รีวิวตึกเสร็จ Chapter Chula – Samyan คอนโด High Rise บนถนนสี่พระยา ใกล้ MRT สามย่าน จาก พฤกษา [รีวิวฉบับที่ 2435]

Chapter Chula – Samyan (แชปเตอร์ จุฬา – สามย่าน) ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

พิกัด Google Maps : 13.731426, 100.523263
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการ Chapter Chula – Samyan โดยโครงการจะตั้งอยู่บนทำเลสามย่าน ซึ่งเป็นบริเวณที่ถนนพญาไท ถนนพระราม 4 และถนนสี่พระยา มาตัดกัน ซึ่งที่ดินบนถนนพญาไทบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้คอนโดส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนพระราม 4 และถนนสี่พระยา

โดยคอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่อย่างพระราม 4 จะมีทั้งแบบ Leasehold สัญญาเช่าซื้อระยะยาว และ Freehold ขายขาดได้กรรมสิทธิ์เป็นของผู้ซื้อเลย และด้วยความที่เป็นถนนหลักสำคัญ จึงทำให้คอนโดที่อยู่บนถนนพระราม 4 ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดระดับ High Class – Luxury Class โดยคอนโด Freehold จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 170,000 – 250,000 บาท/ตร.ม.

ส่วนคอนโดที่อยู่บนถนนรองอย่างถนนสี่พระยา ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด Freehold ที่มีราคาจับต้องได้ง่ายขึ้นมาหน่อย จะมีทั้งคอนโด Low Rise และ High Rise ซึ่งจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 110,000 – 180,000 บาท/ตร.ม.

ในขณะที่ Chapter Chula – Samyan เป็นคอนโด high rise บนถนนสี่พระยา ขายแบบ Freehold มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 180,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับคอนโดบนถนนสี่พระยา แต่ก็แลกมาด้วยการที่เป็นคอนโด High Rise ที่มีจำนวนยูนิตน้อยอันดับต้นๆ บนทำเลนี้เลย อีกทั้งยังมีส่วนกลางให้ใช้งานครบครัน ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่น้อย ก็ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ โดยปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.99-9.2 ล้านบาท ขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่เลยด้วยนะ

Chapter Chula – Samyan ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยาบริเวณแยกนเรศ ทำให้ถนนหน้าโครงการยังเป็น Two-Way เดินทางเข้าเมืองไปทางพระราม 4 สีลม สาทร หรือขึ้นทางด่วนได้สะดวก โดยถนนสี่พระยาเชื่อมต่อกับถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่สามารถใช้เดินทางไปยัง ถนนพญาไท, ถนนอังรีดูนังต์, ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ หรือไปยังย่านเพลินจิต-สีลม-สาทรได้สะดวก นอกจากนั้นจากถนนสี่พระยาสามารถใช้ซอยย่อยต่างๆ เพื่อร่นระยะเวลาการเดินทางได้ เช่น จากถนนสี่พระยาบริเวณหน้าโครงการสามารถใช้ถนนนเรศ หรือถนนทรัพย์ลัดไปออกถนนสุรวงศ์และถนนสีลมได้เลย

ทางด่วน ที่ใกล้โครงการจะมีทางพิเศษศรีรัช สามารถใช้ออกเมืองไปทางพระราม 3 หรือไปทางแจ้งวัฒนะ – ดินแดงได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนั้นจะต้องวิ่งออกถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปทางหัวลำโพง จากโครงการมีระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร  ถือว่าไม่ไกลเลย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการสามารถเดินไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี สามย่านได้ในระยะทาง 700 เมตร ระหว่างทางมีทางเท้า และร่มเงาจากอาคารและต้นไม้อยู่เกือบตลอดทั้งเส้น ทำให้เดินง่ายไม่เหนื่อยค่ะ อีกทั้งถนนสี่พระยา บริเวณหน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งอยู่ตลอดเวลา ทั้งรถเมล์ แท็กซี่ หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์ ก็มีผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆ เรียกใช้บริการกันได้ง่ายจากหน้าโครงการเลยค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นทำเลใจกลางเมืองมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อย่างแหล่งอาหารการกินที่ใกล้ๆ บนถนนสี่พระยาก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร รูปแบบอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันมีคาเฟ่ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ยิ่งบนถนนเจริญกรุง จะมีแหล่งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และแกลเลอรีคูลๆ อยู่เยอะเลย สำหรับใครที่ชอบ Hangout กับเพื่อนสไตล์นี้ สามารถเดินมาได้ อยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังเป็นทำเลอยู่ใกล้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาธิตจุฬาฯ สาธิตปทุมวันฯ และเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งมีปริมาณนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่เยอะมาก นอกจากนั้นยังใกล้โรงพยาบาลเอกชน และสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง อุทยาน 100 ปี และสวนลุมพินี

แต่สำหรับใครที่ชอบชอปปิ้ง Hangout รูปแบบห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ๆ โครงการก็จะมีจามจุรีสแควร์ สามย่านมิตรทาวน์ ที่สามารถเดินไปได้ใกล้ๆ หรือถ้าใครชอบเดินห้างใหญ่ๆ ก็จะมี “สยาม” ที่ถือเป็นศูนย์รวมความเจริญมากที่สุด สามารถเดินทางไปด้วยรถยนต์หรือรถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ และถ้าเป็นคนชอบแนว street food ก็จะมี “ตลาดเยาวราช” ที่จะคึกคักมาในเวลากลางคืน หรือถ้าใครทำงานอยู่แถวสีลม-สาทร ก็สะดวกไม่แพ้กันค่ะ เพราะเป็นแหล่งออฟฟิศขนาดใหญ่ และสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนอีกด้วยนะคะ

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจาก MRT สามย่าน ทางออก 1 ซึ่งอยู่บริเวณวัดหัวลำโพง และฝั่งตรงข้ามเป็นจามจุรี สแควร์พอดี จากนั้นให้เราเดินเลี้ยวเข้าถนนสี่พระยา เดินต่อมาตามทางประมาณ 700 เมตร ก็จะถึงกับโครงการค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการตั้งอยู่บนถนนสี่พระยามีสภาพแวดล้อมเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเก่าแก่ดั้งเดิม บรรยากาศบนถนนนี้จะค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวมากกว่าถนนข้างเคียงอย่างถนนพระราม 4 ถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม และถนนสาทร ที่เป็นย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานตึกสูง โรงแรม อยู่อย่างหนาแน่น

• ทิศเหนือ – ติดกับถนนสี่พระยา ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันเล็กน้อยเป็น Amigo Tower สูง 29 ชั้นและแนวตึกแถวอาคารพาณิชย์ สูง 5 ชั้น
• ทิศตะวันออก – ติดกับธนาคาร UOB สูง 2 ชั้น และอาคารสำนักงานสูง 10 ชั้น
• ทิศใต้ – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น และมีอาคารสำนักงานเขตบางรักสูง 5 ชั้น
• ทิศตะวันตก – ติดกับถนนนเรศ ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรมสูง 27 ชั้น และแนวตึกแถวอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• สามย่านมิตรทาวน์ ∼ 800 เมตร
• จามจุรีสแควร์ ∼ 800 เมตร
• มาบุญครอง ∼ 2.0 กิโลเมตร
• สยามพารากอน ∼ 2.4 กิโลเมตร
• สยามสแควร์ ∼ 2.2 กิโลเมตร
• Central World ∼ 2.9 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ∼ 1.2 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ∼ 1.6 กิโลเมตร

สถานศึกษา

• โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ∼ 1.1 กิโลเมตร
• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ∼ 1.1 กิโลเมตร
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ∼ 1.6 กิโลเมตร
• โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ∼ 2 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ

• อาคารเอไอเอ ∼ 750 เมตร
• สีลมคอมเพล็กซ์ ∼ 1.7 กิโลเมตร
• อาคารคิงเพาเวอร์ มหานคร ∼ 2.4 กิโลเมตร

Chapter Chula – Samyan เป็นคอนโดภายใต้แบรนด์ Chapter จากพฤกษา เจาะกลุ่มตลาด Premium เป็น Lifestyle Condominium ที่มีการออกแบบที่ดูทันสมัย มีความสนุกในการดีไซน์พื้นที่ใช้สอยภายใน หรือรายละเอียดต่างๆภายในโครงการที่ดูมีสีสันมากขึ้น เจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ขึ้น ดังนั้นเราจะเห็นว่า Location ก็จะอยู่ใจกลางเมือง แต่ก็อาจจะไม่ได้ติดถนนใหญ่ ส่วนการตั้งราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ก็ยังเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้

Chapter Chula – Samyan เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดิน 1 ไร่กว่า มีจำนวนห้องพักอยู่ที่ 179 ยูนิต ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่น นอกจากนั้นชั้นพักอาศัยที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดก็ยังอยู่ที่ 11 ห้องต่อชั้นเท่านั้น อีกทั้งการออกแบบอาคารยังจัดให้ชั้นพักอาศัยและชั้นส่วนกลางแยกกันชัดเจน ทำในห้องพักอาศัยภายในโครงการได้ความเป็นส่วนตัวสูง

จุดเด่นอีกอย่างคือโครงการนี้จัด Facility ให้มาค่อนข้างหลากหลาย โดยส่วนกลางหลัก จะมีอยู่ 5 ชั้น เต็มพื้นที่โดยจะเป็นโซนชั้น 1-2 เป็นพื้นที่ Lobby, Co-working space และโซน ชั้น 23-25 เป็นพื้นที่นั่งเล่น สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันได้หมดทั้ง 3 ชั้นด้วย บันไดกลางสวน Urban forest

ส่วนการจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ในแต่ละชั้นของโครงการมี ดังนี้

• ชั้น 1 : The Chapter hall  / The Garden edge / Mail Room
• ชั้น 2 : The Co-working edge / ห้องนิติบุคคล /สระว่ายน้ำ / ห้องน้ำแยกชาย-หญิงพร้อม Sauna
• ชั้น 3-6 : Automated Parking
• ชั้น 7-22 : ชั้นพักอาศัย
• ชั้น 23 : Private deck / Urban forest
• ชั้น 24 : The Blue edge / ห้องน้ำแยกชาย-หญิงพร้อม Sauna / Urban forest
• ชั้น 25 :  The Fit edge / ห้องน้ำแยกชาย-หญิงพร้อม Steam room / Urban forest
• ชั้น 26-30 : ชั้นพักอาศัย

ผังพื้นอาคารชั้น 1 ทางเข้า-ออกจะอยู่บริเวณถนนสี่พระยา มีทางเข้าสำหรับคนเดิน สามารถเดินตรงขึ้นไปยังพื้นที่ Lobby ได้เลย และทางเข้า-ออกสำหรับรถ 1 จุด ง่ายในการดูแลความปลอดภัย เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Drop off ซึ่งเชื่อมต่อกับที่จอดรถ Automated Parking เลย ส่วนทางเข้าอาคารก็จะอยู่บริเวณ Drop off เลยสามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินไกล

เมื่อเข้ามาในอาคารจะเจอกับ The Chapter hall เป็นพื้นที่ Lobby ซึ่งมีพื้นที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนหลายจุดเลย อยู่ติดกับ The Garden edge สวนด้านนอกอาคารสามารถออกไปเดินเล่น สูดอากาศข้างนอกได้ นอกจากนั้นส่วนกลางชั้น 1 นี่จะมีบันไดสามารถใช้เดินขึ้นไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ได้สะดวกอีกด้วย

มาเริ่มกันที่บริเวณด้านหน้าโครงการกันก่อนค่ะ ทางเข้า – ออกรถของโครงการมีจุดเดียว ทำให้ง่ายในการดูแลความปลอดภัย โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมง

ใกล้ๆกัน มีประตูทางเข้า-ออกสำหรับคนเดิน แยกจากถนนทางเข้าโครงการ ปลอดภัย เป็นสัดส่วนดีค่ะ โดยประตูจะเชื่อมต่อกับสวน และสามารถเดินเข้าอาคารไปยังโซน Lobby ได้เลยค่ะ

เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Drop off ซึ่งเป็นที่ร่มใต้อาคาร กันแดด กันฝน สามารถรับ-ส่งบริเวณนี้ได้สะดวกเลยค่ะ

บริเวณพื้นที่ Drop off จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ต้อนรับด้านใน ส่วนที่จอดรถที่นี่จะเป็นแบบ Automated Parking อยู่บริเวณ Drop off เลยเช่นกัน ที่จอดรถที่นี่มีประมาณ 114 คัน คิดเป็น 63% ซึ่งถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะเลยสำหรับคอนโดที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า และใกล้ถนนที่สามารถใช้รถสาธารณะได้สะดวก

บริเวณหน้าช่องจอดรถ Automated Parking จะมีไม้กั้นกระดกอยู่ เวลาจะเรียกใช้งานจะต้องนำบัตรจอดรถที่ทางโครงการให้ไว้แตะเวลาจะใช้งานทุกครั้งค่ะ โดยบริเวณนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชม. ไม่ต้องกังวลเวลาจะใช้งานเลยค่ะ

โดยที่จอดรถ Automated Parking จะมี 2 ช่องจอด สามารถใช้งานพร้อมกันได้ ไม่ต้องรอนานค่ะ โดยที่จอดอัตโนมัตินี้จะสามารถจอดได้เฉพาะรถที่สูงไม่เกิน 1.85 เมตร กว้าง 1.90 เมตร น้ำหนักไม่เกิน 2.35 ตัน ซึ่งสามารถจอดได้ทั้งรถเล็ก และรถ SUV บางรุ่นได้เลยค่ะ

ประตูทางเข้าอาคาร อยู่บริเวณใกล้กับ Automated Parking เลย จอดรถเสร็จก็สามารถเดินเข้าอาคารได้ใกล้ๆเลยไม่ต้องเดินไกลค่ะ

เมื่อเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ต้อนรับก่อน พื้นที่ตรงนี้จะเป็นแบบ Double volume ส่วนด้านในจะเป็น The Chapter hall พื้นที่ Lobby ที่มีจุดให้นั่งเล่นพักผ่อนอยู่หลายจุดเลย

การออกแบบ The Chapter hall  มีจุดที่เราชอบคือมีส่วน Double volume อยู่หลายจุด ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 2 ที่เป็น Co-working space ได้อย่างน่าสนใจเลย  นอกจากนั้นการดีไซน์ช่อง Double volume จะเป็นแบบบิดแกน ซึ่งทำให้มุมมองที่สวยแปลกตาดีค่ะ

The Chapter hall พื้นที่ต้อนรับ มีการตกแต่งได้บรรยากาศแบบคาเฟ่ชิคๆ มีการจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นไว้ค่อนข้างเยอะ สามารถลงมานั่งเล่น หรือนั่งทำงานได้ค่ะ หรือจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับแขกกรณีที่ไม่สะดวกให้เข้าห้องพักอาศัยก็ได้นะ ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่บริเวณขวามือใกล้ๆกันเลยค่ะ

สำหรับโถงลิฟต์จะมีการออกแบบเพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวโดยจะมีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน คนที่จะผ่านเข้าไปต้องใช้คีย์การ์ด ลิฟต์โดยสารมี 2 ตัว และมีลิฟต์ Service อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ไม่มาก 89.5 : 1 ใช่งานได้สะดวกไม่ต้องรอนานค่ะ  โดยบริเวณซ้ายมือก่อนเข้าโถงลิฟต์จะเป็น Mail room สามารถเดินมารับของก่อนขึ้นห้องพักอาศัยได้สะดวกค่ะ

ด้านในของ Mail Room เป็น Smart Locker เมื่อมีพัสดุมาส่ง ทางโครงการจะแจ้งผ่าน E-mail ซึ่งตรงนี้เราสามารถมารับพัสดุได้เองตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ

ถัดเข้ามาโซนขวามือตรงนี้จะเป็น ห้องน้ำแยกชาย-หญิง รองรับการใช้งานสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 1 -2 ค่ะ

ห้องน้ำเป็นแบบแยกชาย-หญิง โดยฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำชาย ด้านขวาเป็นห้องน้ำหญิง เป็นห้องน้ำภายในมีอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ ให้ใช้งานครบค่ะ

บริเวณ The Chapter hall  โซนด้านใน อยู่ติดกับ The Garden edge พื้นที่สีเขียวด้านนอกทำให้บริเวณนี้มองออกไปเห็นวิว ได้บรรยากาศดีทีเดียว ซึ่งตรงนี้เราสามารถออกไปเดินเล่นที่สวนได้โดยใช้ประตูกระจก ด้านขวามือด้านในค่ะ

บริเวณด้านนอกตรงนี้ จะมีทางเดินเชื่อมไปยังสวน และเชื่อมไปยังทางเข้า-ออกคนเดินด้านหน้า  สำหรับคนที่เดินเข้าโครงการมาจะต้องใช้ Key Card แตะก่อนผ่านประตูนี้ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยนะคะ

ทางเดินในสวนแบบ Soft scape โรยกรวดดำ ภายในสวนมีการลงไม้พุ่มและไม้ยืนต้น ดูร่มรื่น อีกทั้งมีบ่อน้ำตกแต่ง เพิ่มความสดชื่นบริเวณได้ดีอีกด้วย

การดีไซน์ Landscape ทำออกมาได้น่าสนค่ะ มีการดีไซน์เป็นกระบะต้นไม้แบบบิดแกน เป็นมุมแหลม มุมป้าน ใช้วัสดุลายหินสีขาว ตัดกับกรวดสีดำ และต้นไม้สีเขียว ถ่ายรูปออกมาแล้วดูสวยแปลกตาดีเลยค่ะ

รอบๆ กระบะต้นไม้ดีไซน์มาเป็นพื้นที่นั่งเล่นสีขาวยาวตลอดแนว ในวันที่อากาศดีๆ สามารถนั่งเล่นใต้ร่มไม้ได้นะ

กลับมาที่ The Chapter hall เราจะพาขึ้นไปยังส่วนกลางชั้น 2 ด้วยบันไดกันค่ะ ซึ่งบันไดจะอยู่บริเวณโถงด้านในซ้ายมือค่ะ

โถงบันไดเป็นแบบ Double Volume ขนาดใหญ่ พร้อมกระจกสูงเต็มบาน สามารถเทควิวสวนสีเขียว The Garden edge  ได้เต็มตา ภายในมีบันไดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังส่วนกลางชั้น 2 สิ่งที่น่าสนใจคือการดีไซน์บันได จะใช้วัสดุสี Copper ทั้งหมด เป็นทั้งแบบทึบแบบโปร่ง อีกทั้งมีการทำไฟซ่อนไว้ยังจุดต่างๆ ดูโดดเด่นอยู่กลางโถงเลย ทำให้ตัวบันไดเป็นเสมือนงาน Sculpture ตกแต่งให้ พื้นที่ The Chapter hall ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ส่วนกลางเต็มพื้นที่ สามารถเข้าถึงได้ทั้งจากลิฟต์โดยสาร และจากบันไดที่ชั้น 1 สำหรับชั้นนี้จะมีออฟฟิศนิติบุคคล และพื้นที่ส่วนกลางอย่างThe Co-working edge เป็นพื้นที่นั่งทำงาน และพักผ่อน มาพร้อมมี Napping pods, Game room, Home Theatre พร้อมมี Pantry อยู่กลาง Floor รองรับอยู่ครบครัน ซึ่งส่วนกลางในชั้น 1 และ 2 ตรงนี้จะเปิดให้ใช้งานได้ 24 ชม. รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานของคนยุคใหม่ที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นค่ะ

เมื่อขึ้นมาจากบันได จะเป็นโถงเล็กๆ ด้านขวาเป็นประตูทางเข้า ซึ่งจะต้องใช้ Key Card แตะก่อนผ่านประตูเข้ามานะคะ

เมื่อขึ้นมาแล้วส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งทำงาน ซึ่งจัดมาให้หลายจุด ทั้งชุดโต๊ะที่สามารถนั่งทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และกลุ่มเล็กๆ

ที่นั่งทำงานแบบกลุ่มเล็กๆ จัดวางในจุดที่ใกล้กับผนังทึบ สำหรับคนที่อยากนั่งแบบเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย อีกทั้งโซนพื้นที่นั่งทำงานจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Pantry ด้านใน สามารถเดินมาหาเครื่องดื่มหรือขนมที่บริเวณนี้ได้ค่ะ

โดยบริเวณด้านใน มี Napping pods รองรับอยู่ 4 ช่องค่ะ

Napping pods เป็นแบบเตียง 2 ชั้น ใครที่นั่งทำงานหรือ อ่านหนังสือเป็นเวลานานๆ สามารถมานั่งเล่นพักผ่อน หรืองีบหลับ พักสายตาได้นะ

ถัดเข้ามาด้านใน จะเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันต่างๆ ของชั้นนี้ โดยจะมีช่อง Double Volume ที่เชื่อมต่อกับชั้น 1 อยู่หลายจุด ทำให้ดูเชื่อมต่อกันดี เห็น Movement การใช้งานซึ่งกัน และกัน ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

การจัดวางฟังก์ชัน ด้านซ้ายจะเป็นห้องนั่งเล่นแบบกั้นแยกเป็นสัดส่วน ด้านในเป็นโถงลิฟต์ ชั้น 2 ส่วนด้านขวา จะมี Pantry รองรับอยู่ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็น Game room พร้อมโซนนั่งเล่นด้านใน

บริเวณ Pantry มีเคาน์เตอร์ I-shape พร้อม island ตรงกลาง พร้อมเก้าอี้ สามารถมานั่งเล่นสำหรับใครที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ สามารถเดินมาหาอะไรกินได้สะดวกค่ะ

ส่วน Pantry ถูกออกแบบมาอยู่ในจุดที่สามารถเชื่อมต่อกับโซน Co-working space และ Game room ได้ง่าย สามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก

ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่แบบ Game room  มีโต๊ะโกล์ และโต๊ะพูล รองรับอยู่ 3 โต๊ะ สามารถเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่มได้เลยค่ะ

บริเวณ Game room โซนด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น โดยมี ผนังโปร่งๆ กั้นอยู่เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับโซนนั่งเล่นด้านใน

พื้นที่นั่งเล่นตรงนี้ เป็นแบบชุดโซฟาล้อมวง 2 ชุด พร้อมมีโต๊ะกลางขนาดใหญ่ สามารถนำบอร์ดเกมมาเล่นกับเพื่อนๆ เป็นกลุ่มที่ตรงนี้ได้สะดวกเลยค่ะ

มากันที่โซนหน้าอาคารกันบ้างค่ะ ตรงนี้จะเป็นห้องนั่งเล่น ที่กั้นแยกด้วยผนังกระจกทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ภายในห้องค่อนข้างกว้าง มีการจัดเป็นโซฟา สามารถรองรับเพื่อนกลุ่มใหญ่ได้ พร้อมมีจอทีวีขนาดใหญ่ สามารถใช้ห้องนี้นั่งเล่น ดูหนังร่วมกันกับเพื่อนได้เลย

ส่วนโถงลิฟต์ของชั้น 2 จะอยู่ด้านในสุดซ้ายมือค่ะ

ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 เป็นต้นไป ทำให้หัองพักอาศัยอยู่พ้นระยะความสูงของอาคารรอบข้างที่ติดกัน อีกทั้งตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนน 2 ด้าน ทำให้ในชั้นพักอาศัยไม่มีอาคารมาบดบังในระยะประชิดจนเกินไป

ชั้น 7- 9 มีห้องพักอาศัยจำนวน 11 ยูนิต ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ผู้คนไม่พลุกพล่าน การจัดผังอาคารเป็นแบบ Double corridor มีห้องพักอยู่ทั้ง 2 ฝั่งที่มีการออกแบบมาให้ประตูห้องส่วนใหญ่จะไม่ตรงกันนะคะ นอกจากนั้นบริเวณปลายสุดโถงทางเดินทั้ง 2ฝั่ง จะมีช่องหน้าต่าง ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ ได้แสงธรรมชาติ และสามารถเปิดระบายอากาศได้สะดวก ไม่อึดอัดค่ะ

ส่วนห้องพักอาศัยที่น่าสนใจที่เราได้ทำสัญลักษณ์ในชั้นต่างๆ มีดังนี้

• ห้องในเส้นประสีน้ำเงิน เป็นห้องที่ผนังติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี
• ห้องในเส้นประสีแดง เป็นห้องที่ผนังไม่ติดเพื่อนบ้านเลย ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากยิ่งขึ้น และยังเป็นห้องมุม รับแสง และระบายอากาศได้ดี
• ห้องในเส้นประสีเขียว เป็นห้องที่ติดกับพื้นที่สวน Green Roof ทำให้ได้วิวสวนส่วนตัว และยังเป็นห้องมุม รับแสงและระบายอากาศได้ดี

ชั้น 10-20 การจัดผังจะคล้ายกับชั้นก่อนหน้าเลย แต่จะแตกต่างตรงที่ ชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยน้อยลง มีเพียง 10 ยูนิต เพราะมีห้อง 2 Bedroom มาแทนที่

ชั้น 21 -22 มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 8 ยูนิต โดยที่ชั้น 21 จะเป็นชั้นที่มีสวนพร้อมพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ อยู่บริเวณฝั่งด้านหน้าโครงการ ซึ่งเป็นส่วนหลังคาของชั้นก่อนหน้านะ ซึ่งส่วนนี้มีข้อดีตรงที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวไม่ค่อยมีใครขึ้นมาใช้งาน ส่วนห้องที่น่าสนใจคือห้องที่อยู่ในเส้นประสีเขียว จะเป็นห้องที่อยู่ติดสวน ทำให้ได้วิวสวนจากภายในห้องพักอาศัยค่ะ ส่วนชั้น 22 จะไม่มีสวนนะคะ

ชั้น 23-25 จะเป็นชั้นส่วนกลางเต็มพื้นที่ แยกออกจากชั้นพักอาศัยชัดเจน ซึ่งมีข้อดี คือทำให้ชั้นพักอาศัยในโครงการจะได้ความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีคนพลุกพล่าน นอกจากนั้นการที่ออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่ในชั้นสูงๆ ก็ทำให้ได้วิวเมืองเปิดโล่ง โดยอีกจุดที่น่าสนใจคือทั้ง 3 ชั้นสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด ด้วยบันไดกลางสวน Urban forest โดยการจัดฟังก์ชันแต่ละชั้นมีดังนี้ค่ะ

ชั้น 23 Private deck พื้นที่นั่งเล่น สามารถใช้นั่งเล่นนั่งทำงาน หรือจะใช้เป็นพื้นที่รับแขกก็สะดวก อีกทั้งมี Pantry รองรับอยู่ครบครัน

ชั้น 24 The Blue edge เป็นชั้นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เป็นสระรูปตัว L โอบล้อม Pool terrace เอาไว้ โดยบริเวณที่มี Daybed ให้นั่งเล่นหลายจุด พร้อมมีห้องน้ำและ Sauna แยกชาย-หญิง

ชั้น 25 The Fit edge เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องเล่นหลากหลาย สามารถใช้งานออกกำลังกายได้จริงจัง  มี Pantry รองรับอยู่ด้วยเช่นกัน พร้อมมีห้องน้ำ และ Steam room แยกชาย-หญิง

เราขึ้นมาที่ชั้น 23 ด้วย ลิฟต์โดยสารกันค่ะ

เมื่อขึ้นมาแล้ว จะเจอกับส่วนพื้นที่  Private deck เป็นพื้นที่นั่งเล่นนั่งทำงาน อีกทั้งยังมี Pantry รองรับอยู่ด้วยบริเวณ ขวามือค่ะ

ที่ชั้นส่วนกลางโซนนี้จะมี Pantry รองรับอยู่อีกจุด สามารถหาเครื่องดื่มหรือขนม ได้สะดวก นั่งเล่น นั่งทำงานอยู่ก็สามารถเดินมาหาอะไรทานได้ง่ายค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นชั้นนี้มีทั้งแบบที่เป็นโซฟานั่งเล่นแยกเป็น Pods ส่วนตัว และแบบที่สามารถนั่งเป็นกลุ่มได้

เดินออกมาโซนด้านนอกกันบ้างค่ะ จะเป็นพื้นที่สีเขียวอย่าง Urban forest  ที่มีบันได ขนาดใหญ่เชื่อมต่อพื้นที่ส่วนกลางชั้นอื่นๆ

บริเวณใกล้ๆกับ Urban forest จะมีโซนนั่งเล่นแบบเป็นชุดโซฟารองรับอยู่ด้วย สามารถใช้เป็นพื้นที่รับแขกกรณีไม่สะดวกให้เข้าห้องพักได้นะ

พื้นที่บริเวณนี้ จัดเป็นชุดโซฟาและมีกระจกล้อมหลายด้าน มองออกไปเห็นวิวเมืองเปิดโล่ง พร้อมได้วิวสวน  Urban forest อีกด้วย ถือเป็นจุดที่ได้บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

Urban forest เป็นพื้นที่สวนเปิดโล่ง 3 ชั้น มีการลงทั้งไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นทรงสูง ภายในมีทางเดินเป็นบันไดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อชั้นส่วนกลางทั้ง 3 ชั้นเข้าด้วยกัน โดยตัวบันไดออกแบบมาให้บิดแนวแกนล้อมต้นไม้ ทำให้ได้มุมมองที่น่าสนใจ ส่วนตัวบันไดเป็นเหล็กโปร่ง พร้อมราวกันตกกระจก ยิ่งทำให้ดูโปร่ง สามารถเทควิวได้เต็มตา

เมื่อขึ้นมาส่วนชานพักจะเป็นทางเดินเหล็กเช่นกัน โดยบริเวณนี้จะมีเก้าอี้นั่งเล่น Outdoor รองรับอยู่สามารถมานั่งเล่น รับลม ชมวิวเมืองได้ ซึ่งวิวทางด้านนี้ค่อนข้างเปิดโล่งเลยด้วยนะ

ขึ้นมาที่ชั้น 24 ด้วยบันได จะเจอกับห้องหญิงและห้องน้ำชาย โซนซ้ายมือ ฝั่งขวาจะเป็นทางเดินไปยังPool terrace และสระว่ายน้ำ

มาดูกันที่ห้องน้ำกันก่อนค่ะ ห้องน้ำจะแยกชาย-หญิงชัดเจน โดยห้องน้ำหญิง จะอยู่ในจุดที่เทควิวได้ค่อนข้างดี พร้อมทั้งมีกระจกเปิดโล่ง มองเห็นวิวเมือง ด้านหน้าจะมีอ่างล้างมือพร้อมกระจก อีกทั้งยังมี Bench บริเวณ Bay Window กระจกโค้ง เป็นห้องน้ำที่บรรยากาศดีเลยค่ะ

โซนด้านในจะเป็น Sauna ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ โดยที่บริเวณประตูทางเข้าจะมี Locker รองรับอยู่ครบครันเลยค่ะ

โซนด้านในมีห้อง Sauna เล็กๆ รองรับอยู่ หลังว่ายน้ำออกกำลังกายเสร็จ สามารถใช้งานต่อได้สะดวกเลยค่ะ บริเวณนี้มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำรองรับอยู่ 1 ห้อง ฝั่งขวามือนี้เลยค่ะ

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือห้องอาบน้ำของที่นี่ เป็นห้องอาบน้ำ ที่ได้ช่องแสงกระจกโค้งสูงเต็มบาน สามารถเทควิวระหว่างอาบน้ำได้เลย โดยวิวฝั่งนี้จะเป็นวิวเมืองโล่งไม่มีตึกมาบดบังเลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำชายจะอยู่โซนด้านใน ภายในห้องประกอบด้วย Sauna  ห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่ได้ช่องแสงกระจกโค้งสูงเต็มบานเช่นกันค่ะ

ถัดมาบริเวณนี้ฝั่งขวามือจะเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปยังโซน Pool terrace และสระว่ายน้ำ ส่วนทางเดินฝั่งขวามือจะเป็นโถงลิฟต์ค่ะ

เมื่อเดินตรงมาบริเวณนี้จะมีจุดที่สามารถลงสระว่ายน้ำได้ โดยจะเป็นโซนน้ำตื้นๆ ก่อนลดระดับลงสระว่ายน้ำนะคะ

สระว่ายน้ำโซนนี้จะเป็นสระในร่ม ซึ่งทางโครงการออกแบบมาให้มีจุดที่สามารถนั่งเล่น แช่น้ำในสระได้หลายจุด โดยสระว่ายน้ำที่นี่จะเป็นรูปทรงตัว L มีทั้งโซนที่อยู่ในที่ร่ม และ Outdoor สามารถว่ายน้ำช่วงเวลาไหนก็ได้ไม่ต้องกลัวแดดร้อนนะ โดยแต่ละโซน ยาวประมาณ 16.4-16.9 เมตร ลึก 1.2 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายต่อเนื่องได้เลยค่ะ

เดินต่อไปโซนด้านในฝั่งซ้ายจะเป็น Pool terrace ค่ะ

บริเวณสวน มีพื้นที่ล้างตัวรองรับอยู่ 1 จุดค่ะ  เป็นพื้นที่ล้างตัวหลบมุมอยู่บริเวณโถงทางเดินเลยนะ

มีการดีไซน์เสา ให้บิดแกนไปจากตัวอาคาร อีกทั้งใช้วัสดุผนัง และฝ้าเพดานแบบเงาวาว สร้างมุมมองที่แปลกตา และดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ส่วนรอบๆ Pool terrace จะเป็นโซนสระตื้นๆ ตลอดแนว ไม่ต้องกลัวเดินพลาดตกน้ำเลยค่ะ

สระว่ายน้ำโซนตื้น จะมีจุดที่ออกแบบไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นมีผนังล้อมรอบอยู่หลายจุด  โดยพื้นที่นั่งเล่นโซนนี้จะถูกดีไซน์ให้หันออกนอกอาคาร ทั้งหมดโดยที่จะเหลื่อมกัน แต่ละที่นั่งจะไม่บดบังวิวกัน ทำให้สามารถเทควิวเมืองได้ทุกจุด สามารถมานั่งเล่น แช่น้ำชิลๆ รับลมชมวิวได้ค่ะ 

บริเวณ Pool terrace ตรงนี้จะมี Daybed ขนาดใหญ่รองรับอยู่ด้วย มานั่งเล่น นอนเล่น ริมสระได้เลยค่ะ

บริเวณใกล้ๆ กัน มีจุดที่มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.6 เมตร เป็นสระทรงสามเหลี่ยม ใกล้ๆกัน จะเป็นทางลดระดับลงสระนะ

เดินขึ้นบันไดมากันที่ชั้น 25 กันบ้างค่ะ โดยพื้นที่ Urban forest ชั้นนี้จะดูแปลกตาหน่อย โดยฝ้าเพดานที่ชั้นนี้จะเป็นวัสดุสี Copper เงาวาว ตัดกับสีดำของตัวบันได และสีเขียวของต้นไม้ ถ่ายรูปออกมาแล้วดูสวยงามแปลกตาเลยค่ะ

ที่ชานพักบันไดของชั้นนี้ จะเหมือนชั้นก่อนหน้าเลยค่ะ โดยจะมีจุดที่จัดเป็นโซฟา Outdoor เอาไว้ให้มานั่งชมวิว ชิลๆ ได้ค่ะ

ชั้นมาที่ชั้น 25 จะเจอกับตัวห้องน้ำแยกชายหญิง ตำแหน่งเดียวกับชั้นก่อนหน้าเลยค่ะ ส่วนประตูฝั่งขวามือจะเป็นทางเข้าไปยัง The Fit edge พื้นที่ห้องออกกำลังกายค่ะ

การจัดวางฟังก์ชันในห้องน้ำของชั้นนี้จะเหมือนชั้นก่อนหน้าเลย เพียงแต่ชั้นนี้จะเป็นห้อง Steam แทนค่ะ หลังออกกำลังกายสามารถใช้งานก่อนอาบน้ำได้สะดวกเลย

โซนด้านในจะมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ที่ได้ช่องแสงกระจกโค้งสูงเต็มบานเช่นกัน ส่วนห้อง Steam จะอยู่ตำแหน่งเดียวกับห้อง Sauna เลยค่ะ

ส่วนของห้องน้ำชายก็เป็นแบบเดียวกับชั้นก่อนหน้า พร้อมมีห้อง Steam ด้วยเช่นกัน

เข้ามาด้านในโซน The Fit edge  จะเจอกับ Pantry เล็กๆ ที่เราสามารถมาหาเครื่องดื่มหรือขนมได้สะดวก  โดยตรงนี้ มีที่นั่งบริเวณเคาน์เตอร์อยู่ด้วย มานั่งพักระหว่างออกกำลังกายได้ค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องออกกำลังกาย โดยฝั่งขวามือจะเป็นโถงเชื่อมไปยังลิฟต์ชั้น 25 ค่ะ

ห้องออกกำลังกายของที่นี่จัดมาให้เป็นห้องขนาดใหญ่ ภายในห้องจะได้ช่องแสง 3 ด้าน เป็นช่องกระจกสูงเต็มบาน ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่ง น่าใช้งานค่ะ

ภายในมีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) และเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) ครบครัน สามารถใช้งานออกกำลังกายได้จริงจังเลยค่ะ

นอกจากนั้นภายในห้องออกกำลังกายยังมี Yoga room เป็นห้องกระจกกั้นแยกด้านใน

Yoga room เป็นห้องขนาดใหญ่สามารถมาออกกำลังกายพร้อมๆ กับเพื่อนๆได้เลยค่ะ ภายในห้องเป็นกระจกเงา 2 ด้านสามารถใช้งานได้สะดวก เป็นห้องที่บรรยากาศดีเลยค่ะ มองออกไปเห็นวิวเมืองเปิดโล่ง ไม่มีอาคารสูงมาบดบังในระยะประชิด

ห้องออกกำลังกาย จะเชื่อมระเบียงแนวยาวด้านนอก ซึ่งจากระเบียงมองออกไป ได้วิวเมืองค่อนข้างดี อีกทั้งมองลงไปเห็นสระว่ายน้ำพอดีเลยด้วย บรรยากาศดีเลยค่ะ สามารถออกมาเดินเล่นสูดอากาศได้นะ

ชั้น 26-27 จะเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัย 5 ยูนิต เป็นห้อง 1 Bedroom plus และห้อง 2 Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ การจัดผังอาคารค่อนข้างดี มีห้องมุม 4 ห้อง

ชั้น 28 เป็นต้นไปจะเหลือห้องพักอาศัย 4 ยูนิตต่อชั้น ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และทุกห้องเป็นห้องมุม รับแสงและระบายอากาศได้ดี โดยจะมีเฉพาะห้อง 1 Bedroom plus และ 2 Bedroom นะคะ

ชั้น 28-29 การจัดผังเหมือนกันเลย เพียงแต่ชั้น 28 จะมีสวนเล็กๆ ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องในเส้นประสีเขียว ทำให้ห้องในตำแหน่งนี้จะได้วิวสวนไปในตัวค่ะ ส่วนชั้น 29 จะไม่มีสวนนะคะ

ชั้น 30 -31 เป็นชั้นที่มี ห้องพักอาศัย 4 ยูนิต เป็นห้องมุมทั้งหมด โดยชั้นที่ 30 จะได้พื้นที่สวน ส่วนชั้น 31 จัดผังเหมือนกันเลยแต่จะไม่มีสวนค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• The Garden edge ชั้น 1
• The Chapter hall ชั้น 1
• The Co-working edge ชั้น 2 (เปิด 24 ชม.)
• Urban forest ชั้น 23, 24, 25
• Private deck ชั้น 23
• The Blue edge (Swimming pool + Sauna) ชั้น 24
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 16.4*16.9 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.6 เมตร ขนาดประมาณ 1.20 เมตร
• The Fit edge ชั้น 25 (Fitness + Yoga + Steam)
• ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 14 เครื่อง
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 89.5 : 1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถ Automated Parking ประมาณ 114 คัน คิดเป็น 63%
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card

Chapter Chula – Samyan เป็นคอนโดที่มีห้องพักอาศัยไม่เยอะ จำนวนทั้งหมด 179 ยูนิต รูปแบบการขาย Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องครบ พร้อมฟูก และเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์ และ Smart mirror สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก เครื่องใช้ไฟฟ้า และชุดเครื่องนอน หมอน ผ้าม่าน เพิ่มเติมนอกนั้นก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย สำหรับแบบห้องมี 4 รูปแบบ ขนาดตั้งแต่ 22.82-94.22 ตร.ม. ดังนี้

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.82 – 34.97 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.27 – 49.33 ตร.ม.
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.24 – 72.74 ตร.ม.
• 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 94.22 ตร.ม. ( Sold Out )

โดยห้องแต่ละแบบ จะมีแปลนให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย แต่ปัจจุบันห้องพักอาศัยภายในโครงการขายไปแล้ว 80-90% ทำให้ปัจจุบัน ราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาท จะเป็นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร ค่ะ

สรุปวัสดุต่างๆที่ได้มาภายในห้อง

• Fully Furnished
• เครื่องใช้ไฟฟ้า(แอร์, เตาไฟฟ้า,hood, Smart mirror)
• Digital Door Lock จาก HAFELE
• พื้นไม้ไวนิล สี White Oak ลายก้างปลา หนา 4.3 มม.
• ห้องน้ำ พื้นและผนังกรุกระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 60×60 ซม.
• พื้นระเบียง กรุด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน
• ครัวท็อปโพสต์ฟอร์ม Solid Surface ลาย terrazzo พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน ของ HAFELE /อ่างล้างจาน 1 หลุม และก๊อก พร้อมสายก๊อกยืดหยุ่นได้ ของ Teka / Backsplash (ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัว) วัสดุกระจกเงา
• สุขภัณฑ์ของ Roca พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกของ I-spa
• ระบบ Smoke detector ป้องกันอัคคีภัย
• สวิตช์ไฟจาก Schneider

สำหรับห้องตัวอย่างวันนี้เราจะพาไปชมจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.81 ตารางเมตร  และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 44.05 ตารางเมตร กันค่ะ บรรยากาศภายในห้องของตึกเสร็จจริงๆ จะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 34.81 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 34.81 ตร.ม. ห้องนี้มีราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท ภายในห้องมีการแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นสัดส่วน ฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่พักผ่อน และฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ส่วน Service โดยเข้าห้องมาแล้วเราจะเจอกับส่วนครัว และ Common area ซึ่งจะเชื่อมต่อห้องนอน ด้วยผนังกั้นกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น ส่วนฝั่งขวา โซน Service เป็นห้องน้ำ Walk in closet และระเบียง เป็นสัดส่วนดีสามารถอยู่อาศัย 2 คนได้สบายๆ ส่วนจุดที่น่าสนใจมีดังนี้

• ห้องมุม ได้ช่องเปิด 2 ด้าน อีกจุดเด่นหนึ่งของห้องนี้คือตำแหน่งของห้องนอนที่อยู่มุมพอดีทำให้ได้ช่องเปิด 2 ด้าน รับแสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ดี ในวันที่อากาศดีๆ สามารถเปิดหน้าต่างรับลม อยู่ได้สบายๆเลยค่ะ
• Common area ขนาดใหญ่ ที่รวมเอา พื้นที่ครัว พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทานอาหารเอาไว้ด้วยกัน และยังเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ยิ่งทำให้ห้องดูโล่งกว้างค่ะ
• ห้องน้ำแยกเป็นห้องอาบน้ำ และ Powder room โดยมี Walk in closet กั้นกลาง กรณีอยู่ด้วยกันสองคน สามารถใช้งานแยกกันได้สะดวก ไม่ต้องแย่งกัน เวลาเร่งรีบ
• Powder room สามารถเข้าได้จะทั้งทาง walk in closet และจากทาง common area ใช้งานได้สะดวกดีค่ะ
• Walk in closet เป็นสัดส่วน เชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อน และอยู่บริเวณเดียวกับห้องน้ำทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
• Fully furnished 10 รายการ ดังนี้
  -เตียง และฟูก
  -โต๊ะหัวเตียง 2 ตัว
  -โต๊ะวางทีวี
  -ตู้เสื้อผ้า
  -โซฟา
  -โต๊ะกลาง
  -โต๊ะทานอาหาร
  -เก้าอี้ทานอาหาร 2 ตัว
  -ตู้รองเท้า
  -เคาน์เตอร์ครัว และชั้นเก็บของด้านบน พร้อม เตาไฟฟ้าสองหัว เครื่องดูดควัน อ่างล้างจานหลุมเดี่ยวและ ก๊อกน้ำ flexible

มาเริ่มกันที่ประตูทางเข้าห้องกันก่อนเลยค่ะ เป็นประตูบานทึบทำสีแบบนี้เลย มาพร้อม Digital Door Lock จาก Hafele เป็นมาตรฐานทุกห้องค่ะ

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับส่วนพื้นที่ครัว ซึ่งเมื่อเปิดประตูมาแล้วจะเป็นพื้นที่เหมือนโถงกว้าง 1.25 ม. พอดีๆ กับระยะเปิดประตู ซึ่งฝั่งขวาจะเป็นตู้เก็บรองเท้า ทำให้เมื่อเข้าห้องมาก็สามารถเก็บรองเท้าได้สะดวกเลย

สำหรับพื้นห้องเป็นพื้นไม้ไวนิล ที่มีคุณสมบัติทนน้ำ ทนสารเคมีมากกว่าพื้นลามิเนตค่ะ เป็นสี White Oak ลายก้างปลาแบบนี้เลยค่ะ

ภายในห้องจะได้ตู้เก็บรองเท้าแบบนี้เลย เป็นตู้ Built-in บานทึบ เป็นแบบลิ้นชักเลื่อนออกมาแล้วจะมีช่องสำหรับวางรองเท้าได้พอดีๆ อยู่หลายช่องเลย ส่วนด้านบนจะเป็นชั้นเก็บของสามารถวางร่มพกหรือของต่างๆ ที่ต้องหยิบใช้ก่อนออกจากบ้าน ได้สะดวก

เคาน์เตอร์ครัว I-shape โดยจะมี  Built-in ตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่างแบบในรูปเลย เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่เก็บของเป็นแบบบานเปิด ลิ้นชัก และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ไปได้เยอะ พื้นที่ใต้อ่างล้างจานเหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้ค่อนข้างกว้าง มีระยะประมาณ 2.1 ม. มีพื้นที่สำหรับเตรียมของประกอบอาหารได้สะดวกเลย โดย Top ครัวเป็นท็อปโพสต์ฟอร์ม Solid Surface ลาย terrazzo พร้อมติดตั้ง Backsplash เป็นกระจกเงา สามารถทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน จาก Hafele ส่วนอ่างล้างจาน และก๊อกยืดหยุ่นได้จาก Teka

ถัดเข้ามาเป็นส่วนของพื้น Common area ที่รวมเอาพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทานอาหารเอาไว้ด้วยกัน ห้องนี้มีขนาด 2.8×3.3 เมตร ระยะฝ้าบริเวณนี้จะอยู่ที่ 2.7 เมตร ส่วนบริเวณครัวจะอยู่ที่ 2.4 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบพร้อมติดตั้งไฟดาวน์ไลท์และ Smoke detector ป้องกันอัคคีภัย

ภายในห้องจัดชั้นวาง TV โซฟา โต๊ะกลาง และโต๊ะทานอาหาร แล้วยังเหลือพื้นที่บริเวณหน้าทีวีสามารถเดินไปมาได้สะดวก ส่วนระยะดูทีวีตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 46 นิ้วได้ค่ะ

ชั้นวาง TV  หน้าบานทึบแบบปิด สามารถเก็บของได้ดูเรียบร้อยดี

โซฟาที่ได้เป็นโซฟา 2-3 ที่นั่ง  สีเทา ดูแลรักษาง่าย ถ้าหากเป็นสีอ่อนหน่อยเลอะนิดเดียวก็สังเกตเห็นได้แล้ว มาพร้อมโต๊ะกลางแบบนี้เลยค่ะ

สำหรับโต๊ะทานอาหาร ถูกจัดไว้ชิดกับโซฟาหันไปทางทีวี เป็นโต๊ะแนวยาว 2 ที่นั่ง โดยมีพื้นที่เหลือด้านหลัง ให้สามารถเลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้พอดีๆ

พื้นที่ Common area จะเชื่อมต่อกับ Powder room บริเวณขวามือเลย ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก  สำหรับห้องนี้จะได้แอร์ 2 ตัว ยี่ห้อ Samsung ติดตั้งบริเวณ Common area และ ห้องนอน

ประตูห้องน้ำจะได้เป็นประตูบานทึบทำสีเดียวกับประตูห้องเลย มือจับเป็นสีดำแบบนี้เลยค่ะ

ส่วนของห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีประตูห้องน้ำ กั้นพื้นไว้ เพื่อกันไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ

ห้องน้ำนี้จะเป็นแบบ Powder room คือมีเฉพาะส่วนแห้ง ห้องนี้มีขนาด 0.9×1.8 เมตร เข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้า และ โถสุขภัณฑ์ด้านใน

ตัวอ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ กว้างประมาณ 0.6 เมตรพอดีๆ พื้นที่ใต้อ่างมีช่องเก็บของมาให้เรียบร้อยสามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเล็กๆน้อยได้สะดวกค่ะ สำหรับห้องนี้ตัวกระจกจะเป็น Smart mirror สามารถเชื่อมต่อ internet ใช้งานระบบ android สามารถเปิด Youtube ดูข่าว ฟังเพลงระหว่างใช้งานในห้องน้ำได้ค่ะ สำหรับ Fitting ในห้องน้ำ จะเป็นสี Polished Black ดูเท่ๆ จาก Roca ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำทั้งหมดก็เป็นของ Roca เช่นกันค่ะ 

ภายในห้องติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ 2 จุดบริเวณโถสุขภัณฑ์ และหน้ากระจก พร้อมติดตั้งพัดลมดูดอากาศ บริเวณเหนือโถสุขภัณฑ์ มาให้เรียบร้อย

กลับมาที่ Common area กันต่อค่ะ พื้นที่บริเวณนี้เชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้กว้างค่ะ

ห้องนอนเป็นห้องมุมได้ช่องเปิด 2 ด้าน รับแสงและระบายอากาศได้ดี ในวันที่อากาศดีๆสามารถเปิดหน้าต่างรับลม อยู่ได้สบายๆเลยค่ะ

สำหรับห้องนี้จะได้เตียง พร้อมฟูกและโต๊ะหัวเตียง 2 ตัวแบบนี้เลยค่ะ โดยระยะจากหัวเตียงถึงผนังปลายเตียงอยู่ที่ 2.8 เมตร เมื่อวางเตียงแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงสามารถเดินไป-มาได้สะดวก ส่วนความกว้างห้องจะอยู่ที่ 3.5 เมตร เมื่อวางเตียง พร้อมโต๊ะหัวเตียง 2 ฝั่งแล้วยังมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้างเลยค่ะ

ที่ผนังบริเวณปลายเตียง มีช่องเก็บของเล็กๆ ในผนังมาให้ด้วย สามารถเก็บพวกปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน หรือผ้าคลุมเตียงได้ ถือเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ

ผนังปลายเตียง เป็นผนังทึบ สำหรับใครที่ชอบนอนดูทีวี สามารถติดตั้งทีวีเล็กๆ แขวนผนังแบบนี้ได้ค่ะ ส่วนประตูฝั่งขวาจะเป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อ Walk in Closet ส่วนประตูฝั่งซ้ายเป็นประตูกระจกเชื่อมต่อระเบียงค่ะ

Walk-in closet เป็นห้องกั้นแยกเป็นสัดส่วน โดยห้องนี้จะอยู่ระหว่างห้องอาบน้ำ และ Powder room ซึ่งมีข้อดีตรงที่กรณีอยู่ด้วยกันสองคน สามารถใช้งานแยกกันได้สะดวก ไม่ต้องแย่งกัน เวลาเร่งรีบนะ

ตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ได้มีขนาดกว้าง 1.70 ม. เป็นแบบบานเปิด หน้าบานเป็นกระจก กรอบบานสีออก Copper ดูหรูหรา ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีช่องเก็บกระเป๋า และลิ้นชักสำหรับชุดชั้นในได้เป็นสัดส่วนค่ะ

ฝั่งซ้ายเป็นห้องอาบน้ำขนาด 1.4×0.8 เมตร พร้อมประตูกระจก ภายในห้องมีการออกแบบเป็นที่นั่ง ที่วางของ ลึก 40 ซม. สามารถใช้นั่ง อาบน้ำ ขัดผิว หรือวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆก็ได้ค่ะ ภายในห้องอาบน้ำได้ช่องแสงกระจกบานใหญ่ เชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกทำให้ได้แสงธรรมติค่อนข้างดีเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำได้ที่อาบน้ำแบบ Hand shower สี Polished Black จาก Roca พร้อมมีชั้นวางสบู่ แชมพูเล็กๆมาให้ด้วยแบบนี้เลยค่ะ

ระเบียงขนาด 1.15×1.9 เมตร เป็นพื้นกระเบื้องสีเทา ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมมีการวางงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อย ด้านบนแขวน Condensing units  พร้อมระแนงบังสายตา ช่วยให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอกด้วยค่ะ

1 Bedroom  Plus พื้นที่ใช้สอย 44.05 ตร.ม.

1 Bedroom Plus ขนาด 44.05 ตารางเมตร เป็นห้องตอนลึก ภายในห้องมีการแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน ฝั่งขวาเป็นส่วนพักผ่อน และห้องอเนกประสงค์ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นส่วนห้องนอน จัดฟังก์ชันมาให้สามารถอยู่อาศัยได้ 2-3 คน ภายในห้องมีจุดที่น่าสนใจดังนี้

• Common Area ขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ครัว พื้นที่ทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นภายในพื้นที่เดียวกัน และยังเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น
• ห้องอเนกประสงค์ ขนาด 2.4 x 2.7 ม. จัดเป็นห้องนอนเสริม หรือห้องนั่งเล่น ห้องทำงานได้
  ภายในห้องได้ช่องแสง 2 ด้าน ทำให้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี
• ห้องนอนขนาดใหญ่ กั้นแยกเป็นส่วนตัว ภายในห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุต โต๊ะทำงาน และ Walk in closet ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับห้องน้ำสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
• ห้องน้ำเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนและจาก Common area
• Fully furnished 14 รายการ ดังนี้
  -เตียง และฟูก
  -โต๊ะหัวเตียง 2 ตัว
  -โต๊ะวางทีวี
  -ตู้เสื้อผ้า
  -โต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะทำงาน
  -เก้าอี้ 2 ตัว
  -โซฟา
  -โซฟา ปรับเป็นเตียงได้
  -โต๊ะกลาง
  -โต๊ะทานอาหาร
  -เก้าอี้ทานอาหาร 3 ตัว
  -ตู้รองเท้า
  -ตู้เก็บของ
  -เคาน์เตอร์ครัว และชั้นเก็บของด้านบน พร้อม เตาไฟฟ้าสองหัว เครื่องดูดควัน อ่างล้างจานหลุมเดี่ยวและ ก๊อกน้ำ flexible

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับส่วนพื้นที่ Common Area ขนาดหน้ากว้าง 2.7 เมตร เป็นพื้นที่ครัว พื้นที่ทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นภายในพื้นที่เดียวกัน ด้านซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนด้านขวาจะเป็นตู้เก็บของ และประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ

ตู้เก็บรองเท้าอยู่บริเวณด้านข้างประตูเลยค่ะ โดยเมื่อเข้าห้องมาแล้วต้องปิดประตูให้เรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถเปิด ตู้เก็บรองเท้าได้ สำหรับตู้รองเท้าที่ได้ภายในห้องนี้จะเป็นแบบบานเปิดทึบ มีช่องเก็บรองเท้าด้านล่าง ตรงกลางเป็นชั้นวางของโปร่งๆ สามารถวางของที่ใช้บ่อยๆ หยิบจับได้ง่าย ส่วนด้านบนจะเป็นชั้นเก็บของที่มีตู้คอนโทรลอยู่ด้านใน ดูเรียบร้อยดีค่ะ

มาดูเคาน์เตอร์ครัวกันค่ะ ตัวเคาน์เตอร์กว้าง 2.2 เมตร Built-in เป็นตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่างแบบในรูปเลย เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่เก็บของเป็นแบบบานเปิด ลิ้นชักโดยที่เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างจะได้ชุดตะแกรงเข้ามุมบานดึง ทำให้ใช้งานพื้นที่มุมเคาน์เตอร์ครัวได้อย่างเต็มที่ สะดวกสบาย

ตู้เก็บของทั้งด้านบนจะเป็นบานเปิดทึบทั้งหมด สามารถใช้เก็บของได้ดูเรียบร้อย โดยพื้นที่เหนือตู้เย็นห้องนี้จะได้ตู้เก็บของเล็กๆ เพิ่มมาด้วยค่ะ

Top ครัวเป็นท็อปโพสต์ฟอร์ม Solid Surface ลาย terrazzo พร้อมติดตั้ง Backsplash เป็นกระจกเงา สามารถทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน จาก Hafele ส่วนอ่างล้างจาน และก๊อกยืดหยุ่นได้จาก Teka

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว จะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ที่ด้านข้างประตูจะได้ตู้เก็บของเพิ่มมาอีกชุดด้วยค่ะ

ชั้นเก็บของเป็นแบบบานเปิด ภายในมีชั้นวางของหลายขนาด สามารถเก็บของได้เยอะ อีกทั้งมีชั้นวางของโปร่งๆมาด้วยสามารถวางของที่ใช้บ่อยได้สะดวก

มาดูส่วนห้องน้ำกันบ้างค่ะ ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน การจัดวางฟังก์ชันเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งาน อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งที่ใช้งานง่ายดี

อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ กว้างประมาณ 0.6 เมตรพอดีๆ พื้นที่ใต้อ่างมีช่องเก็บของมาให้เรียบร้อยสามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเล็กๆน้อยได้สะดวกค่ะ สำหรับห้องนี้ตัวกระจกจะเป็น Smart mirror สามารถเชื่อมต่อ internet ใช้งานระบบ android สามารถเปิด Youtube ดูข่าว ฟังเพลงระหว่างใช้งานในห้องน้ำได้ค่ะ สำหรับ Fitting ในห้องน้ำ จะเป็นสี Polished Black ดูเท่ๆ จาก Roca ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำทั้งหมดก็เป็นของ Roca เช่นกันค่ะ

ห้องอาบน้ำขนาด 0.85×0.9 เมตร พร้อมติดตั้ง ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำยี่ห้อ I-spa มาด้วยครบครัน

ภายในห้องน้ำได้ที่อาบน้ำแบบ Hand shower สี Polished Black จาก Roca พร้อมมีชั้นวางสบู่ แชมพูเล็กๆมาให้ด้วยแบบนี้เลยค่ะ

ภายในห้องติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ 3 จุด พร้อมติดตั้งพัดลมดูดอากาศ บริเวณเหนือโถสุขภัณฑ์ มาให้เรียบร้อย

กลับมาที่ส่วน Common area ถัดจากส่วนครัวจะเป็นพื้นที่ทานอาหาร อยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเลยค่ะ ชุดโต๊ะที่ได้จะเป็นแบบนี้เลย พร้อมเก้าอี้ 3 ตัวเข้าชุดแบบนี้เลยค่ะ สำหรับพื้นห้องเป็นพื้นไม้ไวนิลสี White Oak ลายก้างปลาเช่นกัน

ถัดจากพื้นที่ทานอาหารเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์  ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้บริเวณนี้ได้แสงธรรมชาติ และดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

พื้นที่นั่งเล่นตรงนี้จะได้เป็นชุดโซฟามาพร้อมโต๊ะกลางแบบนี้เลยค่ะ โดยระยะระหว่างโต๊ะทานอาหารและโซฟามีพื้นที่เหลือให้สามารถเลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้สะดวกเลย

สำหรับระยะฝ้าบริเวณครัวจะอยู่ที่ 2.4 เมตร ส่วนบริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้จะอยู่ที่ 2.7 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบพร้อมติดตั้งไฟดาวน์ไลท์และ Smoke detector ป้องกันอัคคีภัยครบครัน

ระยะดูทีวีตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้ค่ะ ส่วนห้องนอนจะอยู่บริเวณขวามือ เชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่นตรงนี้เลย

โซฟาที่ได้เป็นโซฟา 2-3 ที่นั่ง สีเทา ดูแลรักษาง่ายเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลย

ชั้นวาง TV หน้าบานทึบแบบปิด สามารถเก็บของได้ดูเรียบร้อยเช่นกันค่ะ

ห้องอเนกประสงค์ ขนาด 2.4 x 2.7 ม. จัดเป็นห้องนอนเสริม หรือห้องนั่งเล่น ห้องทำงานได้
ภายในห้องได้ช่องแสง 2 ด้าน ทำให้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี

ผนังด้านนี้จะได้ช่องแสงจากบริเวณระเบียงในห้องนอนด้วย ทำให้ห้องนี้มีลักษณะเป็นแบบห้องมุม ได้ช่องแสง 2 ด้าน ทำให้บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างสว่างเลยค่ะ

สำหรับห้องอเนกประสงค์ โซฟาที่ได้จะเป็นแบบที่สามารถ ปรับเป็นเตียงได้ แบบนี้เลยค่ะ

ส่วนชุดโต๊ะทำงาน จะเป็นโต๊ะทำงานพร้อมชั้นเก็บของด้านข้าง และเก้าอี้เข้าชุดกันเลยค่ะ

มาดูโซนห้องนอนกันบ้างค่ะ ห้องนอนเชื่อมต่อกับ Common area ด้วยประตูทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว

ภายในห้องมีขนาดค่อนข้างกว้าง 2.7×5.8 เมตร เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับชุดโต๊ะ ซึ่งสามารถใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานอีกจุดได้ โดยด้านซ้ายจะเป็นเตียง และด้านขวาจะเป็น Walk-in Closet

ภายในห้อง เหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงค่อนข้างกว้าง ส่วนพื้นที่ปลายเตียง เมื่อวางชั้นวางทีวีแล้วจะเหลือพื้นที่ประมาณ 35 ซม. สามารถเดินได้พอดีๆ

สำหรับใครที่ชอบนอนดูทีวี ระยะดูทีวีตรงนี้ จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้ค่ะ

ชั้นวาง TV เป็นแบบหน้าบานทึบแบบปิด สามารถเก็บของได้ดูเรียบร้อยดี เวลาใช้งานสามารถเปิดตู้ได้พอดีๆกับระยะที่เหลือปลายเตียงเลยค่ะ

ระเบียงค่อนข้างกว้างขนาด 1.25×2.6 เมตร สามารถซักผ้าตากผ้าได้จริงจัง โดยพื้นเป็นกระเบื้องสีเทา ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมมีการวางงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อย

ผนังฝั่งซ้ายเป็นช่องกระจกเชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์ ส่วนผนังฝั่งขวาแขวน Condensing units พร้อมระแนงบังสายตา ช่วยให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอกด้วยค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้เหลือค่อนข้างกว้างเช่นกัน สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ โดยโต๊ะหัวเตียงที่ได้จะเป็นแบบนี้เลยค่ะ

มาที่โซนด้านในกันบ้างตรงนี้จะเป็น Walk-in closet ขนาดใหญ่ เป็นตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่ง สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ ซึ่งบริเวณนี้จะมีประตูบานเลื่อน เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้เลย สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

ตัวตู้ออกแบบมาให้เป็นกระจกทั้งหน้าบาน และด้านข้างตู้ ซึ่งช่วยให้ดูโปร่ง ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ โดยระยะระหว่างตู้อยู่ที่ 1.0 เมตร เดินสวนกันได้สบาย

ตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ได้มีขนาดกว้าง 1.5 เมตร เป็นแบบบานเปิด หน้าบานกระจก กรอบบานสี Copper ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีช่องเก็บกระเป๋า และลิ้นชักสำหรับชุดชั้นในได้เป็นสัดส่วนค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.82 – 34.97 ตร.ม.

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.27 – 49.33 ตร.ม.

2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.24 – 72.74 ตร.ม.

Chapter Chula – Samyan ราคา ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.82 – 34.97 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.27 – 49.33 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.89 ล้านบาท
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.24 – 72.74 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.2 ล้านบาท
• 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 94.22 ตร.ม. ( Sold Out )
• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 – 2.70 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปโพสต์ฟอร์ม Solid Surface ลาย terrazzo
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ HAFELE
• จอง 50,000 บาท
• ทำสัญญา 50,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

โครงการตั้งอยู่บนถนนสี่พระยามีสภาพแวดล้อมเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเก่าแก่ดั้งเดิม บรรยากาศบนถนนนี้จะค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวมากกว่าถนนข้างเคียงซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานตึกสูง โรงแรม อยู่อย่างหนาแน่น

ความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากเป็นทำเลใจกลางเมืองมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อย่างแหล่งอาหารการกินที่ใกล้ๆ บนถนนสี่พระยาจนถึงถนนเจริญกรุง จะมีแหล่งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ อยู่เยอะเลย อีกทั้งยังใกล้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  และโรงเรียนชั้นนำหลายแห่ง นอกจากนั้นยังใกล้โรงพยาบาลเอกชน และสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง อุทยาน 100 ปี และสวนลุมพินีอีกด้วย หรือใครชอบเดินห้างใหญ่ๆ ก็สามารถเดินทางไปสยามได้สะดวก ไม่ไกลจากโครงการ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ถือว่าสะดวกเลยค่ะ โดยตั้งอยู่บนถนนสี่พระยาบริเวณแยกนเรศ ทำให้ถนนหน้าโครงการยังเป็น Two-Way เดินทางเข้าเมืองไปทางพระราม 4 สีลม สาทร หรือขึ้นทางด่วนง่าย อีกทั้งโครงการยังให้ที่จอดรถมาถึง 63% ( Automated Parking ) ซึ่งถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะเลยสำหรับคอนโดที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

จากโครงการสามารถเดินไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี สามย่านได้ในระยะทาง 700 เมตร ระหว่างทางมีทางเท้า และร่มเงาจากอาคารและต้นไม้อยู่ตลอดเดินไปได้ง่าย อีกทั้งถนนสี่พระยาบริเวณหน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งอยู่ตลอดเวลา ทั้งรถเมล์ แท็กซี่ หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์ ก็มีผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆ เรียกใช้บริการกันได้ง่ายจากหน้าโครงการเลยค่ะ

วัสดุ :

เป็นโครงการที่ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องครบ พร้อมฟูก และเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์ และ Smart mirror สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก เครื่องใช้ไฟฟ้า และชุดเครื่องนอน หมอน ผ้าม่าน เพิ่มเติมนอกนั้นก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย

นอกจากนั้นวัสดุอื่นๆ จะได้ พื้นไม้ไวนิล ที่มีคุณสมบัติทนน้ำ ทนสารเคมีมากกว่าพื้นลามิเนต สี White Oak ลายก้างปลา ห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 60×60 ซม. พร้อม Digital Door Lock จาก HAFELE เคาน์เตอร์ครัว ท็อป Post form อุปกรณ์ครัวได้เตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน ของ HAFELE และอ่างล้างจาน 1 ของ Teka พร้อม Backsplash กระจกเงา

การออกแบบ :

เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวน 179 ยูนิตที่ถือว่าน้อย เป็นอันดับต้นๆ ในย่านนี้ อีกทั้งการออกแบบที่แยกชั้นส่วนกลางและชั้นพักอาศัยชัดเจน โดยที่ยูนิตต่อชั้นสูงสุดมีเพียง 11 ยูนิต ยิ่งชั้นสูงๆ จะเหลือเพียง 4 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ทำให้บรรยากาศภายในโครงการเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมาะต่อการอยู่อาศัย ส่วนการออกแบบทำได้ดีทีเดียว มีการออกแบบ พื้นที่ภายในให้ มีการบิดแกนองค์ประกอบต่างๆ ดูทันสมัย แปลกตา น่าใช้งาน

สาธารณูปโภค :

มีส่วนกลางให้ใช้หลากหลาย 5 ชั้นเต็มพื้นที่ ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตในโครงการแล้ว ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะ โดยส่วนกลางหลักๆ จะแบ่งเป็นโซนชั้น 1-2 เป็นพื้นที่ Lobby, Co-working space และโซน ชั้น 23-25 เป็นพื้นที่นั่งเล่น สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันได้หมดทั้ง 3 ชั้นด้วย บันไดกลางสวน Urban forest สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี โดยมีค่าส่วนกลางอยู่ที่ 75 บาท/ตร.ม./เดือน สูงกว่ารอบข้างสักหน่อย แต่ก็แลกมาด้วย ความเป็นส่วนตัวสูง ยูนิตน้อย คนใช้ส่วนกลางไม่พลุกพล่าน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG  180,000  บาท/ตร.ม., 30 กันยายน 2565

• ทำเล 7.75/10 –  ติดถนนสี่พระยา ใกล้ห้างและจุฬาไม่ไกลจากออฟฟิศย่านสีลม สาทร
• เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ถนนหน้าโครงการ Two-Way เดินทางได้สะดวก สามารถใช้ซอยลัดได้ ใกล้ทางด่วน ที่จอดรถ 63%
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ใกล้ MRT สามย่าน 700 ม. หน้าโครงการสามารถเรียก แท็กซี่ รถประจำทาง และวินมอเตอร์ไซค์ได้ตลอดเวลา
• วัสดุ 8.5/10 – Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องครบ พร้อมฟูก และเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์ และ Smart mirror ส่วนวัสดุอื่นๆ ค่อนข้างดีเหมาะสมตามราคา
• แบบ 8.5/10 – มีการจัดฟังก์ชันภายในห้องลงตัว ออกแบบทำออกมาได้ดี น่าใช้งาน
• สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครัน 5 ชั้นเต็มพื้นที่ ยูนิตน้อย คนใช้ส่วนกลางไม่พลุกพล่าน

• HIGH CLASS
• 8.0375 / 10.00

Chapter Chula – Samyan เหมาะกับใคร

Chapter Chula – Samyan เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด High Rise ในทำเลสามย่าน ทำเลใจกลางเมืองแต่ไม่จำเป็นต้องติดถนนหลัก ในราคาที่สามารถจับต้องได้ เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัว และรถไฟฟ้า โดยอาจจะเป็นผู้ปกครองมองหาคอนโดให้นักศึกษา หรือกลุ่มคนทำงานย่านสีลม-สาทร อยากได้โครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูง คนใช้ส่วนกลางไม่พลุกพล่าน มีงบประมาณ 5-10 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 35,000 – 70,000 บาท/เดือน

Chapter Chula – Samyan จะมีงาน Openhouse ในวันที่ 29-30 ตุลาคมนี้นะคะ ใครสนใจสามารถลงทะเบียนได้ผ่าน Link นี้ได้ค่ะ > https://bit.ly/3rtiqfz

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc