รีวิวโครงการ
The Sneak EP.27 – B Loft Lite สุขุมวิท115
18 พฤษภาคม 2019
รีวิวฉบับที่ 1857 …. B Loft Lite สุขุมวิท 115 เป็นคอนโด Low Rise ราคาต่ำกว่า 2 ล้าน ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 115 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาย่อมเยาและสามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ แถมยังมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบชุดแต่งอีกนิดหน่อยก็ยกกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย ที่น่าสนใจคือที่นี่เค้ามีห้องให้เลือกหลากหลายและมีห้อง 1 Bedroom แบบหน้ากว้าง และ 1 Bedroom Plus ให้เลือกด้วย ส่วนราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท ใครสนใจลองเข้ามาอ่านกันได้เลยค่ะ
Fact @ 24 April 2019
- B Loft Lite Sukhumvit 115 (บีลอฟท์ ไลท์ สุขุมวิท 115)
- บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนนสุขุมวิท 115 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ
- ที่ดินประมาณ 0-2-17 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 78 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิต ที่ชั้น 3-7
- ที่จอดรถประมาณ 30%
- เริ่มก่อสร้าง : ธันวาคม 2560
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พฤษภาคม 2562
- 1 Bedroom 26.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
- 1 Bedroom (ห้องหน้ากว้าง) 26.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 39.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 39.20 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 74,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 062 594 5000
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.636051, 100.595628
หรือ คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ซอย สุขุมวิท 115 ถือเป็นอีกซอยหนึ่งที่มีคอนโดมาขึ้นอยู่เยอะพอสมควร ทั้งโครงการ High Rise ติดถนนใหญ่และ Low Rise ที่อยู่ในซอย B Loft Lite สุขุมวิท 115 ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มาเปิดตัวใหม่ในซอยนี้ โดยเป็นโครงการที่สร้างเสร็จก่อนขายซึ่งมีข้อดีคือเราสามารถซื้อและหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลยและได้เห็นสภาพโครงการจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
ทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 115 เข้าซอยไปประมาณ 400 เมตร โดยซอยนี้เป็นสุขุมวิทฝั่งขาออกถ้าใครใช้รถไปทำงานในเมืองจะต้องกลับรถนะคะ หน้าปากซอยจะเป็นที่ตั้งของ BTS ปู่เจ้าสมิงพรายและมีห้าง Hyper Market อย่าง Big C Super Center ซึ่งเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักของคนในย่านนี้ ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และธนาคารอยู่ในตัวครบครัน
การเดินทางเข้าถึงโครงการมีหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเดินทางด้วยรถยนต์จากในเมือง(สุขุมวิทตอนต้น) วิ่งยาวลงมาทางใต้ หรือมาจากถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวเข้าถนนเทพารักษ์ และเข้าซอยลัด ซอยเทพารักษ์ 8 หรือเทพารักษ์ 12 ทะลุซอยอภิชาติ 9 หรือเข้าถนนสุขุมวิทก็ได้ค่ะ อีกเส้นทางคือใช้ทางด่วนกาญจนาภิเษกมาลงถนนสุขุมวิทและไปกลับรถเพื่อเข้าซอย สุขุมวิท 115 นอกจากนั้นยังสามารถใช้เส้นทางออกนอกเมืองไปยังสมุทรปราการได้ และไปยังนิคมอุตสาหกรรมบางพลี อีกหนึ่งแหล่งงานที่สำคัญ ซึ่งถือว่าตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนต่างจังหวัดที่ต้องทำงานในเมืองหรือคนที่ต้องการอยู่ใกล้เมืองแต่งบประมาณในการซื้อจำกัดได้เลย
จากโครงการมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ วงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆเท่านั้น สามารถใช้ข้ามไปยังพระราม 2 หรือจะข้าม สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ไป สุขสวัสดิ์, พระราม 3 ก็ได้ วงแหวนอีกฝั่งหนึ่งใช้ไปสุวรรณภูมิ, ลาดกระบังได้ค่ะ และถนนเส้นอื่นๆอย่าง ถนนเทพารักษ์ ใช้ไป ศรีนครินทร์เพื่อไปรามคำแหง มีนบุรี ได้เลย และตัวถนนสายหลังอย่างถนนสุขุมวิทเองก็สามารถวิ่งตรงยาวๆไปในเมืองได้เลยค่ะ แต่การจราจรอาจจะติดขัดบ้างเป็นบางช่วง ส่วนใครจะออกไปภาคตะวันออกก็ใช้ถนนบางนา-ตราด ตรงยาวได้เลย ตรงนี้มีทางด่วนบางนาให้ขึ้นด้วยค่ะ
ตัวโครงการอยู่ภายในซอยที่มีเส้นทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดในเวลาเร่งด่วน โดยใช้ซอยหลักๆอย่าง
- ซอยอภิชาต 9 จะสามารถไปทะลุถนนเทพารักษ์ได้ (ออกทางซอยเทพารักษ์ 8 หรือเทพารักษ์ 12 ได้ทั้งสองทาง) จากถนนเทพารักษ์หากเลี้ยวขวาจะสามารถไปทะลุถนนศรีนครินทร์ แต่หากเลี้ยวซ้ายจะสามารถไปกลับรถเข้าเมือง หรือไปทางแยกบางนาได้
- ซอยอภิชาต 2 (ซอยวัดไตรสามัคคี )ที่อยู่เยื้องๆซอยอภิชาติ 3 สามารถใช้ไปออกถนนกาญจนาภิเษกได้ แต่เมื่อทะลุออกมาถนนใหญ่แล้วจะต้องไปกลับรถใต้สะพานก่อนจึงจะเข้าถนนกาญจนาภิเษกได้ค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถทำได้สะดวกโดยการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเป็นสายหลักสามารถตรงเข้าตัวเมืองได้เลย ที่ตั้งโครงการจะอยู่ห่างจากสถานีปู่เจ้าสมิงพราย ประมาณ 400 เมตร เป็นระยะที่เดินสะดวกค่ะ ถัดจากสถานีปู่เจ้าสมิงพราย ก็จะเป็นสถานีสำโรง ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ในอนาคต) ด้วย นอกจากนั้น หน้าซอยสุขุมวิท 115 ก็มีป้ายรถเมล์อยู่ ซึ่งรถเมล์สายที่วิ่งผ่านคือ ปอ.157 ปากน้ำ- สายใต้ใหม่, สาย 25 ปากน้ำ-สนามหลวง, สาย 23 อู่เมกา – เทเวศร์, สาย 142 ปากน้ำ – แสมดำ และอื่นๆวิ่งผ่าน หรือจะนั่งมอเตอร์ไซค์ที่อยู่หน้าปากซอยเข้ามายังโครงการก็ได้ สำหรับใครที่เน้นประหยัดก็สามารถปั่นจักรยานจากโครงการไปยังปากซอยได้ เนื่องจากบริเวณปากซอยมีพื้นที่สำหรับจอดจักรยานอยู่ด้วยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินก็จะมีตลาดภายในซอยซึ่งจะเปิดตอนเย็นๆ และร้านค้า, ร้านอาหารภายในซอย แต่ส่วนใหญ่แล้วคงหนีไม่พ้น Big C Super Center ที่อยู่ด้านหน้าซอย สามารถเดินไปได้ในระยะ 500 เมตร ซึ่งภายในจะมีทั้ง Supermarket ร้านอาหารใหญ่ๆ อย่างร้าน BBQ Plaza, KFC รวมถึงมี Food Park หลากหลายร้าน และมีธนาคารอยู่ด้วยค่ะ ถือว่าทีเดียวจบครบเลย
ไกลออกไปหน่อยแถวสำโรงก็จะมีโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์, ตลาดสำโรง, ตลาดธรรมโรจน์พินิจ, Big C และ Imperial สำโรงที่มีโรงหนังด้วย ซึ่งแค่มาถึงสำโรงก็น่าจะครบครันแต่ถ้าอยากไปห้างใหญ่ๆหน่อยก็ต้องไปที่เส้นบางนาตราดที่มีโรงพยาบาลศิครินทร์, Central บางนา, Ikea, Mega Bangna, Foodland และอื่นๆค่ะ
เส้นทางที่เราจะพาไปวันนี้ เริ่มจากทางด่วนกาญจนาภิเษกออกทางออกถนนสุขุมวิท(สมุทรปราการ-สำโรง) และวิ่งบนถนนสุขุมวิทไปกลับรถบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS ปู่เจ้าสมิงพรายแล้วเข้าซอย สุขุมวิท 115 ทางซ้ายมือไปประมาณ 400 เมตรก็จะเห็นโครงการตั้งอยู่ซ้ายมือใกล้กับซอย อภิชาติ 5 ค่ะ ระยะทางรวมประมาณ 2 กิโลเมตร
เริ่มจากอยู่บนทางด่วนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปพระราม 2 จะมีป้ายทางออกที่ 12 ถนนสุขุมวิท (สมุทรปราการ-สำโรง) ให้ชิดขวาเตรียมตัวออกค่ะ
ชิดขวามาแล้วจะเจอกับทางแยก ให้ชิดซ้ายแล้วตรงไปตามป้ายบอกทางสำโรง
ลงมายังถนนสุขุมวิทแล้ว จะสังเกตเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วยค่ะ ให้เราตรงไปเรื่อยๆ
เมื่อตรงมาแล้วจะเจอกับสถานีรถไฟฟ้า ปู่เจ้าสมิงพราย ให้ตรงไปเรื่อยๆเพื่อกลับรถ
เราจะกลับรถตรง Big C Super Center ค่ะ
ตรงทางกลับรถนี้สามารถขับเลี้ยวเข้าไปยัง Big C Super Center ได้เลยค่ะ แต่ต้องระวังรถสักหน่อยเนื่องจากบนถนนเส้นนี้รถขับค่อนข้างเร็วเลยค่ะ ซึ่งทางไปโครงการของเราคือกลับรถไปทางขวา
บรรยากาศภายในห้าง Big C ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และธนาคารอยู่ในตัว
เมื่อกลับรถมาแล้วให้เตรียมตัวชิดซ้ายไว้ เพื่อรอเลี้ยวเข้าซอย สุขุมวิท 115
ซอย สุขุมวิท 115 จะอยู่ก่อนบันไดทางขึ้นของสถานีรถไฟฟ้าสำโรง ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยค่ะ
เข้ามาแล้วจะสังเกตเห็นวินมอเตอร์ไซค์ทางด้านขวามือ และถัดไปเป็นส่วนของที่จอดรถจักรยานค่ะ ให้เราตรงเข้าซอยไปประมาณ 400 เมตร
เข้ามาไม่ไกลจะเห็น ซอย อภิชาติ 1 ตัวหัวมุมของซอยจะมี 7- Eleven เดินออกมาซื้อของได้สะดวก
ตรงมาอีกเล็กน้อยก็จะเจอกับโครงการ B Loft Lite สุขุมวิท 115 ทางซ้ายมือ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับซอย อภิชาติ 5 ค่ะ
ก่อนจะพาไปชมสภาพแวดล้อมโครงการหรือรายละเอียดอื่นๆ ต้องบอกก่อนว่า โครงการ B Loft Lite สุขุมวิท115 นั้นจะมีอยู่ 2 โครงการตั้งอยู่ติดกัน (ในที่นี้ขอเรียกโครงการแรกว่าโครงการ A ส่วนโครงการถัดมาว่า โครงการ B นะคะ) “ทั้ง 2 โครงการนี้เป็นคนละโครงการกัน แยกนิติบุคคลและทางเข้าออกกันชัดเจน” แต่จะมีการตกแต่งและวางผังที่แทบจะเหมือนกันเลย โดยโครงการ A นั้นได้มีการขายไปเยอะพอสมควรแล้ว “ในรีวิวนี้เราจะโฟกัสไปที่โครงการ B นะคะ” แต่เนื่องจากโครงการ B ยังสร้างไม่เสร็จดี จะมีรูปพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนที่เราไปถ่ายมาจากโครงการ A เพื่อให้เห็นภาพรวมโครงการ อย่าสับสนกันนะคะ ^^
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูงประมาณ 6 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ซอย สุขุมวิท 115, ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารแถวสูงประมาณ 4 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ โครงการ B Loft Lite สุขุทวิท 115 A, ซอย อภิชาติ 5
ด้านหน้าโครงการเมื่อมองไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณริมทางเข้ามีร้านขายอาหารอยู่หลากหลาย และด้านขวาเป็นที่ดินเปล่าค่ะ
ทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามทางทิศใต้ จะเจอกับซอย สุขุมวิท 115 และอาคารแถว 4 ชั้นค่ะ
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะอยู่ติดกับโครงการ B Loft Lite สุขุมวิท 115 โครงการ A และซอยอภิชาติ 5
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- สถานี BTS ปู่เจ้าสมิงพราย 400 เมตร
- Big C Super Center 570 เมตร
- พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 1.5 กิโลเมตร
- อิมพีเรียล สำโรง 2.3 กิโลเมตร
- ตลาดสำโรง 2.6 กิโลเมตร
- St. Andrew International 3.4 กิโลเมตร
- ตลาดเอี่ยมเจริญ 3.7 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลมนารมย์ 4.2 กิโลเมตร
- ไบเทคบางนา 5.4 กิโลเมตร
- บางกอกพัฒนา 10.5 กิโลเมตร
- โรงเรียนลาซาล 9.6 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลบางนา 23.6 กิโลเมตร
อย่างที่บอกไปว่า B Loft Lite สุขุทวิท 115 จะมีอยู่ 2 โครงการอยู่ติดกัน ซึ่งเป็นคนละโครงการ ใช้นิติบุคคลและทางเข้าออกแยกกัน โดยรีวิวนี้เราจะโฟกัสกันที่โครงการ B นะคะ โดย B Loft Lite สุขุทวิท 115 โครงการ B นั้นเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น มีทั้งหมด 78 ยูนิต ซึ่งถือว่ามีจำนวนยูนิตไม่เยอะเหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย โดยโครงการ B ได้มีห้องพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ คือห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 39 ตารางเมตร ที่โครงการ A ไม่มี ทำให้โครงการ B มีแบบห้องให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกันค่ะ แต่เนื่องจากโครงการ B ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง (จะแล้วเสร็จและเปิด Pre – Sale วันที่ 25-26 พฤษภาคมนี้) เราจึงพาไปชมพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ A ที่มีบรรยากาศโครงการและการตกแต่ง เหมือนกับโครงการ B มาให้ชมกันก่อน เพื่อจะได้เห็นภาพของจริงกันไปเลย บรรยากาศจะเป็นอย่างไร เราไปชมกันค่ะ
ด้านหน้าโครงการจะมีป้ายชื่อโครงการ และทางเดินขึ้นไปยังส่วน Lobby ชั้น 2 ได้เลย ซึ่งพื้นที่ชั้น 1 ทั้งหมดใต้อาคารจะเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้ประมาณ 30% ค่ะ ถือว่าอยู่ในระดับไม่มากไม่น้อยเกินไป เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในระยะที่เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวก
ด้านหน้าโครงการสามารถเดินขึ้นไปยัง Lobby ชั้น 2 ได้เลย หรือสำหรับคนที่ต้องการใช้ลิฟต์ ก็สามารถไปขึ้นลิฟต์ที่ชั้น 1 บริเวณลานจอดรถได้
ด้านข้างอาคารที่ชั้น 1 ระหว่างอาคาร จะมีรั้วกั้น และจัดสวนดูเรียบร้อยสวยงาม สามารถออกมานั่งเล่นตากลมได้
ด้านในสุดจะมีต้นไม้ใหญ่ และ Step ที่นั่ง เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนค่ะ
เรามาดูบริเวณทางเข้า Lobby กันบ้าง พื้นที่ Lobby Lounge จะอยู่ที่ชั้น 2 อย่างที่บอกไปแล้วนะคะ ซึ่งภายในเป็นห้องปรับอากาศ เย็นสบาย
ด้านในมีพื้นที่พักคอย และที่นั่งทำงาน สามารถใช้เป็นห้อง Co-Working Space ได้เวลาอยู่บนห้องร้อนๆ เอางานลงมาทำใน Lobby Lounge เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบดีค่ะ
จาก Lobby มีประตูด้านหลังสามารถเดินเข้ามายังโถงลิฟต์ได้เลยค่ะ บริเวณโถงมีช่องแสงค่อนข้างกว้างและสามารถเปิดระบายอากาศได้ ทำให้ภายในโถงลิฟต์มีความสว่างและอากาศถ่ายเทได้ดี ลิฟต์ของโครงการนี้มีทั้งหมด 1 ตัว เป็นลิฟต์ล็อคชั้นต้องแตะ Key Card ก่อนถึงจะกดเลขชั้นได้ มีอัตราส่วนลิฟต์ต่อยูนิต 78 : 1 ถือว่าไม่เยอะมาก ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานค่ะ
ส่วนของโถงทางเดินบริเวณพักอาศัย ก็จะมีประตูกั้นต้องแตะ Key Card เพื่อผ่านประตู ช่วยคัดกรองความปลอดภัยให้กับลูกบ้านในชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางค่ะ
ห้อง Mail Box จะอยู่ที่โถงลิฟต์ ชั้น 1 เชื่อมต่อกับลานจอดรถนะคะ ลูกบ้านสามารถมารับจดหมายของตัวเองได้ที่นี่เลย
บริเวณโถงลิฟต์ชั้น 1 เป็นพื้นที่ปรับอากาศ ตกแต่งด้วยโทสีเข้มดูสวยงาม ซึ่งจะสามารถเข้าได้ 2 ทางคือ จากลานจอดรถ และจากสวนด้านข้างอาคารค่ะ (ต้องใช้ Key Card)
บรรยากาศภายในลิฟต์ มีกล้องวงจรปิดดูแลความปลอดภัยติดตั้งอยู่ด้วยค่ะ
มาดูผังชั้นพักอาศัยที่เป็น Typical Floor Plan (ชั้น 3 – 7) กันบ้าง บริเวณชั้นนี้จะมียูนิตเยอะที่สุดอยู่ที่ 12 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าไม่เยอะมาก ทำให้แต่ละชั้นค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวาย เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และเดินไม่ไกลจากลิฟต์ทั้ง 2 ฝั่งของอาคาร ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีช่องเปิด 3 จุด ทำให้โถงระบายอากาศได้ดี มีแสงเข้าทั่วถึงค่ะ ห้องพักส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom แบบตอนลึก หันไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่ได้แสงแดดอ่อนในตอนเช้าทำให้ไม่ร้อนมาก แต่ด้านการมองเห็นวิวจะโดนอาคารพักอาศัยข้างเคียงบังวิวอยู่บ้าง ยกเว้นชั้นสูงๆอย่างชั้น 7-8 ค่ะ ส่วนห้องอีกฝั่งทางทิศตะวันตกจะเน้นไปที่ห้องใหญ่ หันหน้าเข้าหาโครงการ B Loft Lite A ถึงแม้จะเป็นทิศที่แดดแรง แต่ก็มีโครงการ A บังแดดให้อยู่ค่ะ ทำให้ทิศนี้มีวิวเป็นโครงการ A และสวนส่วนบริเวณชั้น 1
ห้องมุมอาคารเป็นห้องขนาดใหญ่ทั้งหมด คือห้อง 1 Bedroom Plus ทางทิศตะวันออก และห้อง 2 Bedroom ทางทิศตะวันตก ซึ่งห้อง 2 Bedroom ทั้ง 2 ตำแหน่งจะไม่ติดกับห้องไหนเลย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดค่ะ
ถัดมาที่ชั้น 8 จะมี Facility อย่างห้อง Fitness มาให้นะคะ เมื่อออกจากลิฟต์มาแล้วจะเห็นห้อง Fitness อยู่ทางขวามือ
ด้านหน้าห้องมี Locker ไว้ให้ใช้ด้วย มีช่องเก็บของได้ถึง 10 ช่องเพียงพอต่อผู้ใช้งานค่ะ
ภายในห้อง Fitness ขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตทั้งโครงการ ผนังทั้ง 2 ฝั่งเป็นกระจกสูง มองเห็นวิวทางทิศใต้ได้ มีเครื่องออกกำลังกายมาให้หลายเครื่องเลยค่ะ ทำให้เมื่อมีลูกบ้านมาเล่นพร้อมๆกันหลายคนก็สามารถเล่นได้เลยไม่ต้องรอกันค่ะ
นอกจากจำนวนที่หลากหลายแล้ว แต่ละชิ้นยังมีความแตกต่างกัน เลือกใช้ได้ตามใจชอบเลยค่ะ
วิวที่มองเห็นจากห้อง Fitness เป็นวิวทางทิศใต้ และเนื่องจากอยู่ที่ชั้น 8 ทำให้เห็นเป็นวิวชุมชนพักอาศัย ไม่มีอาคารมาบังวิวเลยค่ะ ออกกำลังกายไปด้วยมองวิวไปด้วยบรรยากาศค่อนข้างดีเลยค่ะ
ถัดจากห้อง Fitness จะมีห้องน้ำมาให้ 1 จุด แยกหญิง-ชาย และมีประตูกั้นระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและโถงทางเดินห้องพักอาศัยมาให้ด้วย
ภายในห้องน้ำเป็นห้อง Powder Room ตกแต่งสวยงาม ห้องน้ำนี้จะไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำมาให้นะคะ ต้องไปอาบที่ห้องตัวเอง
มาดู Facility ชั้น Roof Top กันบ้าง พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ทางด้านหน้าอาคารกินพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของชั้น มีสระว่ายน้ำ, พื้นที่นั่งเล่น และสวนหย่อมค่ะ ภาพบรรยากาศที่เราจะพาไปชมนั้นเป็นของโครงการ A ซึ่งจะอยู่คนละฝั่งกับโครงการ B ดังนั้น พื้นที่จริงของโครงการ B จะ Mirror กันนะคะ
เมื่ออกจากลิฟต์ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ นั่งเล่น ชมวิว ท่ามกลางบรรยากาศ สวนหย่อม มีต้นไม้สีเขียวให้ดูสบายตา และเนื่องจากรอบๆด้านไม่มีอาคารที่เป็นอาคารสูงอยู่เลย ทำให้มองเห็นวิวรอบโครงการเป็นชุมชนพักอาศัย วิวเมืองทั้งหมดค่ะ
บริเวณที่นั่งเล่นสามารถขึ้นมาจัดปาร์ตี้ได้ มีหลังคามาให้ทำให้ออกมานั่งเล่นตอนกลางวันได้ ไม่ร้อนจนเกินไป
ฝั่งขวามือมีรั้วต้นและต้นไม้ใหญ่เพิ่มสีเขียวให้ดูสดชื่น
มีที่นั่งแยก สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถชวนเพื่อนๆมานั่งเล่นกันได้ค่ะ
อีกฝั่งเป็นที่ล้างตัวก่อนลงสระ มีทั้งฝักบัวและ Rain Shower ค่ะ
ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ด้านหลังกำแพงช่วยแยกความเป็นส่วนตัว ว่ายเล่นได้โดยไม่ต้องอายคนที่นั่งอยู่บริเวณสวนค่ะ ด้านข้างสระมีเก้าอี้อาบแดดมาให้สำหรับวางของหรือนอนชมวิวได้
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาดประมาณ 4.80 x 11.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร แต่ระดับน้ำจะไม่สูงพอดีกับขอบนะคะมีข้อดีคือ มีความปลอดภัย ไม่พลัดตกจากชั้น Roof Top แน่นอน แต่ข้อเสียคือเมื่อเวลาว่ายเหนื่อยๆ ก็จะไม่มีที่เกาะขอบสระ เนื่องจากขอบค่อนข้างสูงค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก (โครงการ B)
- Lobby Lounge
- สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 11.00 x 4.80 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- ห้องออกกำลังกายใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 78 : 1
- Service Lift – ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 30%
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
โครงการ B Loft Lite สุขุมวิท 115 B มีห้องทั้งหมด 4 แบบ คือ
- 1 Bedroom ตอนลึก 26.95 ตร.ม.
- 1 Bedroom หน้ากว้าง 26.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 39.50 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 39.20 ตร.ม.
ขายในรูปแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ ดังนี้ค่ะ
- โซฟา
- ชั้นวาง TV Built-in
- ตู้รองเท้า Built-in
- เตียง ขนาด 5 ฟุต
- ตู้เสื้อผ้า
- ชุดครัว พร้อม Hob & Hood
- เครื่องปรับอากาศ Daikin Inverter หรือเทียบเท่า
- Digital Door Lock จาก Colt หรือเทียบเท่า
- ฉากกั้นอาบน้ำ
เราจะพามาดู ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 39.50 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการ A ห้องนี้แบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วนชัดเจน ส่วนพักผ่อนจะอยู่ริมอาคาร และส่วนนั่งเล่น, ครัว และห้องน้ำจะอยู่ด้านใน เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้ เชื่อมต่อพื้นที่กับห้องนอน ที่มีผนังเป็นบานเลื่อนกระจก ทำให้รับแสงจากหน้าต่างเข้ามายังห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องดูสว่าง และฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ครัวเปิด สามารถทำบานประตูกั้นปิดเองเพื่อทำอาหารจริงจังและมีกลิ่นได้ แต่ก็อาจจะไปรบกวนห้องอเนกประสงค์เหมือนกันค่ะ ห้องน้ำมีทางเข้าติดกับพื้นที่ครัว แบ่งการใช้งานส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ตรงข้ามกับห้องน้ำเป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต แล้วมีที่เหลือสำหรับเดินได้สบายค่ะ ห้องอเนกประสงค์จะมีระเบียงในตัว ขนาดพอดีออกไปใช้งานได้จริง ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวถึง 2 คน ชอบพื้นที่ห้องกว้าง อยากได้ห้องทำงานแยก เป็นต้น บรรยากาศห้องจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ
ก่อนอื่นมาดู Digital Door Lock ที่ทางโครงการให้มากันก่อน เป็น Digital Door Lock จาก Colt รองรับระบบ Key Card และ ตั้งรหัส
ห้อง 1 Bedroom Plus เป็นห้องที่มีตำแหน่งอยู่มุมอาคาร จึงมีช่องแสงจากทั้ง 2 ด้าน ทำให้ห้องดูสว่างค่ะ เข้าห้องมาแล้วจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน และสามารถมองผ่านบานเลื่อนกระจกเข้าไปยังห้องนอนได้ ทำให้รู้สึกกว้างไม่อึดอัด พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.45 เมตร ซึ่งจะได้ฝ้าแบบฉาบเรียบค่ะ
ห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้างสามารถวางโต๊ะกลางได้ไม่ขวางทางเดิน ห้องนี้จะได้โซฟา (คนละแบบกับในภาพห้องตัวอย่างนี้นะคะ) ชั้นวาง TV และ ตู้รองเท้า ห้องนั่งเล่นนี้มีระยะดู TV ประมาณ 3.20 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 40-46 นิ้วค่ะ
โครงการจะ Built-in ตู้งรองเท้ามาให้สูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ทำให้ดูเรียบร้อยสวยงามไม่เหลือพื้นที่ด้านบนตู้ให้ฝุ่นเกาะ ตำแหน่งตู้รองเท้าอยู่ใกล้กับประตูทำให้หยิบใช้งานได้สะดวก นอกจากนั้นก็จะมีชั้นวาง TV มาให้ มีช่องเก็บของ 6 ช่องบานปิด 2 ข้าง หน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้เข้ากับลายพื้นค่ะ
ด้านข้างโซฟาเหลือพื้นที่ประมาณ 1.35 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้สบายๆ แต่ทางโครงการไม่ได้ให้โต๊ะรับประทานอาหารมานะคะ ต้องหาซื้อเอง
มาดูห้องนอนที่ติดกับส่วนนั่งเล่นกันบ้าง ห้องนอนกั้นด้วยผนังบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ ทำให้ห้องดูกว้างและสามารถรับแสงจากหน้าต่างเข้ามาในห้องนั่งเล่นได้ ตรงนี้ถ้าใครรู้สึกว่าห้องนอนไม่เป็นส่วนตัวก็สามารถหาสติกเกอร์ฝ้ามาติดกระจก หรือติดตั้งม่านเพิ่มเติมได้
ภายในห้องนอน มีช่องเปิด 2 จุด และมีช่องแสงค่อนข้างกว้าง รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง และทำให้มองออกไปเห็นวิวได้ ห้องนี้จะได้เตียง ขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้ามาให้นะคะ ขนาดของห้องค่อนข้างกว้าง เมื่อวางเตียงแล้วมีพื้นที่สำหรับเดินได้รอบ ปลายเตียงสามารถติดตั้งชั้นวาง TV ได้
มาดูตู้เสื้อผ้ากันค่ะ ตู้เสื้อผ้าที่ได้ในห้องนี้เป็นแบบบานเปิด 2 บาน มีกระจกมาให้ 1 บาน ทำให้สะดวกในการแต่งตัว และไม่ต้องซื้อกระจกมาตั้งเพิ่มให้เปลืองพื้นที่ด้วยค่ะ ด้านในมีราวแขวน มีช่องเก็บของด้านบนให้ สำหรับเก็บพวกหมอน ผ้าห่มได้ และด้านล่างมีช่องเก็บของพร้อมลิ้นชักมาให้ 3 ช่องสำหรับเก็บกระเป๋าหรือเครื่องประดับได้ค่ะ
ปลายเตียงมีพื้นที่ประมาณ 70 เซนติเมตร สามารถ Built-in ชั้นวาง TV แล้วยังเหลือพื้นที่สำหรับเดินได้ค่ะ
ด้านข้างเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 50 เซนติเมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆ หรือโคมไฟตกแต่งได้
มาดูพื้นที่ครัวกันบ้าง ครัวของห้องนี้เป็นครัวเปิดนะคะ ทำให้เวลาทำอาหารจะมีกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว แต่ก็สามารถกั้นประตูทำเป็นครัวปิดได้ ซึ่งขอแนะนำว่ากั้นเป็นบานเลื่อนกระจกจะทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัดค่ะ ห้องครัวจะมีพื้นเป็นกระเบื่องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นรูปทรงตัว I มีชั้นเก็บของด้านบน ชุดครัวติดตั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศมาให้ ซึ่งอุปกรณ์ประกอบครัวทั้งหมดจาก Techno หรือเทียบเท่า เคาน์เตอร์ล่างมีที่วางเครื่องซักผ้ามาให้เป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นที่ใต้อ่างล้างจานเป็นตู้บานใหญ่สำหรับวางถังขยะ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ส่วนตู้เก็บของด้านบนมีช่องสำหรับวางเครื่องไมโครเวฟ ช่วยประหยัดพื้นทีเตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้ค่ะ
Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียมสีดำ ควรติดตั้ง Backsplash ด้านหลังเองนะคะเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
ห้องน้ำจะมีทางเข้าอยู่ภายในครัว พื้นที่ด้านขวาหน้าห้องน้ำสามารถวางตู้เย็นได้ ซึ่งควรวางแบบหันออกเหมือนในห้องตัวอย่างจะเปิดใช้งานได้สะดวกไม่ขวางทางเดินค่ะ
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน เข้ามาแล้วจะเจอกับอ่างล้างหน้าก่อน ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำมีฮากกั้นมาให้ และด้านขวาเป็นพื้นที่โถงสุขภัณฑ์ค่ะ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปเลอะด้านนอกได้ อ่างล้างมือมีเคาน์เตอร์ด้านล่างเป็นช่องวางของได้เล็กน้อย ส่วนโถสุขภัณฑ์ด้านขวา มีพื้นที่นั่งได้สบายไม่อึดอัด อุปกรณ์ประกอบห้องน้ำทั้งหมดที่ได้เป็นแบบเดียวกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ จาก Cotto หรือเทียบเท่า
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ เป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กรอบบานสีขาว ช่วยไม่ให้เวลาอาบน้ำแล้วน้ำกระเด็นมาด้านนอก
พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.30 x 0.70 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ด้านบนติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้ ฝักบัวเป็นฝักบัวสายอ่อน รูปทรงทั่วไป พร้อมเดินระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ
ห้องอเนกประสงค์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำ มีประตูเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ บานกระจกทำให้แสงจากระเบียงเข้ามายังส่วนครัวได้ค่ะ
ห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.45 x 2.40 เมตร ซึ่งค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ สำหรับห้อง Plus นี้ สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานได้
โดยปกติแล้วห้องอเนกประสงค์ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กเมื่อวางเตียงแล้วจะเหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับเดินได้นิดเดียว แต่สำหรับห้องนี้เหลือพื้นที่เดินค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
ห้องอเนกประสงค์นี้อยู่ติดกับระเบียง มีประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจกเต็มผนัง ทำให้มองเห็นวิวได้กว้างและรับแสงธรรมชาติเข้ามาให้เต็มๆเลยค่ะ
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ลดระดับลงเล็กน้อย ช่วยให้เวลาฝนตกน้ำจะไม่กระเด็นเข้ามาในห้องค่ะ พื้นที่ระเบียงห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.45 x 0.78 เมตร ออกมาใช้งานได้จริง
ตรงระเบียงจะเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้ง Condensing Units แบบหันเข้าด้านในทำให้มีลมร้อนมาอยู่บริเวณระเบียง แนะนำให้ติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลม ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ตกแต่งบ้านทั่วไปค่ะ
สวิสซ์ไฟที่ได้ดีไซน์สีขาว จาก Sylvania , Bticino , Schneider หรือเทียบเท่า
ห้องที่จะพามาดูต่อไปเป็นห้อง 1 Bedroom แบบหน้ากว้าง ขนาด 26.50 ตารางเมตร (หน้ากว้างประมาณ 5 เมตร) โดยจะแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ด้านซ้ายเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับครัวและระเบียง และด้านขวาเป็นส่วนห้องนอนและห้องน้ำ โดยห้องนี้มีจุดเด่นคือ ได้ห้องครัวขนาดค่อนข้างใหญ่ และที่น่าสนใจอยู่ที่ประตูห้องนอนสามารถปรับเปลี่ยนได้โดยปมีประตูบานเลื่อนกระจกสามารถเลื่อนมาปิดให้ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนได้ (เส้นประสีน้ำเงิน) หรือจะปรับเปลี่ยนเวลามีแขกมาหาที่ห้อง ก็สามารถเลื่อนเปิดประตูตู้เสื้อผ้า ให้มากั้นเฉพาะห้องนอนอย่างเดียวได้ (เส้นประสีส้ม) ค่ะถือว่าเป็นข้อดีในการเลือกพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวเองได้ค่ะ ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่ 1-2 คน มีเพื่อนมาหาบ่อยๆ ชอบทำครัว เป็นต้น
เข้ามาในห้องนี้ก็จะเจอกับห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน รับแสงธรรมชาติจากระเบียงเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้
ห้องนี้มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 26-30 นิ้ว ห้องนี้ถ้าใครอยากวางโต๊ะกลาง แนะนำให้วางเอียงมาทางด้านในห้องเล็กน้อยเพราะอาจจะขวางทางเดินเข้า-ออกประตูได้ค่ะ
โซฟาที่ได้ของทุกห้องจะเหมือนกับโซฟาในภาพค่ะ
มีชั้นวาง TV Built-in มาให้ ซึ่งจะเป็นแบบเดียวกับห้อง 1 Bedroom Plus แต่จะไม่มีตู้รองเท้านะคะ สามารถวางรองเท้าบริเวณใต้ชั้นวาง TV ได้ แนะนำหากล่องมาใส่เพื่อความเป็นระเบียบสวยงามค่ะ
พื้นที่ด้านข้างโซฟาเหลือประมาณ 1.30 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้
ส่วนครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียม ช่วยให้ห้องดูโปร่ง และสามารถทำอาหารจริงจังได้ค่ะ ห้องครัวนี้ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ ทำให้ทำความสะอาดง่าย พื้นที่ห้องครัวของห้องนี้ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะหรือเคาน์เตอร์อีกฝั่งพร้อมกับตู้เย็นได้เลยค่ะ
ชุดครัวจะได้เป็นตัว I แต่จะมีขนาดเล็กกว่าห้อง 1 Bedroom Plus เล็กน้อย ด้านบนติดตั้งชั้นเก็บของมาให้ ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับใส่ช้อน ส้อม อุปกรณ์ทำครัวต่างๆ และช่องวางไมโครเวฟมาให้
บนเคาน์เตอร์จะติดตั้งอ่างล้างจาน , เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศมาให้ จาก Techno หรือเทียบเท่า แนะนำให้ติด Backsplash เพิ่มเติมนะคะ จะช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นไม่เป็นคราบติดผนัง
ห้องครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงมีข้อดีคือ เวลาทำอาหารที่มีกลิ่นสามารถกั้นประตูปิดด้านใน และเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้าไปภายในห้องได้ค่อนข้างเยอะ
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย ลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำฝนไหลเข้าห้องได้ค่ะ พื้นที่ระเบียงห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.40 x 0.80 เมตรมีงานระบบท่อน้ำเดินไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ
ระเบียงแขวน Condensing Units หันเข้าควรติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลงเพิ่มเติมค่ะ
มาดูฝั่งห้องนอนกันบ้าง อย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่าห้องนี้ สามารถกั้นประตูปิดได้ 2 แบบ คือ
- กั้นห้องน้ำไว้ในห้องนอน โดยการปิดประตูบานเลื่อนกระจกที่ซ่อนอยู่หลังผนังห้องนอน ตามเส้นประสีส้ม
- กั้นห้องให้ห้องน้ำอยู่ด้านนอก โดยการเลื่อนประตูตู้เสื้อผ้าออกมาปิดเฉพาะห้องนอนตามเส้นประสีเขียว
มีข้อดีคือเราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของห้องเองได้ เช่น เวลาแขกมาหา ก็เลื่อนปิดตามเส้นสีเขียว เวลาแขกเข้าห้องน้ำก็จะได้ไม่เดินผ่านเห็นห้องนอนของเราค่ะ
พื้นที่ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำสามารถ Built-in ตู้โชว์ หรือตู้เก็บของได้ค่ะ
ห้องน้ำจะอยู่ทางด้านขวามือ ภายในแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน เข้ามาแล้วจะเจอกับอ่างล้างมือก่อน ตามด้วยโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ ตามลำดับ เนื่องจากห้องน้ำไม่ได้อยู่ติดกับภายนอกอาคารทำให้ห้องน้ำมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้แทนค่ะ
อ่างล้างมือมีเคาน์เตอร์ด้านล่างเป็นช่องวางของได้เล็กน้อย ส่วนโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างนั่งได้สบายไม่อึดอัดค่ะ
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน เหมือนกันกับห้อง 1 Bedroom Plus ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นออกมายังส่วนแห้งค่ะ
พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 0.90 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ฝักบัวเป็นฝักบัวสายอ่อนจับถนัดมือ พร้อมเดินระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ
ห้องนอนมีเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ มีพื้นที่เหลือเดินได้รอบ ห้องนี้ได้ช่องแสงและช่องเปิด 1 จุด สำหรับรับแสงธรรมชาติและมองวิวด้านนอกได้
ด้านซ้ายมือมีพื้นที่ประมาณ 0.55 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงขนาดเล็กได้ ส่วนด้านขวามีพื้นที่สำหรับแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าประมาณ 0.65 เมตร
ตู้เสื้อผ้าเป็นประตูบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ด้านหน้าและทำให้เลื่อนปิดแทนประตูห้องนอนได้ค่ะ ตัวบานติดตั้งกระจกมาให้ ทำให้แต่งตัวได้สะดวก
ภายในตู้มีราวแขวนและช่องเก็บของเหมือนกับตู้บานเปิดของห้อง 1 Bedroom Plus เลยค่ะ
ห้องสุดท้ายเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ นั่นคือห้อง 1 Bedroom ตอนลึก ขนาด 26.95 ตารางเมตร การจัดผังห้องเป็นสัดส่วนชัดเจนมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารและพื้นที่ Built-in ตู้เก็บของระหว่างห้องน้ำและห้องครัวได้ เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ด้านหน้าเชื่อมต่อกับห้องนอน มีประตูกั้นด้วยบานเลื่อนกระจก 3 ตอน รับแสงที่ส่องเข้ามาจากทางหน้าต่างผ่านห้องนอนมายังห้องนั่งเล่นได้ อีกฝั่งทางซ้ายเป็นส่วนของห้องน้ำและห้องครัว เชื่อมต่อกับระเบียง ห้องน้ำให้มาคล้ายกับห้องอื่นๆค่ะ ส่วนห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด ติดกับระเบียงทำให้สามารถทำอาหารจริงจังได้ ระบายอากาศได้ดี แต่ห้องนี้จะได้ระเบียงค่อนข้างเล็ก สักหน่อยค่ะ เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวเน้นการใช้งานส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นหลัก ชอบทำครัว ไม่เน้นการมช้งานระเบียง เป็นต้น
เข้ามาจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับห้องนอนทำให้ห้องดูกว้าง ถึงแม้ว่าเป็นห้องตอนลึกก็มีแสงธรรมชาติเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นได้
พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีระยะดู TV ประมาณ 2.2 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 26-30 นิ้ว ไม่เหมาะกับการวางโต๊ะกลางเนื่องจากจะทำให้ขวางทางเดินได้ค่ะ แนะนำให้วางด้านข้างแทน
ตรงส่วนชั้นวาง TV มี Built-in ตู้รองเท้ามาให้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom Plus ใช้งานได้สะดวก
ด้านข้างโซฟามีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง 1.20 เมตร เป็นระยะที่ยังนั่งได้สบายค่ะ แนะนำให้วางเป็นโต๊ะกลมจะประหยัดพื้นที่มากกว่าโต๊ะเหลี่ยม
ห้องนอนกั้นด้วยผนังบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ ทำให้ห้องดูกว้างและสามารถรับแสงจากหน้าต่างเข้ามาในห้องนั่งเล่นได้ ถ้าอยากให้ห้องนอนเป็นส่วนตัวมากขึ้น แนะนำให้หาสติกเกอร์ฝ้ามาติดกระจก หรือติดตั้งม่านเพิ่มเติมนะคะ
ห้องนอนห้องนี้ สามารถวางเตียง 5 ฟุต และมีพื้นที่เดินได้รอบเตียง มีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ มีพื้นที่ด้านหน้าสำหรับแต่งตัวได้กว้างค่ะ
ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นแบบบานเปิด 2 บาน มีกระจกมาให้ เหมือนกับห้อง 1 Bedroom Plus มีพื้นที่ด้านหน้าตู้สำหรับยืนแต่งตัวได้สบายๆค่ะ
ปลายเตียงมีพื้นที่เดินประมาณ 0.35 เมตร ไม่เหมาะกับการติดตั้งชั้นวาง TV นะคะ ถ้าใครอยากติดแนะนำให้ติด TV แบบติดผนังค่ะ
ด้านข้างเตียงมีพื้นที่ประมาณ 0.50 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆได้
ภายในห้องนอน มีช่องเปิด 2 จุด และมีช่องแสงค่อนข้างกว้าง รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง และทำให้มองออกไปเห็นวิวได้ค่ะ
มาดูส่วนห้องน้ำและครัวบ้าง พื้นที่ระหว่างห้องน้ำและครัวสามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของ, ตู้โชว์ หรือโต๊ะสำหรับนั่งทำงานได้นะคะ
ห้องครัวเป็นครัวปิดตอนลึก มีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน พื้นที่ห้องครัวเชื่อมต่อกับระเบียงทำให้ระบายอากาศได้ดีค่ะ
ส่วนครัวได้เคาน์เตอร์รูปตัว I พร้อมตู้เก็บของด้านบน มีพื้นที่เดินหน้าเคาน์เตอร์ประมาณ 0.65 เมตร สำหรับคนที่ไม่ชอบที่แคบอาจจะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยค่ะ
Top ครัวมี อ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศมาให้ จาก Techno
เคาน์เตอร์ด้านล่างนอกจากช่องเก็บของแล้วมีที่วางไมโครเวฟมาให้ด้วยค่ะ
ด้านบนเป็นตู้เก็บของบานเปิด เก็บจาน ชาม และอุปกรณ์ทำอาหารได้ค่อนข้างเยอะ
ระเบียงมีประตูบานเลื่อนกระจกเหมือนกับห้องอื่นๆ ทำให้แสงเข้ามายังส่วนครัว และเปิดระบายอากาศได้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.20 x 0.80 สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ แต่จะเหลือพื้นที่ค่อนข้างเล็ก แค่พอวางตะกร้าผ้าได้ค่ะ
ด้านบนพื้นที่วางเครื่องซักผ้า มี Condensing Units ติดตั้งแบบแขวน หันหน้าเข้าตัวระเบียงมาให้ แนะนำให้ติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมค่ะ
มาดูห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องครัวกันค่ะ
ห้องน้ำเหมือนกับห้องอื่นๆคือ แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้
อ่างล้างมือมีเคาน์เตอร์ด้านล่างเป็นช่องวางของได้เล็กน้อย ได้กระจกเงาบานสูง ส่วนโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่นั่งได้พอดี สำหรับคนตัวใหญ่หน่อยอาจจะอึดอัดเล็กน้อยตอนเอี้ยวตัวไปหยิบสายชำระ
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน เหมือนกับห้องอื่นๆ
พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 0.80 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ฝักบัวเป็นฝักบัวสายอ่อนจับถนัดมือ พร้อมเดินระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 April 2019
- 1 Bedroom โครงการ B เนื้อที่ 26.95 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.89 ล้านบาท หรือ 70,130 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom หน้ากว้าง โครงการ B เนื้อที่ 26.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.09 ล้านบาท หรือ 78,868 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus โครงการ B เนื้อที่ 39.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.49 ล้านบาท หรือ 63,038 บาท/ตร.ม.
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
- Kitchen & Sink / ท๊อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อง Techno+
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล :
โครงการ B Loft Lite สุขุมวิท 115 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 115 เข้าไปในซอยประมาณ 400 เมตร จากถนนสุขุมวิทขาออก เดินทางสะดวกเนื่องจากในซอยสามารถทะลุออกถนนเทพารักษ์, ถนนสุขุมวิทได้ง่าย หน้าปากซอยมีห้าง Big C Super Center ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร ฯลฯ ภายในซอยก็มีตลาดและร้านค้าอยู่หลากหลาย หรือใครชอบเดินห้างใหญ่ๆอย่าง Central บางนา, Ikea ก็สามารถไปได้สะดวก
การเดินทางโดยใช้รถ :
เดินทางโดยรถได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็น จากสุขุมวิทตอนต้นวิ่งลงมาทางใต้ หรือมาจากถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวเข้าถนนเทพารักษ์ แล้วเข้าซอยเทพารักษ์ 8 หรือเทพารักษ์ 12 มายังซอยอภิชาติ 9 เพื่อมายังโครงการได้โดยไม่ต้องผ่านถนนสุขุมวิท ที่อาจจะมีการจราจรหนาแน่น มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร ถือว่าขึ้นทางด่วนสะดวกมากๆเลยค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
โครงการตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 115 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีปู่เจ้าสมิงพรายเป็นระยะ 400 เมตร สามารถเดินได้ ใครที่ไม่อยากเดินก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ภายในซอย และหน้าปากซอยอยู่ค่ะ ซึ่งสถานี ปู่เจ้าสมิงพราย จะอยู่ถัดจากสถานีสำโรง ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ในอนาคต) เมื่อเปิดให้บริการครบแล้วจะทำให้การเดินทางหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นก็จะมีป้ายรถประจำทาง อยู่ใกล้ๆกับปากซอยสุขุมวิท 115 ด้วย
วัสดุ :
โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างครบ ขายพร้อมเข้าอยู่ได้เลย พื้นห้องเป็นพื้นกระเบื้องยาง 3 มิลลิเมตร ห้องครัวปูกระเบื้องเกรนิตโต้ 0.60×0.60 ม. ห้องน้ำและระเบียงปูกระเบื้องเซรามิค ชุดครัวพร้อม Hob & Hood จาก Techno และสุขภัณฑ์จาก Cotto , Mogen , American Standard หรือเทียบเท่า ตามมาตรฐาน แต่ถือว่าได้ของมาค่อนเข้างเยอะเลยค่ะเทียบกับราคา
การออกแบบ :
การออกแบบอาคารยูนิตน้อย มีความเป็นส่วนตัวสูง วางผังห้องแนวยาวตามพื้นที่ดิน ทำให้ห้องหันหน้าเข้าทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทางทิศตะวันออกได้รับแดดอ่อน ทำให้ไม่ร้อน ทางทิศตะวันตกจะหันเข้าหาโครงการ B Loft Lite A ทำให้ไม่ได้โดนแดดโดยตรง แต่จะถูกบังวิว มองเห็นวิวสวนชั้น 1 แทนค่ะ ห้องพักขนาดใหญ่จะอยู่มุมอาคาร ห้อง 2 Bedroom จะอยู่ในตำแหน่งที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีช่องเปิด 3 จุด ทำให้โถงระบายอากาศได้ดี และแยกส่วนระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและโถงทางเดินห้องพักอาศัยออกจากกันทำให้เป็นส่วนตัว มีการออกแบบส่วนกลางน่าใช้งาน
ห้องพักมีให้เลือกหลากหลายถึง 4 แบบ มีห้อง 1 Bedroom หน้ากว้าง ให้เลือก และมีห้อง 1 Bedroom Plus ที่มีเฉพาะโครงการ B Loft Lite B มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์กว้าง และได้ครัวขนาดใหญ่ มีเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับพื้นที่ใช้งานแต่ละห้องมาให้พร้อมทำให้ไม่ต้องไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ขนาดเหมาะสมเองซึ่งอาจจะหายากค่ะ
สาธารณูปโภค :
สาธารณูปโภคมีสวนหย่อมที่ชั้น 1 และดาดฟ้า, Lobby Lounge, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 11.00 x 4.80 เมตร ลึก 1.20 เมตร และห้องออกกำลังกายขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับยูนิตพักอาศัย ถือว่าค่อนข้างดีน่าใช้งานค่ะ มีลิฟต์ทั้งหมด 1 ตัว อัตราส่วน 78 : 1 ถือว่าไม่เยอะมาก ทำให้ไม่รอลิฟต์นาน และมีที่จอดรถประมาณ 30 % ไม่มากไม่น้อยเกินไป
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 74,000-79,000 บาท/ตร.ม.,24 April 2019
- ทำเล 7.50/10 – เดินทางสะดวก มี Big C Super Center อยู่หน้าปากซอย
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – มีเส้นทางลัดออกถนนใหญ่ได้, ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก
- ไม่ใช้รถ 8.00/10 – เดินไป BTS สถานี ปู่เจ้าสมิงพรายได้ มีวิน, รถประจำทางให้เรียก
- วัสดุ 7.75/10 – Fully furnished พื้นกระเบื้องยาง วัสดุตามมาตรฐาน
- แบบ 8.00/10 – มีความเป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย มีห้องให้เลือกหลากหลาย ออกแบบห้องค่อนข้างดี
- สาธารณูปโภค 7.50/10 – มีให้ครบ ได้ฟิตเนสใหญ่ น่าใช้งาน
- MAIN CLASS
- 7.70 / 10.00
BOTTOM LINE
B Loft Lite สุขุมวิท 115 เหมาะกับคนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ ในระยะเดินถึงสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ใกล้ Hyper Market อยากได้โครงการที่มี Facilities ให้ใช้ มีความเป็นส่วนตัว และมีการออกแบบห้องพักเป็นสัดส่วน มีห้องหน้ากว้าง ให้เฟอร์นิเจอร์ครบ ในราคาที่พอหยิบจับได้ มีงบประมาณระดับ 1.89 – 3 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,250 – 21,000 บาท/เดือน