รีวิวโครงการ

คอนโดพร้อมอยู่ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา เพียง 99 unit | Altitude Symphony เจริญกรุง | คิดเรื่องอยู่ EP.699

29 พฤษภาคม 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

Altitude Symphony เจริญกรุง คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในโซนเจริญกรุง จาก Altitude Development ที่นี่เป็นคอนโด High Rise วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สาทร ที่มีจำนวนยูนิตน้อยมาก เพียง 99 ยูนิต และมีแบบห้องขนาดใหญ่ให้เลือกหลายแบบเลยค่ะ

  • ทำเล – ถนนจันทน์ 44 ห่างจากถนนจันทน์ 30 เมตร ใกล้โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury และทางด่วน เป็นทำเลที่ใกล้ CBD อย่างสาทร แต่ก็ยังเป็นย่านชุมชนที่หาของกินได้ง่าย
  • ความเป็นส่วนตัว – โครงการนี้มีเพียง 99 ยูนิต ถือว่าเป็นคอนโดสูงที่จำนวนยูนิตน้อย ไม่วุ่นวายค่ะ
  • Services – ที่นี่มี Concierge Services ให้บริการลูกบ้าน และมีรถรับ-ส่งสถานที่รอบๆ โครงการในระยะ 2 กม. (ไปยังรถไฟฟ้าและ Community mall ใกล้เคียงได้)
  • แบบห้อง – มีให้เลือกหลายแบบมาก ตั้งแต่ 1 Bedroom, 2 Bedroom, 3 Bedroom, ห้องฝ้าเพดานสูง Loft , ยูนิต Duplex ได้พื้นที่ 2 ชั้น และ Penthouse ชั้นบนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะกับครอบครัวที่อยากได้คอนโดใกล้โรงเรียนและที่ทำงาน เพื่อประหยัดเวลาการเดินทางค่ะ

โครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว ราคาเริ่มต้นปัจจุบันอยู่ที่ 4.99 ล้านบาท* เป็นห้องหน้ากว้างขนาด 30 ตร.ม. ถือว่าราคาเริ่มต้นต่ำกว่าโครงการใกล้เคียงด้วยนะคะ ใครที่กำลังมองหาคอนโดในโซนสาทร-เจริญกรุงกันอยู่ ลองมาอ่านรีวิวนี้ดูค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Altitude Symphony เจริญกรุง @ 16 May 2023

 ชื่อโครงการ  Altitude Symphony Charoenkrung (อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง)
 ชื่อผู้ประกอบการ  Altitude Symphony Co.ltd.
 SEGMENT CLASS  HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยจันทน์ 44 แขวงวัดพระยาไกรเขตบางคอแหลม
 ที่ดิน  0 – 3 – 69 ไร่
 ประเภทคอนโด  High-Rise 21 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต  99 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ที่จอดรถอัตโนมัติ 83% + รอบอาคาร + EV Charger 2 คัน
 เริ่มก่อสร้าง  ปลายปี 2561
 สถานะโครงการ  สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก  – 1 Bedroom ขนาด 30.01 – 39.35 ตร.ม.
– 2 Bedroom ขนาด 61.90 – 73.66 ตร.ม.
– 3 Bedroom Duplex ขนาด 95.62 ตร.ม.
– Loft 1 Bedroom ขนาด 42.17 ตร.ม.
– Loft 1 Bedroom + Multi-function ขนาด 51.55 – 52.28 ตร.ม.
– Loft 2 Bedroom ขนาด 47.18 – 55.48 ตร.ม.
– Loft 3 Bedroom ขนาด 76.27 – 125.56 ตร.ม.
– Penthouse 2 Bedroom ขนาด 116.55 ตร.ม.
– Penthouse 2 Bedroom + Multi-function ขนาด 104.24 ตร.ม.
– Penthouse 3 Bedroom ขนาด 130.61 – 147.95 ตร.ม.
 ฝ้าเพดานสูง ห้องมาตรฐาน สูง 2.6 เมตร
ห้อง Loft สูง 4.5 เมตร
Penthouse สูง 3 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  4.99 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 176,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ www.altitude.co.th/condominium/altitude-symphony-charoenkrung
 Call Center 02 027 8989

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.7099545 , 100.5139355
หรือสามารถคลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Image 1/3
แผนที่โครงการ Altitude Symphony เจริญกรุง

แผนที่โครงการ Altitude Symphony เจริญกรุง

Altitude Symphony เจริญกรุง เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ที่ตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 44 โซนนี้เป็นโซนที่ใกล้กับถนนเจริญกรุง และใกล้กับโซนสาทรซึ่งเป็นแหล่งงานและย่าน CBD สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพค่ะ

สำหรับที่อยู่อาศัยในโซนนี้ จะถือว่ามีราคารองลงมาจากคอนโดที่อยู่ติดกับสาทรหรือสีลมโดยตรง แถมยังเป็นย่านชุมชนที่มีของกินขึ้นชื่อ บรรยากาศเหมาะกับการอยู่อาศัย เสียแต่ในแง่การเดินทางจะไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้าขนาดนั้น ซึ่งทาง Altitude Symphony เจริญกรุง เองก็มีการแก้ปัญหานี้ด้วยการมีรถรับส่งลูกบ้านให้  ไปได้ทุกจุดหมายปลายทางในระยะ 2 กิโลเมตรค่ะ

อีกจุดเด่นสำคัญคือโครงการนี้จะใกล้กับรร.นานาชาติ Shrewsbury ซึ่งห่างออกไปเพียง 400 เมตร (เดินได้) หรือ โรงเรียนในโซนสาทร (อัสสัมชัญ, กรุงเทพคริสเตียน) ทำให้เหมาะกับกลุ่มครอบครัว ผู้ปกครองที่มีลูกเรียนอยู่และตัวเองทำงานในละแวกนี้ เบื่อรถติด ลดเวลาการเดินทางเปลี่ยนเอาเวลามาใช้ชีวิต การหาที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ โดยโครงการ Altitude Symphony เจริญกรุง นี้ก็มีแบบห้องขนาดใหญ่ที่ออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวหลายแบบเช่นกัน

สำหรับบทวิเคราะห์เรื่องทำเลอื่นๆ สามารถกลับไปอ่านที่รีวิวก่อนหน้าได้นะคะ คลิก > ทำเล Altitude Symphony เจริญกรุง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ตัวโครงการ Altitude Symphony เจริญกรุง จะตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 44 ซึ่งเป็นโซนที่พักอาศัย บริเวณปากซอยหรือทางทิศใต้ ห่างไปราวๆ 40 เมตร จะเจอกับคอนโด One Altitude ของ Altitude เจ้าเดียวกันตั้งอยู่(มีความสูงใกล้เคียงกัน) โดยจะมีตึกแถวเล็กๆ ประมาณ 5 ห้องคั่นอยู่ตรงกลาง

ส่วนทิศอื่นๆ นั้นจะไม่มีอาคารสูงอยู่ใกล้ๆ ทำให้ได้วิวที่ค่อนข้างโล่งพอสมควร และที่ชั้นสูงๆ หรือประมาณชั้น 14 ขึ้นไป จะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ ใครที่เลือกห้องตำแหน่งที่ไม่เห็นวิวแม่น้ำ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเราสามารถขึ้นไปชมวิวได้ที่ชั้น 18 ซึ่งเป็นชั้นสระว่ายน้ำ ชั้น 21 ที่เป็นห้องออกกำลังกาย และบนชั้นดาดฟ้าก็เห็นวิวที่สวยเช่นกันค่ะ

Image 1/8
ตึกแถวตรงข้ามโครงการ สูง 4-5 ชั้น

ตึกแถวตรงข้ามโครงการ สูง 4-5 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

การเดินทาง

  • ทางด่วน ศรีรัช ~ 600 เมตร
  • BTS สะพานตากสิน ~ 1.3 กม.
  • BTS สุรศักดิ์ ~ 1.8 กม.

ห้างสรรพสินค้า

  • Asiatique Riverfront ~ 900 เมตร
  • Tops Supermarket ~ 1.5 กม.
  • Central Rama 3 ~ 3.5 กม.

สถานศึกษา

  • Shrewsbury International School ~ 400 เมตร
  • Assumption College ~ 1.3 กม.
  • Bangkok Christian College ~ 1.8 กม.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเลิดสิน ~ 1.9 กม.
  • Saint Louis Hospital ~ 3 กม.
  • BNH Hospital ~ 3.6 กม.

รายละเอียดโครงการ

Altitude Symphony เจริญกรุง คอนโด High Rise สูง 21 ชั้น ห้องพักอาศัยทั้งหมด 99 ยูนิต โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 44 บนที่ดินขนาดเกือบ 1 ไร่

สไตล์การออกแบบจะเป็นสไตล์ Colonial แบบตะวันตก แต่ก็มีการปรับให้องค์ประกอบ Simple มากขึ้น และผสมความ Modern เข้ามาอย่างเช่นกระจกต่างๆ ออกมาเป็นโครงการนี้ค่ะ โดยความ Colonial นี้เราจะเห็นชัดขึ้นภายใน element ของพื้นที่ส่วนกลางและดีเทลการออกแบบประตูห้องพักอาศัย Built-in ครัวค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 5 ชั้น ถือว่าเยอะเลยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตพักอาศัยภายในโครงการ โดยจะอยู่ที่ชั้น 1-2, ชั้น 18 , 21 และ ดาดฟ้าค่ะ ส่วนที่จอดรถนั้น โครงการจะให้มาเป็นระบบ Auto Parking เลื่อนรถลงไปจอดที่ชั้นใต้ดิน สามารถจอดได้ทั้งหมด 83% ค่ะ นับว่าเป็นสัดส่วนที่เยอะเลย

Facility

มาไล่ดูพื้นที่ส่วนกลางกันทีละชั้นเลยค่ะ เริ่มจากชั้น 1 นะ รูปร่างที่ดินจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ฝั่งที่ติดถนนจะมีระยะ set back เข้ามา ซึ่งตรงนี้จะถูกทำเป็นสวนภายในโครงการ มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ เป็นแนวรั้ว พรางสายตาจากคนที่ผ่านไปมาด้านนอก

เข้ามาภายในสามารถขับรถวนรอบอาคารได้ โดยที่จอดรถจะอยู่ทางด้านในเป็นระบบจอดรถอัตโนมัติ ขับเข้าไปจอด รถก็จะเลื่อนลงไปเก็บที่ชั้นใต้ดินซึ่งทำเอาไว้ 4 ชั้น รวมแล้วจะได้พื้นที่จอดรถประมาณ 83% ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงเลยค่ะ

Image 1/2
ทางเข้าโครงการ จะมีห้องรปภ.อยู่ด้านข้าง คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ทางเข้าโครงการ จะมีห้องรปภ.อยู่ด้านข้าง คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

Image 1/5
ตัวอาคารสูง 21 ชั้น

ตัวอาคารสูง 21 ชั้น

นอกจากนี้ทางโครงการจะมีรถรับ-ส่งให้ 1 คัน เป็นของ Hundai รับ-ส่งสถานที่รอบๆ ในระยะ 2 กม. ซึ่งครอบคลุมไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS , เอเชียทีค และ คอมมูนิตี้ มอลล์อย่าง Vanilla moon (ช่วงเวลาการให้บริการ อาจจะต้องสอบถามกับทางโครงการอีกครั้งนะคะ)

ก่อนจะเข้ามาภายในอาคารจะเจอกับโถงภายนอกฝ้าเพดานสูง บรรยากาศเหมือนอยู่โรงแรมเลยค่ะ

Image 1/2
เข้ามาด้านในจะเจอกับ Lobby ฝ้าเพดานสูง ส่วนแรกนี้จะมีเคาน์เตอร์ติดต่อเป็น Concierge Services ที่ให้บริการลูกบ้าน

เข้ามาด้านในจะเจอกับ Lobby ฝ้าเพดานสูง ส่วนแรกนี้จะมีเคาน์เตอร์ติดต่อเป็น Concierge Services ที่ให้บริการลูกบ้าน

สำหรับคอนโดระดับ Luxury ส่วนใหญ่นอกจากตัว product อย่างอาคารแล้ว ก็มักจะมี service หรือ การบริการเพิ่มเข้ามาให้ด้วยค่ะ

ที่ Altitude Symphony เจริญกรุง นี้ก็จะมี Concierge Services ระดับโรงแรมให้มาด้วย ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว ที่คอยเรียกรถ จัดหาแม่บ้าน ช่างซ่อมบำรุงต่างๆ หรือจองห้องประชุมๆ ก็สามารถให้ทาง Concierge ช่วยดูแลแทนได้ รวมไปถึงใครที่อยากปล่อยเช่าห้องภายในโครงการ ก็สามารถติดต่อกับทางนี้ได้เช่นกัน

* บางรายการอาจมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ

Image 1/2
เข้ามาส่วนที่ 2 จะเป็นพื้นที่ที่ฝ้าเพดานระดับปกติ ตรงนี้จะมีโซฟาพักผ่อน และ เปียโนตั้งอยู่

เข้ามาส่วนที่ 2 จะเป็นพื้นที่ที่ฝ้าเพดานระดับปกติ ตรงนี้จะมีโซฟาพักผ่อน และ เปียโนตั้งอยู่

Image 1/3
จากเปียโนหันมาทางซ้ายจะเป็นโถงลิฟต์นะ

จากเปียโนหันมาทางซ้ายจะเป็นโถงลิฟต์นะ

Image 1/3
ยังอยู่ที่ชั้น 1 เดินเข้ามาด้านในสุด จะเป็นโถงบันไดวน ที่เดินขึ้นไปชั้น 2 ได้

ยังอยู่ที่ชั้น 1 เดินเข้ามาด้านในสุด จะเป็นโถงบันไดวน ที่เดินขึ้นไปชั้น 2 ได้

ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกชั้นค่ะ ตรงนี้สามารถเดินขึ้นมาได้หรือจะขึ้นลิฟต์มาใช้งานก็ได้นะคะ ฟังก์ชันที่ชั้นนี้ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มี Kids room สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กพามาเล่นได้ และมี Co-working  ที่จัดมุมไว้หลากหลาย และมีห้องประชุมขนาดใหญ่ ให้นัดเพื่อนมาทำงานกลุ่มกันได้ค่ะ

เดินขึ้นมายังชั้น 2 จะเป็นโถงบันไดอยู่ตรงกลางเลย

Kids room ขนาดใหญ่ กรุวัสดุพื้นให้อ่อนนุ่มกว่าฟังก์ชันอื่นๆ รองรับเด็กที่ชอบวิ่งเล่น หกล้มก็จะได้กระแทกไม่แรงมาก ลดอาการบาดเจ็บได้ค่ะ

บรรยากาศส่วนหนึ่งของ Co-working space ตรงนี้จะเป็นแนวทางเดินที่ไปยังห้องนิติบุคคล ซึ่งมีฟังก์ชันโต๊ะทำงานยาวขนาบทางเดินนี้ไป มีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่ามุมนี้อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานมากนัก เพราะเป็นแนวทางเดิน อาจไม่ได้ความสงบเท่าที่ควร และแสงสว่างก็จะค่อนข้างน้อยนะ

จากห้องนิติบุคคลก็จะมีทางเดินไปยังห้องน้ำค่ะ ตรงนี้จะเป็นทางที่ลดระดับลงบางช่วง ทำให้การใช้งานอาจจะต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น 2 ค่ะ

ห้องน้ำที่อยู่ด้านใน ตรงนี้ออกแบบมาค่อนข้างแปลก จะมีโซนอ่างล้างมือแยกออกมาจากหน้าห้องน้ำด้วย ส่วนภายในห้องน้ำก็จะมีประตูกั้นส่วนสุขาอีกทีค่ะ

มาดูอีกมุมกันบ้าง ตรงนี้จะเป็น Co-working จริงๆ เพราะเป็นโซนที่แยกตัวออกไปเป็นสัดส่วน

Image 1/3
ทางขวามือจะมีชุดโซฟาและโต๊ะจัดวางเอาไว้ สามารถมานั่งทำงาน อ่านหนังสือได้ค่ะ

ทางขวามือจะมีชุดโซฟาและโต๊ะจัดวางเอาไว้ สามารถมานั่งทำงาน อ่านหนังสือได้ค่ะ

Image 1/2
อีกฟังก์ชันหนึ่งที่น่าสนใจคือห้องประชุมค่ะ

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่น่าสนใจคือห้องประชุมค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 18 เป็นอีกชั้นที่น่าสนใจค่ะ เพราะเป็นฟังก์ชันสระว่ายน้ำแบบยกชั้น รอบอาคารแบบ 360 องศาเลย โดยจะแบ่งเป็นโซนๆ มีทั้งมุมนั่งเล่น มุมน้ำตื้น มุมว่ายยาวออกกำลังกาย และทั้งหมดจะอยู่ในร่ม สามารถมาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แม้กระทั่งเที่ยงวันแดดจัดก็มาว่ายน้ำได้สบายเลย

บรรยากาศสระว่ายน้ำ มุมนี้จะเป็นมุมน้ำตื้นที่สามารถล้างเท้าและเดินไปนั่งเล่นได้ มีต้นไม้ใหญ่ข้างๆ ชมวิวใกล้ชิดธรรมชาติดีค่ะ

Image 1/6
ฝั่งหนึ่งจะมีมุมนั่งเล่นแบบ Sunken seat ลดจากระดับพื้นลงไป

ฝั่งหนึ่งจะมีมุมนั่งเล่นแบบ Sunken seat ลดจากระดับพื้นลงไป

Image 1/4
ที่ชั้นนี้จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งานด้วยค่ะ

ที่ชั้นนี้จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งานด้วยค่ะ

ชั้น 21 เป็นอีกชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางค่ะ จะเป็นฟังก์ชันฟิตเนส และเป็นชั้นบนสุดของโครงการนี้ด้วยค่ะ

ฟิตเนสนี้จะมีเครื่องเล่นจาก TechnoGym มาให้ สามารถใช้งานและชมวิวได้เต็มที่

Image 1/2
ขนาดฟิตเนสไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็กเกินไปค่ะ เรามองว่าพอดีกับจำนวนห้อง 99 ยูนิตนะ

ขนาดฟิตเนสไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็กเกินไปค่ะ เรามองว่าพอดีกับจำนวนห้อง 99 ยูนิตนะ

ติดกับห้องฟิตเนสจะมีห้องดนตรีอยู่อีกห้อง อันนี้จะเป็นห้องเล็กๆ ที่บุวัสดุ acoustic ไว้ที่ผนังเพื่อลดการสะท้อน ดูดซับเสียง ซึ่งห้องนี้ก็จะมีเครื่องดนตรีมาให้อย่างที่เห็น สามารถมาฝึกซ้อมเล่นดนตรีได้ ไม่รบกวนเพื่อนบ้านด้วยค่ะ

มาที่ชั้นดาดฟ้ากันบ้างค่ะ สามารถเดินขึ้นมาได้ทางบันไดหนีไฟจากชั้น 21 นะ โดยชั้นนี้ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจเลย ฟังก์ชันจะเป็นพื้นที่โล่ง เดาว่าในอนาคตน่าจะมีเฟอร์นิเจอร์ outdoor มาจัดวางเพิ่มนะ จากตรงนี้สามารถชมวิวได้โดยรอบ เห็นทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา ไอคอนสยาม(ช่วงปีใหม่นี่มาชมพลุจากคอนโดได้เลย) มองเข้าไปในเมืองก็จะเป็น City view เห็นตึกมหานครด้วยค่ะ

Image 1/10
วิวจากชั้นดาดฟ้า เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา

วิวจากชั้นดาดฟ้า เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา

วิเคราะห์ผังชั้นพักอาศัย

สำหรับห้องพักอาศัยในโครงการ Altitude Symphony เจริญกรุง ถือว่ามีห้องให้เลือกหลายแบบ แบ่งกันตามชั้นพักอาศัยดังนี้ค่ะ

  • ห้อง Loft : ชั้น 3 – 4
  • ห้อง Standard และ Duplex : ชั้น 5 – 17
  • ห้อง Penthouse : ชั้น 19 – 21

ผังชั้นพักอาศัยห้อง Loft ชั้น 3-4

ที่ชั้น 3-4 จะเป็นห้อง Loft หรือว่าห้องฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร ทั้งหมด มี 8 ยูนิตต่อชั้น (รวมแล้วจะมีห้อง Loft ทั้งหมด 16 ยูนิตภายในโครงการ)  โดยตำแหน่งลิฟต์โดยสารจะอยู่ตรงกลาง มีให้ใช้งานทั้งหมด 2 ตัวค่ะ

จุดที่น่าสนใจคือห้อง Loft ภายในโครงการนี้ ก็จะมีให้เลือกหลายแบบมาก ทั้ง 1 Bedroom , 2 Bedroom , 3 Bedroom และเป็นห้องมุมไปแล้วครึ่งหนึ่ง เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดที่บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีบันไดเดินขึ้นชั้น 2 ไม่เน้นวิวมาก เพราะยังเป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างๆ (โดยเฉพาะ Loft 5 วิวที่เลยจากตึกแถวไปจะเป็นอาคารสูงค่ะ) ราคาของห้อง Loft ที่นี่นั้นจะเริ่มต้นแต่ 6.5 – 13.4 ล้านบาท

Image 1/2
ผังพื้นชั้น 5 - 17

ผังพื้นชั้น 5 - 17

ชั้น 5 – 17 รูปแบบห้องจะเป็นห้อง Standard ฝ้าเพดานปกติสูง 2.6 เมตร โดยจะมีห้องแบบ Duplex แทรกอยู่ด้วยค่ะ

นิยามของห้องแบบ Duplex ที่แตกต่างจาก Loft คือห้องที่สามารถเข้าได้จากทั้งชั้นล่างและชั้นบนของยูนิต จะมีฝ้าเพดานสูงแบบ Double volume หรือไม่ก็ได้ โดยห้อง Duplex ของโครงการนี้ก็ตรงตามนิยามเลย คือมี 2 ชั้น และไม่มีฝ้าเพดานสูง ห้องชุดสามารถเข้าได้ทั้งจากชั้นล่างและชั้นบน ได้บรรยากาศเหมือนบ้านพักอาศัยขนาดเล็กเลยค่ะ

ที่โซนนี้จะมีเพียง 7 ยูนิตต่อชั้น ไม่หนาแน่นมาก ห้อง Duplex ที่มีมูลค่าหน่อยก็จะหันหน้าไปทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก ส่วนห้องอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องหัวมุม ได้วิวที่เปิดกว้าง ยกเว้น C2 ที่วิวส่วนใหญ่จะหันไปยังโครงการ One Altitude ซึ่งเป็นคอนโดสูงที่อยู่ใกล้ๆ ยูนิตนี้จึงเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการวิวมากนักค่ะ

Image 1/3
ชั้น 19

ชั้น 19

ชั้น 19-21 หรือว่า 3 ชั้นบนสุดของโครงการ จะเป็นห้องแบบ Penthouse ค่ะ มีเพียง 5 ยูนิตเท่านั้น โดยที่ Penthouse นี้จะได้ฝ้าเพดานที่สูงขึ้นเป็น 3 เมตร ทุกยูนิตได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ โดยราคา Penthouse ที่นี่จะเริ่มต้นอยู่ที่ 30 ล้านบาท

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1
    – First Class Reception
    – Grand Lobby
  • ชั้น 2 
    – Business Class Lounge
    – Kid’s Club
  • ชั้น 18
    – 360° Panoramic Sky Swimming Pool
  • ชั้น 21
    – Soul & Active Fitness
    – Music Training Room
  • ชั้น Rooftop
    – Multi-Happiness Area

Services

  • Shuttle Van รับส่งในรัศมี 2 กม.
  • Concierge Services ให้บริการลูกบ้าน ระดับโรงแรม (07.00 – 20.00 น.)
    – Housekeeper
    – Laundry
    – จองโรงแรม
    – จองห้องประชุม / เรียกรถ
    – Rental program (ดูแลการปล่อยเช่าห้อง)

* บางรายการอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ระบบรักษาความปลอดภัย

  • พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • เข้า-ออกโครงการด้วย Keycard Access และ Face Scan
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • รั้วโครงการเข้า-ออก ระบบ Easy Pass
  • Digital Door Lock

แบบห้อง

Altitude Symphony เจริญกรุง เป็นโครงการที่มีห้องทั้งหมด 99 ยูนิต ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงเลย โดยจะเน้นเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ เริ่มต้นก็เป็น 1 Bedroom 30.01 ตร.ม. แล้ว และมีแบบห้องหลากหลายแบบให้เลือก ทั้ง 2 Bedroom , 3 Bedroom , Loft , Duplex และ Penthouse รายละเอียดดังนี้ค่ะ

แบบห้องภายในโครงการ

  • 1 Bedroom ขนาด 30.01 – 39.35 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 61.90 – 73.66 ตร.ม.
  • 3 Bedroom Duplex ขนาด 95.62 ตร.ม.
  • Loft 1 Bedroom ขนาด 42.17 ตร.ม.
  • Loft 1 Bedroom + Multi-function ขนาด 51.55 – 52.28 ตร.ม.
  • Loft 2 Bedroom ขนาด 47.18 – 55.48 ตร.ม.
  • Loft 3 Bedroom ขนาด 76.27 – 125.56 ตร.ม.
  • Penthouse 2 Bedroom ขนาด 116.55 ตร.ม.
  • Penthouse 2 Bedroom + Multi-function ขนาด 104.24 ตร.ม.
  • Penthouse 3 Bedroom ขนาด 130.61 – 147.95 ตร.ม.

ในรีวิวนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่าง 2 แบบ เป็นห้องฝ้าปกติ 1 Bedroom และ 2 Bedroom นอกจากนี้ก็จะมีห้องพิเศษอย่าง Loft, Duplex และ Penthouse ซึ่งเป็นห้องมาตรฐาน(ห้องเปล่า) มาให้ดูเป็น gallery ต่อท้ายอีกด้วย แต่ละห้องจะเป็นอย่างไร ไปดูกันค่ะ

รายละเอียดวัสดุภายในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • พื้น – Engineering wood 12 mm. ผิวหน้าไม้โอ๊ค
  • เครื่องปรับอากาศ ประเภท wall type จาก Daikin
  • Built-in ตู้เสื้อผ้าจาก Starmark
  • Built-in ชุดครัวจาก Starmark (บานเปิดติด soft close)
  • Hob & Hood และ อ่างล้างจานจาก Smeg และ Mex
  • สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Kohler
  • เครื่องทำน้ำร้อนจาก Stelbell
  • ชุดประตูหน้าต่างกระจก กรอบบานอลูมิเนียม กระจกลามิเนต


1 Bedroom

ห้องตัวอย่างแรกที่จะไปดูกันเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.10 ตร.ม. โดยห้องนี้เป็น 1 Bedroom ที่เรามองว่าค่อนข้างพิเศษ เนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้าง แบบที่ไม่ค่อยจะได้เจอกันในโครงการอื่นๆ ประโยชน์ของห้องหน้ากว้างคือ แทบทุกฟังก์ชันจะอยู่ติดกับผนังภายนอก ทำให้มีช่องแสง หน้าต่าง เปิดรับลมระบายอากาศได้

การจัดฟังก์ชันห้องนี้เมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Common Area หรือพื้นที่กินข้าว + มุมโซฟาพักผ่อน หันไปทางซ้ายมือจะเป็นครัวและห้องน้ำ ซึ่งในห้องนี้นั้นจะได้เป็นครัวเปิด ที่สามารถติดตั้งประตูปิดกั้นเองได้ภายหลังสำหรับคนที่อยากให้ครัวปิดแยกเป็นสัดส่วน ทางฝั่งขวาของห้องจะเป็นห้องนอน ที่แยกกับ Common area ด้วยผนังประตูบานเลื่อนกระจก สามารถกั้นปิดได้ถ้าต้องการความสงบ แต่ก็สามารถเปิดประตูเพื่อให้พื้นที่เชื่อมต่อกันได้ บรรยากาศภายในห้องก็จะดูแล้วมีขนาดกว้างขึ้นค่ะ

สำหรับห้องนี้สามารถอยู่กันได้ 1-2 คนสบายๆ รูปแบบการขายเป็น Fully Fitted ที่มีชุดครัว และ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ค่ะ เราไปลองดูบรรยากาศภายในห้องตัวอย่างกันนะ

เริ่มต้นกันตั้งแต่ประตูทางเข้าค่ะ ตัวประตูจะติดตั้ง digital door lock มาให้ ตัวบานก็จะเป็นสีขาวดีไซน์มีลูกฟัก และติดตั้งตาแมวด้วย

เข้ามาจะเป็น Common Area ประกอบไปด้วยพื้นที่กินข้าว + นั่งเล่น โดยทางขวามือจะเป็นห้องนอนค่ะ วัสดุภายในห้องจะได้พื้น Engineering wood หนา 12 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี ติดไฟดาวน์ไลท์ ความสูงของห้องมาตรฐานจะอยู่ที่ 2.6 เมตรค่ะ

บริเวณทางเข้าห้องตรงนี้จะเป็นฟังก์ชันกินข้าวนะคะ ตำแหน่งเดียวกับที่เราเห็นว่าวางต้นไม้ค่ะ ขนาดบริเวณนี้(ไม่รวมแนวทางเดิน) จะอยู่ที่ประมาณ 1×1.7 เมตร จัดเป็นโต๊ะกินข้าวแบบ 2-3 ที่นั่งได้ค่ะ

บริเวณมุมห้องจะมีช่องสำหรับทำเป็นพื้นที่เก็บของ / รองเท้า กว้างประมาณ 40-50 ซม.

Image 1/3
เข้ามาด้านใน บริเวณนี้จะมีหน้ากว้างประมาณ 2.6 เมตร และลึกประมาณ 2 เมตร

เข้ามาด้านใน บริเวณนี้จะมีหน้ากว้างประมาณ 2.6 เมตร และลึกประมาณ 2 เมตร

ขยับไปดูทางซ้ายมือของห้องกันค่ะ เดินไปตรงนี้จะเป็นห้องครัวและห้องน้ำ เป็นการจัดแยกพื้นที่ส่วน service ของห้องให้เป็นสัดส่วน

โดยพื้นที่ครัวจะอยู่หลังผนังสำหรับวางชั้นวางทีวี ตรงนี้เราจะได้เป็นครัวเปิดนะคะ แต่กะจากระยะแล้ว เจ้าของห้องสามารถไปต่อเติมประตูเข้าครัวเอาเองทีหลังได้ ความกว้างประตูจะอยู่ที่ประมาณ 90 ซม.  (ได้ทั้งแบบบานเลื่อน และ บานเปิดสวิงค่ะ)

ครัวตรงนี้จะ Built-in มาให้แบบห้องตัวอย่างเลย เราชอบตรงที่อยู่ติดกับหน้าต่าง เป็นทั้งช่องแสง และเปิดระบายกลิ่น / ควันที่เกิดจากการทำอาหารออกนอกห้องได้เลย

ครัวที่ให้มาจะยาว 1.5 เมตร และมีระยะทางเดินประมาณ 1.15 เมตร เป็นระยะที่ถือว่าเดินใช้งานได้กำลังดีนะคะ

Image 1/3
ดีไซน์ของครัวก็จัดช่องต่างๆ ให้เหมาะกับฟังก์ชันใช้งาน เช่น มีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟ ตู้เย็น ช่องเก็บของเก็นจานชาม อุปกรณ์ครัวต่างๆ และดีไซน์ที่เข้ากับดีไซน์ของโครงการ ดูมีเอกลักษณ์

ดีไซน์ของครัวก็จัดช่องต่างๆ ให้เหมาะกับฟังก์ชันใช้งาน เช่น มีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟ ตู้เย็น ช่องเก็บของเก็นจานชาม อุปกรณ์ครัวต่างๆ และดีไซน์ที่เข้ากับดีไซน์ของโครงการ ดูมีเอกลักษณ์

Image 1/3
หันมาทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำค่ะ

หันมาทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำค่ะ

Image 1/5
ห้องน้ำดีไซน์มาดูดีเลย อย่างอ่างล้างหน้าก็ Built-in ชั้นวางของใต้อ่าง และ กระจกเงาที่ด้านหลังเป็นพื้นที่เก็บของมาให้ด้วย

ห้องน้ำดีไซน์มาดูดีเลย อย่างอ่างล้างหน้าก็ Built-in ชั้นวางของใต้อ่าง และ กระจกเงาที่ด้านหลังเป็นพื้นที่เก็บของมาให้ด้วย

Image 1/3
มาดูฝั่งตรงข้ามกันต่อ เป็นห้องนอนค่ะ

มาดูฝั่งตรงข้ามกันต่อ เป็นห้องนอนค่ะ

ห้องนอนจะมีระเบียงภายในห้อง และมี Built-in ตู้เสื้อผ้าให้มา

ความลึกของห้องประมาณ 2.5 เมตร ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นการออกแบบที่ให้ประตูเป็นบานเลื่อนกระจก ก็จะช่วยยืดหยุ่นระยะทางเดินรอบเตียงได้ค่ะ

มุมนี้จะได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ ระยะกว้าง 1.25 เมตร ส่วนด้านข้างก็จัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือพื้นที่ทำงานเพิ่มได้ค่ะ

ดีไซน์ตู้เสื้อผ้าจะเป็นบานเลื่อนเพื่อประหยัดระยะการเปิดตู้ใช้งาน

ระเบียงของห้องจะอยู่ภายในห้องนอนค่ะ

ระยะระเบียงอยู่ที่ประมาณ 1.7×0.8 เมตร เรามองว่าเป็นระเบียง Service เอาไว้วาง CDU แอร์ หรือว่าตากผ้าค่ะ

ภายในห้องนอนสามารถติดม่านเพิ่มได้ เผื่ออยู่กัน 2 คน คนหนึ่งต้องการนอนพักผ่อน อีกคนอยากดูทีวีก็ปิดประตูกันเสียง ปิดม่านกันแสงได้นะ


2 Bedroom

ห้องตัวอย่างอีกห้องจะเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 61.9 ตร.ม. ยูนิตมุมอาคาร โดยห้องนี้จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ฟังก์ชันจัดแยกเป็นสัดส่วน สามารถอยู่กันเป็นครอบครัว 3-4 คนได้สบาย

ห้องนี้เมื่อเข้ามาจะเป็น Common area ที่มีรูปร่างยาวลึก มีพื้นที่ครัวเป็นสัดส่วนอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า (ครัวนี้จะเป็นครัวเปิด ที่สามารถกั้นปิดให้เป็นห้องแยกได้นะคะ) สำหรับ Common Area นี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลย สามารถจัดพื้นที่กินข้าวได้ 6-8 ที่นั่ง รองรับการเชิญเพื่อนมาเยี่ยม มากินข้าวร่วมกันได้ด้วย

ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะอยู่ทางด้านใน ซึ่งขนาดห้องเรามองว่าห้องนอนรองก็ถือว่ามีขนาดกว้างเลย มี Space ข้างเตียงกว้างไม่อึดอัด ส่วน Master bedroom นั้นจะได้ฟังก์ชันภายในห้องเยอะกว่า ได้ทั้งห้องน้ำในตัว มุมตู้เสื้อผ้าที่ขนาดใหญ่ขึ้น และเป็นห้องตำแหน่งมุมที่ได้วิวสองฝั่งผนังเลยค่ะ

มาดูภายในห้องกันเลย บานประตูและ Digital door lock จะติดตั้งให้มาเหมือนกับห้อง 1 Bedroom นะคะ ไปดูกันก่อนหน้าได้

เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับห้องหน้ากว้าง 2.6 เมตร และยาวลึกเข้าไปเกือบ 8 เมตร พื้นห้องจะเป็น engineering wood หนา 12 มม. ผิวหน้าไม้โอ๊ค หน้าตาเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ลองมองย้อนมาที่ทางเข้า ซ้ายมือจะเป็นครัว ส่วนขวามือจะมีพื้นที่สามารถหาเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นชั้นวางรองเท้า หรือ ตู้เก็บของมาวางได้ค่ะ

ใครที่มีงบหน่อยก็สามารถทำเฟอร์นิเจอร์ Built-in ให้เข้ากับพื้นที่ได้เลย ดีไซน์แบ่งพื้นที่ได้ตามความเหมาะสม เราว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการวางรองเท้า และเก็บร่ม จดหมาย กุญแจต่างๆ ได้ หรือจะเพิ่มกระจกเงาสักบาน เอาไว้ส่องก่อนออกจากบ้านก็ได้ค่ะ

ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งเราจะได้ Built-in เข้ามุมเป็นสัดส่วน เรามองว่าใครที่อยากได้ครัวปิด เพื่อกั้นกลิ่น ควันจากการทำอาหารในครัว ไม่ให้ไหลลอยไปทั่วห้องก็สามารถต่อเติมเองได้ทีหลังนะคะ

Image 1/9
ภายในครัว Built-in มาให้เต็มพื้นที่ ทั้งตู้บน-ล่าง Back splash เหมือนกับห้องตัวอย่างเลย ยกเว้นของตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ

ภายในครัว Built-in มาให้เต็มพื้นที่ ทั้งตู้บน-ล่าง Back splash เหมือนกับห้องตัวอย่างเลย ยกเว้นของตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ

ออกจากครัวมาดูพื้นที่กินข้าวกันต่อค่ะ พื้นที่กินข้าวจะอยู่ตรงกลางบ้านเลย ในห้องตัวอย่างจะจัดเป็นโต๊ะเล็กติดผนังกินข้าวได้ 4 คน แต่ถ้าดูจากพื้นที่จริงเรามองว่าจัดไว้ลอยตัวกลางบ้าน ให้เหลือทางเดินรอบก็สามารถจัดได้ และจะได้ราวๆ 6-8 ที่นั่งสบายๆ

Image 1/2
ห้องตัวอย่างจะเอาโต๊ะวางชิดผนัง ทำให้เหลือทางเดินเยอะ

ห้องตัวอย่างจะเอาโต๊ะวางชิดผนัง ทำให้เหลือทางเดินเยอะ

เข้ามาในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นค่ะ มุมนี้จะลึกประมาณ 2.7 เมตร อยู่ติดระเบียง เข้ามุมดูเป็นส่วนตัวอยู่นะ ถ้าอยากจะกั้นเป็นห้องปิดก็ทำได้เช่นกันค่ะ

Image 1/2
ระยะห่างจากโซฟาไปชั้นวางทีวีอยู่ที่ 1.15 เมตร สามารถวางโต๊ะเล็กๆ หน้าโซฟาได้ค่ะ

ระยะห่างจากโซฟาไปชั้นวางทีวีอยู่ที่ 1.15 เมตร สามารถวางโต๊ะเล็กๆ หน้าโซฟาได้ค่ะ

Image 1/4
ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ระเบียง

ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ระเบียง

พาไปดูห้องนอนเป็นโซนถัดไปค่ะ ซึ่งโซนพักผ่อนนี้จะมีทางเดินเล็กๆ แยกออกไป เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้องนะ โดยประตูทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ ตรงกลางเป็น Master bedroom ส่วนทางซ้ายมือหลังทีวีจะเป็นห้องนอนรองค่ะ

มาดูห้องน้ำก่อนนะ ตัวห้องน้ำนี้จะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนรองและรองรับแขกค่ะ เป็นห้องที่ไม่ติดกับผนังภายนอก จึงจะติดตั้งพัดลมระบายอากาศเอาไว้ให้

Image 1/4
มีธรณีประตูคั่นกลางให้ กันน้ำไหลย้อนออกจากห้อง

มีธรณีประตูคั่นกลางให้ กันน้ำไหลย้อนออกจากห้อง

มาดูห้องนอนรองกันค่ะ ตำแหน่งจะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำเลย ทำให้ห้องนี้แม้จะไม่มีห้องน้ำในตัว แต่ก็ไปใช้งานห้องน้ำได้สะดวกนะ

Image 1/6
ตัวห้องรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 2.4x3.6 เมตรโดยประมาณ

ตัวห้องรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 2.4x3.6 เมตรโดยประมาณ

Image 1/2
มาดูที่ห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อค่ะ จากประดูห้อง มองเข้าไปเราจะเจอกับห้องน้ำก่อนเลย ซึ่งตรงนี้เราถือว่าดีนะ เพราะทำให้คนที่มองเข้ามาไม่เห็นเตียงโดยตรง เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้องได้

มาดูที่ห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อค่ะ จากประดูห้อง มองเข้าไปเราจะเจอกับห้องน้ำก่อนเลย ซึ่งตรงนี้เราถือว่าดีนะ เพราะทำให้คนที่มองเข้ามาไม่เห็นเตียงโดยตรง เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้องได้

Image 1/6
มาดูห้องน้ำกันค่ะ ห้องนี้จะได้ห้องน้ำภายในตัว

มาดูห้องน้ำกันค่ะ ห้องนี้จะได้ห้องน้ำภายในตัว

ทางเดินหน้าห้องน้ำตรงนี้จะกว้างประมาณ 1.25 เมตร ในห้องตัวอย่างจัดเป็นมุมสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

ตัวห้องนอนหลักจะอยู่ที่ตำแหน่งมุมพอดี เลยได้แสงสว่างและวิวจาก 2 ฝั่งหนังแบบนี้เลย

Image 1/5
ห้องนี้จะไม่ได้ทำมุมตั้งฉาก แต่ผนังทางขวามือจะเฉียง ทำให้ขนาดห้องจะอยู่ที่ ลึก 2.85 เมตร และกว้าง 2.3 - 3 เมตรค่ะ

ห้องนี้จะไม่ได้ทำมุมตั้งฉาก แต่ผนังทางขวามือจะเฉียง ทำให้ขนาดห้องจะอยู่ที่ ลึก 2.85 เมตร และกว้าง 2.3 - 3 เมตรค่ะ

โดยรวมแล้วเป็นห้อง 2 Bedroom ที่น่าสนใจอีกห้องเลยค่ะ เหมาะกับครอบครัวที่อยากได้ที่อยู่อาศัยใกล้โรงเรียนลูก ห้องนี้ก็สามารถอยู่เป็นครอบครัวได้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 10.5 ล้านบาทค่ะ


นอกจากห้องตัวอย่าง 2 ห้องที่เราพาไปดูแล้ว เรายังมีห้องพิเศษอีก 3 ห้องมาให้ชมด้วยค่ะ
1) ห้องแบบ Loft หรือห้องฝ้าเพดานสูง
2) ห้อง Duplex แบบ original ที่มี 2 ชั้น เข้าได้จากทั้ง 2 ชั้นจริงๆ
3) ห้องแบบ Penthouse ขนาดใหญ่ภายในโครงการ
ซึ่งห้องทั้ง 3 แบบนี้จะเป็นห้องมาตรฐานแบบ Fully Fitted หรือว่าห้องเปล่าแบบที่ขายจริงค่ะ แต่ละห้องเป็นอย่างไรไปดูกันนะ

Loft

ห้อง Loft หรือว่าห้องฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร จุดที่น่าสนใจของห้อง Type นี้คือเป็นห้องหน้ากว้าง และมีห้องอเนกประสงค์ภายใน ถือว่าเป็นผังห้องที่เราไม่ค่อยเห็นที่โครงการอื่นนะคะ

ชั้นล่าง แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน เข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น+กินข้าว มีห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนใกล้กับห้องน้ำ และก็มีห้องอเนกประสงค์ที่ปรับใช้เป็นห้องนอนรอง หรือว่า ห้องทำงานได้

ส่วนชั้นบน จะเป็นพื้นที่โล่ง จัดเป็นห้องนอนพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด ซึ่งมีขนาดใหญ่เช่นกัน และมีจุดที่มองลงมายังโซนพื้นที่นั่งเล่นได้ด้วยค่ะ

Image 1/12
พื้นที่นั่งเล่นในห้องแบบ Loft

พื้นที่นั่งเล่นในห้องแบบ Loft


Duplex

Duplex เป็นแบบห้องที่หลายคนเข้าใจสับสนกับห้องแบบ Loft อยู่พอสมควรค่ะ เพราะเป็นยูนิตที่มี 2 ชั้นเหมือนกัน แต่ว่าห้อง Duplex จะเป็นห้องที่มีข้อกำหนดตามกฎหมายว่าสามารถเข้าได้จากทั้ง 2 ชั้น (บนและล่าง)และนับพื้นที่ตามโฉนดทั้ง 2 ชั้น (ในขณะที่ห้อง Loft พื้นที่ในโฉนดจะนับเฉพาะชั้นล่างเท่านั้น) ซึ่งโครงการนี้จะมีให้เลือกทั้ง Loft และ Duplex ค่ะ

สำหรับห้องนี้จะเป็นยูนิตที่ได้ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สำหรับพื้นที่ใช้สอยเรามองว่าเท่ากับทาวน์โฮม 2 ชั้นเล็กๆ ได้เลย เพียงแต่จะได้ Location ใจกลางเมืองของคอนโด และ ส่วนกลางที่จัดเต็มแบบคอนโดแทนนะคะ

ที่ชั้นล่างจะเป็น Common Area และห้องนอน 1 ห้อง โดยจะมีครัว และ ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งจุดที่น่าสนใจอีกจุดคือในห้องนอนรองชั้นบน เราจะเห็นประตูออกจากยูนิต ซึ่งสามารถเดินไปยังโถงลิฟต์ได้ค่ะ นอกจากนี้ห้องน้ำที่ชั้นบนจะเป็นห้องที่ได้อ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามาด้วยค่ะ

Image 1/15
บรรยากาศ Common Area ของแบบ Duplex

บรรยากาศ Common Area ของแบบ Duplex


Penthouse

มาดูตัวอย่างห้อง Penthouse ยูนิตใหญ่ของโครงการนี้กันค่ะ ซึ่งตัว Penthouse นี้จะมีอยู่เพียง 5 ยูนิตเท่านั้นค่ะ (แต่มีหลายแปลนห้องนะ)

การวางผังห้องเมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ รวมเอาฟังก์ชันอย่างครัว กินข้าวและรับแขกเอาไว้ด้วยกัน ด้วยพื้นที่ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ยืดหยุ่นกับการแบ่งห้องครัวเป็นห้องปิด ทำ counter island กลางบ้าน ดีไซน์พื้นที่ได้ตามความชอบเลย

ส่วนห้องนอนนั้นจะได้ทั้งหมด 3 ห้อง ห้องนอนรองจะใช้ห้องน้ำร่วมกัน และห้องนอนใหญ่จะมีขนาดใหญ่ แยกพื้นที่ Walk-in Closet ออกเป็นสัดส่วน และมีห้องน้ำใหญ่ได้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her และมีอ่างอาบน้ำภายในตัวค่ะ

ยูนิตนี้เป็นห้องที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากอยู่คอนโดแทนบ้าน ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ อยู่กัน 4-5 คนได้สบายค่ะ

Image 1/14
บรรยากาศภายใน Common area ของ Penthouse

บรรยากาศภายใน Common area ของ Penthouse

ราคา

Altitude Symphony เจริญกรุง ณ วันที่ 16 May 2023

  • 1 Bedroom ขนาด 30.01 – 39.35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 166,277 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 61.90 – 73.66 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านบาท  หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 169,628 บาท/ตร.ม.
  • 3 Bedroom Duplex ขนาด 95.62 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 18.5 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 193,474 บาท/ตร.ม.
  • Loft 1 Bedroom ขนาด 42.17 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 155,138 บาท/ตร.ม.
  • Loft 1 Bedroom + Multi-function ขนาด 51.55 – 52.28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 172,647 บาท/ตร.ม.
  • Loft 2 Bedroom ขนาด 47.18 – 55.48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.3 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 175,922 บาท/ตร.ม.
  • Loft 3 Bedroom ขนาด 76.27 – 125.56 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13.4 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 175,691 บาท/ตร.ม.
  • Penthouse 2 Bedroom ขนาด 116.55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 257,400 บาท/ตร.ม.
  • Penthouse 2 Bedroom + Multi-function ขนาด 104.24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 287,797 บาท/ตร.ม.
  • Penthouse 3 Bedroom ขนาด 130.61 – 147.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 267,973 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 0 บาท
  • ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
ที่ตั้งโครงการอยู่ที่ถนนจันทน์ 44 ห่างจากถนนจันทน์ราวๆ 30 เมตร ซึ่งทำเลนี้เดิมที่เป็นย่านชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยเยอะ มีของกินขึ้นชื่อเพียบ โดยที่ตั้งนี้จะอยู่ฝั่งที่ใกล้กับถนนเจริญกรุง เรียกว่าอยู่ระหว่างทางด่วนและแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

โซนนี้เรามองว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับการเลือกอยู่อาศัย สำหรับครอบครัวที่ใช้ชีวิตในโซนนี้ ลูกเรียนแถวนี้ และตัวเองก็ทำงานในโซนนี้ ซึ่งตรงนี้ก็จะประหยัดเวลาการเดินทางในแต่ละวันได้เยอะเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :
ทำเลโครงการจะอยู่ในโซนที่เชื่อมไปยังสาทร สีลม และสะพานตากสินได้ง่าย มีหลายเส้นทางให้เลือก และยังไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วน วิ่งข้ามเมืองอ้อมเมืองเลี่ยงรถติดได้สบายค่ะ โดยสัดส่วนที่จอดรถภายในโครงการให้มาถึง 83% นับว่าเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรอีกด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ที่ตั้งจะไม่ไกลจากถนนจันทน์ ซึ่งจะมีรถสาธารณะผ่านอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการด้วย แต่จุดที่น่าสนใจคือรถรับส่งที่โครงการมีบริการให้ รับส่งได้ทุกจุดหมายในระยะ 2 กม. ซึ่งเหมาะสำหรับโซนเมืองแบบนี้ที่หาที่จอดรถลำบากค่ะ

วัสดุ :
โครงการนี้จะขายแบบ Fully Fitted พร้อม Built-in บางชิ้นเช่น ชุดครัว ตู้เสื้อผ้ามาให้ โดยรวมเรามองว่าวัสดุที่ให้มาค่อนข้างดีเลยค่ะ พื้น engineering wood หน้าไม้โอ๊คหนา 12 มม. (หนากว่าโครงการทั่วไปที่ใช้กัน) ชุด Built-in ของ Starmark ชุดครัวของ Smeg และ Mex , สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Kohler เป็นต้น

การออกแบบ :
ที่นี่จะออกแบบมาในสไตล์ Modern ที่มีกลิ่นอายของ Colonial ดังนั้นเราจะเห็นการเลือกใช้เส้นโค้ง Arch มาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ และมีการออกแบบลูกฟักประตูห้อง หน้าบานครัว Built-in ที่ไปในทิศทางเดียวกัน ดูเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ดีค่ะ

อีกเรื่องที่เราว่าดีคือการออกแบบห้องพักอาศัย ซึ่งมีแบบให้เลือกเยอะมาก ทั้งห้อง Standard, ห้อง Loft, ห้อง Duplex และ Penthouse มีหลายขนาด เหมาะกับครอบครัวที่มีความต้องการและความชอบแตกต่างกัน ใครที่อยากได้ห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้น เป็นห้องหน้ากว้างก็มาลองดูที่โครงการนี้ได้ค่ะ

สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะไม่ได้หวือหวามาก แต่ให้มาถึง 5 ชั้น และถ้าเทียบกับสัดส่วนห้องที่มีเพียง 99 ยูนิตก็ถือว่าให้มาโอเคเลย สามารถใช้งานได้สบายไม่แย่งกันเยอะ จุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือสระว่ายน้ำที่ชั้น 18 ที่เป็นสระในร่มวนรอบอาคารแบบ 360 องศาเลย สามารถใช้ได้ทั้งวันและชมวิวไปในตัว นอกจากนี้ก็จะมีชั้นดาดฟ้าที่ขึ้นไปชมวิวได้ โดยเฉพาะทางฝั่ง Iconsiam ที่ถือว่าเป็นวิวทองของแม่น้ำเจ้าพระยา มักจะมีการจุดพลุตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมพลุได้ที่ดาดฟ้าของโครงการด้วยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 176,xxx บาท/ตร.ม., 16 MAY 2023

  • ทำเล 8/10 – บนถนนจันทน์ ใกล้สาทร
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน สัดส่วนที่จอดรถให้ 83%
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีรถรับส่งรอบๆ
  • วัสดุ 8.25/10 – ให้มา Fully fitted คุณภาพดีสมราคา
  • แบบ 7.75/10 – แบบห้องให้เลือกเยอะ
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ได้สระว่ายน้ำในร่มชั้นบน ชมวิว 360 องศา

  • HIGH CLASS
  • 7.95 / 10.00

Altitude Symphony เจริญกรุง เหมาะกับใคร?

โครงการ Altitude Symphony เจริญกรุง เหมาะกับครอบครัวที่หาที่อยู่อาศัยใกล้โรงเรียนและที่ทำงาน ในโซนสาทร – เจริญกรุง ชอบความเป็นส่วนตัว จำนวนยูนิตในโครงการไม่เยอะ เน้นพื้นที่ภายในห้อง แปลนห้องหน้ากว้าง มีหลายแบบให้เลือก มีงบตั้งแต่ 5-10 ล้านบาทสำหรับอยู่ 1-2 คน และมีงบ 10-30 ล้านบาทสำหรับอยู่กันเป็นครอบครัว