รีวิวโครงการ

BoomTharis: BoomTharis | Banyan Tree Residences Riverside Bangkok คอนโดหรูติดริมแม่น้ำ

15 มีนาคม 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

เราขอพามารู้จักคอนโดระดับ ULTIMATE  CLASS กันอีกสักโครงการกับ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทาง เนอวานา ไดอิ จับมือกับ Banyan Tree Group ที่ทำคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อม Concierge Service เสมือนอยู่ในโรงแรม เน้นความเป็นส่วนตัว มาพร้อมระยะห่างแม่น้ำเพียง 16 เมตร และ le Boat ให้บริการสำหรับลูกบ้าน รวมถึงทางโครงการยังให้ที่จอดรถถึง 200% เหมาะสมกับโครงการระดับนี้จริงๆค่ะ

Fact @ 5 April 2019

  • Banyan Tree Residences Riverside Bangkok (บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ)
  • บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน)
  • ULTIMATE  CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 เขตคลองสาน
  • คอนโด High Rise 45 ชั้น 1 อาคาร 133 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 5 ชั้น
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 4 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 260 คัน หรือคิดเป็น 200 % รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 5-1-10 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : 2559
  • สร้างเสร็จ : Q1 / 2562
  • 1 Bedroom 69.40-85.45 ตร.ม. จำนวน 48 ยูนิต
  • 2 Bedrooms 158.40 – 179.20 ตร.ม. จำนวน 66 ยูนิต
  • 3 Bedrooms 245.10 ตร.ม. จำนวน 16 ยูนิต
  • 4 Bedrooms 419.85 – 421.35 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
  • Penthouse 838.70 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต
  • ฝ้าเพดานสูง 3.25 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1787

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.7320925,100.5088378

แผนที่โครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ตั้งอยู่บนในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 จากหน้าปากซอยเข้าไปในตัวโครงการประมาณ 260 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เดินสบายทีเดียว ตัวโครงการอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านคลองสาน ที่อยู่ในตำแหน่งช่วงโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี ทำให้เห็นวิวเปิดโล่งกว้าง แต่เดิมพื้นเพของย่านเจริญนครและคลองสาน เป็นชุมชนแบบห้องแถวที่หัวซอยติดถนนและท้ายซอยติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังคงพบเห็นอยู่ในช่วงปลายถนนเจริญนครที่มุ่งหน้าเข้าสู่ราษฎร์บูรณะ แต่ภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การใช้ที่ดินบริเวณนี้ได้เปลี่ยนแปลงไป เริ่มมีตึกสูง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ คอมมูนิตี้มอลล์ให้ได้เลือกใช้กันมากขึ้น ส่งผลให้ย่านนี้ผสมผสานความเป็นชุมชนและความทันสมัยเข้าด้วยกัน มองแล้วเป็นทำเลที่น่าสนใจดีทีเดียวค่ะ

เหมาะทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ : ตัวโครงการมี Shuttle Boat บริการพิเศษสำหรับลูกบ้าน สามารถเลือกไปยังจุดสำคัญริมน้ำได้ ซึ่งจะไม่มีเวลาเดินเรือ ลูกบ้านสามารถจองเรือเพื่อไปส่งแบบส่วนตัวได้เลย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอคนอื่นค่ะ อีกตัวเลือกหนึ่งคือ อยู่ห่างสถานีรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีคลองสาน ประมาณ 350 เมตร ที่จะเชื่อมเข้ากับ BTS สายสีลม ที่เราคุ้นเคยกันดี ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ส่วนรถยนต์มีที่จอดรถมากถึง 200% เรามองว่าได้ค่อนข้างเยอะทีเดียว แทบจะไม่ได้เห็นในคอนโดอื่นๆมากนัก ถือเป็นจุดชูโรงของโครงการนี้ทีเดียวค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ : เกาะไปทางริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลักค่ะ เนื่องจากมี Shuttle Boat บริการไปส่งยังจุดสำคัญต่างๆ เริ่มตั้งแต่ใกล้กับโครงการจะมี LHONG 1919 เป็นโครงการแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถัดมาที่ ICONSIAM ซึ่งเป็นตึก Mixed Use Building ขนาดใหญ่ ที่ทำให้ย่านนี้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น หรือคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Vue และ Sena Fest เป็นต้น รวมถึงมีโรงแรม 3-5 ดาว อย่าง แชงกรี-ลา, โอเรียนเต็ล, เพนนินซูล่า Milennium Hition พร้อมคอนโดมิเนียมระดับ Hi-end อย่าง The River Condominium และ Magnolias Waterfront Residences @ ICONSIAM ดังนั้นทำเลนี้จึงเหมาะกับคนที่เน้นความสะดวกสบายเป็นหลักในการอยู่อาศัย เดินทางไปยังแหล่งอุดมสมบูรณ์ได้ง่าย และคาดหวังความสะดวกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในอนาคต


พาชมอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง

เข้าซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 มาประมาณ 200 เมตร จะเจอป้ายโครงการที่เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนจะพาเข้าไปชมตัวโครงการ เราจะขอเล่าถึงที่ดินผืนนี้ของโครงการเพิ่มเติมสักเล็กน้อย คือเดิมทีที่แปลงนี้จะมีอาคารเก่า ที่ยังใช้ใบอนุญาตเดิมทำให้สามารถสร้างโครงการใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ห่างแม่น้ำเจ้าพระยาเพียง 16 เมตรเท่านั้น

ตัวโครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok จาก บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ และ ไดอิ กรุ๊ป ที่สำคัญได้เซ็นสัญญาร่วมกับ Banyan Tree Group ที่เป็น Hotel Chain ระดับโลกให้เข้ามาบริหารงาน ให้เป็นคอนโดหรูที่ได้รับบริการเสมือนโรงแรม ตัวอาคารเป็นคอนโดมิเนียมสูง 45 ชั้น จำนวน 133 ยูนิต พร้อมมีห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น รวมถึงยังมีลิฟต์โดยสารถึง 6 ตัว ซึ่งอัตราส่วนการใช้งานลิฟต์เพียง 22 : 1 ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยทีเดียว โอกาสที่จะเจอกับเพื่อนบ้านน้อยค่ะ มาพร้อมที่จอดรถถึง 200% ตอบโจทย์คนที่ต้องการอยู่โครงการระดับ ULTIMATE  CLASS ที่เน้นความเป็นส่วนตัว บรรยากาศร่มรื่น และเงียบสงบ หน้าต่างอาคารจะเป็นครึ่งวงกลม ที่ด้านริมแม่น้ำจะเป็นกระจกทั้งหมด ส่วนด้านหลังบริเวณส่วน Service จะเป็นแผ่นเหล็กแบบเจาะรู ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดี ทำให้เป็นเอกลักษณ์ของโครงการนี้ เราไม่ค่อยได้เห็นในโครงการอื่นๆมากเท่าไหร่นะคะ

ระหว่างทางเข้าโครงการจะมีบ้านพักอาศัยของคนในพื้นที่อยู่อาศัยเดิม ซึ่งมีการตกแต่ง Facade ด้วยแบบเดียวกัน ดูแล้วสะอาดตาดีค่ะ

ทางเข้าของโครงการ จะมีรปภ. คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อม CCTV คอยสอดส่งความปลอดภัยอีกแรง รั้วรอบโครงการเป็นกำแพงสูงที่ใช้วัสดุเป็นหินทราเวอร์ทีน เป็นวัสดุที่ใช้ลวดลายธรรมชาติ ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม พร้อมป้ายโครงการติดกำแพงชัดเจนดีค่ะ

เข้ามาภายในโครงการบรรยากาศร่มรื่นทีเดียว ถนนกว้างสามารถขับรถสวนกันได้สบายๆ มาพร้อมต้นไม้สูงใหญ่เรียงยาว 2 ฝั่งทาง รวมถึงรั้วต้นไม้ของโครงการสีเขียวขนาดใหญ่ ที่ช่วยบดบังสายตาจากภายนอกได้ดีทีเดียวค่ะ

เรามาดูอาคารจอดรถกันสักหน่อย หน้าตาอาคารของโซนด้านหน้า จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมล้อกับ Facade ของอาคารพักอาศัย ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ไปในทางเดียวกันค่ะ

ส่วนผนังอาคารจอดรถด้านใน จะทำเป็น Vertical Garden สูงขนาดใหญ่ เพื่อช่วยบดบังสายตาจากภายนอก ของจริงทำออกมาได้สวยงาม มีการไล่โทนสีเขียวสลับไปมา น่าสนใจดี

ถัดเข้ามาด้านในบริเวณ Drop Off มีต้นไม้สูงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ฝั่งซ้ายเป็นอาคารจอดรถ ที่ชั้นบนสุดทำเป็น Facilities ของโครงการ ส่วนชั้นล่างมีทางเข้า Lobby ฝั่งขวามีทางเดินไปยังสวนที่อยู่ด้านหลังได้ค่ะ

ริมรั้วกำแพงมี Vertical Garden อีกจุดหนึ่ง ออกแบบมาค่อนข้างสูง เพื่อช่วยบดบังสายตาจากภายนอกโครงการ โดยรวมแล้วเรามองว่าให้พื้นที่สีเขียวมาเยอะดีค่ะ

ทางเข้า Lobby ด้านหน้าสามารถรับ-ส่งคนได้ ซึ่งด้านบนมีการยื่นหลังคามาคลุม ให้ช่วยบังแดดบังฝนได้ แต่เนื่องจากหลังคาค่อนข้างสูงและยื่นออกมาไม่เยอะมาก ถ้าฝนตกหนักๆและลมแรง อาจจะทำให้ลูกบ้านเปียกได้นะคะ

ชั้นที่ 1 บริเวณ Lobby มีความสูงแบบ Double Volume พร้อมประตูสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้บรรยากาศดูหรูหราทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Doorman ไว้คอยเปิด-ปิดประตูให้ลูกบ้านอีกด้วย รวมถึงมี Concierge Service ให้บริการเสมือนอยู่ในโรงแรมเลยนะคะ

เข้ามาภายในจะตกแต่งคล้าย Lobby ของ โรงแรมเลย มี Reception ต้อนรับให้บริการสำหรับลูกบ้านอีกด้วยค่ะ

เข้ามาด้านในเลี้ยวซ้าย มีห้อง Multipurpose Room ขนาดใหญ่ ที่สามารถมานั่งพักผ่อน ทำกิจกรรม บริเวณนี้ได้ค่ะ

หันกลับมาอีกฝั่ง มีทางเดินไปยังพื้นที่สวนด้านหลังโครงการ และโถงลิฟต์ที่ใช้ขึ้นห้องพักอาศัยค่ะ

ระหว่างทางไปเราจะเจอห้อง Mailbox ของลูกบ้าน เราจะพาไปชมข้างในกันสักเล็กน้อยค่ะ

ถัดเข้ามาจะมีห้อง Mail Room จะมีตู้จดหมายสำหรับลูกบ้านให้อยู่ แต่มีจำนวนไม่เยอะมาก เนื่องจากโครงการนี้มีเพียงแค่ 133 ยูนิตเท่านั้นเอง ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากๆค่ะ

ด้านในมีความสูงที่มากขึ้นประมาณ 7 เมตร พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ ที่ทำให้รับแสงภายนอกได้เต็มที่ ภายในมีชุดโซฟารับแขกให้บริการอยู่ ที่นี่เน้นตกแต่งน้อยๆ เน้นความเรียบ หรู ทำให้บรรยากาศดูโอ่โถ่งดีจังค่ะ > <

ถ้าเดินตรงเข้ามาด้านในสุด มีห้อง Riverside Lounge ภายในมีชุดโซฟามาให้ พร้อม Pantry ครัว ที่สามารถเตรียมอาหารได้ ซึ่งถ้าใครอยากจะจัดปาร์ตี้เล็กๆก็สามารถจองใช้งานได้ค่ะ

กลับออกมาด้านนอก เราจะขอออกไปชมบรรยากาศสวนริมน้ำ ที่มี Shuttle Boat รอให้บริการอยู่ค่ะ

ด้านนอกมีชานกว้างขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ใช้งานแบบ Outdoor ให้ลูกบ้านเลือกใช้งานได้ สุดทางเดินจะสามารถวนออกไปยังบริเวณ Drop Off ด้านหน้าได้

ทางเชื่อมออกไปยังพื้นที่ Drop Off ที่มีหลังคาคลุมสูงเกือบ 10 เมตร เป็นพื้นที่ใช้งานแบบ Indoor ที่ลูกบ้านสามารถมาจัดกิจกรรมได้นะคะ

เราจะลองลงไปดูบรรยากาศด้านล่างกันดูบ้าง มี Sunken Seating Area เป็นที่นั่งแบบลดระดับลงไปให้เสมือนนั่งอยู่ระดับเดียวกับผิวน้ำ ซึ่งจะได้ความรู้สึกที่แตกต่างไปอีกแบบค่ะ

ส่วนของ Sunken Seating Area จะได้วิวของท่าน้ำของโครงการและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเต็มๆ ทางโครงการมีท่าเรือเป็นของตัวเอง พร้อมเรือส่วนตัวไว้ให้บริการแบบ Taxi Boat คือเรียกไปส่งแบบส่วนตัวได้เลยค่ะ

ตัวโครงการร่วมมือกับ ทรู ลีสซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้เช่าพวก รถยนต์ และ เรือ ส่วนเรือที่ให้บริการจะเป็นเรือแบบส่วนตัวขนาด 3-4 ที่นั่ง ตัวเรือทำจากไม้มะฮอกกานีที่เป็นงานฝีมือ ดูแล้วสวยกว่าเรือทั่วๆไปนะคะ

เรามาลองมาดูวิวริมแม่น้ำกันดูบ้าง ฝั่งขวามือ(รูปบน) เป็นฝั่งที่หันไปทาง Icon Siam สังเกตว่าจะเต็มไปด้วยตึกสูงสลับไปมาทั้ง 2 ฝั่งทาง ส่วนฝั่งซ้ายมือ(รูปล่าง) เป็นวิวที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากเข้าสู่ย่านเมืองเก่าที่มีกฎหมายควบคุมอาคารอยู่ค่ะ

เราจะพาทุกคนขึ้นลิฟต์กันคะ ซึ่งที่นี่จะมีทางเข้าโถงลิฟต์ถึง 3 จุด มีลิฟต์ทั้งหมด 6 ตัว ที่แยกการใช้งานกัน ขึ้นอยู่กับห้องว่าอยู่ตำแหน่งไหน ซึ่งลิฟต์ 1 ตัว จะมีห้องที่ใช้งานประมาณ 20 ห้อง ซึ่งทางโครงการบอกว่าแทบจะไม่ได้เจอเพื่อนบ้านเลยค่ะ เพราะลิฟต์จะเป็นแบบต่อคิว จะไม่แวะรับทุกชั้น แต่จะเรียงเป็นลำดับแทน

ยกตัวอย่าง ถ้าเราอยู่ชั้น 20 แล้ว มีคนเรียกพร้อมกันอยู่ที่ชั้น 15 ลิฟต์จะลงไปส่งเราที่ชั้น 1 ก่อน แล้วค่อยขึ้นมารับลูกบ้านที่ชั้น 15 ค่ะ เราได้ไปลองใช้มาแล้ว ต้องยอมรับว่าลิฟต์ที่นี่เร็วทันใจดีค่ะ ไม่ต้องเสียเวลารอลิฟต์นานๆ

เปิดประตูเข้ามา เราจะเจอลิฟต์ 2 ตัว/จุด ซึ่งลิฟต์โซนกลางมีพื้นที่หน้าลิฟต์กว้างทีเดียว สามารถยืนใช้งานหลายๆคนพร้อมกันได้ค่ะ

เข้าไปด้านใน จะมีทางแยกซ้าย-ขวา ซึ่งจะมีอีกฝั่งละ 2 ตัว/จุด รวมกันมีทั้งหมด 6 ตัวค่ะ

สำหรับลิฟต์ที่นี่ ภายในลิฟต์จะไม่มีปุ่มกดมาให้ เราต้องสั่งงานลิฟต์จากภายนอกลิฟต์เท่านั้น ทำให้เวลาเราเกิดเปลี่ยนใจอยากไปชั้นอื่น จำเป็นต้องออกมาด้านนอกก่อนค่ะ ไม่สามารถเปลี่ยนชั้นเองภายในลิฟต์ได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของลูกบ้าน ไปดูกันว่าจะมีห้องอะไรให้ลูกบ้านได้ใช้งานกันบ้างค่ะ

โถงทางเดินกว้าง พื้นถึงฝ้าสูง ภายในตกแต่งเรียบร้อย น่าใช้งานดีค่ะ

ห้องแรกเป็นห้อง River View Lounge มีชุดโซฟาและที่นั่งมาให้ ซึ่งจะได้หน้าต่างสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ทำให้รับแสงและวิวได้เต็มที่ค่ะ

ถัดมาเป็นห้อง Library Room ที่มีโต๊ะประชุมมาให้ สามารถมานั่งทำงานในบริเวณนี้ได้

หรือถ้าใครต้องการใช้ห้องประชุมอย่างจริงจัง จะมีห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับคนได้ประมาณ 20-30 คน สบายๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องฉายโปรเจคเตอร์มาให้ใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งห้องนี้จะรายล้อมด้วยกระจกทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้รับแสงและเห็นวิวได้เต็มที่ค่ะ

มาดูกันที่ห้องสุดท้ายก่อนขึ้นไปชั้นที่ 3 จะเป็นห้อง Private Dining Room ที่เราสามารถเชิญเชฟจาก Banyan Tree มาจัดมื้ออาหารเป็นพิเศษได้ เสมือนมีเชฟมาทำอาหารให้รับประทานริมน้ำที่บ้านค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ออกจากโถงลิฟต์มาจะมี River Facing Jacuzzi ที่หันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา ไว้บริการสำหรับลูกบ้านที่ต้องการนั่งแช่ตัวและชมวิวไปด้วย

สระมีขนาดไม่ลึกมาก เด็กสามารถเดินไปใช้งานได้ ตรงกลางมีที่นั่งมาให้ เราสามารถไปนั่งนวดตัวพร้อมชมวิวแม่น้ำไปด้วยค่ะ

ถ้าเราไม่เล่นน้ำ ด้านหลังมีโซฟาแบบฝังเข้าไปในกำแพงมาให้ เราสามารถมานั่งรอได้ ซึ่งพอมีกำแพงมาช่วยบัง ทำให้สามารถมานั่งแบบส่วนตัวได้เลยค่ะ

ถัดมาอีกนิดมีพื้นที่โล่งกว้าง ซึ่งทางโครงการได้เตรียมเตา BBQ มาให้ไว้บริการ สำหรับลูกบ้านที่ต้องการจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ก็สามารถจองกับทางโครงการได้ค่ะ

ต่อมาที่ห้อง Fitness ที่นี่จะเป็นเครื่องเล่นแบรนด์คุณภาพดี มาให้บริการ แต่มีจำนวนไม่มากนัก เพราะมีจำนวนยูนิตน้อย  โดยรอบเป็นผนังกระจก สามารถออกกำลังกายไปและชมวิวภายนอกไปได้ด้วยค่ะ

เดินออกมามีทางเชื่อมกับอาคารจอดรถที่ชั้นบน ซึ่งเป็นพื้นที่ Facilities ของโครงการค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

เดินมาเราจะเจอสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่สามารถว่ายน้ำไป ชมวิว Icon Siam ได้ด้วย ซึ่งถ้ามีเทศกาลอย่าง Festival ต่างๆ เราก็สามารถเห็นแสง สี เสียง ได้ชัดเจนค่ะ

เดินข้างสระมีบันไดสามารถเดินลงไปข้างล่างได้ ซึ่งทางโครงการได้เตรียมเตียงอาบแดดมาให้ลูกบ้านด้วยนะคะ ถ้าใครชอบผิวสีแทนๆก็สามารมานอนอาบแดดได้ค่ะ บริเวณนี้จะมีกำแพงต้นไม้สูงช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอก ทำให้เป็นส่วนตัวทีเดียวค่ะ

ฝั่งตรงข้ามสระน้ำมีห้อง Banyan Tree Spa Room ที่สามารถจ้างพนักงานจาก Banyan Tree มาให้บริการได้ เสมือนเราอยู่ในโรงแรมเลยนะคะ ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปใช้งานนอกบ้านค่ะ

ออกจากห้องมาแล้ว ด้านนอกมีเตียงนอนที่อยู่ใน Indoor มาให้ ซึ่งโดยรอบจะตกแต่งด้วยผนัง Vertical Garden ทำให้รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว น่าใช้งานดีค่ะ

เดินต่อมาอีกนิดจะเป็น Kids Zone มีสระเด็กแยกใช้งาน ลึกเพียง 60 ซม. เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆค่ะ

เดินออกมาอีกนิดเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ที่ให้เด็กสามารถมาวิ่งเล่นกับเพื่อนๆได้ รวมถึงยังมาจัดกิจกรรมบริเวณนี้ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีห้อง Kids Room ขนาดใหญ่ ที่ไว้ให้บริการอีกด้วย ภายในมีของเล่นเพื่อเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กให้ใช้งาน


พาชมห้องตัวอย่า

โครงการนี้มีห้องทั้งหมด 5 แบบ เริ่มตั้งแต่ 1 Bedroom Room ขนาด 69.40-85.45 ตร.ม. จนถึงห้อง Penthouse Duplex ขนาด 838.70 ตร.ม. รวมถึงยังมีที่จอดแบบ Fix ถึง 200% ซึ่งจะได้จำนวนตามขนาดห้องนะคะ สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 3 Bedroom ที่ขายแบบ Fully Fitted คือ มีเคาร์เตอร์ครัว ชุดตู้ Built in ทั้งหมดภายในห้อง เครื่องปรับอากาศ และสุขภัณฑ์ต่างๆในห้องน้ำครบ ขาดก็แต่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและตกแต่งเพิ่มเติมอีกหน้อยก็เข้าอยู่ได้แล้วค่ะ

ห้อง 3 Bedrooms 5 Baths 1 Maid room ขนาด 245.10 ตร.ม. เริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 26-41 ซึ่งห้องหนึ่งก็กินพื้นที่ไปครึ่งหนึ่งของชั้นเลยทีเดียว ห้องนี้จะใช้ลิฟต์ปีกขวา 2 ตัวที่สามารถขึ้นมาที่ห้องได้ พอขึ้นมาจะไม่มีห้องอื่นเลยค่ะ มีแค่ประตูทางเข้าห้องเราห้องเดียว ทำให้เราไม่ต้องเปิดมาเจอกับเพื่อนบ้าน เพื่อการใช้งานที่เป็นส่วนตัว ภาพรวมมีการแบ่งห้องวางฟังก์ชันได้ลงตัวทีเดียว ซึ่งเราจะวางออกไปด้านนอก ทำให้ทุกห้องได้รับแสงและวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่ค่ะ

เปิดประตูเข้าห้องมาจะมีพื้นที่ Foyer ที่สามารถทำเป็นตู้รองเท้าได้ เดินเข้าไปจะเป็นพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่ ที่สามารถวางโต๊ะกินข้าวสำหรับ 10 ที่นั่งได้สบายๆ รวมถึงยังวางโซฟาชุดใหญ่ได้อีกด้วย ซึ่งบริเวณนี้จะมีหน้าต่าง 2 ฝั่ง ทำให้สามารถเห็นวิวได้ 2 ทิศทาง แต่บริเวณนี้จะไม่มีระเบียงมาให้ ทำให้เราไม่สามารถออกไปสูดอากาศได้ อาจจะต้องไปใช้พื้นที่ในห้องนอนแทนค่ะ บริเวณนี้จะมีห้องน้ำแบบ Power Room มาให้บริการสำหรับแขก จะได้แยกการใช้งานกับเจ้าของห้องนะคะ สำหรับห้องครัวที่นี่จะให้มาทั้ง 2 แบบเลยค่ะ ทั้งแบบครัวฝรั่งเอาไว้เตรียมอาหารเล็กๆน้อยได้ หรือถ้าต้องการทำอาหารจริงจัง จะมีครัวไทยสำหรับแม่บ้านแยกออกมาต่างหาก ภายในมีห้องน้ำและห้องนอนแม่บ้านมาให้อีกด้วย

ส่วนโซนห้องพักอาศัยของลูกบ้าน จะมีทั้งหมด 3 ห้องนอนโดยจะมีห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง และห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งทุกห้องจะสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ พร้อมมีห้องน้ำในตัว ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ด้านใน ทำให้ต้องมีเครื่องดูดอากาศช่วยระบายความชื้นค่ะ ความพิเศษอยู่ที่ห้องนอนใหญ่ จะมีพื้นที่ Walk in Closet และ อ่างอาบน้ำมาให้ ห้องนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ หรือคนที่ชอบพื้นที่กว้างๆขนาดใหญ่มากพอที่จะจัดเลี้ยงปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆได้ รวมถึงคนที่ชอบวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเวลามีเทศกาลต่างๆ เราจะสามารถเห็นแสง สี เสียงได้จากบริเวณนี้เลยค่ะ รวมถึงยังชอบฟังก์ชันและอารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ซึ่งห้องนี้ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์ดีทีเดียวค่ะ

เข้ามาถายในห้องเราจะเจอพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่ พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะทานอาหาร และครัวแบบฝรั่ง ซึ่งห้องนี้จะมีความสูงพื้นถึงฝ้าประมาณ 3.25 เมตร พร้อมกระจกเข้ามุม ที่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ทำให้ได้รับแสงและวิวอย่างเต็มที่ค่ะ

หันกลับมาฝั่งตรงข้ามจะมีชุด Built in ขนาดใหญ่ ที่สามารถวางของ และทีวีขนาดใหญ่ได้ค่ะ

สำหรับครัวฝรั่ง จะมีไอส์แลนด์หินอ่อนตรงกลางขนาดใหญ่แบบนี้เลยนะคะ ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้เต็มที่ พร้อมอ่างล้างจานของ Blanco นำเข้าจากเยอรมันแบบนี้เลยนะ ด้านหลังมีชุด Built in ที่มีเตาอบไฟฟ้าและไมโครเวฟของ Gaggenau ที่นำเข้าจากเยอรมันมาให้อีกด้วย ส่วนชุดเตาไฟฟ้าจะเป็นของ Siemens ที่มาพร้อม Hob & Hood เรามองว่าที่นี่ให้ของมาดีทีเดียว ส่วนด้านข้างมีประตูทางเข้าไปยังห้องครัวไทย ที่สามารถทำอาหารจริงจังได้

ภายในครัวไทยมีชุด Built in ขนาดใหญ่โค้งไปตามโครงสร้างของอาคาร ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า มีเตาไฟฟ้าและอ่างล้างจานมาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างที่สามารถระบายกลิ่นออกไปด้านนอกตัวห้องได้ดี ภายในห้องด้านในมีห้อง Maid Room และห้องน้ำมาให้อีกด้วยนะคะ

นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำแบบ Powder Room ขนาดไม่ใหญ่มากให้สำหรับแขกที่มาบ้านได้ใช้งาน ภายในห้องน้ำไม่มีพื้นที่อาบน้ำ พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้อง พร้อมอ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

เดินออกมาด้านนอกมีโถงทางเดินกว้าง เพื่อแจกจ่ายไปยังห้องนอน

เริ่มจากห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ที่มีขนาดกว้างสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบ หลังจากวางแล้วมีพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้สบายๆ อีกทั้งยังมีหน้าต่างบานใหญ่ ที่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ทำให้รับแสงและวิวได้เต็มที นอกจากนี้ยังมีระเบียงยื่นออกไปใช้งาน ทำให้เราสามารถเดินออกไปสูดอากาศได้ พร้อมระเบียงกระจกเพื่อความปลอดภัยค่ะ

ห้องนอนมีห้องน้ำภายในห้อง ที่มีพื้นที่กว้างแยกส่วนเปียกส่วนแห้งใช้งานชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ พร้อมกระจกสีชา น่าใช้งานทีเดียว

ถัดเข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ จะเจอกับพื้นที่ Walk in Closet ก่อน ที่มีประตูบานเลื่อนกั้นพื้นที่การใช้งานอยู่ ทำให้สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าจากบริเวณนี้ได้เลย

ถัดมาที่ห้องน้ำ มีขนาดใหญ่ มีอ่างล้างหน้ายาว พร้อมอ่างอาบน้ำสามารถนอนแช่ตัวได้

สุดท้ายเป็นห้องนอนใหญ่ ภายในจะสามารถวางเตียงขนาด King Size ได้ พร้อมพื้นที่รอบเตียงเหลือสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ กระจกของโครงการนี้เป็นกระจกหนาพิเศษ ที่สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี รวมถึงยังสามารถป้องกันรังสี UV ได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ถึงห้องจะมีช่องหน้าต่างเยอะขนาดนี้ก็ยังไม่ร้อนและเสียงยังเงียบอีกด้วยนะคะ

ปิดท้ายกันด้วยวิวทางทิศตะวันออก ที่หันออกจากห้องพักอาศัย เราจะได้เห็นวิวแม่น้ำพร้อมวิวเมืองในมุมสูง ซึ่งทางซ้ายมือจะเห็นวัดริมแม่น้ำอยู่ ซึ่งถ้าเลยจากจุดนี้ไปจะเป็นย่านเมืองเก่าจะไม่มีอาคารสูงแล้วค่ะ

อีกฝั่งของตัวห้องได้วิวทางทิศใต้ จะหันไปทาง Icon Siam เราเห็นว่ามีโรงแรมหรูหลายแห่งในย่านนี้ ซึ่งพอมีเทศกาลงานต่างๆ เราจะเห็นแสง สี เสียง รวมถึงพลุ ได้ชัดเจนจากบริเวห้องพักเลยนะคะ ถือว่าเป็นโครงการที่ได้วิวดีมากๆอีก โครงการหนึ่งเลยก็ว่าได้


… จบไปแล้วนะคะ สำรหรับการพาชมโครงการ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok จาก เนอวานา ไดอิ ถ้าเพื่อนสนใจรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้จากเว็บโครงการที่นี่ คลิก

สำหรับรีวิวเจาะลึกฉบับเต็ม หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากให้ทาง Think of living ทำรีวิวเพิ่มเติมพร้อมวิเคราะห์เจาะลึกแบบละเอียด หรือใครมีความเห็นกันว่ายังไง ก็สามารถ comment กันมาได้ด้านล่างนี้เลยนะคะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ