Ivory รัชดา-ลาดพร้าว คอนโด Low Rise สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ต้นซอยรัชดา 32 ฝั่งขาเข้าเมือง มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางได้สะดวก เชื่อมต่อลัดเลาะได้หลากหลายเส้นทาง มีจำนวน 204 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท โดย Highlights ของโครงการมีดังนี้ค่ะ
- ทำเล : ต้นซอยรัชดา 32 เดินทางได้สะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถไฟฟ้า มี Shuttle Service รับ-ส่ง MRT สถานีลาดพร้าวให้ด้วย ลัดเลาะไปเส้นลาดพร้าว, ลาดพร้าววังหิน, โชคชัย 4, นาคนิวาส และไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้สะดวก
- แบบห้อง : มีห้อง 1 Bedroom – 1 Bedroom Plus หลากหลายแบบ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน ได้สะดวก
- ส่วนกลาง : ครบครันตามมาตรฐาน และที่สำคัญคือมีห้องออกกำลังกายที่เปิดให้ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง อีกทั้งมีสระว่ายน้ำ, Co-working space, พื้นที่สีเขียวภายในโครงการหลายจุดค่ะ
- วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมทั้ง Digital door lock เครื่องปรับอากาศ และ Bluetooth sound system เพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมนิดหน่อยก็สามารถย้ายกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
ข้อมูลโครงการ
ไอเวอรี่ รัชดา ลาดพร้าว (Ivory Ratchada Ladprao) ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2565
ชื่อโครงการ | ไอเวอรี่ รัชดา ลาดพร้าว (Ivory Ratchada Ladprao) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แอสเซทไวส์ จํากัด |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยรัชดาภิเษก 32 เขตจตุจักร |
ที่ดิน | 1-2-8 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 204 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 32 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 73 คัน คิดเป็น 35.78% |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2565 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.4 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 2.49 ล้านบาท (Update 16/08/2022) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 98,000 บาท/ตร.ม. (Update 16/08/2022) |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 02-168-0000 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.8157082,100.5758672
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว ตั้งอยู่ในซอยรัชดา 32 ค่ะ สามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนรัชดาและถนนลาดพร้าวเลย โดยซอยรัชดา 32 นี้เป็นซอยที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง ลาดพร้าววังหินได้สะดวก ลัดเลาะไปยังโซนโชคชัย 4, นาคนิวาส และไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้ นอกจากนั้นซอยรัชดา 32 ยังอยู่ในฝั่งขาเข้าเมือง สามารถใช้ถนนรัชดาภิเษกเดินทางไปยังยังย่านรัชดา ห้วยขวาง พระราม 9 และอโศกได้สะดวกไม่ต้องกลับรถ แต่อาจจะต้องคำนึงเรื่องเวลากันให้ดีนะคะ เพราะการจราจรบนถนนรัชดาภิเษกในชั่วโมงเร่งด่วนจะมีสภาพการจราจรติดขัดเป็นประจำ
การเดินทางด้วยระบบสาธารณะ ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ ภายในซอยรัชดา 32 ก็มีพี่วินให้บริการอยู่หลายจุด นอกจากนั้นโครงการตั้งอยู่ไม่ไกลอย่างถนนหลักอย่างถนนรัชดาภิเษก (400 เมตร ) ซึ่งมีความคึกคัก มีรถสาธารณะวิ่งอยู่ตลอดเวลา ทั้งรถเมล์ แท็กซี่ ทำให้สามารถเดินออกไปเรียกใช้บริการกันได้ง่ายค่ะ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ถือว่าสามารถไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีลาดพร้าว โดยทางโครงการมี Shuttle Service รับ-ส่ง MRT สถานีลาดพร้าวให้ด้วย หรือจะอาศัยพี่วินมอเตอร์ไซค์ต่อเดียวก็ถึงแล้วค่ะ โดยสถานีลาดพร้าว เป็น MRTสายสีน้ำเงิน สามารถใช้เดินทางเข้าไปยังแหล่งงานโซนพระราม 9 , อโศกได้สะดวก นอกจากนั้นในอนาคตอันใกล้ ก็จะมีรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองให้ใช้งาน ซึ่งทำให้สถานีนี้เป็นจุด Interchange โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ คาดว่าจะเปิดให้บริการบางส่วนได้ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ก่อนเปิดให้บริการครบทั้งเส้นทางในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 สามารถใช้เดินทางไปยังลำสาลี , พัฒนาการ นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวได้สะดวก สามารถใช้เดินทางไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พญาไท หรือสยาม ได้สะดวกเช่นกันค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ถือว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์ หาของกินได้ง่าย ที่ใกล้ๆโครงการในระยะเดินได้สะดวกก็จะมีบริเวณปากซอยรัชดา 32 ที่มีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารอยู่หลากหลาย หรือจะเข้าไปในซอย 32 อีกหน่อยไปออกซอยรัชดา 36 หรือที่เรียกว่าซอยเสือใหญ่ ก็มีความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน เป็นทำเลใกล้ ม.ราชภัฏจันทรเกษมที่มี Apartment อยู่เยอะ มีตลาดนัดเสือใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลากหลาย หรือใครที่ชอบ Hangout หรือนั่งทำงานตามคาเฟ่ ก็จะมีร้านกาแฟ ร้านอาหารอยู่บนถนนลาดพร้าววังหินอย่างหนาแน่นเลย ซึ่งจากโครงการก็สามารถใช้ซอยรัชดา 32 วิ่งตรงมาออกถนนลาดพร้าววังหินได้เลยค่ะ
ส่วนห้างสรรพสินค้าที่ไม่ไกลจากโครงการก็จะมีโซนห้าแยกลาดพร้าวที่มีห้าง Central ลาดพร้าว, Union Mall หรือฝั่งเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีห้างใหญ่อย่าง Central Eastville, CDC ไม่ไกลจากโครงการค่ะ
บรรยากาศบริเวณปากซอยรัชดา 32
บรรยากาศบริเวณปากซอยรัชดา 32 ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านสะดวก-ซื้ออย่าง 7-Eleven และ Tesco Lotus Express นอกจากนั้นยังมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่หน้าปากซอยด้วยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการตั้งอยู่ในซอยย่อยเข้าไปประมาณ 100 เมตร สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัย โดยหน้าโครงการจะเป็นทิศตะวันออก ติดกับถนนภายในซอยกว้างประมาณ 6 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็น Apartment สูง 8 ชั้น ส่วนทิศเหนือก็เป็น Apartment สูง 5 ชั้นค่ะ ส่วนทิศอื่นๆ จะเป็นอาคารพักอาศัยแนวราบ และที่ดินเปล่า ซึ่งในคอนโด Low Rise ส่วนใหญ่คนที่ซื้อจะเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวมากกว่า ไม่ได้คาดหวังเรื่องวิวรอบๆโครงการเท่าไหร่นะ
ทิศเหนือ Apartment สูง 5 ชั้น และ ลานจอดรถ
ทิศตะวันออก ภายในซอยรัชดาภิเษก 32 ถนน กว้าง 6 ม. ตรงข้ามเป็นอาคารสูง 8 ชั้น
ทิศใต้ พื้นที่ว่าง และบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
ทิศตะวันตก ซอยรัชดา 30 แยก 3 และบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
ทิศเหนือติดกับ Apartment สูง 5 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- The Jas วังหิน ~ 2.2 กิโลเมตร
- Major รัชโยธิน ~ 4.1 กิโลเมตร
- Central ลาดพร้าว ~ 4.5 กิโลเมตร
- Union Mall ~ 5.3 กิโลเมตร
- Central Eastville ~ 6.2 กิโลเมตร
- Esplanade รัชดา ~ 6.5 กิโลเมตร
- CDC ~ 7.2 กิโลเมตร
- ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~ 1.9 กิโลเมตร
- ตลาดโชคชัย 4 ~ 4.2 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ.เปาโล โชคชัย 4 ~ 3.5 กิโลเมตร
- รพ.เปาโล เกษตร ~ 4.3 กิโลเมตร
โรงเรียน
- ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 700 เมตร
- รร.สตรีวิทยา 2 ~ 5.0 กิโลเมตร
- ม.เกษตรศาสตร์ ~ 5.7 กิโลเมตร
สถานที่ราชการ
- ศาลอาญา ~ 2.4 กิโลเมตร
- ตึกช้าง ~ 4.1 กิโลเมตร
- SCB Park ~ 4.4 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Ivory รัชดา-ลาดพร้าว เน้นตกแต่งด้วยวัสดุลายหินสีขาวครีม ตามความหมายของ Ivory ที่เป็น สีขาวงาช้าง ตัดกับวัสดุสีเข้มเพื่อให้อาคารดูมีมิติ น่าสนใจมากยิ่งขึ้น รูปแบบคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดิน 1-2-8 ไร่ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 204 ยูนิต การจัดวางฟังก์ชันต่างๆในโครงการจะแบ่งพื้นที่ชั้น 1 เป็นที่จอดรถและงานระบบต่างๆ ส่วนห้องพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 2-8 และพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะอยู่ที่ชั้น 2-3 และชั้นดาดฟ้าค่ะ การจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ในแต่ละชั้นของโครงการมีดังนี้
- ชั้น 1 :
-พื้นที่จอดรถ 73 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) - ชั้น 2 :
-ห้องนิติบุคคลอาคารชุด
-City Escape Garden
-IVORY Lounge
-Idea & Work Cafe
-Active Pool , Cozy Pool, Bubble Seat
-Cozy Terrace
-ชั้นพักอาศัย - ชั้น 3 :
-Active Gym
-ชั้นพักอาศัย - ชั้น 4-8 :
-ชั้นพักอาศัย - ชั้น Rooftop :
-Stargazing Yard
ผังพื้นอาคารชั้น 1 ทางเข้า-ออกจะอยู่บริเวณถนนในซอยรัชดา 32 มีทางเข้าสำหรับคนเดิน สามารถเดินตรงขึ้นไปยัง Lobby ที่ชั้น 2 ได้เลย และทางเข้า-ออกสำหรับรถ 1 จุด ง่ายในการดูแลความปลอดภัย ทางเดินรถภายในโครงการเป็นแบบสวนกัน สามารถจอดรถได้ 73 คัน คิดเป็น 35.78% โดยโครงการ มีบริการรถ Shuttle Service รับ-ส่ง MRT ลาดพร้าวด้วยนะคะ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการมีป้ายชื่อโครงการเห็นได้ชัดเจน เมื่อเดินเข้ามาภายในซอยจะเจอกับทางเข้า-ออกสำหรับคนเดิน และถัดเข้าไปจะเป็นทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ ตรงนี้รั้วโครงการจะร่นห่างจากถนนเข้าไป มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการ ทำให้ดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น
บรรยากาศทางเข้า-ออกสำหรับคนเดิน ด้านหน้าโครงการ
ทางเข้า-ออกสำหรับคนเดินสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ Lobby ชั้น 2 ขอโครงการได้เลย แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยนะคะ เพราะถ้าจะเดินไปยังส่วนอื่นๆต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้า-ออกนะ
ทางเข้า Lobby จากทางเข้าด้านหน้าโครงการ
สำหรับการที่พื้นที่ Lobby สามารถเข้าออกได้จากหน้าโครงการตรงนี้จะสะดวกกรณีที่มีแขกมาพบ สามารถให้มานั่งรอเราที่ Lobby ก่อนเลย
ทางเข้าโครงการจะมีประตูเหล็กเลื่อนชั้นหนึ่งก่อน ด้านในเป็นทางเข้าไม้กั้นกระดกด้านในแบบนี้เลยค่ะ
บรรยากาศทางเข้า-ออกรถ ด้านหน้าโครงการ
ทางเข้าอาคารจะแบ่งเป็นทางเข้า-ออก 2 ฝั่งด้วยไม้กั้นกระดก ระบบ Bluetooth ระยะไกล พร้อมระบบ CCTV โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่จอดรถในที่ร่มใต้อาคาร ที่ชั้น1
ทางเดินรถภายในโครงการเป็นแบบสวนกัน เป็นที่จอดรถส่วนใหญ่เป็นที่จอดใต้อาคาร และมีส่วนหนึ่งที่เป็นที่จอดรถภายนอกอาคารค่ะ
ทางเข้าไปยัง Lobby Lift อยู่ใต้อาคาร ใกล้ๆ ป้อมยาม ขับรถเข้าโครงการมาแล้วมองเห็นเลยค่ะ
โถงลิฟต์ที่นี่มีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้บริเวณโถงอาคารได้แสงธรรมชาติ ดูโปร่ง และยังสามารถเปิดระบายอากาศได้ดีอีกด้วย อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 102 : 1 พอดีๆ ไม่หนาแน่นจนเกินไป
ชั้น 2 ประกอบไปด้วยห้องพักอาศัยและ พื้นที่ส่วนกลางอย่าง พื้นที่ IVORY Lounge (Lobby) อยู่บริเวณเดียวกับพื้นที่ Idea & Work Cafe และพื้นที่ส่วนกลาง Outdoor อย่างสระว่ายน้ำ Active Pool ,Cozy Terrace และสวน City Escape Garden
การจัดวางผังอาคารเป็นรูปตัว U เกิดพื้นที่ Courtyard ตรงกลาง ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบไว้ให้เป็นสระว่ายน้ำและสวน ซึ่งมีข้อดีตรงที่จะได้ความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้งาน นอกจากนั้นห้องพักที่อยู่ด้านในก็ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น และยังได้วิวสระว่ายน้ำด้วยเช่นกัน โดยโถงลิฟต์อยู่บริเวณกลางอาคารทำให้สามารถเดินไปยังส่วนต่างๆ ได้ไม่ไกล ส่วนห้องพักในชั้นนี้จะมีอยู่ 2 โซน คือโซนที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ซึ่งมีอยู่ 4 ยูนิต และโซนที่อยู่ด้านในมีอยู่ 19 ยูนิต โดยมีการแยกส่วนห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางด้วยประตู ตั้งแต่บริเวณ Corridor ช่วยให้ส่วนพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัว สำหรับใครที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง ห้องพักอาศัยชั้นนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 Mail Box จะอยู่บริเวณโถงลิฟต์เลยค่ะ
บรรยากาศบริเวณ Corridor ทางเชื่อมต่อไปยังโซนพักอาศัยด้านใน จะเห็นได้ว่าทางโครงการออกแบบมาให้ด้านหนึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ Court ตรงกลาง และมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้โถงทางเดินดูโปร่ง สว่าง และได้วิวสวนอีกด้วย ทำให้บรรยากาศภายในดูร่มรื่นสดชื่นดีค่ะ
จากโถงลิฟต์ ออกมาเลี้ยวขวาจะเจอกับประตูทางเข้า-ออก ไปยังพื้นที่ส่วนกลางต่างๆค่ะ โดยสุดทางเดินจะเป็นห้องนิติบุคคลนะคะ
พื้นที่ Idea & Work Cafe อยู่บริเวณเดียวกับ IVORY Lounge (Lobby) เลยค่ะ เป็นพื้นที่ที่เราสามารถมานั่งทำงานได้ พร้อมมีมุม Pantry เล็กๆ ให้ชงเครื่องดื่มได้นะ
บรรยากาศ พื้นที่ Co-working space ที่ชั้น 2
ภายในพื้นที่ Idea & Work Cafe ทางโครงการได้จัดเป็น Sofa Bench ยาวๆ พร้อมโต๊ะทำงาน ตกแต่งได้บรรยากาศแบบคาเฟ่เลยค่ะ
บรรยากาศ บริเวณ IVORY Lounge ที่ชั้น 2
IVORY Lounge เป็นพื้นที่ Lobby อยู่บริเวณเดียวกันเลย แต่ตรงนี้จะพิเศษตรงที่เป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูงทำให้ดูโอ่อ่ามากยิ่งขึ้นค่ะ โดย Lobby ตรงนี้สามารถเดินเข้ามาจากด้านหน้าโครงการได้เลยนะ กรณีที่มีแขกก็สามารถให้มานั่งรอที่นี่ก่อนได้เลย
สำหรับชั้น 2 จะมีห้องน้ำบริการอยู่ เข้าถึงได้จากโถงทางเดินเลย เป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิงมาให้เรียบร้อยค่ะ
เมื่อเปิดประตูออกมายังพื้นที่ส่วนกลาง Outdoor เราจะเจอกับพื้นที่ City Escape Garden สวนใจกลางโครงการ อยู่บริเวณเดียวกับสระว่ายน้ำที่ทำให้บรรยากาศโครงการดูร่มรื่น สบายตา โดยตัวสระว่ายน้ำจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 1 ระดับนะคะ
บริเวณสวน มีพื้นที่ล้างตัวรองรับอยู่ 1 จุดค่ะ ใกล้ๆกับสระว่ายน้ำเลย
บรรยากาศ บริเวณ City Escape Garden ภายใน Court กลางโครงการ
City Escape Garden เป็นพื้นที่สวน ล้อมรอบด้วยอาคารรูปตัว U เป็นการสร้างวิวสวนภายในให้กับห้องพักอาศัย ของโครงการค่ะ
City Escape Garden เชื่อมต่อกับพื้นที่สระว่ายน้ำ โดยตัวสระว่ายน้ำออกแบบมาให้มีส่วนหนึ่งเป็นน้ำล้น สร้างบรรยากาศได้ดี เหมือนมีน้ำตกเล็กๆ กลางสวน ดูสดชื่นทีเดียวค่ะ
บรรยากาศ บริเวณ Active Pool ที่ชั้น 2
Active Pool สระว่ายน้ำพร้อมโซน Jacuzzi Massage Pool และ Sunken Sun Bed เก้าอี้พักผ่อนริมสระ ตรงนี้ลมพัดผ่านได้ดีเลย
บรรยากาศ บริเวณ Cozy Terrace
Cozy Terrace ทางโครงการได้จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นในที่ร่มริมสระ ตรงนี้ได้ลมดีทีเดียวสามารถมานั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือชิลๆได้นะ
Cozy Terrace สามารถเข้าถึงจากทางเข้าคนเดินด้านหน้าโครงการได้นะคะ แต่จะต้องใช้ คีย์การ์ดในการเปิดประตูเข้ามายังส่วนนี้ เพื่อรักษาความปลอดภัยนะคะ
ชั้น 3 ประกอบไปด้วยพื้นที่ส่วนกลางอย่าง ห้องออกกำลังกาย Active Gym และส่วนพักอาศัยจำนวน 25 ยูนิต แบ่งเป็นโซนด้านหน้า และโซนด้านในเช่นกันค่ะ เป็นอีกชั้นหนึ่งที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องออกกำลังกายนะคะ
ห้องออกกำลังกาย Active Gym จะอยู่ขวามือจากโถงลิฟต์นะคะ
มุมมองจากโถงทางเดินชั้น 3 มองออกไปยัง Court ตรงกลาง ได้วิวดี เห็นพื้นที่สีเขียวเต็มๆ เลยค่ะ
บรรยากาศ ภายใน Active Gym ที่ชั้น 3
Active Gym เป็นห้องออกกำลังกาย ขนาดค่อนข้างกว้าง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง เป็นห้องฝ้าเพดานสูง และมีกระจก Full Height ทำให้บรรยากาศภายในโปร่งเหมาะกับการออกกำลังกาย สามารถมองลงไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้เลยค่ะ
เครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio)
ภายในมีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) และเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) ครบครัน และที่สำคัญคือห้องออกกำลังกายที่นี่เปิดตลอด 24 ชม. เหมือนฟิตเนสข้างนอก รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานของคนยุคใหม่ที่มีความยืดหยุ่น มากยิ่งขึ้นนะ
ที่ชั้นนี้มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง รองรับอยู่ 1 จุดบริเวณโถงทางเดิน ใกล้ๆห้องออกกำลังกายเลยค่ะ
ชั้น 4-7 เป็นชั้นพักอาศัย Typical Floor plan มีห้องพักอาศัยต่อชั้น 32 ยูนิต แบ่งเป็น 2 โซน คือโซนอาคารด้านหน้าโครงการ(ในวงเส้นประสีน้ำเงิน) และโซนด้านในโครงการ(ในวงเส้นประสีแดง) ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และจัดวางโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง สามารถเดินไปยูนิตต่างๆโดยไม่ไกลจนเกินไป การจัดผังโถงทางเดินรูปแบบ Double Corridor คือมีห้องอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ก็ออกแบบให้ประตูห้องส่วนใหญ่ไม่อยู่ตรงกับห้องฝั่งตรงข้าม จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้บ้าง โดยโถงทางเดินที่นี่จะเน้นได้ช่องแสงเยอะ ทำให้บรรยากาศดูโปร่ง สว่าง ไม่อึดอัด นอกจากนั้นยังเปิดระบายอากาศลดความอับชื้นได้ดีด้วย โดยห้องแต่ละ Type ก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไปดังนี้
1 Bedroom (สีครีม) จะเป็นห้องที่จำนวนยูนิตเยอะที่สุด อยู่ในตำแหน่งเทควิวนอกอาคารทั้งหมด โดยห้องที่น่าสนใจคือห้องที่อยู่ปลายสุด Coridorได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านหน้าห้อง และยังเป็นห้องมุมติดกับเพื้นบ้านฝั่งเดียวทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับระยะเดินจากโถงลิฟต์ที่เยอะกว่าห้องอื่นหน่อยนะคะ
1 Bedroom Exclusive (สีชมพู) เป็นแบบที่ได้ครัวปิดกั้นแยกเป็นสัดส่วน จำนวนยูนิตไม่เยอะ อยู่ในตำแหน่งห้องมุม และห้องที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียวได้ความเป็นตัวสูง มีให้เลือกทั้งแบบที่คล้ายกับแบบ 1 Bedroom แต่จะได้ครัวปิด และแบบเป็นหน้ากว้าง ได้ห้องนั่งเล่นติดระเบียง รับแสงธรรมชาติได้เยอะ ระบายอากาศดี
1 Bedroom Extra (สีแดง) เป็นห้องที่อยู่ในตำแหน่งมุมอาคาร ได้ช่องเปิด 2 ด้าน ซึ่งนอกจากจะได้แสงธรรมชาติเยอะแล้ว ลมสามารถพัดผ่านเข้าห้องได้ดี และนอกจากนั้นห้องนี้ยังติดเพื่อนบ้านเพียงฝั่งเดียว เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ เป็น type ที่ได้ครัวเปิด แต่พื้นที่ living area จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าสองแบบแรก
1 Bedroom Plus (สีเทา) ส่วนใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งที่เทควิวสวนภายในโครงการ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี และในชั้นล่างๆ ยังได้วิวเป็นพื้นที่สีเขียวจากในห้องพักอาศัยเลยด้วย แต่จะมี 2 ยูนิตที่หันเทควิวด้านนอกโครงการ อยู่บริเวณติดกับโถงลิฟต์ ให้เป็นตัวเลือกด้วยนะคะ
ชั้น 8 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน แต่จะแตกต่างกับชั้น Typical Floor plan ตรงที่ห้องพักโซนด้านหน้าโครงการ (ในวงเส้นประชมพู) จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.17-34.47 ตร.ม. แบบที่เป็นห้องหน้ากว้างทั้งหมดมาแทนค่ะ ซึ่งจุดเด่นของห้อง Type นี้คือได้ห้องพัก หน้ากว้าง ได้ช่องเปิดเยอะ เทควิวได้กว้าง ได้ห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดระเบียงด้วยนะคะ
ชั้น Rooftop นอกจากสวนที่ส่วนกลางชั้น 2 แล้วยังมีพื้นที่สีเขียว Stargazing Yard ที่ชั้นดาดฟ้า สามารถเข้าถึงโดยใช้บันไดหนีไฟที่ชั้น 8 นะ
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 8 แล้วประตูทางขึ้น-ลง สวน Stargazing Yard ชั้นดาดฟ้าจะอยู่บริเวณโถงลิฟต์เลย ออกจากลิฟต์มาแล้วเจอเลยค่ะ
เปิดประตูเข้ามา แล้วเดินขึ้นบันไดต่อไปอีก 1 ชั้นก็ถึงแล้วค่ะ
นอกจากสวนที่ส่วนกลางชั้น 2 แล้วยังมีพื้นที่สีเขียวที่ชั้นดาดฟ้าด้วย เป็นสวนและทางเดิน เผื่อใครอยากมาเดินเล่น สูดอากาศในช่วงเช้าหรือเย็นช่วงที่แดดไม่ร้อน จะได้บรรยากาศดีเลยค่ะ
บรรยากาศ บริเวณ Stargazing Yard ชั้นดาดฟ้า
ทางโครงการได้จัดวางม้านั่งไว้ตามจุดต่างๆ ตอนเย็นแดดร่มๆมานั่งชิลได้ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมที่ชั้น 1, 2 และ ดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.95 x 16.25 เมตร ลึก N/A เมตร
- ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง เปิดให้ใช้งาน 24 ชม.
- Cozy Terrace
- IVORY Lounge (lobby)
- Idea & Work Cafe
- Stargazing Yard
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 102 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 73 คันคิดเป็น 35.78% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- Shuttle Service รับ-ส่ง MRT สถานีลาดพร้าว (อยู่ระหว่างการจัดสรรของนิติ โปรดสอบถามจากทางโครงการอีกครั้ง)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Access Card
- ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
แบบห้อง
Ivory รัชดา-ลาดพร้าว เป็นคอนโดที่มีห้องพักอาศัยไม่เยอะมาก จำนวนทั้งหมด 204 ยูนิต มีห้อง 4 แบบ เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 24.16-40.99 ตร.ม. ดังนี้
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.16-24.59 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 28.09 – 28.59 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 28.97 – 30.44 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 33.05 – 40.99 ตร.ม.
โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2.49 ล้านบาท สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus จะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านต้น ดังนั้นถ้ามีงบประมาณไม่เกิน 3.5 ล้าน ก็จะสามารถซื้อได้ทุก Type ของที่นี่แล้วค่ะ นอกจากนั้นโครงการนี้มีรูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆในห้องมาครบครัน สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก ชุดเครื่องนอน หมอนฟูก ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า นอกนั้นก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย นอกจากนั้นทางโครงการ มีขายแบบได้เครื่องใช้ไฟฟ้าตกแต่งพร้อมอยู่ด้วยนะคะ (*สอบถามจากทางโครงการอีกครั้ง)
สรุปวัสดุต่างๆที่ได้มาภายในห้อง
- Fully Furnished
- พื้นห้องสมาร์ทไวนิล
- ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
- ฝ้าเพดาน สูง 2.4 ฉาบเรียบทาสีขาว
- ไฟดาวน์ไลท์
- ครัว Top หินเทียม
- เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน และอ่างล้างจานของ MEX
- Backsplash (ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัว) ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
- พื้นห้องน้ำ กรุด้วยกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม. /ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิก 30×60 ซม.
- สุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก
- พื้นระเบียง กรุด้วยกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
- แอร์ Wall Type ยูนิตละ 2 เครื่อง ของ Daikin หรือเทียบเท่า
- ระบบ smoke detector ป้องกันอัคคีภัย
- ประตูทางเข้าบานสำเร็จรูปปิดผิวเมลามีน ขนาด 0.90 x2.10 ม.
- Digital door lock จาก Home Hug
- ระบบ Bluetooth sound system ติดตั้งลำโพง 2 จุด
ห้องตัวอย่างวันนี้เราจะพาไปชมจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.59 ตารางเมตร และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 33.05 ตารางเมตร กันค่ะ บรรยากาศภายในห้องของตึกเสร็จจริงๆ จะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย
1 Bedroom ขนาด 24.59 ตารางเมตร
เริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.59 ตารางเมตร กันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องขนาดกะทัดรัดที่เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน มีจำนวนเยอะสุดในโครงการ ส่วนราคาจะเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท โดยเราสรุปฟังก์ชันที่น่าสนใจของห้องนี้ไว้ ดังนี้
- Common Area เชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้ภายในห้องดูโปร่งกว้าง แสงธรรมชาติส่องเข้ามาทั่วถึงทั้งห้องได้ ทำให้ภายในห้องสว่าง โดยห้องนี้จะได้ครัวแบบเปิดด้านหน้าห้อง ซึ่งตรงนี้เราสามารถติดตั้งกระจกบานเลื่อนเพิ่มเติมให้เป็นสัดส่วนได้ และด้วยข้อจำกัดของขนาดพื้นที่ จึงไม่มีฟังก์ชันสำหรับวางโต๊ะกินข้าว ต้องมานั่งกินตรงโต๊ะหน้าโซฟาแทน หรือหาโต๊ะแบบที่พับเก็บได้มาใช้งานแทนค่ะ
- ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน มีห้องนอนแยกส่วนกับห้องนั่งเล่นทำให้เราสามารถใช้พื้นที่พร้อมกันได้ 2 ฟังก์ชันโดยไม่รบกวนกันได้
- Bay Window บริเวณห้องนอน เป็นพื้นที่ติดกับหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ พร้อมติดตั้งปลั๊กและไฟดาวน์ไลท์สามารถใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ
- Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in ดังนี้ค่ะ
- ตู้เสื้อผ้า
- ฐานเตียงที่มีดีไซน์ลิ้นชักตรงฐาน
- ชั้นวางทีวี
- โซฟา (ปรับเป็น daybed ได้)
- โต๊ะกลางหน้าโซฟา
- ชุดครัว (เคาน์เตอร์ เตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน อ่างล้างจาน)
มาเริ่มกันที่ประตูทางเข้าห้องกันก่อนเลยค่ะ เป็น Digital Door Lock สามารถใช้ได้ทั้งหมด 5 ระบบได้แก่ การ์ด, รหัส, กุญแจ, สแกนนิ้ว และปลดล็อกผ่าน Application Tuya Smart
เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับส่วนพื้นที่ครัวก่อนเลยค่ะ สำหรับพื้นห้องได้เป็นสมาร์ทไวนิล ที่มีคุณสมบัติทนน้ำ ทนสารเคมีมากกว่าพื้นลามิเนตค่ะ ส่วนผนังก็จะเป็นฉาบเรียบสีขาว ระยะฝ้าจะอยู่ที่ 2.4 เมตร พร้อมติดตั้งไฟดาวน์ไลท์และ Smoke detector ป้องกันอัคคีภัย
ส่วนครัวจะมีขนาดกะทัดรัดอยู่ตรงทางเข้าห้องเลย โดยที่ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นตำแหน่งห้องน้ำค่ะ โดยทางเดินจะกว้างประมาณ 1 เมตร เดินได้สบายๆ ค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะมี Built-in ตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่างแบบในรูปเลย พร้อมติดตั้ง Backsplash เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ สามารถทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว
เคาน์เตอร์ครัวกว้างประมาณ 1.1 เมตร ติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน และอ่างล้างจานของ MEX มาให้ ตรงนี้ติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ด้วยนะ ส่วน Top เคาน์เตอร์ก็จะได้เป็นหินเทียม ค่อนข้างทน และทำความสะอาดง่าย เหมาะกับการใช้งานเลยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง ห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.59 ตารางเมตร
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่เก็บของเป็นแบบบานเปิด ลิ้นชัก และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ไปได้เยอะ พื้นที่ใต้อ่างล้างจานเหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารค่ะ
ชั้นวางของด้านบน ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.59 ตารางเมตร
ชั้นวางของด้านบน มีที่เก็บของหลากหลายขนาด ได้ช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัวชิ้นใหญ่ๆ ได้ด้วยนะ เป็นทั้งแบบหน้าบานทึบ และแบบไม่มีหน้าบานเพื่อให้ง่ายต่อการหยิบใช้งานด้วยนะคะ
ตำแหน่งของห้องน้ำ จะอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเลย โดยพื้นห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม. ส่วนนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหิน ขนาด 30×60 ซม. มีการแบ่งโซนเปียก-โซนแห้งเป็นสัดส่วนพร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก
อุปกรณ์และสุขภัณฑ์จาก Cotto
อ่างล้างหน้าที่ได้เป็นอ่างขนาดค่อนข้างใหญ่เลย มีพื้นที่เก็บของด้านล่างมาให้ด้วย พร้อมโถสุขภัณฑ์และสายชำระจาก Cotto
ห้องอาบน้ำจะอยู่ที่มุมพอดี ตัวฉากกั้นกระจกที่ติดตั้งมาให้จึงเป็นแบบเข้ามุมค่ะ เพื่อที่จะใช้งานได้สะดวก
พื้นที่อาบน้ำ ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.59 ตารางเมตร
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.00 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้สบาย ได้ที่อาบน้ำแบบ Hand shower จาก Cotto เช่นกัน พร้อมช่องวางของด้านในผนัง และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ
ถัดเข้ามาเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น อยู่ตำแหน่งกลางของห้อง ยาวเต็มความกว้างของห้องเลย มีขนาด 3.70×1.6 เมตร เดินไป-มาได้สะดวกเลย
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับส่วนห้องนอนกั้นด้วยหน้าต่างบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ภายในห้องดูโปร่งกว้าง แสงธรรมชาติส่องเข้ามาทั่วถึงทั้งห้องได้
นอกจากเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานอื่นๆแล้ว ยังมีตัว Bluetooth sound system พร้อมลำโพงที่ฝ้าเพดาน โดยหน้าจอควบคุมจะติดตั้งอยู่ที่ผนังด้านข้างโซฟา บริเวณเดียวกับสวิตช์ไฟ สามารถใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ
Bluetooth sound system พร้อมลำโพงที่ฝ้าเพดาน ภายในห้องพักอาศัยเป็นมาตรฐานทุกยูนิต
ลำโพงจะติดตั้งไว้ในห้อง 2 จุด ที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น เราสามารถเปิด Bluetooth เปิดเพลงฟังสร้างบรรยากาศในการอยู่อาศัยของเราได้เลยค่ะ
ตัวห้องนี้จะได้โซฟามาด้วย ขนาดโซฟาจะพอดีกับพื้นที่เลยค่ะ และด้วยข้อจำกัดของขนาดพื้นที่ ห้องนี้จึงไม่มีฟังก์ชันสำหรับวางโต๊ะกินข้าวมานะคะ ถ้าจะกินข้าว ก็ต้องมานั่งกินตรงโต๊ะหน้าโซฟาแทน หรืออาจจะหาโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้ มาใช้งานเวลาทานอาหารก็ได้นะ
โซฟาที่ได้จะเป็นโซฟา 2 ที่นั่งแบบที่เห็นในรูปนี้นะคะ ความพิเศษของโซฟานี้คือสามารถปรับเป็น Sofa bed กางออกมานอนดูทีวีได้ด้วย
ตรงข้ามกับพื้นที่โซฟา จะเป็นชั้นวางทีวี ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3.70 เมตรสามารถวางทีวีขนาด 60 นิ้วได้เลยค่ะ
ชั้นวาง TV เป็นแบบลอยตัว ภายในห้อง 1 Bedroom 24.59 ตารางเมตร
ชั้นวาง TV เป็นแบบลอยตัว ติดกับผนัง หน้าบานแบบปิด สามารถเก็บของได้ดูเรียบร้อยดีค่ะ มาพร้อมกับชั้นวางของด้านบนแบบนี้เลย
ห้องนอน กั้นจากโซนนั่งเล่นด้วยบานเลื่อนกระจก 3 ตอน
ห้องนอนกั้นจากโซนนั่งเล่นด้วยบานเลื่อนกระจก ให้มาค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ประมาณ 3 เมตร ซึ่งการที่ใช้เป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนก็มีข้อดีตรงที่สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้กว้างค่ะ
พื้นที่ห้องนอน ชั้นวาง TV เป็นแบบลอยตัว ภายในห้อง 1 Bedroom 24.59 ตารางเมตร
พื้นที่ห้องนอน เชื่อมต่อกับระเบียง โดยปลายเตียงจะมีขนาดกว้างหน่อยประมาณ 90 ซม. ถือว่าเดินสะดวก ภายในห้องนอนจะให้เตียงมาด้วย เป็นเตียง 5 ฟุต ให้มาเฉพาะฐานเตียงนะคะ
เตียงที่ได้ ตรงฐานเตียงมีการดีไซน์ ลิ้นชักไว้เป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมด้วยนะคะ
สำหรับในห้องนอนนี้ถือว่าได้ช่องแสงค่อนข้างเยอะ พื้นที่ปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าให้มาแบบนี้ หน้าบานเป็นกระจก 2 ฝั่ง โดยมีการออกแบบให้รองรับการแขวนทีวีตรงกลางไว้ด้วย
ตู้เสื้อผ้า บริเวณปลายเตียงภายในห้องนอน
ตู้เสื้อผ้าออกแบบให้มีฟังก์ชันดูทีวีในห้องนอนได้เพิ่มตรงกลาง และแบ่งตู้เสื้อผ้าออกเป็น 2 ฝั่งแยกกัน การใช้งานก็อาจจะลำบากนิดหน่อยสำหรับคนที่อยู่คนเดียวนะคะ แต่ถ้าอยู่ด้วยกัน 2 คนก็สะดวกสำหรับการใช้งาน แยกพื้นที่ตู้เสื้อผ้าชัดเจนกันดีค่ะ
ภายในห้องนอน จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เป็นพื้นที่ Bay Window เป็นพื้นที่มุมเล็กๆให้เราสามารถจัดเป็นมุมทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆเพิ่มเติมได้ค่ะ
วางเตียงชิดกับ บานเลื่อนกระจกกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นแล้ว จะพื้นที่ด้านข้างเตียงกว้างประมาณ 50 ซม. พอให้สามารถเดินไป-มาได้พอดีๆ โดยพื้นที่ Bay Window ตรงนี้จะได้เป็นกระจกสูงเต็มบาน พร้อมกับช่องเปิดบานเลื่อนเปิด ทำให้ห้องดูโปร่งสว่าง ได้แสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ดี
พื้นที่ Bay Window ตรงนี้มีขนาดหน้ากว้าง 1.30 เมตร ลึก 0.85 เมตร พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟไว้บริเวณหัวนอน 1 จุด ด้านบนมีไฟดาวน์ไลท์ พร้อมสวิตช์ปิด-เปิด ที่ผนังด้านข้าง ใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ
ระเบียงขนาด 2.4×0.75 เมตร ปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม. ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมมีงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ด้วยเรียบร้อย พร้อมติดตั้งราวกันตกเหล็กโปร่งๆ สีดำแบบนี้เลยค่ะ
ด้านบนติดตั้งดวงไฟที่ผนังไว้ให้ 1 จุด และแขวน Condensing units ติดตั้งแบบหันออกเป่าลมร้อนออกสู่นอกอาคาร พร้อมระแนงบังสายตา ช่วยให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอกด้วยค่ะ
1 Bedroom Plus ขนาด 33.05 ตารางเมตร
1 Bedroom Plus ขนาด 33.05 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีจำนวนเยอะรองลงมาจากห้อง 1 Bedroom ที่พาไปชมเมื่อสักครู่ค่ะ อยู่อาศัยได้ 2-3 คน โดยห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3 ล้านต้นๆ ส่วนจุดที่น่าสนใจมีดังนี้
- ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน แยกกับ Common area ค่ะ ข้อดีคือเราสามารถใช้พื้นที่พร้อมกันได้ 2 ฟังก์ชันโดยไม่รบกวนกัน
- ได้ห้องอเนกประสงค์ เชื่อมต่อได้จากห้องนอน และห้องนั่งเล่น มีความยืดหยุ่นสูง จะปรับเป็นห้องทำงานหรือ Walk in Closet ก็เชื่อมต่อกับห้องนอนได้เลย หรือจะจัดเป็นห้องนอนอีกห้องก็ทำได้ค่ะ โดยห้องนี้มีขนาด 2.2×1.7 เมตร อยู่ติดระเบียง กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้ได้แสงธรรมชาติเยอะ และระบายอากาศได้ดี อีกด้วย
- ห้องครัวปิด กั้นแยกกับส่วน Common Area ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้โดยกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย
- ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว แยกเป็นส่วน Service อยู่ด้วยกันเลย เข้าใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องผ่านห้องนอน
- Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in เหมือนกันห้องก่อนหน้าเลยแต่จะได้ โต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวเพิ่มมาค่ะ ดังนี้
- ตู้เสื้อผ้า
- ฐานเตียงที่มีดีไซน์ลิ้นชักตรงฐาน
- ชั้นวางทีวี
- โซฟา (ปรับเป็น daybed ได้)
- โต๊ะทางอาหาร
- เก้าอี้ 2 ตัว
- ชุดครัว (เคาน์เตอร์ เตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน อ่างล้างจาน)
ห้องนี้จะได้ประตูทางเข้าติดตั้ง Digital Door Lock เหมือนห้องก่อนหน้าเลยค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอเป็น Common area ที่รวมเอาฟังก์ชันห้องนั่งเล่นและพื้นที่กินข้าวไว้ด้วยกันค่ะ
พื้นที่ภายในห้อง Common area ตรงนี้มีขนาด 3.0×3.0 เมตร อยู่ตำแหน่งกลางห้องเลย สำหรับพื้นห้องได้เป็นสมาร์ทไวนิล ส่วนผนังก็จะเป็นฉาบเรียบสีขาว ระยะฝ้าจะอยู่ที่ 2.4 เมตร พร้อมติดตั้งไฟดาวน์ไลท์และ Smoke detector ป้องกันอัคคีภัยเช่นกันค่ะ
ผนังด้านข้างโซฟา ติดตั้ง Bluetooth sound system พร้อมลำโพงที่ฝ้าเพดาน โดยหน้าจอควบคุมจะติดตั้งอยู่ที่ผนังด้านข้างโซฟา บริเวณเดียวกับสวิตช์ไฟ สามารถใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ
ลำโพงจะติดตั้งบนฝ้าภายในห้อง 2 จุด คือ ที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น เราสามารถเปิด Bluetooth เปิดเพลงฟังสร้างบรรยากาศในการอยู่อาศัยของเราได้เลยค่ะ
โซฟาที่ได้เป็นหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ สามารถปรับเป็น Sofa bed กางออกมานอนดูทีวีได้ด้วยนะ
ชั้นวาง TV เป็นแบบลอยตัว ภายในห้อง1 Bedroom Plus 33.05 ตารางเมตร
ชั้นวาง TV เป็นแบบลอยตัว ติดกับผนัง หน้าบานแบบปิด สามารถเก็บของได้ดูเรียบร้อย มาพร้อมกับชั้นวางของด้านบนแบบนี้เดียวกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ
พื้นที่สำหรับวางโต๊ะกินข้าว ภายในห้อง1 Bedroom Plus 33.05 ตารางเมตร
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นผนังยาว 3.0 เมตร เหมาะสำหรับวางโซฟาและโต๊ะกินข้าว โดยเมื่อวางโซฟาชิดผนังด้านหนึ่งแล้วจะเหลือพื้นที่ด้านข้างโซฟากว้างประมาณ 1.5 เมตร สามารถวางโต๊ะกินข้าว เข้ามุมขยับเลื่อนเก้าอี้ ออกมาใช้งานได้สะดวกสบายค่ะ
ระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.00 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วได้เลยค่ะ โดยพื้นที่ Common area จะเป็นพื้นที่ใจกลางห้องเชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันต่างๆ โดยจะมีฟังก์ชันส่วน services อยู่ด้านข้าง คือห้องครัวและห้องน้ำค่ะ
มาเริ่มกันที่ฟังก์ชันแรก คือส่วนห้องครัวค่ะ โดยครัวนี้จะแยกจากพื้นที่นั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กว้าง 0.95 เมตร ตัวรางจะอยู่ด้านบนนะ ทำให้เวลาเดินพื้นจะเรียบระดับเดียวกันหมด ไม่สะดุดค่ะ
ครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบปิด สามารถทำอาหารได้โดยกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย ส่วนห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว จัดเป็นโซน Service ได้เป็นสัดส่วนดีค่ะ
บรรยากาศภายในห้องครัว ของห้อง1 Bedroom Plus 33.05 ตารางเมตร
ครัวนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ ตัวห้องจะมีขนาด 2.1×2.0 เมตรเลย ได้ชุดครัว Built-in เป็นรูปตัว L ติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน และอ่างล้างจานของ MEX มาให้ ตรงนี้ติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ด้วยนะ
พื้นหน้าเคาน์เตอร์ค่อนข้างกว้าง มีขนาด 1.50 x1.40 เมตร สามารถยืนช่วยกันทำอาหารได้ 2 คนสบายๆค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง ภายในห้องครัว
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่เก็บของเป็นแบบบานเปิด ลิ้นชัก และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ และมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้ในห้อง ซึ่งดีกว่าการวางตากแดดตากฝนไว้ที่ระเบียงนะคะ ซึ่งช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าตรงนี้จะกว้างประมาณ 0.60 เมตร สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาด 8 กิโลกรัม ได้พอดี สำหรับพื้นที่เคาน์เตอร์ครัวในห้อง Type นี้ค่อนข้างกว้างเลย มีพื้นที่สำหรับวางของเตรียมอาหารได้เยอะ ส่วนTop ครัวได้เป็นหินเทียม ค่อนข้างทน และทำความสะอาดง่าย เหมาะกับการใช้งานเลยค่ะ
ชั้นวางของด้านบน built-in เป็นรูปตัว L เข้ามุมเช่นกัน เก็บของได้เยอะ มีที่เก็บของหลากหลายขนาด เป็นทั้งแบบหน้าบานทึบ และแบบไม่มีหน้าบานเพื่อให้ง่ายต่อการหยิบใช้งานด้วยนะคะ
ห้องน้ำอยู่ขวามือ เมื่อเข้ามาภายในห้องครัวนะ ตรงนี้มีการขอบธรณีประตูห้องน้ำกั้นพื้นไว้เล็กน้อย เพื่อกันไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ
โดยพื้นห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม. ส่วนนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหิน ขนาด 30×60 ซม. มีการแบ่งโซนเปียก-โซนแห้งเป็นสัดส่วนพร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกเข้ามุม
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์จาก Cotto
อ่างล้างหน้าที่ได้จะมีพื้นที่เก็บของด้านล่างมาให้ด้วย พร้อมโถสุขภัณฑ์และสายชำระจาก Cotto ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำ ภายในห้อง1 Bedroom Plus 33.05 ตารางเมตร
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดพอดีๆ 0.865×0.865 เมตร พร้อมติดตั้งที่อาบน้ำแบบ Hand shower จาก Cotto และมีการเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ ภายในห้องจะไม่พื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ อาจจะต้องหามาติดเพิ่มเองนะคะ
ระยะฝ้าเพดานในห้องน้ำฉาบเรียบสีขาว พร้อมติดตั้งพัดลมดูดอากาศบริเวณเหนือโถสุขภัณฑ์มาให้เรียบร้อย
ถัดมา ประตูอยู่ข้างๆ ประตูห้องครัวเลยคือส่วน ห้องนอนค่ะ สำหรับห้องมาตรฐานมีการติดตั้งประตูบานทึบกั้นแยกจากส่วน Common area ไว้ให้เป็นมาตรฐาน ได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
ภายในห้องนอนมีขนาด 2.55 x 3.20 เมตร ได้หน้าต่างบานใหญ่ สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ช่วยทำให้ห้องดูปลอดโปร่งมากขึ้น พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ 1 จุดค่ะ ภายในห้องนอนจะให้ฐานเตียงมาด้วย เป็นเตียง 5 ฟุต มีลิ้นชักเก็บของ ที่ปลายเตียงมาให้ด้วยค่ะ
เมื่อวางเตียงตรงกลางห้องแล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบประมาณ 50 ซม. สามารถเดินได้โดยรอบพอดีๆ และสามารถหาโต๊ะหัวเตียงมาวางไว้ได้ทั้ง 2 ข้างเลยนะ โดยที่หัวเตียงมีการติดตั้งปลั๊กมาให้ครบ สามารถวางโคมไฟ หรือชาร์จโทรศัพท์ได้สะดวกดีค่ะ
ตู้เสื้อผ้า อยู่บริเวณปลายเตียง ภายในห้องนอน
พื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ส่วนด้านข้างสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้ง หรือ Built-in เป็นโต๊ะลอยเล็กๆเหมือนในห้องตัวอย่างนี้ก็ได้นะ แต่อาจจะเหลือระยะทางเดินไม่กว้างมาก
ตู้เสื้อผ้า ภายในห้อง1 Bedroom Plus 33.05 ตารางเมตร
ส่วนตู้เสื้อผ้าจะเป็นหน้าบานกระจก แบบบานเลื่อนสลับ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิดได้ ภายในตู้จะมีช่องเก็บกระเป๋า หรือลิ้นชักสำหรับชุดชั้นในได้เป็นสัดส่วนค่ะ
จากห้องนอนสามารถเชื่อมต่อกับห้อง อเนกประสงค์ทางซ้ายมือนี้ได้เลยนะคะ
ห้องอเนกประสงค์เชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แต่ถ้าอยากให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวขึ้น เราก็แนะนำให้ติดผ้าม่านบังสายตา หรือสติกเกอร์ฝ้าขุ่นที่บานเลื่อนกระจกเพิ่มเติมค่ะ
ประตูกระจกบานเลื่อนเป็นแบบตัวรางอยู่ด้านบนเช่นกัน ทำให้เวลาเดินพื้นจะเรียบระดับเดียวกันหมด
ห้องอเนกประสงค์ เชื่อมต่อกับห้องนอนได้เลยสะดวกกรณีปรับเป็น Walk in closet เพิ่มเติม ก็สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนได้เลยนะ โดยห้องอเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้ได้แสงสว่างจากระเบียงภายนอก และสามารถเปิดได้กว้าง ระบายอากาศได้ดี
ห้องอเนกประสงค์มีทางเข้า 2 ทาง จากห้องนอนก็ได้ หรือจะเข้าจากห้องนั่งเล่นก็ได้เช่นกัน มีขนาด 2.2×1.7 เมตร จะจัดเป็นห้องนอนอีกห้องก็ทำได้ เพียงพอที่จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ได้ค่ะ
ห้องอเนกประสงค์ เชื่อมต่อจากห้องนั่งเล่น ด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้กว้าง แต่ถ้าอยากให้ห้องนี้เป็นส่วนตัวขึ้น แต่ห้องนั่งเล่นยังคงได้แสงอยู่ก็แนะนำให้ติดเป็น สติกเกอร์ฝ้าขุ่นที่บานเลื่อนกระจกเพิ่มเติมค่ะ
พื้นที่ระเบียง ตู้เสื้อผ้า ภายในห้อง1 Bedroom Plus 33.05 ตารางเมตร
พื้นที่ระเบียงห้องนี้มีขนาด 1.7×1.0 เมตร ปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม. ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมก๊อกน้ำซักล้างให้มาด้วยค่ะ สะดวกสำหรับการใช้งานทำความสะอาดต่างๆนะ พร้อมติดตั้งราวกันตกเหล็กโปร่งๆ สีดำแบบนี้เลยค่ะ
ด้านบนติดตั้งดวงไฟที่ผนังไว้ให้ 1 จุด และแขวน Condensing units ด้านบน พร้อมระแนงบังสายตา ช่วยให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอกด้วยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบแปลน
ผังห้องแบบ 1 Bedroom
ราคา
Ivory รัชดา-ลาดพร้าว ราคา ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2565
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.16-24.59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท (Update 16/08/2022)
- 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 28.09 – 28.59 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 28.97 – 30.44 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 33.05 – 40.99 ตร.ม.
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินเทียม
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- Shuttle Service รับ-ส่ง MRT สถานีลาดพร้าว (โปรดสอบถามจากทางโครงการอีกครั้ง)
- จอง 999 บาท
- ทำสัญญา 12,000 บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
- ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน (เรียกเก็บล่วงหน้า 1 ปี)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการตั้งอยู่ต้นซอยรัชดา 32 ถือว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศในซอยถือว่าคึกคัก เดินทางสะดวก หาของกินได้ง่าย หรือจะขยับเข้าไปในซอยหน่อยก็จะมีซอยรัชดา 36 หรือที่เรียกว่าซอยเสือใหญ่ เป็นทำเลใกล้ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ก็มีความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน หรือจะลัดเลาะไปออกถนนลาดพร้าววังหิน ก็มีแหล่ง Hangout อยู่เยอะ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ส่วนห้างสรรพสินค้าที่ไม่ไกลจากโครงการก็จะมีห้าง Central ลาดพร้าว, Union Mall และ Central Eastville ไม่ไกลจากโครงการค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
อัตราส่วนที่จอดรถให้มา 35.78% ไม่เยอะมาก แต่เป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวสะดวก สามารถขับรถเข้าเมืองไปยัง รัชดา พระราม9 อโศกได้ง่ายไม่ต้องกลับรถ นอกจากนั้นในซอยรัชดา 32 เองก็ใช้ลัดเลาะเชื่อมต่อได้หลากหลายสาย สามารถไปลาดพร้าววังหิน, โชคชัย 4, นาคนิวาส ลัดเลาะไปออกถนนลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้หลายเส้นทาง
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ เนื่องจากซอยรัชดา 32 สามารถลัดเลาะไปยังถนนได้หลากหลาย ทำให้ถนนภายในซอยมีรถสาธารณะผ่านเยอะทั้ง Taxi หรือจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ก็สะดวก หรือถ้าจะใช้รถเมล์ก็สามารถเดินมาขึ้นที่ป้ายรถเมล์บริเวณปากซอยรัชดา 32 ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตรเท่านั้นค่ะ นอกจากนั้นโครงการยังใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย โดยปัจจุบันสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็น MRTลาดพร้าว ซึ่งทางโครงการมี Shuttle Service รับ-ส่งที่ MRT ลาดพร้าวด้วยนะ หรือจะใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์ต่อเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
วัสดุ :
เป็นคอนโดที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ไม่ถึงแสนบาท (ประมาณ 98,000 บาท/ตร.ม.) โดยทางโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ, Digital door lock, Smoke detector และ Bluetooth sound system พร้อมลำโพง 2 จุดภายในห้อง ส่วนวัสดุอื่นๆก็ค่อนข้างดีเลย พื้นที่ได้สมาร์ทไวนิล ครัวได้ เตาไฟฟ้า 2 หัว, Hob & Hood และอ่างล้างจาน 1 หลุม ของ MEX ท็อปเป็นหินเทียม ติดตั้งพร้อม Backsplash กระเบื้องแกรนิตโต้ ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์จาก Cotto พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกเป็นมาตรฐาน
การออกแบบ :
ด้วยความที่เป็นอาคาร Low Rise ในเมือง จึงไม่สามารถคาดหวังเรื่องวิวรอบๆโครงการได้ แต่ทางโครงการได้มีการวางผังอาคาร เป็นรูปตัว U ที่โอบล้อมเกิด Court ตรงกลาง ออกแบบให้เป็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียว ทำให้เกิดมุมมองที่ผ่อนคลายให้กับห้องที่อยู่ด้านในของโครงการ นอกจากนั้นยังมีการดีไซน์ให้โถงทางเดินเน้นได้ช่องแสงขนาดใหญ่ เทควิวสวนใน Court ทำให้บรรยากาศในโครงการดูโปร่ง ไม่อึดอัด
ส่วนการดีไซน์ห้องพักอาศัย เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดกะทัดรัด หลายรูปแบบทั้งแบบ อยากได้ครัวปิดไหม หรืออยากได้ห้องอเนกประสงค์เพื่อปรับเป็นฟังก์ชันอื่นๆ สามารถเลือกได้ตามความชอบและกำลังการซื้อ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.49 ล้านบาทค่ะ
สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางของที่นี่ค่อนข้างครบครันตามมาตรฐาน กระจายตัวอยู่ที่ชั้น 2, 3 และชั้นดาดฟ้า มีทั้ง Lobby + Co-working Space สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายที่เปิดให้ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง รองรับไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่นของคนรุ่นใหม่ และพื้นที่สวนหย่อมหลายจุด ทั้งที่ชั้น 1, 2 และชั้นดาดฟ้า
ราคา :
โครงการนี้ตอนเปิดตัวเริ่มต้นด้วยราคา 1.89 ล้านบาท (เฉลี่ย 90,000 บาท/ตร.ม.) เมื่อเดือนมกราคม ปี 2021 ส่วนในตอนนี้ตัวโปรดักส์มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นหลังจากตึกเสร็จ โดยห้องขนาด 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.16 ตร.ม. มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.49 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการปรับขึ้นเป็น 98,000 บาท/ตร.ม. ค่ะ
สำหรับใครหาคอนโดย่านรัชดาราคาไม่แรงมากจะมีโซนรัชดา 32 กับ โซนลาดพร้าว 15 แต่สำหรับทำเลซอยรัชดา 32 จะเหมาะกับคนคนที่ทำงานโซนรัชดา-ลาดพร้าว ใกล้ศาลอาญา ศาลแพ่ง ศาลอุทธรณ์ เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก เพราะซอยรัชาดา 32 อยู่ฝั่งขาเข้าเมือง และยังลัดเลาะไปทำงานหรือหาอะไรกินแถวโซนลาดพร้าววังหิน เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทราก็สะดวกค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 98,000 บาท/ตร.ม., 8 สิงหาคม 2565
- ทำเล 8/10 – ทำเลมีความคึกคัก อุดมสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวก
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เข้าเมืองได้ง่าย และมีเส้นทางให้เลือกใช้หลากหลาย
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – โครงการอยู่ต้นซอยรัชดา 32 เรียกรถได้ง่าย
- วัสดุ 7.75/10 – ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ และ Bluetooth sound system
- แบบ 7.75/10 – มีห้อง 1 Bedroom-1 Bedroom Plus หลายแบบให้เลือก
- สาธารณูปโภค 8/10 – มีให้ครบตามมาตรฐาน เหมาะสมกับจำนวนยูนิต น่าใช้งาน
- MAIN CLASS
- 7.8625 / 10.00
Ivory รัชดา-ลาดพร้าว เหมาะกับใคร
โครงการ Ivory รัชดา-ลาดพร้าว ถือเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใช้ชีวิตหาของกินได้ง่าย สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกทั้งรถส่วนตัว และรถไฟฟ้า โดยทางโครงการมี Shuttle Service รับ-ส่ง MRT สถานีลาดพร้าว หรือคนทำงานในย่านลาดพร้าววังหิน, โชคชัย 4 หรือนาคนิวาส สามารถเดินทางได้สะดวก ได้ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ มีงบประมาณเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปค่ะ
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc