V2-LPN-On-Nood55-Tive-View12-06_Re

รีวิวฉบับที่ 512 … วันนี้ผมจะพาไปดูโครงการที่เพิ่งเปิดการขายไปสดๆร้อนๆเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2557 ของค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง ลุมพินี กับโครงการ ลุมพินี วิลล์  อ่อนนุช – พัฒนาการ คอนโด Low Rise 7 อาคาร ติดถนนใหญ่และใกล้ Seacon Square ศรีนครินทร์, Paradise และ Thanya Park เราไปดูกันดีกว่าครับว่าโครงการจะมีลักษณะเป็นอย่างไร ヾ(^-^)ノ~♪

Fact @ 3 December 2014

  • Lumpini Ville On Nut – Phatthanakan ( ลุมพินี วิลล์  อ่อนนุช – พัฒนาการ)
  • บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ประเวศ
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 7 อาคาร 1,594 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 36 ยูนิตที่อาคาร B2 และ C2
  • ที่จอดรถประมาณ xx คันคิดเป็น xx% รวมจอดซ้อนคัน 560 คันคิดเป็น 35.13%
  • ที่ดินประมาณ 15 ไร่เศษ
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ ปลายปี 2557
  • 1 Bedroom 22.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.18 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 26 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 45 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.36 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.18 ล้านบาทหรือประมาณ 52,444 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 53,400 บาท (รอโครงการเปิดขาย)
  • http://www.lpn.co.th/condominium/index.php/lumpini/home/LV-OP
  • สำนักงานขาย 02-320-3456
  • Call Center 02-689-6888

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.717275,100.654664

lpn-onnut-phatthanakan-resi_RE

แผนที่จากโครงการครับ

Map_Area

โครงการ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช – พัฒนาการ ตั้งอยู่บนถนน อ่อนนุช ปรมาณซอยอ่อนนุช 55 อยู่ระหว่างแยกที่ตัดกับ ถนนศรีนครินทร์ และ ถนนพัฒนาการ โดยมีระยะห่างจากถนน ศรีนครินทร์ ประมาณ 1.3 กม. ถ้ามาจากแยกอ่อนนุช แต่ถ้าวิ่งจากหน้าโครงการไปแยกอ่อนนุช ระยะทางจะเพิ่มเป็น 3.2 กม.เพราะต้องมีระยะที่วิ่งเพื่อไปกลับรถด้วย บริเวณแยกพัฒนาการตอนนี้มีการก่อสร้างสะพานต่างระดับ ทำให้ในอานาคตการเดินทางจะสะดวกขึ้นอีกเพราะสามารถวิ่งจากถนนพัฒนาการไปยังถนน เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ได้ ซึ่งจะออกไปบริเวณด้านหลังของสวนหลวง ร.9 เส้นทางนี้ไว้ใช้เลี่ยงเวลารถติดบนเส้นศรีนครินทร์ได้เหมือนกัน ระยะห่างจากสนามบินก็อยู่ไม่ไกลประมาณ 11 กม. โดยรวมแล้วถือว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัวทำได้สะดวกดีครับ

ทีนี้เรามาดูกันว่าสำหรับคนที่ไม่เน้นการใช้รถยนต์จะมีทางเลือกอะไรบ้าง ซอยนี้ถือว่าเป็นซอยที่มีความยาวมากผ่านหลายชุมชนและเป็นทางเข้าออกไปยังหมู่บ้านต่างๆทั้งเก่าและใหม่  ช่วงต้นซอยจะมีแหล่งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดหลายโครงการและมี Big C (คาร์ฟูเก่า) ตั้งอยู่ ทำให้มีรถเมล์ผ่านหลายสายและมีรถ 2 แถวให้ใช้บริการ ซึ่งความถี่ของรถที่วิ่งออกจากอู่ถือว่ามีความถี่มากทำให้ไม่ต้องรอรถนาน ป้ายรถเมล์ก็อยู่เกือบติดด้านหน้าโครงการเลย แถมมีให้ทั้ง 2 ฝั่งด้วย ตัวสะพานลอยก็อยู่ไม่ไกล ใครที่ทำงานแถวๆ อ่อนนุช หรือลาดกระบัง ถือว่าสะดวกดีถึงแม้จะไม่ใช้รถยนต์ก็ตาม แต่ปัญหาหลักๆน่าจะเป็นเรื่องรถติด ยิ่งช่วงปากซอยอ่อนนุชที่วิ่งเข้าเส้นสุขุมวิทนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าออกจากโครงการโดยใช้เส้นนี้แล้วหละก็ กว่าจะหน้าหลุดจากแยกนี้ได้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 นาทีแน่นอนครับ

LPN_OP_Map_Eat2

เรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ดี ในระยะเดินได้ก็จะมีแหล่งชุมชนอย่าง หมู่บ้านเสรีอ่อนนุช ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมีทั้งตลาดสด, ร้านอาหารและกับข้าวต่างๆ ร้านสะดวกซื้อก็มีครบทั้ง 7Eleven, Tesco Lotus Express และ CP Fresh Mart หรือถ้าจะเดินห้างก็มีให้เลือกหลายห้างเช่น Thanya Park, MaxValu, Seacon Square ศรีนครินทร์ และ Paradise Park หรือถ้าอยากออกกำลังกายสูดอากาศสดชื่นก็ไปสวนหลวง ร.9 ได้ครับ

LPN_OP_Route_Map

เส้นทางในครั้งนี้เริ่มต้นบนทางด่วนศรีรัช > มอเตอร์เวย์ > ศรีนครินทร์ > พัฒนาการ > สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ตามนี้ครับ

เริ่มต้นที่ทางด่วนเหมือเดิมครับให้ใช้เส้นทางที่ถนน พระราม 9 ซึ่งพอมาถึงตรงนี้แล้วถ้าใครไม่อยากเสียค่าทางด่วนเพิ่มอีก 25 บาทเพื่อไปลงมอเตอร์เวย์ก็ใช้ทางลงถนนพระราม 9 ได้ครับแล้ววิ่งตรงไปเรื่อยๆจนถึงถนนศรีนคริทร์

แต่ถ้าใครอยากเลี่ยงรถติดก็ใช้เส้นทางตามผมเลยครับ วิ่งมาเจอทางลงถนนรามคำแหงยังไม่ต้องลงนะครับวิ่งตรงต่อไปตามป้ายศรีนครินทร์

เจอทางลงศรีนครินทร์ไม่ต้องลงนะครับยกเว้นใครจะไปเดิน The Nine ก็ใช้ทางออกนี้ถ้าจะไปโครงการให้ตรงไปก่อนครับ

เมื่อสุดทางด่วนและกำลังเข้าสู่มอเตอร์เวย์ ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อออกสู่ถนนศรีนครินทร์ แต่ว่าระยะค่อนข้างกระชั้นอยู่เหมือนกันเพราะฉะนั้นควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี้ด้วย หรือจะใช้ทางลง The Nine ก็ได้เหมือนกันจะขับง่ายกว่าแต่รถจะติดหน่อยตรงทางเข้า The Nine

เบี่ยงซ้ายมาแล้วให้ชิดซ้ายสุดเพื่อลงสู่ถนน ศรีนครืนทร์

ลงมาแล้วจะเจอกับ Airport Link หัวหมกอยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งทางโครงการจะมีรถตู้ให้บริการวิ่งมาที่สถานีนี้ด้วยแต่ยังไม่รู้ว่าจะเก็บค่าบริการหรือไม่และจะเก็บเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่

เลย Airport Link หัวหมากมาได้ไม่ไกลก็เจอกับ ลุมพินี เพลส ศรีนครินทร์-หัวหมาก สเตชั่นอ อยู่เกือบๆจะติดกับทางเข้าสถานีเลย

หัวมุมถนนแยกพัฒนาการตัดกับศรีนครินทร์จะมี Community Mall ของ MaxValu อยู่

จากแยกนี้สามารถไปโครงการได้ 2 เส้นทาง 1. วิ่งตรงไปตามเส้นศรีนครินทร์แล้วเลี้ยวซ้ายตรงแยกอ่อนนุช หรือ 2. เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัฒนาการ วึ่งผมเลือกที่จะวิ่งเขาถนนพัฒนาการเพราะว่าตอนไปเยี่ยมชมโครงการถนนศรีนครินทร์รถติดจริงๆครับ

ถ้าขับรถมาจากโครงการเพื่อมา MaxValu สามารถใช้ทางเข้าฝั่งถนนพัฒนาการได้โดยกลับรถใต้สะพานข้ามแยกนี้ครับ

เลย MaxValu มาหน่อยก็เจอโรงพยาบาลวิภาราม

ซอยพัฒนาการ 53 สามารถใช้ไปออกมอเตอร์เวย์ได้

ถนนเส้นนี้มีขนาด 3 เลนและการจราจรจะไม่แน่นเหมือนถนนศรีนครินทร์ วิ่งสบายกว่าเห็นๆครับ

พอมาถึงแยกที่ตัดกับถนนพัฒนาการ บริเวณนี้จะมีการก่อสร้างสะพานต่างระดับเพื่อเชื่อมกับถนนตัดใหม่ที่ไปทะลุ ถนนเฉลิมพระเกีรติรัชกาลที่ 9 ได้

ตรงมาสุดแยกถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปลาดกระบัง ให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าโครงการ

ตรงมาได้ไม่ไกล(ประมาณ 1.3 กม.) ก็เจอกับป้ายของโครงการตั้งอยู่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของที่ดินโครงการ

สุดเขดที่ดินอีกฝั่งจะมีป้ายรถเมล์อยู่ใกล้และมีทั้ง 2 ฝั่งด้วยถือว่าสะดวกมากๆครับสำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว

เลยจากโครงการไม่ไกลมีจุดกลับรถอยู่ ส่วนด้านซ้ายคือหมู่บ้านเสรีซึ่งมีตลาดสดและร้านอาหารต่างๆมาตั้งอยู่ เป็นระยะที่เดินจากโครงการมาได้ไม่ไกลครับแถมมีสะพานลอยอยู่ด้วย

สำนักงานขายเพิ่งเสร็จแบบสดๆร้อนๆเลยครับ ตอนที่เข้าเยี่ยมชมกำลังเตรียมเต้นเพื่อเตรียมจับสลาก Tag สำหรับการเปิดขายในวันแรก (25 ม.ค. 2557)

Shuttle_Bus

การเดินทางโดยไม่ใช่รถถือว่าค่อนข้างสะดวกเพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนอ่อนนุชเลย และยังมีแหล่งชุมชนอยู่ฝั่งตรงข้ามทำให้บริเวณนี้มีความคึกคักพอสมควร มีป้ายรถเมล์อยู่ใกล้ๆโครงการทั้งขาเข้าและขาออก รถสาธารณะที่ผ่านมีทั้งรถเมล์และรถ 2 แถว ถ้าจะนั่งรถไป Seacon Square ต้องนั่งรถไปลงที่แยกอ่อนนุชแล้วต่อรถอีกทีถึงจะผ่านห้าง Seacon Square

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียง (ระยะขับรถจากหน้าโครงการ)

  • Seacon Square ศรีนครินทร์ 5 กม.
  • Paradise ศรีนครินทร์ 5.9 กม.
  • Thanya Park 4.8 กม.
  • Maxvalue พัฒนาการ 3.9 กม.
  • Tesco Lotus (สาขาซีคอนสแควร์) 5 กม.
  • ตลาดเอี่ยมสมบัติ 3.1 กม.

 

เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวโครงการเป็นหมู่ตึก 7 อาคารสูง 8 ชั้น วางเรียงกันตามความยาวของรูปร่างที่ดิน รูปร่างหน้าตาอาคารก็เป็นสไตล์ของ ลุมพินี เป๊ะๆครับ

ตัวอาคารทั้งหมดมี 7 อาคารและมีถนนรอบโครงการ ตัวอาคาร Club House เป็นอาคารแยกมี Fitness และ สระว่ายน้ำ อาคารที่อยู่ด้านหน้าสุดคืออาคาร A วางตัวขนานไปกับถนนอ่อนนุช ส่วนอาคาร B1 และ B2 จะอยู่ถัดไปผังอาคารเป็นรูปคล้ายตัว L ตัวอาคารหันเข้าหารกันทำให้มาคอร์ทอยู่ด้านใน ซึ่งตกแต่งเป็นสวนหย่อมไว้พักผ่อนทั้งหมด ถ้าใครไม่อยากได้วิวถนนในโครงการก็เลือกวิวสวนด้านในได้ครับ ส่วนอาคาร C1 และ C2 จะมีลักษณะคล้ายๆกับอาคาร B1 และ B2 เพียวแต่กลับด้านกันเท่านั้น และการจัดวางสวนจะแตกต่างกันนิดหน่อย สำหรับอาคารด้านในสุดจะเป็นอาคาร D1 และ D2 ซึ่งมีลักษณะคล้ายกลับอาคาร C และ B เพียงความยาวของตัวอาคารจะสั้นลง

Map_Site

มาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของโครงการกันบ้างด้านหน้าติดกับถนนอ่อนนุช ด้านหลังโครงการติดกับคลองประเวศบุรีรมย์และฝั่งตรงข้ามคลองเป็น ศูนย์อบรมจริยธรรม อิสลาม มัสยิดดารุ้ล มุดดากีน เกาะกลาง ด้านซ้ายมือครึ่งด้านหน้าเป็นที่ดินว่างเปล่าและครึ่งหลังเป็นบ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น ด้านขวาเป็นที่ดินว่างเปล่ากับอู่รถยนต์ช่วงด้านหน้าของโครงการ เรื่องวิวรอบด้านไม่มีปัญหาอะไรมากยกเว้นว่าจะมีโครงการมาขึ้นบนที่ดินเปล่าข้างๆ ถ้ามีจริงห้องบริเวณนั้นก็จะเสียวิวไปครับ

**รูปที่เห็นนี้เป็นการจำลองผังลงบนพื้นที่จริงจาก Google Map แบบคร่าวๆที่ผมทำขึ้นมาเอง เพื่อให้เห็นลักษณะโดยรวมของโครงการ ไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ**

ผังชั้น 1 ของทุกอาคารครับ จะเห็นว่าห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลยยกเว้น อาคาร A เท่านั้นที่จะเป็นร้านค้าทั้งหมด 7 ยูนิตการสัญจรรถภายในเป็นแบบ 2 เลน การจอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมดและไม่ได้มีอาคารจอดรถแยก ทำให้พื้นที่จอดรถรวมซ้อนคันแล้วมีแค่ 35% ซึ่งในอนาคตถ้าลูกบ้านมาอยู่กับเยอะอาจมีปัญหาเรื่องพื้นที่จอดรถ ที่ดินโครงการจะมีส่วนที่แปลกๆอยู่หน่อยตรงบริเวณ Club House จะมีติ่งของที่ดินยื่นออกไปซึ่งตรงนั้นคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากปลูกต้นไม้ หน้ากว้างของโครงการอยู่ที่ 118 เมตรส่วนความยาวอยู่ที่ 327 เมตร

ส่วนเรื่องเรื่องทิศทางของแสงแดดก็ดูได้ไม่ยากครับ เพราะตัวที่ดินและอาคารวางเรียงหันหน้าทางทิศเหนือและใต้เป็นส่วนมากยกเว้นบางส่วนของอาคารที่จะหันไปรับแดดทางทิศตะวันออกและตะวันตกแบบตรงๆ และทางโครงการก็จัดวางผังห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกมีจำนวนน้อยอยู่แล้ว เราไปดูกันต่อเลยครับว่าแต่ละอาคารจะมีผังเป็นอย่างไร

อาคาร A ชั้น 1 เป็นร้านค้าทั้งหมด ตรงจุดนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านไม่ต้องเดินไปไกลเวลาจะหาของกินของใช้ต่างๆ โดยมากแล้วร้านที่มาเปิดพื้นฐานก็จะเป็นร้านสะดวกซื้อต่างๆ, ร้านซักอบรีด, ร้านทำผม และร้านอาหาร

อาคาร A ชั้น 2 – 8 มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 30 ยูนิตตำแหน่งลิฟท์อยู่ตรงกลางอัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 105 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว ห้องพักอาศัยเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมดแต่ถ้าใครอย่างได้ 2 ห้องนอนแบบห้องตัวอย่างก็สามารถทำได้โดยแจ้งกับทางโครงการไว้แล้วซื้อ 2 ห้องที่อยู่ติดกันครับ ขนาดของห้องดูได้ไม่ยาก ห้องที่หันออกนอกโครงการจะเป็นห้องขนาด 26 ตร.ม. และห้องที่หันเข้าด้านในโครงการคือห้องขนาด 22.5 ตร.ม. ส่วนห้องหัวมุมเบอร์ 7 และ 22 จะเป็นห้องที่มีขนาด 26.5 ตร.ม. และห้องที่อยู่ติดโถงลิฟท์จะเป็นห้องขนาด 23 ตร.ม.

ผังอาคาร B1 และ B2 ชั้น 1 มีสวนอยู่ตรงกลางมีลักษณะเป็น 3 เหลี่ยม ห้องที่หันหน้าเข้าหากันใกล้ที่สุดอยู่ที่ 10 เมตร(ห้องเบอร์ 1 กับ 10)แต่ละอาคารจะมี Lobby อยู่ที่หัวมุมอาคาร มีห้องพักด้านนึงแและอีกด้านเป็นที่จอดรถ

ผังอาคาร B1 และ B2 ชั้น 2-8 ห้องที่เห็นวิวสวนทั้งหมดจะเป็นห้องขนาด 26 ตร.ม.ส่วนห้องที่หันออกจะเป็นขนาด 22.5 ตร.ม. อาคาร B1 มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 32 ยูนิตและอาคาร B2 อยู่ที่ 36 ยูนิต อัตราส่วนลิฟท์อาคาร B1 อยู่ที่ 117 ห้อง/ต่อลิฟท์ 1 ตัวและอาคาร B2 อยู่ที่ 131 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว

ผังอาคาร C1 และ C2 ชั้น 1 มีลักษณะเหมือนอาคาร B1 และ B2 เพียงแต่กลับด้านกันเท่านั้น

ผังอาคาร C1 และ C2 ชั้น 2-8 จะเห็นว่าห้องที่หันทางทิศตะวันตกนั้นมีจำนวนน้อยกว่าทางตะวันออกจำนวนยูนิต/ชั้นและอัตราส่วนลิฟท์เท่ากับอาคาร B1-B2

ฝังอาคาร D1 และ D2 ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านในสุดและมีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในโครงการ สวนตรงกลางจะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมไม่เหมือนอาคารแรกๆที่เป็น สามเหลี่ยมยาวๆ อาคาร D1 จะอยู่ใกล้ Club House และ D2 จะอยู่ติดคลอง

ผังอาคาร D1 และ D2 ชั้น 2-8 จำนวนยูนิต/ชั้นของอาคาร D1 อยู่ที่ 26 ยูนิตและ D2 อยู่ที่ 28 ยูนิต อัตราส่วนลิฟท์อาคาร D1 อยู่ที่ 95 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัวและ D2 อยู่ที่ 101 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัวถือว่ามีความหนาแน่นน้อยที่สุดในโครงการ

Chart

ก่อนไปดูภาพจำลองโครงการ ผมสรุปกราฟข้อมูลมาให้ดูง่ายๆครับ

ภาพบรรยากาศจำลอง สวนพักผ่อนอาคาร C โครงการนี้ใช้โทนสีเขียวครับ

ภาพบรรยากาศจำลอง สวนพักผ่อนอาคาร C

ภาพบรรยากาศจำลอง สวนพักผ่อนอาคาร B

ภาพบรรยากาศจำลอง สวนพักผ่อนอาคาร D

ภาพบรรยากาศจำลอง สวนพักผ่อนอาคาร C

ภาพบรรยากาศจำลองอาคาร Club House

ภาพบรรยากาศจำลองสระว่ายน้ำและ Fitness

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 10 x 25 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.8 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด xx ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ xx เครื่อง
  • สวนหย่อมระหว่างอาคาร
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 114 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A  105 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B1 และ C1 117 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B2 และ C2 131 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก D1  95 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก D2  101 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • ที่จอดรถ 560 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 35.13%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 

Product Walkthrough

แบบห้องของโครงการนี้จะมี 3 แบบคือ แบบ 22.5 ตร.ม., 26 ตร.ม. และแบบ Combine 2 ห้องรวมกัน 45 ตร.ม. โดยรวมแล้วแบบ 22.5 ตร.ม.กับ 26 ตร.ม.แทบไม่ต่างกันเลยจะต่างกันแค่ขนาดของห้อง โดยระยะที่เพิ่มขึ้นมาคือความลึกของห้องแต่หน้ากว้างยังคงเท่าเดิม ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลผังห้องแต่ละแบบครับ ดูจากรูปห้องตัวอย่างกันไปก่อนนะครับถ้าได้ผังมาแล้วจะรีบเอามาลงให้นะครับ

เริ่มต้นด้วยห้องตัวอย่างขนาด 22.5 ตร.ม.ก่อน หน้ากว้างห้อง 5.1 เมตรและยาว 4.55 เมตร ซึ่งแบบห้องก็คล้ายๆกับโครงการของลุมพินี วิลล์ในทำเลอื่นๆ เรียกว่าเป็นแบบมาตรฐานของเค้าเลยครับ

ส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับห้องนอน การขายเป็นแบบห้องเปล่ามีให้แค่สุขภณฑ์ห้องน้ำ, Pantry ชุดครัว, และ Built-in ตู้เสื้อผ้า

ด้านซ้ายมือใส่โซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้และมีที่วางของเหลืออีกหน่อย แต่ถ้าใครจะทำโต๊ะไว้นั่งทำงานด้วยตัวโซฟาต้องลดลงเหลือ 2 ที่นั่ง

ด้านขวาเป็นตำแหน่งวางทีวีและตู้เก็บของ ซึ่งพอวางทีวีขนาด 42″ ได้กพอดีซึ่งก็สอดคล้องกับระยะนั่งดูทีวีพอดี

อันนี้ถ่ายมาให้ดูเป็นไอเดียเวลาตกแต่งห้องเพราะคอนโดสมัยนี้พื้นที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆทำให้พื้นที่เก็บของให้ห้องอาจจะมีไม่พอต่อความต้องการ ถ้าทำ Built-in แบบนี้ก็ช่วยเพิ่มที่เก็บของได้ครับ โดยเพิ่มช่องเก็บของด้านใต้โซฟา

ห้องนอนตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าและเตียงเป็นขนาด 5 ฟุต

ชั้นวางของที่เห็นของจริงไม่มีมาให้ สิ่งที่ให้มีแค่ตู้เสื้อผ้าเท่านั้น

หน้าต่างของจริงไม่ใช่กระจกบานใหญ่แบบนี้ แต่เป็นแบบบานเลื่อนสลับธรรมดา

พื้นที่ข้างเตียงด้านที่ติดกับเหลือนิดเดียว ความกว้างก็ประมาณช่องเก็บผ้าม่าน

อีกด้านถือว่ายังกว้างอยู่พอเดินได้แบบไม่ติดขัดอะไร

ระยะห่างปลายเตียงก็เหลือเยอะพอสมควรแต่ถ้าใครทำชั้นวางทีวีลึก 60 ซม.พื้นที่ตรงนี้จะเหลือแค่เดินคนเดียวได้พอดีๆ

มือจับตู้เสื้อผ้าเป็น Stainless 9ตัว L แบบนี้ดูสวยแบบเรียบๆแต่การใช้งานจริงจะจับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่เพราะระยะห่างของมือจับช่วงที่งอกับประตูตู้มีนิดเดียวแถมเหลี่ยมมุมค่อนข้างคม

ขนาดตู้เสื้อผ้าไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าอยู่กัน 2 คนแล้วมีเสื้อผ้าเยอะหน่อยคงต้องหาที่เก็บเพิ่มเติมแน่ๆครับ

หน้าตาสวิทช์ไฟเป็นของ bticino แบบมาตรฐาน

การเปิด-ปิดของประตูห้องนอน เป็นแบบบานกระจกเลื่อน 3 ตอนช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับห้องนั่งเล่นและทำให้ห้องดูไม่อึดอัดเกินไป

ตัวรางที่พื้นก็มีขนาดใหญ่ตามจำนวนบานเลื่อน ซึ่งตัวรางก็มีความสูงอยู่นิดหน่อยอาจจะมีการเดินสะดุดได้ถ้าไม่ระวัง พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ลายไม้มาตรฐาน ลุมพินี ครับ

ทางเดินไปยัง Pantry ครัวกำแพงด้านที่เป็นห้องน้ำจะปาดมุมมาให้ ทำให้ทางเข้าดูไม่แคบเกินไป

ชุดครัวจะแถมชุดล่างและบนมาให้แบบนี้ แต่ไม่ไม่มีกระเบื้องด้านหลังกรุแบบห้องตัวอย่างนะครับ ขนาดตู้เย็นที่เห็นคือ 6.4 คิวบิกฟุตหรือ 180 ลิตร

วัสดุ Top เคาน์เตอร์ก็เป็น Particle Board กรุเมลานีนลายไม้ บานเปิดปาดมุมมาให้และที่วางของด้านหลังอ่างล้างจานยกสูงมาหน่อย

การวางตัวอ่างเป็นแบบแนวยาวมีขนาดไม่ใหญ่มาก ถ้าใครไม่ชินกับการใช้อ่างตามแนวตั้งนี่น้ำกระเด็นออกมาง่ายๆเลย ล้างจานเสร็จก็เช็ดรอบๆให้แห้งนะครับเพราะวัสดุแบบนี้ไม่ทนต่อการแช่น้ำนานๆ

ด้านตรงข้ามจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ซึ่งการจัดวางที่นั่งจะจัดแบบให้ตรงข้ามกันไม่ได้ต้องนั่งหันหน้าทางเดียวกัน

เมื่อเปิดประตูห้องน้ำมาสิ่งแรกที่เจอคือโถสุขภัณฑ์เลย เวลาทานอาหารอย่าลืมปิดประตูนะครับไม่อย่างนั้นจะเสียบรรยากาศระหว่างทานอาหาร

เข้ามาในห้องน้ำด้านขวามือเป็นอ่างล้างมือซึ่งตัวอ่างจะมีความยาวเต็มแนวกำแพงและวัสดุเป็น Fiber ที่กำแพงกรุผนังถึงฝ้าเพดาน

ตัวก๊อกใช้ของ HAFELE และส่วนที่จะแปลกสักหน่อยคือที่แขวนกระดาษทิชชู่ ดันไปอยู่ใต้อ่างล้างหน้าแถมระยะจากโถสุขภัณฑ์ไกลพอสมควรเลย การใช้งานไม่ค่อยสะดวกนัก

ด้านซ้ายมือจะเป็นโซน Shower ไม่มีกระจกกั้นมาให้แต่มีที่วางสบู่มาให้ ส่วนขนาดพื้นที่อาบน้ำก็เล็กตามพื้นที่ห้องยืดแขนยืดขาได้ไม่ค่อยเต็มที่

พื้นห้องน้ำจะมีธรณีปูกระเบื้องสูงประมาณ 8 ซม.และโซนอาบน้ำจะลดลงอีก 2 ซม.เวลาอาบน้ำมีเลอะไปบริเวณโถสุขภัณฑ์แน่นอน

จากหน้าห้องน้ำหันออกไปทางระเบียง จะมีประตูบานเลื่อนเดี่ยวไว้ออกไประเบียง

ตัวประตูจะมีธรณีก่อมาให้แต่ไม่ได้ติด Wallpaper มาให้แบบนี้นะครับ กลอนประตูเป็นแบบ 2 ชั้น

พื้นที่ด้านนอกก็วางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ 2 ตัวกับเครื่องซักผ้า 1 เครื่องแบพอดีเป๊ะๆ (ขนาดเครื่องซักผ้าคือ 7 กก.)

ราวระเบียงเป็นโครงเหล็กทาสีเขียว

ด้านข้างมีท่อซักล้างเตรียมมาให้พร้อม

ต่อไปมาดูห้องเปล่าบ้าง แบบห้องนี้จะกลับด้านกับห้องที่ตกแต่งแล้วนะครับ

ห้องนอนแบบโล่งๆ สังเกตเห็นหน้าต่างไหม๊ครับ ของจริงเป็นแบบนี้แหละมีบาน Fix กับบานเลื่อนสลับอยู่ด้วยกัน

พื้นที่วางโซฟ้า

หันไปทางห้องครัวได้เห็นมุมห้องน้ำที่ถูกปาดออกไปแบบชัดๆ การทำแบบนี้มีข้อเสียคือพื้นที่วางทีวีแคบลงตำแหน่ง Center ในการติดตั้งทีวีจะเสียไป แต่จะได้บรรยากาศของห้องที่กว้างขึ้นแทน

 

LPN_OP_22S_05

มุมมองจากห้องนอนออกไปยังทางเข้า เห็นสวิทช์ไฟที่อยู่ตรงกำแพงของห้องนอนไหม๊ครับเวลาทำ Built-in หรือจะซื้อโต๊ะวางทีวีอย่าเลือกตัวที่มีความลึกมากนะครับเพราะการเดินเข้าออกห้องอาจจะชนมุมโต๊ะได้

Built-in ครัวชุดบนมีให้แค่ชั้นวางของ 2 ขั้นเท่านั้น

แบบ 26 ตร.ม.สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาไม่ใช่หน้ากว้างแต่เป็นความลึกครับ

พื้นที่ๆได้เพิ่มขึ้นมาคือระยะระหว่างห้องนอนและห้องครัว

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ห้องนั่งเล่นแบบมีโต๊ะทำงาน

พื้นที่วางทีวีมีเท่าเดิม

พื้นที่ข้างเตียงจะมีเยอะขึ้นแต่พื้นที่ปลายเตียงยังคงเหมือนเดิม

รูปนี้เอาไว้เป็นไอเดียทำ Built-in ห้องเพราะได้ตู้เก็บของและกระจกเงาแบบ Full Height

ระยะด้านนี้เหลือกว้างขึ้น

พื้นที่ Pantry ครัวก็เพิ่มขึ้นด้วยมีช่องเพิ่มมาให้ 1 ช่อง

ตัวอ่างล้างจานห้องนี้จะมีขนาดเท่ากับห้อง 22.5 ตร.ม.แต่วางตามแนวนอนการใช้งานจะสะดวกกว่า

พื้นที่โต๊ะทานอาหารมีเยอะขึ้นสังเกตได้จากระยะที่เหลือจากกำแพงถึงขอบโต๊ะ

พื้นที่ห้องครัวอีกซักมุม

สิ่งที่แตกต่างของห้องน้ำคือลายกระเบื้องกรูผนังที่ต่างออกไป ลายกระเบื้องแบบนี้ดูดีและมีราคากว่าแบบสีขาวพื้นๆ

และห้องนี้จะมีฉากกั้นอาบน้ำแถมมาให้ด้วย ถ้าดูเผินๆเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแต่จริงๆแล้วมันมีอยู่ครับ มันะมีกับคนที่มีความสูงเกิม 180 ขึ้นไปเพราะความสูงของรางด้านบนสูง 1.8 พอดีการเดินเข้า-ออกคงต้องก้มตัวลงซักหน่อย

แบบ 2 ห้องนอนก็มีมาให้ดูนะครับ

โซนแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นและโซนทานอาหารกระจกเต็มบานที่เห็นของจริงก็ไม่มีนะครับเป็นแบบห้องนอนเลย

โต๊ะทานอาหารได้เพิ่มมาเป็นแบบ 4 ที่นั่ง ประตูด้านขวามือเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนประตูที่ติดกับชั้นวางทีวีจะเป็นห้องนอนใหญ่

หันกลับไปยังหน้าห้องจะเป็นตู้เก็บรองเท้า

ตำแหน่งการวางทีวียังคงเป็นปัญหาอยู่นะครับเพราะไม่สามารถวางตรงกับโซฟาได้เนื่องจากห้องเว้นช่องไว้ทำทางเข้าห้องนอนใหญ่

ภายในห้องนอนเล็กใส่เตียงได้แค่ 3 ฟุตเท่านั้นและไม่มีระยะปลายเตียงเหลือเลย หน้าต่างที่อยู่มุมห้องจะทะลุกับห้องน้ำของห้องนอนใหญ่

ตู้เสื้อผ้าก็ใส่ได้แค่ 1 บานเปิดกับโต๊ะเครื่องแป้งเท่านั้น

มาดูห้องนอนใหญ่กันต่อ เตียงที่เห็นยังคงเป็นแบบ 5 ฟุตและต้องวางติดกำแพงด้านใดด้านนึง

หน้าต่างก็ไม่ใช่แบบนี้แต่เป็นแบบห้องเปล่าครับ

หันกลับมาหน้าห้องจะเห็น Built-in ไว้ติดตั้งทีวี ที่ยังคงเป็นปัญหาเดิมคือตำแหน่งทีวีกับเตียงไม่ตรงกัน (ของจริงไม่มี Built-in ให้นะครับ)

ทางเข้าห้องน้ำจะแปลงเป็น  Walk-in Closet โดยมี Built-in ตู้เสื้อผ้าแถมมาให้

ช่องข้างตู้เสื้อผ้าก็เป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดเล็ก

อีกด้านจะเป็นช่องเอาเก็บของได้และมีหน้าต่างทะลุไปห้องนอนเล็ก

ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดซึ่งทุกอย่างจะเหมือนกับแบบ 22.5 ตร.ม.

ส่วนระเบียงมีขนาดเท่าๆกันเอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ 2 เครื่อง

มุมมองจากหน้าห้องนอนใหญ่ไปยังบริเวณครัว ฉากกั้นระหว่างโซฟากับครัวไม่มีให้นะครับ

มุมห้องน้ำก็ยังคงถูกปาดออกไปเหมือนเดิม

ครัวจะได้แบบ 22.5 ตร.ม.ไม่ยาวเหมือน 26 ตร.ม.

พืนที่ระเบียงก็จะดูโล่งขึ้นนิดนึงเพราะวางคอมเพรสเซอร์แอร์แค่เครื่องเดียวกับเครืองซักผ้า

ปิดท้านด้วยบานประตูห้องที่ทางโครงการทำไว้เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าห้องแบบ 45 ตร.ม.คือการใช้ 2 ห้องปรกติมายุบรวมกัน ขนาดประตูทางเข้าหลักมีขนาดใหญ่ดีครับกว้างประมาณ 1 เมตร แต่กลอนประตูยังคงเป็นแบบลูกบิดและมี Dead Lock มาให้

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 January 2014

  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 3-4 ห้อง 02-03 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.214 ล้านบาท หรือ 53,956 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร B1 ชั้น 5-6 ห้อง 02-03 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.414 ล้านบาท หรือ 54,385 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร B2 ชั้น 3-4 ห้อง 02-03 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.404 ล้านบาท หรือ 54,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร C1 ชั้น 5-6 ห้อง 12-13 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.202 ล้านบาท หรือ 53,422 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร C2 ชั้น 3-4 ห้อง 02-03 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.378 ล้านบาท หรือ 53,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร D1 ชั้น 5-6 ห้อง 02-03 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.363 ล้านบาท หรือ 52,423 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร D2 ชั้น 5-6 ห้อง 02-03 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.180 ล้านบาท หรือ 52,444 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom(Combine) อาคาร x ชั้น x ห้อง xxx เนื้อที่ 45 ตร.ม. ราคา 2.36 ล้านบาท หรือ 52,400 บาท/ตร.ม.
  • วิธีการคิดราคาห้องแบบ Combine เป็นการคิดแบบคร่าวๆโดยเอาห้องที่ ราคา เราต้องการมาคูณ 2 เท่านั้นเอง

 

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Shuttle Bus ไป Airport Link หัวหมาก
  • จอง xx บาท
  • ทำสัญญา xx บาท
  • ค่ากองทุน xx บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง xx บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • ค่าจอดรถยนต์ 300 บาท/คัน/เดือน
  • ค่าจอดรถมอเตอร์ไซด์ 50 บาท/คัน/เดือน
  • 1 ห้อง/1 สิทธิ์ (ไม่สามารถใช้สิทธิ์ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซด์พร้อมกันได้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

** ในส่วนของราคาอาจยังมีรายละเอียดไม่ครบเพราะตอนเข้าเยี่ยมชมโครงการยังไม่มีการเปิดขายครับ **

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช – พัฒนาการ ตั้งอยู่ติดถนนอ่อนนุชเลยและด้านหลังติดคลองประเวศบุรีรมย์ ตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่ระหว่างถนนศรีนคริทน์และถนนพัฒนาการ ซึ่งตอนนี้บริเวณแยกอ่อนนุช-พัฒนาการกำลังมีการก่อสร้างสะพานเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นและจะมีถนนตัดใหม่ตรงการพัฒนาการไปออกสู่ถนน เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 บริเวณด้านหลังสวนหลวง ร.9 อาคารโดยรอบส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัยกับอาคารพาณิชย์ และมีโรงงานขนาดเล็กประปราย

สภาพแวดล้อมถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์กำลังดีห่างจากห้างสรรพสินค้าไม่ไกล และมีห้างให้เลือกเดินหลายห้างเช่น Seacon Square, Paradise และ Thanya Park หรือถ้าจะหาของกินใกล้ๆก็อยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นหมู่บ้านเสรีอ่อนนุช มีทั้งร้านมินิมาร์ทอย่าง 7Eleven, CP Fresh Mart, Tseco Lotus Express และมีร้านค้าตึกแถวช่วงต้นซอย บริเวณปากซอยหมู่บ้านจะมีลานกว้างที่เป็นแหล่งขายอาหารจานเดียวตั้งอยู่เต็มลาน สามารถเดินข้ามสะพานลอยที่ติดกับโครงมาได้เลย

การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกมากเพราะมีเส้นทางให้เลือกเยอะพอสมควร เส้นทางหลักที่ใช้อย่างถนน อ่อนนุช จะเชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิทด้วยระยะทางประมาณ 8.1 กม. หรือถ้าจะใช้ถนนศรีนครินทร์ที่เชื่อมต่อไปยัง บางนา, พัฒนาการ, รามคำแหง และลาดพร้าวก็สะดวกเพราะห่างจาก 4  แยกจุดตัดเพียงแค่ 1.3 กม.แต่ถ้าขับรถจริงจะต้องวิ่งออกจากโครงการไปกลับรถทำให้ระยะวิ่งจะอยู่ที่ 3.2 กม. ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 11 กม. ถ้าจะไป Mega บางนาก็ใช้ ถนนกาญจนาภิเษก(ฝั่งตะวันออก)ได้ แต่ปัญหาหลักคือเรื่องที่จอดรถน่าจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริงเพราะรวมจอดซ้อนคันแล้วยังได้แค่ประมาณ 35% เท่านั้นเอง

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยังถือว่ามีความสะดวกอยู่มาก (ถ้าไม่เน้นใช้รถไฟฟ้า) ด้วยความที่โครงการอยู่ติดถนนอ่อนนุชไม่ต้องเข้าซอยลึกทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกต่อ ป้ายรถเมล์ก็อยู่เกือบติดกับหน้าโครงการทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก รถสาธรณะก็จะมีรถเมล์และ 2 แถวให้ใช้บริการเป็นหลัก ซึ่งรถ 2 แถวก็มีหลายเส้นทางให้เลือก ส่วนคนที่ต้องใช้รถไฟฟ้ามีให้เลือก 2 เส้นทางคือ 1 ใช้ Airport Link หัวหมากซึ่งทางโครงการมีเตรียมรถตู้ไว้คอยให้บริการด้วยแต่จะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลครับแต่ส่วนมากก็จะเรียบเก็บแบบขั้นบนไดจาก 15 บาทไล่ไปเรื่อยๆ เส้นทางที่ 2 คือนั่งรถ 2 แถวไปขึ้น BTS อ่อนนุช แต่จะกินเวลาไปมากอยู่เหมือนกันยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนรถจะติดตั้งแต่ต้นถนนอ่อนนุชเลยครับ

วัสดุอุปกรณ์ที่จัดมาให้นั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานของ ลุมพินี คือขายแบบ Fully Fitted โดยมีชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ครบ อ่างล้างหน้าเป็นไฟเบอร์ ก๊อกน้ำและชุดฝักบัวอาบน้ำใช้ของ Hafele มีชุด Built-in ครัวมาให้ชุดล่างเป็นตู้แต่ชุดบนมีแค่ชั้นวางของ และสุดท้ายคือมีชุด Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ถ้าเป็นแบบ 1 Bedroom 26 ตร.ม.จะได้ฉากกั้นโซน Shower เพิ่มมาให้พิเศษกว่าห้องอื่นๆ พื้นทั้งหมดทุกแบบเป็นพื้นไม้ Laminate หนา 8 มม. หน้าต่างใช้กรอบอลูมิเนียมสีมาตรฐานทั่วไป

การออกแบบของโครงการ ลุมพินี ก็จะเป็นแบบคล้ายๆกันหมดทั้งรูปลักษณ์ภายนอกจนถึงภายในห้อง แม้กระทั่งส่วนกลางต่างๆก็ยังมีความคล้ายกันมากทั้งในแง่การออกแบบละวัสดุ หรือจะเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของเค้าก็ว่าได้ สิ่งนึงที่เป็นจุดด้อยของโครงการจาก ลุมพินี คือความหนาแน่นที่มีค่อนข้างสูงแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเทียบกับราคาขาย อัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่  114 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับราคานี้

สาธารณูปโภคของโครงการ มีอาคาร Club House แยกอยู่บริเวณด้านหลังของโครงการ ภายในจะมีสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายเป็นอาคาร 2 ชั้น มีร้านค้า 7 ยูนิตที่อาคาร A ชั้น 1 และมีสวนหย่อมอยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร B1-B2, C1-C2 และ D1-D2 อาคารที่ไม่ติดกับสวนเลยคืออาคาร A ที่อยู่ด้านหน้าสุด ส่วนสวนที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อาคาร C

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 53,400 บาทต่อตารางเมตร, 21 January 2014

  • ทำเล 7.5/10 – โครงการติดถนนใหญ่เข้าออกได้สะดวก อยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า ตรงข้ามโครงการมีแหล่งร้านค้า
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – มีเส้นทางให้เลือกใช้เยอะใกล้ทั้งถนนศรีนครินทร์และพัฒนาการแต่ที่จอดรถมีแค่ 35%
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีป้ายรถเมล์หน้าโครงการทั้ง2 ฝั่งมีรถสาธารณะวิ่งผ่านเยอะและถี่ มี Shuttle Bus ไป Airport Link หัวหมาก
  • วัสดุ 7.0/10 – ขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัว Built-in, ฉากกั้นห้องนอนแบบเลื่อนกระจกใส 3 ตอน และ ตู้เสื้อผ้า
  • แบบ 7.25/10 – แบบค่อนข้างลงตัวได้ครบทุกฟังก์ชั่น แต่พื้นที่ห้องเล็กการเก็บข้าวของทำได้ลำบากหน่อย และเฟอร์นิเจอร์แนะนำแบบ Built-in เพื่อจะได้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – Club House 2 ชั้นแยกต่างหากมีสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายด้านใน มีสวนตรงกลาง Court ของแต่ละอาคาร

  • ECONOMY CLASS
  • 7.41 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช – พัฒนาการ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหรือเรียนอยู่ในละแวกนี้ และต้องการหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ด้วยงบประมาณ 1 ล้านต้นๆ และเน้นเดินทางสะดวกด้วยรถสาธารณะ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧