โครงการ Muniq หลังสวน เป็นโครงการสร้างเสร็จใหม่ล่าสุดจากทาง Major Development ที่เราได้ไปชมมา ที่นี่จัดว่าเป็นคอนโดใจกลางเมืองที่มีจุดเด่นเรื่องทำเลเป็นหลักค่ะ ซึ่งอยู่ในซอยต้นสนใกล้กับหลังสวน สวนลุม และรถไฟฟ้า BTS ชิดลม ในราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท จุดเด่นโครงการนี้ที่เราว่าน่าสนใจมีดังนี้
- ทำเล : ที่ตั้งของ Muniq หลังสวนจะอยู่ในซอยต้นสนค่ะ ซึ่งเป็นทำเลใจกลางเมืองที่เรามองว่ามันอยู่กลางเมืองจริงๆ แต่ก็เป็นซอยที่สงบอยู่นะ เหมาะสำหรับการเป็นที่พักอาศัย แต่ก็ได้ความสะดวกสบายของทำเลใจกลางเมือง ที่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ชิดลม (ไกลหน่อยแต่ก็เดินไปได้) อยู่ใกล้แหล่ง Lifestyle อย่างสินธร วิลเลจที่เพิ่งเปิดใช้งานไม่นาน และอยู่ใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมอีกด้วย
- ขายแบบ Freehold : ที่ดินในโซนหลังสวนส่วนใหญ่จะเป็นที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ค่ะ ทำให้หลายๆโครงการคอนโดที่เปิดในโซนนี้จะขายแบบ Leasehold เป็นระยะเวลา 30 ปีแล้วต่อสัญญาอะไรก็ว่าไป แต่ว่าโครงการ Muniq หลังสวนนี้จะเป็นการขายขาดแบบ Freehold เลย ถือว่าเก็บไว้เป็นทรัพย์สินให้ลูกให้หลานได้นะคะ
- รูปแบบโครงการ : การออกแบบที่นี่จะอยู่ในระดับ Luxury จำนวนยูนิตไม่มาก เน้นห้องพักอาศัยที่มีขนาดใหญ่ อยู่กันเป็นครอบครัวได้ พร้อมการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็ม ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีได้ค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Muniq หลังสวน ณ วันที่ 19 November 2021
ชื่อโครงการ | Muniq Langsuan (มิวนีค หลังสวน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | MJD – JV1 Company a Subsidiary of Major Development PCL |
SEGMENT CLASS | Super Luxury CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน |
ที่ดิน | 1-1-66.9 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 28 ชั้น |
จำนวนยูนิต | 163 ยูนิต + 1 shop |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 10 ยูนิต |
ที่จอดรถ | Automatic Parking ช่องจอด 185 คัน คิดเป็น 111% |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2018 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2021 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 3 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 18 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 340,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | www.mjd.co.th/muniq/langsuan ลงทะเบียนเข้าชมโครงการ >> https://bit.ly/3CFk3u1 |
Call Center | 1266 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.7352885,100.5420069
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ทำเล Muniq หลังสวน จะอยู่ในซอยต้นสนค่ะ ซอยต้นสนนี้จะเป็นถนนที่คู่ขนานไปกับซอยหลังสวนแต่ว่ามีข้อดีกว่าหลังสวนคือเป็นซอยที่รถสามารถขับสวนกันได้ ในขณะที่ซอยหลังสวนจะเป็นถนนแบบ one way ค่ะ นอกจากนี้บรรยากาศของซอยนี้จะมีความเงียบสงบกว่าหลังสวน เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ที่อยู่อาศัยที่ไม่วุ่นวาย เพราะเดิมทีซอยนี้เป็นซอยตัน แต่ปัจจุบันมีการเปิดทางเชื่อมไปยังถนนสารสินได้ ทำให้จากตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนเพลินจิตและถนนสารสินค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่น่าสนใจเพราะอยู่ใกล้สวนลุม จากตัวโครงการเราสามารถเดินไปยังสวนลุมได้ และยังได้วิวสวนลุมอีกค่ะ
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเรามองว่าในระยะเดินใกล้สามารถไปใช้งานตามตึกสินธร หรือว่าสินธร วิลเลจได้ โดยอาคารสินธรนี้จะเป็นอาคารสำนักงานที่เข้า-ออกได้ทั้งฝั่งถนนวิทยุและถนนต้นสน นั่นแปลว่าจากโครงการ Muniq หลังสวนเราสามารถเดินไปยังตึกสินธรผ่านถนนต้นสนเพื่อไปร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ ร้านอาหารต่างๆที่เปิดในตึกสินธรได้ง่าย ส่วนสินธร วิลเลจนั้นก็เป็น Community mall ใหม่ที่เปิดไม่นาน ถือเป็นแหล่ง lifestyle ที่น่าสนใจ สามารถชวนเพื่อนนัดคุยงาน มา hangout กันได้ และยังมี Villa Market ที่เป็น Supermarket เปิดอยู่ชั้นใต้ดินด้วยค่ะ ถือว่าเดินมาใช้งานได้สบาย อยู่ทำเลนี้ก็ครบจบภายในตัวเลย
จุดที่น่าสนใจอีกเรื่องคือโครงการ Muniq หลังสวนนี้จะมีรูปแบบการขายแบบ Freehold หรือว่าขายขาดค่ะ ทำให้ได้กรรมสิทธิ์มาครอบครอง เป็นทรัพย์สินที่เราส่งต่อให้ลูกหลานได้ ในขณะที่หลายโครงการในโซนนี้ที่ได้วิวสวนลุมมักจะเป็นโครงการแบบ Leasehold มากกว่า ดังนั้นใครที่อยากได้โครงการใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า วิวสวนลุม น่าจะต้องมีโครงการนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกแน่ๆค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
สิ่งอำนวยความสะดวก / สวนสาธารณะ
- อาคารสินธร ~ 75 m.
- สินธร วิลเลจ ~ 150 m.
- สวนลุม ~ 350 m.
- Central Embassy ~ 1 km.
- BTS ชิดลม ~ 1.1 km.
- Central ชิดลม ~ 1.1 km.
- Mercury ville ~ 1.1 km.
- Central World ~ 1.7 km.
- Siam Paragon ~ 2.2 km.
- จามจุรี สแควร์ ~ 2.9 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลจุฬาฯ ~ 1.3 km.
- โรงพยาบาลตำรวจ ~ 1.6 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ~ 2.6 km.
- โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ~ 2.6 km.
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 2.8 km.
- โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ~ 2.8 km.
รายละเอียดโครงการ
Muniq หลังสวน จะเป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูง (High Rise) 1 อาคาร สูง 28 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ครึ่งค่ะ รูปแบบอาคารจะออกแบบมาให้ Elegant and Timeless Aesthetic หรือ สวยงามแต่ก็เป็นสไตล์ที่อยู่เหนือกาลเวลา คือไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็จะไม่ดูเชยนั่นเองค่ะ ดังนั้นหน้าตาของตัวอาคารจะดูเรียบหรูเน้นโทนสีขาวกับกระจกเป็นหลัก แต่จุดที่เราว่าน่าสนใจคือการเลือกใช้กระจกของที่นี่จะเป็นกระจกสีชา เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เนื่องจากคนที่ผ่านไปมาจากภายนอกจะมองไม่เห็นภายในห้อง ในขณะเดียวกันคนที่อยู่ภายในห้องก็สามารถมองออกมาได้เต็มที่จากตัวกระจกที่ออกแบบมาให้เป็นบานใหญ่ สูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเปิดรับวิวที่เป็นจุดแข็งหนึ่งของโครงการนี้เช่นกันค่ะ
Facility
Muniq หลังสวน เป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 163 ยูนิต แต่การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ เราว่าให้มาค่อนข้างเยอะเลย ตอบโจทย์คนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่แค่ตัวห้อง แต่รวมไปถึงทำเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาภายในโครงการด้วย โดยพื้นที่ส่วนกลางจะถูกจัดไว้หลายๆชั้น ทั้งชั้นล่าง โซนกลางอาคาร และชั้นบน แบ่งรายละเอียดแต่ละชั้นและฟังก์ชัน ดังนี้
- ชั้น B1-B3 : Automatic Parking
- ชั้น 1 : Drop Off, Super Bike Parking, Welcome Lobby, Reception Area, Mail Room, Garden Collection, Silver Courtyard, EV Chargers
- ชั้น 2-4 : Automatic Parking
- ชั้น 5-6 : Active Atrium, Gym, Yoga Room, Locker room, Changing room, Spa room, Sauna room, Steam room and Toilets (Separate for men and women)
Relaxing Lounge - ชั้น 7 : Game Lounge, Kids Quarter
- ชั้น 27 : Heated Pool (28c), Kids Pool, Jacuzzi, Amphitheatre, Sky Gallery, Garden, Leisure Pool, Charming Balcony
- ชั้น 28 : Decanter Sky Lounge, Private Kitchen and Gastronomy, Private Dining Room, Terrace
เท่าที่ดูถือว่าโครงการ Muniq หลังสวน นี้ ให้พื้นที่ส่วนกลางมาแบบจัดเต็มทั้งในแง่ปริมาณฟังก์ชัน และ ขนาดของพื้นที่ด้วยนะคะ ซึ่งการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายนี้เรามองว่าก็เป็นจุดเด่นของ Major Development เช่นกันค่ะ เราลองไปดูกันดีกว่าว่าส่วนกลางต่างๆที่สร้างเสร็จออกมาจะเป็นอย่างไร
Ground floor
ชั้น 1 หรือว่า ground floor ของอาคารจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดค่ะ โดยทางเข้า-ออกจะมีอยู่ทางเดียวจากถนนต้นสน โดยจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆมาก่อนเข้ามายังตัวโครงการ ซึ่งพื้นที่ทางด้านหน้าของโครงการจะออกแบบไว้ให้เป็นสวนเล็กๆ ช่วยเพิ่มความสวยงามร่มรื่นให้กับโครงการแล้วยังเป็นแนวพื้นที่สีเขียวที่ช่วยพรางตาให้กับพื้นที่ภายในโครงการที่ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ
การเดินรถจะเป็นการวนรถทางเดียว เมื่อเข้าโครงการมาจะต้องเลี้ยวขวาไปเจอกับจุด drop-off และวนซ้ายรอบๆ ตัวอาคารถึงจะกลับมายังด้านหน้าโครงการได้ค่ะ โดยที่จอดรถของโครงการนี้จะเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ซึ่งจะมีความพิเศษตรงที่ไม่ใช่การที่เราจะต้องถอยรถเข้าถาดแคบๆอย่างที่เคยเจอกัน แต่จะเป็นถาดขนาดใหญ่ที่ทำให้การจอดรถสะดวกสบายมากขึ้น และจากที่จอดรถก็จะมีประตูที่สามารถเข้าสู่ภายในอาคารได้โดยไม่ต้องเดินอ้อมมาเข้าทางด้านหน้าค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เอาไว้รองรับแขก มีห้องประชุมอยู่ภายใน 1 ห้อง ซึ่งเหมาะสำหรับรองรับแขกที่เราไม่ได้สนิทสนมมาก ไม่ต้องการให้ขึ้นไปด้านบนอาคาร ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ในการรองรับได้นะคะ เราลองไปดูบรรยากาศของที่ชั้น 1 พร้อมกันดีกว่าค่ะ
จากซอยต้นสนจะมีสะพานข้ามคลองก่อนเข้าไปในตัวอาคารค่ะ แม้จะเรียกว่าสะพานแต่ก็ไม่ได้ยกสูงจากระดับพื้นถนนมาก พื้นก็ออกแบบลวดลายมาสวยงาม แยกทางเดินคนไว้สองฝั่งให้คนที่เดินเข้า-ออกก็ใช้ได้อย่างสะดวกปลอดภัยค่ะ โดยพื้นที่ทางเข้าจะมีป้อมยามอยู่ทางซ้ายมือ กั้นด้วยรั้วแบบไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติค่ะ
ผ่านรั้วเข้ามาทางเดินรถรอบอาคารจะเป็นแบบ one way ต้องขับไปทางขวาผ่านจุด Drop-off ใต้อาคารค่ะ ซึ่งการออกแบบทางเข้าที่ไม่ได้หันตรงสู่ถนนหลัก ก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยได้นะคะ
ข้างๆทางรถจะมีพื้นที่สวนเล็กๆอยู่ค่ะ เป็นพื้นที่สีเขียวที่เราสามารถมานั่งใช้งานได้ จุดนี้เรามองว่าเป็นพื้นที่ outdoor ที่ไม่วุ่นวายมากแม้จะอยู่ติดรั้ว เพราะถนนหน้าโครงการเป็นถนนรองที่รถไม่เยอะ และพื้นที่ตรงนี้ก็จะได้ร่มเงาจากทั้งต้นไม้และตัวอาคาร บรรยากาศสบายๆค่ะ
มีมุมนั่งเล่นที่ได้ร่มเงาอยู่หลายจุดนะคะ
เดินดูรอบๆ ตัวอาคารกันค่ะ
จุด drop-off ของอาคารจะอยู่ใต้อาคารค่ะ ทำให้พื้นที่ตรงนี้ได้ร่มเงา ไม่โดนฝน และยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วยนะ
Auto Parking
ที่จอดรถภายในโครงการนี้จะเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดค่ะ สามารถจอดได้ทั้งหมด 185 คัน หรือคิดเป็น 111% ซึ่งตัวที่จอดรถนี้จะแยก Car lift ออกจากถาดจอดค่ะ การทำงานคือเราสามารถขับมาจอดที่ถาดได้ และจะเลื่อนรถเข้าตัวลิฟต์ให้อัตโนมัติ โดยที่คนขับไม่ต้องเข้าไปภายในลิฟต์ที่เป็นเหมือนเครื่องจักร จึงปลอดภัยกว่านะคะ โดยขนาดรถที่เข้าจอดได้จะมีขนาด L 5300 mm. x W 2100 mm. x H 1900 mm. และรองรับน้ำหนัก 3000 KG.
ถาดจอดรถมีขนาดใหญ่ ไม่ต้องห่วงว่าจะขับเข้าจอดลำบากเหมือน auto parking ที่เราเคยเห็นกันทั่วไปนะ
ทางเข้าอาคาร
ทางเข้าอาคารจะอยู่ติดกับจุด drop-off ค่ะ ต้องใช้ Face scan หรือว่า Keycard ในการเข้า-ออกนะคะ
เข้ามาภายในอาคารจะเจอกับ welcome lobby ค่ะ เป็นโถงโล่งซึ่งจะแจกออกไปอีก 2 ทางคือตรงไปเป็น library และ meeting room หรือจะเลี้ยวขวาเพื่อไปยังโถงลิฟต์ค่ะ
บรรยากาศภายใน Lobby ค่ะ ตรงนี้เป็นพื้นที่รับรองแขกได้นะคะ บรรยากาศนั่งสบายๆฝ้าเพดานสูง
meeting room เป็นห้องประชุมที่สามารถติดต่อทางนิติบุคคลขอใช้งานได้ เผื่อใครอยากนัดประชุมคุยงาน หรือนักเรียน นักศึกษา จะนัดเพื่อนมาทำงานกลุ่ม ก็จะมาใช้งานพื้นที่ตรงนี้ได้ รองรับได้เป็นสิบคนเลยค่ะ
พื้นที่ต่อมาคือทางขวามือถัดจาก welcome lobby ตรงนี้จะเป็น reception ค่ะ ซึ่งจุดนี้เรามองว่าช่วยคัดกรองคนที่เข้า-ออกอาคารได้อีกจุดเลย ใครอยากติดต่ออะไรก็มาติดต่อตรงนี้ได้ง่ายเช่นกันค่ะ
ต่อจาก reception มาจะเป็น waiting lounge บรรยากาศการตกแต่งก็จะคุมโทนไปตั้งแต่ทางเข้ามายังด้านในเลยค่ะ มีโคมไฟระย้าตกแต่งสวยงาม ผนังและประตูดีไซน์โค้งดูคลาสสิก
waiting lounge ตรงนี้เป็นจุดรอรถที่เราจอดไว้นั่นเอง กดเรียกรถแล้วนั่งรอบริเวณนี้ได้เลยค่ะ
ติดกันจะเป็น Mail room ดีไซน์เก๋ เหมือนฉากในหนังไซไฟเลยนะ และอยู่ในตำแหน่งที่คนที่เข้าออกโครงการจะต้องผ่าน สะดวกในการใช้งานค่ะ
ข้างๆ กันจะเจอกับ Smart locker ซึ่งตรงนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่อาจจะสั่งของ Online มาแล้วไม่อยู่ที่คอนโด ต้องกลับบ้านดึก ก็ฝากให้มาเก็บตรงนี้ได้นะคะ พอเรากลับมาก็มาหยิบได้ง่ายไม่ต้องไปรบกวนทางนิติบุคคลด้วย
ออกจากประตูของ waiting lounge มาสองฝั่งจะเป็นทางออกไปยังส่วนจอดรถค่ะ โดยจะมีห้องพักคนขับรถ (driver room) อยู่ใกล้ๆ กับประตูฝั่งซ้าย และอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำค่ะ
ตัวห้องน้ำจะแยกชาย-หญิงมาให้ รองรับการใช้งานพื้นที่ชั้น 1 นี้ทั้งหมด
ห้องน้ำถือว่ากว้างนะคะ ตกแต่งสวยงามไปในโทนเดียวกับดีไซน์โดยรวมของโครงการ เน้นโทนสีขาว-ดำ กับลายหินอ่อน
ตรงกลางจะเป็นโถงลิฟต์ค่ะ ลิฟต์โดยสารจะมีอยู่ 2 ตัวสำหรับผู้อยู่อาศัย และมีลิฟต์บริการ (service lift) แยกออกไปอีกตัวค่ะ ตกแต่งสวยงามดูโอ่โถงหรูหราเลย
ชั้น 5
ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย และก็เป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่เช่นกัน โดยส่วนกลางที่ชั้นนี้จะเชื่อมกันระหว่างชั้น 5-6 บรรยากาศคล้ายยิมค่ะ คือที่ชั้น 5 จะเป็นห้องน้ำ locker ห้องอาบน้ำ ซาวน่า ห้องนวดต่างๆ ส่วนชั้น 6 จะเป็นฟิตเนส
จากลิฟต์มายังส่วนกลางที่ชั้น 5 จะเจอกับ active atrium อยู่ตรงกลางค่ะ เป็นบันไดวนให้บรรยากาศเหมือนอยู่ museum เลยค่ะ
เดินมาทางซ้ายมือจะเป็นทางไปห้องน้ำ แยกชาย-หญิงไว้ โดยพื้นที่ด้านหน้าตรงกลางจะเป็นโถงพักคอยขนาดใหญ่ ตกแต่งพื้นผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน
มาดูข้างในห้องน้ำกันค่ะ ภายในห้องน้ำทั้งฝั่งชาย-หญิงจะมีขนาดใหญ่ รวมหลายฟังก์ชันไว้ภายในนะ พื้นที่ตรงใจเรามองว่าดูใส่ใจดีเลยค่ะ เหมือนอยู่ในสปาเลยค่ะ
เข้ามาข้างในห้องน้ำจะเจอตู้ล็อกเกอร์ให้เก็บของใช้ส่วนตัวด้วย
จุดที่น่าสนใจคือจะมีห้องนวดให้ด้วย อยู่ทั้งห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง ซึ่งปัจจุบันเทรนการจ้างคนมาทำสปาหรือนวดที่บ้านก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้น ซึ่งห้องตรงนี้ก็ตอบโจทย์ได้ค่ะ
บรรยากาศห้อง Sauna ภายใน ดูแล้วมีขนาดใหญ่อยู่เหมือนกันนะ
ชั้น 6
ขึ้นมาที่ชั้น 6 พื้นที่ส่วนกลางจะเป็นเหมือน gym ขนาดย่อมค่ะ มีฟิตเนสและห้องโยคะ โดยจะมีบันไดขึ้นมาจากชั้น 5 และ มีลิฟต์ที่สามารถขึ้นมาชั้นนี้ได้ด้วยเช่นกัน เผื่อใครไม่อยากเดินก็ใช้ลิฟต์ได้นะ
ห้องฟิตเนสจะเป็นแบบ open air เชื่อมต่อกับ active atrium ที่ชั้นล่างค่ะ
ฟิตเนสภายในมีเครื่องเล่นและอุปกรณ์ที่หลากหลายให้เลือกเล่น
ข้างๆ พื้นที่ฟิตเนสจะมีห้องโยคะอยู่ 1 ห้องค่ะ ตรงนี้จะเป็นห้องโล่ง ที่เรามาฝึกโยคะเองได้ หรือจะจ้างครูมาสอน นัดเพื่อนหรือครอบครัวมาเรียนพร้อมๆกันได้เลย มีกระจกเงาขนาดใหญ่ให้เราได้เช็ค Posture ของตัวเองด้วยนะ
ชั้น 7
เหนือห้องฟิตเนสขึ้นมาจะเป็นฟังก์ชัน Game Lounge กับ Kids Quarter ค่ะ เป็นอีกห้องที่น่าจะชวนเพื่อนหรือคนในครอบครัวมาทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันได้นะคะ เพราะจะมี Game หลากหลายให้เล่นเลย
โดยภายในห้องนี้รวมมูลค่าเครื่องเล่นต่างๆไว้ถึง 1.3 ล้านบาทเลยทีเดียวค่ะ
โต๊ะปิงปองกระจก ยี่ห้อ Impatia รุ่น Lungolinea Glass Table Tennis Table Wood Edition ราคาเกือบ 7 แสนนำเข้าจากอิตาลี ถือว่าเป็นอีกไฮไลท์ของห้องนี้เช่นกันค่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อน
ห้องเล่นเด็กจะอยู่ด้านในห้องเกมส์อีกทีค่ะ ภายในตกแต่งด้วยโทนไม้ดูอบอุ่นค่ะ
ชั้น 27
ขึ้นมาที่ชั้น 27 – 28 ซึ่งเป็น 2 ชั้นบนสุดของอาคารจะจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบยกชั้น ซึ่งเป็นส่วนที่ทุกคนสามารถขึ้นมาใช้งานและชมวิว ณ ชั้นที่สูงสุดของอาคารได้เท่าเทียมกันค่ะ โดยฟังก์ชันหลักของชั้นนี้จะเป็นสระว่ายน้ำ และมีห้องดูหนังที่เรียกว่า Amphitheatre อยู่ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เราว่าน่าสนใจมาก บรรยากาศของชั้นนี้จะเป็นอย่างไร ไปชมกันค่ะ
สระว่ายน้ำ
ตัวสระว่ายน้ำจะอยู่ตำแหน่งที่หันไปเห็นวิวทางสวนลุมเลย โดยออกแบบพื้นที่ให้ดูโปร่งโล่ง มีทั้งส่วน semi-outdoor และพื้นที่ outdoor ทำให้เวลากลางวันแม้จะแดดร้อนก็สามารถมาใช้งานได้เช่นกัน โดยสระว่ายน้ำนี้จะควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 28 องศา ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นบนๆของอาคารที่มักจะเจอลมแรงทำให้น้ำเย็นจนเกินไป หรือร้อนจนเกินไปในเวลากลางวัน ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ว่ายน้ำได้สบายตัวค่ะ
ข้างๆทางเดินลงจะมีสระเด็กเล็กๆให้น้องๆได้มาเล่นด้วยนะค่ะ
ข้างๆ สระว่ายน้ำจะมีจุดล้างตัวอยู่ค่ะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ชั้นเดียวกันแต่ภายในอาคารนะ
จากชั้น 27 จะมีบันไดวนลงมาประมาณ 1 ชั้น เจอพื้นที่พักผ่อน outdoor อีกจุดค่ะ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อกับห้อง amphitheatre นะ
Amphitheatre
มาดูที่ห้อง amphitheatre กันค่ะ ห้องนี้จะมีการออกแบบตรงกับชื่อห้อง เป็นห้องดูหนังที่เล่นระดับจำลองบรรยากาศเหมือนโรงหนังเลยค่ะ โดยภายในห้องจะมีม่านอัตโนมัติปิดลงมาทำให้กลายเป็นห้องมืด สามารถเข้ามาใช้ในเวลากลางวันได้ โดยจะมีเครื่องโปรเจคเตอร์และจอให้ ซึ่งจะมีจอให้ 2 จุดเช่นกัน เผื่อใครอยากนั่งข้างล่าง หรือข้างบนก็สามารถเลือกใช้จอที่เหมาะสมกับที่นั่งที่เราเลือกได้ หาหนังมาเปิดดูได้บรรยากาศไม่แพ้การไปดูหนังในโรงเลย แถมได้ความเป็นส่วนตัวกว่าด้วยค่ะ
บรรยากาศภายใน Amphitheatre
ห้องน้ำ
ที่ชั้น 27 นี้จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงอยู่เช่นกันค่ะ เนื่องจากชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำอยู่ ทำให้ภายในห้องน้ำก็จะมีทั้งห้องแต่งตัว ห้องอาบน้ำ มี Locker ให้ใช้ค่ะ
ชั้น 28
ชั้น 28 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโครงการนี้ ที่ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้นค่ะ โดยจะแบ่งเป็น 2 ฟังก์ชันหลัก ฝั่งหนึ่งเป็น Sky Lounge อีกฝั่งจะเป็น Kitchen and Dining room ค่ะ
มาดูที่ Sky Lounge กันก่อน ห้องนี้ถือว่ากว้างมากค่ะ ฝ้าเพดานสูง มานั่งพักผ่อน คุยงาน ทำงาน จิบชา กาแฟ จัดปาร์ตี้ พร้อมชมวิวได้ภายในตัว
ไฮไลท์ของวิวที่นี่ก็จะเป็นวิวสวนลุมค่ะ
เดินมาอีกฝั่งค่ะ โซนนี้จะเป็นอีกฟังก์ชันที่น่าสนใจ มีชื่อเรียกว่า Private Kitchen and Gastronomy และ Private Dining Room ซึ่งเป็นห้องที่สามารถจัดเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการได้ค่ะ ดีไซน์สวยงาม บรรยากาศสบาย ชมวิวได้
โต๊ะที่มีให้จะเป็นแบบ Long table รองรับ 10-12 ที่นั่ง
ติดๆกันจะมี Pantry ขนาดใหญ่และมุมนั่งเล่นพักผ่อนค่ะ
โดยพื้นที่ตรงนี้เหมาะสำหรับจัดเลี้ยงหรือจัดงานฟาร์ตี้ ชวนเพื่อนมาทำอาหารกินเองหรือจ้างเชฟมาทำอาหารให้กินแบบ Full course ก็ทำได้ค่ะ
ซึ่งตรงนี้จะมีห้องครัวขนาดใหญ่รองรับอยู่ข้างๆ สามารถทำอาหารได้เต็มที่เลย โดยการขนส่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่างๆ ก็สามารถใช้ลิฟต์บริการได้ ถือเป็นอีกฟังก์ชันที่เราไม่ค่อยเจอที่โครงการไหนนะคะ หรือว่าเจอก็จะเป็น Co-kitchen สวยเก๋ แต่ไม่ได้ใช้งานได้จัดเต็มแบบที่นี่ค่ะ
Roof top
นอกจากพื้นที่ส่วนกลางที่พาไปชมทั้งหมดแล้ว ชั้นดาดฟ้าก็จะมีการจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนเช่นกันค่ะ แต่ในแง่การใช้งานอาจจะลำบากหน่อยเพราะว่าลิฟต์จะขึ้นมาไม่ถึงชั้นนี้นะ ต้องเดินขึ้นบันไดซึ่งหลายชั้นพอสมควรค่ะ
ที่ดาดฟ้ายังตกแต่งเก็บรายละเอียดไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นะคะในวันที่เราไป แต่อยากให้ผู้อ่านได้เห็นบรรยากาศคร่าวๆค่ะ ว่ามีการจัดสวนประมาณไหนบ้าง
วิวรอบๆ Muniq หลังสวน
เรื่องวิวถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนซื้อคอนโดสูงให้ความสำคัญค่ะ โดย Muniq หลังสวน นี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับสวนลุม ทำให้ได้ทั้ง City View และ Greenery View ที่เป็นสวนนะ
ทางด้านหน้าโครงการจะติดกับที่ดินเปล่าอยู่ 1 แปลงค่ะ ตรงนี้จะเป็นที่ทรัพย์สินฯ เท่าที่เราสืบมายังไม่มีแผนว่าจะก่อสร้างเป็นอะไรนะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น 1
- Drop off
- Welcome lobby
- Library and meeting room
- Mailroom
- Waiting lounge
- Juristic room
- Automatic parking and EV Charger
- Big bike parking
- Garden collection
- Promenade bridge
- Terrarium
- The silver courtyard
ชั้น 5-6
- Active Atrium
- Gym
- Yoga Room
- Locker room, Changing room, Spa room, Sauna room, Steam room and Toilets (Separate for men and women)
- Relaxing Lounge
ชั้น 7
- Game Lounge
- Kids Quarter
ชั้น 27
- Heated Pool (28c)
- Kids Pool
- Jacuzzi
- Amphitheatre
- Sky Gallery Garden
- Leisure Pool
- Charming Balcony
ชั้น 28
- Decanter Sky Lounge
- Private Kitchen and Gastronomy
- Private Dining Room
- Terrace
- Rest room
Parking : 185 cars (111%) automatic parking (B3 – 4th Floor)
ผังชั้นพักอาศัย
ผังชั้น 5 สำหรับห้องพักในชั้นนี้เพียง 6 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องนั้นจะมีโถงทางเดินที่จัดให้ส่วนตัว และบางห้องที่ได้ Single Loaded Corridor เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้มากขึ้น นอกจากนี้การจัดวางตำแหน่งห้องส่วนใหญ่ก็ออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นสำคัญจะเห็นว่าห้องส่วนใหญ่มีผนังเพียงฝั่งเดียวที่ติดกับเพื่อนบ้าน ยกเว้นห้อง B2 เท่านั้นค่ะ
แบบห้อง
สำหรับแบบห้องในโครงการ Muniq หลังสวน ถือว่ามีแบบให้เลือกเยอะมาก ดังนี้
- 1 Bedroom ขนาด 50.88 – 57.89 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 63.80 – 79.78 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 78.20 – 172.13 ตร.ม.
- 2 Bedroom Plus ขนาด 96.40 – 152.42 ตร.ม.
- 3 Bedroom ขนาด 123.29 – 128.04 ตร.ม.
- 3 Bedroom Plus ขนาด 172.13 – 175 ตร.ม.
- 4 Bedroom ขนาด 176.18 ตร.ม.
- The Collection ขนาด 81.91 – 277.85 ตร.ม.
ถ้าดูเราจะเห็นว่าโดยรวมโครงการนี้จะเน้นห้องขนาดใหญ่ เพื่อการอยู่อาศัยที่สบายเป็นหลัก ห้อง 1 Bedroom ที่เป็นขนาดเริ่มต้นก็อยู่ที่ราวๆ 51 ตร.ม. แล้ว ซึ่งใหญ่กว่าคอนโดที่ขายทั่วไปในปัจจุบันค่ะ ถือว่าเป็นขนาดที่ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยได้คุณภาพชีวิตที่ดีด้วย นอกจากนั้นที่นี่ก็มีห้องขนาดใหญ่ขายเป็นสัดส่วนที่เยอะเช่นกัน พื้นที่ใช้สอยได้ไม่แพ้การอยู่บ้าน แถมได้ความสะดวกสบายจากทำเลใกล้รถไฟฟ้า ใกล้สวนและแหล่ง Lifestyle ใจกลางเมืองด้วย เด่นทั้งเรื่องขนาดพื้นที่ห้องและ location เลยนะคะ
รูปแบบการขายจะเป็นแบบ Fully Fitted ที่ให้เป็นห้องเปล่าที่ได้ชุดครัวพร้อมอุปกรณ์ครบ สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำก็ได้ครบ ได้ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของแบบ Built-in (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง) ส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต่างๆ ก็สามารถเลือกตกแต่งให้ตรงกับความชอบได้ในภายหลังค่ะ ซึ่งเรามองว่าคนที่ซื้อโครงการนี้อยู่น่าจะมีความชอบหรือสไตล์ในการออกแบบตกแต่งห้องที่ไม่อยากซ้ำใคร รูปแบบโครงการที่ขายเป็น Fully Fitted จึงเหมาะสำหรับโครงการระดับนี้อยู่นะคะ
รายละเอียดวัสดุ
- พื้นห้อง Engineering floor สี white oak
- ชุดประตูหน้าต่างกระจก ใช้กรอบบานอลูมิเนียม กระจก Laminated สีเทา Euro Gray หนา 6+6 mm. ห้องที่หันทางทิศตะวันตกจะได้เป็นกระจก Laminated แบบ Low-e (เพื่อกันความร้อนได้ดีขึ้นค่ะ)
- เครื่องปรับอากาศแบบ Concealed type
- สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ยี่ห้อ Kohler
- พื้นห้องน้ำ กระเบื้อง porcelain
- ชุดครัวนำเข้า ห้อง Standard เป็นของ Kohler และห้อง The Collection เป็นของ Poliform
- Top เคาน์เตอร์ครัวและผนังด้านหลัง Backsplash ได้ Quartz จาก Kohler
- ชุดครัวห้อง Standard ได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ไมโครเวฟ (Built-in) และตู้เย็น เป็นแบรนด์ จาก Gorenje ส่วนห้อง The Collection ได้เตาอบ เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า ไมโคเวฟ เครื่องล้างจาน และตู้แช่ไวน์ เป็นแบรนด์ จาก Gorenje by ora-ito (Built-in)
สำหรับห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูในรีวิวนี้จะมีอยู่ 2 ห้อง เป็นห้อง 2 Bedroom และ 2 Bedroom Plus ซึ่งเป็นห้องหัวมุมทั้งคู่และอยู่ที่ชั้น 10 ค่ะ เราอยากให้ผู้อ่านได้ดูการออกแบบผังห้อง วิวที่ได้จากห้องชั้น 10 บวกกับแนวทางการตกแต่งภายในดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งของตัวเองได้นะคะ อยากรู้ว่าภายในจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันค่ะ
2 Bedroom Plus ขนาด 96.40 ตร.ม.
ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นห้องที่เหมาะสำหรับอยู่เป็นครอบครัวค่ะ ได้ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 1 ห้องอเนกประสงค์ จุดที่น่าสนใจคือเป็นห้องที่ได้ห้องน้ำถึง 3 ห้อง นั่นแปลว่าห้องนอนทั้งคู่ได้ห้องน้ำในตัว และมีห้องน้ำแยกออกมาอีกห้องแบบ Powder room (ไม่มีส่วนอาบน้ำ) เพื่อรองรับแขกโดยเฉพาะ เป็น Layout ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคนที่อยู่อาศัย และมีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์อยู่ 1 ห้องรองรับการใช้ชีวิตอื่นๆ เช่น ทำงาน, ออกกำลังกาย ฯลฯ ได้ตามความต้องการของแต่ละคนค่ะ
ดูที่ผังห้องกันค่ะ ตัวห้องจะเป็นห้องที่อยู่มุมอาคารพอดี ทำให้ทุกฟังก์ชันหลักอย่างห้องนั่งเล่น ห้องนอน มีผนังที่ติดกับผนังภายนอก ได้หน้าต่างเป็นช่องแสง เห็นวิว และช่วยถ่ายเทอากาศภายในห้องได้ดีค่ะ โดยพื้นที่ครึ่งแรกของห้องจะเป็น Common area ที่ออกแบบให้เป็น open plan พื้นที่โล่งเชื่อมต่อครัว พื้นที่กินข้าว และพื้นที่นั่งเล่นเข้าด้วยกัน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอน 2 ห้องและมีห้องอเนกประสงค์อยู่ตรงกลางค่ะ ตัว master bedroom จะเป็นห้องที่อยู่หัวมุม ได้กระจกเข้ามุมซึ่งตำแหน่งของห้องนี้จะหันออกไปเจอกับวิวของสวนลุมด้วย เป็นวิวที่ถือว่ามีมูลค่าพอสมควรเลย นอกจากนั้นก็ยังได้พื้นที่ walk-in closet ภายในและห้องน้ำก็จะได้อ่างอาบน้ำค่ะ ในส่วนห้องนอนรองนั้นจะมีขนาดเล็กกว่า จะก็ได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าเลียบกับแนวผนังดูเป็นระเบียบ ได้ห้องน้ำในตัว ส่วนขนาดห้องก็ถือว่ากำลังดี ไม่แคบเกินไป เราลองไปดูบรรยากาศจริงภายในห้องกันค่ะ
เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ common area เป็นอันดับแรกค่ะ การออกแบบจะเน้นโทนสี Earth tone น้ำตาล เทา เบจ ดูเรียบง่ายแต่ก็ดูหรูหรา โดยตัวห้องจะมีความสูงอยู่ที่ 3 เมตร และได้ชุดกระจกที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเต็มบานทำให้ห้องดูโปร่ง โล่งค่ะ
หันย้อนกลับไปที่ทางเข้า ตัวประตูจะเป็นสีดำแบบนี้ได้ Digital Door Lock มาค่ะ ส่วนข้างๆติดกับทางเข้าจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ที่รองรับการใช้งานของพื้นที่ห้องนั่งเล่นหรือกินข้าวนี้ รองรับแขกที่มาเยี่ยมเยือนคนในบ้านเป็นหลัก
ภายในห้องน้ำจะได้แบบที่เห็นค่ะ โทนสีขาวครีม พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ดูสะอาดตา
อีกฝั่งของทางเข้าเป็นครัวที่ได้ Built-in ชุดครัวเข้ามุมเป็นรูปตัว L พร้อม island ตรงกลางแบบนี้ค่ะ
จุดที่น่าสนใจคือพื้นที่ด้านหนึ่งจะออกแบบเป็น Built-in ตู้เก็บของเอาไว้ เก็บรองเท้า ร่มต่าง ๆ ได้ โดยจะหันหน้าคนละฝั่งกับครัวในแง่ฟังก์ชันก็จะช่วยเรื่องความสะอาดดีกว่าด้วยนะคะ
ตรงกลางจะมีเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่อยู่เดินรอบได้
ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่กินข้าวค่ะ
ตรงนี้ในห้องตัวอย่างจัดไว้เป็นโต๊ะกลมขนาด 4 ที่นั่ง ส่วนตัวเรามองว่าเป็นโต๊ะเหลี่ยมแบบ 4 ที่นั่งก็ได้นะคะ ถ้ามีแขกมาเยอะก็อาจจะเพิ่มเก้าอี้ที่หัว-ท้ายโต๊ะรองรับได้ 6 ที่นั่งนะ
ส่วนพื้นที่นั่งเล่น+รับแขก จะมีตำแหน่งอยู่ด้านในของห้องติดกับระเบียงค่ะ
พื้นที่ระเบียงถือว่ากว้างอยู่นะคะ เรามาใช้งานยืนรับลมได้ หรือจะปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ภายในห้องนอนเราก็ได้เช่นกัน
มาดูพื้นที่ต่อไปค่ะ อีกฟากของห้องจะเป็นห้องนอน 2 ห้องโดยมีห้องอเนกประสงค์ให้มาตรงกลาง โดยจะได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบที่เห็นนะคะ จุดนี้เรามองว่าค่อนข้างเหมาะ เนื่องจากตัวห้องอยู่ตำแหน่งกลางห้อง ถ้าทำเป็นห้องปิดทึบอาจจะทำให้บรรยากาศภายในห้องดูอึดอัดจนเกินไป พอเป็นประตูบานเลื่อนกระจกก็ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น ในขณะที่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็เลื่อนปิดกันเสียงได้ค่ะ
ห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถจัดเป็นห้องทำงาน ห้องสำหรับทำงานอดิเรก ห้องออกกำลังกาย หรือห้องเก็บของเพิ่มเติมจากเดิมได้นะคะ
Master Bedroom
ซ้ายมือจากห้องอเนกประสงค์จะเป็น Master Bedroom ค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ walk-in closet ทางด้านขวามือก่อน โดยพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ด้านใน ซึ่งการจัดวาง layout ห้องแบบนี้ทำให้เมื่อเราเข้าห้องมาจะไม่เห็นหัวเตียงตรงๆ นะคะ เพิ่มความ Privacy ให้กับคนที่อยู่ในห้องนี้ได้
ตัว Walk-in closet จะเป็นห้องปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ
เข้ามายังพื้นที่ห้องนอน Highlight ของห้องนี้คือกระจกเข้ามุมที่เปิดรับเข้าสู่วิวสวนลุมนั่นเองค่ะ ในส่วนการจัดวาง Layout ภายในห้องเรามองว่าขนาดห้องค่อนข้างกว้างเลยนะ อาจจะปรับหัวเตียงไปวางทิศทางอื่นได้ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียง(ผนังที่ติดกับ Walk-in Closet) ตรงนี้จัดเป็นมุมทำงานเล็กๆ ชั้นวางของ หรือจะเป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้นะคะ
ตัวกระจกก็เป็นแบบเข้ามุมด้วย เราเลยจะไม่เห็นเฟรมหรือวงกบกระจกตรงมุม ทำให้วิวที่ได้ก็จะกว้างขึ้นแบบนี้
ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะอยู่ที่ปลายเตียงเช่นกันค่ะ
ห้องน้ำนี้จะเป็นห้องที่อยู่ชิดกับผนังภายนอก ทำให้ได้หน้าต่างภายใน ใช้เป็นช่องแสง และช่วยระบายอากาศ ความชื้นภายในห้องน้ำได้ แต่จุดที่น่าสนใจสำหรับเราคือห้องน้ำนี้จะได้อ่างอาบน้ำภายในตัว ตั้งติดกับหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เรียกว่านอนแช่อ่างอาบน้ำไปชมวิวสวนลุมไปได้ด้วย กลายเป็นมุมพักผ่อนให้กับคนที่อยู่ในห้องนี้ได้เลย
ห้องนอนรอง
มาดูที่ห้องนอนรองกันต่อ เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับแนวทางเดินเป็นอันดับแรกเช่นเดียวกับ master bedroom เป็นการสร้างระยะเพื่อความ privacy ของพื้นที่พักผ่อนอย่างเตียงนอน ซึ่งนอกเหนือจากการมองเห็นหัวเตียงอย่างที่เล่าไปแล้ว ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือลดเรื่องเสียงรบกวนที่อาจจะเกิดจากพื้นที่ห้องนั่งเล่นลงได้ด้วยนะคะ
ทางขวามือของทางเดินจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งห้อง Type นี้ห้องนอนรองก็จะได้ห้องน้ำส่วนตัวเช่นกัน ค่อนข้างหาแปลนห้องแบบนี้ได้ยากนะสำหรับคอนโดสมัยนี้ โดยภายในห้องก็ถือว่าขนาดได้ตามมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก ได้ฉากกั้นอาบน้ำ ฝักบัวแบบ hand shower และ rain shower มา สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่ก็จะได้ของ Kohler ค่ะ
สำหรับห้องนอนรองนั้นจะมีขนาดเล็กลงมา ซึ่งจะไม่ได้ตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in closet เป็นห้องเหมือนกับภายใน master bedroom แต่จะได้ built-in ตู้เสื้อผ้าเลียบไปกับผนังทางเดินทางซ้ายมือแทนค่ะ
ขนาดตรงนี้ถือว่ากว้างพอสมควรเลยนะคะ เราสามารถต่อเติมเพิ่มเป็นชั้นวางของทั้งแผงเลยก็ได้นะ ถ้าใครต้องการพื้นที่เก็บของเยอะๆ
โดยพื้นที่วางเตียงนอนก็ไม่ได้เล็กจนเกินไป สามารถวางเตียง Queen size ได้ ในขณะที่ได้ทางเดินรอบๆเตียงนะคะ
แต่จุดที่น่าสนใจคือผนังห้องที่ได้เป็นกระจกเต็มพื้นที่มองวิวได้เช่นกัน ซึ่งตำแหน่งนี้สามารถเห็นสินธร วิลเลจได้
ในส่วนของห้องตัวอย่างห้องแรก 2 Bedroom Plus เราก็พาไปสำรวจจนครบถ้วนกันแล้วค่ะ สำหรับห้องนี้เรามองว่าการจัดวาง layout ต่างๆก็ทำได้น่าสนใจ ขนาดกำลังดี มีการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวในการใช้งานได้ดี และได้วิวที่ดีอีกด้วยนะคะ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก อยู่กันได้ 2-4 คนค่ะ
2 Bedroom ขนาด 78.90 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างห้องต่อมาจะอยู่ที่ตำแหน่งมุมอาคารเช่นกัน เป็นห้อง 2 Bedroom ที่ได้ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำค่ะ
ในส่วนของผังห้องเรามองว่าจุดที่น่าสนใจจะเริ่มตั้งแต่ทางเข้าห้องเลย เพราะเมื่อเข้าไปเราจะเจอกับโถงทางเดินตรงยาวเป็นอันดับแรก แล้วจึงหักมุมเลี้ยวขวาไปเจอกับ common area ของห้อง เป็นห้องที่มีลำดับการเข้าถึงภายในที่สร้างความตื่นเต้นและน่าค้นหาให้กับพื้นที่ที่อยู่ด้านในนะคะ ตัวโถงทางเดินก็ได้บรรยากาศเหมือนเดินดูงานศิลปะตาม gallery ด้วย โดยฟังก์ชันภายในก็ถือว่ามีขนาดที่กำลังดี สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ อยู่สบาย ห้องนอนได้ห้องน้ำในตัวทุกห้อง และมีหน้าต่างขนาดใหญ่ภายในทุกห้องเช่นกันค่ะ ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยนะ
ในการออกแบบห้อง Type นี้จะได้แรงบันดาลใจมาจาก Parisian style ซึ่งส่วนตัวเรามองว่าเป็นสไตล์ที่สวยเก๋และดูมั่นใจเหมือนกับแฟชั่นของชาวปารีสค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับโถงทางเดินยาว ซึ่งออกแบบให้มีสีแดงสดประดับด้วยคิ้วบัว ซึ่งผนังทางฝั่งหนึ่งจะเป็น built-in ชั้นวางของไปในตัว บรรยากาศตรงนี้ได้บรรยากาศเหมือน art gallery เบาๆ ซึ่งเราสามารถนำรูปภาพมาแขวนประดับที่ผนังตรงนี้ได้เช่นกันนะคะ
ผนังทางขวามือจะซ่อนพื้นที่เก็บของเอาไว้ เป็นชั้นวางรองเท้า ร่ม ฯลฯ ถือว่ามีความจุเยอะพอสมควร
เดินมาสุดจะเจอกับตู้เก็บของอีกบาน ซึ่งตรงนี้จะจัดไว้ให้เป็นมุมซักรีดค่ะ วางเครื่องซักผ้า น้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่มต่างๆตรงนี้ได้ เวลาเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ค่ะ
ผ่านมุมซักรีดไป หันมาทางขวามือจะเป็นพื้นที่ Common area ของห้องแล้วค่ะ เราจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวยาวอยู่ทางขวามือ ส่วนทางซ้ายมือจะเห็นว่ามีประตูอีกจุด ตรงนี้จะเป็น Powder room ค่ะ
Powder room หรือห้องน้ำที่ไม่มีส่วนอาบน้ำ เป็นห้องน้ำที่เตรียมไว้รองรับแขกหรือคนที่ใช้งานบริเวณ common area นี้โดยเฉพาะ ทำให้เวลาที่มีแขกมาบ้านก็ไม่ต้องเข้าไปใช้งานในห้องน้ำส่วนตัวของเจ้าของห้องค่ะ
ภายในห้องน้ำก็จะมีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้เป็นของ Kohler ส่วนกระจกเงาก็จะมีดีเทลที่เปิดเป็นชั้นเก็บของได้ค่ะ
ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่กินข้าว โดยพื้นที่ส่วนนี้ถือว่าอยู่ใจกลางของห้องเลยค่ะ ตั้งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัวที่ยาวกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของห้องก็ว่าได้
ตัวเคาน์เตอร์นี้ถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร ใช้งานได้เต็มที่ มีพื้นที่ตระเตรียมอาหารพร้อม อาจจะวางเครื่องชงกาแฟเล็กๆบนเคาน์เตอร์เพิ่มก็มีพื้นที่เพียงพอค่ะ
ภายในชุดครัวที่ built-inให้มาก็จะมาพร้อมตู้เย็นและไมโครเวฟด้วย ดูเรียบร้อยสวยงาม
ส่วนพื้นที่กินข้าวก็รองรับได้ 4 ที่นั่ง เรามองว่าจะเลือกเป็นโต๊ะเหลี่ยม หรือโต๊ะกลมแบบห้องคัวอย่างก็ทำได้นะคะ แขวนโคมไฟเก๋ๆด้านบนก็ช่วยให้พื้นที่โต๊ะกินข้าวนี้โดดเด่นดี
เข้ามาด้านในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น + รับแขก เข้ามุมเป็นสัดส่วนดี และใกล้กับระเบียงของห้องด้วย นั่งเล่นเป็นหน้าต่างรับลม ชมวิวตรงนี้ได้เต็มที่
ห้องนี้แม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เห็นวิวสวนลุมโดยตรง แต่พอเรามายืนที่ระเบียงมองออกไปก็ยังเห็นสวนลุมได้อยู่นะคะ
กลับเข้าไปภายในห้อง เราจะพาไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ โดยตัวห้องนอนจะอยู่ด้านในใกล้กับโต๊ะกินข้าวนะ
Master Bedroom
เข้ามาดูในห้องนอนใหญ่กันก่อนค่ะ พอเข้ามาเราจะเจอกับแนวทางเดิน ซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นแนวเดียวกับผนังนะคะ ส่วนขวามือจะเป็นห้องน้ำ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีการวางผังที่แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งเอาไว้ให้ ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ตู้เสื้อผ้าก็ถือว่าออกแบบให้ built-in เป็นส่วนหนึ่งของผนังดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีค่ะ
หันมาทางขวามือจะเป็นพื้นที่พักผ่อน โดยพื้นที่ตรงนี้ถือว่ามีขนาดที่กว้างอยู่นะคะ วางฟังก์ชันได้หลากหลาย มุมโต๊ะเครื่องแป้ง เก้าอี้พักผ่อน เตียงนอน ชั้นวางทีวี จัดวางรวมกันได้หมดเลย โดยจุดที่เป็น Highlight ของห้องจะเป็นกระจกเข้ามุมค่ะ
ภายในห้องสามารถจัดวางเตียงขนาด King size ได้สบายๆเลย
ห้องนอนรอง
สำหรับห้องนอนรองที่อยู่ติดกันการจัดวาง layout ของห้องเมื่อเข้ามาก็จะเจอกับโถงทางเดินโดยมีห้องน้ำอยู่ฝั่งซ้ายของทางเดินค่ะ (ในห้องตัวอย่างกับแปลนจะมีความแตกต่างอยู่เล็กน้อยตรงตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าของทั้ง 2 ห้องนะคะ ซึ่งส่วนตัวเรามองว่าการจัดแบบในแปลนดูจะลงตัวกว่าเพราะจะสลับเอาตู้เสื้อผ้าของห้องนอนรองมาไว้ที่หน้าห้องน้ำพอดี ทำให้มีระยะในการเปิดใช้งานตู้เสื้อผ้าที่ดีกว่าในห้องตัวอย่างค่ะ)
ภายในห้องน้ำก็จะได้ฟังก์ชันและการจัดวางตามมาตรฐาน แยกพื้นที่ใช้งานส่วนเปียก-ส่วนแห้งใช้งานได้สะดวกค่ะ
เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อน วางเตียงนอน Queensize ได้พอดี อยู่ติดกับหน้าต่างบานขนาดใหญ่ ช่วยให้พื้นที่ภายในห้องนี้ดูกว้างมากขึ้น
ส่วนตัวเรามองว่าถ้าอยู่คนเดียวก็อาจจะเลือกเตียงแบบ 3.5 ฟุตแทนได้ เพื่อให้พื้นที่ภายในห้องนี้เหลือ แล้วเราก็จัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานเล็กๆทางด้านข้างได้ค่ะ
ปลายเตียงจะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าค่ะ ตรงนี้ที่เราบอกไปว่าตำแหน่งจะต่างจากในแปลนอยู่นะ เพราะในแปลนตู้เสื้อผ้าของห้องนอนรองจะอยู่หน้าห้องน้ำพอดี ทำให้ได้ระยะในการเปิดใช้งานตู้เสื้อผ้ากว้างกว่านี้ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ
แบบแปลน
1 Bedroom
1 Bedroom
1 Bedroom Plus
1 Bedroom Plus
2 Bedroom , 2 Bedroom Plus
2 Bedroom
3 Bedroom , 3 Bedroom Plus
3 Bedroom Plus
Combine Unit
3 Bedroom
ราคา
Muniq หลังสวน ราคา ณ วันที่ 19 Nov 2021
- 1 Bedroom ขนาด 57.89 ตร.ม. ราคา 18 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 310,934 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom เริ่มต้น 21.6 ล้านบาท
- 2 Bedroom ขนาด 78.9 ตร.ม. (Type ห้องตัวอย่าง) ราคา 27.8ล้านบาท
- 2 Bedroom Plus ขนาด 96.5 ตร.ม.(Type ห้องตัวอย่าง) ราคา 42.9 ล้านบาท
- 3 Bedroom เริ่มต้น 61.7 ล้านบาท
- The Collection เริ่มต้น 62.6 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- จอง 200,000 – 500,000 บาท
- ทำสัญญา 5%
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 3 งวด
- ค่ากองทุน 1,200 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 120 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
ที่ตั้งของ Muniq หลังสวนจะอยู่ในซอนต้นสน ช่วงท้ายซอย ติดกับตึกสินธรค่ะ ซึ่งซอยต้นสนนี้จะเป็นซอยที่คู่ขนานไปกับซอยหลังสวน เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทกับถนนสารสินเข้าด้วยกัน โดยบรรยากาศภายในซอยจะมีความสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการเป็นที่พักอาศัยค่ะ และด้วยตัวทำเลที่ใกล้กับสวนลุม รถไฟฟ้า BTS สถานีชิดลม และใกล้กับสินธร วิลเลจ ทำให้ตอบโจทย์ในหลายๆด้าน ทั้งเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง ความอุดมสมบูรณ์ของร้านค้าร้านอาหารที่หลากหลาย รวมไปถึงบรรยากาศที่ใกล้สวนสาธารณะสำคัญของกรุงเทพฯอย่างสวนลุม ทำให้การใช้ชีวิตในการเมืองนั้นสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เช่นกันค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
ถนนหน้าโครงการเป็นซอยต้นสนซึ่งเป็นถนน 2 เลน รถสามารถวิ่งสวนกันได้ ทำให้เราสามารถขับไปออกทั้งฝั่งถนนสุขุมวิทหรือจะไปยังถนนสารสินเพื่อเชื่อมต่อกับถนนวิทยุหรือถนนราชดำริได้อย่างง่ายดาย ในส่วนที่จอดรถก็ได้มาถึง 111% แปลว่าทุกยูนิตมีที่จอดรถอย่างน้อยแน่ๆ 1 คันค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ในการเลือกที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทุกคนต้องยอมรับคือรถติดค่ะ นั่นแปลว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัวในบางช่วงเวลาอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ดังนั้นโครงการที่มีตัวเลือกระบบสาธารณะในการเดินทางก็จะดีกว่า โดยโครงการ Muniq หลังสวน นี้จะอยู่ใกล้กับ BTS ชิดลม ซึ่งสามารถเดินทางไปใช้ได้ง่าย (เราเคยเดินไปอยู่นะคะ ไกลอยู่แต่ก็พอเดินไหว แต่ถ้ารีบเร่งก็เรียกวินมอเตอร์ไซค์ดีกว่าค่ะ)
วัสดุ :
โครงการนี้มีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับนี้ที่มักจะอยากออกแบบตกแต่งที่อยู่อาศัยให้เป็นสไตล์ของตัวเอง มีความ Unique ไม่ซ้ำใคร โดยวัสดุที่ให้ก็จะได้พื้น Engineering Floor และกระเบื้อง Porcelain เหมาะตามฟังก์ชันการใช้งาน ได้ครัวที่ใหญ่ ครบชุดจัดเต็มแบบมี Built-in ไมโครเวฟและตู้เย็นมาให้ ส่วนใหญ่จะได้ของ Gorenje ส่วนภายในห้องน้ำใน Mater Bedroom ก็จะได้อ่างอาบน้ำให้มา สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นของ Kohler แอร์ก็ได้เป็น Concealed type ทุกอย่างดูเรียบร้อยสวยงามตามมาตรฐานของคอนโดระดับนี้ค่ะ
การออกแบบ :
การออกแบบที่นี่ต้องการเน้นความ Elegant and Timeless Aesthetic ดีไซน์จะสวยหรูแบบเรียบๆ ไม่หวือหวาแต่มีรายละเอียดในการออกแบบฟังก์ชัน interior design ที่สวยงาม โดยให้ความสำคัญในการออกแบบทุกฟังก์ชันให้ตอบโจทย์คุณภาพชีวิต อย่างพื้นที่ส่วนกลางก็ต้องมีฟังก์ชันที่การใช้ชีวิตในปัจจุบันต้องการ อย่างห้องนวด ห้องโยคะ ห้องดูหนัง ห้องกินข้าวพร้อมครัว อีกทั้งยังต้องออกแบบบรรยากาศการตกแต่งภายในให้ดูสวย น่าใช้งาน และได้วิวที่เป็นจุดเด่นของโครงการในตัว ส่วนตัวห้องพักอาศัยจะเน้นห้องที่มีขนาดใหญ่พอให้อยู่สบาย และมีหลากหลาย Type ห้องให้เลือก สัดส่วนห้องใหญ่ก็มีให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่เป็นครอบครัวค่ะ
สาธารณูปโภค :
หลายๆโครงการจาก Major Development จะมีจุดเด่นเรื่องการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ได้ฟังก์ชันหลากหลายอยู่แล้ว แต่ที่ Muniq หลังสวน นอกจากฟังก์ชันที่หลากหลายยังมีขนาดที่ใหญ่อีกด้วยค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางจะกระจายตัวอยู่ตั้งแต่ชั้นล่าง ชั้น 5-7 และชั้น 27-28 แบบยกทั้งชั้น ดูจากขนาดเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักอาศัยแล้วถือว่าให้มาเยอะเลยค่ะ น่าจะมาใช้งานกันได้แบบสบายๆ ไม่ต้องแย่งกัน โดยฟังก์ชันก็หลากหลายสามารถ entertain และผ่อนคลายตัวเองได้ที่คอนโดนี้ แบบไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ได้ค่ะ ทุกพื้นที่ออกแบบมาสวยน่าใช้งานจริงค่ะ
Muniq หลังสวน เหมาะกับใคร?
โครงการ Muniq หลังสวนเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่อยากอยู่คอนโดใจกลางเมือง โดยมีงบประมาณ 20 ล้านบาทขึ้นไป ต้องการโครงการที่สามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ด้วยสภาพทำเลที่สะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้สวน ใกล้ห้าง แต่ก็ยังเงียบสงบ และต้องการโครงการที่ห้องพักมีขนาดใหญ่อยู่สบาย มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายให้ใช้งาน สามารถอยู่กันเป็นครอบครัวแทนอยู่บ้านได้ค่ะ
ใครสนใจรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือเยี่ยมชมโครงการ คลิกลงทะเบียนได้ที่ >> https://bit.ly/3CFk3u1
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc