รีวิวโครงการ

The Sneak EP.117 : Q1 Sukhumvit

15 สิงหาคม 2021

อ่านรีวิวล่าสุด

ถ้าพูดถึงคำว่า “บ้าน” ผมคงนึกถึง… พื้นที่ใช้สอย, ความปลอดภัย และ ที่จอดรถ มาเป็นอันดับแรก ๆ แต่โครงการคอนโด High Rise 40 ชั้น พร้อมอยู่ อย่าง Q1 Sukhumvit ก็มีให้ครบทั้ง 3 ข้อข้างต้นนี้เลย ที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิทตอนต้นอย่างนานา แถมยังมีความ Exclusive อื่น ๆ ภายในอีก เลยไม่แปลกถ้าผมจะเรียกว่าเป็นคอนโดที่เปรียบเสมือนบ้านใจกลางเมือง.. ลองไปดูรายละเอียดของจุดเด่นในแต่ละข้อกันเลยครับ

  • ทำเล : เป็นโครงการที่อยู่บนถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS นานาแบบ 0 เมตร เป็น Residentail ที่เดียวที่มีทางเชื่อมเข้าจากสถานีรถไฟฟ้าเข้าตัวโครงการได้โดยตรง ทำให้จะได้เปรียบในเรื่องความสะดวกและความปลอดภัยเอามาก ๆ
  • พื้นที่จอดรถ : โครงการนี้ให้พื้นที่จอดรถทั้งหมด 625 คัน คิดเป็น 228% ซึ่งเป็นแบบ Fixed ที่จอดมาให้เลย ตามจำนวนห้องนอนของแต่ละรูปแบบห้อง (เช่น 2 Bedroom ก็จะได้ 2 ที่จอด, 3 ห้องนอนก็จะได้ 3 ที่จอด) ไม่ต้องวนหาให้เสียเวลา
  • ขนาดห้อง : มีรูปแบบห้องเริ่มต้นคือห้อง 2 Bedroom ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 92 ตร.ม. เลย ไล่ไป 3, 4 ห้องนอน ไปจนถึง Penthouse ขนาด 353 ตร.ม. เป็นขนาดที่จัดเป็นบ้านได้เลยล่ะครับ

ข้อมูลโครงการ

Q1 Sukhumvit (คิววัน สุขุมวิท) ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2564

 ชื่อโครงการ  Q1 Sukhumvit (คิววัน สุขุมวิท)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย
 ที่ดิน   3-1-69 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 40 ชั้น
 จำนวนยูนิต  273 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   11 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ที่จอดรถ 625 คัน คิดเป็น 228% แบบ Fixed ที่ตามแบบและขนาดห้อง
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2558
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2561
 ประเภทห้องพัก – 2 Bedroom ขนาด 92 – 125 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
– 3 Bedroom ขนาด 147 – 204 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 55 ล้านบาท
– 4 Bedroom ขนาด 288 – 296 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 128 ล้านบาท
– Penthouse ขนาด 343-353 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 166 ล้านบาท
 ฝ้าเพดานสูง  2.7 และ 3 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  30 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 340,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
 เว็บไซต์โครงการ   www.qonesukhumvit.qh.co.th
 Call Center  1388

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.739951668538733, 100.55557699725406
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Q1 Sukhumvit ครับ

นานาเป็นทำเลเศรษฐกิจเก่าแก่ที่อยู่ช่วงต้นของถนนสุขุมวิท บริเวณนี้ก็จัดเป็นทำเลศักยภาพสำคัญอีกจุดของกรุงเทพฯ เพราะตั้งอยู่ระหว่างเพลินจิต และอโศก ที่สามารถต่อไปยัง พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย หรือฝั่ง ชิดลม, สยาม ได้ง่าย ความอุดมสมบูรณ์ก็มีรอบทิศทาง นอกจากนั้นยังเป็นหนึ่งทำเลยอดนิยมของชาวต่างชาติอีกด้วย เพราะเป็นทำเลใกล้สถานทูตต่าง ๆ ที่อยู่บนถนนวิทยุ และมีโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เป็นโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลระดับสากล (JCI) ในย่านนี้ด้วย จึงไม่แปลกที่จะเห็นร้านค้าร้านอาหารจากนานาประเทศในทำเลนี้ครับ

โครงการ Q1 Sukhumvit ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ ติดกับซอยสุขุมวิท 6 และ BTS นานา แบบ 0 เมตรเลย มีทางขึ้นลงสถานีที่ประตูทางเข้าโครงการและมีทางเดินเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าเข้าสู่ชั้น 3 ของชั้นจอดรถด้วยภายในโครงการได้เลย ซึ่งการติดรถไฟฟ้าสถานีกลางเมืองขนาดนี้มีประโยชน์กว่าที่คิดนะครับ เพราะรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน ไม่ต้องขับรถฝ่ารถติดออกไปและหาที่จอดให้วุ่นวาย เช่น การจะไปห้างสรรพสินค้าก็สามารถนั่งไป Terminal 21 ที่อโศก หรือ Central Embassy, Central World, Gaysorn Village, The Market ก็เพียงแค่ 1-2 สถานีเท่านั้น หรือครอบครัวไหนจะเดินทางไปโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็มี โรงเรียนมาแตร์เดอี, จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย เป็นต้น

นอกจากนั้นภายในโครงการเองก็ให้พื้นที่จอดรถมาถึง 228% แถมยังเป็นแบบ Fixed ที่จอดด้วย (มีพื้นที่ให้ในโฉนด) ให้จำนวนพื้นที่จอดรถตามขนาดห้อง (2 Bedroom ก็จะได้ 2 ที่จอด, 3 ห้องนอนก็จะได้ 3 ที่, 4 Bedroom ก็จะได้ 4 ที่จอด, Penthouse ได้ 6 ที่จอด) สามารถเชื่อมต่อไปไหนมาไหนได้ง่าย เพราะทำเลนี้มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงานระดับ Hi End รายล้อม แถมยังมีสวนสาธารณะอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นสวนเบ็ญจกิติ,สวนเบญจสิริ และสวนลุม ในระยะ 1-2 กิโลเมตร สามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายเลยครับ

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปโครงการวันนี้ผมอธิบายง่าย ๆ ด้วยภาพนี้นะครับ หน้าโครงการมีจุดขึ้นลง BTS นานา ตั้งอยู่แบบนี้เลย แต่ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับลูกบ้านที่มี Keycard ของโครงการ จะมีทางเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้า BTS นานา ด้านบน เข้าสู่ตัวอาคารได้เลยครับ (ชมบรรยากาศของทางเชื่อมกันภายในบทความอีกทีนะครับ)

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สำหรับสภาพแวดล้อมรอบโครงการ Q1 Sukhumvit รายล้อมไปด้วยอาคารสูงริมถนนสุขุมวิท แต่ตัวโครงการสูง 40 ชั้น ซึ่งจัดว่าค่อนข้างสูงกว่าอาคารอื่น ๆ โดยรอบ ทำให้ชั้นสูง ๆ ก็จะค่อนข้างโล่ง โดยวิวหลักๆ ของที่นี่ก็จะมีห้องพักอาศัยครบทั้ง 4 มุมเลย ตัวอาคารเป็นตัว L ทำให้จะมีฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่มองเห็นห้องพักอาศัยกันเองบ้าง ซึ่งวิวโล่ง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นวิวทางฝั่งทิศตะวันออก ทิศเหนือ และทิศใต้ ส่วนทิศตะวันตกจะมีแนวอาคาร O-NES Tower ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่สูงพอ ๆ กันตั้งอยู่ติดกันเลย ส่วนฝั่งทิศเหนือในชั้น 9 ที่เป็นส่วนสระว่ายน้ำของพื้นที่ส่วนกลาง อาจจะได้ผลกระทบในเรื่องของเสียงจากถนนสุขุมวิทและแนวรถไฟฟ้าบ้างครับ แต่ในห้องพักอาศัยถ้าผิดประตูระเบียงให้สนิทก็ค่อนข้างจัดมั่นใจว่าเงียบครับ เพราะใช้กระจก Low E แบบ 3 ชั้น ส่วนวิวก็จัดเป็นวิวที่ค่อนข้างโล่งเลย ลองไปชมบรรยากาศรอบ ๆ โครงการกัน ทั้งแนวราบจะวิวมุมสูงเลย

Image 1/6
มองไปทางฝั่งเพลินจิต จะเป็นแนวทางเดินเรียบถนนสุขุมวิทยาวไปเลยครับ ไปดูฝั่งนี้กันก่อน

มองไปทางฝั่งเพลินจิต จะเป็นแนวทางเดินเรียบถนนสุขุมวิทยาวไปเลยครับ ไปดูฝั่งนี้กันก่อน

ก่อนอื่นมาดูพื้นที่โครงการรอบ ๆ ในแนวราบกันก่อนครับ (วันที่ผมไปค่อนข้างจะชุ่มฉ่ำเลย เพราะฝนตกพอดี แอบเปียกอยู่เหมือนกันครับ)

Image 1/4
ทิสตะวันออกจากชั้น 40 : จะเห็นว่าเป็นฝั่งที่ได้วิวค่อนข้างโล่งนะครับ เห็นแนวรถไฟฟ้าบนถนนสุขุมวิท และได้พื้นที่สีเขียวของสวนชูวิทย์ด้วย เป็นหนึ่งในวิวหลักของโครงการเลย

ทิสตะวันออกจากชั้น 40 : จะเห็นว่าเป็นฝั่งที่ได้วิวค่อนข้างโล่งนะครับ เห็นแนวรถไฟฟ้าบนถนนสุขุมวิท และได้พื้นที่สีเขียวของสวนชูวิทย์ด้วย เป็นหนึ่งในวิวหลักของโครงการเลย

หลังจากดูพื้นที่รอบ ๆ โครงการในแนวราบกันมาแล้ว ลองขึ้นตัวอาคารไปดูวิวในแต่ละทิศกันบ้างครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Nana Square ~ 400 เมตร
  • Foodland ~ 350 เมตร
  • Park Ventures ~ 1 กิโลเมตร
  • Terminal 21 ~ 1 กิโลเมตร
  • Central Embassy ~ 1.1 กิโลเมตร
  • Central Chidlom ~ 1.5 กิโลเมตร
  • EM District ~ 2.2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 1.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ~ 1.7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลตำรวจ ~ 1.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ~ 3.0 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • NIST International School ~ 1.2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 1.2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ~ 1.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ~ 1.8 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ~ 1.9 กิโลเมตร
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 3.9 กิโลเมตร

สถานที่สำคัญอื่น ๆ

  • BTS นานา ~ 0 เมตร
  • สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน ~ 150 เมตร
  • Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit ~ 190 เมตร
  • The Landmark Bangkok ~ 210 เมตร
  • Sofitel Bangkok Sukhumvit ~ 290 เมตร
  • Times Square Building NKS ~ 450 เมตร
  • Sheraton Grande Sukhumvit ~ 500 เมตร
  • The Westin Grande Sukhumvit Bangkok ~ 550 เมตร
  • JW Marriott Hotel ~ 600 เมตร
  • สวนเบญจกิติ ~ 1.3 กิโลเมตร
  • สวนลุมพินี ~ 2.5 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของชั้น 1 แบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สำหรับผังอาคารชั้น Ground Floor ของโครงการ Q1 Sukhumvit จะเห็นว่า ตัวอาคารมีแนวถนนวิ่งได้รอบตัวอาคาร โดยจะมีทางเข้าออกโครงการ 2 จุด จุดหลักคือบนถนนสุขุมวิทที่เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้วจะเจอกับวงเวียนสำหรับ Drop Off จากนั้นก็วันเข้าพื้นที่จอดรถด้านหลัง ข้างตัวอาคารจะมีพื้นที่จอดรถสำหรับ EV Charger ให้ด้วย ทั้งสองฝั่ง พื้นที่จอดรถจะมีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น และบนอาคารอีก 8 ชั้นครับ

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะมี Lobby ขนาดใหญ่ ที่ยกฝ้าเพดานขึ้น 8.7 เมตร ภายในแยกออกเป็นหลายมุมหลายที่นั่ง เชื่อมต่อไปยังโถงลิฟต์ที่มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 5 ตัว และลิฟต์ขนของที่ตกแต่งไม่ต่างกันอีก 1 ตัวครับ จริง ๆ ก็สามารถใช้งานได้ทั้ง 6 ตัวเลย โดยจะมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งหมด 1 : 55 (ไม่ได้นับลิฟต์ขนส่ง) อีกส่วนจะมีห้องDriver Room สำหรับให้คนขับรถได้พักคอยได้ด้วยครับ ลองไปชมบรรยากาศกัน

ก่อนจะเดินเข้าหน้าโครงการ Q1 Sukhumvit ผมแวะพามาชมทางเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS นานา กันก่อนสักนิดนะครับ ตรงนี้เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของโครงการเลยครับ เพราะโครงการ Q1 Sukhumvit เป็นโครงการ Residential เดียวที่มีทางเชื่อมจาก BTS เข้าสู่ตัวโครงการได้โดยตรงเลย ข้อดีคือทำให้ไม่ต้องเดินลงไปใช้งานด้านล่าง มีพื้นที่การใช้งานเป็นของตัวเอง แถมยังมีพี่ รปภ. คอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้ตลอดเวลาทำการของสถานีรถไฟฟ้า ได้ทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเยอะเลย

มีลิฟต์โดยสารสำหรับใช้งานสถานีด้านข้างทางเข้าออก พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นพื้นที่สาธารณะ คนทั่วไปมาใช้ลิฟต์โดยสารนี้ได้นะครับ แต่หลังประตูไปจะเป็นพื้นที่ของทางโครงการ มี รปภ. ดูแลความปลอดภัย และใช้ keycard ในการเข้าถึง

เป็นแนวทางเดินที่ออกแบบมาเข้ากับตัวโครงการ เปิดแนวกระจกโล่งทั้ง 2 ฝั่งครับ

เข้ามาด้านในจะมีประตูอีกบาน ที่เข้าออกด้วยระบบ Keycard อีกเช่นเคย

จากนั้นจะมีแนวทางเดินยาวเข้าไป ตกแต่งอย่างหรูหราสวยงาม พื้นจะเป็นทางลาดที่รองรับการใช้งานของรถเข็นด้วย

เข้ามาด้านในจะเชื่อมต่อกับพื้นที่จอดรถของชั้น 3 ครับ จากนั้นจะมีประตูเชื่อมเข้าโถงลิฟต์อีกที เข้าออกด้วยระบบ Keycard อีกเช่นเคย จะเห็นว่าที่นี่เขาค่อนข้างจะเน้นเรื่องความปลอดภัยกันเป็นพิเศษเลย

ย้อนกลับออกมาที่ด้านหน้าโครงการ Q1 Sukhumvit บนถนนสุขุมวิทกันอีกครั้งครับ ด้านหน้าสุดจะมีประตูรั้วเหล็กดูแลพร้อมพี่ ๆ รปภ. คอยโบกรถให้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านข้างมีป้อม รปภ ที่ดูกลมกลืนไปกับแนวรั้วผนัง เรียบ ๆ และไม่รบกวนบรรยากาศด้านหน้าโครงการ

ด้านหน้าจะมีพื้นเป็นคอนกรีตพิมพ์ลาย บรรยากาศโครงการค่อนข้างร่มรื่นเลยครับ ตรงกลางจะมีวงเวียนต้นไม้ใหญ่ให้สามารถ Drop Off ได้

หากจะจอดรถจะต้องขับตามแนวอาคารเข้ามาด้านในครับ พื้นที่ใต้อาคารจะเป็นพื้นที่จอดรถ EV Charger ครับ ซึ่งจัดมาให้เยอะเลยทีเดียว

ด้านในจะมีรั้วกั้นไม้กระดกเข้าออกด้วยระบบ RFID หรือที่รู้จักกันในแบบ Easy Pass นั่นเองครับ

จากนั้นจะมีทางออกจากพื้นที่จอดรถ ซึ่งจะวนกลับทางเดิม (สำหรับไปรับผู้โดยสารที่ Lobby) หรือจะอ้อมแนวอาคารออกเลยก็ได้ครับ

เลยมาอีกจะเป็นเข้าพื้นที่จอดรถครับ โดยจะมีให้เลือกทั้งชั้นใต้ดิน และด้านบนอาคาร ซึ่งทุกห้องจะได้แบบ Fixed ที่จอด เป็นที่จอดประจำอยู่แล้วนะครับ ไม่ต้องวนหาเพราะสามารถจอดที่เดิมได้เลย

ด้านข้างอาคารฝั่งทิศตะวันตก จะมีทางเข้าออกโครงการอีกทาง ที่ซอยสุขุมวิท 6 ซึ่งจะไปเชื่อมกับ ซอยสุขุมวิท 4 ได้ เป็นทางที่สามารถเข้าโครงการได้จากจุดลงทางด่วนพระราม 4 ด้วย (ถนนดวงพิทักษ์)

วนออกมาอีกฝั่งจะมีพื้นที่นั่งเล่นภายนอกอาคาร (Semi-Outdoor) ให้นั่งพักผ่อนภายนอกกันได้ด้วย แถมยังมีประตูทางเข้าจากทางฝั่งนี้ให้ด้วยครับ

วนมาด้านหน้าอาคารจะเป็นส่วนทางเข้าออกหลักของอาคาร มีพื้นที่ Drop Off ที่มีชายคายื่นออกมากันแดดและฝนให้ด้วย พื้นส่วนด้านหน้านี้จะเป็นคอนกรีตพิมพ์ลายทั้งหมดเลย

เปิดประตูเข้ามาภายในจะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ เน้นความสมมาตร (Symmetry) ตกแต่งด้วยโทนสีขาว ใช้วัสดุธรรมชาติ เน้นออกแบบให้ดูเรียบหรูตามสไตล์ Modern Classic ครับ

มีมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวสำหรับคุยงานหรือนัดพบได้ ด้านในมีประตูเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งภายนอกแบบที่พาไปชมมาก่อนหน้านี้ครับ

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่โล่งกว่า สำหรับนั่งได้หลายกลุ่มมากยิ่งขึ้น ด้านข้างจะมีแนวกระจกยาวทั้งแถบสูง 8.7 เมตร เท่าระยะฝ้าเลยครับ ทำให้ Lobby ดูค่อนข้างโล่ง และได้แสงสว่างเยอะ

ด้านในจะมีห้องน้ำแยกชายหญิงและสำหรับรถเข็นให้ด้วยครับ

เป็นห้องน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่เลยครับ ใข้งานพร้อมกันได้ประมาณ 5-6 คนเลย

ด้านในของ Lobby จะมีเคาน์เตอร์ Reception ครับ มีเจ้าหน้าที่ประจำการตลอดทั้งวันครับ จัดพื้นที่มาน่าใช้งานดีครับ อย่างที่บอกไปว่าเน้นความสมมาตร เพื่อให้ดู Grand ยิ่งขึ้น ใช้เฟอร์นิเจอร์สีโทนเย็น ให้ความรู้สึก สุภาพ สงบ และดูสะอาด

ด้านหลังของเคาน์เตอร์ reception จะมีประตูเชื่อมไปยังโถงลิฟต์ครับ เข้าออกด้วยระบบ Keycard

ด้านในโถงลิฟต์จะมีพื้นที่นั่งอีกจุดให้ครับ ส่วนตัวผมชอบตรงที่เขาคำนึงถึงการใช้งาน อาจจะใช้เป็นพื้นที่นั่งรอ พักคอย หรือจะเป็นจุดนั่งเล่นอีกมุมที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นก็ได้

ภายในโถงมีลิฟต์โดยสาร 5 ตัว โดยจะมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 1 : 55 ยูนิต ครับ จัดว่าน้อยและได้ความเป็นส่วนตัว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ลิฟต์ขนของของที่นี่เขาตกแต่งมาเหมือนกันกับลิฟต์โดยสารเลย สามารถใช้งานได้ปกติครับ ซึ่งถ้านับลิฟต์ขนของด้วยก็จะมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 1 : 45 ยูนิต เท่านั้น ขึ้นไปดูชั้นพื้นที่ส่วนกลางกันเลยดีกว่าครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของชั้น 9 แบบคร่าว ๆ ไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ชั้น 9 นี้เป็นชั้น Main Facilities ของโครงการ Q1 Sukhumvit ครับ ซึ่งจะมีเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น ทั้งภายในและภายนอกอาคารเลย ไม่มีพื้นที่ห้องพักอาศัย เริ่มด้วยส่วนของโถงลิฟต์ที่จะมีแนวทางเดิน 2 ฝั่ง ส่วนแรกจะไปใช้งานพื้นที่ภายในอาคารส่วนของ Fitness Center, ห้อง โยคะ, Multi-Purpose Room และห้องน้ำแยกชายหญิงที่จะมีส่วนของ Steam, Sauna และสระ Jacuzzi ด้วย ส่วนอีกฝั่งจะไปที่ Residence Loung ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็น Lobby ของชั้นนี้ และเป็นตัวเชื่อมต่อออกไปยังภายนอกอาคาร จะเป็นส่วนของพื้นที่พักผ่อน และ Swimming Pool ครับ ลองไปชมบรรยากาศกัน

บรรยากาศของโถงลิฟต์ชั้นนี้ ดูดีทีเดียว ยกฝ้าเพดานขึ้นสูง และการเปิดโล่ง 2 ฝั่ง ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ส่วนสไตล์การตกแต่งก็จะเป็นสไตล์เดียวกันกับชั้นที่ผ่านมาครับ

เดินมาดูฝั่ง Residence Lounge กันก่อน ตรงนี้จะมีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังสวนภายนอกให้ด้วยครับ เป็นบรรยากาศและวิวดี ๆ ให้กับพื้นที่ภายในอาคาร

ด้านนอกนี้จะเป็นสวนแนวยาวที่เล่นระดับ ลองเดินไปชมด้านในกัน

จะมีชุดโต๊ะสนามให้นั่งเล่นรับบรรยากาศภายนอกนี้ด้วย อีกทั้งพื้นที่นี้ยังทำหน้าที่เป็นวิวให้กับห้องต่าง ๆ ภายในอาคารฝั่งนี้ด้วย

กลับเข้ามาด้านใน หน้า Resdence Lounge จะมีพื้นที่พักคอยอีกจุดให้ครับ ก่อนจะเข้าไปด้านใน ซึ่งจะเข้าด้วยระบบ Keycard นะ

เข้ามาด้านในจะเจอห้องรับรองขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เหมือนเป็น Lobby ของพื้นที่ส่วนกลางชั้นนี้ แยกมุมพักผ่อนออกเป็นหลายส่วน ตกแต่งคล้ายส่วน Lobby ที่ชั้น 1 เลยครับ การเปิดช่องแสง 2 ฝั่งตลอดแนว ทำให้พื้นที่นี้โล่ง และสว่าง ช่วยให้ดูกว้างยิ่งขึ้น

ด้านหน้าจะมีเคาน์เตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ พื้นที่ส่วนกลางทุกส่วนจะเปิดให้บริการ 6.00 – 21.00 น. นะครับ แต่สำหรับชั้น 9 และชั้น 40 จะมี Staff มาคอย Stand by เวลา 9.00 – 18.00 น. คอยให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือในจุดต่าง ๆ

ด้านในจะมีมุมนั่งเล่นให้เลือกอีก แยกเป็นมุมส่วนตัว ได้วิวสวนภายนอก

อีกฝั่งจะเป็นผนังยาวตลอดแนวครับ แยกเป็นชุดโซฟาใหญ่เข้ามุม ได้ความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวนกัน

ด้านข้างอีกฝั่งก็มีแนวผนังกระจกยาวเช่นกัน จะเป็นทางเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่ภายนอกอาคารฝั่งสระว่ายน้ำครับ

เปิดประตูออกมาจะเจอกับพื้นที่ Semi-Outdoor เป็นโถงยาวที่แยกออก 2 ฝั่ง โดยจะมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางด้านในสุดครับ

ฝั่งแรกด้านนี้จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสวน ที่อยู่ใต้ชายคา ไม่โดนแดดและฝน จะได้รับลมและบรรยากาศภายนอกอย่างเต็มที่

ด้านนอกจะมีมุมโซฟาตัว U ขนาดใหญ่ แบบ Out Door ให้นั่งใต้ร่มไม้ครับ ตรงนี้บรรยากาศดีเลย เหมาะกับการทำกิจกรรมกลุ่มได้ดีเลยล่ะ

สระว่ายน้ำของที่นี่จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 27.4 x 9 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง มีสระเด็กให้อีก 3 x 9 เมตรครับ ที่ผมชอบคือมีทั้งส่วนที่อยู่ใต้ชายคาไว้ให้ใช้งานในช่วงที่แดดร้อนหรือฝนตกได้ และส่วนภายนอกชายคาที่สามารถรับวิวถนนสุขุมวิทได้อย่างเต็มที่

ด้านในจะมีเคาน์เตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อย ปลอดภัย และให้คำแนะนำต่าง ๆ มีผ้าเช็ดตัวให้บริการโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วยนะ

แต่ละช่องของช่วงเสาจะมีลูกเล่นถูกแทรกไว้ครับ เช่นจุดนอนพักรับวิวภายในน้ำ และทางขึ้นลง

ด้านในจะมีพื้นที่เตียงให้นอนเล่น หรือสำหรับผู้ติดตามได้อีกเช่นกัน

ส่วนช่วงเสาถัดมาจะเป็นสระ Jacuzzi 2 สระ พร้อมที่นั่งในตัว และทางขึ้นตรงกลางครับ

ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนในน้ำอีกเช่นกันครับ แต่ส่วนนี้จะได้สวนด้านข้างมาด้วย

ด้านในจะมีพื้นที่ล้างตัวเข้ามุมให้ เปิดเป็นช่องลมเล็ก ๆ ให้ลมถ่ายเทได้ดีเลยครับ

ด้านในเป็นพื้นที่ห้องน้ำขนาดเล็กสำหรับใช้งานในส่วนของสระว่ายน้ำครับ แยกชายหญิงมาให้ ส่วนถ้าใครอยากใช้งานห้องน้ำใหญ่ ให้เข้าไปด้านในนะครับ ไปดูกัน

กลับเข้ามาภายในอาคาร ไปดูอีกฝั่งของโถงลิฟต์กันต่อเลย จะเป็นพื้นที่กิจกรรมภายในอาคารทั้งหมด

จะเป็นโถงทางเดินยาว ห้องแรกเป็น Multi-Purpose Room ครับ ลักษณะเหมือนห้องสมุด หรือใช้งานเป็นห้องประชุม และห้อง Co-Working Space ได้ ครับ

ห้องถัดมาเป็น Fitness Center ที่จัดออกมาให้ดูดีเหมือน Club Fitness หรู ๆ เลย ด้านหน้านี้จะมีส่วนของพื้นที่ต้อนรับก่อนครับ ทำหน้าที่เป็นเหมือน Lobby ของพื้นที่ส่วนกลางทางฝั่งนี้ มีเจ้าหน้าที่ประจำและให้ความช่วยเหลือ พร้อมผ้าเช็ดตัวให้บริการด้วย

ด้านในมีพื้นที่นั่งเล่น รับวิวสวนภายนอก แยกพื้นที่ภายในออกเป็น 2 ส่วนครับ ไปดูส่วนแรกด้านในกันก่อนเลย

เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่ยกฝ้าเพดานสูงและเป็นแนวกระจกรอบ 3 ฝั่ง ทำให้ดูโปร่งและโล่งยิ่งขึ้นไปอีก

ที่นี่ให้อุปกรณ์อออกกำลังกายมาค่อนข้างครบเลย ด้านในมีส่วนของ Weight Training มาให้ครบทุกส่วนเลย

ส่วนสาย Cadio Training ก็จัดมาให้เต็มที่ทั้งลู่วิ่งและจักรยาน รับวิวสวนภายนอกและวิวเมืองครับ ห้องนี้จะเป็นม่านไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคอยดูความเหมาะสมของช่วยเวลาครับ

มาดูอีกฝั่งของพื้นที่นี้กันครับ แยกกันอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้รบกวนกัน

เป็นห้องโยคะขนาดใหญ่ ที่ใช้งานได้หลากหลายเลย ภายในห้องจะได้แนวกระจกรับวิวสวน ส่วนอีก 2 ฝั่งจะเป็นกระจกเงาแบบ Full Height ครับ

ด้านในจะมีอีกหนึ่งไฮไลท์ของชั้นนี้เลยครับ เป็นห้องน้ำแยกชายหญิงขนาดใหญ่ ที่ภายในจะประกอบไปด้วย Spa, Sauna และ Jacuzzi

ภายในตกแต่งค่อนข้างหรูหราเลย ใช้งานได้พร้อมกันหลาย ๆ คน ขนาดใหญ่ เหมือนห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เลย

มีส่วนโถปัสสาวะ ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำในส่วนแรก จากนั้นจะมีประตูด้านข้างให้เชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ด้านในที่จะอยู่ริมอาคาร ได้วิวภายนอก

เป็นห้องที่แยกออกมาเพื่อต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ตกแต่งในลักษณะเดียวกัน

ส่วนแรกของห้องจะเป็นส่วนของ Locker และพื้นที่นั่งครับ

ห้องแรกจะเป็นส่วนของ Spa มีพื้นที่นั่งและแนวกระจกเข้ามุมรับวิวภายนอก จะให้ความรู้สึกโล่งและไม่อึดอัดเหมือนที่อื่น ๆ

อีกห้องด้านในจะเป็นห้อง Steam ครับ จะปิดค่อนข้างเป็นส่วนตัว ภายในมีที่นั่งค่อนข้างกว้างเลยครับ

ไฮไลท์กลางห้องต้องยกให้ส่วนของสระ Jacuzzi ครับ เป็นสระน้ำอุ่นรับวิวภายนอก ภายในสระจะมีพื้นที่นั่งให้ครบรอบเลย ใช้งานคนเดียวก็สบาย หรือจะมาเป็นกลุ่มก็ได้บรรยากาศอีกแบบ

ด้านในจะมีส่วนอาบน้ำภายในนี้ให้ด้วยครับ สามารถจบในห้องนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินออกไปอาบด้านนอก

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของชั้น 40 แบบคร่าว ๆ ไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ขึ้นมาต่อที่ชั้น 40 กัน เป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนที่ให้มาเต็มชั้น โถงลิฟต์จะสามารถออกได้ 2 ฝั่งเช่นเดิม ออกจากโถงลิฟต์มาฝั่งที่กว้างกว่าจะมีแนว Terrace ขนาดใหญ่ รับวิวกว้าง สามารถมาพาลูก ๆ มาปั่นจักรยานเล่นได้เลย แยกออกมาเป็นสวนและพื้นที่ส่วนกลาง ด้านในจะมี Spa และ Onsen ให้บริการ แต่ต้องทำการจองกับทางโครงการล่วงหน้า และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยนะครับ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อนที่มีโซนเคาน์เตอร์สำหรับประกอบอาหารได้ และโซนนั่งเล่นมาให้ด้วย ด้านข้างจะมีบันไดและลิฟต์แก้วสำหรับเชื่อมต่อขึ้นไปยังส่วนของ Sky Lounge ที่ชั้น 40th M

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นสวนครับ สำหรับพักผ่อนรับวิวได้รอบบรรยากาศดีเลยล่ะ ไปชมกันครับ

บรรยากาศโถงลิฟต์ของชั้นนี้ก็ยังคงตกแต่งมาสวยงามเหมือนชั้นอื่น ๆ นะครับ จะได้ความสว่างจากการเปิดช่องแสงสองฝั่ง ไปดูฝั่งแรกกันก่อนเลย

เป็นพื้นที่ลานอเนกประสงค์และสวนรับวิวเมืองมุมสูงครับ ด้านในมีพื้นที่ส่วนกลางภายในห้องด้วย หลังจากฝนตกสด ๆ ร้อน ๆ ก็จะเปียก ๆ หน่อยนะครับ

ตรงนี้เป็นลานโล่งขนาดใหญ่ ชนิดที่พาน้อง ๆ ขึ้นมาวิ่งเล่น หรือปั่นจักรยานคันเล็ก ๆ ได้เลย

ด้านข้างเป็นแนวทางเดินยาวเข้าไปด้านในครับ มีสวนด้านข้างให้นั่งพักผ่อนเป็นจุด ๆ

ส่วนแรกเลยคือห้อง Spa ครับ ที่จะได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะต้องติดต่อจองกับทางโครงการขึ้นมาก่อน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ภายในห้องให้เตียงมาสำหรับ 2 ที่ เราสามารถนำพนักงานนวด ช่างแต่งหน้า มาเองได้นะครับ ในห้องนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณครั้งละ 1,000 บาท

ด้านในมีห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่เปิดโล่ง และได้รับแสงจากภายนอกด้วย เหมาะสำหรับแต่งหน้าทำผมได้อย่างดี

อีกฝั่งก็มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำมาให้ด้วย ครบ จบ ในห้องนี้เลย

ออกมาจะเจอกับลิฟต์แก้วที่พาขึ้นไปยังห้อง Sky Lounge ด้านบน สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 5 คนครับ หรือใครไม่อยากขึ้นลิฟต์ก็ขึ้นบันไดด้านข้างได้

ส่วนด้านในจะเป็นทางเดินยาวเข้าไปยังพื้นที่ลานกิจกรรมอีกส่วนที่มีเคาน์เตอร์มาให้สำหรับนำอาหารและเครื่องดื่มมาทานได้ ด้านข้างเป็นห้อง Private Onsen ครับ ไปชมกัน

เป็นห้องที่ตกแต่งมาสไตล์ญี่ปุ่น เข้ากับบรรยากาศ แต่ยังเลือกโทนสีและวัสดุได้สอดคล้องกับส่วนอื่น ๆ มีพื้นที่พักผ่อนด้านนอกให้ด้วย

จะเป็น Private Onsen แยกชายหญิง ภายในห้องจะมีส่วนนั่งอาบน้ำล้างตัวส่วนแรกกันก่อนครับ เหมือนที่ญี่ปุ่นไม่มีผิด

ส่วนด้านในจะเป็นสระรับวิวเมืองค่อนข้างสวนเลย เป็นสระที่มีที่นั่งให้ภายใน ส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกันครับ เพราะทางโครงการจะต้องมาเตรียมน้ำแร่ไว้ให้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาท/ครั้ง

กลับออกมาที่สวนด้านนอก จะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนรับวิวมุมเมืองมุมสูง พร้อมเคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสำหรับการเตรียมอาหารว่างและเครื่องดื่มมาทานได้

เป็นมุมเก้าอี้สำหรับ 5-6 ที่นั่ง ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor นะครับ ไม่ร้อนนัก แต่ฝนอาจจะสาดเข้ามาได้เหมือนกัน

มาที่อีกฝั่งนึงของโถงลิฟต์กันต่อครับ จะเป็นสวนด้านนอกที่จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนชั้นเลิศเลยล่ะ

เป็นสวนรับวิวภายนอก 3 ฝั่ง ค่อนข้างโล่ง เพราะตัวอาคารเราจัดว่าสูงกว่าโครงการเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ในย่านนี้

ให้เป็นสวนมาค่อนข้างหลากหลายแบบครับ กระจายพื้นที่สีเขียวให้ตามแนวทางเดิน

เป็นแนวทางเดินยาวเข้าด้านในครับ จะมีสวนแยกออกเป็นจุด ๆ ซ้ายขวา พร้อมพื้นที่พักผ่อนกระจายอยู่ด้านข้างเช่นกัน

สามารถนั่งพักผ่อนได้หลายมุม ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวสูงเลย

ด้านในสุดก็เป็นพื้นที่พักผ่อนเช่นกันครับ จะได้วิว 3 ฝั่งเลย

หรือมองไปทางอีกฝั่งก็จะเห็น Iconic ของอาคาร ที่เห็นมาแต่ไกล แต่อยู่ตรงนี้ก็เห็นพื้นที่ Sky Lounge ด้านบนอย่างชัดเจนเลยครับ เราขึ้นไปดูกันเลย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของชั้น 40th M แบบคร่าว ๆ ไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ด้านบนจะมีพื้นที่ส่วนของ Sky Lounge ครับ ที่เชื่อมต่อมาจากบันไดและลิฟต์แก้วของชั้น 40th โดยภายในจะมีพื้นที่นั่งเล่นที่หลากหลาย และมีห้องน้ำในตัว หรือถ้าจัดงาน Private Party แล้วต้องการใช้ห้องน้ำเพิ่มก็จะมีแนวทางเดินด้านล่างสำหรับให้ไปใช้ห้องน้ำอีกจุดและครัวด้านในให้ด้วย ไปชมกัน

ส่วนของพื้นที่นี้เราสามารถมาใช้งานปกติได้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว จัด Private Party ก็สามารถแจ้งล่วงหน้าไปที่ทางโครงการได้นะครับ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 3,000 บาท/ครั้ง เป็นคำอำนวยความสะดวกและทำความสะอาดต่าง ๆ เพราะต้องมีคนนอกเข้ามาภายในโครงการ ใช้ที่จอดรถและลิฟต์ภายในโครงการ เป็นต้น

ถ้าเดินขึ้นบันไดมาก็จะเข้ามาถึงส่วนด้านหน้านี้ครับ ลองเปิดประตูเข้าไปชมกันเลย

ถ้ามาจากลิฟต์แก้วจะเข้ามาอีกทาง เป็นพื้นที่โต๊ะพูล ที่รายล้อมด้วยกระจก 4 ฝั่งเลยก็ว่าได้ บรรยากาศดีเลยล่ะครับ

ภายในนี้มีมุมนั่งพักผ่อนแยกออกเป็นหลายจุดเลยครับ  สไตล์การออกแบบและวัสดุเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ จะคล้าย ๆ กับส่วน Lobby ที่ชั้น 1 และ Residence Lounge ที่ชั้น 9 แต่จะได้แนวกระจก 4 ฝั่ง ทำให้ดูโล่งกว้างและรับวิวได้แบบรอบด้านเลย

มีมุมนั่งเล่นส่วนตัวสำหรับพักผ่อนกันเบา ๆ 1-2 คน รับวิวมุมอาคาร

หรือจะมีประชุมคุยงานกันก็มีพื้นที่รับรองให้นะครับ สำหรับจัดงานปาร์ตี้ก็มีพื้นที่รับประทานอาหารได้

หรือถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ก็นั่งกันได้ครบทุกคนแน่นอน

ส่วนด้านในจะแยกออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หลาย ๆ กลุ่ม นั่งได้หลากหลายและไม่ดูอึดอัด

ด้านในจะมีตู้แช่ไวน์ให้ด้วย เข้ามุมทางฝั่งทิศตะวันออกมองเห็นสวนต่าง ๆ ด้านล่าง

อีกมุมจะเป็น Pantry และห้องน้ำครับ หรือถ้าคนเยอะหน่อยจะลงไปใช้ด้านล่างอีกห้องได้

เป็นแนวทางเดินด้านล่างที่เข้าสู่ตัวอาคารอีกฝั่ง เป็นห้องน้ำอีกห้องและ Pantry ประกอบอาหารภายในครับ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของอาคารหลัก ๆ ก็จะประมาณนี้ครับ ส่วนโถงลิฟต์โดยสารในชั้นพักอาศัยต่าง ๆ. จะหน้าตาประมาณนี้ครับ มีพื้นที่พักผ่อนให้ทุกชั้นเลย

ส่วนลิฟต์ Service ก็ตกแต่งมาให้ดูดีไม่แพ้กัน ภายในจะตกแต่งมาเหมือนลิฟต์โดยสารเลยครับ แต่จะถูกแยกออกไปอีกจุดใกล้ ๆ กัน สามารถใช้งานได้เช่นกันครับ

โถงทางเดินในแต่ละชั้นของห้องพักอาศัยครับ เราไปดูผังชั้นพักอาศัยกันต่อเลย

Image 1/7
สำหรับชั้น 10-24 การวางผังของที่นี่จะมีแนวอาคารเป็นตัว L ซึ่งจะมีทั้งหมด 11 ยูนิต/ชั้น เป็น 3 ห้องนอนที่มุมอาคารฝั่งทิศเหนือและทิศตะวันออก 2 ยูนิต และ 2 ห้องนอนจำนวน 9 ยูนิต กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ มีทั้งแบบห้องปกติและห้องมุม ผังของชั้นพักอาศัยจะมีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางตัวอาคาร ทำให้แยกแนวทางเดินออกเป็น 2 ฝั่งใช้งานได้ง่ายและได้ความเป็นส่วนตัว ด้วยความที่ทุกห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ประตูแต่ละห้องส่วนใหญ่จะค่อนข้างห่างกัน โถงทางเดินแบบ Double Corridor ของที่นี่เลยจะได้ความเป็นส่วนตัวสูงกว่าปกติ (ไม่ต้องมีห้องฝั่งตรงข้าม แต่เยื้อง ๆ กันค่อนข้างห่าง) ส่วนวิวของห้องพักอาศัยจะรับวิว 4 ทิศรอบตัวอาคารเลย โดยจะรับวิวทั่ง 4 ทิศเท่า ๆ กัน (ทิศละ 4 ห้อง)

สำหรับชั้น 10-24 การวางผังของที่นี่จะมีแนวอาคารเป็นตัว L ซึ่งจะมีทั้งหมด 11 ยูนิต/ชั้น เป็น 3 ห้องนอนที่มุมอาคารฝั่งทิศเหนือและทิศตะวันออก 2 ยูนิต และ 2 ห้องนอนจำนวน 9 ยูนิต กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ มีทั้งแบบห้องปกติและห้องมุม ผังของชั้นพักอาศัยจะมีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางตัวอาคาร ทำให้แยกแนวทางเดินออกเป็น 2 ฝั่งใช้งานได้ง่ายและได้ความเป็นส่วนตัว ด้วยความที่ทุกห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ประตูแต่ละห้องส่วนใหญ่จะค่อนข้างห่างกัน โถงทางเดินแบบ Double Corridor ของที่นี่เลยจะได้ความเป็นส่วนตัวสูงกว่าปกติ (ไม่ต้องมีห้องฝั่งตรงข้าม แต่เยื้อง ๆ กันค่อนข้างห่าง) ส่วนวิวของห้องพักอาศัยจะรับวิว 4 ทิศรอบตัวอาคารเลย โดยจะรับวิวทั่ง 4 ทิศเท่า ๆ กัน (ทิศละ 4 ห้อง)

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น Ground

  • Lobby
  • Meeting Room
  • Driver Room
  • EV Charger

ชั้น 9th

  • Residence Lounge
  • Multi Purpose Room
  • Fitness Center
  • Yoga Room
  • Swimming Pool ขนาด 27.4 x 9 เมตร (สระเด็ก 2.6 x 9 เมตร)
  • Sauna & Steam
  • Jacuzzi

ชั้น 40th

  • Spa
  • Onsen
  • Terrace
  • Sky Garden

ชั้น 40th M

  • Sky Lounge

อื่น ๆ

  • ทางเชื่อมตรงเข้าสู่รถไฟฟ้า BTS สถานีนานา
  • ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว
  • Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 55 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 625 คัน คิดเป็น 228% แบบ Fixed ที่จอด ตามแบบและขนาดห้อง
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

แบบห้อง

อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการ Q1 Sukhumvit คือต้องการเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ห้อง 2 Bedroom ขนาด 92 ตร.ม. ขึ้นไปจนถึง Penthouse ขนาด 353 ตร.ม. เลย บวกกับการอยู่ในทำเลแบบนี้ ทำให้โครงการนี้มีจุดเด่นที่ค่อนข้างจะโดดเด่น โดยรูปแบบห้องของที่นี่จะประกอบไปด้วย

  •  2 Bedroom ขนาด 92 – 125 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
  •  3 Bedroom ขนาด 147 – 204 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 55 ล้านบาท
  •  4 Bedroom ขนาด 288 – 296 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 128 ล้านบาท
  •  Penthouse ขนาด 343-353 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 166 ล้านบาท

ส่วนรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted ที่มี Built-in ชุดครัว ตู้เสื้อผ้า และส่วนของห้องน้ำมาให้ค่อนข้างครบเลย วัสดุภายในก็จัดมาให้สมราคาครับ เริ่มกันที่พื้นภายในห้องจะเป็น Engineering Wood ผิวไม้สักอายุ 60 ปีขึ้นไป ผนังติด Wallpaper มาให้ ส่วนผนังและพื้นภายในห้องน้ำจะเป็นหิน Verona Stone นำเข้าจากอิตาลีและสเปน ส่วนถ้าเป็นห้อง Master Bathroom จะเป็นหิน Supergenti Grey นำเข้าจากตุรกี อ่างล้างหน้าของ TOTO และสุขภัณฑ์จะเป็น TOTO Washlet เช่นกัน ส่วน Hand Shower & Rain Showerจะเป็นของ Grohe ครับ อ่างอาบน้ำและฉากกั้นอาบน้ำจะเป็นของ Kasch ชุดครัวของที่นี่จะออกแบบและก่อสร้างโดย Poggenpohl ท็อปเป็น หิน Quatz อุปกรณ์ครัวจะได้เครื่องใช้ไฟฟ้า Built-in มาให้ ประกอบไปด้วย ตู้เย็น, เครื่องล้างจาน, เตาอบและไมโครเวฟแบบ 2 in 1, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอก ทั้งหมดนี้จาก Siements ระบบเครื่องปรับอากาศภายในห้องจะเป็น Concealed Type ทั้งหมดแบบ VRV (มี Condensing Unit ตัวเดียว) กระจกใช้เป็นกระจก Low E แบบ 3 ชั้น ฝ้าทั้งห้องจะฉาบเรียบแต่ซ่อนรางม่านไว้ให้ ได้ VDO Door Phone สำหรับเชื่อมต่อกับนิติที่ Lobby ด้านล่างหากมีแขกมาเยือน ภายในห้องน้ำทุกห้องจะมีระบบ Emergency ให้ ภายในห้องจะมี Home Automation และใช้สวิทช์ของ Jung จาก เยอรมัน

มาดูห้องแรกกันครับกับ 3 ห้องนอน ขนาด 203.97 ตร.ม. ที่เป็นห้องหน้ากว้างตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก วิวโล่งและมองเห็นสวนและแนวรถไฟฟ้าบนถนนสุขุมวิท เป็น City View ที่มี Movement ตลอดเวลา แถมยังได้สีเขียวของสวน จุดเด่นของห้องนี้คือรับวิว 3 ทิศทาง ภายในแยกสัดส่วนได้ชัดเจน ตั้งแต่ Common Area – Living Area และ Back Of House โดยจะมีทางเข้าออกแยกให้ 2 ส่วน ส่วนของเจ้าของบ้านและแม่บ้าน ห้องนอนทุกห้องจะได้ห้องน้ำในตัว ซึ่งให้อารมณ์บ้านมาก ๆ ครับ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนของ Foyer ก่อนเลย ด้านข้างจะมีห้องสำหรับเก็บรองเท้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาจะเจอกับ Living Room ขนาดใหญ่ ที่จะรวมครัวเปิดและพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วย มีระเบียงขนาดใหญ่ให้ออกไปสูดอากาศรับวิวได้ด้วย ด้านหลังครัวจะเป็นพื้นที่หลังบ้านที่มีครัวไทย ห้องซักรีด และประตูเข้าออกอีกทางไว้ให้ ด้านข้างจะมีห้องนอนรองห้องแรก ที่มีห้องน้ำในตัวมาให้และได้ช่องแสง 2 ทิศ อีกฝั่งของห้องด้านข้างห้องรองเท้าจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room มาให้ และจะแยกออกเป็นอีกสองห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว ความพิเศษจะอยู่ที่ห้องนอนใหญ่ ที่จะได้ช่องแสง 2 ทิศ พื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำ Master Bathroom ที่มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย ไปชมกันครับ

ทางเข้าห้องนี้จะมีประตู 2 บานครับ บานใหญ่ตรงกลางเป็นทางเข้าหลักของห้อง ที่สามารถเปิดได้กว้างกว่าปกติ ด้านข้างจะเป็นประตูบานปกติที่เชื่อมเข้าไปยังส่วนครัวหลังบ้านของภายในห้องครับ ข้อดีคือการแยกผู้ใช้งาน ทำให้แม่บ้านไม่รบกวนพื้นที่ของเจ้าของห้อง อีกทั้งในส่วนของการ Maintainace ก็ทำได้ง่ายด้วย

เปิดประตูบานหลักเข้ามาจะเจอกับส่วนของ Foyer ครับ จะมีพื้นที่ด้านข้างให้ ไม่ได้ Built-in เป็นที่นั่งมาให้นะครับ แต่เราสามารถทำเองได้นะ ประตูนี้จะมี Mail Box อยู่ด้านหลังบานประตูเลยครับ เพราะเจ้าหน้าที่จะนำจดหมายมาให้ถึงห้องเลย

เข้ามาจะเจอกับกห้องที่มีความสูง 3 เมตร เป็นห้อง Living Room ขนาดใหญ่ครับ ได้แนวกระจกกว้างหลายบานยิ่งทำให้ดูกว้างยิ่งขึ้น พื้นที่นี้จะรวมส่วนของครัวเปิด และโต๊ะรับประทานอาหารไว้ด้วยเลย

ส่วนแรกจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น ขนาดพื้นที่กว้าง วางชุดโซฟาได้หลากหลายครับ

ที่ได้ผนังขนาดใหญ่ใช้ทำชั้นวางของหรือสามารถติดทีวีขนาดใหญ่ได้ 5 ตัว ตามในห้องตัวอย่างเลย เผื่ออยากจะดูหลาย ๆ อย่างพร้อมกันก็ทำได้สะดวก

ถ้าจัดตามห้องตัวอย่างก็จะได้ขนาดพื้นที่ค่อนข้างลงตัวเลยนะครับ ด้านหลังโซฟาสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 6-8 ที่นั่งแบบไม่อึดอัด โดยจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร ด้านในจะได้ช่องแสง 2 จุด ช่วยเป็นแสงหลักของห้องส่วนนี้เลย

ส่วนต่อไปจะเป็นครัวและพื้นที่รับประทานอาหารครับ จะได้เป็นครัวเปิดขนาดใหญ่พร้อม Island ที่ Built-in มาให้แบบนี้เลย ด้านข้างมีพื้นที่รับประทานอาหารติดระเบียงรับวิวได้ดีเลย โอเค ไปดูชุดครัวกันก่อนเลยครับ

เป็นชุดครัวจาก Poggenpohl ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้ผลิตที่เชี่ยวชาญเรื่องชุดครัวจากประเทศเยอรมัน เป็นที่รู้จักในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก เน้นการใช้โทนสีขาว เพื่อดูเรียบหรูและง่ายแก่การตกแต่ง

จะได้ตู้เย็นแบบหน้าบานคู่ Built-in มาให้ จาก Siement ครับ พร้อมพื้นที่วางของด้านข้าง

ชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้เตาอบและไมโครเวฟแบบ 2 in 1 ด้านล่าง พร้อมพื้นที่เก็บของมากมาย ส่วนของ Top และ Backsplash จะเป็นหิน Quatz มาพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอก เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของ Siemens เช่นเดิมครับ

ส่วน Island ตรงกลางจะมีอ่างล้างจานมาให้ ด้านล้างจะได้เครื่องล้างจานจาก Siemens Built-in มาให้

ตรงนี้จะมีระยะห่างจากเคาน์เตอร์ครัวประมาณ 1 เมตร สามารถเดินผ่านไปมาได้สะดวก

พื้นที่ตรงนี้จะได้ช่องแสงเยอะ ยิ่งไปกว่านั้นคือวิวจากพื้นที่ระเบียงด้วย หรือวันไหนอากาศดีก็เปิดกินข้าวรับลมได้เยอะเลย ที่นี่เขาใช้กระจก Low E แบบ 3 ชั้น จะช่วยกันรังสี, กันความร้อน, และเสียงได้เป็นอย่างดีเลยครับ

ด้านข้างจาก Island ถึงระเบียงจะมีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารได้ประมาณ 3 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้สบาย ๆ ไม่อึดอัด แถมยังเดินได้รอบด้วย เลยไปด้านหลังนั่นจะเป็นประตูสำหรับห้องนอนรองห้อง 1 ครับ

ภายนอกนี้ระเบียงมีขนาดประมาณ 4 x 1.2 เมตร ค่อนข้างกว้างเลยครับ สามารถมาตั้งโต๊ะกาแฟสำหรับทำที่นั่งพักผ่อนรับวิวภายนอกนี้ได้เลย

ก่อนจะเข้าไปดูห้องนอนรองห้องแรก เราไปดูพื้นที่หลังบ้านกันหน่อยดีกว่าครับ เป็นประตูไม้ตรงกลางเป็นกระจกโปร่งแสงที่เชื่อมต่อไปยังส่วนด้านหลัง สามารถล็อคได้จากฝั่งนี้ครับ

เข้ามาด้านในจะเป็นแนวทางเดินยาวแยกออก 2 ฝั่งครับ เรามาดูฝั่งติดระเบียงด้านในทางขวามือกันก่อน ห้องแรกจะเป็นห้องน้ำสำหรับแม่บ้านในส่วนนี้ครับ ส่วนห้องที่สองจะเป็นห้องเก็บของครับ ด้านในสุดเป็นระเบียงสำหรับเป็นช่องแสงหลักของพื้นที่ส่วนนี้ และมีระเบียงขนาดกว้างพอที่จะตากผ้าได้ด้วย

ห้องน้ำสำหรับแม่บ้านให้มาขนาดประมาณ 1.8 x 1.2 เมตร ให้มาครบทั้งอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จาก TOTO แถมยังมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย

ระเบียงด้านนอกนี้ขนาดประมาณ 1.3 x 2 เมตร ก็จัดว่ากว้างสำหรับระเบียงห้องในคอนโดนะ ด้านในมีแนวระแนงที่กั้นส่วนของ Cendensing Unit ของระบบ VRV ไว้ให้เรียบร้อย

กลับเข้ามาภายในห้องนะครับ จะมีแนวเคาน์เตอร์ครัวไทยยาว ตู้ต่างๆ จะ Built-in มาให้ตามรูปนี้เลยครับ จะเหลือทางเดินจากเคาน์เตอร์ครัวถึงผนังประมาณ 1.1 เมตร เดินถือตะกร้าผ้าผ่านไปมาได้สบายเลย

ครัวไทยด้านหลังนี้จะเป็นชุดครัวของ TEKA ต่อท่อออกให้ภายนอกให้ครับ ได้ตามนี้เลยนะ เป็นครัวที่เหมาะกับการประกอบอาหารแบบจริงจังมากกว่า เพราะกลิ่นและควันจะได้ไม่รบกวนส่วนอื่น ๆ ภายในห้อง ระบายอากาศทางระเบียงได้เลย

ส่วนด้านในจะมีพื้นที่วางตู้เย็นอีกเครื่อง อาจจะเก็บพวกวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ปรุงอาหารด้านหลังนี้ ด้านข้างอีกฝั่งจะมีที่วางเครื่องซักผ้าให้ครับ

ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องงานระบบและห้องเก็บของ ซึ่งจะ Built-in เก็บพวก ควบคุมงานระบบต่าง ๆ ในห้อง และทำชั้นวางของซ่อนไฟภายในมาให้พร้อมเลย เหลือขนาดพื้นที่ใช้สอยอีกประมาณ 2 x 1.2 เมตร สามารถเก็บของได้อีกเยอะเหมือนกันครับ

ย้อนกลับมาดูห้องนอนห้องแรกของห้องนี้กันครับ จะเป็นห้องนอนรองที่แยกตัวออกมาคนเดียว เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง หรืออาจจะชอบใช้งานระเบียงจากห้องนั่งเล่น เพราะเข้าออกได้สะดวกกว่าห้องอื่น ๆ ภายในห้องจะได้แนวกระจก Full Height มาให้ ทำให้รับแสงอย่างเต็มที่เลย

พื้นที่ภายในห้องวางเตียงขนาด King Size และโต๊ะหัวเตียงได้สบาย ๆ เลย พร้อมชั้นวางทีวีที่ปลายเตียงแล้วยังเหลือพื้นที่เดินได้รอบ ด้านในจะมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้าหน้าบานเปิดที่ Built-in มาให้ครับ

เป็นตู้ Built-in มาให้หน้าตายังงี้ครับ ภายในติดตั้งไฟมาให้ด้วย

ห้องน้ำของห้องนี้ก็จัดมาค่อนข้างดูดีเลยครับ ที่สำคัญคือได้ช่องแสงธรรมชาติ ช่วยให้ห้องดูโล่ง กว้าง ระบายอากาศและความชื้นได้ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งได้ดีเลย มีฉากกั้นอาบน้ำให้ โถสุขภัณฑ์ก็เป็นอัตโนมัติ

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ของ TOTO มาพร้อมกระจกเงาที่เปิดช่องเก็บของด้านข้างและด้านล่างได้ด้วย

ห้องน้ำทุกห้องจะมีปุ่ม Emergency ให้ครับ หากกดแล้วจะส่งเสียงฉุกเฉินมาที่ VDO Door Phone ที่ Living Room ของห้อง ถ้าไม่มีการตอบรับ ก็จะส่งสัญญานต่อไปหานิติบุคคลด้านล่าง จากนั้นจะติดต่อขึ้นมา หากไม่มีการตอบรับก็จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตรวจสอบครับ

ด้านในจะมีโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก TOTO Washlet และส่วนอาบน้ำด้านใน

TOTO Washlet รุ่น Neorest XHI มีรีโมทสั่งการมาให้ด้านข้าง และทางโครงการติดตั้งสายชำระและอุปกรณ์แขวนกระดาษชำระจาก Grohe มาให้ด้วย

ฉากกั้นอาบน้ำจาก Kasch แบรนด์ดังจากเยอรมัน พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.1 x 1.275 เมตร มีอุปกรณ์อาบน้ำทั้ง Hans Shower และ Rain Shwer จาก Grohe มาพร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ ด้านข้างมีหน้าต่างให้ดูวิวขณะอาบน้ำได้ด้วย ส่วนด้านบนหน้าต่างก็เหลือพื้นที่ให้ติดมู่ลี่ได้ครับ

ย้อนกลับมาที่ประตูทางเข้าห้องครับ ไปดูอีกฝั่งของห้องนี้กันต่อ ด้านข้างประตูจะมีห้องกระจกใสสีดำแบบนี้มาให้เลยครับ ติดกันคือห้องน้ำแบบ Powder Room และจะมีแนวทางเดินกว้าง 1.1 เมตร ยาวเข้าไปยังห้องนอนด้านในอีก 2 ห้องครับ

เป็นห้องสำหรับเก็บรองเท้าและสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของสะสม หรือของทั่วไปที่ใช้เข้าออกห้องเป็นประจำ เช่น หมวก กระเป๋า ร่ม หรือพวกกุญแจและ Keycard ต่าง ๆ ห้องนี้มีขนาดประมาณ 1.6 x 3.3 เมตร ซึ่งจัดเป็นห้องที่มีขนาดค่อนข้างกว้างเลยนะครับ

ถัดมาจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room ขนาดประมาณ 1.6 x 1.4 เมตร ซึ่งก็คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำ จะมีแค่เคาน์เตอร์และอ่างล้างหน้า กระจกเงา และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก TOTO ทั้งหมดครับ

ถัดมาอีกจะเป็นห้องนอนรองห้องแรกครับ เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สามารถเป็น Master Bedroom ของโครงการในราคาระดับตารางเมตรละ 200,000 ได้สบาย ๆ มีพื้นที่ภายในที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ครบหลากหลายกิจกรรมเลย ที่สำคัญคือได้แนวกระจก Full Height มาเช่นเดิม

ปลายเตียงวางที่นั่งได้เพิ่ม ด้านในมีมุมหน้ากระจกวางที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างได้ด้วย

ส่วนอีกฝั่งด้านในจะได้พื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งและ Built-in ตู้เสื้อผ้าตัว L หน้าห้องน้ำมาให้ ได้แอร์ระบบ Concealed Type ทุกห้องเช่นเดิม

ห้องน้ำของห้องนี้ก็จะมีลักษณะโดยรวมเหมือนห้องก่อนหน้านี้นะครับ แต่จะไม่ได้มีช่องแสงภายในห้องมาให้นะครับ อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ของ TOTO มาพร้อมกระจกเงาที่เปิดช่องเก็บของด้านข้างและด้านล่างได้ โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ TOTO Washlet รุ่น Neorest XHI มีสายชำระและอุปกรณ์แขวนกระดาษชำระจาก Grohe เช่นเดิม ส่วนอาบน้ำจะได้ฉากกั้นอาบน้ำจาก Kasch พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 2.1 x 1.5 เมตร มาพร้อม Hand Shower และ Rain Shwer จาก Grohe

มาถึงห้องนอน Master Bedroom ของห้องนี้กันแล้วครับ ขนาดใหญ่เหมือนเป็นห้องนอนหลักของบ้านเลย ปลายเตียงวางชุดโซฟาได้ด้วย หรือบางคนชอบโล่ง ๆ ก็แต่งแบบห้องตัวอย่างก็ได้นะครับ

ได้แนวกระจก Full Height มาเต็มแนวหน้ากว้างห้องเลย ริมหน้าต่างมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะทำงานได้หลากหลายขนาดเลยครับ

สามารถวางเตียงขนาด 6-8 ฟุตได้สบาย ๆ ในห้องตัวอย่างเลือกวางเก้าอี้โซฟานั่งรับวิวริมหน้าต่างได้ด้วยครับ อีกฝั่งทำ Built-in ตู้เก็บของได้นะ แต่ไม่ต้องทำตู้เสื้อผ้านะครับ เพราะมีโซน Walk-in Closet แยกให้เลย

ด้านในจะเป็นแนวทางเดินยาวเข้าไปยัง Walk-in Closet และห้องน้ำ ได้เครื่องปรับอากาศระบบ Concealed Type เช่นเดิม

ด้านในจะมีโต๊ะเครื่องแป้งที่สุดแนวทางเดินครับ ด้านข้างเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ Master Bathroom

Walk-in Closet ทีพื้นที่ขนาดประมาณ 1.65 x 2.75 เมตร ครับ จัดว่าค่อนข้างกว้างเลย มีตู้ Built-in มาให้เป็นตัว U โอบล้อมรอบตัวเลยครับ

ด้านข้างอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ Master Bedroom ห้องนี้จะขนาดกว้างที่สุด และได้ช่องแสงขนาดใหญ่ครับ อ่างล้างหน้าจาก TOTO ฝังบนเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่พร้อมแนวกระจกเงาซ่อนไฟมาให้

ด้านข้างเป็นอ่างอาบน้ำแบบก่อของ Kasch ใช้ก็อกของ Grohe ริมหน้าต่างบานใหญ่รับวิวเมือง

ด้านในจะเป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ TOTO Washlet รุ่น Neorest AH (ดีกว่าของห้องนอนรอง) และส่วนอาบน้ำที่ใช้ฉากกั้นอาบน้ำของ Kasch เช่นเดิม

มีพื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.4 x 1.25 เมตร ขนาดค่อนข้างกว้างเลยครับ มีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำให้ด้านข้าง

เป็นส่วนอาบน้ำแบบ Hand Shower และที่พิเศษคือ Rain Shower ที่สามารถปรับทิศทางได้ด้วย ของ Grohe ครับ

ถัดมาดูอีกห้องกันต่อเลยครับกับห้อง 2 Bedroom ขนาด 92.47 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้างอีกเช่นเคย เหมือนกันห้องอื่น ๆ ภายในโครงการนี้ จุดเด่นคือจะได้รับแสงภายในห้องเยอะ และภายในก็จัดพื้นที่ห้องออกมาได้ดูดีเลยครับ จะมีครัวเปิดที่ช่วยให้ห้องดูโล่งขึ้น แต่จะไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจังนัก เพราะจะควบคุมกลิ่นและควันได้ยาก ด้านในจะมีห้อง Laundry ให้ด้วย ซึ่งก็จัดว่าเป็นสัดเป็นส่วนดี และที่ชอบคือทุกห้องนอนจะได้ห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนรองจะใช้ห้องน้ำร่วมกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นครับ เพราะเป็นห้องน้ำที่เข้าออกได้ 2 ทาง ไปชมบรรยากาศจริงของห้องนี้กันเลย

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับสวน Living Room ขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นรวมอยู่ด้วยกัน ห้องนี้จะมีวัสดุเหมือนห้องที่ผ่านมาเกือบทั้งหมดเลยครับ

ด้านหน้าประตูนี้จะเป็นส่วนของครัวครับ ซึ่งจะให้มาเป็นชุดครัว Built-in จาก Poggenpohl และใช้วัสดุต่าง ๆ เหมือนห้องก่อนหน้านี้เช่นเดิมเลย การ Built-in ให้เข้ากับพื้นที่และขนาดของห้องมีข้อดีที่ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าและเป็นสัดส่วนครับ

ส่วนถัดมาด้านในจะมีพื้นที่รับประทานอาหาร เราสามารถเลือกวางรูปแบบโต๊ะได้หลากหลายนะครับ ซึ่งถ้าใช้เก้าอี้ขนาดเล็กหน่อยก็นั่งได้ 4 ที่นั่งเลยนะครับ

ด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่วางชุดโซฟาได้ขนาดใหญ่เลย พร้อมโต๊ะกลาง โดยจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร เหมาะกับทีวีขนาดใหญ่ 60 นิ้วขึ้นไป ด้านในจะเป็นระเบียงที่ได้กระจก Full Height มาให้ ทำหน้าที่เป็นช่องแสงหลักของพื้นที่ห้องส่วนนี้ครับ

ห้องนี้จะมีระเบียงขนาดประมาณ 1.4 x 3 เมตร จัดว่าใหญ่เลยนะครับ เอาชุดโต๊ะกางหรือเก้าอี้ขนาดใหญ่มานั่งชมวิวตรงนี้ได้สบาย หรือถ้าครอบครัวไหนชอบพื้นที่สีเขียว จะจัดสวนบนระเบียงก็สามารถทำได้นะครับ

ด้านใจมีแนวระแนงปิดส่วนของ Condensing Unit ระบบ VRV ไว้ให้ สามารถเปิดเข้าไป Maintainance ได้ครับ

มองย้อนเข้าไปในห้องจะเห็นว่าพื้นที่ส่วน Living Room นี้ขนาดค่อนข้างใหญ่ และใช้พื้นที่ได้ค่อนข้างคุ้มค่า แถมแสงธรรมชาติในส่วนนี้ก็สามารถเข้าได้ถึงทั่วทั้งพื้นที่ ไปดูส่วนห้องนอนกันต่อเลยครับ

ด้านข้างจะมีแนวทางเดินที่เชื่อมไปยังส่วนอื่น ๆ ของห้อง เริ่มที่ประตูบานแรกขวามือ จะเป็นทางเข้าห้องนอนรองครับ บานที่ 2 ทางขวามือจะเป็นประตูห้องน้ำ ส่วนบานฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้อง Laundry ครับ และบานด้านในสุดจะเป็นห้องนอนหลักของห้องนี้ ไปดูกัน

เปิดประตูบานแรกขวามือเข้ามาจะเจอกับห้องนอนรองของห้องนี้ ขนาดเรียกว่าใหญ่และค่อนข้างกว้าง ด้วยขนาดพื้นที่ที่วางเตียง King Size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้สบาย

บวกกับแนวกระจกสูง Full Height ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งและโล่งขึ้นเยอะ แถมยังรับวิวภายนอกได้เต็มที่ น่าอยู่เอามาก ๆ เลย

พื้นที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้นะครับ หรือจะติดตั้งเป็นทีวีแบบแขวนก็จะได้พื้นที่วางของมากยิ่งขึ้น ยังไงก็ยังเหลือแนวทางเดินปลายเตียงสบาย ๆ ฝั่งทางเข้าห้องจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อยเลยครับ

อีกฝั่งด้านในของห้องจะมีทางเข้าห้องน้ำมาให้ครับ

เป็นห้องน้ำแบบ Jack and Jill Bathroom หรือที่มีทางเข้าออก 2 ทางนั่นเอง จะช่วยให้สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งประตูทางออกฝั่งโถงทางเดินด้านนอกก็เลือกใช้ประตูแบบบานสไลด์ด้วย เพื่อลดพื้นที่การใช้งาน

ส่วนแรกจะเป็นส่วนแห้งที่ประกอบไปด้วยอ่างล้างมือแบบฝังบนเคาน์เตอร์ และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก TOTO ทั้งหมดครับ

ส่วนอีกฝั่งเป็นส่วนอาบน้ำที่กั้นด้วยฉากกั้นกระจกจาก Kasch ครับ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1 x 1.8 เมตรครับ ให้มาทั้ง Hand Shower และ Rain Shower

ทะลุออกมาฝั่งโถงทางเดินจะเจอกับห้อง Laundry ซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องนอนและห้องนอนก่อนหน้านี้ครับ ภายในมีขนาดประมาณ 1.5 x 1.6 เมตร Built-in มาให้ทั้งสองฝั่งตามนี้เลยครับ

เปิดประตูบานในสุดแนวทางเดิน จะเจอกับห้อง Master Bedroom ของห้องนี้ครับ ขนาดห้องส่วนแรกจะใหญ่กว่าห้องนอนรองเล็กน้อยครับ แต่จะได้แนวกระจกของห้องน้ำที่ทำให้พื้นที่ส่วนแรกนี้ดูกว้างยิ่งขึ้น แต่ไฮไลท์ของห้องนี้จะเป็นส่วนด้านในห้องซะมากกว่า

ที่ปลายเตียงและด้านในจะคล้าย ๆ กับห้องนอนรองก่อนหน้านี้เลย

ด้านในจะดูโล่งและกว้ากว่าเพราะมีแนวกระจกของห้องน้ำที่เป็นแบบ Sexy Bath มาให้ แถมระยะลึกก็จะมากกว่าห้องนอนรองก่อนหน้านี้ด้วยครับ ด้วยการที่ย้ายตู้เสื้อผ้าไปเป็นส่วน Walk-in Closet ด้านใน ทำให้แนวทางเดินกว้างขึ้น ช่วยให้ห้องดูสบายตายิ่งขึ้นไปอีก

ตรงนี้จะเป็นกระจกใสเข้ามุมที่เชื่อมกับส่วนของอ่างอาบน้ำภายในห้องน้ำครับ

ด้านในสุดจะได้ห้อง Walk-in Closet ที่ Built-in ทั้งหมดมาให้ตามนี้เลยครับ

โดยพื้นที่ภายในจะกว้างกว่าที่เราเห็นจากข้างนอกนะ มีขนาดประมาณ 1.5 x 2.5 เมตร

ห้องน้ำของห้องนี้ก็จัดมาให้ค่อนข้างพิเศษ ด้วยอ่างอาบน้ำและแนวกระจก Sexy Bath แบบที่บอกไปครับ ช่วยให้ภายในห้องน้ำได้แสงธรรมชาติ และกว้างยิ่งขึ้นด้วย

เป็นอ่างของ Kasch เช่นเดิม สามารถนอนแช่น้ำดูทีวีจากภายในห้องนอนได้เลย

ด้านในจะได้อ่างล้างหน้าฝังในเคาน์เตอร์ที่อยู่กลางห้อง โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ TOTO Washlet และส่วนอาบน้ำที่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้เช่นเดิม

ห้องน้ำมีขนาด 1 x 1.6 เมตร ครับ ค่อนข้างกว้าง

สำหรับห้อง Master Bathroom ส่วนด้านบนจะได้ Rain Shower แบบปรับทิศทางได้จาก Grohe เช่นเดิม

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

Q1 Sukhumvit ราคา ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2564

  •  2 Bedroom ขนาด 92 – 125 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
  •  3 Bedroom ขนาด 147 – 204 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 55 ล้านบาท
  •  4 Bedroom ขนาด 288 – 296 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 128 ล้านบาท
  •  Penthouse ขนาด 343-353 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 166 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 และ 3.00 เมตร
  • Kitchen ยี่ห้อ Poggenpohl ท็อปหิน Quatz
  • อุปกรณ์ชุดครัว Built-in จาก Siements ประกอบไปด้วย ตู้เย็น, เครื่องล้างจาน, เตาอบและไมโครเวฟแบบ 2 in 1
  • Hob & Hood ของยี่ห้อ Siemens
  • จอง 200,000-500,000 บาท
  • ทำสัญญา 20% บาท
  • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 85 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเห็นที่ดินขนาด 3 ไร่กว่า ๆ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทและติด BTS นานา แบบ 0 เมตร อย่างนี้เลยนะครับ เป็นจุดเด่นหนึ่งของโครงการเลย เพราะเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองระหว่างอโศกและเพลินจิต รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, โรงพยาบาล และอาคารสำนักงานระดับ Hi-End ทั้งนั้น แถมยังมีสวนสาธารณะให้เลือกในระยะเดินทางได้ไม่ไกลอีกหลายแห่ง เรียกว่ามีให้ครบทุกอย่างที่ที่พักอาศัยในเมืองควรจะมีเลยก็ว่าได้

การเดินทางโดยใช้รถ : เป็นจุดเด่นถัดมาของโครงการครับ เพราะถึงแม้จะเป็นโครงการติดรถไฟฟ้าแบบ 0 เมตรก็จริง แต่ก็ให้พื้นที่จอดรถมาให้ถึง 228% ซึ่งไม่ค่อยจะมีให้เห็นกันนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วโครงการติดรถไฟฟ้าจะให้พื้นที่จอดรถน้อยลง เพราะเน้นการใช้งานรถไฟฟ้าซะเป็นส่วนใหญ่ แถมที่จอดรถของที่นี่ก็เป็นแบบ Fixed ที่จอดมาให้เลย ตามจำนวนห้องนอนของแต่ละรูปแบบห้อง (เช่น 2 Bedroom ก็จะได้ 2 ที่จอด, 3 ห้องนอนก็จะได้ 3 ที่จอด) ไม่ต้องวนหาให้เสียเวลา

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ก็ยังต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้อยู่ดีครับ เพราะติดสถานีรถไฟฟ้า BTS นานาแบบ 0 เมตร ซึ่งจัดเป็น Residentail ที่เดียวที่มีทางเชื่อมเข้าจากสถานีรถไฟฟ้าเข้าตัวโครงการได้โดยตรง ทำให้จะได้เปรียบในเรื่องความสะดวกและความปลอดภัยเอามาก ๆ เพราะไม่ต้องลงไปเดินด้านล่าง แถมยังมีพี่ ๆ รปภ. คอยดูแลความปลอดภัยที่ประตูทางเข้าให้ นอกจากนั้นการตั้งอยู่ใจกลางเมืองแล้วติดรถไฟฟ้าแบบนี้ ช่วยให้เราสามารถสัญจรไปมาใกล้ ๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องขับรถออกมาให้ติดบนถนนสุขุมวิท หรือต้องไปหาที่จอดให้วุ่นวาย เพราะ ถ้าอยากจะไปห้างสรรพสินค้าก็สามารถนั่งไป Terminal 21 ที่อโศก หรือ Central Embassy, Central World, Gaysorn Village, The Market หรือจะเลยไปสยามเลย ก็เพียงแค่ 1-3 สถานีเท่านั้น หรือในอนาคตลูก ๆ จะเดินทางไปโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็มี โรงเรียนมาแตร์เดอี, จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ในระยะไม่ไกล

วัสดุ : จัดว่าก็ให้มาสมกับโครงการระดับนี้ รูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted ที่มี Built-in ชุดครัว ตู้เสื้อผ้า และส่วนของห้องน้ำมาให้ค่อนข้างครบเลย วัสดุภายในก็จัดมาให้สมราคาครับ เริ่มกันที่พื้นภายในห้องจะเป็น Engineering Wood ผิวไม้สักอายุ 60 ปีขึ้นไป ผนังติด Wallpaper มาให้ ส่วนผนังและพื้นภายในห้องน้ำจะเป็นหิน Verona Stone นำเข้าจากอิตาลีและสเปน ส่วนถ้าเป็นห้อง Master Bathroom จะเป็นหิน Supergenti Grey นำเข้าจากตุรกี อ่างล้างหน้าของ TOTO และสุขภัณฑ์จะเป็น TOTO Washlet เช่นกัน ส่วน Hand Shower & Rain Showerจะเป็นของ Grohe ครับ อ่างอาบน้ำและฉากกั้นอาบน้ำจะเป็นของ Kasch ชุดครัวของที่นี่จะออกแบบและก่อสร้างโดย Poggenpohl ท็อปเป็น หิน Quatz อุปกรณ์ครัวจะได้เครื่องใช้ไฟฟ้า Built-in มาให้ ประกอบไปด้วย ตู้เย็น, เครื่องล้างจาน, เตาอบและไมโครเวฟแบบ 2 in 1, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอก ทั้งหมดนี้จาก Siements ระบบเครื่องปรับอากาศภายในห้องจะเป็น Concealed Type ทั้งหมดแบบ VRV (มี Condensing Unit ตัวเดียว) กระจกใช้เป็นกระจก Low E แบบ 3 ชั้น ฝ้าทั้งห้องจะฉาบเรียบแต่ซ่อนรางม่านไว้ให้ ได้ VDO Door Phone สำหรับเชื่อมต่อกับนิติที่ Lobby ด้านล่างหากมีแขกมาเยือน ภายในห้องน้ำทุกห้องจะมีระบบ Emergency ให้ ภายในห้องจะมี Home Automation และใช้สวิทช์ของ Jung จาก เยอรมัน

การออกแบบ : เริ่มที่การวางผังอาคารที่เน้นพื้นที่จอดรถให้เยอะ ทำให้ชั้นพักอาศัยไปเริ่มต้นที่ 10 ซึ่งจะได้วิวพอสมควร (แต่ยังมีเสียงรถไฟฟ้ารบกวนอยู่บ้างในชั้นส่วนกลางชั้นที่ 9) พื้นที่ส่วนกลางจัดมาให้กระจายอยู่ 2 ชั้นหลัก ๆ และแยกโซนการใช้งานในแต่ละประเภทกิจกรรมได้ดี ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และไม่รบกวนกัน ส่วนการวางผังห้องพักอาศัย ด้วยความที่เป็นห้องขนาดใหญ่ทั้งหมด ทำให้ต้องวางผังเต็มพื้นที่อาคาร รับวิวครบทั้ง 4 ทิศเลย แต่หลัก ๆ จะเน้นไปที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่โล่งที่สุด และการที่ห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ประตูทางเข้าห้องในโถงทางเดินแต่ละห้องส่วนใหญ่จะค่อนข้างห่างกัน ได้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น

ห้องพักอาศัยของที่นี่เขาออกแบบมาให้เป็นห้องหน้ากว้างหมดเลย ทำให้ได้แสงภายในห้องเยอะ และด้วยการที่มี Built-in มาให้ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ภายในได้คุ้มค่า เน้นพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างกว้าง และการจัด Zoning ภายในได้ค่อนข้างลงตัวเลย เช่นห้อง 3 Bedroom ที่แยกส่วน Living Area – Common Area และ Back Of House ออกจากกันได้ดี ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว แถมส่วนใหญ่ก็ยังได้ช่องแสงในห้องน้ำมาด้วย อีกทั้งยังมีระเบียงในส่วนที่เหมาะสม หรือห้อง 2 Bedroom ที่เลือกใช้ห้องน้ำที่มีประตูทางเข้า 2 ฝั่ง เพื่อความสะดวกในการใช้งานและใช้พื้นที่ภายในห้องได้คุ้มค่า อีกเรื่องที่ต้องชมคือมีขนาดและรูปแบบของห้องขนาดใหญ่มาให้เลือกเยอะ เพราะโครงการเริ่มต้นที่ 2 ห้องนอน (โครงการอื่น ๆ จะมีห้อง 2, 3, 4 ห้องนอนให้เลือกไม่กี่แบบ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom)

สาธารณูปโภค : ส่วนตัวผมมองว่าจัดมาให้ครบและน่าใช้งานตามระดับของราคาโครงการครับ แต่ในส่วนที่จะหวือหวาหน่อยก็คือส่วนของพื้นที่จอดรถที่ให้มาเยอะ กับทางเชื่อมกับ BTS ที่สองอย่างนี้ช่วงเสริมเรื่องของความสะดวก และความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี สร้างความ Exclusive ให้โครงการแตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ส่วนอื่น ๆ ที่ชอบก็คือถึงจะแยกออกเป็นที่ชั้น 9, 40 แต่ในแต่ละชั้นก็ให้พื้นที่ที่ทำหน้าที่เป็น Lobby มาให้ และถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า จะมีห้องน้ำให้เข้าใช้งานได้แทบจากทุกพื้นที่เลย อีกทั้งยังมีพนักงานคอยดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิดให้ทั้งวันด้วย


Judgement

ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURY CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะครับ เพราะมีตัวเปรียบเทียบน้อย เป็นสินค้าประเภท Unique เสียส่วนใหญ่ และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดระดับนี้ ไม่ตัดสินง่าย ๆ ด้วยคะแนนแน่นอน

Q1 Sukhumvit เหมาะกับใคร

โครงการ Q1 Sukhumvit เหมาะกับคนที่มีครอบครัวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ที่ต้องการคอนโดบนถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและใช้รถไฟฟ้า ต้องการที่จอดรถประจำแบบไม่ต้องวนหาที่จอด ต้องการโครงการที่ออกแบบดูเรียบหรู ไม่หวือหวานัก มีความปลอดภัยสูงและเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ใหญ่เหมือนบ้าน มี Facilities ให้ครบครันและน่าใช้งาน มีงบประมาณระดับ 30 – 170 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 4,200,000 – 24,000,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc