รีวิวตึกเสร็จ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน คอนโด High Rise ติดถนนใหญ่ ใกล้ MRT บางกระสอ และ MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2515]

Aspire Rattanathibet Weston (แอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน) ณ วันที่ 10 มีนาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.860386, 100.508183
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก โดยจะอยู่ระหว่างแยกแครายและแยกนนทบุรี ซึ่งเป็นช่วงที่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงให้ใช้งานเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ส่วนในด้านความอุดมสมบูรณ์ก็จะมี BigC ให้ใช้งานซื้อของเข้าบ้านได้ใกล้ที่สุด หรือถ้าเลยไปอีกหน่อยก็มีจะ Central รัตนาธิเบศร์ กับตลาดนกฮูกที่อยู่ตรงแยกนนทบุรี

และสิ่งสำคัญที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ “แหล่งงาน” ซึ่งนอกจากจะมีเหล่าพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดและห้างสรรพสินค้าในย่านแล้ว ยังมีศูนย์ราชการที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณะสุข สำนักงานเทศบาล กรมบังคับคดี กองสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักงาน ป.ป.ช. ก็ล้วนแต่อยู่ในทำเลนี้ทั้งสิ้น เรียกได้ว่าใครที่ทำงานเป็นข้าราชการย่านนี้จะเหมาะเลยทีเดียว

สำหรับโครงการนี้เรามีตัวช่วยในการเดินทางที่สะดวกคือ “รถไฟฟ้าสายสีม่วง” โดยโครงการจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง MRT บางกะสอ มีระยะเดินไปประมาณ 200 m.  ถือว่าใกล้กว่าโครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้นะคะ ส่วน MRT ศูนย์ราชการนนทบุรีจะมีระยะเดินไปประมาณ 270 m. ซึ่งต่อไปในอนาคตเมื่อสร้างเสร็จจะเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสีชมพู ทำให้เรามีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายขึ้นค่ะ

หากดูจากเส้นทางแล้ว โครงการของเราจะอยู่บริเวณสะพานกลับรถพอดี ดังนั้นหากใครที่ใช้รถส่วนตัว แล้วต้องการขับรถเข้าเมือง หรือไปขึ้นทางด่วนศรีรัช ก็อาจจะต้องไปกลับรถเพื่อเข้าเมืองมาใช้ทางด่วน แต่ถ้าใครทำงานเป็นข้าราชการอยู่แถวๆ ถนนสนามบินน้ำก็ถือว่าสะดวกมากเพราะเราสามารถใช้ชีวิตขับรถวน Loop แบบในภาพนี้ได้สบายๆ

ส่วนการขับรถไปขึ้นทางพิเศษศรีรัช ก็จะต้องไปกลับรถมาก่อน ถนนฝั่งขาเข้าที่มุ่งหน้ามาสี่แยกแครายจะขึ้นชื่อเรื่องรถติดพอสมควรเพราะเป็นเส้นทางเข้าเมืองหลักๆจากทางฝั่งนนทบุรีและคนที่อยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นโดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น จึงอาจต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มอีกสักหน่อยนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ลักษณะของที่ดินจะอยู่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนเดิมในพื้นที่ ส่วนมากเป็นอาคารพาณิชย์ บ้านพักอยู่โดยรอบ ทำให้โครงการได้วิวเปิด 3 ฝั่งที่จะไม่มีอาคารสูงมาบังวิว มีแค่เฉพาะทางทิศใต้ที่โดนบังวิวบางส่วนจากคอนโด โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 …เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง

• ทิศเหนือ – ติดกับ ถนนรัตนาธิเบศร์ และแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง
• ทิศตะวันออก – ติดกับ ถนนซอย และอาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น
• ทิศใต้ – ติดกับ โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2
• ทิศตะวันตก – ติดกับ บ้านพักอาศัยและปั๊ม LPG

วิวมุมสูงบรรยากาศโดยรอบโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Big C ~ 400 m.
• Central รัตนาธิเบศร์ ~ 3 km.
• ตลาดนกฮูก ~ 3 km.
• ตลาดต้นสัก ~ 4.4 km.
• Tesco Lotus ~ 5.7 km.
• The Mall Lifestore Ngamwongwan ~ 8.4 km.

โรงพยาบาล

• รพ. พระนั่งเกล้า ~ 4 km.
• สถาบันโรคทรวงอก ~ 6 km.
• รพ. นนทเวช ~ 8.2 km.

โรงเรียน

• รร. นนทบุรีคริสเตียนวิทยา ~ 3 km.
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลสุวรรณภูมิ ~ 3 km.
• รร. อนุราชประสิทธิ์ ~ 4.5 km.
• รร. รัตนาธิเบศร์ ~ 5 km.
• รร. นนทบุรีพิทยาคม ~ 7.5 km.

สถานที่ราชการ

• สำนักงานที่ดิน จังหวัดนนทบุรี ~ 4 km.
• สำนักงานบังคับคดี จังหวัดนนทบุรี ~ 4.2 km.
• สำนักงาน เทศบาลนครนนทบุรี ~ 5 km.
• สำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาล ~ 5.5 km.
• กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ~ 5.5 km.
• สำนักงาน ป.ป.ช. ~ 5.6 km.
• สำนักงานขนส่ง ~ 6.6 km.
• กรมพลาธิการทหารบก ~ 6.6 km.
• กระทรวง สาธารณสุข ~ 8.4 km.

มาเจาะลึกในส่วนของโครงการกันต่อค่ะ โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน เป็นคอนโด High rise สูง 25 ชั้น ที่ถูกพัฒนาต่อมาจากโครงการคอนโดรุ่นพี่ของ AP อย่าง Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 (Sold out แล้ว) ที่อยู่ในทำเลที่ตั้งติดกัน ส่วนตัวมองว่าเป็นโครงการที่เหมาะกับคนทำงานในย่านศูนย์ราชการนนทบุรี เพราะเดินทางไปทำงานสะดวก และเหมาะกับคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง, สีน้ำเงิน เพราะเดินทางไม่ยาก โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินสบาย 200 เมตร

หากมองดูตลาดคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเห็นว่า ..มีราคาลดหลั่นกันมาตั้งแต่คอนโดสถานี Interchange เตาปูน ราคาเฉลี่ย 100,000+ ต่อตารางเมตร โดยราคาจะไต่ลงมาเรื่อยๆ ให้ราคาหยิบจับง่ายขึ้นแต่ก็เพิ่มจำนวนสถานีห่างออกมาจากเมืองมากขึ้น ไล่จนถึงคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้าบนเส้นรัตนาธิเบศร์ (ศูนย์ราชการนนทบุรี – บางกระสอ – แยกนนทบุรี 1 – สะพานพระนั่งเกล้า) โซนนี้มีหลายโครงการให้เลือกแต่จะมีคละกันไปทั้งเก่าทั้งใหม่ ไม่ต่ำกว่า 8 โครงการ ราคาอยู่ที่ประมาณ 45,000-80,000 บาท/ตร.ม. (ราคา Packgae อยู่ในช่วง 1.4 ไปจนถึง 3 ล้านกว่าบาท)

สำหรับ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน มีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 64,000 บาท/ตร.ม. จัดอยู่ในช่วงราคากลางๆ ของกลุ่มคอนโดทั้งเก่าใหม่ แต่หากพิจารณาเฉพาะโครงการใหม่ในโซนนี้จะเห็นว่ามีราคาเฉลี่ยอยู่ราวๆ 70,000-80,000 บาท/ตร.ม. กันแล้วนะคะ ดังนั้นหากต้องการคอนโดราคาถูกกว่าโครงการนี้จะต้องไปเลือกโครงการที่สร้างเสร็จมาสักพักใหญ่แล้วค่ะ

ถ้าเทียบ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน กับคอนโดในละแวกนี้จะเห็นว่าที่นี่เป็นตัวเลือกของคนที่อยากได้ “คอนโดเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ พร้อมอยู่ ที่มีราคาหยิบจับง่าย ราคาต่อตารางเมตรถูกสุด” สมมุติว่าซื้อห้องราคา 1.9 ล้าน ที่ Aspire จะได้พื้นที่ใช้สอย 30.5 ตร.ม. แต่โครงการอื่นจะได้พื้นที่ใช้สอย 27.5-29 ตร.ม. ทำให้ Aspire มีความคุ้มค่าในเรื่องพื้นที่ใช้สอยค่ะ

แต่ทว่าราคาต่อตารางเมตรถูกสุดของ Aspire จะขายห้องแบบ Fully Fitted ซึ่งหลายโครงการที่ราคาสูงกว่าจะขายแบบ Fully Furnished นะคะ ทางโครงการ Aspire จึงแถม IKEA Voucher + Central Voucher หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมประมาณ 100,000 บาท ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากแต่งห้องเอง เอาจริงๆ เราลองเข้าไปดูเล่นๆ ในเว็บ IKEA เห็นว่าในงบ 60,000 บาทก็ช้อปได้ทั้ง เตียงนอน+ตู้เสื้อผ้า+โซฟา+ชั้นวางทีวี+โต๊ะทานอาหาร แล้วนะคะ แต่ส่วนอื่นๆ ที่อยากตกแต่งก็เพิ่มเติมเอา

โดยโครงการเป็นคอนโด High rise สร้างอยู่บนเนื้อที่ 3-2-68.9 ไร่ มีจำนวนห้องพักอาศัยที่ 854 ยูนิต ออกแบบมาในสไตล์ Urban Resort เน้นดีไซน์ใหม่ที่ใกล้ชิดเข้าถึงธรรมชาติได้ง่าย และเน้นพื้นที่พักผ่อนที่เป็นส่วนตัว ตอบโจทย์ของกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในวัยทำงาน ที่ปัจจุบันเน้นการใช้พื้นที่ส่วนกลางเพื่อการพักผ่อนกันมากขึ้นนั้นเอง

โครงการเลือกวางรูปแบบอาคารเป็นตัว L เปิดตัวอาคารทางด้านหน้าให้รับไปกับแนวถนนรัตนาธิเบศร์และแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง เน้นการจัดวางพื้นที่ส่วนกลางกระจายไว้ให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่พื้นที่สวนที่จัดไว้ทางด้านหน้าของตัวอาคาร และพื้นที่พักผ่อนหลากหลายแบบที่บริเวณชั้น 1 , ที่ชั้น 7 ที่เป็น Facilities เน้นไปที่สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ส่วนชั้นดาดฟ้าก็ออกแบบพื้นที่สีเขียวและที่พักผ่อนที่ได้วิวแบบมุมสูงโดยรอบได้แบบเต็มที่

แปลนชั้นที่ 1 ด้านหน้าจะเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ และมีพื้นที่สวน 2 ฝั่ง The Green Retreat ให้เลือกใช้งาน เป็นการปรับมุมมองจากภายนอกถนนให้เข้ามาเจอพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่นก่อนเข้ามาถึงตัวอาคารด้านใน อีกทั้งพื้นที่สวนจะเปรียบเสมือน Setback ที่เป็นแนว Buffer ให้กับตัวอาคารด้านในป้องกันฝุ่นและเสียงรถยนต์จากภายนอกได้

ส่วนที่จอดรถให้มาที่ 332 คัน คิดเป็น 39% (รวมจอดซ้อนคัน) ถือว่าให้มากลางๆเพราะหากไม่ใช้รถก็สามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการเดินทางได้ โดยที่จอดรถจะให้จอดในอาคารที่ชั้น 1-6 การจอดในอาคารแบบนี้มีข้อดีคือเราไม่ต้องจอดรถตากแดดตากฝน จอดเสร็จสามารถเดินเข้าสู่ตัวอาคารได้เลย ลิฟต์โดยสาร 4 ตัวช่วยกระจายการใช้งานและให้ ลิฟต์ Service แยกการใช้งานไว้ให้ต่างหาก ไม่มารบกวนลิฟต์โดยสารของผู้อยู่อาศัย

ด้านหน้าโครงการจะมีไม้กระดกกั้นเป็นลำดับแรก สำหรับสกรีนรถเข้าออก หากเป็นรถของลูกบ้านไม้กระดกจะเปิดให้เลยด้วยระบบอ่านป้ายทะเบียนรถค่ะ

ที่จอดรถในอาคาร

ช่องจอดรถมีขนาดมาตรฐาน ได้แสงธรรมชาติรอบข้าง จากที่จอดรถจะมีทางเข้าอาคารในแต่ละชั้นอยู่นะคะ ซึ่งต้องใช้ Face Scan ในการเข้าอาคารนะคะ

The Green Retreat (สวนหน้าอาคารชั้น 1)

The Green Retreat เป็นพื้นที่สวนบริเวณหน้าอาคาร ดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม และภายในสวนจะมีการแบ่งจัดแบ่งพื้นที่นั่งเล่นออกเป็นมุมต่างๆ หลายมุมเลยค่ะ ไม่ว่าจะมาเดินเล่นเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม ก็สามารถหามุมที่เป็นส่วนตัวกันได้

Highlight บริเวณหน้าอาคารก็คือ 7-11 ค่ะ เห็นป้ายแบบนี้ก็รู้เลยว่า…หิวเมื่อไรก็แวะมาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เป็นที่แน่นอนว่า 7-11 นี้เราจะต้องแชร์กับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกบ้านด้วย ทางโครงการจึงออกแบบทางเข้า-ออก 7-11 ไว้ 2 ทาง หากเป็นลูกบ้านจะมีประตูเล็กที่ต้องใช้ Face Scan เท่านั้นจึงจะเข้าคอนโดได้

เมื่อเข้ามาในโครงการแล้ว บริเวณหน้าอาคารจะมี Welcome Foyer เป็นส่วนต้อนรับลำดับแรกค่ะ

Welcome Foyer (Lobby แบบ Semi outdoor)

Welcome Foyer เป็นพื้นที่ต้อนรับที่เน้นการใช้งานที่โปร่งโล่งใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นพื้นที่ Semi outdoor ที่แขกของลูกบ้านสามารถมานั่งพักคอยได้ โดยไม่ต้องใช้ Face Scan ในส่วนนี้

เข้ามาด้านในอาคารจะเป็นโถงทางเดินยาวเพื่อแจกไปยัง Facility ตามห้องต่างๆ ซึ่งต้องใช้ Face Scan เข้าไปในแต่ละห้องนะคะ

The Parlour (Co-Kitchen)

The Parlour จัดฟังก์ชันไว้เป็น Co-Kitchen เผื่อเราไม่อยากพาเพื่อนขึ้นไปทานอาหารบนห้อง หรือเพื่อนมากันหลายคนก็สามารถใช้ห้องนี้ได้ ภายในมีซิงค์ล้างจานให้พร้อมค่ะ

The Co-Living (Co-Working space)

The Co-Living จัดเฟอร์ฯ ไว้รองรับการนั่งทำงาน การประชุม และนั่งพักผ่อน ซึ่งเป็นมุมที่มองออกไปเห็นสวนหน้าโครงการพอดี หากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็หิ้ว Laptop มาทำงานห้องนี้ได้

ด้านในสุดของทางเดิน เป็นทางเข้า Lobby ของอาคาร ซึ่งมีชื่อเก๋ๆ ว่า The Grand Living

The Grand Living (Lobby)

Lobby ของโครงการมีพื้นที่กว้างทีเดียวนะคะ สามารถพาแขกมาพักคอยพูดคุยกันในห้องนี้ได้สบาย ในนี้จะเป็นห้องแอร์ค่ะ

สีสันของเฟอร์ฯ ใน The Grand Living และของตกแต่ง ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ใน Art Gallery ดูสดใสแปลกตา และโครงการจัดชุดโซฟามากเยอะมาก รองรับการใช้งานได้หลายกลุ่มนะคะ

ตู้จดหมายและห้องนิติฯ ของที่นี่จะอยู่บริเวณทางเดินผ่านเข้า-ออกโถงลิฟต์พอดี จึงสามารถแวะรับจดหมายและพัสดุได้สะดวก

ด้านในสุดของ The Grand Living เป็นประตูเชื่อมไปห้องนิติฯ ส่วนทางขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำส่วนกลางค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลางจะมีแยกไว้ทั้งชาย/หญิง และผู้สูงอายุนะคะ เราพาเข้ามาดูบรรยากาศในห้องน้ำหญิงดูหรูหราดี มี Gimmick ตรงประตูที่เป็นบานเปิด 2 ฝั่ง เก๋ดีค่ะ

โถงลิฟต์

โถงลิฟต์ของโซนพักอาศัยมีการเลือกใช้ Finishing , การตกแต่ง และ Lighting ที่ทำให้บรรยากาศดูหรูหรา ซึ่งสามารถเข้าได้ 2 ทางคือจาก The Grand Lobby และจากทางที่จอดรถ ซึ่งต้องใช้ Face Scan ทั้งคู่เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับการใช้งาน ซึ่งลิฟต์จะเป็นแบบล็อคชั้นทำให้ผู้อยู่อาศัยในแต่ละชั้นได้ความเป็นส่วนตัว

ที่ชั้น 3 เป็นต้นไปจะเริ่มเป็นแปลนชั้นพักอาศัย โดยชั้น 3 , 5 , 6 จะมีจำนวนห้อง 25 ห้อง แปลนชั้นนี้จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และจะมีห้อง 2 Bedroom (กรอบสีแดง) ให้เลือกเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น จุดเด่นของชั้นนี้แม้จะเป็นชั้นที่ไม่สูงมากแต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเพราะจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยกว่าชั้นบนๆ อีกทั้งจะได้แนวทางเดินแบบ Single corridor เปิดห้องมาไม่ต้องปะทะกับห้องตรงข้ามอีกด้วย โดยชั้น 3 , 5 , 6 จะเป็นชั้นที่ยังมีที่จอดรถอยู่ ถ้าเลือกพักอาศัยในชั้นนี้เราสามารถเลือกจอดรถให้ตรงชั้นห้องพักของเราได้เลย สามารถเดินจากที่จอดรถผ่านโถงลิฟต์เข้ามาที่ห้องได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนวิวต่างๆถ้าเลือกห้องที่หันออกมาทางทิศเหนือจะได้วิวทางด้านหน้าโครงการมองเห็นถนนหลักและเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ได้วิวเมืองและบ้านพักอาศัยแบบเปิดโล่ง และถ้าใครเลือกห้องหันมาทางทิศตะวันออกจะได้วิวเมืองทางฝั่งงามวงศ์วาน มองเห็นคอนโดศุภาลัยอยู่ไกลๆ

ชั้น 7 จะเป็นส่วนพักอาศัยรวมอยู่กับ Facilities ของโครงการ ห้องพักอาศัยในชั้นนี้เพิ่มขึ้นเป็น 34 ห้อง แปลนชั้นนี้จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และจะมีห้อง 2 Bedroom (กรอบสีแดง) ให้เลือกเพียงชั้นละ 1 ห้อง โดยจะมีห้องพักฝั่งที่หันออกทางทิศตะวันออก7 ห้อง ที่จะได้แนวทางเดินแบบ Single corridor เปิดห้องมาไม่ต้องปะทะกับห้องตรงข้ามให้เลือก ส่วนถ้าใครเลือกห้องหันออกทางฝั่งทิศใต้ ก็จะได้วิวสวนของชั้นนี้ โดยทางโครงการจะออกแบบพื้นที่สวนให้ช่วยบังสายตาระหว่างห้องที่อยู่ตรงกับส่วนกลางและสระว่ายน้ำ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย

สำหรับชั้น 7 ถ้าใครชอบความสะดวกมาใช้ส่วนกลางง่ายๆ เดินมาใช้ในชั้นเดียวกันกับห้องพักอาศัยน่าจะเหมาะกับชั้นนี้ค่ะ สำหรับ Facilities ในชั้นนี้จะประกอบด้วย ห้อง The Active (Fitness) , The Blue Refresh Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 38 x 7 เมตร ที่ปลายสระมีที่นั่งแบบ The Sunken Seat , บ่อ Jacuzzi และ Hydro Spa ให้แช่ตัวผ่อนคลาย ชั้นนี้มีประตูเข้า-ออก แบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน พร้อมห้องน้ำส่วนกลางในชั้นนี้ให้พร้อมใช้งาน

ออกจากลิฟต์มาจะมีทางเดินยาวแบบ Semi-Outdoor ที่เชื่อมไปยังห้องต่างๆ ทั้งห้องน้ำ, Fitness และสระว่ายน้ำ

ห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้จะมีห้องอาบน้ำเพิ่มมาด้วย ใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังลงสระได้สะดวกดี แต่จำนวนห้องจะไม่เยอะนักนะคะ

สุดปลายทางฝั่งซ้ายมือจะเป็น Fitness ค่ะ

The Active (Fitness)

Fitness ของที่นี่มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า The Active ภายในห้องมีอุปกรณ์มาให้ครบ ตอบโจทย์ทั้ง Cardio และ Weight Training ซึ่งระหว่างออกกำลังก็สามารถชมวิวของสระว่ายน้ำไปได้ด้วย

ทางเข้าสระว่ายน้ำออกแบบมาให้เป็น Universal Design ผู้สูงอายุที่ใช้วีลแชร์ก็สามารถเข้าใช้งานได้สะดวก

สำหรับห้องพักบนชั้น 7 จะมีแนวต้นไม้ช่วยให้ห้องพักได้ความเป็นส่วนตัวอยู่นะคะ แต่จะไม่ได้วิวสระว่ายน้ำ ถ้าชอบห้องวิวสระว่ายน้ำแนะนำให้เลือกประมาณชั้น 8-10 จะได้วิวสระชัดกว่า

ก่อนลงสระจะมีพื้นที่ให้อาบน้ำอยู่ด้านข้าง ดูเป็นสัดส่วนดีค่ะ

The Fresh Nook Seat

ในส่วนของ The Fresh Nook Seat เป็นพื้นที่นั่งเล่นในสวน ซึ่งจัดไว้หลายมุมเลย

จากที่นั่งเล่นจะได้วิวสระพอดิบพอดีค่ะ

The Blue Refresh Pool 

The Blue Refresh Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 38 x 7 เมตร ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้เลยค่ะ

The Sunken Seat

ปลายสุดของสระว่ายน้ำจะทำเป็นที่นั่งแบบ The Sunken Seat ขนาบข้างด้วยบ่อ Jacuzzi และ Hydro Spa ให้แช่ตัวผ่อนคลาย

นอกจากนี้ในสระยังทำเป็นที่นั่งในน้ำ หากใครไม่ได้ชอบออกกำลังกายหนักๆ ก็สามารถมานั่งชิลๆ ในน้ำได้

ที่ชั้น 8-25 เป็นต้นไปจะเป็นแปลนชั้นพักอาศัยทั้งหมด มีจำนวนห้อง 40 ห้อง แปลนชั้นนี้จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และจะมีห้อง 2 Bedroom (กรอบสีแดง) ให้เลือกเพียงชั้นละ 1 ห้อง จุดเด่นของชั้นนี้คือมีวิวให้เลือกทั้ง 4 ทิศ วิวที่เปิดโล่งสุดจะเป็นวิวทางฝั่งทิศเหนือ (กรอบสีม่วง) รองลงมาเป็นทิศตะวันออก (กรอบสีเขียว) ส่วนทางทิศใต้ (กรอบสีฟ้า) จะมองเห็นโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนักจะมีสระว่ายน้ำและอาคารจอดรถคั่นไว้อยู่ ซึ่งห้องที่หันไปทางทิศเหนือ-ใต้จะเป็นทิศที่ห้องจะไม่ร้อนเพราะ ไม่โดนแดดโดยตรง และทิศใต้จะรับลมได้มากกว่าทิศอื่นๆ

ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้า Rooftop ของโครงการจะเป็นพื้นที่สวนพักผ่อนทั้งหมด เรียกว่า The Sky Retreat สามารถขึ้นมาใช้งานได้สะดวกเพราะมีลิฟต์ขึ้นมาถึงในชั้นนี้เลย และการที่มีพื้นที่พักผ่อนอยู่ในชั้นสูงแบบนี้จะมีข้อดีในเรื่องของการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะจะสูงพ้นจากระยะสายตาของเพื่อนบ้านโดยรอบ อีกทั้งยังได้วิวมุมสูงของพื้นที่โดยรอบโครงการอีกด้วย

The Sky Retreat (สวนบนชั้น Rooftop)

ขึ้นมาชั้นดาดฟ้าจะเป็นโซน The Sky Retreat เป็นพื้นที่สีเขียวให้มาพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมแนวทางเดินและพื้นที่ให้นั่งเล่นมองวิวเมืองมุงสูงกันแบบเพลินๆ ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Ground Floor

• The Green Retreat (สวน)
• The Co-Living (Co-Working space)
• The Parlour (Co-Kitchen)
• Welcome Foyer (Lobby แบบ Semi outdoor)
• The Grand Living (Lobby)

7th Floor

• The Blue Refresh Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 38 x 7 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• The Sunken Seat
• Jacuzzi
• Hydro Spa
• The Fresh Nook Seat
• The Active (Fitness)

Rooftop

• The Sky Retreat (สวนบนชั้น Rooftop)

Others

• ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 213 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• 332 คัน คิดเป็น 39% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / KATSAN / Finger Scan

รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน จัดรูปแบบห้องมาค่อนข้างหลากหลายทีเดียว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท ทั้งคนที่ทำงานในละแวกนี้อยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนครอบครัวขยายพ่อแม่ลูก เริ่มตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom ไปจนถึงห้อง 2 Bedroom แต่จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ที่มีจำนวนให้เลือกมากที่สุด

• ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.50 ตร.ม.
• ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 45.00 ตร.ม.

โครงการนี้ขายรูปแบบ Fully Fitted โดยจับมือกับ IKEA จัด Promotion พิเศษมอบ Gift Voucher มูลค่า 60,000 บาท เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ IKEA ทุกสาขา เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่สามารถเลือกรูปแบบ ขนาด หน้าตาเฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงของแต่งบ้าน ที่ตัวเองชอบและเหมาะสมในการใช้งานของตนเองได้ เฟอร์ฯ บางอย่างมีแล้วก็สามารถไปซื้อส่วนที่ขาดเพิ่มได้ค่ะ

โดยจะมีห้องตัวอย่างที่ตกแต่งโดยเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA จัดไว้ให้เห็นหน้าตาของเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ซึ่งเราสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียเวลาไปเลือกซื้อได้ค่ะ

สรุปวัสดุอุปกรณ์ในห้อง

• พื้นลามิเนต
• ผนังฉาบเรียบทาสี
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จาก COTTO
• ฉากกั้นอาบน้ำ 3 ตอน
• ชุดตู้กระจกแบบ Built-in ในห้องน้ำ
• ชุดครัว Built-in
• Top ครัวหินสังเคราะห์
• ก๊อกน้ำของ Mex
• แอร์ Wall Type 1 ตัว

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Type A ขนาด 30.50 ตร.ม. เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน ห้องนี้จะถูกออกแบบพื้นที่การใช้งานที่เน้นพื้นที่เก็บของที่มากขึ้น เมื่อเข้ามาจะเจอกับครัวที่เป็นสัดส่วนเป็นครัวปิดมีประตูแบ่งการใช้งาน ตรงข้ามเป็นห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ติดกันเป็นพื้นที่นั่งเล่นกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนกับส่วนห้องนอนไว้ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก

ห้องนอนจะอยู่ด้านในสุดได้วิวและรับแสงธรรมชาติเต็มที่ ติดกันเป็นส่วน Walk-in Closet ที่เป็นอีกจุดเด่นของห้องนี้เพราะให้พื้นที่มาเยอะ ตั้งตู้เสื้อผ้าชั้นวางของ เก็บของได้เยอะเป็นพิเศษ ติดกันจะเป็นส่วนระเบียงที่ออกแบบให้วางเครื่องซักผ้าและมีพื้นที่ให้ตากผ้าใช้งานได้สะดวก ส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนไว้ทางด้านข้างแทน ช่วยทำให้พื้นที่ระเบียงมีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่

ประตูหน้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป มือจับเป็นแบบคันโยก ส่วนพื้นห้องจะยกระดับขึ้นมาจากทางเดินเล็กน้อย ซึ่งช่วยป้องกันำม่ให้น้ำจากทางเดินส่วนกลางไหลย้อนเข้ามาในห้องได้ง่ายๆ ค่ะ

ห้องครัว

เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นส่วนครัวของตัวห้อง โดยจะมีประตูบานเลื่อน 3 ตอน แบ่งพื้นที่การใช้งานไว้ให้เป็นสัดส่วน พื้นบริเวณนี้จะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต

สำหรับชุดครัวทางโครงการจะให้ชุดครัวมาตราฐานแบบ Built In จะเป็นแบบและสีตามนี้เลยค่ะ

ส่วนชุดครัวด้านล่างทำเป็นบานเปิดลายไม้ มีชั้นวางของให้เก็บของใช้แยกตามขนาด มีดีเทลเฉือนบานตู้เป็นมุมเฉียงช่วยให้สามารถเปิด-ปิดตู้ได้ง่าย ดีไซน์จึงดูเรียบร้อย ไม่ต้องมีปุ่มจับตู้ยื่นออกมา ด้านในบริเวณบานพับจะติด Soft close เพื่อเวลาเปิด-ปิดใช้งานไม่เกิดเสียงดังลดการกระแทก

Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ที่มีความแข็งแรงต่อการใช้งาน ส่วน Backsplash ด้านหลังจะติดกระเบื้องมาให้ จึงเช็คทำความสะอาดได้ง่าย และมีราวแขวนอุปกรณ์ให้ น่าเสียดายนิดนึงคือโครงการไม่ได้ติดตั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้ เน้นใช้ไมโครเวฟเป็นหลักค่ะ

อ่างล้างจานพร้อมก๊อกน้ำของ MEX มีความลึกพอสมควร วางจานชามได้เป็น 10 ใบอยู่นะคะ ลองเทียบขนาดกับกาน้ำชาที่เราวางลงไปก็ได้ค่ะ

ตู้เก็บของด้านบนทำเป็นชั้นวางแบบช่องเปิด 2 ระดับ ชั้นล่างเดินปลั๊กไฟมาให้สำหรับวางไมโครเวฟ และมีตู้บานปิดอีก 1 ตู้

พื้นที่ภายในส่วนครัวที่ให้มาถือว่าเดินทำอาหารได้สะดวก ขนาดประมาณ 1 x 1.5 เมตร แต่ไม่เพียงพอให้วางตู้เย็นในห้องนี้นะคะ พื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมกับห้องน้ำและห้องนั่งเล่นค่ะ

ประตูเชื่อมไปห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสูงจากพื้นจรดฝ้าเลย ช่วยให้ห้องดูโปร่ง ตัวบานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน ทำให้เปิดออกได้กว้างประมาณ 85 เซนติเมตร

รางประตูจะถูกซ่อนไว้ในระดับเดียวกับพื้น จึงเดินผ่านได้ง่ายไม่ต้องกลัวสะดุดนะคะ

ห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกแบ่งโซนชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมดให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำครบ

ชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก๊อกของ Cotto ขอบอ่างมีพื้นที่สำหรับวางของใช้ต่างๆได้ ใต้อ่างล้างหน้าทำเป็นตู้ Built-in มีพื้นที่ให้เก็บของใช้ต่างๆได้เช่นกัน

มาพร้อม Built-in ตู้กระจก เป็นตู้ที่สามารถเก็บของใช้ต่างๆด้านในได้

ชุดโถสุขภัณฑ์ของ Cotto ตามแบบห้องตัวอย่าง มีขอบเหนืออ่างและโถสุขภัณฑ์ใช้เป็นพื้นที่วางของใช้ต่างๆได้

พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อน 3 ตอนมาให้

พื้นที่ยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 0.9 x 0.8 เมตร สามารถยืนอาบน้ำได้พอสมควร และมีพื้นที่เล็กๆ ให้ตั้งชั้นวางของได้อีกหน่อย ขนาดประมาณ 0.3 x 0.4 เมตร โดยพื้นที่อาบน้ำจะยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนมายังพื้นที่ส่วนแห้ง

ฝักบัวของ Cotto มีให้พร้อมใช้แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้ค่ะ

ห้องนั่งเล่น

เข้ามาด้านในจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นที่ส่วนทานอาหาร บริเวณพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้หลากหลาย ปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m.

บริเวณห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะใช้โซฟาแบบเข้ามุมตามแบบห้องตัวอย่างก็ได้ ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้อง สำหรับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องทางโครงการไม่ได้ให้มาด้วยนะคะ เราสามารถเลือกรูปแบบและจัดวางตามการใช้งานที่เหมาะสมของเราเองได้ค่ะ

ภายในห้องนั่งเล่น มีพื้นที่พอให้วางชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้ มีระยะให้เดินใช้งานได้สะดวก

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอน โดยจะมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมกระจกแบบ 3 ตอน กั้นเพื่อแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ดูเป็นสัดส่วนและเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ห้องนอน

ภายในห้องนอนกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ มีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ และข้างเตียงมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงาน/โต๊ะเครื่องแป้งได้สะดวก

อย่างในห้องตัวอย่างจะจัดเป็นชุดโต๊ะทำงานเอาไว้ เมื่อดูระยะการใช้งานจะเห็นว่าเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ วางชุดโต๊ะและเก้าอี้นั่งทำงานได้สะดวก

การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี

สามารถนอนรับวิวจากเตียงนอนได้เลย

หน้าต่างในห้องนอนจะมีบานกระทุ้งเพื่อเปิดรับลม ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

Walk-in Closet

ติดกับห้องนอนจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นของห้องนี้ เพราะให้พื้นที่มาใหญ่ขนาดประมาณ 1.3 x 0.9 เมตร สามารถวางตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ เก็บของได้เป็นสัดส่วน

ระเบียง

ติดกันจะเป็นส่วนระเบียงที่ติดประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน มาให้เช่นกัน ช่วยทำให้สามารถเปิดประตูได้ระยะที่กว้างมากขึ้น

พื้นที่ส่วนระเบียงสามารถตั้งเครื่องซักผ้าและมีพื้นที่ให้ตากผ้าใช้งานได้สะดวกกว้างประมาณ 1.4 x 1.35 m. ปูพื้นกระเบื้องให้ทั้งหมด

ส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนไว้ทางด้านบน ช่วยทำให้พื้นที่ระเบียงมีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่

มาที่ห้องตัวอย่างที่ 2 เป็นห้อง 1 Bedroom Type B ขนาด 30.50 ตร.ม. เช่นกัน เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน สำหรับห้องนี้จะถูกออกแบบพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างจากห้องแรก เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่โถงทางเข้าตรงข้ามเป็นห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย ถัดเข้ามาเป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนที่ให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างสามารถจัดและใช้งานได้หลากหลาย ใช้การกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกตรงกลางห้องช่วยทำให้ห้องดูกว้าง โปร่งโล่งมากขึ้น

ห้องนอนจะอยู่ด้านในสุดได้วิวและรับแสงธรรมชาติเต็มที่ พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานแบบส่วนตัวภายใน หรือแบ่งโซนสำหรับเป็นพื้นที่เก็บของก็ได้ ส่วนครัวจัดพื้นที่เป็นครัวปิดเหมาะกับการประกอบอาหารแบบจริงจังได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นครัว โครงการมีชุดครัวมาให้พร้อม ส่วนระเบียงแบ่งพื้นที่สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า ตากผ้าและซักล้าง ระเบียงด้านบนใช้วิธีแขวน Condensing Unit ของแอร์ ไว้เพื่อประหยัดพื้นที่การใช้งาน ช่วยทำให้พื้นที่ระเบียงมีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่

ส่วนแรกของห้องจะเป็นบริเวณโถงทางเข้า พื้นที่บริเวณนี้เราสามารถตั้งตู้เก็บของหรือชั้นวางรองเท้าได้ อยู่ในตำแหน่งใกล้กับประตูสามารถหยิบใช้งานได้ง่ายต่อเนื่องกันดี ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตำแหน่งทางเข้าห้องน้ำ ส่วนพื้นบริเวณนี้จะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตทั้งหมด

ห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกแบ่งโซนชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมดให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ

ห้องนั่งเล่น

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นใช้การกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกตรงกลางห้องช่วยทำให้ห้องดูกว้าง โปร่งโล่งมากขึ้น

ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 3.7 เมตร ในระยะประมาณนี้ถือว่าค่อนข้างกว้างเราสามารถเลือกทีวีขนาด 60″ ได้เลยค่ะ

ส่วนนั่งเล่นพักผ่อนให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างสามารถจัดและใช้งานได้หลากหลาย

หากอยากวางโต๊ะทานอาหารที่ทานไปดูทีวีไปได้ ก็สามารถจัดเฟอร์ฯ ตามไอเดียในห้องตัวอย่างได้นะคะ โดยใช้โต๊ะติดผนังและเก้าอี้แบบพับได้ เมื่อใช้งานเสร็จก็สามารถพับเก็บได้ ไม่เกะกะพื้นที่ค่ะ

พื้นที่สำหรับชั้นวางทีวีมีความกว้างมากทีเดียว และด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร เราจึงสามารถทำชั้นวางของติดผนังไปถึงระดับฝ้าใช้งานได้เต็มที่แบบห้องตัวอย่างได้เลย

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ส่วนห้องนอน และห้องครัวกั้นแบ่งโซนการใช้งานด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมแบบ 3 ตอน กระจกใสเพื่อแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ดูเป็นสัดส่วนและเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ห้องนอน

ห้องนอนจะอยู่ด้านในสุดพื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียงใช้งานได้สะดวก

ภายในห้องตัวอย่างทางโครงการจะจัดพื้นที่เก็บของไว้เป็นไอเดียในการตกแต่ง เช่น การทำชั้นวางของแนวตั้งหรือแนวสูงเพิ่มเข้ามา ก็จะเป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าเพิ่มส่วนเก็บของได้เยอะมากขึ้น

ภายในห้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางตู้เสื้อผ้า

อีกหนึ่งไอเดียคือการเจาะผนังเพื่อแขวนของใช้ ซึ่งหากเลือกตัวแขวนที่รองรับน้ำหนักได้เยอะจะสามารถแขวนเก้าอี้พับ ได้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ในห้องตัวอย่างจะวางเตียงโดยหันปลายเตียงไปทางหน้าต่าง ซึ่งจริงๆ เราสามารถเลือกวางตำแหน่งของหัวเตียงได้ตามความชอบและการใช้งานของเราเองได้ค่ะ

โดยการวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีที่ตำแหน่งเตียงนอนจะหันออกหน้าต่าง ทำให้สามารถรับวิวได้แบบเต็มตา

ข้างเตียงมีพื้นที่เพียงพอให้จัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือแบ่งโซนสำหรับเป็นพื้นที่เก็บของก็ได้

ห้องครัว

มากันที่ส่วนครัวจัดพื้นที่เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อนกั้นโซนการใช้งานไว้ เหมาะกับการประกอบอาหารแบบจริงจังได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นครัว มีระยะให้ยืนทำครัววัดจากเคาน์เตอร์ถึงผนังฝั่งตรงข้ามกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้อง ซึ่งเหมาะกับการทำอาหารทนความชื้นและทำความสะอาดได้ง่าย

และข้อดีอีกอย่างของครัวในห้อง Type นี้คือ มีพื้นที่พอให้วางตู้เย็นด้วย อย่างในห้องนี้ก็วางตู้เย็นขนาด 9.1 คิว ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ

ชุดครัว Built-in ได้เหมือนห้องแรกเป๊ะเลยค่ะ ให้วัสดุอุปกรณ์มาเกือบครบ ขาดแค่เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันก็ใช้งานครัวแบบเต็มที่ได้แล้ว

ปิดท้ายด้วยพื้นที่ระเบียง สามารถตั้งเครื่องซักผ้าและมีพื้นที่ให้ตากผ้าใช้งานได้สะดวกกว้างประมาณ 1.4 x 1.3 เมตร ปูพื้นกระเบื้องให้ทั้งหมด ส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนไว้ทางด้านบน ช่วยทำให้พื้นที่ระเบียงมีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Aspire Rattanathibet Weston (แอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน) ราคา ณ วันที่ 10 มีนาคม 2566

• ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 30.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท
• ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 45.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.xx ล้านบาท
• Promotions : Welcome Package ประมาณ 100,000 บาท (Ikea Voucher  มูลค่า 60,000 บาท+เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือ Central Voucher)

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
• จอง 5,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน ตั้งอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก ระหว่างแยกแครายและแยกนนทบุรี ตั้งอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง 2 สถานี ในระยะที่สามารถเดินไปใช้งานได้ง่าย ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆก็มีครบ BigC , เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ และตลาดนกฮูก และยังอยู่ใกล้แหล่งงานศูนย์ราชการ หน่วยงานที่สำคัญต่างๆ หลายแห่งในย่านนนทบุรี จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนี้ หรือที่ต้องเดินทางเข้าเมืองโดยใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นทางเลือกในการเดินทาง

การเดินทางโดยใช้รถ : โครงการตั้งอยู่บนถนนฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ขาออก การเดินทางมาโครงการหากขับรถข้ามสะพานข้ามแยกแครายมาแนะนำให้ออกทางคู่ขนานหลังลงสะพานเพื่อจะได้เข้าโครงการได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าเลยไปจุดที่ออกอีกตำแหน่งจะกระชั้นชิดกับทางเข้าโครงการไปหน่อย ส่วนถ้าจะเดินทางเข้าเมืองมาทางถนนงามวงศ์วาน ต้องไปใช้จุดกลับรถเพื่อไปขึ้นทางด่วนศรีรัชระยะทางประมาณ 8 km. การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นโดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น ควรเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มอีกสักหน่อย แต่ถ้าใครทำงานทางฝั่งถนนสนามบินน้ำถือว่าใช้งานได้สะดวกกลับรถแล้วใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองไปเชื่อมต่อกับถนนสนามบินน้ำได้ง่าย ส่วนที่จอดรถให้มา 39% ถือว่าให้มากลางๆ ส่วนนึงหากไม่ใช้รถก็สามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการเดินทางได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการตั้งอยู่ระหว่าง MRT บางกะสอ และ MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆ สถานีที่ใกล้สุดคือ MRT บางกะสอ ห่างไปประมาณ 200 m. ซึ่งเป็นระยะที่ใกล้กว่าหลายๆ โครงการในละแวกนี้นะคะ ส่วน MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี ในอนาคตต่อไปจะเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสีชมพู เราก็สามารถไปเลือกเปลี่ยนเส้นทางเดินทางได้สะดวกมากขึ้น หรือจะใช้รถสาธารณะอื่นๆ เรียกแท็กซี่ก็ไม่ยากเพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เลย

วัสดุ : โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน จะขายแบบ Fully Fitted ซึ่งต่างจากหลายโครงการที่ราคาสูงกว่าแต่ขายเป็น Fully Furnished โครงการจึงแถม IKEA Voucher + Central Voucher หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมประมาณ 100,000 บาท มาแทน น่าจะถูกใจคนที่ชอบแต่งห้องเองค่ะ

การออกแบบโครงการ : โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน ออกมาด้วยแนวความคิดคอนโดสไตล์ Urban Resort ตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในวัยทำงาน มีราคาเริ่มต้นหยิบจับง่าย เทียบดูแล้วมีราคาต่อตารางเมตรถูกสุดในกลุ่มคอนโดใหม่ใกล้รถไฟฟ้าบนถนนรัตนาธิเบศร์ (ช่วงศูนย์ราชการนนทบุรี – สะพานพระนั่งเกล้า) คือในราคาเท่ากันโครงการนี้จะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าเพื่อนๆ อีก 2-3 ตร.ม. ค่ะ

การออกแบบห้องพักอาศัย : รูปแบบห้องในโครงการจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.50 ตร.ม. มากที่สุด ประมาณ 90% มี 2 แบบ 2 สไตล์ให้เลือกคือ …Type A จะเน้นพื้นที่การใช้งานที่เน้นพื้นที่เก็บของที่มากขึ้น จัด Walk in Closet แบบส่วนตัวในห้องได้เต็มที่ มีพื้นที่พักผ่อนห้องนั่งเล่น ห้องนอนที่กว้างแบ่งโซนใช้งานได้ตามความชอบ ส่วน …Type B จะได้ความโปร่งโล่งส่วนครัวติดระเบียงและห้องนอนจะอยู่ฝั่งที่มีหน้าต่าง จึงได้ช่องแสงเยอะ พื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนกว้างเช่นกัน ที่สำคัญห้อง Type นี้จะได้ครัวปิด ติดระเบียง ซึ่งเป็นรูปแบบที่หายากหน่อย ไม่ได้มีทุกโครงการในโซนนี้นะคะ ส่วนห้อง 2 Bedroom ก็มีให้เลือกเช่นกัน อยู่กันเป็นครอบครัวได้สบายๆ พื้นที่ใช้สอยจัดมาให้ลงตัวดี

สาธารณูปโภค : ส่วนกลางที่นี่จะเน้นไปที่การจัดวางพื้นที่ส่วนกลางกระจายไว้ให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลายโดยการสร้าง Private Zone ต่างๆไว้ให้เลือกใช้งานตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กิจกรรมในการพักผ่อนที่แตกต่างกันไป ให้พื้นที่สวนสีเขียวหลายตำแหน่งให้เลือกใช้ ไว้ทั้งทางด้านหน้าของตัวอาคาร และพื้นที่พักผ่อนที่บริเวณชั้น 1 , ที่ชั้น 7 ที่เป็น Facilities หลัก เน้นไปที่สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ส่วนชั้นดาดฟ้าก็ออกแบบพื้นที่สีเขียวและที่พักผ่อนที่ได้วิวแบบมุมสูงโดยรอบได้แบบเต็มที่ เทียบกับค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม. ก็ถือว่าเหมาะสมค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 64,000 บาท/ตร.ม., 10 มีนาคม 2566

• ทำเล 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้าง แหล่งงานศูนย์ราชการ วิวส่วนใหญ่ได้วิวเปิดโล่ง
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางไปโดยรอบได้สะดวก แต่เข้าเมืองอาจเจอรถติดบ้าง
• ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง 2 สถานี ในระยะเดิน 200 m. ติดถนนหลักเรียกรถสาธารณะง่าย
• วัสดุ 7.5/10 – ให้วัสดุดีน่าใช้งาน ห้อง Fully Fitted แต่มีโปรฯเลือกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA ได้
• แบบ 8/10 – ห้องพักมีทั้งครัวปิดครัวเปิด
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาครบน่าใช้งาน เข้าถึงใช้งานง่าย ได้พื้นที่สีเขียวหลายตำแหน่ง

• ECONOMY CLASS
• 7.8 / 10.00

Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน เหมาะกับใคร

โครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดสร้างเสร็จใหม่ในย่านนนทบุรี ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ใกล้ห้าง เดินทางสะดวกหรือไปใช้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้สบายๆ 200 เมตร โดยเฉพาะคนทำงานศูนย์ราชการในโซนติวานนท์-แคราย-สนามบินน้ำยิ่งเดินทางง่าย รวมถึงคนที่มองหาคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า MRT ที่นี่ก็เป็นโครงการที่ราคาหยิบจับง่ายด้วยเช่นกัน ตัวห้องพื้นที่ใช้งานกว้างอยู่ไม่อึดอัด มีห้องครัวปิด ติดระเบียงให้เลือก ใช้งานเป็นสัดส่วนดี มีงบประมาณเริ่มต้น 1.75 – 3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 21,000 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc