ปลายปี 2022 เราเคยพาทุกคนไปชมโครงการ THE BASE Downtown Khonkaen (เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น) คอนโดใจกลางเมืองขอนแก่น จาก แสนสิริ วันนี้โครงการสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ โดยผังโครงการมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยบริเวณอาคาร B ชั้น 5-8 ทำให้จำนวนยูนิตลดลงเหลือ 478 ยูนิต เราจะพาไปชมบรรยากาศจริงภายในโครงการพร้อมกับพาไปชมห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 2 Bathroom ด้วยค่ะ
- ทำเล : THE BASE Downtown ขอนแก่น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้ศาลหลักเมืองเพียง 450 เมตร และ Central ขอนแก่น 650 เมตร มีความอุดมสมบูรณ์สูง ตอบโจทย์คนที่มองหาคอนโดใกล้แหล่งงานในเมืองเดินทางสะดวก
- พื้นที่ส่วนกลาง : Clubhouse สไตล์โมเดิร์น สูง 2 ชั้น จุดเด่นคือ สระว่ายน้ำขนาด Half Olympic ยาว 25 เมตร และ Fitness อุปกรณ์ออกกำลังกายที่ครบทั้ง cardio และ weight training พื้นที่กว้าง Clubhouse แยกกับอาคารพักอาศัยชัดเจนเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน
- ห้องพักอาศัย : Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบทั้ง Built-in และลอยตัว เพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมเล็กน้อยก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย เน้นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้งานโปร่งโล่ง ห้องครัวอยู่ด้านหน้า เหมาะกับอยู่ 1-2 คน ในราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท*
ข้อมูลโครงการ
THE BASE Downtown Khonkaen (เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น) ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567
ชื่อโครงการ | THE BASE Downtown Khonkaen (เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จํากัด มหาชน |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยสุภธีระ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น |
ที่ดิน | ประมาณ 4 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร อาคารคลับเฮาส์ 2 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | รวม 478 ยูนิต – อาคาร A จำนวน 246 ยูนิต – อาคาร B จำนวน 232 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | อาคาร A 33 ยูนิต / อาคาร B 34 ยูนิต |
ที่จอดรถ | ที่จอดรถประมาณ 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน จอดที่ชั้น 1 |
เริ่มก่อสร้าง | ธันวาคม ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | มีนาคม ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.50 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.65 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว สร้างเสร็จพร้อมโอน |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 16.432854479803026, 102.83077961288684
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- THE BASE Downtown ขอนแก่น ตั้งอยู่ในซอย สุภธีระ เชื่อมต่อถนน 3 สายหลักในเมืองขอนแก่น คือ ถนนมิตรภาพ, ถนนมะลิวัลย์ และถนนศรีจันทร์
- มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ หาซื้อของกินของใช้ได้สะดวก ขับรถไปเซ็นทรัลขอนแก่นใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
- ใกล้สถานที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลชั้นนำ สถานศึกษาชื่อดังในหลายแห่งในเมืองขอนแก่นในระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
- ใกล้แหล่ง Hang Out สามารถเดินไป Hugz Mall ได้ระยะทางเพียง 250 เมตร
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ถ้าพูดถึง “เมืองขอนแก่น” จังหวัดชื่อดังทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ดึงดูดผู้คนจากจังหวัดข้างเคียงเข้ามาทำงาน เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, Hyper Market, โรงพยาบาลชั้นนำ, สถานศึกษาชื่อดัง รวมถึงโรงแรมหลายแห่ง ซึ่งเป็นแหล่งงานที่มีความคึกคักเลยทีเดียวค่ะ
ทำให้โครงการนี้ตอบโจทย์ทั้งผู้คนที่ต้องการคอนโดฯ ใกล้สถานที่ทำงาน ในทำเลเงียบสงบ แต่ก็ยังหาของกินง่ายในระยะที่เดินไปได้ นอกจากนั้นสำหรับนักลงทุนที่มองหาห้องปล่อยเช่าเองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
โครงการ THE BASE Downtown ขอนแก่น ตั้งอยู่ในซอย สุภธีระ เชื่อมต่อกับถนนเทพารักษ์ และออกสู่ถนนศรีจันทร์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองขอนแก่นเลยก็ว่าได้ค่ะ ทำเลนี้มีถนนเส้นหลัก 3 เส้นที่คนขอนแก่นนิยมใช้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ คือ
- ถนนมิตรภาพ : ถนนสายหลักทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เชื่อมต่อยาวลงไปจนถึงกรุงเทพมหานครได้ หรือขึ้นเหนือไปทางอุดรธานี หนองคายก็ง่าย
- ถนนมะลิวัลย์ : ถนนเส้นหลักเส้นที่ 2 ที่เชื่อมต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น สามารถใช้วิ่งตรงยาวไปทางตะวันตกจนถึงพิษณุโลก สุโขทัย ตากได้เลย
- ถนนศรีจันทร์ : เป็นถนนสายหลักของจังหวัดขอนแก่นเลยค่ะ เส้นนี้จะตัดผ่านกลางเมือง เชื่อมกับถนนเส้นเลี่ยงเมืองของจังหวัดขอนแก่นทั้ง 2 ฝั่ง และไปยังจังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหารได้
การเดินทางโดยรถยนต์ถือว่าสะดวกเลยทีเดียว เนื่องจากอยู่ในซอยเพียงแค่ 190 เมตรจากถนนศรีจันทร์ และประมาณ 850 เมตร จากถนนขอนแก่น – โพนทอง ทำให้ออกสู่ถนนใหญ่ได้ง่าย อีกทั้งยังใกล้กับถนนมิตรภาพ เดินทางเชื่อมต่อจังหวัดข้างเคียงได้
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ก็สามารถใช้มอเตอร์ไซค์ขับไปยังสถานที่ต่างๆ ในเมืองขอนแก่นได้สะดวกค่ะ เพราะทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง อีกทั้งยังใกล้กับสถานีรถไฟขอนแก่น ระยะห่างประมาณ 1.1 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังไม่ไกลจากสนามบิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 8.9 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในเมืองขอนแก่นแบ่งออกเป็น 4 โซน หลักๆ
- โซนสีน้ำเงิน : เป็นทำเลมหาวิทยาลัยขอนแก่น หอศิลปวัฒนธรรม และท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์มากนัก แต่โซนนี้จะมีการเดินทางเชื่อมต่อจังหวัดต่างๆ ค่อนข้างคึกคัก
- โซนสีเขียว : โซนบ้านพักอาศัยแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยว รวมถึงมีร้านอาหารชื่อดัง บรรยากาศดีหลายแห่ง มีความคึกคักจากแหล่งของกินของใช้ ตลาดต่างๆ เป็นต้น
- โซนสีเหลือง : เป็นโซนสถานที่ราชการ ธนาคาร ซึ่งเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ค่ะ
- โซนสีแดง : เป็นโซนไลฟ์สไตล์ ของชาวขอนแก่น มีร้านอาหาร ร้านกินดื่มยามค่ำคืนหลายแห่งให้ออกมาสังสรรค์กับเพื่อนได้
จะเห็นว่าโครงการ THE BASE Downtown ขอนแก่น นั้นตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 4 โซน เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆ ได้สะดวก ในขณะเดียวกันภายในซอยสุภธีระก็ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
เรามาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการ THE BASE Downtown ขอนแก่น กันค่ะ รอบๆ ที่ตั้งโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชน มีบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และอาคารหอพัก สูง 4 ชั้น สลับกับที่ดินเปล่าบ้าง ทำให้ทำเลค่อนข้างเงียบสงบ รถยนต์ไม่พลุกพล่านเสียงดัง
ถ้าขยับออกมาหน่อยก็จะเห็นว่าเป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับ Community Mall ชื่อ Hugz Mall ศาลหลักเมืองและ Central ขอนแก่น ในระยะทางที่สามารถเดินไปได้ค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า, อาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยสุภธีระ , อาคารสูง 1 – 2 ชั้น และที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับ ซอยเทพารักษ์ 5 , ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 2 – 3 ชั้น
บรรยากาศถนนด้านหน้าโครงการภายในซอยสุภธีระ เชื่อมต่อถนน 5 พฤศจิกา ไปออกสู่ถนนประชาสโมสรได้
บรรยากาศถนนด้านหน้าโครงการภายในซอยสุภธีระ เชื่อมต่อไปยังถนนศรีจันทร์ได้เพียง 190 เมตร
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ฮักซ์ มอลล์ 250 เมตร
- เซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น 650 เมตร
- BIG C Supercenter ขอนแก่น 2 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ. ขอนแก่น ราม 1.2 กิโลเมตร
- รพ. ราชพฤกษ์ 2.2 กิโลเมตร
- รพ.กรุงเทพขอนแก่น 2.4 กิโลเมตร
- รพ.ศูนย์ขอนแก่น 2.3 กิโลเมตร
- รพ.ศรีนครินทร์ 4.5 กิโลเมตร
สถานศึกษา
- รร.ขอนแก่นวิทยายน 700 เมตร
- รร.กัลยาณวัตร 1.1 กิโลเมตร
- รร.แก่นนครวิทยาลัย 3.4 กิโลเมตร
- รร.สาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น 3.6 กิโลเมตร
- ม.ขอนแก่น 6.5 กิโลเมตร
- รร.นานาชาติขอนแก่น 8.5 กิโลเมตร
สถานที่อื่นๆ
- ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง 450 เมตร
- โรงแรมพูลแมน 850 เมตร
- ศูนย์ราชการ 1.5 กิโลเมตร
- สนามบินขอนแก่น 8.9 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- Clubhouse สูง 2 ชั้น แยกจากอาคารพักอาศัย ช่วยให้ห้องพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ช่วยลดเสียงรบกวนและคนไม่พลุกพล่าน
- พื้นที่ส่วนกลางครบครัน บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อน โทนสีสันสดใส ได้ห้อง Fitness ขนาดใหญ่ เทียบเท่าคอนโด High Rise (The Base Height มิตรภาพ – ขอนแก่น)
- มีพื้นที่สีเขียวกระจายอยู่ทั้งโครงการ ทั้งด้านหน้า, บริเวณที่จอดรถ, อาคาร A และอาคาร B
- ห้องพักอาศัยชั้น 1 มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor พร้อมมีห้องซักผ้าและอบผ้าแยกมาให้ทั้ง 2 อาคาร อาคารละ 4 เครื่องใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องซื้อเครื่องซักผ้าเอง
THE BASE Downtown ขอนแก่น คอนโดมิเนียมแบรนด์ The Base แห่งที่ 2 ในเมืองขอนแก่น จาก แสนสิริ หลังจากโครงการแรก The Base Height มิตรภาพ – ขอนแก่น คอนโด High Rise ที่ประสบความสำเร็จขายหมดไปแล้วค่ะ
THE BASE Downtown ขอนแก่น เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 478 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A (ด้านหน้า) 246 ยูนิต, อาคาร B (ด้านหลัง) 232 ยูนิต และอาคาร Clubhouse 2 ชั้น บนพื้นที่ดินประมาณ 4 ไร่
เน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนวัยทำงาน ทำงานในเมืองขอนแก่น เช่น โรงพยาบาล, สำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า หรือนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่า เป็นต้น เนื่องจากโครงการนี้ทำราคาออกมาจับต้องง่าย เริ่มต้น 1.65 ล้านบาท ประมาณ 70,000 บาท/ตารางเมตร พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบทั้ง Built-in และลอยตัว
โครงการนี้มีแนวคิดในการออกแบบ Concept “Over Layer” เป็นการซ้อนทับกันของสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ตัดกับบล็อกช่องลม และมีแลนด์สเคปที่เป็นธรรมชาติอยู่รอบๆ ทำให้ห้องพักอาศัยนั้นมีความเป็นส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกได้แบบไม่เขิน เพราะมีบล็อกช่องลมช่วยแบ่ง Space ระหว่างภายในและภายนอก
บล็อกช่องลมบริเวณบันไดหนีไฟ
ตัวอย่างการใช้บล็อกช่องลมในอาคาร ทำให้อาคารดูโปร่ง ระบายอากาศได้ดี มองเห็นธรรมชาติภายนอกได้ นอกจากนั้นยังเป็น Facade ที่สวยงามเมื่อมองจากภายนอกเข้ามาด้วยค่ะ
สถาปัตยกรรมภายนอกเลือกใช้สีโทนส้มอิฐกับสีเทา ทำให้ตัวอาคารโดดเด่นแปลกตาขึ้นมา แตกต่างจากอาคารพักอาศัยทั่วไปในทำเลนี้ค่ะ
โครงการ THE BASE Downtown ขอนแก่น มีทางเข้า–ออกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับซอยสุภธีระ เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access ภายในเดินรถแบบTwo Way สวนกันได้ มีที่จอดรถแบบ Conventional (จอดในซองปกติ) จอดชั้น 1 ทั้งหมดประมาณ 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งอาจจะไม่ได้เยอะมากนัก แต่ก็สามารถใช้รถมอเตอร์ไซค์ หรือเดินไปทำงานในละแวกใกล้เคียงได้
อาคารพักอาศัยแบ่งเป็น 2 อาคาร อาคารที่อยู่ด้านหน้าคืออาคาร A เข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเดินไกล ชอบอยู่ห้องที่เข้าถึงได้สะดวก ส่วนอาคาร B จะอยู่บริเวณด้านใน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอยู่ติดกับถนนทางเข้า – ออก ต้องการความเงียบสงบ
อาคารพักอาศัยทั้ง A, B จะมีห้อง Mailroom และ Laundry แยกเป็นส่วนตัวอยู่ที่ชั้น 1 ลดความหนาแน่นในการใช้งาน และช่วยให้ลูกบ้านที่ต้องการซักผ้า ลงมาใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินไกลค่ะ
ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ทั้ง 2 อาคารเลยค่ะ ลูกบ้านที่อยู่ชั้น 1 จะได้เห็นวิวสวนบริเวณรอบโครงการ และมีโถงทางเดินแบบ Single Corridor ความหนาแน่นน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ
ชั้น 2
พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่แยกกับตัวอาคารพักอาศัย เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน โดยจะมีอาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้น ประกอบด้วย Lobby, Fitness, Outdoor Co-working space, Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด Half Olympic 5 x 25 เมตร
Clubhouse ที่ตั้งอยู่ตรงกลางโครงการเป็นทัศนียภาพที่สวยงามให้กับห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าด้านในด้วยค่ะ
เดี๋ยวเราจะพาไปชมผังห้องพักอาศัยแยกแต่ละอาคารกันด้านล่างนะคะ ส่วนบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย
บรรยากาศด้านหน้าทางเข้าโครงการ
ด้านหน้าโครงการมีป้ายชื่อโครงการตกแต่งด้วยบล็อกช่องลม เชื่อมไปยังซุ้มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทางเข้า-ออกกันด้วยไม้กั้นกระดกระบบ Key Card Access
สวนบริเวณด้านหน้าโครงการ
จากทางเข้าโครงการหันไปทางซ้ายมือจะเจอกับมุมสวนพักผ่อนบรรยากาศดีทีเดียวค่ะ มีโซฟาที่นั่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้ เอาไว้นั่งรอรถมารับหรือมานั่งเล่นยามเช้าตอนแดดร่มๆได้
นอกจากสวนที่เป็นพื้นที่ Outdoor แล้ว ยังมีบริเวณให้มานั่งรอรถรับ-ส่งด้านในอาคารด้วยค่ะ อยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร A
The-Base-DTขอนแก่น_-13
เดินเข้ามาด้านในจะเจอกับที่จอดรถใต้อาคาร แบ่งเป็นที่จอดสำหรับผู้ใช้รถเข็นและช่องจอด EV Charger 2 ที่จอด
สำหรับคนที่ต้องการจอดรถยนต์ส่วนตัวทางโครงการมีที่จอดให้ประมาณ 30% อยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด โดยจะมีทั้งจอดใต้อาคารและจอดด้านนอก ในภาพถ่ายช่วงประมาณ 10-11 โมง ไม่ร้อนเลยค่ะเพราะมีเงาของตึกช่วยบังแดด
สวนและที่จอดรถด้านข้างโครงการ
ด้านข้างที่จอดรถเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้และสวนด้านข้าง เป็นวิวที่ดีให้กับห้องพักอาศัย นอกจากนั้นยังมี Sansiri Backyard สวนผักสวนครัวที่เป็น Signature ของโครงการจาก แสนสิริ ให้ลูกบ้านสามารถมาเก็บผักไปปรุงอาหารรับประทานได้ฟรีค่ะ
ทางเดินเชื่อมอาคาร A-B
ระหว่างอาคารพักอาศัย A และ B ทางโครงการทำทางเดินมีหลังคาไว้ให้ลูกบ้านด้านในสามารถเดินไปยังด้านหน้าโครงการได้สะดวก
นอกจากนั้นชั้น 1 ด้านข้างอาคารจะมีการปลูกต้นไม้เป็นเหมือน Private Garden ให้ลูกบ้านชั้น 1 – 3 มองเห็นวิวพื้นที่สีเขียวได้จากระเบียงห้องของตัวเองเลย
ถัดมาเรามาดูอาคาร Clubhouse กันบ้างค่ะ
Clubhouse ออกแบบอาคารสไตล์โมเดิร์นสูง 2 ชั้น มีความโค้งมนและใช้โทนสีเดียวกับอาคารพักอาศัย ตั้งอยู่เป็นสัดส่วนแยกจากอาคารพักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางครบ ทั้ง Lobby, Fitness และสระว่ายน้ำความยาว Half – Olympic อยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ
ชั้นล่างเป็นพื้นที่ Lobby ขนาดใหญ่ มีจุด Drop Off วนรถได้สะดวก ส่วนชั้น 2 จะเป็น Facility เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ซึ่งจะเห็นวิวมุมสูงมากขึ้น ไม่เห็นรถผ่านไปผ่านมารบกวนสายตา
ด้านหน้าทางเข้า Lobby ภายในห้องดูโปร่งโล่งด้วยกระจกขนาดใหญ่ทั้ง 3 ด้าน
บรรยากาศภายใน Lobby
Lobby มีพื้นที่นั่งพักผ่อนแยกเป็นโซนๆ เอาไว้นั่งคุยกับเพื่อนหรือมานั่งอ่านหนังสือสบายๆ บรรยากาศเหมือนอยู่ในคาเฟ่ชิคๆโทนสีสดใส ที่ตัดกับบรรยากาศของพื้นที่สีเขียวรอบๆ ด้านหลังมีช่องหน้าต่างที่เลือกปิดหรือเปิดกว้างรับลม เชื่อมต่อกับโซน Outdoor ค่ะ
บรรยากาศที่นั่งเล่นโซน Outdoor เชื่อมต่อกับ Lobby
จาก Lobby ถ้าจะขึ้นไปที่ชั้น 2 จะต้องสแกนบัตรก่อนค่ะ
สแกนบัตรผ่านประตูเข้ามาแล้วจะเจอกับโถงลิฟต์และบันไดทางขึ้น ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำ และตู้เต่าบินให้บริการด้วยนะ
ห้องน้ำที่ชั้น 1 มีขนาดใหญ่รองรับการใช้งานของผู้ใช้รถเข็นได้ ส่วนห้องน้ำบุคคลทั่วไปจะอยู่ที่ชั้น 2 ของ Clubhouse ค่ะ
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ชั้น 2 ขึ้นมาแล้วจะเจอกับห้อง Fitness และประตูออกไปพื้นที่ Outdoor ค่ะ
มาดูห้อง Fitness กันก่อนนะคะ โครงการนี้ได้ Fitness ขนาดใหญ่เลยทีเดียว เทียบได้กับโครงการ High Rise ก่อนหน้า ภายในเป็นห้องล้อมรอบด้วยผนังกระจก ดูโปร่งสบาย มองเห็นวิวได้รอบด้าน
บรรยากาศภายใน Fitness
ภายใน Fitness ให้เครื่องออกกำลังกายมาครบทั้ง cardio และ weight training รวมประมาณ 12 เครื่อง
ออกมาเป็นโซน Outdoor จะมี Co-Working Space เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ทำงานในบรรยากาศริมสระว่ายน้ำ
Co-Working Space
ใครที่นั่งทำงานในห้องเบื่อๆ ก็ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงานที่นี่ได้นะคะ มีที่นั่งแยกเป็นโซนๆให้นั่งเล่น
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ
ส่วนสระว่ายน้ำทางโครงการทำมาขนาดใหญ่เลยทีเดียวค่ะ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ Half-Olympic ขนาด 5 x 25 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง พร้อมพื้นที่นั่งเล่นริมสระ
บรรยากาศบริเวณ Clubhouse เมื่อมองจากชั้น 2 ของอาคารพักอาศัย A
ห้องน้ำชั้น 2
ส่วน Service ตกแต่งด้วยสีสันสดใส มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกชาย – หญิง มี Locker มาให้ พร้อมห้องสำหรับผู้ใช้รถเข็นแยกอีก 1 ห้องด้วยค่ะ
ถัดมาในอาคารพักอาศัยอาคาร A และอาคาร B จะมีห้อง Mail Box มาให้ ตกแต่งน่ารักๆ สีสันสดใสเหมือนกับตัวอาคารค่ะ
ใกล้ๆกับ Mail Box มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญมาให้อย่างละ 2 เครื่อง (รวม 4 เครื่อง/อาคาร) และตู้กดน้ำดื่มมาให้ ใครที่ไม่ต้องการซื้อเครื่องซักผ้าเองก็ลงมาใช้งานตรงนี้ได้สะดวก เพราะอยู่ใต้อาคารพักอาศัยเลย
บริเวณโถงทางเดินพักอาศัยมีช่องแสงและหน้าต่างอยู่ที่ริมทางเดินทุกฝั่ง ทำให้ทางเดินระบายอากาศได้ดีและไม่มืดจนเกินไปค่ะ
อาคาร A
ดูพื้นที่ส่วนกลางกันไปแล้วเรามาดูผังอาคารพักอาศัยกันบ้างค่ะ
อาคาร A มีการวางผังเป็นรูปตัว L ชั้น 1 จะมีห้องพักอาศัยฝั่งเดียวนะคะ เพราะอีกฝั่งหนึ่งถูกแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถไป ทำให้โถงทางเดินของชั้นนี้เป็นแบบ Single Corridor ห้องพักอาศัยจะได้ความเป็นส่วนตัว เพราะมีจำนวนยูนิตน้อย (15 ยูนิต) และไม่เปิดประตูไปเจอกับห้องฝั่งตรงข้าม นอกจากนั้นยังสามารถมองเห็นวิวต้นไม้รอบๆ อาคารเหมือนกับสวนส่วนตัวเลย
ห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Type เริ่มต้น 22 – 24 ตารางเมตร ลักษณะคล้ายกับห้อง Studio (เป็นห้องตัวอย่างที่เราพาไปชมนั่นเองค่ะ) มีห้อง 1 Bedroom หน้ากว้าง (สีน้ำเงิน) อยู่ที่มุมอาคาร 2 ฝั่ง สำหรับคนที่ชอบพื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น
ชั้น 1 เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เข้าถึงห้องพักอาศัยได้ง่าย ไม่ชอบรอลิฟต์ ต้องการวิวสวน ไม่เน้นวิวมุมสูงค่ะ
แปลนอาคาร A ชั้น 2
ชั้น 2 – 8 เป็นชั้นที่วางผังเหมือนกันเลยค่ะ
โดยจะมีห้องพักอาศัย 2 ฝั่ง ตามรูปทรงอาคารตัว Lจำนวน 33 ยูนิตต่อชั้น มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor ซึ่งมีช่องแสงอยู่ที่ปลายทางทั้ง 3 ฝั่งทำให้โถงทางเดินระบายอากาศได้ดี มีแสงสว่างเข้าถึงค่ะ โถงลิฟต์จะอยู่ใกล้กับมุมอาคารฝั่งทิศตะวันตก อาจจะทำให้ห้องที่อยู่ทิศตะวันออกเดินไกลสักหน่อยนะคะ
ห้องพักอาศัยที่หันออกด้านนอกโครงการเป็นห้อง 1 Bedroom Type เริ่มต้น 22 – 24 ตารางเมตร เหมือนกับที่ชั้น 1 เลยค่ะ ส่วนห้องที่หันเข้าด้านในโครงการจะมีทั้งห้อง 1 Bedroom Type เริ่มต้น 22 – 24 ตารางเมตร และห้อง 1 Bedroom หน้ากว้าง 30 – 31 ตารางเมตร (สีน้ำเงิน) ในด้านที่มองเห็นวิว Clubhouse ได้
และมีห้องใหญ่ 1 Bedroom Plus 38 ตารางเมตร (สีส้ม) อยู่ทางด้านหน้าโครงการ 1 ยูนิตต่อชั้น มองเห็นวิวได้ 2 ฝั่ง เหมาะกับคนที่ชอบห้องดูโปร่งสบาย ทำเป็น 2 ห้องนอนได้ และมีห้อง 2 Bedroom 47 ตารางเมตร (สีชมพู) 3 ยูนิตต่อชั้น หันหน้าไปทางทิศเหนือ สำหรับคนที่ต้องการห้องใหญ่เห็นวิว Clubhouse และชอบความเป็นส่วนตัวค่ะ
อาคาร B
สำหรับอาคาร B ที่ชั้น 1 ก็จะคล้ายกับอาคาร A ค่ะ เพราะมีพื้นที่บางส่วนแบ่งไปเป็นที่จอดรถ ทำให้ห้องพักอาศัยชั้น 1 มียูนิตน้อย (9 ยูนิต) และได้โถงทางเดินแบบ Sigle Corridor มีความเป็นส่วนตัวสูง มองเห็นวิวสวนด้านข้างได้
ห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Type เริ่มต้น 22 – 24 ตารางเมตร เช่นกันค่ะ และมีห้อง 1 Bedroom หน้ากว้าง (สีน้ำเงิน) อยู่ที่มุมอาคารฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ 1 ยูนิต สำหรับคนที่ชอบห้องใหญ่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น
ชั้น 1 เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เข้าถึงห้องพักอาศัยได้ง่าย ไม่ชอบรอลิฟต์ ต้องการวิวสวน ไม่เน้นวิวมุมสูงค่ะ
แปลนอาคาร B ชั้น 2
ชั้น 2 – 4 ของอาคาร B มีผังเหมือนกันทุกชั้นเช่นกันค่ะ มีจำนวน34 ยูนิตต่อชั้น อาจจะดูเหมือนเยอะแต่ตัวรูปทรงอาคารมีการออกแบบแตกต่างไปจากอาคาร A โดยจะแบ่งเป็นโซน 3 ส่วน มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง ทำให้แต่ละโซนมีความหนาแน่นไม่เยอะ (ฝั่งละประมาณ 10 กว่ายูนิต) อีกทั้งยังเข้าถึงโถงลิฟต์ได้ง่ายด้วยค่ะ ถือว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ
นอกจากนั้นโถงทางเดินยังมีช่องเปิด และช่องแสงถึง 6 จุด ทำให้ทางเดินสว่าง ระบายอากาศได้ดี
ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom Type เริ่มต้น 22 – 24 ตารางเมตร จะมีห้อง 2 Bedroom ขนาดใหญ่ (สีชมพู) อยู่ที่มุมอาคาร ฝั่งวิว Clubhouse และฝั่งทิศเหนือตำแหน่งละ 2 ยูนิต มองเห็นวิวได้สวย และห้อง 1 Bedroom Type พิเศษ หน้ากว้าง (สีส้ม) ขนาด 32 ตารางเมตร อยู่ที่มุมอาคารไม่ติดกับใครเลย เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวชอบพื้นที่ใช้สอยกว้าง และชอบความเป็นส่วนตัวค่ะ
แปลนอาคาร B ชั้น 5
ชั้น 5 – 8 ของอาคาร B มีการปรับเปลี่ยนจากตอนแรกเล็กน้อย จากผังจะเห็นเห็นว่าห้องพักอาศัยทางด้านบนจะลดลงทีละชั้น ซึ่งทำให้โซนด้านบนเป็นโซนที่มีเพื่อนบ้านน้อย เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง ไม่อยากได้ยินเสียงคนเดินผ่านหน้าประตูบ่อยๆ ก็จะเหมาะกับโซนนี้เลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมภายในโครงการที่อาคาร A, B
- อาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้น ตรงกลางโครงการ
- ชั้น 1 : Lobby, เต่าบิน, ห้องน้ำ
ชั้น 2 : Fitness ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 12 เครื่อง
Outdoor Co-working space
Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5 x 25 เมตร - อาคารพักอาศัย A,B : Mailroom / Laundry / เครื่องกรองน้ำ แยกแต่ละอาคาร
- อินเตอร์เน็ตไร้สายสำหรับโถงต้อนรับ, ห้องออกกำลังกาย, และบริเวณสระว่ายน้ำ
- จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร และ ลิฟต์อาคาร Clubhouse 1 ตัว
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 120 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 123 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 116 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) จอดที่ชั้น 1
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / Liv 24
แบบห้อง
Highlight
- Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ครบทั้ง Built-in และลอยตัว ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมเล็กน้อยก็เข้าอยู่ได้เลย
- เน้นพื้นที่ส่วนพักผ่อนกว้าง แบ่งโซน Service ครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้าห้อง ส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom เหมาะสำหรับคนทำงาน หรืออยู่คนเดียว
- ห้องครัวปิด ทำอาหารได้ กลิ่นไม่ฟุ้งกระจายในห้อง ครัวที่อยู่ด้านหน้าเป็น Buffer ให้กับพื้นที่ส่วนตัวภายในห้องได้
- ราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท หรือประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม.
ห้องพักอาศัยในโครงการ THE BASE Downtown ขอนแก่น มีให้เลือก 2 Type คือ
- 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 21.75 – 38.25 ตร.ม.
- 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 42.75 – 47.50 ตร.ม.
ซึ่งเราจะพาไปชมห้องตัวอย่างกันทั้ง 2 แบบเลยค่ะ
ห้องแรก 1 Bedroom 1B พื้นที่ใช้สอย 23.75 – 24.75 ตารางเมตร
เป็นห้อง 1 Bedroom ที่คล้ายกับห้อง Studio ซึ่งจะได้ความโล่ง จากการเชื่อมต่อกันของพื้นที่ห้องนั่งเล่น และพื้นที่วางเตียงนอน แต่ก็มีการแบ่งฟังก์ชันใช้งานครบครัน พร้อมได้ห้องครัวแยก ค่อนข้างเป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว ชอบห้องที่เป็นพื้นที่โปร่งสบายเหมือนห้อง Studio แบบห้องมีจุดเด่น ดังนี้
- พื้นที่ครัวปิด สามารถทำอาหารได้โดยกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย และเป็น Buffer ให้กับพื้นที่ส่วนตัวภายในห้อง พร้อมพื้นที่วางเครื่องซักผ้า
- เก็บของได้จริง มีตู้ Built-in วางรองเท้า เก็บของ และชั้นวางของ Built-in ที่เข้ากันกับพื้นที่
- เน้นความโปร่งสบาย มีพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกัน
- Bay Window กว้าง มีพื้นที่นั่งทำงานริมหน้าต่างที่ค่อนข้างกว้าง รองรับการทำงานที่บ้านได้จริง
- ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเอง
- มีพื้นที่ระเบียง สามารถตากผ้าได้
โดยรูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ทั้ง Built-in และลอยตัว เรียกได้ว่าครบ ซื้อปุ๊บ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าสักหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย โดยจะมีวัสดุภายในห้องมาตรฐาน ดังนี้
- พื้นห้อง : พื้นลามิเนต หนา 8 มม. หรือเทียบเท่า
- พื้นครัว : กระเบื้องเซรามิก
- ชุดครัว : ท็อปหินเทียม หรือเทียบเท่า พร้อมเตาเซรามิกระบบ induction 1 หัว, เครื่องดูดควันสเตนเลส, อ่างล้างจานแบบติดตั้งบนเคาน์เตอร์พร้อมก๊อกน้ำเย็น จาก Teka
- ตู้เก็บรองเท้า/ เก็บของ
- ตู้เสื้อผ้า
- โซฟา พร้อมโต๊ะกลาง
- ชั้นวางของติดผนัง
- เตียงนอน
- โต๊ะทำงานบริเวณ Bay Window
- ชั้นวาง TV
- สุขภัณฑ์ จาก Bathline ก๊อกน้ำ จาก Novabath และฉากกั้นอาบน้ำ
ห้องพักอาศัยทุกห้องจะได้ Digital Door Lock รองรับได้ทั้ง Password, สแกนลายนิ้วมือ และ Key Card
เข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับส่วนครัวก่อนค่ะ การที่มีครัวอยู่ด้านหน้ามีข้อดีคือ เวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บในตู้ได้เลย ไม่ต้องหิ้วของเดินผ่านห้องนั่งเล่น นอกจากนั้นห้องครัวด้านหน้ายังเป็นเหมือนห้องกั้นพื้นที่ส่วนตัวทางด้านใน เวลาเปิดประตูอยู่คนข้างนอกที่เดินผ่านมาก็จะมองไม่เห็นภายในห้องของเราชัดเจนค่ะ
พื้นห้องครัวเลือกปูเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ทำความสะอาดได้ง่าย ทนน้ำ ทนรอยขีดข่วนได้มากกว่าพื้นชนิดอื่นๆ ซึ่งถือว่าโครงการเลือกใช้วัสดุที่ใช้งานได้จริง ได้เคาน์เตอร์ตัว I เว้นที่ด้านข้างสำหรับวางตู้เย็น และด้านล่างเป็นที่วางเครื่องซักผ้าใช้งานได้สะดวก
ท็อปครัวเป็นวัสดุหินสังเคราะห์สีขาวดูสวยงาม ทำความสะอาดง่าย และมีความทนทาน มีอ่างล้างจานสเตนเลส พร้อมเตาเซรามิกระบบ induction 1 หัว และเครื่องดูดควันสเตนเลส แบบหมุนเวียนอากาศ ทั้งหมด จากยี่ห้อ Teka แบรนด์ดังที่เรามักจะเห็นในโครงการ Segment เดียวกันทั่วไปค่ะ
น่าเสียดายนิดนึงที่ทางโครงการไม่ได้ติดตั้ง Backsplash ด้านหลังมาให้ แต่เราก็สามารถหาแผ่นฟิล์ม หรือกระเบื้องมาติดตั้งเพิ่มเติมได้เองนะคะ จะช่วยป้องกันผนังด้านหลังจากน้ำมันกระเด็น หรือคราบสกปรกได้
ช่องเก็บของในครัวไม่ได้เยอะมากนัก มีพอกรุบกริบสามารถทำอาหารเบาๆ หรืออุ่นอาหารรับประทานค่ะ เนื่องจากโครงการได้สำรวจไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านส่วนใหญ่นิยมสั่ง Delivery หรือออกไปรับประทานอาหารข้างนอกกันมากกว่า ทำให้เน้นการออกแบบพื้นที่ห้องครัวให้ใช้งานได้ Multi Function มากกว่าทำอาหารอย่างเดียว
ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่ Built-in ตู้เก็บของ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของ เก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทางโครงการเขาก็มีการคิดไปถึงรายละเอียดการใช้งานด้วยนะคะ อย่างเช่นมีพื้นที่แขวน สำหรับแขวนกุญแจบ้าน กุญแจรถ หยิบใช้งานได้ง่าย ด้านในก็มีช่องที่มีความสูง แขวนกระเป๋าสะพาย หรือวางอุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างไม้กวาด ไม้ถูพื้นได้ เป็นต้น
แต่ถึงจะไม่เน้นการทำอาหารมากนัก แต่ห้องครัวก็มีประตูกั้นเป็นสัดส่วนจากภายในห้องนะคะ ช่วยป้องกันกลิ่น แมลง หรือฝุ่นสกปรกด้านหน้าบริเวณที่ถอดรองเท้าเข้าไปยังพื้นที่นอนได้ และไม่เปลืองค่าไฟเวลาเปิดแอร์ด้วยค่ะ
เข้ามาภายในห้องด้านในจะเป็นพื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกัน ลักษณะเหมือนกับห้อง Studio โดยจะได้ความโปร่ง โล่ง มีแสงธรรมชาติเข้ามาจากระเบียง และหน้าต่างขนาดใหญ่
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ถ้าใครอยากรู้ว่าวัสดุปูพื้นลายไม้แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร เข้ามาอ่านกันได้ที่นี่เลย >> เปรียบเทียบ 7 วัสดุพื้นลายไม้ภายในบ้าน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตร ซึ่งเป็นความสูงห้องมาตรฐานสำหรับคอนโด Low Rise ค่ะ
ความกว้างภายในห้องนอนวัดจากประตูห้องครัว ไปจนถึงหน้าต่างกว้างประมาณ 4.40 เมตร ซึ่งทางโครงการมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้พอดีกับพื้นที่
เพิ่มพื้นที่เก็บของด้วยช่องเก็บของบริเวณฐานเตียงด้วยค่ะ
ด้านข้างเตียงมีพื้นที่วางโซฟา 2 ที่นั่ง กว้างประมาณ 1.50 เมตร และโต๊ะกลาง ซึ่งทางโครงการมีเฟอร์นิเจอร์มาให้เรียบร้อยแล้ว พอดีๆ กับพื้นที่ ซึ่งเราไม่ต้องหาซื้อเองให้ยุ่งยาก
บรรยากาศภายในห้องได้ความโปร่งสบาย และมีแสงสว่างเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง เนื่องจากมีช่องแสงขนาดใหญ่ค่ะ
จุดเด่นของห้อง Type นี้คือมีพื้นที่ Bay Window กว้าง ประมาณ 2.50 เมตร สามารถนั่งทำงานได้พร้อมๆ กัน 2 คนโดยไม่อึดอัดค่ะ ใครที่อยู่คนเดียวก็ได้พื้นที่วางของกว้างๆ เลย
ติดกับพื้นที่ Bay Window เป็นส่วนของระเบียงพื้นที่ระเบียงขนาด 0.75 x 1.10 เมตร ใช้งานตากผ้า หรือวางต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตกแต่งห้องได้ เพราะทางโครงการยก Condensing Unit ไปไว้ด้านบนหันออกด้านนอก ไม่เกะกะและไม่ทำให้ระเบียงได้รับไอร้อนด้วยค่ะ
ส่วนปลายเตียงเป็นพื้นที่วาง TV และตู้เสื้อผ้าค่ะ ซึ่งทางโครงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาให้แล้ว ส่วนทางฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำ
ชั้นวาง TV เป็นชั้นเดี่ยวแบบติดผนัง พื้นที่ด้านล่างเราสามารถทำชั้นเก็บของเพิ่มเติมได้ตามความชอบเลยนะคะ ระยะดู TV ของห้องนี้อยู่ที่ 3.30 เมตร ใครที่เป็นคอซีรี่ส์ ชอบดูหนัง ก็สามารถเลือก TV ขนาดใหญ่ได้ถึง 60 นิ้วเลย
ด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้เป็นแบบบานเปิดคู่ ออกแบบให้ใช้งานได้จริงในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ด้านบนสำหรับกระเป๋าเดินทางหรือกล่องกระเป๋าต่างๆ
ด้านในมีชั้นวางของเล็กๆ พร้อมลิ้นชักและราวแขวนทั้งบนและล่างสามารถแยกแขวนชุดเดรส เสื้อผ้า กางเกงได้ นอกจากนั้นยังมีกระจกเงาด้านในบานใหญ่มาให้ด้วยค่ะ ยืนแต่งตัวได้สะดวกเลย
ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจนด้วยกระจกบานเลื่อนนะคะ ภายในห้องน้ำมีการเลือกใช้กระเบื้องโทนสีครีมเรียบๆขนาด 30x 30 เซนติเมตร ไปเพิ่มลูกเล่นที่พื้นที่อาบน้ำเป็นกระเบื้องชิ้นเล็กสีเขียวอ่อน 60×30 เซนติเมตร ดูสวยมากขึ้นค่ะ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมาเปียกด้านนอก อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของด้านล่าง เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้ นอกจากนั้นยังมีกระจกเงาแบบเปิดเก็บของด้านใน มีกระจกทั้งด้านในและด้านนอกเลย ส่วนโถสุขภัณฑ์นั่งได้สบายๆ จากแบรนด์ Bathline
พื้นที่อาบน้ำยืนอาบได้สบายๆ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ จาก Novabath พร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นด้านข้างยังมีที่ช่องที่ผนังเอาไว้สำหรับวางสบู่ แชมพูมาให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ที่อาคาร B
ห้องครัว
ห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 42.75 – 47.50 ตร.ม.
มาดูห้อง 2 Bedroom กันบ้างนะคะ ห้องนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมากนัก เหมาะกับคนที่อยู่กันเป็นครอบครัวหรืออยู่กัน 2 คนแต่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เมื่อเข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับห้องนั่งเล่นและส่วนครัวก่อน ซึ่งเป็นเหมือน Common Area ก่อนจะแยกไปยังห้องนอนและห้องน้ำ 2 ฝั่งค่ะ
- Common Area ขนาดใหญ่ ภายในห้องได้พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร, ครัว และระเบียงเชื่อมต่อกัน ทำให้ภายในห้องดูกว้าง
- เก็บของได้จริง มีตู้ Built-in วางรองเท้า เก็บของ และชั้นวางของ Built-in ที่เข้ากันกับพื้นที่
- ระเบียงยาว สามารถวางกระถางต้นไม้ หรือตากผ้า ใช้งานได้จริง
- Master Bedroom สามารถวางเตียงและโต๊ะทำงานด้านข้างได้ มีพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำส่วนตัวใช้งานได้สะดวก
- ห้องนอนรอง มีทางเข้าห้องน้ำเหมือนมีห้องน้ำส่วนตัว
- ห้องน้ำสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง จากห้องนอนรองและพื้นที่ Common Area ใช้งานได้สะดวก ไม่เสียความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเข้าห้องน้ำ
สำหรับห้องนี้เข้ามาแล้วก็จะเจอกับ Common Area เลยค่ะ แบ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ครัว ห้องนั่งเล่น และระเบียง ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วถึง
ห้องนี้ภายในจะปูด้วยลามิเนตลายไม้ทั้งหมดเลยค่ะ ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น แต่ก็จะทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ไม่เท่ากับปูกระเบื้องนะคะ จึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารที่จริงจังมากนักเพราะจะมีคราบมันเกาะที่พื้น ทำความสะอาดได้ยากกว่า
ห้องครัวอยู่บริเวณด้านหน้าเวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บของในตู้ได้เลย ไม่ต้องหิ้วของมีกลิ่น หรือเลอะเทอะเดินผ่านห้องนั่งเล่น
ชุดโต๊ะรับประทานอาหารทางโครงการให้มาเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ในห้อง 2 Bedroom จะได้เป็นโต๊ะ 4 ที่นั่ง ขนาดพอดีกับพื้นที่
ด้านหน้าห้องก็มีตู้เก็บของ Built-in มาให้เช่นกันค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของ เก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น มีพื้นที่แขวนสำหรับแขวนกุญแจบ้าน กุญแจรถ หยิบใช้งานได้ง่าย ด้านในก็มีช่องที่มีความสูงแขวนกระเป๋าสะพาย หรือวางอุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างไม้กวาด ไม้ถูพื้นได้ค่ะ
พื้นที่ครัว
ชุดครัวจะได้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง และที่วางตู้เย็นทางฝั่งขวามือ ท็อปครัวเป็นวัสดุหินสังเคราะห์ทำความสะอาดง่าย และมีความทนทาน มีอ่างล้างจานสเตนเลส พร้อมเตาเซรามิกระบบ induction 1 หัว และเครื่องดูดควันจาก Teka
ห้องนี้จะได้พื้นที่เก็บของที่มากขึ้นนะคะ สามารถเก็บจานชาม อุปกรณ์ทำครัวได้มากขึ้น แต่เนื่องจากเป็นครัวแบบ Pantry จึงอาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจังที่มีกลิ่นแรงๆ เพราะจะทำให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้องได้ค่ะ
ห้องนั่งเล่น ในห้อง 2 Bedroom
พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีแสงสว่างเข้ามาทั่วถึงจากประตูทางออกไปยังระเบียง ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 2.40 x 2.50 เมตร สามารถติด TV ขนาดใหญ่ 46 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ
ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์มาแล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง โต๊ะกลางสำหรับวางของหรือนั่งทำงานได้ และชั้นวาง TV พร้อมที่เก็บของด้านล่าง
ประตูทางออกไประเบียงเป็นบานเลื่อนเปิด 3 ตอน มี Condensing Units แขวนอยู่ด้านข้างหันออกด้านนอก ทำให้ระเบียงไม่ร้อน
ระเบียงมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 0.75 x 2.00 เมตร (ไม่รวมที่วาง CDU) สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือทำราวตากผ้าเล็กๆได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตรทำความสะอาดง่าย
เมื่อมองจากระเบียงเห็นวิว Clbhouse และอาคารพักอาศัย B
ห้องน้ำที่ใช้งานบริเวณ Common Area จะอยู่ติดกับส่วนครัวค่ะ
ห้องน้ำห้องนี้เป็นแบบ Jack and Jill มีประตูทางเข้า 2 ทาง จาก Common Area และห้องนอนรองค่ะ ทำให้ห้องนอนใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินอ้อมออกมาใช้ห้องน้ำตอนกลางคืน
ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจนด้วยกระจกบานเลื่อน ภายในห้องน้ำมีการตกแต่งเหมือนกับในห้องน้ำ 1 Bedroom เลยค่ะ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าและกระจกเงาสามารถเก็บของด้านในได้ โถสุขภัณฑ์จาก Bathline พื้นที่อาบน้ำยืนอาบได้สบายๆ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ จาก Novabath พร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาเรียบร้อยแล้วค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง
มาดูห้องนอนรองกันก่อนนะคะ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.50 x 3.40 เมตร รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วถึง ทางโครงการวางฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้พอดีกับห้อง ด้านข้างมีโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ และตู้เสื้อผ้ามาให้ทำเป็นห้องนอนได้สบาย หรือถ้าใครไม่อยากใช้เป็นห้องนอนก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้เช่นกันค่ะ
ห้อง Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ ภายในดูโปร่งสบาย มีพื้นที่ประมาณ 2.60 x 4.40 เมตร ทางโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุต มาให้เช่นกันค่ะ
ตู้เสื้อผ้าเหมือนกับในห้องอื่นๆค่ะ เป็นแบบบานเปิดคู่ มีพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ด้านบนสำหรับกระเป๋าเดินทาง ด้านในมีชั้นวางของเล็กๆ พร้อมลิ้นชักและราวแขวนทั้งบนและล่าง สามารถแยกแขวนชุดเดรส เสื้อผ้า กางเกงได้ นอกจากนั้นยังมีกระจกเงาด้านในบานใหญ่มาให้เช่นกันค่ะ
ปลายเตียงอาจจะเหลือที่ไม่เยอะนะคะ ใครที่อยากติดตั้ง TV แนะนำเป็นแบบแขวนผนังจะเหมาะกว่าค่ะ
จุดเด่นของห้อง Type นี้คือมีพื้นที่ Bay Window กว้างประมาณ 2.00 เมตร สามารถนั่งทำงานได้สบายๆ มีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้มองออกไปเห็นวิวได้กว้าง มีแสงธรรมชาติเข้าถึง
ได้โต๊ะข้างเตียงเหมือนกับห้องอื่นค่ะ
ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน มีอ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของด้านล่าง เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้ กระจกเงามีที่เปิดเก็บของด้านใน ส่วนโถสุขภัณฑ์นั่งได้สบายๆ จากแบรนด์ Bathline
พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากบานเลื่อน 3 ตอน ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ จาก Novabath พร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมช่องที่ผนังเอาไว้สำหรับวางสบู่ แชมพูมาให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบแปลน
Plan ห้องพักอาศัยทั้งหมดในโครงการ
ราคา
THE BASE Downtown ขอนแก่น ราคา ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567
- 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 24.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished พร้อมเครื่องปรับอากาศ
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
- Kitchen & Sink จาก Teka
- Hob & Hood จาก Teka
- สุขภัณฑ์ จาก Bathline, Novabath
- 1 ห้องนอน จอง 5,000 บาท / 2 ห้องนอน จอง 10,000 บาท
- 1 ห้องนอน ทำสัญญา 10,000 บาท / 2 ห้องนอน ทำสัญญา 20,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 47 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
THE BASE Downtown ขอนแก่น ตั้งอยู่ในซอย สุภธีระ ตรงข้ามเยื้องๆกับ Hugz Mall เป็นทำเลที่เรียกได้ว่าอยู่ใจกลางเมืองขอนแก่น ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, Hyper Market, โรงพยาบาลชั้นนำ, สถานศึกษาชื่อดัง รวมถึงโรงแรม จึงตอบโจทย์ทั้งผู้คนที่ต้องการคอนโดฯ ใกล้สถานที่ทำงาน ในทำเลเงียบสงบ แต่ก็ยังหาของกินง่ายในระยะที่เดินไปได้ หรืออีกมุมหนึ่งก็เหมาะกับนักลงทุนที่หาคอนโดปล่อยเช่าในเมืองที่ราคาจับต้องง่ายค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าทำได้สะดวก เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับถนนเทพารักษ์ ไปถนนขอนแก่น – โพนทอง และออกสู่ถนนศรีจันทร์ได้ อีกทั้งยังใกล้กับถนนมิตรภาพ เดินทางเชื่อมต่อจังหวัดข้างเคียง ลงไปถึงถนนพหลโยธินกรุงเทพมหานครได้เลยค่ะ
โครงการมีที่จอดรถคิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน อาจจะถือว่าไม่มากนัก แต่สามารถทดแทนได้ด้วยการใช้มอเตอร์ไซค์ หรือเดินไปทำงานในละแวกใกล้เคียง
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
สามารถใช้มอเตอร์ไซค์ขับไปยังสถานที่ต่างๆ ในเมืองขอนแก่นได้สะดวก เพราะทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง และยังใกล้กับสถานีรถไฟขอนแก่น ระยะห่างประมาณ 1.1 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังไม่ไกลจากสนามบิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 8.9 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ
วัสดุ :
จุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ทั้ง Built-in และลอยตัว ทั้งตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา พร้อมโต๊ะกลาง, เตียงนอน, โต๊ะทำงาน, ชั้นวาง TV เหมาะกับคนที่ต้องการปล่อยเช่า หรือไม่ชอบความวุ่นวายจากการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เอง คุมงบประมาณได้
ส่วนวัสดุภายในห้องให้มาเหมาะสมกับราคา เช่น พื้นลามิเนต หนา 8 มม., ชุดครัว ท็อปหินเทียม พร้อมเตาเซรามิกระบบ induction 1 หัว, เครื่องดูดควันสเตนเลส, อ่างล้างจานแบบติดตั้งบนเคาน์เตอร์พร้อมก๊อกน้ำเย็น จาก Teka, สุขภัณฑ์ จาก Bathline ก๊อกน้ำ จาก Novabath และฉากกั้นอาบน้ำ
การออกแบบ :
การออกแบบโครงการแยกเป็น 2 อาคาร ทำให้แต่ละอาคารมีความหนาแน่นไม่มาก นอกจากนั้นยังแยกพื้นที่ Clubhouse ส่วนกลางออกมาจากห้องพักอาศัย เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ออกแบบอาคารมาในสไตล์โมเดิร์น Concept “Over Layer” ใช้บล็อกช่องลมทำให้อาคารโดดเด่นไม่เหมือนใคร เอามาใช้ในส่วนต่างๆ เช่น ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ, โถงทางเดิน, บันไดหนีไฟ ฯลฯ ซึ่งของจริงทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ
ส่วนห้องพักอาศัยโครงการนี้จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 24 ตารางเมตร ภายในได้ความโปร่งโล่ง จากการเชื่อมต่อกันของพื้นที่ห้องนั่งเล่น และพื้นที่วางเตียงนอนคล้ายกับห้อง Studio ได้ห้องครัวแยก ไม่ต้องกลัวเรื่องกลิ่นรบกวน ค่อนข้างเป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวถึง 2 คน
สาธารณูปโภค :
โครงการสร้างเสร็จแล้วเหมือนกับในภาพบรรยากาศจำลอง มีพื้นที่ส่วนกลางให้มาครบตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นห้อง Lobby ขนาดใหญ่ บรรยากาศเหมือนคาเฟ่ มองเห็นวิวพื้นที่สีเขียวด้านข้าง เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือ ทำงานชิลๆ ชั้น 2 มีสระว่ายน้ำ ขนาด Half-Olympic ยาว 25 เมตรว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงๆ และ Fitness อุปกรณ์ครบทั้ง cardio weight training และพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ถือว่าพอดีๆ เหมาะสมกับจำนวนยูนิตค่ะ
Judgement
- สำหรับโครงการ THE BASE Downtown ขอนแก่น เราจะไม่มีการให้คะแนนนะคะ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นทำเลที่เราไม่คุ้นเคยและไม่ได้มีโครงการเปรียบเทียบมากนัก ดังนั้นการตัดสินว่าโครงการนี้คุ้มค่าราคาหรือไม่นั้นอาจจะไม่แม่นยำเท่าที่ควรค่ะ
THE BASE Downtown ขอนแก่น เหมาะกับใคร
โครงการ THE BASE Downtown ขอนแก่น เหมาะกับคนที่หาคอนโดใจกลางเมืองขอนแก่น ในทำเลเงียบสงบ แต่เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ แหล่ง Hang out หาของกินง่ายในระยะที่เดินไปได้ ชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางบรรยากาศดีให้ใช้งานพักผ่อนได้จริง ชอบการตกแต่งโครงการที่สีสันสดใส ชอบความเป็นส่วนตัวสูง ต้องการห้องที่ขนาดพอดีๆ กับการอยู่คนเดียวถึง 2 คน ไม่ต้องหาซื้อเฟอร์นิเจอร์เอง มีงบประมาณระดับ 1.65 – 2 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 10,000 – 18,000 บาท/เดือนค่ะ
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่