Update 22 Nov 2018
เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน โครงการนี้สร้างเสร็จเรียร้อยแล้ว ทางทีมงานอยากให้คุณผู้อ่านได้เห็นภาพของจริง จึงขออัพเดทด้วยภาพประกอบจากทางโครงการตามด้านล่างนี้ ส่วนรีวิวของเดิมที่ทำไว้เมื่อปี 2011 จะอยู่ต่อจากภาพชุดนี้ครับ
ตอนนี้ทั้ง 3 ตึกเสร็จหมดแล้ว หน้าตาของตัวอาคารยังคง Minimal ตามแนวถนัดของ Noble เค้านะครับ
ด้านหน้าโครงการเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของ Noble
พื้นที่ด้านในโครงการมีการออกแบบ Landscape ให้สอดคล้องตัวอาคารดูสวยแบบเรียบง่าย
พื้นที่ภายใน Lobby เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีเรียบง่ายขาว เทา ดำ
พื้นที่บริเวณสระว่ายน้ำภายในโครงการ
บรรยากาศภายพื้นที่ส่วนที่เป็น Semi-Outdoor ยังคงตกแต่งเน้นโทนสีเข้ม เพื่อให้บรรยากาศต่อเนื่องกับโถง Lobby
พื้นที่ภายในห้องออกกำลังกาย
พื้นที่ห้องประชุมขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะประชุมขนาด 28 ที่นั่ง
บรรยากาศในตอนกลางคืนก็สวยไม่แพ้กลางวันเลยครับ มีการจัดแสงในส่วนต่างๆ
พื้นที่นั่งชมวิวใจกลางเมือง Rooftop บนชั้น 41 ของอาคาร C
ต่อมาเป็นส่วนของห้องพักภายในโครงการแบบ 1 Bedroom นะครับ พื้นที่นี้เป็นส่วนห้องนั่งเล่น
ส่วนห้องรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับส่วนเคาน์เตอร์ครัว
บรรยากาศภายในห้องนอนจะได้แสงธรรมชาติเยอะ เพราะได้กระจกสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน
บรรยากาศภายในห้องน้ำ
ส่วนทางเข้าของห้องจะอยู่ติดกับ Private Lift ประตูลิฟต์เปิดมาก็เข้าห้องของเราเลยครับ
ภาพบรรยากาศในส่วนของห้องรับประทานอาหารแบบ 2 Bedroom
ภาพบรรยากาศในส่วนของห้องนั่งเล่น ที่ดูวิวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
บรรยากาศในส่วนของห้องนอนได้หน้าต่างบานใหญ่เช่นกัน
ส่วนรีวิวเมื่อสมัยเปิดขายใหม่ๆ สามารถอ่านรีวิววิเคราะห์โครงการวันที่ 18 Sep 2011 ได้ตามเนื้อหาด้านล่างนี้เลยครับ
รีวิวเจาะลึกชุดที่ 20 … เรากำลังจะเข้าไปสัมผัสคอนโดที่ Hot ที่สุดแห่งปี บนที่ดินที่แพงระยับ แทบจะเป็นการเดิมพันทางการเงินของบริษัทๆหนึ่ง ว่าครั้งนี้โปรเจคนี้บริษัทจะอยู่หรือจะไป ที่ดินบนถนนเพลินจิต ถนนสั้นๆที่ยาวเพียงไม่กี่กิโลเมตร แต่เป็นจุดที่เชื่อมความเจริญสูงสุดของกรุงเทพมหานคร จากถนนสุขุมวิท ผ่านชิดลม แยกราชประสงค์ไปยังถนนพระราม 1 ผ่านศูนย์การค้าที่ขึ้นชื่อที่สุดของประเทศทั้ง 4 แห่ง อันได้แก่ สยามสแควร์, Siam Paragon, Cenral World และ Central Chidlom แน่นอนว่าโครงการนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจาก … NOBLE เพลินจิต
Fact @ 18 Sep 2011
- Noble เพลินจิต
- Noble Plc.
- คอนโด 45 – 244 ตารางเมตร
- 1 Bed / 2 Beds
- ราคา 7 – 50 ล้าน
- ราคาต่อตารางเมตร 160,000 – 200,000 บาท
- www.noblehome.com
โนเบิลเพลินจิตต้ังอยู่บนถนนเพลินจิตอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ตึกเขียวๆ 3 ตึกที่สูงที่สุดในภาพด้านบนนั่นแหละครับคือโนเบิลเพลินจิต ทางซ้ายสุดคือ Central Chidlom ตึกถัดมาคือ Central Embassy ที่กำลังก่อสร้าง โดยรวมเอาโรงแรม Park Hyatt เข้ามาไว้ด้วยกัน และทางขวาก็คือ Park Venture ออฟฟิศสำนักงานสุดหรูเช่นกัน เรียกได้ว่าอยู่ใจกลางสังคมสุดหรูเลยทีเดียว … รูปข้างบนไม่ใช่ Scale จริงนะครับ ระวัง!
เรื่องทำเลคงไม่ต้องพูดกันมากมาย โนเบิลเพลินจิตตั้งอยู่บนแปลงที่ดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยราคาขายตารางวาละ 1.5 ล้านบาท ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำเลนั้นดีหรือไม่ “มันดีแน่นอนอยู่แล้ว สุดยอด Perfect” หาไม่แล้วคงไม่มีคนกล้าทุ่มเงิน 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาซื้อมาหรอกครับ
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ถ้าลองถามกลับกันว่า ที่ดินตรงนี้ แปลงนี้ ราคาเท่านี้ “แพงหรือไม่?” คำถามนี้น่าสนใจกว่ามากเลยครับ คิดได้หลายวิธี บางคนอาจมองว่าแปลงที่โนเบิลซื้อแพง บางคนอาจมองว่าถูก เป็นไปได้ทั้งนั้น
เพราะเหตุใดถึงแพง? ทำเลแถบนี้ ราคาซื้อที่ดินเฉลี่ยกันตามตลาดอยู่ประมาณ ตารางวาละ 7 แสน ถึง 1 ล้านบาท เทียบจากอะไร?
- จังหวะที่ NOBLE ซื้อที่ดินแปลงนี้มาทำโนเบิลเพลินจิต ไม่เคยมีคนซื้อราคานี้มาก่อน ไม่เคยมี
- ราคากลางของที่ดินบนถนนวิทยุ ตรงข้าม Park นายเลิศ จากบริษัท Harrison ที่เอาออกมาประมูลขายอยู่ประมาณตารางวาละ 9 แสนกว่าบาท ซึ่งเป็นทำเลที่เรียกว่าใกล้เคียงกัน อยู่ในโซนเดียวกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน (ปี 2011)
- ราคาที่ดินที่เซนทรัลชิดลมซื้อมาจากสถานทูตอังกฤษ แปลงติดกันกับ NOBLE เลย ตกตารางวาละประมาณ 9 แสนเกือบ 1 ล้านบาท
เพราะเหตุใดถึงถูก? แปลงนี้มีแปลงเดียวในประเทศไทย ต่อให้มีแปลงอื่นที่ “ใกล้เคียง” ก็ไม่มีทางดีเท่า “แปลงนี้”
- ที่ดินปั๊ม Caltex บนถนนเพลินจิต อยู่ใกล้ๆกันกับ NOBLE เพลินจิตแปลงนี้ มีราคาเสนอขายตารางวาละประมาณ 1.5 ล้านเช่นกัน เพราะอะไร? เพราะว่า NOBLE เคยซื้อที่ 1.5 ล้าน ทำให้ขึงราคาตลาดไปแล้ว แปลงใกล้เคียงกันถ้าไม่ขายราคาเดียวกัน ก็จะเสียราคา
- BTS เพลินจิต จ่อถึงหน้าตึก หรืออนาคตอาจมีทางเชื่อมเข้าตึก หายากครับ 10 เมตรถึงรถไฟฟ้าสถานี Prime เนี่ย
- หากคิดในมุมกลับ ไม่ได้ซื้อที่ดินตรงนี้มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม หากมีเงินเย็นรอได้ ไม่ได้ใช้ ไม่ได้เสียดอกเบี้ยเงินกู้ แต่รอเวลาไปอีก 10-20 ปี ราคาที่ดินคงจะไม่ใช่ตารางวาละ 1.5 ล้านแน่นอน … แต่แม้ว่าจะเสียดอกเบี้ยเงินกู้มาซื้อ บางทีก็อาจจะคุ้มนะครับ
ก่อนจะซื้อ แนะนำว่าไปยืนเล็งโมเดลพวกนี้ให้ดี มองให้รู้ว่าวิวของห้องที่จะซ้อนั้นเป็นอย่างไร ถูกอะไรบัง มองเห็นบ้างไหม และก็แนะนำให้ติดตามที่ดินข้างๆให้ดี ว่าจะมีตึกอะไรขึ้นมาอีกหรือไม่ ภายใต้ผังเมืองใหม่ปี 2555 หรือ 2556 อาจสร้างอาคารสูงกว่าปัจจุบันได้ และทำให้บดบังวิวที่ต้องการไปครับ
เจาะลึกตัวสินค้า
NOBLE PLOENCHIT เป็นสินค้าตัว TOP ที่สุดของ NOBLE ราคาขายเปิด 148,000 บาทต่อตารางเมตร ดันขึ้นไปถึง 2 แสนกว่าบาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันถ้าเดินเข้าไปก็จะเห็นราคาประมาณ 170,000 บาทต่อตารางเมตรเป็นปกติ เพราะว่าห้องถูกๆมีการจองไปหมดแล้ว ราคาปรับขึ้นไประลอกหนึ่งแล้ว และห้องมุมดีๆวิวดีๆ ก็จะแพงขึ้นไปเหยียบ 200,000 บาทเลยครับ
สำนักงานขายก็แต่งหรูหรา อย่างที่เห็น มีโมเดลอันใหญ่ๆวางไว้ตรงกลางห้องให้มายืนเล็งมุมเล็งวิวกัน
โครงการนี้มีที่ดินประมาณ 9 ไร่ ประมาณการสร้างเสร็จปี 2560 … อีก 6 ปีนับจากวันนี้ กับจำนวนยูนิตประมาณ 1,400 ยูนิต
ตึก A เป็นตึกเตี้ย 14 ชั้น ตั้งอยู่โซนหลังสุด โดนทุกอย่างในย่านนั้นบัง โดยเฉพาะตึก B ที่ปิดซะมิดเลย แต่ตึก A ก็มีราคาถูกที่สุดใน 3 ตึกเช่นกัน เป็นห้องล็อคๆแถวเดียว หันหน้าออกทางตึก B ทั้งหมด ก็คือทิศใต้
ตึก B เป็นตึกสูง 51 ชั้นที่ตั้งหันเหนือใต้ ห้องทางกราบขวาจะหันไปทางตึก A (ทิศเหนือ) ส่วนห้องทางกราบซ้ายจะหันไปทางรถไฟฟ้า (ทิศใต้) ทางทิศใต้จะโดน Park Ventures บังวิวเต็มๆ
ตึก C เป็นตึกสูง 45 ชั้น ค่อนข้าง Clear View แต่วางตัวทิศตะวันออก-ตะวันตก ฝั่งตะวันตกที่หันไปเซนทรัล Embassy นั้นร้อนพอตัว แต่ชั้นเตี้ยๆจะได้อานิสงส์ของเซนทรัลมาบังแดดให้ แต่ในขณะเดียวกันก็บังวิวไปด้วย ส่วนห้องทางทิศตะวันออกหันไปได้วิวสวย แต่ถ้าปั้ม Caltex ถูกรื้อกลายเป็นตึกอะไรสักตึก วิวคงจะถูกบังแน่นอน ในขณะที่ห้องด้านหน้าตึก C ทำเลทิศใต้ หันออกหารถไฟฟ้าตรงช่องที่พอจะเห็นวิวพอดี ก็แพงมากครับ
ตึก Office (สีขาวล่างสุด) เป็นตึกที่ไม่มีให้เห็นใน Website แต่มีใน Master Plan และเป็นโครงการเดียวกัน Share นิติเดียวกัน เอาค่าน้ำค่าไฟค่าบริหารจัดการโครงการมาหารร่วมกัน เอาที่จอดรถมาช่วยกันจอด นั่นก็คือ Office ของ Noble … ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร บริหารจัดการอย่างไร ปล่อยให้คนนอกเข้ามาขนาดไหน และมีมาตรการจำกัดพื้นที่ ที่จอดรถ พนักงานอย่างไร
ส่วนพื้นที่สีเขียวและ Facility มีไม่มากหากเทียบกับจำนวน 1,400 ยูนิตที่มี ในขณะที่จำนวนที่จอดรถนั้นมีเพียง 70% ของจำนวนยูนิตในอาคาร ไม่มีการ Fix ที่จอดรถ ต่างกับคอนโดหลักแสนกว่าบาทต่อตารางเมตรของเจ้าอื่น ที่ให้ที่จอดรถ 1:1 ยิ่งเป็นห้องที่มี 2 ห้องนอนแบบ Duplex ก็สามารถจอดได้ 2 คัน สำหรับคนที่มีเงิน 7 ล้านในการซื้อคอนโด รับรองว่ามีรถแน่นอน … แล้วก็ไม่ได้มีกันห้องละคันด้วยครับ …
ถ้ามองในแง่ดี % การอยู่อาศัย 60-70% เป็นปล่อยเช่าบ้างอะไรบ้างก็ยังพอไหว แต่ถ้ารวม Office Building ด้านหน้าสุดและยูนิตคอนโดที่ผ่านไปอีก 5 ปีหลังสร้างเสร็จ อาจจะมีผู้อยู่อาศัยจริง 80% เมื่อนั้นล่ะ ปัญหาที่แท้จริงจะตามมาอีกเพียบ
ข้อมูลจาก WEBSITE NOBLE: สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ |
• ลิฟท์โดยสาร Private Lift ให้บริการส่วนตัวถึงห้องชุด |
• สวนสวยขนาดใหญ่กว่า 4 ไร่ |
• สระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่ |
• ห้องออกกำลังกาย ห้องสตีมแยกชายหญิง |
• ห้องเอนกประสงค์ |
• ทางเดินเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าลงสู่โครงการ |
• ระบบ key card access control |
ประเด็นอื่นๆก็ไม่ร้อนเท่าประเด็น Private Lift … ที่แต่ละห้องสามารถใช้ลิฟท์ได้ 1 ตัวขึ้นตรงถึงห้องตัวเองโดยไม่ต้องไปแชร์กับห้องไหน เวลาขึ้นลงก็จะเปิดทีละด้าน ทีละห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว
ฟังจาก Attribute แล้วจะรู้สึกว่าดีมาก ยอมรับว่าดีจริงๆ ถ้าไม่มีคนใช้เยอะๆนะ เช่นเวลาเร่งด่วน จะออกจากบ้านตอนเช้า แต่ตื่นสาย อยู่ชั้น 38 รีบไปทำงาน ลองคิดสภาพ Lift 2 ตัว กับตึก 45-51 ชั้น ตัวนึงรับ Load 90-100 ห้อง ถ้ากดพร้อมๆกัน แต่ลงได้ทีละห้อง เพราะลิฟท์เปิดแค่ชั้นเดียว ลงไปส่งชั้น G แล้วค่อยขึ้นมารับชั้นต่อไป แบบนี้ก็คงไม่ต้องรอเลยครับ … แต่ก็ยังดีทาง NOBLE ก็เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ ก็คือเดินออกไปใช้ Public Elevator ตามปกติ แต่มีให้ใช้แค่ 2 ตัว เรื่องนี้อาจฟังดู practical บ้างไม่ practical บ้าง แต่ที่ต่างประเทศก็มีทำกันอย่างนี้ครับ ข้อดีข้อเสีย Trade off กันพอได้ครับ
Product Walkthrough
ห้องที่ผมจะพาไปชมเป็นห้อง 1 Bed ขนาดใหญ่ คือ 56.23 ตารางเมตร ขนาดปกติที่ขายๆกันอยู่คือ 45 ตารางเมตร จะสังเกตว่าห้องทุกห้องเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอลิฟท์ก่อน (สีเทาๆขวาล่าง) แล้วก็เห็นเป็นโต๊ะอาหาร ครัว ห้องรับแขก แล้วค่อยเปิดประตูเข้าไปส่วนที่เป็นห้องนอนและห้องน้ำ
ห้องรับแขกดูแคบๆไปนะ เห็นจาก space แล้วจะรู้สึกเลยว่ามีพื้นที่ไม่มากในการเดินผ่านหน้าทีวีไปที่ระเบียง โต๊ะอาหารก็เป็นโต๊ะกลม จัดวาง 4 ที่นั่ง แต่เป็นอาหารจานเดียวไม่มีกับข้าว
ทางซ้ายของโต๊ะอาหารก็เป็นตำแหน่งครัว ไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็กจนเกินไปครับ ทำได้ OK แบบก็สวยดีครับ
จะให้ดูขนาด Space ว่าประมาณไหน
ฝ้าพดานในห้องตัวอย่างทำเล่นลวดลายสวยเชียวครับ ไม่รู้ว่าของจริงจะมีไหม แล้วก็ห้องตัวอย่างทำ 3 เมตร แต่ของจริงแค่ 2.65 นะครับ ระดับ Floor to Ceiling
ห้องน้ำเปิดได้ทางเดียวจากห้องนอนมีแยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยตู้อาบน้ำ
สุขภัณฑ์ใช้ของ KOHLER และดีไซน์ต่างๆทำออกมาได้ดี แต่ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับคอนโด 120,000 บาทต่อตารางเมตร จะพบว่าการออกแบบนั้นยังไม่ล้ำพอ ทำได้แค่เทียบเท่ากับคอนโดเกรด 120,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งในความเห็นของผม คอนโดที่ขายราคา 160,000 บาทต่อตารางเมตรควรจะทำได้ดีกว่านี้
เตียง 5 ฟุต กับ Side Board วางทีวีขนาดเล็ก ไม่มีที่เดินเลย สงสัยต้องเอาทีวีติดผนังซะแล้ว สาเหตุหลักๆมาจากการที่ห้องเป็นทรงแคบแต่ลึก ทำให้สูญเสีย Space เชิงกว้างไป
เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่วาง Compressor แอร์ที่ส่งออกมาจึงเป็นระบบดำเนินการระบายความร้อนจากส่วนกลาง มีการฝังเอาไว้ในฝ้าไว้ให้ตั้งแต่แรก ตรงนี้คุณภาพจะขึ้นกับการบริหารจัดการ ดำเนินการในตึก หลังจากที่สร้างเสร็จและตึกเปิดใช้แล้ว
ระเบียงต้องน่าเห็นใจคนอ้วนเล็กน้อย นับจำนวนกระเบื้องระยะระเบียงได้แผ่นเศษๆ … แต่ในเมื่อไม่ต้องวาง Compressor ไม่ต้องล้างแอร์ ก็ไม่รู้จะมีระเบียงไปทำไม สำหรับคอนโดตารางเมตรละ 160,000 – 200,000 เอามาทำพื้นที่ภายในดีกว่า
ประตูมีอุปกรณ์สำหรับช่วยปิดประตูที่เปิดค้างเอาไว้หรือปิดไม่สนิท
มือจับ ระบบ Locking System ควรจะใช้เป็นระบบไฟฟ้าได้แล้วครับ สำหรับราคานี้ไม่น่าใช้ Spec นี้
ตู้ด้านหน้า Private Lift เขียนว่า A/C ในผัง ซึ่งน่าจะเป็นที่วางระบบแอร์สักอย่าง ส่วนด้านล่างวางเครื่องซักผ้าได้
วีเนียร์ คือ การเอาไม้จริงราคาแพง ลายสวย ฝานบางๆเอามาแปะบนไม้ราคาถูก ให้ได้ความหนา 1 cm ทำขอบเข้าลิ้น จะได้หน้าพื้นที่รู้สึกดีขึ้น และเป็น Spec ที่ดีกว่าไม้ลามิเนต แต่แย่กว่าไม้ปาร์เก้
Price & Performance
ความคุ้มค่าของราคาต่อผลิตภัณฑ์
ราคา ณ วันที่ 18 กันยายน 2554 ห้องรวม Built-in เฟอร์นิเจอร์
Type 1 Bed อาคาร B ชั้น 3 ห้อง A12
45.13 ตร.ม. = 7,795,000 บาท หรือ 172,723 บาท ต่อ ตารางเมตร
Type 1 Bed อาคาร B ชั้น 3 ห้อง A11
46.58 ตร.ม. = 8,047,000 บาท หรือ 172,756 บาท ต่อ ตารางเมตร
Type 1 Bed อาคาร C ชั้น 24 ห้อง A08
57.79 ตร.ม. = 11,497,000 บาท หรือ 200,674 บาท ต่อ ตารางเมตร
- จอง 75,000 บาทต่อห้อง
- ทำสัญญา รวมเงินจอง 7%
- ผ่อนดาวน์ 30% โอน 70%
- ส่วนกลาง 60 บาท / ตารางเมตร / ปี
- กองทุน 600 บาท / ตารางเมตร
เจาะลึกรวบยอด
นี่เป็นบทวิเคราะห์หุ้นของ ASIA PLUS SECURITIES ที่เชื่อถือได้ ออกเผยแพร่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม วันที่ 24 สิงหาคม 2554 ที่อยากให้ดูคือยอดขายของ โนเบิลเพลินจิต ที่มียอดอยู่ประมาณ 47-48% โดยที่ 85% เป็นการทำสัญญาไปแล้ว ซึ่งก็แปลว่ามีการทำสัญญาไปจริงๆนั้นประมาณ 39-40% ของจำนวนยูนิต (หรือ Value ทั้งหมดในบทวิเคราะห์ไม่ได้ระบุชัดเจน)
ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งถือว่าสั้นมาก สำหรับโครงการที่จะใช้เวลาในการขออนุญาตและก่อสร้างรวม 6 ปี พูดง่ายๆก็คือมีเวลาเหลือให้ขายอีกอย่างน้อยก็ 5 ปีครึ่ง ขายไปแล้ว 40% จะขายไม่ได้หรอกหรือปีละแค่ 10%? ที่ดินตอนนี้กับอีก 5 ปีข้างหน้าก็คนละราคากันแล้ว จึงน่าจะเป็นไปได้ใช่หรือไม่?
ใช่ครับ ผมก็ว่าเป็นไปได้ แต่จะเร็วขนาดไหน ตรงกลุ่ม Target ไหม มีการปล่อยห้องต่อแข่งกับโครงการไหม มีคู่แข่งขึ้นอีกไหม อีก 6 ปีจะเจอวิกฤตเศรษฐกิจอีกไหม ยุโรปก็แย่ อเมริกาก็แย่ … ทุกอย่างยังเป็นคำถามที่ต้องคิดครับ
ตัวเลือกมีหรือไม่? เงิน 7.8 ล้านกับห้องขนาด 45 ตารางเมตร มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ คนที่มีเงินขนาดนี้ต้องมีฐานะ “ดีมาก” แล้วคนที่มีฐานะ “ดีมาก” ก็ย่อมมีตัวเลือกที่เยอะมากตามไปด้วย แน่นอนว่าทำเลกินขาด ใช่ครับกินขาดจริงๆ แปลงนี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ตัวเลือกของคนเหล่านั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันครับ … The Crest ร่วมฤดี, Q หลังสวน, The Room สุขุมวิท 21, คอนโดมือสองตามหลังสวน ชิดลม เพลินจิต ฯลฯ อีกหลายโครงการ ที่ราคาถูกกว่า โดยยอมแลก “ทำเล” กับ “ราคา”
Judgement
คอนโดมิเนียม
40% ทำเล 15% ที่ชื่อเสียงและความคุ้มราคา 10% วัสดุ แบบห้องและสาธารณูปโภครวมเป็น 100% ครับ
- ทำเล 10/10 – ไม่เป็นที่สงสัยว่าดีมาก ได้ Perfect Score ครับ
- คุณภาพวัสดุ 6.5/10 – ต่ำกว่ามาตรฐานคอนโดตารางเมตรละ 160,000 บาท ของที่ใช้สามารถเทียบเคียงคอนโดตารางเมตรละ 100,000 – 120,000 บาทได้ แต่บางอย่างก็ยังด้อยกว่า เช่นสุขภัณฑ์ ระบบล็อคประตู
- แบบห้อง 6.5/10 – ฟังก์ชั่นใช้สอยต่ำกว่ามาตรฐาน เมื่อเทียบกับห้อง 45 ตารางเมตรทั่วๆไป จะพบว่าออกแบบมาได้ลงตัวมากกว่านี้ ห้องไม่เป็นซองแคบๆลึกๆ แต่จะได้ห้องที่กว้างหรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมเกือบๆจัตุรัส มีการจัดวาง Floor Space ที่ดีกว่า และระยะห่าง Floor to Ceiling มากกว่า 2.65 เมตร
- สาธารณูปโภค 8/10 – เข้าใจว่าจัดเต็มน่าจะได้ แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง Office ด้านหน้า ที่ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ ค่าส่วนกลางต้องจ่ายเผื่อ Office หรือไม่ การใช้งานเป็นอย่างไร ผมคิดที่ Worst Case คือ มีคนมาใช้ร่วมด้วยแน่ๆ ลบไป 2 คะแนนครับ
- ชื่อเสียง 8/10 – NOBLE โนเบิลเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องคอนโดในระยะหลัง เปิดมาหลายตึกปิดไปหลายตึก ส่งมอบมาตรฐาน มีการจัดการที่ได้มาตรฐาน เข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่เนื่องจากบริษัทยังไม่ใหญ่ มีมูลค่าตลาด 2693 ล้าน ณ วันท่ีเขียน จึงเข้าข่ายบริษัทขนาดกลางในตลาด ได้ 8 ครับ
- ความคุ้มราคา 6/10 – ราคาแพงครับ เมื่อเทียบกับของที่ได้ แบบที่ได้และ Spec ที่ได้ ตารางเมตรละ 172,000 ได้คอนโดชั้น 3 จาก 51 ชั้น
- Final Score : 8.20/10 เนื่องจากได้ Weight จากทำเลเยอะมาก โครงการนี้จึงน่าสนใจปานกลางครับ
- Grade B (8.00 – 8.24)
กด LIKE , Tweet 1 ครั้ง ให้กับการชมโครงการโดยไม่ต้องจ่ายค่ารถไฟฟ้าค่าน้ำมัน