รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.333 – รีวิวคอนโด Zelle รัตนาธิเบศร์
27 สิงหาคม 2017
รีวิวฉบับที่ 710 …วันนี้เราพาท่านผู้อ่านมาชมโครงการ Zelle รัตนาธิเบศร์ จาก ปริญสิริ กันค่ะ โครงการนี้เป็นโครงการสร้างเสร็จใหม่ในทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าสายใหม่ๆทางฝั่งนนทบุรี ที่ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานี “สะพานพระนั่งเกล้า” ประมาณ 450 เมตร ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2559 นี้ค่ะ โครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 8 อาคาร ขายแบบ Fully Furnished ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านค่ะ เราไปดูรายละเอียดโครงการกันเลย
Fact @ 3 November 2014
- Zelle Rattanathibet (เซล รัตนาธิเบศร์)
- บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 8 อาคาร 570 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 11 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 245 คันคิดเป็น 43 % รวมซ้อนคัน คิดเป็น 48%
- ที่ดินประมาณ 5-0-35.1 ไร่
- ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่อาคาร 1 และอาคาร 2
- คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการ : กลางปี พ.ศ. 2558
- 1 Bedroom 30 – 32 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 51 – 53 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.84 ล้านบาท
- Duplex 49 – 52 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.59 ล้านบาทหรือประมาณ 53,000 บาทต่อตารางเมตร
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ (ลงทะเบียน เพื่อรับส่วนลดพิเศษ)
- Call Center : 1753
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่าง
พิกัด : 13.870664, 100.485911
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Zelle รัตนาธิเบศร์ นี้เราจะเห็นว่าใช้ถนนรัตนาธิเบศร์เป็นหลักตามชื่อเลยค่ะ และจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งผ่าน สถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร มีแผนเปิดให้บริการในปี 2559 ค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก
ห้างที่อยู่ไม่ไกลไปช้อปปิ้งกันได้ง่ายหน่อยจะมี ห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (~ 1.2 km.), Big C รัตนาธิเบศร์ (~ 2.3 km.) และ เอสพลานาด แคราย, Lotus (~ 3.7 km.)
สำหรับคนใช้รถ ทำเลนี้เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในโซนนนทบุรีหรือมีลูกเรียนแถวนี้นะคะ เพราะอยู่ในจุดที่เรียกว่าเป็นใจกลางเมืองนนท์เลยก็ว่าได้ มีถนนรัตนาธิเบศร์, งามวงศ์วาน ตัดกับถนนติวานนท์ เป็นถนนเส้นหลักๆที่ใช้กันทางฝั่งนี้ หรืออาจจะเป็นคนที่มีบ้านเก่า, บ้านพ่อแม่อยู่ทางฝั่งราชพฤกษ์ สามารถข้ามสะพานพระนั่งเกล้า และ สะพานพระราม 5 ไปหาได้ โดยไม่ต้องไปผ่านตัวเมือง ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆคือทางพิเศษศรีรัชค่ะ ขึ้นลงที่ถนนงามวงศ์วาน ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 5.4 km. ถ้าจะเข้าเมืองก็คงต้องใช้ทางด่วนนี้เป็นหลัก เพราะสะดวกกว่าไปวิ่งข้างล่างมากนะคะ
ข้อเสียของทำเลนี้ คือจะอยู่ไกลจากตัวเมืองมาพอสมควร ไม่ว่าจะขับรถ หรือนั่งรถไฟฟ้า ถ้าจะเข้าเมืองก็ต้องมีอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงแหละค่ะ แล้วถึงแม้จะเป็นนนทบุรี แต่ทำเลตรงนี้ก็รถติดหนักๆได้เหมือนกัน ทั้งวันธรรมดา ตามแยกต่างๆ อย่างแยกแครายที่เป็นแยกรถติดสุดโหดที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วและแยกนนทบุรี 1 บวกกับรถติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะคนก็ออกมาเดินห้างแถวนี้เยอะ ตั้งแต่เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เอสพลานาด ยันพันธุ์ทิพย์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน รถเข้า-ออกห้าง ยังไม่รวม Big C และ Lotus อีกนะ แล้วด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วนเนี่ย คนแถวๆนี้เค้าก็มาขึ้นที่ด่านนี้กันทั้งนั้นนะคะ ไม่ว่าจะเป็นด่านงามวงศ์วาน หรือประชาชื่น เพราะมันไม่มีทางเลือกอื่น อย่าได้ประมาทเชียว ก็ได้แต่หวังว่ารถไฟฟ้าที่จะสร้างเสร็จนี้ จะมาช่วยทำให้รถหายติดกันได้บ้างนะคะ
การเดินทางไปโครงการวันนี้มาจาก ถนนงามวงศ์วาน อาจจะวิ่งข้ามมาจากเกษตรก็ได้, ลงทางด่วนขั้นที่ 2 มาก็ได้ หรือมาจากถนนวิภาวดีรังสิตก็ได้ วิ่งตรงๆข้ามแยกแคราย เข้ามา ถนนรัตนาธิเบศร์ ชิดซ้ายมาเรื่อยๆและกลับรถใต้สะพานกลับรถก่อนถึงสะพานพระนั่งเกล้ามาที่ถนนอีกฝั่ง ขับมาสักพักก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ รวมระยะทางจากแยกแครายถึงที่ตั้งโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร ตามแยกต่างๆที่วงสีแดงให้ดูนั้นจะเป็นโซนที่รถติดแทบทุกวันค่ะ จะไปไหนย่านนี้ต้องเผื่อเวลาเอาไว้ดีๆค่ะ
เราเริ่มกันที่บนถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าเข้ามาแยกแครายไปถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ แยกแครายเป็นจุดเชื่อมถนน 3 สายคือ งามวงศ์วาน-รัตนาธิเบศร์-ติวานนท์ แยกนี้เป็นแยกที่เลื่องลือเรื่องรถติดสุดๆนะคะ รวมทั้งถนนติวานนท์ด้วย ไปไหนมาไหนช่วงเวลาเข้าออกเช้าเย็นผ่านเส้นนี้ต้องเผื่อเวลากันไว้เยอะๆค่ะ
พอเข้าถนนรัตนาธิเบศร์มาก็ขับตรงมาเรื่อยๆจะเห็น Big C รัตนาธิเบศร์ อยู่ฝั่งซ้ายมือ ขวามือที่เกาะกลางถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์จะเห็นว่ามีสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วให้เห็นเป็นระยะๆ
ถัดมาอีกหน่อยจะเห็นสะพานลอยของ Central รัตนาธิเบศร์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใกล้ที่ตั้งโครงการอยู่ จะเห็นป้าย Robinson, Central, Index อยู่ทางขวามือ ตรงนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักๆของคนในโครงการและคนย่านนนนทบุรีค่ะ จุดนี้อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร
พอเห็นป้ายสะพานกลับรถไปแครายสีเขียวๆนั่น เราไม่ขึ้นสะพานนะคะ แต่เราชิดซ้ายขับตรงต่อไป
ตรงมาเรื่อยๆจนเห็นจุดสังเกตสำคัญฝั่งซ้ายมือคือ นิตยาไก่ย่าง ซึ่งพอเรามาถึงตรงนี้แสดงว่าใกล้จุดกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้าแล้ว ขวามือของภาพเราจะเห็นป้ายขนาดใหญ่บอกทางเลี้ยวเข้าโครงการ Zelle รัตนาธิเบศร์อยู่
ขับมาอีกหน่อยก็จะเห็นจุดกลับรถใต้สะพานอยู่ทางขวามือค่ะ เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ
ถนนฝั่งนี้เป็นถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะวิ่งออกไปทาง Central รัตนาธิเบศร์, Esplanade, Lotus, แยกแครายและถนนงามวงศ์วานค่ะ จากจุดกลับรถนี้เราจะเห็นป้ายโครงการขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ สังเกตอาคารโซนโครงการ เป็นอาคารพาณิชย์ติดถนนใหญ่เป็นส่วนมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง อาหารการกินระยะใกล้ๆก็พอมีบ้างแต่ไม่มากนัก หลักๆน่าจะต้องพึ่งพาจาก Central, Lotus, BigC, Esplanade มากกว่า
ขับตรงมาแปบเดียวก็จะเจอป้ายบอกทางเข้าโครงการทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ
พอเจอป้ายทางเข้าโครงการ Zelle รัตนาธิเบศร์แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการไปได้เลย : )
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (~ 1.2 km.)
- Big C รัตนาธิเบศร์ (~ 2.3 km.)
- เอสพลานาด แคราย, Lotus (~ 3.7 km.)
- โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี (~1.2 km.)
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ นนทบุรี (~750 m.)
- กระทรวงพาณิชย์ (~ 2 km.)
เจาะลึกตัวโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
ตัวที่ดินของโครงการเป็นที่ดินแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางตัวยาว ทิศใต้หรือด้านหน้าโครงการติดถนนรัตนาธิเบศร์ รอบๆโครงการตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นแนวราบอย่างบ้านหรือที่ดินเปล่าซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ทิศเหนือหรือด้านหลังติดโครงการในอนาคตของปริญสิริเอง ถัดไปเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นชื่อหมู่บ้านเปี่ยมสุข ทิศตะวันออกของโครงการอยู่ติดกับที่ดินบุคคลอื่น ถัดไปไปเป็นโครงการ The City เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ส่วนทิศตะวันตกโซนติดถนนเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 – 5 ชั้น ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดคือ CP Freshmart ห่างจากทางเข้าโครงการประมาณ 110 เมตรค่ะ
สำหรับคนใช้รถ ในแผนที่ขยายนี่เราขออธิบายเพิ่มเติมถึงจุดกลับใต้สะพานนะคะ ว่าถนนรัตนาธิเบศร์หน้าโครงการเป็นถนนฝั่งขาเข้าเมือง วิ่งไปทางแยกแคราย, งามวงศ์วาน ซึ่งใครจะเข้าเมืองหรืออยากไปเดินเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ก็ไม่ต้องไปเสียเวลากลับรถกัน แต่เวลากลับเข้าโครงการคือต้องชิดซ้ายไว้จนกว่าจะเห็นร้านไก่ย่างนิตยาตรงข้ามโครงการนะคะ ถึงเตรียมกลับรถใต้สะพานได้ ไม่งั้นถ้าเผลอขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าไปนี่หลุดยาววววเลยค่ะ เราเคยหลุดไปแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นพลาด สำหรับคนไม่ใช้รถ ก็สามารถเดินไปขึ้น MRT สะพานพระนั่งเกล้า ได้ในระยะเดินได้ประมาณ 450 เมตร
ผังอาคารจากถนนใหญ่เข้ามาจะเจอสำนักงานขายก่อน ถัดเข้ามาเป็นอาคาร 1, 2, 3 ถึง 6 ซึ่งไล่ตามลำดับเข้าไปด้านใน ระยะจากถนนใหญ่หน้าโครงการจนถึงอาคาร 6 อยู่ที่ประมาณ 250 เมตรค่ะ ส่วนอาคาร 7 และ 8 ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามอาคาร 4 และ 5 ขนาบตัวสระว่ายน้ำและคลับเฮ้าส์ของตัวโครงการอยู่ค่ะ การเข้าออกเป็นระบบ Access Card สแกนที่ทางเข้าอาคารทั้งคนและรถ ไม่ได้สแกนที่ซุ้มทางเข้าออกหลักนะคะ ปัจจุบันนี้อาคาร 1, 2 สร้างเสร็จแล้วอยู่ในระหว่างจัดเฟอร์นิเจอร์และเก็บรายละเอียดหน้างานนะคะ ส่วนอาคาร 3, 4, 5, 6, 7, 8 และสระว่ายน้ำและ Club House มีกำหนดสร้างเสร็จทั้งหมดไม่เกินช่วงกลางปี 2558 หรือช่วงกลางปีหน้า
ตัวอาคาร 1 – 6 วางด้านยาวหันตามทิศตะวันออกตะวันตกค่ะ ห้องที่อยู่ทิศตะวันออก(ฝั่งถนนโครงการ) ก็จะได้รับแดดช่วงเช้าที่ไม่ร้อนจัดมากรวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ ขณะที่ห้องบริเวณทิศตะวันตกจะได้รับแดดช่วงบ่ายที่ร้อนกว่าอีกฝั่งค่ะ อาคาร 7 ยูนิตฝั่งที่หันเข้าวิวสระดีกว่าเห็นๆเพราะหันไปทางทิศเหนือที่ลมดีแดดไม่ร้อน เทียบกับยูนิตที่หันออกด้านนอกอาคารไปทางทิศใต้ที่เจอแดดร้อนแทบทั้งวันเพราะพระอาทิตย์วิ่งอ้อมใต้ค่ะ ก็มีแนวโน้มที่จะเปลืองไฟมากกว่า เพราะเจอแดดร้อนกว่า ส่วนอาคาร 8 ต้องพิจารณาดูค่ะ ถ้าหันไปทางฝั่งโครงการในอนาคตก็มีสิทธิ์จะชนตึกหรือบ้าน แต่ก็เป็นทิศเหนือที่ได้ลมดี แดดอ่อนกว่าทิศใต้ แต่ถ้าหันไปทางวิวสระ ก็ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางแต่เจอแดดร้อนจากทิศใต้
ตัวอาคารทั้ง 8 อาคารผังมีความคล้ายคลึงกันนะคะ ต่างกันที่ตำแหน่งทางเข้าและโถงลิฟต์ที่แตกต่างกันไปตามที่ตั้งของอาคารนะคะ ขออธิบายภาพรวมผังอาคาร โดยยกตัวอย่างผังอาคาร 2 นะคะ
ชั้นล่างสุดของอาคารหลักๆทำเป็นที่จอดรถค่ะ จอดได้ทั้งส่วนใต้อาคารและด้านหน้าอาคาร อีกส่วนคือโถงทางเข้าอาคาร สามารถเข้าได้สองทางคือจากด้านหน้าที่มีที่นั่งให้นั่งรอและจากทางที่จอดรถด้านหลังที่มีวิดีโอคอลสามารถกดหาเจ้าของห้องด้านบนให้เปิดล็อกให้เข้าอาคารได้ค่ะ การเข้าออกอาคารทั้งคนและรถเป็นแบบ Access Card ค่ะ เข้ามาด้านในอาคารจะเป็นโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวและช่องจดหมาย
ส่วนยูนิตที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 2 ค่ะ ผังอาคารชั้น 2 – 6 จะคล้ายกันค่ะ คือมียูนิต 11 ยูนิตต่อชั้น 9 ยูนิตของชั้นเป็นยูนิตแบบ 1 Bedroom ส่วนยูนิตห้องมุม 2 ยูนิตเป็นแบบ 2 Bedroom มีลิฟต์มาให้ 2 ตัวและบันไดหนีไฟ 2 ฝั่งเทียบกับจำนวนยูนิตถือว่าความหนาแน่นต่ำค่ะ ใช้งานกันสบายๆเลย ข้อควรระวังคือการเลือกห้องที่อยู่ใกล้โถงลิฟต์ ข้อดีคือเดินเข้าออกสะดวกรวดเร็ว ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากคนที่มาใช้ลิฟต์นั่นเอง
ชั้น 7 – 8 ส่วนที่ต่างออกไปคือจะมีห้อง Duplex Room หรือยูนิตแบบ 2 ชั้นเพิ่มเข้ามา 2 ยูนิตค่ะ ชั้น 7 – 8 ก็จะมียูนิตแบบ 1 Bed Room 7 ยูนิต, 2 Bed Room 2 ยูนิต และ Duplex Room 2 ยูนิต
จากถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์จะเห็นถนนทางเข้าโครงการเป็นถนนกว้างประมาณ 10 เมตร ในอนาคตถนนส่วนด้านหน้าทางเข้าออกโครงการนี้จะปูผิวคอนกรีตสแตมป์ค่ะ
สำนักงานขายอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ เหมือนตู้คอนเทนเนอร์ที่ตัวผนังกรุกระจก ด้านนอกแขวนต้นกล้วยไม้ไว้เพียบเลย
ด้านในสำนักงานขายค่ะ มีที่นั่งคุยและชากาแฟไว้รับรองผู้ที่สนใจเข้ามาสอบถามข้อมูลรายละเอียดโครงการ มีเจ้าหน้าทีและจอทัชสกรีนช่วยอธิบายรายละเอียดโครงการส่วนต่างๆ ส่วนห้องตัวอย่างจะอยู่ที่อาคาร 1 ถัดจากสำนักงานขายไปค่ะ
ออกจากสำนักงานขายมาก็จะเป็นแถวของอาคารทั้ง 8 อาคาร
ไล่ตั้งแต่อาคาร 1 ด้านหน้าสุดถัดเข้าไปเป็นอาคาร 2, 3, 4, 5, 6, ไปเรื่อยๆนะคะ ส่วนอาคาร 7, 8 ที่ขนาบสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสอยู่ก็ตามที่อธิบายในผังไปคืออยู่ฝั่งตรงข้ามโซนอาคาร 4, 5
มีช่องให้จอดรถด้านหน้าอาคารและใต้อาคารค่ะ ขับรถเข้าออกระบบ Access Card แบบระยะไกล
บรรยากาศภายในที่จอดรถใต้อาคาร
ทางเข้าสู่ตัวอาคารด้านหน้าเป็นบันไดขึ้นไป 3 ขั้น ที่ส่วนประตูทางเข้าทำกรอบรอบไปถึง 3 ชั้นเหมือนเป็นกล่องยื่นออกมา ทำผิวเป็นลายไม้เซาะร่องเด่นออกมาจากตัวอาคาร
ทำที่นั่งรอให้ที่ด้านหน้าทางเข้าอาคาร กรณีมีคนนอกมานั่งรอ แต่ไม่มีที่กันแดดกันฝนให้นะ ถ้าฝนตกและเข้าอาคารไม่ได้ต้องวิ่งไปหลบใต้อาคารแทนค่ะ
อาคารออกแบบมาสไตล์โมเดิร์นคอนเทม เปลือกอาคารมีลูกเล่นทาสีขาวแต่งสีเทาดำน้ำตาลและทำกรอบยื่นออกบางส่วนเพิ่มมิติให้ตัวอาคารได้ดี
ถัดจากอาคาร 1 อาคาร 2 เข้าไป อาคารอื่นๆและพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง กำหนดเสร็จทั้งหมดช่วงกลางปี 58 หรือปีหน้าค่ะ
รั้วโครงการสูง 2 เมตรและปลูกกำแพงไม้พุ่ม ไม้คลุมดินและลงต้นไม่ใหญ่ไว้เป็นระยะๆ
ทางเข้าสู่ตัวอาคารมี 2 ทางค่ะ ทั้งหมดเข้าออกด้วยระบบ Access card ในภาพคือทางเข้าหลักด้านหน้าอาคาร ฝั่งซ้ายมือมีเครื่องสแกนบัตรอยู่
ภาพนี้คือทางเข้าจากลานจอดรถใต้อาคารค่ะ สมมติมีคนนอกอย่างเพื่อนหรือใครมาสามารถมาโฟนเรียกเจ้าของห้องให้กดเปิดประตูผ่านหน้าวีดีโอคอลทางฝั่งนี้ได้ค่ะ
ฝั่งซ้ายมือของประตูเป็นเครื่องสแกนบัตรเข้า ส่วนฝั่งขวามือเป็นวิดีโอคอล
เข้ามาในอาคารชั้นล่างจะเป็นโถงลิฟต์ มีช่องเก็บจดหมายติดผนังและลิฟต์ 2 ตัว
ช่องเก็บจดหมายค่ะ
ลิฟต์เป็นแบบไม่ล็อกชั้นนะคะ ซ้ายมือเป็นภาพปุ่มกดลิฟต์ภายนอกที่โถงลิฟต์ ส่วนภาพขวามือจะเห็นว่าปุ่มกดลิฟต์ด้านในจะอยู่ติดผนังด้านข้างของลิฟต์ ไม่ได้อยู่ฝั่งประตูเหมือนทั่วไปนะ
โถงลิฟต์ชั้น 2 – 8 หน้าตาจะเหมือนๆกันเป็นแบบนี้
โถงทางเดินกว้าง 1.5 เมตร ปูกระเบื้องสีเทาผิวฝ้าสลับเงา เพดานมีไฟดาวน์ไลท์ติดเป็นระยะๆ
บันไดหนีไฟค่ะ เปิดไปดูกันหน่อย
หน้าตาบันไดหนีไฟค่ะ ตอนนี้อยู่ระหว่างเก็บงานอยู่ ลูกตั้งลูกนอนบันไดปูกระเบื้องมาให้ ที่ชานพักมีหน้าต่างมาให้ 2 ฝั่ง ฝั่งละบาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7.8 x 21.3 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 36 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 245 คันคิดเป็น 43 % รวมซ้อนคัน คิดเป็น 48%
- ระบบ CCTV
- Access Card ระยะไกล
- Digital Door Lock
- Video Door Phone
- รปภ. 24 ชั่วโมง
- เครื่องดักจับยุงภายนอกอาคาร
ห้องตัวอย่างห้องแรกที่เราจะไปดูกันคือห้องแบบ 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตรค่ะ ..จากทางเข้าห้องเปิดมาจะเจอส่วนครัวซ้ายมือและประตูห้องน้ำอยู่ขวามือ ห้องนี้จัดมาโดยให้น้ำหนักห้องนั่งเล่นค่ะ ห้องนั่งเล่นอยู่ติดระเบียง ซึ่งเป็นช่องนำแสงธรรมชาติเข้าสู่โซนครัวและโต๊ะกินข้าวด้วย ชุดครัวได้พื้นที่ใช้งานสบายๆและค่อนข้างลงตัวในแง่การใช้งาน ไม่อึดอัด มีทำช่องให้วางเครื่องซักผ้าหรือทำชั้นเก็บของได้ด้วย ส่วนพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตรกว่า ส่วนห้องนอน มีที่วางโต๊ะข้างเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งได้พอ ข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า พอแขวนทีวีปลายเตียงได้ แต่ระยะไม่พอวางชั้นวางทีวีนะ
ห้องนี้ขายแบบ Fully Furnished โดยให้เฟอร์นิเจอร์ Built in ของ Index ที่ออกแบบมาให้ Fit พอดีกับห้อง (เดี๋ยวไปดูของจริงว่ามันพอดียังไงนะคะ) และให้ Digital Door Lock ทุกห้อง แถมแอร์ และติดระบบ Video Door Phone ให้ทุกห้อง ไปดูของจริงกันเลยค่ะ
เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้านะคะ ประตูที่นี่ให้มาขนาดค่อนข้างสูงค่ะ ที่ 2.2 เมตร บานปิดผิวลามิเนตลายไม้ มีตาแมวและ Digital Door Lock .. ผนังด้านข้างติดชื่อโครงการ บ้านเลขที่ของโครงการคือ 143 และ เลขห้องด้านล่าง
Digital Door Lock มือจับเป็นแบบเขาควาย วิธีการปลดล็อคเข้าห้องมี 3 วิธีค่ะ 1. เอา Access Card ทาบ 2.กดรหัสผ่านเข้าห้อง 3. ไขกุญแจตามแบบดั้งเดิม
ภายในห้องค่ะ ที่ผนังข้างๆจะมี Video Door Phone ติดตั้งอยู่พร้อมใช้งาน
ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ง่ายๆไม่ซับซ้อนค่ะ ซ้ายมือของจอจะมีปุ่มเปิดปิดอยู่ ขวามือของจอจะมีปุ่มใช้งานต่างๆเรียงแถวลงมา สามารถใช้กดคุยกับรปภหรือเพื่อนที่แวะมาเยี่ยมที่ชั้นล่างได้ และกดปลดล็อกให้เข้ามาได้จากบนห้อง
เข้ามาดูในห้องกันต่อเลยค่ะ เข้ามาก็จะเจอส่วนครัวและห้องนั่งเล่นติดระเบียงแบบนี้ โครงการขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ก็ได้ตามที่เห็นแต่ไม่รวมพร๊อพและเครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.55 m. พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ไม่ได้ให้ม่านนะคะ เดี๋ยวไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะว่ามีอะไรบ้าง
ชุดครัวจัดมาเป็นชุดรูปตัว L ของ Index ฝั่งนึงทำเป็นโต๊ะอาหารแบบ 2 ที่นั่งที่ดูลงตัวกับพื้นที่ที่ได้ และน่าใช้งานดีเพราะระยะไม่อึดอัดและมีความยืดหยุ่น เพราะเวลาเตรียมอาหาร ยังไม่กินข้าวก็ใช้โต๊ะกินข้าวเป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ มีชั้นลอยมาให้พร้อมเครื่องดูดควันเหนือเตา ภาพขวามือเราเปิดหน้าบานชั้นลอยให้ดูนะคะ โซนครัวนี่ไม่ได้ปูกระเบื้องมาให้นะคะ จัดมาเป็นไม้ลามิเนตเหมือนส่วนห้องนั่งเล่น ซึ่งถ้าใช้ไปนานๆเจอน้ำกระเด็นบ่อยๆไม้อาจบวมได้นะคะ ไม้ลามิเนตเป็นลายไม้สีน้ำตาลอ่อนอมเทาที่จัดธีมให้สวยได้ง่ายและได้หลายแนวค่ะ
ท้อปครัวเป็นฟอร์เมก้าสีเทาค่ะ ก็เป็นลามิเนตชนิดหนึ่งนะคะ คุณสมบัติแข็ง ทนต่อแรงกระแทก ความร้อน น้ำและทำความสะอาดง่าย แต่ผนังของชุดครัวไม่ได้ติด Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ถ้าเป็นคนชอบทำอาหารแนะนำให้ติดเพิ่มนะคะ จะได้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
อ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลสแบบ 1 หลุม และเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Teka ค่ะ
ตัวหน้าบานเปิดปิดทั้งหมดมี Soft close hinge แต่พอลองเปิดปิดดูคือต้องเปิดหน้าบานกว้างเกิน 45 องศานะคะ Soft close ถึงจะทำงาน ถ้าเปิดปิดต่ำกว่า 45 องศาจะปิดปึ้งหรือมีเสียงดังตามปกติค่ะ สังเกตตรงมุมด้านในของเซาะร่องบานเปิดเป็นอลูมิเนียมแบน มุมแหลมเชียว แบบนี้ถ้าก้มๆเงยๆไม่ทันระวังอาจทิ่มตาหรือเป็นอันตรายอื่นๆได้นะคะ แนะนำให้หาซิลิโคนมาหุ้มมุมหน่อยนะ
ลิ้นชักเก็บช้อนส้อมมีสล็อตมาให้ค่ะ จัดให้เป็นหมวดหมู่ได้ง่าย ไม่กลิ้งไปมา
ที่วางเตาไมโครเวฟด้านล่าง สังเกตเห็นมีเตรียมเต้าเสียบให้ด้านหลังพร้อม
บานตู้ด้านบนตู้ติดมุมจะซ่อนงานระบบไฟเอาไว้เพื่อความเรียบร้อย
โต๊ะอาหารที่ใช้เป็นที่เตรียมอาหารเวลาทำครัวได้เหมาะดี ส่วนฐานโต๊ะทำเป็นที่เก็บของเพิ่มซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่เวลานั่งกินข้าวหรือทำงานอาจยืดแข้งยืดขาลำบากหน่อยเพราะชนกับฐานโต๊ะค่ะ
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ประตูห้องน้ำเป็นบาน HDF สีขาว มีตีเกล็ดระบายอากาศ มือจับเป็นเขาควายสแตนเลส
สวิตช์ไฟหน้าตามาตรฐานค่ะ
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านสีขาวครีม ระดับพื้นห้องน้ำแทบจะไม่ต่างกับพื้นลามิเนตด้านนอกเลยค่ะ เวลาล้างห้องน้ำ น้ำอาจล้นออกมาที่พื้นห้องด้านนอกได้ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นไม้ลามิเนต ถ้าเจอความชื้นบ่อยๆใช้ไปนานๆอาจบวมขึ้นมาและทำให้เปิดปิดประตูห้องน้ำลำบากค่ะ
ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ค่ะ อ่างล้างมือเป็นทรงสีเหลี่ยมขนาดใหญ่ดีแต่วางของรอบๆไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ด้านหลังอ่างล้างมือกับโถสุขภัณฑ์มีทำ Low wall มาให้วางของเพิ่มค่ะ
โถสุขภัณฑ์หน้าตามาตรฐาน สายฉีดเป็นสแตนเลสสีเงิน เข้ากันกับแกนใส่ทิชชู่สแตนเลสติดผนัง
ผนังห้องน้ำส่วนเปียกติดกระเบื้องจนสุดเพดานค่ะ ไฟในห้องน้ำเป็นแบบดาวน์ไลท์ มีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ที่เพดาน
มีท่อระบายน้ำ 2 จุดคือส่วนเปียกกับส่วนแห้ง ส่วนเปียกมีฉากกั้นห้องเป็นกระจกเทมเปอร์ และมือจับเป็นสแตนเลสรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวด้านนอกได้
พื้นส่วนเปียกลดระดับลงมาไม่มากประมาณ 5 มม.
หน้าตาฝักบัวอาบน้ำค่ะ ผนังด้านข้างมีเจาะช่องให้วางสบู่ แชมพู ครีมอาบน้ำได้
ออกมาจากห้องน้ำจะเห็นมีช่องข้างๆประตูห้องน้ำ ทำมาให้วางเครื่องซักผ้าค่ะ หรือใครไม่ชอบซักผ้าเอง จะต่อชั้นเพิ่มทำเป็นที่เก็บของก็ได้
ไปดูโซนห้องนั่งเล่นติดระเบียงกันต่อ ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตรกว่าๆ โซฟา โต๊ะกาแฟ ชั้นวางทีวี ได้ตามที่เห็นค่ะ ส่วนอย่างอื่นแต่งมาเป็นพร๊อพนะ ของจริงต้องหาซื้อเองค่ะ
โซฟาจัดมาเป็นแบบ 2 ที่นั่งสีเทา พนักวางแขนค่อนข้างสูง ด้านข้างโซฟาเตรียมเต้าเสียบไว้ให้สำหรับโคมไฟ โต๊ะข้าง หรือเอาไว้ชาร์จแบตไอแพดนั่งเล่นบนโซฟาได้ง่ายๆ
โต๊ะกาแฟจะยกขึ้นมาเป็นโต๊ะทำงานหรือทานอาหารก็ได้ค่ะ หรือจะกดลงเวลาดูทีวีก็ได้เหมือนกัน
ชั้นวางทีวีจัดมาให้สีเข้าชุดกันกับพื้นห้อง มีช่องเก็บของ 3 ช่อง เปิดปิดหน้าบานได้ 1 ช่องค่ะ ด้านบนติดแอร์ของ York มาให้
ที่เพดานห้อง ไฟเป็นหลอดตะเกียบครอบด้วยโคมทรงสีเหลี่ยมค่ะ มีเครื่องตรวจจับควันติดมาให้ที่เพดาน
ห้องนั่งเล่นอยู่ติดประตูบานเลื่อนแบบ 2 บานเปิดออกไประเบียง ประตูกรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง สังเกตว่าขอบประตูจะยกสูงขึ้นจากพื้นห้องนั่งเล่นและพื้นระเบียงนะคะ กันน้ำจากระเบียงเข้ามาในห้องได้ดี แต่เดินเข้าออกไม่ระวังอาจมีสะดุดได้ เราออกไปดูที่ระเบียงกันต่อเลย
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา มีก๊อกน้ำสแตนเลสหน้าตาดีเอาไว้ให้เวลาอยากจะล้างระเบียง หรือรดน้ำกระถางต้นไม้ ราวกันตกทำดีเทลซี่ราวได้น่าสนใจ เป็นเหล็กกลมทาสีดำ ซ้อนเหลื่อมกัน 2 ชั้น มือจับเป็นไม้ทาสีน้ำตาลอมเหลือง แอร์คอมเพรสเซอร์ทั้งสองตัว(ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอย่างละตัว) แขวนไว้และเป่าลมร้อนออกนอกระเบียงค
เพดานระเบียงเป็นยิปซั่มบอร์ดทาสีเทา ติดไฟมาให้แบบเดียวกับในห้องนั่งเล่นค่ะ
เข้าไปดูห้องนอนกันต่อ ประตูห้องนอนเป็นบาน HDF สีขาว มือจับประตูเป็นเขาควายสแตนเลส
ห้องนอนจัดมาเป็นเตียงควีนไซส์ขนาด 5 ฟุต หัวเตียงและฐานเตียงบุผ้าสีเทาของจริงได้ตามนี้ค่ะ ไม่รวมฟูก หมอน ผ้าปูที่นอนนะ ระยะข้างเตียงฝั่งขวามือกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างเตียงและกระจกมาให้ดูเป็นไอเดีย จะวางโต๊ะเครื่องแป้งก็ระยะใช้งานได้อยู่
ติดผนังวางตู้เสื้อผ้ามาให้ของจริงได้ตามที่เห็นค่ะ ขนาดตู้เสื้อผ้าลงตัวพอดีเป๊ะกับประตูห้องเวลาเปิดเข้ามานะคะ เป็นข้อดีของห้องแบบ Fully Furnished (ที่ดี) ก็คือจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับตัวห้องแบบคิดมาแล้วอย่างนี้ค่ะ ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยมากกว่าตู้แบบานเปิดเวลาใช้งานเปิดปิดตู้
ด้านบนมีช่องให้ใส่กระเป๋าเดินทางหรือเก็บของ มีราวแขวนเสื้อผ้าและกางเกงบนล่าง
ห้องนอนมีผนังฝั่งนึงเป็นหน้าต่างแบบทำเต็มหน้ากว้างผนัง ด้านบนเป็นบานเลื่อนแบบ 2 บาน ส่วนอื่นเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ค่ะ
ระยะข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร มีเต้าเสียบมาให้สำหรับวางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้
ปลายเตียงระยะค่อนข้างน้อยคือประมาณ 25 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีไม่ได้ แต่พอติดทีวีแบบแขวนผนังได้ค่ะ
ห้องตัวอย่างถัดมาคือห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำขนาด 52 ตารางเมตร ..จากทางเข้าห้องเปิดมาจะเจอส่วนครัวปิดอยู่ด้านข้างและมีระเบียงอยู่ในตัว ครัวปิดทำที่วางตู้เย็นมาให้ทำให้จัดฟังก์ชั่นการใช้งานได้ครบและเป็นสัดส่วน ส่วนกลางของห้องเป็นห้องนั่งเล่นอยู่ติดระเบียง มีทางเดินไปห้องนอนใหญ่และห้องน้ำอยู่ ห้องนอนใหญ่ให้ตู้เสื้อผ้ามาแบบ Walk in closet เล็กๆ ส่วนห้องนอนเล็กจัดไว้อีกฝั่งนึงวางเตียงเดี่ยวได้ เตรียมช่องและวางตู้เสื้อผ้ามาให้ ห้องนี้ขายแบบ Fully Furnished โดยให้เฟอร์นิเจอร์ Built in ของ Index และให้ Digital Door Lock และแถมแอร์ ติดระบบ Video Door Phone มาให้เหมือนห้องอื่นๆค่ะ ไปดูของจริงกันเลย
เข้ามาดูในห้องกันต่อเลยค่ะ เข้ามาก็จะเจอส่วนทานอาหารและห้องนั่งเล่นติดระเบียงแบบนี้ เฟอร์นิเจอร์ก็ได้ตามที่เห็นแต่ไม่รวมพร๊อพและเครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.55 m. พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ไม่ได้ให้ม่านนะคะ สเป็ควัสดุแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนที่ไปดูกันมาค่ะ แต่เฟอร์นิเจอร์บางตัวและชุดครัวจะไม่เหมือนกันเพราะจัดให้เหมาะกับขนาดห้อง เดี๋ยวไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้องจะเห็น Video Door Phone ติดผนังและ Digital Door Lock อยู่
บานประตูทำ Door Stopper สแตนเลสมาให้ หน้าตาดูดีค่ะ
ด้านข้างจัดโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งมาให้หน้าทางเข้าห้องครัว ของจริงได้โต๊ะเก้าอี้ตามนี้ไม่รวมพร๊อพค่ะ
ถ้าเลื่อนเก้าอี้ที่โต๊ะทานอาหารออกก็ขวางทางเดินเข้าห้องครัวนะ มุมขวามือของประตูทางเข้าห้องครัวสามารถวางชั้นวางของเพิ่มได้ค่ะ ประตูกั้นห้องครัวเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำกระจกเขียวตัดแสง
พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องกรานิตโต้สีขาว ธรณีประตูเป็นไม้ลามิเนตค่ะ
จะมีช่องให้วางตู้เย็นทางซ้ายมือ และชุดครัวอยู่ทางขวามือ ระยะเดินและใช้งานครัวกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้
ช่องวางตู้เย็นค่ะ ข้อดีคือตัวช่องไม่ได้จำกัดความสูงของตู้เย็นและยังพอเหลือที่ด้านข้างอยู่ สามารถวางตู้เย็นไซส์ปกติได้แบบที่ห้องตัวอย่างวางมาให้ดู ไม่ใช่แบบไซส์เล็กในคอนโดทั่วไป
ฝั่งตรงข้ามตู้เย็นเป็นชุดครัวจาก Index วัสดุเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรก แต่เป็นคนละแบบกัน เพื่อให้พอดีกับขนาดแต่ละห้อง ห้องนี้จัดอ่างล้างมือสแตนเลสแบบ 1 หลุมไว้ตรงข้ามกับตู้เย็นและประตู ซึ่งอันนี้คิดมานะคะ เพราะเอาผักออกจากตู้เย็นมาล้างได้ง่าย จะล้างมือก่อนกินข้าวก็เอื้อมมือมาล้างจากประตูได้ง่ายด้วย ถัดมาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูควันด้านบน ด้านล่างมีที่ไมโครเวฟอยู่ ถัดมาติดฝั่งระเบียงเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร
ผนังส่วนเตรียมอาหารมีเตรียมเต้าเสียบให้สำหรับเครื่องปั่นหรือเครื่องครัวไฟฟ้าอื่นๆ
มีชั้นวางเครื่องปรุง และชั้นวางจานชามแบบมีหน้าบานปิด
ออกไปดูระเบียงห้องครัวกันต่อ
พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกสีเทา แอร์คอมเพรสเซอร์แขวนมาให้ 1 ตัวเป่าลมออกด้านนอก ตัวนี้เป็นของห้องนอนเล็กค่ะ
ออกมาดูห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตรกว่าๆ ห้องนี้วางโซฟารูปตัว L มาให้ โต๊ะกาแฟและชั้นวางทีวีได้แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรก
โซฟารูปตัว L หุ้มผ้าสีเทา มีมุมที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนดูทีวี
ชั้นวางทีวีวางทีวีไซส์ 60 นิ้วได้สบายๆค่ะ
ออกไปดูระเบียงข้างห้องนั่งเล่นกันต่อ
ราวกันตกดูดีค่ะ เป็นกระจกเทมเปอร์ กรอบอลูมิเนียมสีดำ มือจับเป็นไม้ทาสีน้ำตาลอมเหลือง
พื้นระเบียงเป็นเซรามิกสีเทา มีก๊อกน้ำสแตนเลสมาให้ มีแอร์คอมเพรสเซอร์แบบแขวนอยู่ 2 ตัว (แอร์ในห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่) แต่หันหน้าเป่าลมเข้าตัวระเบียง
จากห้องนั่งเล่น มีทางแจกไปห้องน้ำและห้องนอนใหญ่ ห้องตัวอย่างติดชั้นลอยเล็กๆที่ผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย
ห้องน้ำใช้วัสดุและการจัดวางเหมือนกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกค่ะ ทำ Low wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่ม เป็นห้องน้ำขนาดใช้งานได้สบายๆไม่อึดอัด
ไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อ เตียงได้ตามที่เห็น เป็นควีนไซส์ 5 ฟุต หัวเตียงและฐานหุ้มผ้าสีเทา ไม่รวมฟูก หมอน ผ้าปูที่นอนเหมือนเดิม
ปลายเตียงพอวางชั้นวางทีวีลงไปแล้วยังเหลือที่เดินสบายๆประมาณ 60 เซนติเมตร
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร โต๊ะข้างเตียงของจริงไม่ได้นะคะ เป็นพร๊อพ ของจริงต้องหาเอง
มองไปที่ฝั่งประตูทางเข้า จะเห็นตู้เสื้อผ้าอยู่ เป็นตู้แบบWalk in closet เล็กๆค่ะ
ระยะข้างเตียงฝั่งตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณ 70 เซนติเมตร
ด้านใน Walk in closet มี 2 ฝั่ง เหมาะสำหรับคู่รักที่มีเสื้อผ้าไม่ได้เยอะมาก พอจัดไว้คนละฝั่งได้ แต่ถ้าเสื้อผ้าเยอะจริงๆ ก็เปลี่ยนห้องนอนเล็กเป็นตู้เก็บรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้าเพิ่มก็ยังได้อยู่ (เดี๋ยวพาไปดูห้องนอนเล็กกันต่อนะคะ)
เพดานของ Walk in closet ไม่ได้ติดไฟมาให้นะคะ แต่เพราะตู้ไม่ได้ลึก เวลาเปิดใช้งานก็ไม่ได้มืดอะไรมากแบบที่เห็น แต่ใครไม่ชอบว่ามืดไป ก็ต้องเดินสายติดไฟเพิ่มเองค่ะ
ไปดูห้องนอนเล็กกันต่อ
จัดมาเป็นห้องเด็กค่ะ จัดเป็นห้องนอนแขกก็ได้ แต่จริงๆแล้วถ้าใครไม่มีลูก หรือเป็นคู่แต่งงานใหม่ เดาว่าห้องนี้อาจถูกเปลี่ยนเป็นห้องเก็บเสื้อผ้า หรือวางโต๊ะทำงาน หรือทำเป็นห้องสมุดได้ ข้างเตียงฝั่งตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณ 70 เซนติเมตร พอวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือได้ค่ะ
ตู้เสื้อผ้าจัดมาลงช่องเรียบไปกับผนังพอดี เป็นตู้บานเลื่อนค่ะ ของจริงได้ตามนี้
ระยะปลายเตียงกับติดผนังฝั่งหน้าต่างไม่เหลือระยะเดินเท่าไหร่ แต่ปลายเตียงพอแขวนทีวีไว้ดูได้ค่ะ
เหลือระยะปลายเตียงประมาณ 15 เซนติเมตรค่ะ
ห้องแบบสุดท้ายเป็นห้องแบบ Duplex ค่ะ มีห้องแบบนี้อาคารละ 2 ห้อง ทางโครงการกำลังจะมีห้องตัวอย่างแบบ Duplex ตามมาเร็วๆนี้ค่ะ เท่าที่ทราบคือกำหนดจัดห้องเสร็จในวันที่ 11 – 12 พฤศจิกายนนี้ค่ะ ใครว่างก็แวะไปดู เป็นยังไงบ้างมาแชร์ข้อมูลกันนะคะ
ผังห้อง Duplex มี 2 ชั้น 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ชั้นล่างเข้ามาจะเจอบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 อยู่ด้านข้าง มีห้องน้ำแบบ Powder Room (ไม่มีส่วนอาบน้ำ) อยู่อีกฝั่งนึงของประตู ถัดไปเป็นโซนครัวมีโต๊ะทานข้าวมีประตูเปิดออกไประเบียงได้ ห้องนั่งเล่นเป็นแบบ เพดานสูง Double Floor เป็นพื้นที่ที่เหมาะจะเอาไว้จัดปาร์ตี้หรือชวนเพื่อนๆมาทำงานด้วยกันดีค่ะ ส่วนชั้น 2 จัดเป็นห้องนอนมีห้องน้ำในตัวและ Walkin closet มาให้ ปลายเตียงถ้าวางชั้นวางทีวีคไม่เหลือที่เดิน แขวนทีวีกับผนังเหมาะกว่า
ห้องแบบนี้เหมาะมากกับคนที่เป็นฟรีแลนซ์ ทำบริษัทออกแบบเล็กๆของตัวเอง(แบบว่าทำกับเพื่อน 2 -3 คน) มีธุรกิจส่วนตัวแบบที่วันๆจะอยู่ติดห้องทำกิจกรรมอย่างเช่น ตัดโมเดล เพ้นท์ภาพ ปั้นหุ่น เย็บผ้า เปิดร้านออนไลน์ เป็นต้นนะคะ เพราะพื้นที่ห้องไม่น่าเบื่อ มีความยืดหยุ่นสามารถจัดห้องได้หลายแบบตาม Lifestyle แต่ละคนได้ไม่ยาก
ภาพจำลองมุมมองห้องนั่งเล่นเพดานสูงค่ะจากภาพนี้นอกจากจะเห็นรูปแบบพื้นที่แล้ว จะเห็นหน้าตาเฟอร์นิเจอร์ โซฟารูปตัว L โต๊ะกาแฟ และชุดครัวที่ได้ด้วยค่ะ ก็จะคล้ายๆกับของที่จะได้มาในห้องนะคะ
ภาพจำลองจากทางขึ้นบันไดมาชั้น 2 ค่ะ จะเห็นทางเข้าห้องนอนอยู่ และเห็นพื้นที่โซนห้องครัวที่เปิดออกไประเบียงได้ สังเกตว่ามีกระจกเข้ามุมในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องครัวด้วย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 November 2014
- 1 Bedroom 30 – 32 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท หรือ 53,000 บาทต่อตารางเมตร จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท
- 2 Bedrooms 51 – 53 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.84 ล้านบาท หรือ 55,686 บาทต่อตารางเมตร จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
- Duplex 49 – 52 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท 61,020 บาทต่อตารางเมตร จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- ค่ากองทุน 350 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของโครงการ Zelle รัตนาธิเบศร์ อยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ สำหรับคนไม่ใช้รถก็สามารถเดินไปขึ้น MRT สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ได้ในระยะเดินประมาณ 450 เมตร โดยรอบโครงการตอนนี้ยังคงเป็นอาคารบ้านเรือนแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวกในโซนนนทบุรีค่ะ ข้อดีคือ สามารถข้ามสะพานไปอีกฝั่งนึงได้ง่าย เพราะมีสะพานพระนั่งเกล้า กับสะพานพระราม 7 อยู่ใกล้ๆ มีทางเลี่ยงทางลัดไปใช้ถนนข้างเคียงได้พอสมควร แต่ข้อเสียของถนนรัตนาธิเบศร์ก็คือ รถติด เช่น ที่แยกแคราย, แยกพงษ์เพชร และ ช่วงด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วน เพราะตลอดทาง มีทั้งสำนักงาน, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย และห้างสรรพสินค้า
ถนนรัตนาธิเบศร์หน้าโครงการเป็นถนนฝั่งขาเข้าเมือง วิ่งไปทางแยกแคราย, งามวงศ์วาน ซึ่งใครจะเข้าเมืองหรืออยากไปเดินเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ก็ไม่ต้องไปเสียเวลากลับรถกัน แต่เวลากลับเข้าโครงการคือต้องชิดซ้ายไว้จนกว่าจะเห็นร้านไก่ย่างนิตยาตรงข้ามโครงการนะคะ ถึงเตรียมกลับรถใต้สะพานได้ ไม่งั้นถ้าเผลอขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าไปนี่หลุดยาววววเลยค่ะ เราเคยหลุดไปแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นพลาด
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ในระยะเดินเท้าถือว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดคือ CP Freshmart ห่างจากทางเข้าโครงการประมาณ 110 เมตรค่ะ นอกจากนั้นอาคารพาณิชย์รอบๆจะเน้นขายอุปกรณ์ก่อสร้างมากกว่า ที่อยู่ใกล้ๆหน่อยจะมีห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, Big C รัตนาธิเบศร์, โลตัส และ เอสพลานาด แคราย ซึ่งถ้าเปลี่ยนจากระยะเดินเป็นระยะขับรถความอุดมสมบูรณ์จะเพิ่มขึ้นมากพอสมควรเลย เพราะใกล้ๆนี้มีห้างใหญ่ๆอยู่หลายที่ไม่ต้องเข้าไปในเมืองไกลๆ
สำหรับตัววัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาของโครงการนี้ เทียบกับราคาในช่วง 55,000 บาทต่อตารางเมตร แบบ Fully Furnished ที่โครงการให้มาก็ถือว่าให้มาดีและน่าใช้งานเมื่อเทียบกับโครงการมาตรฐานราคาเรตเดียวกันทั่วไปค่ะ ได้ชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์จาก Index ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี ได้แอร์จาก York แอร์คอมเพรสเซอร์แขวนมาให้ทุกเครื่อง มีฉากกั้นห้องประตูกระจกบานเลื่อนกับตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in มาให้ พื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.55 m. พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ไฟได้เป็นดาวน์ไลท์และหลอดตะเกียบ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ใช้สุขภัณฑ์ American Standard มีทำ Low Wall มาให้วางของเพิ่มมีฉากกั้นส่วนเปียกเป็นกระจกเทมเปอร์ มี Digital Door Lock และวีดีโอคอลติดมาให้ทุกห้อง เฟอร์นิเจอร์คุมโทนสีและคิดเรื่องระยะการใช้งานมาได้ค่อนข้างดี ฟังก์ชั่นครบและจัดวางได้ลงตัว
การออกแบบโครงการ จำนวนยูนิต 570 ยูนิต, 11 ยูนิตต่อชั้นบนที่ดินประมาณ 5 ไร่, อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 36 : 1 ,ที่จอดรถประมาณ 245 คันคิดเป็น 43 % รวมซ้อนคัน คิดเป็น 48% ถือว่าเป็นโครงการที่มีความหนาแน่นต่ำค่ะ ใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้สบายๆ ที่จอดรถก็ไม่ได้หนาแน่นมาก ถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับเรตราคาและทีดินโครงการค่ะ
สาธารณูปโภค และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของโครงการมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ,Club House และ Fitness Center รวมกันอยู่ระหว่างตึก 7 และ 8 อาคารแรกๆก็ต้องเดินเข้าไปใช้ไกลหน่อย แต่ก็เป็นการเฉลี่ยความสะดวกกันค่ะ อาคารที่อยู่ต้นๆใกล้ถนนเข้าออกสะดวกกว่าก็ไกลพื้นที่ส่วนกลางหน่อย ส่วนอาคารหลังๆอยู่ลึก เดินเข้าเดินออกก็ไกลหน่อยแต่ก็อยู่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางมากกว่า (จากถนนใหญ่ถึงอาคารด้านหลังสุดหรืออาคาร 6 เป็นระยะทางประมาณ 250 เมตร) เรื่องความปลอดภัยมีระบบ CCTV, Access Card, รปภ. 24 ชั่วโมง, Digital Door Lock และ Video Door Phone ติดทุกห้อง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดักจับยุงวางกลางแจ้งภายนอกอาคารให้ (อันนี้ไม่เคยเห็นแฮะ) ซึ่งก็ถือว่ามีความพยายามที่จะอำนวยความสะดวกให้ดีค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 55,000 บาทต่อตารางเมตร, 3 November 2014
- ทำเล 7.5 /10 – ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ห้างเยอะ แต่ของกินรอบๆโครงการหายาก
- เดินทางด้วยรถ 7.75 /10 – สะดวกในบริเวณนนทบุรี ข้ามสะพานง่าย แต่รถติด ไกลจากตัวเมืองพอควร
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ระยะ 450 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง (แต่ถ้าจะเข้าเมืองต้องเผื่อเวลาไว้อยู่ดีประมาณครึ่งชั่วโมง)
- วัสดุ 8/10 – วัสดุที่ได้อยู่ระดับดีและให้ค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับเรตราคานี้
- แบบ 8.0/10 – ห้องตัวอย่างจัดเฟอร์ค่อนข้างลงตัว ฟังก์ชั่นครบ ระยะการใช้งานไม่แน่นจนเกินไป
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ความหนาแน่นต่ำ ไม่ต้องเบียดกันใช้
- MAIN CLASS
- 7.75 / 10.00
BOTTOM LINE
Zelle รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซน นนทบุรี-รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน มองหาบ้านที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง หวังพึ่งพาความสะดวกของรถไฟฟ้าเส้นใหม่ในการเดินทางในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกัน ก็อยากจะได้ความสะดวกสบายจากห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียง ในระยะที่ขับรถไปได้ไม่ไกล ในงบประมาณ 1 ล้านต้นๆ