รีวิวตึกเสร็จ Noble State 39 คอนโด High Rise ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ จาก Noble Development [รีวิวฉบับที่ 2497]

Noble State 39 (โนเบิล สเตท 39) ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566

พิกัด Google Maps : 13.733913, 100.571297
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

ทำเลที่ตั้งของโครงการตั้งอยู่ใจกลางพร้อมพงษ์ อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ในตำแหน่งที่จะเข้าจากทางสุขุมวิท หรือจะออกไปทองหล่อก็สะดวก หรือจะเดินทางออกไปเพชรบุรีตัดใหม่ก็ได้เช่นกัน

โครงการ Noble State 39 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมพงษ์ ) ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนหลัก 2 เส้นคือ ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรี โดยที่ตำแหน่งโครงการจะอยู่ใกล้กับปากซอยฝั่งสุขุมวิทมากกว่าเพียง 450 m. เท่านั้น และยังเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย ห่างจาก BTS อโศก ที่เป็น Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดินเพียงแค่สถานีเดียวเท่านั้น หรือจะนั่งตรงไปสยามเลยก็ได้ นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่มีตัวเลือกในการเดินทางด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวินมอไซค์ รถกะป้อ และท่าเรือคลองแสนแสบบริเวณท้ายซอยฝั่งเพชรบุรีเป็นตัวเลือกในการเดินทาง

โครงการอยู่ห่างจาก BTS ประมาณ 450 m. ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระยะที่เดินได้ เส้นทางการใช้งานคือมีทางเท้าตลอดเส้นทางใช้งานได้ปลอดภัย

ความพิเศษอย่างหนึ่งของซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ คือมีซอยลัดเลาะที่เชื่อมต่อถึงกันได้หลายเส้นทาง อย่างที่รู้กันว่าถนนเส้นหลักของย่านนี้การจราจรค่อนข้างติดขัดในเวลาเร่งด่วน ซึ่งเราสามารถใช้ซอยเหล่านี้หลีกเลี่ยงรถติดได้ดี สามารถเชื่อมไปอโศก ทองหล่อ และเอกมัยได้โดยไม่ต้องออกนอกถนนใหญ่เลย

โครงการตั้งอยู่ในย่านพร้อมพงษ์-ทองหล่อ เป็นแหล่งที่มีชาวต่างชาติอาศัยกันอยู่เยอะโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น หรือคนจากหลายเชื้อชาติที่มาทำงานในไทย จึงทำให้เราเห็นที่พักประเภท Apartment or Service Apartment ให้เช่าระยะยาวอยู่เยอะมาก และเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีคนมองหาคอนโดเพื่ออยู่เองเพราะอยู่ใจกลางเมืองพอดี ใกล้แหล่งงานสำคัญๆ  จึงทำให้เป็นทำเลที่มีการลงทุนเยอะที่สุดทำเลนึงในกรุงเทพฯเพราะเป็นทำเลที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติอยู่เสมอ ประกอบกับความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้คือไม่เป็นรองใครเป็นย่าน Shopping District ที่เรารู้จักกันในชื่อ The EmDistrict ที่ The Mall Group ลงทุนกับ Complex ใหญ่ 3 แห่งได้แก่ The Emporium, The Emquartier และ The Emsphere ที่แค่ก้าวออกมาจากรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ก็จะเจอเลย และก็มีร้านตามซอยที่ขายอาหารหลากหลาย ที่ขึ้นชื่อคือร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังที่มารวมตัวกันในย่านนี้ หรือแม้กระทั่งคาเฟ่ก็มีให้เลือกหลากหลายมากๆ ในซอยก็จะมีซุปเปอร์มาร์เก็ต และคอมมูนิตี้มอลล์ให้เราแวะซื้อของกลับบ้านกันได้สบายๆ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆด้วยนะ ใครที่เป็นสายรักสุขภาพก็สามารถเดินมาออกกำลังกายที่สวนเบญจสิรินี้ได้เลย และในส่วนของการบริการทางด้านสุขภาพอื่นๆ ย่านนี้ถือว่ามีตัวเลือกของโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงพยาบาลสมิติเวช และมีสถานที่ออกกำลังกายอย่างสตูดิโอ กับ Fitness Center เปิดให้บริการหนาแน่นที่สุดในกรุงเทพเลยก็ว่าได้

สำหรับการเดินทางในวันนี้จะใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิท ผ่านมาถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ แล้วเลี้ยวซ้ายซอยสุขุมวิท 39 หรือซอยพร้อมพงษ์ จากนั้นก็ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆได้เลย ระยะทางประมาณ 400 m. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

เส้นทางการเดินทาง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการ Noble State 39 ลักษณะของที่ดินมีทางเข้า-ออกอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 39 โดยตัวอาคารจะอยู่ลึกเข้ามาจากถนนหลักประมาณ 40 m. สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ คอนโด และร้านค้าต่างๆ วิวหลักของอาคารจะหันออกไปทางทิศเหนือและทิศใต้ เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง

• ทิศเหนือ – ติดกับ บ้านพักอาศัยในพื้นที่ อาคารสูง 3-4 ชั้น เลยถัดไปเป็นอาคารสูง Upper Suites Sukhumvit 39
• ทิศตะวันออก – ติดกับอาคาร Commercial ของโครงการ Noble State 39 และด้านหน้าโครงการติดถนนซอยพร้อมพงษ์
• ทิศใต้ – ติดกับ บ้านพักอาศัยในพื้นที่ เลยถัดไปเป็นอาคาร Le Raffiné สูง 34 ชั้นระยะห่างไปประมาณ 100 m.
• ทิศตะวันตก – ติดกับ บ้านพักอาศัยในพื้นที่  เลยถัดไปเป็นอาคารสูง 5 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The EmQuartier ~ 600 m.
• The 49 Terrace ~ 700 m.
• The Emporium ~ 700 m.
• Piman 49 ~ 750 m.
• Villa market ~ 750 m.
• U.F.M. Supermarket ~ 800 m.
• Rain Hill ~ 1 km.
• 49 Playscape ~ 1.2 km.
• The Commons ~ 1.3 km.
• Nihonmara Mall ~ 1.4 km.
• Seenspace ~ 1.5 km.
• J Avenue ~ 1.8 km.
• 72 Courtyard ~ 2.1 km.
• Major Cineplex Sukhumvit ~ 2.2 km.
• Shinsen Fish Market ~ 2.2 km.
• Big-C เอกมัย ~ 2.6 km.
• Terminal 21 ~ 3.5 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลสมิติเวช ~ 1.1 km.
• รพ.กรุงเทพ ~ 3.3 km.

โรงเรียน

• Ivy Bound International School ~ 230 m.
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ~ 2 km.
• Modern International School ~ 2.3 km.

สวนสาธารณะ / กีฬา

• สวนเบญจสิริ ~ 750 m.
• The Racquet Club ~ 800 m.

การเดินทาง

• BTS พร้อมพงษ์ ~ 550 m.

โครงการ Noble State 39 มีทั้งหมด 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร Commercial ด้านหน้าที่เป็น Low Rise สูง 2 ชั้น ส่วนอาคาร Residencial ลักษณะที่ดินจะร่นเข้ามาด้านในจากถนนซอย ทำให้มีระยะ set back ที่เยอะ จึงขึ้นอาคารสูงเป็นคอนโด High Rise 38 ชั้นได้ ซึ่งหน้าตา facade ภายนอกจะมีสไตล์ Modern เน้นแนวเส้นตรง เรียบๆเท่ๆ ตามแบบฉบับของ Noble โดยได้แนวคิดในการออกแบบภายในดีไซน์ด้วยสถาปัตยกรรมไอคอนนิค Art Deco มีความคลาสสิค และร่วมสมัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ความสำคัญในการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์จริง การันตีด้วยรางวัล BCI Asia Top 10 Developers Award 2021  ด้านแนวคิดและการออกแบบที่ตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การวางฟังก์ชันการใช้งานในส่วนต่างๆ ใช้การกระจายพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นหลายๆชั้น เพื่อลดความแออัด และเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ชั้นล่างเป็นสวน มีพื้นที่กลางแจ้ง และ Lobby ต้อนรับแขก ส่วนชั้น 11 จะมีทั้งห้องพักอาศัยและ Facilities อยู่รวมกัน แต่จะเป็น Facilities แบบ  Private Zone ที่มีความเงียบสงบ และมีสวนให้พักผ่อนชมวิวได้ ชั้น 12 – 36 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด จะมีพื้นที่ส่วนกลางอีกทีก็คือชั้น 37 เลย จะเป็น Active Zone เน้นการทำกิจกรรมและออกกำลังกาย แต่ถ้าใครที่กำลังมองหาพื้นที่ Outdoor แบบกลางแจ้งด้วย และชมวิวได้ด้วย แนะนำที่ชั้นดาดฟ้าของโครงการ ซึ่งรายละเอียดของแต่ละพื้นที่จะเป็นอย่างไร เราไปชมพร้อมๆกันเลยดีกว่า

เริ่มจากทางเข้าด้านหน้าโครงการจะเป็นถนนภาระจำยอม ซึ่งจะต้องใช้งานร่วมกันระหว่างอาคาร Commercial ด้านหน้า, อาคาร Residencial ด้านใน และบ้านเดี่ยวที่อยู่ติดกับโครงการด้านใน โดยทางโครงการได้ทำการขออนุญาตปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามและปลอดภัย

ถัดเข้ามาด้านในทันทีที่เลี้ยวขวามา ก็จะเป็นส่วนพื้นที่ของ Residencial บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการจะมีรปภ. คอยช่วยอำนวยความสะดวก แบ่งช่องทางเข้า-ออก โครงการไว้สองฝั่ง และมีแนวทางเดินและประตูบานเปิด สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ได้ใช้รถ จะเห็นว่าตัวอาคารจะมีระยะ Set back เข้ามาจากถนนหลักเข้ามา โดยมีพื้นที่สีเขียวกั้นและช่วยเพิ่มความร่มรื่นไว้ให้ช่วยให้พื้นที่ด้านในอาคารได้ความเป็นส่วนตัวจากถนนหลักทางด้านหน้าทั้งเรื่องฝุ่นและเสียงจากการจราจร

เข้ามาด้านในโครงการจะเป็นถนนกระจายไปส่วนต่างๆ ตรงไปเป็นทางเข้า-ออกหลักของตัวอาคาร หรือเลี้ยวซ้ายไปจอดรถ ซึ่งถ้าเป็นรถแท็กซี่ก็สามารถวนเข้ามาส่งตรง Drop Off ให้ลูกบ้านเดินเข้า Lobby ได้ทันที จากนั้นก็จะสามารถวนรถกลับออกไปได้เลย ไม่ต้องอ้อมเข้าไปด้านในโครงการให้เสียความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าเป็นลูกบ้านก็จะสามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อมาขึ้นชั้นจอดรถในอาคารได้เลย

ด้านซ้ายของทางเข้าโครงการถูกจัดเป็นพื้นที่สีเขียว จึงทำให้เวลากลับเข้าบ้านก็จะได้ทั้งความร่มรื่น และความสดชื่นเป็นการต้อนรับ อีกทั้งลักษณะที่ดินแบบนี้ยังทำให้ได้ความ Private จากคนภายนอก ที่ไม่สามารถมองเข้ามาเห็นภายในอาคารได้โดยตรง หรือแม้แต่ส่วนของ Lobby ก็ตาม

พื้นที่สีเขียวด้านหน้านี้จะเป็น Forest room จัดพื้นที่วางชุดโต๊ะเก้าอี้ให้มานั่งพักผ่อนกลางแจ้งในสวน โดยเน้นปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น

มี PlayGround ให้เด็กๆมาเล่นปีนป่ายกันได้ โดยเครื่องเล่นจะวางบนพื้นทรายช่วยลดการกะแทกหกล้มของเด็กๆ

บรรยากาศภายใน Lobby ชั้น 1 ตกแต่งสไตล์ Art Deco โดยใช้สีเขียว ไม้ และทอง ดูค่อนข้างแปลกตา และแตกต่างจากโครงการในย่านนี้อย่างมาก กลายเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของโครงการ

บริเวณ Lobby ชั้น 1 จะจัดชุดโซฟาให้นั่งได้สบายๆ แต่ก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้ได้เลือกใช้งานกันได้ด้วยเช่นกัน

ทางเข้าออกระหว่าง Lobby และโถงลิฟต์เพื่อจะไปชั้นบนของอาคาร โดยจะมีระบบ Access Control ผ่านเข้า-ออกอาคารเพื่อความปลอดภัย โถงลิฟต์ของโครงการจะมี 2 ฝั่งให้เลือกใช้งาน สามารถใช้ลิฟต์ที่อยู่ใกล้กับห้องของตนเองได้เลย

ถัดจากโถงลิฟต์ด้านในสุดจะเป็น Mail Room และ Smart Locker ให้สามารถฝากรับของชิ้นใหญ่ๆได้

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 11 ซึ่งจะเป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยชั้นที่ 11 จัดเป็นความสูงที่มองวิวพ้นจากโครงการแนวราบเพื่อนบ้านรอบๆ จึงยังได้วิวเปิดโล่ง และข้อดีของห้องพักในชั้นนี้คือมีเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น มีประตูแบ่งโซนให้เรียบร้อยได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย การเข้า-ออกต้องใช้ Key Card Access แยกอีกที กับได้ Single Corridor ด้านหน้าห้องไม่ต้องเปิดประตูมาปะทะกับห้องตรงข้าม และที่สำคัญที่สุดคือ ห้องพักชั้นนี้จะมีความสูงฝ้าอยู่ที่ 5 m. เท่ากับ Facilities ที่อยู่ในชั้นเดียวกัน (ชั้นอื่นจะสูง 2.75 m.) อีกทั้งยังสามารถมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ได้ง่ายอีกด้วย

Mellow Space จะเป็น Game Room ที่ภายในมีเครื่องเล่นต่างๆอยู่หลายชิ้น ทั้งโต๊ะพูล, Table Football, โซฟานั่งเล่น และมีมุมเคาน์เตอร์บาร์ด้านใน ไว้สำหรับจัดปาร์ตี้ได้ด้วย

Olivia Lounge เป็นห้อง Library Room ที่เงียบสงบ ภายในมีชุดโซฟาหลายชุดเลย เหมาะที่จะนั่งมาอ่านหนังสือ หรือนัดแขกมาคุยธุระได้ ในบรรยากาศที่สบายๆ แต่ก็ดูดีมีสไตล์ในตัว

Tea Terrace จะเป็นสวนเล่นระดับที่อยู่ด้านนอกอาคาร เหมาะที่จะมานั่งเล่นพักผ่อน และชมวิวมุมสูงได้

ชั้นพักอาศัยแบบ Typical Floor Plan จะเริ่มที่ชั้น 12 – 35 และจะมียูนิด 14 ห้อง/ชั้น ซึ่งการวางตำแหน่งโถงลิฟต์ไว้ตรงกลางแบบนี้ จะทำให้แต่ละห้องเดินมาใช้งานลิฟต์ได้สะดวก แถมยังได้ Single Corridor มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกทั้งทางโครงการได้ออกแบบให้มีช่องแสงบริเวณโถงทางเดิน (ตำแหน่งสีชมพู) เพื่อระบายอากาศให้อีกด้วย ส่วนตำแหน่งห้องที่ทำสีฟ้าไว้ จะเป็นห้องที่อยู่หน้าโถงลิฟต์พอดี อาจมีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าห้องอื่นๆ ซึ่งห้องแต่ละ Type โดยแยกให้ไว้ตามสีดังต่อไปนี้เลย

• ห้อง 1 Bedroom 29.81 ตร.ม. (กรอบสีแดง) เป็นขนาดเล็กสุดของโครงการที่ราคาจับต้องได้ง่าย และมีอยู่แต่เฉพาะทางทิศใต้เท่านั้น วิวจะมองเห็นคอนโดเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 m. แต่ข้อดีคือ โถงทางเดินหน้าห้องจะมีอากาศถ่ายเทดีกว่าห้องฝั่งทิศเหนือ
• ห้อง 1 Bedroom 34.72 ตร.ม. (กรอบสีส้ม) เป็นขนาดรองลงมา มีอยู่แต่เฉพาะทางทิศเหนือเท่านั้น ข้อดีคือจะได้วิวค่อนข้างดีและเปิดโล่งทางด้านในซอยพร้อมพงษ์
• ห้อง 1 Bedroom 41.4 ตร.ม. (กรอบสีเขียว) เป็นห้อง 1 Bedroom ที่ขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นห้องมุมที่อยู่ฝั่งทิศใต้ มีแค่ 2 ยูนิต/ชั้น เท่านั้น อีกทั้งยังอยู่ตรงสุดทางเดินด้วย จึงได้ความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว เพียงแต่ห้องนี้จะมีช่องแสงในห้องเพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้น
• ห้อง 2 Bedroom 58.4 และ 59.6 ตร.ม. (กรอบสีน้ำเงิน) จะมีเพียง 2 ยูนิต/ชั้น เช่นกัน แต่คราวนี้จะมีช่องแสงด้านข้างเพิ่มขึ้นนะ

ถัดขึ้นมาที่ชั้น 36 จะเป็นชั้น Penthouse ซึ่งมีเพียงแค่ 6 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าเป็นส่วนตัวมากๆ และเป็นห้องหน้ากว้างทั้งหมด

ชั้น 37 จะเป็นชั้น Main Facilities แบบเต็ม Floor ประกอบด้วยโซนออกกำลังกายอย่าง Fitness และ Swimming Pool และยังมี Sky Lounge ขนาดใหญ่ ให้ขึ้นมาใช้งานและชมวิวได้อีกด้วย

ห้อง Sky Lounge ที่เน้นเป็นส่วนพักผ่อนให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ภายในจะมีโต๊ะเก้าอี้ และเคาน์เตอร์อยู่หลายชุดให้เลือก เหมาะสำหรับขึ้นมานั่งทำงาน พักผ่อนชมวิว และจัดปาร์ตี้มากๆ

ส่วน GYM หรือห้องออกกำลังกายก็จะมีเครื่องเล่นหลากหลายชิ้น ให้เลือกใช้งานตามความชอบ พร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ ที่สามารถออกกำลังกายไปและชมวิวภายนอกไปด้วยได้

พื้นที่ส่วนของสระว่ายน้ำจะเป็นแบบในร่ม Semi outdoor Swimming Pools ขนาด 5 x 31.6 m. แยกโซนสระเด็กไว้ให้เป็นสัดส่วน จุดเด่นของสระนี้คือมีหลังคาคลุมคอยให้ร่มเงา สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวแดดร้อนหรือฝนตก ที่ฝ้าเพดานยังมี Sky Light ที่เป็น Pattern วงกลมเชื่อมต่อกับชั้นดาดฟ้าอีกด้วย ทำให้เราสามารถมองเห็นสวนและต้นไม้บางส่วนที่อยู่ชั้นบนได้ และรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

ในชั้นนี้จะมี มีห้องน้ำ-อาบน้ำ และ Steam room (แยกชาย-หญิง) ไว้ให้พร้อมใช้งาน สามารถเดินจากสระว่ายน้ำ หรือ Gym มาใช้งานได้สะดวกมากๆ

ชั้น 38 หรือชั้นดาดฟ้าของโครงการนี้จะถูกจัดเป็นพื้นที่สีเขียว สามารถขึ้นมาได้ด้วยลิฟต์โดยสารได้สะดวก อีกทั้งยังมีพื้นที่ลานอเนกประสงค์ใช้จัดกิจกรรม หรือหาโต๊ะเก้าอี้มาวางเพิ่มได้อีกด้วย

Chef table & Farm จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ให้สามารถนั่งทานอาหาร แบบ Outdoor ใต้ร่มไม้ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเตรียมไว้ให้ พร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้

ถัดมาจะเป็นมุมพักผ่อนแบบ Sunken ลดระดังลงไป  รู้สึกเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ได้บรรยากาศของต้นไม้โดยรอบ และมองเห็นวิวมุมสูงไปในตัว

หรือถ้าใครอยากใช้พื้นที่กิจกรรมแบบเปิดโล่ง ทางโครงการก็จัดเตรียมชุดที่นั่งไว้ให้ เรามาสามารถมาใช้พื้นที่จัดกิจกรรมหรือปาร์ตี้ได้เลย

เดินอ้อมมาอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ทางเดิน ให้เราเดินออกกำลังกายได้ปูพื้นยางลดการกระแทกไว้ให้เรียบร้อย ตรงปล่องสีขาวที่วางเรียงกัน หากก้มลงไปจะมองเห็นสระว่ายน้ำของโครงการในชั้น 37 ได้

บริเวณโถงลิฟต์และแนวทางเดินในส่วนพักอาศัย โดยแนวทางเดินจะเป็นทางยาวโดยมีห้องพักขนานอยู่ทั้งสองด้าน ติดไฟทางเดินแบบ Downlight มีหน้าต่างช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟ สามารถเปิดเพื่อให้ลมพัดผ่านถ่ายเทอากาศบริเวณนี้ได้ มีทางหนีไฟ และติดอุปกรณ์ตรวจจับควัน กริ่งสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉิน และอุปกรณ์ระบบ Sprinkle ไว้ให้เรียบร้อย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Ground Floor

• PlayGround
• Forest Room
• Main Lobby
• Mail Room
• Juristic Person Office
• พื้นที่ส่วนกลางแนวคิด Creative Forest

• Tea Terrace
• Mellow Space (Game Room)
• Olivia Lounge (Library Room)
• พื้นที่ส่วนกลางแนวคิด Creative Forest

• Sky Lounge
• สระว่ายน้ำในร่ม Semi outdoor Swimming Pools ขนาด 5 x 31.6 m.
• Gym room
• Steam room (แยกชาย-หญิง)
• Laundry

• Chef table & Farm
• พื้นที่ส่วนกลางแนวคิด Creative Forest ในอาคาร Y

รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการ Noble State 39 จัดรูปแบบห้องมาค่อนข้างหลากหลายทีเดียว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท ตั้งแต่อยู่กันเป็นคู่ ไปจนครอบครัวขยายพ่อแม่ลูก โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom มีแบบห้องหลากหลายและมีหลายขนาดให้เลือกตามการใช้งาน ได้แก่

• 1 Bedroom S พื้นที่ใช้สอย 29.81 ตร.ม.
• 1 Bedroom M พื้นที่ใช้สอย 34.72 ตร.ม.
• 1 Bedroom L พื้นที่ใช้สอย 41.40-42.50 ตร.ม.
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 58.40-59.60ตร.ม.
• Penthouse พื้นที่ใช้สอย 72.50-105.80 ตร.ม.

โครงการนี้มีให้เลือกทั้งแบบ Fully Fitted / Fully Furnished ที่โครงการมีให้ เป็นมาตรฐานสำหรับห้อง Fully Fitted ได้แก่ ชุดครัว เครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่างติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ส่วนวัสดุภายในห้องพักอาศัย ได้แก่

• พื้นห้อง : พื้น SPC (Stone Plastic Composite)
• พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อน
• ผนัง : ฉาบเรียบทาสี
• ชุดครัว อ่างล้างจาน อุปกรณ์ก็อก ของ Teka
• ชุดครัว Hob&Hood ของ Teka
• ชุดครัวหน้าบานลามิเนต
• ท็อปครัว หินสังเคราะห์
• Blacksplash ที่เป็นหินสังเคราะห์
• กรอบหน้าต่างอลูมิเนียมทำสีดำ พร้อมกระจกเทาตัดแสง
• โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า อุปกรณ์ก็อกน้ำ และฝักบัวอาบน้ำ ของ Kohler
• บานเปิดส่วนอาบน้ำกระจกเทมเปอร์
• Digital Door Lock ของ HAFELE

ห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 29.81 ตร.ม. ขนาดห้องที่ถือว่าให้พื้นที่ใช้งานได้กำลังดีสำหรับอยู่อาศ้ย 1-2 คน จัดการใช้งานภายในห้องได้ง่ายอยู่อาศัยจริงไม่อึดอัด เปิดประตูมาเป็นพื้นที่ครัวเปิด ซึ่งมีระยะให้ใช้งานครัวได้สะดวก มีพื้นที่ให้เก็บของหรือทำเป็นชั้นหรือตู้ใส่ของ ที่เก็บรองเท้า พร้อมพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานในห้องและส่วนระเบียง  ผ่านโซนครัวเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหาร จัดระยะการใช้งานแบ่งโซนได้ดี วางโซฟาแบบนั่ง 2 คน พร้อมพื้นที่เหลือวางโต๊ะกลางได้ ริมห้องมีประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับส่วนระเบียงช่วยให้รับแสงได้เต็มที่ หรือเปิดรับลมระบายอากาศในห้องได้ พื้นที่ระเบียงแบ่งโซนแขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศ ซ่อนไว้หลังผนังช่วยให้ไม่บังวิวไม่เกะกะสายตา

อีกฝั่งของห้องจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ที่เป็นจุดเด่นคือการกั้นผนังห้องนอนให้มีทางเข้า-ออก 2 ฝั่ง ทำเป็นบานเลื่อนเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวดี แถมช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น ในห้องนอนมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน ส่วนห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เป็นสัดส่วน สามารถเข้าได้จากส่วนครัวและห้องนอน ถ้ามีแขกมาก็ไม่ต้องต้องเดินผ่านห้องนอนช่วยให้ใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เริ่มจากหน้าทางเข้าห้องกันเลยค่ะ สำหรับประตูหน้าห้องเป็นประตูสำเร็จรูป พร้อมอุปกรณ์ Digital door lock ของ HAFELE

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับส่วนครัว ปูพื้นบริเวณนี้ปูพื้นด้วย Stone Plastic Composite เป็นพื้นไวนิลที่เกิดจากการผสมกันระหว่างหินปูนบดอัดเข้ากับพลาสติก ทำให้แข็งแรง ทนน้ำได้ดีมากขึ้น ป้องกันการลุกลามของไฟ และที่สำคัญคือ ปลวกหรือแมลงไม่กินอีกด้วย  ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.75 m. ได้ความโปร่งโล่ง

บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องจะมีพื้นที่ให้เก็บของหรือทำเป็นชั้นหรือตู้ใส่ของ ที่เก็บรองเท้า พร้อมพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานในห้องและส่วนระเบียง

พื้นครัวเป็นพื้น SPC ซึ่งเหมาะกับการทำอาหารเพราะทนความชื้นและทำความสะอาดได้ง่าย มีระยะให้ยืนทำครัวกว้างประมาณ 1.2 m. เราสามารถกั้นทำเป็นบานเลื่อนเพิ่มเติมได้ให้เป็นครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นและควันจากส่วนครัวได้ชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว มีช่องที่มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย ได้ชุดครัว อ่างล้างจาน อุปกรณ์ก็อก ของ และ Hob&Hood ของ Teka

ถัดจากส่วนครัวจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปส่วนนั่งเล่น พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นในการใช้งาน เราสามารถจัดในแบบที่ชอบได้

สามารถวางชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้สบายๆ ตำแหน่งอยู่ใกล้ส่วนครัวใช้งานได้ต่อเนื่องกัน ใกล้ห้องนั่งเล่น ใกล้ประตูบานเลื่อนจากฝั่งระเบียงจึงได้แสงธรรมชาติมองเห็นวิวภายนอก

ส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ได้แสงธรรมชาติจากส่วนระเบียง สามารถเปิดรับลมได้เต็มที่

ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ ใช้งานได้กำลังดีค่ะ

ประตูบานเลื่อนไปส่วนระเบียงจะได้แบบบานเลื่อน 2 ตอน สูงตั้งแต่พื้นจนถึงฝ้า พร้อมกับ Drop ฝ้าซ่อนรางม่านไว้ให้เรียบร้อย เป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำพร้อมกระจกเทาตัดแสง ช่วยให้ห้องได้แสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ หรือเปิดรับลมและระบายอากาศได้สะดวก

ระเบียงภายนอกเป็นระเบียงขนาด 0.45 x 1.7m. จึงเหมาะที่จะออกไปยืนสูดอากาศหรือยืนชมวิวมากกว่า ราวกันตกเป็นเหล็กสูง 1.1 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคแบบนี้เลย ทางด้านข้างของระเบียงจะมีช่องเก็บ Condensing Unit แยกเป็นสัดส่วนเอาไว้ประตูปิดให้เรียบร้อย อีกทั้งยังช่วยกั้นส่วนของระเบียงห้องนอนแยกออกไปเป็นส่วนตัวอีกด้วย

จุดเด่นของห้องนี้อีกอย่างคือ ห้องนอนจะมีประตูทางเข้า 2 ตำแหน่งโดยใช้เป็นประตูบานเลื่อนทึบเพื่อไม่ให้เสียพื้นที่การใช้งาน และยังช่วยเชื่อมต่อการใช้งานที่ง่ายตาม Flow Concept ของโครงการ และช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ภายในห้องนอนถือว่าใช้งานไม่อึดอัด ตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียง ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดระเบียงทำให้เปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี

ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 45 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่างกว้างประมาณ 55 cm. สามารถยืนเปิดประตูระเบียงได้สะดวก

ระเบียงภายนอกเป็นระเบียงขนาด 0.45 x 1.8 m. ราวกันตกเป็นเหล็กสูง 1.1 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคเช่นกัน

ในห้องนอนมีพื้นที่ Walk-in Closet ให้วางตู้เสื้อผ้า สำหรับยืนแต่งตัวได้ และอยู่หน้าห้องน้ำพอดีทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกแบ่งโซนชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนทั้งหมด ทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับ มีตัวจบระหว่างพื้นที่ห้องด้านในเรียบร้อย สามารถเข้าได้จากส่วนครัวและห้องนอน ถ้ามีแขกมาก็ไม่ต้องต้องเดินผ่านห้องนอนช่วยให้ใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โครงการจะติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก๊อกจาก Kohler รอบอ่างมีพื้นที่สำหรับวางของใช้ต่างๆได้ ใต้อ่างล้างหน้าทำเป็นตู้ Built In มีพื้นที่ให้เก็บของใช้ต่างๆได้เช่นกัน

ชุดโถสุขภัณฑ์ ของ Kohler และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษชำระ ไว้ที่ผนังด้านหลังให้พร้อมในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวก

ด้านในส่วนอาบติดตั้งฉากกั้นห้องน้ำเป็นบานเปิดกระจก Tempered Glass แบบ Frameless สีใส ช่วยกันน้ำกระเด็นออกมายังส่วนแห้งและให้ความเป็นส่วนตัวในการอาบน้ำมากขึ้น ติดฝักบัวเป็นฝักบัวสายอ่อน พร้อม Rain Shower จาก Kohler มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 0.85 x 0.9 m. ใช้งานได้สะดวก

ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟ และสวิตช์ไฟภายในห้องจริงทั้งหมดจะใช้ของ Bticino

ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 59.63 ตร.ม. เข้ามาจะเจอกับโถงทางเข้าของตัวห้อง ตรงข้ามประตูทางเข้าจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นตู้เก็บของและรองเท้าวางใกล้กับทางเข้าให้หยิบใช้งานได้สะดวก ถัดมาครัวเปิดที่แบ่งโซนการใช้งานไว้เป็นสัดส่วนอยู่ใกล้กับส่วนรับประทานอาหาร  ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้แสงสว่างจากระเบียงของตัวห้องทำให้ได้แสงธรรมชาติและเปิดรับลมได้ง่าย

ส่วนห้องนอนและห้องน้ำอยู่อีกฝั่งของตัวห้อง ห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีประตูแบ่งไว้ให้ใช้งานเป็นส่วนตัว ทุกห้องอยู่ติดฝั่งริมอาคารมีระเบียงส่วนตัวทำให้ได้แสงสว่างห้องจึงดูโปร่งโล่ง ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำของตัวเองใช้งานเป็นส่วนตัว ส่วนห้องนอนอีกห้องสามารถวางเตียงเดี่ยวแบบ 1 คนนอนใช้งานได้สะดวก ห้องน้ำอีกห้องมีประตูสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งจากห้องนอนรองและส่วนครัวได้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เวลามีแขกมาบ้านแล้วต้องการใช้ห้องน้ำก็ไม่ต้องให้เดินผ่านห้องนอนของเรา

โถงทางเข้าของตัวห้อง พื้นที่ตรงข้ามประตูทางเข้าจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นตู้เก็บของและรองเท้าวางใกล้กับทางเข้าให้หยิบใช้งานได้สะดวก

พื้นภายในห้องปูพื้นด้วย Stone Plastic Composite มีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนน้ำได้ดี ป้องกันการลุกลามของไฟ ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.75 m. ได้ความโปร่งโล่ง อยู่แล้วไม่อึดอัด

ส่วนรับประทานอาหารพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ ตำแหน่งอยู่ใกล้ส่วนครัวใช้งานได้ต่อเนื่องกัน

ส่วนครัวได้ชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว มีช่องที่มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย ได้ชุดครัว อ่างล้างจาน อุปกรณ์ก็อก ของ และ Hob&Hood ของ Teka พร้อมพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานในห้องและส่วนระเบียง

ถัดจากส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหาร จะเชื่อมต่อไปส่วนนั่งเล่น พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างจึงมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เราสามารถจัดตามที่ชอบหรือเหมาะกับตนเองได้

ห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2-3 ที่นั่ง ได้สบายๆ ตั้งโต๊ะรับแขกได้ใช้งานเดินได้สะดวก  ได้แสงธรรมชาติจากส่วนระเบียง สามารถเปิดรับลมได้เต็มที่

ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.9 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 45″ ขึ้นไปได้

ส่วนระเบียงจะได้แบบบานเลื่อน 2 ตอน สูงตั้งแต่พื้นจนถึงฝ้า ได้วิวแบบเต็มๆ พร้อมกับ Drop ฝ้าซ่อนรางม่านไว้ให้เรียบร้อย ส่วนระเบียงภายนอกมีช่องเก็บ Condensing Unit แยกไว้เป็นสัดส่วนดี

ถัดมาอีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำ การจัดพื้นที่แบบนี้จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเพราะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน

ห้องนอนใหญ่ ภายในห้องนอนถือว่าใช้งานไม่อึดอัด ตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียง ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างทำให้เปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดีเพราะมีระเบียงในห้องนอนแบบส่วนตัว

ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 95 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่างกว้างประมาณ 45 cm. สามารถยืนเปิดประตูระเบียงได้สะดวก

ระเบียงภายนอกเป็นระเบียงขนาด 0.5 x 1.7 m. ราวกันตกเป็นเหล็กสูง 1.1 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคเช่นกัน

ในห้องนอนมีพื้นที่ Walk-in Closet ให้วางตู้เสื้อผ้า สำหรับยืนแต่งตัวได้ และอยู่หน้าห้องน้ำพอดีทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกแบ่งโซนชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนทั้งหมด ทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับ มีตัวจบระหว่างพื้นที่ห้องด้านในเรียบร้อย

ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ พร้อมชุดสุขภัฑณ์และอุปกรณ์ต่างๆจาก Kohler ด้านในส่วนอาบติดตั้งฉากกั้นกระจก Tempered Glass แบบ Frameless สีใส พร้อม Rain Shower จาก Kohler มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 0.85 x 1.2 m. ใช้งานได้สะดวก

ส่วนห้องนอนอีกห้องสามารถวางเตียงเดี่ยวแบบ 1 คนนอนใช้งานได้สะดวก มีระเบียงส่วนตัวภายในห้องเช่นกัน ทำให้ได้แสงธรรมชาติได้ความโปร่งโล่ง

ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 75 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่างกว้างประมาณ 85 cm. สามารถยืนเปิดหน้าต่างได้สะดวก

ระเบียงภายนอกเป็นระเบียงขนาด 0.5 x 2 m. ราวกันตกเป็นเหล็กสูง 1.1 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสค

ในห้องนอนมีพื้นที่ Walk-in Closet ให้วางตู้เสื้อผ้า ยืนแต่งตัวได้ และอยู่หน้าห้องน้ำพอดีใช้งานได้ต่อเนื่องกัน

ห้องน้ำอีกห้องมีประตูสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งจากห้องนอนรองและส่วนครัวได้ ภายในมีการแบ่งโซนเปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วน พร้อมชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบเหมือนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

ห้อง 1 Bedroom M พื้นที่ใช้สอย 34.72 ตร.ม.

ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 69.44 ตร.ม. เป็นห้อง Type พิเศษของทางโครงการที่เกิดจากการนำห้อง 1 Bedroom มา Combine ทำให้ได้ห้องแบบหน้ากว้าง เพิ่มมุมมองได้ช่องแสงและวิวมากขึ้น ส่วนพักผ่อนบริเวณห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารได้พื้นที่มากขึ้นใช้งานได้อย่างเต็มที่ ห้องนอนขนาดใหญ่เท่าๆกัน 2 ห้อง มีส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำใช้งานได้เป็นส่วนตัว

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Noble State 39 ราคา ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566

• 1 Bedroom S พื้นที่ใช้สอย 29.81 ตร.ม.
• 1 Bedroom M พื้นที่ใช้สอย 34.72 ตร.ม.
• 1 Bedroom L พื้นที่ใช้สอย 41.40-42.50 ตร.ม.
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 58.40-59.60ตร.ม.
• Penthouse พื้นที่ใช้สอย 72.50-105.80 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้น 5-12 ล้านบาท
• Promotion  : ราคาเริ่ม 5 ล้าน* และห้อง 2-BED เริ่ม 12.9 ล้าน* เปิดชมบรรยากาศจริงครั้งแรก! ลงทะเบียนพร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ คลิก https://nobleurl.com/3kAcL7k

• รูปแบบการขายFully Fitted / Fully Furnished
• Fully Furnished Package แถมเฟอร์+เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 24 รายการ
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.75 เมตร
• ชุดครัวหน้าบานลามิเนต ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob, Hood, Sink, Tap / ของยี่ห้อ Teka
• จอง 50,000 บาท
• ทำสัญญา 5% ของราคาห้องชุด
• ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการ Noble State 39 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 หรือซอยพร้อมพงษ์ ใกล้กับปากซอยฝั่งถนนสุขุมวิท ถือว่าเป็นทำเลระหว่างกลางของย่านอโศกและทองหล่อ-เอกมัย ที่สามารถเชื่อมต่อไปได้สะดวก มีการเดินทางที่สะดวกและหลากหลาย ทั้งตรอกซอกซอยต่างๆ รถไฟฟ้า รถสาธารณะ และท่าเรือ ซึ่งโดยรอบโครงการจะค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เพราะเป็นแหล่งการค้าและธุรกิจที่หลากหลาย มีตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อธรรมดาๆ ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนต์ ร้านอาหารนานาชาติ และคาเฟ่ระดับ Hi-End มากมาย รวมไปจนถึง Fitness Center และสวนสาธารณะอีกด้วย และจะเห็นว่ามี Expat หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยอยู่อาศัยกันเยอะมากโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น เเละมีร้านอาหารหลากหลายสัญชาติเปิดให้บริการตาม Community ต่างๆกระจายกันทั่วทั้งซอย

การเดินทางโดยใช้รถ : ซอยพร้อมพงษ์เป็นซอยที่มีทางลัดเลาะ เชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิทอื่นๆได้ โดยเฉพาะซอยพร้อมจิตรที่ใช้ไปยังอโศก กับซอยพร้อมมิตรที่ไปยังสุขุมวิท 49 และไปทองหล่อได้ด้วย อีกทั้งยังมีซอยพร้อมใจที่ไปออกด้านหลังห้าง EmQuartier ได้อีก ถือว่ามีทางเลี่ยงรถติดที่หลากหลาย ไม่ต้องไปผจญรถติดหรืออ้อมที่ถนนใหญ่ แต่ภายในซอยเหล่านี้ก็มีรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนอยู่เหมือนกันนะ ส่วนที่จอดรถจะมีอยู่ประมาณ 54% ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอสำหรับทำเลในเมือง ที่มีตัวเลือกการเดินทางด้วยสาธารณะอื่นๆด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : หน้าปากซอยมีสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 450 m. อยู่ในระยะที่เดินได้หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็จะมีวินมอไซค์คอยบริการให้อยู่เป็นระยะๆตลอดทั้งซอยนะ นอกจากนี้ยังมีรถกะป้อ รถแท็กซี่ และมีท่าเรือคลองแสนแสบที่ท้ายซอยฝั่งถนนเพชรบุรี ถือว่ามีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย

วัสดุ : ปัจุบันมีให้เลือกทั้งแบบ Fully Fitted / Fully Furnished ตอบโจทย์ทั้งคนชอบแต่งห้องเอง หรือชอบแบบมีให้พร้อมอยู่ ส่วนวัสดุของห้องมาตราฐานถือว่าให้มาเหมาะกับการใช้งาน ได้ดีไซน์โมเดิร์นที่สวยดี วัสดุปิดผิวต่างๆค่อนข้างดี ได้แก่ พื้น Stone Plastic Composite ที่ทนน้ำและความชื้นได้ดี , Top เคาน์เตอร์ครัว และ Blacksplash ที่เป็นหินสังเคราะห์ที่ทนคราบและทำความสะอาดง่าย กับช่องแสงที่ให้กระจกมาค่อนข้างใหญ่ สูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ให้ Built in จนเกือบครบแล้ว ขาดแค่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางอย่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้นก็เข้าอยู่ได้เลย

การออกแบบโครงการ : ทำออกมาได้ดีลงตัวทั้งด้านดีไซน์และการใช้งาน ออกแบบสไตล์ Art Deco คลาสสิคและร่วมสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผังโครงการหลายๆส่วนค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัว ตั้งแต่การแยกอาคาร Commercial และ Residential ออกจากกัน มีทางเข้าโครงการที่ร่นเข้ามาด้านใน และวางประตู Lobby อยู่ด้านข้าง คนภายนอกมองเข้ามาไม่เห็น ได้โถงทางเดินชั้นพักอาศัยเป็น Single Corridor วางโถงลิฟต์ไว้ตรงกลางใช้งานสะดวก และมีช่องแสงระบายอากาศตรงทางเดินให้อากาศถ่ายเทไม่อึดอัด หมดปัญหาเสียงรบกวนจากห้องใกล้งานระบบลิฟต์ แบ่งโซนส่วนกลางแยกไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนส่วนพักอาศัย วิวส่วนใหญ่ได้วิวเปิดโล่งดี

การออกแบบห้อง : มีแบบห้องหลากหลายตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้หลายกลุ่ม ทั้งอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนครอบครัวพ่อแม่ลูก จัดรูปแบบห้องใช้งานลงตัว แยกโซนการใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี ทุกห้องจะมีฟังก์ชันค่อนข้างลงตัวจากแนวคิด Flow Concept ออกแบบประตูห้องเป็นบานเลื่อนทึบ ใช้งานง่าย และเกิดการเชื่อมต่อกันของพื้นที่ได้ดี ช่วยทำให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้น แถมยังประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิดอีกด้วย ออกแบบการใช้งานห้องน้ำมีทางเข้า 2 ทาง ช่วยให้ห้องนอนจะไม่เสียความเป็นส่วนตัว ใช้งานได้ง่าย รวมถึงตรงส่วนระเบียงที่มีช่องเก็บ Condensing Unit มาคั่นกลาง ก็ช่วยให้ระเบียงห้องนอนเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย แต่จะเป็นระเบียงที่เหมาะให้ออกไปยืนสูดอากาศได้เท่านั้น เพราะต้องการเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในมากกว่า และสุดท้ายคือเรื่องครัว โครงการนี้จะให้ครัวเปิด จึงเหมาะกับคนที่ไม่เน้นทำอาหารจริงจังในห้องสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าจะทำครัวปิดก็มีระยะให้กั้นเพิ่มเติมได้อันนี้แล้วแต่การใช้งานของแต่ละคนด้วย

สาธารณูปโภค : พื้นที่ภายในส่วนกลางของโครงการนี้จะตกแต่งสไตล์ Art Deco ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ แบ่งพื้นที่การใช้งานให้กระจายออกไปหลายๆชั้น เพื่อลดความแออัดและเป็นส่วนตัว แยกโซนตามฟังก์ชันการใช้งานชัดเจน เน้นไปที่การพักผ่อนและได้ชมวิวเมืองโดยรอบ พื้นที่ต้อนรับอย่างสวน Forest Room และ Lobby ที่ชั้น 1 ถัดขึ้นมาที่ชั้น 11 จะเป็น Private Zone อย่าง Olivia Lounge, Mellow Space และ Tea Terrace ที่เน้นการสันทนาการ การพักผ่อน และความสงบ เนื่องจากเป็นชั้นที่อยู่รวมกับห้องพักอาศัยส่วนหนึ่งนั่นเอง ส่วนชั้น 37 จะเป็น Main Facilities แบบ Active Zone เน้นการออกกำลังกายในห้อง GYM และ Swimming Pool แบบ Semi-Outdoor ซึ่งมี Sky Light เชื่อมต่อกับชั้นดาดฟ้าได้ด้วย โดยชั้น 38 ถูกจัดเป็น Chef table & Farm มีที่นั่งใต้ต้นไม้ดูร่มรื่นน่าใช้งาน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 240,000 บาท/ตร.ม., 10 กุมภาพันธ์ 2566

• ทำเล 8/10 – ใกล้ปากซอยพร้อมพงษ์ ใกล้ห้าง อุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย
• การเดินทางด้วยรถ 8.25/10 – มีซอยลัดเลี่ยงรถติด ไปเชื่อมซอยอื่นๆได้หลากหลาย
• ไม่ใช้รถ 8.25/10 – เดินไป BTS พร้อมพงษ์ได้ 450 m. และเรียกรถสาธาณะง่าย
• วัสดุ 8/10 – ใช้วัสดุดีเหมาะสมกับการใช้งาน มีให้เลือกทั้งแบบ Fully Fitted / Fully Furnished
• แบบ 8.5/10 – ห้องหน้ากว้าง มีหลายขนาดให้เลือก ฟังก์ชันดี เป็นส่วนตัว ใช้งานง่าย
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – น่าใช้งาน มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ เน้นพื้นที่ Indoor และ Semi-Outdoor ที่ใช้งานได้จริงตลอดวัน ฟังก์ชันหลากหลาย

• LUXURY CLASS
• 8.18 / 10.00

Noble State 39 เหมาะกับใคร

โครงการ Noble State 39 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย มีห้องหลายขนาดให้เลือก ฟังก์ชันลงตัวและใช้งานง่าย มีส่วนกลางหลากหลายตกแต่งสไตล์ Art Deco มีเอกลักษณ์ มีงบเริ่มต้นประมาณ 5-12 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้นประมาณ 35,000-84,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc