รีวิวฉบับที่ 1633 สวัสดีค่ะ ผู้อ่าน Thinkofliving ทุกท่าน วันนี้เรามีรีวิวตึกเสร็จ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ คอนโด High Rise 30 ชั้น และ Low Rise 8 ชั้น ตั้งอยู่ในย่านรัชดา-ท่าพระใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ตลาดพลู สามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังย่านสาทรได้ง่าย มีห้องพักให้เลือกทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ในราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท วันนี้เราจะพาไปชมบรรยากาศโครงการและในส่วนที่เป็น High Rise กันค่ะ 

Fact @ 17 JULY 2018

  • Bangkok Horizon Ratchada-Thapra ( แบงค์คอก ฮอไรซอน รัชดา-ท่าพระ)
  • บริษัท พระยาพาณิชย์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ธนบุรี
  • คอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร 565 ยูนิต และ คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 145 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิตที่อาคาร
  • ที่จอดรถประมาณ 203 คันคิดเป็น 35% จอดซ้อนคันประมาณ 40 คัน และที่จอดรถจักรยานยนต์ประมาณ 85 คัน
  • ที่ดินประมาณ 3-2-75 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  2012
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2015
  • 1 Bedroom  27-34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 59-61 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.90 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท / หรือเฉลี่ยตร.ม.ละ 100,000-120,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-460-1122
  • Call Center 1172

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.708124, 100.480374

จากแผนที่ที่โครงการให้มา จะเห็นได้ว่าทำเลของโครงการ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระนี้ จะค่อนข้างใกล้กับ สีลม สาทร และพระราม 3 เลย ถึงแม้ว่าจะมีเเม่น้ำเจ้าพระยาคั่น แต่ก็เรียกได้ว่าจากถนนรัชดาภิเษกนี้ สามาถรถใช้ข้ามไปยังย่านพระรามสาม หรือจะเลี้ยวไปยังถนน กรุงธนบุรีเพื่อไปยังสะพานตากสิน ข้ามไปยังสาทรก็ได้ อีกทั้งยังเป็นทำเลที่มีแนวรถไฟฟ้าผ่าน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีตลาดพลูนั่นเองค่ะ

เราลองมาดูเทียบกับเเผนที่จริงกันบ้าง ทำเลนี้นับว่าเป็นทำเลที่เดินทางค่อนข้างสะดวกเลยนะคะ สามารถใช้เข้า-ออกตัวเมืองได้ง่าย จากถนนรัชดาภิเษกเอง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนราชพฤกษ์ ซึ่งใช้เดินทางไปสะพานตากสินข้ามไปยังสาทรได้ หรือจะออกนอกตัวเมืองไปยังกัลปพฤกษ์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งตามถนนเส้นนี้จะเป็นเส้นที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวตัดผ่าน สามารถใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปยังสยามได้โดยตรงเลย ต่อมาสำหรับถนนรัชดาภิเษกเอง สามารถใช้เดินทางไปยังสะพานกรุงเทพ ข้ามไปยังพระราม 3  หรือจะเดินทางไปยังตลาดพลู ตรงไปยังจรัญสนิทวงศ์ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปวงเวียนใหญ่ และถนนเจริญนครได้อีกด้วยนะคะ สามารถเลือกใช้เส้นทางต่างๆ ตามความสะดวกเลย

สำหรับตัวโครงการ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ นั้นจะอยู่ประมาณกลางถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจากหน้าโครงการจะเป็นเส้นที่มุ่งหน้าไปยังตลาดพลู ในกรณีที่เราต้องการจะไปยังพระราม 3 เราจะต้องไปกลับรถใต้สะพานที่จะไปตลาดพลู ซึ่งเลยเเยกรัชดา ราชพฤกษ์ไปเล็กน้อย บริเวณเเยกนี้จะมีช่วงเวลาเร่งด่วน ที่จะมีรถหนาแน่นบ้าง สำหรับคนที่ต้องการใช้ทางด่วน อาจจะต้องไปขึ้นทางด่วนที่บริเวณพระราม 3 หรือแถวสาทรเลย โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5 กม.ไปยังทางด่วนสาทร และ 8 กม.ไปยังทางด่วนพระราม 3

สำหรับคนที่ใช้บริการการขนส่งสาธารณะ สำหรับทำเลนี้เรียกได้ว่าสะดวกมากเลยนะคะ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า BTS BRT วินมอเตอร์ไซค์ หรือแท็กซี่ ก็มีให้เลือกแทบทุกรูปแบบเลย ตัวอย่างเช่นจากหน้าโครงการเดินไปทางขวามือก็จะมีป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ในระยะประมาณ 200 เมตร  หรือในกรณีที่ตอนเช้าเราเร่งรีบ อยากเรียกใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์ ก็จะมีมาตั้งเเถวรอให้บริการถึงหน้าโครงการเลย(เฉพาะเวลาเช้าเท่านั้นนะคะ) หรือจากตัวรถไฟฟ้าเราก็สามารถเรียกพี่วินให้เข้ามาทางซอยเทอดไท 33 เลี้ยวซ้ายมายังซอยรัชดา 7-1 ข้างๆโครงการได้เลยเช่นกัน ถือว่าสะดวกไม่น้อยเลยนะคะสำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถของทำเลนี้

อย่างที่บอกไปค่ะ ทำเลของ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ นับว่าเป็นอีกทำเลนึงที่มีรถไฟฟ้าใกล้เคียง ซึ่งเมื่อเราข้ามสะพานตากสินมายังฝั่งธนบุรีเเล้วนั้น ตามเเนวรถไฟฟ้าก็จะเริ่มมีโครงการประเภทคอนโดขึ้นกันหนาแน่น ซึ่งจะแตกต่างจากฝั่งในเมือง ที่จะเต็มไปด้วยอาคารประเภทสำนักงานมากกว่า สำหรับ BTS ตลาดพลูนั้น เมื่อเข้ามายังถนนรัชดาภิเษก ก็จะมีความโดดเด่นกว่าสถานีใกล้เคียงตรงที่มีความอุดมสมบูรณ์หนาแน่น คือค่อนข้างง่ายต่อการใช้ชีวิตประจำวันเลย ทั้งของกินให้เลือกเยอะ มีตลาด มีห้างสรรพสินค้าครบครัน

เราสามารถใช้รถไฟฟ้าโดยการขึ้นจากสถานีตลาดพลูเพื่อใช้ในการเข้าเมืองไปยังย่านสาทร หรือเลยไปถึงสยามได้ง่าย ส่วนในอนาคตบริเวณ BTS บางหว้านั้นจะ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ให้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้หลากหลายมากขึ้นด้วยนะคะ และอีกตัวเลือกนึงสำหรับใครที่เรียนหรือทำงานในย่านพระราม 3 หรือจะไปสีลมและสาทรนั้นก็มี BRT รองรับเช่นเดียวกัน โดยสถานีราชพฤกษ์นั้นอยู่ใกล้กับสี่เเยกรัชดา-ราชพฤกษ์เลย เรียกว่าสะดวกในการเดินทางมากๆ ราคาก็น่าคบหาอีกด้วยค่ะ

ความอุดมสมบูณ์หลักๆของทำเลนี้จะมีเดอะมอลล์ ท่าพระซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ระยะทางประมาณ 700 เมตร ภายในเดอะมอลล์ก็จะมีทั้งโรงหนัง ฟิตเนส ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือรอบๆเดอะมอลล์โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามก็จะมีตลาดตั้งอยู่ เรียกได้ว่าไม่มีทางอดอยากเเน่ๆค่ะ หรือว่าจะเป็นถนนเทอดไทยด้านหลังโครงการ ซึ่งบริเวณซอยนี้ก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อทั้ง 7-eleven และ Tesco Lotus Express ตั้งอยู่ภายในซอยด้วยค่ะ  ในส่วนของ hypermarket ใหญ่ๆ ก็จะมี Big C ดาวคะนองที่ตั้งอยู่บนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือเราจะข้ามสะพานกรุงเทพเพื่อไปยังเอเชียทีคก็ได้นะคะ สำหรับโรงพยาบาล บริเวณนี้ก็มีโรงพยาบาลใหญ่ๆเช่น โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าอยู่ สำหรับเรื่องสถานศึกษา บริเวณนี้จะคึกคักไปด้วยโรงเรียนท้องถิ่น แต่สำหรับคนที่ต้องการโรงเรียนเอกชนมีชื่อเสียงขึ้นมา อาจจะต้องข้ามมายังย่านพระราม 3 ที่มีโรงเรียนอินเตอร์อยู่บ้าง หรือจะเป็นแถวสาทรใต้ที่จะมีโรงเรียนอัสสัมชัญและกรุงเทพคริสเตียนตั้งอยู่ค่ะ

สำหรับเส้นทางที่เราจะพาไปในครั้งนี้ เราจะลองเริ่มจากสาทรใต้กันก่อนนะคะ ข้ามสะพานตากสินมายังถนนกรุงธนบุรี เข้าเส้นถนนราชพฤกษ์ ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายมายังถนนรัชดาภิเษก  โดยเราจะมาดูกันว่าถ้าเราเดินทางออกจากใจกลางเมืองเเหล่งทำงานอย่างสาทร บรรยากาศเส้นทางการเดินทางจะเป็นเช่นไรบ้าง

จากถนนสาทรใต้ มุ่งหน้าไปยังสะพานตากสิน เราตามป้ายสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินไปเลยค่ะ

ขึ้นสะพานมาเราจะเจอสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสินอยู่ทางขวามือเราเลย

ข้ามสะพานมาให้ตามป้ายถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนนะคะ

เเล้วเราจะเจอสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี ถนนบริเวณนี้จะเป็นถนนใหญ่ รวม 2 ฝั่งกว้างราวๆ 8-10 เลนกันเลยทีเดียว

เจอป้ายถนนรัชดาภิเษกเเล้ว ตามป้ายไปเลยค่ะ

จะผ่านสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ 

ถัดมาจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตร เราตรงต่อไปค่ะ

เมื่อเลยรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตรมา ให้เราชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวไปยังถนนรัชดาภิเษกค่ะ

เลี้ยวซ้ายที่แยกรัชดา-ราชพฤกษ์เลย (ข้ามเเยกไปจะเป็นสถานีตลาดพลู)มีสะพานลอยเชื่อมจากฝั่งนี้ไปยังรถไฟฟ้าได้เลยค่ะ

พอเลี้ยวซ้ายมา เราจะมาอยู่บนถนนรัชดาภิเษกแล้วนะคะ ทางซ้ายมือจะเจอกับ The Mall ท่าพระ ซึ่งเป็นห้างคู่ในของคนในย่านนี้

เลยเดอะมอลล์มาประมาณ 700 เมตรจะเจอโครงการทางขวามือ เราจะต้องไปกลับรถข้างหน้าใกล้สี่เเยกนะคะ บริเวณนั้นจะมีสะพานข้ามแยกไป ถ้าเราเจอสะพาน ให้ชิดซ้ายไว้ก่อนนะคะ อย่าเผลอขึ้นสะพานไป

ที่กลับรถจะอยู่ใต้สะพานค่ะ

พอกลับรถมาโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือเราเเล้ว ตัวตึกเห็นได้ในระยะไกลเลย

ก่อนถึงโครงการจะมีเต็นท์ ขายรถขนาดใหญ่ก่อนถึงโครงการค่ะ

ถึงโครงการเเล้วค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย

 

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ ตัวโครงการด้านหน้าเเละด้านหลังจะมีอาคารแนวราบขนาบ เช่นเต็นท์ขายรถและโรงเรียนอนุบาล ส่วนทางด้านข้างโดยมากจะเป็นอาคารประเภทตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ซึ่งโครงการในส่วนของที่เป็น High Rise นั้น ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องมุมมองที่เมื่อเปิดหน้าต่างห้องมาจะเจอกับห้องฝั่งตรงกันข้ามโบกมือทักทายอะไรแบบนี้ ส่วนอาคารที่เป็นประเภท High Rise ด้วยกันก็จะตั้งอยู่ห่างออกไประยะนึงเลย ดังนั้นเรื่องวิวของอาคาร และการรับลมจัดได้ว่าโอเคเลยทีเดียวค่ะ 

  • ทิศเหนือ ติดกับอาคารประเภทตึกแถว สูง 3-4 ชั้นโดยประมาณ
  • ทิศตะวันออก ติดกับเต็นท์ขายรถ
  • ทิศใต้ ติดกับอาคารประเภทตึกแถว สูง 3-4 ชั้นโดยประมาณ
  • ทิศตะวันตก ติดกับโรงเรียนอนุบาล สูงประมาณ 4 ชั้น

ทิศเหนือ ติดกับอาคารประเภทตึกแถว สูง 3-4 ชั้นโดยประมาณ

เดินไปทางทิศเหนือ ข้างๆโครงการจะมีร้าน 7-eleven ตั้งอยู่ ภายในซอยรัชดา 7-1 จะสามารถเชื่อมต่อไปยังซอยเทอดไทย 33 ได้ เดินเข้าไปมีร้านอาหาร ร้านขายน้ำข้างทาง และมี Tesco Lotus Express อยู่ภายในซอย

ทิศตะวันออก ติดกับเต็นท์ขายรถ 1 ชั้น และส่วนที่เป็น Low Rise ของโครงการ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดซอย 13 ~ 580 ม.
  • ไทยช่วยไทยพลาซ่า ~ 600 ม.
  • เดอะมอลล์ ท่าพระ ~ 800 ม.
  • โรงเรียนวัดบางสะแกใน ~ 900 ม.
  • ตลาดพลู ~ 1.8 กม.
  • โรงเรียน สตรีวัดอัปสรสวรรค์ ~ 3.1 กม.
  • วงเวียนใหญ่  ~ 3.2 กม.
  • โรงพยาบาล พญาไท 3 ~ 3.8 กม.
  • บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ดาวคะนอง ~ 3.8 กม.
  • วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ~ 3.9 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ จะประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 145 ยูนิต ตั้งอยู่ด้านหน้าใกล้กับถนนรัชดาภิเษก กับส่วนที่เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น จำนวน 565 ยูนิต แบ่งเป็นที่จอดรถ 6 ชั้น และชั้นพักอาศัย 24 ชั้น ในส่วนที่เป็น Low Rise นั้นในตอนแรกเปิดตัวมาด้วยแบรนด์ชาโตว์ อินทาวน์ แต่ภายหลังทาง CMC ได้ที่ดินทางด้านหลังเพิ่มมา จึงนำมาพัฒนาเป็นคอนโด High Rise และรวมเอาคอนโด Low Rise ด้านหน้ามาเป็นโครงการเดียวกันเลย โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อเเบรนด์ Bangkok Horizon ซึ่งอาคาร Low Rise ด้านหน้าตอนนี้ได้ขายหมดเเล้ว ดังนั้นในรีวิวนี้เราจะมาเจาะลึกในส่วนที่เป็น High Rise กันนะคะ เรามาดูบรรยากาศโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง ประกอบไปกับผังอาคารกันเลยดีกว่าค่ะ

ด้านหน้าโครงการนั้น มีป้ายโครงการอยู่ด้านหน้า พร้อมธงต้อนรับอยู่ติดกับถนนรัชดาภิเษกหน้าโครงการเลย

เข้ามาในโครงการเราจะเจอกับส่วนที่เป็นคอนโด Low Rise กันก่อนทางซ้ายมือ ส่วนทางขวาเป็นถนน เข้า-ออก ทั้งส่วนที่เป็นคอนโด High Rise และพื้นที่จอดรถของโครงการ ตัวถนนเป็นถนนสองเลน เข้าทางซ้าย ออกทางขวา(จากภาพ) พื้นที่ที่อยู่ติดกับคอนโดจะมีทางเดินเท้าสำหรับลูกบ้าน พื้นที่บริเวณชั้น 1 ของส่วนคอนโด Low Rise จะถูกจัดเป็นร้านค้า และ Sales Gallery ค่ะ

ระหว่างถนนเเละตัวอาคาร Low Rise จะมีที่จอดรถของผู้ติดต่อและเยี่ยมชมโครงการ

ตรงเข้ามาเราจะเจอกันส่วนรักษาความปลอดภัยจุดเเรกเลยคือ ป้อมยาม ที่จะมีรปภ.คอยดูเเลตลอด 24 ชม.และมีไม้กั้นกระดกตรวจรถเข้า-ออก

การผ่านเข้า-ออกจะต้องใช้ Key Card Access สำหรับแขกผู้มาเยือน ต้องติดต่อแลกบัตรกับคุณรปภ.ตรงนี้ก่อนค่ะ และสำหรับคนที่กังวลว่า เเล้วคนเดินเข้ามาละ ทางคนเดินดูเหมือนไม่มีระบบอะไรที่จะสามารถตรวจคนเข้าออกได้เลยนะ ต้องขอบอกเลยว่า ถ้าคนที่เดินเข้าไปหลังจากนี้เเละไม่คุ้นหน้าเเล้ว จะมีรปภ.เดินเข้ามาถามและให้เเลกบัตรนะคะ อีกทั้งการจะเข้าไปในโถงลิฟท์ภายในอาคาร จะต้องใช้ Key Card Access เช่นกัน

เรามาดูส่วนที่เป็น High Rise กันนะคะ ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ Lobby, Mail room ที่จอดรถรอบๆอาคาร ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ร้านค้า และส่วนพื้นที่ Service พื้นที่ที่เป็นส่วนกลางทั้งหมด เช่น สวน ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ทั้งตัว Low Rise และ High Rise สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งหมดเลยนะคะ

ตัวอาคาร ฝั่งด้านหน้าหรือทางทิศเหนือจะเป็นร้านค้า Lobby Mailroom ส่วนทางด้านหลังจะเป็นส่วนบริการ เช่น ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ทางไป Service Lift ส่วนทางทิศใต้จะเป็นที่จอดรถเเละห้องงานระบบของอาคารค่ะ

เมื่อข้ามคลองมาจะเจอกับทางแยกซ้าย-ขวา รอบๆอาคารสามารถจอดรถได้ค่ะ

เลี้ยวซ้ายมามีสวนเล็กๆจัดไว้หน้าทางเข้าส่วน Lobby

ทางเข้าโครงการส่วน Lobby พื้นที่ตรง Lobby เป็นพื้นที่เปิด ทั้งลูกบ้าน และเเขกผู้มาเยือน สามารถมาใช้งานได้หมดค่ะ

ถัดมาจะเป็นทางขึ้นที่จอดรถ มีทั้งหมด 6 ชั้น รวมเเล้วประมาณ 200 คัน

ทางขึ้นที่จอดรถจะเป็นทางที่รถสวนกันได้นะคะ จำกัดความสูงของรถที่จะขึ้นอาคารจอดรถไว้ที่ 2.10 เมตร

ขึ้นมาทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นที่จอดรถเข้าซองเเบบนี้ทั้งซ้ายเเละขวา รอบๆจะมีราวกันตกและระแนงเหล็ก บริเวณรอบๆโครงการจะเป็นที่โล่งและอาคารแนวราบโดยส่วนมาก จึงสามารถรับวิว รับแสง และรับลมได้เต็มที่

ทุกหัวมุมของ Ramp ทางขึ้น จะมีกระจกโค้งตรงมุม เพื่อลดอันตรายจากรถที่ขับสวนกันค่ะ

ทุกชั้นที่จอดรถสามารถเข้าไปยังลิฟท์โดยสารได้โดยตรงเลย แต่ก็ต้องใช้ Key Card Access เข้าเหมือนบริเวณโถงลิฟท์ชั้น 1 นะคะ

ถนนรอบๆอาคารจะค่อนข้างกว้าง ตรงตามกฏหมายอาคารที่ต้องมีถนนโดยรอบอาคารเพื่อให้รถดับเพลิงสามารถวิ่งได้โดยรอบ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน ในส่วนของรั้วรอบโครงการจะมีทั้งรั้วทึบเเละต้นไม้ปลูกไว้ตามเเนวรั้ว บังทัศนียภายที่ไม่น่ามอง เช่นคลองข้างๆเป็นต้นค่ะ

วนมาด้านหลังอาคารทางขวามือจะเป็นที่สำหรับจอดรถมอเตอร์ไซค์

ตรงมาสุดจะเจอที่ตั้งศาลพระภูมิของโครงการ เลี้ยวขวาจะเป็นทางออกไปสู่ถนนรัชดาภิเษกค่ะ

เข้ามาดูภายในอาคารกันบ้างค่ะ ทางเข้า Lobby จะเป็นประตูบานเปิดกระจก

เมื่อเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์สำหรับติดต่อทางขวามือ ข้างๆเคาน์เตอร์จะเป็นทางไปยังMail Room ที่จะอยู่ข้างๆทางออกส่วน Service และยังเป็นทางไปยังโถงลิฟท์ ส่วนทางซ้ายมือของภาพจะเป็นพื้นที่ Lobby ที่ทางโครงการปรับปรุงใหม่ สามารถมานั่งเล่น ทำงาน หรือคุยธุระกับเพื่อนๆได้

ส่วน Lobby ที่ตกแต่งใหม่ค่ะ

ตกแต่งออกมาได้บรรยากาศน่านั่งมากเลยนะคะ ได้รับเเสงธรรมชาติ มีทั้งโซฟา ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่สามารถมานั่งผ่อนคลาย ทำงาน หรืออ่านหนังสือก็ได้

ข้างเคาน์เตอร์เข้าไปจะเป็นทางไปยังส่วนของผู้พักอาศัย ตรงไปจะเป็นทางออกที่ไปยังพื้นที่ส่วน Service มีประตูกระจกหลอกไว้ ทางขวามือเป็น Mail Room ส่วนทางซ้ายมือเป็นโถงลิฟท์ค่ะ

ทางออกไปยังพื้นที่ส่วน Service จะเป็นประตูบานเปิดออก ด้านในตกแต่งด้วยกระจก พรางตาคิดว่าเป็นผนังเหมือนกันนะคะเนี่ย

บรรยากาศส่วนของ Mail Roomหรือห้องจดหมาย ภายในห้องนี้ทางขวามือจะมีตู้กดน้ำอัตโนมัติไว้ให้บริการด้วยคะ

ทางเข้าส่วนโถงลิฟท์ต้องใช้ Key Card ในการ Access เข้า

โครงการมีลิฟท์ให้บริการทั้งหมด 3 ตัว + อีก 1 Service Lift ( Service Lift จะเเยกไปอีกฝั่งซึ่งใช้เป็นลิฟท์ดับเพลิงภายในตัว)  โดยลิฟท์ตัวกลางจะเป็นลิฟท์ที่จะจอดเฉพาะชั้นพักอาศัย ไม่จอดชั้นจอดรถนะคะ

เมื่อเข้ามาถายในลิฟท์เราจะต้องใช้ Key Card อีกรอบ เนื่องจากลิฟท์จะเป็นแบบ Lock ชั้นไว้ สามารถไปได้เฉพาะชั้นพักอาศัยของตัวเอง เเละพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้นค่ะ

ชั้น 2-6 ของโครงการจะเป็นชั้นที่จอดรถ ซึ่งที่จอดรถของอาคารจะเป็นที่จอดแบบขึ้นทีละครึ่งชั้นซ้ายเเละขวาสลับกัน เพื่อเป็นการลดระยะความยาวของ Ramp หรือทางลาดขึ้นอาคารด้วย โดยสามารถจอดได้ฝั่งละประมาณ 20 คัน หรือประมาณ 40 คันต่อชั้น

ชั้น 6A เป็นชั้นจอดรถเช่นกัน ถ้ามองจากแปลนทางขวามือที่เห็นเป็นที่โล่งๆ จริงๆก็คือที่จอดรถเช่นกัน และด้านบนจะเป็นส่วนงานระบบของสระว่ายน้ำค่ะ ดังนั้นที่จอดรถชั้น 6 และชั้น 6A ก็จะมีความสูงที่มากกว่าชั้นอื่น ดูโปร่งๆหน่อย

ภาพที่จอดรถชั้น 6 ที่ด้านบนจะเป็นส่วนงานระบบของสระว่ายน้ำค่ะ ชั้นนี้เป็นชั้นที่มีคสามสูงมากกว่าชั้นอื่นๆบรรยากาศจะโปร่งๆหน่อย

และที่จอดรถชั้น 6A ซึ่งเป็นชั้นบนสุดค่ะ การเดินท่อ ความสะอาด ค่อนข้างเรียบร้อย สว่างอยู่พอสมควรเลยค่ะ และต้องบอกว่าทำเลนี้ ลมดีมากเลยนะคะ

ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นชั้นพักอาศัยค่ะ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้น 7 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งคือสระว่ายน้ำ และฟิตเนส และมีส่วนของห้องพักแบบ 1 Bedroom ค่ะ โดยห้องพักฝั่งที่ติดกับส่วนกลางบริเวณนี้จะมีข้อดีตรงที่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางมาก แต่ข้อเสียคือ จะสูญเสียความเป็นส่วนตัว คนเดินไปมาบ่อย เเละเสียงรบกวนจากคนที่มาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

ออกจากลิฟท์มาเลี้ยวขวาเป็นส่วนของสระว่ายน้ำและฟิตเนสนะคะ

ฝั่งตรงข้ามลิฟท์เลยจะมีประตูทางเข้าลิฟท์ Service ซึ่งใช้เป็นลิฟท์ดับเพลิงค่ะ พื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับทิ้งขยะของแต่ละชั้นเช่นกันค่ะ

ออกจากลิฟท์เลี้ยวขวา จะเจอห้องฟิตเนสอยู่ขวามือค่ะ

ในตอนเเรกนั้นทางโครงการไม่ได้ออกแบบให้มีพื้นที่ฟิตเนส แต่ปัจจุบันทางโครงการได้นำเอาห้องพักอาศัยจำนวน 2 ห้องมาทำเป็นห้องฟิตเนส เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านค่ะ ใช้ได้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้น

ซึ่งภายในมีเครื่องเล่นหลากหลาย ทั้งจักรยาน ที่ยกน้ำหนัก

และเครื่องเล่นประเภทลู่วิ่งให้บริการ โดยไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่มนะคะ รวมไปกับค่าส่วนกลางเรียบร้อยแล้ว

สุดทางเดินจะเป็นทางลงไปยังพื้นที่สระว่ายน้ำ

มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนไว้ให้บริการ

มีห้องน้ำแยกชาย – หญิง สำหรับคนที่เล่นฟิตเนสก็เดินมาใช้ห้องน้ำตรงนี้ได้ค่ะ ไม่ไกลกันมาก

ภายในห้องน้ำทั้งชายและหญิงจะมีห้องซาวน่า ให้ด้วย

ห้องน้ำจะเป็นห้องสุขา มีโถสุขภัณฑ์ ไม่มีห้องอาบน้ำให้ในห้องน้ำนะคะ

แต่จะมีพื้นที่ล้างตัวอยู่ด้านข้างแทน สามารถใช้อาบน้ำล้างตัวก่อน-หลังลงสระ มี 2 ชุดใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน

ส่วนสระว่ายน้ำ จะเป็นสระระบบคลอรีน มีขนาด 7.5 x 16 เมตร ลึก 1.2 เมตร

การที่ตำแหน่งสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 7 นั้น และบริเวณรอบๆเป็นอาคารที่ไม่สูงเท่า ทำให้พื้นที่ส่วนสระว่ายน้ำมีความเป็นส่วนตัวประมาณหนึ่ง ด้านบนเป็นชั้นห้องพักทำให้พื้นที่สระได้ร่มเงา พื้นที่สระเป็นสระแบบ Semi-Outdoor เราสามารถมาใช้งานในเวลากลางวันได้โดยไม่ร้อน หรือ ใช้งานตอนฝนตกโดยไม่เปียก มีราวกันตกเป็นกระจก ทำให้สามารถมองวิวรอบๆไปขณะใช้งานสระว่ายน้ำได้

ส่วนชั้น 8-25 จะเป็น Typical Floor ประกอบไปด้วยห้องพักอาศัยเเบบ 1 Bedroom (เหมือนกันกับชั้น 7 นะคะ) โดยการวางตัวห้องจะวางทางทิศตะวันออก-ตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ฝั่งที่อยู่ทางทิศจะวันออกจะได้รับแสงแดดในตอนเช้ามากหน่อย แต่ตอนเย็นทำงานกลับห้องมาทางฝั่งนี้ห้องจะไม่ร้อนมาก แต่ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตก ถึงแม้จะร้อนนิดหน่อย แต่ก็นับว่าเป็นฝั่งที่ลมดีมากๆเลยค่ะ โถงลิฟท์จะอยู่ตรงกลางทำให้มีระยะเดินไปทางฝั่งซ้ายและขวาเท่าๆกัน อีกจุดนึงที่ทางโครงการออกแบบได้น่าสนใจคือ ฝั่งตรงข้ามบันไดหนีไฟ จะเป็นช่องเปิดทำให้เเสงสว่างเข้ามาในทางเดินมากขึ้น และทำให้ห้องที่อยู่ตรงกลางผนังห้องที่ติดกับห้องข้างๆเหลืออยู่ฝั่งเดียว ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยค่ะ

สำหรับการจัดวางรูปแบบห้องนั้น ห้องแบบ 1 Bedroom Type A1 ที่มีส่วนครัวยาว จะถูกวางล้อมรอบลิฟท์ตรงกลาง พื้นที่ระหว่างยูนิตเป็นที่โล่งยาวลงไป ทำให้ห้องนอนของ Type นี้สามารถมีหน้าต่างได้ 2 ฝั่งเลย (เดี๋ยวเราจะพาไปชมบรรยากาศห้องนี้กันละเอียดด้านล่าง) ดังนั้นห้องนี้จึงเหมือนเป็นห้องหัวมุมอีกห้องหนึ่งค่ะ ในส่วนของห้อง 1 Bedroom Type A จะมีห้องสองแบบวางสลับกัน คือเเบบห้องยาวคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า กับห้องที่มีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดห้องใกล้เคียงกัน คือห้องเเบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสจะมีหน้ากว้างที่ยาวกว่าแต่ความลึกน้อยกว่า แต่สำหรับห้องแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะมีห้องที่ลึก แต่หน้ากว้างสั้นกว่าค่ะ การจัดวางแบบนี้ทำให้เกิดรูปด้านของอาคารที่มีมิติมากขึ้น ไม่ได้แบนเรียบกันไป

ในส่วนของชั้น 26-29 นั้น ผังพื้นจะเหมือนกับชั้นอื่นๆเลย แต่จะมีห้องแบบ 2 Bedroom Type B เพิ่มขึ้นมา ทางด้านหน้าของโครงการที่สุดทางเดินค่ะ

ส่วนชั้น 30 จะเปลี่ยนห้อง 2 Bedroom TypeB เป็น Type C แทน แต่ตำเเหน่งเดิม ฝั่งตรงข้ามจะมีพื้นที่สวนอยู่ที่ชั้นนี้ด้วยสามารถเดินออกไปนั่งเล่นชมวิวสบายเลย

ส่วนชั้นดาดฟ้านั้นจะเป็นพื้นที่สวนค่ะ ปัจจุบันโครงการกำลังปรับปรุงพื้นที่สวนอยู่ค่ะ เเละจากชั้นนี้ก็สามารถเดินขึ้นไปยังด้านบนที่เป็นที่จอดเฮลิคอปเตอร์ได้ค่ะ

วิวจากชั้นดาดฟ้าของอาคาร มองไปทาง BTS ตลาดพลูจะเห็นอาคารประเภทคอนโด High Rise ขึ้นหนาแน่นใกล้ๆกับ BTS เลยค่ะ

วิวเมื่อมองไปทางถนนหน้าโครงการ มุมนี้ชั้นล่างๆอาจจะเห็นเต็นท์ขายรถชัดหน่อย อาคารสูงฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโดของศุภาลัย มองไปทางซ้ายมือจะเห็นสะพานกรุงเทพ

วิวเมื่อมองไปยังสะพานกรุงเทพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังพระราม 3 ค่ะ วันไหนฟ้าโปร่ง เราสามารถเห็นเอเชียทีดได้ด้วยนะคะฝั่งนี้

วิวด้านข้างหันไปฝั่งพระราม 3 นี้จะไม่ค่อยมีอาคาร High Rise ขึ้นมากนัก มุมมองก็จะเปิดกว้างเลยค่ะ

วิวทางด้านหลังของโครงการ มองลงไปจะเห็นโรงเรียนอนุบาลตั้งอยู่ ทางฝั่งนี้ก็จะเปิดโล่งเช่นกันค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 7.5×16 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ n/a ไร่
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 188 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 203 คันคิดเป็น 35% จอดซ้อนคันประมาณ 40 คัน และที่จอดรถจักรยานยนต์ประมาณ 85 คัน
  • Wifi บริเวฯ ล็อบบี้
  • ระบบ CCTV
  • Key Access Card รถเข้าโครงการ,โถงลิฟท์, ชั้นพักอาศัย


Product Walkthrough

ภายในโครงการ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ จะมีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ คือแบบ 1 Bedroom 2 แบบ และแบบ 2 Bedroom อีก 2 แบบ โดยในรีวิวนี้ เรามีห้องตัวอย่างของแบบ 1 Bedroom มาให้ชมกัน โดยภายในโครงการจะขายเป็นแบบ Full Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่ให้จะเป็นของ SB Furniture มีเคาน์เตอร์ ชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้าที่เป็น Built-in มาให้ โซฟา โต๊ะหน้าโซฟา ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง เตียงและโต๊ะข้างหัวเตียงให้มา แต่หน้าตาเเละชนิดของรุ่นนั้นอาจจะต้องติดต่อทางโครงการอีกครั้งนะคะ

ห้องแรกที่เราจะพาไปชมกันเป็นห้อง 1 Bedroom Type A1 มีขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องอยู่ที่ 34-35 ตร.ม. ซึ่งจะมีส่วน Pantry ที่ยาว ห้องนี้จะมีอยู่ 4 ยูนิตต่อชั้น ตำแหน่งจะโอบล้อมลิฟท์ไว้ค่ะ โดยเมื่อเราเข้ามาในตัวห้องแล้ว เราจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อนเลย พื้นที่บริเวณนี้จะมีความกว้างประมาณ 2 เมตร รวมเคาน์เตอร์ และลึกประมาณ 3.5 เมตร เราสามารถติดตั้งประตูกั้นเพิ่มเพื่อเเยกพื้นที่ส่วนครัวออกมาให้เป็นครัวปิด กลิ่นและควันจากการทำอาหารจะได้ไม่ไหลเข้าไปยังส่วนอื่นๆของตัวห้องค่ะ เมื่อเข้ามาเราจะเจอกับส่วนรับประทานอาหารที่สามารถจัดได้ 2 ที่นั่ง ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารเข้าไป ทางขวามือจะเป็นประตูเข้าห้องนอน และถ้าตรงไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับระเบียง ภายในห้องนอนจะมีขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 2.6×4.3 เมตร สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำ จัดมุมติดหน้าต่าง Built-in เล็กๆเป็นชั้นวางของหรือโต๊ะเครื่องเเป้งได้ พื้นที่ระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าจะมีความกว้างประมาณ 1.45 เมตร เราอาจจะจัดมุมโต๊ะทำงานเพิ่มบริเวณนี้ได้อีกด้วยค่ะ

เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนครัวก่อนเลย พื้นห้องส่วนครัวจะเป็นพื้นเเกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. พื้นส่วนทานอาหาร นั่งเล่น และห้องนอนจะเป็นพื้นลามิเนต ฝ้าเพดานเป็นยิปซัมบอร์ดฉาบเรียบทาสี ไฟภายในห้องเป็นไฟดาวน์ไลท์เเบบฝังฝ้าเพดาน ความสูงจะอยู่ที่ 2.5 เมตร

ชุดเคาน์เตอร์ครัวจะให้มาพร้อมกับตัวห้อง พร้อมกระเบื้องด้านหลังเคาน์เตอร์ Top เคาน์เตอร์จะใช้หินเทียม บานเปิดต่างๆเป็นแบบ Soft Close ความยาวของเคาน์เตอร์จะอยู่ที่ประมาณ 2 เมตรค่ะ

ทางเดินเหลือพื้นที่ประมาณ 1.35 เมตร ระยะเดินสบายค่ะ

ช่องเก็บของต่างๆได้มาแบบในภาพค่ะ มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าบานเปิดหน้าบริเวณเคาน์เตอร์นี้เลย

เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานจะได้ของ TEKA

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนโต๊ะทานอาหารเเละพื้นที่นั่งเล่น

สามารถวางโต๊ะทานอาการสำหรับ 2 ที่นั่งได้ เหลือทางเดินประมาณ 1.20 เมตรเช่นกันค่ะ

เราอาจเลือกชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ขนาดเล็กลงเเทนถ้าเราต้องการวางชั้นวางของข้างๆโซฟา ซึ่งถ้าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ เราก็สามารถเลื่อนเก้าอี้โต๊ะทานอาหารเข้า-ออก ใช้งานได้สบายมากยิ่งขึ้นค่ะ สำหรับตำแหน่งการจัดวางโต๊ะ เนื่องจากพื้นมีการเปลี่ยนวัสดุ อาจทำให้รอยต่อไม่เรียบเสมอกัน การใช้งานอาจจะต้องระวังสะดุดเล็กน้อยนะคะ

ส่วนพื้นที่นั่งเล่น เราสามารถวางโซฟาชิดผนังฝั่งนึงเเละวางชั้นวางทีวีไว้ที่ผนังฝั่งตรงข้ามได้ พื้นที่บริเวณนี้จะอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งสามารถเปิดรับลมและได้เเสงสว่างเต็มที่ ในเวลากลางวันเเทบจะไม่ต้องเปิดไฟใช้งานเลยค่ะ ข้อดีของการจัดผังแบบนี้อีกอย่างคือทางเข้าห้องนอนจะถึงก่อนพื้นที่ส่วนนี้ ในกรณีที่อยู่กันสองคน ก็จะไม่มีการเตินตัดหน้าทีวีไปมา เมื่อคนนึงนั่งดูทีวี และอีกคนกลับมาเดินเข้าห้องนอนค่ะ

สามารถวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งได้ ขนาดกว้างประมาณไม่เกิน 1.80 เมตรกำลังดีเลยค่ะ ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 1.80 เมตรนะคะ

ประตูทางออกไปยังยังระเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อน ธรณีประตูจะสูงประมาณ 10 ซม. กันน้ำไหลย้อนเข้าห้อง

ตัวระเบียงจะมีขนาดประมาณค่อนข้างกะทัดรัดกว้างไม่มาก ประมาณ 70 ซม.ยาวประมาณ 1.60 เมตร

สามารถแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนและล่างโดยให้เป่าลมออกนอกอาคารได้ ตัวอาคารจะมีระแนงบังตาอยู่ด้านนอกอาคาร บังความไม่เรียบร้อยของพื้นที่ตรงนี้ค่ะ พื้นที่สามารถใช้ชมวิวรอบๆอาคารได้ ลมที่ได้ค่อนข้างดีทั้งด้านหน้าและด้านหลังอาคารเลย

เข้ามาในห้องนอน มือจับจะเป็นแบบก้านโยก

มีธรณีประตูกั้นขึ้นมาเล็กน้อย

ตัวห้องมีช่องเเสงสองด้าน ทำให้ถ่ายเทอากาศได้ดี ลักษณะเหมือนเป็นห้องหัวมุมเลยค่ะ หน้าต่างที่ได้ ก็จะเป็นเเนวสูง จากพื้นจรดฝ้าเพดานเลย

สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆ

ความกว้างโดยรอบเตียงระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าอยู่ที่ 1.45 เมตร ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 50 ซม. และฝั่งที่ติดหน้าต่างกว้างประมาณ 60 ซม.

ปลายเตียงเหมาะกับการติดทีวีเเบบเเขวนผนัง มีการเดินสายไฟไว้ให้เรียบร้อยเเล้ว ภายในห้องแบบ 1 Bedroom จะมีให้แอร์มา 2 ตัวนะคะ ห้องนั่งเล่น 1 ตัว และห้องนอน 1 ตัว เป็นของ Samsung หรือเทียบเท่า

ภายในห้องทั้งส่วนครัว ส่วนห้องนอนจะมีสัญญาณตรวจจับควัน เเละสปริงเกอร์ติดตั้งไว้ให้ ช่วยในเรื่องเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานในอาคาร

บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เลย

ตัวตู้จะเป็นบานเลื่อนนะคะ

ถัดเข้ามาดูในห้องน้ำกันบ้าง การวางผังห้องน้ำ ตัวสุขภัณฑ์จะวางเรียงฝั่งเดียวกัน เมื่อเข้ามาจะเจอกันส่วนอ่างล้างหน้าก่อน ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ มีฉากกั้นกระจกให้เป็นบานเปิดค่ะ

ระหว่างพื้นห้องนอนและห้องน้ำมีธรณีประตูกั้น ในห้องน้ำจะลดระดับลงมาประมาณ 2 ซม.

อ่างล้างหน้าจะได้ของ Nahm เป็นแบบฝังครึ่งนึงลงไปในเคาน์เตอร์  ใต้อ่างมีพื้นที่เก็บของเล็กๆน้อยๆ ส่วน Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ด้านข้างอ่างมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ เอาไว้ใช้งานเช่นไดร์เป่าผม เป็นต้น

ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Nahm เช่นกัน มีที่ใส่ทิชชู่ข้างๆหน้าตากลมๆแบบนี้ ด้านหลังโถติดกับเเพงมีพื้นที่สำหรับวางของเล็กๆน้อยๆได้

พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีกระจกกั้นแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน ขนาดพื้นที่ใช้งานภายในจะอยู่ที่ประมาณ 80×160 ซม.

มีพัดลมดูดอากาศให้ของ TACNE ธรณีประตูที่กั้นส่วนเปียกเเละส่วนแห้งสูงเลยค่ะ น้ำไม่ไหลออกมาจากห้องอาบน้ำแน่นอน

มีชุดฝักบัวอาบน้ำให้มาของ Cotto เดินท่อสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย และมีที่วางสบู่ให้มาด้วย ตรงนี้เราอาจติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเพื่อวางพวกอุปกรณ์อาบน้ำที่นอกเหนือจากสบู่เช่นขวดยาสระผม โฟมล้างหน้า

มาดูห้อง 1 Bedroom อีกแบบกันนะคะ ห้องนี้มีชื่อว่า Type A  ขนาดพื้นที่ใช้สอยจะอยู่ที่ 24-28 ตร.ม. การจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องจะคล้ายกับเเบบ Type A1 เลย เพียงเเต่ส่วนนั่งเล่นจะมีหน้ากว้างมากกว่าง และการจัดวางเคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาจะมีความยาวสั้นลง สามารถวางโต๊ะทานอาหารฝั่งตรงข้ามกันกับเคาน์เตอร์ได้เลย และอย่างที่บอกไปข้างต้น ห้อง Type A ก็จะมีแบบที่เป็นห้องเเนวยาวรูปร่างสี่เหลี่ยมผื่นผ้า กับห้องที่มีรูปร่างเหมือนสี่เหลี่ยมจัตุรัส เราจะพาไปดูแบบที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ากันก่อนนะคะ

เข้ามาเลยเราจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อนเป็นอันดับเเรก ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเราสามารถตั้งชั้นวางรองเท้าเพิ่มบริเวณนี้ได้ เนื่องจากห้องนี้เป็นแนวยาว ดังนั้นเราสามารถวางโต๊ะทานอาหารลึกเข้าไปในห้องได้ค่ะ

พื้น ผนัง และฝ้าเพดานจะใช้วัสดุเดียวกันทั้งโครงการค่ะ

สำหรับห้องนี้เคาน์เตอร์จะกว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 60 ซม. ในกรณีที่เราวางชั้นวางของลึก 50 ซม. จะเหลือทางเดินประมาณ 85 ซม.ค่ะ

ชั้นวางของที่ได้จะเป็นดังภาพ สามารถวางตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟได้

งานระบบต่างๆเช่นเเนวปลั๊กไปและท่อสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เดินมาให้ครบ มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันของ TEKA ให้มาเช่นกัน

ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร สามารถวางไว้ตรงข้ามกับประตูห้องได้เลย เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้กว้างเกือบ2 เมตร ทำให้สามารถวางโต๊ะทานอาหารกว้างประมาณ 1 เมตรได้สบาย

ระยะใช้งานต่างๆถ้าเอาเก้าอี้วางหนังสือที่อยู่ข้างๆโซฟาออกก็นับว่าใช้งานได้สบายเลยค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นจัดโซฟา 2 ที่นั่งเเละโต๊ะวางทีวีได้ ด้านข้างเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียงค่ะ

พื้นที่ระเบียงสามารถวาง Condensing Unit ไว้ด้านนอกหันออกได้เหมือนเดิม  ไฟบริเวณระเบียงจะได้เป็นไฟซาลาเปานะคะ

มาดูภายในห้องนอนกันบ้าง ห้องนี้จะตกแต่งบรรยากาศผู้ชายๆ เน้นโทนสีน้ำเงินและลายไม้ วางเตียงชิดไปด้านหน้าต่างหน่อยจะมีที่สำหรับจัดเป็นโต๊ะทำงานเพิ่มได้อีกด้วย

หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบานกระทุ้ง สูงจากพื้นประมาณ 1.00 เมตร

 

วางเตียงแบบ King Size ได้ ในห้องจริงตัวเฟอร์นิเจอร์อาจจะต้องรออัพเดทอีกทีกับทางโครงการ ว่าจะหารุ่นไหนให้ได้บ้าง โดยจะเป็นเฟอร์นิเจอร์จาก SB Furniture ค่ะ

ปลายเตียงเหลือทางเดินประมาณ 40 ซม. ส่วนข้างเตียงที่ติดกับหน้าต่างจะเหลือพื้นที่ประมาณ 25 ซม.ค่ะ แอบเดินเข้า-ออกใช้งานยากนิดนึง

อีกฝากนึงจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่ Built-in มาให้พร้อมตัวห้อง อยู่หน้าห้องน้ำพอดี

ภายในห้องน้ำได้เหมือนกับ Type A1 ค่ะ

พื้นที่ส่วนแห้งจะมีขนาดประมาณ 1.6×1.6 เมตร เป็นระยะที่ใช้งานได้สะดวก

อ่างและโถสุขภัณฑ์ของ Nahm

มาดูห้อง Type A ที่มีรูปร่างจัตุรัสกันบ้างนะคะ ห้องนี้จะมีความกว้างมากกว่าห้องด้านบน แต่จะมีความลึกน้อยกว่า การจัดวางและวัสดุจะเหมือนห้องด้านบนค่ะ

ความกว้างของห้องนี้จะมีขนาดเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 50 ซม.​สังเกตได้ว่าเมื่อวางโต๊ะทานอาหารเเล้ว ยังเหลือทางเดินอีกเกือบ 1.00 เมตรเลยค่ะ

ส่วนทานข้าวจะตั้งอยู่บนพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้เลย ไม่ได้วางก้ำกึ่งระหว่างรอยต่อพื้นทั้งสองแบบเหมือนกับห้องก่อนหน้า ทำให้การใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น และดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นระยะดูทีวีจะกว้างขึ้นเช่นกัน อยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตรเลย

เข้ามายังห้องนอน ภายในห้องนี้หน้าต่างจะได้เต็มบานเลย ในส่วนของหน้าต่างคาดว่าเป็นการ Random ตามรูปด้านอาคาร ความต้องการนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย ว่าจะชอบห้องที่มีหน้าต่างเเบบไหน สำหรับบางคนที่ชอบบานเปิดเต็ม เพื่อจะได้แสงสว่างเต็มที่เเละวิว แต่สำหรับบางคนอาจจะชอบการที่ห้องนอนได้แสงน้อย ไม่ต้องการความร้อนที่เข้ามาพร้อมกับหน้าต่าง เพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลานอนค่ะ

ในส่วนของห้องแบบ 2 Bedroom ทางโครงการจะเรียกว่า  Type B และ Type C มีขนาดใกล้เคียงกันประมาณ 59 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่ทำงาน และส่วนครัว โดยทั้ง Type B และ C นั้น การวาง ฟังก์ชันตำเเหน่งห้องจะเหมือนกันหมดเลย ยกเว้นทางเข้าห้อง ที่ Type B ทางเข้าห้องจะอยู่ระหว่าง Pantry และ ห้องน้ำ แต่ห้องแบบ Type C จะเข้ามาเจอกับส่วนของ Pantry ก่อนเลย โดยข้อดีข้อเสียที่ได้ก็จะต่างกัน เช่น Type B เมื่อพื้นที่ทางเข้าห้องแยกออกมาจาก Pantry แล้ว ทำให้เราสามารถติดตั้งชุดประตูเปิด-ปิด เพื่อเเยกส่วนนั้นให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่สำหรับ Type C ก็จะมีข้อดีตรงที่ พื้นที่ส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหารก็จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเนื่องจากทางเข้าถูกทำให้อยู่ไกลออกไป  มาดูฟังก์ชันอื่นๆที่มีเหมือนกันบ้าง ข้อดีของผังห้องแบบนี้คือการมีพื้นที่ Working Area เพิ่มเข้ามา ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะกับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น เช่นในกรณีที่ผู้อยู่อาศัยต้องการคอนโดสำหรับพักผ่อนที่มีพื้นที่กว้างขึ้นเราก็สามารถปรับพื้นที่หนึ่งเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น และย้ายพื้นที่ทานอาหารมาแทน Working Area  หรือจะย้ายพื้นที่นั่งเล่นมาก็ได้ แล้วเเต่คนชอบเลยค่ะ นอกจากนี้ถ้าเราติดตั้งประตูบานเลื่อนหรือกั้นพื้นที่แต่ละส่วนออกเป็นห้องๆก็จะทำให้เรามีห้องสำหรับใช้งานได้มากขึ้นอีก และมีความเป็นส่วนตัวในแต่ละพื้นที่เพิ่มขึ้น มาดูพื้นที่ของห้องนอนกันบ้าง ตัว Master Bedroom ตำแหน่งจะตั้งอยู่สุดทางเดิน โดยจะมีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet เพิ่มเข้ามาด้วย ตัวห้องมีมุมห้องหนึ่งเป็น Bay Window สามารถรับแสงสว่างได้เต็มที่ ภายในห้องสามารถวางเตียง King Size ได้ สามารถจัดมุมทำงานหรือโต๊ะเครื่องเเป้งไว้มุมหนึ่งได้เช่นกัน ในส่วนของห้องนอนเล็กอีกห้อง สามารถวางเตียงขนาน King Size ได้ แต่ตัวห้องน้ำจะต้องใช้ร่วมกันกับพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหารเเทน แต่ข้อดีของห้องนี้คือมีระเบียงส่วนตัวภายในห้องค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 July 2018

  • ห้อง 907 ชั้น 9 Type A1 ขนาด 33.74 ตร.ม. ราคาขาย 3,728,270 บาท เฉลี่ย 110,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 1401 ชั้น 14 Type A ขนาด 27.28 ตร.ม. ราคาขาย 3,082,640 บาท เฉลี่ย 113,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 2707 ชั้น 27 Type A1 ขนาด 33.65 ตร.ม. ราคาขาย 4,021,175 บาท เฉลี่ย 119,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 2913 ชั้น 29 Type B ขนาด 61.28 ตร.ม. ราคาขาย 7,384,240 บาท เฉลี่ย 120,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 3018 ชั้น 30 Type A ขนาด 27.18 ตร.ม. ราคาขาย 3,288,780 บาท เฉลี่ย 121,000 บาทต่อตร.ม.
  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 0 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 36 บาท/ตร.ม./เดือน

Promotion ถึงวันที่ 31 December 2018 > Ready to move in ,Fully Furnish + อยู่ฟรีถึง 3 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้คะ


เจาะลึกรวบยอด

Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ  ทำเลตั้งอยู่ในย่านรัชดา-ท่าพระ สำหรับคนที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า สามารถเดินทางเข้าไปทำงานในตัวเมืองอย่างย่านสีลม สาทร หรือพระราม 4 ได้สะดวก เมื่อรวมกับถนนรัชดาภิเษกที่เป็นถนนคึกคัก มีร้านอาหารของกินอุดมสมบูรณ์ จึงนับว่าทำเลนี้เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยค่ะ สำหรับตัวโครงการ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ นั้น อาจมีข้อด้อยกว่าโครงการประเภทคอนโดอื่นๆที่อยู่ย่านนี้เล็กน้อย ตรงที่อยู่ไกลจากรถไฟฟ้าและเดอะมอลล์ท่าพระออกไป แต่บริเวณที่ตั้งของโครงการ รอบๆก็มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-eleven เปิดให้บริการเช่นกัน แต่บรรยากาศอาจไม่คึกคักเท่าฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ ท่าพระ

การเดินทางโดยรถส่วนตัว ทำเลนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหลายสาย เช่นข้ามสะพานกรุงเทพเพื่อไปยังพระราม 3 หรือใช้ถนนเจริญนครเพื่อไปยังสะพานตากสินหรือราษฏร์บูรณะ หรือจะเป็นถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่ใช้เดินทางไปยังวงเวียนใหญ่หรือพระราม 2 ได้ ถนนรัชดาภิเษกเองก็เดินทางไปยังตลาดพลูเเละจรัญสนิทวงศ์สะดวก หรือจะเป็นถนนเส้นทางตามเเนวรถไฟฟ้า อย่างถนนราชพฤกษ์ ออกนอกเมืองไปยังถนนกัลปพฤกษ์ หรือเข้าเมืองไปยังสาทรก็สะดวกเลย ในช่วงเวลาที่การจราจรไม่ติดขัดก็เดินทางไปยังสาทรระยะทางไม่ถึง 10 กม. ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที

สำหรับคนที่เดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทำเลนี้มีตัวเลือกให้เลือกใช้หลากหลายเลยค่ะ ทั้งรถไฟฟ้า BTS BRT รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ รถแท๊กซี่ก็มีผ่านหน้าโครงการตลอดเวลาเลย แต่สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า BTS เป็นหลัก ระยะทางจากหน้าโครงการไปยังสถานีตลาดพลูนั้น อาจจะไกลเกินระยะเดินสบายไปหน่อย อาจจะต้องพึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์เเทน

วัสดุภายในห้องที่ให้มาจัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ และลามิเนต ผนังเเละฝ้าเพดานฉาบเรียบ ไฟดาวน์ไลท์ ความสูง 2.5 เมตร เคาน์เตอร์ใช้หินเทียม เฟอร์นิเจอร์ขายแบบ Fully – Furnished ให้ครบสามารถยกกระเป๋ามาอยู่ได้เลย

การออกแบบ ตัวอาคารทำมาในสไตล์โมเดิร์น ดีไซน์ไม่ได้หวือหวาอะไรเหมือนโครงการที่ทำออกมาใหม่ๆในตลาด อาคาร High Rise อยู่ห่างจากถนนพอสมควรทำให้เป็นส่วนตัว ตัวห้องมีให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในถือว่าฟังก์ชันใช้งานได้ดี เน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากกว่าพื้นที่ระเบียง วิวที่ได้รับถือว่าดีค่ะ

สำหรับสาธารณูปโภคเเละพื้นที่ส่วนกลางถือว่ามีมาให้ครบ ถึงแม้ว่าจะไม่เยอะเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับโครงการ High Rise อื่นๆในละเเวกข้างเคียง เหมาะกับคนที่ไม่เน้นการใช้พื้นที่ส่วนกลาง  Lobby มีการปรับปรุงใหม่น่าใช้งาน ฟิตเนส มีให้ใช้แต่ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ สระว่ายน้ำเป็นแบบ Semi-Outdoor ระบบคลอรีน ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยมี Key Card Access หลายจุดและลิฟท์ Lock ชั้น ค่าส่วนกลาง 36 บาท/ตร.ม./เดือน ไม่สูงเท่าไหร่ค่ะเมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 100,000-120,000 บาท/ตร.ม., 17 July 2018

  • ทำเล 7/10 – ติดถนนใหญ่ ของกินเยอะ แต่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 800 เมตร
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ใกล้ถนนหลายสาย เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก แต่จุดกลับรถอยู่เลยเเยกรัชดา-ราชพฤกษ์ไป ซึ่งเป็นเเยกที่รถค่อนข้างติดในช่วงเวลาเร่งด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – โครงการติดถนนใหญ่ เรียกรถสะดวกใกล้ป้ายรถเมล์ มี BRT ต่อรถไป BTS ได้
  • วัสดุ 7.5/10 – ให้ตามมาตรฐานของโครงการระดับนี้ ได้ Furniture แบบ Fully Furnished
  • แบบ 7/10 – การจัดพื้นที่ใช้สอยในห้องพักทำออกมาได้ดี มีห้องให้เลือกไม่มาก
  • สาธารณูปโภค 5.5/10 – มีให้ใช้ครบแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ เหมาะกับคนที่ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง

  • UPPER CLASS
  • 7 / 10.00

BOTTOM LINE

Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ  เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมเข้าอยู่ใกล้ที่ทำงานย่านสาทร ที่มีความสะดวกในการเดินทางเเละความอุดมสมบูรณ์ที่เอื้อต่อการอยู่อาศัย ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง ต้องการพื้นที่ใช้สอยในห้อง มีงบประมาณ 3-4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 21,000 – 24,000 บาท/เดือน