LPN_LV_ON46_Tive_01

รีวิวฉบับที่ 519 … สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิก TOL ทุกท่าน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมได้พาไปดูโครงการ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช-พัฒนาการ  ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดขายพร้อมๆกันกับโครงการนี้ และตัวโครงการก็อยู่ไม่ไกลกันมาก โยตั้งอยู่บนถนน สุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) เหมือนกันแต่อยู่ระหว่างฝั่งซ้ายและขวาของถนนศรีนครินทร์ เราไปดูกันดีกว่าครับว่าโครงการจะมีลักษณะเป็นอย่างไร ヾ(^-^)ノ~♪

Fact @ 31 January 2014

  • Lumpini Ville On Nut 46 (ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช 46)
  • บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  • SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 7 อาคาร 1,450 ยูนิตและร้านค้า 6 ยูนิตที่อาคาร B1(1), B2(1) และ C1(4)
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 36 ยูนิตที่อาคาร C1, C2 และ D
  • ที่จอดรถประมาณ xx คันคิดเป็น xx% รวมจอดซ้อนคัน 480 คันคิดเป็น 33.10%
  • ที่ดินประมาณ 13 ไร่เศษ
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ ปลายปี 2557
  • 1 Bedroom 22.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 0.888 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.054 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30.5  ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.11 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 0.888 ล้านบาทหรือประมาณ 39,467 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 39,995 บาท
  • http://www.lpn.co.th/condominium/index.php/lumpini/home/LV-ON46
  • สำนักงานขาย 02-320-3477
  • Call Center 02-689-6888

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.707505,100.634607

LPN_LV-ON46_Map

แผนที่จากโครงการครับ

LPN_LV_ON46_Map_Area2

สภาพแวดล้อมใกล้เคียงส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซะเป็นส่วนมาก และเป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์แต่หลังๆจะเริ่มมี คอนโด เยอะขึ้นเรื่อยๆ ที่ตั้งโครงการห่างจากปากซอย อ่อนนุช 46 ประมาณ 400 เมตร และซอยนี้เป็นซอยใหญ่ที่ค่อนข้างคึกคักเพราะสามารถใช้เป็นเ้ส้นทางลัดออกสู่ถนนต่างๆได้หลายเส้นทาง ถ้าวิ่งลึกเข้าไปในซอย อ่อนนุช 46 จะสามารถออกสู่ถนนศรีนครินทร์ได้ ซึ่งมีทางออกช่วงสะพานหน้าห้าง Seacon Square พอดีทำให้เข้าห้างได้โดยโตรงไม่ต้องไปกลับรถอีกต่อ ส่วนขากลับสามารถใช้สะพานกลับมายังฝั่งขาเข้าเหมือนเดิมแล้วเข้าจากปากซอยแทน ถ้าใครจะไป Paradise Park หรือจะไปสวนหลวง ร.9 ก็ใช้สะพานเดียวกันแต่ก่อนเข้าห้าง Seacon Square  จะมีทางออกสู่ถนน ศรีนครินทร์ ขาออก

การเดินทางต้องบอกว่าการใช้รถจะสะดวกกว่าเพราะมีทางลัดเยอะ แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนรถติดเอาเรื่องครับทั้ง ถนนศรีนครินทร์ และ ถนนสุขุมวิท ทางเลี่ยงรถติดขาออกจะมีทางลัดไปซอย สุขุมวิท 101/1 (ซอย วชิรธรรมสาธิต) และ ซอย สุขุมวิท 103 (ซอย อุดมสุข) หรือถ้าจะใช้บริการรถสาธารณะก็ไม่ถือว่า่ลำบากเพราะมีรถ 2 แถวมีให้บริการตลอด โดยเส้นทางการวิ่งคือเริ่มต้นจากใต้สะพานข้ามคลองบริเวณแยก อ่อนนุช กับ สุขุมวิท วิ่งเ้ข้ามาในซอยอ่อนนุช แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอย 46 ไปทะลุออกหน้าห้าง Seacon แล้ววนกลับเข้าเส้นทางเดิมเพื่อออกไปปากซอยอ่อนนุช

ความอุดมสมบูรณ์มีมาให้อย่างครบครันตั้งแต่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7Eleven ที่อยู่ติดกับโครงการ หรือจะเป็นตลาดสดบริเวณหมู่บ้านมิตรภาพ ถ้าจะหาของกินประเภทร้านอาหาร, อาหารจานเดียวก็ีมีให้เลือกเยอะตลอดเส้นทางที่ไปหน้าห้าง Seacon ซึ่งบริเวณนั้นมี Aparment ตั้งอยู่หลายอาคาร ด้านล่างก็จะมีของกินให้เลือกอื้อเลยครับ ส่วนถ้าอยากเดินชิวๆมีแอร์หรืออยากทานอาหารแบบอินเตอร์แบรนด์ก็มี Community Mall ที่ชื่อ  Pickadaily Bangkok ตกแต่งสไตล์ English Old Town อยู่บริเวณหน้าโครงการ A Space ห่างจากโครงการประมาณ 550 เมตรและอีกที่นึงคือ  People Park บริเวณปากซอยอ่อนนุชใกล้ๆกับ โครงการ ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 77 (2) แต่ยังไม่เริ่มสร้างนะครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าและ Hypermarket ก็มี Seacon Square, Paradise Park, Thanya Park และ BigC (ปากซอยอ่อนนุช)

LPN_LV_ON46_Map_Route

เส้นทางในวันนี้จะเริ่มต้นที่ทางด่วนบางนาลงมาที่ซอย สุุขุมวิท 62 และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท ไปกลับรถใต้สะพานข้าม คลองพระโขนง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนอ่อนนุช เลี้ยวขวาอีกทีเข้าซอยอ่อนนุช

การมาโครงการโดยใช้ทางด่วนบางนาแล้วใช้ทางออก ซอยสุขุมวิท 62

วิ่งมาสุดซอยก็เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าเส้นอ่อนนุช

สถานีรถไฟฟ้า บางจาก อยู่ปากซอย 62 พอดีๆเลย

วิ่งตรงมาเจอแยกอ่อนนุช จะเลี้วขวาไม่ได้นะครับต้องตรงไปชิดซ้ายแล้วกลับรถใต้สะพาน

ช่องกลับรถใช้ช่องแรก ส่วนช่องที่ 2 สำหรับรถใหญ่และทางเข้าอู่รถ 2 แถว

กลับรถมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้า อ่อนนุช

บริเวณปากซอยจะมี Big C Extra อยู่ด้านขวามือและด้านซ้ายมือจะเป็นที่ขึ้นรถ 2 แถว ถ้าใครมาจากรถไฟฟ้าก็เดินเลาะหลัง Big C มาขึ้นรถที่ตรงนี้ได้เลยครับ

ช่วงปากซอยมีคอนโดอยู่หลายโครงการเลย มีทั้ง blocs 77, The Base, ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 77, U Delight อ่อนนุช สเตชั่น

เลยโครงการ ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 77 มาจะเจอป้ายโฆษณา Community Mall แห่งใหม่ชื่อว่า people park

ตรงมาไม่ไกลเจอ 3 แยกไปออกพัฒนาการ และหลังรามได้

ตรงเข้ามาเรื่อยๆจะเจอซอย อ่อนนุช 46 อยู่ด้านขวามือ แต่ผมยังไม่เข้าซอยนะครับจะพาไปดู Community Mall อีกแห่งก่อน

Community Mall นี้มีชื่อว่า Pickadaily Bangkok ตกแต่งสไตล์ English Old Town รูปนี้ผมกลับรถแล้วถึงถ่ายรูปมานะครับ ถ้าตรงมาจากปากซอยอ่อนนุชจะอยู่ซ้ายมือ

เอาหละมาเข้าซอย อ่อนนุช 46 กันต่อช่วงนี้มีป้ายโฆษณาของโครงการตั้งอยู่เยอะเลย

เข้ามาได้ 400 เมตรก็เจอกับสำนักงานขายอยู่ด้านขวามือ ที่ดินของโครงการถุกแบ่งเป็น 2 ฝั่งและจะมีการล้อมรั้วไว้อย่างชัดเจนครับ

เข้ามาดูในซอยด้านหลังสำนักงานขาย ด้านซ้ายมือเป็นที่ดินของอาคาร C1, C2, และ D สำนักงานขายตั้งอยู่บนที่ดินของคนอื่นนะครับไม่ใช่ที่ดินของโครงการ

ด้านหลังของ C1, C2 และ D จะมีคอนโดสูง 8 ชั้นอยู่

LPN_LV_ON46_Map_RouteA

มาดูทางลัดกันต่อนะครับว่ามีเส้นทางอย่างไรบ้าง เส้นทางหลักคือการวิ่งลึกเข้าไปในซอย อ่อนนุช 46 จะไปทะลุเส้นทางต่างๆได้ผมจะวิ่งไปจนถึงแยกที่ออกได้ทั้ง ซอย สุขุมวิท 101/1 (ซอย วชิรธรรมสาธิต) และ ซอย สุขุมวิท 103 (ซอย อุดมสุข) แล้วค่อยวนกลับมาทะลุหน้าห้าง Seacon Square เป็นลำดับสุดท้าย

ถ้าวิ่งเลยโครงการเข้ามาในซอยจะผ่านหมู่บ้านเก่าแก่หลายหมู่บ้านอย่างหมู่บ้านมิตรภาพ ในรูปคือวงเวียนของหมู่บ้านครับ

วิ่งตามทางมาจะเจอทางแยกไปศรีนครินทร์ได้ถ้าจะไป อุดมสุข และ วชิรธรรมสาธิต ให้เลี้ยวขวา

เลี้ยวขวามาได้นิดเดียวก็เลี้ยวซ้ายต่อ

ตรงมาได้หน่อยจะเจอกับแหล่งชุมชนหนาแน่นเพราะมีอพาร์มเม้นท์ตั้งอยู่หลายอาคาร ด้านล่างมีร้านค้าและร้านอาหารให้เลือกมากมาย ซอยด้านซ้ายมือคือซอยที่ไปออกหน้าห้างตรงสะพานเข้าห้างพอดี

เส้นทางไปอุดมสุขให้ตรงมาจนสุดทางแล้วเลี้ยวขวา

วิ่งตรงมาสุดทางให้เลี้ยวซ้าย

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอ 3 แยกที่เป็นทางแยกไปอุดมสุข และ วชิรธรรมสาธิต ได้

LPN_LV_ON46_Map_RouteB

เส้นทางที่ใช้เข้า Seacon Square ได้สะดวกๆก็มี 2 ซอยคือซอย สุภาพงษ์ 1 และ 3 ครับ

เมื่อออกจากซอยมาแล้วให้ชิดซ้ายขึ้นสะพานเข้า Seacon Square

LPN_LV_ON46_MapSeacon

การขึ้นสะพานหน้าห้าง Seacon Squareจะเป็นลักษณะดังรูปครับ ถ้าใครอยากจะกลับรถเพื่อไป Paradise Park หรือ สวนหลวง ร.9 ให้ลงหลังห้างแล้ววนออกมาอีกที ส่วนขากลับจาก Seacon Square ให้ข้ามสะพานวิ่งไปแยก อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ จะสะดวกกว่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียง (ระยะขับรถจากหน้าโครงการ)

  • Seacon Square ศรีนครินทร์ 3.3 กม.
  • Paradise ศรีนครินทร์ 4.2 กม.
  • Thanya Park 5.2 กม.
  • Maxvalue พัฒนาการ 4.1 กม.
  • Big C (ปากซอยอ่อนนุช) 4.1 กม.
  • ตลาดเอี่ยมสมบัติ 1.4 กม.
  • People Park 3.4 กม.
  • Pickadaily Bangkok 550 เมตร

เจาะลึกตัวโครงการ

LPN-ON-Cam-01-09_RE

ภาพบรรยากาศจำลองภาพรวมของโครงการ ของจริงไม่ได้เป็นสีเีขียวอย่างนี้ทั้งหมดนะครับ

PAGE-00_RE

ตัวโครงการถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งโดยมีถนนอ่อนนุช 46 ขั้นกลางอยู่ ตัวอาคารจะมีรูปร่างเป็นตัว L หันเข้าหากันมี Court ตรงกลางเป็นสวน ยกเว้นอาคาร D ที่เป็นอาคารเดี่ยว เมื่อตัวโครงการถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งทำให้การบริหารจัดการก็ต้องปรับรูปแบบตามไปด้วย โดยนิติบุคคลจะแบ่งเป็น 2 นิติ นิติแรกจะดูแลอาคาร A1, A2, B1, และB2 ส่วนนิติที่ 2 จะดูแลอาคาร C1, C2 และ D แต่ชื่อโครงการเป็นชื่อเดียวกันนะครับ ส่วนอาคารด้านซ้ายล่างสุดที่เห็นจะเป็น Service Apartment สูง8 ชั้นของลุมพินี ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ครับ

LPN_LV_ON46_Map_Site

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการจะมี บ้านพักอาศัยปะปนกับคอนโดอยู่และมีโรงงานกับสำนักงานบ้างประปราย เขคที่ดินส่วนนึงจะมีเนื้อที่ติดกับคูคลองระบายน้ำเล็กๆอยู่ เราไปดูภาพของจริงกันพร้อมกันเลยครับ

รูปนี้ถ่ายจากหน้าสำนักงานขายไปยังที่ดิน ที่จะทำเป็น Service Apartment ตึกข้างๆที่เป็นหอพักจะมี 7Eleven อยู่ด้านหน้าช่วยให้ลูกบ้านสะดวกขึ้น แต่ส่วนมากแล้วมักจะมี 7Eleven มาเปิดตามร้านภายในอาคารอยู่แล้วก็ถือว่ามีความสะดวกมากขึ้นละกันครับ

ที่ดินแปลงนี้จะติดกับอาคารพักอาศัย 5 ชั้นแบบนี้ครับ

ถนนเส้นจะนี้ขั้นระหว่างอาคาร A1 และ Service Apartment

หันไปทางทิศใต้ จะเห็นบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น อยู่อาคารที่ติดกับส่วนนี้คืออาคาร B2 ครับด้านหน้าสุดจะเป็นวัดจีนครับ

ด้านทิศตะวันออกจะเป็นโรงงานและหอพักทั้งหมด โดยมีความสูงตั้งแต่ 3-8 ชั้น แต่ยูนิตที่หันไปเห็นด้านนี้จะมีไม่มากเพราะส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหากัน

คูคลองระบายน้ำด้านข้างจะมีทางเดินเข้า-ออกสำหรับคนที่พักอยู่หอพักด้านใน ซึ่งไม่รู้ว่าพอเริ่มก่อสร้างแล้วจะปิดทางนี้ได้หรือไม่

รูปนี้ผมเดินข้ามมายังที่ดินของอาคาร C1, C2 และ D แล้วนะครับอาคารชั้นเดียวสีส้มๆที่เห็นคือสำนักงานขายของโครงการนี้

ด้านทิศตะวันตก ชั้นล่างๆจะเห็นต้นไม้ตามนี้เลยนะครับ เพราะที่ดินที่ติดกันจะเป็นที่ว่างเปล่า

ด้านทิศใต้คนที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 5 ของอาคาร D ก็จะเห็นแต่อาคารพักอาศัย

สุดเขตที่ดินทางทิศใต้ก็มีถนนกั้นอยู่ ไม่ได้ติดกับที่ดินของใคร จากในรูปด้านขวาเป็นที่ดินของคนอื่นนะครับไม่ใช่ของ ลุมพินี ตอนนี้เค้าแค่เช่าที่เอาไว้ตั้งสำนักงานขายเท่านั้น

LPN_LV_ON46_MAP_Floor1_re

 

ผังบริเวณชั้นล่างของทุกอาคาร จะสังเกตเห็นว่าโครงการนี้ไม่มีสระว่ายน้ำมาให้นะครับ มีแต่สวนหย่อมระหว่างอาคาร, ห้องอเนกประสงค์ และห้องออกกำัลังกายที่อาคาร A2 และ D ที่จอดรถจะอยู่ด้านใต้อาคารต่างๆแล้วถนนรอบๆโครงการ ไม่ได้มีอาคารจอดรถมาให้ ทำให้พื้นที่จอดรถมีน้อยมากครับประมาณ 33% เท่านั้นเอง

ผังอาคาร A1 และ A2 ชั้นล่าง ยูนิตพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 แต่มีแค่ 2 ห้องที่อาคาร A2 ส่วนพื้นที่อื่นๆจะเป็น สำนักงานนิติบุคคล, ห้องอเนกประสงค์, ห้องออกกำลังกาย และอื่นๆ

ผังอาคาร A1 และ A2 ชั้น 2-8 ห้องด้านในสวนเป็นห้องขนาด 26 และ 26.5 ตร.ม. ส่วนห้องด้านนอกสวนจะเป็นห้องขนาด 22.5 และ 23 ตร.ม.

ผังอาคาร B1 และ B2 ชั้นล่าง โซนนี้จะมีห้องพักที่ชั้น 1 เยอะหน่อย และส่วนใหญ่จะมีขนาด 30.5 ตร.ม. ซึ่งใหญ่กว่าห้องที่อยู่ชั้นบนๆขึ้นไป อาคารนี้จะมีร้านค้าอยู่ที่ชั้นล่าง 2 ร้านค้า

ผังอาคาร B1 และ B2 ชั้น 2-8 ยังคงรูปแบบการวางผังไว้เหมือนเดิม คือเน้นวิวสวนด้านในและห้องติดสวนเป็นขนาด 26 ตร.ม.

ข้ามมาดูอาคารอีกฝั่งกันบ้าง อาคาร C1 จะมีร้านค้าถึง 4 ร้านและมีขนาดใหญ่กว่าที่อาคาร B ด้วย ถ้าลองดูผังดีๆจะเห็นว่าโครงการตั้งใจทำให้ร้านค้ารองรับคนภายนอกด้วย โดยให้การเข้าออกร้านค้าทำได้จากทางด้านหน้าเท่านั้น ถ้าลูกบ้านจะซื้อของก็ต้องเดินออกไปด้านหน้า ตรงจุดนี้ต้องรอดูว่าจะมีความปลอดภัยสำหรับลูกบ้านมากน้อยแค่ไหน และการเข้า-ออกของบุคคลภายนอกจะมีขอบเขตอย่างไร อันนี้ลูกบ้านต้องช่วยๆกันดูนะครับ

ผังอาคาร C1 และ C2 ตัวอาคารจะมีความยาวกว่าอาคาร A และ B ทำให้ความหนาแน่นของฝั่งนี้มีสูงกว่าพอสมควร ระยะห่างระหว่างอาคารแคบที่สุดอยู่ที่ประมาณ 8 เมตรครับ

ผังอาคาร D ชั้นล่าง อาคาร D เป็นอาคารที่ตั้งแยกออกมา ไม่ได้มาเป็นคู่เหมือนอาคารอื่นๆเค้า วิวที่ได้ก็จะเป็นวิวสวนปนกันวิวถนนในโครงการ

ผังอาคาร D ชั้น 2-8

LPN_LV_ON46_chart

กราฟข้อมูลจำนวนยูนิตและอัตราส่วนลิฟท์ จะเห็นว่าอาคาร A1 ไปจนถึง B2 นั้น มีความหนาแน่นต่ำกว่าอาคารอีกฝั่ง (CและD) อยู่พอสมควร ถ้าใครอยากได้ความหนาแน่นที่ต่ำหน่อยก็ควรเลือกอาคาร A1-B2 ครับ

ภาพจำลองโครงการที่เป็น Service Apartment

ภาพจำลองโครงการฝั่งอาคาร A1 – B2 เรื่องรูปแบบอาคารคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนะครับเพราะส่วนใหญ่แล้ว โครงการของลุมพินีจะมีหน้าตาเหมือนๆกันหมด

ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมระหว่างอาคาร A1 และ A2

ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมระหว่างอาคาร B1 และ B2

ภาพจำลองอาคาร C1, C2 และ D ด้านซ้ายมือคือาคาร D นะครับ

ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมระหว่างอาคาร C1 และ C2

ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมระหว่างอาคาร D

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ : ไม่มี
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ที่อาคาร A2 และ D
  • สวนหย่อมระหว่างอาคาร
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 103.57 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A1 : 87.5 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A2 : 81.5 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B1 : 84.5 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B2 : 84.0 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C1 : 126 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C2 : 131 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก D : 130.5 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัว
  • ที่จอดรถ 480 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 33.10%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 

Product Walkthrough

ในส่วนนี้ขอนำข้อมูลของโครงการ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช-พัฒนาการ มาลง เพราะว่ารูปแบบของห้องเป็นแบบเดียวกันหมด และมีข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของราคาเฟอร์นิเจอร์แบบห้องตัวอย่าง

แบบห้องของโครงการนี้จะมี 3 แบบคือ แบบ 22.5 ตร.ม., 26 ตร.ม. และแบบ Combine 2 ห้องรวมกัน 45 ตร.ม. โดยรวมแล้วแบบ 22.5 ตร.ม.กับ 26 ตร.ม.แทบไม่ต่างกันเลยจะต่างกันแค่ขนาดของห้อง โดยระยะที่เพิ่มขึ้นมาคือความลึกของห้องแต่หน้ากว้างยังคงเท่าเดิม ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลผังห้องแต่ละแบบครับ ดูจากรูปห้องตัวอย่างกันไปก่อนนะครับถ้าได้ผังมาแล้วจะรีบเอามาลงให้นะครับ

เริ่มต้นด้วยห้องตัวอย่างขนาด 22.5 ตร.ม.ก่อน หน้ากว้างห้อง 5.1 เมตรและยาว 4.55 เมตร ซึ่งแบบห้องก็คล้ายๆกับโครงการของลุมพินี วิลล์ในทำเลอื่นๆ เรียกว่าเป็นแบบมาตรฐานของเค้าเลยครับ

บริเวณหน้าห้องจะมีข้อมูลของตกแต่งในห้องให้ดูเผื่อว่าใครอยากได้แบบห้องตัวอย่างก็สั่งทางโครงการได้เลย

รายละเอียดต่างๆลงไว้ให้ครบแม้กระทั้งงานระบบไฟฟ้าต่างๆ

ผังห้องแบบ 22.5 ตร.ม.

ส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับห้องนอน การขายเป็นแบบห้องเปล่ามีให้แค่สุขภณฑ์ห้องน้ำ, Pantry ชุดครัว, และ Built-in ตู้เสื้อผ้า

ด้านซ้ายมือใส่โซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้และมีที่วางของเหลืออีกหน่อย แต่ถ้าใครจะทำโต๊ะไว้นั่งทำงานด้วยตัวโซฟาต้องลดลงเหลือ 2 ที่นั่ง

ด้านขวาเป็นตำแหน่งวางทีวีและตู้เก็บของ ซึ่งพอวางทีวีขนาด 42″ ได้กพอดีซึ่งก็สอดคล้องกับระยะนั่งดูทีวีพอดี

อันนี้ถ่ายมาให้ดูเป็นไอเดียเวลาตกแต่งห้องเพราะคอนโดสมัยนี้พื้นที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆทำให้พื้นที่เก็บของให้ห้องอาจจะมีไม่พอต่อความต้องการ ถ้าทำ Built-in แบบนี้ก็ช่วยเพิ่มที่เก็บของได้ครับ โดยเพิ่มช่องเก็บของด้านใต้โซฟา

ห้องนอนตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าและเตียงเป็นขนาด 5 ฟุต

ชั้นวางของที่เห็นของจริงไม่มีมาให้ สิ่งที่ให้มีแค่ตู้เสื้อผ้าเท่านั้น

หน้าต่างของจริงไม่ใช่กระจกบานใหญ่แบบนี้ แต่เป็นแบบบานเลื่อนสลับธรรมดา

พื้นที่ข้างเตียงด้านที่ติดกับเหลือนิดเดียว ความกว้างก็ประมาณช่องเก็บผ้าม่าน

อีกด้านถือว่ายังกว้างอยู่พอเดินได้แบบไม่ติดขัดอะไร

ระยะห่างปลายเตียงก็เหลือเยอะพอสมควรแต่ถ้าใครทำชั้นวางทีวีลึก 60 ซม.พื้นที่ตรงนี้จะเหลือแค่เดินคนเดียวได้พอดีๆ

มือจับตู้เสื้อผ้าเป็น Stainless 9ตัว L แบบนี้ดูสวยแบบเรียบๆแต่การใช้งานจริงจะจับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่เพราะระยะห่างของมือจับช่วงที่งอกับประตูตู้มีนิดเดียวแถมเหลี่ยมมุมค่อนข้างคม

ขนาดตู้เสื้อผ้าไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าอยู่กัน 2 คนแล้วมีเสื้อผ้าเยอะหน่อยคงต้องหาที่เก็บเพิ่มเติมแน่ๆครับ

หน้าตาสวิทช์ไฟเป็นของ bticino แบบมาตรฐาน

การเปิด-ปิดของประตูห้องนอน เป็นแบบบานกระจกเลื่อน 3 ตอนช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับห้องนั่งเล่นและทำให้ห้องดูไม่อึดอัดเกินไป

ตัวรางที่พื้นก็มีขนาดใหญ่ตามจำนวนบานเลื่อน ซึ่งตัวรางก็มีความสูงอยู่นิดหน่อยอาจจะมีการเดินสะดุดได้ถ้าไม่ระวัง พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ลายไม้มาตรฐาน ลุมพินี ครับ

ทางเดินไปยัง Pantry ครัวกำแพงด้านที่เป็นห้องน้ำจะปาดมุมมาให้ ทำให้ทางเข้าดูไม่แคบเกินไป

ชุดครัวจะแถมชุดล่างและบนมาให้แบบนี้ แต่ไม่ไม่มีกระเบื้องด้านหลังกรุแบบห้องตัวอย่างนะครับ ขนาดตู้เย็นที่เห็นคือ 6.4 คิวบิกฟุตหรือ 180 ลิตร

วัสดุ Top เคาน์เตอร์ก็เป็น Particle Board กรุเมลานีนลายไม้ บานเปิดปาดมุมมาให้และที่วางของด้านหลังอ่างล้างจานยกสูงมาหน่อย

การวางตัวอ่างเป็นแบบแนวยาวมีขนาดไม่ใหญ่มาก ถ้าใครไม่ชินกับการใช้อ่างตามแนวตั้งนี่น้ำกระเด็นออกมาง่ายๆเลย ล้างจานเสร็จก็เช็ดรอบๆให้แห้งนะครับเพราะวัสดุแบบนี้ไม่ทนต่อการแช่น้ำนานๆ

ด้านตรงข้ามจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ซึ่งการจัดวางที่นั่งจะจัดแบบให้ตรงข้ามกันไม่ได้ต้องนั่งหันหน้าทางเดียวกัน

เมื่อเปิดประตูห้องน้ำมาสิ่งแรกที่เจอคือโถสุขภัณฑ์เลย เวลาทานอาหารอย่าลืมปิดประตูนะครับไม่อย่างนั้นจะเสียบรรยากาศระหว่างทานอาหาร

เข้ามาในห้องน้ำด้านขวามือเป็นอ่างล้างมือซึ่งตัวอ่างจะมีความยาวเต็มแนวกำแพงและวัสดุเป็น Fiber ที่กำแพงกรุผนังถึงฝ้าเพดาน

ตัวก๊อกใช้ของ HAFELE และส่วนที่จะแปลกสักหน่อยคือที่แขวนกระดาษทิชชู่ ดันไปอยู่ใต้อ่างล้างหน้าแถมระยะจากโถสุขภัณฑ์ไกลพอสมควรเลย การใช้งานไม่ค่อยสะดวกนัก

ด้านซ้ายมือจะเป็นโซน Shower ไม่มีกระจกกั้นมาให้แต่มีที่วางสบู่มาให้ ส่วนขนาดพื้นที่อาบน้ำก็เล็กตามพื้นที่ห้องยืดแขนยืดขาได้ไม่ค่อยเต็มที่

พื้นห้องน้ำจะมีธรณีปูกระเบื้องสูงประมาณ 8 ซม.และโซนอาบน้ำจะลดลงอีก 2 ซม.เวลาอาบน้ำมีเลอะไปบริเวณโถสุขภัณฑ์แน่นอน

จากหน้าห้องน้ำหันออกไปทางระเบียง จะมีประตูบานเลื่อนเดี่ยวไว้ออกไประเบียง

ตัวประตูจะมีธรณีก่อมาให้แต่ไม่ได้ติด Wallpaper มาให้แบบนี้นะครับ กลอนประตูเป็นแบบ 2 ชั้น

พื้นที่ด้านนอกก็วางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ 2 ตัวกับเครื่องซักผ้า 1 เครื่องแบพอดีเป๊ะๆ (ขนาดเครื่องซักผ้าคือ 7 กก.)

ราวระเบียงเป็นโครงเหล็กทาสีเขียว

ด้านข้างมีท่อซักล้างเตรียมมาให้พร้อม

ต่อไปมาดูห้องเปล่าบ้าง แบบห้องนี้จะกลับด้านกับห้องที่ตกแต่งแล้วนะครับ

ห้องนอนแบบโล่งๆ สังเกตเห็นหน้าต่างไหม๊ครับ ของจริงเป็นแบบนี้แหละมีบาน Fix กับบานเลื่อนสลับอยู่ด้วยกัน

พื้นที่วางโซฟ้า

หันไปทางห้องครัวได้เห็นมุมห้องน้ำที่ถูกปาดออกไปแบบชัดๆ การทำแบบนี้มีข้อเสียคือพื้นที่วางทีวีแคบลงตำแหน่ง Center ในการติดตั้งทีวีจะเสียไป แต่จะได้บรรยากาศของห้องที่กว้างขึ้นแทน

 

LPN_OP_22S_05

มุมมองจากห้องนอนออกไปยังทางเข้า เห็นสวิทช์ไฟที่อยู่ตรงกำแพงของห้องนอนไหม๊ครับเวลาทำ Built-in หรือจะซื้อโต๊ะวางทีวีอย่าเลือกตัวที่มีความลึกมากนะครับเพราะการเดินเข้าออกห้องอาจจะชนมุมโต๊ะได้

Built-in ครัวชุดบนมีให้แค่ชั้นวางของ 2 ขั้นเท่านั้น

แบบ 26 ตร.ม.สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาไม่ใช่หน้ากว้างแต่เป็นความลึกครับ

ราคาของแบบห้อง 26 จะต่างจากแบบ 22.5 อยู่ 70,000 บาทครับ

รายการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์

ผังห้องแบบ 26 ตร.ม.

พื้นที่ๆได้เพิ่มขึ้นมาคือระยะระหว่างห้องนอนและห้องครัว

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ห้องนั่งเล่นแบบมีโต๊ะทำงาน

พื้นที่วางทีวีมีเท่าเดิม

พื้นที่ข้างเตียงจะมีเยอะขึ้นแต่พื้นที่ปลายเตียงยังคงเหมือนเดิม

รูปนี้เอาไว้เป็นไอเดียทำ Built-in ห้องเพราะได้ตู้เก็บของและกระจกเงาแบบ Full Height

ระยะด้านนี้เหลือกว้างขึ้น

พื้นที่ Pantry ครัวก็เพิ่มขึ้นด้วยมีช่องเพิ่มมาให้ 1 ช่อง

ตัวอ่างล้างจานห้องนี้จะมีขนาดเท่ากับห้อง 22.5 ตร.ม.แต่วางตามแนวนอนการใช้งานจะสะดวกกว่า

พื้นที่โต๊ะทานอาหารมีเยอะขึ้นสังเกตได้จากระยะที่เหลือจากกำแพงถึงขอบโต๊ะ

พื้นที่ห้องครัวอีกซักมุม

สิ่งที่แตกต่างของห้องน้ำคือลายกระเบื้องกรูผนังที่ต่างออกไป ลายกระเบื้องแบบนี้ดูดีและมีราคากว่าแบบสีขาวพื้นๆ

และห้องนี้จะมีฉากกั้นอาบน้ำแถมมาให้ด้วย ถ้าดูเผินๆเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแต่จริงๆแล้วมันมีอยู่ครับ มันะมีกับคนที่มีความสูงเกิม 180 ขึ้นไปเพราะความสูงของรางด้านบนสูง 1.8 พอดีการเดินเข้า-ออกคงต้องก้มตัวลงซักหน่อย

แบบ 2 ห้องนอนก็มีมาให้ดูนะครับ

ราคาห้องแบบ 45 โดดไปไกลอยู่เหมือนกันครับ ราคาเพิ่มจากแบบ 22.5 ตร.ม.มาอีก 340,000 บาท

รายการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์

ผังห้องแบบ 45 ตร.ม. (Combine)

โซนแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นและโซนทานอาหารกระจกเต็มบานที่เห็นของจริงก็ไม่มีนะครับเป็นแบบห้องนอนเลย

โต๊ะทานอาหารได้เพิ่มมาเป็นแบบ 4 ที่นั่ง ประตูด้านขวามือเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนประตูที่ติดกับชั้นวางทีวีจะเป็นห้องนอนใหญ่

หันกลับไปยังหน้าห้องจะเป็นตู้เก็บรองเท้า

ตำแหน่งการวางทีวียังคงเป็นปัญหาอยู่นะครับเพราะไม่สามารถวางตรงกับโซฟาได้เนื่องจากห้องเว้นช่องไว้ทำทางเข้าห้องนอนใหญ่

ภายในห้องนอนเล็กใส่เตียงได้แค่ 3 ฟุตเท่านั้นและไม่มีระยะปลายเตียงเหลือเลย หน้าต่างที่อยู่มุมห้องจะทะลุกับห้องน้ำของห้องนอนใหญ่

ตู้เสื้อผ้าก็ใส่ได้แค่ 1 บานเปิดกับโต๊ะเครื่องแป้งเท่านั้น

มาดูห้องนอนใหญ่กันต่อ เตียงที่เห็นยังคงเป็นแบบ 5 ฟุตและต้องวางติดกำแพงด้านใดด้านนึง

หน้าต่างก็ไม่ใช่แบบนี้แต่เป็นแบบห้องเปล่าครับ

หันกลับมาหน้าห้องจะเห็น Built-in ไว้ติดตั้งทีวี ที่ยังคงเป็นปัญหาเดิมคือตำแหน่งทีวีกับเตียงไม่ตรงกัน (ของจริงไม่มี Built-in ให้นะครับ)

ทางเข้าห้องน้ำจะแปลงเป็น  Walk-in Closet โดยมี Built-in ตู้เสื้อผ้าแถมมาให้

ช่องข้างตู้เสื้อผ้าก็เป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดเล็ก

อีกด้านจะเป็นช่องเอาเก็บของได้และมีหน้าต่างทะลุไปห้องนอนเล็ก

ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดซึ่งทุกอย่างจะเหมือนกับแบบ 22.5 ตร.ม.

ส่วนระเบียงมีขนาดเท่าๆกันเอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ 2 เครื่อง

มุมมองจากหน้าห้องนอนใหญ่ไปยังบริเวณครัว ฉากกั้นระหว่างโซฟากับครัวไม่มีให้นะครับ

มุมห้องน้ำก็ยังคงถูกปาดออกไปเหมือนเดิม

ครัวจะได้แบบ 22.5 ตร.ม.ไม่ยาวเหมือน 26 ตร.ม.

พืนที่ระเบียงก็จะดูโล่งขึ้นนิดนึงเพราะวางคอมเพรสเซอร์แอร์แค่เครื่องเดียวกับเครืองซักผ้า

ปิดท้ายด้วยบานประตูห้องที่ทางโครงการทำไว้เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าห้องแบบ 45 ตร.ม.คือการใช้ 2 ห้องปรกติมายุบรวมกัน ขนาดประตูทางเข้าหลักมีขนาดใหญ่ดีครับกว้างประมาณ 1 เมตร แต่กลอนประตูยังคงเป็นแบบลูกบิดและมี Dead Lock มาให้

สรุปแล้วราคาห้องของโครงการนี้จะมีช่วงราคาที่ต่ำกว่า ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช-พัฒนาการ อยู่หน่อยคือเริ่มต้นที่ 888,000 บาท ถ้าใครอยากได้ที่อยู่แถวๆนี้แต่มีงบประมาณไม่ถึงล้านก็มาเลือกที่โครงการนี้ได้ครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 31 January 2014

  • 1 Bedroom อาคาร C1 ชั้น 2-8 ห้อง 23-24 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 0.888 ล้านบาท หรือ 39,467 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร C1 ชั้น 8 ห้อง 01-10 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.054 ล้านบาท หรือ 40,538 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร C2 ชั้น 8 ห้อง 13-22 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 0.91 ล้านบาท หรือ 40,444 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร C2 ชั้น 5-7 ห้อง 01-10 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.074 ล้านบาท หรือ 41,308 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร D ชั้น 2-4 ห้อง 12-17 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 0.92 ล้านบาท หรือ 40,889 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร D ชั้น 2-4 ห้อง 01-05 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.064 ล้านบาท หรือ 40,923 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร D ชั้น 1 ห้อง 33-35 เนื้อที่ 30.5 ตร.ม. ราคา 1.11 ล้านบาท หรือ 36,393 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Shuttle Bus ไป BTS อ่อนนุช
  • จอง 5,000 บาท ยกเว้นห้องที่ราคา 1 ล้านขึ้นไปจอง 8,000 บาท
  • ทำสัญญา xx บาท
  • ค่ากองทุน 300 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม./เดือน

ค่าจอดรถยนต์ 300 บาท/คัน/เดือน

  • ค่าจอดรถมอเตอร์ไซด์ 50 บาท/คัน/เดือน
  • 1 ห้อง/1 สิทธิ์ (ไม่สามารถใช้สิทธิ์ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซด์พร้อมกันได้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)

    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลของ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช 46 ตั้งอยู่ในซอย อ่อนนุช 46 ระยะทางจากปากซอยไปถึงตัวโครงการประมาณ 400 เมตรและมีระยะห่างจากโครงการไปถึงปากซอยอ่อนนุชประมาณ 4.3 กม. การเข้าออกถือว่าสะดวกเพราะซอยนี้เป็นซอยใหญ่ที่สามารถทะลุไปออกถนนเส้นอื่นๆได้หลายเส้นทาง แถมมีหมู่บ้านต่างๆอยู่ในนี้เยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งชุมชนเก่า หมุ่บ้านเก่า ที่ยังมีการอาศัยกันอยู่(มีอพาร์เม้นท์บ้างเล็กน้อย) ส่วนแหล่งอยู่อาศัยใหม่ๆจะเริ่มเป็น คอนโด เยอะขึ้นแต่ตำแหน่งที่ขึ้นก็ยังกระจายๆกันอยู่ด้านในซอย การที่มีคนอาศัยอยู่พื้นที่บริเวณนี้เยอะบวกกับตัวซอยที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนรอบๆได้ จึงทำให้พื้นที่บริเวณมีการพัฒนาไปค่อนข้างมาก

    สภาพแวดล้อม มีความอุดมสมบูรณ์สูงมีทั้งตลาดสดใกล้เคียงและแหล่งอาหารการกินมากมาย มีให้เลือกระหว่างบนเส้น อ่อนนุช หรือจะวิ่งลึกเข้าไปในซอยก็ได้ จะมีแหล่งร้านค้าต่างๆตามทางลัดที่ไปออกถนน ศรีนครินทร์ หรือ สุขุมวิท 101/1 ร้านสะดวกซื้อใกล้สุดก็จะเป็น 7Eleven อยู่ติดกับ Service Apartment ของลุมพินี Community Mall ใกล้ๆจะมี Pickadaily Bangkok ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ English Old Town อยู่หน้า A Space ส่วนอีกที่นึงจะอยู่บริเวณปากซอยอ่อนนุชชื่อว่า People Park แต่อันนี้ยังไม่เริ่มก่อสร้างนะครับ

    การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่ามีความสะดวกมากถึงแม้จะไม่ได้ติดถนนใหญ่เหมือนโครงการ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช – พัฒนาการ แต่มีข้อได้เปรียบตรงที่มีทางลัดเลาะไปออกถนนต่างๆได้ง่าย ถ้าวิ่งลึกเข้าไปในซอยอ่อนนุช 46 จะใช้ออกไปถนน ศรีนครินทร์, สุขุมวิท 103 (อุดมสุข), และ สุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ข้อดีอีกอย่างของทางลัดที่ใช้ออกมาถนนศรีนครินทร์คือ มีทางออกหน้าห้าง Seacon Square ตรงสะพานที่ใช้เข้าตัวห้างได้โดยตรง ไม่ต้องเสียเวลากลับรถให้วุ่นวาย ส่วนขากลับให้ใช้สะพานข้ามมายังขาเข้าเช่นเดิม แล้ววิ่งมาเข้าถนนอ่อนนุชจะง่ายกว่า ถึงแม้การเดินทางจะสะดวกแต่ปัญหาหลักๆคือพื้นที่จอดรถ อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานเพราะทำเลของโครงการเป็นทำเลประเภทดึงดูคนที่ใช้รถอยู่เหมือนกัน

    การเดินทางโดยใช้รถจะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย และมีรถ 2 แถววิ่งวนเป็นวงกลมจากปากซอยอ่อนนุช วิ่งไปจนถึงหน้าห้าง Seacon Square แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนให้เผื่อเวลาการเดินไว้เยอะหน่อย เพราะรถจะติดมากกว่าจะออกไปถึงปากซอยอ่อนนุชก็ใช้เวลาไปเยอะแล้ว หรือถ้าจะใช้บริการ BTS สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานี อ่อนนุช และทางโครงการก็มีรถตู้เตรียมไว้ให้ 2 คัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะคิดค่าบริการเท่าไหร่ และตารางเวลาการวิ่งเป็นยังไงต้องรอมีนิติบุคคลเรียบร้อยก่อน

    วัสดุอุปกรณ์ที่จัดมาให้นั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานของ ลุมพินี คือขายแบบ Fully Fitted โดยมีชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ครบ อ่างล้างหน้าเป็นไฟเบอร์ ก๊อกน้ำและชุดฝักบัวอาบน้ำใช้ของ Hafele มีชุด Built-in ครัวมาให้ชุดล่างเป็นตู้แต่ชุดบนมีแค่ชั้นวางของ 2 ชั้น และสุดท้ายคือมีชุด Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ถ้าเป็นแบบ 1 Bedroom 26 ตร.ม.จะได้ฉากกั้นโซน Shower เพิ่มมาให้พิเศษกว่าห้องอื่นๆ วัสดุพื้นทั้งหมดทุกแบบจะเป็นพื้นไม้ Laminate หนา 8 มม. หน้าต่างใช้กรอบอลูมิเนียมสีมาตรฐานทั่วไป

    การออกแบบของโครงการ ลุมพินี ก็คล้ายกับโครงการ  ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช – พัฒนาการ แต่จะแตกต่างและแปลกอยู่หน่อยตรงที่ ชิ้นที่ดินของโครงการนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งมีถนนอ่อนนุช 46 ขั้นกลางอยู่ ทิศตะวันออกเป็นอาคาร A1, A2, B1 และ B2 ส่วนด้านทิศตะวันตกจะเป็นอาคาร C1, C2 และ D พอที่ดินถูกแบ่งออกเป็นแบบนี้นิติบุคคลที่ดูแลลูกบ้านจึงต้องแบ่งออกเป็น 2 นิติด้วยเช่นกัน ส่วนที่แปลกอีกส่วนนึงคือ ลุมพินี จะมีการทำ Service Apartment ข้างๆอาคาร A1 ด้วยซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าหน้าตาออกมาเป็นแบบไหนนะครับ

    จะเป็นแบบคล้ายๆกันหมดทั้งรูปลักษณ์ภายนอกจนถึงภายในห้อง แม้กระทั่งส่วนกลางต่างๆก็ยังมีความคล้ายกันมากทั้งในแง่การออกแบบละวัสดุ หรือจะเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของเค้าก็ว่าได้ สิ่งนึงที่เป็นจุดด้อยของโครงการจาก ลุมพินี คือความหนาแน่นที่มีค่อยข้างสูงแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเทียบกับราคาขาย อัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่  114 ห้อง/ลิฟท์ 1 ตัวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับราคานี้

    สาธารณูปโภคของโครงการ จะไม่มีสระว่ายน้ำ มีให้แค่สวนหย่อมระหว่างอาคาร, ห้องออกกำลังกายที่อาคาร A2 และ D และห้องอเนกประสงค์ที่อาคาร A2 และ D เช่นกัน ส่วนยูนิตที่เป็นร้านค้าจะมีที่อาคาร B1 และ B2 อย่างละยูนิต และมีที่อาคาร C1 อีก 4 ยูนิต ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าฝั่งอาคาร B พอสมควร ตัวร้านค้าอยู่ใกล้กับถนนหน้าโครงการ ดังนั้นลูกบ้านควรวางแผนวิธีการเข้า-ออกของคนนอกด้วย

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับราคา 39,995 บาทต่อตารางเมตร, 31 January 2014

    • ทำเล 7.5/10 – โครงการไม่ติดถนนใหญ่ต้องเข้าซอยอ่อนนุช 46 ไปอีก 400 เมตร อยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าและภายในซอยนี้มีความอุดมสมบุรณ์มาก
    • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางได้สะดวกเป็นซอยใหญ่และทีทางลัดให้เลือกใช้เยอะ
    • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถ 2 แถววิ่งค่อนข้างถี่เพราะด้านในเป็นแหล่งชุมชนใหญ่
    • วัสดุ 7.0/10 – ขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัว Built-in, ฉากกั้นห้องนอนแบบเลื่อนกระจกใส 3 ตอน และ ตู้เสื้อผ้า
    • แบบ 7.25/10 – แบบค่อนข้างลงตัวได้ครบทุกฟังก์ชั่น แต่พื้นที่ห้องเล็กการเก็บข้าวของทำได้ลำบากหน่อย และเฟอร์นิเจอร์แนะนำแบบ Built-in เพื่อจะได้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
    • สาธารณูปโภค 7.25/10 – สาธารณูปโภคถือว่าให้มาน้อย มีสวนหย่อม, Fitness, ห้องอเนกประสงค์ และ Shuttle Bus ไป BTS อ่อนนุช แต่ไม่มีสระว่ายน้ำมาให้ ส่วน Fitness ก็มีขนาดไม่ใหญ่มากนะครับ

    • SUPER ECONOMY CLASS
    • 7.38 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ ลุมพินี วิลล์ อ่อนนุช 46 เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหรือเรียนอยู่ในละแวกนี้ และต้องการหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ด้วยงบประมาณไม่ถึงล้าน (ประมาณ 9 แสน) และเน้นเดินทางสะดวกด้วยรถสาธารณะ

    ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

    (ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧