รีวิวฉบับที่ 644 … หลังจากที่ทางทีมงานได้พาไปดูโครงการเปิดใหม่ปี 2557 ของ LPN มาแล้ว 2 โครงการ วันนี้จะพาไปดูโครงการสุดท้าย ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เป็นคอนโด High Rise สูง 20-21 ชั้น 4 อาคาร รวม 2,706 ยูนิต เป็นโครงการใหญ่ที่สุดที่เปิดตัวในปีนี้ มีอาคาร Club House แยกต่างหาก และมีศูนย์การค้าอยู่หน้าโครงการ ตอนนี้เปิดขายแค่ 2 อาคารหน้าสุดคือ อาคาร A กับอาคาร B นะครับ ヾ(^-^)ノ~♪

Fact @ 25 July 2014

  • Lumpini Park Phetkasem 98 (ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98)
  • บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางแค
  • คอนโด High Rise 20-21 ชั้น 4 อาคาร 2,706 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 6 ชั้น ที่อาคาร B และ C
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 41 ยูนิตที่อาคาร A
  • จอดรถประมาณ  900 คันรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 33.26% (รวมซ้อนคันแบบ LPN)
  • ที่ดินประมาณ 17 ไร่เศษ
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ต้นปี 2559
  • 1 Bedroom 22.5 – 35.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.1 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 45 – 52 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น xxx ล้านบาท (ห้อง Combine)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.1 ล้านบาทหรือประมาณ 49,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 51,300 บาท
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต
  • http://www.lpn.co.th/condominium/index.php/lumpini/home/LPark-PKS98
  • สำนักงานขาย : 02-444-4495
  • Call Center : 02-689-6888

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.708816,100.382852

 LPark-PKS98-Map_Official

ตัวโครงการนี้จะอยู่ติดถนนใหญ่ เพชรเกษม ทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวกทั้งใช้รถและไม่ใช่รถ สถานที่สำคัญต่างๆโดยรอบจะเป็นแหล่ง Shopping และ สถานศึกษา ที่อยู่ติดกับโครงการคือ วิทยาลัยเทคโนโลยี กรุงธน ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการจะเป็น Big C ซึ่งอยู่ในระยะเดินได้ครับ เดี๋ยวเราไปดูเส้นทางรอบๆจากแผนที่จริงกันดีกว่า

เส้นทางหลักๆที่ใช้คงเป็นเส้นเพชรเกษมอยู่ ซึ่งช่วงนี้กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ โดยการก่อสร้างเริ่มตั้งแต่หน้าห้าง The Mall บางแค ยาวไปจนถึงแยกที่ตัดกับถนนราชพฤกษ์ ทำให้การเข้าเมืองจากเส้นเพชรเกษมเองจะเจอรถติดหน่อย ทีนี้ถ้าอยากจะเข้าเมืองแต่ไม่อยากวิ่งเส้นนี้ก็มีให้เลือกอีกหลายเส้นทาง เช่นไปทางกัลปพฤกษ์ ก็จะวิ่งสบายหน่อย แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนนี้รถติดหนักหน่อยเพราะมีหมู่บ้านอยู่นี้เยอะ หรือถ้าจะไปกรุงเทพตอนบนก็วิ่งผ่านเส้นพุทธมณฑลสาย 2 ไปเข้าบรมราชชนนีขึ้นสะพาน ปิ่นเกล้า, พระราม 7 และ 8 ได้

เนื่องจากทำเลโครงการนี้เป็นทำเลย่านชานเมือง ดังนั้นสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยแนวราบซะมากกว่า ที่ดินตัวโครงการจะเป็นแนวยาวและด้านซ้ายอยู่ติดกับซอย เพชรเกษม 98 ด้านหน้าติดถนนเพชรเกษม ส่วนด้านหลังจะติดกับคลองบางจาก ด้านขวาอยู่ติดกับซอย เพชรเกษม 96/1 เรื่องวิวส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหายกเว้นด้านหน้าโครงการที่ติดกับโรงแรม แซนต้า ที่ด้านหน้าทำเป็นอาคารสำนักงาน มีสนง.สรรกพากรมาเช่าอยู่

แหล่ง Shopping ที่อยู่ใกล้ๆจะมี Big C ฝั่งตรงข้ามที่เป็นเหมือน Community Mal เพราะนอกจากจะมีตัวห้าง Big C แล้วยังมี Index Living Mall, Office Depot, และ Major Cineplex ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร แบรนด์ชั้นนำต่างๆอยู่ด้านใน ทำให้เวลาอยากกินร้านอาหารในห้างก็ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ประหยัดทั้งเวลาและค่าเดินทาง

LPark-PKS98_Map_Site

สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว เรียกว่าไม่ลำบากเลยเพราะมีทั้งป้ายรถเมล์และสะพานลอยอยู่ติดกับโครงการทำให้ไม่ต้องเดินไกล แถมมีรถสาธารณะให้เลือกใช้เยอะทั้งรถเมล์ รถสองแถว และรถกระป๊อ ถ้าจะเดินทางไกลก็นั่งรถเมล์ ถ้าจะไปใกล้อย่างตลาดบางแค, ห้าง Seacon Square และ The Mall ก็ใช้รถสาธารณะท้องถิ่นเอานะครับ เพราะรถพวกนี้จะออกบ่อยกว่ารถเมล์ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เป็นต่อขยายตอนนี้ก็เริ่มใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกทีแล้วครับ คาดว่าจะได้ใช้งานประมาณปี 2560 รายละเอียดเส้นทาง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดโดย Click ที่นี่ ส่วนแผนที่ของเส้นทางรถไฟฟ้าก็ Click ที่นี่เลยครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

การเดินทางวันนี้จะเริ่มจากเส้นวงแหวนกาญจนาภิเษกมาเข้าถนนเพชรเกษมนะครับ

ถ้าใครที่วิ่งตามถนนหลักมาให้สังเกตป้ายบอกทางไป นครปฐม นะครับ

พอวิ่งออกมาทางคู่ขนานแล้วให้ชิดซ้ายไว้เพื่อเข้าเส้นเพชรเกษมขาออก ช่วงนี้จะรถติดหน่อยนะครับเพราะมีรถรอวิ่งไปทาง The Mall บางแคเยอะ

พอเลี้ยวมาได้ไม่ไกลจะเจอ โรงพยาบาล เกษมราษฎร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้กับโครงการที่สุดแล้วครับ ห่างจากโครงการ 1.7 กม.

วิ่งตรงมาถึง 3 แยกตัดกับถนนพุทธมณฑลสาย 2 ให้วิ่งตรงต่อไป บริเวณนี้ช่วงเย็นๆหัวค่ำจะเป็นตลาดร้านอาหารริมทาง ถ้าใครจะหาอะไรกินก่อนกลับก็ลงป้ายรถเมล์ถัดจากแยกนี้ได้เลยครับ

จุดสังเกตก่อนถึงโครงการคือโรงแรมแซนต้าด้านขวามือ

จุดกลับรถแรกเพื่อเข้าโครงการจะอยู่ตรงสะพานลอยหน้าซอย เพชรเกษม 98 พอดี แต่ผมจะพาวิ่งเลยไปหน่อยนะครับ จะได้รู้ว่าที่กลับรถอีกจุดอยู่ตรงไหน

เลยจุดกลับรถมาเจอกับ Big C และแหล่ง Shopping ต่างๆ

วิ่งมานิดเดียวก็ถึงโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ให้ชิดขวาไว้

ตรงแยกไฟแดงนี้ก็ให้อยู่เลยขวาสุดไว้เพราะเลยซ้ายจะเป็นรถเลี้ยวเข้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีโรงเรียนตั้งอยู่ด้านในหลายแห่ง เช่น โรงเรียนอัสสัมชัญ, โรงเรียนกสินธร, โรงเรียนราชวินิตรบางแคปานขำ ช่วงเข้า/เลิกเรียนนี่จะมีรถผู้ปกครองมากันเยอะมาก แนะนำให้เลี่ยงช่วเวลาเด็กๆเลิกเรียนนะครับ

พอเลี้ยวกลับมาจะเห็นที่ดินโครงการอยู่ตรงซ้ายมือหัวมุมซอยเลย

ขออธิบายเรื่องใช้รถรอบๆโครงการหน่อยนะครับ เนื่องจากบริเวณหน้าตัวโครงการจะมีจุดกลับรถอยู่พอดี และตรงจุดนี้สามารถเลี้ยวเข้าซอย เพชรเกษม 98 ที่อยู่ข้างๆโครงการได้เลย การจะกลับรถแล้วเลี้ยวเข้าโครงการเลยยังสามารถทำได้โดยต้องอาศัยจังหวะเดียวกันกับการเลี้ยวเข้าซอยเพชรเกษม 98 แต่ถ้าใครไม่ถนัดจริงๆก็ไปเลี้ยวกลับที่แยกไฟแดงตรงหมู่บ้านเศรษฐกิจก็ได้ครับจะวิ่งสะดวกกว่า ซึ่งการกลับรถตรงนี้จะต้องใช้เวลามาเที่ยว Big C นะ

 

เอารูปปากซอยเพชรเกษม 98 มาให้ดูครับ จะเห็นว่าช่องกลับรถตรงนี้ทางตำรวจเค้าเอากรวยมากั้นไว้ให้เลยเพราะปริมาณรถมีค่อนข้างมาก รถที่จะเลี้ยวเข้าซอยเพราเกษม 98 จะต้องเลี้ยวตรงช่องหลังกรวย ที่นี้ถ้าจะเข้าโครงการแนะนำให้เลี้ยวช่องที่ 2 จะดีกว่าครับจะได้เลี้ยวเข้าโครงการทัน

รูปนี้ถ่ายจากสะพานลอยหน้าโครงการไปยัง Big C ครับ เป็นไงครับระยะพอเดินได้นะครับ ลองวัดจาก Google ระยะเดินจะอยู่ที่ประมาณ 150 เมตรรวมการข้ามสะพานลอยแล้ว ถ้าเป็นคนที่ขยันเดินก็สบายครับไม่ต้องใช้รถเลย

หันมาดูที่ดินของโครงการบ้าง จากสะพานจะเห็นทางเข้าและสำนักงานขายตั้งอยู่ ตึกข้างๆคือโรงแรมแซนต้า

ตัวโรงแรมจะสูงประมาณ 14 ชั้น ส่วนอาคารสำนักงานด้านหน้าจะสูงแค่ 4 ชั้น  วิวตรงนี้จะมีแค่ตึก A ยูนิตหน้าๆฝั่งตะวันออกเท่านั้นที่หันหน้าเข้าหาโรงแรม

ส่วนอาคารของโรงแรมด้านในจะสูงแค่ 5 ชั้น

อีกฝั่งที่เป็นทิศตะวันตก จะเป็นอาคารพาณิชย์และ อาคารเรียนของ เทคโนโลยี กรุงธน สูงประมาณ 7 ชั้น และท้ายซอยจะเป็นสน.หลักสองครับ

ด้านหลังที่ติดคลองบางก็จะเป็นบ้านพักอยู่อาศัย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C เพชรเกษม 150 เมตร (รวมระยะเดินข้ามสะพานลอย)
  • Victoria Gardens Community Mall 2 กม.
  • HomePro พุทธมณฑล สาย 3.4
  • รพ.เกษมราษฎร์ บางแค 1.7 กม.
  • The Mall บางแค 2.9 กม.
  • Seacon Bangkae 5.7 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

LPN-PKS-Cam-10-20

รูปร่างหน้าตาโครงการคงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากนักนะครับ เพราะเห็นแล้วก็บอกได้ทันทีว่าเป็นของใคร หน้าตาตัวตึกช่างเป็น Signature ของเค้าจริงๆ 

ภาพจำลองโครงการส่วนที่เป็นศูนย์การค้าบริเวณหน้าโครงการ ที่ดินตรงนี้จะแยกตัวออกจากโครงการเป็นคนละส่วนกันมีรั้วกั้นอย่างชัดเจน แต่โครงการเค้าจะทำประตูไว้ให้ลูกบ้านเดินมาใช้บริการตรงนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องเดินออกไปถนนใหญ่ แต่ทางโครงการจะเค้ายังไม่ยืนยันนะครับว่าจะสร้างเมื่อไหร่ แต่ถ้าอย่างน้อยมี 7-11 ก็คงช่วยให้ลูกบ้านสะดวกขึ้นเยอะ

จากภาพเท่าที่นับๆดูน่าจะมีร้านค้าประมาณ 24 ยูนิต ถ้าหาร้านดีๆมาลงได้ครบนี้ลูกบ้านจะสบายขึ้นเยอะเลย

ภาพจำลองสวนของโครงการบริเวณหน้า Club House การวางสวนของ LPN เค้าจะมี Pattern ของเค้าอยู่นะลองไล่ดูโครงการตึกเสร็จจากในเวปก็ได้ครับ

รูปนี้จากท้ายโครงการหันไปยังด้านหน้า จากในผังบริเวณนี้จะมีพื้นที่บางส่วนไว้วางพวกเครื่องออกกำลังกาย

ถึงแม้อาคาร Club House จะมี 2 ชั้นแต่ตัวสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้นล่าง

ตัวสระว่ายน้ำเป็นระบบคลอรีน  มีขนาด 10 x 25 เมตรลึก 1.4 เมตร แบ่งสระเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนห้อง Fitness จะอยู่ที่ชั้น 2 ได้วิวหันมาทสระว่ายน้ำ ส่งที่น่าห่วงสำหรับโครงการคือความหนานแน่นครับ เพราะมีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะถ้ามีคนมาใช้งานพร้อมกันเยอะอาจมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานแน่ๆ

บรรยากาศภายในสำนักงานขายก็เป็นไปตามมาตรฐานของ LPN ครับ มีผังอาคาร, โมเดล และภาพบรรยากาศจำลองต่างๆ และที่ผมชอบคือภาพถ่ายจาก Google Map พร้อมลงทำแหน่งของโครงการให้ดูเลย ตรงนี้นอกจากจะทำให้ลูกค้าเข้าใจถึงรูปร่างหน้าตาของที่ดินจริงแล้ว ยังช่วงอธิบายถึงสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี มีอะไรอยู่ใกล้อะไรอยู่ไกล

ตัวตึกของโครงการที่เป็นแบรนด์ Park ดูเหมือนจะใช้เป็นสีภายนอกเป็นสีเขียวเหมือนกันทุกโครงการนะครับ  ตัวอาคารสูง A กับ D จะสูง 20 ชั้น ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะสูงแค่ไหนก็เอาขนาดโรงแรมแซนต้าข้างๆมาเทียบกันก็ได้

ทางเข้าของโครงการกับศูนย์การค้าก็แยกกันอย่างชัดเจนแบบนี้ครับ ที่ดินที่ทำเป็นศูนย์การค้าเค้าก็แยกจากกันอย่างชัดเจน

ทางโครงการเค้าจะเว้นช่องทำเป็นประตูไว้ให้ สำหรับลูกบ้านจะได้เดินสะดวกขึ้น ไม่ต้องเดินออกไปหน้าโครงการแล้วเข้ามาอีกที

ทางเดินรถของโครงการนี้จะมีแค่ด้านเดียวของที่ดิน เข้ามาถึงตรงอาคาร B และ C จะเป็นพื้นที่ของส่วนกลางหลัก โดยเป็นอาคารแยกล้อมรอบด้วยสวนหย่อม

ตัวอาคารจะเป็น 2 ชั้น มีห้อง Fitness และพื้นที่นั่งพักผ่อนด้านใน

ทางเดินรถจะวิ่งมาสุดที่หน้าอาคาร D ส่วนที่เหลือของอาคาร D จะเป็นสวนหย่อมทั้งแนว

สภาพแวดล้อมรอบๆอาคาร C และ D จะดูร่มรื่นกว่าอาคาร A แล B เพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนและส่วนกลาง แต่ตัวอาคารจะมีระยะที่เดินไกลกว่า ซึ่งอันนี้แล้วแต่คนชอบนะ ใครชอบสวนและยอมเดินไกลหน่อยก็เลือกอาคารด้านในไป ใครที่รู้ตัวว่าไม่ชอบเดินเยอะก็เลือกอาคารหน้าๆไป

การจอดรถของโครงการนี้จะเป็นการจอดรอบๆอาคาร และมีอาคารจอดรถปะอยู่ 2 จุด จุดแรกจะอยู่ระหว่างอาคาร A และ B จุดที่สองจะอยู่ที่อาคาร C และ D อย่างในรูปครับ ที่จอดรถจะมี 7 ชั้น ซึ่งชั้นที่เป็นอาคารจอดรถจะมียูนิตอาศัยอยู่ด้วย

ย้อนกลับมาหน้าโครงการ พื้นที่สีเขียวข้างๆตรงนี้ของจริงจะเป็นโรงแรมแซนต้าไม่ได้โล่งแบบนี้นะ

LPark-PKS98_PJ_08_2

ผังบริเวณ รวมทั้งโครงการขอเป็นรูปใหญ่หน่อยนะครับ จะได้เห็นรายละเอียดดีขึ้น การวางผังอาคารจะเรียงกันตามรูปร่างของที่ดิน ที่เป็นแนวหน้าแคบแต่ลึก โดยจะมีทั้งหมด 4 อาคาร อาคาร A และ D จะมีรูปแบบผังที่คล้ายกัน ตัวอาคารเป็นตัว I และสูง 20 ชั้น ส่วนอาคาร B และ D จะมีรูปทรงเป็นตัว L และสูง 21 ชั้น และเป็นอาคารที่มีที่จอดรถอยู่ในตัว ส่วนกลางทั้งหมดจะเป็นอาคารแยกออกมาต่างหาก อยู่ระหว่างอาคาร B และ C สวนหย่อมจะมีบางส่วนอยู่ติดกับอาคาร D ก็ถือว่าเป็นการ Trade off ระหว่างระยะเดินไกลกว่าเพื่อนแต่ได้สวนติดหน้าอาคาร

สำหรับพื้นที่ศูนย์การค้าที่อยู่ในกรอบสีแดงหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่แยกการบริหารกัน ไม่เกี่ยวข้องกับนิติแต่อย่างใด ดังนั้นการปล่อยให้เช่าพื้นที่จะเกี่ยวกับนิติบุคคลและไม่มีรายได้จากส่วนนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าพื้นที่ตรงนี้เปิดแล้วคึกคักก็จะมีผลกระทบกับอาคาร A ตรงที่สูญเสียความสงบไปบ้าง

มาเริ่มที่ผังอาคาร A กันเลยครับ อาคารนี้จะมีห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลย ส่วนเรื่องความพลุกพล่านถือว่ามีมากกว่าห้องพักที่อยู่ชั้นบนแน่ๆ แต่ยังดีที่เค้าทำพื้นที่ระเบียงห้องพักติดกับสวนและส่วนออกกำลังกาย ไม่ได้ติดถนนเหมือนอีกฝั่งทำให้ไม่วุ่นวายจนเกินไป ส่วนประตูทางเค้าศูนย์การค้าจะอยู่ปลายอาคาร A แถวๆห้องพักเบอร์ 26 ครับ

ฝังอาคาร A ชั้น 2 – 20 จะเหมือนกันหมดโดยห้องขนาด 22.5 – 23 ตร.ม.หันไปทางทิศตะวันตะวันตก ส่วนห้องขนาด 26 – 27 ตร.ม.จะหันทางทิศตะวันออก ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัว และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ระยะการเดินมาที่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะตำแหน่งลิฟท์อยู่ตรงกลางพอดี จะอยู่ทิศไหนก็มีระยะเดินเท่าๆกัน

ผังอาคาร B ชั้นล่าง อาคารนี้จะมี อาคารจอดรถพ่วงอยู่ด้วย ดังนั้นใครที่คิดว่าต้องใช้รถเป็นประจำควรเลือกห้องที่อาาคารนี้หรือไม่ก็อาคาร C เพราะเวลาเข้าออกจะได้ไม่ต้องเดินข้ามอาคารเพื่อมาใช้รถ พื้นที่หลักๆของชั้นล่างจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกที่อยู่ติดหับอาคาร A จะเป็นสนง.นิติบุคคล, ห้องสุมด และห้องกิจกรรมเด็กเล็ก สำหรับทางเข้าอาคารจะแยกส่วนไปอยู่ด้านบนมีลิฟท์ของที่จอดรถอยู่ใน Lobby แยกกับลิฟท์โดยสารภายในอาคาร  ห้องอื่นๆที่เหลือจะเป็นห้องเครื่องและห้องแม่บ้านกับรปภ.

ห้องพักอาศัยยังคงเริ่มตั้งแต่ชั้นล่างสุดเหมือนกัน แต่ขนาดห้องจะใหญ่ขึ้น 34 – 35.5 ตร.ม. ถ้าใครอยากได้ห้องที่ใหญ่หน่อยก็เลือกที่ชั้นนี้ แต่ต้องยอมรับเรื่องความเป็นส่วนตัวและพลุกพล่านของชั้นล่างด้วยนะครับ เพราะพื้นที่ห้องด้านระเบียงจะติดกับสวนหน่อยและ Club House ตรงกลาง สำหรับลิฟท์ของอาคารนี้จะเพิ่มเป็น 3 ตัว เช่นเดียวกับอาคาร C เพราะจำนวนยูนิตมีเยอะกว่าอาคาร A และ D ถ้าไม่เพิ่มมานี่อัตราส่วนลิฟท์มีทะลุ 300 แน่ๆ

ผังอาคาร B ชั้น 2 – 7 จะมียูนิตพักอาศัยเกือบเต็มชั้นแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่่จอดรถ ซึ่งลูกบ้านไม่สามารถเข้าพื้นที่ห้องพักได้จากพื้นที่จอดรถโดยตรง ต้องลงลิฟท์ไปที่ชั้นล่างก่อนแล้วค่อยใช้ลิฟท์โดยสารขึ้นมายังห้องพักแทน

ผังอาคาร B จะมีห้องพักเต็มทั้งชั้นแล้ว มีจำนวนยูนิต 41 ยูนิตต่อชั้น

ผังอาคาร C ชั้นล่าง ตัวอาคารจะโอบล้อม Club House ที่อยู่ตรงกลาง ร้านค้าภายในโครงการนี้จะมีแค่ยูนิตเดียวที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรนะครับ ห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้นล่างเช่นกันเป็นห้องขนาดใหญ่ มีสำนักงานนิตบุคคล, ห้องสุมด และห้องกิจกรรมเด็กเล็กอยู่ด้านบนแยกออกจาก Lobby (อาคารนี้ยังไม่เปิดขายนะครับ)

ผังอาคาร C ชั้น 2 – 7 จะมาแนวเดียวกับอาคาร B คือมีพื้นที่จอดรถพ่วงมาด้วย และการเข้าออกที่จอดรถยังคงแยกจากกัน จำนวนห้องพักอยู่ที่ 33 ยูนิต

ผังอาคาร C ห้องพักจะเพิ่มขึ้นเป็น 41 ยูนิตต่อชั้น ห้องพักของอาคารนี้จะเป็นห้องขนาด 26 – 27 ตร.ม.ไม่เหมือนกับห้องพักอาคาร B ที่มีห้องขนาดเล็ก 22.5 ตร.ม.อยู่ด้วย

ผังอาคาร D ชั้นล่าง อาคารนี้จะเป็นอาคารเดียวที่ไม่ติดกับถนนเลย แต่จะเป็นพื้นที่สวนหย่อมกับพื้นที่ออกกำลังกายมากกว่า ห้องพักที่ชั้นล่างจะมีเยอะกว่าอาคารอื่นโดยมีทั้งหมด 18 ยูนิต และเป็นห้องขนาดใหญ่ 31 – 35 ตร.ม. แต่อาคารนี้จะไม่มี Facility อย่างห้องสมุดหรือ ห้องกิจกรรมเด็กอยู่เลย ถ้าใครเป็นคนขยันเดินและชอบพื้นที่สีเขียวก็เลือกอาคารนี้ได้เลยครับ พอไม่มีรถวิ่งผ่านตึกก็ช่วยลดฝุ่นควันจากท่อไอเสียได้พอสมควร (อาคารนี้ยังไม่เปิดขายนะครับ)

ผังอาคาร D ชั้น 2 – 7 จะพ่วงกับที่จอดรถและยังต้องใช้ลิฟท์แยกจากกันอยู่ พื้นที่ห้องก็เริ่มตั้งแต่ 22.5 – 27 ตร.ม. ฝั่งห้องเล็กจะกันไปทางทิศตะวันตก ห้องใหญ่ก็ได้ทิศตะวันออกไป

ผังอาคาร D ชั้น 8 -20 จำนวนห้องของชั้นนี้จะอยู่ที่ 31 ยูนิตต่อชั้น และมีห้องขนาด 22.5 – 27 ตร.ม.

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 10 x 15 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.4 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด xx ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ xx เครื่อง ที่ชั้น 2
  • สวนหย่อมบริเวณอาคาร B, C และ D
  • ลิฟท์โดยสาร 2, 3 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 271 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 298:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 252:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 257:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก D 291.5:1
  • Service Lift 1 ตัว/อาคาร
  • ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันคิดแบบ LPN เป็น 900 คันหรือ 33.26%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

เนื่องจากตอนเข้าเยี่ยมชมโครงการมีการปรับปรุงหน้างานพอดี เลยขอเอาห้องตัวอย่างของโครงการ ลุมพินี พาร์ค นวมินทร์-ศรีบูรพา มาให้ดูแทนเลยนะครับ เพราะแบบห้องของ 2 โครงการนี้เป็นแบบเดียวกันเป๊ะๆเลย การขายเป็นการขายแบบห้อง Fully Fitted มีห้องน้ำ, เคาน์เตอร์ครัว และตู้เสื้อผ้ามาให้ตามปรกติ สำหรับใครที่อยากได้ของแบบห้องตัวอย่างก็สามารถซื้อเพิ่มได้ตามราคาด้านล่างครับ

ราคาเฟอร์นิเจอร์ ตามแบบโครงการ

  • ขนาด 22.5 ตร.ม. ราคา 155,000 บาท
  • ขนาด 26 ตร.ม. ราคา 225,000 บาท
  • ขนาด 45 ตร.ม. ราคา 495,000 บาท
  • ขนาด 52 ตร.ม. ราคา 515,000 บาท

LPNPark-NS-22.50_resize

แบบห้อง 22.5 ของลุมพินี ต้องบอกว่าใช้คุ้มจริงๆครับ เพราะแบบยังคงเหมือนกับโครงการอื่นๆที่ใช้มาได้สักระยะแล้ว แบบขนาด 22.5 จะวางฟังก์ชั่นได้ค่อนข้างครบแต่พื้นที่ใช้งานจะลดลงมาตามขนาดห้อง แนะนำว่าใครที่ไม่ยากลำบากวิ่งหาเฟอร์นิเจอร์ให้ได้ตามขนาดของพื้นที่ ก็ซื้อของเค้าได้เลยครับ

ราคาเฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่างอยู่ที่ 155,000 เฉลี่ยต่อตร.ม.แล้วได้ประมาณ 6,900 บาท แถมสามารถผ่อนพร้อมห้องชุดได้อีกด้วย

โซนแรกที่เจอเป็นโซนห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนเลยถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวในห้องนอนคงต้องติดม่านเพิ่มด้วย

ตัวห้องเปล่าเข้ามาก็โล่งๆเลย

หันกลับมาโซฟาจะเห็นว่าตัวโซฟาที่ให้มาเป็น Built-in เข้ามุมได้พอดีถ้าจะหาซื้อที่ได้ขนาดพอดีแบบนี้อาจจะลำบากหน่อย เท่าที่ลองนั่งดูตัวที่นั่งๆได้ลึกดีแต่ระยะพิงจะไม่สามารถนอนเอนได้มากนัก

โต๊ะกลางขนาดจะมีขนาดเล็กหน่อยพอวางขนมแก้วน้ำได้ แต่ไม่พอวาง Notebook นะครับ ส่วนตัวโซฟาจะมีลิ้นชักให้เก็บของใต้เบานั่ง และด้านข้าง

พอเป็นห้องเปล่าแล้วจะเห็นว่ามีเหลี่ยมเสายื่นออกมา ถ้าใครอยากจะวางโซฟาตัวใหญ่แนะอย่าลืมเชคระยะดีๆนะครับ

ภายในห้องเปล่ามีตัวอย่างพื้นลามิเนตระบบคลิปล๊อคมาโชว์ให้ดูว่าไม่ต้องใช้กาวในการติดตั้ง

มุมมองจากโซฟาไปยังห้องครัว จะเห็นว่ามุมที่เป็นห้องน้ำถูกปาดเหลี่ยมไปเพื่อให้ระยะทางเดินเข้าห้องครัวดูกว้างขึ้น

ชั้นวางทีวีจะมีช่องเก็บของมาให้แต่ไม่สามารถเก็บรองเท้าได้นะเพราะความลึกไม่พอ รองเท้าต้องเอาไว้ใต้ชั้นวางทีวีแทน

ตู้เก็บของชุดบน ช่องที่มีบานปิดเป็นการครอบตู้เมนไฟฟ้าไว้เพื่อความสวยงาม เลยเหลือที่เก็บของไม่มากนัก

ระยะดูทีวีสองเมตรกว่าๆเหลือให้พอวางทีวีได้ถึง 50″ แต่…พื้นที่ของกำแพงดันเหลือให้แค่นิดเดียวประมาณ 1 เมตรแถมไม่ได้ Center กับ โซฟาด้วย ถ้าจะติดก็กะระยะดีๆนะครับ

พื้นที่ห้องเปล่าก็มาแบบโล่งๆ ห้องทุกแบบจะได้โคมไฟ Downlight ทั้งหมด

ประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 2 ตอนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกชุดล่างเป็นแบบฝ้า

รางเลื่อนที่พื้นจะนูนๆออกมาแบบนี้ พอเดินได้ไม่ถึงกับสะดุดง่ายๆ และความกว้างจะไม่เท่าพวกบานเลื่อน 3 ตอน

แบบของมือจับค่อนข้างคมไปหน่อยจับแล้วไม่ค่อยน่าใช้งานแถมตามขอบ บน/ล่าง ค่อนข้างคมเวลาจับก็ระวังหน่อย

ขนาดห้องนอนไม่ใหญ่มากพอวางได้แค่เตียง 5′ เท่านั้นตัวกระจกของจริงไม่ได้เป็นบานใหญ่เต็มพื้นที่แบบนี้นะครับ เดี๋ยวพาไปดูที่ห้องขนาด 26 ตร.ม.

ฐานเตียงเป็นแบบ 5′ มีช่องเก็บของใต้เตียงแต่ไม่มีบานปิดมาให้

ระยะเหลือรอบๆเตียงทั้ง 2ด้านไม่พอวาง โต๊ะหัวเตียงนะต้องใช้วิธีเลื่อนไปชิดด้านใดด้านนึง ถึงจะวางโต๊ะเล็กๆได้

ตู้เสื้อผ้าจะให้มาอยู่แล้วแต่ชั้นวางของทางขวาเป็นชุดที่ต้องซื้อเพิ่มเติม ถ้าใครไม่ซื้อจะทำเป็นชั้นวางทีวีก็ได้แต่

มือจับค่อนข้างเล็กและมีระยะให้จับน้อยไปทำให้จับไม่ค่อยถนัด

การแบ่งช่องภายในตู้เสื้อผ้า ถ้าอยู่กัน 2 คนเวลาใช้งานจริงไม่น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน

ตัวชั้นวางของจะมีหน้าบานเป็นกระจกเงาด้านในใส่ของได้นิดหน่อยเพราะมีความลึกประมาณ 10 ซม.เท่านั้น

มุมมองหันกลับมายังพื้นที่ห้องนั่งเล่น

ห้องครัวจะได้ Pantry ขนาดเล็ก ไม่มีตู้วางของชุดบนมาให้ มีแต่ชุดล่าง Top เคาน์เตอร์ได้เป็นปาติเกิ้ลปะเมลานีนสำหรับใช้ในครัว

อ่างล้างจานเป็นทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กวางแนวตั้ง วางจานชามได้นิดเดียวก็อย่าใช้จานชามทีเดียวเยอะๆเดี๋ยวจะไม่มีที่ล้างกับที่พักจาน ;p

ตรงส่วน Pantry จะมีจุดแปลกๆอยู่ 1 จุด ตรงส่วนปลายของเคาน์เตอร์ครัว จะมีระยะต่อของเคาน์เตอร์มาให้อีกหน่อยเพราะเป็นช่วงพ้นระยะเสาพอดี ด้านขวาจะเป็นช่องใหญ่หน่อยเลยใส่ชั้นวางของมาให้ซะเลย

โต๊ะทานอาหารยังคงวางแบบนั่งหันหน้าเข้าหากำแพง 2 ที่นั่ง ขนาดโต๊ะก็พอวางแบบอาหารจานเดียวมากกว่า

ประตูออกระเบียงเป็นแบบ บานเลื่อนเดี่ยวกรอบอลูมิเนียม

ธรณียกสูงมาประมาณ 10 ซม.

กลอนเป็นแบบมาตรฐานธรรมดา ตัวล็อค 2 ชั้น

ด้านนอกจะเว้นพื้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้าพร้อมงานระบบน้ำ-ไฟฟ้า

ด้านบนเอาไว้วางคอมแอร์แบบเป่าเข้าระเบียง แนะนำเหมือนทุกครั้งคือให้ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพื่อจะได้ใช้งานส่วนของระเบียงได้

ในส่วนของห้องน้ำเปิดประตูมาเจอกับโถสุขภัณฑ์ก่อนเลย ถ้าใครไม่อยากให้เสียบรรยากาศในการกินข้าวก็ปิดประตูไว้นะครับ

ชุดโถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard

ตัวอ่างวัสดุยังคงเป็นไฟเบอร์กลาสเหมือนเดิม แต่ก็ได้พื้นที่วางของเยอะดี

ตัวอ่างค่อนข้างเล็กไปหน่อยถ้าเทียบกับขนาดอ่างในยุคก่อนๆของ LPN

โซนอาบน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าได้ฝักบัวปรับระดับได้ และมีชั้นวางสบู่มาให้

ขนาดพื้นที่อาบน้ำก็ประมาณ 80 x 80 ซม.พออาบน้ำได้แต่อึดอัดไปนิด

LPNPark-NS-26_resize

ห้องขนาด 26 ตร.ม.ผังเหมือนกับแบบ 22.5 เป๊ะๆแต่ได้ความลึกของห้องเพิ่มมากขึ้น สามารถใส่ฟังก์ชั่นโต๊ะเขียนหนังสือไปได้อีกอย่าง

ราคาชุดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ก็เพิ่มขึ้นมาอีก 70,000 บาท ค่าตกแต่งเฉลี่ยอยู่ที่ 8,700 บาท/ตร.ม.

โซนแรกที่เจอยังคงเป็นห้องนั่งเล่น แต่ตัวโซฟาจะไม่เหมือนเดิมแล้ว แบ่งเป็น 2 ที่นั่งแต่ได้ขนาดกว้างขึ้นหน่อย

และบรรยากาศจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย ดูเป็นสัดส่วนน่าทำงานมากขึ้น เพราะสามารถใส่โต๊ะทำงานเข้ามาได้อีกชุด

ตัวลิ้นชักใต้โซฟาจะไม่ได้ติดตายอยู่กับเก้าอี้ แต่เป็นล้อเลื่อนที่สามารถลากออกมาทั้งชิ้นได้เลย

ส่วนโต๊ะทำงานได้ Top เป็นกระจกสีชา ช่วยบดบังความรกในลิ้นชักได้(ถ้าใครจัดของไม่ค่อยเป็นระเบียบนะ ;p)

ตัวตู้วางทีวีก็ดูดีกว่าและได้ความกว้างของผนังด้านนี้เพิ่มขึ้นด้วย

ห้องนี้ก็ได้รับผลจากความลึกที่เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกันสามารถใส่ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กได้อีกตู้

หน้าต่างของจริงจะเป็นแบบนี้ครับ ชุดล่างได้บาน Fix ชุดบนได้บานเลื่อนสลับ

ขนาดเคาน์เตอร์ครัวได้ช่องเก็บของตรงกลางเพิ่มขึ้นมาและตัวอ่างวางเป็นแนวนอนแล้วชั้นวางของด้านบนก็ได้เพิ่มเช่นกัน ส่วนมุมแปลกที่พ้นระยะเสาไปจะไม่มีแล้ว อ่อ ลืมบอกไปว่าผนังปูกระเบื้องมาให้เป็นมาตรฐานนะครับ

ห้องน้ำจะได้ลายกระเบื้องปูผนังที่สวยกว่า ที่แขวนทิชชู่ก็อยู่ในตำแหน่งเดียวกันคือใต้อ่างล้างหน้าซึ่งอยู่ไกลมากกกก จะใช้ทีก็เอื้อมกันไกลเลย

ห้องน้ำของขนาดนี้จะได้ ฉากกั้นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กรุอะคริลิคผิวส้ม เปิดแบบบานเลื่อน 3 ตอน

LPNPark-NS-45_resize

ห้องแบบ 45 ตร.ม.เป็นการ รวมห้องขนาด 22.5 ตร.ม.เข้าด้วยกัน ดังนั้นการออกแบบจะมีบางส่วนที่แปลกๆไม่ค่อยลงตัวอยู่บ้าง เช่นตรงทางเข้าห้องนอนใหญ่กับตำแหน่งเตียงที่ไม่สัมพันธ์กัน ทำให้การวางทีวีตรง center กับเตียงไม่ได้

LPNParkNS_UN45_01_WM

พอเป็นห้อง Combine ราคาของการตกแต่งก็สูงขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ 495,000 บาท เฉลี่ยออกมาได้ 11,000 บาท/ตร.ม.

โซนแรกจะเป็นโซนทานอาหารที่ติดกับโซนนั่งเล่น ขนาดของโต๊ะกินข้าวสามารถนั่งได้ 4 คนพอดีๆ และระยะดูทีวีประมาณ 2.5 ม.ก็ใส่ทีวี 50′ เลยครับ

ฟังชันก์ของห้องนอนถูกแบ่งให้อยู่ซีกนึงแยกไปเลย ประตูทางเข้าที่เห็นด้านขวาเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่

ภายในห้องนอนเล็กวางเตียงได้แค่ขนาด 3.5′ เท่านั้น และเป็นการวางชิดผนังด้านนึงด้วย

มุมหัวเตียงจะมีหน้าต่างที่เปิดไปเป็นโซน Walk-in Closet เป็นบานเลื่อนสลับ

ถ้าใครซื้อชุดตกแต่งก็จะได้กระเงาบานใหญ่ที่หัวเตียงแบบนี้ครับ

ห้องนอนใหญ่ใส่เตียงได้แค่ 5′ เพราะถ้าใส่ 6 ‘ ทางเดินด้านข้างจะเหลือน้อยมาก

ตำแหน่งวางทีวีจะเยื้องๆกันหน่อย ส่วนหน้าต่างด้านข้างของจริงไม่ได้เป็นแบบนี้นะครับ จะได้เหมือนห้องขนาด 26 ตร.ม.

ตู้เสื้อผ้าที่ได้มาจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆอยู่นิดหน่อย

ช่องเก็บต่างๆในตู้เสื้อผ้า

ตรงหน้าต่างห้องนอนเล็กจะมีชั้นวางของมาให้นิดหน่อย

ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดเล็กมีลิ้นชักเก็บของมาให้ด้วย

ห้องน้ำมีขนาดเท่าๆกับห้องอื่นๆ ไม่ได้ใหญ่ขึ้นนะครับ ขนาดคร่าวๆคือ 1.7 x 1.3

ไฟส่องสว่างมีมาให้ 2 ดวงแบบ Downlight พร้อมพัดลมดูดอากาศ

โซนอาบน้ำกลับไปเหมือนห้องขนาด 22.5 คือไม่มีฉากกั้นมาให้

พื้นที่ระเบียงตรงนี้เอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ 2 เครื่องของห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่ และมีพื้นที่เหลือให้ตากผ้าได้อีกเพราะไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าตรงนี้

มุมมองจากห้องนอนใหญ่ เดี๋ยวเราไปดูส่วนครัวกันต่อนะครับ ใครที่ซื้อชุดตกแต่งจะได้ฉากกั้นหลังโซฟาด้วยนะครับ

ขนาดเคาน์เตอร์ครัวจะเท่ากับห้อง 22.5 ถ้าอยู่กันเยอะๆนี่ไม่พอใช้แน่ๆ พื้นที่แบบนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กนะครับ(2-3คน)

เครื่องซักผ้าจะติดตั้งมาอยู่ที่ระเบียงนี้ครับ

ข้อดีของห้องนี้คือมีห้องน้ำให้ 2 ห้องพร้อมกับโซนอาบน้ำ เวลามีแขกไปใครมาก็เข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องรับแขก

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 July 2014

  • 1Br อาคาร A ชั้น 2 ห้อง 15 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.1 ล้านบาท หรือ 48,900 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร A ชั้น 2 ห้อง 2-6 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.25 ล้านบาท หรือ 48,100 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร A ชั้น 16 ห้อง 13-17 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.21 ล้านบาท หรือ 53,800 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร A ชั้น 20 ห้อง 25-30 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.39 ล้านบาท หรือ 53,500 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร B ชั้น 2 ห้อง 14-16 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.1 ล้านบาท หรือ 48,900 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร B ชั้น 2 ห้อง 7-10 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.3 ล้านบาท หรือ 50,000 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร B ชั้น 4 ห้อง 13-19 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.17 ล้านบาท หรือ 52,000 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร B ชั้น 12A ห้อง 13-19 เนื้อที่ 22.5 ตร.ม. ราคา 1.2 ล้านบาท หรือ 53,300 บาท/ตร.ม.
  • 1Br อาคาร B ชั้น 20 ห้อง 1-3 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.39 ล้านบาท หรือ 53,500 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Shuttle Bus ไปกลับ The Mall บางแค (สถานีหลักสอง)
  • จอง 6,000 บาท
  • ทำสัญญา xxx บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
  • งวดที่ 1-17 งวดละ 6,000 บาท
  • งวดที่ 18 : 20,000/40,000 บาท
  • ค่ากองทุน 300 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 25 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการคอนโด ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เป็น 1 ใน 3 โครงการใหญ่ของ LPN ที่เปิดตัวในปีนี้มีมูลค่า 3,350 ล้านบาท ตัวโครงการจะติด ถนนเพชรเกษม เลยและอยู่ตรงหัวมุมซอย เพชรเกษม 98 ทำเลตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นทำเลชานเมือง และเป็นทำเลย่านชุมชนอยู่อาศัยกันเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแนวราบมีหมู่บ้านเก่าแก่หลายแหล่ง โดยบริเวณริมถนนเส้นนี้จะมีอาคารพาณิชย์อยู่ทั้ง 2 ฝั่งตลอดแนว บางโซนที่มีที่จอดรถก็ยังพอทำมาค้าขายได้คึกคักหน่อยส่วนตรงไหนที่ไม่มีที่จอดก็มีรอดบ้างไม่รอดบ้าง วิวรอบๆก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากยกเว้นฝั่งที่ติดกับโรงแรมแซนต้าฝั่งนั้นจะมีการบังวิวอาคาร A ทิศตะวันออกและอาคาร B บางส่วน

ทำเลดีจะมีข้อดีตรงที่อยู่ใกล้ศูนย์การค้าอย่าง Big C ที่เดินไปได้เลย แถมภายพื้นที่ตรงนี้ยังมีห้างร้านหลายๆอย่างมารวมกันอยู่ ทั้ง Index Living Mall, Office Depot, และ Major Cineplex ตัวโรงหนังเองก็มีร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำตั้งอยู่ภายในด้วย ยังไม่หมดแค่นี้นะครับด้านหลังของโครงการยังมีอาคารพาณิชย์ให้เช่าเป็น โรงเรียน, ร้านค้า, และธนาคารต่างๆอยู่อีกมากมาย ส่วนด้านหน้าบริเวณที่จอดรถตอนเย็นๆจะมีตลาดนัดให้เดินเล่นอีกด้วย เอาเป็นว่าความอุดมสมบรูณ์มีให้ครบเลย นอกจากนี้พื้นที่รอบๆโครงการจะมีความคึกคักพอสมควรเพราะอยู่ใกล้กับ เทคโนโลยีกรุงธน, สน.หลักสอง, โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า, และสนง.สรรพากรที่อยู่ตึกแซนต้าข้างๆ ทำให้มีคนเข้าออกพื้นที่นี้เกือบตลอดเวลา

การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกอยู่แล้วเพราะติดถนนใหญ่เพชรเกษม ไม่ต้องเลี้ยวเข้าซอยให้วุ่นวาย ส่วนการเดินทางเข้าเมืองก็พอมีตัวเลือกอยู่บ้าง เพราะนอกจากวิ่งเส้นเพชรเกษมไปวงเวียนใหญ่เพื่อไปกรุงเทพชั้นในแล้ว ยังสามารถวิ่งเข้าเส้นกาญจนาภิเษกเพื่อไปกรงเทพตอนเหนือได้ แต่ถ้าจะขึ้นทางด่วนก็มีให้เลือก 2 ทางคือวิ่งไปเข้าเส้นพระราม 2 ขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร หรือไปทางด่วนสุขสวัสดิ์-บางพลี เพื่อไปโซนบางนา การเดินทางเข้าโครงการจะมีจุดกลับรถหน้าโครงการพอดี ถ้าจะเข้าโครงการตรงแยกเลยยังพอทำได้ เพราะส่วนใหญ่จะมีรถเลี้ยวขวาเข้า สน.หลักสอง กับ เทคโนโลยีกรุงธน อยู่แล้ว แต่…ต้องรอจังหวะรถหน่อยนะ (เล่นตัด 3 เลนเลยนิ ) แต่ถ้าคนไหนไม่ถนัดจริงๆก็ไปกลับรถที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านเศรษฐกิจก็ได้ครับมีไฟจราจรให้เลยสะดวกดี

การเดินทางโดยไม่ใช้รถจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบต่อรถหลายๆต่อ เพราะใกล้ๆโครงการมีป้ายรถเมล์และสะพานลอย อยู่หน้าโครงการเลย รถสาธารณะก็มีให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ รถเมล์, รถสองแถว และรถกระป๊อ ถ้าจะไประยะใกล้ๆอย่าง Seacon บางแค หรือ ตลาดบางแค ก็นั่งรถสองแถวหรือกระป๊อเอาก็ได้ครับ รถพวกนี้จะไม่วิ่งไกลแต่วิ่งวนเอา จะได้ไม่ต้องรอรถเมล์ ในอนาคต(ประมาณปี2562)จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค ให้ใช้ ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีหลักสองอยู่ตรง The Mall บางแคพอดี แต่ในอนาคตแสนไกลลลลล…จะมีการต่อขยายไปถึงถนนพุทธมณฑลสาย 4 เลย

วัสดุของห้องจะเป็นตามแบบฉบับของ LPN คือขายห้องแบบ Fully Fitted ได้พื้นไม้ลามิเนตระบบคลิปล็อค(ไม่ใช้กาว) และมีฉากกั้นกระจกห้องนอนให้ ได้ Top เคาน์เตอร์ครัวปาติเกิ้ลปะเมลานีนสำหรับใช้ในห้องครัว ส่วนชุดบนจะได้เป็นแค่ชั้นวางของไม่ได้เป็นตู้มีบานปิด ในห้องนอนได้ตู้เสื้อผ้า Built-in ถ้าใครอยากได้เฟอร์นิเจอร์เข้าชุดแบบห้องตัวอย่างทางโครงการก็มีขายให้ครบชุด ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องครับ อ่างล้างหน้ายังคงเป็นไฟเบอร์ตามปรกติ

การออกแบบของโครงการจะเป็นไปตามสไตล์ของ LPN ดูจากภายนอกก็รู้ว่าเป็นของ LPN การวางอาคารจะเรียงกันตามแนวชิ้นที่ดินที่เป็นแบบ หน้าแคบแต่ลึก ด้านหน้าจะติดกับตัวถนนและด้านหลังติดกับคลองบางจาก สิ่งที่น่ากังวลหน่อยก็คือความหนาแน่นที่ค่อนข้างสูงอัตราส่วนลิฟท์เกือบแตะ 300 ทำให้ช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องรอลิฟท์หน่อย สำหรับตัวห้องก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่จากโครงการฝาแฝดอย่าง ลุมพินี พาร์ค นวมินทร์ ศรีบูรพา ยังคงใช้ผังห้องแบบเดียวกัน เน้นแบบ 1 ห้องนอนที่มีขนาด 22.5 – 33 ตร.ม. เป็นหลัก และสามารถรวมห้องเพื่อทำเป็น 2 ห้องนอนได้

สำหรับสาธารณูปโภค เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการที่ค่อนข้างใหญ่เค้าเลยทำ Club House แยกออกมาต่างหาก ตั้งอยู่ระหว่างอาคาร B กับ C ดังนั้นคนที่อยู่อาคาร A กับ D ก็จะเดินไกลหน่อย จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้คือบริเวณหน้าโครงการทาง LPN เฉือนที่ดินส่วนนึงไปทำเป็น ศูนย์การค้า โดยจะมีประตูทะลุจากโครงการให้ลูกบ้านเดินไปใช้งานใกล้ๆได้ โดยที่ไม่ต้องเดินอ้อมไปถนนใหญ่ คาดว่าการเข้าออกคงใช้ระบบ Key Card สำหรับการรักษาความปลอดภัย แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะสร้างศูนย์การค้าเมื่อไหร่นะครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 51,300 บาทต่อตารางเมตร, 25 July 2014

  • ทำเล 8.0/10 – ติดถนนใหญ่ มีป้ายรถเมล์และสะพานลอยอยู่ใกล้ๆ สามารถเดินไป Big C ได้
  • เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – เดินทางสะดวก สามารถเลี้ยวเข้าโครงการจากจุดกลับรถหน้าโครงการได้
  • ไม่ใช้รถ 8.0/10 – มีรถสาธารณะผ่านหลายสาย ไม่ต้องต่อรถหลายต่อเพื่อเข้าโครงการ
  • วัสดุ 7.0/10 – ให้มาตามมาตรฐานยุคใหม่ของ LPN (ชุดครัวไม่มี ตู้ชุดบนมาให้)
  • แบบ 7.75/10 – แบบ 1 ห้องนอนเป็นแบบเดียวกันหมด ใส่ได้เกือบครบทุกฟังก์ชั่นแต่ได้พื้นที่เล็ก
  • สาธารณูปโภค 7.0/10 – ให้มาเยอะทั้งสระว่ายน้ำ, ห้อง Fitness, ห้องสมุด และ ห้องกิจกรรมเด็กเล็ก แต่ความหนาแน่นเยอะไปหน่อย

  • MAIN CLASS
  • 7.44 / 10.00

BOTTOM LINE

มีกำลังผ่อนประมาณ 8,000

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧