รีวิวฉบับที่ 877…. วันนี้เราจะพาทุกคนไปอัพเดตคอนโดสร้างเสร็จพร้อมแพคกระเป๋าเข้าอยู่กับโครงการ We Condo เอกมัย-รามอินทรา จาก L&T Asset คอนโด Low Rise 5 อาคาร บนถนนใหญ่ประดิษฐ์มนูธรรมหรือถนนเลียบทางด่วนและติดกับตลาดนัดเลียบทางด่วนด้วยนะ ส่วนทางเข้าหลักโครงการอยู่บริเวณทางขึ้นทางด่วนจากถนนรามอินทราก่อนจะถึงซอยนวลจันทร์ ตามมาดูกันค่ะ

Fact @ 15 July 2015 

  • We Condo Ekamai – Ramindra (วี คอนโด เอกมัย – รามอินทรา )
  • บริษัท แอล แอนด์ ที แอสเสท จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางเขน
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร 1,168 ยูนิต และร้านค้า 5 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 390 คันคิดเป็น 33% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
  • ที่ดินประมาณ 11-1-22 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : 2556
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2558
  • Studio 25.87 – 32.98 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • Studio The Deck 33.05 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
  • Studio Deluxe 32.98 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.30 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 33.06 – 37.31 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาทหรือประมาณ 73,100 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 74,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 66,000 – 86,000 บาทต่อตารางเมตร
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 087-107-3131

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.847047 , 100.640595

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลที่ตั้งของโครงการ We Condo อยู่บนย่านชานเมือง อยู่ตรงช่วงโค้งระหว่างถนนรามอินทราและถนนประดิษฐ์มนูธรรมซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่แนวราบ เช่นหมู่บ้านจัดสรรและไม่จัดสรร ทาวน์โฮมต่างๆ ช่วงระยะหลังมานี้ก็เริ่มมีคอนโด Low Rise เกิดขึ้นตามแนวโครงการรถไฟฟ้าสีชมพู ด้วยย่านนี้จะเป็นย่านที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงมีห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์เกิดขึ้นตามไปด้วย ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ค่อนข้างเยอะและหลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้า เช่น Big C, Tesco Lotus, Food Land ให้เดินจับจ่ายซื้อของเลยไปทางพหลโยธินจะเจอ เซ็นทรัล รามอินทรา และถ้าเลยจากเส้นนวมินทร์มาจะเจอ Fashion Island สำหรับช็อปปิ้งเพลินๆในวันหยุด ส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ที่ไว้เดินคูลๆวันหยุดในแถบนี้ก็มี The Walk, The Promenade, The Crystal และ CDC ค่ะ สำหรับโรงพยาบาลที่ใกล้ๆก็มีโรงพยาบาลสินแพทย์อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.3 กิโลเมตร

ทางเข้าของโครงการอยู่บนถนนเลียบทางด่วน อยู่บริเวณทางโค้งที่เดินรถทางเดียวจากจากถนนรามอินทราเพื่อเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือถนนที่เรียกกันจนติดปากว่าถนนเลียบทางด่วนค่ะ ซึ่งสามารถเข้าโครงการได้  2 เส้นทางหลัก คือมาจากทางรามอินทราแล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางขึ้นทางด่วนแต่ให้ชิดซ้ายไว้แล้วตรงมาจะเห็นหน้าทางเข้าหลักจะอยู่ตรงถนนเชื่อมระหว่างถนนรามอินทราและถนนประดิษฐ์มนูธรรม

สำหรับคนที่เดินทางมาจากถนนประเสริฐมนูกิจเมื่อตรงเข้ามาถนนประดิษฐ์มนูธรรมแล้วให้กลับรถก่อนถึงแยกแล้วชิดซ้ายเข้าทางเข้ารองของโครงการได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูในอนาคต สถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด คือสถานีวัชรพล โดยตำแหน่งสถานีขึ้นลงจะอยู่ตรงช่วงรามอินทราซอย 59 กับซอย 61 (จากที่โครงการบอกมานะคะ) และในอนาคตก็จะเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเทา จากสถานีวัชรพลรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะอยู่ในระยะเดินได้ประมาณ 800 เมตรถึงหน้าโครงการ แต่อาจจะต้องรอซักหน่อยนะคะ เนื่องจากตามกำหนดการจะสร้างเสร็จคือปี 2562 และอาจจะมีเลื่อนจากกำหนดการไปอีก

พื้นที่โครงการทางทิศเหนือจะติดกับถนนทางด่วนรามอินทรา ซึ่งมีความสูงประมาณ 4 ชั้นของอาคาร ทิศตะวันออกจะติดกับที่ดินเปล่า ทิศใต้จะติดกับชุมชนโดยเป็นบ้านเดี่ยวสูงไม่เกิน 2 ชั้น และทิศตะวันตกจะติดกับพื้นที่ของตลาดนัดเลียบทางด่วนรามอินทรา ที่เป็นตลาดนัดกลางคืนเปิดขายกันตั้งแต่ 17:00-02.00 น. ทุกวันค่ะ ตลาดนี้แบ่งเป็นโซนต่างๆทั้งของมือสองแนวตลาดคลองถม โซนเสื้อผ้า ของจุกจิกต่างๆ โซนอาหารการกิน ร้านนั่ง ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างครึกครื้นในช่วงกลางคืน

การเดินทางของเราในวันนี้จะเริ่มต้นจากเส้นถนนนวมินทร์ เข้าถนนประเสริฐมนูกิจหรือถนนเกษตร-นวมินทร์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม กลับรถถึงทางเข้าโครงการ

ขออธิบายก่อนว่า ทางเข้าออกโครงการจะมีทางเข้า-ออกได้ 2 ทางด้วยกัน เพราะทางหลักที่เข้าได้จากถนนใหญ่เป็นทางเชื่อมเดินรถทางเดียวจากถนนรามอินทราไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรม แต่สำหรับคนที่ขับรถมาจากประดิษฐ์มนูธรรมต้องกลับรถที่แยกตัดกับถนนรามอินทราแล้วชิดซ้ายเพื่อเข้าทางเข้ารองด้านข้างของโครงการ อาจจะแปลกใจกับรูปข้างบนว่าต้องผ่าตลาดเข้าไปเลยเหรอ ถ้าตอนช่วงไม่มีตลาดก็วิ่งตามเส้นทางนั้นได้เลย แต่ถ้ามีตลาดก็วิ่งตามเส้นสีถนนเส้นนี้เป็นถนนภาระจำยอมซึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ตรงตลาดนัดถ้าในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรก็ตามไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีทางเข้าออกนะคะ เพราะทางโครงการทำเรื่องทางเข้าที่เป็นภาระจำยอมเอาไว้แล้ว

และวันนี้เราจะเริ่มต้นจากเข้าในทางเข้า-ออกรองก่อน และจะขับไปทะลุซอยรามอินทรา 40 เข้าถนนรามอินทราแล้วเลี้ยวเข้าทางเข้าหลักให้ดูกัน ตามไปดูกันเลยค่ะ

จากถนนนวมินทร์มุ่งหน้าไปทางเกษตรศาสตร์

เมื่อเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนประเสริฐมนูกิจ

ตรงเข้ามาที่ถนนประเสริฐมนูกิจแล้ว ตรงมาเรื่อยๆจะเจอโรงเรียนเลิศหล้า สำหรับสภาพการจราจรของถนนประเสริฐมนูกิจนี้จะค่อนข้างติดขัดในช่วงเวลาเร่งรีบทั้งเช้าและเย็น

เราขับตรงมาตามป้ายเกษตรศาสตร์เรื่อยๆ

จนเกือบถึงสี่แยกที่ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรมจึงเบี่ยงเลนชิดขวาตามป้ายรามอินทรา

เลี้ยวขวาเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมเลยค่ะ

ตรงหัวมุมสี่แยกจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ชื่อว่า The Walk ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับ Index Living Mall สาขาเกษตร-นวมินทร์

เลียบถนนประดิษฐ์มนูธรรมจะมีร้านขายต้นไม้ตลอดฝั่งถนนเลยค่ะ

ถนนประดิษฐ์มนูธรรมถ้าตรงไปจะตัดกับถนนรามอินทรา เลยไปจะเป็นถนนวัชรพล

เมื่อเราเห็นปั๊มน้ำมัน ปตท.ฝั่งซ้ายเป็นจุดสังเกตให้เตรียมชิดซ้ายกลับรถได้เลยค่ะ

ตรงไปกลับรถค่ะ อย่าขึ้นสะพานนะคะ

ถึงแยกกลับรถแล้ว

กลับรถมาถึงแล้ว จะเห็นป้ายศูนย์ OTOP รามอินทราเป็นแหล่งกินข้าวได้อีกที่ใต้สะพาน

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอสำนักงานขายโครงการแล้วค่ะ

ถึงแล้วค่ะทางเข้า-ออกรองของโครงการ

ทางเข้ารอง A เป็นถนนภาระจำยอมที่เปิดเป็นช่วงเวลาตั้งแต่ 8.00-15.00 ทุกวันค่ะ หลังจากเวลาดังกล่าวต้องเข้าทางเข้ารอง B ซึ่งวิ่งเลียบบริเวณทางโค้งถนนแล้วไปเข้าที่ทางเข้าหลักของโครงการค่ะ

ถนนภาระจำยอมที่เรากำลังจะขับเข้าไปนี้มีแค่เลนเดียวนะคะ สวนกันไม่ได้ค่ะ ถ้าจะออกไปถนนประดิษฐ์มนูธรรมให้ออกจากทางเข้าหลักค่ะ ส่วนด้านข้างทั้ง 2 ด้านจะเป็นตลาดนัดเลียบทางด่วน

ตรงนี้จะเป็นประตูรั้วทางเข้า-ออกรอง A ค่ะ ทางสีเขียวจะเป็นทางถนนภาระจำยอมนะคะ

มาดูกันต่อกับทางเข้า-ออกหลักกันค่ะ ดาจะไปอ้อมรถกลับโดยเข้าจากถนนนวลจันทร์เลี้ยวซ้ายไปเจอกับซอยรามอินทรา40 แล้วทะลุออกถนนรามอินทรา เพื่อเข้าที่ทางเข้าหลักให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ

การเดินทางจากโครงการถึงเข้าถนนนวลจันทร์ประมาณ 1.2 กิโลเมตร ขับรถมาสบายๆเลยค่ะ

เเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 40 เพื่อไปทะลุออกถนนรามอินทราค่ะ

บรรยากาศของซอยจะเป็นแหล่งชุมชนมีออฟฟิศประปราย ทำให้มีของกินตลอดทาง

ทะลุออกมาที่ถนนรามอินทราแล้ว เบี่ยงซ้ายไปทางทางด่วนพระราม 9 – เอกมัย บางนา – ดาวคะนอง

ตรงมาเรื่อยๆแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางด่วน

พอเลี้ยวมาแล้วก็ไม่ต้องตกใจว่าจะขึ้นทางด่วนนะคะ ให้ชิดซ้ายไว้แล้วขับตรงเข้ามาประมาณ 550 เมตร จะถึงหน้าทางเข้าโครงการหลักแล้วค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Food Land รามอินทรา ~ 2.5 กิโลเมตร
  • The Walk / Index Living Mall ~ 2.5 กิโลเมตร
  • Big C รามอินทรา ~ 3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ~ 3.3 กิโลเมตร
  • Central รามอินทรา ~ 5 กิโลเมตร
  • The Promenade และ Fashion Island ~ 5 กิโลเมตร
  • CDC และ The Crystal ~ 5.5 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

เริ่มจากการวางผังโครงการกันก่อนนะคะ โครงการ We Condo เป็นลักษณะกลุ่มอาคาร 5 อาคารโอบล้อมส่วนกลางเอาไว้ การวางอาคารให้ล้อมรอบสระว่ายน้ำและสวนสาธารณะแบบนี้จึงเป็นการสร้างบรรยากาศและทัศนียภาพที่สวยงามให้กับโครงการได้ดี

ร้านค้า ฟิตเนสและ Lobby Lounge จะอยู่ที่อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารด้านหน้าสุด ดังนั้นอาคาร A จะค่อนข้างครึกครื้นและมีคนเข้าออกเยอะกว่าหากเทียบกับอาคาร C,D ที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า จากรูปผังโครงการส่วนที่แคบที่สุดอยู่ตรงระยะความห่างระหว่างอาคาร C และ D มีความห่างประมาณ 15 เมตร ในระยะนี้ไม่ได้ใกล้จนถึงกับเสียความเป็นส่วนตัวถ้าเราจะมาใช้พื้นที่บริเวณระเบียง แต่ก็ยังอยู่ในระยะสายตาที่มองเห็นได้ค่ะ

การจัดวางพื้นที่จอดรถของโครงการ คือวางที่จอดรถอยู่รอบๆกลุ่มอาคาร ใครอยู่อาคารไหนก็สามารถจอดอาคารนั้นได้เลยไม่ต้องเสียเวลาเดินไกล ที่จอดรถยนต์ในโครงการสามารถจอดได้ 390 คัน หรือ 33% ของทั้งโครงการ ถ้ารวมที่จอดรถแบบซ้อนคันก็จะได้ 40% ของทั้งโครงการ แต่ด้วยที่ตั้งโครงการเหมาะกับคนที่โดยสารด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่จอดรถก็อาจไม่เพียงพอได้เหมือนกัน

จากหน้าทางเข้าหลักของโครงการ We Condo ซึ่งอยู่ติดกับถนนเชื่อมถนนรามอินทราและถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตอนนี้หน้าทางเข้ากำลังติดตั้งจุดกั้นเข้า-ออกรถ ด้านขวามือจะเป็นป้อมยามค่ะ ตอนเข้าไปเก็บข้อมูลทางโครงการยังสร้างไม่เสร็จดีนะคะดังนั้นจะเห็นว่ายังมีการเก็บงานในหลายๆส่วนอยู่ค่ะ

หันออกมาด้านนอกโครงการ ถนนด้านขวาเป็นถนนทางโค้งเชื่อมถนนรามอินทรา-ประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเดินรถทางเดียว ดังนั้นเมื่อทางเข้ารอง A ปิดแล้ว ก็ต้องขับเลาะด้านขวาเลียบโครงการเข้าทางเข้าหลักค่ะ

ในส่วนของถนนภายในโครงการจะเป็นแบบวิ่งทางเดียวนะคะ

เข้ามาที่ส่วน Lobby ของอาคาร A ภายใน Lobby มีส่วนเคาน์เตอร์ต้อนรับและด้านในจะเป็นออฟฟิศสำหรับเจ้าหน้าที่โครงการ

บรรยากาศและการตกแต่งภายในโถงเรียบง่ายสะอาดตา มีโซฟาและที่นั่งเล็กน้อยไว้ต้อนรับ

ทางเดินถัดมาจะเป็นโถงเล็กๆแจกไปยังโถงลิฟท์เข้าอาคาร ห้องจดหมาย และออกไปในส่วนกลางของโครงการ

โครงการมีการกั้นห้องจดหมายเป็นสัดส่วนชัดเจน

โครงการใช้ระบบสเเกนบัตรขึ้นอาคารจากบริเวณโถงลิฟท์ โดยประตูจะเป็นกระจกบานเปิด 2 ด้าน ประตูหลักจะเป็นประตูใหญ่กว่า หากใครจะต้องขนของขนาดใหญ่ก็เปิดประตูเล็กได้ค่ะ

เดินทะลุอาคารมาด้านหลังจะเป็นทางไปยังสาธารณูปโภคต่างๆซึ่งตรงนี้จะมีทางเดินสบายกว้างขวาง ฝั่งผนังมีการตกแต่งระแนงสีน้ำตาลเชื่อมไปถึงฝ้าเพดาน ส่วนฝั่งซ้ายของทางเดินจะมองเห็นสวนและสระว่ายน้ำโครงการค่ะ แนะนำว่าถ้ามีโซฟาหรือชุดเก้าอี้นั่งตรงบริเวณนี้ ก็ชิลดีนะคะ ^^ เดินตรงไปที่ด้านหน้าจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ

เดินไปส่องภายในห้องฟิตเนสจะมีกระจกเงา 1 ด้านติดผนัง และอีก 3 ด้านเป็นกระจกใสมองทะลุไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ พื้นห้องจะเป็นพื้นยางลายไม้สลับสีเข้มอ่อน ตอนนี้ยังไม่มีการวางเครื่องออกกำลังกายทำให้ยังไม่สามารถระบุจำนวนเครื่องเล่นได้ว่าเพียงพอไหม ขนาดห้องฟิตเนสถือว่ากว่างอยู่เหมือนกัน แต่หากเทียบกับจำนวน 1,168 ยูนิตกับห้องฟิตเนสนี้ คงต้องแบ่งเวลากันมาใช้งานหน่อยนะคะ

สระว่ายน้ำของโครงการจะใช้เป็นระบบคลอรีน สระมีขนาดยาวถึง40เมตรเลยค่ะ

ขอบสระโรยกรวดหินตกแต่ง มีการทำขั้นบันไดในการเดิน-ลงสระได้สะดวก

ด้านข้างสระวาง Day Bed ไว้อาบแดด

บริเวณ Shower กลางแจ้งไว้ล้างตัวก่อน-หลังเล่นน้ำ

ทางเดินทรายล้างริมสระว่ายน้ำกับบรรยากาศร่มรื่นใต้เงาไม้  ปลายสุดของทางเดินก่อนเข้าไปยังอาคาร C และ D จะเป็นจุดที่แคบที่สุดระหว่างตึกโดยมีระยะห่างระหว่างจุดที่แคบที่สุดคือ 8 เมตร 

หันกลับมามองได้มุมทัศนียภาพสวยๆ จากอาคารที่โอบล้อมต้นไม้เขียวๆและสระว่ายน้ำสีฟ้า ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ระยะระหว่างอาคารกว้างที่สุดประมาณ 27 เมตร ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งสบายขึ้นเยอะ

พื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคาร B กับ C และ D กับ E ออกแบบ Landscape ให้มีลูกเล่นระหว่างทางเดิน สระน้ำพุ และสวน เส้นสายของทางเดินที่คดเคี้ยวเพิ่มระยะทางการเดินชมสวนพักผ่อนได้มากขึ้นด้วย

มาถึงตรงสวนสาธารณะที่อยู่ติดกับอาคาร C และ D ด้านข้างปลูกไม้ยืนต้นเรียงไปตามแนวอาคารเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ในส่วนห้องพัก และบังสายตาจากสวนสาธารณะกับห้องพักอาศัยชั้น 1 ได้ด้วยค่ะ

เดินเข้ามาใกล้ๆจะสัมผัสกับบรรยากาศร่มรื่น พื้นที่ระหว่างห้องพักกับสวนสาธารณะมีต้นไม้และบ่อน้ำพุเล็กๆ การที่มีบ่อน้ำตรงนี้จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับยูนิตชั้นล่างได้เยอะมาก เพราะคนที่มาใช้งานส่วนนี้จะไม่สามารถเข้าไปใกล้ห้องพักได้มากนัก

บรรยากาศตอนเปิดบ่อน้ำพุ ด้านหลังมีม่านน้ำตกด้วยแหละ

ระยะห่างระหว่างตึกที่ใกล้ชิดกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหานะคะ เพราะไม่ได้มีห้องพักที่มีระเบียงอยู่ด้านข้าง ด้านข้างอาคารจะเป็นโถงทางเดินค่ะ

ก่อนจะเข้าดูในอาคาร มาดูผังของอาคารกันค่ะ สำหรับอาคาร A มี 24 ยูนิตต่อชั้น ในอาคาร A มีจำนวนห้องทั้งหมด 172 ห้อง อัตราส่วนลิฟท์ต่อจำนวนห้อง 86:1 ไม่หนาแน่นมากเกินไปค่ะ และตำแหน่งลิฟท์ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงกลางทำให้ห้องที่ไกลสุดมีระยะเดินประมาณ 40 เมตรค่ะ

ในส่วนของอาคาร B-E ชั้นล่างของอาคารจะแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคาร ห้องชั้นล่างจะเป็นห้อง 1 Bedroom แบบหน้าแคบลึกค่ะ

ชั้นบนจะมี 34 ยูนิตต่อชั้น รวม 250 ยูนิต ซึ่งอัตราส่วนระหว่างลิฟท์ต่อจำนวนห้องจะเป็น 125:1 ทำให้อาคาร B-E มีความหนาแน่นมากกว่าอาคาร A มากทีเดียว

ขึ้นมากันที่ตัวอาคารกันค่ะ เริ่มจากโถงลิฟท์มีการตกแต่งหน้าลิฟท์เป็นกระเบื้องแกรนิต

ทางเดินกว้างประมาณ 2 เมตร ระยะพอเดินสวนกันได้กำลังดี

เดินขึ้นมาดูทัศนียภาพบนดาดฟ้าอาคารในแต่ละทิศกันนะคะ บอกด้วยว่ารูปที่มาลงถ่ายจากตึกไหน

ด้าน A หรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะมองเห็นทางด่วนรามอินทรา บ้านและตึกไกลออกไปค่ะ

ด้าน B หรือทิศเหนือ เห็นทางด่วนรามอินทราเหมือนกัน มีบ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์ถัดออกไป

ด้าน C หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือมองไปทางด้านถนนรามอินทรา

ด้าน D หรือทิศตะวันออกค่ะ

ด้าน E หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้มองไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม มุมนี้เห็นอาคารสูงอยู่ไกลๆ

โดยรวมแล้วพื้นที่โดยรอบไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพค่ะ สำหรับด้าน A-C หรือทิศเหนือจะติดกับทางด่วนรามอินทรา จะมีฝุ่นควันถนนและบรรยากาศอาจจะไม่ร่มรื่นมากเท่าทิศอื่นๆ ถ้าอยู่ในทิศนี้แนะนำให้ปลูกไม้ประดับไว้ที่ระเบียงกันให้มีพื้นที่สีเขียวได้เห็นเล็กๆน้อยๆสบายตาดีค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน
  • ห้องออกกำลังกาย
  • สวนสาธารณะกลางโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 117.2 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 86:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B-E 125:1
  • ที่จอดรถ 390 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน 33%  ของทั้งโครงการ และคิดเป็น 40% ของทั้งโครงการ รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

มาดูห้อง Studio ของ We Condo กันค่ะ ขนาดพื้นที่ใช้สอยจะมีตั้งแต่ 25.87 – 32.98 ตารางเมตร มีจำนวนทั้งหมด 539 ยูนิต ห้องขายแบบ Fully Furnished แบ่งโซนพื้นที่เป็น 4 โซน คือ ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวซึ่งในส่วนนี้โครงการมี Pantry แบบ Built-in ให้ หันมาทางด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน ในโซนอาบน้ำฝักบัวจะมีประตูบานเลื่อนใสกั้นไว้ ตรงเข้ามาจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง โต๊ะเป็นโต๊ะกลมแยกไม่เชื่อมติดกับ Pantry มีโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมชุดโต๊ะกลมขนาดเล็ก ถัดมาจะเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มีตู้เสื้อผ้าและที่วาง TV แบบ Built-In สังเกตว่าตำแหน่ง TV จะอยู่ตำแหน่งตรงกลางระหว่างเตียงนอนและโซฟาไม่ตรงกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทำให้ดู TV ไม่ถนัด ส่วนที่ติดริมหน้าต่างจะเป็นส่วนโต๊ะทำงาน และระเบียงสำหรับซักล้างค่ะ

หน้าประตูทางเข้า ด้านซ้ายจะเป็น Pantry ขวาจะเป็นห้องน้ำ ตรงเข้าไปจะเป็นส่วนห้องนอนค่ะ

โซนครัว มีพื้นที่วางตู้เย็นและ Pantry

ลักษณะ Pantry จะเป็นบานเปิดและลิ้นชักแบบ Soft Close

ลิ้นชักด้านบนจะเป็นที่วางช้อน ส้อมและตะเกียบ

ด้านล่างมีที่วาง Microwave และลิ้นชักวางอุปกรณ์ครัว หรือของจิปาถะได้ค่ะ

Top ครัวเป็นแกรนิตมีคิ้วปิดส่วนผนังทำให้ดูสวยงาม แนะนำให้ด้านหลังติดเซรามิกหรืออะคลิลิกเพื่อง่ายต่อการทำความสะอาดไม่เลอะผนัง

อ่างล้างจานเป็นสแตนเลสช่องหลุมอ่างเดียวของ Teka ขนาดของอ่างไม่ใหญ่มากนักล้างจานน้ำกระเด็นออกได้ง่าย

ลักษณะสวิตช์เปิด-ปิดไฟ

เข้ามาดูกันที่ห้องน้ำค่ะ ในห้องน้ำแบ่งเป็น โซนเปียกและโซนแห้งชัดเจน ในโซนแห้งด้านซ้ายจะเป็นโถสุขภัณฑ์ ขวาเป็นอ่างล่างมือ ด้านในจะมีซอกเอาไว้สำหรับวางตะกร้าผ้าก็ได้ค่ะ ราวตากผ้าอยู่ด้านขวา ผนังตรงโซนเปียกตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกคลุมโทนขาว-เทา-ดำ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ยี่ห้อ American Standard ทั้งหมด

ภายในห้องน้ำด้านขวา ประกอบไปด้วยอ่างล่างมือทรงสี่เหลี่ยม ตู้กระจก ราวแขวนผ้า

Top เคาน์เตอร์เป็นหิน White Calara เคาน์เตอร์ฝัง American Standard ด้านข้างมีพื้นที่วางสบู่ล้างมือ ผนังส่วนนี้มีเต้าเสียบให้ สำหรับสาวๆไดร์ผมในห้องน้ำ หรือหนุ่มๆใช้ที่โกนหนวดไฟฟ้าได้สบายๆ

ขนาดของอ่างล่างมือเทียบกับขนาดมือค่ะ

ตู้กระจก Buit-In ติดผนัง มีบานเปิด 2 ฝั่ง ไว้สำหรับเก็บของใช้ได้ค่ะ

ตู้ด้านล่างเคาน์เตอร์เป็นไม้บานเปิด โดนน้ำอาจมีอาการบวมได้นะคะ ในส่วนนี้สามารถวางอุปกรณ์ล้างห้องน้ำได้ค่ะ

ฝั่งโถสุขภัณฑ์ ความกว้างประมาณ 90 เซนติเมตร มีสายฉีดชำระ (ผิดฝั่ง เวลาใช้ไม่ถนัดนะ) และที่แขวนกระดาษชำระ

ในโซนอาบน้ำ ไม่มีที่วางสบู่ให้ อาจจะต้องซื้อที่แขวน ไว้วางสบู่ แชมพู

ลักษณะและขนาดฝักบัวตามรูปค่ะ

ท่อระบายน้ำ หรือ Floor Drain มีทั้งโซนเปียกและโซนแห้ง

มีการยกธรณีประตูขึ้นกันน้ำไหลออก แต่ระดับพื้นเท่าเดิมค่ะ

ก่อนที่เข้าส่วนพักผ่อนและห้องนอน มีบานเลื่อนกระจก 3 ชั้น แบ่งขอบเขตไว้ บานกระจกนอกจากจะช่วยแบ่งโซนให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นแล้ว ก็ทำให้ห้องดูโล่งไม่อึดอัดค่ะ

ลองเลื่อเปิดกระจกบานเลื่อน จะเป็นลักษณะแบบนี้ค่ะ

รางด้านล่างของกระจกบานเลื่อน อ้อ พื้นในครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดดีค่ะ ถัดเข้ามาในส่วนห้องนอนจะเป็นพื้นลามิเนต 8 มิลลิเมตร

เข้ามาในส่วนของห้องนอนแล้วค่ะ จะประกอบด้วย ส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหาร พื้นที่ทำงานริมหน้าต่าง และก็เตียงนอนขนาด 5 ฟุตค่ะ

ด้านนี้จะมี โต๊ะกลมรับประทานอาหารและเก้าอี้อีก 2 ตัว ที่วาง TV และตู้เสื้อผ้าค่ะ

ลักษณะโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหารค่ะ

ชุดที่วาง TV แบบ Built-In เป็นตู้บานเลื่อนสำหรับวางซีดี เครื่องเล่น DVD หรือของใช้จุกจิกได้ ด้านบนเป็นชั้นวางหนังสือหรือรูปถ่ายสวยๆตั้งโชว์

บานเลื่อนได้ทั้ง 2 บาน ด้านล่างเป็นช่องว่างเสื้อผ้ากางเกง ไม่มีลิ้นชักให้ค่ะ

ที่จับตู้เสื้อผ้าเป็นอลูมิเนียม

ถัดมาจะเป็นด้านนี้จะติดกับหน้าต่างและระเบียง เป็นที่วางโต๊ะทำงาน

โต๊ะทำงานเป็นโต๊ะขนาดเล็ก พร้อมชุดเก้าอี้ ซ้ายมือจะเป็นโต๊ะหัวเตียงค่ะ ใครที่โต๊ะไม่พอวางก็ไปวางที่โต๊ะหัวเตียงได้นะ 55

มีลิ้นชักใส่หนังสือและอุปกรณ์ต่างๆ

เก้าอี้กับโต๊ะนี้ อาจจะนั่งลำบากหน่อย เพราะด้านข้างเก้าอี้ชนกับโต๊ะไม่ลอดได้โต๊ะ ดังนั้นเวลาเรานั่งหลังจะไม่พิงกับผนังเก้าอี้พอดี ทำให้นั่งไม่ค่อยสบายค่ะ

หันหลังกลับมาจะเห็นโซฟาอยู่ติดกับผนังห้องน้ำ

โซฟาจะมีขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลมกลางเข้าชุดค่ะ

สุดท้ายคือส่วนระเบียงค่ะ บานเลื่อนกระจก ตัวล็อกมาตรฐานตามภาพเลยค่ะ

บริเวณซักล้างขนาด 1.85 x 1.15 ปูด้วยกระเบื้อง 30 x 30 เซนติเมตรด้านนอกล้อมด้วยทรายล้าง

วางคอมเพรสเซอร์เเอร์หันเข้าด้านข้างของระเบียง ตากผ้าแห้งง่ายเลยค่ะ ^^ ด้านล่างคอมเพรสเซอร์เป็นที่วางเครื่องซักผ้าค่ะ

มาดูกันที่ห้องมาตรฐานจริงกัน ส่วนประตูหน้าห้องมีมือจับเป็นอลูมิเนียม และตาแมว

ธรณีประตูใช้วัสดุเป็นกระเบื้องแกรนิตปูสูงขึ้นมา

ประตูด้านในจะมีตัวล็อกแสตนเลสเพิ่มมาให้ด้วย

สวิชต์เปิด-ปิดไฟ ยี่ห้อ Haco

ตู้ Consumer Unit อยู่ด้านบนติดกับประตูทางเข้า

ตู้เย็นที่ให้ขนาด 6.8 คิวบิกฟุต ซึ่งเล็กกว่าที่โชว์ในห้องตัวอย่างนะคะ ส่วน pantry ครัว อ่างล้างจาน และบานเลื่อนกระจกเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำเหมือนกับห้องตัวอย่างค่ะ แต่ตำแหน่งที่แขวนผ้าเปลี่ยนไปวางตรงผนังกระเบื้องเซรามิคแทน

เต้าเสียบข้างอ่างล่างหน้าเป็นแบบกันน้ำช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากไฟฟ้าได้มากขึ้นกว่าห้องตัวอย่างที่เป็นแบบธรรมดาค่ะ

แต่จำนวนเต้าเสียบเหลือที่เสียบได้แค่อันเดียวนะ

ธรณีประตูและธรณีตรงที่อาบน้ำใช้กระเบื้องหินแกรนิตปูขึ้นมาค่ะ แต่ระดับพื้นทั้งหมดเป็นระดับเดียวกัน

ภายในห้องนอนเฟอร์นิเจอร์เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมดค่ะ

ห้องมาตรฐานวางโซฟาหันหน้าไปทางหน้าต่าง ใครจะเลื่อนให้หันหน้าไปทาง TV เหมือนห้องตัวอย่างก็ไม่ว่ากันค่ะ

ส่วนระเบียงลดขั้นลงมาเพื่อกันน้ำเข้าห้อง พื้นเหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ตรงบริเวณที่วางเครื่องซักผ้า มีก็อกสนาม และเต้าเสียบแบบกันน้ำให้ค่ะ

 

 

ห้องถัดมาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง  33.06-37.31 ตารางเมตร มีทั้งหมด 589 ยูนิต ทั้งโครงการ ขายแบบเดียวกันกับห้อง Studio คือ Fully Furnished ภายในห้องแบ่งออกเป็น 5 โซนหลักๆ คือ ครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และระเบียงค่ะ เข้ามาในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ครัว หรือ Pantry ด้านขวาจะเป็นห้องน้ำ แยกโซนเปียกและแห้ง เหมือนกับห้อง Studio ต่อมาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร พื้นที่ด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน, พื้นที่ทำงานและระเบียงค่ะ ดูจากในรูปนะคะจะเห็นว่าพื้นที่ส่วนที่ยื่นติดกับระเบียงและมีหน้าต่างนั้นไม่มีการวางเฟอร์นิเจอร์ให้ ดาแนะนำว่าเอาโต๊ะเก้าอี้ทำงานไปวางในส่วนนั้นเหมือนกับห้อง Studio เลยค่ะ แล้วพื้นที่ทำงานเปลี่ยนไปติดที่วาง Built-In TV ในห้องก็ได้ค่ะ

เข้ามาในห้องแบบ 1 Bedroom กันเลยค่ะ

พื้นห้องส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ

ลักษณะเคาน์เตอร์และที่พื้นที่วางตู้เย็นเหมือนกับห้อง Studio เลยค่ะ

ส่วนที่เพิ่มเติมคือเตาไฟฟ้ายี่ห้อ Teka 2 หัวและเครื่องดูดควัน โดยเป็นระบบแบบหมุนเวียน ก็แนะนำว่าอย่าทำกับข้าวที่เป็นครัวร้อนเพราะระบายกลิ่นอาหารไม่ดีเท่าไหร่นัก

มาต่อกันที่ส่วนห้องน้ำค่ะ ลักษณะและยี่ห้อสุขภัณฑ์เหมือนกับห้อง Studio ค่ะ

ตำแหน่งสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระห้องนี้วางได้ถูกฝั่งทำให้ใช้ได้สะดวกกว่าห้องที่แล้ว

ส่วนอ่างล้างหน้า ตู้กระจก เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเหมือนกับห้อง Studio ค่ะ

บานเลื่อน พร้อมราวจับอลูมิเนียม การเปิด-ปิดแบบนี้นำมาใช้พื้นที่ที่แคบได้ดีค่ะ

รอยต่อระหว่างกระเบื้องส่วนครัวและลามิเนตส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ

หันกลับมาจะเป็นส่วนโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ 2 ตัว โต๊ะกลมสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ใต้โต๊ะให้เก้าอี้ได้ค่ะ สังเกตว่าระยะระหว่าง Pantry โต๊ะรับประทานอาหาร และชั้นวาง TV Buit-In ค่อนข้างแน่น ไม่มีพื้นที่ให้เลื่อนเก้าอี้นั่งกินข้าวสบายๆ

รูปนี้จะเห็นระยะความใกล้ชิดของเก้าอี้กับชั้นวาง TV ได้ชัดเจนขึ้น จะดีมากเลยถ้าสามารถขยับชั้นวาง TV ไปด้านซ้ายอีกหน่อย

ชั้นวาง Built-In ติดกระจกในส่วนนี้ ห้องมาตรฐานจริงไม่มีให้นะคะ

โซฟา 3 ที่นั่ง ที่วางขา และโต๊ะกลางในส่วนนี้มีในห้องมาตรฐานนะคะ ระยะที่วางโซฟาวางสบายๆมีพื้นที่ด้านข้างเหลืออีก จะ Built-In โต๊ะตามห้องตัวอย่างก็สวยดีนะคะ

หันกลับมา สังเกตว่าระยะระหว่าง TV และโซฟา ประมาณ 2 เมตร อยู่ในระยะเหมาะสมในการดู TV เลยวางทีวีขนาด 46″ ได้เลยค่ะ

ก่อนจะเข้าห้องนอน จะเจอกับบานเลื่อนกระจกที่เลื่อนได้ฝั่งเดียว และบานFixed ฝั่งซ้ายค่ะ

ลองเลื่อนเปิดให้ดู ข้อดีของบานเลื่อนกระจกคือแสงสว่างข้างนอกห้องสามารถส่องมาถึงห้องนั่งเล่นได้เล่นในตอนกลางวันไม่เปลืองค่าไฟ แต่ในขณะเดียวความเป็นส่วนตัวของห้องนอนก็จะขาดหายไปด้วยเช่นกันค่ะ แนะนำว่าอาจจะแปะฟิล์มสีขุ่นสักครึ่งบานก็เพิ่ม Privacy ให้กับห้องนอนมากขึ้นนะ

ลักษณะมือจับประตูบานเลื่อน

รางประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ

เข้ามาที่ห้องนอนกัน

ระยะความกว้างของทางเดินประมาณ 1 เมตรค่ะ เดินได้สบายๆ

ส่วนทางเดินนี้ความกว้างประมาณ 0.60 เมตรค่ะ ตามขนาดโต๊ะหัวเตียงเลย

โต๊ะหัวเตียงมีลิ้นชักเก็บของได้ค่ะ

ถัดมาที่ทางเดินนี้มีระยะ 0.60 เมตร เช่นกันค่ะ

หันมาจากด้านเตียงจะเป็นโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าแบบเดียวกันกับห้อง Studio ค่ะ

เก้าอี้ก็ติดโต๊ะเหมือนเดิมค่ะ

ฝั่งหน้าต่างในห้องตัวอย่างจะวางโซฟา 2 ที่นั่ง เป็นมุมนอนเล่นอ่านหนังสือชิลๆริมหน้าต่างได้ แต่ในห้องมาตรฐานจริงไม่มีนะคะ ใครสนใจอยากมีพื้นที่น่ารักๆไว้อ่านหนังสือเล่นก็ซื้อโซฟามาเพิ่มค่ะ

มีกระจกบาน Fixed ด้านข้างด้วยนะ

ขนาดของกระจกบาน Fixed กว้างประมาณ 0.60 เมตร

พื้นระเบียงเหมือนกับห้อง Studio ค่ะ ราวจับเป็นเหล็กทาสีขาว

การวางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็หันข้างเข้าระเบียงเช่นเดียวกัน

มาดูกันที่ห้องมาตรฐานค่ะ ส่วนที่เพิ่มเติมคือการเก็บรอยต่อระหว่างกระเบื้องและลามิเนตด้วย

ส่วนนั่งเล่นในห้องมาตรฐานค่ะ เฟอร์นิเจอร์เหมือนกับห้องตัวอย่างเลย

ส่วนห้องนอนมีเฟอร์นิเจอร์เหมือนห้องตัวอย่างยกเว้นโซฟา 2 ที่นั่งริมหน้าต่างที่ไม่มีให้นะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 July 2015 

  • Studio อาคาร C ชั้น 4 ห้อง 421 เนื้อที่ 25.87 ตร.ม. ราคา 1.94 ล้านบาท หรือ 74,990 บาท/ตร.ม.
  • Studio อาคาร E ชั้น 6 ห้อง 634 เนื้อที่ 32.83 ตร.ม. ราคา 2.81 ล้านบาท หรือ 85,600 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 3 ห้อง 303 เนื้อที่ 33.93 ตร.ม. ราคา 2.69 ล้านบาท หรือ 79,281 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom อาคาร E ชั้น 6 ห้อง 634 เนื้อที่ 32.83 ตร.ม. ราคา 2.81 ล้านบาท หรือ 85,600 บาท/ตร.ม.
  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 5,000-10,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000-40,000 บาท
  • ค่ากองทุน 400 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

สรุปเครื่องใช้ตกแต่งภายในห้องชุดแบบ Studioและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้ค่ะ

  • เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนแบบติดผนัง Sumsung หรือเทียบเท่า
  • ชุดครัวสำเร็จรูปพร้อมอ่างล่างจานและก็อกเปิด-ปิด ของ Modernform หรือเทียบเท่า
  • โซฟา 2 ที่นั่ง 1 ตัว ของ Modernform
  • โต๊ะกลาง 1 ตัว ของ Modernform
  • ตู้เสื้อผ้าตามแบบมาตรฐานโครงการ 1 ตู้ ของ Modernform
  • เตียง ขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมฟูก)  1 หลัง ของ Modernform
  • โต๊ะหัวเตียง 1 ตัว
  • โต๊ะทำงาน 1 ตัว และเก้าอี้ 1 ตัว

ส่วนห้องแบบ 1 Bed สิ่งที่ได้เพิ่มจาก Studio คือ

  • เตาไฟฟ้า 2 หัว
  • เครื่องดูดควัน
  • เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนแบบติดผนัง Samsung หรือ เทียบเท่า ในห้องนอน
  • โซฟา 3 ที่นั่ง 1 ตัว (ห้องStudio เป็นโซฟา 2 ที่นั่ง)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลที่ตั้งของโครงการ We Condo ตั้งอยู่บนช่วงโค้งจากถนนใหญ่ทั้งสองเส้นคือถนนประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา มีทางเข้า 2 ทางเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ลูกบ้าน โดยทางเข้าหลักอยู่ติดกับทางด่วนรามอินทราที่เป็นถนนเชื่อมประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา ทางเข้ารองเป็นถนนภาระจำยอมสามารถเข้าได้จากถนนประดิษฐ์มนูธรรมเลย ด้วยการเข้าถึงโครงการที่เข้าได้ทั้ง 2 ทางจึงตัดปัญหาการวนอ้อมกลับรถไกล หากเดินทางมาจากเส้นประดิษฐ์มนูธรรม

การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นการเดินทางที่สะดวกสำหรับโครงการนี้ เพราะสามารถขับออกไปได้ในหลายเส้นทาง ทั้งเส้นประดิษฐ์มนูธรรมหรือจะขึ้นทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา สามารถขับจากหน้าโครงการก็ถึงทางขึ้นและจุดกลับรถไม่ต้องอ้อมไกลมากนัก การเข้าเมืองไปทางเอกมัย ทองหล่อ หรือสุขุมวิทก็มีให้ใช้ทั้งทางปกติและทางด่วน ถ้าเป็นทางปกติก็ใช้ถนนประดิษฐ์มนูธรรมวิ่งตรงยาวๆลงมาทะลุพระราม 9 เพชรบุรี เข้าเอกมัยได้เลย

การเดินทางแบบสาธาณะ ไม่พึ่งรถยนต์ส่วนตัว ค่อนข้างลำบากในการเดินทางจากป้ายรถเมล์ก็อยู่ไกลเกินกว่าที่จะเดินเข้าโครงการได้ จะมีก็แต่รถสองแถวที่ผ่านหน้าโครงการหรือทางเลือกสุดท้ายคือเรียกแท็กซี่หน้าโครงการเลยค่ะ มองไปในอนาคตอีกสัก 5-6 ปี (น่าจะ)มีรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูเกิดขึ้นบนถนนรามอินทราแล้วนะ ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสถานี วัชรพล โดยสถานีวัชรพลนี้ยังเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเทาในอนาคตด้วยค่ะ อดทนรอต่อไปอีกนานหน่อยการเดินทางแบบสาธารณะแถวนี้ก็น่าจะสะดวกขึ้นเยอะเลย แต่ตอนนี้ก็ใช้ระบบขนส่งอื่นๆไปก่อนนะคะ

มาต่อการที่ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ อยู่ใกล้แหล่งศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์มากมาย อย่าง The Walk, Central รามอินทรา, The Promenade, Fashion Island, CDC, The Crystal เป็นต้น หากจะเดินซื้อของใช้เข้าบ้านก็มี Food land, Tesco Lotus และ Big C ที่อยู่ในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตร และตลาดตอนกลางคืนที่เปิดแทบทุกวันอย่างตลาดนัดเลียบทางด่วนก็อยู่ติดกับที่ตั้งโครงการไปเดินเล่นได้สบายๆ

วัสดุที่โครงการให้มาแบบ Fully Furnished นั้นถือว่าค่อนข้างดี มาตรฐานของเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดที่ใช้ของ Modernform, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard, ฉากกั้นอาบน้ำ, แอร์ครบทุกห้อง, Top อ่างล้างมือที่เป็นหินแท้ และTop เคาน์เตอร์ครัวที่เป็นแกรนิต, วัสดุปูพื้นที่แยกพื้นที่ครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดมากกว่าหากปูเป็นลามิเนตทั้งห้อง ได้ฉากกระจกกั้นห้องนอน (แบบ 1 Bed)

การออกแบบหรือจัดวางผังโครงการ มีลักษณะวางกลุ่มอาคารโอบล้อมส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะเป็นการสร้างทัศนียภาพให้สวยงามขึ้นตามแบบฉบับการวางผังทั่วไป ซึ่งก็ตอบโจทย์กับทำเลที่ตั้งโครงการที่ทิศเหนือติดกับทางด่วนอาจมีเสียงรบกวนจากรถยนต์บ้าง กับทิศตะวันตกที่มีตลาดนัดอาจมีเสียงรบกวนช่วงหัวค่ำ แต่ทิศอื่นๆก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องบังวิว ความหนาแน่นของอาคารนั้น อาคาร A มีอัตราส่วนลิฟท์ที่ 86:1 เทียบกับอาคาร B-E ที่อยู่ที่ 125:1 ค่อนข้างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนและเห็นได้ชัดว่าอาคาร B-E ค่อนข้างหนาแน่นพอสมควรเลยทีเดียว

ส่วนการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง Studio ค่อนข้างลงตัวและเป็นสัดส่วน บานเลื่อนกระจกที่กั้นส่วนครัวและห้องนอนนั้นทำให้ห้อง Studio เป็นสัดส่วนฟังก์ชั่นชัดเจนมากกว่าห้อง Studio ปกติและยังรู้สึกโปร่งโล่งมากกว่ากั้นกำแพงเจาะช่องประตู แต่จะมีปัญหาในเรื่องของการดูทีวี ในส่วนของห้องแบบ 1 bedroom ยังมีปัญหาเรื่องระยะระหว่างเก้าอี้โต๊ะรับประทานอาหารและชั้นวาง TV ที่ค่อนข้างเบียดพอสมควร

สาธารณูปโภคหรือ Facility ของโครงการครบครัน มีสระว่ายน้ำและสวนเป็นลักษณะทางยาวอยู่ตรงกลางโดยมีตึกมาล้อมรอบ ทำให้ Facility ได้ใช้งานจริงและสะดวกในการใช้งานด้วยเนื่องจากอยู่ใกล้กับทุกๆอาคารไม่ต้องเดินไปถึงอาคารหน้าสุด มีเพียงแต่ส่วน Fitness ที่ค่อนข้างเล็กไปหากเทียบกับจำนวนยูนิตทั้งโครงการและอยู่ใต้อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 74,000 บาท/ตร.ม., 15 July 2015

  • ทำเล 7.5/10 – เข้าได้ทั้งถนนประดิษฐ์มนูธรรมและถนนรามอินทรา บริเวณใกล้เคียงในระยะขับรถมีความอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางสะดวก เข้าเมืองง่าย ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา
  • ไม่ใช้รถ 6.75/10 – ไม่สะดวก ไกลจากป้ายรถเมล์ไม่ได้อยู่ในระยะเดิน มีแต่รถสองแถวที่มาถึงหน้าโครงการ ต้องรอรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต
  • วัสดุ 8.0/10 – ให้ของครบด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก Modernform และสุขภัณฑ์จาก American Standard
  • แบบ 7.5/10 – จัดผังได้ลงตัว พื้นที่ใช้สอยภายในห้องแบบเป็นสัดส่วนใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า แต่หักคะแนนส่วนตรงบริเวณรับประทานอาหารของ 1 bedroom ที่ติดกับที่วาง TV และความหนาแน่นสูง
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – สระว่ายน้ำกับสวนสาธารณะยาวใกล้กับทุกอาคาร หักคะแนนตรง Fitness ที่ขนาดเล็กไปต้องแบ่งกันใช้

  • MAIN CLASS
  • 7.52 / 10.00

BOTTOM LINE

We Condo เหมาะสำหรับคนทำงานในย่านรามอินทรา, เกษตร, ลาดพร้าว เน้นเดินด้วยการใช้รถยนต์และทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา อยากได้เฟอร์นิเจอร์ครบแค่แพคกระเป๋าเข้ามาอยู่ไม่ต้องการตกแต่งอะไรมาก มีแหล่งช็อปปิ้งหรือจับจ่ายซื้อของสะดวกในย่าน มีงบประมาณ 2-3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 ถึง 22,000 บาทต่อเดือน

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไปค่ะ

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/