รวมคอนโดมือหนึ่งติดรถไฟฟ้า 0 เมตร ทางขึ้น-ลงสถานีอยู่ด้านหน้าโครงการเลย!

หลายๆคนเวลาเริ่มมองหาคอนโดจะคำนึงถึงระยะห่างจากรถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวและต้องใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นประจำ ส่วนคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางเวลาที่เร่งรีบได้

แต่ใครเคยเจอบ้าง? มองหาคอนโดติดรถไฟฟ้า พอไปดูที่ตั้งโครงการจริงๆ กลับต้องเดินจากสถานีรถไฟฟ้าไปอีกไกลเลยกว่าจะเจอตัวคอนโด บางครั้งต้องเข้าไปในซอยเปลี่ยวๆ ก็รู้สึกไม่ปลอดภัยอีก วันนี้เราจึงได้รวบรวมคอนโดมือหนึ่งที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ติดรถไฟฟ้า 0 เมตร มาให้ แบบที่มีบันไดทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าอยู่ด้านหน้าโครงการเลย จะมีโครงการไหนบ้าง ตามอ่านกันต่อด้านล่างเลยค่ะ

ภาพรวมคอนโดมือหนึ่งติดรถไฟฟ้า 0 เมตร

ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมมือหนึ่งที่ยังเปิดขาย ติดรถไฟฟ้า 0 เมตร แบบติดบันไดทางขึ้น-ลงสถานีอยู่หลายแห่งให้เลือกเลยนะ รวมถึงอยู่ติดรถไฟฟ้าหลายสายด้วย มีทั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อยหรือมาพร้อมกับบริการระดับโรงแรม 5 ดาวนั่นเอง

ทำให้ส่วนใหญ่คอนโดติดรถไฟฟ้าเหล่านี้จะขยับออกจากในเมืองมาหน่อย แต่ยังไงด้วยที่ตั้งโครงการที่ติดรถไฟฟ้าอยู่แล้ว จึงทำให้เรื่องการเดินทางไม่ได้เป็นปัญหา สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่ายค่ะ

จากการที่เราสำรวจมามีคอนโดมิเนียมมือหนึ่งติดรถไฟฟ้า 0 เมตรในปี 2025 ทั้งหมด 23 โครงการด้วยกัน โดยคอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนที่มีระยะทางยาวสุดมีโครงการมากถึง 8 โครงการ ส่วนคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าสายสีแดงที่เป็นรถไฟฟ้าชานเมืองจะมีอยู่เพียง 1 โครงการ นอกจากนั้นเราได้รวบรวมคอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ถึงแม้ปัจจุบันยังไม่ได้เปิดใช้งาน แต่ก็มีความคืบหน้าใกล้เปิดบริการเต็มทีแล้ว ซึ่งเป็นแนวเส้นทางที่ตัดผ่านโซนสำคัญหลายโซนอยู่เหมือนกัน มีทั้งหมด 4 โครงการค่ะ

งั้นเราจะพาไปดู 23 โครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า 0 เมตร แบบแยกเป็นรถไฟฟ้าทีละสายเลยว่าจะมีโครงการไหนบ้างและน่าสนใจอย่างไร

คอนโดติด BTS สายสีเขียวอ่อน (สายสุขุมวิท)

รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวอ่อน (สายสุขุมวิท) ได้เปิดบริการพร้อมกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม (สายสีลม) ในปี 2542 ซึ่ง BTS สายสีเขียวอ่อนนี้ถือเป็นสายหลักสำคัญของกรุงเทพฯที่วิ่งตัดผ่านใจกลางเมือง ผ่านย่านธุรกิจสำคัญมากมายและเชื่อมไปยังชานเมืองทางทิศเหนือและทิศใต้ โดยมีแนวเส้นทางตัดผ่านถึง 3 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ ปทุมธานี กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ

ด้วยแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายนี้ที่ตัดผ่านย่านสำคัญของกรุงเทพฯหลายแห่งและมีระยะทางที่ยาว รวมประมาณ 54.25 กิโลเมตร มี 47 สถานี ถือเป็นเส้นรถไฟฟ้าที่มีระยะทางยาวที่สุดเลย จึงมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายนี้จำนวนมาก เพื่อชูจุดขายการเดินทางสะดวกสบาย เดินทางไปเรียน ทำงาน หรือติดต่อธุระต่างๆก็สะดวก เพราะเดินทางต่อเดียวไปรัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว สยาม ทองหล่อและเอกมัย โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเลยนั่นเอง

ส่วนใหญ่คอนโดมิเนียมมือหนึ่งติดรถไฟฟ้าสายนี้จะอยู่ในช่วงกรุงเทพฯตอนเหนือและตอนใต้ ส่วนบริเวณใจกลางเมืองพอมีคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็แลกมากับราคาที่สูงกว่าโครงการอื่นๆ รวมถึงโครงการที่ตั้งอยู่ติด Interchange Station สถานีที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่น ก็จะเด่นเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้นและมีราคาสูงกว่าคอนโดในทำเลใกล้เคียงกันค่ะ

ปัจจุบันคอนโดมิเนียมมือหนึ่งติดรถไฟฟ้า 0 เมตร มีอยู่ 8 โครงการด้วยกัน ดังนี้

• Rich Park Terminal @Phahonyothin 59 ( ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59)
• COBE Kaset – Sripatum (โค้บบ์ เกษตร – ศรีปทุม)
• Mazarine Ratchayothin (แมสซารีน รัชโยธิน)
• The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์)
• SCOPE Thonglor (สโคป ทองหล่อ)
• Quinn Sukhumvit 101 (ควินน์ คอนโด สุขุมวิท 101)
• The Metropolis Samrong Interchange (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์)
• Origin Plug & Play Sailuat Station (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สายลวด สเตชั่น)

Rich Park Terminal @Phahonyothin 59 ( ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59)

ติด BTS สถานีพหลโยธิน 59 | เริ่ม 2.59 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียม High Rise สูง 14 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ มีจำนวนยูนิต 563 ยูนิต ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่และ BTS สถานีพหลโยธิน 59 บริเวณแยกคปอ. ก็เลี้ยวซ้ายเพื่อใช้ถนนธูปเตมีย์เป็นทางลัดไปสู่สนามบินดอนเมืองได้ง่ายเลย ส่วนทางด่วนที่ใกล้กับโครงการจะมีถึง 2 สาย ได้แก่ ทางยกระดับอุตราภิมุขและทางพิเศษฉลองรัช รวมถึงใกล้ๆโครงการยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่งอย่าง Central รามอินทรา, Lotus’s หลักสี่ และ BigC สะพานใหม่ รวมถึงสถานพยาบาลและสถานศึกษาอย่าง ม.เกริก, มรภ.พระนครฯ (PNRU), ม.ศรีปทุม และ ม.เกษตรศาสตร์ อยู่ไม่ไกล ทำให้เป็นคอนโดที่เหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่าให้กับนักศึกษาและพนักงานในย่านนี้ด้วยนั่นเอง

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ

ทางโครงการออกแบบส่วนกลางมาให้ครบครัน โดยจะตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ที่ถือเป็น Main Facilities ของโครงการทั้งสระว่ายน้ำ Fitness และ Co-working Space ส่วนชั้น Rooftop จะเป็นพื้นที่สวนสีเขียว ให้มาเดินเล่นพักผ่อนกันได้

ห้องพักอาศัย

ห้องพักส่วนใหญ่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ที่ได้แดดอ่อนๆและรับลมดี มีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นที่ 54 ยูนิต ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่นต่อชั้นสูงเลย ส่วนตัวห้องของโครงการมีทั้ง 1 Bedroom ขนาด 28.57-26.37 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาด 33.14-34.45 ตร.ม. แบบอยู่ 1-2 คนสะดวก ซึ่งแต่ละแบบห้องมีการจัดวางฟังก์ชันคล้ายๆกัน เรียงเป็นห้องครัวแบบเปิด ห้องน้ำ พื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนที่ติดกับช่องหน้าต่างได้แสงธรรมชาติและเปิดรับวิวด้านนอก จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารจริงจังมากนักและเน้นพื้นที่พักผ่อนเป็นหลักค่ะ

COBE Kaset – Sripatum (โค้บบ์ เกษตร – ศรีปทุม)

ติด BTS สถานีบางบัว | เริ่ม 4.69 ล้านบาท 

โครงการคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น จำนวน 396 ยูนิต มีร้านค้า 1 อาคาร จำนวน 5 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 2 ไร่ ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินและ BTS บางบัว 0 เมตร จึงสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกค่ะ รวมถึงอยู่ฝั่งตรงข้าม ม.ศรีปทุม ทำให้เหมาะซื้อลงทุนปล่อยเช่านักศึกษาและบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยนั่นเอง อีกทั้งโครงการนี้ก็ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวดี และจุดเด่นหลักเลยคือความโปร่งโล่งภายในห้องด้วยความสูงของฝ้าเพดานที่มากกว่าโครงการอื่นบนทำเล โดยห้อง Simplex สูง 2.70 เมตร และ High Ceiling ได้เพดานสูงถึง 4.70 เมตร คาดสร้างเสร็จปี 2569

พื้นที่ส่วนกลาง

ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น Ground Floor ประกอบด้วย The Cloud Lobby , Co – Working Space , Reading Lounge , Group Study Zone และ Meeting Room ส่วนชั้น 23 ที่เป็นชั้นบนสุดของอาคาร จะออกแบบเป็น Facilities แบบยกชั้น เปิดรับวิวเมืองได้ทั่วทิศ รองรับการใช้งานได้ทั้ง Indoor และ Outdoor โดยฟังก์ชันประกอบด้วย Skyline Pool , Kids Pool , Sky Fitness , Cloud Nine Club , Yoga Room , Party Room , Above The Cloud Garden , Sunset Lounge และ Pool Lounge

ห้องพักอาศัย

ตำแหน่งอาคารจะวางขนานไปกับทิศตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ รูปแบบห้องของโครงการมีทั้ง Studio , 1 Bedroom และ 2 Bedroom ที่มีให้เลือกทั้งแบบห้อง Simplex สูง 2.70 เมตรและห้อง High Ceiling สูง 4.70 เมตร ได้บรรยากาศโปร่งสบายภายในห้องที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการค่ะ โดยห้อง Studio ขนาดเริ่มต้นเน้นความคล่องตัว หรือห้องขนาดใหญ่ 2 Bedroom ก็อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวได้ 2 – 3 คนได้เลย จึงรองรับการอยู่อาศัยได้ทั้งนักศึกษาและพนักงานออฟฟิศนั่นเอง

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3Pph

Mazarine Ratchayothin (แมสซารีน รัชโยธิน)

ติด BTS สถานีรัชโยธิน | เริ่ม 5.99 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 37 ชั้น 1 อาคาร ห้องพักอาศัย 474 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต ที่นอกจากจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ พหลโยธินและ BTS รัชโยธินในระยะ 0 เมตรแล้ว ตัวโครงการยังตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม Major รัชโยธิน สามารถเดินข้ามฝั่งไปช้อปปิ้ง จับจ่ายใช้สอยได้เพลินๆเลยค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่มีความครบครันทั้งห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา ร้านค้า ร้านอาหาร อีกทั้งยังมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อยู่หลายแห่ง เช่น อาคารสำนักงาน SCB และตึกช้าง อยู่ใกล้กับห้าแยกลาดพร้าวที่ถือเป็นย่านธุรกิจและการเดินทางที่สำคัญเชื่อมต่อ MRT สายสีน้ำเงินด้วย ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมย้ายเข้าอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบอยู่ที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับ, ชั้น 8 มี Meeting Room และ Co-Working Space ที่เปิดเชื่อมต่อกันหรือจะปิดกั้นสัดส่วนก็ได้ พร้อมพื้นที่สวนออกมาสูดอากาศรับวิว, ชั้น 22 เป็นสวนหย่อมเล็กๆ Mini Relax Garden, ชั้น 36 และ 37 จะเป็นส่วนกลางหลักของโครงการ โดยชั้น 36 เป็นสระว่ายน้ำ ส่วนชั้น 37 เป็นชั้นสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกาย ประกอบด้วย Private Salon, Kid Room, Laundry, Sky Fitness, Bar & Pantry Sky Lounge และ Party Room

ห้องพักอาศัย

ออกแบบตัวห้องหันรับวิวทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นหลัก มีแบบห้องให้เลือกมากถึง 9 แบบ จึงรองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ โดยเน้นเป็น 1 Bedroom ที่แบ่งแยกโซนภายในห้องได้อย่างชัดเจน ทั้งพื้นที่รับประทานอาหารและตู้เสื้อผ้าใช้งานได้สะดวก ห้องน้ำอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายหรือสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง รวมถึงจุดเด่นของโครงการนี้คือการออกแบบทุกยูนิตได้ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ได้ความโปร่งโล่ง เน้นการรับวิวและแสงจากภายนอกได้ดีเลยค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2JUj

The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์)

ติด Interchange Station ของ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวและ MRT สถานีพหลโยธิน | เริ่ม 8.99 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 1 อาคาร สูง 36 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเกือบ 2 ไร่ มีจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนห้องพักอาศัยเพียง 418 ยูนิต ซึ่งน้อยสุดในย่านห้าแยกลาดพร้าวนี้ ตัวโครงการอยู่ติดบันได Skywalk ของ BTS ห้าแยกลาดพร้าว จากโครงการสามารถเดินไป Central ลาดพร้าว และยูเนี่ยนมอลล์ได้สะดวก นอกจากนี้ Highlight อีกจุดของโครงการคือมองเห็นพื้นที่สีเขียวกว่า 700 ไร่ ของสวนรถไฟ สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯได้นั่นเอง ทำให้เป็นโครงการที่นอกจากจะติดรถไฟฟ้า ไปห้างง่ายแล้ว ยังได้วิวสวนสีเขียวด้วย ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบกระจายตัวอยู่ที่ชั้น G เป็นพื้นที่ต้อนรับ, ชั้น 2 ประกอบด้วย Business Lounge, Meeting Room และ Private Dressing Room, ชั้น 4 Floating Oasis, ชั้น 21 มี Sky Lounge , Co-Kitchen เชื่อมต่อกัน และมี BBQ Area เป็นเป็นที่ส่วน Semi outdoor ด้านนอกอาคาร, ชั้น 36 เป็น Main Facilities แบบ Sky Facilities เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบยกชั้น ประกอบด้วย ฟิตเนสที่แบ่งเป็นห้องย่อยๆอีก 2 ห้องคือ Weight Training และ Class Exercise Room อีกฝั่งจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสระในร่ม ใช้งานได้ทั้งวัน พร้อมกับห้อง Spa อีก 2 ห้องและชั้น Rooftop ที่เป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมดเลย นอกจากนี้ยังมี Concierge Service โครงการแห่งเดียวในย่านที่มีบริการนี้ คอยช่วยอำนวยความสะดวกการอยู่อาศัยภายในโครงการ

ห้องพักอาศัย

สำหรับแปลนอาคารเป็นรูปตัว V มีลิฟต์อยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องพักอาศัยทุกห้องได้ทางเดินด้านหน้าห้องเป็น Single load Corridor หรือไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม รวมถึงมี Mail Box หรือตู้จดหมายไปไว้ที่ชั้นพักอาศัยเลย จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงและบรรยากาศภายในโครงการที่สงบ ส่วนแบบห้องมีให้เลือกมากกว่า 15 แบบ ห้องส่วนใหญ่ภายในโครงการจะเป็นห้อง 1 Bedroom ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus และห้อง 2 Bedroom นั้นจะอยู่ที่ตำแหน่งมุมอาคาร ฟังก์ชันภายในห้องก็มีหลากหลายทั้งครัวปิด ครัวเปิด แบบที่ห้องนอนเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นหรือแบบที่ห้องนอนแยกจากห้องนั่งเล่น ทำให้สามารถหาฟังก์ชันห้องที่เหมาะกับแต่ละคนได้เลยค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3wXs

SCOPE Thonglor (สโคป ทองหล่อ)

ติด BTS สถานีทองหล่อ | เริ่ม 200 ล้านบาท คอนโด High Rise 32 ชั้น จำนวน 18 ยูนิต บนทำเลติดถนนสุขุมวิทและ BTS ทองหล่อในระยะ 0 เมตร โดยเป็นคอนโดระดับ ULTIMATE CLASS ที่เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทยกับรูปแบบยูนิตเพนต์เฮ้าส์ 100% ลูกบ้านได้พื้นที่อยู่อาศัยทั้งชั้นเลยนั่นเอง มีพื้นที่ใช้สอยขนาดเริ่มต้น 415 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 Powder Room และ Private Lift 2 ตัวในทุกยูนิต เน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 18 ยูนิต ในราคา 200 ล้านบาท เห็นราคาเริ่มต้นสูงแบบนี้ แต่เราได้ข่าวมาว่าถูกจับจองไป 50% แล้วนะคะ

นอกจากนั้นยังออกแบบด้วยดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง Thomas Juul – Hansen และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านด้วย Concierge service 24 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 นี้ค่ะ

อ่านพรีวิวโครงการได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3TyR

Quinn Sukhumvit 101 (ควินน์ คอนโด สุขุมวิท 101)

ติด BTS สถานีปุณณวิถี | เริ่ม 5.99 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 31 ชั้น 347 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต โครงการอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท และ BTS สถานีปุณณวิถี ซึ่งถือเป็นคอนโดในเมืองติดรถไฟฟ้าแบบ 0 เมตร ที่หาได้ยากมากๆเลย ด้วยราคาที่ดินในเมืองที่สูงขึ้นต่อเนื่องและที่ดินเปล่าก็แทบไม่เหลือให้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว ซึ่งจากโครงการก็สามารถเดินทางไปทองหล่อ เอกมัยหรืออุดมสุขได้ง่ายๆเลยค่ะ ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเข้าอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบอยู่ที่ชั้น 1, 7, 31 และ Rooftop ค่ะ โดยชั้น 1 จะเป็น Lobby Area, Social Lounge, Commercial 2 Shops และ Secret Garden ส่วนชั้น 7 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางในตัวอาคารจะเป็นห้องออกกำลังกาย ที่อยู่ติดกับส่วนของสระว่ายน้ำ(สระเด็ก) มีห้องน้ำและซาวน่าแยกชายหญิง ด้านนอกจะมี Poolbed Area ไว้นอนอาบแดดแบบกึ่ง Semi Outdoor ได้ ติดกันเป็นส่วนของสระว่ายน้ำระบบเกลือ ส่วนด้านข้างสระจะมีส่วนของสวนหย่อมแบบกลางแจ้งเอาไว้อีกจุดนึง และชั้น 31 เป็นพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าที่เป็นไฮไลท์อย่าง Sky Lounge และภายในจะแบ่งฟังก์ชันย่อยไปอย่าง Theater Room, Pool Table Room, Multipurpose Room ส่วนสุดท้ายคือที่ชั้นดาดฟ้าขึ้นมาจะเป็น Rooftop Garden ที่มีการแบ่งพื้นที่ BBQ Area เอาไว้ให้

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารเป็นรูปตัว S หันรับวิวสองฝั่งอย่างทิศเหนือ-ใต้ ส่วน Core Lift ตั้งอยู่กลางอาคาร ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องมีห้องไหนเดินไกลเกินไป โดยหลักๆในชั้น Low Zone จะเป็น 1 Bedroom และมี 2 Bedroom อยู่แค่ 3 ห้องต่อชั้นเท่านั้น ที่มีตำแหน่งเป็นห้องมุมอาคารทั้งหมด โดยมีจำนวนยูนิตสูงสุดที่ 16 ยูนิตต่อชั้น ส่วนชั้น 25 เป็นต้นไปจะเป็น High Zone ที่ปีกอาคารฝั่งด้านหน้าจะหายไป ทำให้มีจำนวนห้องพักอาศัยที่ลดลงไป ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเอง

ตัวห้องจะเน้นเป็นห้องหน้ากว้าง มีการแบ่งแยกฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วนดี มีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom Plus 35 ตร.ม., 2 Bedrooms 54 ตร.ม., Combine 70 ตร.ม. และ Duplex 125 ตร.ม. โดยออกแบบเป็นฝ้าเพดานสูง 2.80 เมตร ได้บรรยากาศโปร่งสบาย ส่วนรูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted ที่มีเฟอร์นิเจอร์ Built-In มาให้บางส่วนค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-29wz

The Metropolis Samrong Interchange (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์)

ติด Interchange Station ของ BTS สถานีสำโรงและ MRT สายสีเหลือง สถานีสำโรง | เริ่ม 2.79 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 39 ชั้น และอาคาร B สูง 30 ชั้น และ Low Rise 1 อาคาร สูง 7 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 8 ไร่ โดยมีจำนวนยูนิตทั้งโครงการ 1,770 ยูนิต แบ่งเป็น A 1,056, B 552 และ C 162 ยูนิต ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิทและ Interchange Station ของ BTS สถานีสำโรงและ MRT สายสีเหลือง สถานีสำโรงที่เพิ่งเปิดบริการไปไม่นาน ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองไปทองหล่อ เอกมัย สยาม พญาไทได้ง่ายๆ หรือจะนั่งสายสีเหลืองไปทางศรีนครินทร์และลาดพร้าวก็สะดวกค่ะ ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบกระจายไปอยู่ในแต่ละอาคาร ทำให้จะอยู่อาคารไหนก็มีส่วนกลางใช้งานได้ง่าย สำหรับลูกบ้านที่ชอบใช้ส่วนกลางไหนก็สามารถเลือกอยู่อาคารที่มีส่วนกลางนั้นๆได้ ทำให้เดินไปใช้งานได้สะดวกดีด้วย โดยประกอบด้วย Grand lobby, Infinity Edge pool 2 สระ, Kids pool, Kids room, Co-working space, Meeting room, Fitness center, Sky lounge, Sky Deck, Onsen, Golf Simulator, Private Theater, Badminton Court และ Restaurants

ห้องพักอาศัย

อาคารพักอาศัยจะแบ่งเป็น 3 อาคาร โดยอาคาร B จะอยู่ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการมากที่สุด จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบเดินไกลนัก ส่วนตัวห้องของโครงการมีทั้ง Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom อยู่ได้ตั้งแต่คนเดียวไปถึงครอบครัวขนาดเล็กเลย โดยทุกยูนิตออกแบบเป็นครัวปิด ทำอาหารได้จริงจังและมีระเบียงส่วนตัว เปิดรับวิว อีกทั้งเน้นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ ไว้สำหรับทำกิจกรรมต่างๆภายในห้องได้สะดวก

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-Ybz

Origin Plug & Play Sailuat Station (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สายลวด สเตชั่น)

ติด BTS สถานีสายลวด | เริ่ม 1.99 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 25 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถ จำนวน 1 อาคาร จำนวนยูนิต 1,044 ยูนิต ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิทและ BTS สายลวด สามารถเดินทางไปสยาม ทองหล่อและเอกมัยได้สะดวกทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า รวมถึงใกล้นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้นอกจากจะอยู่ติดรถไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นคอนโดแห่งแรกในสมุทรปราการที่มีห้องฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตรและเป็น Pet-Friendly เอาใจคนรักสัตว์ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้นั่นเอง ซึ่งปัจจุบันโครงการยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบแบ่งส่วนกลางกระจายพื้นที่ไปในแต่ละชั้น รวม 5 ชั้น ทำให้ลูกบ้านเข้าใช้ส่วนกลางได้ง่าย โดยชั้น 1 เป็น Main Lobby / Private Lobby, Co – Working Space, Active garden และ Multi – Sport Court ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นที่รองรับการทำงานทั้ง Co – Working Space และ Meeting Room และชั้น 25 เป็นชั้นส่วนกลางหลักของโครงการแบบ Sky Facilities ประกอบด้วย Sky Bar / Game Room, Sky Corridor, Sky Lounge และ Sky Gym ส่วนชั้น Rooftop ของอาคารพักอาศัยจะมี Swimming Pool, Rooftop Bar, Co-Working Space และ Rest Area และชั้น Rooftop ของ Parking จะเป็นพื้นที่สีเขียวทั้ง Jogging Track, Picnic Area, Pet Park, Recreation Space, Work Out Space / Pavi Gym, Relaxing Space และ Yoga Lawn

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารออกแบบเป็นตัว I โดยตัวห้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ มี Core Lift อยู่ทั้ง 2 ฝั่งอาคาร ช่วยกระจายความหนาแน่นเวลาใช้งานและเดินได้ไม่ไกลด้วย แบบห้องของโครงการเป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus แบ่งฟังก์ชันใช้งานภายในห้องเป็นสัดส่วน ได้ครัวแบบปิดและมีระเบียงทุกยูนิต โดยห้อง Simplex มีความสูง 2.4 เมตร ส่วน Duo Space สูง 4.2 เมตรที่เป็นจุดเด่นของโครงการจะอยู่ชั้น 11-25 ค่ะ ทำให้ลูกบ้านสามารถเลือกได้ตามความชอบเลย

อ่านพรีวิวโครงการได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3YJY

คอนโดติด BTS สายสีเขียวเข้ม (สายสีลม)

เราได้เกริ่นไปนิดหน่อยแล้วนะคะว่ารถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม (สายสีลม) เปิดบริการพร้อมกับ BTS สายสีเขียวอ่อน (สายสุขุมวิท) โดยรถไฟฟ้าเส้นนี้จะวิ่งผ่านย่านธุรกิจสำคัญอย่างสยาม สีลม สาทร ข้ามไปทางฝั่งธนบุรีและสิ้นสุดที่บางหว้า รวมระยะทาง 14.67 กิโลเมตร ทำให้คนจากฝั่งธนบุรีก็สามารถเดินทางเข้าเมืองและไปต่อรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้สะดวกด้วย

ถึงแม้ BTS สายสีเขียวเข้มจะมีระยะทางที่ไม่ได้ไกลมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นสายรถไฟฟ้าที่สำคัญอีกสาย ด้วยแนวเส้นทางที่วิ่งผ่านสีลม-สาทร อย่างที่เรารู้กันดีว่าเป็น Office District แหล่งรวมออฟฟิศและธุรกิจอยู่หลากหลาย มีพนักงานอยู่จำนวนมากที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายนี้ในการมาทำงานทุกเช้า-เย็น รวมถึงบริเวณนั้นก็มีสถานศึกษาอยู่หลายแห่งอีกด้วยค่ะ ทำให้ถือเป็นสายรถไฟฟ้าที่มีคนใช้งานเยอะไม่แพ้สายสีเขียวอ่อนเลยนั่นเอง

สำหรับบริเวณสยามและราชดำริจะเป็นพื้นที่ทรัพย์สินของทางจุฬาฯ ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรมและสถานศึกษาอยู่เต็มพื้นที่ แทบไม่เหลือที่ดินเปล่าให้พัฒนาแล้ว ทำให้ส่วนใหญ่จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Leasehold ที่เป็นการอยู่อาศัยแบบเช่าระยะยาวกัน ส่วนทำเลทองอย่างสีลม-สาทรก็มีโครงการคอนโดมิเนียมให้เลือกอยู่หลากหลาย แต่ก็มีราคาที่สูงตามความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ในแหล่งธุรกิจ ใกล้ห้าง เดินทางง่าย โดยปัจจุบันมีเพียงโครงการเดียวในสีลม-สาทรที่เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าค่ะ ส่วนโซนฝั่งธนบุรีจะมีคอนโดหลากหลายระดับให้เลือกทั้งคอนโดติดถนนใหญ่ อยู่ในซอย และติดรถไฟฟ้า 0 เมตรด้วยนั่นเอง

ปัจจุบันคอนโดมิเนียมมือหนึ่งติดรถไฟฟ้า 0 เมตร มีอยู่ 4 โครงการด้วยกัน ดังนี้

• Anil Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)
• Quintara MHy’DEN Pho Nimit (ควินทารา มาย’เดน โพธิ์นิมิตร)
• Altitude Unicorn Sathorn – Thapra (อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร – ท่าพระ)
• Rich Point @BTS Wuttakat (ริชพอยท์ แอท บีทีเอส วุฒากาศ)

Anil Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

ติด BTS สถานีเซนต์หลุยส์ | เริ่ม 10.9 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 222 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนสาทร – เหนือ ติด BTS สถานีเซนต์หลุยส์ ข้างๆเป็นซอยสาทร 12 ที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังฝั่งถนนสีลมได้ อีกทั้งเป็นโครงการแห่งเดียวบนทำเลสีลม-สาทรที่อยู่ติดรถไฟฟ้าเลย ทำให้เดินทางสะดวกสบายมากๆ นอกจากนั้นโครงการนี้เป็นโครงการพักอาศัยแห่งแรกของไทยที่ผ่านการรับรอง WELL Multifamily Precertified TM ระดับ Gold ตามมาตรฐาน WELL Building Standard จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางแยกออกจากส่วนพักอาศัย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว แต่สามารถเข้าไปใช้งานได้ง่าย ผนังกระจกส่วนใหญ่เป็น Full Height เปิดรับวิวได้แบบเต็มที่ สำหรับชั้น 1 เป็นส่วน Lobby พื้นที่สีเขียวด้านหน้า และทางเข้าที่จอดรถแบบ Auto Parking คิดเป็นพื้นที่จอดประมาณ 110% ทำให้มั่นใจว่าทุกยูนิตมีที่จอดรถแน่นอน, ชั้น 2 – 11 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด, ชั้น 12 เป็นส่วน Facilities เน้นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน สังสรรค์ และพักผ่อนได้, ชั้น 39 และ ชั้น 41 จะเป็นสระว่ายน้ำระบบ Ozone ซึ่งเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวบอบบาง และชั้น 42 ที่เป็นชั้นบนสุด จะเป็นห้อง Sky Panoramic Gym ที่สามารถมองวิวเมืองได้แบบ 180 องศาค่ะ นอกจากนั้นยังมี Concierge Service ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านภายในโครงการ

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารวางผังเป็นแบบจัตุรัส จัดส่วนบันไดหนีไฟและงานระบบต่างๆไว้ตรงกลาง ทำให้ได้โถงทางเดินเป็น Single load Corridor และมีห้องพักสูงสุด 9 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าออกแบบมาได้ความเป็นส่วนตัวดีเลยค่ะ รูปแบบห้องของโครงการมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedroom มีขนาดเริ่มต้น 45-109.5 ตร.ม. เหมาะทั้งอยู่คนเดียวและอยู่อาศัยกันแบบครอบครัว 2 – 4 คน สำหรับห้อง 1 Bedroom ที่มีจำนวนมากสุดจะมีอาคารสูงบล็อกวิวอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนัก ส่วนห้องที่ได้วิวเปิดกว้างมากที่สุดจะเป็นห้อง 2 Bedroom ที่อยู่บริเวณมุมอาคาร โดยภายในห้องจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปแต่ละแบบ แต่ทุกยูนิตจะได้ครัวปิดและไม่มีระเบียง จึงเหมาะกับคนที่อยากได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องเยอะๆ และไม่ได้เน้นทำอาหารจริงจังค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3vcL

Quintara MHy’DEN Pho Nimit (ควินทารา มาย’เดน โพธิ์นิมิตร)

ติด BTS สถานีโพธิ์นิมิตร | เริ่ม 2.89 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ครึ่ง มีจำนวนยูนิตรวม 628 ยูนิต โครงการตั้งอยู่ติดถนนกรุงธนบุรีกับรถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ระหว่างสถานีวงเวียนใหญ่และสถานีตลาดพลูที่ยอมรับว่าเป็นสถานีที่มีคอนโดและแหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงกว่าโซนโพธิ์นิมิตร จึงทำให้ทำเลที่ตั้งโครงการนี้มีความเงียบสงบและราคาที่ไม่สูงเหมือนกับคอนโดใกล้สถานีวงเวียนใหญ่และตลาดพลูนั่นเอง ปัจจุบันโครงการยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่อยู่ชั้นบนๆ เพื่อเปิดรับวิวมุมสูงรอบด้านได้เต็มที่ โดยชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับและรองรับแขก สำหรับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆจะเริ่มมีตั้งแต่ชั้น 36 , 37 เป็นสวนเล็กๆ ที่เดินเชื่อมขึ้นมายังชั้น 38 ได้ และเริ่มมีฟังก์ชันใช้งานที่ชั้น 38 มีห้อง Meeting room และ E-Library ส่วนชั้น 39-40 จะเป็นส่วนกลางแบบยกชั้นมีทั้งฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Lounge และมีทางเดินลาดขนาดใหญ่ให้เดินออกกำลังกาย จุดชมวิวและสวนชั้นดาดฟ้า ทำให้เวลามาใช้งานส่วนกลางก็จะได้วิวเปิดโล่งรอบทิศเลยค่ะ

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารเป็นรูปตัว L ที่ห้องส่วนใหญ่หันไปทางทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มี Core Lift อยู่ตรงกลาง จึงมีระยะเดินจากทั้ง 2 ฝั่งที่พอๆกัน แบบห้องโครงการก็มีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom และห้องแบบ Loft ฝ้าเพดานสูง 4.7 เมตร เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากได้คอนโดบรรยากาศเหมือนบ้านด้วย ทำให้รองรับการอยู่อาศัยคนเดียว อยู่กับแฟนหรือครอบครัว โดยจุดที่น่าสนใจคือห้องส่วนใหญ่ออกแบบเป็นห้องหน้ากว้างที่ได้แสงสว่างที่มากกว่าห้องหน้าแคบ และได้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่งด้วย

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3uHo

Altitude Unicorn Sathorn – Thapra (อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร – ท่าพระ)

ติด BTS สถานีตลาดพลู | เริ่ม 4.39 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียมสูง 34 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 2 ไร่กว่าๆ มีจำนวนยูนิตรวม 711 ยูนิต โดยตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนราชพฤกษ์กับ Skywalk รถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลู ใกล้กับแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆของโซนนี้ก็คือ The Mall ท่าพระ และตลาดพลู ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการ อีกทั้งยังสามารถขับรถข้ามสะพานตากสินเข้าเมืองไปทำงานที่สาทร หรือจะข้ามสะพานกรุงเทพไปฝั่งพระราม 3 ได้สะดวกเลย ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วนะคะ

พื้นที่ส่วนกลาง

มีแนวคิดในการออกแบบส่วนกลางได้น่าสนใจ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง Grand Canyon รวมถึงมีส่วนกลางหลากหลายและให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต พร้อมออกแบบแบ่งโซนส่วนกลางที่ชัดเจนดี โดยชั้น 1 จะมี Lobby, Fallabella Bay, Waiting Area และ Mailbox ชั้น 3 เน้นเป็นพื้นที่ทำงานอย่าง Co-Working Space และ Meeting Room รวมถึงมี Laundry ให้มาซักผ้าได้ง่าย ส่วนชั้น 7 เป็น Main Facilities Grand Pool เป็นสระว่ายน้ำรูปทรง Free Form ตกแต่งเป็น Highlight ของโครงการ, Co-Creation Kitchen, Fitness และ Stream Room ชั้น 8 มีทั้ง Panoramic Seen Space, E-Sport Room และ Yoga สำหรับชั้น 34 ที่เป็นชั้นบนสุดของโครงการจะเน้นให้มานั่งพักผ่อนรับชมวิวอย่าง Sky Lounge, Co-Living Space, Mini Theatre, Garden และ Rooftop Jogging Track

ห้องพักอาศัย

ออกแบบวางผังอาคารเป็นรูปตัว L ทำให้ไม่บังวิวกันเอง มี Core Lift อยู่ตรงกลาง ทำให้ลูกบ้านเดินมาใช้ลิฟต์ได้ไม่ไกล รวมถึงมีห้องหลายตำแหน่งและห้องหลายแบบที่แชร์ผนังร่วมกับเพื่อนบ้านแค่ด้านเดียวจึงได้ความเป็นส่วนตัวดี

ส่วนตัวห้องจะมีให้เลือก 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 1 Bedroom Plus Loft โดยออกแบบได้ครัวเปิดและกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ เพื่อได้บรรยากาศโปร่งโล่งภายในห้อง เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำอาหารมากนัก ซึ่งห้องแบบ Simplex สูง 2.70 เมตร  ส่วนห้อง Loft สูง 4.60 เมตร พิเศษตรงที่มีมุมอเนกประสงค์กระจกที่ยื่นออกไปนอกอาคาร ทำให้เปิดรับวิวได้ 180 องศาเลยนั่นเอง

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3qGs

Rich Point @BTS Wuttakat (ริชพอยท์ แอท บีทีเอส วุฒากาศ)

ติด BTS สถานีวุฒากาศ | เริ่ม 2.39 ล้านบาท 

คอนโด High Rise สูง 32 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์ Modern มีทั้งหมด 792 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต เป็นโครงการติดถนนใหญ่และแนวรถไฟฟ้าบนย่านวุฒากาศที่เป็นย่านชุมชนที่คึกคัก ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินก็หลากหลายมีทั้งตลาดและร้านค้าร้านอาหารให้ใช้บริการได้ ส่วนแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ที่อยู่ใกล้ๆจะมีอยู่หลายแห่งเหมือนกัน เช่น ตลาดพลู เป็นตลาดเก่าแก่ขนาดใหญ่และ The Mall ท่าพระ นอกจากนั้นตรงโซนบางหว้าเองก็มีตลาดและแหล่งของกินมากมาย หากเลยไปยังถนนราชพฤกษ์ด้านบนอีกหน่อยจะมีพวกร้านอาหาร bar & restaurant อีกเยอะเลยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ชั้น 1 เป็น Lobby แบ่งออกเป็น Co-Working Space, Social Club และร้านค้า 2 ร้าน, ชั้น 6 เป็น Main Facilities ของโครงการประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือรูปทรง Free Form ด้านข้างจะมีแนวสวนที่ออกแบบให้เข้ากันกับรูปทรงของสระว่ายน้ำ ส่วนภายในอาคารจะมีห้องออกกำลังกายรับวิวสวนและสระว่ายน้ำภายนอก และห้องน้ำแยกชายหญิง สุดท้ายเป็นชั้นบนสุดของโครงการ หรือ Rooftop เป็นสวนสำหรับมีเดินเล่นรับลม มีแนวทางเดินให้ออกมาสูดอากาศ ชมวิวกันได้

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารเป็นรูปตัว L ออกแบบห้องหันไปทางทิศเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้จะมีวิวในแต่ละฝั่งที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งวิวแนวรถไฟฟ้าและวิวเมืองทางฝั่งหน้าโครงการ ส่วน Core Lift จะอยู่บริเวณตรงกลาง ทำให้มีระยะเดินมาใช้ลิฟต์ที่พอๆกันทั้ง 2 ฝั่ง

ห้องของโครงการนี้จะมีทั้ง Studio, 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เป็นห้องอยู่อาศัยแบบ 1-2 คนเป็นหลักและเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ออกแบบตำแหน่งห้อง 1 Bedroom สลับกับ Studio เพื่อให้ระเบียงห้องมีความเหลื่อมกัน ช่วยให้มองไม่เห็นเพื่อนบ้านด้านข้างเวลามาใช้งานระเบียง ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นนั่นเอง ส่วนฟังก์ชันภายในห้องก็จัดมาได้ลงตัวดี เน้นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ บรรยากาศโปร่งโล่ง

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2uM0

คอนโดติด MRT สายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล)

สำหรับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเป็นอีกสายรถไฟฟ้าสำคัญอีกสายของกรุงเทพฯ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 โดยจะมีทั้งช่วงที่เดินรถอยู่ใต้ดินและยกระดับค่ะ แนวเส้นทางการเดินทางเป็นวงกลม ไม่ได้ผ่านเข้าเมืองตรงๆ แบบสายสีเขียวอ่อนและเข้ม แต่ยังผ่านจุดสำคัญๆ เช่นสีลม, อโศก, รัชดา, ลาดพร้าว โดยเน้นเชื่อมโยงไปโซนสำคัญต่างๆของกรุงเทพฯ รวมถึงเชื่อมต่อไปยังฝั่งธนบุรีอย่างบางขุนนนท์ ท่าพระและยาวไปถึงหลักสองเลยค่ะ

หลังจากที่เปิดบริการบริเวณส่วนต่อขยายเป็นแนวรถไฟฟ้าวนวงกลมและยาวไปถึงหลักสอง ทำให้เราสามารถเดินทางได้สะดวกสบายและมีตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมืองมากขึ้นไปได้ทั้งใจกลางเมืองอย่างสยาม สีลม อโศก หรือไปย่านสำคัญอย่าง อโศก ห้วยขวาง ห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงฝั่งธนบุรีทั้งบางขุนนนท์ ท่าพระ บางแคและหลักสองได้ รวมถึงสามารถเดินทางเชื่อมกับแนวรถไฟฟ้าสายอื่นๆอีกหลายสายเลยค่ะ

นอกจากนั้น One Bangkok ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งภายในมี Office Building, Hotel โรงแรมลักซ์ชัวรี่และไลฟ์สไตล์, เรสซิเดนท์ระดับ Ultra-luxury, Super Luxury และ Luxury, Retail และ Forum ศูนย์กลางการจัดงานมาตรฐานระดับโลก แต่ที่เรามองว่าน่าสนใจ คือ ได้ข่าวมาว่ามีบริษัทใหญ่ๆหลายแห่งได้ย้ายออฟฟิศเข้ามาอยู่ที่นี่กันแล้ว ทำให้จากเดิมคนส่วนใหญ่ที่ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเดินทางไปทำงานเป็นหลักจะเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมากขึ้น จึงทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้นทั้งการซื้ออยู่อาศัยเองหรือซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าค่ะ

ก่อนที่จะเปิดบริการรถไฟฟ้าช่วงส่วนต่อขยายอย่างในปัจจุบันนี้ เดิมทีจะมีโครงการคอนโดมิเนียมอยู่ใกล้รถไฟฟ้าอยู่อย่างหนาแน่นเลย จนปัจจุบันคอนโดในเมืองติดรถไฟฟ้าก็หาได้ยากขึ้น เพราะไม่ค่อยมีที่ดินในการพัฒนาแล้ว อย่างที่เราได้สำรวจมาก็จะเป็นคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูง ชูจุดเด่นด้วยบริการระดับโรงแรม 5 ดาว แต่หลังจากเปิดบริการรถไฟฟ้าช่วงส่วนต่อขยาย ทำให้มีที่ดินเปล่าสามารถพัฒนาคอนโดติดรถไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

• COCO PARC (โคโค่ พาร์ค)
• Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส)
• The Key MRT Phetkasem 48 (เดอะ คีย์ เอ็มอาร์ที เพชรเกษม 48)
• CIELA Charan 13 Station (เซียล่า จรัญฯ13 สเตชั่น)
• Brix Condominium Charan 64 (บริกซ์ คอนโดมิเนียม จรัญ 64)
• Modiz Collection BangPho (โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ)

COCO PARC (โคโค่ พาร์ค)

ติด MRT สถานีคลองเตย | เริ่ม 8.99 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียม High Rise สูง 37 ชั้น มีจำนวนยูนิตรวม 444 ยูนิต ตั้งติดกับถนนพระราม 4 และ MRT คลองเตย ซึ่งตรงเส้นพระราม 4 นี้ถือเป็นอีกทำเลหนึ่งที่มีการเจริญเติบโตสูงมาก มี Mega Project หลายโครงการเกิดใหม่ นอกจากนั้นโครงการนี้มีจุดเด่นที่สามารถมองเห็นวิวของสวนป่าเบญจกิติที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้และมีบางมุมที่มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้ด้วย อีกทั้งยังมีการบริการอย่าง Concierge Service เป็นผู้ช่วยให้กับลูกบ้าน สามารถติดต่อใช้บริการนวด, ทำความสะอาดและรับประทานอาหารแบบ Chef Table โดยบุคลากรจากทางดุสิตโดยตรงในการให้บริการแบบโรงแรม 5 ดาว โดยปัจจุบันทางโครงการได้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 8, 37 เป็นหลักและมีส่วนกลางที่รองรับ 24 ชม. ทำให้สามารถมาใช้งานได้ยืดหยุ่นดี โดยชั้น 1 เป็น COCO Lobby, Mailbox, Juristic Office, Delivery Room, Toilets, Parking และ Garden ชั้น 8 เป็น Main Facilities ประกอบด้วย COCO Fit รองรับการใช้งาน 24 ชม., COCO Lap Pool, COCO Studio, COCO Yard, COCO Spa & Salon และ Garden ส่วนชั้น 37 เป็น COCO Lounge พร้อมห้องทำงานส่วนตัวแบบ Sky Pod ที่รองรับการใช้งาน 24 ชม. นอกจากนั้นยังมีออกแบบสอดแทรกพื้นที่สีเขียวในชั้น 30, 32 และ 35 ส่วนชั้น 33 จะมี COCO Plant เป็นแปลงปลูกผักสวนครัวออแกนิกในโครงการค่ะ

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารจะเป็นรูปตัว Y มี Core Lift อยู่ตรงกลาง ทำให้มีระยะเดินจากแต่ละฝั่งอาคารพอๆกัน ส่วนห้องพักอาศัยมีหลายแบบมากค่ะ ตั้งแต่ห้อง Studio ไปจนถึงห้องแบบ Penthouse ขนาด 234 ตร.ม. จึงรองรับการอยู่อาศัยตั้งแต่คนเดียวไปถึงครอบครัวได้เลย โดยออกแบบเน้นเป็นห้องหน้ากว้างและมีห้องมุมหลายห้องที่ได้วิวเปิดโล่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการที่มองเห็นวิวสีเขียวของสวนป่าเบญจกิติและเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้ด้วยนั่นเอง

อ่านพรีวิวโครงการได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3AT5

Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส)

ติด Interchange Station ของ MRT สถานีสีลม และ BTS สถานีศาลาแดง | เริ่ม 19.9 ล้านบาท 

เป็นโครงการใน Dusit Central Park (ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค) ที่มีหน้ากว้างที่ดินขนาดใหญ่ ติดถนนพระราม 4 และ MRT สีลม โดยหันหน้าเข้าหาสวนลุมพินีขนาด 360 ไร่ ได้วิวสวนแบบกว้างๆเลย โดยออกแบบแบ่งพื้นที่ภายในเป็น 4 ส่วน มี Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส) เป็นคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในโครงการ ความสูง 69 ชั้น รูปแบบการขายเป็น Leasehold ระยะเวลา 29+29 ปี (เมื่อซื้อมาจะได้สิทธิ์ในการอยู่อาศัยทั้งหมด 58 ปี) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สไตล์ คือ Dusit Residences และ Dusit Parkside ที่ถึงแม้จะอยู่ในอาคารเดียวกัน แต่ว่ามีการแยกพื้นที่ส่วนกลาง แยกทางเข้า-ออก แยกชั้นพักอาศัยออกจากกัน จะมีเพียงชั้น 8 ที่เป็น Shared Facilities เพื่อใช้งานร่วมกันได้ นอกจากนั้นมีรางวัลการันตี LEED Gold V.4.1 หมวด Residence Multi-Family ที่คำนึงทั้งสิ่งแวดล้อมและการมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดี ซึ่งถือว่าเป็นอาคารพักอาศัยแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้การรับรองนี้เลยค่ะ ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างนะคะ

พื้นที่ส่วนกลาง

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ Dusit Residences และ Dusit Parkside จะมีฟังก์ชันแต่ละอย่างที่ให้มาเหมือนกันนะคะ แต่แยกการใช้งานเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยมีชั้น 8 จะเป็น Shared Facilities ที่ใช้ร่วมกันค่ะ ส่วน Main Facilities ของโครงการจะแยกอยู่คนละชั้นกันนะคะ สำหรับ Dusit Parkside จะอยู่ชั้น 29 ส่วน Dusit Residences จะอยู่ชั้น 46 ที่เปิดรับวิวมุมสูงและวิวสวนได้กว้างดีเลย นอกจากนั้นการออกแบบภายในส่วนกลางก็มีการตกแต่งที่สร้างบรรยากาศให้แตกต่างกันอยู่ค่ะ

แน่นอนว่าโครงการนี้ก็มีการบริการระดับโรงแรม ซึ่งเป็นมาตรฐานการบริการในแบบโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งมีทั้ง Standard services และ A la Carte Services ให้เลือกใช้บริการได้ แต่จุดที่เราว่าน่าสนใจคือบริการ Standard บางอย่าง เช่น แม่บ้านทำความสะอาดหรือบริการซักผ้าปูที่นอน เป็นต้น แตกต่างกับ Branded Residence อื่นๆที่มักจะเป็นบริการที่เราต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนั่นเอง เราจึงมองว่าเป็นการบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยได้ดีเลย

ห้องพักอาศัย

การออกแบบห้องพักอาศัยของทั้ง 2 โครงการ มีขนาดพื้นที่ใช้สอย การจัดฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องที่ตอบรับการใช้ชีวิตทั้งอยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่ หรืออยู่กันทั้งครอบครัว โดย Dusit Residences จะเน้นที่ห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 2 bedrooms ขึ้นไปจนถึง penthouses ทุกยูนิตพักอาศัยมี private lift เพื่อความเป็นส่วนตัวและถูกออกแบบให้หันเข้าสวนลุมพินีทั้งหมด เพื่อรับวิวสวนขนาดใหญ่ ได้บรรยากาศเปิดโล่ง อยู่สบาย ส่วนโครงการ Dusit Parkside จะเป็นห้องแบบ 1-2  Bedroom ที่กะทัดรัดขึ้น แต่ก็จะมี special units อยู่เผื่อใครที่ชอบบรรยากาศการออกแบบในส่วนของ Dusit Parkside แต่ต้องการห้องขนาดใหญ่พิเศษก็มีตัวเลือกให้เหมือนกันค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-388w

The Key MRT Phetkasem 48 (เดอะ คีย์ เอ็มอาร์ที เพชรเกษม 48)

ติด MRT สถานีเพชรเกษม 48 | เริ่ม 2.69 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร 639 ยูนิต โครงการอยู่บนถนนเพชรเกษม ติดกับ MRT เพชรเกษม 48 มีบันไดทางลงสถานีอยู่ด้านหน้าโครงการเลย ซึ่งถัดไป 1 สถานีจะเชื่อมกับ BTS สถานีบางหว้า เดินทางไปสีลม สาทร สยามได้ง่ายๆค่ะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์จะเกาะกลุ่มอยู่บนถนนเพชรเกษมเป็นหลัก มีตลาดบางแคสำหรับซื้อ-ขายของสดและของแห้ง ส่วนห้างสรรพสินค้าในทำเลนี้ก็จะมี ซีคอน บางแค, The Mall บางแค, Lotus’s และ Big C ให้มาเดินจับจ่ายใช้สอยกัน

พื้นที่ส่วนกลาง

ชั้น 1 ที่แบ่งเป็นส่วน Lobby, Meeting Lounge และสวนหย่อม สำหรับชั้น 6 จะเป็น Main Facilities มีทั้งสระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องน้ำแยกชายหญิง ส่วนชั้นบนสุดอย่างชั้น 30 มี Game Room ให้มานั่งเล่นเกมและเดินขึ้นบันไดไปเหนือห้อง Game Room จะมีห้อง Co-Working Space ให้นั่งทำงานและชมวิวเมืองค่ะ ซึ่งห้องพักอาศัยของโครงการจะเริ่มที่ชั้น 1 เลย แต่มีการออกแบบแยกโซนส่วนกลางและห้องพักชัดเจน เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ

ห้องพักอาศัย

การออกแบบตัวอาคารจะดันอาคารไปไว้ด้านหลัง เอาที่จอดรถอยู่ข้างหน้า ทำให้อาคารมีระยะห่างจากถนนใหญ่และรถไฟฟ้าพอสมควร จึงช่วยลดฝุ่นและเสียงจากถนนใหญ่ได้บ้าง ส่วนตัวอาคารจะเป็นรูปตัว L มี Core Lift อิงมาทางฝั่งทิศตะวันออก ทำให้ห้องอีกฝั่งของอาคารต้องเดินไกลหน่อย ห้องส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือและใต้

รูปแบบห้องจะเป็น 1-2 Bedroom อยู่ 1-2 คนได้สบายและมีจุดเด่นที่โครงสร้างผนังรับน้ำหนัก ทำให้ห้องพักไม่มีมุมของเสาโครงสร้าง จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย ประตูมีช่อง Air Pass นวัตกรรมการถ่ายเทอากาศ ช่วยให้อากาศไหลเวียนในห้องได้ดีขึ้น มีความน่าสนใจที่มีแบบห้องหน้ากว้าง 9 เมตรให้เลือกด้วย จึงรับแสงและลมได้มากยิ่งขึ้น

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2cGe

CIELA Charan 13 Station (เซียล่า จรัญฯ13 สเตชั่น)

ติด MRT สถานีจรัญฯ 13 | เริ่ม 2.89 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 20 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 360 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณเกือบ 2 ไร่ โดยเป็นโครงการติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์และ MRT สถานีจรัญฯ 13 นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ใกล้ซอยจรัญฯ 13 ซึ่งเป็นซอยลัดวิ่งไปเชื่อมถนนราชพฤกษ์, ถนนบางแวก, ถนนพุทธมณฑล รวมถึงจะออกไปเส้นวงแหวนกาญจนาภิเษกก็ได้ง่ายๆเลย

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1 และ 20 ถือเป็นการแยกโซนส่วนกลางและห้องพักอาศัยออกจากกัน ทำให้ชั้นพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัว รวมถึงวางพื้นที่ส่วนกลางไว้ชั้นสูงสุดแบบนี้ก็ทำให้มองเห็นวิวมุมสูงด้วยค่ะ เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 20 จะเจอกับ Co-Working Space สำหรับนั่งทำงาน, อ่านหนังสือ พร้อมชมวิวเมืองมุมสูงได้ มีสระว่ายน้ำและ Fitness ซึ่งโครงการออกแบบมาให้ชมวิวกันคนละฝั่ง สระว่ายน้ำจะเปิดให้เห็นวิวที่มองเข้าเมือง เราจะเห็นแนวตึกสูงเป็น Skyline ของเมืองในระยะไกล ส่วนทาง Fitness มองวิวทางทิศตะวันตกได้กว้าง สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกยามเย็นด้วย

ห้องพักอาศัย

อาคารเป็นรูปตัว L มีจำนวน 20 ยูนิตต่อชั้น ทางเดินเป็น Double Corridor ทำให้มีห้องพักทั้ง 2 ฝั่งของทางเดินเหมือนโครงการทั่วไป แต่โครงการก็ออกแบบให้ประตูหน้าห้องของแต่ละยูนิตไม่ชนกัน ไม่มีตำแหน่งของห้องที่ตรงทางแยก จึงมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วน Core Lift จะค่อนมาทางซ้ายมือของอาคาร ทำให้ห้องโซนทิศเหนือที่อยู่ปลายทางเดินจะมีระยะห่างจากลิฟต์มากหน่อย

มีแบบห้องให้เลือกหลักๆอยู่ 5 แบบ โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ส่วนห้อง Studio จะมีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้นค่ะ ส่วนการออกแบบภายในห้องเน้นพื้นที่เป็นสัดส่วนจัดออกมาได้ค่อนข้างลงตัว แม้ว่าห้องส่วนใหญ่จะไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก แต่โครงการก็ออกแบบให้มีกระจกบานใหญ่ จึงได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบายดี

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2Yjh

Brix Condominium Charan 64 (บริกซ์ คอนโดมิเนียม จรัญ 64)

ติด MRT สถานีสิรินธร | เริ่ม 2.69 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 560 ยูนิต และร้านค้า 8 ยูนิต โครงการตั้งอยู่ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ 64 และ MRT สิรินธร สามารถข้ามสะพานไปบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและราชดำเนินกลางได้ ความอุดมสมบูรณ์จะอิงมาตรงปิ่นเกล้าที่มี Central ปิ่นเกล้า, The Sense, Major Cineplex และยังมีตลาด ร้านค้า ร้านอาหารอีกหลายแห่งในบริเวณนี้ด้วยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางจะออกแบบกระจายอยู่ 5 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1, 8 เป็น Main Facilities, 17, 28 และ Rooftop โดยส่วนกลางภายในโครงการจะมี Lobby, Outdoor Library, Adventure Playground, Steam Room, Sauna Room, Swimming Pool, Fitness และ Roof Garden

ห้องพักอาศัย

ออกแบบตัวอาคารเป็นตัว L ที่หันหน้าห้องส่วนใหญ่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ โดยมี Core Lift อิงมาทางฝั่งทิศใต้ ทำให้ห้องพักที่อยู่ทางทิศเหนือจะเดินไกลกว่าค่ะ ส่วนแบบห้องของโครงการมีตั้งแต่ Studio ไปจนถึง Duplex เลย ทำให้จะอยู่คนเดียวหรืออยู่เป็นครอบครัวก็ได้เหมือนกัน โดยมีการจัดวางฟังก์ชันเป็นสัดส่วนดีและห้องส่วนใหญ่จะออกแบบมีห้องครัวแบบปิดติดระเบียง ช่วยกันกลิ่นอาหารและควันลอยเข้าไปภายในห้อง รวมถึงเปิดระบายอากาศได้ง่ายด้วย ถูกใจคนที่ชอบทำอาหารกินเองเลยค่ะ

อ่านพรีวิวโครงการได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-VC3

Modiz Collection BangPho (โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ)

ติด MRT สถานีบางโพ | เริ่ม 3.59 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 26 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 235 ยูนิต บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ รวมถึงยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ซึ่งโครงการติดถนนประชาราษฎร์สาย 1 ใกล้แยกบางโพและ MRT บางโพ สามารถขับเข้าเมืองไปแถวจตุจักร พระราม 6 หรือขึ้นไปตอนบนตรงโซนงามวงศ์วาน ติวานนท์ แจ้งวัฒนะ รวมถึงขับข้ามสะพานพระราม 7 ก็ไปยังแถวจรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้าได้ด้วย นอกจากนั้นยังสถานีบางโพยังเชื่อมต่อกับ Interchange Station ถึง 2 จุดด้วยกัน ทั้ง MRTเตาปูน ที่เชื่อมต่อเข้ากับสายสีม่วงไปบางใหญ่ได้ หรือถัดไปที่ MRT บางซื่อ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลากหลายเส้นและเป็น Hub การเดินทางแห่งใหม่ของคนกรุงเทพค่ะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆจะมีตลาดบางโพ ที่มักจะคึกคักในช่วงเช้า หรือถัดไปตรงแยกเตาปูนก็จะมีตลาดเตาปูนและ Lotus’s ประชาชื่นให้มาเดินจับจ่ายกันได้

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางโครงการออกแบบยก Facilities ขึ้นไปไว้ข้างบนสุดที่ชั้น 25-26 ทั้งหมดเลย ทำให้เปิดรับวิวโดยรอบได้กว้าง ชั้น 25 ประกอบด้วย Sky Fitness, สระว่ายน้ำระบบเกลือรูปตัว U, Kids Pool, Jacuzzi (Bubble Air Jet), Leisure Lounge (ที่นั่งชมวิว), Vista, Pool Bar (นั่งแช่ตัวดูวิว), Dry Pool Bar & Living Area ส่วนชั้น 26 เน้นเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิวเมือง ได้แก่ Theater Room, Play Room, Co-working Space, The Meeting Lounge, Private Business Lounge, Sky Lounge with Grand Piano with Wine Bar นอกจากนั้นยังมีบริการ Concierge Service คอยอำนวยความสะดวก 24 ชม.ด้วยนะคะ

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มี Core Lift อยู่ตรงกลาง ทำให้ได้โถงทางเดินแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม รวมถึงเกือบทุกห้องได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นจุดเด่นของโครงการค่ะ โดยฝั่งที่ได้วิวดีสุดก็คงเป็นห้องที่หันไปทางทิศใต้ บริเวณโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ ไม่มีตึกสูงบังวิว ทำให้เราเห็นทั้งรัฐสภาใหม่ วิวเมืองและวิวแม่น้ำครบเลย

ส่วนตัวห้องมีค่อนข้างหลากหลาย จัดห้องออกมาได้ดี แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน มีให้เลือกทั้งห้องที่ได้ครัวปิด ระเบียงขนาดใหญ่ ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทางหรือมี Bay Window เปิดรับวิวกว้างด้วย รวมถึงมีห้อง Loft ฝ้าสูง 4.5 เมตร เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องเปิดรับวิวกว้างๆ เพราะมีหน้าต่างแบบ Full Height รอบห้อง ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายมากๆ

อ่านพรีวิวโครงการได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-2oOy

คอนโดติด  MRT สายสีเหลือง / SRT สายสีแดงเข้ม / MRT สายสีส้ม (สายในอนาคต)

สำหรับรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ถือเป็นสายรถไฟฟ้าผ่านพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันออก รวมถึงพื้นที่ส่วนเหนือของจังหวัดสมุทรปราการ เพราะมีจุดเริ่มต้นตรง Interchage Station เชื่อมกับสายสีเขียวอ่อน สถานีสำโรงไปตามเส้นศรีนครินทร์ ผ่านโซนบางกะปิจนไปสิ้นสุดตรง Interchage Station เชื่อมสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายโครงการมาเปิดตัวกันมากขึ้น แต่มีเพียงโครงการเดียวที่เป็นโครงการติดรถไฟฟ้าค่ะ

SRT สายสีแดงเข้มจะเป็นรถไฟฟ้าชานเมือง แนวเส้นทางเหนือ-ใต้ มีระยะทาง 22.6 กิโลเมตร โดยวิ่งจากสถานีบางซื่อเชื่อมกับสายสีน้ำเงินไปสิ้นสุดที่สถานีรังสิตค่ะ โดยปัจจุบันมีการเปิดบริการแล้ว ถึงแม้จะมีผู้โดยสารไม่มากนัก แต่ก็ทำให้คนที่อยู่อาศัยหรือทำงานอยู่นอกเมืองสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นเราได้รวมคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มมาให้ด้วย เนื่องจากมีแผนงานการก่อสร้างและเปิดบริการค่ะ โดยรถไฟฟ้าสายนี้จะวิ่งเป็นแนวตะวันออก-ตะวันตก และแบ่งงานก่อสร้างเป็นช่วงตะวันออกและช่วงตะวันตก ซึ่งปัจจุบันได้ทำการก่อสร้างรถไฟฟ้าช่วงตะวันออก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังติดปัญหาไม่ได้ลงนามสัญญาแก่เอกชนผู้ชนะการประมูลบริหารงานเดินรถ จึงคาดเปิดบริการในปี 2570 ส่วนรถไฟฟ้าช่วงตะวันตก บางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ก็อยู่ในช่วงรื้อย้ายพื้นที่และเริ่มก่อสร้างในปี 2568 นี้ คาดเปิดบริการในปี 2570-2571 ค่ะ

จากที่เราสำรวจมาคอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีแดงจะมีเพียง 1 โครงการเท่านั้น นั่นคือ ATMOZ DE SOL THIPPHAWAN STATION (แอทโมซ เดอ โซล ทิพวัล สเตชั่น) โครงการใหม่สุดเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้เอง และ Landmark at Kasetsart TSH Station (แลนด์มาร์ค แอท เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้อง สเตชั่น) ใกล้กับม.เกษตรศาสตร์และสถานที่ราชการหลายแห่ง

นอกจากนั้นเราได้รวมคอนโดมิเนียมที่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เป็นรถไฟฟ้าสายในอนาคตด้วย จะมีอยู่ตรงโซนราชเทวีที่เป็นโซนยอดนิยม ใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่างสยามและพญาไทที่มีสถานพยาบาลและอาคารสำนักงานหลายแห่ง แต่คอนโดก็จะมีราคาสูง รวมถึงมีคอนโดตรงโซนรามคำแหงที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 2 ล้านต้นๆ เน้นเดินทางและใช้ชีวิตในโซนพระราม 9, ลาดกระบัง, บางนา และไปสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวกค่ะ

•  CONNER RATCHATHEWI (คอนเนอร์ ราชเทวี)
• THE ADDRESS Siam-Ratchathewi (ดิ แอดเดรส สยาม-ราชเทวี)
• Supalai Veranda Ramkhamhaeng (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง)
• Niche MONO Ramkhamhaeng (นิช โมโน รามคำแหง)

ATMOZ DE SOL THIPPHAWAN STATION (แอทโมซ เดอ โซล ทิพวัล สเตชั่น)

ติด MRT สถานีทิพวัล | เริ่ม 1.xx ล้านบาท 

คอนโด Low Rise 3 อาคาร อาคาร A 11 ชั้น อาคาร B , C 8 ชั้น รวม 690 ยูนิตและ 4 ร้านค้า ตั้งอยู่ติดถนนเทพารักษ์และ MRT สายสีเหลือง สถานีทิพวัล ซึ่งถือเป็นคอนโดเพียงแห่งเดียวที่ติดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแบบ 0 เมตรเลยนะ ซึ่งปัจจุบันเป็นโครงการเปิดใหม่ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือน ม.ค. นี้ ทำให้เรามีข้อมูลเพียงเบื้องต้นนะคะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบเน้น Facilities ส่วนกลางหลากหลาย โดยส่วนกลางจะกระจายไปยังอาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคารเลยค่ะ เพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งานและลูกบ้านแต่ละอาคารก็สามารถใช้งานได้ง่ายด้วย สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ประกอบด้วย สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า, สนามเด็กเล่น, สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ลึก 1.20 เมตร, Fitness, Lobby, Karaoke Room, Theater Room, Live Studio, Private Onsen, Steam room, Co-working Space และ Flowing Retreat Garden

ห้องพักอาศัย

แบบห้องของโครงการมี 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.00 ตร.ม., 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 27.20 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 36.60 ตร.ม. ที่ออกแบบเป็นห้องขนาดกะทัดรัด อยู่อาศัย 1-2 คนได้สบาย ในราคาเริ่มต้น 1.xx ล้านบาท ที่เราแอบคาดว่าน่าจะประมาณ 1 ล้านกลางๆ ทำให้โครงการนี้ราคาจับต้องได้ง่ายสุดในบรรดาคอนโดติดรถไฟฟ้า 0 เมตรค่ะ

อ่านพรีวิวโครงการได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-4cco

Landmark at Kasetsart TSH Station (แลนด์มาร์ค แอท เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้อง สเตชั่น)

ติด SRT สถานีทุ่งสองห้อง | เริ่ม 3.67 ล้านบาท 

เป็นโครงการแบบ Mixed-use แห่งแรกบนถนนวิภาวดีรังสิต อยู่ติดกับสะพานลอยทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีทุ่งสองห้อง ในระยะ 0 เมตร โดย Mixed-use นี้มีทั้งหมด 3 อาคาร ประกอบด้วย Branded Residence, อาคารจอดรถและคอนโดมิเนียม High Rise สูง 19 ชั้น มีเพื่อนบ้านเพียง 236 ยูนิต ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอยู่ภายในโครงการครบครันเลย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือร้านอาหาร อีกทั้งยังมีบริการโรงแรมให้ใช้งานด้วย ลูกบ้านที่อยู่ในคอนโดนี้ก็สามารถซื้อของจับจ่ายใช้สอยภายในโครงการได้เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่เป็นห้อง Loft ฝ้าสูงทั้งโครงการด้วย ปัจจุบันโครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดเสร็จในปี 2568 ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 ประกอบด้วย Retail Shop และ Lobby ที่สามารถไว้รับรองแขก และอีกชั้นคือชั้น 19 จะเป็นชั้น Main Facilities ที่ประกอบด้วยฟิตเนสและสระว่ายน้ำ รวมถึงยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งาน ซึ่งส่วนกลางอาจไม่หลากหลายเท่าโครงการอื่น แต่ก็ให้มาครบครัน นอกจากนี้เรายังสามารถมาใช้งานในส่วนของ Branded Residence ด้านหน้าได้ด้วยค่ะ

ห้องพักอาศัย

ออกแบบตัวอาคารจะมีลักษณะเป็นรูปตัว L จึงไม่มีห้องไหนที่บังวิวกันเลย และยังวางโถงลิฟต์เอาไว้ตรงกลาง ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก รวมถึงมีตำแหน่งห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวทั้งโถงทางเดินหน้าห้องแบบ Single load Corridor และห้องมุมที่ผนังติดกับเพื่อนบ้านแค่ด้านเดียวหลายจุด นอกจากนั้นจุดเด่นของโครงการนี้ คือ ห้อง Loft ฝ้าเพดานสูงทั้งโครงการ มีความสูงอยู่ที่ 4.15 เมตร ในแบบห้องปกติ และ 4.9 เมตร ในแบบห้อง Duplex ค่ะ

ส่วนตัวห้องออกแบบมีฟังก์ชันห้องอเนกประสงค์ทุกยูนิต จึงสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเพิ่มได้ มีห้องน้ำทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ใช้งานได้สะดวก และลดทอนฟังก์ชันครัวออกไป เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอื่นๆให้กว้างขวางมากขึ้น แต่ก็เตรียมระเบียงขนาดใหญ่ไว้เผื่อทำเป็นครัวได้ด้วย จึงถือเป็นโครงการที่น่าสนใจเลย

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3ilV

CONNER RATCHATHEWI (คอนเนอร์ ราชเทวี)

ติด MRT สถานีราชเทวี | เริ่ม 9.9 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียมสูง 38 ชั้น จำนวน 294 ยูนิต ติดถนนเพชรบุรีและติดกับ MRT สายสีส้ม สถานีราชเทวี ซึ่งปัจจุบันรถไฟฟ้าสายนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มก่อสร้างค่ะ จุดเด่นของโครงการที่นอกจากจะออกแบบห้องพักอาศัยที่เป็นห้องมุมมีสัดส่วนมากถึง 61% แล้ว ยังเด่นเรื่องการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่แนวความคิดของโครงการที่ต้องการให้อาคารมีพื้นที่สีเขียว โดยมี Vertical Forest สูง 80 เมตร พร้อมคำนึงถึงระบบการดูแลรักษา การรดน้ำ เพื่อให้ต้นไม้ที่ปลูกสามารถโตได้จริง สวยแบบยั่งยืน พร้อมออกแบบมีจุดระบายอากาศและกันฝนสาดเข้ามาภายในอาคารด้วย ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

บริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับและ Delivery box ห้องเก็บอาหารและเครื่องดื่มที่เราสั่ง Delivery มา, ชั้น 4 ฟังก์ชันเหมาะสำหรับคนทำงานหรือนักเรียนทั้ง Study  area, Step seat library และ Meeting Room Pods, ชั้น 5 เป็น The Club ตั้งอยู่กลางน้ำ ล้อมรอบไปด้วย Vertical Forest และมี Skylight อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ก็จะมี Observation deck ชมวิวได้, ชั้น 19-20 จะเป็น Main Facilities โครงการค่ะ โดยชั้น 19 จะเป็น Panoramic Sky Pool อย่างเดียวเลย ส่วนชั้น 20 เป็น Private Sky Fitness แบบยกชั้น ซึ่งจะแบ่งฟังก์ชันย่อยๆ เป็นโซนที่จัดวางเครื่องเล่นทั่วไป โซนที่สามารถเล่นแนว weight training ได้ โซนสำหรับเล่นโยคะ และชั้น Rooftop เป็น 360 Sky Terrace ไว้ชมวิวเมืองได้เต็มที่เลย นอกจากนั้นจะมี Step Garden Terrace ที่ชั้น 12A, 15 และ 17 ด้วยค่ะ

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารออกแบบเป็นตัว U ที่มีโถงทางเดินหน้าห้องแบบ Single load Corridor โดดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัว ออกแบบเน้นเป็น 1 Bedroom ส่วนรูปแบบห้องภายในโครงการจะแบ่งเป็น 2 แบบหลัก คือ ห้อง Loft สูง 4.5 เมตร และ Simplex สูง 3 เมตร ซึ่งแบบห้อง Loft มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ มีจำนวนยูนิตต่อชั้นมากที่สุด 14 ห้อง แบ่งเป็นห้องมุมอาคาร 6 ยูนิต และห้องหน้ากว้าง 9 ยูนิต ออกแบบได้บรรยากาศการอยู่อาศัยและวิวที่กว้างกว่าโครงการอื่นๆ ส่วน Simplex Zone มีอยู่ 6 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากเลย นอกจากนี้ก็จะเป็นห้องมุมถึง 5 ห้องด้วย สำหรับ Layout ห้องก็มีให้เลือกเยอะมาก แต่จะเน้นมุมมองที่เปิดกว้างมากขึ้น รวมถึงจัดฟังก์ชันภายในห้องก็มีระยะที่อยู่สบายค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3B9p

THE ADDRESS Siam-Ratchathewi (ดิ แอดเดรส สยาม-ราชเทวี)

ติด MRT สถานีราชเทวี | เริ่ม 8.59 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียมแบบ High rise ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ครึ่ง ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรี ใกล้แยกราชเทวีฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 6 โดยโครงการจะอยู่ติดกับ MRT สถานีราชเทวีของรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เป็นสายในอนาคตค่ะ โครงการนี้ถือเป็นคอนโดที่สูงที่สุดบนทำเลราชเทวีด้วยความสูงถึง 50 ชั้น มีจำนวนรวม 880 ยูนิต ตัวอาคารอยู่ด้านในมีข้อดีคือช่วยให้ตัวอาคารมีระยะห่างจากถนนระดับนึง เพื่อป้องกันฝุ่นและเสียงที่มาพร้อมกับรถยนต์ตรงถนนใหญ่ ปัจจุบันโครงการได้สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ออกแบบส่วนกลางตรงชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกและรองรับการทำงานอย่าง The Concierge Galerie, The Grande Chamber และ The Blue Saloon พร้อมทั้งพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ The Great Lawn และ The River Sala พื้นที่นั่งพักผ่อน, ชั้น 9 จะเป็นพื้นที่สวน The High Garden และ The Gym ออกกำลังกาย ส่วนชั้น 50 + ชั้นลอย จะเป็น Main Facilities ของโครงการ ประกอบด้วย The Sky Pool with hydrotherapy, The Sky Oasis, The Sky Library, The Sky Chamber, The Sky Bar และ The Cloud Fitness ที่เป็นพื้นที่ออกกำลังกายอีกจุดค่ะ ซึ่งพอวาง Main Facilities อยู่ชั้นบนสุดประกอบกับความสูงถึง 50 ชั้น ทำให้เปิดรับรอบทิศได้กว้างมากๆเลย

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารเป็นรูปตัว L วาง Core Lift อยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องแต่ละฝั่งของอาคารมีระยะเดินที่พอๆกัน โดยวางห้องเป็นแบบ Interlock ทำให้ได้ห้องหน้ากว้างมากขึ้นและการจัดพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนลงตัว และวางห้องแบบ Window Corner View ที่มีพื้นที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารและได้กระจกเข้ามุม ทำให้ห้องบริเวณตรงกลางได้วิวกว้างถึง 3 ฝั่ง

สำหรับ Layout ห้องมีให้เลือกหลายแบบมากๆ โดยเฉพาะชั้นสูงๆก็จะได้วิวเมืองที่สวยงามมากทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ รูปแบบห้องจะมีตั้งแต่ 1-3 Bedroom แบ่งเป็น Simplex สูง 3 เมตร และ Duplex สูง 5.8 เมตร ออกแบบห้องได้ครัวแบบปิดพร้อมชุดครัว มีระเบียงส่วนตัวและกระจกเข้ามุม ได้แสงธรรมชาติเข้าในตัวห้องและเปิดรับวิวได้กว้าง

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3MdQ

Supalai Veranda Ramkhamhaeng (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง)

ติด MRT สถานี กกท. | เริ่ม 2.19 ล้านบาท 

คอนโด High Rise 1 อาคาร แบ่งเป็น 3 Tower สูง 33 , 35 และ 27 ชั้น จำนวน 2,073 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 15 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหงตอนกลางใกล้กับม.รามคำแหงและบริเวณแยกซอยมหาดไทย ตัวโครงการมีที่ดินยาวเชื่อมต่อกับถนนหลักทั้ง 2 สายอย่างถนนรามคำแหงและถนนหัวหมาก ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางค่อนข้างมาก และในอนาคตจะมีแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่าน มีสถานี กทท. อยู่ด้านหน้าโครงการ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางยิ่งขึ้นค่ะ ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ชั้น 1 เป็น Lobby, Socia Club พื้นที่นั่งคอยไว้พบปะสังสรรค์พูดคุยกันของลูกบ้าน และ Game Room, ชั้น 6 เป็น Main Facilities ที่อยู่ระหว่างอาคารทั้ง 3 อาคาร บริเวณใต้อาคาร B เป็นห้อง Fitness แบบ Double Volume ห้องแอโรบิก ห้องบาสเกตบอล รวมถึงมีห้องน้ำและซาวน่าแยกชาย-หญิงด้วย ส่วนด้านนอกระหว่างอาคาร A กับ B มีสระว่ายน้ำ และอีกด้านระหว่างอาคาร B กับ C ก็มีสระเด็กแบบ Water Park มีเรือโจรสลัด จัดเป็นเหมือนสวนน้ำเล็กๆของเด็กๆเลย ซึ่งบริเวณโดยรอบของชั้นนี้จัดเป็น Jogging Track สามารถวิ่งออกกำลังกายได้ด้วย และชั้นดาดฟ้าของแต่ละอาคารออกแบบมีสวนล้อมรอบไว้นั่งเล่นพักผ่อนและชมวิวได้ ส่วนพื้นที่ Indoor ตรงกลางชั้นดาดฟ้าจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละอาคาร โดยอาคาร A เป็น Panoramic Sky Bar ที่ชั้น 33, อาคาร B เป็น Sky Lounge ที่ชั้น 35 และอาคาร C จะมี Co-Living Space ค่ะ

ห้องพักอาศัย

ตัวอาคารจะเป็นตัว I วางโถงลิฟต์ไว้ช่วงตรงกลางของอาคาร จึงเดินมาใช้งานได้สะดวก ห้องพักส่วนใหญ่หันหน้าออกไปทางทิศตะวันออกและตะวันตก โดยวางห้องพักแบบ 2 Bedroom เอาไว้ที่ส่วนปลายของทั้ง 2 ด้าน เป็นห้องมุมที่ได้ช่องแสง 2 ด้าน มีเพียงชั้นละ 4 ยูนิตเท่านั้น

รูปแบบห้องภายในโครงการมีตั้งแต่ Studio ไปถึง 2 Bedroom เลย ทำให้รองรับการอยู่อาศัยคนเดียวไปจนถึงครอบครัวได้เลยค่ะ รวมถึงมีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ซึ่งห้องเริ่มต้นมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่อย่าง Studio พื้นที่ 28 ตร.ม. (โครงการอื่นเริ่มต้นประมาณ 22-25 ตร.ม.) จึงเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยกว้างๆ จัดวางฟังก์ชันได้ง่าย อีกทั้งเกือบทุกห้องจะมีมุมอเนกประสงค์รองรับกิจกรรมอื่นๆได้ ส่วนครัวจะเป็นครัวเปิดแต่ก็มีระยะที่สามารถกั้นผนังเพิ่มเพื่อทำเป็นครัวปิดได้เหมือนกันค่ะ

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-274e

Niche MONO Ramkhamhaeng (นิช โมโน รามคำแหง)

ติด MRT สถานีรามคำแหง 34 | เริ่ม 2.29 ล้านบาท 

คอนโดมิเนียม High Rise 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A สูง 37, อาคาร B สูง 33 ชั้น และ Low Rise อาคาร C,D,E สูง 7 ชั้น รวมอาคารพักอาศัยทั้งหมด 5 อาคาร มียูนิตรวมทั้งหมด 1,698 ยูนิต ร้านค้าทั้งหมด 9 ยูนิต มีจุดเด่นคือพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 6.5 ไร่ รองรับ 50 กิจกรรม โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่รามคำแหง ระหว่างซอยรามคำแหง 36 และ 36/1 โดยที่ถนนรามคำแหงนี้มีซอยทางลัดที่สามารถไปเชื่อมต่อกับถนนหัวหมากได้หลายซอย เช่น ซอย 32 และซอย 40 เป็นต้น และในอนาคตจะมีสถานีรามคำแหง 34 ของรถไฟฟ้าสายสีส้มอยู่ที่ด้านหน้าโครงการเลย ทำให้เดินทางได้สะดวกสบายมากขึ้น ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ถือเป็นจุดเด่นของโครงการเลย เพราะมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 6.5 ไร่ รองรับ 50 กิจกรรม แต่ก็เป็นไปตามขนาดโครงการที่มีลูกบ้านมากถึง 1,698 ยูนิต โดยออกแบบแยกพื้นที่ส่วนกลางไว้ในแต่ละอาคาร เป็นการกระจายความหนาแน่นและลูกบ้านก็เข้าใช้งานได้ง่ายขึ้น

คอนโด High Rise บริเวณด้านนอกอาคารจะเป็น Jogging Track, สนามบาส/สนามฟุตซอล ให้มาออกกำลังกายกันค่ะ ส่วนชั้น 1 มี Lobby แยกกัน, Meeting Room , Social Lounge และ Co-Working Space ส่วนชั้น 6 – 7 ของอาคาร A และ B จะเป็น Main Facilities เดินเชื่อมต่อกันได้ โดยอาคาร A จะเป็น Passive zone เน้นฟังก์ชันพักผ่อน มี Co-Kitchen, Pool Lounge และ Relaxing Area รวมถึงมีสระว่ายน้ำ Passive Pool ให้มาใช้งานได้ ส่วนอาคาร B จะเป็น Active zone เหมาะสำหรับออกกำลังกาย มีสระว่ายน้ำ Active Pool และพื้นที่ส่วนกลางแนว Sport ยกชั้นเรียกว่า Sport Village ที่แบ่งแต่ละฟังก์ชันแยกออกจากกันเป็นห้องๆ และบางฟังก์ชันเปิดให้ใช้งานได้ 24 ชม.ด้วย สุดท้ายเป็น Sky Social Lounge จะอยู่ที่ชั้น 37 ของอาคาร A และชั้น 33 ของอาคาร B สามารถชมวิวได้ถึง 3 ด้าน แบบ Panorama เลย

สำหรับคอนโด Low Rise 3 อาคาร จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1 และมีฟังก์ชันแตกต่างกันไป โดยอาคาร C เป็น Juristic Office, อาคาร D มี Fitness และอาคาร E ประกอบด้วย Co Working Space, Mail Box, Visitor Parking, Vending & Washing Machinine Area ส่วนบริเวณด้านนอกของทั้ง 3 อาคารจะเป็นสระว่ายน้ำ Chill Pool พร้อมสระเด็กให้มาใช้งานร่วมกัน

ห้องพักอาศัย

โครงการนี้มีลักษณะที่ดินเป็นแนวยาวลึกเข้าไป จึงวางอาคารเรียงกัน 5 อาคาร โดย High Rise อยู่ด้านหน้า เข้า-ออกได้ง่าย มีส่วนกลางให้ใช้งานเยอะ ตัวอาคารเป็นลักษณะรูปตัว I เน้น take view 2 ฝั่งเป็นหลัก คือฝั่งแยกหัวหมาก-ศรีนครินทร์ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งฝั่งนี้จะได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งและอีกฝั่งหนึ่งคือทิศตะวันตกหรือฝั่งรามคำแหง ส่วนโซน Low Rise จะอยู่ด้านในโครงการ ออกแบบอาคารเป็นรูปตัว I และ L เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะออกแบบอาคารเป็น Single Corridor และมีจำนวนยูนิตค่อนข้างน้อย แต่ก็แลกมากับระยะเดินจากตัวอาคารไปด้านหน้าโครงการที่ไกลกว่านั่นเอง

รูปแบบห้องของโครงการจะมี 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ซึ่งฟังก์ชันห้องเป็นมาตรฐานและเป็นสัดส่วนดี โดยเฉพาะการกั้นแยกฟังก์ชันห้องด้วยกระจก ซึ่งจะทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่งไม่อึดอัด รวมถึงในห้องน้ำยังแบ่งฟังก์ชันกันได้ชัดเจนด้วยฉากกั้นกระจก  (แยกส่วนอาบน้ำ ส่วนห้องน้ำและอ่างล้างหน้า)

อ่านรีวิวแบบเจาะลึกได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3HK3

สรุปคอนโดมือหนึ่งติดรถไฟฟ้า 0 เมตร

เราได้สรุปภาพรวมของคอนโดมิเนียมมือหนึ่งที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน แบบติดรถไฟฟ้า 0 เมตรมาให้ดูกัน จะเห็นว่าแต่ละโครงการก็ออกแบบแตกต่างกันไป เพื่อเป็นตัวเลือกในการช่วยตัดสินใจว่าแต่ละโครงการมีจุดเด่นอะไรบ้าง เราจึงได้สรุปมาให้ดังนี้

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เก็บข้อมูลช่วงเดือนมกราคม 2568 ดังนั้นราคาต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

• ติด Interchange Station : เป็นโครงการคอนโดที่ติดรถไฟฟ้าถึง 2 สาย เดินทางได้ง่าย ได้แก่ The Metropolis Samrong Interchange (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) ติดกับสถานีสำโรง เชื่อมกับสายสีเหลือง ส่วน The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์) ติดกับ BTS ห้าแยกลาดพร้าว เชื่อมไปสายสีน้ำเงิน และ Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส) ติดกับ MRT สีลมและ BTS ศาลาแดงค่ะ
• คอนโดในโครงการ Mixed-use : มีอยู่  2 โครงการด้วยกัน คือ Landmark at Kasetsart TSH Station (แลนด์มาร์ค แอท เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้อง สเตชั่น) และ Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส) ทำให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในโครงการได้สะดวกสบาย
• คอนโดสูงสุด ได้วิวรอบเมือง : Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส) สูงถึง 69 ชั้น และ THE ADDRESS Siam-Ratchathewi (ดิ แอดเดรส สยาม-ราชเทวี) สูง 50 ชั้น ซึ่งทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงเปิดรับวิวเมืองได้เต็มที่เลยค่ะ
• คอนโดวิวสวน : มีอยู่ 3 โครงการด้วยกัน ได้แก่ Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส), COCO PARC (โคโค่ พาร์ค) และ The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์) ที่ทางโครงการออกแบบให้ยูนิตส่วนใหญ่ได้วิวสวนเต็มตา
• Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ : จะมีอยู่โครงการเดียวเลย คือ Origin Plug & Play Sailuat Station (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สายลวด สเตชั่น) แต่ปัจจุบันโครงการยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ
• รูปแบบการขายแบบ Leasehold : จะมีเพียงโครงการเดียวเลย ได้แก่ Dusit Residences (ดุสิต เรสซิเดนเซส) จะเป็นการเช่าสิทธิ์การอยู่อาศัยในระยะยาว โดยมีสิทธิ์ในการอยู่อาศัย 29+29 ปี รวมทั้งหมด 58 ปีค่ะ
• ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัวสุด : SCOPE Thonglor (สโคป ทองหล่อ) ที่รูปแบบยูนิตเป็นเพนต์เฮ้าส์ 100% ทั้งโครงการมีเพียง 18 ยูนิต ในราคา 200 ล้านบาท รองลงมาจะเป็น Anil Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) มีจำนวนยูนิต 222 ยูนิต
• ยูนิตเยอะสุด : Supalai Veranda Ramkhamhaeng (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง) มีจำนวนยูนิตรวม 2,073 ยูนิต บรรยากาศภายในโครงการจึงค่อนข้างคึกคัก แต่ก็แลกมากับพื้นที่ส่วนกลางที่ค่อนข้างเยอะค่ะ
• ราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่ายสุด : ด้วยราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท ได้แก่ Origin Plug & Play Sailuat Station (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สายลวด สเตชั่น) นอกจากนี้ยังมีอีก 9 โครงการติดรถไฟฟ้าที่ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 3 ล้านบาทเป็นตัวเลือกด้วยค่ะ
• แบบห้องขนาดใหญ่สุด : SCOPE Thonglor (สโคป ทองหล่อ) ที่จะมีขนาดเริ่มต้นที่ 415 ตร.ม. ด้วยรูปแบบการขายเป็นเพนต์เฮ้าส์ทั้งโครงการ
• มีห้องมุมอาคารเยอะสุด : CONNER RATCHATHEWI (คอนเนอร์ ราชเทวี) ออกแบบห้องพักอาศัยที่เป็นห้องมุมภายในโครงการมีสัดส่วนมากถึง 61% เลยทีเดียว
• แบบห้องฝ้าเพดานสูง : มีอยู่หลายโครงการที่มีห้องฝ้าเพดานสูงตั้งแต่ 4.2 – 5.9 เมตร โดย The Crest Park Residences (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์) มีฝ้าเพดานสูงถึง 5.9 เมตร รองลงมาจะเป็น THE ADDRESS Siam-Ratchathewi (ดิ แอดเดรส สยาม-ราชเทวี) ที่มีห้องฝ้าเพดานสูง 5.8 เมตร ส่วน Landmark at Kasetsart TSH Station (แลนด์มาร์ค แอท เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้อง สเตชั่น) เป็นโครงการเดียวที่เป็นห้อง Loft ทั้งโครงการ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทความรวมคอนโดมือหนึ่งที่ยังเปิดขายในปัจจุบัน ติดรถไฟฟ้าในระยะ 0 เมตร แบบทางขึ้น-ลงของสถานีรถไฟฟ้าอยู่ด้านหน้าโครงการเลย มีตั้งแต่ราคา 1 ล้านปลายๆไปถึงคอนโดหรูราคาเริ่ม 200 ล้านบาทด้วยนะคะ ใครที่มีงบไม่ถึง 3 ล้านก็สามารถเลือกซื้อได้มากถึง 10 โครงการเลยค่ะ

เราหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดเดินทางสะดวกสบาย ติดสถานีรถไฟฟ้ากันค่ะ ไว้ครั้งหน้าทาง Think of Living จะมีบทความน่าสนใจอะไรอีกบ้าง ติดตามกันต่อได้เลย 😊