รีวิวฉบับที่ 1748 … สวัสดีครับ วันนี้มีโครงการ ณ วีรา พหล-อารีย์ คอนโดตัวใหม่จาก ณวรางค์ แอสเซท เป็นคอนโด Low Rise ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมีเพียง 78 ยูนิตเท่านั้น เน้นห้อง 1 Bedroom หลากหลายแบบ ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 14 ที่ใช้ลัดไปออกได้ถนนหลักรอบๆได้ มี Shuttle Bus รับส่งที่ BTS อารีย์ สภาพแวดล้อมเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท ไปชมกันเลยครับ

Fact @ 27 November 2018

  • Na Veera Phahol-Ari (ณ วีรา พหล-อารีย์)
  • บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : พญาไท
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 78 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 33 คันคิดเป็น 44%
  • ที่ดินประมาณ 1 งาน 99 วา
  • เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาส 1/2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 1/2563
  • 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาด 23.13-33.55 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 110,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 085-368-2222

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัดพื้นที่โครงการ : 13.786162, 100.549096

พิกัดสำนักงานขาย : 13.786001, 100.546388

แผนที่จากทางโครงการครับ

ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ใกล้แยกสะพานควาย อยู่ภายในซอยพหลโยธิน 14 เข้าไปประมาณ 250 เมตร  มีถนนใหญ่ประกบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุทธิสาร ที่สามารถไปเชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษก และ ถนนวิภาวดีรังสิต สามารถเข้าออกเมือง และมีทางยกระดับอุตราภิมุกด้วย โครงการตั้งอยู่ฝั่งซอยพหลฯเลขคู่ หากจะวนขึ้นไปทางแยกสะพานควาย ก็ต้องไปกลับรถก่อน ซึ่งจุดกลับรถมีระยะประมาณ 500 เมตรจากหน้าปากซอยพหลฯ 14  การอยู่ภายในซอยจะมีข้อดีตรงที่สามารถลัดเลาะ เข้าออกได้หลายเส้นทาง มีตัวเลือกในการเดินทางเพื่อเลี่ยงปัญหารถติด ในซอยนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับซอยพหล 2 4 6 8 และ 16 ได้ ซึ่งจะสามารถทะลุไปถึงอินทามระและไปออกถนนสุทธิสารได้เลย โดยในซอยอารีย์ฝั่งเลขคู่นี้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย มีบรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเงียบสงบกว่า ต่างกับพหลโยธินฝั่งเลขคี่ที่จะคึกคักกว่ามาก มีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านนั่งชิลต่างๆ อย่างเช่น ซอยราชครูและซอยอารีย์

การเดินทางถือว่าสะดวกเพราะมีถนนใหญ่ขนาบข้างหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งมีทางยกระดับอุตราภิมุขเข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก, ดาวคะนอง และบางนา หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิตก็ได้ ส่วนทำเลฝั่งตรงข้ามของซอยฝั่งเลขคี่ก็สามารถใช้ซอยพหลโยธิน 5 หรือซอยราชครู เชื่อมต่อกับพระราม 6 ซอย 30 ไปขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ถนนพระราม 6 เพื่อเข้า-ออกเมือง และสามารถไปฝั่งธนได้จากถนนเทอดดำริที่ขนานกับเส้นทางรถไฟบนดิน ที่ไปได้ทั้งวังพญาไท เกาะรัตนโกสินทร์และข้ามสะพานไปฝั่งธนได้อีกด้วย

ส่วนการเดินทางสาธารณะก็ไม่ถือว่าสะดวกมากนัก เนื่องจากอยู่ในซอย มีระยะห่างจาก BTS อารีย์ประมาณ 900 เมตร ซึ่งทางโครงการก็จะมีรถ Shuttle Bus ขับรับส่งให้ และเนื่องจากบริเวณย่านนี้มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในอนาคตจึงจะมีสถานีเสนาร่วม ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีอารีย์และสถานีสะพานควาย จะมีตำแหน่งอยู่ใกล้หน้าปากซอยพหลโยธิน 14 และเนื่องจากเป็นซอยที่ทะลุออกซอยข้างเคียงได้ค่อนข้างหลากหลาย จึงมีรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซต์วิ่งผ่านไปมาเรื่อย แต่จุดประจำของพี่วินจะห่างจากตัวโครงการประมาณ  150 เมตร ส่วนป้ายรถประจำทางจะอยู่เยื้องๆหน้าปากซอย พหลฯ14 รวมทั้งยังมีสะพานลอยอยู่ข้างๆให้ข้ามไปขึ้นฝั่งตรงข้ามได้อีกด้วย

ความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยพหลโยธินฝั่งเลขคู่จะค่อนข้างเงียบสงบเพราะเป็นชุมชนอยู่อาศัยและคนส่วนใหญ่ก็มักใช้เป็นทางผ่านทางลัดซะส่วนใหญ่ แต่ในระยะเดินมีร้านค้า ร้านอาหารให้ฝากท้องกันได้ ภายในซอย ซึ่งจะมี 7-eleven ที่บริเวณหน้าปากซอย พหลฯ14 นอกจากนั้นก็จะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ตามชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ภายในซอยอีกด้วย แต่โดยรอบพื้นที่นั้นมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูงมาก ทั้งรพ.ประสานมิตร เยื้องๆ ซอยพหลฯ14 ห่างออกไปก็มี รพ.พญาไท 2, รพ.ราชวิถี, รร.สุรศักดิ์มนตรี, และม.หอการค้าไทย นอกจากนั้นก็จะมีสถานที่ราชการต่างๆ และอาคารสำนักงานอีกมากมาย

จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทำเลย่านอารีย์เป็นทำเลที่คึกคัก มีร้านอาหารอยู่เยอะพอสมควรแต่ก็มีราคาค่าเช่าสูงเพราะ เป็นทำเลที่มีการจับจ่ายสูง เริ่มที่ใกล้ตัวโครงการเรามากที่สุดคือ Aqua อารีย์ แหล่งช้อปปิ้ง ย่านอารีย์-สะพานควาย ร้านค้าร้านอาหารหลากหลายแนวเรียงรายในบรรยากาศที่โดดเด่น ห่างออกไปหน่อย บริเวณซอยพหลฯ 10 มี Ari Hills ซึ่งมีร้านอาหารร้านกาแฟให้มานั่งกันได้ นำมาโดย Starbucks หากเลยไปอีกทางฝั่ง BTS อารีย์ ก็มี Community Mall ประจำถิ่นนี้ La Villa อารีย์ ที่มี Villamarket อยู่ภายในด้วย พร้อมทั้งร้านอาหารและบริการต่างๆมากมาย เลยไปฝั่งซอยอารีย์ก็มีร้านอาหาร คาเฟ่ เจ๋งๆ เรียงกันเลย รวมถึง Aree Garden ที่มี Hobs เป็นร้านเรียกลูกค้า หรือจะเป็นฝั่งสะพานควาย ก็มี Big C สะพานควายให้ไปเดินช็อปปิ้งกันได้

หากพูดถึง “อารีย์” แล้ว ก็คงจะไม่พูดหัวข้อนี้ไม่ได้ โดยย่านอารีย์นั้นเป็นพื้นที่แหล่งงานที่สำคัญย่านนึงในกรุงเทพก็ว่าได้ โดยพื้นที่ริมถนนพหลฯมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน มีอาคารสำนักงานค่อนข้างเยอะที่รายล้อมอยู่บริเวณรถไฟฟ้า หรือเรียงตามแนวถนนพหลโยธินยังไม่ได้นับสถานที่ทำงานที่ไม่ใช่อาคารสูงอื่นๆในยังย่านนี้อีกนะครับ ส่วนใหญ่มักจะเป็นราชการและรัฐวิสาหกิจ อาทิเช่น กรมสรรพากร, กรมควบคุมมลพิษ, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กรมทรัพยากรน้ำ, กรมประชาสัมพันธ์, กรมธนารักษ์ และกระทรวงการคลัง เป็นต้น เห็นได้ชัดเลยว่าที่นี่เป็น “ย่านมนุษย์เงินเดือน” อย่างแท้จริง  จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพื้นที่บริเวณอารีย์-พหลโยธิน จึงมีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์ที่ค่อนข้างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่หลากหลายประเภท คาเฟ่เก๋ๆ ชิคๆ มากมาย ตลอดจนร้านนั่งชิลยามค่ำคืน ที่มาเพื่อตอบสนองกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งทำเลของโครงการก็ค่อนข้างสะดวกสำหรับการเข้าออกที่ทำงานในย่านนี้ พร้อมทั้งยังได้รับความเจริญทั้งจากทางฝั่งซอยอารีย์และตลอแนวถนนพหลโยธินในช่วงนี้ด้วยครับ

วันนี้ผมจะพาทุกคนไปพื้นที่โครงการโดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์นะครับ จากนั้นออกประตูทางออกหมายเลข 4 แล้วเดินมุ่งหน้าไปทางสะพานควาย ตรงอย่างเดียวเลย ประมาณ 800 เมตร จากนั้นจะพบซอยพหลโยธิน 14 อยู่ทางขวามือ สำหรับใครที่ขับรถมาก็สามารถดูจากเส้นทางเดียวกันนี้ได้เลยนะครับ แต่ต้องเลยไปกลับรถที่แยกสะพานควาย ซึ่งจะมีระยะห่างจากหน้าโครงการประมาณ 700 เมตร จากนั้นเข้าไปภายในซอยพหลโยธิน 14 ตรงไปประมาณ 150 เมตร จะมีทางให้เลี้ยวขวา เลี้ยวและตรงไปอีกประมาณ 50 เมตร จะมีให้เลี้ยวซ้ายอีกที จากนั้นตรงไปอีกประมาณ 50 เมตร จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ ไปดูภาพจริงกันเลย

เริ่มจากการที่ผมนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ BTS สถานีอารีย์ พึ่งถึงสดๆร้อนๆเลย รีบเดินลงและไปต่อกันเลยครับ

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสถานี BTS อารีย์ ประกอบไปด้วย Community Mall หลักของอารีย์ La Villa Ari ซึ่งจะตั้งอยู่ฝั่งพหลโยธินซอยเลขคู่ หรือฝั่งที่เราจะต้องลงไปนั่นเอง ภายในมี Villa Market แหล่งจับจ่ายใช้สอยที่รวมสินค้าคุณภาพจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมาให้เลือกสรรค์กันมากมาย อีกทั้งในฝั่งซอยพหลโยธินเลขคี่ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร 24 ชั่วโมง 7-eleven และแผงลอยต่างๆ ยาวตลอดแนวเลยครับ ยังไม่รวมความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยอารีย์ที่เรียกได้ว่าคึกคักทั้งวันทั้งคืนเลยก็ว่าได้ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า รวมไปถึงร้านนั่งชิลยามค่ำคืน

เมื่อเดินลงมากันแล้ว ให้เดินไปทางฝั่งทางออกหมายถึง 4 นะครับ ซึ่งจะอยู่ฝั่งเดียวกันกับ อาคาร IBM, ธนาคารกสิกรไทย, La Villa Ari นั่นเอง หรือถ้าใครมาสัมภาระเยอะ ก็สามารถลงลิฟต์ตัวข้างหน้าภายในรูปนี้ได้เลยครับ

ภายในสถานีอารีย์ถือว่าเป็นสถานีที่ค่อนข้างคึกคัก มีผู้คนเดินพลุกพล่านตลอดเวลาทำการตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยทีเดียว ดังนั้นภายในสถานีจึงดูอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีร้านค้า ร้านขนม ค่อนข้างหลากหลาย สามารถซื้อติดไม้ติดมือสำหรือบรองกันกันไปได้ไม่ยาก

เมื่อเดินมาสุดทางให้เราเลือกไปทางออกหมายเลข 4 นะครับ อยู่ทางฝั่งขวามือ

ทางฝั่งด้านนี้ มีทั้งทางขึ้นจากด้านล่างซึ่งเป็นบันไดเลื่อน และทางเดินที่เป็นบันไดสำหรับเดินลง ซึ่งหากใครที่มีของเยอะหรือไม่สะดวก ก็สามารถลงลิฟต์ด้านในได้นะครับ อย่างที่บอกไปเมื่อสักครู่

เมื่อลงมาถึงเราจะเจอ La Villa Ari ซึ่งเป็น Community Mall พี่ใหญ่ของย่านนี้ ภายในมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย รวมถึงบริการต่างๆอีกมากมาย ส่วนตัวผมชอบมานั่งที่นี่นะครับ คนไม่เยอะเกินไป เป็นพื้นที่ Out-Door แต่มีพัดลมไอน้ำให้ค่อนข้างเยอะ ช่วยลดอุณหภูมิภายในได้ดีทีเดียว พื้นที่ลานด้านหน้านี้ก็มีกิจกรรมต่างๆมาจัดบูทกันบ่อยๆ แถมห้องน้ำเขาติดแอร์ให้ด้วย สบายเลย

ถ้าเราหันหน้าเข้า La Villa Ari ให้เราตบเท้าซ้ายหัน มุ่งหน้าไปทางสะพานควาย แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆเลยครับ

เมื่อเดินเลยมาสักพัก ที่บริเวณหน้าซอยพหลโยธิน 7 หรือซอยอารีย์ฝั่งตรงข้าม จะมีสะพานลอยข้ามแยกเป็นแบบ 3 เหลี่ยม ให้สามารถเลือกข้ามได้ 3 ทางเลย ถือว่าสะดวกเลยทีเดียว

หลังจากเดินมาเรื่อยๆ จะพบ พหลโยธินเพลส เป็นอาคารสำนักงาน 42 ชั้น ซึ่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน มีส่วนของพลาซ่า 4 ชั้น มีธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารเกียรตินาคิน ศูนย์อาหารภายในอาคาร ร้านค้า McDonald’s รวมถึงตลาดนัดตอนกลางวัน ผู้คนจะเยอะมากบริเวณนี้ครับ

เดินต่อมาถึงปากซอยพหลโยธิน 10 ซึ่งภายในเป็นซอยตัน แต่สิ่งที่ผมหยุดให้ดูไม่ใช่ซอย พหลฯ 10 ครับ แต่คือ Ari Hills อาคารที่พึ่งเปิดใหม่ในปีนี้นี่เองครับ

Ari Hills อาคาร mixed-use 34 ชั้น ริมถนนพหลโยธิน บริเวณซอยพหลฯ 10 ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานเกรดพรีเมียม, โรงแรม Evergreen ประมาณ 180 ห้อง, ร้านค้า ร้านขายของแบรน์ชั้นนำมากมาย นำมาโดย Starbucks, Boots, Pizza Company และอื่นๆอีกมายมาก

เมื่อเดินมาเรื่อยๆ ผ่านซอย พหลฯ 12 มา จะพบป้ายรถประจำทาง ซึ่งเป็นป้ายที่ใกล้โครงการเรามากที่สุด บริเวณนี้มีสะพานลอยอยู่ด้วย สามารถเดินข้ามไปรอรถประจำทางฝั่งตรงข้ามได้เช่นกัน

เลยสะพานลอยมาสักหน่อย จะพบจุดสังเกตสำหรับปากซอยทางเข้าโครงการเรา นั่นก็คือ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ (สน.บางซื่อ) มีตำแหน่งอยู่บริเวณหัวมุมทางเข้าซอยพหลโยธิน 14 ครับ

ซึ่งจะมีป้ายซอยอยู่บริเวณหน้า สน.บางซื่อด้วย เมื่อพบดังนี้แล้ว ให้เราเลี้ยวขวาเข้าไปเลย

จากนั้นเดินตรงต่อเข้าไปภายในซอยเลยครับ บริเวณช่วงต้นซอยจะค่อนข้างมีความคึกคักเหมือนกัน เป็นร้านค้าร้านอาหารให้กับพื้นที่ สน.บางซื่อ แล้วที่พักอาศัยภายในซอย

เมื่อตรงเข้ามาได้ประมาณ 50 เมตร จะพบวินมอเตอร์ไซต์อยู่ภายใน มีขนาดวินค่อนข้างใหญ่ อยู่พร้อมกันกับร้านค้าขายน้ำและขนมต่างๆ สำหรับก่อนจะขึ้นก็สามารถซื้อของกินติดไม้ติดมือไปด้วยได้เลย

เมื่อเดินเข้ามาประมาณ 100 เมตร จะมีทางให้เลี้ยวขวา ซึ่งเราก็เลี้ยวเข้าไปเลยครับ ซึ่งถ้าหากตรงไปจะสามารถไปทะลุกับซอยพหลโยธิน 16 และออกถนนสุทธิสารได้เลย

หลังจากเลี้ยวขวามาเมื่อสักครู่ เดินตรงต่อมาประมาณ 50 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายต่อนะครับ ที่แยกมีกระจกสะท้อนให้เพื่อความปลอดภัย บริบทโดยรอบภายในซอยจะเริ่มเงียบสงบมากยิ่งขึ้น เป็นแนวบ้านพักอาศัยหรืออาคารพักอาศัยซะส่วนใหญ่ สำหรับใครที่ไม่ชอบพื้นที่วุ่นวายก็ถือว่าเหมาะเลยครับ ภายในรูปถ้าหากตรงต่อเข้าไปจะเป็นซอยตันนะครับ ภายในเป็นอาคารพักอาศัยชั่วคราว มีให้เช่าทั้งรายวันและรายเดือน

หลังจากเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ให้เดินตรงต่อเข้าไปภายในซอยเลยครับ ซึ่งซอยนี้มีชื่อว่า ซอยศุภราช เป็นซอยหลักหน้าโครงการเรา มีความกว้างประมาณ 10 เมตร บริบทโดยรอบเริ่มมีบ้านพักอาศัย 1-3 ชั้นมาให้เห็นกัน บริเวณแนวรั้วฝั่งขวามือมีรถจอดเรื่อยๆ เลย เนื่องจากมีอาคารพักอาศัยอยู่ภายในซอยนี้ด้วยเช่นกัน

เมื่อตรงเข้ามาประมาณ 50 เมตร จะเห็นโครงการ ณ วีรา พหล-อารีย์ อยู่ทางซ้ายมือครับ แนวรั้วสีส้มๆ ประตูสีม่วง ทั้งหมดนั่นเลยครับผม

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

รูปแบบพื้นที่ดินเป็นรูปตัว L ซึ่งมีขนาดเกือบ 1 ไร่ ถือเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก ที่ตั้งโครงการหันหน้าเข้าซอยศุภราช ซึ่งก็คือซอยพหลโยธิน 14 นั่นเอง ซึ่งซอยนี้สามารถเชื่อมต่อไปได้ทั้งฝั่งถนนสุทธิสาร และฝั่งซอยพหลโยธิน 8, 6, 4, 2 เลยครับ บริบทโดยรอบถูกรายล้อมด้วยอาคารที่พักอาศัยแนวราบ พื้นที่รอบข้างที่ติดตัวโครงการประกอบไปด้วย

  • ทิศเหนือ : บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีอาคารธนาคารออมสิน ภาค 1 อยู่ด้วยครับ
  • ทิศตะวันออก : ติดอาคารบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
  • ทิศใต้ : ซอยศุภราช ซึ่งเป็นถนนหน้าโครงการขนาดประมาณ 10 เมตร เป็นทางเข้าออกหลักของโครงการ ฝั่งตรงข้ามมีอาคาร Chateau in Town พหล 14 สูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันตก : ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ไปดูพื้นที่รอบๆโครงการกันครับ

พื้นที่หน้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้มีการล้อมรั้วนะครับ จะสังเกตได้จากบ้านหลังที่ัรั้วสีส้มประตูสีม่วง นั่นเอง

ไปดูฝั่งลึกเข้าไปภายในซอยพหลโยธิน 14 (ซอยศุภราช) กันก่อนละกันนะครับ ซึ่งมีลักษณะเป็นทางตรงยาวเข้าไป ภายในมีซอยแยกย่อยไปอีก

ติดตัวโครงการเลยคือบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ส่วนภายในเข้าไปมีบรรยากาศทั้งสองข้างทางเป็นอาคารบ้านพักอาศัย 2 ชั้นเช่นกัน มีรั้วชัดเจน บรรยากาศค่อนข้างสงบเงียบ ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่สาธารณะเท่าไรนัก

ฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นเช่นกัน ซึ่งจะมีพื้นที่ด้านหน้าที่เป็นแนวรถจอดให้เห็นกันตลอด

ลึกเข้าไปภายในซอย ก็จะมีบรรยากาศคล้ายๆกันครับ เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นทั้งหมด

เมื่อตรงเข้ามาประมาณ 50 เมตร จะเริ่มมีซอยแยกไป คือซอย ศิรินุพงษ์ ซึ่งภายในเป็นบ้านพักอาศัย และเป็นซอยตันครับ ส่วนถ้าตรงต่อไป จะมีให้เลี้ยวซ้ายเพื่อแยกไปถนนสุทธิสาร ส่วนถ้าจะไปเชื่อมกับบรรดาซอยพหลโยธินต่างๆ จะมีทางให้เลี้ยวขวาครับ

ฝั่งตรงข้ามโครงการ มีอาคารพักอาศัย 8 ชั้น ซึ่งก็คือโครงการ Chateau in town ภายในมีทั้งหมด 79 ยูนิต

ตัวอาคารมีลักษณะพื้นที่เป็น สี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าที่ดินไม่กว้างมากนัก เป็นแนวยาวเข้าไป มีถนน 10 เมตร คั้นให้ห่างจากตัวโครงการเรา มีระยะค่อนข้างเยอะ ทำให้มีผลกับมุมมองของอาคารเราไม่มากเท่าไรนักครับ

มาดูอีกทางกันบ้าง ซึ่งเป็นฝั่งที่เราเดินเข้ามานั่นเอง เริ่มด้วยพื้นที่ตรงข้ามโครงการเยื้องๆกันนั้น เป็นพื้นที่พักอาศัย 2 ชั้น มีแนวถนนร่นเข้าไป ทำให้มีรถจอดริมรั้วแทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียว

ฝั่งติดโครงการเราก็เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นเช่นกัน ด้านหน้ามีตู้ไปรษณีย์ตั้งอยู่ด้วย สามารถมาส่งเอกสารหรือจดหมายได้นะ

เมื่อตรงออกมาประมาณ 50 เมตร จะพบกับทางเลี้ยวที่เราได้เลี้ยวเข้ามา บริเวณหัวมุมมีกระจกสะท้อนให้ด้วย ปลอดภัยทีเดียว

เมื่อเดินย้อนกลับมา ที่บริเวณหัวมุมเลี้ยวมีร้านสเต็ก F.M. Steak เคยได้มากิน รสชาติดีเหมือนกัน ราคาไม่แพงด้วย สามารถเดินมาฝากท้องกันได้ง่ายๆเลยครับ

เดินเลี้ยวซ้ายย้อนกลับมาทางหน้าปากซอยพหลโยธิน 14 จะมีร้านอาหารไทย ร้านนึงชื่อร้าน “อย่างเก่าก่อน” ซึ่งจะเป็นร้านอาหารไทยสูตรโบราณ บรรยากาศร้านดูดีน่ามาลิ้มลอง ส่วนตัวผมเล็งไว้นานแล้ว ตั้งใจไว้ว่าต้องไปโดนให้ได้เลย

ฝั่งตรงข้ามมีกลุ่มร้านค้าแผงลอย จำพวกร้านส้มตำ ร้านลูกชิ้น มาตั้งกันบริเวณนี้เป็นประจำทุกวันเลยครับ

ถัดออกมาเป็นอาคารพหลเมโทร เป็นอาคารพักอาศัย Low Rise 8 ชั้น 164 ยูนิต

ด้านหน้าเยื้องๆกันนั้นมีวินมอเตอร์ไซต์อย่างที่ผมให้ดูไปก่อนหน้านี้ในส่วนของการแนะนำเส้นทางนะครับ

ตรงต่อไปทางปากซอยพหลโยธิน 14 ฝั่งขวามือคือโครงการพักอาศัย Low Rise 8 ชั้น 117 ยูนิต ส่วนฝั่งขวามือคืออาคารพักอาศัยเช่นกัน

เลยมายังบริเวณหน้าปากซอย ซึ่งก็บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่ามีความเจริญคึกคักพอสมควร เนื่องจากภายในซอยพหลโยธิน 14 มีอาคารพักอาศัย อยู่ภายในค่อนข้างเยอะ บริเวณนี้ก็มีคนมาทานข้าวตลอดทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็นเลยครับ

ประกอบไปด้วย ร้านส้มตำ-อาหารอีสาน 2 ร้าน ร้อนหอยทอย และร้านสเต็ก ถ้าผ่านไปมาในช่วงกลางวันและเย็นหลังเลิกงาน จะพบว่าบริเวณนี้ถือว่าคึกคักเลยทีเดียว

ส่วนที่บริเวณหน้าปากซอยมีร้านค้าแผงลอยมาตั้งอยู่เป็นประจำทุกวัน เช่นแผงขายผลไม้ ลูกชิ้น ขนม ต่างๆ

เมื่อเดินออกมาทางหน้าปากซอย ลองเดินเลยถัดไปยังฝั่งสะพานควายประมาณ 20 เมตร จะมีร้านสะดวกซื้อ 7-eleven ตั้งอยู่นะครับ พร้อมตู้ ATM ให้บริการ

ส่วนกลับมายังฝั่งมุ่งหน้าไป BTS อารีย์ที่เราเดินทางกันมา ก็จะพบ สน.บางซื่ออยู่ที่หัวมุมปากซอยครับ

เดินเลยมาประมาณ 20 เมตร จะมีสะพานลอยที่สามารถข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ ซึ่งก็มีป้ายรถประจำทางอยู่ไม่ไกล แต่เป็นสะพานลอยแบบไม่มีหลังคาให้ สำหรับใครที่ต้องใช้เป็นประจำ ก็แนะนำให้พกร่มไว้สำหรับกันแดดกันฝนกันด้วยนะครับ ผมเป็นห่วง

เดินจากหน้าปากซอยพหลโยธิน 14 มาประมาณ 50 เมตร จะพบกับป้ายรถประจำทาง ซึ่งเป็นแบบมีที่นั่งและหลังคาให้พร้อม และเนื่องจากถนนพหลโยธินเป็นถนนใหญ่สายสำคัญที่สามารถแยกไปยังเส้นทางอื่นได้ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้มีจำนวนรถจำทางวิ่งเส้นนี้เยอะพอสมควร ถือว่าสะดวกสำหรับผู้ที่ใช้การเดินทางลักษณะนี้เป็นหลักครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ  ~ 250 m.
  • Aqua Ari ~ 450 m.
  • พหลโยธินเพลส ~ 650 m.
  • AIS Tower 1 ~ 750 m.
  • Big C Super center สะพานควาย ~ 800 m.
  • BTS อารีย์  ~ 900 m.
  • โรงพยาบาลประสานมิตร  ~ 950 m.
  • AIS Tower 2 ~ 1 km.
  • La Villa Ari ~ 1 km.
  • BTS สะพานควาย ~ 1 km.
  • โรงพยาบาลสัตว์พญาไท ~ 1.3 m.
  • กระทรวงทรัพยากร ~ 1.7 km.
  • ตึก Pearl ~ 1.8 km.
  • ตลาด อตก. ~ 2 km.
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 2.7 km.
  • ด่านคลองประปา 1 (ด่านขึ้นทางพิเศษศรีรัช)  ~ 2.7 km.
  • กระทรวงการคลัง ~ 2.8 km.
  • กรมขนส่งทางบก ~ 2.9 km.
  • รพ.เปาโล ~ 3 km.
  • รพ.วิชัยยุทธ ~ 3 km.
  • ด่านคลองประปา 2 (ด่านขึ้นทางพิเศษศรีรัช) ~ 3.1 km.
  • ม.หอการค้าไทย ~ 3.3 km.
  • สโมสรทหารบก ~ 4.6 km.
  •  

เจาะลึกตัวโครงการ

ภาพจำลองตัวโครงการ ตัวโครงการ ณ วีรา พหลฯ-อารีย์ เป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 1 ไร่ 1 อาคาร มีทั้งหมด 78 ยูนิต ลักษณะตัวอาคารเป็นสี่เหลี่ยม ตัวอาคารออกแบบตามแนวคิด Classic Twist ผสมความเป็นยุโรป มีลักษณะที่เสา และขอบบัวต่างๆ ตกแต่งด้วยสีเรียบง่าย ไม่ฉูดฉาด แต่มีการเก็บรายละเอียดค่อนข้างดี ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยและบริบทโดยรอบที่เป็นชุมชมพักอาศัยทำให้ตัวโครงการได้ความเงียบสงบเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ลืมที่จะมีพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ซึ่งจัดไว้ที่ชั้น 7, 8 ของอาคาร การมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านบนอาคาร ทำให้สามารถได้รับวิวโดยรอบได้ดี เป็นส่วนตัวในการใช้งาน พ้นระยะสายตาจากอาคารโดยรอบ และทำให้ชั้นล่างสามารถจอดรถได้เยอะมากยิ่งขึ้น โดยตัวโครงการมีทางเข้าออก สำหรับรถยนต์ 1 ทางที่บริเวณซอยศุภราช ส่วนด้านหลังอีกฝั่งมีประตูที่สามารถเดินเข้าออกได้ ภายในจอดรถได้ 33 คัน คิดเป็น 44% โดยจะมีระบบ Automatic Parking จอดรถแบบ 2 ชั้น มีทั้งหมด 8 คัน

จุดเด่นของโครงการนี้ ผมมองว่าคือการออกแบบวางผังรวมและผังแต่ห้องแต่ละห้องให้เข้ากัน โดยภายในโครงการมีห้องทั้งหมด 2 Type  คือ 1 Bedroom ขนาด 23.13 – 29.52 ตร.ม. จำนวน 72 ยูนิต และ 1 Bedroom Plus ขนาด 31.88 – 33.55 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต ทางโครงการมีการออกแบบให้มีรูปแบบการจัดห้องภายในที่หลากหลาย สำหรับผู้ใช้ที่แตกต่างกัน นอกจากนั้นแล้ว ยังออกแบบให้เหมาะกับบริบทพื้นที่ตั้งโครงการ การวางตำแหน่งบนผังอาคารอีกด้วย โดยที่ชั้น 1 ภายนอกอาคารถูกจัดเป็นส่วนจอดรถใต้อาคาร ภายในอาคารจัดเป็นส่วน ห้องนิติบุคคล และห้องงานระบบต่างๆ มีโถงลิฟต์อยู่ที่ตรงกลาง โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 ชั้น พื้นที่ส่วนกลางจะแบ่งอยู่ที่ชั้น 7 ที่เป็นห้องออกกำลังกาย, ห้องทำงาน และ ชั้น 8 ซึ่งจะเป็นสระว่ายน้ำ

ภาพจำลองพื้นที่ Co-Working Space ซึ่งจะมีตำแหน่งอยู่ที่ชั้น 7 หันหน้าไปทางทิศเหนือ รับวิวที่ค่อนข้างโล่ง และไม่ร้อนมากนัก มีพื้นที่ Sami-Outdoor Recreation กั้นไว้ระหว่างขอบอาคาร ภายในตกแต่งด้วยกระจก ซึ่งจะมีแนวผนังกระจกกั้นไว้ แต่ก็ยังสามารถมองเห็นวิวและรับแสงได้เช่นกัน มีการใช้พื้นและผนังโทนสีสว่าง สบายตา พร้อมรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย มีตัวเลือกในการเลือกนั่งทำงานได้หลากหลายเลยทีเดียว

ภาพจำลองส่วน Sami-Outdoor Recreation พื้นที่นั่งเล่นริมอาคาร ซึ่งเป็นพื้นที่คั่นระหว่างกรอบอาคารกับพื้นที่ Co-Working Space จะได้รับวิวที่ดีกว่า รับลมเย็นสบาย ที่ริมอาคารมีแนวพุ่มไม้สีเขียว ตกแต่ง ช่วยให้ดูร่มรื่นสบายตา ส่วนภายในพื้นที่หลักๆตกแต่งจะคล้ายๆกับส่วนของ Co-Working Space แต่มีฝ้าเพดานเป็นระแนงไม้ เพื่อให้รู้สึกเป็นพื้นที่ภายนอกมากยิ่งขึ้น  มีมุมนั่งเล่นที่ค่อนข้างหลากหลาย สามารถมานั่งทำงานบริเวณนี้ก็ได้เช่นกัน

ชั้น 8 ของอาคารจะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 4 x 7.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งจะมีมุมทางทิศเหนือ เป็นสระน้ำล้น สามารถได้รับวิวทางทิศเหนือ และทิศตะวันตกได้ มาพร้อม Terrace สำหรับนอนดูวิว ริมสระ มีแนวระแนงต้นไม้สร้างบรรยากาศ ช่วยบังความร้อนได้ด้วย

วิวทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเปิดค่อนข้างโล่งเลยครับ จะได้วิวที่มีความสงบ ค่อนข้างเป็นมุมส่วนตัว ไม่วุ่นวาย มีการวางสระให้มีแนวอาคารช่วยบังแดดในทิศใต้ และแนวระแนงในทิศตะวันตก ทำให้สามารถใช้งานได้ค่อนข้างเร็ว ช่วงบ่ายแก่ๆหน่อย ก็เริ่มจะมีร่มในสระแล้ว สระมีขนาดไม่ใหญ่นัก อาจจะว่ายออกกำลังกายจริงจังไม่ได้ เหมาะแก่การมาแช่น้ำ รับวิวเมือง ผ่อนคลายกันไปครับ

เรามาดูโมเดลกันครับโครงการ ณ วีรา พหล-อารีย์ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น บนพื้นที่เกือบ 1 ไร่ ออกแบบการจัดวางผังอาคารเป็นตัว L ตามพื้นที่โครงการ มีทางเข้าออกสำหรับรถยนต์ 1 ทาง ติดซอยศุภราช ซึ่งจะแยกทางเข้าและทางออกชัดเจน ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย มีทางเดินรถและพื้นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมด ไม่ต้องกังวลเรื่องร้อนและเปียกฝน โดยจะมีพื้นที่จอดรถปกติอยู่ที่ชั้น 1 และพื้นที่จอดรถแบบ Automatic Parking 2 ชั้น จำนวน 4 ช่องจอดพร้อมกับส่วน นิติบุคคล ที่ชั้น 1 เช่นกัน แต่โครงการนี้ไม่มีพื้นที่ส่วน Lobby ทำให้หากจะนั่งรอ หรือพักคอย อาจจะต้องนัดเวลากันดีๆ เนื่องจากไม่ได้มีพื้นที่สำรองไว้ให้ ส่วนพื้นที่ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 จนถึงชั้น 8 มีพื้นที่ส่วนกลาง อยู่ที่ชั้น 7 และชั้น 8 ครับ

อย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่าทางเข้าออกสำหรับรถยนต์มี 1 ทาง ซึ่งเป็นทางถนนศุภราช (พหลโยธิน14) ถนนมีความกว้างประมาณ 10 เมตร ขับสวนกันได้สบายๆ ภายในมีเดินรถทางเดียวใต้อาคารเป็นตัว U รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร เป็นรั้วทึบ ค่อนข้างให้ความเป็นส่วนตัว ซึ่งมีเจาะช่องให้เห็นบ้างเป็นแนวข้างๆ ประตูทางเข้าและทางออกแยกกันชัดเจน ดูแลง่าย เป็นระบบประตูล้อเลื่อน มีรปภ.ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ริมแนวรั้วโครงการมีแนวถนนรอบอาคาร และพื้นที่ด้านหลังโครงการ มีประตูที่สามารถเข้าออกได้ แต่ทางโครงการจะให้เข้าออกเฉพาะสำหรับคนเดินเท่านั้นนะ

รูปด้านอาคารมีการออกแบบให้เข้าถึงสไตล์ Classic มีความเรียบง่าย แต่ลงรายละเอียดค่อนข้างดี สังเกตได้จากบัวบริเวณหัวอาคาร และตามเชิงเสาต่างๆ โดยด้านข้างอาคารออกแบบมาเป็นลักษณะของการเน้นเสาอาคารเป็น Layer หน้า ส่วนระยะด้านหลังจะเป็นแนวกระจกและผนังอาคารต่างๆ ใช้โทนสีเรียบๆ สีสันที่ไม่ฉูดฉาด สบายตา แลดูสงบ ส่วนทางทิศตะวันออก อาคารฝั่งด้านในมีช่องเปิดที่มีระเบียงต้นไม้ และแนวผนังทึบยาวอยู่ทุกชั้น ซึ่งบริเวณนี้เป็นส่วนของ Single Loaded Corridor ภายในมีช่องเปิดรับลมและระบายอากาศ อีกทั้งยังช่วยรับแสงธรรมชาติให้เข้าสู่โถงทางเดินภายในได้อีกด้วย แต่ในมุมมของภายนอกก็มีการเซาะร่องตามผนัง ให้มีเส้นสายของอาคาร ไม่เรียบจนเกินไป

ที่บริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 7 และ ชั้น 8 มีแนวระแนงไม้เลื้อยที่ให้ความเชื่อมต่อกันของทั้งสองพื้นที่ จัดสัดส่วนเข้ากันได้ดี ง่ายต่อการเข้าถึง และการดูแลรักษา ทั้งสองพื้นที่จะได้รับวิวในฝั่งของทิศเหนือและทิศตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่พักอาศัยแนวราบ มุมมองจากชั้นบนจึงเปิดโล่ง ไม่มีความวุ่นวาย เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน

ที่บริเวณชั้น 8 มีพื้นที่สระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หักมุมเล็กน้อย และ Terrace นั่งเล่น ข้างๆ ส่วนที่ด้านบนชั้นดาดฟ้าของชั้น 8 มี Roof Garden ซึ่งเป็นระเบียงพื้นที่สีเขียว สำหรับรับวิวได้รอบด้าน สามารถขึ้นมาพักผ่อน เดินเล่นสูดอากาศได้เช่นกันครับ

พื้นที่สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4 x 7.5 เมตร ลึก 1.2 ถึงขนาดสระจะไม่ใหญ่นัก ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต ก็ถือว่าให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน แต่อาจจะว่ายน้ำแบบจริงจังระยะยาวไม่ได้ ด้วยการออกแบบให้สามารถรับวิวโล่งๆเลยได้ 2 ด้าน คือทิศเหนือและทิศตะวันออก ซึ่งมีความเงียบสงบ และเปิดโล่งมาก เหมาะสำหรับการแช่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว ซึ่งก็มาพร้อมกับพื้นที่ข้างสระ ที่มีแนวระแนงไม้เลื้อยปกคลุมด้านบนเชื่อมต่อมาจากชั้น 7 ร่มรื่นยิ่งขึ้น แถมยังเป็นพื้นที่เปิดรับวิวเช่นกัน เป็นที่นั่งเล่น สามารถคุยกันได้กับคนในสระเลยด้วย

มาดูกันต่อที่ส่วน Floor Plan นะครับ เป็นโครงการคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 78 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดิน มีลักษณะการวางตัวอาคารเป็นตัว L มีทางเข้าออกอาคารทางเดียวคือทางซอยศุภราช (พหลโยธิน 14) มีรปภ. และ CCTV ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง การเดินรถภายในเป็นแบบทางเดียวเป็นตัว U แยกทางเข้าและทางออกชัดเจน จัดการควบคุมง่าย ได้ความเป็นส่วนตัว โดยพื้นที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด มีจำนวน 33 คัน คิดเป็น 44% โดยจะมีแบบ Automatic Parking 4 ช่อง ซึ่งจะเป็นที่จอด 2 ชั้น รวมแล้วมี 8 คัน มีลิฟต์อยู่ตรงกลาง

ส่วนพื้นที่ด้านในจะมีห้องงานระบบและพื้นที่นิติบุคคล ซึ่งทางโครงการไม่มีส่วนของพื้นที่ Lobby มาให้ สำหรับใครที่ต้องการมานั่งรอ หรือนัดกันไว้ก็อาจจะต้องเผื่อเวลานัดให้กระชับหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องยืนรอนาน ส่วนลิฟต์ของที่นี่จะมีให้ 1 ตัว อยู่บริเวณตรงกลางที่จอดรถ เข้าถึงง่าย รวดเร็ว แต่ต้องเดินข้ามถนน ก็ระวังรถสักหน่อยนะ มีการเข้าถึงด้วยระบบ Key Card รักษาความปลอดภัย ส่วนของ Mail Box จะถูกจัดไปให้ในแต่ละชั้นโดยทีมงานนิติบุคคล ถือว่าสะดวก ใช้งานง่าย การวางผังแบบนี้ทำให้สามารถจัดการภายในง่าย และได้ความเป็นส่วนตัว ซึ่งเข้ากับแนวคิดโครงการได้ดีทีเดียว

เมื่อขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัย แต่ละชั้นจะมีพื้นที่ตรงกลางเหมือนกัน มีการวางโถงทางเดินเป็นตัว L เริ่มที่ลิฟต์ 1 ตัวและบันไดหนีไฟ มีห้องขยะ ที่ทางโครงการออกแบบให้เลี่ยงการตรงกับประตูห้องพักอาศัย, ห้องควบคุมไฟ, ช่องลมที่เป็นพื้นที่ระบายอากาศในแต่ละชั้น จะทะลุกันได้ตั้งแต่ชั้น 2-8 นอกจากนั้นยังมีช่องเปิดรับลมในแต่ละชั้น ทั้งสองส่วนนี้ช่วยในการ ventilation ในโถงทางเดิน นอกจากนั้นที่มุมสุดทางเดินยังมีช่องแสงให้อีกด้วย ทำให้พื้นที่ทางเดินสว่างตลอดทั้งทาง ซึ่งจะมีลักษณะเป็น Single Loaded Corridor เกือบทั้งหมด ได้ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว

ส่วนห้องพักอาศัยของชั้นนี้จะมีทั้งหมด 12 ห้อง โดยจะมีห้องขนาดใหญ่อยู่ที่มุมอาคารสามารถรับลมและรับวิวได้สองด้านจะได้วิวฝั่งทิศตะวันออกด้วย ซึ่งเป็นพื้นที่พักอาศัย 2 ชั้น สำหรับชั้นสูงๆ นี่ก็จะได้วิวที่โล่งเลยทีเดียว ส่วนอีกด้านจะมีบันไดหนีไฟ ซึ่งเป็นแบบออกนอกอาคาร

ห้องพักอาศัยของชั้น 3 จะมีลักษณะเหมือนกับของชั้น 2 เลยครับ มีจำนวนทั้งหมด 12 ห้องถือว่าไม่มาก มีลักษณะการเดินแบบ Single Corridor เกือบทั้งหมด แถมประเภทห้องในแต่ละตำแหน่งยังเป็นลักษณะเดิมด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 4, 5, 6 จะมีลักษณะการจัดผังพื้นที่เหมือนกัน โดยจะมีจำนวนห้องพักเท่าเดิมที่ 12 ห้อง แต่มีลักษณะห้องที่แตกต่างจากเดินครับ โดยแนวห้องพักทางฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นรูปแบบห้องที่ถูกออกแบบมาพิเศษทางฝั่งนี้ เนื่องจากจะมีพื้นที่ยื่นออกไป แต่ไม่ได้เปิดช่องแสงโดยตรง ใช้เป็นแนวกระจกด้านข้าง ได้รับแสงเช่นเดิมแต่ไม่รับความร้อนโดยตรง ทำให้พื้นที่ภายในห้องไม่ร้อนมากนัก เหมาะกับการตั้งอยู่ในทิศตะวันตก นอกจากนั้นแล้วยังเป็นแนวรูปด้านทีสวยงามให้กับอาคารอีกด้วย โดยทางโครงการใช้พื้นที่ที่ยื่นออกมาของแต่ละห้อง เป็นเสา และมีพื้นหลังเป็นอาคาร ซึ่งเสาที่ว่านี้ก็แสดงถึงความ Classic โดยการใส่บัวที่ขอบด้านบนเหมือนที่อธิบายไปในส่วนของโมเดลนะครับ

เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 7 ซึ่งจะมีส่วนของ Facilities มาด้วย นอกจากนั้นประเภทห้องพักยังแตกต่างจากเดิมอีกด้วย โดยจะมีจำนวนห้องเหลือเพียงแค่ 9 ห้องเท่านั้น ได้เรื่องความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เพราะพื้นที่ Facilities ที่เพิ่มขึ้นมา ประกอบไปด้วย 3 ส่วน

  • Co-Working Space ห้องทำงานภายในอาคาร ภายในมีพื้นที่รับรองค่อนข้างหลากหลาย จริงๆแล้วอาจจะใช้เป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น นั่งรอ หรือ Lobby ของอาคารก็ว่าได้ แต่มีการเข้าถึงที่ต้องใช้ Key Card ให้ความเป็นส่วนตัวและเน้นการให้บริการลูกบ้านภายใน เป็นพื้นที่แรกของส่วนนี้เพื่อแจกไปยังส่วนอื่นต่อไป
  • Fitness ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีทั้งส่วน Cadio และ Weight Training ให้ใช้ครบครัน สามารถได้วิว 2 ฝั่ง อีกด้วย
  • Semi-Outdoor Recreation พื้นที่ระเบียงนั่งเล่น สำหรับรับลมและวิวได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น มีพื้นที่จัดไว้รับรอบค่อนข้างหลากหลาย

พื้นที่ทั้งหมดนี้จะได้รับวิวในส่วนของทิศเหนือและทิศตะวันออก ซึ่งจะเป็นมุมที่ค่อนข้างโล่ง และสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน โดยพื้นที่ส่วนนี้จะมีทางเข้าอยู่บริเวณหน้าลิฟต์ เข้าใช้ด้วยระบบ Key Card และการจะออกมายังโถงทางเดินต้องใช้ Key Card ด้วยเช่นกัน ทำให้ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนห้องพักอาศัยเลย ได้เป็นทางเดินแบบ Single Loaded Corridor ทั้งหมดทั้งชั้น ทางฝั่งทิศตะวันตกมีรูปแบบห้องที่เปลี่ยนไป จากเดิมของชั้นที่ผ่านๆมา จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom 6 ห้องเรียงกัน แต่ของชั้นนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom 2 ห้อง และ 1 Bedroom Plus 3 ห้อง ทำให้ทั้งแนวมีเหลือแค่ 5 ห้อง แต่จะเป็นห้องขนานใหญ่ขึ้นนั่นเอง โดยจะมีลักษณะห้องที่ถูกออกแบบมาให้มีส่วนยื่นออกมา คล้ายกับห้องของชั้นที่ผ่านมา มีความต่อเนื่องในส่วนของรูปด้านอาคาร

มาที่ชั้นบนสุดของอาคาร ก็เป็นอีกชั้นที่มีพื้นที่ Facilities เช่นกัน แต่จะเป็นแบบ outdoor ภายนอกอาคาร ประกอบไปด้วย

  • Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4 x 7.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ไม่เน้นการว่ายแบบออกกำลังกายจริงจัง แต่เหมาะแก่การเป็นพื้นที่พักผ่อน เพราะเป็นสระแบบน้ำล้น สามารถรับวิวทั้งฝั่งทิศตะวันออกและทิศเหนือได้ มาพร้อมกับพื้นที่ Terrace ด้านข้าง ที่ปกคลุมด้วยแนวระแนงต้นไม้ ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าเดิม มีพื้นที่ล้างตัวให้ 1 จุด นอกจากนี้ยังไม่มีพื้นที่ใต้สระ ทำให้ไม่ต้องมีชั้นใต้สระว่ายน้ำให้เปลืองพื้นที่โครงการ
  • Restroom ห้องน้ำแยกชายหญิง จัดมาให้สำหรับชั้นนี้แต่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำภายในห้อง จะมีอยู่ภายนอกเป็นจุดล้างตัวก่อนและหลังลงสระได้ครับ

นอกจากพื้นที่ส่วนกลางแล้ว ส่วนพื้นที่พักอาศัยมีลักษณะเหมือนกับของชั้น 7 ครับ โดยจะมีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 9 ห้องต่อชั้น ส่วนของ ห้อง 1 Bedroom Plus 3 ห้อง และ ห้อง 1 Bedroom 2 ห้อง ในแนวทางทิศตะวันตก ส่วนฝั่งตะวันออกก็เป็นรูปแบบห้องแบบเดิมเช่นกันครับ นอกจากนี้ยังมีชั้นดาดฟ้าที่ตัองเดินขึ้นบันไดจากชั้น 8 ขึ้นไป เป็นส่วนของ Roof Garden ที่สามารถไปยืนสูดอากาศ รับวิวแบบ Panorama ที่ด้านบนกันได้นะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4 x 7.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Fitness
  • Co-Working Space
  • Semi-Outdoor Recreation
  • Roof Garden
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 78 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 33 คันคิดเป็น 44%
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง


Product Walkthrough

มาต่อกันที่ส่วนของห้องพักอาศัยกันเลย ความพิเศษของโครงการนี้คือการที่ให้รูปแบบห้องมาเลือกค่อนข้างเยอะ ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง เพื่อให้เราสามารถเลือกห้องที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด ถือว่าเป็นข้อดีมากๆ จึงจัดพื้นที่ภายในของห้อง 1 Bedroom ที่เหมาะแก่ไลฟ์สไตล์ต่างๆมาให้เลือกประมาณ 4 ประเภท  ประกอบด้วย

  • Relaxation : ห้องสำหรับคนที่ชื่นชอบพื้นที่พักผ่อน หรือมุมพิเศษ ที่จะได้ความรู้สึกที่แตกต่าง โดยจะมีพื้นที่ยื่นเพิ่มมาในส่วนของบริเวณห้องนอน ซึ่งห้องรูปแบบนี้จะมีตำแหน่งอยู่ที่ทิศตะวันตก เป็นทิศที่ได้รับความร้อนสูง ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบพื้นที่บริเวณนี้มาแบบเป็นผนังทึบ ในส่วนที่จะได้รับแสงแดดส่อง แต่ยื่นออกไป และเจาะช่องเปิดด้านข้างของส่วนที่ยื่นแทน ทำให้ได้รับแสงและลมเหมือนเดิม แต่ไม่ได้รับความร้อนโดยตรง ช่วยทำให้ภายในห้องไม่ร้อน ส่วนอื่นของห้องมีครัวเป็นครัวเปิดที่บริเวณหน้าห้องเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น และระเบียงที่เป็นช่องแสงให้กับพื้นที่ภายในห้อง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน เข้าใช้งานจากห้องนอนได้สะดวก ห้องลักษณะนี้เหมาะกับคนที่นิยมใช้พื้นที่ภายในห้องนอนเป็นหลัก เวลามีแขกมาก็สามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวได้ดี ไม่เน้นประกอบอาหารทานเองมากนัก

  • Cooking Lover : ห้องสำหรับคนที่ชื่นชอบการทำอาหาร หรือใช้พื้นที่ครัวบ่อยนั่นเอง ซึ่งลักษณะนี้จะมีขนาดพื้นที่ทำครัวค่อนข้างใหญ่ จะได้เป็นครัวปิด ไม่ให้ควันและกลิ่นจากการประกอบอาหารไปรบกวนพื้นที่ส่วนอื่นภายในห้อง มีตำแหน่งติดกับระเบียง ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ และเป็นช่องแสงให้ภายในอีกด้วย ใกล้ห้องน้ำ ง่ายต่อการเข้าถึง ซึ่งพื้นที่อื่นๆก็ยังจัดว่าอยู่ในรูปแบบที่ดี เป็นสัดส่วน ห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตแล้วเดินได้รอบ มีพื้นที่ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ส่วนห้องนั่งเล่นก็มีขนาดที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้สะดวก พื้นที่ภายในถือว่าจัดมาให้ดีเลย เหมาะกับคนที่ทำครัวบ่อย ต้องการห้องที่เป็นสัดส่วนชัดเจน แต่ละพื้นที่มีการกั้นแบ่งทั้งหมด รับแขกได้ แต่ก็เป็นส่วนตัว ซึ่งตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่บริเวณทิศเหนือ มุมอาคาร ชั้น 2-6 ได้ความเป็นส่วนตัว วิวสงบเงียบ

  • Single Lifestyle : ห้องสำหรับคนที่ชอบพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ โดยจะมีจุดเด่นที่พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่ห้องนอนรวมกันเป็นพื้นที่เดียว จะได้ความกว้างของตัวห้องภายใน สามารถจัดได้หลากหลาย โดยที่ริมอาคารจะมีระเบียงให้ด้วย สำหรับรับลมและระบายอากาศ และยังเป็นแสงธรรมชาติให้กับตัวห้องอีกด้วย ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่นครัวก็ได้เป็นครัวปิด ที่บริเวณหน้าห้อง อาจจะไม่ค่อยได้ทำอาหารมากนัก เพราะอยู่ภายในห้องจะระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็ให้ฉากกั้นมา ถือว่าแบ่งส่วนชัดเจน ไม่รบกวนพื้นที่ภายในห้อง ส่วนห้องน้ำก็เข้าถึงง่ายจากทุกส่วน จัดมาให้ลักษณะนี้เหมาะกับคนที่อาศัยอยู่แบบเป็นส่วนตัว อยู่คนเดียว หรือกับคนที่สนิทสนมจริงๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวในเวลาของการรับแขก เนื่องจากพื้นที่ภายในรวมกันเป็นส่วนใหญ่ส่วนเดียว

  • Fashionista : สำหรับสาวๆที่ชื่นชอบในการแต่งตัว ผมแนะนำห้องแบบนี้เลยครับ จุดเด่นคือจะมีส่วนของ Walk-in Closed มาให้ด้วย บริเวณก่อนเข้าห้องน้ำ ซึ่งโดยทั่วไปห้องขนาดไม่ใหญ่มากนักจะไม่ค่อยมีพื้นที่ส่วนนี้ให้ ส่วนพื้นที่อื่นๆภายในห้อง จะได้พื้นที่นั่งเล่นเป็นส่วนหน้าห้อง ขนาดค่อนข้างใหญ่ จัดได้หลากหลาย มาพร้อมครัวเปิดที่บริเวณระเบียง ช่วยระบายอากาศได้ ส่วนพื้นที่ห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน ซึ่งจะมีพื้นที่ Walk-in Closed ที่บอกไปเมื่อสักครู่อยู่ด้วย หากจะเข้าถึงก็ต้องเดินผ่านห้องนอนเข้าไป ซึ่งสำหรับคนที่อยู่คนเดียวก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากมีแขกมาเยือน อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อยนะครับ

นอกจากมีห้องให้เลือกหลายรูปแบบแล้ว โครงการนี้ยังจัดห้องมาให้แบบ Fully Furnished ซึ่งเป็นแบบ Custom Made ทั้งหมดทุกชิ้น สั่งทำพิเศษให้เขากับรูปแบบของตัวโครงการ ซึ่งถือว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างดีเลย มีลักษณะ และสีที่ค่อนข้างคุมโทน เข้ากับตัวห้องและลักษณะภายนอกของโครงการ ง่ายต่อการตกแต่งห้อง ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • ตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาด 1.20 x 0.60 เมตร สูง 2.5 เมตร มีหน้าบานเป็นลามิเนต พร้อมที่จับถนัดมือ
  • เตียง ไม่รวมฟูก ขนาด 1.8 x 2 เมตร มีลิ้นชักเก็บของสามารถเปิดได้ที่ด้านล่าง
  • โซฟาขนาด 1.5 x 0.9 เมตร สีอ่อน ต้องระวังเลอะกันหน่อยนะครับ
  • โต๊ะทานข้าวขนาด 0.7 x 0.7 เมตร มาพร้อมเก้าอี้ 1 ตัว
  • ชั้นวางทีวี ขนาด 1 x 0.35 เมตร มาพร้อมชั้นวางของติดผนังอีก 2 จุด ที่ถูกออกแบบมาในสไตล์เดียวกัน

ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร แต่ละชิ้นออกแบบมาได้ดีทีเดียว ดูเข้าเซทเดียวกัน นอกจากนี้ยังได้เครื่องปรับอากาศมาให้ด้วย ซึ่งขนาดที่ได้จะแล้วแต่ห้องที่เราเลือกนะ ไปดูภายในห้องจริงกันเลยครับ

โดยห้องตัวอย่างจะเป็นห้อง 1 Bedroom แบบ Relaxation ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วเบื้องต้นว่า ห้องนี้มีพื้นที่พื้นที่มุมพิเศษ ที่จะได้ความรู้สึกที่แตกต่าง โดยจะมีพื้นที่ยื่นเพิ่มมาในส่วนของบริเวณห้องนอน ซึ่งห้องรูปแบบนี้จะมีตำแหน่งอยู่ที่ทิศตะวันตก เป็นทิศที่ได้รับความร้อนสูง ทางโครงการจึงออกแบบพื้นที่บริเวณที่รับความร้อนเป็นผนังทึบ แต่ยื่นออกไป และเจาะช่องเปิดด้านข้างแทน ทำให้ได้รับแสงและลมเหมือนเดิม แต่ไม่ได้รับความร้อนโดยตรง ช่วยทำให้ภายในห้องไม่ร้อน

ห้อง 1 Bedroom  ขนาด 25.74-25.92 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Furnished ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 ม. รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส จัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลัก เป็น 5 ส่วน ได้แก่ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียงซักล้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบห้องครัวเป็นครัวเปิดที่บริเวณหน้าห้องเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น และระเบียงที่เป็นช่องแสงให้กับพื้นที่ภายในห้อง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน เข้าใช้งานจากห้องนอนได้สะดวก ห้องนอนมีพื้นที่พิเศษเพิ่มมาให้ โดยห้องลักษณะนี้เหมาะกับคนที่นิยมใช้พื้นที่ภายในห้องนอนเป็นหลัก เวลามีแขกมาก็สามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวได้ดี แต่อาจจะติดที่ต้องมาเข้าห้องน้ำภายในห้องนอน ไม่เน้นประกอบอาหารทานเองมากนัก

ประตูหน้าห้องเป็น HDF โดยมีระบบเข้าแบบ Digital Door Lock ของ Samsung ใช้ได้ทั้ง Password, Key Card และกุญแจ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ครัวก่อนเลยทางฝั่งซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวาเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น และมีตู้รองเท้า มีระยะทางเดินประมาณ 1.2 เมตร ถือของเดินเข้าออกสะดวกสบาย ด้านในเป็นห้องนั่งเล่น ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.5 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องยาง มีคุณสมบัติกันน้ำ ต่อรอยขูดขีด แรงกดกระแทกได้ดี ผนังเป็นแบบฉาบเรียบทาสี Smoke Grey มีบัวที่เชิงผนัง ภายในห้องจัดมาให้แบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในห้องตัวอย่างเลย พื้นที่ภายในถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ระเบียง ทำให้มีช่องแสงทะลุฉากกั้นเข้ามาสู่พื้นที่ภายในห้อง

พื้นที่ครัวทางฝั่งด้านด้านซ้ายมือเมื่อเข้ามาภายในห้อง เป็นเคาน์เตอร์ที่ถูก Built-in มาให้ หน้าบานเป็นไม้ลามิเนตทั้งหมด โดยจะมี 3 ระดับ

ด้านบนเป็นตู้เก็บของ มีชั้นวางของภายในค่อนข้างหลากหลาย เลือกวางของได้หลายขนาด ที่ขอบทำมุมให้จับง่าย หน้าบานจึงเรียบสนิทดูสวยงาม

ที่ชั้นกลาง มีวัสดุปิดผิวเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ เป็นส่วนของอ่างล้างจาน พื้นที่เตรียมอาหาร และเตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควัน ของ MEX ทั้งหมดครับ โดยของจริงจะมีผนังด้านในเป็น กระเบื้องเซรามิกผิวมัน ง่ายต่อการทำความสะอาด

อ่างล้างจานแบบหลุมเดียว ขนาด 46 x 42 ซม. ของ MEX

ส่วนเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว และเครื่องดูอากาศของ MEX เช่นกัน โดยจะเป็นระบบดูดควันแบบหมุนวน ไม่ได้ต่อท่อออกไปด้านนอกนะครับ

ส่วนด้านล่างมีช่องใต้อ่างสำหรับเก็บของขนาดใหญ่ได้ พร้อมทั้งพื้นที่ใส่เครื่องซักผ้าแบบหน้าบานด้านหน้าได้ 

พื้นที่อีกฝั่งเป็นที่วางตู้เย็นและพื้นที่วางตู้รองเท้า ซึ่งตู้ส่วนนี้ในห้องตัวอย่างไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ แต่เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้นะครับ

ส่วนต่อไปภายในห้องเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ซึ่งจะมีโต๊ะรับประทานอาหารให้ด้วย บริเวณนี้เชื่อมต่อกับส่วนครัว หากจะประกอบอาหารอาจจะต้องระวังเรื่องกลิ่นและควันไปรบกวนส่วนอื่นภายในห้องด้วยนะครับ อาจจะต้องเปิดหน้าต่างระเบียงช่วยระบายอากาศภายในห้องด้วยนะ

ทางฝั่งด้านโซฟา มีโต๊ะรับประทานอาหารให้มาด้วยพร้อมเก้าอี้ 1 ตัว สามารถรับประทานอาหารไปด้วย ดูทีวีไปด้วยได้เลย

โต๊ะรับประทานอาหารที่จะได้มาด้วยนั้นมีลักษณะเป็นโต๊ะกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 70 ซม. พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว สำหรับใครที่อยู่มากกว่า 1 คนก็สามารถซื้อเก้าอี้มาวางเพิ่มได้นะครับ มีพื้นที่เหลือ

ภายในห้องนั่งเล่นมีชั้นวางทีวี และโซฟาให้มาด้วย ซึ่งจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 40-50 นิ้วได้เลยนะครับ

ซึ่งภายในห้องจะได้โซฟามาด้วย ขนาด 1.5 x 0.9 เมตร นั่งได้ 2-3 คน มีสีอ่อน เข้ากับพื้นและผนังสี Smoke Grey ได้ดีทีเดียว

ชั้นวางทีวีขนาด 1 x 0.35 เมตร มีบานเลื่อนด้านล่างมาให้ สามารถเก็บของได้ หน้าบานเป็นไม้ลามิเนต ซึ่งถ้าหากติดทีวีแบบแขวนผนังก็จะมีพื้นที่วางของมายิ่งขึ้นนะครับ

ฝ้าเพดานส่วนด้านหน้าของห้องนี้ให้มาแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 3 จุด

ส่วนต่อไปคือระเบียงของห้องครับ ออกจากทางห้องนั่งเล่น มีแนวประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดแบบ Double Slice เป็นบานกระจกอลูมิเนียม Powder Coat พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ช่วยกันความร้อนเข้าสู่ตัวห้องได้ เมื่อเปิดสุดมีขนาดทางออกประมาณ 80 ซม.

ประตูมีตัวจับติดตั้งพร้อมรางเลื่อนสไลด์ด้านล่างมาให้ครับ ยกขอบสูง 8 เซนติเมตร ค่อนข้างสูง ระวังสะดุดกันด้วยนะครับ

พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. มีขนาด 1 x 1.85 เมตร มีจุดระบายน้ำ 1 จุดที่มุมห้อง

ราวระแนงสีขาวสูงจากพื้น 1 เมตร พร้อมผนังสีเหลืองที่เข้ากับไฟกิ่ง 1 ดวงที่ยิงใส่ผนังให้แสงสว่างบริเวณระเบียงนี้ได้ดีทีเดียวครับ

กลับเข้ามาภายในห้อง มาดูส่วนพื้นที่ต่อไปกันครับ เป็นประตูเชื่อมเข้าสู่พื้นที่ภายในห้องนอน และห้องน้ำภายใน

ส่วนต่อไปเป็นส่วนห้องนอนวางเตียงได้ประมาณ 5 ฟุต ทางโครงการแถมเตียงให้แต่ไม่ได้รวมฟูก ผนังข้างเตียงเป็นหน้าต่างบ้าน Fix ด้านล่างและมีบานเลื่อนไว้สำหรับเปิดรับลมระบายอากาศอีกด้วย แถมยังเป็นช่องแสงให้กับพื้นที่ภายในห้อง อีกฝั่งข้างเตียงยังมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีขนาดทางเดินค่อนข้างสะดวก จุดเด่นของห้องนี้คือมีพื้นที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาที่ริมผนังอย่างที่อธิบายไปในแปลน เดี๋ยวผมจะพาไปดูรายละเอียดอีกทีนะครับ

ทางเดินปลายเตียงมีระยะประมาณ 80 ซม. เดินได้สบายๆ แถมยังสามารถติดทีวีที่ผนังฝั่งปลายเตียงได้ด้วย

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งมีขนาดประมาณ 60 ซม. วางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ แถมบริเวณนี้ยังมีหน้าต่างที่เปิดได้อีกด้วย ยืนสูดอากาศได้สะดวกทีเดียว

ที่บริเวณริมผนัง ก่อนจะไปยังพื้นที่ริมหน้าต่าง มีหน้าต่างบานเปิดขนาด 1 x 1.4 เมตร เปิดระบายอากาศรับลมให้ห้องได้ดีทีเดียว นอกจากนั้นยังมี บาน Fixed อยู่ที่ด้านล่างอีกด้วย เป็นช่องแสงให้ตัวห้องได้อีกด้วย ข้างๆมีพื้นที่ริมหน้าต่าง ซึ่งเป็นจุดเด่นของห้องประเภทนี้

พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่โล่งที่สามารถจัดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมุมพักผ่อน หรือโต๊ะทำงานก็ได้ครับ แล้วแต่ความชอบ

พื้นที่บริเวณนี้มีขนาด 1.8 x 2 เมตร ค่อนข้างกว้าง บริเวณนี้มีตำแหน่งอยู่ในทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับความร้อนสูง จึงออกแบบให้ส่วนที่กระทบความร้อนเป็นผนังทึบยื่นออกไป และเจาะช่องเปิดด้านข้างของส่วนที่ยื่น ทำให้ได้รับแสงและลมได้เหมือนเดิม แต่ไม่ได้รับความร้อนโดยตรง ช่วยทำให้ภายในห้องไม่ร้อน

ผนังกระจกทั้งสองด้านมีขนาดเท่ากัน ด้านล่างเป็นบาน Fixed ขนาด 50 x 50 ซม. ส่วนด้านบนเป็นบานกระทุ้งขนาด 50 x 140 ซม. ระบายอากาศได้ถึง 2 ฝั่งรับลมได้เยอะเลยทีเดียว

แถมยังมีฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight บริเวณนี้ 1 ดวงครับ

มีดูอีกฝั่งกันบ้าง ซึ่งเป็นฝั่งทางเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ มีตู้เสื้อผ้า มาให้ด้วย มีระยะทางเดินด้านข้าง 55 ซม.ถึงตู้เสื้อผ้า สามารถยืนเปิดหน้าบานตู้ได้สบายเลยครับ

ตู้เสื้อผ้านี่ก็ให้มาด้วยนะ เป็นแบบหน้าบานเปิดขนาด 1.2 x 0.6 เมตร สูงถึงฝ้าเพดานเลย ภายในมี 3 ระดับ เก็บของได้หลากหลาย ชั้นบนเป็นช่องเก็บของ ชั้นกลางเป็นราวแขวนเสื้อ ส่วนชั้นล่างเป็นลิ้นชักเก็บของแบบแบ่งได้หลายประเภทเลย ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่โล่ง เก็บของขนาดใหญ่ได้ครับ และข้างๆคือทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ภายในห้องนอน สำหรับคนที่อยู่คนเดียวและชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนอน ก็ถือว่าสะดวกเลยล่ะครับ แต่หากมีแขกมาเยี่ยมที่ห้อง เวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่านห้องนอน อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างนะ

หน้าบานเป็นบานไม้ลามิเนต ภายในมีบานพับ และตัวจับให้ถนัดมือครับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบ ฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 จุด ไม่รวมพื้นที่ริมผนังนะ

ส่วนสุดท้ายของห้องคือส่วนห้องน้ำ พื้นที่ภายในห้องน้ำขนาดกำลังพอดี มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเข้าไป มีการจัดสรรสัดส่วนชัดเจน เรียงส่วนอาบน้ำ ส่วนโถสุขภัณฑ์ และ ส่วนอ่างล้างมือ พื้นและผนังภายในเป็นกระเบื้องเซรามิกและโมเสคครับ

พื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นแนวยาวตามทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของห้อง มีพื้นที่ภายในแบ่งส่วนชัดเจนภายในส่วนอาบน้ำให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยนะครับ ได้ตามนี้ทั้งหมดเลย ทางเข้าห้องน้ำลดระดับพื้นลงจากพื้นภายในห้องประมาณ 3 ซม.

อ่างล้างหน้าของ Hafele มีขนาด 55 x 45 ซม. ครับ ด้านบนมีพื้นที่วางของด้วย

ยกสูงขึ้นจากพื้น พร้อมมีเคาน์เตอร์ด้านล่าง ขนาดช่อง 25 x 50 ซม. เก็บของได้เยอะทีเดียว

โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว ของ Kohler ซึ่งติดตั้งมาพร้อมกับสายชำระ และที่ใส่กระดาษชำระครับ ในตำแหน่งที่เหมาะสม มีจุดระบายน้ำที่มุม

สายชำระแสตนเลสจับถนัดมือครับ มาพร้อมกับที่ใส่กระดาษชำระมีแผงปิดกันน้ำ ช่วยป้องกันไม่ให้กระดาษชำระเปียก

ส่วนอาบน้ำให้มาพร้อมฉากกั้นเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass หนา 4 มม. ภายในมีทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ให้เลือกใช้กันเลย

ทางเข้าส่วนอาบน้ำมีขอบก่อสูงขึ้นประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำออกมาเลอะส่วนอื่นๆ ขอบค่อนข้างสูงเวลาเดินเข้า-ออกอาจจะต้องระวังด้วยนะครับ

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ว่ามีทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ให้เลือกใช้ทั้งสองแบบเลย จาก Kohler นะครับ

ระบบอาบน้ำแบบ Hand Shower ของ Kohler ขนาดใหญ่พอสมควร สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลายระดับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง ภายในห้องน้ำ ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะเลย พร้อมทั้งพัดลมดูดอากาศ อีกทั้งยังมีราวแสตนเลสแขวนผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าติดอยู่ที่ผนังทางเข้าห้องน้ำอีกด้วยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 November 2018

  • ห้อง 1 Bedroom ชั้น 5 ห้อง 5G10 เนื้อที่ 29.52 ตร.ม. ราคา 3.4 ล้านบาท หรือ 115,176 บาท/ตร.ม.
  • ห้อง 1 Bedroom ชั้น 5 ห้อง 5G03 เนื้อที่ 25.89 ตร.ม. ราคา 3.05 ล้านบาท หรือ 117,806 บาท/ตร.ม.
  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS อารีย์
  • จอง 30,000 บาท
  • ทำสัญญา 140,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – ตัวโครงการมีทำเลอยู่ในซอยย่อยบนถนนพหลโยธิน คือซอยพหลโยธิน 14 สามารถลัดเลาะออกได้หลายเส้นทาง มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ในระยะเดินก็มีร้านค้าร้านอาหารรอบๆ ถือว่าสะดวกทีเดียว อยู่ระหว่างอารีย์และสะพานควาย ซึ่งจะได้ความเจริญจากทั้งสองฝั่ง ความคึกคักของฝั่งอารีย์มีทั้งร้านค้าร้านอาหารมากมาย เช่น La Villa Ari และความคึกคักในซอยอารีย์ (พหลโยธิน 7) ที่สามารถทะลุไปขึ้นทางด่วนได้อีกด้วย และระหว่างทางมาโครงการก็มีทั้ง พหลโยธินเพลส กับ Ari Hills ที่บริเวณหน้าปากซอยพหลโยธิน 10 นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งของอาคารสำนักงานมากมาย ง่ายต่อการเข้าถึง ทางฝั่งสะพานความก็มี Aqua Ari อยู่ในระยะเดินได้, Big C และร้านอาหารอร่อยๆ เยอะเช่นกัน เชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญอื่นๆได้อีกไม่ยาก

การเดินทางโดยใช้รถ –โดยรอบโครงการจะถ้าออกจากซอยมาจะมีถนนใหญ่ขนาบข้างหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งมีทางยกระดับอุตราภิมุขเข้าเมืองและออกนอกเมืองได้สะดวก ตำแหน่งโครงการอยู่ในซอย มีทางลัดเลาะได้เยอะ เข้าออกได้หลายเส้นทางถือว่าสะดวกทีเดียว พื้นที่จอดรถทางโครงการให้มา 33 คัน คิดเป็น 44% ก็ถือว่าไม่มากไม่น้อย มีทั้งแบบ Automatic Park 8 คัน และ Conventional Parking อีก 25 คัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – เนื่องจากโครงการอยู่ในซอย ห่างจากปากซอย 250 เมตร ซึ่งไม่อยู่ในระยะที่เดินได้ ถ้าจะไปใช้รถไฟฟ้า โครงการจะอยู่ห่างจาก  BTS อารีย์ประมาณ 900 เมตร ซึ่งทางโครงการก็จะมีรถ Shuttle Bus ขับรับส่งให้ ซึ่งอีกทางก็สามารถไปยัง BTS สะพานควายได้ โดยมีระยะใกล้เคียงกันกับฝั่งของทาง BTS อารีย์ และเนื่องจากเป็นซอยที่ทะลุออกซอยข้างเคียงได้ค่อนข้างหลากหลาย จึงมีรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซต์วิ่งผ่านไปมาตลอด แต่จุดประจำของพี่วินจะห่างจากตัวโครงการประมาณ 150 เมตร ส่วนป้ายรถประจำทางจะอยู่เยื้องๆหน้าปากซอย พหลฯ14 รวมทั้งยังมีสะพานลอยอยู่ข้างๆให้ข้ามไปขึ้นฝั่งตรงข้ามได้อีกด้วย ในอนาคตมีรถไฟฟ้า BTS สถานีเสนาร่วม ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีอารีย์และสถานีสะพานควาย จะตำแหน่งอยู่ใกล้บริเวณหน้าปากซอยพหลโยธิน

การออกแบบโครงการ – โครงการมีขนาดพื้นที่เกือบ 1 ไร่ มีการวางตัวอาคารเป็นตัว L ตามรูปแบบพื้นที่ การออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก มีจำนวน 78 ยูนิต มีทางเข้าออกสำหรับรถยนต์ 1 ทาง แยกทางเข้า และทางออกชัดเจน ควบคุมและรักษาความปลอดภัยได้ง่าย พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 7 และ 8 ซึ่งจะได้รับวิวทิศเหนือและทิศตะวันออกจากมุมสูง เป็นวิวโล่ง เหมาะแก่การพักผ่อน มีการเข้าถึงง่ายด้วยระบบ Key Card มีประตูกั้น ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัย โถงทางเดินเป็นแบบ Single Loaded Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัย อีกทั้งยังมีช่องแสงและช่องลมในทุกๆชั้น ทำให้มีแสงสว่างและการ Ventilation ภายในโถงทางเดินในทุกๆชั้น

การออกแบบห้องพักอาศัย – เน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom การออกแบบห้องพักเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ คือการมีรูปแบบห้องพักอาศัยให้เลือกที่หลากหลาย โดยการแบ่งลักษณะตามไลฟ์สไตล์ แบ่งห้องออกเป็น 4 แบบ ในแต่ละรูปแบบห้องมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน มีจุดเด่นคนละแบบ แต่ทุกแบบจัดออกมาได้ดีทีเดียว อย่างห้องตัวอย่างที่ผมได้ไปดูมา แบบ Relaxation ถือว่าจัดแบ่งส่วนการใช้งานห้องชัดเจน มีพื้นที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาในห้องนอน เป็นพื้นที่ริมอาคาร จัดเป็นที่นั่งพักผ่อนได้เหมาะกับคนที่ชอบใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องนอน และด้วยพื้นที่บริเวณนั้นเป็นตำแหน่งที่รับแสงแดดทางทิศตะวันตก จึงออกแบบให้ส่วนที่กระทบความร้อนเป็นผนังทึบยื่นออกไป และเจาะช่องเปิดด้านข้างแทนทำให้ได้รับแสงและลมได้ แต่ไม่ได้รับความร้อนโดยตรง ช่วยทำให้ภายในห้องไม่ร้อน มีตำแหน่งห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนสำหรับคนที่อยู่คนเดียวและชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนอนก็ถือว่าสะดวกเลยล่ะครับ แต่หากมีแขกมาเยี่ยมที่ห้อง เวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่านห้องนอน อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างนะ นอกจากนี้ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ด้านในของตัวห้อง ต้องระมัดระวังเรื่องความชื้นและการระบายอากาศ เน้นการใช้พัดลมดูดอากาศที่โครงการมีมาให้ และมีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากันทั้งหมด ดูเป็นส่วนเดียวกัน ทำให้ตกแต่งห้องไม่ยาก

วัสดุ จุดเด่นของโครงการผมมองว่าเขาเน้นการออกแบบและวัสดุภายในเป็นหลัก วัสดุภายในค่อนข้างดี ให้มาพร้อมแบบ Fully Furnished ทั้งหมดเป็นแบบ Custom Made ที่ออกแบบมาให้พอดีกับการใช้งานและระยะต่างๆภายในตัวห้อง เริ่มต้นที่ประตู HDF มาพร้อมกับระบบ Digital Door Lock ของ Samsung พื้นภายในห้องเป็นกระเบื้องยางไวนิล 2.5 มม. ผนังเป็นสี Smoke Grey พร้อมบัวเชิงผนังสูงประมาณ 8 ซม. เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ หน้าบานต่างๆเป็นไม้ลามิเนต พร้อมอ่างล้างจาน ให้เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันของ MEX ทั้งหมด ภายในห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ Hafele และ Kohler ให้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Templed Glass หนา 4 มม. พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำ แบบ Hand Shower และ Rain Shower ทั้งสองแบบเลย อ่างล้างหน้ามีเคาน์เตอร์ก่อด้านล่างวางของได้ ส่วนหน้าบานประตูเป็น อลูมิเนียม Powder Coat กระจกเขียวตัดแสง นอกจากนั้นยังให้เครื่องปรับอากาศมาด้วยในทุกห้อง แล้วแต่ขนาดห้องที่ได้

สาธารณูปโภค ถือว่าก็ไม่น้อย เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต ที่ชั้น 1 ไม่มี Lobby สำหรับรองรับ Visitor ซึ่งอาจจะลำบากสำหรับการพักคอย ต้องนัดช่วงเวลากันให้ดี ส่วนพื้นที่ facilities อื่นๆ มีการจัดมาให้หลากหลายรูปแบบ อยู่ที่ชั้น 7, 8 ทั้งหมด โดยจะได้รับวิวมุมสูงของโครงการ ทางทิศเหนือและทิศตะวันออก ซึ่งเป็นวิวเปิดโล่ง อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 78 :  1 ถือว่าไม่หนาแน่นใช้งานสบายๆ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 110,000 บาท/ตร.ม., 27 November 2018

  • ทำเล 7.25/10 – ทำเลในซอย ได้ความเงียบสงบไม่พลุกพล่าน ไม่ไกลจากความอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ค่อนข้างสะดวก มีเส้นทางลัดหลายทาง แต่ที่จอดไม่เยอะมากนัก
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ทำเลในซอย ห่าง BTS 900 m. มี Shuttle Bus รับส่ง
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุดีเหมาะกับการใช้งาน Fully Furnished พร้อมอยู่ ได้ Digital Door Lock, ฉากกั้นอาบน้ำ, Rain Shower
  • แบบ 8/10 – ยูนิตน้อย จัดผังอาคารได้ดีเป็นส่วนตัว Single Corridor ฟังก์ชันห้องลงตัว มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – ให้มาครบเพียงพอต่อการใช้งาน อยู่ที่ชั้นบนได้วิว

  • UPPER CLASS
  • 7.51 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ ณ วีรา พหล-อารีย์ เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ทั้งถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี ทำเลในซอยแต่ได้ความเงียบสงบ มีตัวเลือกในการเดินทางไปใช้ BTS ได้ ยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว เน้นห้องแบบ 1 Bedroom อยู่ 1 – 2 คน ฟังก์ชันห้องมีให้เลือกตามลักษณะการอยู่อาศัย มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบอยู่ชั้นบนอาคาร  มีงบประมาณระดับ 2.5 – 4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 20,000-30,000 บาท/เดือน