รีวิวฉบับที่ 1256… สวัสดีครับวันนี้จะพาไปชมคอนโดโครงการ Notting Hill ติวานนท์ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น อยู่ติดถนนติวานนท์ฝั่งกระทรวงสาธารณสุข ตรงซอยติวานนท์ 16 ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานี กระทรวงสาธารณสุขประมาณ 750 ม. ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์ราชการนนทบุรี ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัย จัดห้องหลายรูปแบบ มี Facility หลัก ๆ ให้มาครบจะเป็นอย่างไรติดตามกันได้เลยครับ
Fact @ 04 January 2017
- Notting Hill Tiwanon (น็อตติ้ง ฮิลล์ ติวานนท์)
- ชื่อผู้ประกอบการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถ.ติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 180 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 35 % รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1-0-42 ไร่
- Studio 23.2 – 24.7 ตร.ม.
- 1 Bedroom 24.8 – 32.2 ตร.ม.
- 1+1 Bedroom 30 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 36.7 – 53.9 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.62 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 62,000 – 84,000 บาท/ตร.ม.
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ MRT สายสีม่วง ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง EP.1 สถานีเตาปูน – สะพานพระนั่งเกล้า
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- สำนักงานขาย : 061-415-9000
- Call Center : 089-931-0002 , 090-974-9969
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.855469,100.519622
แผนที่จากทางโครงการแสดงให้เห็นพื้นที่คร่าว ๆ ครับ ตัวโครงการอยู่ติดกับซอยติวานนท์ 16 ในฝั่งมุ่งหน้าแยกติวานนท์ – กรุงเทพฯ นนทบุรี – ประชาราษฎร์ โดยมีระยะห่างจากแยกแครายประมาณ 500 ม. ถือว่าไม่ไกลจากแยกมากนัก
แผนที่โครงการ Notting Hill ติวานนท์ เป็นโครงการที่มีทำเลอยู่ติดกับถนนติวานนท์ในฝั่งมุ่งหน้า สะพานพระราม 5 ซึ่งเป็นฝั่งซอยเลขคู่จึงมีจุดเด่นที่มีเส้นทางลัดเลาะไปยังถนนสายหลักได้หลายสาย และยังสามารถที่จะเชื่อมต่อไปขึ้นยังทางด่วนศรีรัชเพื่อเข้า – ออกเมืองได้สะดวก และเป็นทางเลี่ยงจากถนนงามวงศ์วานที่มีการจราจรคับคั่งในชั่วโมงเร่งด่วน ย่านนี้จะอยู่ใกล้กับกระทรวงสาธารณะสุขที่เป็นแหล่งรวมหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพ อาหาร และการแพทย์อยู่ในย่านนี้ อีกทั้งยังมีสวนสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ภายในเพื่อรองรับบุคลากรมากมาย นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับอุทยานมกุฏรมย์สราญที่เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ราชการนนทบุรีในฝั่งรัตนธิเบศร์อยู่ห่างกันไม่ไกลนัก ภาพรวมจึงค่อนข้างสะดวกทั้งการใช้รถยนต์ในการเดินทางและยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สามารถเป็นทางเลือกในการเดินทางได้จึงเหมาะสมกับคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ที่กำลังมองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัยครับ
ความอุดมสมบูรณ์รอบ ๆ โครงการ มีหลากหลายและไปได้ค่อนข้างสะดวก ในระยะเดินไม่เกิน 300 ม. ก็จะมี 7-11 ร้านอาหารทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็นที่อยู่บริเวณซอยติวานนท์ 14 เพราะบริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชนพักอาศัยขนาดใหญ่ และใกล้กับกระทรวงสาธารณสุข จึงมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ถ้าขยับออกมาในระยะขับรถไปบริเวณรอบ ๆ ได้ ก็จะมี Esplanade , Tesco Lotus , Big C , Central ที่อยู่ในถนนรัตนธิเบศร์ และ The Mall งามวงศ์วาน ที่สามารถลัดเลาะจากซอยติวานนท์ 14 ไปได้โดยไม่ต้องใช้เส้นทางถนนงามวงศ์วาน และพื้นที่ที่น่าสนใจที่อยู่ใกล้กับโครงการจะเป็น กระทรวงสาธารณสุขที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้น โดยขอบเขตพื้นที่ของกระทรวงฯ เมื่อดูจากแผนที่ Google จะมีอาณาเขตเกือบถึงถนนกรุงเทพฯ นนทบุรี และทางด่วนศรีรัช ภายในก็จะแยกย่อยเป็นกรมต่าง ๆ กระจายตัวอยู่ด้านในและมีพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าไปวิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ส่วนอีกแห่งก็จะเป็นอุทยานมกุฎรมย์สราญ ที่เป็นพื้นที่สวนสาธารณะที่อยู่ในกลุ่มศูนย์ราชการนนทบุรี บริเวณถนนรัตนธิเบศร์ใกล้แยกแครายที่สามารถเข้าไปออกกำลังกาย หรือวิ่งเล่น ขี่จักรยานได้เช่นกัน
ภาพบรรยกาศภายบางส่วน ในพื้นที่กระทรวงสาธารณสุข โดยในช่วงเย็นก็จะมีทั้งบุคลากรภายในและคนในละแวกข้างเคียง เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณลานออกกำลังกายที่อยู่ภายในกระทรวงฯ มีกิจกรรมอยู่หลากหลายรูปแบบเช่น วิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน เล่นฟุตบอล หรืออื่น ๆ จึงถือว่าเหมาะกับคนที่ชอบหากิจกรรมทำในช่วงเย็นหรือในวันหยุดครับ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์นั้น โครงการติดถนนหลักสามารถเรียกรถสาธารณะได้สะดวก กรณีเลือกโดยสารด้วยแท๊กซี่โครงการก็จะมีบริการเรียกรถให้โดยแจ้งปลายทางจะไปที่ Lobby เพื่อเรียกแท๊กซี่เข้ามารับภายในโครงการได้ นอกจากนี้ยังมีรถ 2 แถวที่ในวิ่งบริเวณนี้ โดยสามารถขึ้นจาก The Mall งามวงศ์วานมาลงที่บริเวณป้ายรถเมล์ที่ใกล้กับโครงการ โดยมีระยะห่างประมาณ 190 ม. และมีสะพานลอยในบริเวณดังกล่าวเพื่อข้ามไปขึ้นรถเมล์อีกฝั่งได้
เนื่องจากตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีกระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 750 ม. อาจจะไม่อยู่ในระยะเดินสะดวกนัก ก็อาจจะเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างบริเวณซอยติวานนท์ 14 ได้ บรรยากาศภาพรวมภายในสถานี ทำออกมาเพื่อรองรับปริมาณคนได้มาก เพราะบริเวณนี้ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุขที่จะมีผู้มาติดต่อหรือคนที่มาทำงานในบริเวณนี้ค่อนข้างมาก
เมื่อลงมายังสถานีรถไฟฟ้าในบริเวณใกล้ ๆ กับตัวสถานีหากเดินมายังโครงการก็จะมีอาหารการกินให้เลือกซื้อในช่วงเย็นค่อนข้างหลากหลาย และยังมีธนาคารให้เลือกใช้อีกด้วย ถ้าหากจะเข้าโครงการเลยก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์นั่งกลับไปยังโครงการได้ โดยมีค่าโดยสารประมาณ 30 บาท (จากการสอบถามราคากับวินมอเตอร์ไซค์)
เบื้องต้นได้ทำรูปแบบการเดินทางโดยเริ่มจากแยกต่าง ๆ มายังโครงการ มีดังนี้
เริ่มต้นจากถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้ารัตนธิเบศร์ (เส้นสีม่วง ระยะทางประมาณ 1.7 กม.)
เริ่มต้นที่บริเวณตัดกับทางด่วนศรีรัชมุ่งหน้าแยกแคราย หากจะเลี่ยงรถติดบริเวณแยกนี้สามารถเลี้ยวเข้าซอยงามวงศ์วาน 2 เพื่อมาเชื่อมบริเวณ ซอยปิ่นประภาคม 2 ที่เป็นเส้นทางเดียวกันกับเส้นทางแรกครับ หากรถไม่ติดมากก็ตรงต่อในถนนเส้นหลักเพื่อเลี้ยวซ้ายบริเวณแยกแคราย เมื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนติวานนท์มุ่งหน้ากระทรวงสาธารณสุข จากจุดนี้ห่างจากโครงการประมาณ 450 ม. ครับ
เส้นทางสำหรับขึ้นทางด่วนฝั่งพระราม 9 – ดินแดง (เส้นสีเหลือง ระยะทางประมาณ 3.4 กม.)
เริ่มต้นจากโครงการมาเข้าที่ซอยติวานนท์ 14 และลัดเลาะไปยังซอยทิมแลนด์ต่อเนื่องไปยังช่วงถนนเลียบกับทางด่วน และกลับรถใต้ทางด่วนบริเวณจุดทางลงเพื่อไปขึ้นทางด่วนพระราม 9 – ดินแดงได้
เส้นทางสำหรับขึ้นทางด่วนฝั่งแจ้งวัฒนะ – บางปะอิน (เส้นสีแดง ระยะทางประมาณ 1.2 กม.)
ใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางขึ้นทางด่วนพระราม 9 แต่ในจุดนี้จะแยกไปทางซ้าย บริเวณทางแยกสำหรับเข้าออกทางด่วน เพื่อวิ่งตรงไปและจะไปออกบริเวณใต้ทางด่วนเพื่อเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน จากนั้นชิดซ้ายเพื่อวนขึ้นวงแหวน มุ่งหน้าเข้าด่านเก็บเงินฝั่งแจ้งวัฒนะ
เริ่มต้นจาก จุดลงทางด่วนศรีรัช ช่วงงามวงศ์วาน กระทรวงสาธารณสุข (เส้นสีเขียว ระยะทางประมาณ 2.7 กม.) เราจะใช้เส้นทางนี้เป็นตัวอย่างในการเดินทางวันนี้นะครับ
เริ่มต้นที่จุดลงทางด่วนงามวงศ์วาน เมื่อลงมาจะมีทางเบี่ยงเพื่อเข้ากระทรวงสาธารณสุข โดยจะเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าซอยทิมแลนด์ ซึ่งจะเป็นทางที่ลัดเลาะจนไปถึงบริเวณทางเข้ากระทรวงสาธารณสุข และเลี้ยวขวาไปยังซอยงามวงศ์วาน 2 ตรงไปประมาณ 200 ม. เลี้ยวซ้ายเข้าซอยปิ่นประภาคม 2 ตรงไปจนสุดเพื่อเลี้ยวขวาไปออกที่ซอยติวานนท์ 18 และเลี้ยวซ้ายสู่ถนนติวานนท์เพื่อตรงสู่โครงการ โดยจะอยู่ติดกับห้องอาหารรางชางที่บริเวณด้านซ้ายมือครับ
เริ่มต้นเมื่อลงจากทางด่วนศรีรัช สังเกตป้ายลงถนนงามวงศ์วาน (แคราย – กระทรวงสาธารณสุข) ทางออก น.2-09 เพื่อลงบริเวณซอยทางลัดเพื่อเข้าสู่โครงการ
เตรียมชิดซ้ายเพื่อเข้าซอยทิมแลนด์ ซึ่งเป็นซอยที่ขนานไปกับทางด่วน ระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.7 กม.
เมื่อมาถึงทางร่วมให้ชิดซ้ายและวิ่งตรงเข้าไปที่ซอยทิมแลนด์ครับ จุดนี้ต้องระวังรถที่จะวิ่งบริเวณทางร่วมครับ ในเวลาเร่งด่วนรถจะค่อนข้างเยอะ
จากนั้นวิ่งตามเส้นทางในซอยทิมแลนด์ ลักษณะการจราจรสวนทางกันตลอดทั้งซอยและมีป้ายชี้ไปกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นทางเดียวกันที่จะไปครับ
เมื่อวิ่งตามทางมาเรื่อย ๆ สังเกตทางด้านขวาจะพบกับ 7 – 11 ให้เตรียมเลี้ยวขวาเพื่อไปยังซอยงามวงศ์วาน 2 จากจุดนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม.
เมื่อเข้ามาที่ซอยงามวงศ์วาน 2 ขับตรงไปประมาณ 200 ม. จะมีสี่แยกตัดกัน ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยปิ่นประภาคม 2
เมื่อเข้าไปในซอยไปสักระยะหนึ่ง ถนนจะแคบเหลือเพียง 2 ช่องจราจรเนื่องจากเป็นพื้นที่หมู่บ้านเดิม ให้วิ่งตรงต่อไปเรื่อย ๆ สำหรับรถใหญ่ถ้าสวนกันอาจต้องจอดหลบกันในบางช่วงครับ
เมื่อวิ่งตรงมาจนสุดซอยจะเป็น 3 แยก ให้เราเลี้ยวขวาไปยังซอยปิ่นประภาคม 1 จุดนี้จะมีเห็นคอนโดที่อยู่บริเวณถนนติวานนท์บางส่วน
จากนั้นวิ่งมาตามเส้นทาง ก็จะมาถึงบริเวณปากซอยที่ออกสู่ถนนติวานนท์ ให้เลี้ยวซ้ายออกจากซอยติวานนท์ 18 จากจุดนี้จะห่างจากโครงการประมาณ 280 ม.
เมื่อออกมายังถนนติวานนท์มุ่งหน้ากระทรวงสาธารณสุขจะพบกับป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้กับโครงการและมีสะพานลอย โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 190 ม.
จากนั้นวิ่งต่อไปยังโครงการ สังเกตด้านซ้ายมือจะเป็นห้องอาหารรางชาง ที่อยู่ติดกับซอยติวานนท์ 16 ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ทางเข้าโครงการจะอยู่ในซอยครับ
ก่อนจะเริ่มภายในโครงการ เรามาเดินสำรวจทำเล รอบ ๆ โครงการกันก่อนครับเริ่มจากจุดแรกเดินมุ่งหน้าแยกแคราย และขึ้นสะพานลอยดูบรรยากาศรอบ ๆ ในมุมกว้าง จากนั้นข้ามมาอีกฝั่งจนถึงบริเวณฝั่งตรงข้ามกับโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ในฝั่งมุ่งหน้ากระทรวงสาธารณสุข บริเวณนี้จะเป็น ร้านอาหารที่ติดกับโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านขายรถมือสอง อาคารสำนักงาน และที่ดินเปล่า ส่วนในฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะมีโรงพยาบาลสัตว์และร้านขายของสัตว์เลี้ยง ศูนย์บริการรถยนต์ และอาคารพาณิชย์เปิดบริการเกี่ยวกับซ่อมรถยนต์
บริเวณด้านหน้าโครงการติดกับถนนติวานนท์ ในฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น ซึ่งช่วงบังแดดในช่วงเดิน ถ้าเดินกลับบ้านก็จะไม่ร้อนมากครับ
ห้องอาหารรางชาง เป็นร้านอาหารที่ใกล้กับโครงการที่สุดครับ เพียงซอยติวานนท์ 16 คั่นเท่านั้น สามารถลงมาทานได้สะดวก เปิดบริการตั้งแต่ 11 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มครับ
เดินต่อไปยังบริเวณแยกแคราย โดยถนนฝั่งด้านนี้การจราจรจะไม่หนาแน่นเท่ากับฝั่งมุ่งหน้าแยกแคราย เนื่องจากมีซอยลัดเลาะไปที่สถานที่ต่าง ๆ ค่อนข้างสะดวก และปริมาณรถที่สัญจรต่อเนื่องไปยังสะพานพระราม 5 มีปริมาณรถไม่มากเท่ากับฝั่งเข้าเมืองมุ่งหน้าสู่งามวงศ์วานต่อเนื่องไปยังเกษตร ตรงข้ามเป็นศูนย์ล้อยาง และศูนย์บริการซูซูกิ
จากนั้นเดินมาจนถึงบริเวณสะพานลอย จากจุดนี้ห่างจากโครงการประมาณ 190 ม. โดยทั้ง 2 ฝั่งของสะพานลอยจะมีป้ายรอรถเมล์ในบริเวณดังกล่าว จากการเดินสำรวจก็จะมีคนรอขึ้นลงบริเวณป้ายนี้เป็นจำนวนมาก มีทั้งรอต่อรถสองแถว และเดินกลับบ้ายไปยังซอยติวานนท์ 18 ซึ่งด้านในซอยมีหมู่บ้านและลัดเลาะไปยังซอยอื่น ๆ ได้ จากนั้นขึ้นไปดูบรรยกาศโดยรอบบนสะพานลอยครับ
บรรยกาศบนสะพานลอยในภาพบนมองไปยังสี่แยกแคราย โดยช่วงเวลาเช้าและเย็น การจราจรบริเวณฝั่งมุ่งหน้าแยกแคราย จะมีปริมาณรถสะสมค่อนข้างมาก บริบทโดยรอบส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์อยู่ติดถนน ส่วนภาพล่างมองไปยังฝั่งมุ่งหน้ากระทรวงสาธารณสุข การจราจรในฝั่งนี้จะไม่หนาแน่นเท่าฝั่งมุ่งหน้าแยกแครายนัก เนื่องจากมีซอยย่อยที่เป็นทางลัดไปเชื่อมถนนเส้นต่าง ๆ ได้ จุดนี้จะมองเห็นตัวโครงการในฝั่งด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกและทิศเหนือ เป็นฝั่งที่สามารถเปิดมุมได้กว้างกว่ามุมอื่น ๆ ในโครงการเดียวกัน
จากนั้นเดินลงจากสะพานลอยมาอยู่ฝั่งมุ่งหน้าแยกแคราย ที่อยู่ตรงข้ามกับโครงการจุดแรกจะพบกับศูนย์รักษาสัตว์ 24 ชม. และมีอุปกรณ์และอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง
จากนั้นเดินต่อไป ด้านซ้ายมือจะเห็นแนวของอาคารพาณิชย์บริเวณหน้าโครงการต่อเนื่องตลอดเส้นทาง และมีร้านค้าเปิดบริการตลอด สังเกตรถที่วิ่งผ่านในถนนเส้นนี้ มีหลากหลายครับ ทั้งรถเมล์ที่จะวิ่งเข้าตัวเมือง รถสองแถวท้องถิ่นไปยังสถานที่ต่าง ๆ และรถร่วมบริการครับ
ตัวโครงการเมื่อมองจากฝั่งตรงข้าม พบว่าจะตั้งอยู่ระหว่างอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น ด้วยลักษณะที่ดินที่มีบางส่วนอยู่ติดถนนจึงได้ทำทางเดินเข้าสู่ตัวอาคารไว้ด้านหน้า ด้วยรูปแบบอาคารที่เปิดออกมองวิวทั้งหมดได้บางส่วน บริเวณด้านในจึงได้ออกแบบให้มีลักษณะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเล็ก ๆ จัดวางสระว่ายน้ำไว้ตรงกลาง แต่เมื่อพ้นจากชั้น 6 ขึ้นไปก็จะสามารถมองวิวออกไปได้กว้างขึ้นครับ
หันไปทางด้านขวาจะเห็นอาคารพาณิชย์อยู่ตลอดแนวถนนติวานนท์ฝั่งมุ่งหน้ากระทรวงสาธารณสุข มีร้านค้า ร้านอาหารและบริการต่าง ๆ ที่สามารถเดินเลือกซื้อเลือกหาได้สะดวก จุดนี้จะพ้นจากแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปแล้ว โดยเส้นทางจะโค้งออกไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ มุ่งหน้าไปยังบางใหญ่
จุดที่ 2 จะเริ่มจากสะพานลอยดูบรรยากาศในมุมกว้าง ทางฝั่งถนนมุ่งหน้าแยกแคราย จากนั้นจะเดินจากบริเวณสะพานลอย ผ่านบริเวณหน้าปากซอยเรวดี บรรยากาศในย่านนี้ช่วงเย็นค่อนข้างคึกคักเพราะมีคนเดินทางกลับบ้านค่อนข้างมาก และเดินตรงต่อไปจนไปจบบริเวณจุดแรกที่เดินสำรวจครับ
เริ่มต้นจากบรรยกาศจากมุมสูง ที่สะพานลอยบริเวณซอยติวานนท์ 14 จุดนี้ห่างจากโครงการประมาณ 290 ม. ภาพบนมองไปยังฝั่งมุ่งหน้าแยกแคราย จะเห็นความคึกคักบริเวณปากซอยเรวดี ที่มีรถจอดซื้อของกันในช่วงเวลาเย็น ส่วนอีกด้านยังพอมีพื้นที่เปล่าที่ยังรอการพัฒนาอยู่หลายแปลงครับ
เมื่อลงจากสะพานลอยมา เดินมุ่งหน้าไปยังแยกแคราย ช่วงที่ไปสำรวจเป็นช่วงเย็นครับคนส่วนใหญ่ในละแวกนี้ก็กำลังเดินทางกลับบ้านเช่นกัน จะสังเกตว่าถนนจะเริ่มมีเลนเบี่ยงเป็น 4 ช่องจราจรบริเวณหน้าปากซอยเรวดี เนื่องจากมีรถจอดเพื่อแวะซื้อของหรือจอดใช้บริการร้านอาหารในย่านนี้ค่อนข้างคึกคัก โดยผู้อาศัยในโครงการสามารถเดินมาซื้อหาของกินก่อนเข้าคอนโดได้ และอยู่ในระยะเดินสะดวก
เมื่อใกล้ถึงบริเวณซอยเรวดี จะเริ่มมีร้านอาหารต่าง ๆ ให้เลือกสรรมากขึ้นและค่อนข้างหลากหลายครับ
เมื่อเดินมาถึงบริเวณปากซอยเรวดี จะมีวินมอเตอร์ไซค์รับส่งบริเวณหน้าปากซอยเป็นกลุ่มใหญ่รองรับคนที่จะเข้าซอย ซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนก็อาจจะมีรอต่อแถวกันบ้างครับ เพราะซอยนี้มีบ้านพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นซอยที่เชื่อมไปจนถึงถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีตัดใหม่ได้
บรรยากาศภายในซอยในช่วงเย็นครับ วันที่ไปถ่ายทำเลอยู่ในช่วงใกล้ปีใหม่พอดี ความคึกคักเลยอาจจะไม่เท่าช่วงปกติสักเท่าไหร่ครับ แต่ก็ยังมีร้านรวงเปิดอยู่ให้เห็นบ้าง สังเกตในซอยจะยังมีสามล้อปั่นจอดให้บริการอยู่ครับ เป็นสีสันของย่านนี้ที่มีมานาน ถือว่าเป็นย่านเก่าแก่เลยก็ว่าได้ เพราะถนนเส้นนี้จากแผนที่ Google Map จะเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณหน้ากระทรวงสาธารณสุขต่อเนื่องไปจนถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี(ใต้) ที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ปัจจุบันมีถนนหลักตัดผ่านถนนเส้นนี้อยู่หลายช่วง ภายในซอยจึงมีการพัฒนามากขึ้น ความคึกคักจึงมีตามมาด้วย
จากบริเวณปากซอยเรวดีเดินตรงต่อไปที่บริเวณหน้าโครงการ จุดนี้จะเป็นช่วงแนวโค้งของรถไฟฟ้าที่จะไปเชื่อมต่อที่ถนนรัตนธิเบศร์ต่อเนื่องไปยังบางใหญ่
จากนั้นในพื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่ถูกเวนคืนจากรฟม. จึงเหลือร้านรวงอยู่ไม่มาก แต่ยังมีร้านอาหารบ้านย่าที่อยู่เยื้องกับโครงการ เป็นร้านอาหารไทยต้นตำรับ เปิดประมาณ 11 โมงเช้าจนถึงประมาณ 4 ทุ่ม
ใกล้กับอาคารพาณิชย์ที่อยู่เยื้องกับโครงการจะมีธนาคารสาขาเปิดให้บริการอยู่ ในทำเลนี้จากที่เดินสำรวจมาตั้งแต่บริเวณหน้ากระทรวง ฯ มีธนาคารสาขาอยู่เรียกว่า เกือบจะครบเลยทีเดียว ถ้าจะทำธุรกรรมธนาคารก็สามารถขับรถหรือเดินไปก็ได้เพราะอยู่ติดถนนครับ
จุดที่ 3 จะเริ่มจากสะพานลอยดูบรรยากาศในมุมกว้างเช่นกัน แต่จะมาดูทางฝั่งถนนมุ่งหน้ากระทรวงสาธารณสุขกันครับ จากนั้นจะเดินจากบริเวณสะพานลอย ผ่านบริเวณหน้าปากซอยติวานนท์ 14 ที่สามารถเข้าสู่กระทรวงสาธารณสุขได้ โดยบรรยากาศในฝั่งนี้คึกคักเช่นเดียวกัน แต่จะมีร้านอาหารที่อยู่ในอาคารพาณิชย์ค่อนข้างคึกคักกว่าฝั่งมุ่งหน้าแคราย จะมีความได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องเดินข้ามไปอีกฝั่งก็มีให้เลือกหาซื้อเช่นกันครับ
บรรยากาศเมื่อมองลงไปด้านล่างในจุดนี้จะมีคนออกมารอรถเมล์ รถสองแถว หรือรถส่วนตัวเพื่อกลับบ้านอยู่ค่อนข้างมาก จึงมีร้านอาหารและการบริการต่าง ๆ ที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ส่วนในฝั่งมุ่งหน้าไปยังกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเย็นจะมีรถสะสมอยู่บ้างเนื่องจากมีจุดกลับรถบริเวณใกล้กับ MRT สถานีกระทรวงสาธารณสุข แต่ภาพรวมของการจราจรในช่วงที่สำรวจก็ถือว่าค่อนข้างสะดวก
จากนั้นเราข้ามกลับมายังฝั่งเดียวกับโครงการเพื่อเดินกลับไปที่โครงการครับ บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่รอรถสองแถว รถเมล์ หรือแท๊กซี่ ซึ่งมีร้านกิมเตียง เปิดให้บริการอยู่ ซึ่งมีเมนูหลากหลายให้เลือกทานกันได้
จากนั้นเดินมาจะพบกับ ซอยติวานนท์ 14 ที่อยู่ตรงข้ามกับซอยเรวดี สามารถลัดเลาะเข้าไป เพื่อเข้ากระทรวงสาธารณสุข หรือเชื่อมกับจุดขึ้นทางด่วนได้ บริเวณด้านหน้าปากซอยมี 7-11 ที่อยู่ใกล้กับโครงการที่สุด โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 190 ม. อยู่ในระยะที่จะเดินออกมาซื้อของกินของใช้ได้
เดินตรงต่อมาจะพบกับทางเข้าคอนโด ที่อยู่ติดกันกับทางฝั่งทิศใต้ของโครงการ ที่ตัวอาคารมีความสูงประมาณ 12 ชั้น ภายในซอยจะมีอาคารพาณิชย์ ส่วนใหญ่เปิดเป็นออฟฟิศ และร้านบริการต่าง ๆ ทั่วไป
ร้านอาหารที่อยู่ใกล้กับโครงการที่เปิดในช่วงเย็นก็จะเป็น โจ๊กกองปราบ และต้มยำหัวปลานายอ้วนเจ้าเก่า ถ้าหากลงรถเมล์บริเวณนี้ก็แวะซื้อหรือทานที่ร้านได้เลย จุดนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 100 ม. ครับ
อาคารพาณิชย์ 4 ชั้นที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ที่เปิดอยู่ใกล้กับโครงการก็จะมีร้านเสริมสวย ร้านกาแฟ โรงรับจำนำและโฮมออฟฟิศครับมีอยู่ประมาณ 7 – 8 คูหา
จากนั้นก็เดินมาถึงบริเวณด้านหน้าโครงการ จะสังเกตเห็นบันไดที่ขึ้นสู่ Lobby ในชั้น 2 และมีซอยเข้าภายในซอยติวานนท์ 16 ซึ่งเป็นถนนสาธารณะที่เป็นทางเข้าหลักของโครงการ
บริเวณปากซอยทางเข้าจะมีบันไดทางขึ้นไปที่ชั้น Lobby ซึ่งจัดไว้ที่ชั้น 2 เนื่องจากได้ใช้พื้นที่ชั้น 1 เป็นที่จอดรถใต้อาคารแล้ว ทางด้านซ้ายที่เห็นก็จะเป็นซอยติวานนท์ 16 ซึ่งแนวเขตโครงการในด้านนี้จะอยู่ติดกับถนนซอยตลอดแนวครับ
เมื่อเข้ามาด้านในซอยติวานนท์ 16 จะเห็นว่าตัวซอยนี้เองเป็นซอยตัน จะเห็นบ้าน 3 ชั้น อยู่ด้านใน มีข้อดีคือไม่ใช่ทางลัดผ่านจึงมีแค่รถที่จะเข้าบ้านที่อยู่ด้านในซอยและเข้าโครงการเท่านั้น ซึ่งทางเข้าสำหรับรถยนต์ก็ถูกจัดวางให้อยู่ด้านในเช่นกัน เมื่อเงยมองขึ้นด้านบนจะเห็นว่าบางส่วนของอาคารในฝั่งทิศเหนือจะโดนอาคารพาณิชย์ที่อยู่ด้านหน้าบังอยู่เช่นกัน
เมื่อสุดถนนซอยจะเป็นถนนเส้นเล็ก ๆ บริเวณนี้จะเป็นถนนส่วนบุคคลที่จะเข้าไปยังพื้นที่ด้านในของบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่ในซอยนี้ครับ จากบริเวณนี้มองกลับไปยังปากซอยทางเข้าบริเวณด้านหน้าถนนภายในมีความกว้างอยู่พอสมควร รถสามารถสวนทางกันได้ค่อนข้างสะดวก และมีระยะห่างระหว่างอาคารในด้านนี้อยู่ค่อนข้างมากไม่รู้สึกใกล้ชิดกับอาคารข้างเคียงจนอึดอัดเกินไป
บริบทรอบโครงการ Notting Hill ติวานนท์ ด้านหน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันตกที่เป็นทางเข้าออกโครงการ โดยทางเข้าหลักของโครงการนั้นจะอยู่ในซอยติวานนท์ 16 ซึ่งเข้ามาภายในซอยไม่มากและเป็นซอยตัน ถัดจากด้านหน้าทางเข้าโครงการไปก็จะอยู่ติดกับบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 3 ชั้น และมีทางเข้าบ้านที่เป็นถนนส่วนบุคคล บริบทโดยรอบนั้น จะมีทิศที่เปิดวิวได้อยู่เพียง 2 ทิศ คือ ฝั่งตะวันออก และทิศเหนือบางส่วนที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 – 3 ชั้น ส่วนในด้านทิศใต้จะอยู่ติดกับคอนโดสูงประมาณ 12 ชั้น ส่วนในทิศตะวันตกอยู่ติดกับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น ถึงแม้จะเป็นพื้นที่ที่ติดกับผู้อื่นแต่ก็ได้จัดวางพื้นที่ Facility ไว้บริเวณตรงกลาง โดยการจัดวางตัวอาคารได้จัดออกมาเป็นรูปทรงตัว U โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ฝั่งด้านใน แต่ละทิศ จึงได้วิวสระน้ำแทน พื้นที่จอดรถอยู่ใต้อาคารเพียงจุดเดียว ส่วนพักอาศัยในโครงการจะเริ่มจากชั้น 2 โดยชั้น 2 นั้นไม่สามารถเปิดวิวสระน้ำได้ วิวสระน้ำจะเริ่มต้นที่ชั้น 3 แทนเนื่องจากระยะใต้สระจึงทำให้ไม่สามารถทำตำ่เสมอหรือใกล้เคียงกับชั้น 1 ได้
จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้
- ทิศเหนือ บางส่วนติดกับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น และบ้านพักอาศัย 2 ชั้น บริเวณด้านหลัง
- ทิศตะวันออก ติดกับ คอนโดสูง 12 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับคอนโดสูง 12 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- 7-11 ~ 180 ม.
- กระทรวงสาธารณสุข ~ 1.1 กม.
- Big C ติวานนท์ ~ 1.8 กม.
- Tesco Lotus ~ 2.2 กม.
- Esplanade แคราย ~ 2.2 กม.
- ตลาดเปรมสุข ~ 2.6 กม.
- โรงแรมพักพิงอิงทาง บูทิค ~ 3 กม.
- พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน ~ 3.4 กม.
- ศูนย์ราชการนนทบุรี ~ 3.5 กม.
- Big C รัตนาธิเบศร์ ~ 3.7 กม.
- โรงพยาบาลนนทเวช ~ 4.2 กม.
- The Mall ~ 4.3 กม.
- Central รัตนาธิเบศร์ ~ 6.2 กม.
- Index Livingmall ~ 6.2 กม.
- โรงแรมริชมอนด์ ~ 7.3 กม.
โครงการ Notting Hill ติวานนท์ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 180 ยูนิต ตัวโครงการอยู่ติดถนนติวานนท์ฝั่งกระทรวงสาธารณสุข รูปแบบการจัดวางอาคารนั้นได้ทำออกมาเป็นรูปตัว U จัดวางให้มีพื้นที่ตรงกลางเป็นส่วนเปิดโล่ง ที่สามารถจัดสระว่ายน้ำแบ่งโซนสระเด็กไว้ให้ใช้งานได้ และเป็นส่วนที่ถูกอาคารข้างเคียงบังอยู่ จึงได้ทำกำแพงเป็นสวนแนวตั้งสูงขึ้นมาประมาณ 3 ชั้น เพื่อบังสายตาจากอาคารข้างเคียง ซึ่งจะเป็นวิวสระสำหรับห้องที่อยู่ในฝั่งดังกล่าวแทน โดย Facility หลักจะอยู่ที่ชั้น 2 โดยจะอยู่บริเวณ Lobby ประกอบด้วย Fitness และสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก มีที่นั่งบริเวณสระเด็กแยกออกมาด้วย ส่วนอีกจุดคือบนดาดฟ้า จัดออกมาเป็นพื้นที่สำหรับขึ้นมานั่งพักผ่อนได้ โดยแบ่งเป็นที่นั่งจัดวางตามมุมต่าง ๆ ไว้ให้ใช้งาน ชั้นพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 2 – 8 ชั้น 1 จัดเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด โดยมียูนิตต่อชั้นประมาณ 26 ห้อง มีลิฟท์มาให้ใช้งานจำนวน 2 ตัว อัตราส่วนอยู่ที่ 90 : 1 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์การใช้งานรอลิฟท์ไม่นานนัก รูปแบบห้องพักจัดออกมามีให้เลือกหลากหลายรูปแบบการใช้งาน ตอบสนองการใช้งานได้เหมาะสม
เริ่มกันที่ชั้น 1 ของอาคารที่เป็นส่วนจอดรถก่อนครับ ที่จอดรถจัดออกมาได้ประมาณ 35% สำหรับโครงการที่เน้นใช้รถ อาจจะต้องบริหารจัดการพื้นที่กันให้ดีครับ ปัจจุบันการเข้าออกเป็นระบบตรวจสติกเกอร์เพื่อเข้าจอด ด้านหน้าเป็นป้อม รปภ.คอยอำนวยความสะดวกให้ผู้อาศัยภายในโครงการ
เข้ามาด้านในอาคารจัดการจราจรเดินรถทางเดียวสามารถวนได้รอบอาคาร โดยด้านขวาที่เห็นเป็นช่องกระจก จะเป็นทางเข้าสู่ภายในอาคารได้ แต่ต้องใช้ Key Card Access เท่านั้น สำหรับผู้มาติดต่อต้องออกไปด้านหน้าเพื่อติดต่อที่ Lobby ที่อยู่บริเวณชั้น 2 โดยรถเข็นที่เห็นเป็นของภายในโครงการ สามารถใช้ขนของเข้าห้องได้ครับ
ลักษณะการจอดรถปัจจุบันได้แบ่งพื้นที่จอดตามรูปแบบนี้ครับ หากอนาคตจะมีจอดซ้อนคันหรือไม่ขึ้นอยู่กับการจัดการของนิติบุคคลและการตกลงจากลูกบ้านต่อไปครับ
บริเวณด้านขวามือทางโครงการได้จัดพื้นที่สำหรับวาง เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และตู้น้ำหยอดเหรียญไว้ให้ โดยอยู่บริเวณใต้อาคาร ลูกบ้านสามารถลงมาใช้งานได้ในพื้นที่นี้ได้
จากนั้นเดินเข้ามาถึงด้านในสุดจะจัดทางเดินรถเป็นทางสำหรับวนไปอีกด้าน โดยบริเวณด้านขวามือจะมีห้องพักขยะรวมและประตูหนีไฟ
ภายในห้องพักขยะมีประตูเลื่อนสำหรับเปิดปิด เพื่อการใช้งานที่เป็นสัดส่วนและป้องกันกลิ่นรบกวน เนื่องจากปัจจุบันยังมีงานเก็บแก้ไขอยู่ การจัดวางถังขยะภายในจะยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก ส่วนด้านขวามือเป็นบันไดหนีไฟที่ลงมาจากด้านบนและผลักออกนอกอาคารเท่านั้น
เมื่อออกมาบริเวณถนนด้านข้างอาคารจะอยู่ติดแนวรั้วโครงการ ในบริเวณนี้จะมีระยะความกว้างค่อนข้างพอดีกับตัวรถ ถ้าหากเป็นรถขนาดใหญ่ ก็อาจจะต้องระมัดระวัง ค่อย ๆ ขับผ่านไปครับ
เมื่อวนกลับเข้ามาอีกฝั่งของที่จอดรถ จะจัดแบ่งพื้นที่สำหรับจอดมอเตอร์ไซค์อยู่บริเวณนี้สามารถจอดได้ประมาณ 10 – 15 คัน ซึ่งพื้นที่ใต้อาคารบริเวณจุดนี้จะเป็นพื้นที่ใต้สระว่ายน้ำ จึงมีโครงสร้างเสาและคานในบริเวณนี้ครับ
เมื่อตรงมาถึงจุดปลายสุดจะเป็น 3 แยกโดยปัจจุบันยังมีการเก็บงานกันอยู่ จึงอาจมีวัสดุกองอยู่บ้างครับ จะสังเกตว่าบริเวณริมรั้วรอบ ๆ โครงการจะจัดสวนและปลูกต้นไม้พุ่มสูงให้เต็มความสูงของกำแพงโครงการเพื่อให้เกิดพื้นที่สีเขียวให้ดูมีความเป็นธรรมชาติ
หันไปทางด้านซ้ายจะแบ่งช่องจอด 2 ช่องจอด ส่วนด้านขวาจะเป็นทางที่จะไปเชื่อมกับทางเข้า เพื่อกลับไปสู่ทางที่เข้ามาตอนแรกหรือจะวนภายในอาคาร โดยทางเข้าสู่ภายในอาคารสำหรับลูกบ้านจากชั้น 1 จะอยู่บริเวณประตูกระจกทางด้านขวา
ทางเข้าจากชั้น 1 สำหรับผู้อยู่อาศัย ภายในเป็นโถงลิฟท์ จำนวน 2 ตัว เป็นห้องสีขาวมีระยะสำหรับยืนรอและจอดรถเข็นขนของได้ และมีปุ่มวงกลมสีฟ้าทางด้านขวาของภาพ เป็น Sensor สำหรับแตะออกสู่ภายนอก ส่วนประตูด้านขวาในภาพเป็นประตูหนีไฟ ซึ่งผลักออกได้เท่านั้น ไม่สามารถเปิดเข้าได้จากด้านนอก เพื่อความปลอดภัย
อธิบายเพิ่มเติมตัว Sensor สำหรับออกภายนอก โดยลักษณะของการใช้งานของประตูเข้าออกระบบ Key Card เมื่อตอนเดินออกจะมี Sensor สำหรับแตะ เพียงแค่เอามือไปยื่นไปให้ห่างจากตัวสวิตช์ประมาณ 5 – 10 ซม. ก็จะปลอดล๊อคประตูได้โดยไม่ต้องกดหรือสัมผัสที่ปุ่ม Sensor
เดินชมภายในชั้น 1 เรียบร้อยแล้ว จากนั้นมาเริ่มต้นเข้าภายในตัวอาคาร โดยเริ่มจากทางเข้าสู่ Lobby ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ด้านหน้าออกแบบมาเป็นพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ที่ลงต้นไม้พุ่มเตี้ย พุ่มสูงอยู่บริเวณด้านหน้าบันไดทางขึ้นที่เดินลัดเลาะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่ภายในบ้าน
มองขึ้นไปด้านบน ด้านหน้าจะหันออกทิศตะวันตก ในด้านนี้จึงทำช่องเปิดไม่เยอะมาก และจัดห้องบางส่วนเป็นระเบียงสำหรับออกมารับลมได้ ด้านล่างจัดเป็นซุ้มทางเข้าสู่ Lobby มี Concept Modern Luxuryโดยออกแบบเป็นลักษณะซุ้มโค้งและใช้เส้นสายในการออกแบบเป็นบัวปูนปั้น และมีการเน้นกรอบเฟรมประตูหน้าต่างเป็นสีเข้ม เพื่อให้ตัดกับสีของตัวอาคารที่เป็นสีขาว เป็นต้น
เมื่อขึ้นมาบริเวณพื้นที่ชั้น 2 จะเป็นชั้น Main Facility โดยเริ่มด้านหน้าเป็นพื้นที่ Lobby , Mail Box , ห้องน้ำ และห้องนิติบุคคล ส่วนพื้นที่ Facility จะอยู่ถัดไปด้านในโดยจะต้องมี Key Card Access เพื่อเข้าสู่ภายในก่อน ซึ่งจะจัดวางอยู่กับพื้นที่พักอาศัยในชั้น 2 เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอห้อง Fitness และมีทางเชื่อมสู่สระว่ายน้ำที่อยู่ภายนอกและมีประตูเลื่อนกั้นเป็นสัดส่วน มีห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อมส่วนอาบน้ำอยู่ภายในห้องสระน้ำเป็นระบบเกลือ แบ่งโซนสระเด็ก และมีพื้นที่นั่งอยู่บริเวณด้านหลังสระเด็ก การเข้าถึงจะเดินบนผิวน้ำเพื่อไปยังบริเวณดังกล่าว โดยพื้นที่สระน้ำ จัดวางให้ตัวอาคารโอบล้อมพื้นที่สระว่ายน้ำไว้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว และทำรั้วปลูกต้นไม้เป็นสวนแนวตั้งขึ้นสูงประมาณ 3 ชั้น เพื่อบังบริเวณอาคารข้างเคียง โดยพื้นที่สระน้ำและห้องพักในฝั่งด้านที่ติดสระว่ายน้ำนี้ จะไม่โดนแดดตลอดทั้งวัน ถึงแม้จะอยู่ในฝั่งทิศตะวันตก เนื่องจากมีอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นที่อยู่ด้านหน้าบังอยู่
ส่วนห้องพักในชั้นนี้มีทั้งหมด 24 ห้อง จัดเรียงห้องพักเป็นแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัว U ห้องพักแบ่งเป็น Studio 2 ห้อง 1 Bedroom 12 ห้อง 1+1 Bedroom 7 ห้อง และ 2 Bedroom 3 ห้อง ลิฟท์โดยสารมีจำนวน 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวม 90 : 1 ถือว่ากำลังดี รอไม่นานมาก ตำแหน่งบันไดหนีไฟจัดไว้ให้ 2 จุด โดยอยู่บริเวณ โถงลิฟท์เป็นบันไดหนีไฟหลัก 1 จุด และบริเวณโถงทางเดินฝั่งทิศใต้อีก 1 จุดโดยห้องที่อยู่ชั้น 2 นั้นสามารถเดินออกด้านหน้าผ่านพื้นที่ Lobby ออกมาได้เลย
มุมมองของอาคารในแต่ละด้าน สำหรับชั้น 2 นั้น จะมีด้านที่มองเห็นด้านนอกบ้างหน่อยก็จะเป็นฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน และทิศตะวันออก ส่วนด้านที่อยู่ฝั่งติดสระนั้น ตัวพื้นที่สระเอง เนื่องจากมีความลึกสำหรับว่ายน้ำ จึงต้องทำขึ้นมาครึ่งชั้น และไม่ไปกระทบพื้นที่จอดรถด้านล่าง จึงมีข้อจำกัดที่ทำให้ห้องในชั้นดังกล่าวไม่ได้วิวสระเหมือนชั้นอื่น ๆ แต่ก็จะสะดวกกว่าชั้นอื่น ๆ ตรงที่อยู่ในชั้น Main Facility ที่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องขึ้นหรือลงเพื่อเข้าถึงพื้นที่
เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับส่วนต้อนรับ ปัจจุบันจะใช้พื้นที่บริเวณนี้เป็น Sale Office ชั่วคราว โดยจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับต้อนรับและพักคอยบริเวณนี้ได้ ภายในตกแต่งเป็น Modern Luxury พื้นลายหิน และเฟอร์นิเจอร์สีเข้ม ตัดกับห้องที่เป็นสีขาว เพิ่มความหรูหรามากขึ้น โดยด้านหลังของโต๊ะประชาสัมพันธ์เป็นวัสดุหินโปร่งแสง จึงดูมีความสว่างอยู่ตลอดเวลา
หันมาทางด้านซ้ายจัดวางชุดโซฟาต้อนรับขนาดใหญ่ ไว้ให้ผู้อาศัยหรือผู้มาติดต่อได้มาใช้งาน ด้านข้างจัดเป็นตู้ใส่ของโชว์ และประดับกรอบรูปในบริเวณรอบ ๆ ด้านหลังพื้นที่ดังกล่าวเป็นหน้าต่างลักษณะซุ้มโค้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
จากพื้นที่ Lobby แล้วเดินต่อที่ประตูทางเข้าสู่ภายในพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางครับ บริเวณนี้จะต้องใช้ Key Card Access เพื่อเข้าใช้งานเท่านั้น
จากนั้นเดินเข้าไปบริเวณด้านในพื้นที่พักอาศัยจะเจอกับ Mail Box ที่อยู่ก่อนถึงทางเข้าทางด้านซ้ายมือ จะอยู่บริเวณนี้ และมีประตูกระจกสีขาวขุ่นจะเป็นห้องน้ำสำหรับบริเวณ Lobby โดยภายในสุด ที่เห็นเป็นห้องกระจก เป็นห้องนิติบุคคล
ภาพรวมห้องน้ำบริเวณ Lobby ตกแต่งกรุกระบื้องลายหิน เพิ่มความสวยงามและน่าใช้งาน ด้วยพื้นที่การใช้งานค่อนข้างจำกัดจึงได้จัดวางอ่างล้างมือที่ไว้สำหรับล้างมือเท่านั้น เพราะมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัดครับ
จากนั้นก็เข้ามาสู่ด้านในพื้นที่พักอาศัย ภายในจะมีการตกแต่งตลอดโดยกรุผนังด้วยกระเบื้องและประดับกรอบกระจก กรอบรูปภาพและจัดวางต้นไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้าน ด้านซ้ายมือจะเป็นทางเข้าห้อง Fitness
ภายในห้อง Fitness มีอุปกรณ์กีฬาจัดไว้ให้ 4 เครื่อง และมีชุดดัมเบลให้ โดยพื้นที่ภายในจัดวางมาพอดีสำหรับการใช้งาน จึงได้กรุกระจกบริเวณผนังทางด้านซ้ายมือเพิ่มเพื่อให้ความรู้สึกมีพื้นที่ที่กว้างขึ้น โดยการเดินเข้าออก อาจจะต้องระมัดระวังพอสมควรในบริเวณห้อง Fitness ครับ
ลวดลายพื้นภายในห้องวางเป็น Pattern เป็นลายก้างปลา ใช้วัสดุเป็นไวนิลด้านบนมีลวดลายเลียนแบบไม้ จึงทำให้เมื่อปูลงไปแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องการซึมน้ำแล้วบวม เหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานที่หลากหลาย สามารถวางอุปกรณ์กีฬาบนพื้นได้โดยไม่ต้องมีวัสดุอื่นรองรับก่อนได้
จากนั้นออกไปชมพื้นที่สระว่ายน้ำ ทางออกจะอยู่ตรงข้ามกับห้อง Fitnessโดยออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่เพื่อให้เดินเข้าออกได้สะดวก
บริเวณทางออกได้ทำเป็น Curb ยกสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำฝนจากภายนอกล้นเข้ามาด้านในเพราะด้านนอกเป็นพื้นที่ Outdoor ที่เดินออกสู่สระน้ำ อาจจะระวังสุดในบริเวณนี้ครับ
บริเวณทางเดินออกสู่สระ ได้จัดพื้นที่สำหรับล้างตัวก่อนลงสู่สระ โดยแบ่งห้องน้ำแยกชายหญิง การออกแบบประตู ได้ทำเป็นประตูกระจกขาวขุ่น เพื่อให้แสงเข้าสู่ภายในห้องน้ำได้ ช่วยให้ห้องสว่างขึ้นนอกจากจะมีเพียงดาวน์ไลท์ภายในห้องน้ำอย่างเดียว
อุปกรณ์มือจับประตูแบบ Motise Lock กรอบรอบประตูติดชีลกันฝุ่นและกันเสียงให้มาค่อนข้างดีสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง
ภายในห้องน้ำทั้งหญิงและชาย แบ่งเหมือนกับห้องน้ำที่ใช้กันทั่วไป โดยมีอ่างล้างมือขนาดกะทัดรัด ชุดอุปกรณ์สุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระ และชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower ไว้ให้ใช้งานครบ และออกแบบช่องสำหรับวางสบู่ไว้บริเวณผนังให้ใช้งาน
จากนั้นเดินออกมาสู่พื้นที่สระว่ายน้ำ เนื่องจากตัวสระว่ายน้ำต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณครึ่งชั้น ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า พื้นที่สระว่ายน้ำนั้น บริเวณชั้น 2 จะมองไม่เห็นวิวนะครับและได้ทำแนวรั้วต้นไม้บังไว้เพื่อให้คนที่บังสายตาคนที่เข้ามาใช้บริเวณพื้นที่ส่วนกลางมองเข้าไปในพื้นที่ห้องของชั้น 2 ด้วย โดยในชั้นที่จะมองเห็นวิวสระนั้น จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไป
จากนั้นเมื่อขึ้นมาถึงบริเวณสระว่ายน้ำ รูปแบบสระน้ำที่นี่จะเป็นระบบเกลือแยกโซนสระเด็ก โดยจะมีพื้นที่ Sunken Seat อยู่บริเวณกลางสระ บริเวณด้านหลังจะเป็นพื้นที่สระเด็กและที่นั่งพักผ่อน ดังนั้นถ้าหากเราจะไปใช้งาน ก็จะต้องเดินลงน้ำเพื่อไปยังพื้นที่สระเด็กโดยส่วนที่เป็นทางเดินจะมองเห็นง่ายครับมีความลึกประมาณ 10 ซม. และจัดวางบันไดลงสระมาให้ 1 จุด ลักษณะเป็นขั้น ๆ ลงไป ส่วนฝั่งตรงข้ามที่อยู่ติดกับอาคารข้างเคียงนั้น ได้ออกแบบให้เป็นรั้วต้นไม้สูงขึ้นถึงระดับชั้น 3 ของโครงการเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกทั้งพื้นที่สระว่ายน้ำบริเวณนี้จะร่มเกือบตลอดวัน ยกเว้นช่วงฤดูร้อน (ประมาณเดือน 3 – 6) ที่แสงแดดตั้งฉากนะครับ เหมาะกับคนที่อยากว่ายน้ำแต่ไม่ชอบแดด สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ
ลองถ่ายภาพแนวตั้งให้เห็นตัวอาคารทั้งหมดบริเวณพื้นที่สระน้ำ การใช้งานบริเวณสระว่ายน้ำนั้นอาจจะไม่ Private เท่าไหร่นักเพราะห้องพักในโครงการส่วนใหญ่ในฝั่งวิวสระจะค่อนข้างใกล้กันมาก
ส่วนพื้นที่โซนสระเด็ก เราต้องเดินบนผิวน้ำเพื่อเข้าไปยังพื้นที่ส่วนนี้ ดังนั้นเราจึงขอนำภาพจากมุมสูงมาให้ชมกันโดยจะแบ่งสระเด็กไว้ด้านหลัง และโอบรอบอีกชั้นด้วยที่นั่งเล่นที่สามารถเดินลงไปนั่งได้ ถ้าหากไปใช้งาน อาจจะต้องถอดรองเท้าเดินกันไปนะครับ
เมื่อดู Facility ในชั้นนี้กันไปบางส่วนแล้วกลับเข้ามาภายในอาคารอีกครั้งและขึ้นไปดูพื้นที่สวนพักผ่อนบริเวณชั้นดาดฟ้ากันครับ สังเกตภายในโถงทางเดินชั้นนี้ จะกรุกระเบื้องบริเวณผนังด้วย
มาถึงบริเวณโถงรอลิฟท์บริเวณชั้น 2 รอบ ๆ กรุกระจกไว้ เพื่อให้ดูมีมิติที่กว้างขึ้น ทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางเข้าสู่ส่วนพักอาศัยของชั้นนี้ โดยชั้นที่มีส่วนกลางจะต้องใช้ Key Card Access เพื่อเข้าสู่ภายในก่อน ถือว่าให้ความปลอดภัยค่อนข้างดีครับ
บริเวณโถงรอลิฟท์ และภายในลิฟท์ ตกแต่งออกมาน่าใช้งานโดยลิฟท์จุผู้โดยสารสูงสุด 8 คน หรือไม่เกิน 630 กก.
การจะขึ้นไปชั้นต่าง ๆ นั้นจะต้องใช้ Key Card แตะไปยังชั้นที่ผู้พักอาศัยอยู่เท่านั้น ถือว่าให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและป้องกันคนภายนอกได้เป็นอย่างดี
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 8 การตกแต่งบริเวณโถงลิฟท์จะเป็นห้องสีขาวโปร่ง ๆ โดยจะเห็นว่าถ้าจะเข้าสู่ส่วนพักอาศัยที่มีการผู้ใช้ในชั้นอื่นเดินผ่านนั้นจะมีประตูกั้นและต้องสแกนบัตรเพื่อผ่านเข้าประตูก่อน
การเข้าถึงพื้นที่นั่งเล่นชั้นดาดฟ้านั้น เนื่องจากลิฟท์ขึ้นได้เพียง 8 ชั้น ดังนั้นเราต้องเดินขึ้นบันไดหนีไฟเพื่อไปยังชั้นบนสุด ซึ่งวัสดุพื้นภายในบันไดหนีไฟเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ใช้งานได้สะดวก และมีช่องแสงและบานกระทุ้งขนาดใหญ่ ให้มีแสงส่องเข้าสู่ภายในและระบายอากาศได้ดีขึ้น
เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้นดาดฟ้า เดินออกมาดูด้านนอกจะพบกับพื้นที่นั่งเล่นที่จัดสวนไว้รอบ ๆ โดยบริเวณที่มองเห็นส่วนแรกจะเป็นกระถางวางประดับแนวต้นไม้พุ่มสูง ปัจจุบันกำลังปรับพื้นที่สวนกันอยู่
หันไปทางด้านซ้าย บริเวณนี้จะเดินไปยังฝั่งด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนติวานนท์ โดยจัดแบ่งเป็นพื้นที่นั่ง 2 จุด โดยยกบันไดขึ้นไปประมาณ 4 ขั้น หรือประมาณ 1.2 ม. ภาย เป็นระเบียงไม้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยไม้พุ่มสูงเพื่อป้องกันการปีนป่าย และเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานได้อีกด้วย
เมื่อหันกลับมาอีกฝั่ง บริเวณนี้จะเป็นฝั่งทิศตะวันออกมองออกไปในมุมฝั่งเมืองในย่านงามวงศ์วานได้ โดยในฝั่งนี้ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะใกล้ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย
จากนั้นจะเป็นไปยังฝั่งทางด้านทิศใต้ เมื่อหันไปในฝั่งนี้จะเห็นคอนโดที่อยู่ติดกับโครงการสูงประมาณ 12 ชั้น บังอยู่ตลอดแนวในด้านทิศใต้ พื้นที่สวนด้านในแบ่งเป็นพื้นที่นั่ง 2 จุดและมีลานน้ำตก กับลานน้ำพุอยู่บริเวณปลายสุดครับ
เริ่มจากจุดแรกจะจัดชุดโซฟากลางแจ้งไว้ 1 จุด และชุดที่นั่งบริเวณซุ้มทรงโดมที่ยกพื้นไม้ขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เพื่อเน้นพื้นที่ใช้งานให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นเนื่องจากในเวลากลางวันแสงแดดค่อนข้างแรงและไม่มีร่มครับ
บริเวณฝั่งทิศตะวันตกจัดออกมาเป็นกำแพงที่ทำคล้ายกับนำ้ตกและจัดวางอุปกรณ์ตกแต่ง โดยในปัจจุบันกำลังเก็บงานกันอยู่ หันไปในฝั่งทิศใต้ทำเป็นระเบียงไม้สำหรับขึ้นไปใช้งานรอบ ๆ ลานน้ำพุบริเวณนี้ได้ โดยวัสดุพื้นบริเวณชั้นดาดฟ้าเป็นหญ้าเทียมที่ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องดูแลรดน้ำทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ดาดฟ้าในบริเวณดังกล่าวไม่ได้ใช้พื้นที่ทั้งหมด จะแบ่งจุดอื่นเป็นถังเก็บน้ำและพื้นที่โล่ง สำหรับเจ้าหน้าที่ประจำอาคารเท่านั้น
เรามาดูวิวในแต่ละด้านนะครับ รอบ ๆ อาคารส่วนใหญ่ในทิศตะวันออกตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปก็จะเริ่มเห็นวิวที่กว้างขึ้น เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 – 3 ชั้น ส่วนในด้านอื่น ๆ ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปไม่ค่อยมีปัญหา เพราะพ้นแนวอาคารที่อยู่รอบ ๆ ไปหมดแล้ว ส่วนชั้นที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 6 มีบริบทรอบ ๆ ดังนี้
ทิศเหนือติดกับซอยติวานนท์ 16 และอาคารพาณิชย์ประมาณครึ่งอาคาร โดยด้านนี้จะบังจนถึงชั้น 8 เพราะมีป้ายโฆษณาต่อจากยอดตึกอาคารพาณิชย์ ส่วนห้องริมติดฝั่งทิศตะวันออก 2 ห้องจะยังพอมองเห็นวิว เพราะพ้นด้านหลังของอาคารพาณิชย์ไปแล้ว
ด้านทิศตะวันออก จากแผนที่จะเห็นเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น โดยในด้านนี้เปิดโล่งมากที่สุด และจะเห็ด้านขวามือเป็นฝั่งทิศใต้ที่มีคอนโดสูง 12 ชั้น บังอยู่ตลอดแนวครับ
ทิศตะวันตกติดกับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 – 5 ชั้น ฝั่งนี้เป็นด้านที่ติดกับถนนติวานนท์ และเป็นทางเข้าออกโครงการ โดยจะเริ่มเห็นวิวได้กว้างขึ้นประมาณ ชั้นที่ 6 ขึ้นไป ด้านนี้จะเป็นฝั่งแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งโค้งไปยังฝั่งเมืองฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ จะมีคอนโดแนวสูงขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ ตามแนวสถานีรถไฟฟ้า
ลงมาส่วนพื้นที่พักอาศัยกันบ้างครับ ตั้งแต่ชั้นที่ 3 – 8 จะจัดวางออกมาโดยแบ่ง Typical Plan เหมือนกันทุกชั้น โดยแต่ละชั้นจะมีชั้นละ 26 ห้อง จัดเรียงห้องพักเป็นแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัว U ห้องพักแบ่งเป็น เช่นเดียวกันกับชั้น 2 แต่จะเพิ่มห้อง 1 Bedroom เป็น 13 ห้อง และ 2 Bedroom เป็น 4 ห้อง ส่วนลิฟท์โดยสาร และตำแหน่งบันไดหนีไฟอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับชั้น 2 ครับ โดยในชั้นพักอาศัยตั้งแต่ ชั้น 3 – 7 จะไม่มีประตูกั้นบริเวณโถงลิฟท์เนื่องจากไม่มีส่วนกลางที่มีผู้อาศัยในชั้นอื่นเดินผ่าน
ซึ่งห้องทางฝั่งทิศตะวันตกตั้งแต่ชั้นที่ 6 ขึ้นไปก็จะเริ่มเห็นวิวทิวทัศน์มากขึ้นแล้ว เพราะพ้นแนวอาคารพาณิชย์ที่อยู่ด้านหน้าฝั่งติดถนนติวานนท์แล้ว ส่วนในทิศเหนือนั้น ถึงแม้จะพ้นตัวอาคารพาณิชย์แล้ว แต่ยังมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บังอยู่ จึงเปิดวิวไม่ได้กว้างนัก แต่ในฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะบังอยู่แค่ครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งนึงนั้น จะเริ่มมองเห็นวิวตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปแล้ว ด้านทิศใต้ก็เช่นกันครับ ด้านนี้อยู่ติดคอนโดสูง 12 ชั้น อาจจะได้เปิดม่านเป็นบางครั้งครับ ส่วนบริเวณทิศตะวันออกจะเป็นทิศที่เปิดโล่งปราศจากอาคารบังตลอดแนวตั้งแต่ชั้นที่ 3 ขึ้นไปก็โล่งตลอดแนวแล้ว และห้องส่วนใหญ่เป็นห้อง 1+1 Bedroom ครับ
เริ่มต้นที่ชั้นพักอาศัยทั่วไปในชั้น 3 – 8 กันบ้าง รูปแบบการตกแต่งภายในโถงลิฟท์จะทาสีขาวปกติ สังเกตในชั้นพักอาศัยทั่วไปที่ไม่มีชั้นส่วนกลางนะครับ จะไม่มีประตูกั้นเหมือนชั้นที่มี Facility ที่มีคนในชั้นอื่น ๆ เดินผ่านครับ
เมื่อเลี้ยวซ้ายออกมาจะพบกับประตูหนีไฟและห้องพักที่อยู่ในฝั่งทิศตะวันตกและทิศเหนือ ปลายสุดมีช่องแสงที่สามารถเปิดช่องหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้
หันมาอีกด้านจะเป็นโถงทางเดินยาว ๆ โดยปลายสุดของทางเดินจะจัดเป็นช่องกระจกไว้ เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ด้านในอาคารได้มากขึ้นและมีช่องเปิดเพื่อระบายอากาศได้เช่นกัน ภาพล่างจะเห็นประตูสีเทา ซึ่งจะเป็นห้องพักขยะรวมของแต่ละชั้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือแบ่งโซนสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนและพื้นที่นั่งเล่นบนดาดฟ้า
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร เป็นระบบล็อคชั้น
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 90 : 1
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 35%
- ระบบ CCTV / Access Card
- บริการเสริม ประกอบด้วย บริการรับซักรีด, บริการรับจ่ายบิลน้ำ/ไฟ, บริการถือสัมภาระและเรียก Taxi, บริการสั่งอาหาร, บริการทำความสะอาดห้องพักฟรี 2 ครั้ง/เดือน
รูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อม Air , Digital Door Lock โดยมีระยะพื้นถึงฝ้า 2.4 ม. วัสดุพื้นห้องพักทั้งหมดเป็นไวนิลลายไม้ ส่วนห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค รูปแบบห้องมีทั้งวิวสระและวิวเปิดโล่ง โดยในการจัดรูปแบบห้องของโครงการแบ่งการได้ออกแบบเป็น 4 รูปแบบคือ
- Studio 23.2 – 24.7 ตร.ม.
- 1 Bedroom 24.8 – 32.2 ตร.ม.
- 1+1 Bedroom 30 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 36.7 – 53.9 ตร.ม.
ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนแล้ว จึงมีผู้ที่เริ่มโอนและเข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน ทางโครงการจึงได้จัดห้องตัวอย่างไว้ 2 รูปแบบ คือ 1 Bedroom Deluxe Corner ขนาด 29.7 ตร.ม. และ 1 Bedroom Balcony ขนาด 31.7 ตร.ม. และมีห้องจริง Type 1+1 Bedroom 30 ตร.ม. ที่ MR.Oe ได้รีวิวไปแล้วเมื่อช่วง Presale รูปแบบการจัดเป็นอย่างไร ดูข้อมูลกันเลยครับ
เริ่มที่ห้องแรกครับ เป็น 1 Bedroom Deluxe Corner ขนาด 29.7 ตร.ม. โดยห้องนี้เป็นห้องมุม ที่มีด้านข้างติดกับอาคารข้างเคียง และระเบียงหันออกสระว่ายน้ำนะครับ ลักษณะการจัดวางจะแบ่งส่วนพักผ่อนและห้องนอนไว้ด้านหน้าห้อง และจัดวางห้องน้ำห้องครัวไว้ติดกับระเบียง เพื่อการระบายอากาศที่ดี เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คน แบ่งการใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรกเมื่อเข้ามาจะเจอส่วนนั่งเล่น ที่จัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและฝั่งตรงข้ามมีชุด Built-in ที่มีตู้ใส่ของจัดวางมาให้เรียบร้อย ระยะดูทีวี จัดมากึ่งกลางพอดี ถัดไปเป็นส่วนทานอาหาร ได้จัดที่นั่งสำหรับทานอาหารได้ 2 ที่นั่ง จากการลองใช้งานถือว่านั่งได้ไม่อึดอัด ส่วนต่อมาเป็นพื้นที่ครัว จัดวางออกมาให้มีระยะการใช้งานที่กว้าง เป็นสัดส่วนและมี Hob Hood Sink และก๊อกน้ำให้พร้อมใช้ โดยบริเวณนี้ออกแบบให้มีระยะที่พอดีกันกับผนังห้องน้ำ ดังนั้นเราสามารถจะกั้นพื้นที่บริเวณนี้ เพื่อทำกับข้าวได้จริงจังโดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนพื้นที่นั่งเล่น
ส่วนในห้องน้ำแบ่งเป็น 3 ส่วนตามการใช้งาน แยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบเปิด 3 ตอน สุขภัณฑ์ที่ให้เป็นของ American Standard ทั้งชุด และบริเวณระเบียง จัดพื้นที่ระเบียงออกมากว้างใกล้เคียงกับตัวห้อง แต่ระยะลึกอาจจะไม่เยอะมาก พอจะออกมายืนรับลมชมวิวสระน้ำที่อยู่บริเวณ Court (พื้นที่เปิดโล่งที่มีอาคารล้อมรอบ) ตรงกลางได้ ส่วนสุดท้ายเป็นห้องนอนบริเวณนี้จะอยู่ตรงข้ามกันกับส่วนพักผ่อน มีประตูเปิดปิดแยกส่วนกันชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้องจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุต จัดชิดริมหน้าต่างเพื่อรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ ข้างกันจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดประมาณ 90 ซม. บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอจะทำ Built-in เพิ่มเป็นโต๊ะทำงานและติดทีวีได้ ภาพรวมถือว่าจัดออกมาให้สามารถใช้งานได้เป็นสัดส่วนค่อนข้างดี และมีหน้าต่างระบายอากาศในห้องนอนซึ่งเป็นห้องริม พื้นที่ครัวสามารถตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้
เริ่มด้วยประตูหน้าห้องนะครับ ขนาดประตูทางเข้าเป็นประตูปกติ วัสดุเป็นประตู MDF เคลือบผิวเมลามินลายไม้ โดยใช้สีเข้มเพื่อให้ตัดกับบริเวณโถงทางเดินที่เป็นสีสว่าง และมีออกแบบรายละเอียดโดยทำเป็นซุ้มบัวรอบวงกบประตูทั้งภายนอกและภายในให้ดูมีความหรูหราตาม Concept Modern Luxury ของโครงการ โดยอุปกรณ์ที่อยู่กับบานประตูหลัก ๆ ก็จะมีช่องมองตาแมว อุปกรณ์ Digital Door Lock และกันชนประตูที่อยู่ด้านใน
ลักษณะของอุปกรณ์ Digital Door Lock ที่ติดมาให้นะครับ เป็นของ Yale เมื่อเอามือไปทาบบริเวณด้านหน้าก็จะมีไฟขึ้นเพื่อกดรหัส หรือจะใช้ Card แตะเพื่อเปิดก็ได้ครับ
พื้นในห้องจะยกขึ้นจากด้านนอกประมาณ 3 ซม.และมีตัวจบเป็นวัสดุ PVC ระหว่างพื้นกระเบื้องที่อยู่ด้านนอกและพื้นไวนิลที่อยู่ด้านในห้องพัก
วัสดุพื้นในห้องจะเป็นพื้นไวนิลนะครับ ถ้าเรามองดูลักษณะผิวสัมผัสของไวนิลจะมีการทำออกมาให้มีพื้นผิวที่รู้สึกได้ตามลวดลายของไม้ ซึ่งจะแตกต่างกับลามิเนตส่วนใหญ่ที่เป็นลายอย่างเดียว แต่จะไม่มีพื้นผิวสัมผัสแบบนี้ ข้อดีของวัสดุนี้คือ ไม่ซึมน้ำและไม่บวมน้ำเหมือนลามิเนต
เมื่อเข้ามาด้านในห้อง จะพบกับส่วนนั่งเล่นและต่อเนื่องไปถึงพื้นที่ครัวและระเบียงเลย บริเวณพื้นที่นั่งเล่น จะได้รูปแบบตู้ Built-in ตามนี้ ระยะดูทีวีในห้องนี้อยู่ประมาณ 2.3 ม. สามารถติดทีวีแขวนผนังได้ประมาณ 42″ – 50″ ได้ครับ ด้านบนติดแอร์ให้ เป็นของ Daikin ซึ่งกระจกที่ตกแต่งโต๊ะกลางและโซฟาในห้องจริงจะเป็นอีกรูปแบบ ห้องนี้ตกแต่งเป็นไอเดียเบื้องต้น ส่วนชั้นวางสีน้ำตาลบนผนัง และอุปกรณ์ตกแต่ง ไม่ได้ให้ครับ
มาดูกันที่ตู้ Built-in ที่ให้มาครับลักษณะตู้เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดโดยออกแบบให้ยกสูงจากพื้นขึ้นมาประมาณ 20 ซม. เพื่อให้ด้านล่างสามารถวางกล่องหรือของอื่น ๆ ได้ ลักษณะบานเปิดออกแบบเป็นบานเน้นกรอบให้ดู Classic มีระยะยื่นออกมาประมาณ 30 ซม.
เริ่มจากชุดตู้ทางด้านซ้ายมือ บานเปิดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เมื่อเปิดออกมาจะเป็นช่องโล่ง ๆ สำหรับใส่ของทั่วไปได้ครับ
ลักษณะการเปิด จะใช้มือจับตัวนี้ในการเปิด ภาพรวมสำหรับงาน Built-in ทำออกมาเรียบร้อยดีครับ
ตู้ใต้ทีวีแบ่งเป็นช่องบานเปิด ซ้ายขวา 2 ช่อง มีลิ้นชักตรงกลางและช่องโล่งสำหรับใส่ช่องอย่างละ 1 ช่อง
มาดูกันที่โต๊ะทานอาหาร ในห้องตัวอย่างจัดออกมาเป็นโต๊ะกลมและมีเก้าอี้ทานอาหาร 1 ที่ เนื่องจากโซฟาในห้องตัวอย่างจัดตัวใหญ่จึงทำให้เก้าอี้หายไป 1 ที่นั่ง ซึ่งห้องจริงจะมีโต๊ะ 1 ตัวและเก้าอี้ให้ 2 ที่และจะมีพื้นที่สามารถนั่งได้มากกว่านี้ครับ ด้านข้างติดกันเป็นที่วางตู้เย็น ส่วนผนังกระจกในห้องจริงไม่มีให้จะให้เป็นติด Wall Paper แทน ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีระยะให้สามารถกั้นพื้นที่ครัวเป็นพื้นที่ปิดได้ครับ
ต่อเนื่องมายังพื้นที่ครัว โครงการจะให้ครัวชุด Built-in ที่สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้ามาไว้ภายในห้องได้ พื้นที่บริเวณหน้าครัวจากชุดครัวถึงผนังอีกฝั่งกว้าง ประมาณ 1.45 ม. ซึ่งพื้นที่กว้างพอที่จะนำโต๊ะทานข้าวมาวางชิดผนังได้ จะทำให้พื้นที่จะเป็นสัดส่วนมากขึ้นสามารถแยกทานอาหารและพักผ่อนได้เลย ได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างขึ้น
ภาพรวมของชุดครัว Built in ช่องเครื่องซักผ้าสามารถวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาด 7.5 กก.ได้ ส่วนตู้เย็น เนื่องจากด้านบนทำตู้ Built-in เป็นช่องวางของไว้ด้านบน จึงสามารถวางตู้เย็นขนาดกลางได้ พื้นที่วางตู้เย็นกว้างประมาณ 60 ซม.
เริ่มกันส่วนแรกที่ตู้บนบริเวณส่วนทำอาหาร ด้านบนแบ่งเป็น 2 ช่อง ด้านซ้ายเป็นงานระบบของ Hood เป็นระบบดูดอากาศหมุนเวียน ด้านขวาเป็นช่องใส่อุปกรณ์ครัว เครื่องปรุงต่าง ๆ ได้
ส่วนทางด้านขวาเป็นช่องโล่งสำหรับวางของได้เช่นกัน แต่อาจต้องระวังเรื่องฝุ่นเนื่องจากไม่มีบานปิดบริเวณนี้ครับ ทางด้านขวาล่างจะเห็นว่า ช่องสำหรับตู้เย็นจะใส่ได้สูงสุดไม่เกิน 1.5 ม. ครับ เพราะจะมีชั้นวางอยู่บริเวณเหนือตู้เย็น
บริเวณพื้นที่ครัวได้ Hob ของ Teka ส่วน Sink ก๊อก ของ Hafele จัดลำดับการใช้งานได้ต่อเนื่องจากตู้เย็น>>เตรียมของ>>ล้างทำความสะอาด>>ทำอาหาร ส่วนกระจกบริเวณผนังเป็นของตกแต่งนะครับ ห้องจริงไม่มีให้จะได้เป็นผนังติด Wallpaper ให้แทนครับ
วัสดุ Top ครัวเป็นเมลามีน อาจต้องระวังเรื่องความชื้นบ้าง ส่วนอ่างมีขนาด 50 x 50 ซม. ขนาดใช้งานได้สะดวก ส่วนไฟบริเวณครัว นอกจากจะมีติดอยู่ที่ Hood แล้ว ยังมีติดเพิ่มให้บริเวณ Sink ด้วยโดยมีสวิตช์เปิดปิดอยู่บริเวณบานตู้ด้านบน ส่วนช่องด้านล่างมีมาให้ 2 ช่อง แบ่งเป็นช่องเก็บของใต้ Sink และช่องโล่งสำหรับใส่ Microwave มีปล๊กติดตั้งมาให้เรียบร้อย ส่วนลิ้นชักใส่ของมีมาให้ 2 จุดบนและล่าง สามารถใส่ช้อนส้อมได้
มาดูพื้นที่ระเบียงกันต่อครับ บริเวณนี้บานเลื่อนที่ได้จะเป็นบานเลื่อนสลับนะครับ สามารถเปิดได้ 2 ฝั่ง กระจกตัดแสง กรอบบาน Aluminium Anodized สีดำ
อุปกรณ์มือจับและ Fitting ต่าง ๆ ทำออกมาได้ดีโดยยก Curb ขึ้นมาประมาณ 11 ซม. และมีรางสำหรับมุ้งลวดไว้ให้ติดตั้งในภายหลังได้
Detail บริเวณรอบ ๆ กรอบประตูและขอบจะมีซีลผ้าที่วงกรอบและตัวบานเพื่อป้องกันฝุ่น เสียงและแมลงเข้ามารบกวนภายในห้องพักได้ เมื่อลองปิดประตูแล้วสามารถกรองเสียงได้ดีครับ
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 3.6 x 0.9 ม. ปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 40 x 40 ซม. ระยะอาจจะไม่ลึกมาก แต่ได้ความกว้างที่สามารถออกมาใช้งานได้ สามารถนำโต๊ะเล็กมาวางได้ เพราะประตูเข้าออกเป็นบานเลื่อนสสับ ค่อนข้างสะดวกในการใช้งาน
ห้องตัวอย่างอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ฝั่งวิวสระ เมื่อเปิดออกมาบริเวณระเบียงจะมองเห็นพื้นที่สระน้ำได้ชัดเจน ด้านซ้ายมือจะเป็นแนวรั้วต้นไม้ที่ทำบังอาคารพาณิชย์ด้านข้างไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนรอบ ๆ ที่เห็นจะเป็นเพื่อนบ้านในโครงการเราครับ ค่อนข้างอบอุ่นทีเดียว
ภาพรวมบริเวณระเบียงนะครับ กระถางต้นไม้ที่เห็นไม่ได้ให้นะครับ ทางโครงการนำมาตกแต่งไว้ ส่วนอีกฝั่งเตรียมก๊อกและปลั๊กกันน้ำด้านนอกมาให้ เผื่อไว้สำหรับการใช้งาน ราวระเบียงตกแต่งเป็นลวดลายสวยงาม ลองเขย่าดู ถือว่าแน่นหนาพอควรครับ
ตำแหน่ง Condensing Air ติดตั้งแขวนบนฝ้าโดยทำการลดระยะช่องประตูเพื่อหลบให้สามารถแขวนได้ และได้รับวิวได้เต็มที่ ด้านบนมีโคมซาลาเปาเป็นไฟส่องสว่างบริเวณระเบียงครับ
มองจากระเบียงเข้ามาภายในห้อง จะเห็นแสงสว่างจากช่องเปิดบริเวณระเบียงส่องเข้าไปภายในพื้นที่ห้องพัก ทำให้ภายในห้องไม่มืดมาก
ไฟภายในห้องได้ Downlight ฝังฝ้ามา 3 จุด และเครื่องจับเพลิงไหม้มา 2 จุด ต่อเนื่องกันไปจนถึงส่วนครัว วัสดุเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีทั้งหมด
ลักษณะ Curb เป็นวัสดุกระเบื้องเซรามิคสีเดียวกับภายในห้องน้ำ สูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. และกรุมาถึงภายนอกห้อง
เข้าไปด้านในแบ่งส่วนห้องน้ำแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนโดยมีฉากกั้นอาบน้ำให้ วัสดุกระเบื้องภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 40 x 40 ซม. ชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ American Standard
เริ่มต้นจากอ่างล้างมือ มีขนาดประมาณ 45 x 55 ซม. มีตู้ใต้อ่างให้ ส่วนด้านบนเป็นกระจกขนาดมาตรฐานติดตั้งมาให้
ตัวอ่างติดตั้งชิดกับผนัง ในการใช้งานอาจไม่สะดวกสำหรับคนตัวใหญ่ แต่ยังสามารถใช้งานได้ ส่วนตัวตู้ใต้อ่างเปิดมามีช่องสำหรับใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ ขวดน้ำยา สบู่เหลว ฯลฯ และได้บานเปิดเป็น Soft Close อีกด้วย
ถัดมาบริเวณส่วนสุขภัณฑ์ ตำแหน่งติดตั้งจะค่อนไปทางส่วนอาบน้ำ บริเวณนี้พอที่จะนั่งได้ แต่อาจจะเอี้ยวตัวไปหยิบกระดาษทิชชู่ลำบากหน่อย อาจจะนำมาติดไว้ที่ตู้ใต้อ่างจะสะดวกมากขึ้นครับ
สายฉีดชำระที่ได้ เป็นสีขาวจับถนัดมือ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ จะเป็นขายื่นออกมาสำหรับใส่ม้วนกระดาษ แต่ไม่มีฝาปิดกันน้ำ
ตรงข้ามกันกับโถสุขภัณฑ์มีราวแขวนผ้าติดตั้งไว้ รองรับการใช้งานเมื่อเดินเข้าส่วนอาบพอดีมือเอื้อมหยิบได้
ฉากกั้นอาบน้ำที่ให้เป็นของ Shower King มีลักษณะเป็นบานเลื่อนเปิด 3 ตอน เมื่อเปิดสุดจะมีความกว้างพอที่จะเดินเข้าออกได้ สะดวกขึ้น และมีวงกรอบเป็น Curb กันน้ำสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม.
พื้นที่ส่วนอาบมีระดับเดียวกับส่วนแห้ง กั้นด้วยฉากอาบน้ำภายในมีขนาด 1.07 x 0.95 ซม. มีพื้นที่พอดีตัว ไม่แคบจนเกินไป
บริเวณส่วนอาบจะมีชั้นวางของเป็นกระจก Tempered ติดตั้งไว้สำหรับวางขวดแชมพูได้ ยื่นออกมาประมาณ 12 ซม.ตำแหน่งติดตั้งไม่กระทบการใช้งานเวลาอาบ ส่วนบริเวณด้านข้างฝักบัว มี Box Out สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้
ฝักบัวมีน้ำหนัก จับถนัดมือและมีหัวปรับสายน้ำได้ ข้างกันที่เห็นจะเป็นชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ฝ้าเพดานในห้องน้ำติดตั้งเครื่องดูดอากาศมาให้ 1 ตัวและมี Downlight ฝังฝ้าให้มา 1 จุด
ถัดมาที่ห้องนอนครับด้านหน้าห้องจะแบ่งสัดส่วนพื้นที่ด้วยประตูเปิดปิดแบบนี้เลย วัสดุบานประตูเป็น MDF ทำสี และมีวงกรอบประตูเป็นขอบบัวเช่นเดียวกับประตูทางเข้าห้อง
ประตูเข้าห้องได้มือจับเป็นก้านโยนและระบบ Motise Lock ของ Mature Lock หรือเทียบเท่า
เมื่อเข้ามาในห้องนอนจัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ชิดหน้าต่างเพื่อให้ได้แสงและระบายอากาศได้ ด้านซ้ายจัดวางตู้ขนาด 2 บานไว้ให้ใช้งาน วัสดุพื้นภายในห้องนอนต่อเนื่องมาจากด้านนอกครับ ติดตั้งม่านมาให้แต่จะเป็นสีที่เข้มกว่าในห้องตัวอย่างครับ
พื้นที่บริเวณหัวเตียง วางได้เฉพาะตู้ ส่วนอีกด้านติดกับหน้าต่างแล้ว ส่วนอีกด้านเป็นผนังโล่งๆ มีปลั๊กสำหรับติดตั้งทีวีแขวนผนังและเครื่องปรับอากาศอยู่ด้านบน บริเวณนี้ยังสามารถตกแต่งเพิ่มเติมโต๊ะทำงานหรือชุด Built-in ได้
พื้นที่ด้านข้างบริเวณหน้าตู้กว้างประมาณ 90 ซม. สามารถใช้งาน แต่งตัวได้
เตียง Built-in ที่ให้มานั้นได้ออกแบบให้มีช่องลิ้นชักสำหรับใส่ของเพิ่มเติมได้ เป็น Detail เล็ก ๆ ที่น่าสนใจและเพิ่มพื้นที่ไว้สำหรับใส่ของเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ถึงแม้พื้นที่ห้องนอนจะไม่กว้างมากนักแต่บริเวณพื้นที่ปลายเตียงยังมีระยะอยู่ประมาณ 1.4 ม. สามารถตั้งโต๊ะทำงานบริเวณปลายเตียงได้
ด้านข้างฝั่งที่อยู่ติดหน้าต่าง ในการขึ้นลงจากเตียงในฝั่งนี้อาจจะต้องขยับตัวไปลงอีกฝั่งแทนครับ
ตู้ที่ให้มา มีขนาดกว้าง 90 ซม. และมีระยะความสูงถึงฝ้า ตัวบานแบ่งช่องเป็นบานเปิด 2 ช่อง ในการจัดวางตู้ลักษณะนี้ เน้นใช้พื้นที่บริเวณข้างเตียงได้มากขึ้น หากจะ Built-in อีกฝั่งจะได้ตู้ที่ยาวมากขึ้น แต่จะเสียพื้นที่ด้านข้างเตียงไปค่อนข้างมาก ทำให้ห้องแคบและใช้งานได้ลำบากกว่าแบบนี้ ซึ่งตอบสนองต่อพื้นที่มากกว่า
ด้านในตู้แบ่งช่องบนสำหรับใส่ของทั่วไป และมีพื้นที่สำหรับแขวนเสื้อผ้า ส่วนช่องด้านล่างแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นลิ้นชักสำหรับใส่ของ 1 จุด และมีช่องด้านล่างอีก 2 ช่องครับ
หน้าต่างภายในห้องนอน แบ่งเป็นบานเลื่อนสลับฟังก์ชั่นใช้งานไว้เปิดระบายอากาศและมีบานติดตายอยู่ด้านล่างเพื่อให้แสงเข้าได้
ไฟในห้องนอนติดตั้ง Downlight ฝังฝ้ามาให้ 2 จุด และมีเครื่องตรวจจับเพลิงไหม้ 1 จุด
สำหรับในห้องตัวอย่างจะมีการตกแต่งมาค่อนข้างเต็ม ดังนั้นเราจะพาไปดูห้องจริงที่ได้กันครับ ว่ามีส่วนไหนที่แตกต่างกันบ้าง โดยของภายในห้องที่ได้ จะเป็น Fully Furnished พร้อมแอร์ ซึ่งปัจจุบันมี Promotion สำหรับห้องหลุดดาวน์ จะมี Wallpaper และม่านติดตั้งให้เพิ่มเติม โดยจะไปดูภายในกันครับ
บรรยกาศภายในห้องจริงนะครับ ที่จะแตกต่างชัดเจนเลยก็คือ ชุดโซฟา และชุดโต๊ะทานอาหารครับ รูปแบบที่ได้จะมีขนาดโซฟาที่เล็กกว่าในห้องตัวอย่าง โดยผนังห้องจะเป็น Wallpaper สีและลายตามภาพครับ
ส่วนโต๊ะทานข้าว Top โต๊ะจะเป็นทรงสี่เหลี่ยม สามารถวางเก้าอี้ 2 ตัว ได้ในลักษณะเข้ามุม เนื่องจากในห้องนี้ยังไม่ได้ติดตั้งตู้เย็นครับ
ส่วนพื้นที่ครัวจะไม่แตกต่างกันมาก เว้นแต่จะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นตู้เย็น เครื่องซักผ้าและ Microwave ให้ ส่วนม่านที่เห็นเป็น Promotion ตอนนี้ครับ
ภายในห้องจัดชุดตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนพร้อมผ้าปูและม่านมาให้โดยจะได้ที่นอนและผ้าคลุม พร้อมกับหมอน 2 ใบครับ
ออกมาด้านนอก จะเห็นวิวสระที่สูงขึ้น บริเวณห้องตัวอย่างที่ไปดูเป็นชั้น 5 ครับ ก็จะเห็นวิวสระที่กว้างขึ้น
เมื่อมองตรงออกไปยังรอบ ๆ จะเห็นอาคารข้างเคียงที่อยู่ในบริเวณชั้นดาดฟ้าแล้ว ดังนั้นห้องที่อยู่บริเวณชั้น 6 ชั้นไปจะเริ่มเห็นวิวรอบ ๆ ได้กว้างมากขึ้นครับ
มากันที่ห้องตัวอย่างอีกห้องครับ ห้องนี้เป็น 1 Bedroom Balcony ขนาด 31.7 ตร.ม. ลักษณะของห้องนี้จะเป็นห้องที่มีระเบียงที่มีความกว้าง พิเศษกว่าห้องอื่น ๆ รูปทรงของห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าจัดออกมาเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดพื้นที่แต่ละส่วนเป็นลำดับการใช้งาน เริ่มต้นจากส่วนแรกที่เข้ามาจะเป็นพื้นที่ครัวและห้องน้ำ ซึ่งพื้นที่ครัวจะต่อเนื่องอยู่กับส่วนนั่งเล่น เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างน้อยและเสียพื้นที่ตรง Hob Hood ให้กับเสาไปจึงทำให้พื้นที่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นในการทำครัวอาจจะทำครัวจริงจังไม่ได้นัก จึงได้ออกแบบพื้นที่ส่วนนั่งเล่นให้สามารถทำชั้นวางที่ยกออกมาเป็นโต๊ะไว้ให้ใช้งานได้ ส่วนห้องน้ำแบ่งสัดส่วนออกมาเช่นเดียวกันกับห้องแรกครับ ถัดมาส่วนนั่งเล่น มีพื้นที่พอที่จะตั้งโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ แบ่งกันกับพื้นที่โซฟา ตรงข้ามกันเป็นชุด Built-in สามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังหรือวางที่ตู้ได้ ส่วนสุดท้ายจะเป็นพื้นที่ห้องนอนที่จัดไว้นอกสุดเพื่อให้ได้วิวภายนอกและระบายอากาศได้ดี โดยมีประตูบานเลื่อนกั้นพื้นที่ระหว่างส่วนนอนและส่วนพักผ่อน เพิ่มความเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยฟังก์ชั่นในห้องนอนจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตและมีตู้เสื้อผ้าอยู่ติดกัน บริเวณปลายเตียงในห้องนี้มี Built in สำหรับวางทีวีบริเวณปลายเตียงให้ แต่จะได้เปรียบตรงที่จัดวางห้องนอนไว้ปลายสุดที่ต่อเนื่องกับพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ สามารถเปิดมุมมองออกสู่ด้านนอกได้ค่อนข้างมาก และมีแสงเข้ามาสู่ภายในห้องได้มากพอสมควร การใช้งานตอบสนองต่อการใช้งานชีวิตประจำวันได้ค่อนข้างดี
เริ่มต้นภายในห้อง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวและห้องน้ำก่อนเป็นส่วนแรก ต่อเนื่องไปเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นและพื้นที่ส่วนนอนที่มีประตูกระจก 3 ตอนกั้นแบ่งเป็นสัดส่วนต่อเนื่องไปยังส่วนระเบียง ทำให้พื้นที่ภายในห้องมีแสงส่องเข้าถึงด้านในห้อง วัสดุพื้นภายในเป็นไวนิลทั้งหมด เครื่องปรับอากาศมีมาให้ 2 จุดคือบริเวณส่วนนั่งเล่น และส่วนห้องนอนเป็นของ Daikin ส่วนของตกแต่งและตู้เย็นภายในห้องเป็นอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม ไม่ได้แถมให้ครับ
มองกลับไปบริเวณด้านหน้าห้อง การใช้งานภายในห้องสำหรับแบบนี้ จะเหมาะสำหรับประกอบอาหารเบาๆ เพราะพื้นที่ครัวเป็นครัวเปิดไม่มีประตูกั้นระหว่างส่วนครัวและนั่งเล่น ส่วนทางด้านขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำ
ส่วนแรกเป็นพื้นที่ครัวครับ ในห้องนี้จะได้ชุด Built-in ครัวขนาดกว้าง 1.2 ม. ลึกประมาณ 60 ซม. ด้านบนแบ่งเป็น Sink และ Hob อยู่ติดกัน ส่วนด้านข้างวางตู้เย็นขนาดกลางมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ตู้บน แบ่งด้านซ้ายเป็นชั้นโล่งสำหรับวางของจุกจิกได้ แต่อาจจะมีฝุ่นบ้างในส่วนนี้เพราะไม่มีบานตู้ปิด ส่วนทางด้านขวาเป็นช่องสำหรับท่อ Hood จึงมีพื้นที่ให้เก็บของนิดหน่อย และจะมีสวิตช์เล็ก ๆ ข้าง Hood ไว้สำหรับเปิดปิดไฟบริเวณ Sink ที่แถมมาให้กับชุด Built-in ครับ
ส่วนในตู้ด้านล่าง แบ่ง 1 ช่องสำหรับใส่ Microwave ได้ และมีลิ้นชักบนล่าง 2 จุด ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นช่องตู้ใต้อ่าง มีปลั๊กมาให้ 3 จุดสำหรับเสียบ Hob และ Microwave
บริเวณตู้เย็น มีสัดส่วนค่อนข้างพอดี เนื่องจากริมสุดได้ทำตู้สำหรับใส่ของได้ จึงมีช่องกว้างประมาณ 60 ซม. พอที่จะใส่ตู้เย็นขนาดกลางได้ ส่วนด้านบนเหนือตู้เย็นยังเป็นพื้นที่โล่ง ๆ เราสามารถจะเพิ่ม Built-in ในบริเวณนี้ใส่ของเพิ่มเติมได้ครับ
ตัวตู้ที่อยู่ด้านข้างตู้เย็น มีความคล้ายคลึงกับห้องแรกครับ มีบานเปิดทั้งหมด 3 ช่อง แต่จะแตกต่างตรงที่ด้านบนได้ใส่ตู้ไฟไว้บริเวณนี้เพิ่มเติม
ระยะระหว่างบริเวณครัวและหน้าห้องน้ำห่างประมาณ 1 ม.สามารถใช้งานได้ค่อนข้างสะดวก ไม่แคบจนเกินไป ส่วนทางเข้าห้องน้ำทางด้านซ้ายทำการยก Curb ขึ้นมาประมาณ 10 ซม.โดยกรุกระเบื้องออกมาจนถึงด้านนอก
ภายในห้องน้ำจัดวางอุปกรณ์และสุขภัณฑ์มาเช่นเดียวกันกับห้องแรกครับ แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
โดยส่วนแรกเมื่อเปิดเข้าห้องน้ำมาจะพบกับอ่างล้างมือก่อน เป็นชุดอ่างล้างมือพร้อมตู้ใต้อ่าง
อ่างล้างมือขนาด 55 x 35 ซม. มีตู้ใต้อ่างตำแหน่งการจัดวางชิดริมผนัง ส่วนโถสุขภัณฑ์ จัดออกมากึ่งกลางมีระยะกว้างประมาณ 80 ซม. ซึ่งนั่งได้ค่อนข้างสะดวก ไม่อึดอัดนัก
ตำแหน่งของสายชำระสามารถเอื้อมหยิบง่ายสะดวก ส่วนที่ใส่ม้วนกระดาษทิชชู ถ้าจะสะดวกกว่านี้อาจจะนำมาไว้บริเวณตู้ใต้อ่างได้ครับ
พื้นที่ส่วนอาบให้ฉากกั้นแบบบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดได้กว้างขึ้น
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.2 x 0.8 ม. โดยใช้ Curb จากฉากอาบน้ำกั้นระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้ง โดยบริเวณทางเข้าส่วนอาบ ได้ติดตั้งที่วางสบู่ไว้ทางด้านซ้ายมือ ดังนั้นในการใช้งานอาจไม่สะดวกเท่าไหร่นัก แต่ได้บานเปิดขนาด 3 ตอนมาก็ช่วยให้เดินเข้าออกสะดวกระดับหนึ่งครับ
ฝักบัวที่ได้ Spec เดียวกันทุก Type โดยได้เตรียม Box Out สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ทางด้านซ้าย
ภายในห้องน้ำมี Downlight แบบฝังฝ้ามาให้ 1 จุดและพัดลมดูดอากาศอีก 1 จุด
จากนั้นมาต่อกันที่ส่วนนั่งเล่น พื้นที่บริเวณนี้มีระยะกว้างมากขึ้น เนื่องจากส่วนแรกแบ่งให้ห้องน้ำไป ลักษณะภายในแบ่งส่วนกันระหว่างโต๊ะทานอาหารและโซฟาสำหรับนั่งดูทีวี โดยมีระยะหน้าทีวีประมาณ 2.4 ม. สามารถติดทีวีขนาด 42″ – 50″ ได้
หันไปทางด้านซ้ายจะเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้มีความกว้างอยู่พอสมควร จึงได้แบ่งวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งไว้ และยังมีพื้นที่สำหรับโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งอีก 1 ชุด และมีระยะเหลือด้านข้างสำหรับเดินเข้าประมาณ 30 ซม.
การใช้งานของที่นั่งด้านใน เมื่อจัดวางโต๊ะตามตำแหน่งนี้จะมีพื้นที่สำหรับลากเก้าอี้เพื่อลุกออกและเข้าไปนั่งได้ประมาณ 55 ซม. ถ้าหากเข้าออกลำบากสามารถเลื่อนไปทางด้านซ้ายได้ เพราะยังพอมีพื้นที่และระยะเหลืออยู่
มองไปทางฝั่งติดทีวี จะเห็นชุด Built-in ตั้งแต่บริเวณครัวต่อเนื่องจนมาถึงส่วนนั่งเล่น ด้านบนติดแอร์ให้ เป็นของ Daikin ขนาด 9,000 BTU
ตู้บริเวณทีวีมีขนาดกว้างประมาณ 1.4 ม. ตัวตู้แบ่งเป็นช่องบานเปิด 1 ช่อง และมีช่องโล่งกับลิ้นชักเก็บของอย่างละ 1 ช่อง
ส่วนทางด้านขวาออกแบบมาเป็นที่วางของกึ่งโต๊ะขนาดเล็กความกว้างประมาณ 60 ซม. สามารถพับเก็บได้ เมื่อกางออกแล้วจะมีความลึกประมาณ 65 ซม. สามารถใช้วางของบริเวณ Pantry ได้เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่ค่อนข้างน้อย
ลักษณะ Fitting เมื่อกางออกขาที่จับอยู่จะยืดไปพร้อมกับแผ่นฐานโต๊ะ หากจะพับเก็บก็พับลงเพื่อเก็บโต๊ะครับ
ฝ้าภายในห้องติดโคม Downlight มาให้ 3 จุด และมีเครื่องจับเพลิงไหม้ 1 จุด
ต่อเนื่องไปยังพื้นที่ห้องนอน โดยห้องนอนจะแบ่งพื้นที่กันระหว่างส่วนนั่งเล่นโดยมีประตูกระจกกั้นแบ่งเป็น 3 ช่วงเพื่อให้มีระยะเปิดได้กว้างมากขึ้นเมื่อเปิดสุด จะมีความกว้างประมาณ 1.4 ม. และมีผนังบริเวณด้านข้างยื่นออกมาส่วนหนึ่งเพื่อให้พื้นที่ภายในห้องสามารถใส่ตู้ได้ และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ประตูบานเลื่อนติดตั้งรางด้านล่าง เมื่อเดินเข้าห้องอาจระวังสะดุดนนิดนึงครับ อุปกรณ์ล๊อคติดตั้งมาให้ใช้งานครบ
ภายในห้องนอนวางเตียงและตู้เสื้อผ้ามาโดยจัดวางตู้เสื้อผ้าไว้ชิดด้านส่วนนั่งเล่นเพื่อให้เตียงนอนอยู่ใกล้กับพื้นที่ระเบียงให้แสงเข้ามาภายในห้องนอนได้มากขึ้น
บริเวณหัวเตียงสามารถวางตู้เตี้ยได้ 1 ตัว ส่วนบริเวณปลายเตียงมีพื้นที่อยู่ค่อนข้างมาก จึงได้จัดตู้สำหรับวางทีวีไว้ 1 จุด
บริเวณพื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งติดกับตู้มีพื้นที่กว้างประมาณ 90 ซม.เท่ากับตัวตู้ สามารถยืนแต่งตัวได้สบาย
บริเวณด้านข้างเตียงได้ออกแบบให้มีลิ้นชักสำหรับเก็บของใช้ทั่วไปได้
บริเวณพื้นที่ปลายเตียงมีระยะห่างประมาณ 1 ม. ระยะนี้สามารถติดทีวีขนาด 50″ สามารถแขวนผนัง หรือวางบนโต๊ะได้
ด้านข้างเตียงฝั่งประตูทางออกมีระยะประมาณ 30 ซม. สามารถเดินรอบ ๆ เตียงได้สะดวก
บริเวณปลายสุดของห้องเป็นทางออกสู่ระเบียงโดยเป็นประตูบานเลื่อนสลับหากลุกจากเตียงก็สมารถเปิดบานที่ใกล้สุดได้ โดยมีระยะช่องเปิดกว้างประมาณ 80 ซม.
ประตูบานเลื่อนตั้งอยู่บน Curb สูงประมาณ 10 ซม.เพื่อกันน้ำเข้าสู่ภายในห้อง ด้านนอกปูพื้นกระเบื้องเซรามิค
เมื่อออกมาบริเวณระเบียง จะเห็นวิวสระน้ำและอาคารที่อยู่ตรงข้ามกันโดยมีสวนแนวตั้งบังระหว่างอาคารเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 3.2 x 1.3 ม. สำหรับห้อง Balcony ที่มีพื้นที่บริเวณระเบียงกว้างสามารถนำเฟอร์นิเจอร์มาวางและใช้งานได้เต็มที่ โดยในห้องนี้จะนำเครื่องซักผ้ามาไว้บริเวณหลังห้องให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
มองกลับมาจากบริเวณพื้นที่ระเบียง ภาพรวมภายในห้องจัดออกมาเน้นการใช้งานเป็นสัดส่วน โดยจัดแบ่งตั้งแต่พื้นที่ที่เป็นส่วน Public มาจนถึงส่วนที่ Private แบ่งการใช้งานออกมาตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี
ภายในส่วนนอนติดตั้ง Downlight มาให้ 2 จุด และเครื่องจับเพลิงไหม้ 1 จุด
ปล๊กและสวิตช์เป็นของ Siemens
เพิ่มเติมอีกสักแบบ ห้องนี้เป็น Type 1+1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. โดยจัดแบ่งเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปยังส่วนครัวและห้องน้ำ เนื่องจากมีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาจึงได้พื้นที่บริเวณส่วนครัวไม่มากนัก ส่วนห้องนอนแบ่งพื้นที่เป็น 1 ห้องมีฉากกั้นเป็นสัดส่วนและมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องนอนเล็กได้ หรือจะเป็นห้องนั่งเล่นได้และมีระเบียงออกสู่ภายนอกห้อง
เมื่อเข้ามาด้านในห้องจะพบกับส่วนนั่งเล่นก่อน และต่อเนื่องไปยังส่วนห้องนอนที่กั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนขนาด 3 ตอน เฟอร์นิเจอร์และ Built-in ได้ตามนี้ทั้งหมดครับ
ภายในห้องนอนได้เตียงและที่นอนพร้อมฟูกและหมอน โดยห้องนี้อยู่ในฝั่งทิศตะวันออกบริเวณชั้น 2 ที่เป็นวิวเปิด ไม่มีอาคารบดบังจึงได้วิวเปิดโล่ง
หันไปทางด้านซ้ายจะเป็นส่วนที่จะเชื่อมต่อไปยังห้องอเนกประสงค์ ที่มีบานเลื่อนกั้นอยู่เช่นกัน
มองตรงไปด้านในสุดเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร จะเป็นชุด Built-in ตามนี้ครับด้านซ้ายมือภาพบนจะเป็นพื้นที่บริเวณหน้าทีวี มีปลั๊กและชั้นวางเตรียมไว้ให้เรียบร้อย ส่วนภาพล่างด้านซ้ายจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ส่วนด้านขวาจะเป็นประตูเข้าพื้นที่อเนกประสงค์
เมื่อเข้ามาด้านในพื้นที่อเนกประสงค์ในห้องจัดวางโต๊ะมาให้ 1 ตัวและติดม่านให้สีและรูปแบบที่ได้ตามนี้ครับ
ส่วนพื้นที่ห้องน้ำจัดวางประตูเข้าไว้กลางห้องน้ำ เมื่อเข้ามาจะพบกับอ่างล้างหน้าก่อน ด้านซ้ายมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ และราวแขวนผ้า
เมื่อเข้ามาในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกทำเป็ยฉากกั้นเป็น 3 ตอน ซึ่งพื้นที่อาบน้ำในห้องนี้มีความกว้างไม่มาก จัดวางที่วางสบู่ได้ด้านหลังเพื่อให้ยืนอาบได้ แต่ต้องระวังตอนเดินเข้าออกแทนครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย
ข้อมูลอัพเดทปัจจุบัน @ 04 January 2017
- 1 BED ชั้น 7 ห้อง 714 ขนาด 23.22 ตร.ม. ราคาพิเศษ 1.72 ล้านบาท จาก 1.77 ล้านบาท
- 1 BED วิวสระ ชั้น 7 ห้อง 706 ขนาด 24.7 ตร.ม. ราคาพิเศษ 1.92 ล้านบาท จาก 1.99 ล้านบาท
- 1 BED วิวสระ ชั้น 3 ห้อง 305 ขนาด 24.81 ตร.ม. ราคาพิเศษ 2.02 ล้านบาท จาก 2.10 ล้านบาท
- 1 BED วิวสระ ชั้น 5 ห้อง 509 ขนาด 31.14 ตร.ม. ราคาพิเศษ 2.32 ล้านบาท จาก 2.44 ล้านบาท
- 1 BED ชั้น 3 ห้อง 325 ขนาด 27.46 ตร.ม. ราคาพิเศษ 2.32 ล้านบาท จาก 2.44 ล้านบาท
- 1 BED วิวสระ ชั้น 5 ห้อง 504 ขนาด 30.08 ตร.ม. ราคาพิเศษ 2.42 ล้านบาท จาก 2.55 ล้านบาท
- 1 BED ชั้น 3 ห้อง 320 ขนาด 30.1 ตร.ม. ราคาพิเศษ 2.62 ล้านบาท จาก 2.77 ล้านบาท
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 บาท
- Promotion ส่วนลดเงินดาวน์
- ค่ากองทุน 420 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.ม./เดือน
- ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ผู้ขายและผู้ซื้อชำระคนละครึ่ง
- ค่าจดจำนอง 1% ของยอดกู้ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าและการเปิดใช้สาธารณูปโภค ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- กรณีเปลี่ยนแปลงชื่อผู้จะซื้อก่อนโอนกรรมสิทธิ์ มีค่าดำเนินการครั้งละ 30,000 บาท สำหรับ 1 ห้องนอน และ 60,000 บาท สำหรับ 2 ห้องนอน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
Notting Hill ติวานนท์ เป็นโครงการในทำเลย่านติวานนท์ฝั่งเลขคู่ ตัวโครงการอยู่ติดถนนติวานนท์ฝั่งกระทรวงสาธารณสุข จุดเด่นคือใกล้กับกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สามารถมาใช้พื้นที่ได้ในช่วงเวลาเย็นหรือวันหยุด มาวิ่งออกกำลังกายหรือปั่นจักรยานและกีฬาอื่น ๆ ได้ และใกล้กับอทุยานมกุฏรมย์สราญที่เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ราชการนนทบุรีในฝั่งรัตนธิเบศร์อยู่ห่างกันไม่ไกลนัก ภาพรวมจึงค่อนข้างสะดวกทั้งการใช้รถยนต์ในการเดินทางและยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สามารถเป็นทางเลือกในการเดินทางเหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดอยู่อาศัยในย่านนี้
ความอุดมสมบูรณ์ รอบโครงการในระยะเดินไม่เกิน 400 เมตร ถือว่าอุดมสมบูรณ์ดีมาก ที่ปากซอยติดกับโครงการมีร้านอาหารรางชางและอีกหลายร้านในละแวกเดียวกัน มี 7-11 อยู่ปากซอย 14 ห่างไปไม่ถึง 200 เมตร และฝั่งตรงข้ามตรงปากซอยเรวดี นี่คึกคักสมบูรณ์สุดๆในย่านนี้แล้ว มีของกินแทบจะเรียกว่า 24 ชั่วโมง ในระยะที่ขับรถไปใกล้ ๆ ก็จะมีห้างสรรพสินค้าให้เลือกหลากหลายเช่น The Mall , Esplanade แคราย , Tesco Lotus และ Central รัตนธิเบศร์ ในระยะไม่เกิน 5 กม.
การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าสะดวกมาก เพราะมีซอยย่อยที่ลัดเลาะไปยังถนนสายหลักได้หลายเส้นทางทั้งไปและกลับ สามารถเชื่อมต่อขึ้นทางด่วนศรีรัช หรือไป The Mall ได้สะดวกและเป็นเส้นทางเลี่ยงในชั่วโมงเร่งด่วนได้ การเดินทางค่อนข้างคล่องตัวกว่าฝั่งมุ่งหน้าแยกแครายค่อนข้างมาก แต่มีที่จอดรถให้ประมาณ 35% ซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างน้อยสำหรับโครงการในทำเลที่ใช้รถ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถในย่านนี้ถือว่ามีความสะดวก เพราะมีสถานที่ราชการอยู่ในย่านนี้โครงการอยู่ใกล้กับป้ายรถเมล์และมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ซอยติวานนท์ 14 ไม่ไกลกับหน้าโครงการนัก ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ไม่ต้องต่อรถเข้าซอยหากจะเดินทางด้วยแท๊กซี่ ที่โครงการมีบริการเรียกรถให้โดยไม่ต้องออกไปเรียกเองเป็นทางเลือกและมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงในระยะ 750 ม. อาจจะไม่อยู่ในระยะเดิน แต่ก็เป็นทางเลือกในการเดินทางได้
การออกแบบตัวอาคาร ด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์และคอนโดอยู่รอบ ๆ จึงเน้นการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางไว้ภายใน จัดวางสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง เพื่อเพิ่มระยะของตัวอาคารให้มีพื้นที่ว่างตรงกลางเป็น Court (พื้นที่เปิดโล่งที่ล้อมรอบด้วยอาคาร) ช่วยลดความอึดอัดและได้วิวสระว่ายน้ำ โดยยกพื้นที่ขึ้นมา 1 ชั้น เพื่อให้ชั้นล่างสุดสามารถทำพื้นที่สำหรับจอดรถใต้อาคารได้ ตัว Lobby และ Main Facility จะถูกจัดวางไว้ที่ชั้น 2 ทั้งหมด อยู่รวมพื้นที่พักอาศัยบริเวณชั้น 2 แต่มี Key Card Access แยกเพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้อยู่อาศัย แต่ห้องที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำที่ชั้น 2 จะไม่เห็นวิวสระว่ายน้ำ เนื่องจากตัวสระนั้นถูกยกขึ้นมาประมาณครึ่งชั้นเพราะติดความสูงที่ชั้นจอดรถด้านล่าง แต่ก็ยังมีความสะดวกในการเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการได้ ประกอบกับพื้นที่โครงการประมาณที่มีประมาณ 1 ไร่ Facility ที่เป็นสวน หรือปลูกต้นไม้ใหญ่ จึงทำได้แค่ปลูกรอบ ๆ อาคาร ดังนั้นจึงได้ทำชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่สวนปลูกต้นไม้และจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ขึ้นไปใช้งานได้ รูปแบบของการจัดวางห้องพักภายในอาคาร จัดวางเป็นตัว U โดยปลายสุดของแต่ละด้านได้ทำช่องแสงที่สามารถเปิดได้เพื่อให้แสงผ่านและระบายอากาศภายในโถงทางเดินได้ดี ไม่ร้อนและอึดอัด มีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นที่ 26 ยูนิต สำหรับ Condo Low Rise ถือว่าพอดี ๆ ส่วนโถงลิฟท์จัดวางไว้ฝั่งทิศเหนือของอาคาร ดังนั้นฝั่งทิศใต้อาจจะเดินไกลบ้าง อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 90:1 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ต้องรอลิฟท์นาน
สำหรับวิวโดยรอบโครงการ ตัวอาคารสูง 8 ชั้น โดยในฝั่งทิศใต้ถูกอาคารข้างเคียงบังทั้งหมด ส่วนบริเวณฝั่งทิศตะวันตก จะมีอาคารพาณิชย์บังอยู่ประมาณ 5 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจะเริ่มมองเห็นวิวในฝั่งนี้ได้กว้างขึ้น ซึ่งเป็นวิวทางฝั่งรัตนธิเบศร์แต่จะมีข้อดีคือทางฝั่งคือทิศตะวันออก และทิศเหนือ ที่ได้มุมเปิดวิวได้ 2 ด้าน เพราะพื้นที่ดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักสูงไม่เกิน 2 ชั้น ที่สามารถมองออกไปยังฝั่งงามวงศ์วาน ซึ่งเป็นวิวเมืองที่มีตึกสูงอยู่ตามแนวถนนงามวงศ์วานอยู่เป็นกลุ่ม ๆ ประกอบกับเป็นทิศที่รับลมได้ดี อากาศในห้องถ่ายเทได้สะดวก
การออกแบบภายใน รูปแบบห้องต่าง ๆ ออกแบบห้องมาหลากหลายรูปแบบ โดยแบ่งออกเป็น Studio , 1 Bedroom , 1+1 Bedroom และ 2 Bedroom ที่มีหลากหลายขนาด โดยจะเน้นห้อง 1 Bedroom และ 1+1 Bedroom ทำออกมาขายเยอะและมีหลายรูปแบบตามการใช้งานให้เลือก ราคาคาห้องจึงไม่สูงมากเมื่อเทียบกับแพคเกจที่ขายเป็น Fully Furnished หยิบจับง่าย ภายในห้องออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานได้คุ้มค่า จัดวางห้องเป็นสัดส่วน มีลำดับในการใช้งานที่ตอบสนองต่อชีวิตประจำวัน ห้องนอนส่วนใหญ่จัดชิดริมหน้าต่างเพื่อการระบายอากาศและได้แสงธรรมชาติ พื้นที่ระเบียงกว้าง สามารถใช้งานได้จริงจัง พื้นที่ครัวในห้องค่อนข้างเป็นสัดส่วนแต่ถ้าทำอาหารจริงจังอาจต้องกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนเพื่อไม่ให้กลิ่นไปรบกวนส่วนอื่นของห้อง โดยออกแบบเฟอร์นิเจอร์ Built-in ให้เหมาะสมและมีขนาดพอดีต่อการใช้งาน การออกแบบภายในยังมีบางจุดมีข้อจำกัดและค่อนข้างเล็กในการใช้งาน อย่างเช่นในห้อง 1+1 Bedroom บริเวณพื้นที่ครัวและห้องน้ำ อาจจะมีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็มีห้องอเนกประสงค์ที่กั้นประตูเลื่อนให้เป็นสัดส่วนทดแทนกัน หรือภายในห้องตัวอย่างที่เสียพื้นที่ครัวไปกับเสา จึงได้ทำชุด Built in บริเวณส่วนนั่งเล่นมาช่วงรองรับบริเวณส่วนเตรียมอาหารในพื้นที่ครัว เพื่อทดแทนกัน จึงถือว่ามีการแก้ปัญหาในบางจุดให้สามารถใช้งานได้ครับ
โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมแอร์ Daikin ทุกห้อง อุปกรณ์ประตูมี Digital Door Lock ของ Yale ติดมาให้ ประตูและหน้าต่างเป็นแบบเลื่อนสลับ ซึ่งมีความแตกต่างจากคอนโดทั่วไปที่เป็นบานติดตายเลื่อนเปิดได้เพียงด้านเดียว อุปกรณ์ภายในครัว Hob , Hood ของ Teka ส่วน Sink และก๊อกเป็นของ Hafele เลือกใช้ Brand ที่มีคุณภาพ โดยวัสดุที่ได้ ถือว่าจัดมาให้ค่อนข้างดี ได้วัสดุพื้นห้องเป็นไวนิลกันน้ำ พื้นห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค ภายในห้องแยกส่วนเปียกส่วนแห้งและมีฉากกั้นอาบน้ำ 3 ตอนของ Shower King มาให้ อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นของ American Standard และได้อ่างพร้อมตู้ใต้อ่างที่มีบานเปิดเป็น Soft close , Built-in ทุกห้องแต่เป็น Fitting ธรรมดานะครับ ปัจจุบันมี Promotion แถมม่านและติด Wallpaper ให้ ถือว่าให้ของดีและมีคุณภาพในราคาล้านถึง 2 ล้านต้น ๆ เหลือเพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มนิดหน่อย ก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยครับ
สาธารณูปโภค มี Facility หลักมาให้ครบประกอบด้วย Lobby , Mail Box , สระว่ายน้ำแยกโซนสระเด็กมีห้องน้ำแยกชายหญิง , พื้นที่สวนชั้นดาดฟ้า มีครบในการใช้งานแต่มีพื้นที่จำกัด จึงรองรับงานใช้งานได้ไม่มากนัก สระว่ายน้ำจัดวางไว้ระหว่างตัวอาคารในโครงการและอาคารพาณิชย์ โดยมีรั้วสูงประมาณ 3 ชั้น จัดเป็นสวนแนวตั้งเพิ่ม Privacy ขึ้นมาได้พอสมควร และโครงการมี Service มาให้ด้วย มีบริการรับซักรีด , จ่ายบิลน้ำ/ไฟ ถือสัมภาระ , เรียก Taxi ,สั่งอาหารและ บริการทำความสะอาดห้องพักฟรี 2 ครั้ง/เดือน ทั้งนี้หลังจากโอนนิติแล้วการบริการต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการประชุมร่วมกับลูกบ้านในโครงการกับนิติบุคคลเกี่ยวกับการบริการต่อไปครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 62,000 – 82,000 บาท/ตร.ม. , 4 January 2017
- ทำเล 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้แยกแคราย สามารถไปใช้พื้นที่สีเขียวในกระทรวงสาธารณสุขได้ ใกล้ร้านค้า-ห้างสรรพสินค้า
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – เดินทางสะดวกมีทางลัดหลายเส้นทาง ขึ้น-ลงทางด่วนสะดวก แต่ที่จอดรถค่อนข้างน้อย
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานี 750 ม. ติดถนนใหญ่เรียกรถสาธารณะง่าย
- วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnished พร้อมอยู่
- แบบ 8/10 – มีห้องหลากหลายรูปแบบ จัดพื้นที่ภายในใช้งานได้สะดวก
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – Facility หลัก ๆ มีครบ ใช้งานแบบพอดีๆไม่ใหญ่มาก
- MAIN CLASS
- 7.70 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Notting Hill ติวานนท์ เหมาะกับคนที่กำลังหาคอนโดติดถนนใหญ่ในย่านติวานนท์ฝั่งกระทรวงสาธารณสุข ทำเลหาของกินของใช้ง่าย เน้นเดินทางสะดวกมีเส้นทางลัดให้ใช้ ขึ้น-ลงทางด่วนง่าย หรือเลือกใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ มีห้องให้เลือกหลายแบบ แต่งครบพร้อมอยู่ ในราคาที่หยิบจับง่าย ส่วนกลางหลัก ๆ ครบให้ใช้งาน ในงบประมาณ 1.62 – 2.92 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,340 – 20,440 บาท/เดือน
ถ้าหากอ่านแล้วมีข้อมูลต้องการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ผู้อ่านท่านอื่น ๆ ได้ทราบถึงทำเลและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องสามารถ Comment เพิ่มเติมได้ครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )