รีวิวฉบับที่ 1848….. วันนี้จะพาไปชมคอนโดตึกเสร็จ ทำเลใกล้ BTS อ่อนนุชที่ยังมีมือหนึ่งให้ได้จับจองกันกับโครงการ Artemis สุขุมวิท 77  จาก CTCC Engineering เป็นคอนโด High Rise 30 ชั้น ที่มีห้องตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedrooms โดยมีห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ในราคาเริ่มต้น 2.87 ล้านบาท ภายในโครงการจะเป็นยังไงกันบ้าง เราไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 10 April 2019

  • Artemis Sukhumvit 77 ( อาทีมิส สุขุมวิท 77 )
  • บริษัท CTCC Engineering จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร 673 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 308 คันคิดเป็นประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง : กุมภาพันธ์ 2557
  • สร้างเสร็จ : กุมภาพันธ์ 2559
  • 1 Bedroom 27.25 – 36.68 ตร.ม.จำนวน 506 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.87 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 44.92 – 54.07 ตร.ม.จำนวน 161 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.25 ล้านบาท
  • 3 Bedrooms 77.74 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.87 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • โทร  : 02-730-3255

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.711328, 100.604363

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Artemis Sukhumvit 77 ตั้งอยูบนถนนสุขุมวิท 77 หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ถนนอ่อนนุช ที่ห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 550 เมตร หลังจากข้ามสะพานคลองพระโขนง จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ ซึ่งจะติดกับโครงการ U Delight @ อ่อนนุช สเตชั่น เรามาพูดถึงทำเลนี้กันดูบ้าง สำหรับทำเลย่านอ่อนนุชปัจจุบันจัดเป็นพื้นที่ศักยภาพของที่อยู่อาศัย มีทั้งแนวราบและคอนโดสลับกันไป ถนนอ่อนนุชจะเชื่อมเข้ากับถนนสุขุมวิท ที่เชื่อมไปยังย่านเอกมัย ทองหล่อ พระราม 4 อโศกได้ง่าย อีกทั้งยังห่าง BTS อ่อนนุช ประมาณ 800 เมตร ทางโครงการมี Shuttle Bus ไปส่งที่สถานีเลยนะคะ โครงการนี้เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ใจกลางเมือง และต้องการซื้อคอนโดในราคาที่ไม่แพงมากนัก เดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ 

อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า อ่อนนุชเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ครบครัน ถนนอ่อนนุชส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวที่ชั้นล่างทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงมีตลาดอ่อนนุชให้ได้ซื้อของสดกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Hyper market และ Community Mall อย่างใกล้ๆกับโครงการก็จะมี Big C Extra ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 450 เมตร สามารถช้อปปิ้งของใช้ก่อนเข้าบ้านได้ เยื้องๆกันจะมี Habito Mall ที่อยู่ใน T77 ข้างในมีทั้ง Cafe และ Co-Working Space สามารถมานั่งทำงานที่นี่ได้ หรือถ้าออกบนถนนสุขุมวิทก็จะมีห้าง Tesco Lotus อ่อนนุช และ Century The Movie Plaza สุขุมวิท ที่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านนี้ ภายในมีร้านอาหารชั้นนำต่างๆ และโรงภาพยนตร์ให้ได้ใช้บริการกันอีกด้วย หรือถ้าใครอยากไปย่านอื่น ก็สามารถใช้ BTS เดินทางได้สะดวกค่ะ นอกเหนือจากห้างสรรพสินค้าแล้ว ย่านนี้ยังมีทั้งสำนักงานเขต, สำนักงานประปา, สถานีตำรวจ, สถานีดับเพลิง รวมถึงมหาวิทยาลัยดังอย่าง ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท และโรงพยาบาล ถือว่ามีครบสำหรับการอยู่อาศัยเลยค่ะ

นอกจากนี้ยังมี People Park อ่อนนุช เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ ที่ข้อมูลเบื้องต้นบอกว่ามีพื้นที่ช้อปปิ้งกว่า 100 ร้านค้า พร้อมสวนหย่อมขนาดใหญ่ รวมถึงสถานที่ออกกำลังกายทั้งกลางแจ้งและในร่ม ซึ่งถ้าโครงการนี้เปิดเมื่อไหร่ จะส่งผลให้ย่านนี้คึกคักมากขึ้นทีเดียวค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ห่าง BTS อ่อนนุช 800 เมตร แม้จะไม่ใช่ระยะที่เดินสบาย แต่ทางโครงการมี Shuttle Bus บริการฟรีสำหรับลูกบ้านเลยนะ นอกจากนี้ด้านข้างโครงการจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการอยู่ ซึ่งถ้านั่งไป BTSอ่อนนุช จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20 บาท 

ตัวโครงการติดถนนใหญ่ ทำให้เรียกรถ Taxi ได้ง่าย รวมถึงถนนเส้นนี้ยังมีรถสองแถวและรถเมล์วิ่งตลอดทาง ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้นค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ ค่อนข้างสะดวกทีเดียว เนื่องจากติดถนนอ่อนนุชฝั่งขาเข้า ที่สามารถเดินทางไปเส้นสุขุมวิทได้เพียวไม่กี่นาที ซึ่งถนนสุขุมวิทจะเชื่อมต่อกับหลากหลาย ย่านอย่าง เอกมัย ทองหล่อ พระราม 4 อโศกได้ อีกทั้งยังไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนได้ 2 เส้นทาง คือ ทางด่วนเฉลิมมหานครที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการประมาณ 4 กม. ที่สามารถไปออก พระราม9, รัชดา, รามอินทรา, แจ้งวัฒนะ ดาวคะนองได้ และอีกเส้นทางนึงคือทางด่วนฉลองรัชที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ซึ่งสามารถไปออกรามอินทรา, ลาดพร้าวได้ สำหรับย่านนี้จะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน ถ้าใครจะเดินทางไปทำงานอาจจะต้องเผื่อเวลาการเดินทางสักหน่อยนะคะ

มาดูการเดินทางจากโครงการไปยังทางด่วนฉลองรัชกันค่ะ สามารถเดินทางได้ 2 แบบสามารถตัดสินใจจากเวลาการเดินทางในแต่วันได้ค่ะ

  • เส้นทางที่ 1 คือ เลี้ยวซ้ายออกจากโครงการ > พอถึงแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก > เผื่อไปกลับรถบริเวณ BTS อ่อนนุช > หลังจากกลับรถให้ชิดซ้ายเผื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 50 > หลังจากเข้าซอยไปสักพักจะมีทางให้เลี้ยวขวาเข้าทางด่วนฉลองรัช มีระยะทางประมาณ 4 กม.
  • เส้นทางที่ 2 คือ เลี้ยวซ้ายออกจากโครงการ > พอถึงแยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า > ข้ามสะพานไปฝั่งพระขโนง > กลับรถใต้ BTS พระขโนง > หลังจากกลับรถมาให้ขับตรงไปตามทาง > เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าทางด่วนฉลองรัช มีระยะทางประมาณ 3.7 กม.

มาดูการเดินทางจากทางด่วนฉลองรัชไปยังโครงการ

  • เส้นทาง คือ ลงมาจากทางด่วน > เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 50 > ถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท > ขับรถตรงไปเผื่อกลับรถใต้สะพาน > หลังจากกลับรถเสร็จให้เตรียมชิดซ้าย > เข้าถนนอ่อนนุช > ขับตรงไปประมาณ 600 เมตร จะเห็นโครงการอยู่ท่างขวามือ มีระยะทางประมาณ 2.1 กม.

จุดขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ที่ต้องเข้าจากซอยสุขุมวิท 62

  • เส้นทางไปทางด่วน คือ เลี้ยวซ้ายออกจากโครงการ > พอถึงแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก > ขับตรงไปเรื่อยๆ > มีทางให้เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 62  > ขับตรงไปตามทางจะเจอจุดขึ้นทางด่วน มีระยะประมาณ 3.3 กม.
  • เส้นทางไปโครงการ คือ ลงมาจากทางด่วน > ขับตรงไปถึงแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท > ตรงไปกลับรถใต้สะพาน > หลังจากกลับรถเตรียมชิดซ้ายเข้าถนนอ่อนนุช มีระยะทางประมาณ 3.8 กม. ซึ่งวันนี้เราใช้เส้นทางนี้เผื่อไปโครงการกันค่ะ

เมื่อลงจากทางด่วนเฉลิมหานครแล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นถนนใหญ่กว้าง 3 เลน ด้านซ้ายมือเราจะผ่านโรงแรม Viva Garden ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ

ขับต่อมาจะเจอสำนักงานเขตพระโขนง สามารถมาติดต่อราชการได้ใกล้ๆค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆ ด้านซ้ายมือมี Community Mall อย่าง The Phyll สุขุมวิท ภายในมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงมีร้าน Tom n Toms Coffee ที่เปิดให้บริการ 24 ชม.ด้วยนะคะ

หลังจากนั้นจะเจอสถานี BTS อ่อนนุช ที่ฝั่งซ้ายมือมี Tesco Lotus อ่อนนุช เราสามารถเข้าไปช้อปปิ้งของใช้ก่อนเข้าบ้านได้ค่ะ 

ผ่าน Lotus มาให้เราชิดซ้ายเพื่อเตรียมกลับรถใต้สะพาน แต่ก่อนจะกลับรถฝั่งซ้ายมือจะมีร้านบุฟเฟ่ต์อย่าง Best Beef สำหรับคอเนื้อย่างเลยนะคะ น่ากินทีเดียว

หลังจากผ่านร้าน ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพานค่ะ

เมื่อกลับรถเรียบร้อยแล้วให้ชิดซ้าย สังเกตป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไปยังถนนศรีนครินทร์

เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 77 หรือที่เรารู้จักกันดีว่าถนนอ่อนนุช บริเวณนี้จะไม่ได้เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดนะคะ ต้องดูสัญญาณไฟจราจรด้วย

เมื่อเข้ามายังถนนอ่อนนุชแล้ว จะสังเกตเห็น Big C Extra ทางขวามือ ให้ตรงเข้าไปอีกประมาณ 450 เมตร จะเจอโครงการเราอยู่ฝั่งขวามือค่ะ

ก่อนถึงโครงการจะมีทางเข้าวัดใต้อยู่ทางซ้ายมือ มีสะพานลอยอยู่หน้าโครงการเลยนะคะ

ลอดใต้สะพานลอยมาแล้วจะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางขวา ซึ่งตรงนี้เป็นเส้นคู่สีเหลือง* เส้นทางการเดินทางใน Google Map จะแนะนำให้ไปกลับรถซึ่งค่อนข้างไกล แนะนำให้ไปกลับรถเข้าซอยถัดไปแล้วออกมาจะใกล้กว่าค่ะ

Tips: เส้นคู่สีเหลืองมีขีดทแยงตรงกลางหมายถึงเกาะเทียม มีผลเหมือนเกาะกลางถนน

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ รอบๆเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย มีทางฝั่งทิศตะวันตกที่จะโดน U delight บัง แต่ก็มีระยะห่างกันพอสมควรเพราะตัวอาคารกลับด้านเอาฝั่งที่เป็นส่วนกลางและพื้นที่ว่างวางเข้าหากัน ส่วนทางฝั่งทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่   ฝั่งตรงข้ามเป็นวัดซึ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่มีโครงการขึ้นมาบดบังวิวอย่างแน่นอนค่ะ

  • ทิศเหนือ – ติดกับถนนอ่อนนุช
  • ทิศใต้ – ติดกับแมนชั่น สูง 3 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ติดกับพื้นที่ว่างขนาดใหญ่
  • ทิศตะวันตก – ติดกับโครงการ U Delight @ อ่อนนุช สเตชั่น สูง 32 ชั้น

ทิศเหนือ ฝั่งตรงข้ามโครงการ บริเวณจะเป็นชุมชนเก่าแก่ที่อยู่ติดวัดใต้ ที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหารประปรายค่ะ

ทิศเหนือ ติดกับถนนอ่อนนุช มีสะพานลอยทำให้ข้ามถนนได้ปลอดภัย มองออกไปด้านหลังจะเห็นคอนโดสูงเยื้องโครงการหน่อยนั่นคือโครงการ The Base สุขุมวิท77 สูง 29, 38 ชั้นค่ะ

ทิศตะวันออก ติดกับถนนส่วนบุคคลค่ะ ด้านหน้าปากซอยมีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ ถ้าใครจะนั่งไป BTS อ่อนนุช จะมีค่าใช้จ่าย 20 บาทค่ะ

ทิศตะวันออก ถัดมาเป็นที่ดินว่างขนาดใหญ่ ถ้าใครซื้อห้องฝั่งนี้จะได้วิวเปิดโล่งทีเดียวค่ะ

ทิศใต้ ตัวโครงการติดกับแมนชั่นสูง 3 ชั้น

ทิศตะวันตก ติดกับโครงการ U Delight @ อ่อนนุช สเตชั่น สูง 32 ชั้น ที่มีลักษณะอาคารเป็นตัว L เหมือนกัน โดยจะวางคนละด้านกับตัวโครงการ ทำให้มีระยะห่างพอสมควรค่ะ

สรุปสถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C Extra  450 m
  • ตลาดอ่อนนุช  500 m
  • Habito Mall 750 m
  •  BTS อ่อนนุช  800 เมตร
  • โลตัสอ่อนนุช 900 เมตร
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2.3 km
  • โรงพยาบาลสุขุมวิท  2.3 km
  • Gateway เอกมัย  2.8 km
  • เมเจอร์เอกมัย  2.9 km

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Artemis สุขุมวิท 77 เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 673 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้มีร้านค้าเข้ามาต้องมารอลุ้นว่าจะเป็นอะไรค่ะ > < โครงการมาพร้อมที่จอดรถ 308 คันคิดเป็น 50 % รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งเท่าที่เราไปดูจะเหลือพื้นที่จอดรถเยอะทีเดียว เนื่องจากคนที่มาพักอาศัยส่วนใหญ่นิยมใช้บริการรถสาธารณะมากกว่า ภายในโครงการมี Facilities อยู่ที่ชั้น 6 ได้แก่ สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย นอกจากนี้ปีกฝั่งซ้ายมืโครงสร้างเปล่าที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ที่ชั้น 2-5 ทางโครงการออกแบบมาเพื่อให้ลม Flow ในโครงการมากยิ่งขึ้น

ด้านหน้าโครงการมีป้ายชื่อขนาดใหญ่เห็นชัดเจน มีทางเดินเท้าแยกกับทางเดินรถชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

ทางเข้าโครงการมีป้อมรปภ. 1 จุด พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ทางเข้าออกเป็นประตูไม้กั้นกระดก โดยใช้ระบบ Key Card Access แบบระยะใกล้ทางเข้า-ออก ซึ่งตำแหน่งอยู่ใกล้ถนนใหญ่เลยค่ะ

หน้าตาเครื่องสแกนบัตร ตรงทางเข้าโครงการค่ะ เมื่อขับรถมาก็สามารถเอาบัตรมาทาบสแกนได้เลยประตูไม้กระดกก็จะเปิดอัตโนมัติ นอกจากนั้นก็มีกล้อง CCTV คอยส่องความปลอดภัยรอบด้านบริเวณทางเข้า

เมื่อผ่านไม้กั้นไปแล้ว ตรงไปจะเป็นพื้นที่ Drop Off และทางขึ้นอาคารจอดรถของลูกบ้านค่ะ ส่วนผู้มาติดต่อให้เลี้ยวซ้ายมือ ไปจอดรถบริเวณด้านหลังโครงการค่ะ

เราไปดูลานจอดรถของผู้ติดต่อกันก่อนค่ะ เมื่อเลี้ยวซ้ายมาสองข้างทางเป็นสวนมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น ตรงไปด้านข้างมีรั้วสูง 4 เมตร เพื่อบดบังสายตาจากคนภายนอกค่ะ

เมื่อเลี้ยวมาแล้ว ฝั่งขวามือมีที่จอดรถ ที่สามารถจอดรได้ช่องละ 2-3 คันค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆทางด้านหลัง สามารถเลี้ยวเข้าที่จอดรถใต้อาคารได้ โดยจำกัดความสูงให้ไม่เกิน 2.20 เมตร แต่ถ้าใครหลังคาสูงต้องเอารถไปจอดด้านหลัง ที่เป็นพื้นที่กลางแจ้งนะคะ

เราจะแวะมาดูที่จอดรถใต้อาคารกันก่อน ภายในจะแบ่งเป็นช่องๆตามช่วงเสา สามารถจอดได้ช่องละ 2 คัน อีกทั้งยังมีห้องน้ำสาธารณะแยกชาย-หญิงมาให้ใช้อีกด้วยค่ะ

เดินตรงไปอีกนิดจะมีประตูที่เชื่อมกับทางเข้า Lobby ค่ะ

ถัดมาอีกนิดจะมีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์มาให้ที่บริเวณชั้น 1 ค่ะ

ด้านหลังโครงการเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง คนที่จอดโซนนี้ก็จะร้อนๆหน่อย พอมองขึ้นไปด้านบนจะเป็นอาคารจอดรถสูง 5 ชั้นค่ะ

หลังจากนั้นจะมีทางเดินรถ ที่สามารถวนมาที่บริเวณ Drop Off ได้ค่ะ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นรั้วต้นไม้สูง เพื่อบดบังจากโครงการข้างเคียงค่ะ

วนมาถึงด้านหน้า การออกแบบชั้นที่จอดรถจะมีแผงกั้นสีน้ำตาลฉลุลาย เพื่อช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอก แต่ก็ยังสามารถระบายอากาศได้ด้วย ฝั่งขวามือสุดด้านล่างจะเป็นทางขึ้นที่จอดรถของลูกบ้านค่ะ

ริมอาคารจะมี ทางลาดขึ้นไปยังลานจอดรถชั้นต่างๆ จำกัดความสูงไม่เกิน 2.1 เมตร ทางเดินรถเป็นแบบสวนทางกัน 2 เลยค่ะ

โครงการมี Shuttle Bus รับ-ส่งไปยัง BTS อ่อนนุช ทำให้สะดวกกับคนที่ใช้รถสาธารณะค่ะ

ส่วนอีกเป็นตำแหน่งของร้านค้าทั้งหมด 3 ยูนิต แต่ปัจจุบันยังเป็นพื้นที่ Sale Gallery อยู่ ด้านบนจะมีโครงสร้างเปล่าเพื่อให้ลม Flow ในโครงการมากยิ่งขึ้น

เรามาดูสวนหย่อมด้านหน้าโครงการกันค่ะ จะเป็นลานขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นหญ้า ล้อมรอบด้วยทางเดินเท้าที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องหิน ด้านข้างมีศาลพระภูมิอยู่ที่มุมสวน เข้ามาด้านในจะมีม้านั่งมาให้นั่งเล่น พร้อมต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ซึ่งจริงๆแล้วทางโครงการจัดให้เป็นพื้นที่ Smoking Area ของลูกบ้านค่ะ

อีกด้านนึงเป็นทางเดินเข้าโครงการ ที่มีพื้นที่สีเขียวขนาบตลอดทาง พร้อมหลังคาคลุมกันสาดโปร่งแสงด้านบน ทำให้เดินได้สบายๆ ไม่ร้อนและยังช่วยบังฝนได้นิดหน่อยค่ะ

มาที่พื้นที่ Drop off มีลักษณะเป็นวงเวียน ตรงกลางปลูกต้นลีลาวดี ช่วงออกดอกน่าจะสวยงามทีเดียว 

Lobby ของที่นี่จะเป็นแบบ Double Volume พร้อมผนังกระจก ทำให้ดูโปร่งโล่งทีเดียว รวมถึงมีกั้นสาดยื่นออกมา ที่สามารถบังแดดบังฝนได้ค่ะ

เริ่มที่แปลนชั้นที่ 1 เมื่อเข้า Lobby มาแล้วจะเจอกับส่วน Reception ที่เชื่อมไปยังพื้นที่ Lobby Lounge ฝั่งด้านขวามือ ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นตู้ Mailbox ของลูกบ้าน เดินตรงเข้าไปจะเป็นโถงลิฟต์ขึ้นด้านบน โดยจะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 224 : 1 ถือว่าค่อนข้างหนาแน่น ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องรอลิฟต์นานหน่อย ส่วนด้านหลังและรอบๆอาคารจะเป็นที่จอดรถค่ะ เราไปชมบรรยากาศส่วนกลางของจริงกันค่ะ

ส่วนของ Lobby ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีครีม เข้ามาจะเจอกับ Reception ก่อนซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ค่ะ ที่นั่งเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ สามารถนัดคุยงานหรือมานั่งรอรถได้แบบสบายๆ หรือใครที่ไม่อยากทำงานที่ห้องสามารถมานั่งทำงานใช้เป็น Co-Working Space แทนได้ ข้อดีของผนังกระจกสูง ทำให้รับแสงได้เต็มที่ ประหยัดค่าไฟได้ดีทีเดียว รวมยังได้นั่งดูวิวสวนได้อีกด้วยค่ะ

ส่วนของตู้ Mailbox จะรวมจดหมายของลูกบ้านทั้งหมดไว้ที่นี่ ทำให้สามารถแวะหยิบของได้ง่ายก่อนขึ้นห้องค่ะ

ถัดจากด้านในฝั่งซ้ายมือสุดจะเป็นห้องของนิติบุคคลของโครงการ ตรงกลางเป็นโถงลิฟต์ขึ้นห้องพักอาศัย ส่วนฝั่งขวามือสุดจะเป็นประตูที่เชื่อมต่อไปยังลานจอดรถด้านหลังได้ค่ะ

ด้านหลังมีตู้ 7-11 มาให้ ถือว่าทันสมัยทีเดียว ไว้ทดแทนร้านค้าไปก่อนนะคะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนบริการตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ เครื่องอบผ้าและตู้กดน้ำให้บริการ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ซักผ้าเองและไม่อยากเสียพื้นที่วางเครื่องซักผ้าให้ห้องพัก

กลับมาที่ส่วนโถงลิฟต์มีประตูกั้น ต้องสแกนบัตรถึงจะเข้าไปได้ ซึ่งลิฟต์ที่นี่จะเป็นแบบล็อคชั้น ทำให้ปลอดภัยสำหรับลูกบ้านมากทีเดียวค่ะ

ภายในโถงลิฟต์ชั้น 1 ค่อนข้างกว้างตกแต่งสวยงามด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนและลายไม้ ภายในมีโซฟาให้ 2 ตัว สามารถมานั่งรอลิฟต์บริเวณนี้ได้

ขึ้นมาดูแปลนที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ประกอบด้วย พื้นที่สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และห้องอาบน้ำให้ค่ะ ชั้นนี้จะเริ่มมีห้องพักอาศัยให้เห็นกันแล้วนะคะ แต่ทางโครงการมีประตูกั้นแยก เพื่อป้องกันไม่ให้คนจากชั้นอื่นเข้าไปรบกวนบริเวณห้องพักอาศัย สำหรับชั้นนี้ ห้องที่หันออกทางทิศเหนือจะได้วิวสระว่ายน้ำได้ชัดเจน พร้อมปลูกต้นไม้ไว้บดบังสายตาจากคนภายนอก เพื่อความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

เดินออกมาหน้าลิฟต์ชั้นที่ 6 ฝั่งซ้ายมือจะมีประตูกั้นจากห้องพักอาศัย เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นนี้ ถ้าใครจะเข้าไปต้องสแกนบัตรก่อนนะคะ

หันกลับมาอีกฝั่ง จะเป็นทางออกไปพื้นที่ส่วนกลางของโครงการค่ะ ซึ่งต้องสแกนบัตรก่อน ถึงจะใช้งานได้นะคะ ทำให้โครงการนี้มีความปลอดภัยสูงทีเดียว ซึ่งพื้นที่ส่วนกลาง จะให้บริการตั้งแต่ 6.00-22.00 น.

เมื่อออกจากประตูมาแล้ว มองตรงไปจะมีทางเดินริมสระ ที่ขนาบไปด้วยพื้นที่สีเขียว ให้บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว โดยเฉพาะฝั่งซ้ายใช้พื้นที่สีเขียวกั้นความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านในห้องชั้นนี้ค่ะ

ฝั่งขวามือเป็นสระว่ายน้ำ สามารถมองเห็นวิวเมืองทางทิศเหนือได้ ก่อนลงสระว่ายน้ำมีที่ล้างตัวให้ด้านขวามือ ซึ่งมีผนังซุ้มประตูกันช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวไม่ให้รู้สึกวาบหวิวเกินไปค่ะ

พื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ มีฝักบัวให้ 2 อันแบบ Rain Shower สามารถใช้งานพร้อมกันหลายคนได้ค่ะ

สระว่ายน้ำ มีขนาดกว้าง 22 x 8 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมแยกสระเด็กมาให้กว้าง 3 x 8 เมตร ลึก 30 ซม. สระว่ายน้ำออกแบบมาให้ว่ายน้ำจริงจังได้ รวมถึงสระว่ายน้ำนี้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากในเวลากลางวันมีเงาของตึกช่วยบังแดดทำให้ไม่ร้อนค่ะ

ด้านหลังสระว่ายน้ำมีห้องฟิตเนส และห้องน้ำทางด้านซ้ายมือ ตรงนี้ก็เปิดบริการถึง 4 ทุ่มเช่นกันค่ะ ใครที่ทำงานเลิกช้าหน่อย ก็ยังสามารถมาออกกำลังกายกันได้

เข้ามาภายในห้องฟิตเนส มีเครื่องเล่นให้ใช้งานทั้งหมด 7 ตัว ซึ่งจะเป็นผนังกระจก 1 ด้าน ถ้าใครใช้ลู่วิ่งก็สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำไปด้วยได้นะคะ

นอกจากนี้ยังมีมุม Weight Training มาให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งอีกฝั่งจะมีกระจกยาว ทำให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งที่นี่สามารถเปิดแอร์ใช้งานได้เองเลยนะคะ ใครออกคนสุดท้ายก็ช่วยกันปิดแอร์ด้วย เพื่อประหยัดไฟค่าส่วนกลางได้ค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลาง ออกแบบมาสวยงามทีเดียว มีอ่างล้างมือเป็นหินที่ดูแข็งแรงทีเดียว

เข้ามาข้างในมี Locker เก็บของมาให้ สามารถเก็บของใช้ส่วนตัวได้ ซึ่งต้องพกตัวล๊อคกุญแจมาเองนะคะ ทางโครงการจะไม่มีให้ค่ะ

ห้องน้ำจะแบ่งเป็นห้องสุขภัณฑ์ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 2 ห้อง ไม่มีห้อง Stream Room และซาวน่ามาให้นะคะ

ส่วนห้องอาบน้ำ มีทั้งฝักบัวแบบ Hand Shower และ Rain Shower ให้เลือกใช้กันได้ตามใจชอบเลยนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัย ตั้งแต่ชั้นที่ 7-21 ห้องพักอาศัยจำนวน 30 ยูนิต/ชั้น มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางอาคาร เนื่องจากอาคารมีขนาดใหญ่ ทำให้ห้องริมอาจจะต้องเดินไกลสักหน่อย แต่แลกกับความเป็นส่วนตัวที่สูงมากยิ่งขึ้น ทางเดินที่นี่เป็น Double Corridor ซึ่งจะมีห้องอยู่สองฝั่งแนวทางเดิน ส่วนช่องเปิดให้มาค่อนข้างเยอะ ทำให้แสงส่องเข้ามาทางเดินมาก ซึ่งช่วงกลางวันเราก็ไม่ต้องเปิดไฟ ทำให้ประหยัดค่าไฟได้มากทีเดียวค่ะ ห้องพักอาศัยชั้นนี้จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom เป็นหลักที่มีให้เลือกถึง 5 แบบ ส่วนห้อง 2 Bedrooms จะได้เป็นห้องมุมทางทิศเหนือและใต้ โดยจะเป็นห้องที่หันออกด้านนอกอาคาร ตัวห้องจะได้เปรียบเนื่องจากได้วิวทั้ง 2 ทิศทางค่ะ

สำหรับห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จะเป็นห้อง 2B-C ที่อยู่ชิดริมอาคารด้านนอก และมีบันไดหนีไฟกั้นแยก ทำให้ผนังไม่ติดกับห้องพักอาศัยอื่นๆเลยนะคะ ไม่ต้องห่วงเสียงจะเข้ามารบกวนภายในห้องเลยค่ะ

ต่อมาที่ชั้น 22 – 24 จะเริ่มเน้นห้อง 2 Bedrooms เป็นหลัก ทำให้ชั้นนี้มียูนิตที่ลดลง เหลือเพียง 23 ชั้น/ยูนิต ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ยังคงเป็นทางเดินแบบ Double corridor อยู่นะคะ ส่วนห้อง 1 Bedroom จะมีทั้งหมด 7 ยูนิต ซึ่งจะอยู่ติดกับโถงลิฟต์หรือบันได

ชั้น 25 – 27 จะมีห้อง 3 Bedrooms เพิ่มขึ้นมา ทำให้จำนวนยูนิตลดลงเหลือ 22 ยูนิต ซึ่งตำแหน่งของห้องจะอยู่ใกล้กับบันไดหนีไฟกลางของอาคาร ซึ่งจะได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการ และได้วิวทางทิศเหนือ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ของวัดและชุมชุนเก่าแก่ มั่นใจได้ว่าจะไม่มีโครงการเกิดขึ้นในระยะประชันชิดแน่นอนค่ะ

มาถึงสามชั้นบนสุดชั้น 28 – 30 จะเหมือนกับชั้น 25 – 27 แต่จะตัดห้องทางทิศเหนือออกไป 2 ห้อง โดยทางโครงการจะทำเป็นพื้นที่สวนแทน สามารถเดินออกมานั่งเล่นเดินเล่นได้ ส่งผลให้จำนวนยูนิตเหลือเพียง 20 ยูนิต/ชั้น ซึ่งเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดในโครงการแล้วนะคะ

โถงลิฟต์ของชั้นพักอาศัยกันบ้างค่ะ 

ตรงผนังเป็นหน้าต่างบานใหญ่ เข้ามุม ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามายังโถงได้เยอะ ส่งผลให้ทางเดินสว่างทีเดียวค่ะ

บริเวณโถงทางเดินกว้างประมาณ 1.20 เมตร ปลายทางเดินมีช่องแสงและหน้าต่าง ส่งผลให้ทางเดินสว่างทีเดียว ไม่ต้องใช้ไฟช่วยทำให้ประหยัดไฟค่าส่วนกลางได้เยอะทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดเพื่อให้อากาศภายในถ่ายเทได้อีกด้วย รวมถึงมีกล้อง CCTV ที่ดูแลความปลอดภัยให้กับลูกบ้านตลอด 24 ชม.ค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เรามาดูวิวต่างๆเมื่ออยู่บนอาคารกันบ้างค่ะ 

  • ทิศเหนือ – มองไปทางถนนอ่อนนุช ที่มีวัดใต้และชุมชนเก่า
  • ทิศใต้ – มองไปยังอ่อนนุชแมนชั่น และอาคารประเภทแนวราบด้านหลัง
  • ทิศตะวันออก – มองไปยังที่ดินว่างเปล่าขนาดใหญ่
  • ทิศตะวันตก – มองไปยังอาคาร U Delight @ อ่อนนุช สเตชั่น

ทิศเหนือ มุมมองจากชั้น 15 มองไปทางถนนอ่อนนุช จะเห็นชุมชนวัดใต้ และวิวเมืองฝั่งสุขุมวิทตอนต้น

 ทิศตะวันออก มุมมองจากชั้น 15 มองไปยังที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ ปัจจุบันเป็นพื้นที่สีเขียว มองเห็นชุมชนและโครงการลุมพินี

ทิศใต้ มุมมองจากชั้น 15 มองไปยังอ่อนนุชแมนชั่น เห็นหลังคาสีแดงของอ่อนนุชแมนชั่น มองเลยออกไปจะเห็นเมืองฝั่งบางนา ซึ่งโซนนี้ยังไม่มีตึกสูงบังวิวเลยค่ะ

ทิศตะวันตก มุมมองจากชั้น 15 มองเห็นโครงการ U Delight เนื่องจากอยู่ติดกันและสูงพอๆกันทำให้โดนอาคาร U Delight บังวิวไป แต่ก็ยังช่วยบังแดดทางทิศตะวันตกให้ด้วย ทำให้ห้องทางทิศตะวันตกของโครงการนี้ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Mailbox
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก ลึก 60 ซม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7-8 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS อ่อนนุช
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 224 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 308 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

ห้องพักของโครงการจะมีห้อง 1 Bedroom 2 Bedrooms และ 3 Bedrooms ทางโครงการจะเน้นห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก โดยจะมีทั้งหมด 506 ยูนิต มีให้เลือกถึง 5 แบบทีเดียว ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนะคะ ภายในโครงการขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว สุขภัณฑ์ เครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องปรับอากาศ โดยจะมีฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร เหมือนกันทุกห้องค่ะ สำหรับวันนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่าง 2 ห้องได้แก่ 2 Bedrooms ขนาด 53.85 ตร.ม. และ 1 Bedroom ขนาด 31.28 ตร.ม. เราไปดูกันเลยค่ะว่าภายในห้องจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง

เราจะขอเริ่มกันที่ห้อง 2 Bedrooms Type A ขนาด 53.85 ตร.ม. กันก่อน เป็นห้องหัวมุมที่หันออกทางทิศใต้ มีลักษณะเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ได้รับแสงเข้าห้องได้มาก ตัวแปลนแบ่งการใช้งานออกเป็นสัดส่วนชัดเจน เริ่มจากเปิดเข้ามาจะเจอส่วนครัวเปิด ครัวเปิดเหมาะกับคนที่เน้นทำอาหารเบาๆ ระบบครัวของที่นี่จะเป็นแบบดูดควันออกนอกโครงการ ข้อดีคือควันจะไม่หมุนเวียนภายในและระบายอากาศได้ดีกว่าค่ะ

ถัดไปเป็นส่วนนั่งเล่น ที่ติดกับพื้นที่ระเบียงสามารถเดินออกไปสูดอากาศได้ ทำให้พื้นที่ตรงนี้ได้รับแสงแดดจากภายนอกไปด้วย ซึ่งพื้นที่ระเบียงของห้องนี้เป็นแบบยื่นออกไปข้างนอก ทำให้เห็นวิวได้กว้างมากยิ่งขึ้นนะคะ > < ภายในห้องมีห้องน้ำ 2 จุด ซึ่งห้องนอนรองต้องออกมาใช้ร่วมกับแขกด้านนอก ส่วนห้องนอนหลักจะสามารถใช้ห้องน้ำจากข้างในได้เลย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวทีเดียว ห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดใหญ่สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมทั้งมีหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้อง ทำให้รับแสงและวิวได้เต็มที่ ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัว พ่อ แม่ ลูก มีพื้นที่ส่วนกลางกว้าง ชอบทำครัว และชอบชมวิวที่ระเบียงค่ะ

ประตูได้เป็นบานสูง ตั้งแต่พื้นถึงฝ้าประมาณ 2.5 เมตร

ส่วนธรณีประตูหน้าห้องไม่ได้มียกขอบขึ้นมา จบด้วยพื้นไม้ลามิเนต

เมื่อเปิดเข้ามาภายในห้อง จะพบพื้นที่ส่วนแรกคือห้องครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและพื้นที่ระเบียง ทำให้แสงส่องเข้ามาถึงด้านในได้เต็มที่ มีระยะพื้นถึงฝ้า 2.50 เมตร พื้นภายในเป็นพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. มีคุณสมบัติผิวหน้าสามารถทนทานต่อรอยขูดขีดและแรงกดกระแทกได้ดี ภายในห้องจัดมาให้แบบ Fully Fitted สิ่งที่ได้คือชุดครัว สุขภัณฑ์ห้องน้ำ เครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องปรับอากาศขนาด จำนวน 3 เครื่อง

สำหรับห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด จึงเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ การระบายอากาศทางโครงการมีเครื่องดูดอากาศมาให้ ซึ่งจะดูดออกนอกอาคาร ทำให้กลิ่นไม่วนเวียนอยู่ภายในอาคารนะคะ ทางโครงการจะให้ชุด Built-in ครัวมาแบบนี้เลย แต่จะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ค่ะ

พื้นที่ครัวเป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารไม่จริงจังมากนัก ส่วนพื้นครัวเป็นลามิเนตจะต้องระวังเรื่องความชื้นจากการใช้งานหน่อย

ชุด Built in ครัวที่ให้มามี 3 ระดับ ด้านบนสุดเป็นตู้เก็บของ มีหลายช่อง แบ่งเก็บของได้ค่อนข้างหลากหลาย มีช่องวางไมโครเวฟมาให้ด้วย พร้อมติดตั้ง Hob & Hood ยี่ห้อ Hafele มาให้อีกด้วย วัสดุหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตค่ะ

ตู้ด้านบนของเคาน์เตอร์ แถม Soft Close มาให้เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เกิดเสียง และลดแรงกระแทกก่อนที่หน้าบานจะปิดสนิท

บริเวณเคาน์เตอร์ ทางโครงการจะให้วัสดุ Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ รวมถึงยังได้ Backsplash เป็นกระเบื้อง ซึ่งทำความสะอาดได้ง่ายและป้องกันคราบสกปรกจากเศษอาหารได้ ระหว่างซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้า มีพื้นที่กว้างเตรียมอาหารได้สบายๆ

ทางโครงการให้ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ขนาด 40 x 40 ซม. พร้อมก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้ ส่วนพื้นที่ประกอบอาหาร จะให้ชุดเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ Hafele ค่ะ

ชุดครัวด้านล่างฝั่งซ้ายมือจะเป็นตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน ซึ่งสามารถวางของขนาดใหญ่ได้ ตรงกลางมีช่องวางให้ใส่ของได้ ส่วนฝั่งขวามือสุดด้านบนจะมีลิ้นชัก ที่สามารถใส่อุปกรณ์ช้อนส้อมได้ ทำให้หยิบจับใช้งานได้ง่ายค่ะ

ด้านข้างชุด Built in มีพื้นที่เหลือประมาณ 80 ซม.สามารถวางตู้เย็นขนาด 11.7 คิว ตามห้องตัวอย่างได้ แต่ทางโครงการจะไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามานะคะ ตรงข้ามจะมีพื้นที่ว่างขนาด 1.21 x 17 ซม. สามารถนำตู้เก็บของมาไว้ได้เหมือนห้องตัวอย่าง หรือจะทำเป็นชุด Built in ขนาดพอดีกับผนังก็ได้ค่ะ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวงค่ะ

ผนังด้านหน้าห้องนอนหลัก มีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่งได้สบายๆ

หันกลับมาฝั่งตรงข้ามจะมีทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งด้านหน้าห้องน้ำสามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้าได้ ขนาดประมาณ 96 x 17 ซม. เพื่อไม่ให้กลิ่นเข้าไปรบกวนภายในห้องค่ะ

ภายในห้องน้ำมีขนาดกำลังพอดี ฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ของอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ พื้นเป็นกระเบื้อง polished ceramic tile ขนาด 30 x 30 ซม. ผนังเป็น ceramic tile  ขนาด 30 x 60 ซม. ทำความสะอาดง่ายและสวยงามทีเดียว สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ทั้งหมดค่ะ รวมถึงห้องนี้จะได้หน้าต่างเพื่อระบายความชื้นออกด้านนอกได้

พื้นที่ภายในห้องน้ำมีขนาดพอดีการใช้งาน ไม่ใหญ่มากนัก ประตูทางเข้าห้องน้ำมีขอบสูงขึ้นประมาณ 2 ซม. โดยจะได้ตามห้องตัวอย่างนี้ทั้งหมดเลยค่ะ

บริเวณเหนืออ่างล้างมือ มีกระจกเงาที่ชั้นล่างมีช่องสามารถวางของได้ สามารถวางของที่ใช้บ่อยๆได้บริเวณนี้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หยิบจับได้ง่ายค่ะ

อ่างล้างหน้าเซรามิกของ Cotto ขนาด 50 x 30 ซม. ด้านบนสามารถวางของได้ ใต้อ่างมีช่องเก็บของ สามารถเก็บอุปกรณ์ห้องน้ำได้นิดหน่อย หน้าบานตู้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ตัวอ่างยกสูงขึ้นจากพื้น เพื่อไม่ให้โดนน้ำและง่ายต่อการทำความสะอาด

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard มาพร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระสแตนเลส ซึ่งจะติดที่ผนังด้านหลังค่ะ

สายชำระสแตนเลสจับถนัดมือ มาพร้อมกับที่ใส่กระดาษชำระแบบแกนเสียบ พร้อมที่กั้นน้ำมาให้ ไม่ต้องกลัวเปียกเลยนะคะ

ส่วนอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Hand Shower มาพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นเลยนะคะ

ฝักบัวแบบ Hand Shower ของ American Standard ขนาดใหญ่อาบได้สะใจทีเดียว สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลายเลย

พื้นที่อาบน้ำไม่ได้ก่อขอบมาให้ มีขนาดประมาณ 75 x 75 ซม. เป็นระยะที่หมุนตัวได้พอดี  แต่พื้นมีการทำลาดเอียง Slope ให้ลงไปที่ท่อระบายน้ำให้เรียบร้อย

ห้องน้ำนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ ทำให้ระบายความชื้นออกด้านนอกได้ค่ะ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี บริเวณหน้าอ่างมีทำไฟซ่อนเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี Downlight 1 ดวง และพัดลมดูดอากาศ 1 จุด

กลับออกมาพื้นที่ห้องนั่งเล่น จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนหลักและห้องนอนรอง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางก่อนแจกจ่ายไปยังห้องอื่นๆ โดยจะติดกับพื้นที่ระเบียง สามารถออกไปสูดอากาศข้างนอกได้ รวมถึงทำให้ห้องนี้ได้รับแสงและระบายอากาศได้เต็มที่ค่ะ

เมื่อวางชุดโซฟาและโต๊ะวางทีวีไปแล้วก็ยังเหลือพื้นที่พอสมควร สามารถวางโต๊ะขนาดเล็กได้ สำหรับคนนั่งดูทีวีมีระยะประมาณ 1.75 ม. ซึ่งขนาดทีวีที่เหมาะกับระยะสายตาอยู่ที่ประมาณ 40″- 42″ จัดว่าวางทีวีขนาดกลางได้

บริเวณที่วางชุดทีวี ทางโครงการได้เตรียมช่องเสียบสัญญาณทีวีมาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามวางโซฟาสำหรับ 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะข้างโซฟา 1 ตัวขนาดไม่ใหญ่มาก

บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ ซึ่งบริเวณนี้จะมีเจาะช่องวางไฟมาให้อีกด้วย

ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบบานอลูมิเนียมสีดำแบบ 2 ตอน เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง ที่สามารถป้องกันแสง UV ได้ พื้นที่ระเบียงสามารถใช้งานได้เต็มที่ เนื่องจากโครงการได้ทำพื้นที่วาง Condensing Unit ไว้ด้านข้าง ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรมารบกวนสายตาค่ะ

พื้นที่ระเบียงภายนอกมีขนาด 2.40 x 90 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ด้านนอกมีขนาดถือว่าเหมาะสมใช้งานได้จริง พอออกมายืนหรือตากเสื้อผ้าได้นิดหน่อย ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็กสีดำสูงจากพื้น 1.1 เมตร

ฝั่งซ้ายมือแขวน Condensing Unit มาให้ 2 ตัวและวางบนพื้น 1 ตัว ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่บังกระจกบานเลื่อน ทำให้สามารถเห็นวิวได้เต็มที่

มองกลับมาภายในห้อง จะเป็นพื้นกว้างโล่งที่เชื่อมต่อไปถึงห้องครัวเปิดค่ะ

กลับเข้ามาบริเวณห้องนั่งเล่น ด้านข้างที่วางทีวีจะมีทางเข้าห้องนอนหลักค่ะ

ภายในห้องตัวอย่างจะใส่เตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมด้านข้างมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ ข้อดีของห้องนอนจะอยู่ติดริมหน้าต่าง ทำให้สามารถระบายอากาศและรับแสงได้ดี

หน้าต่างของโครงการนี้ เป็นแบบบานเลื่อนไปมา วัสดุได้เป็นขอบอลูมิเนียมพ่นสีดำ พร้อมกระจะสีเขียวตัดแสง ทำให้ช่วยลดความร้อนภายในห้องได้ดีค่ะ

ตรงข้ามเตียงสามารถวางทีวีแบบแขวนได้ ซึ่งทางโครงการได้เตรียมช่องเสียบสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อย ด้านบนทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ด้วยนะคะ

บริเวณปลายเตียงหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่เหลือประมาณ 54 ซม. คือพอที่จะเดินไปเดินมาได้สะดวก ซึ่งขอแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานค่ะ

หันกลับมาอีกฝั่ง จะเป็นทางเข้าห้องน้ำของห้องนอนหลัก ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะไม่ต้องไปใช้รวมกับคนอื่นค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายมือทางโครงการได้ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สวยงามทีเดียว เราสามารถดูเป็นตัวอย่างได้ของจริงจะไม่มีมาให้นะคะ

ส่วนพื้นที่ด้านข้างริมหน้าต่างเหลือประมาณ 35 ซม. ไว้สำหรับเลื่อนผ้าม่านได้ ซึ่งของจริงจะได้เป็นห้องเปล่า สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบ ส่วนพื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าจะมีขนาดประมาณ 1.16 เมตร ทำให้เปลี่ยนเสื้อผ้าได้สบายๆเลยนะคะ

บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ ซึ่งบริเวณนี้จะมีเจาะช่องวางไฟมาให้ด้วยเหมือนกับห้องนั่งเล่นเลยนะคะ

ภายในห้องน้ำมีขนาดกำลังพอดี ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเข้าไป มีการแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งเป็นสัดส่วนชันเจน โดยเรียงส่วนอ่างล้างมือ ส่วนโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ วัสดุเหมือนกับห้องเมื่อกี้เลย สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ทั้งหมดค่ะ

ประตูทางเข้าห้องน้ำมีขอบลดระดับลงมาประมาณ 2 ซม.

พื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นแนวยาวตามทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของห้อง พื้นที่หน้าโถสุขภัณฑ์กว้างประมาณ 70 ซม. มีระยะการใช้งานกว้างพอสมควร พื้นที่อาบน้ำให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกไปด้านนอก โดยจะได้ตามห้องตัวอย่างนี้ทั้งหมดเลย

ชุดสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องที่แล้ว มีตำแหน่งสายชำระติดที่ผนังด้านหลัง

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ที่ป้องกันไม่ให้น้ำออกมาเลอะส่วนอื่น พร้อมราวจับสแตนเลสที่แขวนผ้าเช็ดตัวด้านหน้าได้

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.93 x 1.10 เมตร ประตูทางเข้ากว้าง มีขอบยกขึ้นมาประมาณ 5 ซม. มีจุดระบายน้ำอยู่ที่มุมด้านใน ทำให้น้ำไม่ขังในห้องนะคะ

ทางโครงการมีฝักบัวแบบ Hand Shower ของ American Standard มาให้ขนาดใหญ่อาบได้สะใจทีเดียว สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลายเลย ด้านข้างมีช่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำได้ เป็นตำแหน่งที่หยิบจับได้ง่าย

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี บริเวณหน้าอ่างมีทำไฟซ่อนเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี Downlight 2 ดวง และพัดลมดูดอากาศ 1 จุด

ออกมาด้านนอกฝั่งตรงข้าม จะมีประตูทางเข้าห้องนอนรองค่ะ

ภายในห้องนอนรองสามารถใส่เตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ แต่จะมีพื้นที่เหลือรอบเตียงไม่มากนัก รวมถึงห้องนี้ยังชิดริมหน้าต่างเหมือนกับห้องที่แล้วด้วยนะ ทำให้ได้รับแสงและวิวได้เต็มที่ อยู่แล้วไม่อึดอัดค่ะ

หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว จะมีพื้นที่หน้าตู้ประมาณ 1.58 เมตร เป็นระยะที่เปลี่ยนเสื้อผ้าได้สบายๆ เลยนะคะ

หันกลับมาบริเวณเตียง ด้านข้างจะเหลือพื้นที่กว้างสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยนะ รวมถึงห้องนี้ทางโครงการจะให้เครื่องปรับอากาศมาด้วย ซึ่งจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับห้องตัวอย่างเลยนะคะ

บริเวณปลายเตียงหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่ระยะปลายเตียงเหลือประมาณ 34 ซม. สามารถเดินใช้งานได้พอดีนะคะ สำหรับฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง จะมีพื้นที่กว้างประมาณ 50 ซม. โดยสำหรับของจริงทางโครงการจะไม่ให้เฟอร์นิเจอร์มา ดังนั้น เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้งานได้นะคะ

ภายในห้องสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดกลางชิดริมกำแพงได้ ซึ่งจะใช้เป็นแบบบานเปิด-ปิด หรือบานเลื่อนก็ได้ เพราะหน้าต่างมีระยะกว้างพอสมควนค่ะ ของจริงผนังห้องได้เป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ ซึ่งบริเวณนี้จะมีเจาะช่องวางไฟมาให้ด้วยเหมือนกับห้องนั่งเล่นเลยนะคะ

แบบที่ 2 ห้อง 1 Bedroom Type B ขนาด 31.28 ตารางเมตร เปิดเข้ามาจะเจอส่วนครัวเปิดเหมือนกับห้องที่แล้ว แต่จะมีขนาดเล็กกว่า ซึ่งเรามองแล้วว่าไม่เหมาะกั้นเป็นครัวปิด เพราะจะทำให้พื้นที่ใช้งานลดลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับห้องนี้จะมีพื้นที่ด้านหลังประตูเหลือพอสมควร สามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้าได้ ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่โล่งกว้าง วางโซฟาและโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่งได้ รวมถึงยังติดกับพื้นที่ระเบียงทำให้ได้รับแสงเต็มที่ และสามารถเดินออกไปชมวิวหรือสูดอากาศได้ง่าย พื้นที่ระเบียงสามารถใช้งานได้จริง

ส่วนห้องน้ำที่นี่จะเข้าจากห้องนั่งเล่น ทำให้เวลาแขกมาไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน ตัวห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกออกจากกันชัดเจน โครงการมีเครื่องทำน้ำร้อนให้ด้วย แต่เนื่องจากห้องอยู่ชิดด้านในทำให้ต้องพึ่งเครื่องดูดอากาศ เพื่อระบายความชื้นออกด้านนอกค่ะ ถัดมาที่ห้องนอนจะได้เป็นแบบชิดหน้าต่าง ทำให้ได้รับแสงและวิวได้เต็มที่ สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ แต่อาจจะมีพื้นที่รอบเตียงกว้างไม่มากนัก ห้องนี้เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน การวางห้องน้ำในตำแหน่งนี้จะสามารถใช้งานได้สะดวก

เมื่อเปิดเข้ามาภายในห้อง จะพบพื้นที่ส่วนแรกคือห้องครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและพื้นที่ระเบียงเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ มีระยะพื้นถึงฝ้า 2.50 เมตร พื้นภายในเป็นพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. ค่ะ ขายแบบ Fully Fitted เช่นเดียวกัน แต่จะได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว เนื่องจากห้องมีขนาดเล็กกว่าค่ะ

ชุดครัวคล้ายกับห้องที่แล้ว แต่มีขนาดเล็กกว่ากว้างประมาณ 1.52 เมตร เป็นขนาดกะทัดรัด เหมาะใช้งานสำหรับ 1-2 คนค่ะ

ชุด Built in ครัวที่ให้มามี 3 ระดับเหมือนกับห้องที่แล้ว มีช่องหลากหลายให้ใส่ของ พร้อมช่องที่สามารถวางไมโครเวฟได้ ตัวโครงการติดตั้ง Hob & Hood ยี่ห้อ Hafele มาให้อีกด้วย วัสดุหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตค่ะ

บริเวณเคาน์เตอร์ ทางโครงการจะให้วัสดุ Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ รวมถึงยังได้ Backsplash เป็นกระเบื้อง ซึ่งทำความสะอาดได้ง่ายและป้องกันคราบสกปรกจากเศษอาหารได้ ระหว่างซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้า มีพื้นที่พอเตรียมอาหารได้สบายๆ

ชุดครัวด้านล่างฝั่งขวามือจะเป็นตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน ซึ่งสามารถวางของขนาดใหญ่ได้ ส่วนฝั่งซ้ายมือสุดด้านบนจะมีลิ้นชัก ที่สามารถใส่อุปกรณ์ช้อนส้อมได้ ทำให้หยิบจับใช้งานได้ง่ายค่ะ

พื้นที่ครัวเป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารไม่จริงจังมากนัก ส่วนพื้นครัวเป็นลามิเนตจะต้องระวังเรื่องความชื้นจากการใช้งานหน่อย

บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ ซึ่งบริเวณนี้จะมีเจาะช่องวางไฟมาให้อีกด้วย

หันกลับไปบริเวณหน้าประตู ด้านหลังจะมีพื้นที่เหลือสามารถวางตู้เก็บรองเท้าได้ มีขนาดประมาณ 0.22 x 1.34 เมตรค่ะ

มาที่ห้องนั่งเล่น จะอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียง สามารถออกไปสูดอากาศข้างนอกได้ง่าย รวมถึงทำให้ห้องนี้ได้รับแสงและระบายอากาศได้เต็มที่ค่ะ

เมื่อวางชุดโซฟาและโต๊ะวางทีวีไปแล้วก็ยังเหลือพื้นที่พอสมควร สามารถวางโต๊ะขนาดเล็กได้ สำหรับคนนั่งดูทีวีมีระยะประมาณ 1.60 ม. ซึ่งขนาดทีวีที่เหมาะกับระยะสายตาอยู่ที่ประมาณ 40″- 42″ จัดว่าวางทีวีขนาดกลางได้

วางโซฟาสำหรับ 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะข้างโซฟา 1 ตัวขนาดเล็กได้

บริเวณที่วางชุดทีวี ทางโครงการได้เตรียมช่องเสียบสัญญาณทีวีมาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้

ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบบานอลูมิเนียมสีดำแบบ 2 ตอน เป็นกระจกสีเขียวตัดแสงเช่นเดียวกับห้องที่แล้ว

พื้นที่ระเบียงภายนอกมีขนาด 1.50 x 1.20 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ด้านนอกมีขนาดถือกว้าง สามารถวางโต๊ะเก้าอี้เล็กๆได้ ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็กสีดำสูงจากพื้น 1.1 เมตร

ฝั่งขวามีทางโครงการได้แขวน Condensing Unit มาให้เรียบร้อย ด้านล่างเหลือพื้นที่ว่างสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งทางโครงการได้มีปลั๊กไฟและก๊อกน้ำมาให้อีกด้วยค่ะ

ไฟระเบียงจะติดไว้ด้านบน รวมถึงทางโครงการยังมีช่องที่ระบายอากาศจากตัว Hob & Hood ของชุดครัวอีกด้วย เพื่อให้อากาศถ่ายเทออกด้านนอกอาคารค่ะ

ด้านข้างพื้นที่ครัวมีทางเข้าห้องน้ำและห้องนอน เราจะขอแวะไปดูบรรยากาศภายในห้องน้ำกันก่อนค่ะ

ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องที่แล้วเลย มีการแบ่งส่วนเปียกและแห้งเป็นสัดส่วนชันเจน พื้นเป็นกระเบื้อง polished ceramic tile ขนาด 30 x 30 ซม. ผนังเป็น ceramic tile ขนาด 30 x 60 ซม. ทำความสะอาดง่ายและสวยงามทีเดียว สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ทั้งหมดค่ะ

พื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นแนวยาวตามทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของห้อง พื้นที่หน้าโถสุขภัณฑ์กว้างประมาณ 70 ซม. มีระยะการใช้งานกว้างพอสมควร พื้นที่อาบน้ำให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกไปด้านนอก โดยจะได้ตามห้องตัวอย่างนี้ทั้งหมดเลยค่ะ

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ที่ป้องกันไม่ให้น้ำออกมาเลอะส่วนอื่น พร้อมราวจับสแตนเลสที่แขวนผ้าเช็ดตัวด้านหน้าได้

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 93 x 1.10 เมตร ประตูทางเข้ากว้าง มีขอบยกขึ้นมาประมาณ 5 ซม. มีจุดระบายน้ำอยู่ที่มุมด้านใน ทำให้น้ำไม่ขังในห้องนะคะ

ทางโครงการมีฝักบัวแบบ Hand Shower ของ American Standard มาให้ขนาดใหญ่อาบได้สะใจทีเดียว สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลายเลย ด้านข้างมีช่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำได้ เป็นตำแหน่งที่หยิบจับได้ง่าย

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี บริเวณหน้าอ่างมีทำไฟซ่อนเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี Downlight 2 ดวง และพัดลมดูดอากาศ 1 จุด

ภายในห้องนอนสามารวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว จะมีพื้นที่เหลือรอบเตียงไม่มากนัก ถ้าใครชอบพื้นที่รอบเตียงเยอะ อาจจะต้องลดขนาดตู้เสื้อผ้าลงนะคะ ตำแหน่งห้องนอนชิดริมหน้าต่าง ทำให้ได้รับแสงและวิวได้เต็มที่

บริเวณปลายเตียงหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่ระยะปลายเตียงเหลือประมาณ 48 ซม. สามารถเดินใช้งานได้พอดีนะคะ ซึ่งถ้าใครชอบดูทีวีขอแนะนำให้ติดเป็นทีวีแบบแขวนค่ะ สำหรับฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง จะมีพื้นที่กว้างประมาณ 30 ซม. โดยสำหรับของจริงทางโครงการจะไม่ให้เฟอร์นิเจอร์มา ดังนั้น เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้งานได้นะคะ

ขนาดตู้เสื้อผ้าที่เหมาะกับพื้นที่ห้องนั้นจะเป็นตู้ขนาดกลาง ซึ่งเราสามารถดูเป็นไอเดียในการจัดวางตำแหน่งต่างๆของห้องได้

พื้นที่หน้าตู้หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะตัวเล็กๆ ไว้นั่งทำงานได้ด้วยนะคะ

บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ ซึ่งบริเวณนี้จะมีเจาะช่องวางไฟมาให้ด้วยเหมือนกับห้องนั่งเล่นเลยนะคะ

สำหรับสวิตช์ในห้องยี่ห้อ Schneider จะได้แบบนี้เลยนะคะ

มาถึงห้องแบบสุดท้ายเป็นห้อง 3 Bedrooms ขนาด 77.74 ตารางเมตร ตำแหน่งห้องหันหน้าออกไปทางทิศเหนือ ลักษณะห้องหน้ากว้างภายในมีทั้งหมด  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จัดพื้นที่ใช้งานค่อนข้างลงตัวทีเดียว เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วน Pre-Function ก่อน เมื่อเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกับระเบียงมีพื้นที่ระเบียงขนาดพอดีใช้งาน ส่วนพื้นที่ครัวได้เป็นเคาน์เตอร์ยาวมีพื้นที่สามารถวาง Island เพิ่มตรงกลางได้ ด้านข้างมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะกินข้าวสำหรับ 4 ที่นั่งได้ ห้องน้ำมี 2 ห้อง ซึ่งห้องนอนรองจะต้องใช้ร่วมกันกับแขกที่มาบ้าน ส่วนห้องนอนหลักจะมีความเป็นส่วนตัวสูง มาพร้อมห้องน้ำในตัว ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่กว้าง สามารวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ ส่วนห้องนอนรองจะชิดริมหน้าต่าง ทำให้ได้รับแสงและวิวเต็มที ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัว พ่อ แม่ ลูก 2 คน ชอบพื้นที่ใช้งานที่กว้างเป็นสัดส่วนค่ะ

**รายละเอียดต่างๆเก็บข้อมูลจากการสอบถามเจ้าของห้อง และ เจ้าหน้าที่ขาย หากผิดพลาดหรือคาดเคลื่อนบอกกล่าวกันได้นะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 April 2019

  • 1 Bedroom Type D ชั้น 6 ห้อง 618 ขนาด 30.07 ตร.ม. ราคา 2.91 ล้านบาท หรือ 96,942 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Type c ชั้น 10 ห้อง 1017 ขนาด 45.26 ตร.ม. ราคา 4.24 ล้านบาท หรือ 93,848 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Type A ชั้น 26 ห้อง 2620 ขนาด 77.74 ตร.ม. ราคา 8.01 ล้านบาท หรือ 103,075 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS อ่อนนุช 
  • 1 Bedroom จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท  
  • 2 Bedrooms จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน จ่ายล่วงหน้า 1 ปี

โปรโมชั่นพิเศษ !!! สำหรับรายการ Think Update เพียง 10 ยูนิต เท่านั้น หมดเขต 31 พฤษภาคม 2562

  • ส่วนลดเงินสด 200,000 บาท
  • ฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน 4 รายการ
  • ฟรี Wallpapers

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล –โครงการ Artemis สุขุมวิท 77 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 77 หรือที่เรารู้จักกันดีกว่าถนนอ่อนนุช ห่างจากรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชประมาณ 800 เมตร ทำเลนี้เต็มไปด้วยที่พักอาศัยสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และบริการสาธารณูปโภคอื่นๆเช่น  สำนักงานเขต, สำนักงานประปา, สถานีตำรวจ, สถานีดับเพลิง รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล  ถือว่ามีครบสำหรับความต้องการในการอยู่อาศัย ใกล้ๆกับโครงการจะมี Hypermarket และ Community Mall หรือห้างสรรพสินค้าใกล้ เช่น Big C Extra, Habito Mall, People Park, Tesco Lotus, Century The Movie Plaza 2 ถือว่าทำเลนี้มีความอุดมสมบูรณ์ครบครันทีเดียว

การเดินทางโดยใช้รถ – ถือว่าสะดวกเนื่องจากอยู่ติดถนนอ่อนนุชขาเข้าสุขุมวิท ถ้าใครทำงานในเมืองก็เดินทางสะดวกผ่านทางถนนสุขุมวิท แต่ก็อาจจะต้องเผื่อเวลาเล็กน้อยเนื่องจากการจราจรหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน โครงการใกล้ทางด่วน 2 เส้นทาง คือ ทางด่วนเฉลิมมหานครที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 62  ที่เข้าเมืองได้ง่าย และทางด่วนฉลองรัชที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 55 สามารถไปยังรามอินทรา, ลาดพร้าวได้ โครงการมีที่จอดรถประมาณ 305 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มากลางๆ เนื่องจากใกล้รถไฟฟ้า มี Shuttle Bus ให้บริการอยู่แล้ว

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ก็ถือว่าสะดวกเช่นกัน ตัวโครงการห่าง BTS อ่อนนุช 800 เมตร แม้จะไม่ใช้ระยะที่เดินสบาย แต่โครงการมี Shuttle Bus คอยให้บริการลูกบ้านอยู่ค่ะ หรือถ้าใครไม่อยากรอก็สามารถนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือ Taxi หน้าโครงการได้เลย รวมถีงยังมีรถสองแถวและรถเมล์วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน

การออกแบบโครงการ – ตัวโครงการลักษณะเป็นรูปตัว L โดยเน้นโทนสีเรียบง่าย ขาว เทา โครงการเป็นตึกสูง 30 ชั้น ภายในมีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ ทำให้ บรรยากาศภายในโครงการค่อนข้างร่มรื่นทีเดียว พื้นที่ส่วนกลางตามมาตรฐาน ไม่เยอะมากแต่ก็เพียงพอกับการใช้งาน มีที่จอดรถรอบโครงการทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ทำให้รถหลังคาสูงสามารถใช้งานได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นบริเวณ Facade ชั้นจอดรถ ที่ทำให้ตัวอาคารดูดีมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอกได้ค่ะ ส่วนแปลนอาคารออกแบบมาค่อนข้างดี โดยจะวางโถงลิฟต์ไว้ตรงกลางทำให้ ห้องริมเดินมาใช้งานได้สะดวก รวมถึงมีช่องแสงภายในชั้นค่อนข้างมาก ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟช่วย ซึ่งเป็นการประหยัดค่าไฟของส่วนกลางได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ชั้นที่เป็นส่วนกลางจะมีประตูกั้นเรียบร้อย เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในชั้นนี้ แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตประมาณ 20-30 ยูนิต ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่มากไปไม่น้อยเกินไปค่ะ

การออกแบบห้องพักอาศัย – มีห้องพักอาศัยให้เลือกหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedrooms มีขนาดตั้งแต่ 27.25-77.74 ตร.ม. ส่วนที่เน้นมากที่สุดจะเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีให้เลือกถึง 5 แบบและมีจำนวนถึง 506 ยูนิต เกินครึ่งของยูนิตรวมทั้งโครงการ ห้องที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้แสงเข้าถึงทุกฟังก์ชั่นได้เต็มที่ ห้องมีการแบ่งสัดส่วนได้ดี แต่ห้องครัวที่นี่จะเป็นครัวเปิดทั้งหมด เหมาะกับการทำอาหารไม่จริงจัง พื้นครัวได้เป็นพื้นลามิเนตการใช้งานต้องระวังความชื้น พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างสามารถใช้งานได้จริง อย่างห้อง 1 Bedroom จะมีพื้นที่เหลือสามารถวางเครื่องซักผ้าใต้ Condensing Unit ได้ ส่วนห้อง 2 Bedrooms จะได้ห้องน้ำ 1 ห้องชิดริมหน้าต่าง ทำให้ระบายอากาศออกด้านนอกได้ดี

วัสดุ – โครงการขายแบบ Fully Fitted วัสดุภายในโครงการให้มาตามมาตรฐาน โดยจะให้ชุดครัว เครื่องปรับอากาศ และ ชุดสุขภัณฑ์พร้อมเครื่องทำความร้อน พื้นจะให้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาวปกติ พื้นที่ครัวจะได้ Top หินสังเคราะห์ Hob&Hood ของ Hafele หน้าบานตู้เป็นลามิเนตพร้อม soft-close พื้นครัวเป็นลามิเนต ส่วนห้องน้ำได้สุขภัณฑ์เป็น American Standard ทั้งหมด พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิก พร้อมไฟซ่อนบริเวณอ่างล้างหน้า หน้าต่างของโครงการจะเป็นบานเลื่อนทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้กระจกสีเขียวตัดแสง ที่สามารถป้องกัน UV ได้

สาธารณูปโภค – ระบบรักษาความปลอดภัยได้ตามมาตรฐาน มีรปภ.ดูแลตลอด 24 ชม. พร้อม CCTV รอบโครงการ ทางเข้าออกรถยนต์มีระบบ Access Card แบบระยะใกล้ รวมถึงลิฟต์ที่นี่เป็นแบบล็อคชั้น ภายในโครงการมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 224 :  1 ซึ่งถือว่าหนาแน่นอาจจะทำให้ต้องรอนาน พื้นที่ส่วนกลางมีที่ชั้น 1 เป็น Lobby Lounge พร้อมสวนหย่อมกว้าง สามารถพาเด็กมาวิ่งเล่นได้ ถัดมาที่ชั้น 6 จะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องอาบน้ำ ที่ให้มาพอดีใช้เทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 100,000 บาท/ตร.ม.,  10 April 2019

  • ทำเล 7.75/10 – อยู่ช่วงต้นถนนอ่อนนุช ขาเข้าสุขุมวิทใกล้ Big C เป็นย่านชุมชนและ หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ถนนสุขุมวิท มีทางลัดและทางด่วนอยู่ใกล้ๆ
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่เรียกรถง่าย มีสองแถวและรถเมล์วิ่งตลอดทาง โครงการมี Shuttle Bus รับส่งไป BTS ให้อีกด้วย
  • วัสดุ 7/10 – ให้มาแบบ Fully Fitted ตามมาตรฐาน ซึ่งต้องตกแต่งห้องเพิ่มเองค่ะ
  • แบบ 7.5/10 – ออกแบบใช้งานได้สะดวก การวางผังห้องค่อนข้างหลากหลายลงตัว
  • สาธารณูปโภค 8/10 – สวนขนาดใหญ่ และ Facilities ชั้น 6
  • UPPER CLASS
  • 7.67/ 10.00

BOTTOM LINE

Artemis สุขุมวิท 77 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดมือหนึ่งสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในย่านอ่อนนุช ถือว่าอยู่ไม่ไกลจาก BTS มากนัก และได้ราคาที่ไม่สูงมากนัก มีห้องให้เลือกหลายขนาด เน้น 1 ห้องนอน จัดพื้นที่ภายในห้องดี มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบ มีงบประมาณ 2.6 – 8 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 18,200 – 56,000 บาท/เดือน