่งอาคาร D จะเป็นอาคาร Pet-Friendly ที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนซอยอินทามระ 15 มีทางเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนสุทธิสารวินิจฉัยและพหลโยธินซอย 18 เพื่อไปออกถนนพหลโยธิน, พหลโยธินซอย 18/1 เพื่อไปห้าแยกลาดพร้าว และวิภาวดีซอย 3 เชื่อมไปถนนวิภาวดีรังสิตได้สบายๆ
แต่ทางโครงการไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆของโครงการออกมามากนัก มีเพียงราคาของห้อง 1 Bedroom เริ่มต้น 3.49 ล้านบาทค่ะ งั้นเราต้องลุ้นกันต่อว่าทางโครงการจะออกแบบทั้งส่วนกลางและห้องพักมาน่าใช้งานและรองรับการอยู่อาศัยของน้องๆสัตว์เลี้ยงยังไงบ้าง
The Base Ratchada 19 (เดอะ เบส รัชดา 19)
THE BASE Ratchada 19
โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยโชคชัยร่วมมิตร (ซอยรัชดาภิเษก 16) สามารถเดินทางทะลุออกได้หลายซอยทั้งซอยลาดพร้าว 18, ลาดพร้าว 20, ลาดพร้าว 26 และวิภาวดี 20 นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้ MRT รัชดาภิเษก 750 เมตร หากใครที่ชอบเดินหรือร่างกายฟิตๆหน่อยก็เดินไปใช้งานรถไฟฟ้าได้สบายค่ะ แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเดินตากแดดร้อนๆก็มีบริการรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง จากโครงการไปยัง MRT รัชดาภิเษกให้ด้วย
ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร มีพื้นที่จอดรถ 286 คัน คิดเป็น 47% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ รวมทั้งหมด 614 ยูนิต โดยมีอาคาร B เป็นอาคารพักอาศัยแบบ Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางเป็น Clubhouse สูง 3 ชั้น แยกออกจากอาคารพักอาศัย ทำให้ได้บรรยากาศการอยู่อาศัยที่สงบมากขึ้น และห้องแต่งครบ มี Layout ห้องให้เลือกเยอะถึง 30 แบบ รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
Clubhouse อยู่ตรงกลางโครงการ เป็นการออกแบบเพื่อแยกฟังก์ชันส่วนกลางจากส่วนพักอาศัย ทำให้ส่วนพักอาศัยได้ความสงบเหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น รวมถึงห้องพักที่หันเข้ามาภายในโครงการจะได้วิวส่วนกลางสวยๆนี้นั่นเอง โดยชั้น 1 ของ Clubhouse จะเน้นพื้นที่นั่งทำงานและพักผ่อนอย่าง Creative Hub และ Meeting Room ส่วนชั้น 2 จะมีทั้ง Playroom, Social Lounge และ Gym พร้อมพื้นที่สวนไล่ระดับที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังชั้น 3 ได้ด้วย ซึ่งชั้น 3 จะเป็นสระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวสำหรับนั่งเล่นชมวิว
สำหรับส่วนกลางภายในอาคารพักอาศัยจะมีออกแบบ Lobby แยกกันทุกอาคาร แต่อาคาร B ที่เป็น Pet-Friendly จะมี Pet Playground เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกบ้านพาน้องๆสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ภายในโครงการเลยนั่นเอง
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom ขนาด 23-25 ตร.ม. ไปจนถึง 1 Bedroom Plus 35 ตร.ม. ที่ได้พื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา จึงปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามการใช้งาน นอกจากนั้นยังขายแบบ Fully-Furnished ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ทั้ง Built-in และลอยตัว จึงซื้อของเพิ่มอีกนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย อีกทั้งน่าสนใจที่มีห้องแบบหน้ากว้างให้เลือกด้วย
ห้อง 1 Bedroom มีการจัดฟังก์ชันให้เลือกทั้งโซนครัวแบบปิดอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง ได้พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่นอนอยู่บริเวณเดียวกัน, ห้องครัวติดระเบียง ห้องนอนกั้นแบ่งเป็นสัดส่วน, ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง หรือมี Walk-in Closet ภายในห้อง ส่วน 1 Bedroom Plus ที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามาจะมีทั้งกั้นแบ่งด้วยประตูกระจก เหมาะทำเป็นพื้นที่นั่งทำงาน หรือกั้นด้วยผนังทึบ ทำเป็นห้องนอนอีกห้องได้สบายๆ
สำหรับห้องพักภายในอาคาร B ที่เป็น Pet-Friendly มี Spec วัสดุมาเพิ่มเติมพิเศษ ได้แก่ พื้น SPC ทนน้ำและแรงขีดข่วนได้ดีกว่า Laminate, ซี่ระเบียงที่ถี่เป็นพิเศษ โดยมีความห่างเพียง 5 ซม. ป้องกันสัตว์เลี้ยงตกระเบียง, ห้องขยะรองรับขยะจากสัตว์เลี้ยง, Door Seal ลดเสียงรบกวนและกลิ่นไม่รบกวนภายนอก
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4dTD
โซนเตาปูน
THE BASE Wongsawang (เดอะ เบส วงศ์สว่าง) | เริ่ม 2.19 ล้านบาท
THE BASE Wongsawang
ออกแบบเป็นคอนโด High Rise 40 ชั้น รวม 684 ยูนิต บนที่ดิน 3 ไร่ มีพื้นที่จอดรถประมาณ 41% มีความน่าสนใจที่เป็นคอนโดใหม่แห่งเดียวบนทำเลวงศ์สว่าง ตั้งอยู่ติดถนนวงศ์สว่างเชื่อมต่อไปยังย่านสำคัญๆอย่างรัชดาภิเษก ลาดพร้าว หรือ ประชาชื่น สามารถขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกได้สะดวก อีกทั้งใกล้ MRT วงศ์สว่าง ประมาณ 240 เมตรและอยู่เยื้องๆกับ Market Place วงศ์สว่างและ Big C จึงไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเลย
รวมถึง Layout ห้องพักอาศัยที่ถือว่าหายากบนทำเลนี้ด้วยทั้งห้องหน้ากว้างทุกยูนิตและมีห้องเพดานสูงสุดในย่าน 4.70 เมตรให้เลือก นอกจากนั้นยังเอาใจ Pet Parent เพราะมีแบ่งชั้นพักอาศัยบางส่วนให้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 เป็น Lobby & Semi – Outdoor Lobby และ Pet Park พื้นที่สวนของสัตว์เลี้ยง, ชั้น 5 เป็น Main Facilities เน้นสายออกกำลังกายอย่าง Fitness และ Swimming Pool ส่วนชั้น 40 จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน-ทำงานและพื้นที่สวนสีเขียวทั้ง Sky Lounge, Co-Working Space, Sky Garden และ Sky Living
ห้องพักอาศัย
มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1-2 Bedroom ขนาด 25.25-46.00 ตร.ม. โดยมีทั้งห้อง Simplex สูง 2.60 เมตร และห้องเพดานสูง 4.70 เมตร (High Ceiling) รวมมากถึง 23 แบบ จึงรองรับได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ นอกจากนั้นยังออกแบบเป็นห้องหน้ากว้างทุกยูนิต ทำให้แบ่งส่วนพักอาศัยอยู่ฝั่งนึงและ Service อยู่อีกฝั่ง รวมถึงมีช่องหน้าต่างทั้งบริเวณห้องนอนและระเบียง เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวกว้าง ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งโล่ง อยู่อาศัยสบาย ไม่อึดอัด โดยเฉพาะห้องเพดานสูง 4.70 เมตร (High Ceiling) ก็ยิ่งทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบายมากๆ ตกแต่งห้องแบบ Fully Fitted นะคะ
ทางโครงการออกแบบแบ่งชั้นสำหรับห้องพักอาศัยแบบ Pet-Friendly อยู่ที่ชั้น 9-12 ซึ่งจะเป็นห้องแบบ Simplex ทั้งหมดเลย รวมถึงออกแบบมีความหนาผนังมากขึ้นแบบ Double Wall ช่วยป้องกันเสียงดังรบกวน อีกทั้งความถี่ของซี่ตัวราวกันตกที่มากกว่าห้องปกติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัตว์เลี้ยงและมีลิฟต์โดยสาร 1 ตัว ให้ลูกบ้านสามารถพาน้องสัตว์เลี้ยงลงลิฟต์ไปวิ่งเล่นที่ Pet Park บริเวณชั้น 1 ได้โดยไม่รบกวนลูกบ้านคนอื่นๆค่ะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4ati
Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์)
Origin Place Taopoon Interchange
โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise 32 ชั้น รวม 673 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ คือ คอนโดแห่งเดียวบนทำเลที่มีห้องเพดานสูงให้เลือกและเลี้ยงสัตว์ได้ นอกจากนั้นยังตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กรุงเทพ-นนทบุรี ใกล้ MRT สถานีเตาปูนที่เป็น Interchange Station ของสายสีน้ำเงิน-สายสีม่วงเพียง 300 เมตร อีกทั้งโดยรอบเป็นย่านชุมชนจึงมีความคึกคักสูง หาของกินสะดวก อย่างใกล้ๆเลยจะเป็นตลาดเตาปูน ที่มีระยะห่างเพียง 300 เมตร นอกจากนั้นยังมีแบบห้องให้เลือกมากถึง 7 แบบ รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยนั่นเอง
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบส่วนกลางมาให้ใช้งานหลากหลาย กระจายอยู่ 3 ชั้นหลักๆ ได้แก่ ชั้น 1 เน้นพื้นที่ต้อนรับและสวนสีเขียว, ชั้น 8 เป็น Active Faclities และชั้น 32 เป็น Passive Faclities นอกจากนั้นยังออกแบบพื้นที่สวนสีเขียวกระจายอยู่หลายจุด ได้แก่ บริเวณด้านหน้าโครงการ, ชั้น 25 ที่เป็น Hidden Yard และ Rooftop Garden ชั้นบนสุดของโครงการ
สำหรับส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงจะมี Pet & Play Yard เป็นพื้นที่ให้น้องสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นกันได้ และ Pet & Play Lounge ออกแบบมาเป็นพื้นที่รองรับน้องแมวโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังออกแบบแยกลิฟต์โดยสารสำหรับ Pet-Friendly เพื่อให้ Pet Parent พาสัตว์เลี้ยงขึ้น-ลงลิฟต์ไป Pet & Play Yard และ Pet & Play Lounge ตรงชั้น 1 ได้โดยไม่รบกวนลูกบ้านคนอื่นๆด้วยค่ะ
ห้องพักอาศัย
เป็นโครงการแรกและโครงการเดียวในโซนเตาปูนที่มีห้องเพดานสูง 4.25 เมตรให้เลือก มีสัดส่วนจำนวนประมาณ 70% ของโครงการ จึงทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบาย ไม่อึดอัด ออกแบบชั้น 8, 14-32 จะเป็นห้อง High Ceiling เพดานสูง 4.25 เมตร คิดเป็น 70% ของยูนิตทั้งหมด ส่วนห้อง Simplex สูง 2.60 เมตร จะอยู่ที่ชั้น 9-12A นอกจากนั้นยังมีแบบห้องให้เลือกมากถึง 7 แบบ ได้เป็นครัวปิดทั้งหมด จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารค่ะ มีให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom-2 Bedroom แต่ปัจจุบันห้อง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ของโครงการได้ Sold Out หมดแล้วนะคะ ทำให้เหลือขายแต่ห้องขนาดเล็กเหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนค่ะ
ทางโครงการได้มีการแบ่งชั้น 12-17 เป็นห้องพักของลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์ จึงมีให้เลือกทั้งห้องแบบ Simplex (ชั้น 12-12A) และห้องเพดานสูง (ชั้น 14-17) ส่วนวัสดุภายในห้องจะเป็นพื้น SPC ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนหรือความชื้น รวมถึงยังมีเทคโนโลยีฟอกอากาศ nanoe™ X จาก Panasonic เพื่อช่วยลดกลิ่นต่างๆจากการเลี้ยงสัตว์ด้วยค่ะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4bkV
โซนปิ่นเกล้า – บางพลัด
The Origin Pinklao (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) | เริ่ม 2.69 ล้านบาท
The Origin Pinklao
คอนโด High Rise 28 ชั้น รวม 541 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถ 38% บนที่ดินเกือบ 3 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนสิรินธร ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนสถานีบางบำหรุเพียง 450 เมตร อีกทั้งเดินทางไปแหล่งของกินของใช้อย่าง เซ็นทรัลปิ่นเกล้า , เมเจอร์ปิ่นเกล้า , ช่างชุ่ย และโลตัสปิ่นเกล้าได้สะดวกค่ะ นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่มีห้องเพดานสูง 4.20 เมตรให้เลือกในราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท แตกต่างกับคอนโดที่มีห้องเพดานสูงในย่านปิ่นเกล้า มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3 ล้านกลางๆจนถึง 10 ล้านเลยนะคะ รวมถึงยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ส่วนกลางมีหลากหลายจัดเต็มมาให้ตั้งแต่ชั้น 1 เน้นพื้นที่นั่งพักผ่อน-ทำงานทั้ง Homey Lobby, Park View Creative Space, Welcome Lounge และ Private Tutor, ชั้น 5 เป็นฟังก์ชันออกกำลังกายและกิจกรรมอย่าง The Blue Lagoon & Jacuzzi, Fitness Club, Yoga Peaceful, Cinema Space, The Common Space และ Live Studio ส่วนชั้น 27-28 จะเป็น Panoramic Sky Lounge และ Secret Sky Yard ให้มาชมวิวเมืองมุมสูงได้
สำหรับส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงจะมี Pet Playground เป็นพื้นที่ให้คนพาน้องๆสัตว์เลี้ยงออกมาเดินเล่นได้และ Pet Club เป็นเหมือนห้องของเล่นสำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ
ห้องพักอาศัย
มีรูปแบบห้องพักทั้ง Simplex ตั้งแต่ 1 Bedroom-1 Bedroom Plus ขนาด 25.60-34.90 ตร.ม. จะอยู่ที่ชั้น 6-12 ส่วนชั้น 12A-26 จะเป็นห้องเพดานสูง 4.20 เมตร จะมีเพียง 1 Bedroom ขนาด 25.60 ตร.ม. (พื้นที่ใช้สอยรวม 38.30 ตร.ม.) โดยออกแบบเป็นครัวปิดทุกยูนิต แต่จะมีทั้งครัวอยู่ด้านหน้าห้อง ช่วยกันเสียงจากโถงทางเดินเข้ามาภายในห้อง และห้องครัวแบบปิดติดระเบียง เหมาะกับคนชอบทำอาหาร ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควัน
ทางโครงการแบ่งชั้น 19-22 เป็นชั้นสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ ดังนั้นรูปแบบห้องของชั้น Pet-Friendly จะเป็นห้องเพดานสูงทั้งหมดเลย ทำให้เราแบ่งพื้นที่ใช้งานชั้นล่างเป็นของสัตว์เลี้ยง ส่วนชั้นลอยจะเป็นพื้นที่พักผ่อนของเจ้าของได้เป็นสัดส่วนดี
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-42Dv
ORIGIN PLUG AND PLAY SIRINDHORN STATION (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น) | เริ่ม 3.39 ล้านบาท
Origin Plug and Play Sirindhorn Station
คอนโด High Rise 28 ชั้น รวม 1,034 ยูนิต + 3 ร้านค้า พร้อมที่จอดรถ 40% บนที่ดินประมาณ 4 ไร่ ตั้งอยู่ติดถนนสิรินธร เดินทางเชื่อมต่อกับถนนจรัญฯ ได้ และก็เชื่อมกับถนนราชวิถี ข้ามสะพานซังฮี้ไปได้สะดวก มีระยะห่างจาก MRT สถานีสิรินธร เพียง 550 เมตร รวมถึงมี Shuttle Bus รับ-ส่งไปยังรถไฟฟ้าด้วย ส่วนของความอุดมสมบูรณ์ก็จะอิงกับโซน Central ปิ่นเกล้าเป็นหลักเลยค่ะ
โครงการนี้เป็นอีกโครงการที่มีห้องเพดานสูง 4.20 เมตรให้เลือกและเป็น คอนโด Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย รวมถึงแบบห้องที่มีความคล้ายคลึงกับ The Origin Pinklao (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) ทำให้โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่เน้นใช้รถไฟฟ้า MRT เป็นหลักและชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลาย
แม้จะออกแบบเป็น 1 อาคาร แต่มีการแยกพื้นที่เป็น 3 โซน โดย Block C จะเป็นโซนสำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ พร้อมแยกลิฟต์โดยสาร ทำให้โครงการนี้แยกโซนสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์และไม่เลี้ยงสัตว์ได้ชัดเจนดี นอกจากนั้นยังเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เลย
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
แม้จะมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในย่านนี้ แต่ทางโครงการจัดเตรียมส่วนกลางไว้เยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการกระจาย Facility ไว้ในอาคารถึง 6 ชั้น คือชั้น 1,8,10,17,20,24 และ 28 ช่วยกระจายความหนาแน่นของการใช้งานได้ดี
ชั้น 1 เป็น Lobby, Co-working Space และสวนสีเขียวพร้อม Jogging Track, ชั้น 8 เป็นฟิตเนสและสระว่ายน้ำ, ชั้น 10 และ 24 เป็นสวนสีเขียว เพื่อพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ ส่วนชั้น 17 และ 20 เป็นสวนสีเขียวสำหรับสัตว์เลี้ยง และชั้น 28 เป็น Sky Facilities สำหรับชมวิว 360 องศา
ส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงจะมี Pet Garden ที่ชั้น 17 และ 20 ให้ลูกบ้านนำสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นหรือพบปะกันได้ เหมือนเป็น Community เล็กๆสำหรับน้องๆสัตว์เลี้ยงได้เลย
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องของโครงการมีตั้งแต่ 1-2 Bedroom ขนาด 25-44 ตร.ม. และมีให้เลือกทั้ง Simplex และ High Ceiling โดยจะเน้นเป็นห้องเพดานสูง แบ่งพื้นที่เป็นชั้นล่างและชั้นลอย ได้ความเป็นสัดส่วนและโปร่งโล่ง แต่ในปัจจุบันห้องเพดานสูงบางแบบได้ Sold Out ไปแล้วค่ะ ทำให้ตอนนี้มีให้เลือกเพียง 1 Bedroom (High Ceiling) Type A และ Type B แตกต่างตรงขนาดห้องครัว ถ้ามีขนาดเล็กหน่อยจะได้ Common Area ใหญ่ขึ้นนั่นเอง ส่วน 1 Bedroom (Simplex) มีให้เลือกทั้งห้องครัวติดระเบียงหรือมีพื้นที่ Walk-in Closet และ 1 Bedroom Plus (Simplex) จะได้ห้องอเนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องนอนรองได้ค่ะ
ส่วนวัสดุภายในห้องก็ออกแบบมารองรับการเลี้ยงสัตว์ตามที่เราเห็นในโครงการ Pet-Friendly ของทาง Origin ไม่ว่าจะเป็นพื้น SPC, ประตูกันเสียง, ก๊อกน้ำเตี้ยในห้องน้ำ, กล้อง CCTV และแถมบ้านน้องสุนัข-น้องแมวมาให้พร้อมเลย
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-42RM
ORIGIN PLAY BANGKHUNNON TRIPLE STATION (ออริจิ้น เพลย์ บางขุนนนท์ ทริปเปิ้ล สเตชั่น) | เริ่ม 2.99 ล้านบาท
ORIGIN PLAY BANGKHUNNON TRIPLE STATION
คอนโด High Rise 30 ชั้น รวม 476 ยูนิต + 1 ร้านค้า มีที่จอดรถประมาณ 203 คันคิดเป็น 42% บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ ซึ่งอยู่บนทำเลเดียวกับ The Origin Pinklao (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) และ ORIGIN PLUG AND PLAY SIRINDHORN STATION (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น) รวมถึงมีการออกแบบเป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ มีห้องเพดานสูงให้เลือก และแบบห้องคล้ายๆกัน
แต่โครงการนี้จะเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการ เพราะตั้งอยู่ติดถนนบางขุนนนท์ ใกล้ MRT สถานีบางขุนนนท์ประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็น Interchange Station เชื่อมไฟฟ้า 3 สายทั้งสายน้ำเงิน, สีส้ม และสีแดง ทำให้การเดินทางสะดวกสบายทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า นอกจากนั้นยังมีส่วนกลางเยอะและรองรับการใช้งาน 24 ชม.ด้วย
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบส่วนกลางกระจายอยู่ 8 ชั้น ทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึงและใช้งานส่วนกลางได้ง่าย รวมถึงมีฟังก์ชันส่วนกลางที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหรือพื้นที่สันทนาการ ไม่ว่าจะเป็น Play Lobby Hall, Night till Light Play Space, Pic & Post Studio, E-sports Battle Areana, Boom Boom Clash, Private Lounge รวมถึงพื้นที่สวนเขียว มีมุมนั่งพักผ่อนและออกกำลังกายอย่าง Sunshine Pavillion, Half Basketball Court, Skate Skoot Park, Jogging Track และ Pet Park ให้พาน้องๆสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้สบายๆค่ะ
ส่วนชั้น 7 และ 21 เป็นสวน Hidden Hill Yard และ Up-Valley Parkland สำหรับชั้น 26 เป็น Rock Climbing พื้นที่ปีนผาจำลอง, ชั้น 29 เป็น Falling Star Theatre พื้นที่ดูหนัง และชั้น 30 ที่เป็นชั้นสูงสุดจะเน้นสายออกกำลังกายทั้ง Sunset Sky Pool, 24/7 Active Fitness รองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน, Bike Simulator Room, Moonlight Atrium Lounge และ Grill & Chill Rooftop
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องพักอาศัยจะมีทั้งห้อง Simplex และ High Ceiling ให้เลือกและมี Layout ห้องคล้ายๆกับ The Origin Pinklao (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) และ ORIGIN PLUG AND PLAY SIRINDHORN STATION (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น) ทำให้สามารถรองรับการอยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ มีการจัดวางฟังก์ชันได้ลงตัว
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3zKu
โซนบางแค
The Origin Bangkae (ดิ ออริจิ้น บางแค) | เริ่ม 1.49 ล้านบาท
The Origin Bangkae
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนบางแค เชื่อมไปยังถนนกาญจนาภิเษก ถนนกัลปพฤกษ์ และถนนราชพฤกษ์ได้สบายๆ ห่างจากถนนเพชรเกษมเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักของย่านนี้ มีทั้งตลาดบางแค / The Mall บางแค / Lotus’s และ Seacon บางแค รวมถึงใกล้ MRT สถานีบางแค 1 กิโลเมตร แต่ดีที่มีรถ Shuttle Service รับ-ส่งจึงใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก นอกจากนั้นถนนที่ตั้งโครงการจะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านไป-มาคึกคักให้เรียกใช้บริการได้ง่าย
ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร รวม 1,477 ยูนิต + 8 ร้านค้า พร้อมพื้นที่จอดรถ 58% บนที่ดิน 8 ไร่กว่า ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ได้ส่วนกลางขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ที่อาคาร C และ F แล้ว ยังมีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าคอนโดที่อยู่ปากซอยหรือคอนโดติดถนนใหญ่ เริ่มต้น 1.49 ล้านบาทค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ถือว่าเป็นโครงการที่ให้ส่วนกลางมาเยอะสุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มียูนิตค่อนข้างเยอะ รวมถึงมีการแบ่งโซน Facilities แยกออกจากกันค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโซนสัตว์เลี้ยง โซนร้านค้า และโซนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ทำให้ไม่รบกวนกัน
ทางโครงการออกแบบสระว่ายน้ำ สวนสีเขียวและพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งอยู่ตรงกลางโครงการ ส่วน Facilities หลักๆจะอยู่ที่อาคาร A และ B โดยอาคาร A จะมีร้านค้า 8 ร้านให้มาจับจ่ายใช้สอยได้ภายในโครงการเลย ส่วนอาคาร B จะมี Reception Lobby, Living Court, Co-Working Space, Online Studio และ Fitness นอกจากนั้นจะมี Roof Top Garden อยู่ชั้นดาดฟ้าของทุกอาคารให้มาใช้งานได้
สำหรับส่วนกลางสัตว์เลี้ยงจะอยู่ที่อาคาร C และ F ไม่ว่าจะเป็น Pet Room, Pet Garden และ Roof Top Garden (Pet Allowed) โดยออกแบบมีสนามหญ้าให้น้องๆสัตว์เลี้ยงได้วิ่งออกกำลังกายแล้ว ยังมีอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ พร้อมรั้วที่ออกแบบมาให้ถี่เป็นพิเศษ รวมถึงมีปลูกต้นไม้ที่ไม่เป็นพิษกับสัตว์ด้วยค่ะ
ห้องพักอาศัย
รูปแบบของห้องพักจะเป็น 1 Bedroom ขนาด 24 – 25 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus (Combine) ขนาด 48.4 – 49.4 ตร.ม. ที่เกิดจากการรวมห้อง 1 Bedroom 2 ห้อง และมีการกั้นฟังก์ชันใหม่ให้มีความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้อยู่อาศัยตั้งแต่คนเดียวไปจนครอบครัวขนาดเล็กได้ ออกแบบทุกยูนิตได้ครัวปิดติดระเบียง สามารถทำอาหารได้จริงจัง มีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted จึงต้องเผื่องบตกแต่งห้องด้วยนะคะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3ELK
The Muve Paw Bangkhea (เดอะ มูฟ พอว์ บางแค) | เริ่ม 1.49 ล้านบาท
The Muve Paw Bangkhea
ออกแบบเป็น Low Rise 8 ชั้น จำนวน 261 ยูนิต มีที่จอดรถ 77 คัน คิดเป็น 29% บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยประสาน จึงเป็นโครงการขนาดเล็กที่ได้บรรยากาศในการอยู่อาศัยที่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว อีกทั้งใกล้ MRT สถานีบางแค เพียง 190 เมตร และโลตัส บางแค เพียง 350 เมตร จึงสามารถอยู่อาศัยได้สะดวกสบาย นอกจากนั้นยังเป็นโครงการ Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ทั้งโครงการ พร้อมห้องตกแต่งครบในราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
พื้นที่ส่วนกลางออกแบบมาให้ใช้งานครบครันทั้ง Semi-Outdoor Lobby, Co-Working Garden สวนส่วนกลางและพื้นที่ทำงานในสวน รวมถึงมี Pet Park พื้นที่วิ่งเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง พร้อมจุดวางนํ้าและที่ล้างเท้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ส่วนชั้น 8 จะมี Co-Working Space, Live Studio, Gym เปิดรับวิวเมือง
ห้องพักอาศัย
มีแบบห้องให้เลือกทั้ง 1 Bedroom ขนาด 24.00 – 24.25 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35.25 – 35.50 ตร.ม. เน้นห้องขนาดเล็ก อยู่อาศัย 1-2 คนได้ พร้อมรูปแบบการขาย Fully Furnished ที่ได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Buiit-in และลอยตัวมาเรียบร้อยเลย โดยทุกยูนิตจะได้ครัวปิดอยู่ด้านหน้าห้อง ช่วยกันเสียงจากโถงทางเดินไม่มารบกวนภายในห้อง รวมถึงมีพื้นที่เตียงนอนเข้ามุมริมหน้าต่างหรือ Reading Nook พื้นที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างด้วย
อ่านพรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-45Yn
โซนจุฬาฯ – พญาไท
MARQUIS Phayathai (มาร์ควิส พญาไท) | เริ่ม 7.89 ล้านบาท
MARQUIS Phayathai
คอนโดแบรนด์ใหม่และเป็น Segment บนสุด จาก Major Development ออกแบบเป็นคอนโด High Rise 38 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น รวม 380 ยูนิต พร้อม Automatic Parking ประมาณ 70% มีจุดเด่นที่ทำเลตั้งอยู่ติดถนนพญาไท ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 150 เมตร เดินไป Century The Movie Plaza, King Power รางน้ำและ Center One ได้ง่ายหรือไปเดินเล่นช้อปปิ้งที่สยามก็สะดวก นอกจากนั้นยังเป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้และเน้นห้อง High Ceiling เพดานสูง 4.50 เมตร ถือเป็น Product คอนโดที่หายากบนทำเลนี้ค่ะ รวมถึงมีการเลือกใช้วัสดุที่คำนึงถึงสุขภาพที่ดีต่อคนและสัตว์เลี้ยงด้วย
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบส่วนกลางกระจายอยู่หลายชั้นพร้อมพื้นที่สวนสีเขียวกระจายหลายจุด ได้แก่ บริเวณด้านหน้าโครงการ, Stacked Garden และ Rooftop Garden ลูกบ้านจึงมาใช้งานและใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
โดยชั้น 1 จะเป็นส่วนต้อนรับ พักผ่อนและสวนสีเขียวทั้ง The Terrarium Hall, Dune Lounge, Pet Lounge, Waiting Area, Queen Court, Pet Park, Pet Jogging Track ระยะ 100 เมตร ส่วนชั้น 9, 23 และ 31 เป็นสวนสีเขียว Meditation Garden, Forest Bathing Garden และ Scent Garden ถัดมาชั้น 27 เป็น Cat Lounge และ Cat Garden ส่วนกลางของน้องแมว
สำหรับ Main Facilities จะอยู่ที่ชั้น 35-36 ทั้ง Passive และ Active Facilities รวมถึงส่วนกลางของน้องสุนัขอย่าง Dog Lounge และ Dog Garden ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็น Crown Garden และ Jogging Track ค่ะ
ห้องพักอาศัย
แบบห้องเยอะถึง 8 แบบ อยู่ได้ทั้งคนเดียวไปถึงครอบครัวขนาดเล็ก มีทั้ง Simplex, High Ceiling, Duplex และ Penthouse โดยจะเน้นเป็นห้อง High Ceiling เพดานสูง 4.50 เมตร ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีความโปร่งสบาย และได้วิวเมืองมุมสูง รวมถึงห้องนอนตรงชั้นลอย กั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น พร้อมตกแต่งแบบ Fully Fitted+เฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้บางส่วน
นอกจากนั้นโครงการนี้ยังเน้นเรื่อง Wellness โดยเลือกใช้วัสดุที่คำนึงถึงสุขภาพที่ดีต่อคนและสัตว์เลี้ยง มีคุณสมบัติทนรอยขีดข่วน-ความชื้นและการใช้ Non-Toxic Material ยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อรา, ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง กลิ่นและสารระเหยที่เป็นพิษ ได้คุณภาพอากาศดี ทำให้เราสามารถเลี้ยงสัตว์ภายในโครงการได้อย่างปลอดภัยค่ะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4hNw
CONNER RATCHATHEWI (คอนเนอร์ ราชเทวี) | เริ่ม 14 ล้านบาท
CONNER RATCHATHEWI
คอนโด High Rise สูง 38 ชั้น จำนวน 294 ยูนิต พร้อม Automatic Parking 232 คัน หรือประมาณ 78.9% ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรี เดินทางไปพญาไท, อนุสาวรีย์, ประตูน้ำและสยามก็สะดวก ห่างจาก MRT สายสีส้ม สถานีราชเทวีเพียง 100 เมตร ซึ่งเป็น Interchange Station กับสายสีเขียวอ่อน เดินทางผ่านโซนสำคัญของกรุงเทพฯได้หลายโซนเลย
ส่วน Highlight ของโครงการ คือ เน้นห้องมุมอาคาร ทำให้ห้องพักอาศัยทุกยูนิตดูโปร่ง โล่ง อยู่สบาย รวมถึงเน้นห้องเพดานสูงที่ออกแบบเป็นห้องหน้ากว้างจึงเปิดรับแสงและวิวได้กว้าง อีกทั้งได้บรรยากาศภายในโครงการที่ดี ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นด้วยการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่แนวความคิดของโครงการที่ต้องการให้อาคารมีพื้นที่สีเขียว โดยมี Vertical Forest สูง 80 เมตร พร้อมคำนึงถึงระบบการดูแลรักษา การรดน้ำ เพื่อให้ต้นไม้ที่ปลูกสามารถโตได้จริง สวยแบบยั่งยืน ออกแบบมีจุดระบายอากาศและกันฝนสาดเข้ามาภายในอาคารด้วย ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
พื้นที่ส่วนกลางออกแบบกระจายอยู่หลายชั้น โดยชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับและ Delivery box ห้องเก็บอาหารและเครื่องดื่มที่เราสั่ง Delivery มา, ชั้น 4 ฟังก์ชันเหมาะสำหรับคนทำงานหรือนักเรียนทั้ง Study area, Step seat library และ Meeting Room Pods, ชั้น 5 เป็น The Club ตั้งอยู่กลางน้ำ ล้อมรอบไปด้วย Vertical Forest และมี Skylight อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ก็จะมี Observation deck ชมวิวได้
ชั้น 19-20 จะเป็น Main Facilities โครงการค่ะ โดยชั้น 19 จะเป็น Panoramic Sky Pool อย่างเดียวเลย ส่วนชั้น 20 เป็น Private Sky Fitness แบบยกชั้น ซึ่งจะแบ่งฟังก์ชันย่อยๆ เป็นโซนที่จัดวางเครื่องเล่นทั่วไป โซนที่สามารถเล่นแนว weight training ได้ โซนสำหรับเล่นโยคะ และชั้น Rooftop เป็น 360 Sky Terrace ไว้ชมวิวเมืองได้เต็มที่เลย นอกจากนั้นจะมี Step Garden Terrace ที่ชั้น 12A, 15 และ 17 ด้วยค่ะ
เดิมทีโครงการนี้จะไม่ได้อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ แต่ปัจจุบันได้ปรับเป็นคอนโด Pet-Friendly จึงสามารถเลี้ยงสัตว์ได้แล้ว ทำให้ Hideaway Courtyard สวนสีเขียวตรงชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้น้องๆสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้นั่นเอง
ห้องพักอาศัย
ตัวอาคารออกแบบเป็นตัว U ที่มีโถงทางเดินหน้าห้องแบบ Single load Corridor โดดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัว ออกแบบเน้นเป็น 1 Bedroom ส่วนรูปแบบห้องภายในโครงการจะแบ่งเป็น 2 แบบหลัก คือ ห้อง Loft สูง 4.5 เมตร และ Simplex สูง 3 เมตร ซึ่งแบบห้อง Loft มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ มีจำนวนยูนิตต่อชั้นมากที่สุด 14 ห้อง แบ่งเป็นห้องมุมอาคาร 6 ยูนิต และห้องหน้ากว้าง 9 ยูนิต ออกแบบได้บรรยากาศการอยู่อาศัยและวิวที่กว้างกว่าโครงการอื่นๆ ส่วน Simplex Zone มีอยู่ 6 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากเลย นอกจากนี้ก็จะเป็นห้องมุมถึง 5 ห้องด้วย สำหรับ Layout ห้องก็มีให้เลือกเยอะมาก แต่จะเน้นมุมมองที่เปิดกว้างมากขึ้น รวมถึงจัดฟังก์ชันภายในห้องก็มีระยะที่อยู่สบายค่ะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3B9p
MARU CHULA (มารุ จุฬา) | เริ่ม 4.39 ล้านบาท
MARU CHULA
คอนโด High Rise 27 ชั้น จำนวน 219 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ Conventional + Auto Parking 107 คัน คิดเป็น 49% โดยจุดเด่นของโครงการ คือ ทำเลใจกลางเมืองที่ถือว่าหาคอนโด Freehold ในโซนนี้ได้ยาก โดยตั้งอยู่บนถนนเจริญเมือง ใกล้บรรทัดทอง แหล่งรวมร้านอาหารเพียบ อยู่ไม่ไกลจากสามย่านมิตรทาวน์, MBK Center, Siam Paragon และ One Bangkok นอกจากนั้นยังใกล้สวนอุทยาน 100 ปี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย ส่วนรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT หัวลำโพง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 เมตร แต่ดีที่มี Shuttle Bus คอยรับ-ส่ง ส่วน Highlight อีกอย่างของโครงการนี้ คือ เป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้แห่งเดียวบนทำเลนี้เลยนะคะ อีกทั้งมีห้องเพดานสูงให้เลือกด้วย
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบส่วนกลางของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 ทั้ง Lobby Hall, Townhall, Meeting Room, Co – Working Space, Nature Lab (Pet Allowed) และ Pet Bath ส่วนชั้น 9 เป็น Main Facilities ประกอบด้วย Infinity Edge Pool, Live & Photo Studio, Yoga & Dancing Studio, Bike Simulator Room, Fit Club, Quiet Room, Private Reading Room , Laundry Room, Sauna และ Steam ถัดมาชั้น 23 – 26 เป็น Stack Garden และชั้น Rooftop จะมี Multipurpose Court, Gemini Court, Wellbeing Garden และ Oxy Court
ห้องพักอาศัย
มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 – 2 Bedroom ขนาด 31-61 ตร.ม. อีกทั้งยังมีห้องเพดานสูงให้เลือกด้วย โดยจัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าจะเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือจะออกแบบผนังเผื่อให้กั้นครัวปิดเพิ่มเติมเองได้ มีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted จึงตกเผื่องบสำหรับตกแต่งห้องไว้ด้วย
มีการออกแบบห้องรองรับการเลี้ยงสัตว์ด้วยผนังแบบ Double Wall 2 ชั้น พร้อม Air Gap ตรงกลาง ช่วยลดเสียงรบกวนจากห้องข้างๆ เหมาะกับคอนโดที่เลี้ยงสัตว์มากๆ รวมถึงพื้น SPC ทนทานต่อรอยขีดข่วน ความชื้นและถนอมข้อต่อสัตว์เลี้ยงค่ะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4dPJ
โซนพระราม 9
COBE Ratchada-Rama 9 (โค้บบ์ รัชดา-พระราม9) | เริ่ม 2.69 ล้านบาท
ORIGIN PLACE RAMKHAMHAENG 153
คอนโด High Rise 9 อาคาร : อาคาร A-I สูง 27 ชั้น / อาคาร G สูง 29 ชั้น รวม 1,612 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 740 คัน คิดเป็น 45% ไม่รวมจอดซ้อนคัน บนที่ดินกว่า 12 ไร่ โดยอาคาร I เป็นอาคาร Pet-Friendly ตัวโครงการตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ย่านรัชดา-พระราม 9 บนถนนเทียมร่วมมิตร ห่างจากถนนรัชดาภิเษกมาประมาณ 950 เมตรและยังเป็นเส้นที่ไปเชื่อมต่อกับย่านประชาอุทิศ-เหม่งจ๋าย-พระราม 9 ได้ รวมถึงใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ 1.3 กิโลเมตร ที่เป็น Interchange Station ของสายสีน้ำเงินและสายสีส้ม แต่ดีที่ทางโครงการมีบริการ Muvmi Application รับ-ส่งสถานีรถไฟฟ้า โปรโมชันนั่งฟรี 1 ปี เตรียมไว้ให้ค่ะ
นอกจากนั้นด้วยโครงการที่ถือว่าขนาดใหญ่ จึงได้ส่วนกลางขนาดใหญ่ ฟังก์ชันให้เลือกใช้งานเยอะมากและใช้งานได้ตลอด 24 ชม.* รวมถึงตัวเลือกห้องพักก็มีหลากหลายขนาด เน้นพื้นที่ใช้สอยอยู่สบาย ตอบโจทย์ทั้งอยู่อาศัยคนเดียว เป็นคู่ ไปจนถึงครอบครัวขนาดเล็ก
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบแยกพื้นที่ส่วนกลางและส่วนที่พักอาศัยออกจากกัน มีข้อดีในเรื่องการดูแลจัดการ ส่วนพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัว รวมถึงสามารถใช้งานส่วนกลางได้ 24 ชม.* ไม่รบกวนโซนอยู่อาศัย
พื้นที่ด้านหน้าโครงการเป็นโซน Commercial ในอนาคตจะเป็น Foodland 24 ชั่วโมง ถัดเข้ามาเป็นอาคารส่วนกลาง Valley Building (สูง 2 ชั้น) และ Hill building (สูง 7 ชั้น) ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, Fitness , Co-Working Space , Yoga Studio , Workshop Studio , Pavilion , Swimming Pool, Pool lounge , Sky lounge , Play ground และแยกโซนส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงทั้ง Pet Park , Pet Shower ไว้ให้ใช้งานอีกด้วย
สำหรับแต่ละอาคารจะมี Lobby และสวนด้านหน้าทุกอาคาร แต่อาคาร F จะมี Sky Lounge อยู่ที่ชั้น 27 เพิ่มขึ้นมาให้ใช้งานด้วยค่ะ
ห้องพักอาศัย
มีแบบห้องให้เลือกเยอะตั้งแต่ Studio ขนาด 23-28 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom ขนาด 106 ตร.ม. ทำให้สามารถอยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่หรือเป็นครอบครัวได้เลย ออกแบบเน้นพื้นที่ใช้สอยอยู่สบาย เพดานสูง 2.7 ม. ได้ความโปร่งโล่ง จัด Zoning ของส่วนต่างๆในห้องค่อนข้างดี และให้พื้นที่เก็บของเยอะ ส่วนครัวก็มีให้เลือกทั้งครัวเปิด-ครัวปิด โดยตกแต่งห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัว ปูพื้นเป็น SPC ป้องกันความชื้นและรอยต่างๆได้ดี พร้อม Home Automation เปิด-ปิดแอร์ผ่าน Application รู้ใจ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3Ijb
NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) | เริ่ม 2.69 ล้านบาท
NUE EPIC ASOK – RAMA 9
โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่บนทำเลใจกลาง CBD ย่านพระราม 9 ที่แทบจะหาที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้มาทำโครงการแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุนและคนหาห้องเช่า รวมถึงชาวต่างชาติด้วย
ออกแบบเป็นคอนโด High Rise 4 อาคาร สูง 32-47 ชั้น จำนวน 3,107 ยูนิต และร้านค้า 9 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 1,400 คัน คิดเป็น 45% บนที่ดินขนาดประมาณ 15 ไร่ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 9 มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้าง Fortune Town และ Central พระราม 9 รวมถึงใกล้รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ประมาณ 550 เมตรและทางด่วนศรีรัช 1.4-2.3 กิโลเมตร สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ส่วนตัวห้องก็เน้นห้องหน้ากว้าง ฟังก์ชันเป็นสัดส่วนใช้งานง่าย ขายแบบ Fully Furnished ในราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่สุดของย่าน จึงมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวรวมเยอะที่สุดในย่านกว่า 11 ไร่ พร้อมสระว่ายน้ำมากถึง 3 สระ และกระจายพื้นที่ส่วนกลางทั่วทุกอาคาร เพื่อลดความหนาแน่นในการใช้งาน และให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีการแบ่งโซนอาคารชัดเจน ทั้งอาคารสำหรับชาวต่างชาติ (Tower A & C) อาคารสำหรับคนไทย (Tower B) และอาคาร Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ (Tower D)
สำหรับส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงจะอยู่ที่อาคาร D โดยชั้น 1 จะมี Pet Park พื้นที่สวนอยู่ด้านหลังสุดของโครงการ, ชั้น 4 จะมี Pet Park อีกจุดและ Pet Club ที่มี Salon สำหรับน้องๆสัตว์เลี้ยงด้วยนะ และชั้น 32 ออกแบบมี Paws in the Pool (Pet Pool) เป็นสระน้ำเพื่อให้น้องๆสัตว์เลี้ยงมาว่ายน้ำได้ภายในโครงการเลย ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ไม่เคยเห็นในคอนโด Pet-Friendly อื่นๆเลยค่ะ
ห้องพักอาศัย
มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedroom ขนาด 26.00– 100.80 ตร.ม. จึงอยู่อาศัยคนเดียวไปจนถึงครอบครัวได้สบายๆเลย นอกจากนั้นยังเน้นห้องหน้ากว้าง ช่องแสงเยอะ ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งโล่ง รวมถึงพื้นที่ห้องนอนก็กั้นด้วยผนังทึบและมักจะนำห้องน้ำไว้ในห้องนอน จึงมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รูปแบบการขายของโครงการนี้จะเป็น Fully Furnished ตกแต่งมาให้ครบและปูพื้นเป็น SPC เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ด้วย
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-49sb
PYNN Soonvijai (พินน์ ศูนย์วิจัย) | เริ่ม 13.9 ล้านบาท
PYNN Soonvijai
คอนโด Low Rise 7 ชั้น จำนวน 18 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 24 คัน คิดเป็น 133% ที่มี Highlight คือ คอนโดห้องใหญ่ Rare Item ใจกลางเมือง เชื่อมต่อ 3 ถนนทั้งเพชรบุรี, พระราม 9 และประดิษฐ์มนูธรรม ความอุดมสมบูรณ์ครบครัน ใกล้โรงพยาบาลกรุงเทพ เพียง 1 กิโลเมตร และไปได้ทั้งเส้นเพชรบุรีหรือสุขุมวิทที่มีห้างใหญ่ๆทั้ง EmQuartier, Emporium, Emsphere และ Terminal 21 รวมถึงเน้นความเป็นส่วนตัวสูง ออกแบบยูนิตต่อชั้นเพียง 3 ยูนิต และไม่มีส่วนกลางที่เกิดเสียงดัง นอกจากนั้นยังเป็นคอนโด Cat Allowed เอาใจคนรักแมว เพราะอนุญาตให้เลี้ยงได้เฉพาะน้องแมวเท่านั้นด้วย เป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนเปิดขาย ทำให้ตอนนี้สามารถซื้อแล้วเข้าอยู่ได้เลยค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
สำหรับแบรนด์ PYNN จะไม่ได้เน้นพื้นที่ส่วนกลางมากนัก โดยจะมีอยู่ที่ชั้น 1 เป็น Welcome Space ขนาดไม่ใหญ่ เพื่อยืนรอลิฟต์, Mailbox และ Grab & Go Area เป็นพื้นที่วางอาหาร Delivery ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็น Rooftop Garden ประกอบด้วย BBQ Area, Seat Wall และ Wash Station เป็นพื้นที่อาบน้ำหรือล้างเท้าน้องแมว พร้อมเตรียมก๊อกน้ำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีทิชชู ถุงพลาสติกให้เก็บของเสียของน้องแมว เพื่อทิ้งขยะตรงจุดที่เตรียมไว้ได้เลยค่ะ
ห้องพักอาศัย
เน้นเป็นห้องหน้ากว้างขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 86.00 – 90.00 ตร.ม. และ 3 Bedroom 3 Bathroom 1 Powder Room ขนาด 136.75 – 137.50 ตร.ม. จึงสามารถรองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวได้สบายๆเลยนั่นเอง ซึ่งห้องขนาดใหญ่แบบนี้ถือเป็น Rare Item ที่ไม่เหลือขายบนย่านนี้แล้วนะคะ รวมถึงเน้นบรรยากาศภายในห้องโปร่งสบาย ด้วยความสูงฝ้า 2.70 เมตร และกระจกยาวตลอดแนวผนัง มีหน้าต่างกระจกเข้ามุมในทุกยูนิต เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง มีจุดที่น่าสนใจตรง Extra Storage Room เป็นห้องเก็บของส่วนตัวของทุกห้องที่อยู่นอกห้องพักอาศัยมาให้ใช้งานด้วย
รูปแบบการขายของโครงการนี้จะเป็น Fully Fitted ปูพื้น SPC กันรอยขีดข่วนจากน้องแมว พร้อมออกแบบระแนงระเบียงถี่มากขึ้น แต่ทางโครงการมี Furniture Package ให้เลือกซื้อเพิ่มเติมได้ มีการออกแบบมารองรับการเลี้ยงน้องแมวโดยเฉพาะ ด้วยการเลือกใช้ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่กันรอยขีดข่วนและเป็นผ้าสะท้อนน้ำค่ะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-47lL
โซนสุขุมวิท
SCOPE PROMSRI (สโคป พร้อมศรี) | เริ่ม 6.9 ล้านบาท
SCOPE PROMSRI
คอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต ที่จอดรถประมาณ 65 คัน คิดเป็น 45% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) โดยตั้งอยู่ในซอยพร้อมศรี เดินทางเชื่อมพร้อมพงษ์ (สุขุมวิท 39) – ซอยกลาง (สุขุมวิท 49) – ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ได้สะดวก อยู่ใกล้โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ในระยะ 400 เมตร ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เลย
โครงการนี้มีจุดเด่นเรื่องการออกแบบและบรรยากาศภายในโครงการ อย่างการออกแบบหน้าต่างและม่านที่ช่วยกันสายตาจากภายนอก ลดเสียง ความร้อนและแสงที่ส่องผ่านเข้ามาได้ รวมถึงขายแบบ Fully Furnished จากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ‘Ligne Roset ‘ โดยเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นผลิตและผ่านการควบคุมคุณภาพจากโรงงานที่ฝรั่งเศส และเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังของเยอรมันเป็นหลักทั้ง Liebherr และ Miele พร้อมชุดบิ้วอินต่าง ๆ ภายในห้อง รวมถึงเป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
Facilities หลักๆ ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 มี Lobby พร้อม Concierge Service, Club Cafe’, Cenote Court ตรงกลางที่เป็นส่วนของสระว่ายน้ำและ Private Onsen ส่วนชั้น 2 จะเป็น Active Facilities ในร่มอย่าง Fitness และ Yoga ค่ะ
ห้องพักอาศัย
ออกแบบมาให้เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28-34.99 ตร.ม. แต่มีฟังก์ชันหลักครบ เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเป็นหลักโดยเฉพาะส่วนของ Living Area และ Bedroom ที่รวมไว้ด้วยกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ห้องครัวแบบปิด และมีการใช้พื้นที่ตามแนวทางเดินต่างๆทำเป็นตู้ Built-in เก็บของได้เยอะ ด้วยรูปแบบการขายเป็น Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากต่างประเทศค่ะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2X1u
Via 34 (เวีย 34)
คอนโด 7 ชั้น จำนวน 45 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถ 167% และวิลล่า 2 หลัง บนทำเลใจกลางสุขุมวิท ใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 350 เมตร เดินทางเชื่อมต่อถนนได้หลายสาย รายล้อมด้วย The Em District, K Village, J Avenue, The Commons, รร.นานาชาติเอกมัย และ รพ.สมิติเวช พร้อมออกแบบเปิดรับวิวเมืองแบบพาโนรามา พร้อมห้องขนาดใหญ่ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ รวมถึงมีการเลือกใช้แบรนด์ เฟอร์นิเจอร์ระดับ World Class ที่มีความ Craftsmanship ด้วย
ตอนนี้มีเพียงรายละเอียดเบื้องต้นนะคะ แต่ทางแสนสิริเองก็ใกล้เปิดขายเต็มทีแล้ว ต้องมาลุ้นกันว่าโครงการนี้จะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่ มีส่วนกลางหรือออกแบบห้องมาเพื่อรองรับกับการเลี้ยงสัตว์ขนาดไหนค่ะ
Via 61 (เวีย 61) | เริ่ม 10.9 ล้านบาท
Via 61
คอนโด Low Rise 8 ชั้น + 1 ชั้นใต้ดิน จำนวน 61 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถ 66 คัน คิดเป็น 108% แบ่งเป็นที่จอด Automatic Parking 29 คัน และที่จอดปกติ 37 คัน ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ถือเป็นคอนโดใจกลางทองหล่อ – เอกมัย ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 61 ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 200 เมตร และ BTS เอกมัยประมาณ 450 เมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ก็ถือเป็นซอยที่มีความสงบมากกว่า เหมาะแก่การพักผ่อนอยู่อาศัย แต่ยังได้สิ่งอำนวยความสะดวกใจกลางเมืองครบครัน รวมถึงออกแบบเป็นห้องหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิตค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ชั้น 1 มี Lobby, Car Waiting Lounge และ Pet Park พื้นที่พาน้องๆสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่น ส่วน Main Facilities อยู่ที่ชั้น 8 ประกอบด้วย Sky Lounge , Gym , Private Dining และ Meeting Room รวมถึงสระว่ายน้ำที่ต้องเดินเชื่อมไปยังอาคารฝั่งขวา พร้อมมุม Jacuzzi ถัดไปชั้นดาดฟ้าจะเป็น Terrace พร้อมมุมนั่งเล่นในสวน ชมวิวมุมสูง
ห้องพักอาศัย
มีรูปแบบห้องและ Layout ให้เลือกเยอะตั้งแต่ 1 Bedroom-Penthouse ขนาด 50.00-188.75 ตร.ม. รองรับการอยู่อาศัยคนเดียวหรือครอบครัว 4-5 คนก็ได้สบายๆ เน้นเป็นห้องขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยภายในใช้งานได้เป็นสัดส่วน อีกทั้งเป็นห้องหน้ากว้าง ได้ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวได้เยอะ ได้บรรยากาศโปร่งสบายภายในห้อง โดยมีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted นะคะ
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-44do
PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) | เริ่ม 8.99 ล้านบาท
PYNN Pridi 20
Highlight ของโครงการนี้ คือ ยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว เพราะเป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้น จำนวน 36 ยูนิต พื้นที่จอดรถ 94 % หรือ 34 คัน แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 30 คัน และที่จอดแบบปกติ 4 คัน โดยตั้งอยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 20 ลึกเข้าไปประมาณ 270 เมตรจากถนนสุขุมวิท 71 เชื่อมต่อไปได้ทั้งถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย อีกทั้งใกล้โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนลในระยะเดินได้เพียง 120 เมตร จึงเดินไปรับ-ส่งได้สะดวก นอกจากนั้นยังเป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ด้วย สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
โครงการนี้ไม่ได้เน้นพื้นที่ส่วนกลาง จะมีเพียง Welcoming Lobby พื้นที่ขนาดไม่ใหญ่นัก สำหรับใช้ยืนรอลิฟต์เท่านั้น ส่วน Mailbox และ Grab & Go เป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านมาเอาจดหมาย พัสดุ และอาหารที่สั่ง Delivery ได้ ถือเป็นการกั้นโซนไม่ให้คนนอกเข้าไปยังตัวอาคาร เพื่อความเป็นส่วนตัวแก่ลูกบ้านภายในโครงการ
ห้องพักอาศัย
มีแบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 33.5 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 58.25 ตร.ม., 2 Bedroom (M) ขนาด 58.25 – 59 ตร.ม. และ 2 Bedroom (L) ขนาด 73.5 – 75.5 ตร.ม. ให้เลือก ถือว่าได้พื้นที่ใช้สอยขนาดเริ่มต้นขนาดใหญ่ และมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรจับต้องได้ง่ายเป็นอันดับต้นๆของย่านนี้ ซึ่งปัจจุบันห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ได้ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังมี 2 Bedroom ให้เราเลือกได้อยู่ โดยออกแบบเป็นห้องหน้ากว้างทุกยูนิต เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง ทำให้ภายในห้องดูสว่างและโปร่งสบาย ภายในห้องจัดเป็นสัดส่วนชัดเจน Master Bedroom มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว สะดวกต่อการใช้งาน
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-43t7
โซนบางนา – แบริ่ง
Origin Play Sri Udom Station ( ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น) | เริ่ม 1.99 ล้านบาท
Origin Play Sri Udom Station
ออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร รวม 875 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต มีพื้นที่จอดรถ 377 คัน คิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน แบ่งเป็น Parking Lift จอดได้ 28 คัน บนที่ดินประมาณ 6 ไร่ สำหรับที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนสุขุมวิท 103 สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ได้ บริเวณต้นซอยฝั่งถนนสุขุมวิทจะค่อนข้างคึกคัก มีทั้งตลาด ห้างขนาดเล็กและ Community Mall หลายแห่งให้เลือกจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งอยู่ใกล้กับ MRT สายสีเหลือง สถานีศรีอุดม 650 เมตรและมี Shuttle Bus คอยบริการรับ-ส่ง นอกจากนั้นยังมี BTS สถานีอุดมสุข เป็นตัวเลือกในการเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองด้วย เป็นอีกโครงการที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
พื้นที่ส่วนกลางออกแบบแบ่งอาคาร A เป็น Passive Facilities ได้แก่ Lobby, Meeting Area และ Co – Working Space ส่วนอาคาร B-D เป็น Active Facilities โดย Facilities หลักๆที่สามารถทำกิจกรรมได้ จะอยู่ที่ชั้น 1 – 2 ของอาคาร B เช่น Co – Working Space , Fitness , สระว่ายน้ำ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จัดว่าอยู่ตรงกลางของโครงการ ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้อย่างสะดวกค่ะ
สำหรับอาคาร C-D จะเป็น Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ จึงมีส่วนกลางของน้องๆสัตว์เลี้ยง โดยชั้น 2 ของอาคาร D จะเป็น Play Room เป็นห้องพักผ่อนที่สามารถพาน้องมาเจอเพื่อนๆได้ ส่วนชั้น Rooftop ของอาคาร C-D จะเป็น Dog Yard ให้ลูกบ้านพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นตรงบริเวณนี้ได้ค่ะ
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องพักจะเน้นเป็นห้องขนาดเล็ก อยู่ได้ 1-2 คน มีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom-1 Bedroom Plus ขนาด 23.35 – 33.55 ตร.ม. จัดฟังก์ชันหลากหลายทั้งครัวปิดอยู่ด้านหน้าห้อง ช่วยกันเสียงรบกวน, ห้องครัวปิดติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี, มีพื้นที่ Walk-in Closet ในห้อง หรือมีพื้นที่อเนกประสงค์ทำเป็นห้องทำงานได้ โดยจะขายเป็นแบบ Fully Fitted ให้ลูกบ้านไปตกแต่งห้องกันเอง มีวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้อง SPC ทนความชื้นและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี เหมาะเป็นพื้นที่ให้น้องสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นได้
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3sqT
THE MUVE Sukhumvit 107 (เดอะ มูฟ สุขุมวิท 107) | เริ่ม 1.59 ล้านบาท
THE MUVE Sukhumvit 107
โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 254 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ 75 คัน คิดเป็น 30% (แบ่งเป็น Auto Parking 20 คัน) บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง โดยจะอยู่ระหว่างซอยแบริ่ง 3 และแบริ่ง 5 ถัดเข้ามาจากถนนหลักประมาณ 130 เมตร อยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สายทั้ง BTS สายสีเขียว สถานีแบริ่ง 1.1 กิโลเมตร และ MRT สายสีเหลือง ศรีแบริ่ง 3.5 กิโลเมตร แต่ดีที่มีบริการรถ Shuttle Service วิ่งรับ – ส่งถึงสถานี ส่วนบริเวณต้นซอยแบริ่ง 3 มีตลาดขนาดใหญ่อย่างตลาดมิ่งและตลาดนางรำให้มาเดินจับจ่ายได้ หรือจะไปเดินช้อปปิ้งห้างใหญ่อย่าง Central บางนา ก็ใช้เวลาแค่ 10 – 15 นาทีค่ะ
นอกจากนั้นยังเป็นคอนโด Pet Friendly โครงการใหม่ล่าสุดในโซนแบริ่ง และเป็นโครงการเดียวที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน พร้อมตกแต่งแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ ทั้ง Built – in และลอยตัว ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางกระจายอยู่ที่ชั้น 1 เป็น Lobby, Grab n Go, Garden และ Pet Park ส่วนชั้น 2 เป็น Main Facilities ประกอบด้วย Co – Working Space, Private Working Room, Meeting Room, Studio & Streaming Room, Fitness และ Laundry ถัดมาชั้น 8 เป็น Rooftop Garden พร้อม Sansiri Backyard ให้นำไปใช้ทำอาหารได้
สำหรับ Pet Park สวนสีเขียวสำหรับสัตว์เลี้ยง มีการเลือกใช้วัสดุและพันธุ์ไม้ที่ปลอดภัยต่อการใช้งานของน้องๆ พร้อมมุมเครื่องเล่นไว้ฝึกพัฒนาการและโซนขับถ่าย ทำความสะอาดแยกมาให้เรียบร้อยค่ะ
ห้องพักอาศัย
มีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom อยู่อาศัยได้ 1-2 คนกำลังดี รวมถึงยังสามารถ Combine ห้องให้เป็นรูปแบบ 2 Bedroom ให้เลือกด้วย จะได้พื้นที่ใช้สอย 50.00 – 51.25 ตร.ม.ได้ด้วยนะคะ โดยฟังก์ชันจัดมาค่อนข้างคล้ายกัน ห้อง 1 Bedroom จะได้ครัวปิดทุกยูนิต, 1 Bedroom Plus มีห้องอเนกประสงค์ใช้เป็นห้องของสัตว์เลี้ยงหรือห้องทำงานส่วนตัวได้ ส่วน 2 Bedroom ที่เป็นห้อง Combine จะได้เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จัดเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ มี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว อยู่เป็นครอบครัว 3-4 คนได้เลย พร้อมตกแต่งแบบ Fully Furnished มาเรียบร้อย
อ่านรีวิวได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3ZMA
Origin Play Sri Lasalle Station (ออริจิ้น เพลย์ ศรีลาซาล สเตชั่น) | เริ่ม 2.29 ล้านบาท
คอนโด High Rise 31 ชั้น จำนวน 1,429 ยูนิต และมี Community Mall ด้านหน้าโครงการ รวม 10 ยูนิต ทำให้จับจ่ายใช้สอยภายในโครงการได้เลย บนที่ดินเกือบ 8 ไร่ พร้อมอาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร คิดเป็น 33% โดยตั้งอยู่ติดถนนลาซาล เชื่อมไปยังถนนสุขุมวิท, บางนา-ตราดและศรีนครินทร์ได้ อีกทั้งอยู่ใกล้ MRT สายสีเหลืองสถานีศรีลาซาล เพียง 190 เมตร พร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ 4 ไร่ ฟังก์ชันเยอะ 24 รายการ ออกแบบเน้นห้องเพดานสูง 4.20 เมตร และสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาครบครันการใช้งานรวมถึงมีขนาดใหญ่กว่า 4 ไร่ รวม 24 รายการ เช่น Co-Working Space, Meeting Room, Swimming Pool, Multi-Sport Court, Skate Court, Jogging Track, Sky Active Fitness, Sky Amphitheatre, Sky Courtyard เป็นต้น รวมถึงมีส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงอย่าง Pet Club ห้องพักผ่อนและ Pet Park พื้นที่วิ่งเล่นของน้องๆภายในโครงการ
ห้องพักอาศัย
รูปแบบห้องพักจะมีทั้ง Simplex และ High Ceiling ให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom ขนาด 22 ตร.ม. ไปจนถึง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม. โดยจะเน้นห้องเพดานสูง 4.20 เมตร ทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งโล่ง แบ่งการใช้งานเป็นพื้นที่พักผ่อนของสัตว์เลี้ยงอยู่ชั้นล่างและห้องนอนอยู่ชั้นบนได้ ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทความรวมคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ อายุคอนโดไม่เกิน 5 ปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด 31 โครงการด้วยกัน มีทั้งคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่และเพิ่งเปิดตัว ราคาเริ่มต้นจับต้องง่าย 1.2 ล้านบาท ไปจนถึงคอนโดหรู ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาทเลย รวมถึงเราได้อัพเดตกฎหมายเลี้ยงสัตว์ใหม่ที่เพิ่งประกาศออกมา มีผลบังคับใช้ในปี 2569 ด้วยค่ะ แต่ยังไงทุกคนต้องลองสอบถามกับทางโครงการโดยตรงว่ามีเงื่อนไขในการเลี้ยงสัตว์เปลี่ยนไปยังไงบ้างอีกครั้งนะคะ
เราหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดเลี้ยงเพื่อเลี้ยงน้องๆสัตว์เลี้ยงนะคะ ไว้ครั้งหน้าทาง Think of Living จะมีบทความน่าสนใจอะไรอีกบ้าง ติดตามกันต่อได้เลย 😊