ปัจจุบันนี้น้องๆนิสิต นักศึกษาหลายคนมองหาที่พักอาศัยใกล้มหาวิทยาลัยกันมากขึ้น เพราะว่าจะให้เดินทางกลับบ้านทุกวันก็ใช้เวลากับการเดินทางไปถึง 1-2 ชม. ดังนั้นการเช่าอยู่ที่พักใกล้มหาวิทยาลัยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และน้องๆในปัจจุบันก็มองหาที่พักเป็นคอนโดมิเนียมมากกว่าหอพักแล้ว ถึงแม้ว่าค่าเช่าของคอนโดมิเนียมจะมีราคาที่สูงกว่า แต่ตัวคอนโดมิเนียมจะออกแบบดูใหม่ สวยงาม ทันสมัย มีส่วนกลางที่รองรับกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันนี้และความปลอดภัยที่ดีกว่าแตกต่างจากหอพักแบบเดิมๆที่เปิดมานาน ดูเก่านั่นเอง
จากการที่น้องๆนิสิตนักศึกษาเริ่มอยู่อาศัยคอนโดกันมากขึ้น ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมองหาคอนโดมิเนียมเพื่อให้ลูกหลานตัวเองได้ที่พักดีๆ มีความปลอดภัย พ่อแม่ไม่ต้องมากังวล และสามารถไปเรียนที่มหาวิทยาลัยได้สะดวกด้วย ดังนั้นการมองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยจึงเป็นตัวเลือกแรกของเหล่าผู้ปกครอง เพราะว่าหลังจากลูกหลานเราเรียนจบแล้ว ก็ยังสามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ในอนาคตด้วย นอกจากนี้ยังกลุ่มนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสของคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยเพื่อซื้อลงทุนปล่อยเช่ากันมากขึ้นด้วยค่ะ
ซึ่งคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยก็มีอยู่หลายทำเลเลย โดยวันนี้เราจะพามาไปดูคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนกันค่ะ เพราะว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจำนวนนักศึกษามากที่สุดอันดับต้นๆ มีแนวรถไฟฟ้า BTS ตัดผ่าน ความต้องการอยู่อาศัยสูง และมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆเกิดขึ้นเยอะ ซึ่งน้องๆจะเปิดเทอมกันในเดือนสิงหาคมนี้แล้ว จึงมีนิสิตที่ต้องการย้ายที่พักใหม่ หรือน้องๆปี 1 ที่ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะอยู่โซนไหนดี
ในบทความนี้เรามาช่วย Guide ให้กับน้องๆนิสิต พ่อแม่ผู้ปกครอง และนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยนี้ โดยพาไปดูว่าแต่ละโซนมีความน่าอยู่อาศัยแตกต่างกันอย่างไร แล้วไลฟ์สไตล์แบบเราจะเหมาะกับโซนไหน อยู่คอนโดแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด ตามอ่านกันต่อได้เลยค่ะ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2486 โดยในตอนแรกเปิดสอนเฉพาะด้านการเกษตรเท่านั้น ต่อมาได้ขยายครอบคลุมไปถึงสาขาต่างๆด้วย โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบันมีวิทยาเขตถึง 5 แห่ง และมีวิทยาเขตบางเขนนี้เป็นวิทยาเขตหลักค่ะ มีพื้นที่ขนาด 848 ไร่ ประกอบด้วยส่วนงาน 15 คณะ 2 วิทยาลัย 1 สำนักงาน 4 สำนัก 4 สถาบัน และ 1 ศูนย์ จำนวนนักศึกษาทั้งปริญญาตรีไปจนถึงปริญญาเอกรวมกว่า 38,600 คน และมีจำนวนบุคลากรประมาณ 7,000 คน (จากข้อมูลสถิติของ ม.เกษตรศาสตร์ ปี 2565) ซึ่งรวมกันแล้วจะมีจำนวนคนที่เรียนและทำงานในมหาวิทยาลัยนี้มากถึง 45,600 คน
นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยได้เปิดคณะแพทยศาสตร์ สาขาวิชาเวชศาสตร์การเกษตรและชีวนวัตกรรม (Ago-Medicine and Bio-Innovation) ซึ่งจะรับนักศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2567 นี้ด้วย และมีการเปิดโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนอีกด้วย จึงทำให้มีจำนวนคนในมหาวิทยาลัยที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย
แน่นอนว่าความต้องการอยู่อาศัยใกล้มหาวิทยาลัยที่สูง ทำให้เราเห็นว่าบริเวณโดยรอบจะมีหอพักอยู่เยอะเลย แต่ปัจจุบันนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมากเพื่อรองรับกับจำนวนความต้องการที่เพิ่มขึ้นและรองรับกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับแผนที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนจะมีที่ดินอยู่ติดกับถนนใหญ่ทั้ง 4 ฝั่งเลย คือ ถนนพหลโยธินที่เป็นถนนเส้นหลักทางด้านหน้า ถนนงามวงศ์วานซึ่งเป็นถนนเส้นรองอยู่ทางด้านข้าง ส่วนถนนวิภาวดีรังสิตและถนนเลียบคลองบางเขนจะอยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัย สำหรับประตูเข้า-ออกจะมีอยู่ 6 ประตูด้วยกัน โดยประตูพหลโยธิน 1 ที่เป็นประตูหลักและประตูพหลโยธิน 2 จะอยู่ติดถนนพหลโยธิน อีก 3 ประตูจะอยู่ติดถนนงามวงศ์วานและประตูสุดท้ายจะอยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัย ติดกับถนนวิภาวดีค่ะ
แต่ละคณะก็จะอยู่กระจายกันไปแต่ละโซน แต่บริเวณกลางมหาวิทยาลัยก็จะเป็นอาคารเรียนรวมที่หลายๆคณะมาเรียนรวมกันอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาที่เลือกอยู่หอพักหรือคอนโดส่วนใหญ่ก็จะเลือกอยู่ใกล้ๆกับคณะที่เราเรียนกันจะดีที่สุดค่ะ เวลาไปเรียนหรือกลับที่พักก็สะดวก เผื่อต้องทำงานอยู่ที่คณะจนดึกก็ใช้เวลาเดินกลับได้ไม่ไกล
นอกจากนี้ยังมีหอพักของนักศึกษาและบุคลากรอีกด้วย แต่ว่าบางคนก็ไม่ชอบที่ต้องอยู่หอในที่ถึงแม้จะมีความปลอดภัยสูง แต่มีกฎระเบียบที่เข้มงวด เช่น ต้องอยู่ร่วมกับ Roommate มีเวลาในการเข้า-ออกหอพักและห้ามพาคนนอกขึ้นหอพัก เป็นต้น อีกทั้งอยู่อีกฟากของกลุ่มคณะต่างๆด้วย นักศึกษาส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะออกมาอยู่หอนอกหรือคอนโดมิเนียมกันมากกว่า สามารถเลือกที่พักใกล้คณะและใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้อีกด้วย
เส้นทางบริการรถในมหาวิทยาลัย
สาย 1
ภายในมหาวิทยาลัยจะมีรถบัสคอยบริการรับ-ส่ง นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยฟรี ตามเส้นทางต่างๆที่กำหนด โดยปัจจุบันจะมีอยู่ทั้งหมด 4 สายด้วยกัน โดยสาย 1 จะวิ่งวงอยู่วงใน, สาย 3 จะวิ่งรอบพื้นที่มหาวิทยาลัยและสาย 5 จะวิ่งไปถึงโซนหอพัก ซึ่งทั้ง 3 สายนี้จะให้บริการทุกวันเลย โดยวันจันทร์-ศุกร์จะมีรถวิ่ง 5 คันต่อสาย ตั้งแต่เวลา 6.30-18.30 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะมีจำนวนรถวิ่งเหลือเพียง 2 คันต่อสาย และบริการตั้งแต่ 7.00-17.00 น. สำหรับสายเสริมพิเศษจะให้บริการเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ตั้งแต่ 7.00-9.00 น. ไว้ใช้ในเวลาเร่งด่วนช่วงเช้าได้
ในบทความนี้เราจะพูดถึงคอนโดมิเนียมใกล้ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน ทั้งมือหนึ่งและมือสอง อายุไม่เกิน 5 ปี มีระยะห่างจากมหาวิทยาลัย 2 กิโลเมตรกัน ซึ่งจะกระจายอยู่รอบๆพื้นที่มหาวิทยาลัยเลย แต่จะมีความหนาแน่นตรงบริเวณแยกเกษตรและถนนพหลโยธินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงสุด หาซื้อของกินของใช้ง่ายและอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย คอนโดส่วนใหญ่ตรงบริเวณนี้จึงขายหมดเรียบร้อยแล้ว แต่เรายังหาซื้อ Resale กันได้อยู่นะคะ ส่วนคอนโดมือหนึ่งจะมีไปอยู่ตรงฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต ถนนเลียบคลองบางเขนและในซอยไปทางเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งจะไม่พลุกพล่านมากนัก ได้ความเงียบสงบ แต่ก็สามารถเดินทางมามหาวิทยาลัยได้ง่ายค่ะ
คอนโดมิเนียม ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน
สำหรับคอนโดมิเนียม ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน ในปัจจุบันนี้มีคอนโดมิเนียมใหม่ๆทั้ง High Rise และ Low Rise มาเปิดตัวกันมากขึ้น ที่นอกจากมารองรับนิสิตและบุคลากรในมหาวิทยาลัยแล้ว ยังเป็นทำเลใกล้ North CBD ย่านห้าแยกลาดพร้าว ศูนย์รวมธุรกิจและการเดินทางเชื่อมต่อ ทำให้มีความต้องการอยู่อาศัยบนทำเลเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเราแบ่งออกเป็น 5 โซนด้วยกันดังนี้
โซน 1 : ฝั่งถนนงามวงศ์วาน
เป็นโซนใกล้ม.เกษตรศาสตร์ที่หลายๆคนเลือกอยู่อาศัยในโซนนี้กัน เพราะว่าสามารถเดินข้ามสะพานลอยไปประตูมหาวิทยาลัยได้ถึง 3 ประตูเลยค่ะ เวลามีเรียนตอนเช้าก็เดินไปเรียนได้สบายๆ อีกทั้งยังมีโรงพยาบาลวิภาวดีอยู่ตรงเส้นถนนงามวงศ์วานนี้ด้วย ทำให้เป็นโซนที่มีทั้งหอพัก อพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมอยู่เยอะ รองรับทั้งนิสิต บุคลากรทั้งในมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาล
โซนนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านค้าและของกินต่างๆมากมาย โดยเฉพาะบริเวณแยกเกษตรที่มีตลาดอมรพันธ์ อีกทั้งมี Home Village Kaset และ Top Supermarket จึงเป็นโซนที่เดินไปเรียนสะดวก อยู่อาศัยก็สบายค่ะ
โซน 2 : ฝั่งถนนพหลโยธิน-แนวรถไฟฟ้า BTS
แน่นอนว่าคอนโดมิเนียมติดถนนใหญ่และใกล้รถไฟฟ้าเป็นที่ต้องการของนิสิต บุคลากรและพนักงานบนทำเลนี้แล้ว ยังมีความต้องการจากคนอื่นที่มองหาคอนโดในเมืองอีกด้วย
คอนโดมิเนียมในโซนนี้จึงโดดเด่นเรื่องการเดินทางสะดวกสบาย ถึงไม่มีรถส่วนตัวก็อยู่ได้สบายๆ เพราะคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็หลากหลายมีทั้งตลอด 2 ข้างทาง หาของกิน จับจ่ายใช้สอยง่าย หรือจะเดินทางไป Major รัชโยธิน และ Central ลาดพร้าว ก็ดูหนัง ช้อปปิ้งได้ง่ายๆ สำหรับคอนโดมิเนียมมือหนึ่งที่ยังเปิดขายในโซนนี้มีอยู่ 2 โครงการด้วยกันค่ะ
- Knightsbridge Kaset Society
- COBE Kaset-Sripatum
โซน 3 : ฝั่งเกษตร-นวมินทร์
นอกจากบริเวณถนนรอบม.เกษตรศาสตร์ที่มีคอนโดมิเนียมอยู่หลายแห่งแล้ว หากเขยิบออกมาหน่อยจะมีกลุ่มคอนโดอยู่ในซอยเสนานิคม 2 และถนนประเสริฐมนูกิจ ถือเป็นทำเลคอนโดที่มีราคาถูก มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควรเลยค่ะ แต่ก็จะแลกมากับระยะห่างจากมหาวิทยาลัยที่ไกลกว่า โซนนี้จึงเหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่สำหรับใครที่ไม่มีรถก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปมหาวิทยาลัยได้ง่ายอยู่ค่ะ
- Chewathai Kaset-Nawamin
- Kave Seed Kaset
โซน 4 : ฝั่งถนนเลียบคลองบางเขน
ถนนเลียบคลองบางเขนเป็นถนนตัดใหม่เชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธิน ซึ่งปัจจุบันถนนเส้นนี้ก็ได้ขยายเป็นถนน 4 เลนเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นทางลัดไปขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงสามารถเชื่อมต่อไปยัง BTS สถานีบางบัว และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางเขนและสถานีทุ่งสองห้องบนถนนวิภาวดีค่ะ ทำให้มีตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย นอกจากจะอยู่ใกล้ม.เกษตรศาสตร์แล้ว ยังอยู่ใกล้กับม.ศรีปทุมด้วย จึงมีคอนโดมิเนียมมาเปิดอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าความอุดมสมบูรณ์ของถนนเส้นนี้ในปัจจุบันยังมีน้อยกว่าโซนอื่นๆค่ะ ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในโซนนี้เพียงโครงการเดียว คือ Modiz Vault Kaset-Sripatum
โซน 5 : ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต
สำหรับโซนนี้จะมีคอนโดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับโซนอื่นๆ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มก็เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน ความอุดมสมบูรณ์ก็ค่อยๆมีมากขึ้น แต่หลักๆก็จะอิงความอุดมสมบูรณ์ไปทางฝั่งงามวงศ์วาน แล้วเดินทางไป The Mall Lifestyles บางแคได้ง่ายๆค่ะ โซนนี้จึงเหมาะกับนิสิต บุคลากรในม.เกษตร หรือเป็นพนักงานที่การไฟฟ้านครหลวง, SCB Park และตึกช้างแถวๆรัชโยธิน โดยมี 2 โครงการคอนโดมิเนียมมือหนึ่งที่ยังเปิดขายอยู่ ได้แก่
- ONEDER Kaset
- Landmark at Kasetsart TSH Station
จากภาพด้านบน ทำให้เราเห็นภาพรวมที่ตั้งและข้อมูลโครงการคอนโดมิเนียมมือหนึ่งที่เราสามารถซื้อห้องใหม่ได้ทั้ง 7 โครงการกันแล้ว โดยเราจะพาไปวิเคราะห์แต่ละโครงการกันเลย เพื่อให้น้องๆนิสิต ผู้ปกครองหรือบุคลากรในม.เกษตรศาสตร์ที่กำลังมองหาคอนโดใหม่ใกล้มหาวิทยาลัยรับเปิดเทอมกันอยู่ จะได้มีข้อมูลไว้เลือกและตัดสินใจกัน ตามอ่านกันต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
- Knightsbridge Kaset Society
- Chewathai Kaset-Nawamin
- ONEDER Kaset
- Kave Seed Kaset
- Landmark at Kasetsart TSH Station
- Modiz Vault Kaset Sripatum
- COBE Kaset-Sripatum
Knightsbridge Kaset Society
ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท (ห้อง 1 Bedroom Plus) /สร้างเสร็จปี 2563คอนโด High Rise 20 ชั้น 2 อาคาร และ 16 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตรวม 332 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต โครงการนี้โดดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยการออกแบบยูนิตต่อชั้นเพียง 6-8 ยูนิต และฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร ได้ความโปร่งโล่งของพื้นที่ ส่วนมีพื้นที่จอดรถเป็นแบบ Automatic Parking คิดเป็น 57% ที่มีจำนวนมากกว่าโครงการอื่นๆค่ะ
การวางอาคารและแปลนออกแบบเป็นอาคารพักอาศัย 3 อาคาร วางเรียงต่อกัน และอาคารจอดรถแบบ Automatic Parking 1 อาคาร ซึ่งจะอยู่แยกกับอาคารพักอาศัยชัดเจน ทำให้เราต้องเดินจากอาคารพักอาศัยไปอาคารจอดรถเพื่อขึ้นรถยนต์ค่ะ
ส่วนกลางโครงการจะออกแบบแบ่ง Lobby กันชัดเจนของแต่ละอาคาร ดูแลความปลอดภัยได้ง่ายขึ้นและมีความเป็นส่วนตัวดี แต่ก็แลกมากับขนาดของพื้นที่ส่วนกลางชั้นล่างที่ทำเป็น Lobby และฟังก์ชันอื่นๆ เล็กลงตามไปด้วย ส่วน Main Facilities จะอยู่ชั้น 16 ที่ให้มาทั้งชั้นแบบจัดเต็มเชื่อมพื้นที่ทั้ง 3 อาคารเข้าด้วยกัน ทำให้ลูกบ้านแต่ละอาคารสามารถใช้งานได้ทั่วถึง โดยประกอบด้วย Co-Working Space, Social Club, Sky Society Garden, Sky Society Fitness, Sky Society Swimming Pool
โถงทางเดินออกแบบเป็น Double Corridor มีตำแหน่งลิฟต์อยู่บริเวณตรงกลางอาคาร ทุกยูนิตจึงสามารถใช้งานได้สะดวก และออกแบบให้มีห้องเพียง 6-8 ยูนิตต่อชั้น ได้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยส่วนใหญ่จะหันไปในทิศเหนือและใต้ค่ะ
แบบห้อง
- 1 Bedroom 23.3 ตร.ม.
- 1 Bedroom 25.8 – 26.7 ตร.ม.
- 1 Bedroom 25.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 30.2 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 34.3 ตร.ม.
สำหรับจุดเด่นของห้องในโครงการนี้คือห้องฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ทำให้ได้ความโปร่งโล่งของตัวห้องที่มากขึ้น เมื่อเทียบกับห้องฝ้าเพดานสูงตามมาตรฐานทั่วไป สำหรับประเภทห้องพักอาศัยของโครงการนี้จะเน้นทำห้องขนาดไม่ใหญ่มาก จะเป็นห้อง Studio ไปจนถึงห้อง 1 Bedroom Plus โดยจะออกแบบเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom มากที่สุดค่ะ รูปแบบการขายของโครงการเป็นแบบ Fully Furnished ที่ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ค่ะ
1 Bedroom Plus ขนาด 30.2 ตร.ม.ตำแหน่งห้องนี้จะอยู่ทางทิศเหนือ ไม่มีตึกสูงมาบังวิว อีกทั้งเป็นห้องมุม มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องด้านข้างและด้านล่างตรงบริเวณห้องน้ำ จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง เมื่อเข้าห้องมาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่ครัว โดยพื้นที่ครัวจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะกับทำอาหารง่ายๆได้ รวมถึงสามารถกั้นเป็นครัวปิด กันกลิ่นรบกวนเข้ามาภายในห้องได้ด้วย สำหรับห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเป็นห้องทำงานจะได้แสงธรรมชาติเส่องเข้ามาเยอะ ทำให้ห้องดูสว่าง รวมถึงมีระเบียงตรงห้องอเนกประสงค์ให้ออกมายืนรับลมชมวิวได้ด้วยค่ะ
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ Knightsbridge Kaset Society คลิกที่นี่
Kave Seed Kaset
ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท / สร้างเสร็จปี 2567คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร รวม 600 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ ที่ถึงแม้จะอยู่ในซอย แต่ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบก็หลากหลาย รวมถึงออกแบบส่วนกลางทั้ง Outdoor และ Indoor กระจายอยู่ในทุกอาคารรวมทั้งหมด 30 รายการ ส่วนแบบห้องของโครงการมีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ซึ่งห้อง 2 Bedroom นี้มีขนาดใหญ่กว่าคอนโดมือหนึ่งอื่นๆด้วย
การวางอาคารและแปลนโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 อาคาร โดยอาคาร A ออกแบบเป็นอาคารตัว I ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการติดถนน ส่วนอาคาร B และ C ออกแบบอาคารเป็นตัว L ตั้งอยู่ด้านในโครงการ พื้นที่จอดรถมีทั้งแบบ Conventional และมีส่วนของ Auto Parking อยู่ที่อาคาร C ด้านในสุด รวมพื้นที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 32%
โถงทางเดินเป็นแบบ Double load Corridor มีช่องหน้าต่างเปิดระบายอากาศและให้แสงส่องเข้ามาตรงโถงทางเดินดูสว่าง โดยตำแหน่งห้องที่น่าสนใจมีหลายโซนเลย เราจะเริ่มที่อาคาร C กันก่อนเลย เพราะว่าอาคารนี้เป็นอาคารเดียวที่มีห้อง 2 Bedroom อยู่และจะมีอยู่ 1 ห้องต่อชั้น เป็นตำแหน่งที่ ได้วิวสวนตรงกลางแนวยาวด้วย ใกล้ๆกันจะมีห้อง 1 Bedroom ที่ไม่ติดกับเพื่อนบ้านเลย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ถัดมาที่อาคาร B จะมีห้อง 1 Bedroom ที่เป็นห้องเริ่มต้น ราคาถูกกว่าแบบห้องอื่น แต่ได้วิวสวนด้านในโครงการ ซึ่งแลกกับการอยู่ใกล้ลิฟต์จึงมีคนพลุกพล่าน แต่เราก็ใช้งานได้สะดวกด้วย และอีกตำแหน่งจะเป็นอีกฝั่งของอาคาร B ที่เป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ได้วิวสวนแนวยาวเหมือนกับห้อง 2 Bedroom เลยค่ะ แต่จะอยู่ห่างจากลิฟต์ มีระยะเดินที่ไกลกว่า
ส่วนกลาง
ส่วนกลางของโครงการนี้ออกแบบมามากถึง 30 รายการ มีทั้งพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor และ Indoor โดยพื้นที่ Court ตรงกลางเป็นพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ประกอบด้วย SEED SOCIAL SPACE, CO-WORKING SPACE, RELAX AND RECHARGE AREA และ PRIVATE SEED POD
ชั้น 1
นอกจากนี้ยังออกแบบส่วนกลางกระจายอยู่ภายใน 3 อาคาร ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้งานส่วนกลางได้อย่างทั่วถึง โดยส่วนกลางในอาคาร A จะอยู่ที่ชั้น 2 SEED CAFE, ชั้น 8 SKY SOCIAL LOUNGE และชั้น ROOFTOP เป็น SKY LIVING GARDEN / ACTIVE COURT / RELAXING SPACE / YOGA & ACTIVE LAWN
ส่วนอาคาร B จะอยู่บริเวณชั้น 2 CREATIVE SPACE / PRIVATE MEETING ROOM / SEED THINKING POD, ชั้น 3 : CO-KITCHEN / GAME AREA / VR ROOM / THEATER & KARAOKE / LIVE STUDIO และชั้น ROOFTOP THE COMMON AREA
สุดท้ายเป็นอาคาร C จะอยู่ที่ชั้น 2 ACTIVE FITNESS CLUBY / ROCK CLIMBING / TRX PRO / ICONIC POOL / JACUZZI / SEED PAVILION และชั้น 3 HEALTH STATION / CYCLING TRAINING / YOGA ROOM
Co-Working Space
แบบห้อง
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 22 .10 – 23.60 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 27.20 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอยภายใน 27.30 – 32.60 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.30 – 34.90 ตร.ม.
- 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 47.10 ตร.ม.
มีแบบห้องให้เลือกถึง 5 แบบ โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom แต่ก็มีห้อง 2 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ถึง 47.10 เมตร ซึ่งเป็นห้อง 2 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่สุดเมื่อเทียบกับคอนโดมือหนึ่งในปัจจุบัน
โครงการออกแบบการจัดวางฟังก์ชันเป็นสัดส่วนดี และทุกยูนิตได้ครัวปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเองในห้องมากๆ ความสูงของห้องอยู่ที่ 2.40 เมตร ส่วนรูปแบบการขายจะเป็น Fully Furnished ที่ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ค่ะ
1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.60 ตร.ม.
แบบห้องนี้จะเป็นแบบห้องที่มีมากที่สุดในโครงการ โดยแบ่งห้องเป็น 3 โซนกั้นแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้เราได้ความโปร่งโล่งของห้องเมื่อเปิดประตูด้วยค่ะ โดยห้องครัวแบบปิดและห้องน้ำอยู่ด้านหน้าห้อง ส่วนโซนห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลาง และโซนห้องนอนอยู่ด้านในสุดมาพร้อมพื้นที่นั่งทำงานในห้องเลย และมีระเบียงมายืนรับลมชมวิวได้ด้วย ระยะความสูงพื้นถึงฝ้า 2.40 เมตร ค่ะ
1 Bedroom Exclusive
อ่านพรีวิวโครงการ Kave Seed Kaset คลิกที่นี่
Chewathai Kaset-Nawamin
ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท / สร้างเสร็จปี 2563คอนโด High Rise 25 ช้ัน มีจำนวน 649 ยูนิตและร้านค้าอีก 5 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 5 ไร่เศษ ส่วนพื้นที่จอดรถเป็นแบบ Conventional คิดเป็น 47% รวมจอดซ้อนคัน ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนประเสริฐมนูกิจ มีระยะห่างจากประตู ม.เกษตรศาสตร์ประมาณ 1.40 กิโลเมตร จึงเป็นทำเลคอนโดที่เหมาะกับการขับรถจะสะดวกมากสุด แต่ทางโครงการก็มี Shuttle Bus คอยรับ-ส่งนะคะ
การวางอาคารและแปลนตัวอาคารเป็นรูปตัว L ออกแบบมีระยะห่างจากถนนใหญ่ ช่วยป้องกันเสียงดังรบกวนและควันจากถนนใหญ่ได้ โถงทางเดินออกแบบเป็น Double Corridor มีตำแหน่งลิฟต์อยู่บริเวณตรงกลางเยื้องไปทางฝั่งขวา ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ยูนิตฝั่งซ้ายเดินไกลกว่านิดหน่อยค่ะ ออกแบบให้ตำแหน่งยูนิตส่วนใหญ่จะหันไปในทิศเหนือและใต้ โดยห้องที่หันไปทางทิศเหนือจะได้วิวสวนตรงชั้น 5 ด้วยค่ะ
สำหรับจุดที่น่าสนใจของโครงการคือเจาะพื้นที่ตรงกลางบางส่วน ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ทำให้ลูกบ้านมีพื้นที่นั่งเล่นภายในชั้น รวมถึงทำให้ตัวอาคารไม่ทึบตันมากเกินไป ได้บรรยากาศโถงทางเดินโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยค่ะ สำหรับกรอบเส้นประเส้นสีดำที่เราวงไว้ จะเป็นโซนที่ได้ห้องมุมมากขึ้น และตำแหน่งห้องที่น่าสนใจก็จะมีอย่างห้อง 19 ที่ไม่มีผนังฝั่งไหนติดกับเพื่อนบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด
ส่วนกลาง
พื้นที่สีเขียวหลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 5 โดยมีการจัดฟังก์ชันให้ใช้งานได้ทั้ง Jogging Track และพื้นที่นั่งเล่นริมสวนแบบ Outdoor ซึ่งพื้นที่สวนนี้จะเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยชั้นบนด้วย
สำหรับ Main Facilities ของโครงการจะถูกยกไปที่ชั้น 25 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการค่ะ ทำให้ได้ชมวิวมุมสูงที่โปร่งโล่งทุกทิศ ส่วนกลางในชั้นนี้ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, Fitness, Library และ Co-Working Space
สวนสีเขียว
แบบห้อง
- 1 Bedroom Type A ขนาด 24.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Type B ขนาด 28.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Type C1 ขนาด 33.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Type C2 ขนาด 33-34..50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Type C3 ขนาด 34.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Type C4 ขนาด 33.00 ตร.ม.
- 2 BedroomType D ขนาด 44.00 ตร.ม.
รูปแบบห้องพักของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 7 แบบด้วยกัน แต่จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom เกือบทั้งหมดนะคะ มีตั้งแต่ 24-34.50 ตร.ม. และมี 2 Bedroom ที่อยู่ตำแหน่งมุมอาคาร 1 แบบ ขนาด 44 ตร.ม. ซึ่งเป็นไซซ์ใหญ่สุดของโครงการ ส่วนความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.65 เมตร ทำให้ได้ความโปร่งโล่งของห้อง และออกแบบเป็นครัวปิดติดระเบียงในทุกยูนิต ถูกใจคนที่ชอบทำอาหาร ซึ่งโครงการได้ตกแต่งครบพร้อมเข้าอยู่ค่ะ
1 Bedroom Type A 24.50 ตร.ม.แบบห้องนี้จะมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการค่ะ โดยออกแบบเป็นห้องหน้าแคบลึกที่จัดพื้นที่แต่ละฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน เหมาะกับการใช้งานจริงดี โดยออกแบบพื้นที่ครัวอยู่ติดระเบียง ที่ถึงแม้จะไม่ได้กั้นประตูบานเลื่อนมาให้เป็นครัวปิด แต่เราก็สามารถติดตั้งประตูกั้นปิดเองได้ สำหรับห้องนอนมีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก และออกแบบได้ความเป็นส่วนตัวดี เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะกั้นประตูห้องนอนเป็นประตูกระจกบานเลื่อน แต่ห้องนี้จะได้เป็นประตูบานทึบค่ะ
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ Chewathai Kaset-Nawamin คลิกที่นี่
COBE Kaset-Sripatum
ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท / สร้างเสร็จปี 2569โครงการคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น จำนวน 396 ยูนิต มีร้านค้า 1 อาคาร จำนวน 5 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 2 ไร่ พื้นที่จอดรถของโครงการคิดเป็น 36.62% รวมจอดซ้อนคัน แต่ว่าโครงการก็ตั้งอยู่ติด BTS บางบัว 0 เมตร จึงสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกค่ะ สำหรับโครงการนี้ก็ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว และจุดเด่นหลักเลยคือความโปร่งโล่งภายในห้องด้วยความสูงของฝ้าเพดานที่มากกว่าโครงการอื่น โดยห้อง Simplex สูง 2.70 เมตร และ High Ceiling ได้เพดานสูงถึง 4.70 เมตรนั่นเอง
การวางอาคารและแปลนออกแบบตัวอาคารของโครงการเป็นรูปตัว I โดยตำแหน่งโถงลิฟต์จะอยู่กลางอาคารพอดี ทำให้ห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง เดินได้ในระยะที่พอๆกัน ไม่ไกลจนเกินไป รูปแบบห้องของโครงการมีทั้ง Studio , 1 Bedroom และ 2 Bedroom โดยแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดคือ Studio ที่เป็นแบบห้องเริ่มต้นค่ะ โดยตำแหน่งอาคารจะวางขนานไปกับทิศตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้มีบางห้องที่อาจโดนแดดช่วงบ่าย สำหรับกรอบสีฟ้าที่เราวงไว้จะเป็นห้อง 2 Bedroom ที่มีเพียง 1 ยูนิตต่อชั้น และเป็นห้องมุมที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเช่นกัน
ส่วนกลางส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น Ground Floor และ ชั้น 23 ที่เป็นชั้นบนสุดของโครงการค่ะ โดยส่วนกลางตรงชั้น Ground Floor จะประกอบด้วย The Cloud Lobby , Co – Working Space , Reading Lounge , Group Study Zone และ Meeting Room ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อออกมาเจอกับพื้นที่สีเขียวอย่าง Sensory Garden เพิ่มความร่มรื่น ผ่อนคลายให้กับโครงการ ซึ่งออกแบบ Landscape ด้วยการใช้เส้นโค้งดูลื่นไหล มีพื้นที่นั่งเล่นมาให้หลายจุด มีลานกลางแจ้งใช้เป็น Amphitheater ได้
ชั้น 23 ที่เป็นชั้นบนสุดของอาคาร จะออกแบบเป็น Facilities แบบยกชั้น เปิดรับวิวเมืองได้ทั่วทิศ รองรับการใช้งานได้ทั้ง Indoor และ Outdoor โดยฟังก์ชันประกอบด้วย Skyline Pool , Kids Pool , Sky Fitness , Cloud Nine Club , Yoga Room , Party Room , Above The Cloud Garden , Sunset Lounge และ Pool Lounge
แบบห้อง
Simplex 2.70 เมตร
- Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 23.00 – 26.00 ตร.ม.
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.00 ตร.ม.
- 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 46.80 ตร.ม.
High Ceiling 4.70 เมตร
- High Ceiling Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 23.50 ตร.ม.
- High Ceiling 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.17 ตร.ม.
- High Ceiling 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 45.94 ตร.ม.
รูปแบบห้องทั้ง Studio , 1 Bedroom และ 2 Bedroom ที่ออกแบบเป็นฝ้าเพดานของห้อง Simplex สูง 2.70 เมตรและห้อง High Ceiling สูง 4.70 เมตร ซึ่งถือว่ามีความสูงฝ้าเพดานทั้งห้องแบบ Simplex และ High Ceiling มากที่สุดเมื่อเทียบกับคอนโดมือหนึ่งในปัจจุบันค่ะ ทำให้ได้ความโปร่งโล่งของห้อง อยู่ในห้องก็ไม่รู้สึกอึดอัด โดยคนที่เน้นความคล่องตัว ก็เลือกเป็นห้อง Studio หากใครที่อยู่ร่วมกับ Roommate หรือครอบครัวก็สามารถดูเป็นห้อง 2 Bedroom ได้ด้วยค่ะ ส่วนรูปแบบการขายเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in มีพื้นที่เก็บของมาให้เยอะ และสามารถพับเก็บปรับเปลี่ยนได้ ใช้งานยืดหยุ่น
Studio ขนาด 26.54 ตร.ม.เราพามาดูแบบห้องเริ่มต้นของโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะสุดกันค่ะ ออกแบบเหมาะอยู่อาศัยคนเดียวได้สบายๆเลย ไม่ค่อยมีการกั้นกำแพงภายในห้อง ทำให้ได้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ประกอบกับฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่งดีมากเลย แบบห้องนี้มีจุดเด่นหลักที่ Walk – in Closet กั้นแยกเป็นสัดส่วน แตกต่างกับห้อง Studio ของโครงการอื่นๆ นอกจากนี้ยังได้พื้นที่เก็บของเป็นตู้และชั้นวางหลายตำแหน่ง พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารที่พักเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับห้อง
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ COBE Kaset-Sripatum คลิกที่นี่
Modiz Vault Kaset-Sripatum
ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท / สร้างเสร็จปี 2569ตัวโครงการแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ประกอบด้วยอาคาร A สูง 21 ชั้นที่เป็นอาคารหลัก และอาคาร B สูง 7 ชั้น ซึ่งเป็นอาคาร Pet-Friendly แห่งแรกบนทำเลเลยค่ะ สำหรับห้องพักอาศัยรวมทั้งหมด 798 ยูนิต ที่ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ในย่าน แต่ก็แลกมากับพื้นที่ส่วนกลางที่มีมากถึง 60 รายการ พร้อมส่วนกลางรองรับการใช้งาน 24 ชม. และส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย
การวางอาคาร แปลนและส่วนกลางจาก Master Plan จะเห็นตัวอาคารที่แบ่งออกเป็น 2 ตึก โดยอาคาร B ที่เป็นอาคาร Pet-Friendly จะอยู่ด้านหน้าโครงการ พร้อมยูนิตร้านค้าทั้งหมด 11 ยูนิต ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านโดยเฉพาะคนที่พักอยู่อาคาร B ส่วนอาคาร A ที่อยู่ด้านในจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตัวโครงการมีที่จอดรถคิดเป็น 37% แบบไม่รวมซ้อนคัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ภายในอาคาร A เป็นหลัก แต่คนที่อยู่อาคาร B ก็สามารถเดินข้ามสะพานเชื่อมไปที่จอดรถได้สะดวกค่ะ สำหรับส่วนกลางของโครงการเยอะสุดในย่าน มีมากถึง 60 รายการ โดยออกแบบกระจายอยู่ทั้ง 2 อาคาร ลูกบ้านใช้งานได้ทั่วถึง แต่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่อาคาร A ส่วนอาคาร B จะเน้นเป็นส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงค่ะ
เราจะเริ่มที่อาคาร B กันก่อนนะคะ ทางโครงการออกแบบตัวอาคารเป็นตัว I เรียงห้องหันไปทางทิศเหนือและใต้ โดยโถงลิฟต์จะอยู่ตรงด้านซ้ายของภาพ ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ทางฝั่งขวาจะมีระยะเดินที่ไกลกว่า นอกจากนี้เราได้วงตำแหน่งห้องที่น่าสนใจมาด้วยค่ะ
อย่างห้องที่วงกรอบสีแดงจะเป็นห้องที่หันหน้าไปด้านในโครงการ ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องที่หันหน้าออกมายังถนนใหญ่ด้านหน้า ส่วนห้องที่วงกรอบสีน้ำเงินเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ที่จะมีอยู่เพียง 2 ห้องต่อชั้น จึงเหมาะกับคนที่อยากได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มเติม หรืออยู่กับ Roommate/คนในครอบครัว ได้พื้นที่แบบสบายๆ ไม่อึดอัด
ชั้น 3 ของอาคาร B จะเป็นโซนสำหรับนั่งทำงานอ่านหนังสือ ประกอบด้วย Co-Living Space / Tutor Room และ Vault Pod อีกทั้งยังเป็นชั้นที่มีสะพานทางเชื่อมต่อไปยังอาคาร A เพื่อไปพื้นที่จอดรถและใช้งาน Main Facilities ได้สะดวก
ส่วนชั้น 5 ของอาคาร B จะเป็น Facilities หลักสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ออกแบบทั้งพื้นที่ indoor และ Outdoor โดยจัดเป็นฟังก์ชัน Pet Playhouse ที่พาน้องๆมาเล่นในห้องแอร์เย็นๆ ส่วนพื้นที่ Outdoor จะเป็นโซนที่ให้พาน้องๆออกมาเดินเล่น ทำกิจกรรม
ต่อมาเรามาดูชั้นพักอาศัยของอาคาร A กันบ้างนะคะ ตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว H ซึ่งจะมีคอร์ดของ Facilities อยู่ 2 จุดใหญ่ๆ ทำให้ห้องพักทุกห้องที่หันหน้าเข้ามาด้านในจะมองเห็นวิวสระสวยๆได้หมดเลย โดยทั้ง 2 คอร์ดนี้จะมีความแตกต่างกันคือฝั่งของ Sunrise จะมีความคึกคัก ส่วนฝั่ง Sunset จะเน้นเป็นจุดนั่งชิล ดูพระอาทิตย์ตกดิน ก็เลยจะมีความเงียบสงบมากกว่า แต่ก็จะโดนแดดร้อนในช่วงบ่าย-เย็นตามชื่อ Sunset เลยค่ะ
ตำแหน่งห้องที่น่าสนใจจะมีตรงกรอบสีแดงเป็นห้องพักที่หันหน้ารับวิวส่วนกลางด้านใน มีผนังติดกับเพื่อนบ้านแค่ 1 ด้านหรือไม่ติดกับห้องอื่นเลย จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วน
กรอบสีฟ้าเป็นห้องที่หันหน้ารับวิวส่วนกลางและรับวิวไกลๆด้านนอกโครงการด้วย ไม่เหมือนกับฝั่งสีแดงที่ยังอาจต้องหันหน้าเจอเพื่อนฝั่งตรงข้าม และตำแหน่งสุดท้ายคือห้องที่เราวงกรอบสีส้มเป็นห้องที่หันหน้ารับวิวภายนอกโครงการ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิวเปิดโล่ง
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร A จะมีอยู่ที่ชั้น 4 และ 21 โดยเราจะพามาดูชั้น 4 กันก่อนค่ะ จะมีทั้งฟังก์ชัน Indoor และ Outdoor ให้ใช้งาน โดยด้านนอกอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำ และยังมีมุมนั่งเล่นต่างๆกระจายอยู่ทั่วบริเวณเลย ส่วนฟังก์ชันภายในอาคารที่โดดเด่นที่สุดคือ Co-Working Space ที่เปิดให้ใช้งานได้ 24 ชม. อีกทั้งยังมี Fitness ห้องเกม ห้องดูหนัง และห้องนวด+ห้องแต่งหน้าเสริมสวย
ส่วนกลางของอาคาร A อีกชั้นคือชั้น 21 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโครงการ ได้วิวเมืองโดยรอบได้เต็มตา จะมีพื้นที่ให้ใช้งานทั้งแบบ Outdoor ที่เป็นสระว่ายน้ำและพื้นที่นั่งเล่นต่างๆ ส่วนพื้นที่แบบ Indoor ก็จะเน้นเป็น Sky Lounge / Social Club และพื้นที่สันทนาการต่างๆ และมีพื้นที่แบบ Semi-Outdoor ด้วย ที่เราสามารถมานั่งรับลมชมวิวได้ไม่ร้อน มีหลังคาคลุมให้เรียบร้อยเลย
แบบห้อง
Simplex 2.60 เมตร
- 1 Bedroom (S) ขนาด 22.00 – 24.20 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 24.20 – 24.90 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26.20 – 27.10 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra ขนาด 27.90 – 28.70 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 34.40 – 35.50 ตร.ม.
Vertical Suite 4.60 เมตร
- 1 Bedroom (S) VS ขนาด 22.6 ตร.ม. + พื้นที่ชั้นลอย 9.3 ตร.ม.
- 1 Bedroom VS ขนาด 24.4 – 24.5 ตร.ม. + พื้นที่ชั้นลอย 9.4 – 10 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive VS ขนาด 26.2 – 27 ตร.ม. + พื้นที่ชั้นลอย 10 – 10.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra VS ขนาด 27.9 ตร.ม. + พื้นที่ชั้นลอย 14.3 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus VS ขนาด 34.4 ตร.ม. + พื้นที่ชั้นลอย 19 ตร.ม.
แบบห้องของโครงการส่วนใหญ่จะเน้นไปทางห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งเหมาะกับการอาศัย 1 – 2 คน อีกทั้งยังมีแบบห้องฝ้าเพดานสูง (Vertical Room) และห้องสำหรับ Pet Friendly เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ด้วยค่ะ ออกแบบมีครัวปิดทุกห้องสามารถทำอาหารทานเองได้ รูปแบบการขายก็เป็นแบบ Fully Furinshed ประหยัดงบตกแต่งห้องได้เยอะ เราเพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและของใช้ส่วนตัวบางอย่างก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
นอกจากนี้ห้องพักอาศัยในอาคาร B จะมีความพิเศษคือการออกแบบและเพิ่มฟังก์ชันสำหรับสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วย เช่น เพิ่มประตูเข้า-ออกของสัตว์เลี้ยง และทำกรงเหล็กให้ตรงระเบียง เป็นต้น ตอบโจทย์คนมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว และไม่ต้องเสียเวลาไปทำเพิ่มนั่นเอง
1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.แบบห้องนี้จะเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการที่มีจุดเด่นเรื่องความกว้างขวางและโปร่งโล่ง เพราะว่ามีทั้งห้องที่กั้นด้วยกระจกดูกว้างขวางโปร่งโล่งกับห้องที่กั้นผนังทึบเป็นส่วนตัว สำหรับแบบห้องนี้จะกั้นฟังก์ชันด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ได้บรรยากาศของห้องที่กว้างขวาง ส่วนห้องครัวก็เป็นแบบปิดอยู่ติดกับระเบียง สามารถทำอาหารเองได้ ไม่มีกลิ่นลอยเข้าไปภายในห้อง
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ Modiz Vault Kaset-Sripatum คลิกที่นี่
Landmark at Kasetsart TSH Station
ราคาเริ่มต้น 3.67 ล้านบาท / สร้างเสร็จปี 2568เป็นโครงการแบบ Mixed-use แห่งแรกบนถนนวิภาวดีรังสิต อยู่ติดกับสะพานลอยทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีทุ่งสองห้อง ในระยะ 0 เมตร โดย Mixed-use นี้มีทั้งหมด 3 อาคาร ประกอบด้วย Branded Residence, อาคารจอดรถ และคอนโดมิเนียม ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอยู่ภายในโครงการครบครันเลย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า/ร้านอาหาร อีกทั้งยังมีบริการโรงแรมให้ใช้งานด้วย ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ในคอนโดนี้ก็สามารถซื้อของจับจ่ายใช้สอยได้ภายในโครงการเลยค่ะ
คอนโดนี้เป็นแบบ High Rise สูง 19 ชั้น และมีเพื่อนบ้านเพียง 236 ยูนิตเท่านั้น เมื่อเทียบกับคอนโดมือหนึ่งที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุด อีกทั้งยังเป็นคอนโดมือหนึ่งเพียงโครงการเดียวที่ออกแบบเป็นห้อง Loft ฝ้าเพดานสูงทั้งโครงการ โดยมีความสูงอยู่ที่ 4.15-4.90 เมตร
การวางอาคารและแปลนจาก Master Plan จะเห็นว่ามีการวางคอนโดมิเนียมเอาไว้ด้านในสุด ซึ่งเป็นอาคารที่ต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการนำอาคารจอดรถมาคั่นไว้ตรงกลาง ทำให้คนจากอาคาร Branded Residence และคอนโดสามารถมาใช้งานได้สะดวก จอดรถได้ 166 คัน หรือคิดเป็น 38% (แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 135 คัน และที่จอดแบบปกติ 31 คัน ใช้งานร่วมกับ Branded Residence)
การออกแบบตัวอาคารจะมีลักษณะเป็นรูปตัว L จึงไม่มีห้องไหนที่บังวิวกันเลย และยังวางโถงลิฟต์เอาไว้ตรงกลาง ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก รวมถึงยังมีการเปิดช่องแสงและช่องระบายอากาศตรงริมทางเดิน ทำให้บริเวณโถงทางเดินมีความสว่างและอากาศถ่ายเทได้ดี ส่วนตำแหน่งห้องที่น่าสนใจจะมีตรงกรอบสีแดงที่บริเวณหน้าห้องจะได้เป็นโถงทางเดินแบบ Single Corridor ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนห้องที่เราวงกรอบสีฟ้าเป็นห้องมุมอาคารที่ติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียว ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านหน้าห้องบ่อยๆ จึงไม่มีเสียงรบกวนที่อาจดังมาจากห้องข้างๆ และกรอบสีเขียวเป็นเพียงห้องเดียวที่ไม่ติดกับห้องอื่นเลย จึงเป็นตำแหน่งห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุดค่ะ
ส่วนกลางสำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 ประกอบด้วย Retail Shop และ Lobby ที่สามารถไว้รับรองแขก และอีกชั้นคือชั้น 19 จะเป็นชั้น Main Facilities ที่ประกอบด้วยฟิตเนสและสระว่ายน้ำ รวมถึงยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งาน ซึ่งส่วนกลางอาจไม่หลากหลายเท่าโครงการอื่น แต่ก็ให้มาครบครัน นอกจากนี้เรายังสามารถมาใช้งานในส่วนของ Branded Residence ด้านหน้าได้ด้วยค่ะ
แบบห้อง
- Flexi ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 25 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 38 ตร.ม.
- Grand ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 29.5 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.5 ตร.ม.
โครงการนี้ออกแบบเป็นห้อง Loft ฝ้าเพดานสูงทั้งโครงการ โดยมีความสูงอยู่ที่ 4.15 เมตร ในแบบห้องปกติ และ 4.9 เมตร ในแบบห้อง Duplex ค่ะ ตัวห้องออกแบบมีฟังก์ชันห้องอเนกประสงค์ทุกแบบ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเพิ่มได้ มีห้องน้ำทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ใช้งานได้สะดวก และลดทอนฟังก์ชันครัวออกไป เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอื่นๆให้กว้างขวางมากขึ้น แต่ก็เตรียมระเบียงขนาดใหญ่ไว้เผื่อทำเป็นครัวได้ ส่วนรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted โดยให้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะตู้เสื้อผ้า Built-in / เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง / Wallpaper / กั้นห้องนอนที่ชั้นบน และได้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบ
Grand ขนาดพื้นที่โฉนด 29.5 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.5 ตร.ม.จากที่บอกไปนะคะว่าโครงการนี้จะออกแบบเป็นห้อง Loft หรือห้องฝ้าเพดานสูง 4.15 เมตร ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอย 2 ชั้น ได้บรรยากาศคล้ายอยู่บ้านเลยค่ะ
ออกแบบพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ พร้อมห้องอเนกประสงค์และห้องน้ำ แต่จะไม่มีส่วนของครัวมาให้นะคะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราก็เน้นรับประทานอาหารที่มหาวิทยาลัยกับเพื่อนๆ กินที่ร้านอาหารหรือสั่ง Delivery กันมากขึ้น การลดส่วนครัวไปจึงทำให้ได้พื้นที่ภายในห้องเพิ่มมากขึ้น แต่ทางโครงการก็คิดมาเผื่อสำหรับคนที่อยากทำอาหารง่ายๆได้ ก็เลยออกแบบพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่เราสามารถปรับเป็นพื้นที่ครัวได้เลย อีกทั้งไม่มีกลิ่นอาหารลอยเข้าไปในห้องด้วย ส่วนห้องนอนจะอยู่บนชั้น 2 ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงยังมี Powder Room ให้ใช้งานที่ชั้นบนด้วย ทำให้เวลาต้องเข้าห้องน้ำตอนดึกก็ไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบ่อยๆค่ะ
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ Landmark at Kasetsart TSH Station คลิกที่นี่
ONEDER Kaset
ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท (ห้อง 1 Bedroom) / สร้างเสร็จปี 2565โครงการนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ครึ่ง ประกอบด้วย 3 อาคาร สูง 8 ชั้น 585 ยูนิต และมี 7 ร้านค้า ถือเป็นคอนโด Low Rise ติดถนนใหญ่งามวงศ์วาน แตกต่างกับคอนโด Low rise ส่วนใหญ่ที่มักจะอยู่ในซอยมากกว่าค่ะ ทำให้ที่ตั้งของคอนโดนี้ได้เปรียบกว่าในเรื่องการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัยเมื่อต้องเข้า-ออกโครงการในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังเป็นคอนโดมือหนึ่งที่ยังเปิดขายอยู่ที่ใกล้กับประตูของม.เกษตรศาสตร์มากที่สุด โดยมีระยะห่างจากประตูวิภาวดีรังสิตประมาณ 950 เมตรค่ะ
การวางอาคารและแปลนภายในโครงการถูกแบ่งออกเป็น 3 ตึก วางรอบที่ดินเกิดเป็น Court หรือพื้นที่ว่างตรงกลางระหว่างอาคาร ซึ่งเป็นแนวคิดการออกแบบที่ดีสำหรับโครงการ Low rise เพราะว่าเราจะได้ใช้พื้นที่ Court นี้จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางและสวนให้กับโครงการ ลูกบ้านมาใช้งานได้ง่าย และยังเป็นวิวสวยงามให้กับห้องพักในโครงการนั่นเอง
ออกแบบโถงทางเดินหน้าห้องพักเป็นแบบ Double load corridor มีห้องพักอาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่งทางเดินเลย บริเวณปลายทางเดินเป็นหน้าต่างระบายอากาศ และช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับบริเวณทางเดิน ส่วนตำแหน่งของห้องจะวางไว้คละๆกันทั้ง Studio และ 1 Bedroom อีกทั้งมีห้องที่หันหน้าเข้าสู่ Court กลางโครงการ แต่จะมีห้องที่พิเศษหน่อย เช่น 1 Bedroom plus จะเป็นห้องที่หันหน้าเข้าสู่ court ตรงกลาง และอยู่ที่ตำแหน่งมุมอาคารเท่านั้นค่ะ ส่วนห้องที่เราว่าน่าสนใจคือห้อง Studio ที่อยู่ด้านในสุดของอาคาร B ที่มีการแชร์ผนังกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว จึงเป็นห้องราคาดีที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง นอกจากนั้นห้อง Studio ที่หันหน้าได้วิวสวนโครงการก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกันค่ะ
ส่วนกลาง
พื้นที่ส่วนกลางขนาดมากกว่า 2 ไร่ โดยมีทั้ง 3 อาคาร ภายใน+Rooftop ที่ใช้เชื่อมกันได้ทุกอาคาร และ สวนขนาดใหญ่ 1 ไร่อยู่ระหว่างอาคาร
ถ้าดูจากผังจะเห็นว่าชั้น 1 ของโครงการนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเลยค่ะ จะไม่มี Lobby ที่ใหญ่โตโอ่อ่าอะไรนะคะ ใครที่อยากได้ที่นั่งเล่นก็จะมีส่วนที่เป็น Co-living, Co-working และ Co-kitchen ให้เลือกใช้งานที่ชั้น 2 แทน ส่วนตรงกลางระหว่างทั้ง 3 อาคารจะเป็นสวนขนาดใหญ่มีสนามเด็กเล่น, pavillion กลายเป็นวิวสวยงามให้กับห้องพักที่หันเข้าสู่ภายในโครงการนี้ และเป็นส่วนกลางที่มาใช้งาน เดินออกกำลังกายได้ค่ะ
Main Facilities ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร และจะเน้นอยู่ที่อาคาร B เป็นส่วนใหญ่ โดยจะมีสระว่ายน้ำอยู่ที่ระดับเดียวกับชั้น 2 อยู่ติดกับอาคาร B เลย ส่วนภายในอาคารนั้นจะแบ่งเป็นอาคาร A มี Co-working area, อาคาร B มี Co-kitchen, Cinema room, ห้องน้ำ และ Fitness ส่วนอาคาร C มี Co-living area ค่ะ สำหรับชั้น 3 จะมีส่วนกลางอยู่ 1 รายการ คือ Dance Studio ด้วยค่ะ
ส่วนกลางสุดท้ายจะอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าค่ะ โดยที่ชั้นดาดฟ้านี้เองจะมีสะพานเชื่อมระหว่าง 3 อาคารเข้าด้วยกันนะคะ ทำให้ลูกบ้านในแต่ละอาคารสามารถใช้งานส่วนกลางได้อย่างทั่วถึง มีฟังก์ชันทั้ง มุมนั่งเล่น ทำ BBQ เล่น yoga หรือจะวิ่งออกกำลังกายก็ได้ค่ะ
แบบห้อง
- Studio ขนาด 21.50 – 23.55 ตร.ม.
- Studio Exclusive ขนาด 23.75 – 25.35 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 27.95 – 28.85 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.00 – 36.05 ตร.ม.
โครงการนี้ก็เน้นขายห้องขนาดเล็กค่ะ เพราะมีแต่แบบ Studio และ 1 Bedroom เท่านั้น เหมาะกับการอยู่ 1-2 คน โดยห้อง Studio exclusive จะต่างกับ Studio ตรงที่มีโซนห้องแต่งตัวเพิ่มขึ้นมา ทำให้ได้ฟังก์ชันภายในห้องที่แยกเป็นสัดส่วนมากขึ้น ส่วนห้อง 1 Bedroom plus ก็จะต่างจาก 1 Bedroom ตรงที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมา และตัวห้องนอนก็จะเป็นห้องนอนปิดแยกเป็นสัดส่วนนั่นเอง โดยโครงการนี้จะขายเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์หลักๆมาครบเลย
1 Bedroom ขนาด 28.85 ตร.ม.แบบห้องนี้ถือว่าจัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดีเลยค่ะ โดยตัวห้องถ้าเราดูจากแปลนก็จะแยกเป็นสองฝั่งซ้าย-ขวา หลังจากเข้าห้องมาจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นและกินข้าว ถัดลึกเข้าไปจะเป็นห้องนอนและโซนแต่งตัวหรือ walk-in closet อยู่ภายในตัว พร้อมพื้นที่นั่งทำงานและระเบียงส่วนตัว ส่วนทางฝั่งขวาของห้องจะเป็นพื้นที่ service อย่างครัว ระเบียงและห้องน้ำค่ะ เวลามีเพื่อนมานั่งเล่นที่ห้องก็สามารถเข้าใช้ห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน เจ้าของห้องก็ไม่เสียความเป็นส่วนตัวค่ะ และแบบห้องนี้เหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารจริงจังมากนักด้วย เพราะว่าถึงแม้จะได้ครัวปิด แต่ว่าไม่สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างระบายอากาศไปด้านนนอกได้ ต้องเครื่องดูดควันในการกำจัดกลิ่นนั่นเอง
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ ONEDER Kaset คลิกที่นี่
รวมคอนโดมิเนียมมือสอง ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกเหนือจากคอนโดมือหนึ่งที่ยังเปิดขายอยู่แล้ว ก็ยังมีคอนโดมือสองรอบม.เกษตรศาสตร์ให้เลือกอยู่เยอะเลยค่ะ ซึ่งเราได้รวบรวมคอนโดที่สร้างเสร็จมาไม่เกิน 5 ปี ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านตามรายละเอียดด้านล่างนี้ค่ะ
- So Origin Kaset Interchange
- THE MUVE Kaset
- Miti Chiva Kaset Station
- Phyll Phahol 34
- CIELA Sripatum
So Origin Kaset Interchange (สร้างเสร็จปี 2567)
คอนโดมิเนียม High rise สูง 23 ชั้น จำนวนยูนิต 300 ยูนิต + 1 ร้านค้า ส่วนพื้นที่จอดรถคิดเป็น 50% รวมซ้อนคัน โดยจุดเด่นของโครงการนี้คือทำเลที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมแยกเกษตร จุดตัดของถนนหลัก 3 สายทั้งถนนพหลโยธิน, ถนนประเสริฐมนูญกิจ และถนนงามวงศ์วาน อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้ประตูม.เกษตรศาสตร์มากที่สุด เพราะว่ามีทางม้าลายอยู่ด้านหน้าโครงการ ให้เดินข้ามไปเรียนหรือทำงานกันได้ง่ายๆเลยนั่นเอง ส่วนรูปแบบห้องก็เป็นห้องฝ้าเพดานสูงทั้งโครงการ ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบายในการไปมหาวิทยาลัย ตัวห้องเป็นสัดส่วน ได้ความโปร่งโล่งเหมือนอยู่บ้าน รวมถึงมีส่วนกลางให้ใช้งานได้ครบครันค่ะ
ตัวอาคารออกแบบเป็นตัว I ที่หันขนานกับเส้นพหลโยธิน ทำให้ห้องอาศัยที่หันเข้าถนนเส้นนี้ได้วิวของม.เกษตรศาสตร์ที่มีพื้นที่สีเขียวไปนานๆ เพราะเวลาเราเลือกห้องคอนโดที่เราคาดว่าเราจะได้วิวที่สวยงามนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่พาผ่านไปสักพักอาจจะมีอาคารตึกสูงมาบังวิวเราได้ ดังนั้นด้วยพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ไม่มีอาคารตึกสูงและไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ จึงทำให้ห้องพักได้วิวที่ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเราจะได้วิวที่สวยงามนี้ต่อๆไปค่ะ
โถงทางเดินเป็นแบบ Double load corridor ยกเว้นห้องตำแหน่ง 01-04 ที่จะได้เป็น Single load corridor ไม่มีห้องอยู่ตรงข้าม โดยห้องที่เรามองว่าน่าสนใจสุดคือ 1 Bedroom Plus ตำแหน่ง 01 ที่นอกจากจะไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ยังเป็นห้องมุมอาคาร เปิดรับวิวกว้าง และอยู่ใกล้โถงลิฟต์ ใช้งานสะดวกด้วย นอกจากนั้นยังมีห้อง 1 Bedroom Plus ตำแหน่ง 12 หันไปทางทิศเหนือ ไม่โดนแดดร้อนและ 1 Bedroom ตำแหน่ง 14 ที่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียว ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ว่าทั้ง 2 ตำแหน่งก็จะมีระยะห่างจากโถงลิฟต์มาหน่อยค่ะ
ส่วนกลาง
ชั้น 22
ส่วนกลางของโครงการกระจายอยู่ที่ชั้น 1, 22, 23 และชั้นดาดฟ้า มีทั้ง Lobby, Live & Streaming Room, Co-Working Space, Private Working Room, Sky Lounge & Bar, Dressing & Manicure Room และ Private Spaโดยจะเน้นส่วนกลางอยู่ชั้นสูงๆ เพื่อได้วิวเมืองในมุมสูงนั่นเอง สำหรับ Main Facilities ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 23 เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมสระ Aqua therapy และ Fitness ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สีเขียวให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนชมวิวหรือวิ่งออกกำลังกายได้ค่ะ
แบบห้อง
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 25.10 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 33.60 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 47 ตร.ม.
รูปแบบห้องของโครงการนี้จะเป็นห้อง Loft ฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร ทั้งโครงการเลยค่ะ จึงได้ความโปร่งโล่งดี ทุกยูนิตได้ครัวปิด พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ มีระเบียงและบนชั้นลอยมีมุมทำ Walk-in Closet ได้ด้วย
1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 25.10 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายใน 37 ตร.ม.เป็นห้องที่มีความเป็นสัดส่วนดี เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับห้องครัวแบบปิดขนาดใหญ่ดีเลยค่ะ ด้านข้างจะเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านในห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่แบบฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร พร้อมกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ได้ความโปร่งโล่ง พร้อมมีมุมนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้วย ส่วนพื้นที่ชั้นลอยจะเป็นพื้นที่เตียงนอน พร้อมมุมตู้เสื้อผ้าที่ทำเป็น Walk-in Closet ได้ รวมถึงเราสามารถกั้นพื้นที่ชั้นลอยนี้เป็นห้องปิดได้เหมือนกัน จะได้กั้นแอร์ไม่ไหลลงไปด้านล่างและได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นด้วย
อ่านพรีวิวโครงการ So Origin Kaset Interchange คลิกที่นี่
THE MUVE Kaset (สร้างเสร็จปี 2566)
คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร 248 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ถือเป็นคอนโดมิเนียมที่มีขนาดเล็ก จำนวนยูนิตไม่มาก มีหนาแน่นน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย อีกทั้งตั้งอยู่ในซอย ซึ่งเดิมทีเป็นย่านชุมชน Apartment และหอพัก จึงได้ความเงียบสงบในการอยู่อาศัย และไม่เปลี่ยวจนเกินไปสามารถเดินเข้า-ออกซอยได้ตลอด มีรถสาธารณะทั้งวินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่วิ่งผ่านไปมาตลอด จึงเป็นคอนโดที่ได้ความเป็นส่วนตัว และอยู่ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์เพียง 800 เมตร และใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานี ม.เกษตรศาสตร์ด้วย
การวางอาคารและแปลน
ออกแบบตัวอาคารเป็นตัว L โดยมีโถงลิฟต์อยู่ทางทิศใต้ของอาคาร ทำให้ห้องอีกฝั่ง ทำให้มีระยะเดินที่ไกลกว่า ห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom 23.75 – 24.75 ตร.ม. โดยจะมีมุมซ้ายบนของอาคาร (เส้นประสีแดง) เป็นห้อง 1 Bedroom 28.00 ตร.ม. ซึ่งจะมีแค่ชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ส่วนห้องที่เราวงกรอบสีชมพูจะเป็นห้องที่หันออกทางฝั่งทิศใต้และทิศเหนือ เป็นทิศที่แดดไม่ร้อน ไม่ส่องโดนห้องโดยตรง รวมถึงอยู่ใกล้กับลิฟต์และมีจำนวนยูนิตรวมตรงโซนนี้ไม่มาก ทำให้เราขึ้น-ลงอาคารได้สะดวก และมีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
ส่วนกลาง
สำหรับส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 , 8 และชั้นดาดฟ้า ซึ่งการจัดส่วนกลางไว้ชั้นสูงๆแบบนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะเป็นความสูงที่พ้นจากระยะสายตาของเพื่อนบ้านโดยรอบ รวมถึงเป็นการแยกพื้นที่ส่วนกลางและโซนห้องพักอาศัยเป็นสัดส่วนไม่รบกวนกันค่ะ
ส่วนกลางหลักๆของชั้น 1 จะเป็นโซนต้อนรับประกอบด้วย Lobby ที่จัดแบบ Semi-Outdoor Lobby สามารถเดินเชื่อมต่อไปโถงลิฟต์ได้ รวมถึงมี Laundry room ซัก-อบผ้า และห้องน้ำส่วนกลางในชั้นนี้ นอกจากนี้ยังมีการจัดสวนปลูกต้นไม้โดยรอบโครงการเพิ่มความร่มรื่นด้วยค่ะ
สำหรับชั้น 8 นี้จะมีทั้งส่วนพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางบางส่วน ห้องพักในชั้นนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบใช้ส่วนกลางบ่อยๆค่ะ ซึ่งส่วนกลางในชั้นนี้จะประกอบไปด้วย ห้อง Co-Working Space , Co-Living Space และห้องออกกำลังกาย Gym
ส่วนชั้น Rooftop หรือชั้นดาดฟ้าของตัวอาคาร จะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวของโครงการ จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor อย่าง Outdoor Co-Working Space , Private Sound Pod และ Release Power zone ให้มานั่งพักผ่อนกันได้
แบบห้อง
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 21.50 – 21.75 ตร.ม.
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 23.75 – 24.75 ตร.ม.
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 28.00 ตร.ม.
แบบห้องของโครงการเน้นเป็นห้องขนาดเล็ก เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน โดยจะเป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งโครงการ แต่มีขนาดและการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในที่แตกต่างกันออกไป สามารถแบ่งขนาดเริ่มตั้งแต่ 21 ตารางเมตร ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่ที่สุด 28 ตารางเมตร และโครงการนี้ขายในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ ไม่ต้องเผื่องบแต่งห้องเพิ่มเติม รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาก็ออกแบบให้เก็บของได้เยอะด้วยค่ะ
1 Bedroom ขนาด 23.75 – 24.75 ตร.ม.
ออกแบบกั้นแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนดี เมื่อเข้ามาจะเจอส่วนครัวที่ออกแบบเป็นครัวปิด ทำอาหารจริงจังได้ ด้านในห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับส่วนห้องนอน ได้ความโปร่งโล่งและได้แสงธรรมชาติจากระเบียงเต็มที่ เราชอบที่พอวางเตียงเข้ามุมด้านในไป ทำให้เราได้พื้นที่นั่งเล่นกว้างดีค่ะ และห้องนี้จะมี Walk-in closet สามารถเก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้นและมีความเป็นสัดส่วนเพราะอยู่ใกล้กับห้องน้ำ เดินออกมาใช้งานได้สะดวกด้วย
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ THE MUVE Kaset คลิกที่นี่
Miti Chiva Kaset Station (สร้างเสร็จปี 2563)
คอนโดมิเนียม High Rise สูง 23 ชั้น ซึ่งจะมีเพียง 200 ยูนิตเท่านั้น ออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัวทั้งจำนวนยูนิตและการจัดพื้นที่ภายในโครงการได้ค่อนข้างดี เช่นการแยกส่วนพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยออกจากกันอย่างชัดเจน โดยจะยกเอาพื้นที่ส่วนกลางไปไว้ที่ 3 ชั้นบนสุด และห้องพักอาศัยของที่นี่ก็ถูกแบ่งออกมาสูงที่สุด 12 ยูนิต/ชั้น เท่านั้นค่ะ นอกจากนั้นทำเลโครงการก็ถือว่าดีเลยค่ะสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง โดยด้านหน้าอยู่บนถนนประเสริฐมนูกิจ ส่วนด้านหลังสามารถเข้าออกทางซอยพหลโยธิน 38 ได้
การวางอาคารและแปลน
สำหรับตัวอาคารนี้จะออกแบบเป็นตัว I โดยโถงลิฟต์จะตั้งอยู่ค่อนไปทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ แต่ด้วยขนาดของอาคารที่ไม่ได้ใหญ่นัก จึงทำให้ทั้งสองฝั่งไม่ได้เดินไกลต่างกันมากโถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor Loaded มีห้องพักอาศัยทั้งสองฝั่ง มีช่องแสงให้ที่ปลายทางเดิน ส่วนห้องที่เรามองว่าน่าสนใจจะเป็นห้องตำแหน่ง 12 เพราะติดกับบันไดหนีไฟ ทำให้ไม่ต้องติดกับห้องของเพื่อนบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนอีกตำแหน่งจะเป็นตำแหน่ง 05 ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะว่าไม่มีการแชร์ผนังร่วมกับห้องอื่นเลยนั่นเอง
ส่วนกลาง
อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าส่วนกลางของโครงการจะมีอยู่ที่ชั้น 1 ที่ออกแบบเป็น Lobby รองรับแขก ส่วน Main Facilities จะอยู่ 3 ชั้นบนตั้งแต่ 21-23 ค่ะ
โดยชั้น 21 จะเป็นชั้นส่วนกลางชั้นเดียวที่นอกจากจะมีส่วนกลางแบบ Indoor แล้ว ยังมีพื้นที่ Outdoor ให้ใช้งานด้วยอย่างสระว่ายน้ำรูปตัว L ที่มี จุดเด่นคือเป็นสระไร้ขอบและอยู่ริมอาคาร จึงทำให้รับวิวได้ 2 ทิศหลักๆไปเต็มๆ แถมยังได้แนวอาคารช่วยบังแดดในช่วงบ่ายให้ด้วย ภายในห้องน้ำก็มี Sauna & Steam ภายในรับวิวภายนอก ส่วนต่อมาจะมีห้องออกกำลังกายที่มีห้องส่วนตัวสำหรับจัด Class และมี Sunken Seat รับวิวภายนอกให้ถึง 3 จุด 3 มุมมองที่แตกต่างกัน
ชั้น 22 จะเป็น Co-Thinking Space ที่เป็นพื้นที่แบบ Indoor และไม่ได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเต็มชั้น แต่จะมีห้องพักอาศัยด้วยอีก 4 ยูนิต เป็นห้องเพดานสูงทั้งหมดค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของโครงการ ชั้นนี้จะมีลักษณะเหมือนกันกับชั้น 22 โดยจะมีห้องเพดานสูงอีก 4 ยูนิตเช่นกัน ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็มีขนาดและตำแหน่งพอๆกัน จะเป็นส่วนของ Panoramic Sky Lounge ครับ
แบบห้อง
- 1 Bedroom ขนาด 23.00 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 24.00-25.00 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 27.00 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 33.50-34.50 ตร.ม.
แบบห้องโครงการนี้มีหลากหลายขนาด โดยเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก โดยออกแบบมีครัวปิดและมีระเบียงทุกยูนิต ส่วนความสูงฝ้าเพดานห้องปกติอยู่ที่ 3 เมตร และห้อง Loft สูง 4.6 เมตร ทำให้ห้องของโครงการนี้ได้ความโปร่งโล่งมากๆเลยค่ะ ส่วนรูปแบบการขายของโครงการจะเป็น Partly Furnished เพราะจะให้ Furniture Built-in ทั้งหมด ฉากกั้นห้องต่างๆ รวมถึง โซฟา ชั้นวางทีวี และฐานเตียงมาให้ด้วย
1 Bedroom Plus ขนาด 33.5 – 34.5 ตร.ม.
แบบห้องนี้จะเป็นห้องที่มีจุดเด่นหลายอย่างเลย เพราะเป็นห้องหน้ากว้างรับแสงได้เยอะ แถมยังมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ภายในแยกชัดเจน เข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นพร้อมระเบียง และครัวแบบปิด จากนั้นจะเป็นทางเดินยาวเข้าไปภายใน จะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงาน หรือห้องนอนเล็กสำหรับ Roommate ได้ ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพร้อม Walk-in Closet ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าห้องใช้งานร่วมกันค่ะ
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ Miti Chiva Kaset Station คลิกที่นี่
Phyll Phahol 34 (สร้างเสร็จปี 2563)
คอนโดมิเนียม Low Rise ที่อยู่ติดกับถนนใหญ่และอยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีเสนานิคม แบบ 0 เมตรเลยค่ะ เดินลงบันไดจากรถไฟฟ้าก็เจอทางเข้า-ออกโครงการเลย ทำให้เราสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปมหาวิทยาลัยได้ หรือจะเดินทางไปโซนอื่นๆในเมืองก็สะดวกด้วย ออกแบบส่วนกลางแตกต่างมี Clubhouse ทำให้ได้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ส่วนตัวห้องจะมีแบบห้องเพียง 1 Bedroom เท่านั้น
การวางอาคารและแปลน
โครงการออกแบบเป็น 4 อาคาร รวม 358 ยูนิต โดยปกติที่เราเห็นการจัดวางแต่ละอาคารของคอนโด Low rise ล้อมพื้นที่ตรงกลางไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ On ground ส่วนชั้น 1 ของแต่ละอาคารจะเป็นพื้นที่จอดรถ แต่สำหรับโครงการนี้มีออกแบบส่วนกลางเป็น Clubhouse สูงเท่ากับอาคาร 4 ชั้นไว้ตรงกลางระหว่างอาคารเลยค่ะ ทำให้ชั้น 1 ใต้อาคารพักอาศัยกับ 2 ชั้นล่างของ Clubhouse เป็นที่จอดรถ ซึ่งได้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่อยู่เหมือนกัน เมื่อเทียบกับจำนวนห้องพัก 358 ยูนิต
สำหรับการออกแบบชั้นพักอาศัยของทั้ง 4 อาคาร จะเป็นโถงทางเดินแบบ Double Corridor มีห้องพักอยู่ 2 ฝั่งทางเดิน แต่ที่ปลายสุดทางเดินจะมีหน้าต่างไว้เป็นช่องแสงและระบายอากาศบริเวณทางเดิน สำหรับห้องที่หันเข้าหาส่วนกลางด้านในโครงการจะเป็น 1 Bedroom Plus แต่จะมีบางตำแหน่งที่เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ตรงอาคาร B และ C ทำให้เราได้ห้องที่เปิดรับวิวโครงการ ในราคาที่ไม่สูงมากนั่นเอง
ส่วนกลาง
สำหรับพื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 4 อาคาร จะออกแบบเป็น Clubhouse มีฟังก์ชันต่างๆ เช่น Lobby, Mail Room, Smart Locker และห้องทำงานของนิติบุคคลค่ะ การออกแบบส่วนกลางเป็น Clubhouse อยู่ตรงกลางโครงการ ทำให้เราได้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ขึ้น และลูกบ้านแต่ละอาคารสามารถมาใช้พอๆกัน แต่ก็มีข้อเสียคือพอเราอยู่ที่ชั้น 1 อาจจะรู้สึกว่าตัวโครงการดูแน่นมาก และห้องที่อยู่ชั้น 2 ก็จะไม่ได้วิวค่ะ
ทางโครงการออกแบบให้ Clubhouse มีชั้นใต้ดินอยู่ด้วยนะคะ โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นที่จอดรถ และมี Multi Purpose Room เป็นพื้นที่เหมือน Co-Working Space นั่งทำงานได้ มีสวนเล็กๆอยู่ด้านข้าง มี Laundry เอาไว้ให้นำเสื้อผ้ามาซักได้ค่ะ
ชั้น 3 ของ Clubhouse ประกอบไปด้วย Fitness และสระว่ายน้ำมีทั้งสระเด็กและ Jacuzzi ให้มาด้วย รอบๆสระมีพื้นที่นั่งเล่นทั้ง indoor และ outdoor พร้อมกับการจัดสวนเป็นมุมมองพักสายตาให้กับคนที่มาใช้งาน และส่วนกลางบริเวณตรงนี้ก็จะเป็นวิวให้กับห้องพักที่หันเข้ามาด้านในของตัวโครงการด้วยค่ะ
ส่วนบริเวณชั้น 4 ของ Clubhouse ที่เป็นหลังคาของ Fitness และห้องน้ำ จะถูกจัดเป็นสวนสีเขียว แต่ไม่ได้อนุญาตให้ขึ้นมาใช้งานนะคะ แต่ทางโครงการจะดูแลให้สวยงามเป็นวิวให้กับห้องที่หันเข้ามายังพื้นที่ตรงกลางนั่นเอง
แบบห้อง
- 1 Bedroom Type A พื้นที่ประมาณ 25 ตร.ม.
- 1 Bedroom Type B พื้นที่ประมาณ 28 ตร.ม.
- 1 Bedroom Type C พื้นที่ประมาณ 35 ตร.ม.
ประเภทห้องของโครงการจะมีห้อง 1 Bedroom เพียงเท่านั้น แต่จะมีแบบให้เลือกอยู่ 3 แบบ เริ่มต้นเรียกว่า Type A ขนาดห้องประมาณ 25 ตร.ม., Type B จะมีขนาดประมาณ 28 ตร.ม. เป็นแบบที่มีขายมากที่สุดในโครงการค่ะ ส่วน Type C จะเป็นห้องขนาด 35 ตร.ม. เป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งที่ได้วิวสวยที่สุด ได้วิวด้านในโครงการ นอกจากนี้ออกแบบมีจุดเด่นเรื่องห้องหน้ากว้างทุกยูนิต และขายเป็นแบบ Fully Furnished ค่ะ
1 Bedroom Type B พื้นที่ประมาณ 28 ตร.ม.
แบบห้องนี้มีเยอะที่สุดภายในโครงการ ออกแบบเป็นห้องหน้ากว้าง โดยจุดเด่นของห้องนี้คือได้ห้องนอนกั้นปิดแยกเป็นส่วนตัว และมีพื้นที่ภายในห้องนอนที่กว้าง ออกแบบพื้นที่ที่เป็นส่วน Service (ครัวแบบปิดและห้องน้ำ) ไว้ใกล้ทางเดิน และนำฟังก์ชันห้องนอนและห้องนั่งเล่นไว้ใกล้หน้าต่าง ทำให้ภายในส่วนที่เป็นพื้นที่ใช้งานได้รับแสงธรรมชาติที่เพียงพอ ห้องดูสว่างด้วยค่ะ
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ Phyll Phahol 34 คลิกที่นี่
CIELA Sripatum (สร้างเสร็จปี 2562)
คอนโด High Rise 28 ชั้น 1 อาคาร 900 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต มีจุดเด่นตรงทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนน 2 เส้นทั้งถนนพหลโยธินและถนนเลียบคลองบางเขน อยู่ติดกับ BTS สถานีบางบัว 0 เมตร และยังเป็นตึกสูงตึกสุดท้าย ก่อนจะเข้าเขตพื้นที่การบินของสนามบินดอนเมืองครับ ทำให้วิวทางทิศเหนือไม่มีตึกสูงอื่นขึ้นมาบังวิวเลยนั่นเอง
การวางอาคารและแปลน
ตัวอาคารเป็นรูปตัว S ทำให้ไม่บังวิวกันเอง และวางโถงลิฟต์เอาไว้ค่อนไปทางขวา สำหรับห้องที่เรามองว่าน่าสนใจจะเป็นห้อง Studio มีเพียง 2 ห้อง/ชั้น อยู่ตรงบริเวณโถงลิฟต์ทั้ง 2 ข้าง ทำให้มีผนังที่ติดกับเพื่อนบ้านแค่ด้านเดียว มีความเป็นส่วนตัว ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.5 ตารางเมตร ที่มีอยู่ตำแหน่งเดียวในชั้นตรงตำแหน่ง A10 ที่เป็นห้องมุมและได้โถงทางเดินส่วนตัวอีกด้วย นอกจากนั้นตรงที่เราวงกรอบสีแดงเป็นห้องที่มองเห็นสถานีรถไฟฟ้าและอาคารเรียน ม.ศรีปทุม ซึ่งค่อนข้างการันตีวิวได้ว่าจะไม่มีตึกสูงขึ้นบังอีกแน่ๆในอนาคต และถ้าเราเลือกชั้นที่สูงๆหน่อยก็จะได้วิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของกรมทหารราบ 11 อีกทั้งยังได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ไม่มีผนังติดกับใครเลย แต่จะต้องเดินจากโถงลิฟต์ไกลสุดเหมือนกัน ส่วนกรอบสีเขียวเป็นห้องที่หันไปทางทิศเหนือ ไม่โดนแดดโดยตรง ได้วิวทางฝั่งสะพานใหม่และถ้ามองเฉียงๆมาด้านขวามือ ก็ยังได้วิวพื้นที่สีเขียวของกรมทหารราบ 11 อีกด้วย
ส่วนกลาง
ชั้น 28 จะเป็นชั้น Main Facilities มีการแบ่งแยกโซนชัดเจน โดยทางด้านขวาจะเป็น Private Zone ที่ต้องการความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ประกอบด้วยพื้นที่สวน และ Sky Lounge ที่มีแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็น Meeting Room ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็น Active Zone เป็นพื้นที่เน้นการออกกำลังกาย ประกอบด้วย Fitness ขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำ
แบบห้อง
- 1 Bedroom ขนาด 26.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 31.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Suite A&B ขนาด 33.5-34.5 ตร.ม.
- 2 Bedrooms ขนาด 60 ตร.ม.
โครงการนี้เด่นเรื่องขนาดห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ห้องเริ่มต้นที่มีขนาด 26.5 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง 2 Bedroom ขนาด 60 ตร.ม. เมื่อเทียบแล้วจะเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาคอนโดที่เราพาไปดูกันมาเลยค่ะ ตัวห้องจะไม่เน้นพื้นที่ระเบียง จะเน้นใช้เป็นระแนงบังสายตา และในทุกยูนิตจะมีกระจกเข้ามุม Bay Window ที่ช่วยเพิ่มมุมมองให้กว้างมากขึ้น สามารถชมวิวได้อย่างเต็มที่ ส่วนรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted และให้เฟอร์นิเจอร์มาบางส่วน ได้แก่ ชุดครัว Built in ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศ และสุขภัณฑ์ต่างๆในห้องน้ำครบ รวมถึงยังติดรางม่าน และมีม่านโปร่งทั้งห้องอีกด้วย
1 Bedroom Plus ขนาด 31.5 ตร.ม.
การแบ่งฟังก์ชันภายในห้องทั้งส่วนพักอาศัยและส่วนใช้งานออกจากกันได้เป็นสัดส่วนดี พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น และด้านในเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้พื้นที่ดูเชื่อมต่อกันและโปร่งโล่งมากขึ้น ส่วนด้านซ้ายจะเป็นครัวเปิดไม่ได้กั้นผนังมาให้ แต่เราก็สามารถกั้นปิดเองได้นะคะ แต่ตัวห้องครัวนี้อยู่ตรงกลางระหว่างห้องอื่นๆ ไม่สามารถระบายกลิ่นอาหารได้ เราแนะนำว่าต้องติดเครื่องดูดควันด้วยนะคะ สำหรับห้องน้ำใช้งานร่วมกันทั้งส่วนกลางและห้องนอน ส่วนที่อยู่ติดกับระเบียงจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถทำเป็นห้องนอนเสริม ห้องทำงาน ห้องแต่งตัว หรือห้องซักรีดก็ได้
อ่านรีวิวฉบับเต็มโครงการ CIELA Sripatum คลิกที่นี่
สรุป คอนโดมิเนียมมือหนึ่ง ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน
สำหรับการหาที่พักอาศัยใกล้มหาวิทยาลัยจะมีตัวเลือกทั้งการอยู่แบบหอพักหรืออยู่คอนโดมิเนียมโดยหอพักจะมีค่าเช่าในช่วง 4,000-7,000 บาท/เดือน ส่วนคอนโดมิเนียมจะมีค่าเช่าประมาณ 6,000 – 13,000 บาท/เดือน ซึ่งจริงๆแล้วห้อง Studio ของโครงการก็มีราคาค่าเช่าไม่ต่างกับหอพักมากนัก แต่จะมีความแตกต่างที่โดดเด่นของการอยู่ในคอนโดมิเนียมคือส่วนกลาง ที่นอกจากจะมีส่วนกลางพื้นฐานอย่าง Lobby, Co-Working Space, Fitness และสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีส่วนกลางเสริมที่รองรับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่เพิ่มมากขึ้นหลายอย่าง มีห้องเล่นเกม ห้องดูหนัง หรือส่วนกลางที่เปิด 24 ชม. อีกทั้งยังออกแบบมาสวยงามน่าใช้งาน เปิดรับวิวที่สวยงามได้หลากหลายวิว และการอยู่คอนโดยังได้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย มี รปภ. คอยดูแลอยู่หน้าโครงการ
สำหรับโดยรอบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นี้จะค่อนข้างมีความหนาแน่นอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีแนว BTS สีเขียวอ่อนตัดผ่าน ซึ่งเป็นสายที่สำคัญของกรุงเทพ ทำให้ไม่ได้มีเพียงนิสิตและบุคลากรในม.เกษตรศาสตร์เท่านั้น ยังมีคนที่กำลังมองหาคอนโดในเมืองใกล้รฟฟ.อีกด้วย จึงเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้จำนวนคอนโดโดยรอบเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเราจะมาสรุปให้อ่านกันว่าแต่ละโซนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยังไงบ้าง
- โซน 1 : ฝั่งถนนงามวงศ์วาน และ โซน 2 : ฝั่งถนนพหลโยธิน-แนวรถไฟฟ้า BTS เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางทั้งไปมหาวิทยาลัยได้ง่ายๆหรือไปโซนอื่นๆได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัว อีกทั้งยังใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้เป็นโซนที่มีความคึกคักมากที่สุดค่ะ
- โซน 3 : ฝั่งเกษตร-นวมินทร์ ได้ความเงียบสงบ ส่วนตัว ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ ที่สามารถหาซื้อของกินของใช้ได้ง่ายๆ ไม่พลุกพล่านเท่ากับโซน 1-2 และด้วยตัวโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยหรือห่างจากตัวมหาวิทยาลัย จึงเหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือยอมต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัยหรือที่อื่นๆค่ะ
- โซน 4 : ฝั่งถนนเลียบคลองบางเขน และ โซน 5 : ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์โดยรอบจะไม่มากเท่ากับโซนอื่นๆ เน้นใช้สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ทำให้เป็นอีกโซนที่ค่อนข้างเงียบสงบดี
Knightsbridge Kaset Society
คอนโดมิเนียม High rise ติดถนนพหลโยธินที่ออกแบบโดดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยการออกแบบยูนิตต่อชั้นเพียง 6-8 ยูนิต และเป็นโครงการห้อง Simplex ที่มีฝ้าเพดานสูงที่สุดถึง 3 เมตร ทำให้ได้ความโปร่งโล่งของพื้นที่ เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวได้เต็มที่ด้วย มีระยะห่างจากประตูพหลโยธิน 1 ซึ่งเป็นประตูที่ใกล้ที่สุดในระยะ 1.2 กิโลเมตร
Kave Seed Kaset
คอนโด Low rise ที่เน้นออกแบบห้องขนาดไม่ใหญ่มาก ตกแต่งแบบ Fully Furnished สามารถลากกระเป๋ามาเข้าอยู่อาศัยได้เลย ส่วนกลางก็หลากหลาย ตัวโครงการจะอยู่ในซอย จึงมีราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท แต่มีร้านค้าร้านอาหารอยู่เยอะ มีระยะห่างจากประตูพหลโยธิน 1 ประมาณ 1.4 กิโลเมตร จึงเหมาะกับคนที่ชอบชีวิตแบบเรียบง่าย เน้นใช้งานส่วนกลางภายในโครงการ ลงมาด้านล่างก็มีร้านค้า ร้านอาหารให้จับจ่าย ห้องก็ไม่ต้องตกแต่งเยอะ รวมถึงสามารถซื้อเพื่อปล่อยเช่าได้ง่ายด้วย ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง คาดเสร็จภายในปี 2567 นี้ค่ะ
Chewathai Kaset-Nawamin
คอนโดมิเนียม High rise ที่เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวค่ะ เพราะถึงแม้ว่าจะอยู่ติดถนนใหญ่ก็จริงแต่ในระยะเดินไม่มีร้านค้าร้านอาหารเท่าไหร่นัก รูปแบบห้องพักของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 7 แบบด้วยกัน เรามองว่าโครงการนี้เหมาะกับคนที่ชอบทำเลที่ไม่วุ่นวายหรือพลุกพล่าน ติดถนนใหญ่เดินทางไปโซนอื่นๆได้สะดวก ห่างจากมหาวิทยาลัย 1.4 กิโลเมตร
COBE Kaset-Sripatum
โครงการคอนโด High Rise สูง 23 ชั้น ติดถนนใหญ่และ BTS บางบัว 0 เมตร ทำให้เป็นโครงการที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะได้สะดวก สำหรับจุดเด่นหลักของโครงการคือเรื่องความโปร่งโล่งภายในห้องด้วยความสูงของฝ้าเพดานของห้อง Simplex สูง 2.70 เมตร และ High Ceiling สูง 4.70 เมตร อีกทั้งมีแบบห้อง Studio ไปจนถึง 2 Bedroom เลยค่ะ ทำให้ถึงแม้เราจะอยู่ห้อง Studio ก็ไม่อึดอัด อยู่ห่างจากประตูพหลโยธิน 2 ประมาณ 1.6 กิโลเมตร ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างค่ะ
Modiz Vault Kaset Sripatum
โครงการคอนโดมิเนียมที่มีอาคาร Pet-Friendly แห่งแรกบนย่าน เอาใจน้องๆนิสิตและคนรักสัตว์สามารถเลี้ยงภายในโครงการได้เลยพร้อมออกแบบส่วนกลางของสัตว์เลี้ยงด้วย โครงการนี้จะมีขนาดที่ดินและจำนวนยูนิตมากที่สุดถึง 798 ยูนิต ที่ถึงแม้จะมีเพื่อนบ้านเยอะ แต่ก็แลกมากับส่วนกลางที่มีมากที่สุดในย่านมากถึง 60 รายการนั่นเอง ส่วนแบบห้องมีให้เลือกมากถึง 10 แบบ และตกแต่งแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ โครงการนี้จะอยู่ใกล้ประตูวิภาวดีรังสิตด้านหลังมหาวิทยาลัยในระยะ 2.0 กิโลเมตร โครงการยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ
Landmark at Kasetsart TSH Station
โครงการ Mixed-use แห่งแรกบนถนนวิภาวดีรังสิต อยู่ติดกับสะพานลอยทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีทุ่งสองห้อง ในระยะ 0 เมตร โดยมีคอนโดมิเนียม High Rise สูง 19 ชั้น เป็น 1 ใน 3 อาคารของโครงการนี้ จำนวนยูนิตจะมีเพียง 236 ยูนิต มีน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับคอนโดมือหนึ่งในปัจจุบัน และเป็นคอนโดมือหนึ่งโครงการเดียวที่ออกแบบเป็นห้อง Loft ฝ้าเพดานสูงทั้งโครงการอยู่ที่ 4.15-4.90 เมตร จึงเหมาะกับคนที่ชอบอยู่อาศัยในห้องที่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอยู่ภายในโครงการ อีกทั้งยังมีบริการโรงแรมให้ใช้งานด้วยนั่นเอง มีระยะห่างจากประตูวิภาวดีรังสิตในระยะ 1.1 กิโลเมตร โครงการในปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง พร้อมเข้าอยู่ปี 2568 ค่ะ
ONEDER Kaset
คอนโดที่มีระยะใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มากที่สุดด้วยระยะ 950 เมตรจากประตูงามวงศ์วาน 3 อีกทั้งยังเป็นคอนโด Low rise ติดถนนใหญ่ซึ่งหาได้ยาก ส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยกัน ทำให้โครงการนี้ได้ข้อดีเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายทั้งเดินไปเรียน ขับรถหรือต่อรถไปเที่ยว ทำธุระต่างๆ และในเรื่องความปลอดภัยที่ไม่ต้องเดินเข้าซอยเปลี่ยวๆนั่นเอง สำหรับแบบห้องของโครงการจะเน้นห้องขนาดไม่ใหญ่ มีห้องเริ่มต้นเป็น Studio ขนาด 21.50 – 23.55 ตร.ม. ไปถึง 1 Bedroom Plus ขนาด 35-36.05 ตร.ม.
จากที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าปัจจุบันน้องๆนิสิตและผู้ปกครองก็เริ่มมองหาที่พักเป็นคอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยกันมากขึ้น เราจึงพาไปดูคอนโดมิเนียมใกล้ม.เกษตรศาสตร์ บางเขนทั้งมือหนึ่งและมือสอง อายุไม่เกิน 5 ปี มีระยะห่างจากมหาวิทยาลัย 2 กิโลเมตร เป็นคอนโดสภาพใหม่และเดินทางไปเรียนได้สะดวกนั่นเอง
ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาให้หลากหลายเลย มีทั้งคอนโดราคาหยิบจับง่ายไปจนถึงคอนโดที่สามารถใช้บริการโรงแรมได้ แต่สุดท้ายแล้วทุกโครงการก็มีจุดโดดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่าไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนจะเหมาะกับโครงการแบบไหนมากที่สุดนั่นเอง เราหวังว่าบทความนี้จะช่วย Guide ทุกคนให้เห็นภาพรวมคอนโดมิเนียมใกล้ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน และสามารถเลือกตัดสินใจได้ตรงตามความต้องการมากที่สุดนะคะ หากมีโครงการหรือประเด็นไหนที่อยากนำมาคุยกันก็ลอง Comment กันเข้ามาได้เลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ 😊