รีวิวโครงการ

คอนโดพร้อมอยู่ ส่วนกลาง 4,500 ตร.ม. เริ่ม 4.99 ล้าน | XT พญาไท | คิดเรื่องอยู่ Ep.686

11 มีนาคม 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1660 … XT พญาไท เป็น 1 ใน 3 ของคอนโดซีรีย์ใหม่ จากแสนสิริ ที่เปิดตัวมาไล่เลี่ยกันเลย โดยจุดเด่นของแบรนด์นี้คือมีการให้เลือกแบบและฟังก์ชันห้องที่หลากหลายมากๆ โดยลูกบ้านจะได้ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์กับชีวิตตัวเองมากที่สุด และก็อีกอย่างคือ Co Sharing Facilities ที่สามารถใช้ข้ามแบรนด์ XT ด้วยกันได้(เฉพาะบางจุด และจองล่วงหน้าผ่านแอพฯ เสียค่าใช้จ่ายเล็กน้อย) ส่วนตัวของ พญาไทนี้ จะโดดเด่นในเรื่องของส่วนกลางที่ให้มาเยอะสุดๆเลยกว่า 4,500 ตร.ม. ไปชมกันดีกว่า

อ่านรีวิวตึกเสร็จฉบับอัปเดทได้ที่นี่ >> รีวิวตึกเสร็จ XT พญาไท [รีวิวฉบับที่ 2471]

Fact @ 21 August 2018

  • XT Phayathai (เอ็กซ์ที พญาไท)
  • ผู้พัฒนาโครงการ : SANSIRI
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : พญาไท
  • คอนโด High Rise 41 และ 37 ชั้น ใต้ดิน 1 ชั้น 2 อาคาร 1,435 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • จอดรถภายในอาคารชั้น 1-7  | ที่จอดรถประมาณ 57% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 56 ยูนิต ที่ชั้น 11-15
  • ที่ดินประมาณ 3 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  n/a | คาดว่าจะแล้วเสร็จ : n/a
  • 1 Bedroom  (S) 25.25 – 33.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (M) 40.50 – 49.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (S) 61.00 – 74.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms (M) 82.25 – 101.00 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG  175,000 บาท/ตร.ม. 
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.757474, 100.538773

แผนที่จากทางโครงการครับ XT พญาไท ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน และสถานีรถไฟฟ้า Airport Link สถานีพญาไท ระยะทางประมาณ 600 เมตร และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านทางเส้นราชปรารถ ทำให้โครงการใกล้กับรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย โดยมีสถานที่สำคัญใกล้เคียง คือ โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลรามา, คิงพาวเวอร์ รางน้ำ, สวนสันติภาพ เป็นต้น

ที่ตั้งโครงการ XT พญาไท อยู่ติดกับถนนศรีอยุธยา ตรงข้ามเยื้องๆกับรพ.พญาไท 1 และอยู่ไม่ไกลจาก BTS+ARL พญาไท ถือว่าเป็นพื้นที่อยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก โดยในละแวกจะมีถนนหลักที่สำคัญอยู่ 3 เส้นได้แก่

  • ถนนพญาไท เริ่มจากอนุสาวรีย์ฯ ไปจรดถนนพระราม 4 ที่แยกปทุมวัน จะผ่านหน้า MBK และสยาม
  • ถนนศรีอยุธยา ทางตะวันออก – ไปเรื่อยๆจะเจอถนนจตุรทิศ วิ่งลอยฟ้าไปพระราม 9 ได้ / ส่วนทางตะวันตก – ผ่านถนนพระราม 6 ไปเรื่อยๆจนสุดที่ถนนสามเสน
  • ถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักอีกเส้นของสถานีนี้ ทางตะวันออกมุ่งหน้าไปอโศก ผ่านแยกประตูน้ำ, ชิดลม, และไปเข้าสุขุมวิททางซอยนานาได้

ทางขึ้นทางด่วน ใช้ได้หลายจุด คือ 1) ด่านสนามเป้า ซึ่งสามารถไปลงได้ทุกจุด 2) ด่านอุรุพงษ์ (ยมราช) ถนนพระรามหก ใช้เวลาไปหัวลำโพง, สีลม, ถนนจันทน์ ฯลฯ 3) ดอนเมืองโทลล์เวย์ บนถนนวิภาวดีรังสิต ทางขึ้นทั้งหมดนี้ถือว่าอยู่ในระยะที่ค่อนข้างใกล้ทีเดียว

ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับ ถนนศรีอยุธยา ใกล้กับ แยกพญาไท แต่ว่าการจราจรในแยกแถวหน้าโครงการถือว่าหนาแน่นระดับนึงและติดอีกนิดตรงที่ว่าหาที่กลับรถยากพอสมควร ทำให้ตำแหน่งของที่อยู่อาศัยตรงนี้มีผลต่อการจราจรมาก เพราะเป็นเขตในเมืองแล้ว แต่ถ้านับแค่ระยะทางการจะไปทั้งอนุสาวรีย์ฯ ราชเทวี เพชรบุรี สยาม ก็ถือใกล้ๆทั้งหมด

สภาพแวดล้อมเเละชุมชน… ถึงแม้ว่าที่ตั้งจะอยู่ติดกับถนนศรีอยุธยา แต่ก็ใกล้กับสถานีพญาไท ซึ่งพญาไทเป็นย่านที่ไม่ได้มีความอุดมสมบูรณ์ของห้างร้านอะไรมากมาย แต่จริงๆจุดเด่นของพญาไทในโซนนี้เป็นแหล่งทำงานและ “ใกล้สยามกับจุฬาฯ” กับ “เชื่อมกับแอร์พอร์ทลิงค์” มากกว่าทำให้กลายมาเป็นมุมที่ฮิตที่อยู่อาศัยไปเลย แต่ไม่ใช่ว่าจะแห้งแล้งอะไรขนาดนั้นนะครับ ตามริมถนนจะมีพวกตึกแถวร้านค้า ร้านอาหารสิ่งใช้ในชีวิตประจำวัน มีพวก Minimart และ ธนาคารเต็มไปหมด รวมไปถึงมีร้านกินดื่มแฮงก์เอาท์อยู่นิดหน่อย

แต่ถ้าจะเดินเป็นห้างใหญ่ๆ หรือ Community Mall ง่ายเลยคือไปแถวสยาม ชิดลม พระราม 1  นั่นเองต้องคือเรียกว่าเป็นศูนย์กลางของห้างทั้งหลาย และเป็นที่เดินช็อปที่ใหญ่สวย และของให้เลือกเยอะที่สุดในกรุงเทพแล้วก็ว่าได้ ในวันที่ผมไปเดินสำรวจจะเห็นกลุ่มนักศึกษาของจุฬาฯ เดินผ่านไปมาในย่านนี้ก็ไม่น้อยเช่นเดียวกันนะ

การเดินทางด้วยระบบราง BTS พญาไท ยังเป็น Interchange เชื่อมไปยัง Airport Rail Link พญาไท ซึ่งสะดวกมากกับคนที่ต้องการจะเดินทางไป-กลับจากสนามบินสุวรรณภูมิได้ และข้ามไปอีกแค่ 2 สถานีก็ถึง สยาม ซึ่งที่เป็นเซ็นเตอร์แหล่งความเจริญสุดๆของบ้านเรา โดยตัวโครงการจะมีระยะห่าง 500 เมตร มาถึงที่ขาบันไดทางออกที่ 4 (และถ้าเดินมาถึงตรงตัวสถานีทั้ง BTS กับ ARL พญาไทอีก 100 เมตร)

ลงบันไดมาให้เราตามประตูทางออกที่ 4 เอาไว้ เราจะลงฝั่งเดียวกับโรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯครับ

ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานี Interchange เชื่อมไปยัง Airport Rail Link ซึ่งสะดวกมากกับคนที่ต้องการจะเดินทางเชื่อมไปสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถลากกระเป๋าขึ้น Airport Rail Link แล้วนั่งยาวไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย ซึ่งอาจจะลำบากนิดหน่อยตรงที่ต้องลากกระเป๋าจากโครงการมายังสถานี แต่ก็เป็นระยะที่พอเดินได้อยู่

มองลงไปจะเห็นแยกพญาไทนะครับ จะเห็นว่าปริมาณรถที่มาจากถนนศรีอยุธยาเลี้ยวเข้ามาที่ถนนพญาไทจะเยอะมาก

ลงที่บันไดทางขึ้นลง ทางออกหมายเลข 4 ตรงนี้ครับ

การข้ามถนนบริเวณแยกนี้ต้องข้ามทั้งหมด 4 ช่วงด้วยกัน เนื่องจากเป็นแยกขนาดใหญ่นะคะ การซอยช่วงทั้งหมด 4 ช่วงด้วยกันทำให้ข้ามได้ง่ายขึ้น

บริเวณถนนใหญ่ ทางม้าลายจะมีไฟจราจรสำหรับคนเดินให้ เพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น ข้ามถนนอีก 2 ตอนก็จะอยู่ฝั่งอาคารวรรณสรณ์ซึ่งเป็นอาคารหัวมุมแยกพญาไทนี้แล้ว

ข้ามมาแล้ว เราก็จะเห็นจุดกลับรถ ซึ่งถ้าใครเป็นคนใช้รถ แล้วมาจากแยกจตุรทิศ ก็ต้องมากลับรถที่ตรงนี้แหละ

เดินตามทางริมฟุตบาทไปเรื่อยๆนะครับ หลังจากผ่านโค้งตึกวรรณสวรณ์แล้ว ทางซ้ายมือก็จะเป็นตึกสิริภิญโญ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่แสนสิริด้วย

ระหว่างทางจะมีร้าน Coffee เล็กๆเก๋ๆอยู่อย่าง “เช้าคอฟฟี่” ก็แวะซื้อได้

หลังจากนั้นจะผ่านตัวโรงแรมเก่าแก่ในย่านนี้ อย่าง The Sukosol Bangkok

เดินต่อกันครับ จะเห็นว่าสะพานข้ามแยกของแยกพญาไทจะมาลงบรรจบถนนตรงนี้ และช่วงเวลาสายๆวันธรรมดา การจราจรก็ยังหนาแน่นอยู่

ทางซ้ายมือผ่านอาคารศรีอยุธยา นี่เดินผ่านมามีแต่ตึกออฟฟิศ สำนักงาน โรงแรม ตามริมถนนใหญ่ทั้งนั้น เห็นสะพานลอยอยู่ เดี๋ยวผมจะขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศมุมสูงสักหน่อย

ขึ้นมาที่สะพานลอยกันแล้ว ขอถ่ายย้อนศรกลับไปยังแยกพญาไทที่ผมเดินมาก่อนครับ จะเห็นว่าประมาณรถที่วิ่งบนเส้นศรีอยุธยานี้จะไปกระจุกตัวเพื่อผ่านหน้าโครงการแล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนพญาไทค่อนข้างหนาแน่นมาก ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาคนกำลังทำงานอยู่นะครับ ถ้าเป็นช่วงเลิกงานคาดว่าจะหนักกว่านี้

กลับหลังหันมามองอีกฝั่งบ้าง ไปทางโครงการ มองไปฝั่งนี้จะเห็นแยกจตุรทิศอยู่ไกลๆ ทางขวามือเป็นที่ตั้งของรพ.สำคัญอย่าง พญาไท 1 และเห็นการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นทั้งสองฝั่งเลยทีเดียว เดี๋ยวเราลงเดินต่อกันครับอีกนิดเดียว

ตรงนี้เป็นทางลัดส่วนบุคคล เพื่อเข้าไปยังโรงแรม Pull Man และก็ King Power รางน้ำ ซึ่งสามารถเข้าจากฝั่งถนนศรีอยุธยานี้ได้ด้วย

จากนั้นเดินข้ามซอยศรีอยุธยา 10 ซึ่งซอยนี้เป็นซอยตันนะครับ

มาถึงโรงเรียนศรีอยุธยาในพระอุปถัมภ์ฯ แล้ว ซึ่งโรงเรียนนี้ที่ดินติดกับตัวโครงการ XT พญาไทเลยครับ

โรงเรียนศรีอยุธยาในพระอุปถัมภ์ฯ  นี้ถือเป็นโรงเรียนเก่าแก่ในพื้นที่นี้นะครับ ดูประวัติร.ร.ได้ “ที่นี่” พื้นที่ดินขนาดใหญ่พอสมควรเกือบๆ 17 ไร่

เอาละครับ ติดกับโรงเรียนก็จะถึงไซท์ที่ดินโครงการแล้ว โดยมีป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้าตรงนี้

Sale Office Gallery ปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาเสร็จหมาดๆแล้วนะครับ มีพื้นที่ 3 ชั้น ติดกับถนนด้านหน้ามีส่วน Facade ที่เป็นเหล็กข้อต่อสีแดงสดใส เด่นมาแต่ไกล

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็น รพ.เอกชนอย่างพญาไท 1 อยู่ตรงข้ามเยื้องๆกัน

ซึ่งถ้าเดินมาอีกนิดนึง เราจะเห็นว่าตัวโครงการของเรามีจุดสังเกตเรื่องรถยนต์ถ้าจะออกจากโครงการแล้วใช้สะพานลอยช่องกลาง เพื่อขึ้นไปยังทางจตุรทิศ-อโศก นั้นอาจจะเบี่ยงไม่ได้นะครับ เพราะทับเส้นจราจรแล้ว เลยทำได้แค่ตรงไปเท่านั้น ถ้าตรงไปจะเป็นเลี้ยวซ้ายไปราชปรารภ(ดินแดง), ชิดขวากลับรถไปแยกพญาไท, เลี้ยวขวาไปราชปรารภ(แอร์พอร์ทลิงก์ หรือทางเพชรบุรี)

  • ซึ่งตัวโครงการนั้นหลายๆคนคงเคยพอทราบว่า เป็นอาคารเก่าที่ชื่อว่า Victory High Condo ซึ่งขึ้นโครงสร้างเดิมเอาไว้นานแล้ว ของกลุ่มรพ.พญาไท ก่อสร้างไปกว่า 20 ชั้น จากการที่ผมสอบถามเจ้าหน้าที่โครงการให้หายข้อสงสัยคือ ทางโครงการจะทุบโครงสร้างเดิมทั้งหมดทิ้งนะครับ โดยจะใช้เวลาทั้งหมดในการรื้อประมาณ 1 ปีเต็ม
  • ด้านข้างโครงการฝั่งนี้เป็นซอยศรีอยุธยา 8 ซึ่งจริงๆแล้วก็สามารถลัดไปซอยรางน้ำได้ด้วย
  • ที่เห็นตึกสูงด้านข้างนั้นคือ คอนโด Supalai Elite พญาไท สูง 31 ชั้น ซึ่งมีระยะห่างตัวอาคารไปประมาณ 20 เมตร

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS + Airport link พญาไท ~ 500+100 ม.
  • รพ.พญาไท 1 / รพ.ราชวิถี / รพ.รามาธิบดี
  • อาคารวรรณสรณ์ + อาคารศิริภิญโญ
  • พญาไทพลาซ่า + CP Tower 3
  • คิง เพาเวอร์ รางน้ำ + Pull Man Hotel
  • Century Mall + Center One
  • Pantip Plaza + Platinum Fashion Mall
  • เซ็นทรัลเวิลด์
  • Siam (Square, Center, Discovery, Paragon)
  • ไบหยก ทาวเวอร์
  • มาบุญครอง MBK
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

เจาะลึกตัวโครงการ

ก่อนจะดูตัวโปรเจค เดี๋ยวเข้ามาดูด้านใน Sale Office Gallery กันสักนิดนึงนะครับ โดยชั้นแรกจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถอย่างเดียว ชั้น 2 เป็นพื้นที่ต้อนรับ และชั้น 3 เป็นส่วนห้องตัวอย่าง ถ้าใครพาผู้ใหญ่มาดูที่นี่ก็มีลิฟต์โดยสารเอาไว้รองรับด้วย

เนื่องจากโครงการนี้ทำ Layout Plan ห้องไว้เยอะมาก การจะทำห้องตัวอย่างทั้งหมดก็คงจะลำบาด โครงการเลยมีการทำ VR แล้วจำลองตนเองเข้าไปอยู่ในห้องแบบ Layout ที่เราชอบ รวมถึงปรับเปลี่ยน Layout เพื่อดูตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ได้เหมือนจริง มีรองรับเอาไว้ให้ 4 ชุดเลย

ที่ชั้น 2 ส่วนของ Reception ก็จัดเป็นพื้นที่แบบ Double Volume ดูโปร่งโล่งสวยๆ มีพื้นที่รับรอง โมเดล และมีการเชิญร้านเครื่องดื่มแบรนด์ Casa Lapin เอามารองรับ Visitor ที่มาเยี่ยมชมโครงการให้ฟรีด้วย

สำหรับแบรนด์ XT นั้นทางแสนสิริได้พัฒนาออกมาในลักษณะของ Lifestyle Condominium ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีกิจกรรมและความชอบที่หลากหลาย โดยแนวคิดในการออกแบบโครงการนี้คือ

  • Extend your style เป็น Concept หลักของโครงการ สามารถเลือกรูปแบบการอยู่อาศัยได้ตาม Lifestyle ที่แตกต่างกัน ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและรูปแบบห้องพักที่จัดมาให้หลากหลาย รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษ Personalized Privilege ที่มีให้ตามความชอบของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ
  • Explore your space มี Flexible Layout ที่สามารถเลือกรูปแบบห้องได้ด้วยตัวเองทั้งพื้นที่ห้องและเฟอร์นิเจอร์
  • Expand your lifestyle มี Co-Facilities ที่สามารถใช้แชร์กันได้กับ XT ในทำเลอื่นๆ โดยจองการใช้งานผ่านระบบ Application ซึ่งตรงนี้ถือว่าน่าสนใจดีนะ โดยการเข้าไปใช้ส่วนกลางของโครงการอื่นนี้มีค่าใช้จ่ายนะ แต่รายละเอียดต้องขึ้นอยู่กับทางโครงการและนิติบุคคลต้องสอบถามเพิ่มเติมอีกที

XT พญาไท เป็นคอนโด High Rise ที่จริงๆแล้วตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้านหน้าสูง 41 ชั้น(อาคาร A) และด้านหลังสูง 37 ชั้น(อาคาร B) รวมทั้งหมด 1,435 ยูนิต โดยหน้าตาตัวอาคารจะเป็นแบบ Modern โทนสีเทาเข้มตัดกับสีของระแนงเหล็กที่ระเบียงแต่ละห้องเป็นสีน้ำเงินสว่าง แบรนด์ XT ถือเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดจากทาง Sansiri ที่ออกมาพร้อมกันทีเดียว 3 โครงการ โดยที่พญาไทมีความพิเศษตรงพื้นที่ของส่วนกลางพอคิดออกมาแล้วจะมีมากถึง 4,500 ตร.ม.ทีเดียว

เริ่มจากด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนพญาไท จะมี Garden Landscape ที่ปรับอารมณ์ก่อนเข้าบ้าน การเดินรถภายในโครงการนี้นั้นเป็นแบบทูเวย์สวนทางกันได้ทั้งหมด

โดยที่ชั้น 1 ด้านหน้าจะเป็นอาคาร A ส่วนที่เห็นห้องกระจกแรกนั้นเป็น Shop ที่ทางโครงการดิวกับ Family Mart เอาไว้แล้ว ถัดไปด้านในเป็นส่วนของ Co-Sharing Space ที่กินพื้นที่สองชั้น ส่วนของ Drop Off จะอยู่ตรงกลางๆอาคาร

ที่ชั้น 1 ตัว Lobby ของทั้งสองอาคารมีการแยกกัน แต่ว่าตกแต่งจะคล้ายๆกันครับ และมีส่วนกลางที่ประกอบไปด้วย Library, Meeting Room ที่เป็นห้องแอร์ และด้านนอกเป็นศาลานั่งเล่นแบบ Semi Outdoor / ในส่วนของการจอดรถ จอดได้ตั้งแต่ที่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 7 จอดได้ 57%(รวมจอดซ้อนคัน)

ขยับขึ้นมาที่ชั้น 8 ตรงกึ่งกลางระหว่างอาคารจะเป็นส่วนของพื้นที่พักผ่อนส่วนกลาง ที่มีชื่อว่า TREE TRUNK SANCTUARY โดยจะกินพื้นที่ถึง 3 ชั้นเป็น Triple Space (เห็นแล้วนึกถึงตัว The Line จตุจักรเลย)

ในส่วนของชั้น 11-15 ตรงกลางนั้นจะมี Void ที่เจาะเป็นช่องแสงช่องลมให้วิ่งผ่านได้ และมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนส่วนตัวเรียกว่า DRAPED GARDEN อยู่ด้วย / ที่ชั้น 16 จัดเป็นพื้นที่สีเขียวอีกจุดที่เรียกว่า FOREST CANOPY สามารถเดินข้ามอาคารเชื่อมกันได้ และมีพื้นที่สำหรับปลูกผักเพื่อเป็นกิจกรรมเล็กๆให้ลูกบ้าน(และสามารถเก็บเอาไปกินได้ด้วย)

ที่ฝั่งด้านหน้าอาคาร A มองจากตัวโมเดลจะเห็นว่ามีอยู่จุดนึงที่ได้เป็น pocket garden ส่วนตัวแบบนี้ ซึ่งไปถามมาแล้วเป็นตำแหน่งของห้อง 2 Bedroom ที่มีทั้งตะวันออกและตะวันตก

ขึ้นมาที่ชั้น 28 อาคาร A ฝั่งด้านหน้าอาคาร จะมีสวนหย่อมลอยฟ้า เรียกว่า LOOKOUT POINT ซึ่งสามารถชมวิวได้ 270 องศา (หันออกไปทางทิศใต้ เห็นตัวเมืองไปทางราชเทวี สยาม ตึกใบหยกได้)

และส่วนกลางที่เหลือจะอยู่ที่ Rooftop ของแต่ละอาคาร ซึ่งสามารถไปใช้ร่วมกันได้ทั้งคู่ โดยจะมีส่วนของสระว่ายน้ำยาว 25 เมตรทั้งสองอาคารเลยครับ แต่ที่อาคาร B จะมี Fitness อยู่ และที่อาคาร A จะมีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่อย่าง Super Living Room อยู่

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกตัวอาคารโครงการ XT พญาไท (Exterior)

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกตัวอาคารโครงการ XT พญาไท (Exterior)

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกตัวอาคารโครงการ XT พญาไท (Exterior) เห็นถึงพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละอาคารที่ชั้น Rooftop / เนื่องจากโครงการนี้ห้องส่วนใหญ่จะหันรับวิวทิศตะวันออกและตะวันตก ทางโครงการเลยเพิ่มออฟชั่นพิเศษให้สำหรับคนที่เลือกห้องฝั่งตะวันตกจะได้เป็นตัวบานกระจก Low-E แทน (ซึ่งเจ้ากระจกนี้สามารถกันความร้อนได้มากกว่ากระจกธรรมดา)

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกตัวอาคารโครงการ XT พญาไท พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 37 อาคาร B (ฝั่งด้านหลัง) ส่วนของสระว่ายน้ำยาว 25 เมตร และมีเครื่องออกกำลังกายในน้ำให้ด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศภาย Perspective ในตัวอาคารบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง อาคาร A ชั้น 41 ส่วนของ Co-Kitchen

ภาพจำลองบรรยากาศภาย Perspective ในตัวอาคารบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง อาคาร A ชั้น 41 ส่วนของ Super Living Room

Ground Plan การเดินรถภายในอาคารจะเป็นแบบทูเวย์สวนทางกันได้(ตามลูกศร) สามารถจอดรถได้ตั้งแต่ที่ชั้น 1 ใต้อาคารไปจนถึงชั้น 7 จอดได้ 57%(รวมจอดซ้อนคัน) ภายในอาคารด้านหน้าเป็นส่วนของ Shop(ดิวกับ Family Mart ได้แล้ว) และถัดมาเป็นส่วนของ Co-Sharing Space ที่กินพื้นที่สองชั้น . ด้านในแยกล็อบบี้กันมีให้เลือกใช้สองส่วน ตรงกลางอาคารเจาะผนังทะลุเป็นแบบ Semi Outdoor มีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Library และห้อง Meeting Room / ตัวลิฟต์โดยสารอาคาร A ด้านหน้าจะให้มา 5 ตัว และอาคาร B ให้มา 3 ตัว ซึ่งมีลิฟต์เซอร์วิสทั้งคู่

ที่ชั้น 8 เป็นชั้นแรกที่มีส่วนของห้องพักอาศัย จะเห็นว่าตัวอาคารวางเป็นเส้นตรง ห้องส่วนใหญ่หันรับวิวทางทิศตะวันออก(ด้านล่าง) และตะวันตก(ด้านบน) โดยที่ชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ 43 ยูนิต และมีทางเชื่อมระหว่างอาคารเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างส่วน TREE TRUNK SANCTUARY ซึ่งมีความสูงกินพื้นที่ถึง 3 ชั้น

สำหรับแปลนห้องที่นี่จะให้น้ำหนักไปทาง 1 Bedroom เป็นส่วนใหญ่ (ดูที่ผังสีแดง น้ำตาล ชมพู) นั่นแหละ ส่วนของห้อง 2 Bedroom จะมีจำนวนไม่มากอยู่ตามมุมอาคารหรือตำแหน่งพิเศษ(สีเขียว)

ในส่วนของชั้น 11-15 ตรงกลางนั้นจะมี Void ที่เจาะเป็นช่องแสงช่องลมให้วิ่งผ่านได้ และมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนส่วนตัวเรียกว่า DRAPED GARDEN อยู่ด้วย / ที่ชั้น 16 จัดเป็นพื้นที่สีเขียวอีกจุดที่เรียกว่า FOREST CANOPY สามารถเดินข้ามอาคารเชื่อมกันได้

ชั้น 28 อาคาร A ฝั่งด้านหน้าอาคาร จะมีสวนหย่อมลอยฟ้า เรียกว่า LOOKOUT POINT ซึ่งสามารถชมวิวได้ 270 องศา (หันออกไปทางทิศใต้ เห็นตัวเมืองไปทางราชเทวี สยาม ตึกใบหยกได้) จะเห็นว่าตั้งแต่ชั้น 17 เป็นต้นไปทั้งสองอาคารจะแยกตัวออกจากกันแล้วนะครับ โดยชั้นนี้อาคาร A  มีห้องพักอาศัย 22 ยูนิต และอาคาร B มีห้องพักอาศัย 18 ยูนิต รวมกันเป็น 40 ยูนิต

ที่ชั้น 37 อาคาร B เป็นส่วนของ Rooftop ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 25 เมตร และมีเครื่องออกกำลังกายในน้ำให้ด้วย ด้านในเป็นห้อง Fitness ส่วนอาคาร A ยังมีห้องพักอาศัยต่อเนื่องไปจนถึงชั้น 40

ที่ชั้น 41 เป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนสุดของอาคาร A ซึ่งประกอบไปด้วยห้อง Super Living Room, Co-Kitchen, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 25 เมตร แยกสระเด็ก และจากุชชี่

Image 1/22
ชั้น 8

ชั้น 8

เผื่อใครอยากดูแปลนชั้นอื่นๆ ผมเอาแปลนแทบทุกชั้นที่มีมาแปะให้ดูกันในนี้เป็น Gallery นะครับ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ พื้นที่ตรงนี้ถือว่าอยู่ในตัวเมืองชั้นใน จริงๆแล้วพื้นที่ติดถนนส่วนใหญ่มักเป้นอาคารสูงเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว และตามซอยมักจะเป็นที่อยู่อาศัยที่สูงไม่เกิน 8 ชั้น ซึ่งการวางอาคารของโครงการจะมี 2 อาคาร โดยหลักๆแล้วเกือบทุกฝั่งทุกด้านจะไม่โดนบังวิวในระยะประชิด ยกเว้นแต่อาคาร A ด้านหน้า ทางทิศตะวันออก จะมีคอนโด Supalai ที่สูง 31 ชั้นตั้งอยู่ครับ

  • ทิศเหนือ ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบ ความสูงไม่เกิน 8 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ Supalai Elite สูง 31 ชั้น และโซนด้านหลังติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก ติดกับ รร.ศรีอยุธยา
  • ทิศใต้ ติดกับถนนศรีอยุธยา ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ดินเปล่า เฉียงเยื้องๆกันเป็นรพ.พญาไท 1

ซึ่งทางโครงการจะมีเจ้าตัวหน้าจอ Presentation โครงการและมีลูกเล่นของ Live View 360 องศาไว้ด้วย โดยผมถ่ายมาจากหน้าจอเลยมีแสงสะท้อนอยู่อาจจะดูยากสักนิด (ถ่ายที่ความสูง 66 เมตร) แนะนำไปดูที่โครงการ มีความสูงให้เลือก 4 ระดับที่ 34, 66, 98, 132 เมตรครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Lobby แยกอาคารทั้งสองอาคาร
  • ชั้น 1 : Shop 1 ร้านค้า (Family Mart)
  • ชั้น 1 : Garden Library, Meeting Room
  • ชั้น 1 : Co Sharing Space
  • ชั้น 8 : TREE TRUNK SANCTUARY
  • ชั้น 11 : DRAPED GARDEN
  • ชั้น 16 : FOREST CANOPY
  • ชั้น 28 อาคาร A : LOOKOUT POINT
  • ชั้น 37 อาคารB : ENERGETIC LAP POOL(25m.), FITNESS
  • ชั้น 41 อาคาร A : Co-Kitchen, Super Living Room
  • ชั้น 41 อาคาร A : สระว่ายน้ำระบบเกลือ(25m.) แยกสระเด็ก
  • ลิฟท์โดยสาร 5 ตัว/ Service Lift 1 ตัว (อาคาร A)
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว/ Service Lift 1 ตัว (อาคาร B)
  • อัตราส่วนลิฟท์ทั้งหมดรวมกันคิดเป็น 179:1
  • ที่จอดรถ 57% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

อีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์ XT คือ Explore Your Space กับผังห้องที่มีความ Flexible โดยทางโครงการจะจัด Theme มาให้เลือก 6 แบบด้วยกัน เพื่อให้ตอบรับทุก Life Style ได้มากที่สุดได้แก่

  • The Fashionista – เป็นแบบห้องที่ขยายพื้นที่ตู้เสื้อผ้าให้ใหญ่ขึ้น สำหรับคนสายแฟชั่นนิสต้า หนุ่มๆสาวๆที่มีปัญหาอยู่คอนโดแล้วตู้เสื้อผ้าไม่เคยพอก็เหมาะกับห้องนี้
  • The Master Chef – ตามชื่อเลยค่ะคือพื้นที่ครัวจะใหญ่ขึ้น เป็นสัดส่วนขึ้น เหมาะกับคนชอบทำอาหารแบบจริงจัง
  • The Naturalist – รักธรรมชาติ ชอบปลูกต้นไม้ ชอบชมวิว ดังนั้นห้องรูปแบบนี้จึงมีระเบียงที่ใหญ่ค่ะ
  • The Party Goer – ห้องรูปแบบนี้จะขยายพื้นที่นั่งเล่นให้กว้างขึ้น เพื่อรองรับปาร์ตี้ได้ สำหรับคนที่ชอบชวนเพื่อนมาสังสรรค์
  • The Snoozy Head – เหมาะกับคนชอบนอนค่ะ ดังนั้นจึงเป็นแบบที่ขยายพื้นที่ห้องนอนให้ได้ใช้เวลากับเตียงได้เต็มที่ ^^
  • The Visionary – ขยายพื้นที่ทำงาน เหมาะกับคนที่ชอบทำงานหรือหอบงานกลับมาทำที่บ้านบ่อยๆ

ซึ่งจริงๆแล้วโครงการนี้มีแปลนห้องทรงเดียวกัน แต่ว่าด้านในสามารถเลือกสลับเฟอร์นิเจอร์ตำแหน่งฟังก์ชันที่หลากหลายมากๆ ตอนผมดูแล้วก็ลายตาเลยมากกว่า 30-40 แบบกันเลยครับ เอาเป็นว่าการทำแบบนี้ ผลดีตกมาอยู่ที่ลูกบ้านที่จะซื้อครับ เพราะจะได้ห้องและฟังก์ชันที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด และก็ไม่ค่อยมี Developer เจ้าไหนทำแบบนี้สักเท่าไร เพราะการจัดการมันซับซ้อนยุ่งยากหลายฝ่ายด้วยครับ

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูมีแค่แบบเดียวนะครับ เนื่องจากโครงการ XT พญาไทนั้นจะเน้นห้องแบบนี้ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 41.50 ตร.ม. เป็นจำนวนหลักๆในโครงการเลยทำมาแค่ห้องนี้ครับ ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished ให้ทั้งหมดทั้งเฟอร์ Built-In และส่วนเฟอร์ลอยตัว (ไปจิ้มดูในจอที่สนง.ขายโครงการได้) ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตรและส่วนครัวลดลงเหลือ 2.40 เมตร

 

ห้องตัวอย่างที่ไปดูเป็นแบบ 1F-1M หรือ 1 Bedroom ขนาดช่วง 41.50 – 42.00 ตร.ม.ครับ โดยจะเป็นห้องตอนลึกรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวฟังก์ชันในแปลนดันไม่ได้จัดเหมือนในห้องตัวอย่างเสียด้วย เอาเป็นว่าเราเปิดมาจะเป็นส่วนของห้องครัวและห้องน้ำก่อน ซึ่งครัวจะได้ฉากกั้นกระจกเป็นครัวปิดได้ด้วย ส่วนพื้นที่ตรงกลางอย่างที่บอกว่าโครงการนี้สามารถเลือกฟังก์ชันให้สลับกันได้ จริงๆแล้วถ้าใครให้ความสำคัญกับพื้นที่นั่งเล่นรับแขกมากกว่า ก็ไปเลือกอีกแบบที่ห้องนั่งเล่นไปอยู่ชิดกับช่องแสงด้านนอกได้ครับ และสุดท้ายด้านนอกเป็นส่วนของระเบียงที่กว้างขวางใช้งานได้จริงจัง แยกส่วนพื้นที่การเก็บคอมแอร์ฯเอาไว้เป็นสัดส่วน

ประตูทางเข้าห้องเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต พร้อมติดตั้งตาแมว และ Digital Door Lock มาให้ครบ

Digital Door Lock เป็นของ igloohome  ที่ใช้ได้ทั้งคีย์การ์ด กุญแจ รหัส และเชื่อมต่อผ่านทาง Application ที่สามารถเปิดประตูรับเพื่อน ด้วยการส่ง QR Code ที่กำหนดระยะเวลาได้

ข้ามาในห้องจะเจอกับครัวก่อน ซึ่งทุกส่วนกั้นด้วยจระจกทั้งหมด ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านมายังครัวได้ดีอยู่  าเพดานห้องนี้สูง 2.70 เมตร แต่ว่าในส่วนครัวจะสูง 2.40 เมตรเพราะด้านบนเป็นส่วนของงานระบบต่างๆ

ตัวพื้นส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ สีเทาอ่อนขนาดใหญ่ เหมาะกับอยู่ในพื้นที่ครัวไม่กลัวน้ำและทำความสะอาดได้ง่าย

เข้ามาด้านในแล้ว มองย้อนกลับไปยังประตูที่เราเข้ามา มีตัวสต็อปเปอร์จิ๋วกันกระแทกประตูติดตั้งไว้ให้ด้วย

ผนังด้านข้างประตูฝั่งนี้เป็นชุดตู้ Built-In ที่โครงการมีมาให้ ตำแหน่งค่อนข้างดีนะ

การใช้งานส่วนบนก็เป็นการเก็บของทั่วๆไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีทั้งแบบหน้าบานปิด และก็เปิดโล่งเอาไว้

ส่วนของด้านล่างก็ใช้เป็นที่เก็บรองเท้าเอาแบบนี้ ถ้าคุณผู้หญิงคนไหนเก็บด้านล่างไม่พอก้เอาใส่กล่องไว้ที่ชั้นด้านบนก้ได้นะ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นส่วนของครัว จะได้เป็นของ SB Furniture ตามนี้เลย ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า จะเห็นว่าจัดมาเต็มพื้นที่กับผนังด้านข้างฝั่งนี้ทั้งหมด

ด้านบนชุดตู้แขวนผนังเป็นแบบหน้าบานปิดทั้งหมด เป็นลามิเนตลายไม้โทนสีสว่าง พวก Fitting ต่างๆทั้งหมดในห้องนี้ทุกจุดเป็น Soft Closed เลยครับ มีที่แขวรทิชชู่ห้อยลงมาด้านล่างด้วยแหะ

ที่ผนัง Backsplash ด้านหลังจะกรุกระเบื้องมาให้เลย ทำความสะอาดง่ายและดูสวยงาม ตัวท๊อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว พวกชุดอ่างล้างจานกับ Hob&Hood เป็นของ MEX

ด้านล่างชุดตู้ใต้อ่างก็เป็นส่วนพื้นที่เก็บของใช้ในครัวส่วนที่เหลือ มีตำแหน่งช่องวางไมโครกวฟด้านล่าง ก็จะดีกว่าด้านบนหน่อยสำหรับคุณผู้หญิงไม่ต้องเอื้อมมือเผื่ออุ่นแกง

ภายในห้องทั้งหมดจะได้ตัวสวิทช์ไฟแบบทัชสัมผัสหน้าตาดูดี ของแบรนด์ somfy ซึ่งจะไปเข้าคู่กับระบบ Home Automation ที่โครงการมีมาให้สั่งการเปิดปิดไฟและเครื่องปรับอากาศครับ

ฝั่งตรงข้ามกับชุดครัวจะเป็นส่วนของประตูทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำจะแยกฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน เข้าใจง่าย พื้นยังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบเดียวกับครัว ส่วนแรกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งก่อน

ทางฝั่งขวามือจะเป็นตำแหน่งของอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์ซึ่งจะได้เป็นของ Kohler ทั้งหมด ชุดกระตูที่ผนังหน้าตาดูดีมากเล่นซ่อนไฟ แถมด้านหลังยังเป็นตู้เก็บของใช้ที่แบ่งสัดส่วนชั้นวางไว้เรียบร้อย อีกทั้งผนังในห้องน้ำยังมีการเซาะร่องให้วางของเพิ่มได้อีก(ตรงข้ามสุขภัณฑ์)

พื้นภายในห้องน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อย แต่พอจะข้ามไปส่วนของพื้นที่อาบน้ำ จะทำเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาอีกระดับนึงแยกส่วนไปเลย ทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีการแยกส่วนเปียกด้วยกระจกบานเลื่อนฉากกั้น 3 ตอน เพื่อขยายพื้นที่ในการเข้าออกได้กว้างหน่อย ตัวพื้นที่อาบค่อนข้างกว้างนะขนาด 85 ซม. x 1.30 เมตร จะเห็นว่าตัวผนังตกแต่งกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวสลับกระเบื้องชิ้นเล็กๆที่ตัดมาเรียงเหมือนแนวอิฐดูเข้ากันดี ส่วนของชุดฝักจะเป็นของ Englefield

กลับออกมาที่ด้านนอก ส่วนของพื้นที่ครัวทางโครงการให้ประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนแบบนี้มา เพื่อให้ได้เป็นพื้นที่ครัวปิดทำอาหารจริงจังไม่ไปรบกวนส่วนที่พักอาศัย และยังได้แสงธรรมชาติลอดผ่านมาด้วยครัว ตัวกรอบบานเป็นอลูมิเนียมเทาซึ่งมีการซีลสักหลาดไว้ให้

เข้ามาที่ด้านในพื้นที่ห้องส่วนตรงกลาง ห้องตัวอย่างจัดเป็น Living Area ทั้งส่วนรับแขกและนั่งเล่นครับ โดยห้องตัวอย่างไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์เหมือนของจริงนะครับ ดูไว้พอเป็นไอเดียละกัน ตรงพื้นที่ส่วนนี้ Floor to Ceiling จะกลับมาสูงที่ 2.70 เมตรแล้ว พื้นในห้องส่วนนี้เป็นลามิเนตหนา 8 mm.

หันไปทางขวามือเป็นส่วนของชั้นวางทีวีและสามารถเอาทีวีแขวนผนังได้ครับ มุมนี้จะเห็นตำแหน่งของแอร์ทั้งสองห้องโดยจะเป็นแบบ Wall Type แขวนผนังของยี่ห้อ Trane

มองย้อนกลับไปอีกฝั่งนึงอย่างที่บอกในห้องมาตรฐาน จริงๆแล้วจะได้ชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่งและโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งด้วยเช่นกัน แถมตำแหน่งการวางในห้องตัวอย่างนั้นไม่เหมือนกับ Layout Plan อันนี้ดูไว้เป็นไอเดียเผื่อใครอยากตกแต่งตามละกันนะครับ

ด้วยความที่มีพื้นที่กว้างอยู่แล้ว เราสามารถสลับตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ได้เลย ซึ่งถ้าเราจัดแบบห้องตัวอย่าง จะทำให้มีระยะเดินไปมาระหว่างห้องไม่เกะกะ แต่ระยะดูทีวีจะกว้างหน่อยถึง 3.50 เมตร ทำให้ต้องเลือกทีวีไซส์ใหญ่หน่อย 50-60 นิ้วนั่นเอง

ส่วนถัดไปโครงการจะกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนอนด้วยประตูกระจก 3 ตอนแบบเต็มพื้นที่ทั้งพื้นถึงฝ้า และก็ผนังเกือบถึงผนัง เพื่อเน้นให้แสงธรรมชาติส่องผ่านมาได้ทั้งห้อง ถึงแม้จะเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่ก็ยังดูโปร่งโล่งสบายตาทีเดียว

เจ้ากระจกบาน 3 ตอน ข้อดีอีกอย่างคือเรื่องพื้นที่การเปิดมันทำได้มากกว่า และทำให้เชื่อมพื้นที่การเดินใช้งานได้กว้างแบบนี้

เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันแล้ว จะเห็นว่าพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว เนื่องจากที่นี่จะเน้น 1 Bedroom ให้มีขนาดใหญ่หน่อย อยู่อาศัยได้แล้วไม่อึดอัด ติดขัดเรื่องระยะทางเดินต่างๆ

ในห้องมาตรฐานก็จะมีทั้งเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง และก้ตู้เสื้อผ้ามาให้นะครับ ดูระยะทางเดินปลายเตียงสิครับกว้างประมาณ 1 เมตร ถึงแม้ลงเฟอร์ฯไปแล้วก็ตาม เรียกว่าเดินสบายหายห่วง

มุมชุดโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า อันนี้หน้าตาจะไม่เหมือนของที่เราได้นะครับ แต่ตำแหน่งของจริงก็จะอยู่ตรงตามนี้แหละ

 

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งซ้ายมือจะเหลือประมาณ 40 ซม. พอวางโต๊ะข้างหัวเตียงตัวเล็กได้ (ห้องนี้วางเตียง King Size ได้สบายๆเลยนะครับ)

ส่วนพื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวาจะเหลือกว้างประมาณ 1.20 เมตร ซึ่งโครงการเน้นให้เป็น Free Space ที่ค่อนข้างกว้างหน่อย อย่างในห้องตัวอย่างจัดเป็นมุมโยคะส่วนตัว

ตำแหน่งข้างเตียงตรงนี้มีส่วนที่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนช่องแสง ซึ่งออกไปด้านนอกเป็นพื้นที่ระเบียง

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้เรียกว่าให้มาใช้งานได้จริงจังเลยครับ ขนาดประมาณ 0.95 x 2.60 เมตร ซึ่งขนาดนี้สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งตากผ้า มุมนั่งอ่านหนังสือ มุมจัดสวนหย่อมกระถางเล็กๆส่วนตัว

ให้ดูพื้นที่ในส่วนของระเบียงครับ จะเห็นว่าตัวระแนงเหล็กกันตกนั้นทาสีเป็นสีน้ำเงินให้ตัดกับสีตัวอาคารที่เป็นสีเทา

ทางขวามือจะเป็นส่วนของพื้นที่แยกเก็บคแอแอร์ฯ 2 ตัว และสามารถวางเครื่องซักผ้าตรงนี้ได้ด้วย ติดตั้งปลั๊กและเดินท่อน้ำทิ้งไว้ให้แล้วครับ

ปิดท้ายในห้องตัวอย่างด้วยมุมนี้มองย้อนกลับไปภายในห้อง ยืนจากที่ระเบียงครับ ยังไงใครสนใจห้องแบบไหน ก็ลองไปจิ้มดูที่จอสนง.ขายในโครงการว่าเราจะได้ชุดเฟอร์นิเจอรืชิ้นไหน กี่ชิ้น กันเอาละกันครับ เพราะห้องตัวอย่างเฟอร์ฯไม่เหมือนกันนะครับผม

Image 1/20
batch_a

batch_a

ส่วนนี้เป็นผัง Layout Plan ห้องแบบอื่นๆทั้งหมดในโครงการนะครับ ซึ่งก็จะมีแต่ 1-2 Bedroom ใครชอบ Layout ไหนก็ดูตำแหน่งไปได้ด้วยเลย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 August 2018

  • 1 Bedroom ชั้น 8 เนื้อที่ 41.75 – 46.25 ตร.ม. ช่วงราคา 6.6 – 8.49 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ชั้น 8 เนื้อที่ 61 – 100.75 ตร.ม. ช่วงราคา 11.2 – 16.5 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ชั้น 19 เนื้อที่ 41.75 – 46.25 ตร.ม. ช่วงราคา 7.2 – 9.35 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ชั้น 19 เนื้อที่ 61 ตร.ม. ช่วงราคา 14.2 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ชั้น 31 เนื้อที่ 41.75 – 46.25 ตร.ม. ช่วงราคา 7.7 – 9.36 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG  175,000 บาท/ตร.ม. 

  • Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ Built-In และลอยตัว
  • แอร์แขวนผนัง Trane ทุกห้อง
  • ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร / ส่วนงานระบบลดลง 30 ซม.
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood
  • จองและทำสัญญา 1 Bedroom ประมาณ 90,000 บาท
  • จองและทำสัญญา 2 Bedroom ประมาณ 120,000-150,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 39 งวด คิดเป็น 10%
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

โปรโมชั่น (เฉพาะวันที่ 1-2 กันยายน 2561 นี้)

  • เปิดขายชั้นพิเศษ XT ทั้ง 3 โครงการ ในราคาพิเศษ
  • Sansiri SCB Card ได้รับส่วนลดเพิ่ม 10%

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลสภาพแวดล้อม ถึงแม้ว่าที่ตั้งจะอยู่ติดกับถนนศรีอยุธยา แต่ก็ใกล้กับสถานีพญาไท ซึ่งพญาไทเป็นย่านที่ไม่ได้มีความอุดมสมบูรณ์ของห้างร้านอะไรมาก จริงๆจุดเด่นของพญาไทในโซนนี้เป็นแหล่งทำงานและใกล้สยามกับจุฬาฯกับเชื่อมกับแอร์พอร์ทลิงค์มากกว่าทำให้กลายมาเป็นมุมที่ฮิตที่อยู่อาศัยไปเลย แต่ไม่ใช่ว่าจะแห้งแล้งอะไรขนาดนั้นนะครับ ตามริมถนนจะมีพวกตึกแถวร้านค้า ร้านอาหารสิ่งใช้ในชีวิตประจำวัน มีพวก Minimart และ ธนาคารเต็มไปหมด รวมไปถึงมีร้านกินดื่มแฮงก์เอาท์อยู่นิดหน่อย

แต่ถ้าจะเดินเป็นห้างใหญ่ๆ หรือ Community Mall ง่ายเลยคือไปแถวสยาม ชิดลม พระราม 1  นั่นเองต้องคือเรียกว่าเป็นศูนย์กลางของห้างทั้งหลาย และเป็นที่เดินช็อปที่ใหญ่สวย และของให้เลือกเยอะที่สุดในกรุงเทพแล้วก็ว่าได้ ในวันที่ผมไปเดินสำรวจจะเห็นกลุ่มนักศึกษาของจุฬาฯ เดินผ่านไปมาในย่านนี้ก็ไม่น้อยเช่นเดียวกันนะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ XT พญาไท ตั้งอยู่ติดกับถนนศรีอยุธยา มุ่งหน้าไปทางแยกจตุรทิศการจราจรในแยกแถวๆหน้าโครงการถือว่าหนามาก แต่ถ้านับแค่ระยะทางการจะไปทั้งอนุสาวรีย์ฯ ราชเทวี เพชรบุรี สยาม ก็ถือใกล้ๆทั้งหมด เพราะเป็นเขตเมืองชั้นในมากๆแล้ว อีกทั้งก็ยังมีทางด่วนให้ใช้ไม่ไกลที่เส้นจตุรทิศ, ดินแดง, พระราม 6

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ด้วยระบบราง BTS พญาไท ตรงนั้นเป็น Interchange เชื่อมไปยัง Airport Rail Link พญาไท ซึ่งสะดวกมากกับคนที่ต้องการจะเดินทางไปกลับจากสนามบินสุวรรณภูมิได้ และข้ามไปอีกแค่ 2 สถานีก็ถึง สยาม ซึ่งที่เป็นเซ็นเตอร์แหล่งความเจริญสุดๆของบ้านเรา โดยตัวโครงการจะมีระยะห่าง 500 เมตร มาถึงที่ขาบันไดทางออกที่ 4 (และถ้าเดินมาถึงตรงตัวสถานีทั้ง BTS กับ ARL พญาไทอีก 100 เมตร) ด้านหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์อยู่ ใกล้ๆมีวินมอเตอร์ไซค์ และติดถนนใหญ่เรียก Taxi ง่ายปลอดภัย

วัสดุ โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ให้ทั้งหมดทั้งเฟอร์ Built-In และส่วนเฟอร์ลอยตัว (ไปจิ้มดูในจอที่สนง.ขายโครงการได้) ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตรและส่วนครัวลดลงเหลือ 2.40 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. พื้นครัวและห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ในห้องน้ำได้ของ Kohler Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมทั้งติดตั้งส่วน Backsplash (ผนังกันเปื้อนด้านหลัง) เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างหน้าของ MEX โดยรวมแล้วถือว่าให้ของมามาตรฐานกับราคาที่จ่ายนะ

การออกแบบ ส่วนของห้องพักออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ Extend your style ที่เราสามารถเลือกรูปแบบการอยู่อาศัยได้ตาม Lifestyle ที่แตกต่างกัน รองรับคนได้หลายกลุ่ม ทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครนและรูปแบบห้องพักที่จัดมาให้หลากหลาย ทำออกมาให้ถึง 6 รูปแบบทั้ง The Fashionista  The Master Chef  The Naturalist The Party Goer The Snoozy Head และ The Visionary อีกทั้งยังมี Flexible Layout ที่สามารถเลือกรูปแบบห้องได้ด้วยตัวเองทั้งพื้นที่ห้องและเฟอร์นิเจอร์ โดยการวางผังถึงแม้ว่าจะมีหลายแบบแต่ก็ค่อนข้างลงตัว และการทำแบบนี้ลูกบ้านจะได้ห้องที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ตัวเองมากที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่มี Dev เจ้าไหนทำแบบการขายแบบนี้มาก่อน เพราะระบบการจัดการทั้งเซลล์ คนก่อสร้าง Built-In มันวุ่นวายซับซ้อน

สาธารณูปโภค สำหรับที่นี่ ถือว่าให้มาจัดเต็มมาก มีความหลากหลาย มีมินิมาร์ทในโครงการ โดยหลักๆที่ใช้ร่วมกันอยู่ที่ชั้น 1, 2, 8, 11, 16 ที่ตัวอาคารยังเชื่อมกันอยู่ และมีการแยกส่วนกลางหลักๆไว้ที่ Rooftop ของแต่ละอาคาร รวมๆแล้วพื้นที่ใช้สอยของส่วนกลางอยู่ที่ประมาณ 4,500 ตร.ม. ถือว่าให้มาเยอะมาก และยังมีตัวคอนเซปท์ของแบรนด์ XT ที่สามารถใช้ส่วนกลางข้ามโครงการ(โดยการจองล่วงหน้าผ่านแอป, มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย)

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 175,000 บาท/ตร.ม., 21 August 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ติดถนนใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้และทำเลใกล้เคียง คึกคัก
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางเข้าเมืองสะดวกและหลากหลาย อยู่ในพื้นที่ตัวเมืองเพราะใกล้แยกจตุรทิศและแยกพญาไท
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ไม่ใกล้รถไฟฟ้ามาก แต่พอเดินได้หรือเรียกวินเอา (เป็นสถานี Interchange) ด้านหน้าติดถนนใหญ่เรียก Taxi สะดวก
  • วัสดุ 8/10 – ให้แบบ Fully Furnished เกรดสมราคา, ฝ้าเพดาน 2.70 . + Technology Home Automation
  • แบบ 8.5/10 – แบบห้องเน้นหลักเป็น 1 Bed อยู่จริงสบาย มีความครีเอทในการคิดผังห้องที่มีหลายรูปแบบและลูกบ้านได้เลือกห้องที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ
  • สาธารณูปโภค 9/10 – ให้มาหลากหลายน่าใช้งาน  สามารถแชร์กับโครงการทำเลอื่นๆได้และมีทั้ง Triple & Sky Facilities 
  • LUXURY CLASS
  • 7.90 / 10.00

BOTTOM LINE

XT พญาไท เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านพญาไทราชปรารภ ที่เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก หรือมีรถไฟฟ้าอย่าง BTS หรือ ARL ก็ไม่ยาก ติดถนนใหญ่ เป็นคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง ชอบเข้าสังคม อยากได้ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตาม Lifestyle ได้ มีงบประมาณ 4.99 – 18 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 35,000 – 126,000 บาท/เดือน