[รีวิวฉบับที่ 2768] ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) คอนโดสร้างเสร็จพร้อมให้เข้าอยู่ ทำราคาน่าสนใจไม่ถึง 2 ล้านบาทก็ได้ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ แบบหิ้วกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย เราสรุปความน่าสนใจของโครงการออกมาได้ดังนี้ค่ะ

  • ราคา : หากใครมีงบประมาณล้านปลายๆ ถึง 2 ล้านต้นๆ โครงการลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย จะกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะคอนโดใหม่ๆ ในละแวกนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 2 ล้านกลางๆ ขึ้นไปจนถึง 3-4 ล้านเลยค่ะ
  • ติดถนนใหญ่ : ด้วยทำเลติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ทำให้เดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง มีเส้นทางลัดเยอะ มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้งป้ายรถเมล์ที่หน้าโครงการและรถกระป้อที่วิ่งผ่านบนถนนเส้นนี้อยู่ตลอด แถมยังอยู่ระหว่างรถไฟฟ้า 2 สถานีคือสถานีจรัญฯ 13 และ สถานีไฟฉาย ทำให้เข้าสู่ตัวเมือง สีลม – สาทร ได้ง่ายๆ ซึ่งมีรถของโครงการรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าค่ะ
  • ใกล้แหล่งงานต่างๆ : ที่ตั้งโครงการใกล้โซนศิริราช ตลาดวังหลัง ท่าพระ อิสรภาพ ซึ่งมีแหล่งงาน สถานศึกษาค่อนข้างเยอะค่ะ
  • ส่วนกลางลอยฟ้า : โครงการมี Sky Facilities สามารถชมวิวสวยๆ บนตึกสูงได้

ข้อมูลโครงการ

Lumpini Ville Charan – Fai Chai (ลุมพินี วิลล์ จรัญ – ไฟฉาย) ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567

 ชื่อโครงการ  Lumpini Ville Charan – Fai Chai (ลุมพินี วิลล์ จรัญ – ไฟฉาย)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย
 ที่ดิน  ประมาณ 7 ไร่  1 งาน 49.65 ตร.วา
 ประเภทคอนโด  High Rise 3 อาคาร : Tower A – 21 ชั้น, Tower B – 22 ชั้น, Tower C – 23 ชั้น
 จำนวนยูนิต  1,482 ยูนิต : Tower A – 322 ยูนิต, Tower B – 634 ยูนิต, Tower C – 526 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  39 ยูนิต ที่ Tower B
 ที่จอดรถ  548 คัน หรือคิดเป็น 37% (ไม่รวมซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2022
 สร้างเสร็จพร้อมอยู่  Q4 ปี 2024
 ประเภทห้องพัก
  • Studio 25 – 31 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom 28.5 – 37.5 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom 44 ตารางเมตร

 ฝ้าเพดานสูง Tower  A : ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร
Tower B : ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
Tower C : ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.99 ล้านบาท (Studio)
 ช่วงราคาเฉลี่ยของโครงการ ประมาณ 65,000-80,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ https://pg.thinkofliving.com/lumpinivillecharanfaichai
 Call Center  02-689-6888

ทำเลที่ตั้ง

ทำเลโครงการ ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย เป็นอย่างไร?

พิกัด Google Maps : 13.747051048422676, 100.47030887116377
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ใกล้กับซอยการไฟฟ้านครหลวง ธนบุรี และห่างแยกไฟฉายประมาณ 900 m. ซึ่งแยกไฟฉายนี้จะเป็นแยกที่ตัดกันระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพรานนกและถนนพรานนก-กาญจนาฯเส้นที่ตัดใหม่ ทำให้มีความสะดวกในการเดินทาง ทั้งจากถนนจรัญฯเองตรงไปเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษมหรือเข้าเมืองย่านสีลม – สาทร / จากถนนจรัญฯมุ่งหน้าทางเหนือข้ามสะพานพระราม7 เชื่อมต่อกับถนนวงศ์สว่าง เพื่อไปย่านรัชดาฯ-ลาดพร้าว  ถนนพรานนกก็เชื่อมต่อไปยังแถววังหลัง ศิริราชได้ง่าย ส่วนถนนพรานนก-กาญจนาฯจะมีความสะดวกในการใช้เชื่อมไปออกถนนราชพฤกษ์ค่ะ

ถ้าย้อนกลับไปแต่เดิมถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นถนนเส้นยาวมากไม่มีแยกและทางลัดมากนัก อีกทั้งยังไม่ใกล้ทางด่วน แต่ปัจจุบันมี 3 ตัวช่วยหลักใกล้ๆกับโครงการ ที่ทำให้การเดินทางของย่านนี้เปลี่ยนไป ได้แก่

1.ถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 ถนนตัดใหม่ที่อยู่ตรงแยกไฟฉาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ระบายการจราจรบนถนนจรัญสนิทวงศ์ จุดเริ่มต้นจะเริ่มจากบริเวณแยกไฟฉาย บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงมาเรื่อยๆ ตัดผ่านถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก ไปบรรจบกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ปัจจุบันถนนเส้นนี้สร้างเสร็จถึงช่วงพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยเรื่องการเดินทางที่สำคัญของคนในย่านนี้ ให้สามารถใช้เส้นทางหรือออกไปหาอะไรทานในย่านราชพฤกษ์ หรือกาญจนาภิเษกได้ง่ายมากๆ

2.ทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เริ่มตั้งแต่ถนนกาญจนาภิเษกเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์ จรัญสนิทวงศ์ จนมาเชื่อมกับทางพิเศษศรีรัชและถนนกำแพงเพชร 2 เข้าสู่ด่านศรีรัช

3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เมื่อก่อนการจะขึ้นรถไฟฟ้าของชาวจรัญฯจะต้องนั่งรถไปต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวบวกกับการจราจรที่ติดขัดในย่านนี้ ทำให้เกิดความไม่สะดวก แต่หลังจากมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก เพราะเส้นทางการเดินรถจะวิ่งวนครอบคลุมพื้นที่ใจกลางเมืองที่สำคัญๆ เชื่อมฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครเข้าด้วยกัน และไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆอีกหลายสาย

Image 1/2
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงใกล้โครงการ

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงใกล้โครงการ

ถ้าดูจากแบรนด์คอนโด “ลุมพินี วิลล์” แล้ว ส่วนใหญ่เค้าจะเลือกโลเคชั่นที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน แต่จะไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินได้สบายนักนะคะ อย่างโครงการนี้ก็มีระยะห่างจากสถานีจรัญฯ 13 ประมาณ 700 เมตร และอยู่ห่างจากสถานีไฟฉายประมาณ 900 เมตร

พูดถึงรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเชื่อมต่อกับ MRT ปัจจุบันที่ใช้งานกัน คือสามารถจะเดินทางไปยัง จตุจักร รัชดาฯ สุขุมวิท ได้ในต่อเดียวค่ะ แต่ถ้าเราไปยังสถานีท่าพระ ก็จะเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเช่นกัน แต่จะต้อง Interchange เปลี่ยนขบวนนะคะ

จากทั้ง 3 ตัวช่วยใหม่ที่เพิ่มเข้ามานี้ ทำให้การจราจรในย่านจรัญฯเปลี่ยนไป กลายเป็นโซนที่อยู่อาศัยใกล้เมืองที่เดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น และยังมีราคาของอสังหาฯที่ไม่แรงเท่าทำเลที่เกาะอยู่กับรถไฟฟ้าสายหลักอีกด้วยค่ะ 

ตัวช่วยในการเดินทางสาธารณะอื่นๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก www.chaophrayaexpressboat.com

นอกจากตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าแล้ว ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของพื้นที่ในทำเลนี้คืออยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีตัวช่วยในการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาเพิ่มเข้ามาด้วย แน่นอนว่าข้อดีของการเดินทางทางน้ำอย่างหนึ่งคือ เราสามารถควบคุมเวลาในการเดินทางได้ ซึ่งท่าเรือด่วนเจ้าพระยาที่ใกล้โครงการที่สุดคือ ท่าวังหลัง ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม. สามารถข้ามเรือไปหาร้านอาหารเด็ดๆ เจ้าดังๆ ทานที่ท่าพระอาทิตย์ หรือไปเรียนที่ ม.ธรรมศาสตร์ ก็สะดวกรวดเร็ว เส้นทางเดินเรือยังสามารถนั่งไปได้ไกลถึงสาทร หรือขึ้นเหนือไปถึงนนทบุรีเลย

นอกจากนั้นทำเลนี้ถือว่าเรียกรถสาธารณะได้ง่ายมากๆ สามารถเรียกรถเมล์ รถกระป้อ รถแท็กซี่ ขึ้นได้ตั้งแต่หน้าโครงการ โดยกระป้อ นอกจากราคาไม่แพงแล้ว ยังสามารถเลือกได้หลายเส้นทางทั้งไปตลาดวังหลัง ถนนอิสรภาพ ปิ่นเกล้า พาณิชย์ธนฯ เป็นต้น

ความอุดมสมบูรณ์

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) ในระยะเดินนั้นจะมี 7-11 ใกล้ๆ ในระยะ 120 เมตร แต่ถ้าขยับออกมาในระยะประมาณ 1-3 กิโลเมตร แล้วล่ะก็เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์มาก เพราะบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์และถนนพรานนกนี้เป็นแหล่งชุมชน ที่อยู่อาศัย และมีโรงพยาบาลชื่อดังค่อนข้างมากเลย ทั้งโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธนบุรี เป็นต้น เมื่อมีคนที่ใช้ชีวิตและทำงานเเถวนี้มาก แน่นอนว่าแหล่งของกินก็ย่อมมากตามมาค่ะ ตัวเลือกก็มีตั้งแต่ห้าง ร้านค้า ตลาด หรือ Hypermarket ที่เปิดใหม่ ก็มีค่อนข้างหลากหลายเลย โซนความอุดมสมบูรณ์ที่น่าสนใจในย่านนี้ก็จะมี

โซนใกล้โรงพยาบาลศิริราช – จะมีตลาดมากมายทั้งตลาดสถานีรถไฟ(ศาลาน้ำร้อน) ตลาดพรานนก ตลาดวังหลังอยู่ถือว่าเป็นอีกโซนที่ขึ้นชื่อเรื่อง ของกิน ของใช้ ตรงนี้จะมีท่าเรือ สามารถนั่งเรือข้ามฟากไปยัง ท่าเตียน หรือท่าพระอาทิตย์ได้ ซึ่งฝั่งนั้น แน่นอนว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวรอบพระบรมมหาราชวังอยู่ ทั้งของกินเลื่องชื่อ ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว มีความครึกครื้นทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ

นอกจากรพ.ศิริราช ตลาดวังหลังแล้วยังมีซอยวัดโพธิ์เรียงหรือซอยจรัญสนิทวงศ์ 18 ที่สามารถลัดไปออกถนนอิสรภาพ ซึ่งบริเวณรพ.ธนบุรี จะเป็นอีกแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านอาหารอร่อยเยอะ และมีร้านอาหารสวัสดิการ กองทัพเรือ, Tops Market และร้านนม ขนมปังปิ้งชื่อดัง ร้านมนต์นมสด สาขาอิสรภาพอีกด้วย

โซนถนนจรัญสนิทวงศ์ – บริเวณฝั่งทางไปบางขุนนนท์ บริเวณนี้จะมีทั้ง ตลาดบางขุนศรี, Makro จรัญฯ, Foodland , ตลาดบางขุนนนท์ และตลาดน้ำเย็น ส่วนฝั่งไปทางท่าพระ ทางนี้จะเป็นทางไปยังเพชรเกษม และราชพฤกษ์ได้ หรือตามข้างทางก็จะมีพวกปั๊มน้ำมันที่มีร้านอาหาร KFC ภายในปั๊ม และมี HomePro ที่มีทั้งร้านกาแฟนางเงือกเขียวชื่อดัง และร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ข้างในค่ะ แต่ถ้าใครอยากเที่ยวเล่นไกลหน่อย จะเลยไปยังโซนตลาดพลูหรือท่าพระเลยก็ได้นะคะ

โซนปิ่นเกล้า – ถือว่าเป็นอีกโซนที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายจากโครงการ ตรงนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการสิ่ง Entertain อย่าง Shopping ดูหนังวันสุดสัปดาห์ ก็จะมีห้างใหญ่น้อย และ Community Mall ให้เลือกไปค่ะ

โซนถนนราชพฤกษ์ – เราสามารถใช้ถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 เชื่อมไปยังถนนราชพฤกษ์ได้ง่าย ซึ่งความอุดมสมบูรณ์บนถนนราชพฤกษ์ที่เราสามารถไป Shopping และหาอะไรทานได้ง่ายๆ คือ The Circle , ตลาด Food Villa และยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ชื่อดังแถวๆนั้นอีกหลายร้านค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนพักอาศัยเดิมในย่านนี้ และมีกลุ่มอาคารพาณิชย์ที่เกาะอยู่ตามถนนหลัก ซึ่งบริบทส่วนใหญ่ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการอยู่อาศัยในคอนโดนะคะ ส่วนเรื่องวิวในปัจจุบันยังไม่ได้มีอาคารสูงบังวิวในระยะประชิดค่ะ

บรรยากาศโดยรอบโครงการ

Image 1/8
โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก เรียกรถจากหน้าโครงการได้เลย ไม่ต้องเดินเข้าซอย

โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก เรียกรถจากหน้าโครงการได้เลย ไม่ต้องเดินเข้าซอย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • 7-11 ~ 120 m.
  • Home Pro จรัญสนิทวงศ์ ~ 350 m.
  • Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ ~ 1.6 km. (รวมระยะกลับรถ)
  • ตลาดบางขุนศรี ~ 1.6 km. (รวมระยะกลับรถ)
  • Makro จรัญฯ ~ 1.8 km.
  • ตลาดวังหลัง ~ 3.5 km.
  • The Mall ท่าพระ ~ 3.9 km.
  • Central Plaza ปิ่นเกล้า ~ 4.4 km.
  • The Circle ราชพฤกษ์ ~ 6.5 km.
  • Major ปิ่นเกล้า ~ 7.6 km.

โรงพยาบาล

  • รพ. ธนบุรี ~ 2.4 km.
  • รพ. ศิริราช ~ 3.5 km.

โรงเรียน

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ~ 1 km.
  • วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี ~ 1.1 km.
  • วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี ~ 2.1 km.
  • คณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล ~ 2.9 km.
  • โรงเรียนเซนต์ปีเตอร์ ธนบุรี ~ 5.6 km.
  • ม. ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ~ 7.4 km.
  • ม.ศิลปากร ~ 7.2 km.

อื่นๆ

  • การไฟฟ้านครหลวง เขตธนบุรี ~ 160 m.
  • ปั๊ม ESSO ~ 650 m.
  • กรมอู่ทหารเรือธนบุรี ~ 3 km.

รายละเอียดโครงการ

คอนโด “ลุมพินี วิลล์” เป็นแบรนด์คอนโดระดับ Economy ของบริษัทลุมพินี ที่ทำออกมาเอาใจคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน และมีฐานเงินเดือนไม่สูงมาก มองหาคอนโดราคาหยิบจับง่าย จึงเป็นคอนโดหลังแรกที่กลุ่มวัยทำงานนิยมซื้อ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนก็มักจับจองมาปล่อยเช่าด้วยเช่นกัน

โดยราคาเริ่มต้นของโครงการลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) อยู่ที่ 1.99 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้อง Studio พร้อมเฟอร์ฯ รวมทั้งของตกแต่ง แบบที่ว่าหิ้วกระเป๋าใบเดียวก็เข้าอยู่ได้ ของจริง! เพราะให้ของใช้บางส่วนมาด้วย เช่น ผ้าเช็ดตัว, กล่องเก็บของ, ตะกร้าใส่ผ้า เป็นต้น ส่วนห้อง 1 Bedroom จะเริ่มที่ 2.29 ล้านบาท พร้อมเฟอร์และของตกแต่งเช่นกัน หรือถ้าคิดราคาเฉลี่ยจะอยู่ในช่วง 65,000-80,000 บาท/ตารางเมตร เท่านั้น แต่ก็จะมาพร้อมจำนวนยูนิตที่มากหน่อยตามสไตล์ลุมพินีนะคะ

อีกประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือจุดเด่นของบริษัท ลุมพินี นั่นก็คือ เรื่องนิติบุคคล และการจัดการที่ค่อนข้างเข้มงวดในกฎระเบียบและบทลงโทษ ถือว่าเป็นของดีที่ลูกบ้านลุมพินีจะได้รับ ซึ่งหลายๆ คนที่กำลังเลือกโครงการอยู่ ก็อาจจะเอาประเด็นนี้มาใช้พิจารณาส่วนหนึ่งด้วยค่ะ

โครงการลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) เป็นกลุ่มคอนโด High Rise 3 อาคาร บนที่ดินขนาด 7 ไร่กว่า ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์เลย ซึ่งอาคาร A จะอยู่ด้านหน้าสุด ส่วนอาคาร B และ C อยู่ถัดไปด้านใน

Master Plan – ผังที่ดินของโครงการเป็นรูปตัว T ไม่ใช่เป็นแปลงที่ดินยาวแบบเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มักเห็นกันบ่อยๆจากโครงการลักษณะนี้ ทำให้แต่ละอาคารสามารถเดินออกมาที่ซุ้มประตูโครงการได้ไม่ไกลเลยค่ะ โดยโครงการจัดวางอาคาร A และ B ไว้ทางขวา ส่วนอาคาร C จะแยกตัวออกมาอยู่ทางซ้าย ทำให้มีระยะห่างระหว่างอาคารพอสมควร

พื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้นล่างและชั้นดาดฟ้า โดนจะมีสวนหย่อมแทรกอยู่ในชั้นพักอาศัยบ้าง สำหรับชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น แต่ละอาคารจะมี Lobby และโถงลิฟต์ในตัว และ Facility ในชั้นนี้ก็จะมีสระว่ายน้ำ, ห้อง Co-Living, ห้องซักรีดและร้านค้า สำหรับที่จอดรถสามารถจอดได้ 548 คัน หรือคิดเป็น 37% แบบไม่รวมซ้อนคันโดยจะจอดได้ทั้งรอบๆอาคารและบนอาคาร

อย่างที่บอกไปว่าพื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้นล่างและชั้นดาดฟ้านะคะ ส่วนใครกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกอาคารไหนดี แต่ละอาคารก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปนะคะ เราสรุปให้ตามนี้

  • Tower A – เป็นอาคารที่ใกล้ทางเข้าออก ร้านค้า และใกล้สระว่ายน้ำและสวนหย่อมส่วนกลางที่สุด เป็นอาคารที่มีความเป็นส่วนตัวสูง มียูนิตน้อยกว่าอาคารอื่นเพียง 17 ยูนิตต่อชั้น  ฝ้าเพดานห้องสูงกว่าอาคารอื่นถึง 2.6 เมตร และสเปควัสดุก็ดีกว่าด้วยเช่นกัน ตึกนี้จะเน้นห้องพักขนาดใหญ่ 1 Bedroom เริ่ม 29 , 32 ตารางเมตร และห้อง 2 Bedroom ก็จะมีเฉพาะอาคารนี้ค่ะ
  • Tower B – อยู่ถัดมาจากอาคาร A จุดเด่นคือเป็นอาคารที่ใกล้ส่วนกลางและมีพื้นที่สีเขียวให้ใช้เยอะ มีทั้งสวนหย่อมชั้นล่าง ลานพักผ่อนที่ชั้น 9  มีสวนผักรวมใจที่ชั้น 17 และสวนดาดฟ้า ตึกนี้มีที่จอดรถอยู่ในอาคารเลย ห้องพักฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร เน้นห้อง Studio 25 ตารางเมตร และ 1 Bedroom มียูนิตต่อชั้น 39 ยูนิตถือว่าเยอะที่สุด
  • Tower C – อาคารนี้จะแยกออกมาอยู่อีกฝั่ง มีที่จอดรถในอาคารเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นห้อง Studio 25 ตารางเมตร และ 1 Bedroom 29 ตร.ม. ขายพร้อมเฟอร์ฯ และของตกแต่งครบครัน ยูนิตต่อชั้น 31 ยูนิต ห้องพักฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตรเช่นเดียวกับอาคาร B ห้องชั้นสูงๆจะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

เรามาชมบรรยากาศของตึกจริงกันค่ะ บริเวณหน้าโครงการมีพื้นที่ติดถนนใหญ่ค่อนข้างกว้าง สังเกตได้ไม่ยาก มีป้ายโครงการชัดเจน

ปัจจุบันสำนักงานขายอยู่บริเวณหน้าโครงการเลยค่ะ ซึ่งจริงๆ พื้นที่บริเวณนี้จะกลายเป็นร้านค้าในอนาคต ได้เป็นร้านใหญ่เลยนะคะ

บริเวณหน้าสำนักงานขายเห็นมีรถ Shuttle Van จอดอยู่ เป็นรถรับส่งลูกบ้านของทางโครงการ ที่จะรับส่งที่สถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี

รายละเอียดการบริการรับ-ส่งของ Shuttle Van ในปัจจุบันค่ะ ซึ่งในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ เช่น เพิ่มไประยะทางไปถึงศิริราช, วังหลัง ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกบ้านและการจัดการของนิติบุคคล ซึ่งนิติฯ ของลุมพินีเราว่าเค้าดูแลได้ดีอยู่แล้วนะคะ

ด้านข้างร้านค้าจะเป็นทางเดินเข้าโครงการ ซึ่งแยกกับทางเดินรถไว้ชัดเจนดีเลย ทำให้เกิดความปลอดภัย

ในส่วนของรถยนต์จะแยกทางเข้า-ออกไว้ชัดเจน ทำให้ใช้งานง่าย มีไม้กระดกกั้นไว้ให้ตามมาตรฐาน

รถยนต์จะเข้าออกด้วยระบบ Bluetooth (คล้าย Easy Pass ทางด่วน) สะดวกสบายทีเดียว แต่สำหรับแขกของลูกบ้านจะต้องแลกบัตรเพื่อความปลอดภัยนะคะ

ผ่านป้อม รปภ. เข้ามาจะเป็นทางเดินรถตรงยาวเข้าไปด้านใน รอบๆอาคารมีการจัดสวนหย่อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ บรรยากาศดูร่มรื่น

ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับวงเวียน ที่คอยแจกรถไปยังอาคารต่างๆ หากใครต้องการไปอาคาร C ให้เลี้ยวซ้าย หรือไปอาคาร B ให้เลี้ยวขวา ส่วนลูกบ้านที่อยู่อาคาร A แนะนำให้จอดรถที่อาคาร B จะใกล้ที่สุดค่ะ

Image 1/5
ที่จอดรถในอาคาร

ที่จอดรถในอาคาร

ที่จอดรถอาคาร B จะมีทั้งหมด 8 ชั้น ส่วนที่จอดรถอาคาร C จะสูงถึงแค่ชั้น 4 นะคะ ที่จอดรถในอาคารจำกัดความสูงที่ 2.1 เมตร หากใครใช้รถสูงกว่านี้ก็สามารถหาที่จอดรอบอาคารชั้น 1 ได้ เห็นมีอยู่หลายจุดเลยนะคะ บรรยากาศภายในที่จอดรถทั้ง 2 อาคารดูโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติ แต่เฉพาะอาคาร B ที่มีลิฟต์ในที่จอดรถให้ใช้งาน


พื้นที่ส่วนกลางนอกอาคาร

ดูภาพรวมส่วนกลางบริเวณด้านหน้าโครงการ อาคาร A จะมีร้านค้าอยู่ด้านหน้า ระหว่างอาคาร A และ B จะเป็นสระว่ายน้ำและสวนหย่อม แต่ละอาคารจะมี Lobby ของใครของมัน ส่วนห้อง Co-Living จะอยู่ที่อาคาร C ค่ะ

Image 1/4
สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำจะอยู่บริเวณชั้น 1 ติดกับอาคาร A จึงได้ร่มเงาจากอาคาร ช่วยบังแดดให้ จึงสามารถมาว่ายน้ำได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เลยค่ะ สระว่ายน้ำมีตำแหน่งเดียว ลูกบ้านจะใช้แชร์กันใช้ทั้งหมด 3 อาคาร โดยสระว่ายน้ำมีขนาด 5.6 x 13 เมตร ระบบเกลือ ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็กขนาด 5.6 x 3.9 เมตร ลึก 0.6 เมตร ไว้เป็นสัดส่วน สำหรับใครที่ไม่ชอบว่ายน้ำก็มานั่งเล่นบบน Day Bed รับลมชมวิวกันได้

Image 1/7
สวนส่วนกลาง

สวนส่วนกลาง

สวนส่วนกลางจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยค่ะ จึงรวมเป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ที่ให้บรรยากาศผ่อนคลาย ได้วิวสระและสวน โดยบริเวณรอบๆ สวนจะจัดเป็นมุมนั่งเล่นกระจายไว้หลายจุดทีเดียว และยังมี Co-Living เป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ อยู่บริเวณใต้ตึก จึงเป็นพื้นที่ในร่มให้มาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

Image 1/4
สนามเด็กเล่น

สนามเด็กเล่น

สำหรับคุณหนูๆ จะมีสนามเด็กเล่นบริเวณด้านหลังอาคาร C ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ใช้พื้นแบบ Absorbtion Floor ช่วยลดแรงกระแทก ให้พ่อแม่พาลูกๆ มาวิ่งเล่นสนุกกันได้

Image 1/3
ห้องน้ำ

ห้องน้ำ

แต่ละอาคารจะมีห้องน้ำส่วนกลางให้ใช้งานได้ แยกออกเป็นชาย-หญิง-ผู้สูงอายุไว้ครบถ้วน

Image 1/3
ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร

ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร

แม้ว่า Facility ส่วนกลางจะกระจายไปอยู่ในทุกๆ อาคาร แต่โครงการก็ทำทางเดินเชื่อมไว้ให้ พร้อมหลังคาบังแดด บังฝน ให้สามารถเดินไปใช้งานได้สะดวก และตามแนวทางเดินก็ยังได้วิวสวนและต้นไม้ร่มรื่นไปตลอดแนวเลยค่ะ


พื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร

Tower A ชั้น 1 : Lobby

Image 1/4
Lobby

Lobby

เข้ามาในอาคารโซนแรกจะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ ออกแบบให้มีความโปร่ง โล่งด้วยประตูบานกระจกที่สามารถเปิดรับลม และชมวิวสวนหย่อมจากภายนอกได้ สำหรับ Mail Box จะอยู่ด้านในสุดติดกับทางขึ้นลิฟต์ค่ะ

Tower A ชั้น 1 : Lift Lobby

Image 1/3
Lift Lobby

Lift Lobby

เฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่จะผ่านเข้ามาใน Lift Lobby ได้ เพราะต้องใช้ Keycard ในการผ่านเข้าประตู และใช้ในการกดลิฟต์ด้วยนะคะ โดยโครงการตั้งไว้เป็นระบบแบบล็อกชั้น ลูกบ้านแต่ละห้องจะขึ้นได้เฉพาะชั้นที่พักอาศัยและชั้นที่มี Facility ส่วนกลาง

สำหรับอัตราส่วนลิฟต์ Tower A 161 : 1 ถือว่าไม่มากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับโครงการในระดับราคาเดียวกัน และมีสัดส่วนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับอาคาร B และ C ด้วยค่ะ

Tower B ชั้น 1 : Lobby

บรรยากาศภายใน Lobby B จะดูร่มรื่นกว่าอาคาร A เล็กน้อย เพราะอยู่ติดกับสวนส่วนกลางเลย แต่ขนาดจะไม่ได้ใหญ่เท่าอาคาร A เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งจะเป็นห้องนิติบุคคล

Tower B ชั้น 9 : Sky Garden

Image 1/5
Sky Garden

Sky Garden

สวนหย่อมบนชั้น 9 เรามองว่าเป็น Benefit ของคนที่อยู่บนชั้นนี้เลย เพราะเดินออกมาใช้งานง่ายมาก และวิวรอบๆ ก็ดูโล่ง เป็นมุมพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศที่ดีเลย สำหรับห้องพักที่ติดสวนก็จะมีแนวต้นไม้คอยบังสายตาไว้ให้ แต่เราว่าน่าจะสงบเป็นส่วนตัว เหมาะกับคนที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งห้องแบบนี้ก็น่าจะมีราคาที่สูงกว่าห้องทั่วไปอยู่บ้างนะคะ

Tower C ชั้น 1 : Co-Living

Image 1/6
Co-Living

Co-Living

ภายใน Co-Living ออกแบบไว้เป็นห้องที่เหมาะกับการนั่งทำงาน, อ่านหนังสือ, นัดพบปะกับเพื่อนๆ รองรับทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว ซึ่งเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ การเข้าใช้งานจะต้องใช้ Keycard เพื่อความปลอดภัยนะคะ

Tower C ชั้น 1 : Lobby

Image 1/3
Lobby

Lobby

Lobby ของอาคาร C จะมีขนาดกะทัดรัดลงมาหน่อย แต่ก็มีชุดโซฟาไว้สำหรับนั่งคอย อยู่ติดกับตู้จดหมาย ซึ่งการเข้าอาคาร C จะต้องใช้ Keycard ตั้งแต่หน้าอาคารเลยนะคะ

ชั้นบนสุดของแต่ละอาคารจัดเป็น Facilities ทั้งชั้นทำให้ลูกบ้านไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหน ก็มีพื้นที่ให้ขึ้นมาชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวเมืองมุมสูงค่ะ โดยส่วนกลางในชั้นนี้จะประกอบด้วย Sky Fitness, Sky Lounge และ Sky Garden

Tower A ชั้น 20 : ทางขึ้น Sky Lounge

Image 1/3
ทางขึ้น Sky Lounge

ทางขึ้น Sky Lounge

เริ่มกันที่อาคาร A เจ้า Sky Lounge จะอยู่บนชั้น 21 แต่ลิฟต์จะขึ้นมาถึงแค่ชั้น 20 นะคะ จึงต้องขึ้นบันไดไปอีก 1 ชั้น ซึ่งโถงบริเวณนี้ก็ออกแบบมาให้ดูกว้างขวาง สวยงามดี โซนพักอาศัยบนชั้นนี้จะมีประตูกั้นแยกโซนไว้ เข้าได้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

Tower A ชั้น 21 : Sky Lounge

Image 1/5
Sky Lounge

Sky Lounge

Sky Lounge อาคาร A เป็นพื้นที่สำหรับทำงานและพักผ่อน โครงการใช้ผนังกระจกตลอดแนวจึงได้แสงธรรมชาติเข้ามาช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง และอบอุ่น แต่ห้องนี้จะยังเห็นวิวเมืองไม่ชัด ถ้าอยากชมวิวเมืองชัดๆ ต้องเดินเชื่อมผ่าน Sky Garden ไปยัง Sky Lounge อาคาร B ค่ะ

Tower A ชั้น 21 : Sky Garden

Image 1/8
Sky Garden

Sky Garden

โครงการใช้ Sky Garden เป็นทางเชื่อมระหว่าง Tower A และ B โดยจะมีจัดมุมนั่งเล่นในสวนเอาไว้หลายจุด ให้เราได้ขึ้นมานั่งเล่นพักผ่อน ชมวิวมุมสูง

Tower B : ชั้น 23

จาก Sky Garden จะเชื่อมเข้ามายังชั้น 23 ของ Tower B ซึ่งจะมี Facility หลักๆ อยู่ 2 ห้องได้แก่ Sky Lounge และ Sky Fitness

Tower B ชั้น 23 : Sky Lounge

Image 1/4
Sky Lounge

Sky Lounge

Sky Lounge ของอาคาร B เปิดให้เห็นวิวเมืองกว้างๆ เลยค่ะ ภายในห้องจัดชุดโซฟาไว้หลายรูปแบบ หรือใครจะมานั่งทำงานก็มีโต๊ะเตรียมไว้ให้ด้วย

Tower B ชั้น 23 : Sky Fitness

Image 1/4
Sky Fitness

Sky Fitness

ฟิตเนสมีขนาดใหญ่มากทีเดียว พื้นปูด้วย Absorbtion Floor ทั้งหมด เหมาะกับการออกกำลังกาย ภายในจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้ครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio แถมวิวก็สวยไม่แพ้ใครเลยค่ะ

Tower B : ชั้น 23 วิวโดยรอบ

Image 1/4
วิวโดยรอบจากชั้น 23 อาคาร B

วิวโดยรอบจากชั้น 23 อาคาร B

จาก Sky Facilities ทั้ง 2 ห้องก็จะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา, สะพานพระราม8 และวัดอรุณด้วยค่ะ

Tower C ชั้น 22

สำหรับ Tower C จะมีทั้ง Sky Lounge, Sky Fitness และ Sky Garden รวมอยู่ในอาคารเดียวเลย

Tower C ชั้น 22 : Sky Lounge

Image 1/8
Sky Lounge

Sky Lounge

Sky Lounge ที่ Tower C บรรยากาศจะอบอุ่นขึ้นมาหน่อย เน้นโทนสีสดใส ทางโครงการจัดชุดโซฟานั่งเล่นไว้หลายมุมทีเดียว

Tower C ชั้น 22 : Sky Fitness

Image 1/6
Sky Fitness

Sky Fitness

Sky Fitness ออกแบบเป็นผนังกระจกให้รับวิวได้โล่งๆ มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน

Tower C ชั้น 22 : Sky Garden

Image 1/3
Sky Garden

Sky Garden

ที่ Tower C จะมีสวนหย่อมให้ออกมาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศด้วยค่ะ


วิเคราะห์ชั้นพักอาศัย

TOWER A

เป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด  วางผังเป็นรูปตัว L มีความสูง 21 ชั้น โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-20 (ชั้น 21 เป็น Sky Facilities) มีจำนวนห้องพักรวมทั้งหมด 322 ยูนิต ถือเป็นอาคารที่มียูนิตน้อยและมีความเป็นส่วนตัวที่สุด ห้องพักจะเน้นที่ห้องขนาดใหญ่

ใน Tower A นี้ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 การจัดห้องพักส่วนใหญ่ของอาคารนี้จะเน้นไปที่ห้อง 1-2 Bedroom ที่มีขนาดห้องใหญ่หน่อยนะคะ โดยห้อง Studio จะมีแค่เฉพาะชั้น 2-8 ตำแหน่งอยู่ด้านหน้าอาคาร (สีครีม) หันออกรับวิวด้านนอกฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์  ส่วนห้อง 1 Bedroom (สีชมพู) จะเป็นวิวด้านในอาคารและทางฝั่งทิศใต้ ส่วนห้อง 2 Bedroom จะอยู่ตรงมุมอาคารทางทิศเหนือ (กรอบสีแดง) ซึ่งจะเป็นตำแหน่งห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวพอสมควรเลย เพราะเป็นห้องมุมที่ประตูห้องไม่ชนกับใคร และผนังติดกับห้องข้างๆแต่ฝั่งเดียวด้วย

โถงลิฟต์วางอยู่ตรงกลางอาคารทำให้แต่ละห้องแต่ละตำแหน่งเดินมาใช้งานได้สะดวก พวกห้อง Service ห้องขยะต่างๆถูกจัดรวมกันตรงโถงลิฟต์ทั้งหมด ทำให้ไม่ไปรบกวนส่วนพักอาศัย ตรงมุมของอาคารทุกฝั่งมีการดีไซน์เป็นหน้าต่าง โถงทางเดินในอาคารจึงได้รับแสงธรรมชาติได้ดี

Image 1/2
TowerA-9-19

TowerA-9-19

พอขึ้นมาที่ชั้น 9-20 จะมีแต่ห้อง 1-2 Bedroom ค่ะ

TOWER B

อาคารถัดมาคือ Tower B มีอาคารที่มีห้องพักอาศัยเยอะที่สุดรวมทั้งหมด 634 ยูนิต มีความสูง 23 ชั้น ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 3-22 (ชั้น 23 เป็น Sky Facilities) จุดเด่นคือเป็นอาคารที่ใกล้ส่วนกลางและมีพื้นที่สีเขียวให้ใช้เยอะ เน้นห้อง Studio และ 1 Bedroom 

ห้องพักอาศัยใน Tower B จะเริ่มที่ชั้น 3 โดยชั้น 3-8 จะมีแบ่งพื้นที่เป็นที่จอดรถด้วย ทำให้มีจำนวนห้องน้อยกว่าชั้นอื่นๆในอาคาร โดยชั้น 3-8 จะมี 19 ห้องต่อชั้น ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง Studio 25 ตารางเมตร (สีส้ม) และ Studio 30 ตารางเมตร (กรอบสีแดง) โดยจะมีห้อง 1 Bedroom 29 ตารางเมตร (สีชมพู) ตั้งอยู่หันรับวิวพื้นที่ส่วนกลางด้านในโครงการ

ชั้น 9 จะมีห้องพักอาศัยเยอะขึ้น แปลนจะมีลักษณะเป็นตัว T มีลิฟต์อยู่ตรงกลาง แบ่งโซนห้องพักอาศัยออกเป็น 3 ปีก แต่ละปีกจะสามารถเดินมาใช้ลิฟต์ได้สะดวกพอๆกัน โดยปีกทางทิศเหนือ (วงกรอบสีน้ำเงิน) จะมีจำนวนห้องพักค่อนข้างน้อยเพียง 9 ยูนิต ทำให้โซนนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวและได้วิวพื้นที่สวนส่วนกลางอีกด้วย และจะมีบางห้องของชั้นนี้ที่เป็นห้องติดสวนอีกด้วยค่ะ (กรอบสีชมพู)

ชั้น 17 การวางผังคล้ายๆกัน แต่จะมีสวนผักรวมใจอยู่ที่ทางปีกฝั่งทิศตะวันออก

Image 1/2
TowerA-10

TowerA-10

ส่วนชั้น 18-22 เป็นห้องพักอาศัยล้วนๆเลย มียูนิตต่อชั้น 39 ยูนิต 

TOWER C

Tower C มีความสูง 22 ชั้น ห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 5 มีจำนวน 526 ยูนิต เป็น Tower ที่อยู่แยกออกมา ห้องพักอาศัยจะเน้น Studio และ 1 Bedroom

แปลนชั้น 5 เริ่มชั้นพักอาศัยของTower C ซึ่งในชั้นนี้จะมีสวนหย่อมให้มาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศได้ ก็ต้องยอมรับว่าห้องที่อยู่ติดกับสวนก็จะมี Value พิเศษเพิ่มขึ้นมาเช่นเดียวกัน ตำแหน่งห้องพักที่เรามองว่าน่าสนใจในชั้นนี้ (วงกรอบสีแดง) คือห้องที่ได้วิวสวนนี่แหละค่ะ เป็นฝั่งห้องทิศใต้ที่ไม่ติดลิฟต์

แปลนชั้น 6-21 (Typical Floor Plan) เป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น ในแต่ละชั้นมีจำนวน 31 ห้อง ซึ่งห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Studio 25 ตร.ม. (สีส้มอ่อน) และแบบ 1 Bedroom 29 ตร.ม. (สีชมพู) ซึ่งตำแหน่งที่เราคิดว่าน่าสนใจคือห้องทิศตะวันออก (กรอบสีแดง) เพราะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะชั้นสูงๆ จะยิ่งเห็นวิวโล่งขึ้น และตำแหน่งที่ติดกับบันไดหนีไฟยังช่วยให้ห้องพักได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นฝั่งหนึ่งด้วยค่ะ

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์และทางเดิน ได้แสงธรรมชาติมาช่วยให้ดูโปร่งโล่งขึ้น

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Tower A

  • ชั้นล่าง

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ ขนาด 5.6 x 13 เมตร ระบบเกลือ ลึก 1.2 เมตร
  • สระเด็ก ขนาด 5.6 x 3.9 เมตร ระบบเกลือ ลึก 0.6 เมตร
  • สวนรอบอาคาร
  • ห้องน้ำชาย-หญิง-ผู้สูงอายุ
  • ร้านค้า (ในอนาคต)

  • ชั้น 21
    • Sky Lounge
    • Sky Garden

    Tower B

    • ชั้นล่าง

    • Lobby
    • ลานอเนกประสงค์
    • สวนรอบอาคาร
    • ห้องบริการเครื่องซักผ้าและน้ำดื่มแบบเสียเงิน
    • สำนักงานนิติบุคคล
    • ห้องน้ำชาย-หญิง-ผู้สูงอายุ

  • ชั้น 9
    • ลานพักผ่อน

  • ชั้น 17
    • สวนผักรวมใจ

  • ชั้น 23
    • Sky Lounge, Fitness, Sky Garden

    Tower C

    • ชั้นล่าง

    • Lobby
    • ห้องบริการพัสดุ
    • Co-Living
    • ห้องบริการเครื่องซักผ้าและน้ำดื่มแบบหยอดเหรียญ
    • สวนรอบอาคาร
    • สนามเด็กเล่น
    • ห้องน้ำชาย-หญิง-ผู้สูงอายุ

  • ชั้น 5
    • ลานพักผ่อน

  • ชั้น 22
    • Sky Lounge
    • Fitness
    • Sky Garden

  • ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว (อาคารละ 2 ตัว) และ Service Lift 3 ตัว (อาคารละ 1 ตัว)
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 247 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ Tower A 161 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ Tower B 317 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ Tower C 263 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 548 คัน หรือคิดเป็น 37% (ไม่รวมซ้อนคัน)
  • ลูกบ้านเข้าอาคารด้วยระบบ Keycard Access
  • รถยนต์เข้าโครงการด้วยระบบ Bluetooth (คล้าย Easy Pass ทางด่วน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • แบบห้อง

    แบบห้องของโครงการลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) ส่วนใหญ่เป็นห้องไซส์เล็ก เน้นไปที่แบบ Studio และ 1 Bedroom เป็นหลัก ปัจจุบันโครงการขายทั้งแบบ Fully Furnished มาครบทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง และบางอาคารบางยูนิตก็มีขายแบบ Fully Fitted ด้วยเช่นกัน เหมาะกับใครที่อยากตกแต่งห้องเอง ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าซื้อแบบ Fully Fitted ค่าตกแต่งเริ่มต้นประมาณ 1-2 แสนบาทก็อยู่ได้แล้วค่ะ

    สำหรับห้องพักอาศัยในโครงการนี้มีให้เลือกหลักๆ 3 แบบ คือ Studio, 1 bedroom และ 2 Bedroom เราสรุปมาให้ว่าแต่ละอาคารมีห้องไซส์ไหนมาให้เลือกบ้าง และขายแบบ Fully Furnished หรือ Fully Fitted นะคะ

    รูปแบบการขายแต่ละอาคาร @วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567

    Tower A

    • Studio 29 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished
    • 1 Bedroom 29-32.5 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted
    • 2 Bedroom 44 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted

    Tower B

    • Studio 25-30 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted
    • 1 Bedroom 29-30 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted

    Tower C

    • Studio 25-31 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished
    • 1 Bedroom 29-37.5 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished

    สรุปรายการวัสดุในห้องพักอาศัย

    • วัสดุปูพื้น : SPC
    • Built-in เคาน์เตอร์ครัว Top ไม้ลามิเนต พร้อม Backsplash
    • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ : HAFELE, Charmer, American Standard, COTTO (ยี่ห้อจะไม่เหมือนกันในแต่ละอาคาร)
    • วัสดุกรอบบานหน้าต่าง : กรอบบานอลูมิเนียม / UPVC
    • กระจก : เขียวตัดแสง / ลามิเนต
    • แอร์ (Studio 1 เครื่อง, 1 Bedroom 2 เครื่อง)
    • เครื่องทำน้ำอุ่น
    • Digital Door Lock
    • Hood ดูดควัน (เฉพาะอาคาร A)
    • ฉากกั้นอาบน้ำ (เฉพาะอาคาร A)

    รายการของแถม

    • เฉพาะห้อง Fully Furnished จะมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพิ่มให้ เช่น โต๊ะ, เตียง, โซฟา, ตู้เสื้อผ้ารวมถึงของตกแต่ง รายละเอียดและรูปแบบให้สอบถามจากทางโครงการอีกครั้ง*

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


    ห้องตัวอย่าง Studio 25.5 ตร.ม.

    ห้องแรกที่จะพาไปชมคือ Studio ขนาด 25 ตร.ม. ใน Tower C ขายแบบ Fully Furnished ให้ทุกอย่างเหมือนในห้องตัวอย่างเลย เรียกได้ว่าให้ยันจานชาม, ผ้าเช็ดตัว เลยแหละค่ะ ในราคา  1.99 ล้านบาท

    ลักษณะเป็นห้องตอนลึก วางฟังก์ชันครัวและห้องน้ำให้อยู่ด้านหน้าห้อง เพื่อให้เตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่นได้วิวและแสงจากภายนอกได้ดีและได้ความเงียบสงบมากขึ้น บริเวณปลายเตียงจะมีพื้นที่สำหรับทำชั้นวางทีวีและมุมทำงานได้

    เนื่องจากแปลนนี้วางครัวไว้หน้าห้องเป็นครัวเปิดเชื่อมต่อกับโซนอื่นๆ ทั้งหมด จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นเรื่องการทำอาหารมากนัก พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารถูกจัดฟังก์ชันให้อยู่ในโซนเดียวกัน แนะนำให้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับการใช้งานได้ เช่น โต๊ะกลางที่ปรับเป็นโต๊ะทานข้าวได้ เป็นต้น

    ห้องที่ขายแบบ Fully Furnished จะมีให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ ได้แก่ Berlin, Sydney และ Minimal ใครชอบแบบไหนก็เลือกตามใจชอบได้เลย แต่เราจะพาไปชมการตกแต่งแบบ Sydney กันก่อนค่ะ

    ประตูทางโครงการให้ Digital Door Lock ของ HAFELE แบบใช้งาน 3 ระบบ คีย์การ์ด รหัส กุญแจ

    เข้ามาภายในห้องจะเจอกับโซนครัวและห้องน้ำเป็นลำดับแรก ตัวห้องของ Tower C จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร ปูด้วยพื้นไม้ SPC ทั้งห้อง ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อความชื้นและน้ำ ดูแลรักษาง่ายจึงสามารถใช้งานบริเวณครัวได้

    ชุดครัวจะให้เคาน์เตอร์มาค่อนข้างยาวแบบในห้องตัวอย่าง ตู้ด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้หากต้องการประหยัดพื้นที่ระเบียงจะวางเครื่องซักผ้าไว้ใต้เคาน์เตอร์ก็ได้ หรือจะใช้บริการเครื่องซักผ้าแบบเสียเงินที่ชั้นล่างก็ได้

    บานตู้มีการเซาะร่องไว้ให้สอดมือเข้าไปเปิดได้ง่าย จึงไม่ต้องมีมือจับให้เกะกะเลยค่ะ

    Top ครัวเป็นไม้ลามิเนตเวลาใช้งานจึงต้องคอยเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ ที่ผนังติด Backsplash มาให้ตามแบบในห้องตัวอย่าง ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย สำหรับห้องพักในอาคาร C จะไม่มีเตาดูดควันติดตั้งมาให้ การทำอาหารที่มีกลิ่นฉุนจึงไม่เหมาะกับห้องนี้สักเท่าไหร่นะคะ

    ตู้ลอยด้านบนมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และตู้เก็บของต่างๆ

    ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นเว้นไว้ให้ ถ้าจะเลือกซื้อตู้เย็นก็อย่าลืมวัดขนาดพื้นที่วางให้เรียบร้อยก่อนนะคะ

    ส่วนฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์จะเป็นห้องน้ำค่ะ การวางผังของห้องนี้จะเอาห้องครัวกับห้องน้ำมาไว้หน้าห้อง เพื่อให้พื้นที่พักผ่อนด้านในมีความเป็นส่วนตัวและได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างเต็มที่

    ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ดูสวยงาม ล้างทำความสะอาดง่าย

    อ่างล้างหน้าเป็นแบบติดตั้งลอยตัวรูปทรงสี่เหลี่ยม  มีพื้นที่ให้วางสบู่ล้างมือ แปรงสีฟันได้นิดหน่อย กระจกเงาส่องหน้าก็ติดตั้งมาให้แบบนี้เลย  สุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของ American Standard ติดตั้งมาให้พร้อมกับสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระ

    พื้นที่อาบน้ำเค้าจะลดระดับพื้นจากส่วนแห้งลงไปเล็กน้อยเพื่อแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.8 x 1.5 เมตร ใช้งานได้ตามมาตรฐาน พร้อมติดตั้งฝักบัวของ HAFELE ไว้ให้ค่ะ ฉากกั้นอาบน้ำจะได้เฉพาะอาคาร A ส่วนอาคาร B-C ไม่มีให้ แต่เราก็สามารถติดตั้งเพิ่มเองได้นะคะ

    พื้นในห้องน้ำจะมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้อง จึงไม่ต้องกลัวน้ำไหลย้อนไปส่วนอื่นค่ะ

    ถัดเข้ามาด้านในเป็นตำแหน่งของห้องนอน เนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้หลบมุมอยู่ด้านใน จึงได้ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากขึ้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากทางเดิน และรับแสงธรรมชาติได้ดีเพราะอยู่ติดหน้าต่าง

    โซนนี้เราก็จะได้เฟอร์ฯ ทุกชิ้น พร้อมของตกแต่งตามแบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ โครงการวางเตียงไว้กลางห้อง เพื่อให้มุมนั่งเล่นอยู่ติดหน้าต่าง ซึ่งเราเองก็เชื่อว่าโซฟาน่าจะเป็นมุมที่ได้ใช้งานบ่อยที่สุด

    เตียงนอนมีขนาด 5 ฟุต มาพร้อมเครื่องนอนตามแบบในรูปเลย ส่วนตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านข้าง

    ตู้เสื้อผ้าเป็นตู้ขนาดใหญ่ทีเดียว เป็นแบบบานเลื่อนเปิดปิด จึงช่วยประหยัดพื้นที่ ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บของ ไว้หลายขนาดทีเดียว

    ในส่วนของชุดโซฟามีขนาด 2 ที่นั่ง มาพร้อมโต๊ะกลาง วางตำแหน่งไว้ติดหน้าต่าง จึงนั่งชมวิวไปเพลินๆ ได้ หากใครอยู่ห้องในช่วงกลางวันบ่อยๆ ก็แนะนำให้เลือกเป็นห้องทิศเหนือ หรือตะวันออก จะได้ไม่ร้อนในช่วงบ่ายนะคะ

    ปลายเตียงเป็นพื้นที่ของชั้นวางทีวี และโต๊ะเครื่องแป้ง

    ชั้นวางทีวีที่ให้มีขนาดใหญ่ มาพร้อมหน้าบานปิดช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดตา

    โต๊ะเครื่องแป้งจะเป็นตู้ที่มีหน้าบานปิดอีกเช่นกัน โดยมีหน้าบานที่เป็นกระจกยาวช่วยให้เราเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้สะดวก และมาพร้อมราวแขวนกระเป๋า แขวนหมวกต่างๆ

    ประตูทางออกไปยังระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ใช้เปิดระบายอากาศภายในห้องได้ ระเบียงมีขนาดกะทัดรัดประมาณ 1.9 x 0.6 เมตร เหมาะจะไว้ใช้ตากผ้า

    Condensing Unit ออกแบบให้แขวนไว้ด้านบน ทำให้ไม่เกะกะสายตา เราสามารถมองวิวออกไปได้ค่ะ และโครงการยังติดตั้งราวตากผ้าแบบพับได้มาให้ด้วย

    วิวจากห้องพักทางทิศตะวันตก ชั้น 16 สามารถมองลอดตึกออกไปเห็นวิวโล่งๆ ทางฝั่งด้านหน้าโครงการได้

    ที่เกริ่นไปตั้งแต่ต้นว่า ห้องที่ขายแบบ Fully Furnished จะมี 3 แบบให้เลือก เราจึงเก็บภาพห้องที่ตกแต่งแบบ Berlin และ Minimal มาฝากกันด้วยค่ะ

    Image 1/7
    อาคาร C : Studio 25 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Berlin

    อาคาร C : Studio 25 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Berlin

    Image 1/8
    อาคาร C : Studio 25 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Minimal

    อาคาร C : Studio 25 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Minimal


    ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 29 ตร.ม.

    ห้องอีก Type นึงที่มีเยอะในโครงการก็คือ 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. ใน Tower C ลักษณะคล้ายห้อง 25 ตร.ม. เลย แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้สามารถทำประตูกั้นโซนห้องนอน ออกจากห้องนั่งเล่นได้ ใครอยู่ 2 คนเราแนะนำให้เลือกห้อง Type นี้มากกว่า Studio นะคะ เพราะเวลาที่ทั้ง 2 คน เข้านอนไม่พร้อมกัน ก็ยังสามารถปิดประตูกั้นห้องได้ ไม่รบกวนกันค่ะ

    เข้ามาภายในห้องจะเจอกับโซนครัวและห้องน้ำเป็นลำดับแรก ใช้พื้นไม้ SPC ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อความชื้นและน้ำ ดูแลรักษาง่ายจึงสามารถใช้งานบริเวณครัวได้

    ชุดครัวจะให้เคาน์เตอร์มาค่อนข้างยาวแบบในห้องตัวอย่าง ตู้ด้านล่างและด้านบนเปิดออกมาเก็บของได้และยังเตรียมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อย ทำให้ไม่ต้องไปกินพื้นที่ที่ระเบียง ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะมีพื้นที่เอาไว้วางตู้เย็น ถ้าชอบขนาดตู้ประมาณห้องตัวอย่างก็เป็นตู้ขนาด 9 คิวค่ะ

    ตู้เก็บของจะมีช่องเยอะกว่าห้อง Type แรก ทำให้เก็บของได้เยอะขึ้น

    ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ดูสวยงาม ล้างทำความสะอาดง่าย

    สุขภัณฑ์ต่างๆ และขนาดพื้นที่อาบน้ำจะได้มาเหมือนในห้อง Type แรกเลยค่ะ

    ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งของพื้นที่นั่งเล่น เนื่องจากหลบมุมอยู่ด้านในจึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากขึ้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากทางเดิน และรับแสงธรรมชาติได้ดีจากช่องหน้าต่าง

    พื้นที่นั่งเล่นของห้องนี้มีขนาดที่กว้างดีเลยนะคะ มีระยะดูทีวีที่ประมาณ 3.5 เมตร จึงเลือกติดทีวีขนาดใหญ่เต็มตาแบบ 60 นิ้วได้ และส่วนที่เราชอบคือ โซนนี้มีความกว้างเป็นพิเศษ จึงสามารถวางโต๊ะทานข้าวเพิ่มได้โดยไม่เกะกะทางเดิน

    ห้องตัวอย่างใช้วิธีวางโต๊ะทานอาหารไว้ติดกับโซฟาก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีเลยนะคะ แถมยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บของไว้ด้านติดผนังได้ด้วย

    บริเวณชั้นวางทีวีก็มีพื้นที่เหลือพอให้ทำตู้เก็บของ ตู้โชว์ได้อีกนิดหน่อย

    ถัดมาที่ห้องนอนจะได้ความเป็นส่วนตัวขึ้นจากประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ซึ่งเป็นบานใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ และมองเห็นวิวได้จากห้องนั่งเล่นเลย

    ในส่วนของห้องนอนกว้างพอให้วางเตียง 5-6 ฟุตได้ ส่วนนี้จะอยู่ติดกับหน้าต่างมากที่สุด จึงนอนชมวิวได้จากบนเตียงเลยนะคะ

    ส่วนปลายเตียงจะมีพื้นที่เยอะหน่อย ทำมุมทำงานและวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้

    ตัวห้องได้แสงธรรมชาติผ่านประตูระเบียงและหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่ง น่าอยู่มากเลย

    ส่วนที่เรามองว่าเป็น Highlight ของห้องแปลนนี้คือมุมนั่งทำงานติดหน้าต่าง ซึ่งสามารถทำโต๊ะเข้ามุมตัว L ได้พื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ เหมาะกับยุค Work From Home ในปัจจุบันมากๆ เลย หรือถ้าใครไม่ต้องทำงานที่บ้าน ก็สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นริมหน้าต่างก็ได้นะคะ

    สำหรับระเบียงจะมีขนาดกะทัดรัด ประมาณ 1.9 x 0.6 เมตร เหมาะจะใช้ตากผ้าเท่านั้น ก็น่าจะเต็มพื้นที่แล้วค่ะ ซึ่งโครงการเค้าวาง Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้ไม่เกะกะสายตา เราสามารถมองวิวออกไปได้โล่งๆ เลย

    วิวจากห้องตัวอย่างทางทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ บนชั้น 16 ค่ะ เป็นวิวเมืองโล่งๆ เห็นรถไฟฟ้าวิ่งไปมาด้วย

    ห้องตัวอย่างที่พาไปชมนี้ เป็นห้องที่ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ดูเป็นไอเดีย แต่หากใครต้องการซื้อแบบ Fully Furnished ที่ตกแต่งให้ครบถ้วนก็จะมีให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ ดังนี้ค่ะ

    Image 1/6
    อาคาร C : 1 Bedroom 29 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Minimal

    อาคาร C : 1 Bedroom 29 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Minimal

    Image 1/6
    อาคาร C : 1 Bedroom 29 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Sydney

    อาคาร C : 1 Bedroom 29 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Sydney

    Image 1/6
    อาคาร C : 1 Bedroom 29 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Berlin

    อาคาร C : 1 Bedroom 29 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Berlin


    ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 32 ตร.ม.

    อีกห้องหนึ่งที่จะพาไปชมคือ 1 Bedroom ขนาด 32 ตารางเมตร ใน Tower A ขายแบบ Fully Fitted นะคะ ห้องนี้จะเป็นครัวปิดกั้นเป็นสัดส่วนเลย จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเพราะจะสามารถกันกลิ่นและควันได้ดีพอสมควร

    ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้กว้างขวาง เราสามารถจัดวางโต๊ะอาหารและโซฟาได้สบายๆ อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องนอนซึ่งห้องนี้จะกั้นด้วยผนังทึบเป็นส่วนตัวไปเลย Type นี้ ห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน ทำให้การใช้งานมีความสะดวกและเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ถ้ามีแขกมาขอเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องนอนเข้ามาค่ะ ส่วนระเบียงจะอยู่ในห้องนอนเช่นเดียวกัน สามารถออกไปนั่งพักผ่อนและนอนดูวิวจากตรงระเบียงได้ค่ะ

    สรุปแล้วห้องนี้จะเหมาะกับคนที่อยากได้ห้องที่มีพื้นที่มากขึ้นมาหน่อย ฟังก์ชันต่างๆจัดเป็นสัดส่วน อยากได้ห้องนอนที่เป็นส่วนตัวและชอบทำอาหารค่ะ

    Image 1/12
    อาคาร A : 1 Bedroom 32 ตร.ม.

    อาคาร A : 1 Bedroom 32 ตร.ม.

    ราคา

    Lumpini Ville Charan – Fai Chai (ลุมพินี วิลล์ จรัญ – ไฟฉาย) ราคา ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567

    • Studio (Tower C) พื้นที่ใช้สอย 25 ตร.ม. รูปแบบการขาย Fully Furnished ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
    • 1 Bedroom (Tower C) พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. รูปแบบการขาย Fully Furnished ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท

    • รูปแบบการขายมีทั้ง Fully Furnished และ Fully Fitted
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 , 2.6 เมตร
    • จอง 3,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) จัดว่าเป็นคอนโดที่ราคาดีเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านในย่านจรัญฯ เมื่อดูภาพรวมตลาดคอนโดบนถนนจรัญสนิทวงศ์ในช่วงสถานีไฟฉายถึงสถานีจรัญ 13 จะเห็นว่ามีหลายโครงการให้เลือกทีเดียวทั้งโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่และโครงการที่กำลังก่อสร้าง พอได้มาเปรียบเทียบกันดูแล้วจะเห็นได้ว่าคอนโด ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย มีราคา Package ที่หยิบจับง่ายสุด

    ทำเล : เรามองว่าโครงการนี้เป็นทำเลที่เหมาะกับคนทำงานในย่านรอบๆ อย่าง จรัญฯ ศิริราช วังหลัง ท่าพระ วงเวียนใหญ่ เสียมากกว่าคนที่ทำงานในเมือง เพราะจากทำเลที่ไม่ได้อิงรถไฟฟ้าในระยะเดินได้สบายเหมือนเช่นโครงการอื่นๆ แต่เน้นไปที่การใช้งานรถสาธารณะอย่าง รถเมล์ รถกระป้อ รถแท็กซี่ ได้สบาย อยู่ติดถนนใหญ่ เรียกรถง่ายแทนค่ะ ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าในระยะเดินรอบๆ โครงการจะไม่ได้มีร้านค้า ร้านอาหารคึกคักมากเท่าไหร่ แต่โครงการก็อยู่โซนจรัญฯช่วงกลางซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูง แค่นั่งรถออกไปไม่ไกลก็มีทั้งตลาด, Hypermarket และร้านอาหารต่างๆ ออกไปหาอะไรทานได้ไม่ยากค่ะ

    การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ด้วยทำเลติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ทำให้เดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง มีเส้นทางลัดเยอะ มีตัวช่วยในการเดินทางอย่าง ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4, ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก แต่สัดส่วนที่จอดรถจะไม่เยอะนัก 37% ไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ

    การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : มีรถสาธารณะผ่านไปมาให้เลือกใช้หลากหลาย โดยเฉพาะจะมีป้ายรถเมล์ที่หน้าโครงการ มีรถกระป้อวิ่งผ่านบนถนนเส้นนี้อยู่ตลอด หรือจะเรียกแท็กซี่ก็ง่าย เพราะโครงการอยู่ติดถนใหญ่ อีกทั้งโครงการยังอยู่ระหว่างรถไฟฟ้า 2 สถานี ได้แก่ สถานีจรัญฯ 13 และ สถานีไฟฉาย ทำให้มีตัวช่วยในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองสีลม – สาทร หรือไปทางจตุจักรได้

    วัสดุ : จากเดิมเมื่อตอนเปิดตัวโครงการนั้นขายแบบ Fully Fitted แต่ปัจจุบันมีการเพิ่มเติมเฟอร์นิเจอร์ให้เป็น Fully Furnished ในห้องหลายๆ Type เลย ซึ่งราคาไม่ถึง 2 ล้านแล้วได้เฟอร์ฯ แบบครบเซตเหมือนในห้องตัวอย่างถือว่าคุ้มค่าเลยนะ โดยโครงการจะมีให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ หรือใครที่ชอบแต่งห้องเองก็สามารถเลือกซื้อแบบ Fully Fitted ได้ ก็จะมีชุดครัว, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้เป็นมาตรฐาน สเปคของวัสดุเหมาะสมกับระดับราคาค่ะ

    การออกแบบโครงการ : แม้ว่าที่นี่จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่ก็กระจายลูกบ้านไว้ 3 อาคาร พร้อม Facility ส่วนกลางที่มีให้ทุกอาคารเลยเช่นกัน แต่ละอาคารก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป Tower A จะใกล้ทางเข้าออก ร้านค้า สระว่ายน้ำและสวนหย่อมส่วนกลางที่สุด มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด แต่ก็มีราคาสูงกว่าอาคารอื่นๆ เช่นกัน Tower B อยู่ถัดเข้ามาด้านในลึกกว่าอาคาร A หน่อย แต่ก็ใกล้สวนส่วนกลาง มีที่จอดรถอยู่ในอาคาร และ Sky Facility ชั้นบนก็ได้วิวดีเลยทีเดียว Tower C อาคารนี้แยกมาอยู่อีกฝั่ง แม้จะอยุ่ด้านในสุด แต่ก็รวม Facility ส่วนกลางทั้งชั้นล่างและชั้นบนสุดไว้เช่นกัน และได้วิวดีมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ

    การออกแบบห้องพัก : ห้องพักส่วนใหญ่ของที่นี่ออกแบบมาเป็นห้องไซส์เล็ก รูปแบบ Studio และ 1 Bedroom ขนาด 25 -37.5 ตร.ม. ทำให้ราคาเริ่มต้นของโครงการไม่สูงนักอย่างห้อง Studio เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท ส่วน 1 Bedroom ก็มีราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาทเช่นกัน ราคานี้ได้เฟอร์ฯ ครบแบบ Fully Furnished เลยนะคะ

    สาธารณูปโภค : ถึงแม้ว่าเป็นคอนโดที่มีราคาหยิบจับง่ายแต่ก็มี Facility มาให้ครบครันสูสีกับเพื่อนๆ แต่ทว่าในขณะที่คอนโดอื่นวางสระว่ายน้ำและส่วนกลางอื่นๆ ไว้ชั้นบนสุด แต่สำหรับลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย จะวางสระว่ายน้ำไว้ที่ชั้นล่าง และนำพวก Sky Fitness, Sky Lounge และ Sky Garden ไปไว้ที่ชั้นบนสุดแทน เพื่อให้ลูกบ้านได้มีพื้นที่ส่วนกลางที่ชมวิวแม่น้ำได้


    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 65,000 – 80,000 บาท/ตร.ม., 5 พฤศจิกายน 2567

    • ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์
    • เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก มีเส้นทางลัดเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง
    • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 2 สถานี สถานีจรัญฯ 13 สถานีไฟฉาย และมีตัวเลือกรถสาธารณะอื่นๆอีกทั้ง  รถเมล์ รถกระป้อ รถแท็กซี่ และเรือ
    • วัสดุ 8 /10 – ห้องที่ขายแบบ Fully Furnished ถือว่าคุ้มราคาดี และมีห้องแบบ Fully Fitted ขายด้วย
    • แบบ 7.5/10 – ออกแบบโครงการและห้องพักค่อนข้างลงตัว เป็นสัดส่วนดี
    • สาธารณูปโภค 7.75 /10 – ตามมาตรฐาน มี Sky Facilities

    • ECONOMY CLASS
    • 7.88 / 10.00

    ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) เหมาะกับใคร?

    โครงการ ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย (Lumpini Ville Charan – Fai Chai) เหมาะสำหรับคนที่มีงบซื้อคอนโดในราคา 1 ล้านปลายๆ – 2 ล้านต้นๆ อยากได้คอนโดติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ใกล้โซนวังหลัง ท่าพระ วงเวียนใหญ่ เดินทางด้วยรถเมล์ รถแท็กซี่ รถกระป้อ เป็นหลัก แต่ก็ยังมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้า ชอบโครงการที่มี Sky Facility ให้ใช้งาน ชมวิวเมืองได้ แต่ไม่ได้ซีเรียสว่าสระว่ายน้ำจะต้องอยู่ชั้นบนสุด

    ตัวห้องรองรับทั้งคนที่มองหาห้องที่ตกแต่งครบ ไม่ต้องตกแต่งเพิ่มในงบ 2 ล้าน หรือ คนที่อยากแต่งห้องเอง มีงบประมาณในการซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมก่อนเข้าอยู่อาศัยก็มีห้องเปล่าให้เลือก เหมาะกับคนที่มีงบประมาณในการผ่อนประมาณ 14,000 บาท/เดือนขึ้นไป