รีวิวตึกเสร็จ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ คอนโด High Rise ห้อง Loft ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย บนถนนศรีนครินทร์ จาก Richy Place [รีวิวฉบับที่ 2214] 

ข้อมูลโครงการ The Rich Rama 9-Srinakarin (เดอะริช พระราม 9-ศรีนครินทร์)  

30 March 2021 

พิกัด Google Maps : 13.737956, 100.641761
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลที่ตั้งโครงการ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ ปากซอยศรีนครินทร์ 17 บนถนนศรีนครินทร์เส้นหลัก (ฝั่งขาออก) ใกล้กับบริเวณทางแยกต่างระดับถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนพระราม 9 สามารถใช้ทางด่วนวิ่งเข้าโซนพระราม 9 และยาวไปโซนรัชดาภิเษกได้อย่างสะดวก จากโครงการหากวิ่งตรงไปอีกประมาณ 250 เมตร ก็จะเจอกับแยกพัฒนาการ สามารถวิ่งเข้าถนนพัฒนาการฝั่งขาเข้าเพื่อเชื่อมต่อเข้าเมืองไปจนถึงแยกคลองตันได้ จากแยกคลองตันก็จะเชื่อมไปกับถนนได้อีกหลายสายเลย ไม่ว่าจะเป็นถนนเพชรบุรีตัดใหม่, รามคำแหง และสุขุมวิท 71 วิ่งเข้าสุขุมวิทเส้นหลักได้ง่ายค่ะ

หรือถ้าใครอยากออกนอกเมืองก็สามารถใช้ถนนศรีนครินทร์วิ่งตรงต่อไปทางใต้ เพื่อไปเชื่อมกับโซนสุขุมวิท บางนา และสมุทรปราการ ส่วนถนนพัฒนาการฝั่งขาออกสามารถใช้เดินทางสู่ถนนกรุงเทพกรีฑาและเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เข้าลาดกระบัง กิ่งแก้ว ร่มเกล้า ยาวไปจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงออกไปยังจังหวัดทางภาคตะวันออกได้ค่ะ

การเดินทางที่เป็นจุดเด่นหลักๆในทำเลนี้ก็คงจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่มีพาดผ่านถึง 3 สายด้วยกัน โดยจะอยู่ระยะที่เดินได้ใกล้ๆ ไม่ลำบาก อย่างรถไฟฟ้าที่เปิดให้ใช้บริการในปัจจุบัน ได้แก่ Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ตัวสถานีอยู่ห่างจากโครงการไปแค่ 200 เมตรเท่านั้นเองค่ะ ส่วนหน้าโครงการที่กำลังก่อสร้างกันอยู่คือเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีที่อยู่หน้าโครงการคือสถานีพัฒนาการ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้ ราว 1-2 ปีข้างหน้านี้ และอีกเส้นทางหนึ่งคือรถไฟสายชานเมืองสีแดงอ่อน ที่จะวิ่งเชื่อมฝั่งตะวันตก-ตะวันออกของกรุงเทพฯและปริมณฑล โครงการนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง หากในอนาคตมีความคืบหน้า Thinkofliving จะ Update ให้ทราบกันอีกครั้งนะคะ

รถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ซึ่งอยู่ข้างโครงการ

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่กำลังก่อสร้างอยู่บนถนนศรีนครินทร์

นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว บนถนนศรีนครินทร์ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของย่านนี้จะมีรถโดยสารสาธารณะวิ่งผ่านตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือใครจะเรียกรถผ่านแอพก็สะดวก มีให้บริการค่อนข้างเยอะ แต่ถนนหน้าโครงการอาจจะมีรถติดบ้างเนื่องจากปัจจุบันกำลังก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบนแนวถนนศรีนครินทร์ ยังไงก็อดใจรออีกสักนิดนะคะ คาดว่าพอเปิดใช้งานรถไฟฟ้าก็จะมีส่วนช่วยให้การจราจรในย่านนี้คล่องตัวยิ่งขึ้นค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ นอกจากจะมีร้านค้าในโครงการ ต้องบอกเลยว่าหายห่วงเลยค่ะ เพราะใกล้ๆโครงการจะมี Max Valu Supermarket พัฒนาการ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแยกพัฒนาการ อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 250 เมตร สามารถเดินเท้าไปได้อย่างสบายๆ ซึ่งในโซนนี้มีทั้ง Supermarket ขนาดใหญ่, ร้านค้า, ร้านอาหาร และธนาคาร เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมแหล่งจับจ่ายใช้สอยของคนในย่านนี้ก็ว่าได้

ส่วนความอุดมสมบูรณ์อื่นๆ ห้างสรรพสินค้าใหญ่จะอยู่อิงไปทางถนนพัฒนาการ ได้แก่ ห้าง Seacon Square,Paradise Park , Haha Mall อีกฝั่งทางด้านถนนพระราม 9 ก็จะใกล้ The Nine พระราม 9 นอกนั้นก็จะมี Community Mall อื่นๆที่อยู่ใกล้ๆเคียงโครงการ ได้แก่ Thanya Park, Anne’s Place, London Street และ Pickadaily สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนและ Shopping กันได้ ส่วนสถานศึกษาและโรงพยาบาลก็มีอยู่หลายแห่งด้วยกันค่ะ การใช้ชีวิตในย่านนี้จึงค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับการเดินทางมายังโครงการ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ ของเราในครั้งนี้ ได้ใช้ทางด่วนศรีรัชขับขนานมาตามแนวเส้นทางพระราม 9 จากนั้นขับลงมายังทางแยกต่างระดับถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ขับตรงต่อไปประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอกับโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ หากได้ไม่ยากค่ะ สังเกตง่ายๆจะเป็นอาคารสูง อยู่ก่อนเยื้องๆกับตัวสถานีพัฒนาการที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ด้านหน้าโครงการ จะอยู่ติดกับถนนศรีนครินทร์ ซึ่งจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศใต้ ด้านข้างทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออก จะติดกับที่สาธารณะและที่ของการรถไฟไทย ปัจจุบันเป็นแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและพื้นที่ของสถานีหัวหมาก Airport Rail Link ถัดไปจะเจอกับแยกทางขึ้นลงยกระดับ และพื้นที่สวนหย่อมสีเขียว ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะของกรุงเทพมหานครยาวไปไกลพอสมควร ดังนั้นวิวทางด้านนี้จะเปิดโล่ง ไม่มีตึกสูงบดบัง ห้องพักที่หันมาทางโซนนี้จะเห็นวิวธรรมชาติ ได้ทิศทางลมที่ดี

ส่วนด้านข้างอีกฝั่ง ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้จะเจอกับอาคารสูง ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโครงการเพื่อนบ้าน (ขายหมดแล้ว) ซึ่งมีระยะห่างพอสมควร ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดจนเกินไป คั่นกลางระหว่างโครงการโดยโรงแรม ZAYN สูง 8 ชั้น อยู่ช่วงต้น ดังนั้นห้องพักอาศัยที่อยู่บริเวณชั้น 9 จะถูกวางอยู่โซนด้านหลังแทน ส่วนโซนด้านหน้าจะวางเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ห้องพักอาศัยของโครงการ The Rich จะไม่ถูกบดบังวิวทั้งหมด ถัดจากโรงแรมจะเป็นโครงการพักอาศัย 4 ชั้น และมัสยิด ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นโซนด้านหลังโครงการ ซึ่งจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับโครงการเดิมของ Richy Place เช่นกัน นั่นก็คือ Rich Park @Triple Station

เราได้ถ่ายภาพวิวทิศทางต่างๆจากบนอาคารชั้นดาดฟ้ามาให้ดูกันใน Album นี้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ศูนย์การค้าและแหล่งจับจ่ายใช้สอย

• Max Valu Supermarket พัฒนาการ ~ 290 เมตร
• Thanya Park ~ 1.3 กิโลเมตร
• Anne’s Place ~ 3.3 กิโลเมตร
• London Street ~ 3.4 กิโลเมตร
• Tesco Lotus พัฒนาการ ~ 3.6 กิโลเมตร
• Seacon Square ศรีนครินทร์ ~ 4.8 กิโลเมตร
• The Mall บางกะปิ ~5.9 กิโลเมตร
• The Park กรุงเทพกรีฑา ~ 6 กิโลเมตร
• Paradise Park ศรีนครินทร์ ~ 6.1 กิโลเมตร
• The Mall รามคำแหง ~ 7.5 กิโลเมตร
• ตลาดเสรีมาร์เก็ต ~ 8.1 กิโลเมตร
• The Nine Center ~ 8.3 กิโลเมตร

สถานศึกษา

• รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 1.4 กิโลเมตร
• รร.นานาชาติบีคอนเฮาส์แย้มสอาด พัฒนาการ ~ 2.8 กิโลเมตร
• ม.แสตมฟอร์ด ~ 3.3 กิโลเมตร
• รร.นานาชาติเซนต์มาร์ค ~ 4.3 กิโลเมตร
• ม.เกษมบัณฑิต ~ 5.2 กิโลเมตร
• สถาบันเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น ~ 5.3  กิโลเมตร
• รร.สาธิต ม.ราม ~ 7 กิโลเมตร
• ม.รามคำแหง ~ 7.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• รพ.วิภาราม พัฒนาการ ~ 750 เมตร
• รพ.สมิติเวชศรีนครินทร์ ~  4.3 กิโลเมตร
• รพ.รามคำแหง ~ 6.2 กิโลเมตร

โครงการ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 32 ชั้น เพิ่งสร้างเสร็จไปเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ โครงการนี้เเป็น Mixed-use  ที่มีทั้งส่วนของที่พักอาศัยและร้านค้า ลูกบ้านรวมไปถึงคนที่อยู่อาศัยใกล้เคียง สามารถเข้ามาจับจ่ายซื้อของได้อย่างสะดวก โดยจะอยู่บริเวณโซนชั้นล่างของอาคาร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางกระจายอยู่ 3 ชั้นด้วยกัน ได้แก่ ชั้น 9, 30 และ ดาดฟ้า

พื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 9 ประกอบไปด้วยหลายฟังก์ชันด้วยกัน ซึ่งการที่โครงการเอาพื้นที่ส่วนกลางมารวมไว้ที่ชั้นเดียวแบบจัดเต็มแบบนี้ มีข้อดีคือลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้งานหลายๆส่วนได้ โดยไม่ต้องเดินไกล หรือเสียเวลากดลิฟต์ไปชั้นอื่น เช่น นั่งอ่านหนังสือที่ Co-working Space เสร็จ ก็อาจจะไปวิ่งออกกำลังกายที่ห้องฟิตเนสต่อ จากนั้นก็สามารถแวะว่ายน้ำที่สระได้เลย เป็นต้น

ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางส่วนต่างๆเหล่านี้จะอยู่ใกล้ๆกัน ทั้งนี้ลูกบ้านไม่ต้องกังวลเรื่องความแออัดหรือคนเยอะ เพราะพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 9 ให้มาเกือบจะยก Floor เลยทีเดียว ขนาดค่อนข้างกว้าง และแบ่งฟังก์ชันการใช้งานต่างๆออกมาได้อย่างเป็นสัดส่วนดีค่ะ เราขอพาไปดูพื้นที่โครงการเริ่มตั้งแต่ชั้นแรกกันเลย

จากผังชั้น 1 ของโครงการ จะเห็นได้ว่าพื้นที่ของ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ จะอยู่ติดถนนศรีนครินทร์ โดยเป็นโซนเดียวกันกับโครงการรุ่นพี่ อย่างRich Park @Triple Stationซึ่งปัจจุบันขายเกือบหมดแล้วค่ะ ที่ตั้งจะอยู่ติดๆกันเลย ใช้ถนนเข้าออกเดียวกัน ซึ่งเรามองว่าโครงการ The Rich จะสะดวกเข้าออกมากกว่าเพราะอยู่โซนด้านหน้า ใกล้กับถนนใหญ่ โดยรอบโครงการThe Rich จะมีพื้นที่ล้อมรอบอาคาร ลักษณะเป็นพื้นแสตมป์คอนกรีตไว้สำหรับให้รถวิ่งวนมาส่งลูกบ้านหรือคนที่มาร้านค้าข้างล่างอาคารได้ พื้นที่สีเขียวด้านล่างอาคารมีจัดไว้บ้างเล็กน้อย แต่จะไปเน้นอยู่ภายในอาคารส่วนของชั้นส่วนกลาง 30 และดาดฟ้า

ลักษณะของโครงการนี้เป็น Mixed Use เนื่องจากจะมีส่วนของ Shop ร้านค้าอยู่ภายในอาคารด้วย โดยจะอยู่ที่ชั้นน 1-3 ร้านค้ามีจำนวนประมาณ 20 ร้าน เปิดให้ทั้งลูกบ้านและบุคคลภายนอกเข้ามาใช้งานได้ โดยจะมีการแยกส่วนคอนโด กั้นด้วยประตูกั้นทางด้านในอย่างเป็นสัดส่วน เฉพาะลูกบ้านที่มี Key Card เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปได้ ดังนั้นลูกบ้านไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนนอกเข้าไปวุ่นวายบนชั้นพักอาศัย ส่วนด้านหน้าจะเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาใช้บริการร้านค้า สำหรับที่จอดรถของลูกบ้านจะอยู่ภายในอาคาร ชั้น 3-8

บริเวณถนนทางเข้าโครงการ  โดย The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์จะเป็นอาคารแรก ส่วนทางด้านในจะเป็นโครงการ Park Rich @Triple Station

โดยรอบอาคารThe Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ จะมีพื้นที่สำหรับรถวิ่งวนได้ เช่น เวลาแท็กซี่มาส่งคนส่นของ Retail หรือส่งลูกบ้านเข้าคอนโด ก็สามารถมาจอด Drop ที่ด้านหน้าอาคารและวนรถออกได้อย่างสะดวก

พื้นที่ร้านค้าจะอยู่โซนด้านหน้าอาคาร ตั้งแต่ชั้น 1-3 รวมกว่า 2,000 ตารางเมตร รองรับร้านค้าได้ประมาณ 20 ร้าน วันที่เราเข้าไปรีวิวยังก่อสร้างในส่วนนี้ไม่เสร็จดี แต่คาดว่าคงจะเรียบร้อยเร็วๆนี้ เพราะได้ยินมาว่าเริ่มมีร้านค้ามาจับจองพื้นที่บ้างแล้ว

ส่วนของทางเข้า Lobby จะอยู่ขยับไปทางด้านหลังหน่อย ซึ่งส่วนนี้จะเข้าสู่ห้องพักอาศัยได้โดยตรง แต่ทางด้านในก็ยังสามารถเชื่อมพื้นที่กับโซนร้านค้าได้

บรรยากาศบริเวณ Lobby มีการจัดวางชุดโซฟานั่งเล่นไว้ให้ เพดานสูงโปร่ง

ขยับเข้าไปด้านในจะเป็นลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ขึ้นไปสู่โซนห้องพักอาศัย โดยลูกบ้านจะต้องใช้ Key Card ผ่านเข้ามาเท่านั้นอัตราส่วนลิฟต์ อยู่ที่ 1:186

สำหรับผังของชั้น 9 จะเป็นโซน Main Facility ของโครงการ ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีส่วนกลางหลายฟังก์ชันรวมอยู่ที่ชั้นนี้กินพื้นที่มากว่าครึ่ง Floor เลยทีเดียว โดยมีทั้งส่วน Indoor และ Outdoor ลูกบ้านสามารถมาใช้งานที่ชั้นนี้ได้

สำหรับการดีไซน์ตัวอาคารจะมีลักษณะคล้ายๆปีกฝั่งซ้ายและฝั่งขวาแยกออกจากกัน (แต่เป็นอาคารเดียวกัน) เพื่อให้ได้องศาวิวที่แตกต่างกัน ซึ่งห้องพักอาศัยในชั้น 9 จะมีจำนวนยูนิตไม่มากนัก มีเพียง 8 ห้องเท่านั้น โดยจะเป็นแบบห้อง Loft ทั้งหมด วางตัวค่อนไปทางทิศเหนือใต้ ไม่ร้อน ตำแหน่งห้องจะแยกไปทางด้านหลัง (ปีกขวา) ซึ่งจะมีประตูกั้นอีกจุดหนึ่ง เจ้าของห้องในชั้นนี้จะต้องใช้ Key Card เข้าออก เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย

การตกแต่งของลิฟต์จะคุมโทนเป็นสีทอง ให้ความหรูหรา พอขึ้นมาถึงชั้น 9 จะมีการตกแต่งด้วยผนังลายหินอ่อน เพิ่มความ Luxury มากขึ้น เพดานยกสูง ดูโปร่งโล่ง สบาย

พอลิฟต์เปิดออกมาที่ชั้น 9 จะเจอกับพื้นที่โถงใหญ่ๆ แบบนี้ ซึ่งจะแยกฟังก์ชันส่วนกลางต่างๆ อยู่ทั้งทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

โถงส่วนกลางชั้น 9 พื้นที่กว้างมาก ทางโครงการได้จัดวางชุดโต๊ะ เก้าอี้นั่งเล่นเป็นแนวยาว เรียงกันให้หลายจุดเลย มีส่วนที่ลดระดับลงไปด้วย บริเวณนี้จะเป็น Main Lobby ของส่วนกลาง ผนังด้านข้างเป็นกระจกรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เห็นวิวสระว่ายน้ำ

ส่วนที่ลดระดับลงไปนี้จะมีบันไดเดินลงไป พร้อมกับชุดโต๊ะ โซฟาวางไว้ให้ได้ใช้งานกัน ส่วนตัวแล้วเราชอบนะ เพราะจะได้พื้นที่นั่งเล่น คุยงานที่เป็นส่วนตัวดีและเป็นสัดส่วนด้วย ขณะเดียวกันก็ยังสามารถเชื่อมไปกับพื้นที่โถงตรงกลางได้ แถมยังได้วิวสระจากทางด้านข้าง

ห้อง  Co-working Space จะอยู่ใกล้กับห้องนิติบุคคล สามารถมานั่งทำงาน อ่านหนังสือเงียบๆได้

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็น Executive Lounge ซึ่งจะเป็นห้องกว้างๆแยกไปอีกห้องหนึ่ง เค้าวางชุดโซฟาไว้ให้อีกหลายจุดด้วยกัน ผนังกระจกรับแสงสว่าง ช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น ไม่อึดอัด สังเกตได้ว่าโครงการนี้เค้าให้ความสำคัญกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนเยอะเป็นพิเศษเลยนะ รองรับลูกบ้านได้ค่อนข้างทั่วถึง

โซฟานั่งเล่นจัดวางไว้หลายๆมุมด้วยกัน ไม่อยู่ติดกันจนเกินไป ช่วยให้ได้ความเป็นส่วนตัว นั่งคุยงาน หรือนั่งคุยกับเพื่อนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนคนอื่น

พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ เช่น สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องน้ำ ห้องซักผ้า ฯลฯ จะแยกไปอีกฝั่ง

สระว่ายน้ำจะเป็นโซน Outdoor อยู่ทางด้านนอกอาคาร เปิดประตูออกไปจะเจอบรรยากาศประมาณนี้

สระที่นี่เป็นระบบเกลือ แบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ให้เรียบร้อย การออกแบบเน้นรูปทรงเรขาคณิต จากการใช้เส้นสายเชื่อมต่อกันเป็น ตกแต่งด้านข้างด้วยน้ำพุเล็กๆและต้นไม้ปลูกให้โดยรอบ ว่ายน้ำไปก็สามารถมองเห็นวิวพื้นที่สีเขียวด้านทิศเหนือและวันออกเฉียงเหนือทางด้านนอกอาคารได้ ไม่มีตึกสูงบดบัง ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน

สระเด็กจะแยกไปอยู่ทางด้านข้าง ใกล้กับจุดล้างตัว มีขั้นบันไดขึ้นลงได้ง่าย เชื่อมต่อสายตาไปกับพื้นที่นั่งเล่นทางด้านใน Main Lobby ที่เป็นผนังกระจก ผู้ปกครองสามารถมานั่งรอทางด้านในและคอยมองดูเด็กๆว่ายน้ำได้ไปในตัว

สระว่ายน้ำจะเป็นแบบ Half Olympic มีขนาดกว้าง 5.50 x ยาว 26.40 เมตร ว่ายน้ำได้ยาวๆเลยค่ะ เห็นวิวพื้นที่สีเขียวตลอดแนว

ถัดเข้ามาโซนด้าน ห้องแรกที่เจอจะเป็น Game Room โดยทางโครงการได้วางโซฟา พร้อมติดทีวีให้มานั่งเล่นดูหนังที่ห้องนี้ได้ รวมถึงวางโต๊ะพูลไว้ให้ด้วย

โต๊ะโกล์ก็มีเช่นกันค่ะ มานั่งเล่นเกมผ่อนคลายกันได้

ออกจาก Game Room มาจะเจอกับมุมซักผ้า (Laundry Room) ในอนาคตทางโครงการอาจจะมีเครื่องซักผ้ามาวางไว้ให้ลูกบ้านได้ใช้งานที่จุดนี้ด้วยค่ะ

ถัดมาจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งจะมีแยกชาย-หญิง มีอ่างล้างมือ พร้อมติดกระจกให้เรียบร้อย การออกแบบบตกแต่งออกไปทางโทนสีดำและสีทอง ให้ความหรูหรา

ด้านในมีตู้ Locker ให้เก็บของด้วย อย่างเวลามาว่ายน้ำหรือเล่นฟิตเนส ก็สามารถเอาของใช้ สัมภาระ เสื้อผ้าต่างๆมาเก็บไว้ที่นี่ได้

ห้องฟิตเนสจะอยู่ถัดมา ห้องนี้บรรยากาศจะโปร่งโล่งมาก เพราะมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เพดานสูง มาพร้อมผนังกระจกรับแสงได้เต็มที่ เห็นวิวสระว่ายน้ำด้วย โดยทางโครงการได้วางเครื่องออกกำลังกายไว้ให้หลายชิ้นด้วยกัน

เครื่องออกกำลังกายมีทั้งเครื่องปั่นจักรยานและลู่วิ่ง

รวมไปถึงโซน Weight Training ก็มีเช่นกัน

ปิดท้ายชั้น 9 ด้วยห้อง Co-kitchen ห้องนี้จะเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ ที่สามารถทำอาหารจริงจังได้ มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่วางให้ 1 ชุด สำหรับ 6 คนนั่ง ใครอยากปาร์ตี้ นัดเพื่อน นัดครอบครัวมาทานอาหารร่วมกัน ก็สามารถมาใช้งานห้องนี้ได้ค่ะ

ทางโครงการจะมีเคาน์เตอร์ครัวสำหรับวางเตาไฟฟ้า ติดที่ดูดควันให้ด้วย พร้อมมีเตาอบ ตู้เย็น อ่างล้างจานมาให้เรียบร้อย มาทำอาหาร ทำขนมกินกันได้ สำหรับใครที่อยากใช้ห้องนี้ต้องจองกับทางนิติบุคคลก่อน

ต่อไปเรามาดูแปลนห้องพักอาศัยกันสักเล็กน้อย จากลักษณะการวางตัวอาคารจะเยื้องไปในแนวเหนือ-ใต้ ทำให้ห้องพักอาศัยบางส่วนถูกวางตำแหน่งไปเยื้องๆไปในแนวเหนือ-ใต้เช่นเดียวกัน ข้อดีคือทำให้ห้องไม่ร้อนจนเกินไป เวลากลางวันก็จะไม่เจอแสงแดดส่องเต็มมากนัก นอกจากนี้การออกแบบอาคารแยกออกเป็น 2 ส่วน คล้ายมีปีกซ้ายและขวา ก็จะทำให้ได้วิวในทิศทางที่แตกต่างกัน ถ้าเป็นฝั่งทิศเหนือและตะวันออกจะติดกับพื้นที่เปิดโล่ง เห็นพื้นที่สีเขียว ไม่มีตึกสูงใกล้เคียงเลย บรรยากาศทางด้านนี้จึงค่อข้างโปร่ง เช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนกลางชั้น 9 ส่วนใหญ่จะหันเปิดไปทางทิศเหนือและตะวันออก ได้บรรยากาศดีเลยทีเดียวค่ะ

บรรยากาศโถงทางเดินของห้องพักแต่ละชั้น เฉลี่ยห้องพักแต่ละชั้นจะมีจำนวนไม่เท่ากัน โดยจะสูงสุดอยู่ที่ 26 ห้องต่อชั้น ด้วยการแบ่งโซนอาคารออกเป็นโซนปีกซ้ายและขวา เพื่อให้ได้องศาและตำแหน่งห้องที่แตกต่างกัน ทำให้พื้นที่ชั้นหนึ่งๆนั้นห้องพักอาศัยจะไม่ได้เรียงอยู่ในแนวเดียวกันทั้งหมด แต่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน (ที่จะอยู่แนวเดียวกัน) โซนหนึ่งก็เฉลี่ยที่ประมาณ 11-15 ห้องค่ะ

ส่วนของ Mail Box โครงการนี้จะอยู่แยกไปในแต่ละชั้นเลย โดยจะติดอยู่ที่หน้าลิฟต์ ซึ่งจะแตกต่างจากโครงการอื่นๆที่เรามักจะเห็น Mail Room อยู่รวมกันทั้งหมดที่ชั้น 1 สำหรับที่นี่การที่เค้าแยก Mail Box มาให้แต่ละชั้นก็จะทำให้ลูกบ้านเวลาที่ออกจากลิฟต์ ก็จะสามารถเดินมาหยิบจดหมายของตัวเอง และเดินกลับเข้าห้องได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

จากมุมด้านในอาคาร สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำ ได้บรรยากาศที่ดีเลยทีเดียว

เรามาซูมให้ดูแปลนชั้น 30 ชั้นนี้จะมีส่วนของห้องพักอาศัยและสวนหย่อมกลางแจ้ง สามารถมารับลมชมวิวที่ชั้นนี้ได้ค่ะ ทั้งนี้พื้นที่สวนและห้องพักจะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ห้องพักอาศัยมีเพียง 10 ห้อง

บรรยากาศสวนบนชั้น 30 ได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีการตกแต่ง Landscape สวยงาม ทำพื้นทางเดินให้โดยรอบ พร้อมลงหญ้าและต้นไม้ตกแต่งต่างๆให้หลายจุด

มีการทำขั้นบันได ไล่เป็นระดับแบบนี้ให้ลูกบ้านมานั่งเล่น เดินเล่นกันได้ แต่แนะนำว่ามาช่วงเย็นๆจะดีกว่า เพราะจะกลางวันร้อนมาก นอกจากนี้บนชั้นดาดฟ้าก็ยังมีพื้นที่สวนให้อีกจุดหนึ่ง สามารถคลิกดูภาพบรรยากาศเพิ่มเติมได้ใน Album นี้ค่ะ

นอกจากนี้เรายังได้เก็บภาพบรรยากาศวิวโดยรอบอาคาร จากบริเวณชั้นดาดฟ้ามาให้ดูกันด้วย ในภาพรวมโดยรอบโครงการจะมีตึกสูงเพียงบางส่วน ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่โล่งและเป็นชุมชนแนวราบ อย่างทางทิศเหนือและตะวันออกจะสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวที่อยู่ใกล้เคียงได้ ส่วนอีกด้านทางทิศใต้และตะวันตก จะเป็นวิวเมืองและอาคารสูงที่อยู่ใกล้เคียงแต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดเกินไป พร้อมเห็นบรรยากาศบนถนนศรีนครินทร์และชุมชนแนวราบ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Lobby
• สวนหย่อมที่ชั้น 30 และดาดฟ้า
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด กว้าง 5.50 x ยาว 26.40 เมตร พร้อมแบ่งสระเด็ก
• ห้องออกกำลังกาย (Fitness)
• ห้องประชุม
• Co-working Space
• Co-kitchen
• Executive Lounge
• พื้นที่ร้านค้า Retail ชั้น B1-3 ขนาดพื้นที่รวม 2,248 ตารางเมตร (20 ร้านค้า)
• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 186:  1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 40% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

ห้องพักอาศัยในโครงการ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ ขายแบบ Fully Fitted โดยจะได้เฟอร์นิเจอร์เคาน์เตอร์ครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แบบห้องที่เปิดขายในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แบบ คือ

• Mono 1 Bedroom  ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
• Loft 1 Bedroom ฝ้าเพดานสูงสุด 4.4 เมตร
• Loft 2 Bedroom ฝ้าเพดานสูงสุด 4.4 เมตร

โดยแต่ละแบบจะมี Layout แยกย่อยไปอีก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ เว็บไซต์โครงการ  แต่ภาพรวมลักษณะการจัด Layout ของห้องแต่ละแบบย่อยนั้นก็จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันที่ขนาดและตำแหน่งห้อง ซึ่งห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมจะมีครบทั้งหมด 3 แบบเลยค่ะ

Loft 1 Bedroom ขนาด 37.68 ตารางเมตร

แบบห้องนี้จะได้พื้นที่ใช้สอย ชั้นล่างประมาณ 26 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นห้องครัวปิด กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนอย่างเป็นสัดส่วน เพดานจุดนี้จะ Drop ลงมาอยู่ที่ 2 เมตรกว่าๆ ใกล้ๆกันมีส่วนของห้องน้ำและห้องเก็บของ ขยับเข้ามาทางด้านในจะเป็นโซนรับประทานอาหารและ Living Area ฝ้าเพดานส่วนนี้จะสูงถึง 4.4 เมตร โปร่งโล่ง เห็นชั้นลอยทางด้านบน ได้ Feel เหมือนอยู่บ้าน ริมสุดจะเป็นกระจกบานใหญ่รับแสงได้เต็มที่และพื้นที่ระเบียงค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะมีบันไดเดินขึ้นเป็นส่วนของห้องนอน พื้นที่นี้จะอยู่ที่ประมาณ 11 ตารางเมตร สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ สามารถปรับทิศทางวางเตียงได้ตามความเหมาะสม โดยด้านข้างยังมีพื้นที่เหลือ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะวางโคมไฟ เป็นต้น อยู่ที่ชั้นนี้จะได้บรรยากาศโปร่งเช่นกัน โดยสามารถมองเห็นพื้นที่ชั้นล่างเป็นมุมกว้าง พร้อมรับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามาได้อย่างเต็มที่ แต่ห้องแบบ Loft อาจมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ว่าชั้นลอยต้องติดแอร์เพิ่มเติม ไม่อย่างนั้นอาจจะร้อนได้ นั่นทำให้ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนของการติดตั้งแอร์เพิ่มและค่าไฟต่อเดือนที่ต้องจ่ายมากกว่าห้องปกติ รวมไปถึงการตัดผ้าม่านติดกระจกที่เป็นบานใหญ่ ก็ต้องสั่งตัด Size พิเศษตามไปด้วย

เริ่มจากทางเข้าห้องจะได้เป็นประตูไม้สำเร็จรูป พร้อม Digital Door Lock

Digital Door Lock เป็นของแบรนด์ Hafele ให้มาเป็นมาตรฐานทุกห้อง สามารถเข้าได้โดยการกดรหัส, Scan ลายนิ้วมือ และใช้ Keycard

พื้นที่ส่วนแรกของห้องจะเป็นครัวปิด ซึ่งจะเชื่อมกับโซนรับประทานอาหารทางด้านใน

ห้องครัวได้เป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยป้องกันกลิ่นและควัน เวลาทำอาหารหนักๆจะได้ไม่เข้าไปรบกวนภายในห้อง พื้นห้องได้เป็นพื้นไวนิลทั้งชั้นบนและชั้นล่าง คุณสมบัติกันน้ำ กันปลวก 100%

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้หน้าเป็นแบบนี้ Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ทำความสะอาดได้ง่าย กันน้ำ กันความร้อน ด้านบนติด Built-in เก็บของไว้ให้ด้วย

ส่วนด้านล่างก็เป็นตู้เก็บของเช่นกัน สามารถเก็บข้าวของต่างๆได้ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

มาพร้อมอ่างล้างจาน เปิดปิดฝาได้ ช่วยเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้นและป้องกันกลิ่น

นอกจากนี้ยังได้เตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน (แบบระบายอากาศในตัว) ของแบรนด์ TEKA

ฝั่งตรงข้ามสามารถวางตู้เย็นและตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้าไว้ได้อย่างพอดี

ขยับเข้ามาทางด้านในจะเป็นโซนรับประทานอาหาร วางโต๊ะ เก้าอี้ได้ทางฝั่งขวามือ

สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 คนนั่งได้กำลังดี โดยยังเว้นระยะเดินได้อย่างไม่อึดอัด

ส่วนด้านตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำและห้องเก็บของ

มาดูห้องน้ำกันก่อน จะได้สุขภัณฑ์ครบเลยค่ะ ทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ กระจกติดผนังบานใหญ่ ฉากกั้นอาบน้ำ และฝักบัว

สุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของแบรนด์ American Standard หรือเทียบเท่า อย่างอ่างล้างมือมีชั้นเก็บของข้างใต้ให้วางผ้าเช็ดตัว หรืออุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวอื่นๆได้อย่างเป็นระเบียบ

สายชำระติดให้ทางฝั่งขวาของโถสุขภัณฑ์

ส่วนด้านซ้ายจะเป็นที่ใส่ม้วนกระดาษทิชชู

ทุกห้องจะได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบนี้ติดให้เป็นมาตรฐาน แยกโซนแห้ง โซนเปียกให้เรียบร้อย โดยจะมีการก่อยกระดับพื้นขึ้นมาประมาณ 4-5 เซนติเมตร ป้องกันน้ำส่วนอาบน้ำไหลออกมา

ฝักบัวอาบน้ำให้มาทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower

Rain Shower ที่ได้ขนาดค่อนข้างใหญ่ อาบน้ำได้เต็มที่ยิ่งขึ้น

ด้านข้างมีที่วางสบู่ แชมพู และของใช้ส่วนตัวต่างๆ โดยทำเป็นช่องให้แบบนี้ค่ะ

ถัดมาจะเป็นห้องเก็บของ ซึ่งทางโครงการเข้าก็ทำมาให้ขนาดค่อนข้างกว้าง (ลึกเข้าไปทางด้านใน) ติดประตูบานใหญ่ เดินเข้าไปหยิบจับของได้อย่างสะดวก ห้องนี้จะอยู่ใต้บันได ทำให้มีพื้นที่พอสมควร

ต่อมาจะเป็น Living Area ซึ่งจะอยู่ด้านนในสุด บรรยากาศโปร่งมาก เพราะพื้นที่ส่วนนี้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน จะอยู่ที่ 4.4 เมตรเลยทีเดียว แถมยังได้ช่องแสงบานใหญ่ ติดให้ตรงผนังอีกด้วย

จากมุมด้านใน มองย้อนกลับไปที่บริเวณทางเข้า จะเห็นพื้นที่ชั้นลอยทางด้านบน เพดานสูง ได้ Feel เหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น

วางโต๊ะวางและทีวีได้ตรงผนังด้านเดียวกับระเบียง อีกฝั่งตรงข้ามวางโซฟานั่งเล่น ระยะดูทีวีจากมุมนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร กำลังดี

มีช่องแสงบานใหญ่ทางด้านข้าง ติดกับมุมนั่งเล่น ช่วยให้มุมนี้ได้รับแสงเต็มที่ ดูโล่ง วางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ ส่วนข้างๆจะเป็นระเบียงค่ะ

ระเบียงของห้อง Type นี้ ขนาดจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถเปิดไปรับลม หรือจะใช้ตากผ้าก็ได้ และเนื่องจากระเบียงพื้นที่ไม่ใหญ่มาก โครงการจึงวางคอมแอร์ไว้ด้านบน ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถใช้พื้นที่ด้านล่างได้เต็มที่และคนที่มาใช้งานไม่ต้องโดนลมร้อนจากคอมแอร์เป่าด้วย

ห้องทางฝั่งนี้จะหันไปทางทิศตะวันตก เห็นคอนโดเพื่อนบ้าน แต่ระยะห่างกันพอสมควร ตรงกลางมีโรงแรมสูง 8 คั่นกลางอยู่ทางโซนด้านหน้า

บันไดสำหรับขึ้นไปบนชั้นลอยจะอยู่ตรงกลางห้อง

โดยขั้นบันได เค้าก็ออกแบบมาให้มี Gimmick เป็นช่องเก็บของแบบนี้ด้วย

บันไดจะวนเป็นตัว U องศาไม่ชันมาก มีราวจับติดไว้ให้และกระจกกั้นกันตก

บนชั้นลอย จะเป็นพื้นที่ห้องนอน ซึ่งสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้กำลังดี ด้านข้างยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆได้หลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะข้างเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง เป็นต้น หากเป็นเตียง 6 ฟุต ก็สามารถวางได้เช่นกัน แต่จะคับพื้นที่หน่อย

ด้านข้างสามารถวางตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัวหรือทำเป็น  Walk-in Closet ไว้ได้เต็มผนัง

ด้านข้างเตียงทั้ง 2 ด้าน สามารถวางโต๊ะเล็กๆไว้ได้

บนชั้นลอยจะกั้นด้วยราวจับอะลูมิเนียมเคลือบสีและกระจกลามิเนต ให้ความแข็งแรง

มองลงไปข้างเห็นบรรยากาศห้องนั่งเล่นเป็นมุมกว้าง นี่คือข้อดีของห้อง Loft เค้าแหละ  เสมือนได้อยู่บ้าน บรรยากาศไม่อึดอัดเลยค่ะ

Mono 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29.96 ตารางเมตร

ต่อไปเราจะพาไปชมห้องตัวอย่างแบบ Mono กันบ้าง หรือเป็นห้องแบบฝ้าเพดานสูงปกตินั่นเอง โดยจะอยู่ที่ 2.7 เมตร ได้ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 29.63 ตารางเมตรค่ะ

เข้ามาส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งจะได้เป็นครัวเปิด แต่ถ้าใครอยากทำให้เป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น ก็สามารถติดประตูบานเลื่อนเพิ่มได้นะ มาพร้อมเคาน์เตอร์ครัว ตรงข้ามกันจะเป็นห้องน้ำ ส่วนทางด้านในตรงกลางจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและนั่งเล่น ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องเล็กๆที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน คล้ายกับห้อง Plus ซึ่งห้องเล็กๆห้องนี้สามารถทำเป็นพื้นที่อ่านหนังสือหรือนั่งทำงานได้ตามความสะดวกค่ะ ได้ช่องแสงบานใหญ่ แสงสว่างส่องเข้ามาได้เยอะ

ห้องนอนจะแยกไปทางด้านข้าง พื้นที่ใช้สอยรองรับเตียง 5 ฟุตกำลังดี วางเฟอร์นิเจอร์เพิ่มได้ โดยห้องนอนจะได้พื้นที่ระเบียงด้วย ขนาดค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้จริง สามารถวางเครื่องซักผ้าหรือตากผ้าได้ค่ะ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับครัวเปิด ที่เชื่อมไปกับโซนรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นทางด้านใน ส่วนห้องนอนจะแยกไปอยู่ทางด้านขวา ความสูงจากพื้นถึงเพดานของห้องนี้อยู่ที่ 2.7 เมตร ส่วนวัสดุพื้นเป็นไวนิลค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นสเปค เดียวกันกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ ด้านข้างวางโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 2 ที่นั่งกำลังดี

ส่วนตู้เย็นสามารถวางไว้ข้างประตูทางเข้าแบบนี้ได้

ใกล้ๆกันจะเป็นห้องน้ำ ได้สุขภัณฑ์ตามมาตรฐานเหมือนห้องก่อนหน้านี้เช่นกันค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่น สามารถจัดวางโซฟาและโต๊ะวางทีวีไว้ตรงข้ามกันได้ พื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมไปกับห้องเล็กๆที่อยู่ด้านในสุด ซึ่งผนังเป็นกระจกเห็นวิวทางด้านนอก

นอกจากนี้ ผนังกระจกยังช่วยรับแสงธรรมชาติ ทำให้สว่างทั่วทั้งห้อง

พื้นที่ห้องเล็กๆทางด้านในสุด ขนาดประมาณ 2.3×1.5 เมตร สามารถทำเป็นห้องนั่งเล่นเพิ่มได้ หรือจะจัดเป็นมุมนั่งทำงาน อ่านหนังสือก็เป็นไอเดียที่ดี ปรับบฟังก์ชันได้ตามความต้องการ

วิวจากห้องนี้จะหันไปทางทิศตะวันออก ซึ่งจะมองเห็นสถานีรถไฟฟ้าหัวหมาก และพื้นที่สีเขียวอยู่ใกล้เคียง ไม่มีตึกสูงบดบัง

ห้องนอนจะอยู่บริเวณกลางห้อง โดยจะเป็นห้องประตูบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วน

ห้องนอนมีพื้นที่วางเตียง 5 ฟุตได้ ปลายเตียงยังมีระยะห่างจากผนัง สามารถเดินผ่านไปมาได้ ไม่แคบจนเกินไป

หากอยากดูทีวีสามารถติดแบบแขวนผนังได้ ช่วยประหยัดพื้นที่

ส่วนด้านข้างเตียงยังพอมีที่ว่าง สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้

พื้นที่ระเบียงขนาดกว้างพอสมควร วางเครื่องซักผ้าไว้ตรงนี้ได้ พร้อมตากผ้าได้ที่มุมนี้ไปในตัว

Loft 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 43.35 ตารางเมตร

และห้องตัวอย่างแบบที่ 3 จะเป็นแบบ Loft 2 Bedroom ขนาด 43.35 ตารางเมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอยจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากห้อง Loft แบบ 1 Bedroom สำหรับแปลนห้องจะผสม Layout ระหว่างห้องแบบ Mono กับห้องแบบ Loft 1 Bedroom เข้าด้วยกัน ได้ออกมาเป็นห้อง Loft 2 Bedroom ที่ได้ห้องนอนชั้นล่าง 1 ห้อง และบนชั้นลอยอีก 1 ห้อง ส่วนภาพบรรยากาศของห้องตัวอย่างนี้ เราได้เก็บภาพมาฝากกันใน Album ข้างล่างนี้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ ราคา ณ วันที่ 30 มีนาคม 2021

• Mono 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 29.96 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท ราคาโปรโมชัน  3.39 ล้านบาท
• Loft 1-2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 27.99 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท ราคาโปรโมชัน  3.69 ล้านบาท
• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7-4.4 เมตร
• Kitchen & Sink /  ท็อปครัวหินสังเคราะห์ ทนรอยขีดข่วน ความร้อน ความชื้น และกันน้ำได้ดี
• เงินจองและทำสัญญา โปรดสอบถามรายละเอียดจากทางโครงการอีกครั้ง
• ค่ากองทุน รูปแบบห้อง Mono 500 บาท/ตร.ม. และรูปแบบห้อง Loft 600 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง รูปแบบห้อง Mono 55 บาท/ตร.ม./เดือน และรูปแบบห้อง Loft 65 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

โครงการ The Rich พระราม 9 – ศรีนครินทร์ เป็นคอนโดมิเนียม High Rise บนถนนศรีนครินทร์ ใกล้กับแยกพัฒนาการ บริเวณนี้มีคอนโดมิเนียมขึ้นอยู่หลายแห่งด้วยกัน โดยโครงการนี้เพิ่งสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ และยังมีความโดดเด่นหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น

ทำเล : จุดเด่นหลักๆเรามองว่าเป็นเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง เนื่องจากทำเลที่ตั้งใกล้รถไฟฟ้ามากถึง 3 สาย และยังอยู่ติดถนนเส้นหลักอย่างศรีนครินทร์ ไม่ไกลจากแยกพัฒนาการและทางด่วนศรีรัช สามารถเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย เรียกได้ว่ามีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างเยอะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็ครบครัน ใกล้แหล่งจับจ่ายใช้สอย รวมถึงภายในโครงการเองจะมีส่วนนของ Retail ร้านค้าเปิดให้บริการอีกด้วย ด้าน Product ที่เปิดขาย ที่นี่มีห้องรูปแบบ Loft เพดานสูง 4.4. เมตร เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ห้องกว้าง โปร่งโล่ง ใช้งานได้แบบ Double Space

การเดินทางโดยใช้รถ : อย่างที่บอกว่าทำเลที่ตั้งของโครงการ The Rich พระราม 9 – ศรีนครินทร์ อยู่บนถนนศรีนครินทร์ที่สามารถเชื่อมต่อถนนเส้นอื่นๆได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นพระราม 9 พัฒนาการ กรุงเทพกรีฑา รามคำแหง อ่อนนุช เป็นต้น ดังนั้นหากใช้รถยนต์ส่วนตัวจึงค่อนข้างสะดวก ไม่ว่าจะทำงานโซนในเมืองหรือออกนอกเมืองก็ง่าย ใกล้ทางด่วนศรีรัช

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ส่วนใครที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ยังสามารถเดินทางโดยใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าได้ โครงการนี้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ที่เปิดใช้แล้วในปัจจุบันคือรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ห่างออกไปเพียง 200 เมตร โดยจะวิ่งยาวเข้าเมืองไปโซนพญาไท และอีกด้านจะไปสิ้นสุดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อนพาดผ่านอีกด้วย โดยจะเชื่อมระหว่างโซนกรุงเทพฯและปริมณฑลฝั่งตะวันออกไปยังตะวันตกได้อย่างสะดวก ส่วนเส้นทางหนึ่งที่กำลังก่อสร้างอยู่บนแนวถนนศรีนครินทร์ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ใกล้ที่สุดคือสถานีพัฒนาการ โดยจะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการเลยค่ะ

วัสดุ : วัสดุที่ให้มาในโครงการ The Rich พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ถือว่าโอเคตามราคาขาย รูปแบบการขายเป็น Fully Fitted ลูกบ้านจะได้ส่วนของเคาน์เตอร์ครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ส่วนวัสดุพื้น ประตู หน้าต่าง ราวจับ กระจก ฯลฯ จะได้ Spec ตามมาตรฐานโครงการ นอกจากนี้ทุกห้องยังได้ประตู Digital Door Lock อีกด้วยค่ะ

การออกแบบ : สำหรับการออกแบบโครงการ The Rich พระราม 9 – ศรีนครินทร์ เน้นคุมโทนด้วยสีทอง ขาวและดำ พร้อมทั้งใช้เส้นสายต่างๆเป็นองค์ประกอบ ช่วยให้เกิดลูกเล่นที่น่าสนใจ โครงการนี้มี 1 อาคาร ออกแบบไล่ระดับความสูงออกเป็น 2 ส่วน คล้ายกับ 2 อาคารหันมาชนกัน สามารถแบ่งห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางแยกออกไปได้หลายมุม ได้ทิศทางวิวที่แตกต่างกันด้วย ส่วนชั้น 30 และดาดฟ้าที่จะเป็นสวนหย่อม การออกแบบคล้าย Stadium ในสนามกีฬาใหญ่ๆเลยค่ะ

สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ The Rich พระราม 9 – ศรีนครินทร์ จัดมาให้หลากหลายฟังก์ชัน ดูดี และใช้งานได้จริง หลักๆจะรวมอยู่ที่บริเวณชั้น 9 เกือบเต็ม Floor เลย ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้ได้ง่าย ที่ชอบอีกอย่างคือมีร้านค้า Retail อยู่ภายในโครงการด้วย ลักษณะโครงการนี้จึงเป็นแบบ Mixed-used ลูกบ้านสามารถจับจ่ายซื้อของต่างๆได้อย่างสะดวก ไม่ต้องออกไปไหนไกล

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 130,000 บาท/ตร.ม., 30 มีนาคม 2564

• ทำเล 7.75/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย เข้าออกเมืองสะดวก ใกล้ Max Valu แหล่งจับจ่ายใช้สอยครบครัน
• เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ติดถนนศรีนครินทร์ ใกล้เแยกพัฒนาการ ขึ้นลงทางด่วนได้ง่าย ใกล้ทางพิเศษศรีรัช เข้าเมืองโดยใช้เวลาไม่นาน
• ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้ Airport Rail Link สถานีหัวหมาก 200 ม. ในระยะเดินลัด ส่วนในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ
• วัสดุ 7/10 – Fully Fitted ระดับมาตรฐานสมราคา
• แบบ 7.75/10 – ออกแบบตัวอาคารแบ่งเป็นปีกซ้ายและขวา ทำให้ห้องแต่ละชั้นได้ทิศทางวิวที่แตกต่างกัน และช่วยลดความหนาแน่น ส่วนการวางผังแปลนห้องพักก็ทำออกมาได้ดี มีห้องแบบ Loft ให้เลือกด้วย
• สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางให้มาเยอะ หลายฟังก์ชัน พื้นที่กว้างเกือบเต็ม Floor มีร้านค้า Retail ภายในโครงการครบครัน
• UPPER CLASS
• 7.78 / 10.00

The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ เหมาะกับใคร

โครงการ The Rich พระราม 9-ศรีนครินทร์ เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ไม่เน้นใจกลางเมืองมากนัก อาจจะอยู่ไกลออกไปหน่อย แต่เน้นการเดินทางเข้าออกเมืองที่สะดวกสบายแทน อย่างที่นี่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 3 สายเลยทีเดียว มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะ รวมถึงคนที่ต้องการอยู่ในย่านพัฒนาการ-ศรีนครินทร์ แต่อยากได้ห้อง Loft เพดานสูง ได้พื้นที่ส่วนกลางเยอะ หลายฟังก์ชัน มีร้านค้าเปิดให้บริการครบครัน โครงการนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ ส่วนเรื่องงบประมาณ ก็เหมาะสำหรับคนที่มีงบ 3-5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อน 21,000-35,000 บาทต่อเดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc