รีวิวฉบับที่ 2175 … ก่อสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะคะกับโครงการ Atmoz รัชดา – ห้วยขวาง คอนโด Low Rise ที่อยู่ใกล้สถานทูตถึง 2 แห่งคือสถานทูตกัมพูชาและสถานทูตลาว ภายในมีพื้นที่ส่วนกลางมาให้แบบจัดเต็มทั้ง 3 อาคาร เน้นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22 – 34 ตารางเมตรในราคาเริ่มต้น 2.05 ล้านบาท (โปรโมชัน) บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย 

ข้อมูลโครงการ

30 November 2020

  • Atmoz Ratchada-Huaikwang (แอทโมช รัชดา-ห้วยขวาง)
  • บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่:  ซอยสหการประมูล ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง
  • ที่ดินประมาณ 3-3-10 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร รวม 595 ยูนิต (1 ร้านค้า)
  • อาคาร A : 214 ยูนิต
  • อาคาร B : 214 ยูนิต
  • อาคาร C : 166 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 32 ยูนิตที่อาคาร A , B ชั้น 4-7
  • ที่จอดรถประมาณ  40% (รวมซ้อนคัน)
  • เริ่มก่อสร้าง : ต้นปี 2562
  • แล้วเสร็จ : กลางปี 2563 (ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่)
  • Studio ขนาด 21.1 ตารางเมตร (ช่วงราคา 2.11 – 2.28 ล้านบาท)
  • 1 Bedroom ขนาด 22.35 – 25.90 ตารางเมตร (ช่วงราคา 2.34 – 2.82 ล้านบาท)
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.95 – 30.05 ตารางเมตร (ช่วงราคา 2.80 – 3.15 ล้านบาท)
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31.25 – 34.40 ตารางเมตร (ช่วงราคา 3.26 – 4.19 ล้านบาท)
  • 2 Bedroom ขนาด 47.21 ตารางเมตร (Sold out)
  • ราคาเริ่มต้น 2.05 ล้านบาท (โปรโมชันห้อง 1 Bedroom)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 90,000 – 100,000 บาท/ตร.ม.
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-168-0000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.769060085064238, 100.5964425212625
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Image 1/2
แผนที่เส้นทางโครงการ Atmoz รัชดา - ห้วยขวาง

แผนที่เส้นทางโครงการ Atmoz รัชดา - ห้วยขวาง

โครงการ Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง ตั้งอยู่ในซอยสหการประมูลเข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร ซอยนี้เป็นซอยที่เชื่อมต่อมาจากถนนประชาอุทิศ ไปออกถนนหลักได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 และ ถนนลาดพร้าว ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์จากทำเลนี้ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ (ถ้ามาจากถนนลาดพร้าวสามารถเข้าซอยสหการประมูลได้โดยตรงแต่จะเสียค่าผ่านทาง 10 บาท เนื่องจากเป็นซอยส่วนบุคคลค่ะ)

การจราจรบนถนนประชาอุทิศบริเวณใกล้ๆแยกเหม่งจ๋าย และถนนประดิษฐ์มนูธรรมในเวลาเร่งด่วนรถค่อนข้างติดทีเดียวค่ะ จะต้องเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้าไว้ด้วย สำหรับใครที่ต้องการใช้ทางด่วน ทำเลนี้จะใกล้กับทางพิเศษฉลองรัช บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทรา สำหรับการขึ้นทางด่วนจะต้องไปกลับรถก่อนค่ะ ซึ่งจุดกลับรถนั้นอยู่ไม่ไกลประมาณ 600 เมตร ส่วนทางลงเมื่อลงจากทางด่วนก็ให้กลับรถเพื่อรอเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาอุทิศได้เลย

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะสามารถเรียกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ , Taxi ได้ง่ายเนื่องจากภายในซอยมีรถผ่านไป – มาเยอะตลอดทั้งวัน ถ้าไม่มีรถภายในซอยก็สามารถเดินมาเรียกรถที่ถนนใหญ่ได้ง่าย ซึ่งหน้าปากซอยก็มีพี่วินคอยบริการอยู่ค่ะ นอกจากนั้นทางโครงการยังมีรถรับ – ส่งที่รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีศูนย์วัฒนธรรมเป็นตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มเติมให้อีกด้วยนะ

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ถือว่าครบครันทีเดียวค่ะ โดยแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

  • ถนนรัชดาภิเษก : เป็นถนนที่มีอาคารสำนักงานใหญ่หลายแห่งไม่ว่าจะเป็นอาคาร AIA, อาคารตลาดหลักทรัพย์, RS Tower, CW Tower และอาคาร G Tower  นอกจากนั้นยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล พระราม 9 , เอสพลานาด , ฟอร์จูนทาวน์, Big C รัชดา และ เดอะสตรีท ทำให้ย่านนี้ถือเป็นทำเลที่มีการพัฒนาสูงและคึกคักอยู่ตลอดเวลา
  • ถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบทางด่วนรามอินทรา : เป็นถนนที่มีบ้านพักอาศัยแนวราบมากขึ้นและเป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่อ ร้านนั่งชิล และ Community mall อย่าง CDC , Crystal park , Chic Republic , The Walk เป็นต้น

นอกจากนั้นในซอยสหการประมูลเองก็มีร้านอาหาร และตลาดอยู่ภายในซอยให้เลือกจับจ่ายใช้สอยได้หลากหลาย มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Family Mart, ตลาดสด และร้านอาหารในระยะที่เดินได้สบายๆไม่เกิน 100 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ หายห่วงเรื่องหาของกินได้เลย และยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ, โรงพยาบาล หลายแห่งในระยะ 7 กิโลเมตร

การเดินทาง

Image 1/7
แผนที่การเดินทาง

แผนที่การเดินทาง

การเดินทางไปยังโครงการ Atmoz รัชดา – ห้วยขวาง วันนี้เราไปจากถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนประชาอุทิศ ตรงมาประมาณ 700 เมตร เลี้ยวขวาเข้าซอยสหการประมูลด้านข้างสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา เข้าซอยประมาณ 100 เมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บรรยากาศภายในซอยสหการประมูลช่วงต้นซอย ที่ตั้งของโครงการ Atmoz รัชดา – ห้วยขวาง ค่อนข้างคึกคัก มีรถยนต์สัญจรภายในซอยหนาแน่นตลอดทั้งวัน เนื่องจากภายในซอยมีทั้งบ้านพักอาศัย โฮมออฟฟิศ โรงเรียนและสถานทูต รวมถึงมีตลาดขนาดใหญ่ ร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง ทำให้บรรยากาศในซอยไม่เงียบเหงา มีคนเดินผ่านไป – มาค่อนข้างเยอะตลอดทั้งวันค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ซอยฤทธิ์งาม และพื้นที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพักอาศัย สูงประมาณ 5 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ สำนักงานขายของโครงการ และสถานทูตกัมพูชา
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยสหการประมูล และสถานทูตลาว

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Super Market Golden Place สาขาพระราม 9 ~ 750 เมตร
  • KIS International School ~ 1 กิโลเมตร
  • ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 3.7 กิโลเมตร
  • กระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 4 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 4 กิโลเมตร
  • MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 4 กิโลเมตร
  • The Street รัชดา ~ 4 กิโลเมตร
  • Big C Extra รัชดาภิเษก ~ 5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 5.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลปิยเวช ~ 7.2 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

โครงการ Atmoz รัชดา – ห้วยขวาง เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร บนที่ดิน 3 ไร่ 3 งาน มีห้องพักอาศัยรวม 595 ยูนิต วางผังเป็นรูปตัว U มีร้านค้า 1 ยูนิตตั้งอยู่ที่อาคาร A เป็นร้านค้าตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เปิด 24 ชั่วโมง ภายในโครงการมีที่จอดรถใต้อาคารที่ชั้น 1 ทั้งหมดประมาณ 40 % รวมจอดซ้อนคันแล้ว ซึ่งอาจจะไม่ได้มีที่จอดเพียงพอสำหรับทุกยูนิต แต่ทางโครงการก็ได้จัดให้มีรถรับ – ส่ง ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรม มาให้ค่ะ

จุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาหลากหลายเทียบเท่าได้กับคอนโดมิเนียม High Rise เลยทีเดียวค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางจะกระจายอยู่ทุกอาคารที่ชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้าที่สามารถเดินเชื่อมกันได้ทุกอาคาร และห้อง Fitness ยังเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย Facility ภายในโครงการมี ดังนี้

อาคาร A

  • LAUNDRY CORNER + VENDING MACHINE (ชั้น 2)
  • LOBBY & LIBRARY LOUNGE A (ชั้น 2)
  • SHOP (ชั้น 2)
  • OUTDOOR SKY DINING (ดาดฟ้า)
  • THE SECRET GARDEN (ดาดฟ้า)
  • ROOFTOP PARTY DECK (ดาดฟ้า)

อาคาร B

  • LOBBY LOUNGE B (ชั้น 2)
  • GYM & BOXING STUDIO (ชั้น 2)
  • CO-KITCHEN & LIVING SPACE (ชั้น 2)
  • MEETING ROOM (ชั้น 2)
  • JOGGING TRACK (ดาดฟ้า)
  • RELAXING TERRACE (ดาดฟ้า)
  • YOGA DECK (ดาดฟ้า)
  • PLAYGROUND (ดาดฟ้า)

อาคาร C

  • LOBBY C & INSPIRATION WORKSPACE (ชั้น 2)
  • LAWN TERRACE & CHILL OUT DECK (ชั้น 2)
  • SERENITY BLUE POND (ชั้น 2)
  • CREATIVITY SPACE (ชั้น 2)
  • THEATER (ชั้น 2)
  • PLAY ROOM & KID’S ROOM (ชั้น 3)
  • FIT STUDIO (ชั้น 8)
  • SOCIAL CLUB (ชั้น 8)
  • SCENIC SKY POOL (ดาดฟ้า)
  • MOONLIGHT TERRACE (ดาดฟ้า)

ส่วนกลางระหว่างอาคาร

  • WOODEN CABANA (ชั้น 1 )
  • SUNKEN ISLAND (ชั้น 1 )
  • REFLECTING POOL (ชั้น 1 )
  • KID’S POOL AND JACUZZI (ชั้น 1 )
  • FOUNTAIN POOL (ชั้น 1 )
  • SUNKEN LOUNGE (ชั้น 1 )

ผังของโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

ชั้น 1 : เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด 40 % รวมจอดซ้อนคัน สามารถขับเชื่อมต่อกันได้ทุกอาคาร โดยแต่ละอาคารจะมีโถงลิฟต์ทางเข้าแยกกันค่ะ แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว

อัตราส่วนลิฟต์โดยสารอาคาร A 1 : 107
อัตราส่วนลิฟต์โดยสารอาคาร B 1 : 107
อัตราส่วนลิฟต์โดยสารอาคาร C 1 : 83

อาคาร A และ B จะมีจำนวนยูนิตมากกว่าอาคาร C แต่ยังไม่ถือว่าหนาแน่นมากนัก ซึ่งอาจจะใช้เวลาในการรอลิฟต์นานกว่าอาคาร C เพียงเล็กน้อยค่ะ

ส่วนพื้นที่ Facility ตรงกลางระหว่างอาคารนั้นจะถูกยกระดับขึ้นมาจากพื้นถนนเล็กน้อย พอให้แยกกันเป็นสัดส่วน และได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไม่ได้อยู่ในระดับพอดีกับสายตาตรงๆค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางบริเวณนี้จะเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มบรรยากาศและเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยที่หันหน้ามาด้านในด้วยค่ะ

ชั้น 2 : เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยและ Facility หลักของโครงการโดยจะแบ่งเป็น

อาคาร A :  ตั้งอยู่ทางทิศเหนือเข้าถึงได้ง่ายที่สุด มีห้องพักอาศัย 26 ยูนิต ตัวอาคารวางผังเป็นเส้นตรง มีโถงทางเดินอยู่ตรงกลางเป็นแบบ Double Corridor ห้องพักอาศัยขนาดเล็กจะหันออกไปทางทิศเหนือฝั่งซอยฤทธิ์งาม มี Facility อยู่ด้านหน้าอาคาร แบ่งสัดส่วนกันชัดเจน จะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้า – ออกเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกบ้านค่ะ

Facility ในอาคารจะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ห้องบริการเครื่องซักผ้า และร้านค้า ทำให้ลูกบ้านอาคาร A เข้ามาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่ายกว่าอาคารอื่นๆค่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆบ่อยนัก เน้นความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากกว่า

อาคาร B : ตั้งอยู่ทางทิศใต้ มีห้องพักอาศัย 22 ยูนิต ตัวอาคารวางผังเป็นเส้นตรง มีโถงทางเดินอยู่ตรงกลางเป็นแบบ Double Corridor ห้องพักอาศัยขนาดเล็กจะหันออกไปทางทิศใต้ฝั่งสถานทูตกัมพูชา ในห้องพักอาศัยในฝั่งทิศใต้ทั้งหมดจะมีแผงระแนงกันแดดและบังสายตามาให้ด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวและต้องการ แผงกันแดดกันความร้อนเข้าสู่ห้องพักอาศัยได้ในระดับหนึ่ง อาคาร B มี Facility อยู่ด้านข้างอาคาร มองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง แบ่งสัดส่วนกับห้องพักอาศัยชัดเจน และใช้ Key Card ในการผ่านเข้า – ออกเช่นกันค่ะ

Facility ในอาคารจะมีความหลากหลาย แบ่งเป็น Fitness เปิด 24 ชั่วโมงมีสนามซ้อมมวยขนาดเล็กให้ใช้งาน และมี Health Solution Center ให้บริการปรึกษากับแพทย์ได้โดยทาง Asset Wise ได้ร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลเปาโลค่ะ ถัดมาจะเป็นพื้นที่ Lounge เชื่อมต่อกับห้อง Meeting Room และพื้นที่ Co-Kitchen Space ให้พาเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ทำอาหารกินแบบส่วนตัวได้ อาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบใช้งาน Facility และต้องการเข้า-ออกโครงการสะดวกไม่ต้องเดินไกล เป็นต้น

อาคาร C : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก มีห้องพักอาศัย 22 ยูนิต วางผังเป็นรูปตัว U  มีโถงทางเดินอยู่ตรงกลางเป็นแบบ Double Corridor โดยจะมี Facility อยู่ตรงกลางมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำระหว่างอาคาร A และ B ซึ่งก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะทางโครงการกั้นประตูระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยไว้ให้แล้ว

Facility ในอาคาร C มีเยอะที่สุดเลยค่ะ โดยจะมีพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมกันที่ชั้น 2 และชั้น 3 และมีอีกจุดที่ชั้น 8 เป็นส่วนกลางที่เน้นความบันเทิง ดูหนัง เล่นเกมส์ได้ความสนุกสนาน และมีพื้นที่นั่งทำงานแยกเป็นสัดส่วน รวมถึงมีห้องสำหรับเด็กเล่นด้วย โดยอาคาร C จะเหมาะกับคนที่ชอบ Facility หลากหลาย อยากออกมานั่งทำงานหรือดูหนังพักผ่อนได้สะดวก ยอมแลกกับการเข้าถึงอาคารที่อยู่ลึกกว่าอาคารอื่นๆค่ะ

ชั้น 3 : เป็นชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่มีบางส่วนถูกแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางหรือโถง Double Volume ที่เชื่อมต่อกับชั้น 2 ค่ะ แต่ชั้นนี้เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงส่วนกลางได้นะคะ (จะต้องลงไปที่ชั้น 2 ก่อน) จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Image 1/4
ชั้น 4

ชั้น 4

ชั้น 4 – 7 : เป็นชั้น Typical Floor Plan ที่มีการวางผังห้องพักอาศัยเหมือนกันค่ะ

อาคาร A : มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 32 ยูนิตต่อชั้น อาคารวางผังเป็นเส้นตรง มีโถงทางเดินอยู่ตรงกลางเป็นแบบ Double Corridor โถงลิฟต์อยู่ทางทิศตะวันตก (ซ้ายมือ) ทำให้ห้องพักอาศัยทางฝั่งตะวันออกจะต้องเดินไกลสักหน่อยค่ะ แลกกับความเป็นส่วนตัว เพราะไม่มีคนเดินผ่านหน้าห้องบ่อยๆ โดยห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ (1 Bedroom Plus สีน้ำตาลเข้ม) จะอยู่บริเวณมุมอาคาร และหันเข้าส่วนกลางระว่างอาคารได้วิวสระว่ายน้ำค่ะ

อาคาร B : เหมือนกับอาคาร A เลยค่ะ โดยจะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 32 ยูนิตต่อชั้น อาคารวางผังเป็นเส้นตรง มีโถงทางเดินอยู่ตรงกลางเป็นแบบ Double Corridor โถงลิฟต์อยู่ทางทิศตะวันออก ทำให้ห้องทางทิศตะวันตกต้องค่อนข้างเดินไกลเช่นกันค่ะ

อาคาร C : วางผังเป็นรูปตัว U ห้องพักอาศัย 26 ยูนิตต่อชั้นซึ่งมีความหนาแน่นน้อยที่สุด มีโถงลิฟต์อยู่ทางทิศใต้ ทำให้ห้องพักอาศัยบริเวณปีกตัว U ทางทิศใต้เข้าถึงได้สะดวก ส่วนทางฝั่งทิศเหนือจะต้องเดินไกลสักหน่อย แต่จะเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และกังวลเรื่องเสียงดังรบกวนจากโถงลิฟต์ เป็นต้น

ชั้น 8 : อาคาร A และอาคาร B จะวางผังห้องพักอาศัยเหมือนกับชั้น 4-7 เลยค่ะ จะมีความแตกต่างแค่อาคาร C มีพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มขึ้นมาบริเวณปีกของอาคารทางทิศเหนือและทิศใต้ โดยห้องพักอาศัยจะอยู่รอบนอกมองเห็นวิวภายนอกโครงการทั้งหมด

ทางโครงการได้แบ่งทางเดินของพื้นที่ส่วนกลางกับโถงทางเดินห้องพักอาศัยออกจากกันชัดเจน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็จะต้องเดินอ้อมสักหน่อยสำหรับห้องพักอาศัยทางทิศเหนือที่ต้องการเดินไป Fit Studio จะต้องมาเดินออกที่โถงลิฟต์ก่อนค่ะ

Facility แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ทางทิศเหนือคือ Fit Studio สามารถเข้าใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนทางทิศใต้เป็นห้อง Social Club สำหรับนั่งพักผ่อน คุยงานได้ โดยจะมีทางขึ้นชั้นดาดฟ้าอยู่ที่ห้องห้อง Social Club ค่ะ

ชั้นดาดฟ้า : เป็นพื้นที่ Facility เชื่อมต่อกัน 3 อาคารส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พักผ่อน มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น และมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางที่อาคาร C มองเห็นวิวสวนระหว่างอาคารได้ โดยบรรยากาศจริงภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันต่อได้เลยค่ะ

ทางเข้า – ออกของโครงการจะอยู่ด้านหน้าติดกับซอยสหการประมูล แบ่งเป็นทางเข้าสำหรับรถยนต์ไปจอดรถใต้อาคารเป็นพื้นคอนกรีตแสตมป์ดูสวยงาม และแยกทางคนเดินเข้าไปยังพื้นที่ส่วนกลางค่ะ โดยปัจจุบันจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

Image 1/3
บริเวณทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร

บริเวณทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร

เข้ามาด้านใต้อาคารจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดเป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน รถสามารถวิ่งเชื่อมต่อกันได้ทั้ง 3 อาคาร ไม่บังคับว่าจะต้องจอดใต้อาคารตัวเองนะคะ ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นถ้าที่จอดรถใต้อาคารของตัวเองไม่ว่างก็สามารถหาที่จอดใต้อาคารอื่นๆได้ค่ะ จอดรถได้ทั้งหมด 40 % หรือประมาณ 238 คัน รวมจอดซ้อนคัน

เรามาดูทางเข้าคนเดินบ้างค่ะ สำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์คงจะได้ใช้งานทางเข้าสำหรับคนเดินอยู่บ่อยๆทางโครงการตกแต่งด้านหน้าเป็นระแนงพอมีแสงแดดส่องเข้ามาก็เพิ่มลูกเล่นให้กับเงาบนพื้นดูสวยงาม

Image 1/2
บรรยากาศด้านหน้าก่อนเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลาง

บรรยากาศด้านหน้าก่อนเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลาง

เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ด้านหน้า Facility ส่วนกลางโดยทางโครงการทำระแนงบังสายตามาให้เพื่อแยกโซน ให้คนที่มาใช้งานพื้นที่ด้านในได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ บริเวณนี้ยังมีการตกแต่งด้วยไม้พุ่ม ไม้ประดับดูสบายตาไม่แห้งแล้ง

Image 1/2
ทางขึ้นไปยัง Lobby อาคาร A

ทางขึ้นไปยัง Lobby อาคาร A

เรามาดู Facility ที่อาคาร A กันก่อนนะคะ ซึ่ง Lobby Lounge ของอาคาร A อยู่ที่ชั้น 2 จะต้องเดินขึ้นมาหนึ่งชั้น ทางเดินมีราวกันตกเป็นบานกระจกดูสวยงามไม่ทึบตัน เมื่อขึ้นมาแล้วจะเจอกับทางแยกไปยัง Lobby (ประตูทางซ้ายมือ) และร้านค้า (ประตูทางขวามือ)ค่ะ ซึ่งเราจะพาไปชม Lobby Lounge กันก่อนนะคะ

Image 1/3
Lobby Lounge A

Lobby Lounge A

ปัจจุบัน Lobby Lounge ของอาคาร A ใช้เป็นพื้นที่รับรองลูกค้าที่กำลังอยู่ในช่วงโอนกรรมสิทธิ์ ภายในมีชุดโซฟา และโต๊ะเก้าอี้หลายจุดรองรับการใช้งานได้หลายคนเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งในเวลาที่แดดไม่ร้อนห้องนี้สามารถเปิดผ้าม่านฝั่งผนังกระจกที่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้ามองออกไปเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้กว้างเลย

Image 1/2
Mail Box

Mail Box

ถัดมาสำหรับลูกบ้านที่เดินผ่านประตูจะต้องแตะ Key Card เพื่อเข้ามายังด้านในอาคาร จะเจอกับ Mail Box อยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ค่ะ โดยแต่ละอาคารจะมี Mail Box แยกอาคารกันเลย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน สามารถแวะหยิบจดหมายก่อนขึ้นห้องตัวเองได้เลย

Image 1/2
บรรยากาศโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัย

บรรยากาศโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัย

โถงลิฟต์โดยสารแต่ละชั้นจะมีช่องแสงและช่องเปิดเพื่อระบายอากาศบริเวณโถงทางเดินให้ไม่อึดอัดและได้แสงสว่างเข้ามายังบริเวณทางเดินเพิ่มขึ้นค่ะ

Image 1/2
ทางเข้าร้านค้า

ทางเข้าร้านค้า

ดูภายในอาคารกันไปแล้วแวะมาดูร้านค้ากันบ้าง ร้านค้ามีอยู่ 1 ยูนิตที่ชั้น 2 ของอาคาร A ค่ะ อยู่ด้านหน้าเลย ลูกบ้านอาคารอื่นๆสามารถเดินมาใช้งานได้ง่ายโดยภายในร้านค้าจะมีเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติตั้งอยู่ 2 เครื่อง ซึ่งในอนาคตทางโครงการจะขยายยูนิตร้านค้าให้ใหญ่ขึ้นและมีเครื่องจำหน่ายสินค้ามากขึ้นค่ะ

กลับลงมาที่พื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารที่ชั้น 1 กันบ้างค่ะ มองจากด้านนอกจะเห็นเพียงต้นไม้ใหญ่เพราะมีระแนงบังสายตากันอยู่

Image 1/2
พื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า

พื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า

เข้ามาพื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าจะเจอกับมุมนั่งเล่นในสวน มุมนี้มีชื่อว่า WOODEN CABANA และ SUNKEN ISLAND สำหรับนั่งพักผ่อนชิลๆในเวลาเช้าหรือเย็นๆที่อากาศไม่ร้อนมากนัก แต่ส่วนใหญ่บริเวณนี้จะร่มตลอดทั้งวันเพราะมีเงาของอาคารทั้ง 2 ฝั่งช่วยบังแดดให้ค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำแบ่งเป็นสระว่ายน้ำผู้ใหญ่ระบบเกลือ แยกสระว่ายน้ำเด็กด้านข้าง มีต้นไม่ใหญ่อยู่ล้อมรอบโดยเลือกใช้ต้นไม้ที่พุ่มไม่หนาแน่นมากนักเพื่อให้มีความโปร่ง และไม่มืดทึบจนเกินไป

สระว่ายน้ำแบ่งเป็นสระ REFLECTING POOL , KID’S POOL AND JACUZZI และ FOUNTAIN POOL มีส่วนตื้น ส่วนลึกสามารถพาเด็กตั้งแต่เด็กทารกมาเล่นได้เลยค่ะ

Image 1/6
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลาง

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลาง

บริเวณสระว่ายน้ำมีพื้นที่นั่งเล่น พร้อมเก้าอี้อาบแดดให้ด้านข้างสำหรับนั่งพักผ่อนดูลูกๆมาว่ายน้ำได้ค่ะ ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นจุดล้างตัวก่อนลงสระ ซึ่งทางโครงการเตรียมไว้ให้ใกล้ๆกับสระว่ายน้ำใช้งานได้สะดวก

ถัดมาด้านในเป็นพื้นที่ SUNKEN LOUNGE สำหรับนั่งเล่นชมบรรยากาศสวน เป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับนั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ และอยู่ใกล้กับทางขึ้นอาคาร B ด้วยค่ะ

Image 1/2
ทางเข้า Lobby อาคาร B

ทางเข้า Lobby อาคาร B

ถัดมาเราไปชม Facility ที่ชั้น 2 ของอาคาร B กันบ้าง ซึ่งทางโครงการทำมาให้หลากหลายและน่าสนใจทีเดียวค่ะ

ขึ้นมาแล้วเราจะพาไปชม Fitness ที่อยู่ด้านขวามือกันก่อนนะคะ ที่เราเห็นห้องกระจกโค้งๆทางซ้ายมือนั่นก็คือห้อง Meeting Room ค่ะ

บริเวณทางเดินสามารถมองลงไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ทั้งหมดเลยค่ะ ห้องที่อยู่บริเวณนี้ก็จะได้วิวส่วนกลางเต็มที่เลย

Image 1/5
บรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลาง

บรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลาง

ก่อนจะถึงห้อง Fitness เราจะผ่านห้องน้ำส่วนกลางซึ่งทางโครงการแยกชาย-หญิงมาให้ชัดเจน ภายในมี Locker มาให้สำหรับคนที่มาใช้ห้อง Fitness ได้เก็บของส่วนตัวกันด้วย ในห้องน้ำตกแต่งสไตล์โมเดิร์นทันสมัยมีห้องอาบน้ำให้ใช้งานค่ะ

ทางเข้าห้อง Fitness จะต้องใช้ Key Card ในการเข้าใช้งานค่ะ ซึ่งทางโครงการแจ้งว่าสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย รองรับไลฟ์สไตล์คนทำงานในย่านนี้ ที่อาจจะกลับมาถึงห้องช้าก็ยังสามารถลงมาเล่น Fitness ได้

Image 1/6
บรรยากาศภายในห้อง Gym & Boxing Studio

บรรยากาศภายในห้อง Gym & Boxing Studio

ภายในห้อง Fitness นี้มีชื่อเรียกว่า GYM & BOXING STUDIO มีเครื่องออกกำลังกายมาให้หลากหลายแบ่งโซนเป็น Weight Training เป็นมุมห้องกระจกด้านในเข้ามาแล้วจะอยู่ทางซ้ายมือ ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และโซน Cardio Training มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ รวมแล้วมีเครื่องออกกำลังกายมาให้มากกว่า 10 เครื่องพร้อมสนามซ้อมมวยให้ใช้มาตัวเปล่าก็สามารถเล่นได้ค่ะ เพราะเขามีนวมมาให้แล้ว

โดยรวมถือว่าโครงการนี้ให้พื้นที่ออกกำลังกายมาค่อนข้างเยอะเพียงพอต่อการใช้งานกับจำนวนลูกบ้าน 595 ยูนิต เพราะยังมีพื้นที่ออกกำลังกายบริเวณชั้น 8 ของอาคาร C อีกจุดหนึ่งที่เป็น Studio สำหรับเล่นคลาสแอโรบิค หรือโยคะได้

Image 1/4
Health Solution Center

Health Solution Center

ด้านในห้อง Fitness ยังมีพื้นที่ Health Solution Center ให้บริการวัดดัชนีมวลกายและค่าน้ำ, ไขมันในร่างกาย พร้อมบริการปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลเปาโลได้

ออกจากห้อง Fitness มายัง Lobby Lounge อาคาร B กันบ้างค่ะ จุดนี้ลูกบ้านก็จะต้องแตะ Key Card ในการผ่านเข้า -ออกเช่นกันนะคะ

Image 1/4
บรรยากาศภายใน Lobby Lounge อาคาร B

บรรยากาศภายใน Lobby Lounge อาคาร B

ภายใน Lobby อาคาร B จะมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ สำหรับนั่งพักคอย หรือใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศในการนั่งทำงานก็มีโต๊ะทำงานริมหน้าต่างมองเห็นวิวสวนด้านนอกมาให้ด้วย ส่วนด้านในเป็นโซฟา และชุดนั่งเล่น สามารถพาเพื่อนๆมานั่งคุยกันได้ค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศทางเดินหน้าห้องประชุม

บรรยากาศทางเดินหน้าห้องประชุม

ถัดมาด้านในสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่นั่งทำงาน หรือประชุมแบบเป็นส่วนตัวทางโครงการก็มีห้องประชุมแยกมาให้ 3 ห้อง บริเวณโถงทางเดินหน้าห้องก็มีที่เก็บของส่วนกลางมาให้ใช้งานตลอดทั้งแนว

Image 1/5
บรรยากาศภายในห้องประชุม

บรรยากาศภายในห้องประชุม

ภายในห้องประชุมจะแบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องเล็กสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวใช้งานได้ 2-3 คน และห้องใหญ่ใช้งานได้ 6 – 8 คน ภายในห้องจะมีโต๊ะนั่งทำงาน พร้อมกระดานกระจกด้านข้างให้ขีดเขียน และห้องใหญ่สุดมี TV ให้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ตอวหนังสือ จ้างครูมาสอนพิเศษ เป็นต้น

ด้านในมีพื้นที่ CO-KITCHEN & LIVING SPACE สามารถจองมาใช้งานเป็นกลุ่ม หรือจัดปาร์ตี้ส่วนตัว บรรยากาศเป็นห้องกระจกโปร่งมองเห็นวิวด้านนอกและสามารถเปิดเชื่อมต่อพื้นที่ทำอาหารและพื้นที่รับประทานอาหารได้ค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศภายใน Co-Kitchen Space

บรรยากาศภายใน Co-Kitchen Space

ภายใน CO-KITCHEN & LIVING SPACE มีอุปกรณ์สำหรับทำอาหารเตรียมไว้ให้พร้อมใช้งานโดยจะมีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันตรงกลาง มีเครื่องชงกาแฟ และตู้เย็น สามารถจ้างเชฟมาทำอาหารให้รับประทานได้ถึงที่คอนโดเลยค่ะ นอกจากนั้นสำหรับคนที่ต้องการจัดปาร์ตี้ชวนเพื่อนๆมาเยอะก็สามารถเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่โต๊ะรับประทานอาหารเพิ่มจำนวนที่นั่งได้อีก 8 ที่เลย

ถัดมาเรามาดูพื้นที่ส่วนกลางบริเวณอาคาร C กันบ้างค่ะ อาคาร C เป็นอาคารรูปทรงตัว U ที่อยู่ด้านในสุดของโครงการ และมีพื้นที่ส่วนกลางเยอะที่สุดด้วยค่ะ

ทางเข้าโถงลิฟต์จากชั้น 1 (ที่จอดรถ) จะต้องสแกน Key Card ก่อนเข้าด้วยค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ของอาคาร C บรรยากาศโถงลิฟต์ตกแต่งสวยงาม

Image 1/3
Lobby Lounge อาคาร C

Lobby Lounge อาคาร C

เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Lobby Lounge ของอาคาร C มีโถงสูงพร้อมผนังกระจกสูงตลอดทั้งแนวทำให้มีความโปร่งกว้างมองเห็นวิวสวนด้านนอกดูสบายตา และสามารถขึ้นไปใช้งานได้ 2 ชั้นเลยค่ะ ด้านล่างเป็นพื้นที่นั่งเล่นมีโต๊ะทำงานและชุดโซฟาแยกมาให้สำหรับนั่งทำงานหรือพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศจากอาคารอื่นๆไม่จำเจค่ะ

Image 1/4
Meeting Room

Meeting Room

ส่วนใหญ่พื้นที่ส่วนกลางในอาคาร C จะเป็นพื้นที่สำหรับความบันเทิง และสำหรับนั่งทำงานคิดไอเดียต่างๆ เพราะมีที่นั่งหลากหลาย อย่างด้านหลังก็จะมีห้องแยกเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำงาน อ่านหนังสือ ฟังเพลงหรือประชุมงานได้

ถัดมาเป็นพื้นที่เล่นเกมมีโต๊ะโกล์มาให้ 1 ชุดค่ะ ด้านหลังเป็นห้องดูหนังและทางไปห้องน้ำส่วนกลาง

Image 1/3
ทางเดินไปยังห้องน้ำส่วนกลาง

ทางเดินไปยังห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิง 2 ฝั่งใช้อ่างล้างมือร่วมกันตรงกลาง การตกแต่งสไตล์โมเดิร์นสวยงามเข้ากับพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

ห้องดูหนังมีเก้าอี้นั่งขนาดใหญ่และพื้นที่ Slope มาให้ได้บรรยากาศเหมือนไปดูหนังที่โรงภาพยนต์เลยค่ะ

ถัดมาก่อนขึ้นชั้น 2 เราไปดูด้านนอกกันก่อนค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น Outdoor

บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่น Outdoor

ภายนอกเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับนั่งพักผ่อนมีชื่อว่า SERENITY BLUE POND บรรยากาศร่มรื่น มองออกไปเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าโครงการได้บ้าง เหมาะกับคนที่ชอบสูดอากาศด้านนอก หรือมานั่งเล่น อ่านหนังสือชิลๆในวันว่างๆค่ะ

Image 1/3
Creativity Space

Creativity Space

กลับมาด้านในมีพื้นที่นั่ง Slope เป็น CREATIVITY SPACE พร้อมชั้นหนังสือให้เลือกอ่านด้านข้าง สำหรับมานั่งทำงานได้บรรยากาศเหมาะกับการคิดไอเดียต่างๆได้ดีค่ะ ด้านข้างเป็นบันไดสำหรับขึ้นไปใช้งาน Facility ชั้นลอย

Image 1/4
Recreation Area

Recreation Area

ขึ้นมาที่ชั้นลอยจะเป็นพื้นที่ RECREATION AREA สำหรับนั่งทำงาน ใครที่ไม่ชอบนั่งทำงานที่ห้องก็มานั่งทำงานตรงนี้ได้ค่ะ มีทั้งโต๊ะยาวและมุมนั่งทำงานส่วนตัวด้านข้าง และชุดโซฟาสำหรับนั่งคุยได้หลายคนเลย

จากมุมนี้มองลงไปเห็น CREATIVITY SPACE ด้านล่างได้ด้วยนะ

Image 1/5
บรรยากาศภายใน Kid's Room

บรรยากาศภายใน Kid's Room

ถัดมาด้านในเป็นห้องเด็กเล่นมีพื้นที่คอ่นข้างเยอะเลย  มีมุมของเล่นหลากหลายไม่ว่าจะเป็นชุดโต๊ะวาดเขียน มุมหนังสือนิทาน ม้าโยก หรือบ้านตุกตา เป็นพื้นที่ให้เด็กๆได้มาทำความรู้จักเพื่อนๆคนอื่นได้

นอกจาก Facility ที่ชั้น 2 แล้วยังมีพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งที่ชั้น 8 ค่ะ

Image 1/2
โถงทางเดินไปยัง Fit Studio

โถงทางเดินไปยัง Fit Studio

เราจะพาไปชมห้อง Fit Studio ที่อยู่ทางปีกทิศเหนือของอาคาร C กันค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศภายในห้อง Fit Studio

บรรยากาศภายในห้อง Fit Studio

ภายในห้องนี้จะได้ไม่มีเครื่องเล่น Weight Training หรือเครื่องสำหรับออกกำลังกายอื่นๆนะคะ แต่จะเป็นพื้นที่สำหรับคลาสออกกำลังกายประเภทโยคะ หรือเต้นแอโรบิค มี TV สามารถเปิดคลิปออกกำลังกายเต้นตามได้เลย บรรยากาศภายในห้องจะเหมือนสตูดิโอส่วนตัว มองเห็นวิวระหว่างอาคารได้และดูโปร่งสบายเช่นกันค่ะ

Image 1/2
โถงทางเดินไปยัง Social Club

โถงทางเดินไปยัง Social Club

ถัดมาที่ปีกอาคารทางทิศใต้จะเป็นพื้นที่ห้อง SOCIAL CLUB มีบันไดทางขึ้นชั้นดาดฟ้าที่บริเวณหน้าห้องด้วยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศภายใน Social Club

บรรยากาศภายใน Social Club

ภายในห้อง SOCIAL CLUB จะให้บรรยากาศเหมือนกับ Sky Lounge ในคอนโดมิเนียม High Rise เลยค่ะ มีชุดโซฟาสำหรับนั่งเล่นและมองเห็นวิวภายนอกได้กว้างจากผนังกระจกทั้ง 2 ฝั่ง

ยังไม่หมดนะคะ เราไปดู Facility ที่ชั้นดาดฟ้ากันต่อเลยค่ะ โดยพื้นที่ดาดฟ้าสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ทุกอาคารเลย เราจะพาไปชมแต่ละอาคารกันค่ะ

Image 1/8
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า อาคาร C

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า อาคาร C

เริ่มที่ดาดฟ้าอาคาร C กันก่อนค่ะ เมื่อขึ้นมาแล้วเราจะเจอกับพื้นที่สระว่ายน้ำแห่งที่ 2 เป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool มองเห็นวิวอาคาร A และ B รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ทั้งหมดเลยค่ะ ด้านหลังสระว่ายน้ำก็แบ่งเป็นมุมนั่งเล่นหลายจุดให้เลือกใช้งานแบบเป็นส่วนตัวกันได้

ทางเดินเชื่อมไปยังดาดฟ้าอาคาร B

Image 1/4
บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า อาคาร B

บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า อาคาร B

ด้านบนอาคาร B จะเป็นพื้นที่สีเขียวตกแต่งเป็นส่วนและพื้นที่เด็กเล่นเหมาะกับการออกมานั่งเล่นชมวิวยามเย็น บรรยากาศสบายตา เพราะมีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะกว่าที่ชั้น 1 เสียอีกค่ะ

ทางเดินเชื่อมไปยังดาดฟ้าอาคาร A มีผนังกันตกเป็นกระจกทั้ง 2 ฝั่งมองเห็นวิวๆได้กว้างเลยค่ะ

ทัศนียภาพเมืองมองจากทางเชื่อมอาคาร มองเห็นวิวชุมชนเมืองในซอยสหการประมูลทางทิศเหนือเป็นวิวโล่งกว้าง

Image 1/7
บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า อาคาร A

บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า อาคาร A

พื้นที่ดาดฟ้าอาคาร A เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นหลายจุด มองเห็นวิวโล่งกว้างและเห็นสวนของอาคาร B ฝั่งตรงข้าม เหมาะกับคนที่ชอบออกมาสูดอากาศ หรือจะทำกับข้าวขึ้นมานั่งกินแบบ Picnic ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งทางโครงการปลูกต้นไม้มาให้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • WOODEN CABANA (ชั้น 1 )
  • SUNKEN ISLAND (ชั้น 1 )
  • REFLECTING POOL (ชั้น 1 )
  • KID’S POOL AND JACUZZI (ชั้น 1 )
  • FOUNTAIN POOL สระว่ายน้ำระบบเกลือ (ชั้น 1 )
  • SUNKEN LOUNGE (ชั้น 1 )
  • LAUNDRY CORNER + VENDING MACHINE (ชั้น 2)
  • LOBBY & LIBRARY LOUNGE A (ชั้น 2)
  • SHOP (ชั้น 2)
  • LOBBY LOUNGE B (ชั้น 2)
  • GYM & BOXING STUDIO (ชั้น 2)
  • CO-KITCHEN & LIVING SPACE (ชั้น 2)
  • MEETING ROOM (ชั้น 2)
  • LOBBY C & INSPIRATION WORKSPACE (ชั้น 2)
  • LAWN TERRACE & CHILL OUT DECK (ชั้น 2)
  • SERENITY BLUE POND (ชั้น 2)
  • CREATIVITY SPACE (ชั้น 2)
  • THEATER (ชั้น 2)
  • PLAY ROOM & KID’S ROOM (ชั้น 3)
  • FIT STUDIO (ชั้น 8)
  • SOCIAL CLUB (ชั้น 8)
  • SCENIC SKY POOL สระว่ายน้ำระบบเกลือ (ดาดฟ้า)
  • MOONLIGHT TERRACE (ดาดฟ้า)
  • OUTDOOR SKY DINING (ดาดฟ้า)
  • THE SECRET GARDEN (ดาดฟ้า)
  • ROOFTOP PARTY DECK (ดาดฟ้า)
  • RELAXING TERRACE (ดาดฟ้า)
  • YOGA DECK (ดาดฟ้า)
  • PLAYGROUND (ดาดฟ้า)
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 99 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์โดยสารอาคาร A 1 : 107
  • อัตราส่วนลิฟต์โดยสารอาคาร B 1 : 107
  • อัตราส่วนลิฟต์โดยสารอาคาร C 1 : 83
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 40 % (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ : Key Card

แบบห้อง

ห้องพักอาศัยภายในโครงการ Atmoz รัชดา – ห้วยขวาง มีทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้

  • Studio ขนาด 21.1 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom ขนาด 22.35 – 25.90 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.95 – 30.05 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31.25 – 34.40 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom ขนาด 47.21 ตารางเมตร

โดยโครงการจะมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in พร้อมโซฟา โต๊ะกลาง เก้าอี้รับประทานอาหาร โต๊ะ และฐานเตียง รวมถึงได้เครื่องปรับอากาศ (จำนวนขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง) เพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเพิ่มก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยค่ะ 

นอกจากนั้นภายในห้องยังได้ระบบ Smart Technology มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการอยู่อาศัย ดังนี้

  • Thermostat ระบบช่วยระบายความร้อนภายในห้อง
  • Bluetooth Sound System ระบบเสียงไร้สายในทุกห้อง
  • Rescue Alarm ระบบแจ้งเตือนอุบัติเหตุภายในห้องน้ำ ที่คุณสามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือได้ทันที
  • LED Lighting Motion Sensor เซ็นเซอร์จับความเคลื่นไหว ที่ช่วยเปิด-ปิด ไฟอัตโนมัติใต้เตียง เวลาลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน

วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ทั้ง 3 แบบ โดยเริ่มจากห้อง 1 Bedroom Plus ก่อนค่ะ


1 Bedroom Plus ขนาด 31.25 – 34.40 ตารางเมตร 

ห้อง 1 Bedroom Plus เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดรองจากห้อง 2 Bedroom ที่มีเพียงยูนิตเดียวของโครงการค่ะ ภายในแบ่งพื้นที่ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์อยู่ติดกับหน้าต่างเพื่อให้สามารถมองเห็นวิวได้ ภายในห้องจะได้แสงธรรมชาติจากประตูห้องอเนกประสงค์ที่เป็นบานเลื่อนกระจกผ่านเข้ามาจากระเบียงค่ะ ส่วนด้านในจะแบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่น และมีส่วน Service ห้องน้ำอยู่ฝั่งเดียวกับห้องครัว ซึ่งได้เป็นพื้นที่ครัวปิดสามารถทำอาหารได้จริง

ห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบห้องที่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่า ไม่เน้นแสงธรรมชาติ และมองเห็นวิวจากพื้นที่ห้องนั่งเล่นมากนัก ชอบห้องอเนกประสงค์สำหรับปรับเป็นห้องนอนที่ 2 หรือห้องทำงานส่วนตัวได้ค่ะ

Image 1/2
ประตูทางเข้าห้อง

ประตูทางเข้าห้อง

ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูหน้าบานลายไม้ติดตั้ง Digital Door Lock จาก Yale มาให้ค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งระบบ Password, กุญแจ และ Bluetooth

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ Common Area ซึ่งห้องมาตรฐานจะมีประตูบานเปิดของห้องนอนติดตั้งมาให้นะคะ ภายในห้องมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.40 เมตร พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ ทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นลามิเนตค่ะ

บริเวณด้านหน้าห้องเป็นพื้นที่นั่งเล่น ขนาดประมาณ 2.60 x 3.20 เมตร รวมพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร สามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งที่ทางโครงการให้มาได้ค่ะ (โซฟาจริงที่ได้จะเป็นแบบเดียวกับภายในห้องตัวอย่างห้องถัดไปนะคะ ) วางโต๊ะกลางเล็กๆได้ หรือใครที่ชอบพื้นที่โล่งแนะนำให้ไม่มีโต๊ะกลางจะดีกว่าค่ะ

ระยะดู TV ของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 2.00 – 2.50 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 26-32 นิ้ว สามารถติด TV ที่ผนังแบบห้องตัวอย่างหรือวางบนชั้นวาง TV ก็ได้ค่ะ

Image 1/2
ชั้นวาง TV Built-in

ชั้นวาง TV Built-in

ภายในห้องมาตรฐานจะได้ Built-in ชั้นวาง TV มาให้ มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้เป็นบานเปิด 2 ฝั่งและมีชั้นวางมาให้ 2 ชั้นหน้าตาแบบเดียวกับในห้องตัวอย่างเลย

ด้านหลังโซฟาสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กได้ 2 ที่นั่งหรือใครที่ชอบห้องโล่งๆหน่อยแล้วไม่ได้ต้องการพื้นที่รับประทานอาหารจริงจังจะเลือกนั่งกินข้าวที่โซฟาแทน เพื่อให้ห้องมีพื้นที่มากขึ้นได้นะคะ

ฝั่งตรงข้ามกับห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ส่วน Service คือห้องน้ำและห้องครัวปิดมาให้ค่ะ

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินโทนสีขาว แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

Image 1/2
อ่างล้างหน้าจาก Cotto

อ่างล้างหน้าจาก Cotto

อ่างล้างหน้าได้แบบติดตั้งบนเคาน์เตอร์จาก Cotto มีชั้นเก็บของด้านล่างไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือสบู่แชมพูสำรองได้ค่ะ

Image 1/2
โถสุขภัณฑ์ จาก Cotto

โถสุขภัณฑ์ จาก Cotto

โถสุขภัณฑ์และสายชำระ จาก COTTO และติดตั้ง Rescue Alarm มาให้ในกรณีฉุกเฉินให้ดึงสายจะมีเสียงดังขึ้นทำให้คนในชั้นเข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน มาให้ทำให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งเวลาอาบน้ำ สามารถเปิดได้กว้าง มีพื้นที่ยืนอาบประมาณ 0.77 x 0.85 เมตร พอดีๆตัวค่ะ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Prema และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว

Image 1/2
ห้องครัว

ห้องครัว

ห้องครัวจะได้ครัวปิดมีประตูบานเลื่อนเปิด 3 ตอนกั้นมาให้ค่ะ สามารถทำอาหารจริงจังได้บ้างแต่ยังต้องเปิดเครื่องดูดควันเพื่อช่วยลดกลิ่นสะสมค่ะ โดยพื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องยางเหมือนกับพื้นห้องด้านนอก มีพื้นที่เดินประมาณ 0.80 เมตร เหมาะกับทำครัวคนเดียวได้สบายๆ

Image 1/4
Top ครัวติดตั้งอ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้ามาให้

Top ครัวติดตั้งอ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้ามาให้

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L Top ลามิเนตกันน้ำลายหินอ่อน ติดตั้งอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศมาให้ จาก MEX

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> ทำความรู้จักกับวัสดุภายในครัว

ด้านบน Built-in ชั้นวางของมาให้โดยจะมีหน้าบานปิดเพียงจุดเดียวบริเวณเหนือเครื่องดูดควันค่ะ โดยจะมีชั้นวางเตาไมโครเวฟมาให้ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบน Top เคาน์เตอร์ได้ส่วนหนึ่ง

Image 1/2
ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์

ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์

ด้านล่างเคาน์เตอร์มีตู้เก็บของชิ้นใหญ่และลิ้นชักเก็บเครื่องปรุงหรืออุปกรณ์ทำอาหารมาให้ หยิบใช้งานได้ง่าย และมีที่วางเครื่องซักผ้ามาให้ ทำให้ไม่ต้องนำไปวางที่ระเบียงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้มากขึ้นค่ะ

Image 1/2
ห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์จะอยู่ด้านข้างห้องนอนเลยค่ะ มีประตูเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ช่วยให้แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากระเบียงสามารถส่องเข้ามาในตัวห้องได้

ภายในห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 1.60 x 2.15 เมตร สามารถใช้เป็นห้องนอนสำรอง ห้องแต่งตัวสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้ค่ะ โดยห้องนี้จะได้พื้นที่ระเบียงส่วนตัว พร้อมเว้นพื้นที่ผนังเหนือประตูมาให้สำหรับติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพิ่มเติมได้

Image 1/2
ตู้เก็บของในห้องอเนกประสงค์

ตู้เก็บของในห้องอเนกประสงค์

ภายในห้องยังมีตู้เก็บของขนาดเล็ก มีราวแขวนด้านล่างติดตั้งมาให้ด้วย หน้าตาเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

Image 1/2
ระเบียงห้อง 1 Bedroom Plus

ระเบียงห้อง 1 Bedroom Plus

พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้อง Ceramic มาให้ทำความสะอาดง่าย ขนาดประมาณ 0.62 x 0.95 เมตร วางกระถางต้นไม้ตกแต่งหรือใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าได้ค่ะ โดยบริเวณนี้จะติดตั้ง Condensing Units มา 2 ตัวสำหรับห้องนอนและห้องนั่งเล่นห้องที่ Condensing Units หันเข้ามาด้านในระเบียงทางโครงการจะติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมมาให้เพิ่มเติม เวลาออกไปใช้งานระเบียงจะไม่โดนลมร้อนจาก Condensing Units ค่ะ

มาดูห้องนอนหลักกันบ้าง ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 3.00 x 3.10 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีมีพื้นที่เหลือเดินด้านข้างได้สบายๆ (ห้องมาตรฐานมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้แล้ว) จุดเด่นของห้องนี้เลยก็คือมีช่องแสงขนาดใหญ่สูงถึงฝ้าเพดานเลยค่ะ ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง และได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องเยอะ

พื้นที่ด้านข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ 1 ตัว แต่ถ้าใครชอบพื้นที่เยอะๆ แนะนำให้วางเตียงชิดกับผนังจะได้พื้นที่แต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าเยอะขึ้นนะ

ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างเยอะนะคะสามารถวางชั้นวาง TV เพิ่มเติมได้สบายๆ

Image 1/3
ตู้เสื้อผ้า Built-in

ตู้เสื้อผ้า Built-in

ผนังด้านในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in มาให้เรียบร้อยเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ โดยตู้เสื้อผ้าจะมีให้ 3 บานเปิด แบ่งเป็นช่องเก็บของเล็กๆอย่างเครื่องประดับหรือกระเป๋าถือ และราวแขวนผ้ามาให้

Image 1/2
โต๊ะเครื่องแป้ง Built-in

โต๊ะเครื่องแป้ง Built-in

ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งมาให้พร้อมลิ้นชักเก็บของ ใครที่ไม่ได้ใช้แต่งหน้าก็สามารถปรับเป็นมุมทำงานเล็กๆได้ค่ะ


1 Bedroom ขนาด 22.35 – 25.90 ตารางเมตร

ห้อง 1 Bedroom เป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดภายในโครงการ และมีโปรโมชันราคา 2.05 ล้านบาท ห้องนี้เป็นห้องที่เน้นความโปร่งโล่งมากขึ้น โดยภายในห้องจะได้พื้นที่ครัวเปิดด้านหน้าห้องเชื่อมต่อกับห้องน้ำไม่เน้นทำอาหารรับประทานเองมากนัก มีพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกกันเป็นสัดส่วนแต่ยังเชื่อมต่อกันโดยประตูบานเลื่อนกระจกเต็มผนัง ช่วยให้แสงธรรมชาติจากด้านนอกส่องเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้อง และมองเห็นวิวได้ค่ะ ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัว และมุม Day Bed เข้ามุมสามารถทำเป็นพื้นที่ทำงาน หรือมุมนั่งพักผ่อนเพิ่มเติมได้ค่ะ

ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบห้องโปร่ง มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้อง สามารถเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันได้ แต่ไม่เน้นทำอาหารรับประทานเองมากนัก เพราะเป็นครัวเปิดเวลาทำอาหารจะมีกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องได้ค่ะ ถ้าใครอยากกั้นครัวปิดเพิ่มเติมสามารถอ่านบทความได้ที่ >> ทำอาหารได้เต็มที่ กับพื้นที่ครัวปิด ในงบไม่เกิน 1-2 หมื่นบาท

ห้อง 1 Bedroom เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ครัวซึ่งเป็นครัวเปิดก่อนเชื่อมต่อไปยังพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนค่ะ

เมื่อมองกลับไปด้านหน้าห้องจะเจอกับพื้นที่ครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารรับประทานเองมากนักเพราะครัวเปิดจะทำให้กลิ่นอาหารฟุ้งกระจายไปทั่วห้องได้ค่ะ แต่ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบห้องพื้นที่โล่งๆ ไม่เน้นทำอาหารทานเองบ่อยๆ

Image 1/5
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I มีพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้าง Top เป็นวัสดุลามิเนตกันน้ำลายหินอ่อน ติดตั้งอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศ จาก MEX มาให้ค่ะ

Image 1/2
ตู้เก็บของด้านบน

ตู้เก็บของด้านบน

ด้านบน Built-in ชั้นวางของมาให้โดยจะมีบานเปิด 2 บาน มีพื้นที่วางเตาไมโครเวฟแยกมาให้ที่ชั้นเก็บของด้านล่างแทนค่ะ ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้ และจะมีลิ้นชักเก็บของด้านล่างเพิ่มมาให้ แต่จะไม่มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้ามาให้นะคะ ห้องนี้จะต้องไปวางที่ระเบียงแทนค่ะ

ฝั่งตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องน้ำค่ะ

Image 1/5
ห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom

ห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินโทนสีขาวเหมือนกับห้องที่ผ่านมาค่ะ มีการแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำเข้ามุมมาให้ มีอ่างล้างหน้าได้แบบติดตั้งบนเคาน์เตอร์จาก Cotto ได้ช่องเก็บของด้านล่างสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนโถสุขภัณฑ์ติดตั้งมาให้พร้อม Rescue Alarm สำหรับขอความช่วยเหลือ

Image 1/4
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกบานเลื่อนเข้ามุมมาให้ทำให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งเวลาอาบน้ำ มีพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.85 x 0.90 เมตร ยืนอาบได้สบายๆค่ะ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Prema และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น โดยห้องนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากภายนอกได้เยอะ เพราะได้เป็นผนังกระจกบานใหญ่เลยค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบห้องที่ดูโปร่งสบาย

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 1.70 x 3.60 เมตร มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.30 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดใหญ่ 46 นิ้วได้เลย

Image 1/2
โซฟาแบบเดียวกับที่ได้ในห้องมาตรฐานค่ะ

โซฟาแบบเดียวกับที่ได้ในห้องมาตรฐานค่ะ

ความกว้างของพื้นที่นั่งเล่นประมาณ 1.70 เมตร ซึ่งทางโครงการได้ให้โซฟามาตรฐานมาขนาดพอดีกับพื้นที่เป็นโซฟาเบด สามารถปรับเป็นเตียงเวลามีเพื่อนมานอนค้างได้ และเนื่องจากห้องนี้มีระยะดู TV ค่อนข้างกว้างจึงสามารถวางโต๊ะกลางได้สบายๆเลย

ภายในห้องมาตรฐานจะได้ Built-in ชั้นวาง TV มาให้ มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้เป็นบานเปิด 2 ฝั่งเช่นกันค่ะ

Image 1/2
ประตูห้องนอนบานเลื่อนกระจก

ประตูห้องนอนบานเลื่อนกระจก

ประตูห้องนอนเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอนความสูงจากพื้นถึงผนังเลยค่ะ ทำให้ห้องมีความโปร่ง สามารถเปิดเชื่อมต่อกันเหมือนเป็นห้อง Studio ได้

ภายในห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.15 x 3.60 เมตร มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้แล้ว และมีพื้นที่ระเบียงให้ออกไปใช้งานได้

มาดูระยะด้านข้างเตียงกันค่ะ ถ้าวางเตียงชิดกับบานเลื่อนกระจกด้านในจะทำให้เหลือพื้นที่ด้านขวามือสำหรับทำเป็นมุมนั่งเล่น หรือมุมโต๊ะทำงานได้

Image 1/2
มุมอเนกประสงค์

มุมอเนกประสงค์

โดยมุมอเนกประสงค์นี้มีความกว้างประมาณ 1.40 เมตร สามารถวางโต๊ะทำงานได้สบายๆ พร้อมมองเห็นวิวกว้างผ่านกระจกเข้ามุมบานใหญ่สูงถึงฝ้าเพดานได้เลย

Image 1/2
ตู้เสื้อผ้า Built-in

ตู้เสื้อผ้า Built-in

บริเวณปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ เปิดได้ 2 ฝั่งแต่สามารถใส่เสื้อผ้าเข้าไปด้านหลัง TV ได้อีกนะคะ มีช่องเก็บของแยกด้านบนและด้านล่างเหมาะกับเก็บกระเป๋าเดินทาง หรือผ้าเช็ดตัว ผ้านวมได้

Image 1/3
ระเบียงห้อง 1 Bedroom

ระเบียงห้อง 1 Bedroom

ระเบียงมีขนาดประมาณ  0.80 x 2.00 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้  พื้นลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้อง Ceramic มาให้ทำความสะอาดง่าย และติดตั้ง  Condensing Units แบบแขวนด้านบนมาให้ไม่บังสายตาและไม่ร้อนค่ะ


1 Bedroom ขนาด 22.35 – 25.90 ตารางเมตร (ทางทิศใต้ หันไปทางสถานทูตกัมพูชา)

ห้องที่อยู่ฝั่งทิศใต้ เป็นห้องที่หันหน้าเข้าหาสถานทูตกัมพูชาทางโครงการจะมีระแนงบังสายตาเพิ่มมาให้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และต้องการระแนงบังแสงแดดเพราะทางทิศใต้เป็นทิศที่แสงแดดบ่ายส่องเข้ามาทำให้ห้องร้อน การมีระแนงจึงช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ภายในห้องได้ระดับนึงค่ะ

Image 1/3
พื้นที่ระเบียงมีระแนงบังสายตาเพิ่มเติม

พื้นที่ระเบียงมีระแนงบังสายตาเพิ่มเติม


1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.95 – 30.05 ตารางเมตร

ห้อง 1 Bedroom Exclusive เป็นห้องที่ได้ข้อดีของห้อง 1 Bedroom มานั่นก็คือมีความโปร่งและแสงธรรมชาติเข้ามาถึงภายในห้องนั่งเล่น และยังได้พื้นที่ห้องครัวปิดแบ่งเป็นสัดส่วนด้านข้างไปเลย เมื่อเข้าห้องมาแล้วเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอน แต่จะมีลักษณะเป็นห้องตอนลึกนะคะ เพราะอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ Service มีห้องครัวเชื่อมต่อกับระเบียงสามารถระบายอากาศได้ดี และเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ข้อดีคือสามารถปิดประตูห้องครัวเพื่อกั้นความชื้นไม่ให้เข้ามาในส่วนพื้นที่พักผ่อนได้ ช่วยลดการทำงานหนักของเครื่องปรับอากาศ ไม่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นค่ะ

ห้องนี้เหมาะกับคนที่ต้องการห้อง 1 Bedroom ไม่ต้องการพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่ม ชอบห้องที่มีความโปร่งสบายและแยกพื้นที่ครัว, ห้องน้ำเป็นสัดส่วนสามารถทำอาหารจริงจังได้

Image 1/12
1 Bed Exclusive ขนาด 29.20 ตารางเมตร

1 Bed Exclusive ขนาด 29.20 ตารางเมตร

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบแปลน

Image 1/5
Studio

Studio

ราคา

30 November 2020

  • Studio ขนาด 21.1 ตารางเมตร (ช่วงราคา 2.11 – 2.28 ล้านบาท)
  • 1 Bedroom ขนาด 22.35 – 25.90 ตารางเมตร (ช่วงราคา 2.34 – 2.82 ล้านบาท)
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.95 – 30.05 ตารางเมตร (ช่วงราคา 2.80 – 3.15 ล้านบาท)
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31.25 – 34.40 ตารางเมตร (ช่วงราคา 3.26 – 4.19 ล้านบาท)

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อป ลามิเนต
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
  • มีรถ Shuttle Service ไปกลับ MRT สถานี ศูนย์วัฒนธรรม
  • จอง 999 บาท
  • ทำสัญญา 10,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง ตั้งอยู่ในซอยสหการประมูลเข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร การเดินทางสะดวก เป็นทำเลที่มีความคึกคักสูงตลอดทั้งวันหาของกินได้ง่าย เนื่องจากในซอยมีทั้งร้านสะดวกซื้อ ตลาด และร้านอาหารให้เลือกซื้อของได้ นอกจากนั้นยังใกล้กับแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆอย่างถนนรัชดาภิเษก ที่มีอาคารสำนักงานใหญ่หลายแห่งเช่น  AIA , อาคารตลาดหลักทรัพย์, ตึก RS, CW Tower และอาคาร G Tower และยังมีห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พระราม 9 , เอสพลานาด , ฟอร์จูนทาวน์, Big C รัชดา และ เดอะสตรีท นอกจากนั้นยังใก้ลกับถนนเลียบด่วนรามอินทรา หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรมเป็นแหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง ร้านนั่งชิล และ Community mall อย่าง CDC , Crystal park , Chic Republic , The Walk เป็นต้น

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากซอยสหการประมูลและถนนประชาอุทิศ เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักอีกหลายสายไม่ว่าจะเป็นถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 และ ถนนลาดพร้าว ไม่ว่าจะอยู่ทางทิศทางไหนก็สามารถเข้าถึงโครงการได้ไม่ยาก แต่จะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนของวันนะคะ

สำหรับการขึ้นทางด่วนสามารถใช้ทางพิเศษฉลองรัชได้ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กิโลเมตรเท่านั้น โครงการมีที่จอดรถมาให้ประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคันถือว่าไม่เยอะมากนักแต่มีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะเพิ่มเติมค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถสาธารณะสามารถเรียกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยหรือ Taxi ได้ง่ายเนื่องจากภายในซอยมีรถผ่านไป – มาเยอะตลอดทั้งวัน  นอกจากนั้นทางโครงการยังมีรถรับ – ส่งที่รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีศูนย์วัฒนธรรมเป็นตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มเติมให้ด้วย ส่วนระยะเวลาขึ้นอยู่กับการบริหารของนิติบุคคลในอนาคตนะคะ

วัสดุ :

วัสดุได้ตามมาตรฐานราคาค่ะ โดยโครงการจะมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in พร้อมโซฟา โต๊ะกลาง เก้าอี้รับประทานอาหาร โต๊ะ และฐานเตียง รวมถึงได้เครื่องปรับอากาศ พื้นห้องปูด้วยกระเบื้อง Smart ไวนิล (กระเบื้องยาง) ลายไม้ ระเบียงปูกระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์จาก Cotto ฝักบัวจาก Prema ครัว Top ลามิเนตพร้อมอ่างล้างจาน  เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า จาก MEX และได้ระบบเพิ่มเติมคือ Digital Door Lock, LED Lighting Motion Sensor, Thermostat, Rescue Alarm อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการทำได้ดี พื้นที่ส่วนกลางมีความหลากหลายและน่าใช้งานโดยจะกระจายอยู่ทุกอาคาร แต่ละอาคารมีข้อดีเหมาะกับคนที่มีสไลฟ์สไตล์ต่างกัน เช่น อาคาร A มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยอย่าง ร้านค้า บริการเครื่องซักผ้า และอยู่ด้านหน้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบาย ไม่เน้นอยู่ใกล้กับ Facility อื่นๆมากนัก ส่วนอาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวและต้องการแผงกันแดดกันความร้อนเข้าสู่ห้องพักอาศัย ชอบใช้งาน Fitness และพื้นที่นั่งทำงาน เป็นต้น ส่วนอาคาร C จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้ Facility หลากหลาย เข้าใช้งานส่วนกลางต่างๆได้สะดวกแต่ไม่กังวลเรื่องการเดินเข้า-ออกโครงการที่ไกลกว่าอาคารอื่นๆค่ะ

การออกแบบห้องพักอาศัยทำได้ค่อนข้างลงตัวค่ะ ห้อง 1  Bedroom Plus เหมาะกับคนที่ชอบห้องที่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนได้ครัวปิด ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่า ไม่เน้นแสงธรรมชาติ และมองเห็นวิวจากพื้นที่ห้องนั่งเล่นมากนัก ชอบห้องอเนกประสงค์สำหรับปรับเป็นห้องนอนที่ 2 หรือห้องทำงานส่วนตัวได้ ส่วนห้อง 1 Bedroom เหมาะกับคนที่ชอบห้องโปร่ง มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้อง สามารถเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันได้ แต่ไม่เน้นทำอาหารรับประทานเองมากนักค่ะ

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคภายในโครงการถือว่าให้มาเยอะพอๆกับคอนโดมิเนียม High Rise เลยทีเดียวค่ะ โดยจะมีพื้นที่ส่วนกลางที่กระจายตามแต่ละอาคาร พื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารและดาดฟ้าเชื่อมต่อกันทั้ง 3 อาคาร รวมแล้วประมาณ 30 จุด ถือว่าเพียงพอเหมาะสมกับจำนวนยูนิต 595 ยูนิตนะคะ นอกจากนั้นร้านค้า และ Fitness ยังเปิดให้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ถือว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทำงานค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 90,000 – 100,000 บาท/ตร.ม., 30 November 2020

  • ทำเล 7.5/10 – ใกล้แหล่งงาน มีความคึกคัก มีความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายเส้นทาง ที่จอดรถ 40%
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีวินหน้าปากซอย เรียกรถง่ายและมีรถรับ-ส่ง MRT ศูนย์วัฒนธรรม
  • วัสดุ 8/10 – ได้มาตามมาตรฐาน พร้อม Home Automation อำนวยความสะดวก
  • แบบ 7.75/10 – ออกแบบส่วนกลางสวยน่าใช้งาน ห้องพักอาศัยลงตัว
  • สาธารณูปโภค 8.75/10 – ให้มาหลากหลายเทียบเท่ากับคอนโด High Rise

  • UPPER CLASS
  • 7.72 / 10.00

BOTTOM LINE

Atmoz รัชดา-ห้วยขวาง เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมใกล้แหล่งงานย่านรัชดา อยู่ในทำเลที่มีความคึกคักสูง หาของกินง่าย เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก และมีรถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะ และหลากหลาย หรือเป็นคนที่ใช้พื้นที่ส่วนกลางบ่อยๆ กำลังมองหาห้อง 1 Bedroom เพื่ออยู่อาศัย 1-2 คน มีงบประมาณ 2 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 21,000 – 28,000 บาทต่อเดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc