รีวิวฉบับที่ 1947 … ย่านรัชดาฯ-ห้วยขวางถือเป็นทำเลยอดนิยมของคนที่มองหาคอนโดใกล้ที่ทำงาน (ย่านรัชดาฯ-พระราม9) และมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะเลยค่ะ สำหรับใครที่มองหาคอนโดตึกเสร็จแต่งครบแบบยกกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลยล่ะก็ วันนี้มีรีวิวโครงการ Brown รัชดา – ห้วยขวาง คอนโด Low Rise ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 เดินทางสะดวกอยู่ห่างจาก MRT ห้วยขวาง 900 เมตร โครงการนี้เขาแต่งครบพร้อมอยู่พร้อมมีระบบ Bluetooth Sound System และ Temperature control ภายในทุกยูนิตอีกด้วย ในราคาเริ่มต้น 2.16 ล้านบาท บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

Fact @ 18 SEPTEMBER 2019

  • Brown Ratchada-Huaikwang (บราวน์ รัชดา – ห้วยขวาง)
  • บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 เขต ห้วยขวาง
  • ที่ดินประมาณ 1-1-18 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 202 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ  40% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • เริ่มก่อสร้าง :  n/a
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q3 2562
  • 1 Bedroom 22.74-24.71 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.50-3.06 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra 28.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.10-3.70 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive 24.98-25.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น  2.68-3.18 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus Exclusive 33.35-34.93 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.70-4.42 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 49.1 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้น : 2.16 ล้านบาท (โปรโมชั่น)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 98,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 02-168-0000

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.780468, 100.580116
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Brown รัชดา-ห้วยขวาง ตั้งอยู่ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ และซอยรัชดาภิเษก 18 ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวางประมาณ 900 เมตร ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญเองเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษก ไปยังแยกห้วยขวาง บริเวณแยกนี้เป็นแหล่งชุมชนพักอาศัย มีความคึกคักค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ เนื่องจากมีทั้งแหล่งงาน สถานศึกษาและร้านค้าร้านอาหารหลากหลาย จึงทำให้มีการจราจรที่หนาแน่นตามไปด้วยในชั่วโมงเร่งด่วนของวัน

การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าค่อนข้างสะดวก เนื่องจากทำเลนี้มีเส้นทางลัดเลาะออกไปยังถนนหลักได้หลายเส้นทาง สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งซอย 20 มิถุนา , ถนนประอุทิศ, ถนนเทียมร่วมมิตร เพื่อไปออกถนนหลักอย่าง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม,ถนนสุทธิสาร และถนนพระราม 9 ได้ จากสี่แยกห้วยขวาง ถ้าขับขึ้นเหนือไปตามถนนรัชดาภิเษกก็จะไปยังลาดพร้าว หรือจะขับลงใต้เพื่อเข้าเมือง สามารถไปอโศก-พระราม 9 ได้ ซึ่งแยกพระราม 9 เองก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเป็นแหล่งที่มีการเจริญเติมโตและคึกคักมากทีเดียว เนื่องจากมีห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน รวมถึงที่อยู่อาศัยมากมายค่ะ สำหรับใครที่จะไปถนนวิภาวดี-รังสิตก็ไม่ยากเลย เพียงเข้าสู่ถนนประชาสงเคราะห์จากสี่แยกห้วยขวาง ก็สามารถลัดไปออกถนนวิภาวดี-รังสิตได้อีกด้วยค่ะ

นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว ทำเลนี้ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะที่ทำได้ไม่ยาก ซึ่งโครงการอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวางประมาณ 900 เมตร เป็นทำเลที่อาจจะต้องนั่งมอเตอร์ไซค์เข้า-ออก แต่ก็แลกกับราคาห้องที่ถูกกว่าติดถนนใหญ่ค่ะ และบนถนนเส้นรัชดาเองก็จะมีรถ Taxi และรถประจำทางอยู่แล้ว สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวกเลยค่ะ

ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ถือว่าหายห่วงกันได้เลยค่ะ รอบๆโครงการจะเป็นชุมชนพักอาศัยเสียส่วนใหญ่ จึงมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่บ้างประปรายทั้งในซอย และบนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เดินจากโครงการออกมาประมาณ 50 เมตรก็จะเจอกับร้านสะดวกซื้ออย่าง  7-Eleven แล้ว บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญเองก็จะมี ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายยา และสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่มากพอสมควรเลย

ถัดออกมาหน่อยบนถนนรัชดาภิเษกเองก็จะมีตลาดนัดอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะเมื่อออกมาที่สี่แยกห้วยขวางและถนนประชาสงเคราะห์ ก็เป็นที่รู้จักกันดีของคนในย่านนี้ว่านี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดห้วยขวาง และ Bar&Restaurant หลายร้าน ถัดออกมาอีกไม่กี่สถานีก็จะสามารถไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง The Street, Big C, Esplanade, ตลาดรถไฟ, ฟอร์จูนทาวน์ และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ได้ นอกจากนั้นยังมีอาคารสำนักงานอยู่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ตึก RS, ตึก AIA, Cyber World, ตึก True และอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่ง ทั้งสถานทูตจีน สถานทูตเกาหลี สถานทูตลาว และสถานทูติกัมพูชา ซึ่งเรามักจะเห็นชาวจีนเดินกันทั่วไปในทำเลนี้เลยค่ะ

การเดินทางที่เราจะพาไปโครงการในวันนี้เริ่มจากถนนรัชดาภิเษกบริเวณสถานี MRT รัชดาภิเษก ตรงมมาที่แยกถนนสุทธิสารวินิจฉัย ตรงมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดา 18 เข้าสู่ถนน 20 มิถุนา แล้วเลี้ยวเข้าสู่ซอย ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 มาประมาณ 400 เมตร ก็เจอโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือค่ะ

เริ่มจากบนถนนรัชดาภิเษก ขับตรงมุ่งหน้าไปยังถนนสุทธิสารวินิจฉัย ผ่านอาคารโอลิมเปีย และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก

ตรงไปตามป้ายบอกทางห้วยขวาง ให้ลงอุโมงค์ค่ะ

ลอดผ่านอุโมงค์แยกสุทธิสาร ไปแล้วให้เตรียมตัวชิดซ้ายค่ะ

ขึ้นมาจากอุโมงค์ให้รีบเข้าซ้ายเพื่อจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดา 18 ซึ่งเป็นทางลัดไปออกถนนลาดพร้าวได้ค่ะ

ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆจะเจอทางบังคับให้เลี้ยวขวาค่ะ

ตามทางมาเรื่อยๆจะเจอกับแยกซอย 20 มิถุนา ให้เราเลี้ยวขวาเข้าสู่ซอย 20 มิถุนา

ตรงมาหน่อยจะมีจุดสังเกตคือ 7-Eleven ฝั่งซ้ายมือ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอย 20 มิถุนา แยก 22 ก่อนถึง 7-Eleven ค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับทางให้เลี้ยวซ้าย

เข้าสู่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 จะมองเห็นโครงการอยู่ไม่ไกลค่ะ

เมื่อมาจากซอยรัชดา 18 แล้วเข้าสู่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11  จะเห็นโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนพักอาศัย จึงมีอาคารพักอาศัยอยู่เต็มพื้นที่ สูงตั้งแต่ 1-2 ชั้นไปจนถึง 8 ชั้น  ทำให้บางส่วนของห้องโดนบังวิวไปบ้างแต่ไม่มีวิวที่ปะทะกับอาคารอื่นโดยตรงในระยะใกล้ค่ะ นอกจากอาคารฝั่งตรงข้ามทางทิศตะวันออกที่เป็นอาคารสูง 8 ชั้นเช่นกัน อาคารโดยรอบที่ดินต่างๆสามารถสรุปได้ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 2-4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 2-6 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 2 ชั้น, ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 9 มองเห็น อาคารพักอาศัยสูง 2-8 ชั้น

บรรยากาศด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือ เป็นอาคารพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น ส่วนใหญ่ด้านหน้าเปิดเป็นร้านค้าทั่วไป

ตรงข้ามซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 ทางทิศตะวันออก เป็นอาคารพักอาศัยสูง 4-8 ชั้น มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าโครงการทางทิศใต้ ติดกับอาคารพักอาศัยสูง 6 ชั้น

เมื่อเดินมาประมาณ 50 เมตรก็จะเจอกับ 7-Eleven ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดห้วยขวาง ∼ 1.5 km.
  • ตลาดเมืองไทยภัทร ∼ 1.6 km.
  • Cyber World ∼ 1.9 km.
  • ม.หอการค้า ∼ 2.2 km.
  • ศูนย์วัฒนธรรมฯ ∼ 2.3 km.
  • เมืองไทยประกันชีวิต ∼ 2.5 km.
  • สถานทูตเกาหลี ∼ 2.6 km.
  • สยามนิรมิตร ∼ 2.7 km.
  • บุญถาวร รัชดาภิเษก ∼ 2.8 km.
  • ตลาดนัดรถไฟรัชดา ∼ 2.9 km.
  • Esplanade ∼ 2.9 km.
  • RS Tower ∼ 3 km.
  • ตึก True ∼ 3.2 km.
  • Big C Extra ∼ 3.2 km.
  • สถานทูตกัมพูชา ∼ 3.2 km.
  • The Street รัชดา ∼ 3.3 km.
  • สถานทูตลาว ∼ 3.3 km.
  • ฟอร์จูนทาวน์ 3.5 km.
  • Central Rama 9 ∼ 3.5 km.
  • Golden Place ∼ 4 km.
  • สถานทูตจีน ∼ 4.2 km.
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ∼ 4.2 km.
  • AIA ∼ 4.3 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

Brown รัชดา-ห้วยขวาง เป็นคอนโด Low Rise 1 อาคารบนที่ดินขนาด 1-1-18 ไร่ มีจำนวนทั้งหมด 202 ยูนิตถือว่าไม่หนาแน่นจนเกินไป ซึ่งปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วค่ะ ภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

มาดูผังของโครงการกันก่อนนะคะ ที่ชั้น 1 พื้นที่ทั้งหมดจะเป็นลานจอดรถ ทั้งหมดประมาณ 80 คัน (รวมจอดซ้อนคัน) หรือประมาณ 40 %ของจำนวนยูนิต ค่อนข้างเพียงพอเนื่องจากทำเลนี้ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างมอเตอร์ไซค์รับจ้างและรถไฟฟ้าอยู่ค่ะ โดยทางเข้า-ออกของโครงการจะมีจุดเดียว อยู่ติดกับซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 หรือซอย ส.เกียรติชัย 2 ทางทิศตะวันออก เมื่อเข้ามาแล้วก็สามารถวนหาที่จอดรถตามเส้นประสีส้มได้เลยค่ะ ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่ตรงกลางฝั่งขวามือมีลิฟต์ทั้งหมด 2 ตัวค่ะ โดยโถงลิฟต์จะต้องใช้ Key Card ในการแตะเข้าไป และแตะภายในลิฟต์อีกครั้งเพื่อกดชั้นของตัวเองหรือชั้นส่วนกลางค่ะ (ล็อคชั้น)

บรรยากาศทางเข้าด้านหน้าโครงการ ติดกับซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 หรือซอย ส.เกียรติชัย 2

ทางเข้า-ออกจะใช้ทางเดียวกันแบ่งเป็น 2 เลน ปัจจุบันจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยเปิดป้ายกั้นให้ อยู่ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

ฝั่งขวามือจะเป็นซุ้มของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงและมีกล้อง CCTV คอยบันทึกรถที่เข้า-ออกด้วยค่ะ

เข้ามาแล้วจะเห็นว่าชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดนะคะ สามารถเข้าอาคารได้โดยประตูทางฝั่งขวามือ

ลานจอดรถสามารถจอดในช่องจอดได้ทั้งหมด 66 คัน รวมจอดซ้อนคันประมาณ 40 % ค่ะ

ทางเข้าโถงลิฟต์จะต้องมี Key Card แตะเข้าไปนะคะ สำหรับแขกนั้นจะมีเจ้าหน้าที่พาขึ้นไปยัง Lobby หรือเรียกเพื่อนมารับก็ได้เช่นกันค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น 1 จะมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ดูสวยงาม มีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 1 : 101 ถือว่าพอดีๆ ไม่หนาแน่นจนเกินไป

ภายในลิฟต์มีกระจกเงาอยู่ด้านหลังทำให้ดูกว้างมากขึ้นดูไม่อึดอัด สามารถรองรับได้ครั้งละไม่เกิน 10 คนค่ะ

ชั้น 2 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย และมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วยค่ะ โดยส่วนพักอาศัยจะแยกกับพื้นที่ส่วนกลางชัดเจน มีประตูกั้นที่โถงลิฟต์มาให้ คนที่อยู่ชั้นอื่นจะไม่สามารถเดินเข้าไปยังพื้นที่พักอาศัยของชั้นนี้ได้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านค่ะ ตัวอาคารจะเป็นรูปตัว L โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มี Single Corridor บางส่วนทางทิศเหนือ เนื่องจากอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางอีกฝั่งจึงเป็นผนังทึบทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีคนเดินผ่านหน้าห้องไป-มาน้อย ห้องส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom จะมีห้อง 2 Bedroom อยู่ในตำแหน่งสีส้ม เป็นห้องที่ได้วิวสวยค่ะ

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้จะมีการเล่นระดับ โดยจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงอยู่ระดับเดียวกับชั้น 2 เดินขึ้นมาหน่อยจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ มีสระเด็กและผู้ใหญ่สามารถมาเล่นได้ทั้งครบครัว เชื่อมต่อกับ Lobby ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือชิลๆ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ค่ะ โดยจะมีห้องแยกเป็นพื้นที่ Multi-Function สามารถใช้เป็นห้องสมุด และพื้นที่ดูหนังได้ อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่เดินขึ้นไปยังห้อง Fitness ค่ะ ซึ่งบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวจะพาไปดูค่ะ

ออกมาจากลิฟต์ชั้น 2 ก็จะเจอกับโถงลิฟต์มีการตกแต่งด้วยผนังกระจกและกระเบื้องลายหินอ่อนดูสวยงาม ด้านข้างลิฟต์จะเป็นห้อง Mail Box รวม ซึ่งจะใช้งานสะดวกสำหรับคนที่อยู่ชั้น 2 นี้ แต่ลูกบ้านชั้นอื่นจะต้องออกจากลิฟต์มาหยิบจดหมายก่อนขึ้นลิฟต์อีกครั้ง อาจจะทำให้เสียเวลาไปหน่อย เพราะไม่ได้มี Mail Box แยกชั้นมาให้ค่ะ ระหว่างโถงลิฟต์จะมีประตูกั้นไปยังโถงทางเดินของห้องพักอาศัย ซึ่งจะมีให้ทุกชั้นเลยค่ะ ข้อดีคือ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านมากขึ้น

ภายในห้อง Mail Box จะรวมจดหมายของทุกยูนิตเรียงตามเลขที่อยู่ที่นี่เลยค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งเป็นทางออกไปยังพื้นที่ส่วนกลาง(ฝั่งซ้าย) และห้องนิติบุคคล(ฝั่งขวา)

เมื่อเราออกมายังพื้นที่ส่วนกลางก็จะเห็นบรรยากาศแบบนี้ค่ะ ตอนกลางวันจะไม่ร้อนมากเนื่องจากมีเงาอาคารบังไว้ให้ ฝั่งขวามือจะเป็นทางเดินขึ้นไปยังสระว่ายน้ำค่ะ

มาดูฝั่งซ้ายมือกันก่อนนะคะ ฝั่งนี้จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงมาให้ชัดเจน

ภายในห้องน้ำจะมีทั้งพื้นที่สุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำมาให้สำหรับคนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำหรือ Fitness ค่ะ

เดินขึ้นมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ มีเก้าอี้นั่งเล่นมาให้ 2 แบบ แบบละ 2 ตัว สำหรับนั่งพักผ่อนดูเด็กๆว่ายน้ำเล่นสบายๆ ซึ่งสระที่นี่จะเป็นสระระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5.00 x 15.00 เมตร มองเห็นวิวด้านนอกซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยสูง 2-8 ชั้น

ด้านซ้ายมือจะมองเห็นวิวห้องพักอาศัยของเราเอง ซึ่งห้องพักตั้งแต่ชั้น 3-8 ก็จะสามารถมองลงมาเห็นวิวสระว่ายน้ำได้เช่นกัน

ริมสระว่ายน้ำจะมีม่านน้ำตกเพิ่มเสียงน้ำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงา และมี Shower ล้างตัวอยู่ด้านข้างให้ 1 จุดค่ะ

ริมอีกฝั่งของสระว่ายน้ำจะมีสระเด็กแยกมาให้สำหรับคุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆมาเล่นน้ำได้ค่ะ

เข้ามาด้านใน Lobby จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์สามารถใช้เป็นพื้นที่ประชุม นั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานได้ จากห้องนี้จะมีทางเดินไปยังห้อง Multi-Function Room(ฝั่งซ้าย) และทางขึ้น Fitness(ฝั่งขวา)

เข้ามาดูห้องทางฝั่งซ้ายกันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็น Library มีชั้นวางหนังสือไว้ให้ และเป็นโซนที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากกว่า Lobby สำหรับคนที่ชอบนั่งอ่านหนังสือเงียบๆสบายๆ ก็มานั่งเล่นในห้องนี้ได้ ไม่ต้องเปิดแอร์ที่ห้องตัวเองค่ะ อิอิ

ภายในห้องนี้ยังมีพื้นที่นั่งทำงาน และโซฟาสำหรับนั่งดูหนัง หรือTV ด้วย ซึ่งโดยรอบห้องทั้งหมดจะเป็นกระจกทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาเพียงพอค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นเคาน์เตอร์นั่งทำงานได้เหมือนกันค่ะ

โดยห้องนี้จะเป็นส่วนแจกไปยังห้อง Fitness(เดินขึ้นบันได) และห้องนิติบุคคล(ลงบันไดขวามือ) ซึ่งห้อง Fitness จะตรงกับชั้นพักอาศัยที่ 3 ค่ะ

ชั้น 3 จะมีการวางผังห้องเหมือนกับชั้น 2 ตรงพื้นที่ส่วนกลางคือห้อง Fitness แต่ไม่สามารถเดินไปใช้งานได้จากชั้นนี้นะคะ ต้องลงไปที่ชั้น 2 แล้วเดินผ่านทาง Lobby ขึ้นไปเท่านั้นค่ะ ซึ่งทำให้ชั้นนี้ไม่ต้องวุ่นวายจากการที่มีคนผ่านไปมาเยอะค่ะ

ภายในห้อง Fitness ขนาดไม่ใหญ่ มีเครื่องออกกำลังกายให้ประมาณ 10 เครื่อง ค่อนข้างหลากหลายทีเดียวค่ะ ซึ่งจะแยกส่วนกันระหว่างพื้นที่ Cardio และ Weight Training ตรงส่วน Cardio สามารถมองลงไปเห็น Lobby และสระว่ายน้ำได้

โซน Weight Training ก็จะแยกออกมาอีกฝั่งหนึ่งดูเป็นสัดส่วนดีค่ะ แต่เสียดายที่ได้ช่องแสงเพียงฝั่งเดียวทำให้พื้นที่ดูเล็กไปหน่อยค่ะ

ชั้น 4-7 เป็นชั้น Typical Floor Plan มีห้องพักทั้งหมด 30 ยูนิต โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ทั้งหมด มีช่องเปิดที่โถงทางเดินและโถงลิฟต์รวม 3 จุด ทำให้อากาศสามารถไหลผ่านทางเดินได้ และได้แสงธรรมชาติเข้ามาด้วยค่ะ ห้องส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom(สีเทา) โดยโครงการจะเน้นห้องพักอาศัยขนาดใหญ่หน่อยไว้ที่มุมอาคาร เป็นจุดที่มีความเป็นส่วนตัวสูงเนื่องจากมีคนเดินผ่านหน้าห้องน้อย และมองเห็นวิวได้ดี

ชั้น 8 จะมีการวางผังเหมือนกับชั้น 4-7 แต่จะปรับเปลี่ยนห้องทางทิศตะวันออกเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.74 ตารางเมตร (สีชมพูอ่อน) เล็กลงหน่อยแต่เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นว่ามีการเล่นระดับ ร่นผนังเข้ามาเล็กน้อยค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย จะไม่ได้ตกแต่งเหมือนกับชั้นพื้นที่ส่วนกลางนะคะ เป็นผนังฉาบเรียบทาสี แต่จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง ทำให้โถงลิฟต์ดูโปร่งไม่อึดอัดและยังสามารถเปิดหน้าต่างให้อากาศไหลเวียนได้ ซึ่งชั้นนี้จะมีประตูทางออกไปยังสวนบนชั้นดาดฟ้าด้วยค่ะ

อีกฝั่งจะมีประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์และโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยมาให้ ช่วยในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นนี้ค่ะ

บรรยากาศภายในโถงทางเดิน ผนังฝั่งหนึ่งจะทาสีเป็นสีฟ้าโทนน้ำเงิน ให้มีลูกเล่นไม่ขาวโพลนไปหมดค่ะ

เมื่อเราเดินขึ้นมาจากชั้น 8 ก็จะเจอกับพื้นที่สวนชั้นดาดฟ้าค่ะ

เดินออกมาแล้วจะเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง ประดับด้วยไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นเพิ่มบรรยากาศสีเขียวให้ดูไม่แห้งแล้ง ส่วนหญ้าจะเป็นหญ้าเทียมดูแลรักษาง่าย มีสีเขียวอยู่ตลอดนะคะ นอกจากนั้นยังมีที่นั่งหลายจุดสามารถขึ้นมาจัดปาร์ตี้ ทำบาบีคิวกินกับเพื่อนๆได้ค่ะ

ที่นั่งเล่นก็มี ใครชอบรับลมช่วงเย็นๆอากาศไม่ร้อนแล้วก็เอาหนังสือขึ้นมาอ่าน หรือเอาคอมขึ้นมานั่งทำงานก็ได้นะคะ

เก้าอี้แบบนั่งจับกลุ่มคุยหรือดื่มก็มีค่ะ เราสามารถขึ้นมานั่งเล่นบริเวณนี้ได้ แม้จะไม่เน้นวิวด้านนอกมากนัก ทางโครงการจึงแต่งภายในให้ดูสวยแทนค่ะ

โดยรวมแล้วสวนด้านบนดาดฟ้าทำออกมาสวยงามน่าใช้ทีเดียวค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
  • Lobby
  • Library
  • Multi-Function Room
  • Meeting Area
  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5.00 x 15.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • มีการแบ่งสระเด็ก ลึกประมาณ 0.6 เมตร ขนาดประมาณ 1.50 x 1.50 เมตร
  • ห้องออกกำลังกายขนาด เล็ก ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 101 :  1
  • Service Lift – ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 80 คันคิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card และ รปภ.24 ชั่วโมง


Product Walkthrough

ภายในโครงการมีห้องทั้งหมด 5 Type ด้วยกันนะคะ โดยแต่ละ Type ก็จะมีรูปแบบแตกต่างกันไป ถือว่ามีให้เลือกหลากหลายแบบ ขนาดตั้งแต่ 22.74-49.10 ตารางเมตร แบ่งดังนี้

  • 1 Bedroom 22.74-24.71 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra 28.40 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive 24.98-25.40 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus Exclusive 33.35-34.93 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 49.1 ตร.ม.

ซึ่งภายในห้อที่ได้จะเป็นรูปแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ โดยจะได้โซฟา, ชั้นวาง TV, ชุดครัว, ฐานเตียง, เครื่องปรับอากาศ และตู้เสื้อผ้า พร้อมระบบ Temperature control และ Bluetooth System มาให้ภายในห้องด้วยค่ะ

เรามาดูห้องแบบแรกกันค่ะ ห้องนี้เป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ขนาดประมาณ 24.98-25.40 ตารางเมตร เป็นห้องที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน เข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนนั่งเล่นก่อน พื้นที่นั่งเล่นจะได้แสงธรรมชาติและวิวจากประตูบานเลื่อนกระจกของห้องนอนและส่วนครัวทำให้ห้องสว่างค่ะ ภายในห้องนั่งเล่นจะมีระยะค่อนข้างกว้างทำให้วางโต๊ะกลางแล้วมีพื้นที่เหลือเดินได้สบายๆค่ะ ด้านหลังพื้นที่ TV จะเป็นห้องน้ำ ข้อดีคือ เวลามีแขกมาที่ห้องสามารถเข้าห้องน้ำได้สะดวกไม่ต้องเดินผ่านห้องอื่นๆ แต่ก็จะทำให้เสียพื้นที่ด้านข้างสำหรับชั้นวาง TV ไปค่ะ ซึ่งห้องนี้อาจจะต้องทำชั้นนวางรองเท้าเพิ่มเติมไว้ใต้ชั้นวาง TV นะคะ ส่วนครัวจะได้เป็นครัวปิดติดกับระเบียง ทำให้เปิดประตูเพื่อระบายอากาศเวลาทำอาหารที่มีกลิ่นได้ ซึ่งภายในครัวจะมีพื้นที่กว้างหน่อยสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆได้ ห้องนอนจะแยกออกมาเป็นพื้นที่ส่วนตัว ขนาดพอดี ได้ช่องแสงค่อนข้างกว้างทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ และมองเห็นวิวได้กว้าง ด้านข้างเตียงจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ค่ะ ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่ 1-2 คน ชอบพื้นที่การใช้งานห้องต่างๆแยกเป็นสัดส่วน ชอบทำอาหารและสามารถระบายอากาศภายในห้องได้ดี เป็นต้น

มาดูกันที่หน้าห้องก่อนนะคะ เริ่มจากประตูห้องจะได้เป็นประตูบาน HDF หรือ High Density Fiberboard ซึ่งจะมีทนทานกว่า MDF ทั่วไป มือจับเป็นก้านโยก และติดตั้ง Digital Door Lock ให้ จาก Yale ซึ่งสามารถตั้งรหัส และใช้ Key Card ได้ค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะแจกไปยังห้องน้ำ(ซ้ายมือ) ห้องนอน และห้องครัว ซึ่งภายในห้องจะได้แสงธรรมชาตที่เข้ามาผ่านประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ ห้องนี้มีฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว และไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้ามาให้ ปูพื้นด้วย Smart ไวนิลหรือกระเบื้องยางลายไม้ มีข้อดีคือทนต่อน้ำและรอยขีดข่วนได้มากกว่าลามิเนตค่ะ  การปูพื้นด้วยกระเบื้องชนิดนี้จะทำได้ยากกว่าเพราะต้องทำการฉาบพื้นคอนกรีตด้านล่างให้เรียบจริงๆไม่งั้นจะปูไม่ได้เลย แต่ก็จะได้สัมผัสที่ใกล้เคียงไม้น้อยกว่าหน่อยนะคะ

ภายในห้องส่วนนั่งเล่นจะมีนวัตกรรม Bluetooth Sound System(ภาพบน) ติดตั้งไว้ให้ เป็นระบบลำโพงที่เชื่อมต่อสัญญาณด้วย Bluetooth สามารถเชื่อมต่อโดยใช้ Bluetooth ผ่าน Smart Phone เปิดเพลงฟังสบายๆภายในห้องได้เลย โดยลำโพงจะติดให้ 2 จุดคือ ห้องนั่งเล่นและห้องนอนค่ะ ส่วนเเผงด้านล่างจะเป็น Temperature control สามารถตั้งค่าอุณหภูมิภายในห้องได้ โดยถ้าอุณหภูมิสูงเกินค่าที่ตั้งไว้ จะทำให้พัดลมระบายอากาศภายในห้องน้ำทำงานอัตโนมัติ ช่วยระบายความร้อนออกจากห้อง และภายในห้องจะได้สวิตช์ไฟจาก Siemens ค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีความกว้างประมาณ 2.10 เมตร ซึ่งโครงการให้เฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟามาด้วย ข้อดีคือ ได้เฟอร์นิเจอร์พอดีกับพื้นที่ และไม่ต้องหาซื้อเองให้ยุ่งยากค่ะ

ส่วนระยะดู TV ของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 3.10 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 40 นิ้วค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ให้ชั้นวาง TV มาด้วย ใครที่ต้องการชั้นวางเพิ่มเติมสามารถต่อเติมด้านบนได้ แต่ต้องเผื่อระยะของเครื่องปรับอากาศไว้ด้วยนะคะ

ชั้นวาง TV มีช่องเก็บของมาให้ เป็นบานเปิด 2 ข้าง ไว้สำหรับเก็บหนังสือ หรือเครื่องเล่นเกม หรือเก็บ Board Game ก็ได้หลายกล่องนะคะ สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่วางรองเท้า แนะนำให้ซื้อกล่องเก็บรองเท้ามาวางด้านล่างชั้นวาง TV ค่ะ

มาดูห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำมีพื้นที่แยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน มีผนังและพื้นปูด้วยกระเบื้อง Ceramic โทนสีขาวครีมเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ลายไม้ที่ได้ค่ะ

อ่างล้างหน้า เป็นอ่าง Ceramic สีขาว จาก Cotto ด้านล่างเป็นช่องเก็บของไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดภายในห้องน้ำได้ค่ะ และมีกระจกเงาบานพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่ติดตั้งมาให้ด้วย

โถสุขภัณฑ์ มีอุปกรณ์ประกอบอย่างสายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระติดตั้งมาให้ ทั้งหมดจาก American Standard หรือเทียบเท่า

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้เป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กรอบบาน UPVC สีขาว จาก Shower King ช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอกค่ะ

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 0.80 เมตร ยืนอาบได้สบาย บนผนังมีช่องวางของมาให้ สำหรับใครที่ต้องการชั้นวางเพิ่มสามารถกั้นชั้นเองได้นะคะ ซึ่งโครงการทำช่องมาให้ค่อนข้างลึกทีเดียวสามารถวางของได้เยอะเลยค่ะ ส่วนฝักบัวที่ได้เป็นของ Prema พร้อมเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ส่วนครัวจะได้เป็นครัวปิด กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เวลาทำอาหารกลิ่นจะไม่ฟุ้งกระจายออกมารบกวนพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนค่ะ

ภายในครัวมีเคาน์เตอร์มาให้ฝั่งหนึ่ง และเหลือพื้นที่กว้างประมาณ 1.30 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ 2 ที่นั่งแบบในห้องตัวอย่างเพิ่มเติมได้ค่ะ

Top ครัว ติดตั้งอ่างล้างจาน Stainless , เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควัน ระบบหมุนเวียนอากาศ จาก Teka มาให้ ด้านหลังครัวมีผนังกระเบื้องหน้าตาแบบในห้องตัวอย่างติดตั้งมาให้ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และช่วยให้ผนังห้องของเราไม่มีคราบเลอะค่ะ

ด้านล่างมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัวมาให้ หยิบใช้งานได้ง่าย และมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องไมโครเวฟมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้ค่ะ

ด้านบนจะมีช่องเก็บของมาให้ไวเก็บเครื่องปรุงของใช้ หรืออุปกรณ์ในการทำครัว มี Soft Close มาให้ ช่วยลดแรงกระแทกและเสียงไม่ดังเวลาปิดค่ะ และช่องฝั่งซ้ายสุดจะเป็นแผงควบคุมไฟภายในห้องนั่นเอง

ประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อน 3 ตอนกรอบบานอลูมิเนียมสีดำ เปิดใช้งานได้กว้าง และทำให้แสงจากระเบียงเข้ามายังครัวได้

ระเบียงมีขนาด 1.90 x 0.85 เมตรปูด้วยกระเบื้อง Ceramic ทำความสะอาดง่าย มีงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ และมี Condensing Units แบบแขวนมาให้ด้านบนทำให้ไม่มีลมร้อนที่ระเบียง และไม่บังสายตาเวลามองวิวออกมาด้านนอกด้วยค่ะ

มาดูห้องนอนกันบ้างค่ะ ประตูห้องนอนจะเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน สำหรับใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอาจจะต้องติดม่าน หรือสติกเกอร์ฝ้าเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้มองเห็นภายในห้องนอนได้ แต่ก็จะทำให้ลดแสงธรรมชาติจากด้านนอกที่ส่องเข้าถึงห้องนั่งเล่นเหมือนกันนะคะ

ภายในห้องนอนจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ ห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.00 x 2.70 เมตร มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ค่ะ

ด้านข้างมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ทำให้มีพื้นที่วางเตียงชิดริมหน้าต่างค่ะ

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีราวแขวน และชั้นเก็บของด้านบนและ ลิ้นชักด้านล่างมาให้ เก็บของได้หลากหลาย เป็นสัดส่วนทั้งเสื้อผ้า, กระเป๋า ฯลฯ

สำหรับใครที่อยากติด TV ในห้องนอนก็สามารถทำได้นะคะเพราะมีงานระบบเดินมาให้เรียบร้อยแล้ว มีระยะเหลือปลายเตียงสามารถวางชั้นวาง TV เพิ่มเติมได้ค่ะ

ห้องต่อมาเราจะพาไปชมห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.70-24.71 ตารางเมตรเป็นห้อง Type เล็กสุดภายในโครงการ แต่ก็จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนค่ะ ห้องนี้เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับระเบียงทำให้แสงเข้ามาในห้องได้เยอะ และสามารถเดินออกไปใช้งานพื้นที่ระเบียงได้จริง ส่วนครัวจะได้เป็นครัวเปิด เหมือน Pantry สำหรับคนที่ไม่เน้นการทำอาหารจริงจังมากนัก ส่วนห้องน้ำจะอยู่ที่มุมห้องกั้นส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ เมื่อมีแขกมาก็สามารถใช้งานได้สะดวก ห้องนอนจะได้เป็นประตูบานเปิด มีความเป็นส่วนตัว ภายในห้องนอนจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มองเห็นวิวได้กว้าง และมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เช่นกันค่ะ ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่อยู่ 1-2 คน ชอบใช้งานพื้นที่ระเบียง ไม่เน้นการทำอาหารกินเองมากนัก และชอบห้องนอนที่มีความเป็นส่วนตัวค่ะ ภายในห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

ห้องนี้เข้ามาแล้วจะเจอกับห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนทำให้มีช่องแสงกว้าง ห้องนั่งเล่นของห้อง Type นี้จึงได้แสงธรรมชาติเยอะ และมองเห็นวิวได้ค่ะ

พื้นที่ของห้องนั่งเล่นกว้างประมาณ 1.75 เมตร ระยะดู TV ประมาณ 2.00 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 26 นิ้ว ซึ่งทางโครงการได้ใช้โซฟา, โต๊ะกลาง และชั้นวาง TV ขนาดพอดีกับพื้นที่มาให้พร้อมค่ะ

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้กว้างประมาณ 1.00 x 2.00 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ พื้นปูด้วยกระเบื้อง Ceramic ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ด้านข้างเป็นพื้นที่วาง Condensing Units แบบแขวนมาให้ ซึ่งมีการติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมมาให้ทำให้ออกไปใช้งานได้ไม่ร้อน

ตรงข้ามกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนครัวด้านหน้าห้อง เป็นครัวเปิด มีเคาน์เตอร์มาให้แบบเดียวกันกับในห้องที่ผ่านมาค่ะ จะมีพื้นที่เว้นสำหรับวางตู้เย็นมาให้ด้วย

Top ครัวพื้นที่กว้างกว่าห้องที่แล้วเล็กน้อย ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น บนเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างล้างจาน Stainless , เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควัน ระบบหมุนเวียนอากาศ จาก Teka มาให้ มี Backsplash ติดกระเบื้อมาให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นค่ะ

ด้านบนจะมีช่องเก็บของมาให้ไวเก็บเครื่องปรุงของใช้ หรืออุปกรณ์ในการทำครัว และด้านล่างก็มีช่องเก็บของขนาดใหญ่ และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัวมาให้ หยิบใช้งานได้ง่าย และมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องไมโครเวฟมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้ ทั้งหมด มี Soft Close มาให้ ช่วยลดแรงกระแทกและเสียงไม่ดังเวลาปิดค่ะ

เมื่อมองไปยังฝั่งขวาจะเป็นห้องน้ำ และทางเข้าห้องนอน(ขวามือ)ค่ะ

ห้องน้ำมีพื้นที่แยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน มีผนังและพื้นปูด้วยกระเบื้อง Ceramic มาให้ลายเดียวกับห้องแรก

อ่างล้างมือเป็น Ceramic สีขาว จาก Cotto หรือเทียบเท่า มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย

โถสุขภัณฑ์ที่ได้จะเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ ติดตั้งพร้อมอุปกรณ์ประกอบ อย่างสายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ จาก American Standard

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้เป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กรอบบาน UPVC สีขาว ช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเวลาเราอาบน้ำค่ะ

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 0.90 เมตร ยืนอาบได้สบาย บนผนังมีช่องวางของมาให้ค่อนข้างลึก เก็บของได้เยอะ ส่วนฝักบัวที่ได้เป็นของ Prema พร้อมเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ

ภายในห้องนอนมีขนาดประมาณ 3.00 x 2.80 เมตร มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูสบายๆไม่อึดอัด ภายในห้องนอนจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่อยากติด TV ในห้องนอนก็สามารถทำได้มีระยะเหลือปลายเตียงสามารถวางชั้นวาง TV ได้เลย

ด้านข้างมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ทำให้มีพื้นที่วางเตียงชิดริมหน้าต่างเช่นกันค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเหมือนกับห้องที่แล้วคือเป็นบานเปิด ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีราวแขวน และชั้นเก็บของด้านบนและลิ้นชักด้านล่างมาให้ เก็บของได้หลายขนาดค่ะ

ห้องสุดท้ายที่เราจะพามาชมวันนี้คือห้อง 1 Bedroom Plus Exclusive ขนาด 33.35-34.93 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีการจัดพื้นที่ใช้งานค่อนข้างลงตัวทีเดียวค่ะ ห้องนี้เข้ามาแล้วจะเจอกับ Common Area กว้าง มีพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ทำให้ดูกว้าง และได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากห้องนอนและส่วนครัวเป็นหลัก ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนั่งเล่น ทำให้ประตูห้องน้ำไม่มารบกวนสายตาเวลาเรานั่งในห้องนั่งเล่นค่ะ ห้องครัวจะได้ครัวปิดอยู่ตรงกลาง เชื่อมต่อกับระเบียงทำให้เปิดระบายกลิ่นเวลาทำอาหารได้ค่ะส่วนห้องนอนจะอยู่แยกกัน 2 ฝั่ง ทำให้แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัว ห้องนอนหลักจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ และมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ส่วนห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือห้องนอนเสริมได้ค่ะ บริเวณเหลี่ยมมุมของห้องอเนกประสงค์สามารถจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือตู้เสื้อผ้าได้พอดี ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่อยู่ 1-2 คนหรือครับครัวใหม่ ที่ต้องการพื้นที่ Common Area กว้างหน่อย ไม่เน้นใช้งานระเบียง มีห้องครัวทำอาหารจริงจังได้ และต้องการห้องอเนกประสงค์ที่แบ่งเป็นสัดส่วนค่ะ  

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Common Area เป็นพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่นทำให้ห้องดูกว้าง ภายในห้องจะได้แสงธรรมชาติจากประตูห้องนอนและห้องครัวที่เป็นบานเลื่อนกระจกค่ะ

ห้องนี้จะมีชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ด้วย ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าห้องครัว เมื่อทำอาหารเสร็จแล้วสามารถเดินมาเสิร์ฟได้สะดวกค่ะ

ถัดมาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นกว้างประมาณ 2.10 เมตร เหมาะสำหรับวาง TV ขนาดไม่เกิน 26 นิ้ว ซึ่งทางโครงการมีชั้นวาง TV และโซฟาขนาดพอดีกับพื้นที่มาให้เลยค่ะ

ภายในห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.85 x 2.80 เมตร มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้พอดีกับพื้นที่ภายในห้องนอนจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ สำหรับใครที่อยากติด TV ในห้องนอนก็สามารถทำได้มีระยะเหลือปลายเตียงสามารถวางชั้นวาง TV ประมาณ 0.8 เมตร หรือจะติดตั้งแบบแขวนผนังเพื่อประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้ค่ะ

ด้านข้างมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ เหมือนกับห้องที่ผ่านมาเลยค่ะ

อีกฝั่งของห้องเป็นพื้นที่ครัวปิด ห้องอเนกประสงค์และห้องน้ำตามลำดับ เราจะไปดูห้องครัวกันก่อนนะคะ

ภายในครัวมีเคาน์เตอร์รูปตัว I มาให้เหมือนกับห้องแรก แต่ห้องนี้มีพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ด้านนอกทำให้ในห้องครัวมีพื้นที่ลดลงเหลือความกว้างประมาณ 0.80 เมตร ซึ่งถือว่าพอดีสำหรับยืนทำครัว 1 คนไม่อึดอัดค่ะ ซึ่งจะมีชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างมาให้เหมือนกับห้องอื่นๆเลย  พื้นที่ครัวของห้องนี้จะเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้เวลาทำอาหารจริงจังสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ค่ะ

ครัวติดตั้งอ่างล้างจาน Stainless , เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควัน ระบบหมุนเวียนอากาศ จาก Teka พร้อม Backsplash มาให้เช่นกันค่ะ

ต่อมาเป็นส่วนห้องน้ำที่จะอยู่ริมสุดของห้อง มีแขกไปใครมาก็สามารถเข้าได้สะดวกไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน พื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำยังสามารถ Built-in ชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมเพื่อสะดวกในการหยิบใช้งานก่อนห้องจากห้องได้ค่ะ

ภายในห้องน้ำจะแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของมาให้ จาก Cotto และโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ประกอบจาก จาก American Standard มีพื้นที่ขนาดพอดีไม่อึดอัด ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ และด้านในมีช่องเก็บของเหมือนกับห้องที่ผ่านมาค่ะ

ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากห้องอื่นคือห้องอเนกประสงค์ ขนาดประมาณ 2.50 x 2.70 เมตร มีช่องแสงมาให้ 1 จุด ห้องนี้สามารถทำเป็นห้องนอนเสริม หรือจะจัดเป็นห้องทำงานส่วนตัว หรือสำหรับออกกำลังกายก็ได้แล้วแต่ Lifestyle ของแต่ละคนเลยค่ะ

โดยห้องนี้จะมีตู้เก็บของเล็กๆ Built-in พร้อมราวแขวนด้านล่างมาให้

ห้องนี้ถ้าใครทำเป็นห้องนอนก็จะเหมาะกับเตียงขนาดประมาณ 3.5 ฟุต วางแบบห้องตัวอย่างก็จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาทางหัวเตียงพอดีค่ะ ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆได้ด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 SEPTEMBER 2019

  • 1 Bedroom ขนาด 22.74-24.71 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.50-3.06 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra ขนาด 28.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.10-3.70 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 24.98-25.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.68-3.18 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus Exclusive ขนาด 33.35-34.93 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.70-4.42 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ขนาด 49.1 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.73 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 0 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล :

โครงการ Brown รัชดา-ห้วยขวาง ตั้งอยู่ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 บรรยากาศโดยรอบเป็นชุมชนพักอาศัย รอบโครงการในระยะใกล้ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ออกมาหน่อยจะเจอกับแยกห้วยขวาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย และคึกคักตลอดทั้งวัน บนถนนรัชดาเองก็มีความอุดมสมบูรณ์ถือว่ามากทีเดียวค่ะ เนื่องจากเป็นย่านพักอาศัย, แหล่งช้อปปิ้ง เช่น Central พระราม 9, The Street, เอสพลานาด และมีอาคารสำนักงานชื่อดังหลายแห่ง เช่น Cyber World อาคารตลาดหลักทรัพย์ อาคาร AIA เป็นต้น

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวกเนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ และซอยรัชดา 18 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญเองเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษก ไปยังแยกห้วยขวาง ไปออกถนนวิภาวดี-รังสิตได้ไม่ยาก ถ้าขับขึ้นเหนือไปตามถนนรัชดาภิเษกก็จะไปยังลาดพร้าว หรือลงมายังอโศก-พระราม 9 ได้ และถ้าคำนึงถึงการใช้รถก็ต้องการที่จอดรถใช่ไหมคะ โครงการนี้เขาให้ที่จอดมาประมาณ 80 คัน (รวมจอดซ้อนคัน) หรือประมาณ 40 %ของจำนวนยูนิต ถือว่าพอดีๆกับโครงการที่มีตัวเลือกการเดินทางสาธารณะด้วยค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถสาธารณะทำได้ไม่ยาก เนื่องจากโครงการอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวางประมาณ 900 เมตร สำหรับใครที่ชอบเดินหน่อยก็สามารถเดินได้ ถ้าใครไม่อยากเดินก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ทั้งหน้าโครงการและสถานีรถไฟฟ้าเลย บนถนนเส้นรัชดาเองก็จะมีรถ Taxi และรถประจำทางอยู่แล้ว สามารถเลือกใช้ได้

วัสดุ :

วัสดุถือว่าให้มาตามมาตรฐานระดับราคานี้ ซึ่งโครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ มี โซฟา, ชั้นวาง TV, ชุดครัว, ฐานเตียง, เครื่องปรับอากาศ และตู้เสื้อผ้าค่ะ พื้นปูด้วย Smart ไวนิล, ชุดครัวจาก Teka, สุขภัณฑ์จาก  American Standard และ Cotto พร้อมกับระบบ Temperature control เชื่อมต่อกับพัดลมระบายอากาศภายในห้อง และ Bluetooth System สามารถเปิดเพลงผ่านลำโพงภายในห้องได้เลย ถือว่าเป็นจุดเด่นที่เพื่อนบ้านในระดับเดียวกันนี้ไม่มีค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการมีพื้นที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 มีทางเข้า-ออกโครงการจุดเดียวทำให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยได้ง่าย โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ได้ช่องแสงและมีเปิดระบายอากาศที่ทางเดินทำให้มีอากาศไหลเวียนได้ไม่อึดอัด มีการแบ่งการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่พักอาศัยแยกออกจากกันได้ดี มีประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์และโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยมาให้ทุกชั้น ทำให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวค่ะ ส่วน Lobby และ Facility อื่นๆสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ มีพื้นที่สีเขียวส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้นดาดฟ้าทำออกมาบรรยากาศน่าใช้งานค่ะ

การออกแบบห้องพักอาศัยแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนสำหรับคนที่ชอบพื้นที่นั่งเล่น แยกออกจากพื้นที่พักผ่อนชัดเจน มีความเป็นส่วนตัว ในห้องนอนหลักจะได้ช่องแสงกว้างเต็มผนังทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ และมองเห็นวิวกว้าง ทุกห้องมีพื้นที่ระเบียงให้ได้ใช้งาน ซึ่งภายในโครงการก็มีแบบมาให้เลือกหลากหลายมาก ทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกห้องให้เหมาะสมกับ Lifestyle ของตัวเองได้ค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะแบ่งเป็น 2 ชั้น คือที่ชั้น 2 จะมี Lobby, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5.00×15.00 เมตร, Multi-Function Library, Fitness, Meeting Area เป็นต้น และชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สวนค่อนข้างกว้าง มีทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้นมาให้ บรรยากาศดีน่าใช้งาน มีลิฟต์โดยสารมาให้ 2 ตัว ความหนาแน่นลิฟต์ทั้งโครงการประมาณ 101 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมากทำให้เราไม่ต้องรอลิฟต์นานในชั่วโมงเร่งด่วนของวันค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 90,000 บาท/ตร.ม., 18 SEPTEMBER 2019

  • ทำเล 7.5/10 – มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถเดินหาของกินได้ง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เข้าซอยได้ 2 ทาง ออกถนนหลักได้หลายสาย
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – มีวินหน้าโครงการ ห่างจาก MRT ห้วยขวาง 900 เมตร
  • วัสดุ 7.75/10 – ตามมาตรฐานราคา ได้ Temperature control และ Bluetooth System
  • แบบ 7.75/10 – ภายในโครงการมีความเป็นส่วนตัว ภายในห้องจัดพื้นที่เป็นสัดส่วนใช้งานง่าย
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาหลากหลาย เพียงพอต่อจำนวนยูนิต

  • UPPER CLASS
  • 7.55 / 10.00

BOTTOM LINE

Brown รัชดา-ห้วยขวาง เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดย่านรัชดา-ห้วยขวางไม่เน้นติดรถไฟฟ้ามากนัก เพื่อได้ราคาที่หยิบจับง่ายขึ้น แต่ก็ยังเดินทางสะดวก ชอบโครงการที่มีเพื่อนบ้านไม่เยอะมาก ได้พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ชอบห้องที่มีนวัตกรรม ระบายความร้อน และเปิดเพลงในห้องได้ ชอบพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน มีงบประมาณระดับ 2.2 – 6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 15,400 – 42,000 บาท/เดือน

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving

อ่านเพิ่มเติม