รีวิวโครงการ

คอนโดพร้อมอยู่ ส่วนกลาง 4,500 ตร.ม. เริ่ม 4.99 ล้าน | XT พญาไท | คิดเรื่องอยู่ Ep.686

11 มีนาคม 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

โครงการ XT พญาไท ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท* น้องคนสุดท้องของแบรนด์ XT คอนโดใจกลางเมือง จาก แสนสิริ สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ โครงการอยู่บนถนนศรีอยุธยา ใกล้รถไฟฟ้า BTS และ Airport Link สถานีพญาไท เดินทางสะดวก พร้อมส่วนกลางที่เรียกได้ว่าจัดเต็ม ทั้ง 2 อาคาร และห้องพักอาศัยที่มี Layout หลากหลาย

โดยมี Highlights ของโครงการ ดังนี้

  • ทำเล : โครงการอยู่บนถนนศรีอยุธยา เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักทั้งถนนพญาไท ถนนเพชรบุรีได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย BTS, Airport Link สถานีพญาไท และสายสีส้มในอนาคต สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และสถานศึกษา
  • พื้นที่ส่วนกลาง : พื้นที่ส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชันบนพื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร จุดเด่นอยู่ที่ Sky Pool ทั้ง 2 อาคาร ยาว 25 เมตร มองเห็นวิวได้ 180 องศา พร้อมเครื่องออกกำลังกายในน้ำ, ห้อง Fitness ขนาดใหญ่ และ Facility อื่นๆ ที่ออกแบบมาได้น่าใช้งาน
  • Co Sharing Facilities : จุดเด่นที่ขาดไม่ได้เลยของโครงการ XT คือ มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้ง 3 โครงการของ XT คือ XT พญาไท, XT เอกมัย และ XT ห้วยขวาง เรียกว่าซื้อ 1 (ใช้ XT Club) ได้ถึง 3 ค่ะ
  • ห้องพักอาศัย : โครงการนี้มี Layout ห้องพักอาศัยให้เลือกหลากหลายทีเดียวค่ะ โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่ 40 ตร.ม. เป็นต้นไป จนถึงห้อง 2 Bedroom 100 ตร.ม. ที่มีช่องเปิดในห้องนั่งเล่นแบบ Full Height ทั้ง 2 ด้าน

บรรยากาศในโครงการจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

XT Phayathai (เอ็กซ์ที พญาไท) ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565

 ชื่อโครงการ   XT Phayathai (เอ็กซ์ที พญาไท)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
 ที่ดิน   ประมาณ 3 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 41 ชั้น, อาคาร B สูง 37 ชั้น
 จำนวนยูนิต   1,463 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   n/a ยูนิต
 ที่จอดรถ   794 คัน คิดเป็น 55% เป็นที่จอดแบบปกติที่ชั้น 1 – 7
 เริ่มก่อสร้าง   n/a
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom (S) พื้นที่ใช้สอย 25.25 – 33.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 40.50 – 49.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (S) พื้นที่ใช้สอย 61.00 – 74.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (M) พื้นที่ใช้สอย 82.25 – 101.00 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.70 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  4.59 ล้านบาท*
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว (สร้างเสร็จพร้อมอยู่)
 เว็บไซต์โครงการ  http://siri.ly/R5WRy7B
 Call Center  1685

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.757197988126606, 100.53882961521082
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

จุดเด่นทำเล

  • ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย : สายสีเขียวอ่อน, สาย Airport Link สถานีพญาไท และสายสีส้มในอนาคต
  • ติดถนนใหญ่ : โครงการตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้สะดวก ทั้งถนนพญาไท ถนนเพชรบุรี เป็นต้น
  • ความอุดมสมบูรณ์สูง : สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการมีแหล่งสาธารณูปโภค และแหล่งจับจ่ายใช้สอยครบครัน ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน สวนสาธารณะ และเดินทางไปยังศูนย์การค้าใหญ่อย่างสยามได้สะดวก

โครงการ XT พญาไท ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน และสถานีรถไฟฟ้า Airport Link สถานีพญาไท เชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิได้ ระยะทางประมาณ 650 เมตร และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านทางเส้นราชปรารภ ทำให้โครงการใกล้กับรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายเลยค่ะ

โครงการ XT พญาไท ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยาใกล้กับแยกพญาไท ตรงข้ามเยื้องๆ กับโรงพยาบาลพญาไท 1 ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง การคมนาคมสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์บนถนนเส้นหลัก ขึ้นทางด่วน หรือเดินทางด้วยรถสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้า รถประจำทาง รวมถึงเรียกผ่าน Application ก็ง่ายค่ะ

ถนนเส้นหลักที่สำคัญ 3 เส้น

  • ถนนพญาไท เริ่มจากอนุสาวรีย์ฯ ไปจนถึงถนนพระราม 4 ที่แยกปทุมวัน ผ่านหน้า MBK และสยามได้
  • ถนนศรีอยุธยา ถ้าไปทางตะวันออก – จะเจอถนนจตุรทิศ วิ่งลอยฟ้าไปพระราม 9 ได้ และทางตะวันตก – ผ่านถนนพระราม 6 ไปสุดที่ถนนสามเสน
  • ถนนเพชรบุรี ทางตะวันออกมุ่งหน้าไปอโศก – รัชดาฯ ผ่านแยกประตูน้ำ, ชิดลม, และไปเข้าสุขุมวิททางซอยนานาได้

การเดินทางด้วยทางด่วน สามารถขึ้นได้หลายจุด คือ 1) ด่านสนามเป้า 2) ด่านอุรุพงษ์ (ยมราช) ถนนพระรามหก ใช้เดินทางไปหัวลำโพง, สีลม, ถนนจันทน์ ฯลฯ 3) ดอนเมืองโทลล์เวย์ บนถนนวิภาวดีรังสิต ทางขึ้นทั้งหมดถือว่าอยู่ใกล้กับโครงการ มีระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตรค่ะ

สภาพการจราจรบนถนนศรีอยุธยา ช่วงใกล้กับถนนพญาไทมีความหนาแน่นในระดับหนึ่งค่ะ อาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยรถยนต์สักหน่อย เพราะทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง และสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลักผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นสยาม ประตูน้ำ อโศก – เพชรบุรี เป็นต้น

ความอุดมสมบูรณ์บนถนนเส้นศรีอยุธยาหลักๆ จะอยู่บริเวณแยกพญาไท ตรงสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงาน สถานที่เรียนพิเศษของเด็กๆ มัธยม ซึ่งจะมีความคึกคักสูง คนเดินผ่านข้ามถนนกันเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถเดินจากโครงการไปยังรถไฟฟ้าได้อย่างสบายใจ อีกทั้งยังใกล้กับโรงพยาบาลหลายแห่ง นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไปยัง สยาม-จุฬา ซึ่งเป็นแหล่ง Lifestyle จับจ่ายใช้สอย กินเที่ยวพักผ่อน และสถานศึกษาชั้นนำ ทำให้คอนโดมิเนียม หรืออาคารพักอาศัยให้ทำเลนี้ค่อนข้างฮอตฮิตกันพอสมควรเลยค่ะ

ตัวอย่างการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS พญาไท เป็นสถานี Interchange เชื่อมไปยัง Airport Rail Link พญาไทได้ค่ะ ซึ่งจะสะดวกมากกับคนที่ต้องการจะเดินทางไป-กลับจากสนามบินสุวรรณภูมิ หรือเดินทางผ่านรถไฟฟ้าไปอีกแค่ 2 สถานีก็ถึง สยาม ซึ่งที่เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆ ของชาวกรุงเทพฯ โดยตัวโครงการจะมีระยะห่างประมาณ 650 เมตร มาถึงบันไดทางออกที่ 4 (และถ้าเดินมาถึงตรงตัวสถานีทั้ง BTS กับ ARL พญาไทอีกประมาณ 100 เมตรค่ะ)

เส้นทางการเดินทาง

Image 1/14
ลงบันไดมาให้เราตามประตูทางออกที่ 4 เอาไว้ เราจะลงฝั่งเดียวกับโรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ

ลงบันไดมาให้เราตามประตูทางออกที่ 4 เอาไว้ เราจะลงฝั่งเดียวกับโรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่เป็นอาคารสูงติดถนนใหญ่ เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้ถือว่าอยู่ในตัวเมืองชั้นใน และตามซอยมักจะเป็นที่อยู่อาศัยที่สูงไม่เกิน 8 ชั้น การวางผังอาคารของโครงการจะแบ่งเป็น 2 อาคาร โดยห้องพักอาศัยหลักเกือบทุกด้านจะไม่โดนบังวิวในระยะประชิดค่ะ ยกเว้นแต่อาคาร A ด้านหน้า ทางทิศตะวันออก จะมีคอนโดของ Supalai ที่สูง 31 ชั้นตั้งอยู่

  • ทิศเหนือ ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบ ความสูงไม่เกิน 8 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ Supalai Elite สูง 31 ชั้น และโซนด้านหลังติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก ติดกับ รร.ศรีอยุธยา
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนศรีอยุธยา ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ดินเปล่า เฉียงเยื้องๆกันเป็นรพ.พญาไท 1

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • คิง เพาเวอร์ รางน้ำ 600 เมตร ในระยะเดิน
  • CP Tower 3 650 เมตร ในระยะเดิน
  • พญาไทพลาซ่า 800 เมตร ในระยะเดิน
  • Century Mall 850 เมตร ในระยะเดิน
  • Center One 1.6 กิโลเมตร
  • Pantip Plaza 2.3  กิโลเมตร
  • Siam Discovery 2.3 กิโลเมตร
  • Siam Center 2.6 กิโลเมตร
  • Siam Paragon 2.8 กิโลเมตร
  • Platinum Fashion Mall 2.8 กิโลเมตร
  • Siam Square 3.0 กิโลเมตร
  • Central World 3.1 กิโลเมตร
  • มาบุญครอง MBK 3.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • รพ.พญาไท 1 450 เมตร
  • รพ.รามาธิบดี 2.9 กิโลเมตร
  • รพ.ราชวิถี 3.1 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนศรีอยุธยา 100 เมตร
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3.8 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ

  • Pull Man Hotel 350 เมตร
  • อาคารศิริภิญโญ 450 เมตร
  • อาคารวรรณสรณ์ 450 เมตร
  • BTS สถานีพญาไท 650 เมตร
  • Airport Link สถานีพญาไท  650 เมตร
  • ใบหยก ทาวเวอร์  850 เมตร

รายละเอียดโครงการ

จุดเด่น ของโครงการ XT พญาไท

  • Co-Sharing Facilities : มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้ง 3 โครงการของ XT คือ XT พญาไท, XT เอกมัย และ XT ห้วยขวาง โดยต้องทำการจองล่วงหน้าก่อนนะคะ
  • พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มทั้ง 2 อาคาร : พื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 4,500 ตร.ม. ฟังก์ชันครบ เช่น สระว่ายน้ำยาวเป็นรูปตัว U ที่ชั้นดาดฟ้าทั้ง 2 อาคารมองเห็นวิว 180 องศา, Fitness ขนาดใหญ่, Co-Kitchen, Sansiri Backyard และ Lobby ขนาดใหญ่ทั้ง 2 อาคาร
  • การแบ่งอาคาร : เนื่องจากเป็นอาคารใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตเยอะ การแบ่งเป็น 2 อาคารทำให้ความหนาแน่นแต่ละอาคารลดลง ลูกบ้านสามารถใช้งานส่วนกลางได้แบบเป็นส่วนตัวมากขึ้น มองเห็นวิวทั้งฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ แต่ยังสามารถเดินเชื่อมกันได้ที่ชั้น 8 และ 16 บริเวณสวนส่วนกลางค่ะ

โครงการ XT พญาไท เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ดินติดถนนศรีอยุธยาประมาณ 3 ไร่ อาคารเชื่อมต่อกันที่ชั้น 1 – 16  อาคาร A มีความสูง 41 ชั้นและอาคาร B สูง 37 ชั้น จำนวน 1,463 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิตค่ะ

โครงการมีที่จอดรถ มาให้ 794 คัน คิดเป็น 55% เป็นที่จอดแบบปกติ สามารถจอดได้ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 7 ถือว่าให้มาพอดีๆ เหมาะสมกับราคา ไม่มากไม่น้อยนะคะ เพราะสามารถเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หรือรถสาธารณะได้ไม่ยาก

พื้นที่ส่วนกลาง ของโครงการจุดเด่นจะอยู่ด้านบนชั้นดาดฟ้าของทั้ง 2 อาคาร เป็น Sky Facility สระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวได้ 180 องศา อาคาร A อยู่ที่ชั้น 41 และอาคาร B อยู่ที่ชั้น 37 ค่ะ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สีเขียว สวน สนามเด็กเล่นอยู่ที่ชั้นอื่นๆ ด้วย

ด้านหน้าอาคารถ้ามองจากถนนศรีอยุธยาจะเห็นเหมือนมีอาคารเดียว แต่ที่ดินของโครงการเป็นตอนลึก จริงๆแล้วจะเห็นอาคาร B อยู่ด้านในค่ะ ปัจจุบันโครงการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจจะมีเก็บงานบริเวณด้านหน้าทางเข้าและสวนบางจุด แต่เปิดให้ชมโครงการได้แล้วค่ะ บรรยากาศจริงภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลย

ชั้น 1

มาดูผังกันสักหน่อยนะคะ เริ่มจากทางเข้าด้านหน้าโครงการเป็นพื้นที่ Garden Landscape แต่ปัจจุบันมีการทำทางเดินและตกแต่งสวนอยู่เราเลยยังไม่ได้เก็บบรรยากาศมาให้ชมกันนะ บริเวณสวนจะมีทางเดินเชื่อมต่อกับป้ายรถประจำทางด้านหน้าโครงการได้เลย

การจราจรภายในโครงการ เข้า-ออก ทางเดียวเป็นระบบไม้กั้นกระดกและมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เดินรถสวนกันได้รอบอาคาร มีทางขึ้นที่จอดรถชั้น 2 – 7 อยู่ด้านหลังอาคารค่ะ

สำหรับชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางและห้อง Service ทั้งหมด โดยห้องด้านหน้าสุดของโครงการเป็นยูนิตของร้านค้า ซึ่งยังไม่ได้ Confirm ว่าจะมีร้านไหนมาลงนะคะ ถัดมาเป็น Co-Sharing Space ที่เปิดให้ลูกบ้าน XT ทั้งหมดสามารถมาใช้งานร่วมกันได้ (สำหรับโครงการ XT เอกมัย และ XT ห้วยขวางจะต้องจองก่อนเข้าใช้บริการ)

บริเวณตรงกลางเป็นพื้นที่ Drop Off แบ่งเป็น Lobby ขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง อาคาร A มีห้อง Library อยู่ด้านหลัง  และอาคาร B ภายใน มีห้อง Meeting Room สำหรับประชุมออนไลน์ และห้องนิติบุคคลค่ะ โดยแต่ละอาคารจะแยกห้อง Mail Box ออกจากกัน

ยูนิตร้านค้าจะตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการมองเห็นได้จากถนนศรีอยุธยาและเปิดให้คนข้างนอกสามารถเดินมาซื้อของได้ด้วย โดยตอนนี้ทราบแล้วนะคะว่าจะเป็นร้าน Lawson มีของกินอร่อยๆ แน่นอนค่ะ

ทางเข้า-ออก เป็นระบบไม้กั้นกระดกมีป้อมเจ้าหน้าที่ รปภ. อยู่ด้านข้าง คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

ภายในโครงการมีที่จอดชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถ EV และที่จอดรถแบบปกติรวมทั้งหมด 794 คัน คิดเป็น 55% อยู่ที่ชั้น 1 ถึงชั้น 7 เลยค่ะ โดยรวมก็ใช้งานได้สะดวก สามารถเดินเข้าโถงลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องพักอาศัยได้เลยทั้ง 2 อาคาร

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ที่จอดรถของอาคาร A จะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 5 ตัวค่ะ

กลับลงมาดูที่ชั้น 1 สำหรับคนที่เดินเข้าโครงการ จะมีโถงทางเดินขนาดใหญ่ไปยังห้อง Co-Sharing Space ที่อยู่ด้านหน้าค่ะ

สำหรับ Co-Sharing Space นั้นจะต้องใช้ Key Card ในการเข้าใช้งานนะคะ โดยจะเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกบ้าน ที่เขาอาจจะมาซื้อของร้านค้าด้านหน้า แต่จะเข้าภายในอาคารไม่ได้ค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศภายใน Co-Sharing Space

บรรยากาศภายใน Co-Sharing Space

ด้านในเป็นห้องโถงสำหรับนั่งพักผ่อน ทำงานค่ะ โดยจะแบ่งเป็นโซนๆ มีทั้งโซฟาตัวยาว ชุดเก้าอี้สำหรับพูดคุยธุระเป็นกลุ่มๆ และโต๊ะยาวสำหรับนั่งประชุม ทำงานจริงจังได้ บรรยากาศภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใส มีผนังกระจกยาวตลอดทั้งแนว รวมถึงฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ทำให้ดูโปร่งสบายมากขึ้นด้วย

Image 1/9
บรรยากาศภายใน XT CLUB

บรรยากาศภายใน XT CLUB

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ของ XT CLUB ที่เปิดให้ลูกบ้านชาว XT ทั้ง 3 แห่งสามารถแวะมาใช้งานร่วมกันได้ โดยจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน มีโซฟานุ่มๆ และโต๊ะวางแก้วกาแฟ นัดพูดคุยงานกันได้ , โซนเก้าอี้นวดเป็นห้องส่วนตัว พักผ่อนสบายๆ, ห้องโทรศัพท์ส่วนตัว, พื้นที่นั่งประชุม ทั้งด้านนอกและในห้องกั้นเป็นสัดส่วน ฯลฯ

บริเวณ Drop off จะเชื่อมต่อไปยัง Lobby ซึ่งแบ่งเป็น 2 ฝั่ง อาคาร A ทางซ้ายมือ และอาคาร B ทางขวามือ

ตรงกลางมี Sculpture Concept MAN-MADE BIRD’S NEST ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และมีการนำมาใช้ที่ส่วนกลางชั้น 8 และชั้นดาดฟ้าบริเวณสระว่ายน้ำด้วยค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร B

บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร B

ขอพาแวะมาดูที่ Lobby อาคาร B ก่อนนะคะ ภายในตกแต่งด้วย Concept สวนเทอร์ราเรียม โดยการนำเอา Landscape ด้านนอกเข้ามาเชื่อมต่อกับด้านใน เลือกใช้สีโทนสีเหลือง เขียว ที่มองเห็นได้ตามธรรมชาติ

Image 1/2
บรรยากาศภายใน Meeting Room

บรรยากาศภายใน Meeting Room

ด้านในมีห้องประชุมสามารถเข้ามานั่งทำงาน ประชุมออนไลน์ได้แบบเป็นส่วนตัวค่ะ

ติดกันนั้นจะมีทางเดินไปยังห้องของนิติบุคคลด้วย เผื่อใครต้องการมาติดต่อธุระ ก็สามารถเข้าถึงได้สะดวกและบรรยากาศดีค่ะ

Mail Room ของอาคาร B แม้จะมีจำนวนยูนิตเยอะ แต่การแยกเป็นโซนๆ ทำให้จำตำแหน่งตู้จดหมายของเราได้ง่ายขึ้น

โถงลิฟต์ของอาคาร B มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัวค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร A

บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร A

สำหรับอาคาร A นั้นก็มีความสดใสไม่แพ้กันค่ะ โดยรอบๆข้างจะเป็นผนังกระจกให้เราสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้กว้าง ภายในมีชุดที่นั่งพักผ่อนหลายจุดให้เลือกนั่งได้

ด้านหลัง Lobby อาคาร A มี GARDEN LIBRARY แต่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ทั้งวันเราเลยเก็บแต่ภาพบรรยากาศด้านนอกมาให้ชมกันนะคะ

Image 1/3
โถงทางเดินอาคาร A

โถงทางเดินอาคาร A

ใกล้กับโถง Lobby ก็จะมี Mail Room ให้หยิบพัสดุและจดหมายกันก่อนขึ้นห้องพักอาศัยค่ะ

โถงลิฟต์อาคาร A มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 5 ตัว เพราะอาคาร A มีความสูงและจำนวนยูนิตมากกว่าค่ะ

บรรยากาศภายในลิฟต์โดยสาร ผู้ใช้รถเข็นก็สามารถใช้งานได้สะดวกนะคะ

ชั้น 8

ชั้นนี้เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรกเลยค่ะ การวางผังอาคารขนานไปกับที่ดินที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันห้องพักอาศัยออกไปทางทิศตะวันออก(ด้านล่าง) และตะวันตก(ด้านบน)  โดยที่ชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ 43 ยูนิต และมีทางเชื่อมระหว่างอาคารเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง ที่มีชื่อว่า TREE TRUNK SANCTUARY พร้อมกับ Double Volume มองเห็นโถงทางเดินชั้นพักอาศัยด้านบนได้ ทำให้อาคารมีความโปร่ง อากาศไหลเวียนที่โถงทางเดินได้ดี และดูโอ่โถงมากขึ้นด้วยค่ะ

ห้องพักอาศัยในโครงการจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom (สีโทนน้ำตาล) จะมีห้อง 2 Bedroom (สีเขียว) ขนาด 60 ตร.ม.อยู่ด้านหน้าโครงการ 2 ยูนิต ห้อง 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. อยู่ที่มุมอาคารด้านหลัง 2 ยูนิต และห้อง 2 Bedroom ขนาดใหญ่ 100 ตร.ม. อยู่ตรงกลางอีก 2 ยูนิตค่ะ

โถงลิฟต์ชั้น 8 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรกมีการตกแต่งด้วยฝ้าหลุมซ่อนไฟดูสวยงาม พร้อมป้ายบอกพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

บรรยากาศภายในโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัย

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะกั้นด้วยประตูกระจกใช้ Key Card ในการเข้า-ออก สำหรับลูกบ้านชั้นนี้อาจจะมีเพื่อนบ้านห้องอื่นๆ เดินผ่านไปมาบ่อยสักหน่อยนะคะ เพราะอยู่ในชั้นพื้นที่ส่วนกลางนั่นเอง แต่ก็มีข้อดีคือคนที่อยู่ชั้นนี้ก็จะเดินไปใช้งานส่วนกลางได้สะดวกมากๆ เลยค่ะ

Image 1/2
ห้อง Laundry

ห้อง Laundry

ที่นี่ถ้าใครไม่มีเครื่องซักผ้าภายในห้อง สามารถเดินลงมาใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญได้ที่ชั้น 8 ค่ะ ทางโครงการมีทั้งตู้กดน้ำและเครื่องซักผ้าให้บริการ

พื้นที่ส่วนกลางที่เชื่อมต่อ 2 อาคารชั้น 8 ชื่อว่า TREE TRUNK SANCTUARY ซึ่งมีแนวคิดในการออกแบบคือพื้นที่ใต้โคนต้นไม้ที่มีร่มเงา บริเวณนี้จะออกแบบให้เป็นพื้นที่เด็กเล่น ซึ่งจะเห็นได้จากการปูพื้นด้วยพื้นยางรับแรงกระแทกสีสันสดใส ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการหกล้มของเด็กๆ ได้ดีค่ะ

Image 1/3
MAN-MADE TREEHOUSE

MAN-MADE TREEHOUSE

ภายในมีบ้านต้นไม้ 2 จุด ให้เด็กๆ ได้มาวิ่งเล่นแล้วนั่งพักผ่อนหรือจะเป็นสถานที่ให้คุณผู้ปกครองมานั่งอ่านหนังสือรอเด็กๆ ก็ดีเหมือนกันค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศภายใน TREE TRUNK SANCTUARY

บรรยากาศภายใน TREE TRUNK SANCTUARY

จะเห็นได้ว่าตลอดทั้งสวนนั้นพื้นที่ใหญ่มาก ถ้าเทียบกับสนามเด็กเล่นในโครงการคอนโดฯในเมืองแห่งอื่นๆ ก็จะดูเล็กไปเลยค่ะ นอกจากนั้นสีสันของพื้นที่ดูสดใสยังชวนให้ตื่นตาตื่นใจ น่าพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นใช้พลังงานกันเต็มที่

มุมมองจากชั้น 8 ที่มองขึ้นไปยังชั้น 16 ได้ ทำให้ภายในอาคารดูโปร่ง และเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ได้รับลม แสงแดดและมองเห็นฝนตกลงมาได้ค่ะ

Image 1/3
มุมมองจากชั้นพักอาศัยมองลงไปที่ชั้น 8

มุมมองจากชั้นพักอาศัยมองลงไปที่ชั้น 8

ชั้น 16

เป็นชั้นพักอาศัยคล้ายกับชั้น 8 แต่จะมีช่องเปิด Double Volume ทั้งบริเวณห้องพักอาศัยและสวนส่วนกลางเลย เพราะเป็นชั้นสุดท้ายที่อาคาร A และ B จะเชื่อมต่อกันค่ะ

การวางผังห้องพักอาศัยจะเหมือนกับชั้น 8 เลยค่ะ โดยห้องพักอาศัยออกไปทางทิศตะวันออก(ด้านล่าง) และตะวันตก(ด้านบน) โดยที่ชั้นนี้จะมีทางเชื่อมระหว่างอาคารเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง ที่มีชื่อว่า FOREST CANOPY ให้พักผ่อนหย่อนใจค่ะ

ห้องพักอาศัยในโครงการยังคงเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom (สีโทนน้ำตาล) จะมีห้อง 2 Bedroom (สีเขียว) ขนาด 60 ตร.ม.อยู่ด้านหน้าโครงการ 2 ยูนิต ห้อง 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. อยู่ที่มุมอาคารด้านหลัง 2 ยูนิต และห้อง 2 Bedroom ขนาดใหญ่ 100 ตร.ม. อยู่ตรงกลางอีก 2 ยูนิตค่ะ

บรรยากาศบริเวณสวนลอยฟ้า ชั้น 16 แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ URBAN FARM สำหรับปลูกดอกไม้ประดับและพืชผักสวนครัว และอีกฝั่งเป็นลาน GATHERING SPACE สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว นั่งเล่นพูดคุย ชมวิวได้

มุมปลูกพืชผักสวนครัวที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการจาก แสนสิริ ไม่ว่าจะเป็นโครงการแนวราบหรือคอนโดมิเนียมจะต้องมี Sansiri Backyard ที่ให้ลูกบ้านสามารถมาปลูกผัก และเก็บผักไปปรุงอาหารรับประทานได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

ชั้น 28

เป็นชั้นที่มีส่วนส่วนกลางอยู่ที่อาคาร A (ซ้ายมือ) มีชื่อว่า LOOKOUT POINT ค่ะ สามารถชมวิวได้ 270 องศา (หันออกไปทางทิศใต้ เห็นตัวเมืองไปทางราชเทวี สยาม ตึกใบหยกได้)

ส่วนอาคารพักอาศัยจะแยกจากกันตั้งแต่ชั้น 17 เป็นต้นไปค่ะ โดยแบ่งเป็น อาคาร A มีห้องพักอาศัย 22 ยูนิต และอาคาร B มีห้องพักอาศัย 18 ยูนิต รวมกันเป็น 40 ยูนิต ซึ่งความหนาแน่นลดลงไปเยอะเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบวิวห้องพักอาศัยมุมสูง และได้ความเป็นส่วนตัว โดยห้อง 2 Bedroom (สีเขียว) ก็จะอยู่ตำแหน่งมุมอาคารเหมือนเดิมค่ะ

ชั้น 28 บริเวณ LOOKOUT POINT เหลือตกแต่งสวนอีกเล็กน้อยก็เสร็จแล้วนะคะ บริเวณนี้มีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนและโครงถักที่เป็น Icon ของโครงการ มองเห็นวิวได้ 180 องศาเลย

ชั้น 37 

เป็นชั้น Sky Facility ของอาคาร B ค่ะ ซึ่งจะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 25 เมตร พร้อมเครื่องออกกำลังกายในน้ำ ด้านในเป็นห้อง Fitness แยกห้องโยคะ ห้องจักรยาน และเครื่องเล่นได้ความเป็นส่วนตัว บรรยากาศมีความ Active เหมาะกับการออกกำลังกาย และชมวิวได้รอบด้าน

ส่วนอาคาร A เป็นชั้นพักอาศัย มีจำนวน 20 ยูนิตต่อชั้น ห้อง 1 Bedroom (สีน้ำตาลเข้มและน้ำตาลอ่อน) อยู่ตรงกลาง และห้อง 2 Bedroom (สีเขียว) อยู่มุมอาคาร มองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ชั้น 37 มีการตกแต่งลิฟต์ด้วยลายไม้ดูสวยงาม ซึ่งเดินไปก็จะเจอกับ Fitness และสระว่ายน้ำเลยค่ะ

เรามาดู Fitness กันก่อนนะคะ ภายในมีห้อง Studio แยกสำหรับเล่นโยคะ หรือจัดคลาสเต้นได้แบบเป็นส่วนตัว พร้อมจอ TV ขนาดใหญ่ และมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองด้านนอกได้

Image 1/2
LIVESTREAMING CYCLING

LIVESTREAMING CYCLING

จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Fitness ที่นี่คือการออกกำลังกายแบบ REALTIME
ไปกับคลาส LIVESTREAMING CYCLING โดยที่เราไม่ต้องไปสมัคร Fitness ด้านนอกให้เสียเงินและเวลาในการเดินทางเลยค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศภายในห้อง Fitness

บรรยากาศภายในห้อง Fitness

ห้อง Fitness มีขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครันไม่ว่าจะเป็น WEIGHT TRAINING หรือ CARDIO และเครื่องออกกำลังกายแนวใหม่อย่าง REAX LIGHTS™ เป็นต้น

ภายในห้องดูโปร่งสบายเหมาะกับการออกกำลังกาย มองเห็นวิวเมืองด้านนอกได้ ส่วนตึกที่เห็นได้จาก Fitness คืออาคาร A ของโครงการเรานี่เองค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ชั้น 37

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ชั้น 37

นอกจากออกกำลังกายแบบปกติแล้ว ใครที่มีปัญหาเรื่องข้อต่างๆ ก็สามารถเลือกใช้เครื่องออกกำลังกายในน้ำได้นะคะ เพราะทางโครงการมีจักรยานในน้ำมาให้ปั่นกันด้วย บริเวณนี้มีชื่อว่า ENERGETIC POOL ด้านข้างมีที่นั่งพักผ่อน POOL LOUNGE สำหรับคนที่ไม่อยากลงน้ำ แต่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในสระว่ายน้ำ มองเห็นวิว และพูดคุยสังสรรค์กับเพื่อนๆได้

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ชั้น 37

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ชั้น 37

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ความยาว 25 เมตร (HALF OLYMPIC) ให้สามารถว่ายออกกำลังกายกันได้เต็มที่ พร้อมรับวิวใจกลางเมืองได้แบบ 180 องศา มีที่นั่งอาบแดดด้านข้าง ให้นอนอ่านหนังสือ ชมวิวกันได้เพลินๆ ค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ชั้น 37

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ชั้น 37

ด้านข้างมีมุมสระเด็กแบ่งเป็นสัดส่วนให้ใช้งานไปพร้อมๆ กับคุณพ่อคุณแม่ได้

บรรยากาศโถงทางเดินไปยังห้องน้ำส่วนกลาง

ภายในห้องน้ำส่วนกลางมีตู้ Locker ให้ลูกบ้านใช้งานเก็บของเปลี่ยนชุดไปออกกำลังกายได้ โดยด้านในมีห้อง Steam ให้ใช้งานด้วยค่ะ

ชั้น 41 

เป็นชั้นบนสุดของอาคาร A เป็น Sky Facility ที่เหมาะกับการพักผ่อน ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ประกอบไปด้วย Super Living Room, Co-Kitchen, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 25 เมตร แยกสระเด็ก และ Jacuzzi ค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น 41 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโครงการ XT พญาไทค่ะ

ออกมาจากโถงลิฟต์แล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น Outdoor เป็นโซนนั่งชมวิว (OUTDOOR DINING LAWN) พักผ่อนมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ และเชื่อมต่อกับ CO-KITCHEN ทางด้านหลังด้วยค่ะ

วิวที่ได้จากพื้นที่ OUTDOOR DINING LAWN

Image 1/5
บรรยากาศภายใน Co-Kitchen

บรรยากาศภายใน Co-Kitchen

สำหรับใครที่ชอบทำอาหาร หรือชอบสังสรรค์ ภายในโครงการมีห้อง CO-KITCHEN ให้สามารถจองมาใช้งานได้ค่ะ โดยจะมีอุปกรณ์ทำอาหารมาให้ครบครัน ทั้งเตาอบ ตู้เย็นขนาดใหญ่ และ LONG TABLE กว่า 10 ที่นั่ง

มาดูสระว่ายน้ำที่เป็นอีกหนึ่ง Highlight กันบ้างค่ะ โดยจะมีพื้นที่ล้างตัวอยู่ด้านข้าง

Image 1/3
บรรยากาศสระว่ายน้ำชั้น 41 SKY LAB POOL

บรรยากาศสระว่ายน้ำชั้น 41 SKY LAB POOL

เริ่มจากบริเวณ SKIN WATER ให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆ มาเล่นน้ำได้ค่ะ พร้อมกับเก้าอี้อาบแดดที่มองเห็นวิวได้สวยมากๆ มองเห็นตึกใบหยกด้วยนะ

สระว่ายน้ำเป็นสระ SKY LAB POOL ระบบเกลือ ความยาว 25 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง

ด้านข้างมี Pool Deck ที่นั่งอาบแดดชมวิวใจกลางเมืองในมุมสูงได้แบบ 180 องศา

Image 1/2
มุม WATER MASSAGE

มุม WATER MASSAGE

ด้านข้างเป็นโซน Jacuzzi ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถมาแช่น้ำให้ผ่อนคลายได้

ด้านข้างเป็นพื้นที่นั่งเล่น พูดคุยธุระแบบเป็นส่วนตัว รายล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียว วิวสระว่ายน้ำ และวิวเมืองมุมสูง อีกทั้งยังรับลมและแสงแดดธรรมชาติได้ค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้อง SUPER LIVING ROOM หรือห้องนั่งเล่นพักผ่อนขนาดใหญ่ ด้านในมีบาร์เครื่องดื่ม ให้นั่งจิบไวน์พูดคุยกันได้ พร้อมกับด้านหลังมีโต๊ะพูล และโต๊ะโกล์ มือหมุนให้ได้เล่นกับเพื่อนๆ ค่ะ

ส่วนพื้นที่ริมหน้าต่างเป็นโซนนั่งเล่นชมวิวทิศตะวันตก เหมือนกับ Sky Lounge มีโซฟาที่นั่งยาวๆ มาให้มองเห็นวิวได้กว้างโดยไม่มีตึกสูงมาบังวิวค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศภายใน Sky Theater

บรรยากาศภายใน Sky Theater

ด้านข้างห้องนั่งเล่นจะมีห้องแยกอยู่ห้องหนึ่งค่ะ มองจากด้านนอกเห็นเป็นประตูทึบๆ เหมือนกับห้องลับ พอเปิดเข้าไปแล้วคือ Sky Theater ให้ลูกบ้านเข้ามาดูหนังได้ฟีลเหมือนดูในโรงภาพยนตร์นั่นเอง

ผังโครงการ XT พญาไท

Image 1/22
ชั้น 1

ชั้น 1

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Lobby แยกอาคารทั้งสองอาคาร
  • ชั้น 1 : Shop 1 ร้านค้า (Family Mart)
  • ชั้น 1 : Garden Library, Meeting Room
  • ชั้น 1 : Co Sharing Space
  • ชั้น 8 : TREE TRUNK SANCTUARY
  • ชั้น 11 : DRAPED GARDEN
  • ชั้น 16 : FOREST CANOPY
  • ชั้น 28 อาคาร A : LOOKOUT POINT
  • ชั้น 37 อาคาร B : ENERGETIC LAP POOL ระบบเกลือ ยาวประมาณ 25 เมตร , FITNESS ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
  • ชั้น 41 อาคาร A : Co-Kitchen, Super Living Room
  • ชั้น 41 อาคาร A : สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาวประมาณ 25 เมตร แยกสระเด็ก
  • ลิฟต์โดยสารรวมทั้งโครงการ 8 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 182 :  1
  • Service Lift 2 ตัว
  • ที่จอดรถ 794 คัน คิดเป็น 55% เป็นที่จอดแบบปกติที่ชั้น 1 – 7
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

แบบห้อง

ห้องพักอาศัยในโครงการ XT พญาไท ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท* แบ่งออกเป็น 4 แบบตามขนาดพื้นที่ใช้สอย ดังนี้

  • 1 Bedroom (S) พื้นที่ใช้สอย 25.25 – 33.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 40.50 – 49.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (S) พื้นที่ใช้สอย 61.00 – 74.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (M) พื้นที่ใช้สอย 82.25 – 101.00 ตร.ม.

โดยรูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว ห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศค่ะ ส่วนห้องตัวอย่างวันนี้เราพาไปรีวิวเจาะลึกกัน 2 แบบ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 42 ตร.ม. แบบไม่มีระเบียง, 2 Bedroom ใหญ่ขนาด 100 ตร.ม. และพาชมบรรยากาศด้านในกันอีก 2 แบบคือ  1 Bedroom ขนาด 42 ตร.ม. แบบมีระเบียง, 2 Bedroom ขนาด 82 ตร.ม.ค่ะ

1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตร.ม. (แบบมี Bay Window)

ห้องนี้เป็น Type ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ ตั้งอยู่สลับกับห้องที่มีระเบียง โดยทั้ง 2 แบบจะเหมือนกันเลย ยกเว้น Type นี้จะนำเอาพื้นที่ระเบียงเข้ามาเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง เหมาะกับคนที่ชอบห้องกว้าง ไม่ได้ใช้ระเบียงเป็นต้น โดยฟังก์ชันภายในแบ่งเป็นสัดส่วน ดังนี้

  • พื้นที่ครัวปิด สามารถทำอาหารได้โดยกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย และเป็น Buffer ให้กับพื้นที่ส่วนตัวภายในห้อง พร้อมพื้นที่วางเครื่องซักผ้าภายในห้อง
  • ห้องน้ำเข้าได้จากครัว ทำให้โซน Service ที่อาจจะมีการเปียกน้ำ หรือต้องทำความสะอาดบ่อยๆ อยู่ใกล้กัน เวลาแขกมาหาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้เลยโดยไม่ต้องผ่านห้องนอนของเรา
  • ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเอง
  • เน้นความโปร่งสบาย แต่ก็ยังกั้นได้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกัน แบ่งด้วยบานเลื่อนกระจกที่สูงจากพื้นถึงฝ้า (Full Height)
  • มี Bay Window พื้นที่นั่งทำงานริมหน้าต่างแทนระเบียง รองรับการทำงานที่บ้านได้จริง
  • มีระเบียงสำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Condensing Unit

ประตูห้องพักอาศัยเป็นประตูลายไม้ ด้านบนวงกบมีป้ายเลขที่ทางซ้ายมือค่ะ มือจับเป็น Digital Door Lock ระบบ Key Card, Password จาก igloohome

เข้าห้องมาแล้วส่วนแรกเราจะเจอกับห้องครัวก่อนค่ะ เป็นห้องครัวมีประตูบานเลื่อนกันปิด สามารถทำอาหารได้จริง กลิ่นไม่ฟุ้งกระจายภายในห้องมากนัก การที่ครัวอยู่ด้านหน้าห้องมีข้อดี คือ เวลาที่เราซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บในตู้ได้เลย ไม่ต้องหิ้วของเดินผ่านห้องนั่งเล่น และห้องครัวด้านหน้ายังเป็นเหมือนห้องกั้นพื้นที่ส่วนตัวทางด้านใน เวลาเปิดประตูอยู่คนข้างนอกที่เดินผ่านมาก็จะมองไม่เป็นด้านในห้องของเราด้วยค่ะ

พื้นห้องครัวเป็นพื้นกระเบื้องดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย เนื่องจากทนน้ำและรอยขูดขีดได้ดีค่ะ

ภายในห้องครัวทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้ด้านหนึ่งค่ะ เป็นครัวแบบตัว I โดยจะมีตู้เก็บของชั้นบน ชั้นล่าง พร้อม Backsplash เป็นกระเบื้องกันน้ำมันและคราบสกปรก ทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำค่อนข้างกว้างสามารถวางตู้เย็น หรือชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมได้ค่ะ

บริเวณเคาน์เตอร์ครัววัสดุเป็น Top หินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจานมาให้ 1 จุด สามารถปิดเพื่อเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารได้ พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัวแบบด้านข้าง ใช้งานพร้อมกันได้สะดวก และเครื่องดูดควัน (ระบบดูดอากาศออกด้านนอก) จาก MEX หน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

Image 1/3
ชั้นเก็บของภายในครัว

ชั้นเก็บของภายในครัว

ชั้นวางของด้านบนเป็นตู้เก็บของที่มีชั้นวางสเตนเลสมาให้ วางจาน ชามได้สะดวกนะคะ ส่วนช่องตรงกลาง แบ่งเป็นชั้นๆ เหมาะกับวางเครื่องปรุง หรืออุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ มีบานปิดมิดชิดทั้งหมดเป็นแบบ Soft Close เวลาปิดไม่กระแทกเสียงดัง

ส่วนตู้เก็บของด้านล่างมีช่องวางเครื่องไมโครเวฟมาให้ทางขวามือ ช่วยประหยัดพื้นที่บน Top เคาน์เตอร์ได้ พร้อมลิ้นชักเก็บช้อน ส้อม ที่ให้มาค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ ใต้อ่างล้างจานมีช่องเก็บของชิ้นใหญ่สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ พร้อมกับมีถังขยะติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว

ภายในห้องน้ำมีการเลือกใช้กระเบื้อง 2 โทน ทำให้มีลูกเล่นมากขึ้น พื้นลดระดับลงเล็กน้อย แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน พร้อมฉากกั้นกระจกมาให้ค่ะ

จุดเด่นภายในห้องน้ำของโครงการนี้คือกระจกทุกบ้านจะสามารถเปิดไฟได้ เวลาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนไม่อยากเปิดไฟห้องน้ำให้แยงตา สามารถเปิดไฟกระจกแทนได้ค่ะ นอกจากนั้นยังสามารถเก็บของด้านใน และเสียบปลั๊กไดร์เป่าผมได้อีกด้วย

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างทรงกลม วางบนเคาน์เตอร์พร้อมลิ้นชักเก็บของ พวกสกินแคร์ต่างๆได้ค่ะ ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ ทั้งหมดจากแบรนด์ Kohler

พื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกั้นมาให้แล้วนะคะ ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นมาเลอะส่วนแห้งจนต้องมาทำความสะอาดบ่อยๆ พื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.90 x 1.50 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้สบายๆ

ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Englefield และชั้นวางของด้านข้างผนัง พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ถัดเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอน โดยห้องนี้จะได้ความโปร่งกว้าง เพราะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก แบบ Full Hight สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ประมาณ 2.70 เมตร ทำให้แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากหน้าต่างเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นได้ทั่วถึง

ภายในห้องปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้เชื่อมต่อไปจนถึงห้องนอนค่ะ โดยภายในห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 2.60 x 4.10 เมตร สามารถแบ่งได้เป็น 2 ฟังก์ชัน คือโซฟานั่งเล่น และพื้นที่โต๊ะรับประทานอาหารแบบในห้องตัวอย่างค่ะ

Image 1/4
พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่น

สำหรับพื้นที่นั่งเล่นเหมาะกับโซฟา 2 ที่นั่ง และชั้นวาง TV ค่ะ สามารถวางโต๊ะกลางตัวเล็กๆ เพิ่มเติมได้ โดยจะมีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.00 – 2.50 เมตร แล้วแต่การจัดวางนะคะ เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ42 – 52 นิ้ว

Image 1/2
พื้นที่รับประทานอาหาร

พื้นที่รับประทานอาหาร

ด้านหลังสามารถทำเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้สบายๆ โดยจะปรับเป็นพื้นที่นั่งทำงานด้วยก็ไม่มีปัญหานะคะ

ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจก 3 ตอน เปิดเชื่อมต่อกันได้กว้าง เหมาะกับคนที่ชอบห้องโปร่งๆ ไม่เน้นความเป็นส่วนตัวมากนัก

ภายในห้องนอนเองก็จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากภายนอกอย่างทั่วถึง เพราะโครงการนี้เป็นกระจกแบบ Full Height ทั้งหมดเลยค่ะ คนที่ชอบความโปร่งสบาย มองเห็นวิวได้เยอะๆ น่าจะถูกใจเลย

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องนอน

บรรยากาศภายในห้องนอน

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ประมาณ 4.10 x 4.60 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวค่ะ สำหรับห้อง 1 Bedroom ในเมืองแบบนี้ สามารถวางเตียงใหญ่ 6 ฟุต ได้สบายๆ ด้านข้างสามารถวางโต๊ะข้างเตียง และโต๊ะทำงานเพิ่มเติมได้

ในห้อง Type นี้เป็นห้องที่นำพื้นที่ระเบียงภายนอกเข้ามาเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในนะคะ ทำให้มีพื้นที่บริเวณ Bay Window ประมาณ 1.00 x 2.70 เมตร  สำหรับทำเป็นมุมทำงาน มุมนั่งเล่นได้

บริเวณนี้จะได้แสงสว่างส่องเข้ามาเพียงพอ เพราะเป็นกระจกแบบเข้ามุม ทำให้มองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้นด้วยค่ะ

ปลายเตียงเป็นพื้นที่ว่างเราสามารถออกแบบให้เป็นมุม Walk-in Closet หรือวางชั้นวาง TV อีกจุดหนึ่งก็ได้ค่ะ ส่วนด้านข้างเป็นพื้นที่ระเบียงสำหรับ Condensing Units ซึ่งเป็นประตูกระจกทั้งหมด ทำให้ภายในห้องดูไม่คับแคบ

แม้ว่าห้องนี้จะไม่เน้นพื้นที่ระเบียงมากนัก แต่ก็ยังมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Condensing Unit มาให้นะคะ ถือว่าใช้งานได้คุ้มค่าทุกตารางเมตรเลย ถ้าใครอยากตากผ้าก็แนะนำว่าให้ใช้เป็นแบบราวแขวน หรือเชือกติดกับผนังค่ะ


1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตร.ม. (แบบมีระเบียง)

ห้องนี้จะมีฟังก์ชันเหมือนกับห้องที่ผ่านมาเลยค่ะ แต่จะเป็นแบบที่มีพื้นที่ระเบียงด้านนอก สามารถออกไปยืนชมวิว สูดอากาศ และตากผ้าที่ระเบียงได้ เหมาะกับคนที่ชอบซัก-ตากผ้าเอง อาจจะชอบปลูกต้นไม้ วางกระถางต้นไม้ตกแต่งห้อง เป็นต้น

Image 1/14
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตร.ม. (แบบมีระเบียง)

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตร.ม. (แบบมีระเบียง)


2 Bedrooms (M) พื้นที่ใช้สอย 101.00 ตร.ม.

ห้องนี้เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุดในโครงการเลยค่ะ มีแค่ 2 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ห้องนี้เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 2 – 4 คน ชอบพื้นที่ Common Area ดูโปร่งสบาย ชอบห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ชอบห้องครัวปิด ทำอาหารแล้วกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย เป็นต้น

  • Common Area กว้าง ดูโปร่งสบายจากช่องแสงขนาดใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง เปิดเชื่อมต่อระเบียงด้านนอกได้
  • ห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ Common Area ทำเป็นมุมทำงานส่วนตัว หรือมุมเลี้ยงลูกน้อยได้
  • มีพื้นที่ระเบียง ติดกับห้องนั่งเล่นพร้อมกระถางต้นไม้คอนกรีตรองรับการปลูกไม้ยืนต้นได้
  • ได้ครัวปิด สามารถทำอาหารได้จริงจังมากขึ้น กลิ่นฟุ้งกระจายในห้องน้อยลง
  • มีห้องเก็บของที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้
  • Master Bedroom มีห้องน้ำและพื้นที่ Walk-in Closet ส่วนตัวใช้งานสะดวก
  • ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำ
  • มีห้องนอนที่ 2 รองรับสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น

สำหรับห้องนี้เป็นห้องขนาดใหญ่นะคะ เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนที่เป็นโถงทางเข้าก่อน โดยด้านข้างสามารถ Built-in ชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมได้

ภายในห้องปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้ และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.70 เมตร เช่นกันค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องครัวทางขวามือนะคะ ถือว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมเวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บในครัวได้สะดวก

เป็นครัวปิดที่มีประตูกระจกกั้นมาให้เรียบร้อย  สามารถทำอาหารที่มีกลิ่นได้โดยไม่ฟุ้งกระจายมากนัก เหมาะกับคนที่ทำอาหารกินเองบ้าง ชอบความเป็นสัดส่วน ภายในครัว Built-in เป็นเคาน์เตอร์ตัว L สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้เลยค่ะ

ส่วนแรกบนเคาน์เตอร์จะเป็นโซนเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน (ระบบดูดอากาศออกด้านนอก) จาก MEX พร้อมกรุ Backsplash กระเบื้องด้านหลังกันน้ำมันและคราบสกปรก ทำความสะอาดได้ง่ายมาให้เรียบร้อย

ชั้นวางของด้านบนแบ่งเป็นแบบมีบานปิดและไม่มีบานปิดสำหรับของที่ใช้งานบ่อยๆ ส่วนด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บจาน ชาม ช้อนส้อม และช่องสำหรับวางไมโครเวฟค่ะ

ส่วนเคาน์เตอร์ด้านยาวมีพื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น สามารถวางหม้อหุงข้าว กาต้มน้ำเพิ่มเติมได้ ด้านข้างมีอ่างล้างจาน พร้อมฝาปิดมาให้จาก MEX

ชั้นวางของด้านบนเป็นตู้เก็บของที่มีชั้นวางสเตนเลสมาให้เหมือนกับในห้อง 1 Bedroom ค่ะ นอกจากนั้นยังแบ่งช่องมาให้เก็บของเป็นหมวดหมู่ได้สะดวก สำหรับของชิ้นใหญ่อย่างกระทะ หรือหม้อก็สามารถเก็บที่ตู้ด้านล่างได้เลย

ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำตรงกลางสำหรับ Common Area และห้องนอนรองนะคะ ภายในมีการตกแต่งเหมือนกับในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ มีการแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน พร้อมฉากกั้นกระจกมาให้

พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยเวลาทำความสะอาดน้ำจะได้ไม่ไหลออกมาสู่ด้านนอก ภายในห้องน้ำได้กระจกเงาสามารถเปิดไฟได้ นอกจากนั้นยังสามารถเก็บของด้านใน และเสียบปลั๊กไดร์เป่าผมได้อีกด้วยค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างทรงกลม วางบนเคาน์เตอร์พร้อมลิ้นชักเก็บของ ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ และที่แขวนกระดาษชำระ ทั้งหมดจากแบรนด์ Kohler

พื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกั้นมาให้แล้วนะคะ มีขนาดประมาณ 0.90 x 1.45 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อน จาก Englefield และชั้นวางของด้านในผนังมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ

Image 1/2
พื้นที่เก็บของ

พื้นที่เก็บของ

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของห้อง 2 Bedroom ในโครงการนี้คือมีพื้นที่เก็บของที่สามารถกั้นปิดสำหรับวางเครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้เป็นระเบียบเรียบร้อยค่ะ

ถัดมาเรามาดูพื้นที่ Common Area กันก่อนนะคะ ห้องนี้เป็น Type ที่มีห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ อยู่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศภายในห้องอเนกประสงค์

บรรยากาศภายในห้องอเนกประสงค์

โดยห้องอเนกประสงค์จะกั้นด้วยบานเลื่อนกระจก Full Height เข้ามุมทำให้เปิดแล้วดูโล่งเชื่อมต่อกับภายนอกได้กว้างเลยค่ะ

ภายในมีพื้นที่ประมาณ 2.8 x 3.95 เมตร ซึ่งตามกฎหมายแล้วสามารถทำเป็นห้องนอนที่ 3 ได้เลยค่ะ (มีพื้นที่มากกว่า 8 ตารางเมตร) ถือว่ากว้างมากๆ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลายตามความต้องการของเจ้าของห้องได้เลย

ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบายๆ มีทางเดินรอบด้านไม่อึดอัดเลยค่ะ

ด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นอีกจุด Highlight หนึ่งก็ว่าได้ เพราะเป็นห้อง Type เดียวในโครงการที่มีช่องแสงเต็มผนังทั้ง 2 ฝั่งค่ะ โดยฝั่งหนึ่งจะติดกับระเบียง ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้อง และมองเห็นวิวภายนอกได้กว้าง อีกทั้งยังเชื่อมต่อออกไปยืนรับอากาศธรรมชาติภายนอกได้ด้วยค่ะ

พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 3.55 x 3.90 เมตร สามารถวางโซฟา 3 – 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ และชั้นวาง TV ได้สบายๆ เลยค่ะ ระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.00 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 50 – 60 นิ้วขึ้นไปได้เลย

Image 1/2
ช่องแสงภายในอาคารจากชั้น 28

ช่องแสงภายในอาคารจากชั้น 28

อีกฝั่งหนึ่งของห้องนั่งเล่นจะเห็นช่องแสงธรรมชาติ ที่เชื่อมต่อกันจนถึงชั้น 28 เลยค่ะ ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งกว้างแต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัว มีเพียง 2 ยูนิตต่อชั้น ที่อาคาร B ชั้น 8 – 27 เท่านั้นค่ะ

Image 1/2
ระเบียงห้อง 2 Bedroom 101 ตร.ม.

ระเบียงห้อง 2 Bedroom 101 ตร.ม.

พื้นที่ระเบียงมีขนาดใหญ่ 0.95 x 3.90 เมตร สามารถออกไปใช้งานได้จริง พื้นปูด้วยกระเบื้องทำความสะอาดได้ง่าย ด้านข้างมีพื้นที่วาง Condensing Units กันเป็นสัดส่วน และมีกระถางต้นไม้คอนกรีตรองรับการปลูกไม้ยืนต้นได้อีกด้วยค่ะ

เรามาดูห้องนอนใหญ่กันบ้างค่ะ บรรยากาศภายในห้อง Master Bedroom นี้จะเหมือนกับอยู่บ้านแนวราบเลยนะคะ เพราะมีพื้นที่กว้างขนาดประมาณ 4.00 x 4.40 เมตร และมีช่องแสงขนาดใหญ่ด้านข้าง พร้อมกระจกตัดแสงลดความร้อน และช่องเปิดระบายอากาศได้ 1 จุด

Image 1/3
Master Bedroom

Master Bedroom

สามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และเก้าอี้นั่งเล่นปลายเตียงเพิ่มเติมได้เลย

ภายในห้อง Master Bedroom สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นโซน Walk-in Closet ได้แบบเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวกค่ะ

โดยทางโครงการไม่ได้ Built-in มาให้นะคะ แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง แม้จะ Built-in ตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ฝั่งก็ยังเหลือพื้นที่เดินและแต่งตัวได้สบายๆ

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom ขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำห้องอื่นๆ ค่ะ เพราะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย

ส่วนอุปกรณ์ภายในห้องน้ำอื่นๆ จะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำแบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ มีอ่างอาบน้ำที่สามารถนั่งยืดขาได้สบายๆ พร้อมฝักบัวและก๊อกน้ำรองรับน้ำร้อน-น้ำเย็นได้

ส่วนพื้นที่อาบน้ำกั้นเป็นกระจกแบบไร้ขอบมาให้ดูสวยงาม มีพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.90 x 1.00 เมตร ยืนอาบได้พอดีๆ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Englefield และชั้นวางของด้านข้างแบบติดผนังมาให้ค่ะ

Image 1/3
ห้องนอนรอง

ห้องนอนรอง

ห้องนอนรองมีขนาดประมาณ 3.00 x 3.40 เมตร สามารถวางเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้เลยนะคะ นอกจากนั้นยังได้ผนังกระจกเข้ามุมด้วย นอนมองเห็นวิวภายนอกได้เลย


2 Bedrooms (M) พื้นที่ใช้สอย 82.50 ตร.ม.

เป็นห้อง 2 Bedroom พร้อมห้องอเนกประสงค์ที่อยู่มุมอาคารทางทิศเหนือ (อาคาร B) มองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่มีสมาชิก 2 – 4 คน ชอบพื้นที่นั่งเล่นกว้าง ทำอาหารไม่บ่อยนัก ไม่ต้องการครัวปิด ต้องการ 2 ห้องนอนและห้องทำงานแยกเป็นส่วนตัว เป็นต้น

  • Common Area กว้าง จัดเป็นพื้นที่ครัว รับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกันได้
  • มีพื้นที่ระเบียง ติดกับห้องนั่งเล่น สามารถตากผ้าหรือออกไปยืนชมวิวภายนอกได้
  • มีห้องเก็บของที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้
  • Master Bedroom มีห้องน้ำและพื้นที่ Walk-in Closet ส่วนตัวใช้งานสะดวก
  • ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำ
  • มีห้องนอนที่ 2 รองรับสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น
  • มีห้องอเนกประสงค์ ทำเป็นห้องทำงานหรือห้องออกกำลังกายได้

Image 1/15
บรรยากาศภายในห้อง 2 Bedrooms (M) พื้นที่ใช้สอย 82.50 ตร.ม.

บรรยากาศภายในห้อง 2 Bedrooms (M) พื้นที่ใช้สอย 82.50 ตร.ม.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

XT Phayathai (เอ็กซ์ที พญาไท) ราคา ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565

  • XT พญาไท ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom (S) พื้นที่ใช้สอย 25.25 – 33.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 40.50 – 49.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (S) พื้นที่ใช้สอย 61.00 – 74.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (M) พื้นที่ใช้สอย 82.25 – 101.00 ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood
  • มีรถ Shuttle Service (สอบถามรอบการเดินรถจากทางโครงการ)
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 20 บาท/ตร.ม./เดือน ในปีแรก

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ XT พญาไท ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยาใกล้กับแยกพญาไท เป็นทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง การคมนาคมสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์บนถนนเส้นหลัก ขึ้นทางด่วน หรือเดินทางด้วยรถสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้า รถประจำทาง รวมถึงเรียกผ่าน Application ก็ทำได้ง่าย

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการมีความอุดมสมบูรณ์สูง บริเวณแยกพญาไท เป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงาน สถานที่เรียนพิเศษ และโรงพยาบาลหลายแห่ง เหมาะกับคุณหมอ คุณพยาบาลที่หาคอนโดใกล้ที่ทำงานเลยค่ะ นอกจากนั้นยังเชื่อมต่อไปยังสยาม ชิดลม ที่เป็นศูนย์กลางแหล่งจับจ่ายใช้สอยชั้นนำของชาวกรุงเทพฯ ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวทำได้สะดวก สามารถใช้ถนนเส้นที่สำคัญเดินทางได้ถึง 3 เส้น คือ ถนนศรีอยุธยาเชื่อมต่อถนนจตุรทิศไปพระราม 9 ได้ , ถนนพญาไท เชื่อมต่อจากอนุสาวรีย์ชัยไปจนถึงถนนพระราม 4 ผ่านMBK และสยามได้, ถนนเพชรบุรี มุ่งหน้าไปอโศก – รัชดาฯ ผ่านแยกประตูน้ำ, ชิดลม, และไปเข้าสุขุมวิททางซอยนานาได้

โครงการยังใกล้ทางด่วนหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นด่านสนามเป้า, ด่านอุรุพงษ์(ยมราช) และ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปสนามบินดอนเมืองได้ ภายในโครงการมีที่จอดรถ มาให้ 794 คัน คิดเป็น 55% เป็นที่จอดแบบปกติ ถือว่าให้มาพอดีๆ เหมาะสมกับราคาเพราะสามารถเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หรือรถสาธารณะได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางโดยไม่ใช้รถทำได้สะดวกเนื่องจากโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ มีรถประจำทางผ่าน (ป้ายรถเมล์อยู่ติดกับหน้าโครงการเลย) เรียกวินมอเตอร์ไซค์ หรือ Taxi ก็ง่ายค่ะ นอกจากนั้นยังไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า ประมาณ 650 เมตร ถึง BTS สถานีพญาไท ซึ่งจะเชื่อมกับ Airport Link สถานีพญาไทได้ เดินทางไปสยามเพียง 2 สถานี และเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ง่าย

วัสดุ :

รูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มี Backsplash มาให้ และอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน จาก MEX, ห้องน้ำ สุขภัณฑ์จาก Kohler และเครื่องปรับอากาศให้ทุกยูนิต ภายในห้องปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร ได้กระจกและบานประตูแบบ Full Height

การออกแบบ :

การออกแบบอาคารถือว่าทำได้น่าสนใจค่ะ มีส่วนที่เป็น Open Plan ทำให้โถงทางเดินห้องพักอาศัยระบายอากาศได้ดี มีแสงธรรมชาติเข้าถึง มองเห็นวิวภายในได้ มี Double Volume เป็นโถงสูงตั้งแต่ชั้น 8 ไปจนถึงชั้น 16 นอกจากนั้นยังมีการแบ่งอาคาร เป็น 2 อาคารทำให้ความหนาแน่นแต่ละอาคารลดลง ลูกบ้านสามารถใช้งานส่วนกลางได้แบบเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย

สำหรับห้องพักอาศัยก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ เพราะว่าเขามี Layout ให้เลือกหลากหลาย ห้อง 1 Bedroom มีขนาดใหญ่ประมาณ 40 ตร.ม. กั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน มีให้เลือกทั้งแบบมีระเบียง และไม่มีระเบียงแต่ได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากขึ้น 2 Bedroom มีห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถใช้เป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนที่ 3 ได้ เป็นต้น

สาธารณูปโภค :

Facility ของโครงการนี้ถือว่าให้มาเยอะสมกับจำนวนยูนิตจริงๆ ค่ะ เพราะมีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 4,500 ตร.ม. จุดเด่นอยู่ที่สระว่ายน้ำ 2 สระบนชั้นดาดฟ้า ของทั้ง 2 อาคาร เป็นสระว่ายน้ำแบบ Lap Pool ยาว 25 เมตร มีโซนสระเด็ก Jacuzzi และพื้นที่พักผ่อนชมวิวใจกลางเมืองได้ 180 องศา และมีพื้นที่ Co-Kitchen, Sansiri Backyard, Sky Lounge, Lobby ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาได้น่าใช้งานเลยทีเดียวค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 150,000 – 175,000 บาท/ตร.ม., วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565

  • ทำเล 7.75/10 – ติดถนนใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้และทำเลใกล้เคียง เดินทางสะดวก
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลากเส้นทาง ไม่ไกลจากทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า พญาไท (เป็นสถานี Interchange) มีรถประจำทาง วิน และ Taxi ด้านหน้าโครงการ
  • วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted ตามมาตรฐานราคา
  • แบบ 8.5/10 – โครงการออกแบบได้น่าสนใจ ห้องหลากหลาย พื้นที่ใช้สอยเยอะ ฟังก์ชันลงตัว
  • สาธารณูปโภค 9.25/10 – พื้นที่ส่วนกลางมีหลายฟังก์ชัน กระจายอยู่ในหลายจุด มี Sky Facility สวยน่าใช้งาน พร้อม Co Sharing Facilities กับโครงการ XT อื่นได้

  • HIGH CLASS
  • 7.90 / 10.00

XT พญาไท เหมาะกับใคร

โครงการ XT พญาไท เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดย่านพญาไท – ราชเทวี ที่ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า หาของกินได้ไม่ยาก ใกล้สยาม-จุฬา-อนุสาวรีย์ และใกล้โรงพยาบาลหลากหลาย ชอบโครงการที่มี Facilities จัดเต็มเน้นชมวิวได้หลายจุด ชอบการ Sharing Facilities ทำให้นัดพูดคุยธุระหรือนั่งทำงานต่างทำเลได้ เป็นต้น นอกจากนั้นโครงการมีห้อง Layout ให้เลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ลูกบ้านได้หลากหลาย มีงบประมาณระดับ 4.59 – 15 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 30,000 – 100,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc