
รีวิวเจาะลึกชุดที่ 6 … THE KEY แจ้งวัฒนะ ของลูกพี่ยักษ์ใหญ่อย่าง Land & Houses เป็นคอนโดที่เปิดตัวมาสักระยะหนึ่งแล้วครับ ผมเห็นการก่อสร้างคืบหน้าไปพอสมควร ตอนนี้ก่อสร้างถึงชั้น 12 แล้ว และยอดขายก็ไปได้ประมาณ 60-70% วันนี้พอดีขับรถผ่านไปแถวนั้น เลยได้โอกาส หยุดแวะดูอีกสักครั้งว่าหลังจากเปิดตัวเมื่อตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา ในราคา 1.75 ล้านบาท ตอนนี้ราคาเขยิบไปไหนแล้ว และสถานการณ์ของคอนโด THE KEY เป็นอย่างไร
Fact @ 29 Aug 2011
- THE KEY แจ้งวัฒนะ
- Land & Houses Plc.
- คอนโด 30 – 62.5 ตารางเมตร
- 1 Bed / 2 Beds (Combined Unit)
- ราคา 1.89 – 3.89 ล้าน (จนถึง 1 ก.ย. 54)
- ราคาต่อตารางเมตร 61,000 – 70,000 บาท
- www.lh.co.th/thekey
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
ถ. แจ้งวัฒนะ เป็นถนนที่เชื่อมกรุงเทพมหานครตอนบนเข้ากับจังหวัดนนทบุรี ตัดจากตะวันออกไปยังตะวันตก โดยจะเชื่อมระหว่างหลักสี่ไปจนถึงสะพานพระราม 4 ผ่านสถานที่สำคัญๆ ที่เป็นศูนย์การใช้ชีวิตของคนกรุงเทพถึง 2 จุด นั่นก็คือ ศูนย์ราชการและเมืองทองธานี ถนน 8 เลนเส้นนี้เป็นอีกเส้นหนึ่งที่เป็นเสมือนหัวใจสำคัญของกรุงเทพฯและนนทบุรี ที่จะพาคนจากอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีชมพู ปากเกร็ด-หลักสี่-มีนบุรี-สุวินทวงศ์ เป็นโครงการศึกษาเพื่อก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งถูกกำหนดให้ใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ รถไฟฟ้าขนาดเบา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โมโนเรล (monorail) ระยะทางทั้งสิ้น 27 กิโลเมตร และในภายหลังได้มีการศึกษาเพื่อต่อขยายต้นทางจากปากเกร็ดมายังแคราย เพื่อเชื่อมกับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง ที่กำลังก่อสร้าง ใช้เส้นทางศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย อ่านเพิ่มเติมได้ตามนี้)
ซึ่งรถไฟฟ้าโครงการนี้จะผ่ากลางถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านหน้าคอนโด THE KEY และสถานที่ขึ้นลงที่ใกล้ที่สุดก็คือ PK8 สถานีเมืองทองธานีครับ
ถัดจาก THE KEY แจ้งวัฒนะของ Land & Houses ไปอีกนิดนึงก็จะเป็นเซนทรัลแจ้งวัฒนะ ศูนย์รวมการใช้ชีวิตอีกที่หนึ่งของคนแถบนี้
เจาะลึกตัวสินค้า
THE KEY เป็นแบรนด์ใหม่ของ Land & Houses ที่มีอายุยังไม่ครบปีดี พึ่งจะเปิดตัว 3 ทำเลแรกคือ พหลโยธิน แจ้งวัฒนะและประชาชื่น ในช่วงตุลาคม 2553 เป็นแบรนด์ระดับล่างที่รองลงมาจากคอนโดมิเนียมใจกลางกรุงเทพมหานครอย่าง The Room คอนเซปท์จะคล้ายๆกับเป็นกุญแจ ไขเข้าไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ อะไรประมาณนี้
THE KEY แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนที่ดิน 6-0-59 ไร่ (6 ไร่ 59 ตารางวา) สูง 21 ชั้น เป็นอาคารใหญ่แบ่งเป็น 2 Wings คล้ายกับมี 2 อาคารอยู่ด้านหน้าและด้านหลัง เชื่อมกันตรงกลางด้วยสวนสาธารณะและสระว่ายน้ำ ชั้น G, 1, 2 เป็นที่จอดรถ ชั้น 3 เป็นต้นไปจนถึงชั้น 21 เป็นพื้นที่อยู่อาศัย มีทั้งหมด 988 ห้อง
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby พร้อมชุดรับแขก สำหรับอาคาร A และอาคาร B
- สวนสาธารณะ 3,000 กว่าตารางเมตร
- สระว่ายน้ำ 2 สระ เป็นระบบเกลือ เป็นสระสำหรับพักผ่อน และสระสำหรับออกกำลังกาย
- ห้องออกกำลังกาย
- ห้องโยคะ
- ห้องอเนกประสงค์
- ที่จอดรถ 45% ของจำนวนยูนิต รวมการจอดซ้อนคัน ไม่ Fix ที่จอดรถ 1 ห้องสามารถจอดรถได้ 1 คัน
- พื้นที่ร้านค้า อาทิ มินิมาร์ท ร้านอาหาร ร้านซักรีด
จำนวนห้องของ THE KEY ถือว่าเยอะนะครับ เกือบ 1,000 ห้อง ถ้าเข้าอยู่ 80-90% จริงๆ อาจจะแออัดพอสมควรสำหรับทางเข้าออกและความคับคั่งของผิวจราจร เนื่องจากทางเข้าออกของอาคาร THE KEY เป็นจุดคอคอดของถนนแจ้งวัฒนะที่หดเหลือ 2 เลน เพราะอีก 2 เลนเอาไปทำสะพานข้ามแยกเรียบร้อยแล้ว แต่ข้อดีก็คือ สามารถกลับรถได้เลยหลังจากที่ออกจากบ้าน ไม่ต้องไปกลับรถไกล ก็เลยเจ๊าๆกันไปครับ
ทางเข้าสำนักงานขายหาไม่ยาก แต่จะกระชั้นนิดนึง พอชิดซ้ายใกล้คอสะพาน ต้องสังเกตท่อผ้า Skytube สีน้ำเงินๆ หรือว่าจะสังเกตุป้าย THE KEY ก็ได้ครับ
ออฟฟิศโปร่งสูง และเรียบร้อยสไตล์ Modern ให้ความรู้สึกแกรนด์เกินราคา 1 ล้านปลายๆ สมกับเป็น Land & Houses ผมยังไม่ได้เดินเข้าประตูเลย พนักงานขายก็สวัสดีต้อนรับแล้วครับ บริการดีเยี่ยม (คุณติ๋ว โทร. สำนักงานขาย02-5750404)
พอเข้าไปนั่ง น้องเค้าก็ถามว่าต้องการรับชมโครงการประชาชื่นหรือแจ้งวัฒนะ ผมก็ตอบว่าต้องการชมทั้งสองโครงการ (ซึ่งโครงการประชาชื่น จะเอามารีวิวให้ฟังกันต่อไป) เลยได้โบร์ชัวร์มา 2 ชุด น้ำดื่มขวดนึงที่เป็นมาตรฐานของทาง Land & Houses เมื่อครู่มีลูกค้ามาก่อนผม 2 ราย เลยต้องนั่งรอสักระยะ
เก้าอี้ของ THE KEY ก็นั่งสบายๆ แต่อาจตัวเล็กไปนิดนึง ผมนั่งรอสักพัก พอลูกค้ารายเดิมออกมาก็สามารถเข้าไปเยี่ยมห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องได้ครับ
ทิศเหนือจะหันไปทางขวาบนของผังนะครับ สำนักงานขายอยู่ขวาสุดซึ่งจะติดกับถนนแจ้งวัฒนะพอดี หลังจากตึกสร้างเสร็จ สำนักงานขายก็จะถูกรื้อออกกลายเป็นถนนรอบตัวตึกที่จะเชื่อมออกไปยังถนนแจ้งวัฒนะ
ตึกออกแบบมาเป็นทรงตัว L ทั้งสองด้าน ทิศของตึกฝั่งขวา (Building A) จะหันเกือบๆเหนือใต้ทั้งหมด ถือว่าเป็นทิศที่ดีและขายไปเยอะแล้ว ส่วนทิศของตึกฝั่งซ้าย (Building B) ที่เหลือจะโดนตะวันออก ตะวันตกเกือบเต็มๆ ซึ่งจะเหลือเยอะ หากมองอย่างนี้แล้วก็จะรู้ว่าตึก A ดีกว่าตึก B มาก ตรงที่มีตัวตึก B บังแดดจากพระอาทิตย์ทางตะวันตกให้ พอมีร่มเงาเลยไม่ร้อน
ห้อง 1-8 ของตึก A จะ Recommend เป็นพิเศษเพราะอยู่ทางใต้ มองเห็นวิวสระน้ำและสวน ในขณะที่ห้อง 9-18 ของตึก A อยู่ทิศเหนือ ไม่ร้อนในตอนบ่ายแต่ไม่ได้วิวสระน้ำเหมือนกับห้อง 1-8
แต่ละ Building มีลิฟท์พักอาศัยแค่ 3 ตัว ตรงนี้ผมถือว่าเป็นจุดเสีย สำหรับอาคารที่อยู่อาศัยกัน 400-500 ห้อง น่าจะมีลิฟท์สัก 4 ตัว ถึงจะเพียงพอในช่วงเวลาเร่งด่วนครับ
- ห้อง Type A พื้นที่ 31 ตารางเมตร มี 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ
- ห้อง Type 2A พื้นที่ 62 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องรับประทานอาหารและครัว 2 ห้องน้ำ
ห้องแบบ 2 ห้องนอนจะถูกประกอบกันขึ้นมาจากห้องนอนเดี่ยว โดยเอาห้องนั่งเล่นมาเชื่อมกันครับ
Product Walkthrough
มาถึงตัวสินค้ากันแล้ว สำหรับ THE KEY แจ้งวัฒนะนี้ผมจะพาไปชมห้อง 2 Bed Rooms ที่เกิดจากการรวม Type A + A เข้าด้วยกัน เอาห้อง Living Room มาต่อกัน ปรับฟังก์ชั่นเป็น 1 ห้องรับประทานอาหาร + ครัว และ 1 ห้อง Living Room เต็มๆ แต่ไม่สามารถเลือกห้องได้แล้วนะครับ เพราะตัวตึกขึ้นไปไกลแล้ว โครงสร้างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกครับ
ส่วน 1 Bed Room รอผมรีวิวเจาะลึกโครงการ THE KEY ประชาชื่นต่อไปนะครับ รอบนี้ขอเป็น 2 Bed Rooms ก่อนดีกว่า
ห้องรับแขกโอ่อ่าสมกับเป็น 2 Bed Units ที่มีโซฟา พื้นที่เดินและระเบียงด้านหลัง ทำให้ใช้งานได้ดีขึ้น โปร่งขึ้น
ห้องทานข้าวนี้จัดแต่งได้ค่อนข้างลงตัว แต่โคมไฟนั้นห้อยลงมายาวไปหน่อยนึง อาจเป็นเพราะระยะพื้นถึงเพดานที่ไม่สูงนัก ส่วนข้อเสียที่เห็นได้ชัดก็คือระเบียงข้างหลังโต๊ะทานอาหารและระเบียงด้านหลังห้องนั่งเล่นนั้นไม่เชื่อมต่อกัน เนื่องจากเป็นสองยูนิตที่แยกขาดออกจากกัน จึงติดปัญหาโครงสร้างไม่สามารถเชื่อมระเบียงเข้าหากันได้
ครัวเป็นส่วนเพิ่มเติมส่วนเดียวที่รวมอยู่ในราคาซื้อขาย เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ชิ้นอื่นนั้นไม่มีให้ ตรงครัวมีซิงก์น้ำแบบรูเดียวและตู้ชั้นวางอะไรนิดหน่อย รวมถึงตู้เก็บจานที่ออกแบบมาให้เข้ากันอย่างลงตัว
ห้องน้ำทั้ง 2 ห้องอยู่ในห้องนอน 2 ห้อง แต่ละห้องมีสุขภัณฑ์ครบเครื่อง รวมไปถึงบานกระจกอาบน้ำ สามารถอาบได้ทั้งสองห้อง
ห้องนอน 1 และ 2 มีขนาดเท่ากัน เพราะเป็น Unit Type A ที่จับมาเชื่อมกัน สามารถวางเตียง 3.5 และ 5 ฟุตได้ ในภาพนี้วางเตียง 3.5 ฟุตสำหรับนอนเดี่ยว
กลับมาย้อนดูโต๊ะอาหารแบบชัดๆกันอีกมุมหนึ่ง บนโต๊ะวางกรอบรูปสี่เหลี่ยมและแก้วเอียงๆ ที่โดดเด่น ดูแล้วแปลกตา
ส่วนของห้องนอนที่ 2 นั้นวางเตียงคู่ 5 ฟุต ตรงส่วนด้านหลังริมเตียงที่ยื่นออกมานั้นไม่ใช่ผนังแต่เป็นเสา เอาออกไม่ได้นะครับ
อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard
สุขภัณฑ์ก็เช่นกันครับเป็นของ American Standard รุ่นทั้งสองนี้ ทั้งอ่างล้างหน้าและตัวชักโครกก็เป็นรุ่นที่เรียบๆง่ายๆไม่มีอะไรพิเศษ แต่ด้วยชื่อของ American Standard ก็จัดว่าเป็นของที่มีมาตรฐานครับ
ฉากกั้นห้องอาบน้ำเป็นของคริสติน่า ก็ค่อนข้าง OK ครับกับยี่ห้อนี้ แบบก็เรียบๆเป็นบานเลื่อนที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องใช้แรงในการเปิดและไม่เกะกะพื้นที่
พื้นเป็นพื้นลามิเนตสีเหมือนห้องตัวอย่าง กล้องไอโฟนของผมอาจถ่ายมาสีเพี้ยนไปเล็กน้อย ของจริงดูห้องตัวอย่างจะชัวร์กว่าครับ
รายละเอียดอื่นๆ
มิเตอร์ไฟฟ้า 15A, ค่าส่วนกลาง 30 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน, เงินกองทุนส่วนกลาง 400 บาทต่อตารางเมตร, ทำสัญญา 100,000 บาท (ห้อง A+A) Down 350,000 ครับ
Price & Performance
ความคุ้มค่าของราคาต่อผลิตภัณฑ์
ราคา ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2554 – ห้องเปล่า + ครัว
Type A (1 Bed) ชั้น 7 ห้อง B15
31 ตร.ม. = 1,890,000 บาท หรือ 60,967 บาท ต่อ ตารางเมตร
Type A+A (2 Beds) ชั้น 12 ห้อง B14-15
62.0 ตร.ม. = 3,860,000 บาท หรือ 62,258 บาท ต่อ ตารางเมตร
เจาะลึกรวบยอด
จากราคาก็ถือว่าดุพอสมควรครับ สำหรับคอนโดติดถนนใหญ่ที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าผ่านในระยะเวลาอันใกล้ กว่าโมโนเรลสีชมพูจะสร้างเสร็จก็ประมาณปี 2559-2560 อีกอย่างน้อย 8-9 ปี ไม่รู้จะยืดออกไปเป็น 10 ปีหรือเปล่า เพราะการเมืองอะไรต่างๆของไทยก็ไม่ค่อยจะแน่นอนเสียด้วย ดังนั้นเราคงจะคิดตัดปัจจัยรถไฟฟ้าไปก่อนเลยล่ะครับ
ราคา 1.89 ล้านบาทที่เป็นราคาเริ่มต้นนั้นขึ้นมาเยอะพอสมควรจาก 1.75 ล้านบาทที่เป็นราคาเปิดตัว (ประมาณ 8%) แต่ลูกค้าเก่าบางคนอาจซื้อบางยูนิตได้ต่ำถึงเกือบๆ 1.7 ล้าน ทำให้เห็นราคาที่ขึ้นมาแล้วก็ค่อนข้างคุ้มค่าเอาการอยู่สำหรับลูกค้าประเภทนักลงทุน
สำหรับคู่แข่งที่สามารถเปรียบเทียบได้ในทำเลเดียวกัน ราคาจะอยู่ประมาณ 50,000 บาทต่อตารางเมตร แต่อาจจะอยู่ในซอยหรือไม่ได้ใกล้สถานีรถโมโนเรลในอนาคตแบบ THE KEY ชื่อชั้นก็ห่างกันมาก เพราะไม่มีแบรนด์ใหญ่ๆมาแข่งกับ L&H เลย ดังนั้นเราต้องนำเรื่องความน่าเชื่อถือเข้ามาคิดด้วย
หากวัดกันเรื่องคุณภาพและการบริการ ชื่อชั้นของ L&H ก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นแบรนด์คุณภาพที่เชื่อถือได้ อยู่กับตลาดไทยมานาน การการันตีคุณภาพก็สูงในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพการก่อสร้าง หรือการเก็บงานก่อนที่จะโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด
ตัวตึกปัจจุบันสร้างถึงชั้นที่ 12 ประมาณกลางปี 2555 หรืออีกประมาณ 10 เดือนกว่าจะเสร็จเรียบร้อย ทำให้ต้องผ่อนดาวน์อีก 10 งวด ซึ่งตกเฉลี่ยงวดละ 17,500 บาทต่อห้อง ก็หนักเอาการสำหรับคนที่จะกู้ 20 ปี
ถามว่ามีตัวเลือกไหมสำหรับแจ้งวัฒนะ? ก็ยังพอมีโครงการแนวราบต่างๆ เช่น THE PLANT แจ้งวัฒนะ ที่ผมเคยรีวิวไปแล้ว, ภัทร MO TOWN ที่อยู่ตรงข้ามเซนทรัลแจ้งวัฒนะ หรือ Luxe ทาวน์โฮมโลคัลแบรนด์แถวซอย 14 สินค้าพวกนี้ถือว่าเป็นสินค้าทางเลือกที่น่าสนใจ แต่เรื่องของ Price Point ที่อยู่ประมาณ 4-6 ล้าน ทำให้กำลังซื้อและกลุ่มลูกค้าหลุดจากตลาดคอนโดมิเนียม ถ้าใครมีงบประมาณเกิน 4 ล้าน ผมก็เชียร์ให้เลือกตัวเลือกในแนวราบดีกว่าครับ
ในทางกลับกัน คอนโดมิเนียม THE KEY เป็นตัวเลือกที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในย่านแจ้งวัฒนะตอนนี้ครับ
Judgement
- ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ ไม่ไกลจากโมโนเรล ใกล้ที่กลับรถ แต่โมโนเรลกว่าจะสร้างเสร็จใช้เวลาอีก 8-10 ปี
- คุณภาพวัสดุ 7/10 – มาตรฐาน ในระดับราคาตารางเมตรละ 50,000 – 60,000 บาท ติดตรงที่ไม่มีแอร์และเฟอร์นิเจอร์เลย ยกเว้นครัว
- แบบห้อง 8/10 – ฟังก์ชั่นใช้สอยสมบูรณ์แบบ ติดตรงที่ไม่สามารถเชื่อมระเบียงสองห้องรวมกันได้ในห้องที่เป็น 2 Beds
- สาธารณูปโภค 10/10 – สระว่ายน้ำแยกเด็กผู้ใหญ่ แบ่งเป็นโซนพักผ่อนและสระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกาย ที่จอดรถ 50% ของจำนวนยูนิต ฟิตเนส ห้องโยคะ ล็อบบี้ สวนสาธารณะใหญ่ที่ชั้น 3
- ชื่อเสียง 10/10 – Land & Houses, THE KEY
- ความคุ้มราคา 7/10 – ราคาสมเหตุสมผล ออกจะแพงไปหน่อยแต่ชื่อชั้นบริษัททำให้เชื่อถือได้
- Final Score : 8.25/10
- Grade B+ (8.25 – 8.49)
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ