ปก vio-1

รีวิวฉบับที่ 1022 สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้จะพาไปชมตึกเสร็จพร้อมอยู่มีจุดเด่นที่ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ห่างรถไฟฟ้าสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีประมาณ 30 ม. เรียกว่าแทบจะติดกับสถานีเลยนะคะ ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่ – เตาปูนนี้มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้แล้ว ส่วนทางเข้าโครงการจะต้องเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ประมาณ 30 ม. โครงการจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนแล้วนะคะ จึงเป็นโครงการที่ทันมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน ที่จะหมดเขต 28 เมษานี้ด้วยนะคะ ไปเจาะลึกรายละเอียดกันเลยค่ะ

Fact @ 26 Feb 2016

  • Vio Condo Khae Rai (ไวโอ คอนโด แคราย)
  • บริษัท อดามัส เรียล เอสเตท จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่เขต: เทศบาลนครนนทบุรี นนทบุรี
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 125 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 19 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 40 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันจอดได้ 31 คัน คิดเป็น 25% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 32 %
  • ที่ดินประมาณ 0-3-78 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : สิงหาคม 2557
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สร้างเสร็จแล้ว
  • 1 Bedroom 30-37 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 43-48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.35-2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 76,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 76,000-82,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-526-8181-2

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.861154, 100.511858

Vio-add-2

แผนที่โครงการจะมี Vio อยู่ 2 โครงการนะคะ คือ Vio แคราย และ Vio แคราย 2 ที่ตั้งใจเอาแผนที่นี้มาให้ดูเพื่อให้เห็นว่ามี Vio 2 ที่ค่ะ ซึ่งทำเลที่ตั้งใกล้แยกแครายกันทั้งคู่และยังเปิดขายอยู่ทั้ง 2 โครงการนะคะ โครงการหนึ่งคือ Vio แคราย อยู่รัตนาธิเบศร์ซอย 10 ส่วน Vio แคราย 2 อยู่รัตนาธิเบศร์ซอย 3 ส่วนสำนักงานขายของทั้งสองโครงการอยู่ที่เดียวกันค่ะ คือตรงแยกติวานนท์ โครงการที่จะไปเจาะรายละเอียดกันนี้คือโครงการ Vio แคราย นะคะ

โครงการ Vio แคราย ที่ตั้งอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 เข้าซอยมาจากถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ 30 ม. ซึ่งหน้าปากซอยนี้เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรีซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่จะวิ่งไปเตาปูนและในอนาคตยังเป็นสถานีที่จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสำคัญอีกสายที่จะวิ่งไปแจ้งวัฒนะโดยมีกำหนดเสร็จปี 63 ค่ะ  ภายในซอยนี้เป็นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ทำให้ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการค่อนข้างน้อยต้องขยันเดินสักหน่อย ความอุดมสมบูรณ์จะอยู่บริเวณริมถนนรัตนาธิเบศร์ โดยฝั่งเดียวกับโครงการจะมี 7-11 ส่วนฝั่งตรงข้ามจะมีร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน และบริเวณโดยรอบบนถนนรัตนาธิเบศร์มีศูนย์การค้า อย่าง Central รัตนาธิเบศร์ Esplanade รัตนาธิเบศร์ Big C รัตนาธิเบศร์ รวมไปถึงโรงพยาบาลที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กม.ด้วยค่ะ

Map edit2

ทำเลของโครงการ Vio แคราย ตั้งอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ซึ่งเป็นซอยตันนะคะ ทางเข้าออกจึงต้องผ่านทางถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งเป็นถนนที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นสม่ำเสมอเพราะเป็นถนนเส้นหลักเส้นหนึ่งของกรุงเทพมหนครที่เชื่อมแหล่งที่พักอาศัยย่านชานเมือง เช่น บางบัวทอง บางกรวย-ไทรน้อย เข้ากับแหล่งงานในย่านเกษตร-นวมินทร์ รัชดาภิเษก ลาดพร้าว และถนนรัตนาธิเบศร์นี้ยังเป็นเส้นทางไปขึ้นทางด่วนศรีรัชซึ่งมีระยะห่าง 2.5 กม. ที่เชื่อมเข้าไปสู่ย่านแหล่งงานในเมือง เช่น ย่านพระราม 3 พระราม 4 อีกด้วย การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถเดินทางได้โดยผ่านถนนรัตนาธิเบศร์ ถ้าต้องการไปยังถนนงามวงศ์วานหรือเกษตรนวมินทร์สามารถตรงขึ้นสะพานข้ามแยกไปได้เลย ส่วนถ้าต้องการไปยังถนนรัชดาภิเษก ก็สามารถตรงขึ้นสะพานข้ามแยกแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาชื่นตรงไปเรื่อยๆจะแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษก ซึ่งถนนรัชดาภิเษกนี้เชื่อมเข้าถนนสายสำคัญอีกหลายเส้นทางเช่นถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าวส่วนถ้าต้องการเข้าเมืองไปยังแหล่งงานย่านสาทร สีลม พระราม 4 ก็สามารถใช้ทางพิเศษศรีรัช โดยตรงไปทางถนนงามวงศ์วานแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วนค่ะ แต่อย่าลืมเผื่อเวลารถติดในการเดินทางนะคะ แต่ถ้าใครไม่อยากเจอรถติดก็มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าค่ะ โครงการนี้จึงมีทางเลือกในการเดินทางทั้งแบบใช้รถยนต์และแบบไม่ใช้รถยนต์ที่สะดวกพอใช้ได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้าสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีค่ะ ซึ่งทางขึ้นลงสถานีกับตัวโครงการมีระยะห่าง 30 ม.เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่ – เตาปูนที่มีแผนจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้ แต่จะเปิดทดลองวิ่งภายในเดือน พ.ค. นี้ก่อนนะคะ และสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีนี้ยังมีแผนในอนาคตที่จะเป็นสถานีชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะวิ่งไปแจ้งวัฒนะ มีนบุรีอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีรถสองแถวที่จะวิ่งไปตลาดบางบัวทอง เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ แคราย Big C ติวานนท์ ส่วนรถตู้จะวิ่งจากบางใหญ่ผ่านหน้าปากซอยไป The Mall งามวงศ์วาน ส่วนรถเมล์สาย 191 วิ่งคลองจั่น – รพ.พระนั่งเกล้า, สาย 134 หมู่บ้านบางบัวทอง – หมอชิตที่ร่วมให้บริการด้วยค่ะ

Map  2 edit 3

เนื่องจากที่ตั้งโครงการมีระยะห่างจากทางขึ้นลงทางด่วนใกล้ๆกันถึง 2 จุด จึงอธิบายเส้นทางด่วนเพิ่มสักนิดนะคะ ทางด่วนที่ใกล้กับโครงการคือทางด่วนศรีรัช ซึ่งทางด่วนนี้มีจุดขึ้นลงอยู่บนถนนงามวงศ์วาน ถ้าวิ่งจากโครงการไปตามเส้นสีน้ำเงินทางขึ้นทางด่วนทั้ง 2 จุดจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงPantip งามวงศ์วานซึ่งจะพาไป 2 ฝั่งของเมืองที่แตกต่างกันดังนี้ค่ะ ถ้าวิ่งจากโครงการหากขึ้นทางด่วนที่จุดขึ้นทางด่วนแรก (1) ห่างจากโครงการประมาณ 2.3 กม. จะพาไปทิศเหนือของเมือง ได้แก่ เมืองทองธานีไปถึงรังสิต อยุธยาได้ หากขึ้นทางด่วนที่จุดขึ้นทางด่วนที่สอง (2) ห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กม. จะเชื่อมไปในเมืองได้แก่แหล่งงานย่านพระราม 4 สาทร ย่านพระราม 3 ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังทิศตะวันตกของเมืองอย่างพระราม 2 ไปออกบางขุนเทียน สมุทรสาคร ลงใต้ได้สะดวก และยังสามารถเชื่อมไปยังทิศตะวันออกของเมืองอย่างบางนา ออกไปชลบุรีได้ง่ายอีกเช่นกัน

ส่วนการเข้าถึงโครงการโดยทางด่วนจะใช้ตามเส้นทางสีเหลือง ถ้ามาจากฝั่งในเมืองให้ลงทางออกถนนงามวงศ์วาน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนงามวงศ์วาน ตรงขึ้นสะพานข้ามแยกแครายเพื่อเข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ และไปกลับรถที่ทางกลับรถที่ 2 บริเวณหน้า Homemart ตรงไปเรื่อยๆ ซอยรัตนาธิเบศร์ 10 จะอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ ถ้ามาจากฝั่งรังสิต ให้ลงทางออกถนนงามวงศ์วาน เช่นกันแตกต่างกันที่เมื่อลงจากทางด่วนแล้วจะต้องไปกลับรถหน้า The Mall งามวงศ์วานเพื่อให้อยู่ฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปบางบัวทอง จากนั้นก็ใช้เส้นทางเดียวกับทางลงทางด่วนจากฝั่งในเมืองคือข้ามแยกแครายและไปกลับรถที่หน้า Homemart ค่ะ

Map3 edit2

เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ซึ่งเป็นซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบเพราะภายในซอยส่วนใหญ่เป็นบ้านอยู่อาศัยและอพาร์ทเม้นท์ ความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้จึงต้องพึ่งพา 7-11 ร้านค้า ร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์เป็นหลัก เมื่อออกจากซอยมายังถนนรัตนาธิเบศร์จะพบ 7-11 ที่หน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์  8 และยังมีร้านอาหารอาหารในบริเวณนั้น ถัดไปจะเป็นศูนย์ราชการนนทบุรีซึ่งเป็นที่รู้กันสำหรับคนแถวนี้ว่าเป็นพื้นที่ที่มักมาออกกำลังกายและพื้นที่สีเขียวสำหรับหย่อนใจเพราะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่คือ อุทยานมกุฏรมยสราญค่ะ มีระยะเดินจากโครงการมา 200 ม. และหากข้ามมายังอีกฝั่งหนึ่งของถนนก็มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านเช่นกัน แต่ต้องขยันเดินนิดหนึ่งค่ะ

ส่วนศูนย์การค้าบนถนนรัตนาธิเบศร์นั้นค่อนข้างมีครบครันทีเดียวแต่ไม่ได้อยู่ในระยะเดิน 500 ม.นะคะ โดยเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า และอาคารสำนักงานมากมาย เช่น  Central รัตนาธิเบศร์, Big C รัตนาธิเบศร์, Esplanade รัตนาธิเบศร์, Pantip งามวงศ์วาน, The Mall งามวงศ์วาน, Big C ติวานนท์ เป็นต้น

เพื่อนบ้านใกล้เคียงในซอยนี้มีเพียง The Connexion ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้นเช่นเดียวกับ Vio ค่ะ ส่วนเพื่อนบ้านอื่นๆจะอยู่ที่ติดถนนรัตนาธิเบศร์มีหลายโครงการได้แก่ U Delight Condo แคราย ซึ่งอยู่ใกล้แยกแคราย ถัดมาเป็นศุภาลัย พาร์ค แคราย-งามวงศ์วาน ถัดมาอยู่ติดกับสะพานกลับรถคือ คอนโด Skyline ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของถนนเป็นที่ตั้งของโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ ถัดไปเป็นโครงการลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์ 

Vio mapการเดินทาง-1

การเดินทางมาโครงการในวันนี้จะเริ่มต้นจากจุดลงทางพิเศษศรีรัชนะคะ โดยจะวิ่งจากฝั่งสาทรมาลงที่ทางออกถนนงามวงศ์วานค่ะ โดยระยะทางจากจุดลงทางด่วนถึงโครงการประมาณ 8 กม. พร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ

Vio Surrounding-1

จากเส้นทางด่วนให้ลงทางออกถนนงามวงศ์วาน (แคราย-กระทรวงสาธารณสุข) นะคะ

Vio Surrounding-3

ลงจากทางด่วนมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายถนนงามวงศ์วาน (แคราย) ค่ะ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปเส้นงามวงศ์วานเหมือนกันแต่จะไปทางฝั่งเกษตร-นวมินทร์ค่ะ

Vio Surrounding-5

เลี้ยวซ้ายมาจะเข้าสู่ถนนงามวงศ์วานช่วงใกล้แยกแคราย ซึ่งถนนในช่วงนี้เป็นที่ตั้งของอพาร์ทเม้นท์ คอนโด อาคารพาณิชย์ และออฟฟิตหลายแห่งค่ะ

Vio Surrounding-6

เข้ามาถนนงามวงศ์วานแล้วให้ชิดขวานะคะ เราจะไปตามป้ายบางบัวทองค่ะ บรรยากาศทั้ง 2 ฝั่งถนนค่อนข้างคึกคักพอสมควร ฝั่งซ้ายเป็นอาคารชุดพาณิชย์ 4  ชั้นโดยชั้นล่างเป็นร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านขายสี ขายอะไหล่ ร้านทำฟัน ส่วนฝั่งขวาจะมีปั้มน้ำมัน ESSO, อู่รถยนต์ของวิริยะประกันภัย และ บริษัท กระจกศิริรัตน์ จำกัด

Vio Surrounding-8

ตามป้ายบางบัวทองมาให้ข้ามแยกแครายไปสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ โดยแยกแครายนี้เป็นจุดตัดระหว่างถนนติวานนท์และถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีของคนแถวนี้ว่าแยกนี้รถหนาแน่นพอสมควรเลยค่ะ

Vio Surrounding-9

บริเวณใกล้แยกแครายนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Mida Hotel เป็นโรงแรมที่มีมาตรฐานการให้บริการในเครือ Mida ส่วนฝั่งขวาเป็นอาคารชุดพาณิชย์ 4 ชั้น โดยชั้นล่างมักเปิดเป็นร้านค้า สำนักงาน และอาคารสูงที่ถัดไปคือคอนโด Parkland งามวงศ์วาน-แครายค่ะ

Vio Surrounding-10

ทางลงสะพานข้ามแยกจะมีคอนโด ยู ดีไลท์ รัตนาธิเบศร์ อยู่ทางฝั่งซ้าย ส่วนทางฝั่งขวาเป็น Esplanade งามวงศ์วาน ซึ่งภายในมีทั้งโรงหนัง ร้านอาหาร Fitness คาราโอเกะ ลานโบว์ และยังเป็นศูนย์การค้าที่ใกล้กับที่ตั้งของโครงการมากที่สุด มีระยะห่างจากโครงการ 800 ม.ค่ะ

Vio Surrounding-12

ลงมาจากสะพานข้ามแยกแล้วจะเจอสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรีให้ตรงไปก่อนนะคะ เราต้องไปกลับรถที่สะพานกลับรถอันที่สองที่อยู่หน้า Grand Homemart ค่ะ ส่วนสะพานกลับรถอันแรกนี้จะไปศูนย์ราชการนนทบุรีซึ่งเลยทางเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ค่ะ

Vio Surrounding-13

ตรงไปบนถนนรัตนาธิเบศร์ซ้ายมือจะเจอ Big C รัตนาธิเบศร์ ถัดไปเป็นอาคารไทยประกันชีวิต ซึ่งบริเวณนี้จะมีร้านอาหารเจ้าเด็ดด้วยนะคะ ร้านบิ๊กบะหมี่จะอยู่ถัดไปจากอาคารไทยประกันชีวิตค่ะ ส่วนถนนทางฝั่งขวาจะเป็นกลุ่มคอนโด ลุมพินี พาร์คค่ะ

Vio Surrounding-14

เมื่อเลยอาคารไทยประกันชีวิตมาแล้วให้เตรียมชิดซ้ายตามป้ายสะพานกลับรถนะคะ

Vio Surrounding-15

ตามป้ายฝั่งซ้ายนี้เพื่อกลับรถไปทางเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ โดยถนนทางฝั่งขวาเป็นที่ตั้งของเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ค่ะ

Vio Surrounding-17

ขึ้นสะพานกลับรถไปทางแครายค่ะ โดยฝั่งขวาของถนนเป็นแกรนด์ โฮมมาร์ท

Vio Surrounding-18

ขึ้นสะพานกลับรถมาฝั่งซ้ายของถนนจะมีคอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ตั้งอยู่ ถัดไปเป็นตึกแถวที่ตั้งอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ

Vio Surrounding-19

ลงมาจากสะพานกลับรถแล้วให้ตรงไปทางสี่แยกแครายนะคะ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าไปถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีไปสนามบินน้ำค่ะ

Vio Surrounding-20

ตรงไปจะจะผ่านสถานีรถไฟฟ้าแยกนนทบุรี 1 ซึ่งเป็นสถานีที่ติดกับเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ด้วยค่ะ ถ้ามาเที่ยวเซ็นทรัลโดยรถไฟฟ้าให้ลงสถานีนี้นะคะ

Vio Surrounding-21

ฝั่งซ้ายมือเป็นเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ภายในประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ โฮมเวิร์ค และออฟฟิศดีโป พร้อมทั้งโรงภาพยนตร์และโบว์ลิ่ง

Vio Surrounding-22

ตรงไปจะผ่านสถานีรถไฟฟ้าบางกระสอ ฝั่งซ้ายเป็นคอนโด ลุมพินี พาร์ค ส่วนฝั่งขวาเป็น Big C รัตนาธิเบศร์ค่ะ

Vio Surrounding-23

ตรงไปจะเห็นโค้งทางกลับรถของสะพานกลับรถอันแรกค่ะ แสดงว่าใกล้ถึงซอยรัตนาธิเบศร์ 10 แล้วนะคะ

Vio Surrounding-25

หน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 10 จะมีจุดสังเกตุคือมีจุดขึ้นลงของสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรี ทางขึ้นลงจะอยู่ภายในอาคารฝั่งซ้าย ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้นะคะ

Vio Surrounding-26

ถึงซอยรัตนาธิเบศร์ 10 แล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าซอยกันเลยค่ะ

Vio Surrounding-27

เข้ามาในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 เป็นถนน 2 เลน มีความกว้างประมาณ 6 ม. ด้านซ้ายเป็นทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรี ถัดเข้าไปจากหน้าปากซอยประมาณ 30 ม. จะเป็นที่ตั้งของโครงการค่ะ ส่วนด้านขวาอาคารที่ติดกับถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์เป็นอาคารชุดพาณิชย์ 4-5 ชั้น ถัดเข้าไปเป็นเพิงที่พักคนงาน (ชั่วคราว) ติดกันเป็นอู่ซ่อมรถ ซึ่งด้านที่อยู่ติดกับซอย 10 นี้เป็นด้านหลังอู่นะคะ ด้านหน้าจะอยู่ที่ซอยรัตนาธิเบศร์ 8 ค่ะ ถัดเข้าไปเป็นคอนโด The Connexion 8 ชั้น ซึ่งเป็นโครงการเก่านะคะ

Vio Surrounding-28

ถึงโครงการแล้วนะคะ แต่เราจะยังไม่เลี้ยวเข้าไปนะคะ จะพาไปดูบรรยากาศริมถนนรัตนาธิเบศร์ใกล้ๆโครงการกันก่อน

Mapการเดินทางโดยเท้า

เส้นทางที่เราจะพาเดินดูบรรยากาศริมถนนรัตนาธิเบศร์โดยรอบสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรีนะคะเพื่อดูความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ซึ่งจะเริ่มจากโครงการ เลี้ยวไปทางซ้ายที่เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการนนทบุรี และขึ้นสถานีรถไฟฟ้าเพื่อข้ามไปดูบรรยากาศอีกฝั่งหนึ่งของถนน แล้วข้ามสะพานลอยกลับมาเข้าโครงการค่ะ

ถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณหน้าปากซอยรัตนาธิเบศร์ 10 เป็นถนนใหญ่ฝั่งขาเข้าเมือง 5 เลน และฝั่งขาออกเมือง 6 เลน ซึ่งซอยที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งขาเข้าเมืองนะคะ แต่บริเวณหน้าโครงการจะมีกรวยกั้นเพื่อไม่ให้รถที่ ลงมาจาก U-Turn เกือกม้า ปาดออกมาได้ ดังนั้นเวลาที่ต้องการกลับโครงการเราจึงไม่สามารถใช้ U-Turn อันแรกนี้ได้นะคะ ทำให้เราต้องขับรถผ่านฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล ไปกลับรถหน้า Grand Homemart ซึ่งถนนเส้นนี้ในเวลาเร่งด่วนรถจะหนาแน่นมากเลยนะคะ ก็อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางกันด้วยค่ะ

จากปากซอยมองไปทางถนนงามวงศ์วาน ช่วงเวลาประมาณ 10 โมงรถยังหนาแน่นพอสมควรเลยนะคะ

ถัดมาที่ซอยรัตนาธิเบศร์ 8 มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 100 ม.ด้านหน้าปากซอยมี 7-11 และวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านหน้าด้วย ถ้ารีบไปไหนไม่ไกลนักก็สามารถมาใช้บริการพี่วินตรงนี้ได้นะคะ

เดินถัดมาอีกนิดหนึ่งเป็นคลองบางซื่อค่ะ ติดกันเป็นศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งบริเวณด้านหน้าที่ติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ จะเป็นศาลหลักเมืองนนทบุรีค่ะ ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของคนในพื้นที่ค่ะ

ถัดไปเป็นทางเข้าของศูนย์ราชการนนทบุรีนะคะ โดยบริเวณด้านหน้าของศูนย์ราชการจะเป็นอุทยานมกุฏรมยสราญ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนแถวนี้มักมาออกกำลังกายและเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับหย่อนใจค่ะ

ถัดไปเป็นจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าอีกจุดหนึ่งนะคะ (จุดทางขึ้นลงที่ 2) อยู่หน้าศูนย์ราชการนนทบุรีค่ะ เราจะขึ้นไปสถานีเพื่อข้ามไปอีกฝั่งกันนะคะ

มาดูถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้าเมืองนะคะ เป็นถนน 5 เลน ซึ่ง 3 เลนฝั่งขวาเป็นทางไปสะพานข้ามแยกแครายเพื่อไปถนนงามวงศ์วาน ส่วนอีก 2 เลนฝั่งซ้ายคือทางที่จะไปสี่แยกแคราย สังเกตุรถจะติดฝั่งขวาที่จะต่อคิวไปสะพานข้ามแยกมากๆเลยนะคะเนื่องจากเป็นเส้นทางเข้าเมืองค่ะ

ภายในสถานียังไม่เรียบร้อยดีนะคะ เนื่องจากยังไม่ถึงกำหนดเปิดให้บริการค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งตรงข้ามกับศูนย์ราชการนนทบุรี เป็นสถานีดาวเทียมไทยคมค่ะ

Vio walkaround-11

มาดูถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกเมืองกันบ้าง เป็นถนน 6 เลน ซึ่ง 3 เลนฝั่งขวาถ้าตรงไปเรื่อยๆจะไปข้ามสะพานพระนั่งเกล้าข้ามไปทางบางบัวทองนะคะ ส่วนอีก 3 เลนฝั่งซ้ายจะเป็นเลนกลับรถ 1 เลน อีก 2 เลนถ้าตรงไปเรื่อยๆก็สามารถไปบางบัวทองได้เหมือนกันและยังสามารถเลี้ยวซ้ายไปถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีได้ด้วย

ลงมาจากจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าอีกฝั่งหนึ่งของถนนนะคะ จุดทางขึ้นลงจะใกล้กับสถานีตำรวจ อำเภอนนทบุรี (จุดทางขึ้นลงที่ 3) ค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยที่ซอยรัตนาธิเบศร์ 3 เป็นซอยทางลัดไปถนนติวานนท์ซอย 3 ได้ เป็นทางเลือกสำหรับผู้อยู่ฝั่งซอยเลขคี่ที่ต้องการไปถนนติวานนท์ก็ไม่ต้องไปกลับรถเพื่อไปเลี้ยวขวาเข้าถนนติวานนท์ที่แยกแครายนะคะ สำหรับโครงการ Vio นั้นตั้งอยู่ฝั่งเลขคู่ไปเลี้ยวขวาเข้าถนนติวานนท์ที่แยกแครายจะสะดวกกว่านะคะ

ถัดมาเป็นกลุ่มอาคารชุดพาณิชย์ซึ่งเปิดด้านล่างเป็นร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เป็นทางเลือกในด้านอาหารการกินบริเวณนี้ ซึ่งจากตรงนี้มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 500 ม.ค่ะ

เดินมาอีกนิดบริเวณหน้าซอยรัตนาธิเบศร์ 5 มีร้านก๋วยจั๊บ และร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ค่ะ

ติดๆกันมีร้านเจียงลูกชิ้นปลา ซึ่งจะอยู่ติดกับจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรีอีกทางลงหนึ่งด้วยค่ะ (จุดทางขึ้นลงที่ 4)

จุดขึ้นลงสถานี (จุดทางขึ้นลงที่ 4) ที่ติดกับเจียงลูกชิ้นปลายังไม่เปิดให้บริการนะคะ ซึ่งถ้าเปิดให้บริการบันไดนี้จะใกล้กับจุดทางขึ้นลงที่อยู่ตรงหน้าปากซอยโครงการที่สุดค่ะ ถ้าจะข้ามถนนมาทานอาหารฝั่งนี้ก็เลือกใช้บันไดนี้ได้

เดินไปไม่ไกลจากจุดขึ้นลงรถไฟฟ้าจะเป็นอีกที่ตั้งของคอนโด Supalai Park ค่ะ

ติดกันกับคอนโด Supalai Park ก็จะเริ่มมีร้านอาหารอีกด้วยค่ะ จะพอเห็นร้านอาหารที่มีให้เลือกพอสมควรในฝั่งนี้นะคะ ต่อไปเราจะข้ามสะพานลอยกลับไปฝั่งโครงการกันนะคะ

จากริมถนนรัตนาธิเบศร์ มองผ่านที่ดินเปล่าที่อยู่ด้านข้างจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าจะเห็นโครงการ Vio แคราย 8 ชั้นได้ชัดเจนเลยค่ะ

Map zoom**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการตั้งอยู่ในถนนซอย สิ่งปลูกสร้างโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยกับอาคาร Low Rise จุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้า 30 ม. สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการสรุปได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่าของเอกชน ถัดไปเป็นจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าค่ะ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่าและที่พักคนงาน (ชั่วคราว)
  • ทิศเหนือ ติดกับ สำนักงานขาย The Connexion 2 และที่ดินเอกชน
  • ทิศตะวันตก ติดกับ เป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ศูนย์ราชการนนทบุรี ~ 220 ม.
  • อุทยานมกุฏรมยสราญ ~ 220 ม.
  • Esplanade รัตนาธิเบศร์ ~ 750 ม.
  • Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์ ~ 750 ม.
  • Big C รัตนาธิเบศร์ ~ 1  กม.
  • อาคารไทยประกันชีวิต ~ 1.2 กม.
  • Central รัตนาธิเบศร์ ~ 1.8 กม.
  • Pantip งามวงศ์วาน ~ 2.8 กม.
  • The Mall งามวงศ์วาน ~ 3.6 กม.
  • โรงพยาบาลนนทเวช ~ 3.5 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 6 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

Vio-add-1

โครงการ Vio แคราย เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 125 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว U หันหน้าโครงการเข้าหาถนนซอยรัตนาธิเบศร์  10 ตัวอาคารใช้โทนสีเทาสลับขาวในการตกแต่ง ชั้น 1 ของอาคารเป็นชั้นจอดรถ Lobbyสำนักงานนิติบุคคลและห้องซักรีด ส่วนของห้องพักอยู่ที่ชั้น 2-8 พื้นที่ตรงกลางตัว U เป็น Facilities ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และ สวนหย่อมหลายตำแหน่งทีเดียวซึ่งจะอยู่ในชั้น 2,3,4,7 และดาดฟ้าที่ต้องขึ้นจากทางชั้น 8 ไปชมรายละเอียดในแต่ละชั้นกันค่ะ

เริ่มกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ Vio แคราย มีทางเข้าออกทางเดียวคือทางถนนซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ที่ดินด้านหน้าโครงการที่ติดถนนมีความยาวประมาณ  32 ม. จะเห็นว่ามีด้านที่ติดถนนค่อนข้างยาวจึงเป็นโครงการที่จะสังเกตุเห็นได้ง่ายค่ะ ชั้น 1 ของโครงการไม่มีห้องพักอาศัยนะคะ จะเป็นพื้นที่ของลานจอดรถซึ่งมีช่องจอด 31 คันคิดเป็น 25 % รวมจอดแบบซ้อนคันแล้วจอดได้ 40 คัน คิดเป็น 32% ที่จอดแบบไม่ Fix ช่องจอด เส้นทางเดินรถในอาคารเมื่อขับเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการ จะเป็นเส้นทางเดินรถแบบสวนทางกัน แต่ไม่สามารถขับวนรอบโครงการได้นะคะ ถ้าขับเข้าไปด้านในแล้วช่องจอดเต็มต้องกลับรถออกทางเดิมค่ะ นอกจากที่จอดรถแล้วที่ชั้นนี้ยังมี Lobby ของโครงการ สำนักงานนิติฯ ห้องซักรีด และโถงลิฟท์ค่ะ สำหรับความปลอดภัยนั้นจะเริ่มใช้ Key Card ตั้งแต่ประตูทางเข้าโถงลิฟท์นะคะ แขกของลูกบ้านสามารถมานั่งรอในส่วนของ Lobby ได้อยู่ค่ะ

  • ประตูทางเข้าอาคาร —>ไม่ต้องใช้ Key Card แขกของลูกบ้านสามารถเข้ามารอในส่วน Lobby ได้
  • ประตูทางเข้าโถงลิฟท์ —>ใช้ Key Card แขกของลูกบ้านต้องรอลูกบ้านมารับขึ้นส่วนพักอาศัยเท่านั้นค่ะ

ทางเข้าโครงการทั้งคนและรถจะใช้ทางเข้าเดียวกันไม่ได้แยกประตูนะคะ โดยรถยนต์จะมีไม้กั้นผ่านด้วยระบบ Easy Pass เหมือนแบบที่ขึ้นทางด่วนนะคะ ไม่ต้องใช้ Key Card ยื่นมาแตะ ซึ่งระบบนี้ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงจะมีพี่ยามคอยดูแลด้วยค่ะ

ผ่านไม้กั้นเข้ามาแล้วจะเจอช่องจอดรถซึ่งสามารถตรงไปจอดฝั่งซ้ายมือนี้หรือจะเลี้ยวขวาไปหาช่องจอดรถก็ได้ ซึ่งถ้าจอดด้านขวานี้ก็จะใกล้กับทางเข้าอาคารหน่อยนะคะ หรือถ้าไม่มีช่องจอดว่างก็ตรงเข้าไปด้านในสุดแล้วเลี้ยวขวาก็จะมีช่องจอดอยู่ด้านหลังอาคารอีกค่ะ ที่จอดรถนี้สามารถจอดแบบซ้อนคันได้ 40 คัน คิดเป็น 32% ซึ่งเป็นที่จอดแบบไม่ Fix ช่องจอดนะคะ

พื้นที่ด้านข้างของอาคารมีระยะถอยร่นจากเขตที่ดินประมาณ 3 ม. ทำให้ช่องจอดรถด้านนอกที่ติดกับกำแพงโครงการ ครึ่งหนึ่งของช่องจะไม่ได้อยู่ในร่มทั้งหมดนะคะ ถ้าจะจอดในที่ร่มทั้งคันต้องเลือกช่องจอดด้านในที่ติดกับอาคารค่ะ ส่วนพื้นที่ริมรั้วปลูกต้นโมกไว้ตลอดแนวรั้วเลยค่ะ อีกหน่อยต้นโมกจะเกาะกันเป็นกำแพงต้นไม้สีเขียวทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นขึ้นด้วยค่ะ

พื้นที่ด้านในสุดของโครงการเป็นช่องจอดรถเช่นเดียวกับด้านหน้า และยังคงปลูกต้นโมกตลอดแนวรั้วค่ะ และยังมีต้นไม้ยืนต้นบางส่วนที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับอาคารด้วยค่ะ

ด้านข้างของอาคารฝั่งขวานะคะซึ่งไม่มีทางให้รถยนต์วนเข้ามาได้ ในส่วนนี้จะเป็นห้องเครื่องปั้มน้ำและงานระบบต่างๆของอาคารนะคะ

ถัดมาจะพาเข้าไปชมด้านในอาคารกันนะคะ เริ่มจากประตูทางเข้าอาคาร เป็นประตูเปิดเข้าออก ไม่ต้องใช้ Key Card ค่ะ

เข้ามาด้านในจะเจอ Lobby ด้านขวามือนะคะ ส่วนด้านซ้ายมือคือทางเข้าโถงลิฟท์ซึ่งจะเริ่มใช้ Key Card กันตั้งแต่ส่วนของโถงลิฟท์นี้ค่ะ

ส่วนของ Lobby บรรยากาศดูสบายๆ ตรงกลางนี้จะมีชุดโซฟารับแขกไว้ 2 ชุดไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ชั้นล่างนี้จะมี Wifi ให้บริการฟรีทั่วทั้งชั้น ด้านหลังโซฟาเป็นตู้จดหมายของลูกบ้าน ส่วนห้องกระจกด้านในฝั่งซ้ายเป็นสำนักงานนิติฯ และห้องกระจกด้านในฝั่งขวาเป็นห้องซักรีดค่ะ

บริเวณหน้าห้องซักรีดมีจัดชุดโซฟานั่งเล่นไว้อีกชุดหนึ่งไว้นั่งเล่นรอเครื่องซักผ้า นั่งเล่นพักผ่อนได้สบาย Lobby ในส่วนนี้ได้กระจกบานใหญ่ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาในอาคารห้องดูโปร่งโล่งและอบอุ่นขึ้นค่ะ

ภายในห้องซักรีด มีเครื่องซักผ้าให้บริการ 4 เครื่อง และตู้กดน้ำอีก 1 ตู้ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการซื้อเครื่องซักผ้าก็สามารถใช้บริการห้องซักรีดนี้ได้ค่ะ

ถัดมาเป็นโถงลิฟท์ของอาคารจะมีโถงลิฟท์ตำแหน่งเดียวค่อนไปทางด้านในอาคาร มีลิฟท์ทั้งหมด 2 ตัว ซึ่งการจัดตำแหน่งไว้ค่อนไปทางด้านในทำให้ห้องพักด้านหน้าจะต้องเดินไกลจากลิฟท์สักนิดนะคะ

บริเวณหน้าลิฟท์จะมีป้ายบอกชั้น และแผงปุ่มกดลิฟท์ชั้นล่าง ด้านบนมีโทรศัพท์ติดตั้งไว้เรียบร้อยค่ะ

ปุ่มกดภายในลิฟท์จะใช้คู่กับ Key Card นะคะ โดยลิฟท์จะถูกล๊อกชั้นให้ใช้ได้เฉพาะชั้นที่พักอาศัยและชั้นที่มี Facilities ส่วนกลางเท่านั้นค่ะ

ภายในลิฟต์สว่างพอสมควรทีเดียววัสดุโดยรอบเป็นสแตนเลส

<443A5C54726176656C735C504A35365F434F4E444F4D494E49554D5C436F6E7

ชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพักอาศัย โดยมีห้องพักอาศัย 19 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroomทั้งหมด 12 ห้อง โถงลิฟท์มีตำแหน่งเดียวอยู่ค่อนไปทางด้านในอาคารทำให้ห้องที่อยู่ฝั่งหน้าอาคารมีระยะห่างจากโถงลิฟท์มากกว่าโดยห้องที่อยู่ไกลจากลิฟท์ที่สุดมีระยะประมาณ 30 ม.ค่ะ ซึ่งในโถงจะมีลิฟท์ 2 ตัวนะคะ มีอัตราส่วนลิฟท์ 63 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ไม่มากค่ะ ส่วนอาคารจะมีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายขวาของอาคาร ซึ่งบันไดทั้ง 2 ตัวสามารถลงไปยังลานจอดรถที่ชั้น 1 ได้ค่ะ บางส่วนของชั้นนี้จะเป็นสระว่ายน้ำของโครงการซึ่งจะอยู่ติดกับโถงลิฟท์ในชั้นนี้ค่ะ

ต่อไปเป็นเรื่องวิวต้องแบ่งออกเป็นห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารและห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารนะคะ เริ่มจากห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารกันก่อน ทั้งห้องพักที่หันหน้าทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกจะเป็นห้องที่ได้รับวิวสระน้ำ ซึ่งห้องเหล่านี้จะมีข้อดีที่ได้รับวิวที่ดีแต่ก็มีข้อเสียที่จะเสียเรื่องความเป็นส่วนตัวไปเหมือนกันค่ะ

ส่วนห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคาร ห้องพักในชั้นนี้ที่หันไปทางทิศใต้จะหันออกถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งที่ดินด้านนี้ติดกับแปลงที่ดินที่เป็นที่ว่าง ซึ่งยังไม่มีอาคารบล๊อกวิวในระยะประชิดนะคะ ต้องรอลุ้นโครงการที่จะขึ้นในอนาคตแต่ก็มีบางห้องด้านหน้าๆของโครงการที่จะถูกบล๊อกด้วยจุดขึ้นลงรถไฟฟ้าทำให้ไม่สามารถมองออกไปเห็นถึงถนนรัตนาธิเบศร์เหมือนห้องอื่นๆค่ะ ส่วนห้องพักที่หันไปทางทิศตะวันออกจะหันออกถนนซอยรัตนาธิเบศร์ 10 วิวฝั่งนี้ยังโล่งนะคะเพราะฝั่งตรงข้ามถนนยังไม่มีอาคารในระยะประชิด ปัจจุบันเป็นที่พักคนงาน (ชั่วคราว) ค่ะ ส่วนทางทิศตะวันตกจะติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น ทำให้ห้องพักบางห้องจะมีระยะห่างจากบ้านพักอาศัยประมาณ 4 ม.นะคะ

ทางเข้าสระว่ายน้ำของโครงการจะอยู่ติดกับโถงลิฟท์ค่ะ

เข้ามาภายในพื้นที่สระว่ายน้ำจะเจอห้องน้ำแยกหญิงชายนะคะ ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำมีป้ายติดแยกห้องหญิงชายไว้เรียบร้อยค่ะ

ภายในห้องน้ำหญิงจะมีอ่างล้างมือ ถัดเข้าไปด้านในมีห้องสุขา ห้องอาบน้ำและ Sauna ค่ะ

Vio-Edit-12

ห้องสุขามีขนาดพอใช้งานได้ และมีห้องอาบน้ำเอาไว้สำหรับล้างตัวเวลาว่ายน้ำเสร็จ ผนังด้านหลังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านกันลื่นค่ะ

ส่วนห้องผู้ชายจะมีโถปัสสาวะเพิ่มขึ้นมาค่ะ

ด้านในสุดของห้องจะเป็นห้อง Sauna ภายในนั่งได้ประมาณ  3-4 คนค่ะ

ถัดจากห้องน้ำเข้ามาจะเจอที่อาบน้ำก่อนลงสระค่ะ อาบเสร็จก็เดินขึ้นบันไดไปสระว่ายน้ำกันเลยค่า

พื้นที่รอบสระไม่ค่อยกว้างนักนะคะ มีพื้นที่แค่พอสำหรับนั่งรอ และเดินลงสระเท่านั้นค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือมีขนาด 5.8 x 10 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.5 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.1 เมตรค่ะ

ริมสระทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นห้องพักอาศัยนะคะ ซึ่งการวางตำแหน่งสระว่ายน้ำตรงกลางอาคารมีข้อดีที่อาคารทั้ง 2 ฝั่งจะช่วยบังแดดให้กับสระว่ายน้ำ และห้องพักทุกห้องที่หันเข้าด้านในอาคารยังได้วิวสระน้ำด้วยค่ะ

ถ้าชอบวิวสระว่ายน้ำในระยะใกล้ๆ ก็เลือกห้องวิวสระที่ชั้น 2,3 นะคะ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกันที่ความ Private ในห้องจะลดลงและอาจจะได้ยินเสียงของผู้มาใช้บริการสระว่ายน้ำดังเข้ามาในห้องค่ะ

พื้นที่ระหว่างห้องพักอาศัยในชั้น 2 และสระว่ายน้ำ กั้นกันเพียงไม้พุ่มเตี้ยและต้นไม้ใหญ่บางส่วน ทำให้ความปลอดภัยในการอยู่อาศัยบนชั้น 2 ของห้องฝั่งวิวสระน้ำนี้ลดลง อย่าลืมล๊อกประตูห้องประตูระเบียงนะคะ

มองกลับมาจากอีกมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำ จะเห็น  Facilities ในชั้นอื่นๆชัดเจนเลยนะคะ บนชั้น 3 จะมีห้อง Fitness ซึ่งจะได้วิวสระน้ำ และบนชั้น 4 จะมีสวนหย่อมซึ่งมีขนาดพอพักผ่อนหย่อนใจได้ค่ะ

<443A5C54726176656C735C504A35365F434F4E444F4D494E49554D5C436F6E7

ชั้น 3 ผังห้องพักจะเหมือนกับชั้น 2 นะคะต่างกันตรง Facilities ที่อยู่บนชั้น 3 จะเป็นห้อง Fitness ค่ะ ส่วนเรื่องวิวจะแตกต่างกันกับห้องพักบนชั้น 2 นะคะ ซึ่งต้องแบ่งอธิบายเป็นห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารและห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารเหมือนกัน เริ่มจากห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารกันก่อน ทั้งห้องพักที่หันหน้าทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกจะเป็นห้องที่ได้รับวิวสระน้ำซึ่งห้องเหล่านี้จะมีข้อดีที่ได้รับวิวที่ดีแต่ก็มีข้อเสียที่จะเสียเรื่องความเป็นส่วนตัวไปเหมือนกัน และจะมีบางห้องถูกบังวิวด้วยห้อง Fitness นะคะ

ส่วนห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารวิวทางทิศใต้และทิศตะวันออกจะเหมือนกับห้องพักบนชั้น 2 นะคะ ส่วนทางทิศตะวันตกห้องพักอาศัยบนชั้น 3 จะพ้นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นขึ้นมาแล้วค่ะ ทำให้วิวทิศนี้เปิดโล่งมากขึ้นค่ะ

ทางเข้าห้อง Fitness ของโครงการจะอยู่ติดกับโถงลิฟท์ โดยห้อง Fitness นี้มีขนาดประมาณ 40 ตร.ม.ค่ะ

เครื่องออกกำลังกายภายใน Fitness ประกอบด้วยเครื่องออกกำลังกาย 4  เครื่อง ซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าต่างเห็นวิวสระน้ำพอดีค่ะ

มีชุดยกดัมเบลอีก 1  ชุด และทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีอุปกรณ์โยคะอีก 2  ชุดด้วยค่ะ

วิวจากห้อง Fitness ที่เห็นสระว่ายน้ำพอดีค่ะ

<443A5C54726176656C735C504A35365F434F4E444F4D494E49554D5C436F6E7

ชั้น 4 ผังห้องพักจะเหมือนกับชั้น 3 นะคะต่างกันตรง Facilities ที่อยู่บนชั้น 4 จะเป็นสวนหย่อมค่ะ ส่วนเรื่องวิวจะแตกต่างกันกับห้องพักบนชั้น 3 นะคะ ซึ่งต้องแบ่งอธิบายเป็นห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารและห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารเหมือนกัน เริ่มจากห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารกันก่อน ทั้งห้องพักที่หันหน้าทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกจะเป็นห้องที่ได้รับวิวสระน้ำในระยะที่ไกลขึ้นซึ่งห้องเหล่านี้จะมีข้อดีที่ได้รับวิวที่ดีและเสียความเป็นส่วนตัวน้อยลงเพราะเกินระยะที่จะมองจากสระน้ำแล้วจะเห็นภายในห้องพัก แต่จะมีบางห้องถูกบังวิวด้วยระแนงบังตาของสวนหย่อมแต่ระแนงนี้ก็ทำให้รักษา Privacy ในห้องพักไว้นะคะ

ส่วนห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารวิวทางทิศใต้, ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจะเหมือนกับห้องพักบนชั้น 3 นะคะ

ทางเข้าสวนหย่อมในชั้น 4 จะตั้งอยู่ติดกับโถงลิฟท์เช่นกันค่ะ

บรรยากาศภายในสวนหย่อมร่มรื่นพอสมควร มีการจัดชุดโต๊ะสนามไว้ให้ใช้เป็นพื้นที่ที่สามารถมานั่งเล่น นั่งทำงานได้ค่ะ การจัดวางพื้นที่สวนหย่อมนี้ให้อยู่ตรงกลางของอาคารทำให้พื้นที่นี้ได้รับร่มเงาจากอาคารที่ขนาบซ้ายขวาตลอดทั้งวัน แต่การจัดผังก็จะมีห้องด้านหลังระแนงไม้ที่ถูกบังวิวด้วยระแนงบังตาของสวนหย่อมแต่ระแนงนี้ก็ทำให้รักษา Privacy ในห้องพักไว้นะคะ

อีกมุมหนึ่งของสวน จากตำแหน่งนี้ถ้ามองลงไปจะเป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำพอดีค่ะ

<443A5C54726176656C735C504A35365F434F4E444F4D494E49554D5C436F6E7

ชั้น 5-6 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น ผังห้องพักจะเหมือนกับชั้น 4 นะคะต่างกันตรงที่ชั้นนี้ไม่มี Facilities และห้องพักบางส่วนจะเป็นแบบ Single Corridor คือทางเดินที่มีห้องพักด้านเดียว อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นกระจกทำให้ทางเดินภายในอาคารชั้นนี้ได้รับแสงภายนอกเข้ามาในอาคารค่ะ ส่วนเรื่องวิวจะแบ่งอธิบายเป็นห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารและห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารนะคะ เริ่มจากห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารกันก่อน ทั้งห้องพักที่หันหน้าทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกจะเป็นห้องที่ได้รับวิวสระน้ำของโครงการในระยะที่ไกลขึ้นซึ่งห้องเหล่านี้จะมีข้อดีที่ได้รับวิวที่ดีและมีระยะห่างจากสระน้ำมากพอสมควร ทำให้แทบจะไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากสายตาของผู้ใช้บริการสระว่ายน้ำที่มองขึ้นมานะคะ แต่ห้องพักทางทิศตะวันออกและตะวันตกที่ได้วิวสระน้ำ จะหันหน้าเข้าหากันเอง ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวจากห้องตรงข้าม

ส่วนห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารวิวทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจะเหมือนกับห้องพักบนชั้น 4 นะคะ สำหรับวิวทางทิศใต้ที่ถูกบล๊อกด้วยจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้านั้นจะพ้นในความสูงระดับประมาณชั้น 6 นะคะ

<443A5C54726176656C735C504A35365F434F4E444F4D494E49554D5C436F6E7

ชั้น 7-8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นซึ่งผังห้องพักจะคล้ายกับชั้น 5-6 ต่างกันตรงที่ในชั้นนี้จะมีห้องแบบ 2 Bedroom และมีส่วนหย่อมของโครงการอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยมีห้องพักอาศัย 15 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroomทั้งหมด 12 ห้อง และห้อง 2 Bedroom 3 ห้อง เพื่อนบ้านในชั้นนี้จึงมีจำนวนน้อยลงนะคะ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากขึ้น ห้องแบบ 2 Bedroom จะอยู่ฝั่งด้านหน้าของอาคารซึ่งทางเดินหน้าห้องจะเป็นแบบ Single Corridor อีกฝั่งหนึ่งของทางเดินจะเป็นสวนหย่อมของโครงการค่ะ

เรื่องวิวจะแบ่งอธิบายเป็นห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารและห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารนะคะ เริ่มจากห้องพักที่หันเข้าด้านในอาคารซึ่งหันหน้าทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกจะได้วิวเหมือนกับห้องพักบนชั้น 5-6 นะคะ

ส่วนห้องพักที่หันออกด้านนอกอาคารวิวทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจะเหมือนกับห้องพักบนชั้น 5-6 สำหรับวิวทางทิศใต้ที่ถูกบล๊อกด้วยจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้านั้นชั้นนี้จะพ้นแล้ว วิวจะโปร่งโล่งขึ้นค่ะ

ออกจากลิฟท์มาแล้วเลี้ยวซ้ายตามทางเดินมาจนสุดจะเป็นทางเข้าของสวนหย่อมของโครงการอีกตำแหน่งหนึ่ง ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องพักอาศัยแบบ 2 Bedroom ฝั่งขวาเป็นทางเข้าสวน

สวนในตำแหน่งนี้จะแตกต่างกับสวนในชั้น 4 ที่เหมาะจะใช้นั่งทำงาน ร่มๆ ส่วนที่ตำแหน่งนี้จะเน้นเป็นที่นั่งรับลม ชมวิว เพราะอยู่ที่ชั้น 7 ของโครงการวิวก็จะเปิดโล่งกว่าค่ะ ซึ่งสวนนี้จะอยู่ทางทิศตะวันออกของอาคาร ช่วงเวลาบ่ายๆเย็นๆก็จะร่มทีเดียวค่ะ

มีม้านั่งยาวเตรียมไว้นั่งพักผ่อน รับลม ชมวิวค่ะ

จากชั้น 8 เดินขึ้นทางบันไดหนีไฟที่อยู่ใกล้กับลิฟท์จะเป็นทางขึ้นไปชั้นดาดฟ้านะคะ ซึ่งเป็นหลังคาของโครงการ การมีดาดฟ้ามีข้อดีที่ทำให้ห้องพักอาศัยบนชั้น 8 ไม่ได้รับแดดจากหลังคาโดยตรงเพราะมีดาดฟ้าคลุมไว้อีกชั้นหนึ่งนะคะ ซึ่งบนดาดฟ้าก็มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่น ชมวิว ได้สบายๆเลยค่ะ แต่ช่วงกลางวันแดดจะร้อนสักนิดหนึ่ง น่าจะต้องขึ้นมารับลมตอนเย็นๆแทนค่ะ

อีกมุมหนึ่งของสวนบนชั้นดาดฟ้านะคะ มีการปลูกต้นไม้ไว้ตลอดแนวรั้วของดาดฟ้าเพื่อความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งค่ะ

ส่วนการวิเคราะห์ในเรื่องของวิวจากห้องพักอาศัยนั้นทางทิศใต้จะหันไปทางถนนรัตนาธิเบศร์ ถึงแม้ว่าที่ดินติดกันเป็นที่ดินเปล่าแต่ก็ต้องมาดูกันต่อว่าในอนาคตที่ดินนี้จะก่อสร้างเป็นอะไร ซึ่งวิวในทิศนี้จะเปิดโล่งที่ชั้น 6 ขึ้นไปซึ่งจะพ้นหลังคาของจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าค่ะ ส่วนทางทิศตะวันออกจะได้วิวของตึกแถว และบ้านพักอาศัย 2-4 ชั้น ถ้าอยู่อาศัยบนชั้น 3 ขึ้นไปจะได้วิวที่ไกลขึ้นเห็นศูนย์ราชการนนทบุรี, Esplanade รัตนาธิเบศร์ และพื้นที่สีเขียวของอุทยานมกุฏรมยสราญ ด้านทิศเหนือจะได้เปรียบในเรื่องวิวภายนอกโครงการมากกว่าทิศอื่นๆ เพราะด้านในซอยเป็นที่อยู่อาศัย 1-2 ชั้น และมีแนวโน้มเกิดอาคารสูงน้อยเนื่องจากอยู่ในซอย ทำให้มีระยะสายตาในการมองวิวได้ไกล ทิศตะวันตกห้องบนชั้น 2 จะประชิดกับบ้านพักอาศัย ส่วนตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปจะได้วิวพื้นที่ริมถนนและพื้นที่ในซอยที่ต่างกันค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากฝั่งหนึ่งเป็นถนนรัตนาธิเบศร์และอีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ของบ้านอยู่อาศัยในซอย

ต่อไปจะพาชมวิวจากชั้นดาดฟ้าของโครงการซึ่งเป็นวิวที่สูงที่สุดในโครงการนะคะ จากทางทิศใต้จะเห็นสถานี BTS และจุดขึ้นลงรถไฟฟ้าอยู่ทางด้านซ้ายมือนะคะ ส่วนที่ดินที่ติดกันเป็นที่ดินเปล่าถมแล้วมีขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งก็ต้องมารอดูกันว่าจะพัฒนาเป็นอะไรต่อไป อาคารโดยรอบส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ 4-6 ชั้น จากมุมนี้จะเห็นคอนโด Supalai Park อยู่ฝั่งขวามือค่ะ

ส่วนทางทิศตะวันออกจะเป็นวิวบ้านพักอาศัย ตึกแถว 2-4 ชั้น ถัดไปเป็นศูนย์ราชการนนทบุรีและEsplanade รัตนาธิเบศร์ อาคารจะถูกแทรกด้วยพื้นที่สีเขียวคืออุทยานมกุฏรมยสราญนั่นเองค่ะ และสถานีรถไฟฟ้าด้านขวามือคือสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี โดยเส้นทางรถไฟฟ้านี้มุ่งหน้าไปแยกแครายค่ะ

ส่วนทางทิศเหนือของโครงการเป็นด้านที่หันเข้ามาในซอยนะคะ เป็นวิวของบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ทำให้ไม่มีอาคารมาบังวิวในระยะประชิดนะคะ ส่วนด้านขวามือนี้เป็นคอนโด The Connexion สูง 8 ชั้นที่อยู่เยื้องๆกับโครงการถัดเข้าไปด้านในซอยค่ะ

ส่วนทางทิศตะวันตกจะเห็นวิวของพื้นที่ริมถนนและพื้นที่ในซอยที่ต่างกันค่อนข้างชัดเจนนะคะ ฝั่งซ้ายมือเป็นถนนรัตนาธิเบศร์จะเห็นเส้นรางรถไฟฟ้าซึ่งมุ่งหน้าไปทางบางบัวทองชัดเจนอยู่ อาคารที่ขนาบถนนรัตนาธิเบศร์จะเป็นอาคารพาณิชย์ 4-6 ชั้น สลับกับอาคารคอนโด High Rise ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ด้านในซอยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นหรือถ้าเป็นคอนโดก็จะเป็นคอนโด Low Rise ไม่เกิน 8 ชั้น ดังนั้นถ้าต้องการวิวห้องที่ค่อนข้างโปร่งโล่งก็ควรเลือกห้องที่หันเข้าด้านในซอยนะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5.8 x 10 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.5 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.1 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดประมาณ  40 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง
  • Sauna/Stream
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคารอัตราส่วน 63 : 1
  • ที่จอดรถ 40 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน 31 คัน คิดเป็น 25% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 32 %
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • Wi-fi at lobby,swimming pool, garden


Product Walkthrough

สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการมีห้องเดียวนะคะ คือ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุด เฟอร์นิเจอร์โครงการนี้ให้แบบ Fully Furnished ซึ่ง Furniture ที่เราเห็นในห้องตัวอย่างจะให้ทั้งหมดนะคะยกเว้นของตกแต่ง เราไปชมกันเลยค่ะ

Vio mapการเดินทาง-5

ส่วนแบบห้องตัวอย่างห้องนี้เป็น Type A-1 พื้นที่ห้องขนาด 31.62 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แบ่งพื้นที่ Living และห้องนอนประมาณอย่างละครึ่ง เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วนครัวอยู่ทางขวามือก่อน ด้านในเป็นโต๊ะทานเข้าแบบ 2 ที่นั่งซึ่งให้มาแบบพับย่อและขยายได้ ลึกเข้าไปอีกคือส่วนนั่งเล่น ด้านหนึ่งจะเป็นโซฟาและโต๊ะเข้าชุดกัน ฝั่งตรงข้ามของห้องจะเป็นชั้นวางทีวี ลึกสุดคือบานประตูเลื่อนสูง 2 เมตรออกไปยังระเบียงด้านนอก ตรงข้ามส่วนโต๊ะทานข้าวจะเป็นประตูห้องนอน ภายในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าติดผนังขนาดใหญ่และโต๊ะทำงานจัดอยู่ด้านใน และจัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตไว้ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามห้องครัวไม่ได้อยู่ในห้องนอนนะคะ ซึ่งในกรณีที่มีเพื่อนๆหรือแขกมาหาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้จากด้านนอก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านในของอาคารจึงไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆค่ะ

Vio-Edit-4

เริ่มจากประตูหน้าห้องเป็นบานไม้อัดสีขาว และ มีระบบDigital Doorlock ซึ่งจะเป็นแบบมีลูกบิดไปด้วยในตัวเลย ถือว่าดีเพราะระบบDigital Doorlock นี่จะไม่ค่อยพบในโครงการระดับ Main Class นะคะ ด้านหน้าห้องมีติดป้ายบอกเลขห้องไว้เรียบร้อยค่ะ

Vio-Edit-5

ส่วนประตูด้านในจะเป็นแบบลูกบิดล็อกนะคะ และมีDoorstop กั้นกันประตูไปกระแทกกับชั้นวางของด้านหลัง

Vio-SH-5

พื้นห้องมีการยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งเวลาแม่บ้านทำความสะอาดโถงทางเดิน กวาดฝุ่งผงก็จะช่วยไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในห้อง

ภายในห้องจะเจอ Pantry ครัวทางด้านขวา ติดกันเป็นชุดโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง ถัดไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟา  2 ที่นั่งซึ่งติดกับประตูกระจกสไลด์ที่เปิดเชื่อมไประเบียงด้านนอกซึ่งเวลากลางวันแสงธรรมชาติจะเข้ามาในห้องนั่งเล่น ช่วยให้บรรยากาศในห้องไม่มืดทึบ ห้องนี้สูง 2.4 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. สี Nano White ส่วนประตูฝั่งซ้ายที่อยู่ติดกับชั้นวางทีวีคือประตูเข้าห้องนอนค่ะ

หันกลับมาทางประตูห้องพักจะพบตู้เก็บรองเท้า และชั้นวางของซ่อนอยู่หลังประตู ด้านบนที่ติดอยู่กับฝั่งเดียวกับประตูจะเป็นตู้ Breaker ไฟของห้องพักนะคะ ติดกันกับตู้วางรองเท้าจะเป็นประตูเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ตรงข้ามกับชุด Pantry ครัวค่ะ พื้นในส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

Vio-Edit-6

ต่อไปจะเริ่มอธิบายแต่ละส่วนของห้องพักอาศัยนะคะ เริ่มจาก Pantry ครัวที่อยู่ติดกับประตูทางเข้า เคาน์เตอร์ครัว Built-in มีขนาด 1.55 x 0.9 ม. วัสดุเป็นโครงไม้กรุลามิเนต Top เป็นหินสังเคราะห์ ตัวตู้มีลิ้นชักสำหรับใส่ช้อนส้อม ด้านล่างมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ อีกตู้หนึ่งเป็นตู้บานเปิดปิดใต้อ่างล้างจาน ไว้ใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะเพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจานค่ะ ซึ่งบานพับเป็นแบบ Soft close ซึ่งจะเป็นบานพับที่ต้องปิดในมุม 45 องศา ตัว Sofe Close ถึงจะทำงานนะคะ

มือจับตู้ลิ้นชักถูกออกแบบให้ขอบด้านบนถูกเฉือนเป็นสามเหลี่ยม เพื่อให้เกิดช่องสำหรับสอดมือไปดึงลิ้นชักออกได้ ซึ่งแบบนี้มีข้อดีที่ไม่ต้องกลัวมือจับตู้หลุดอีกต่อไปค่ะ

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง โครงการให้เตาไฟฟ้าขดลวดแบบ 2 หัวของ Teka มาค่ะ ซึ่งเตาไฟฟ้าขดลวดเป็นเตาที่ค่อนข้างจะกินไฟมาก การให้ความร้อนค่อนข้างช้า มีข้อแนะนำเวลาใช้คือให้ดับไฟตอนใกล้ๆจะทำอาหารเสร็จเพื่อประหยัดไฟ เพราะความร้อนจะยังคงอยู่กับเตาอีกนาน แล้วเมื่อทำอาหารเสร็จก็ระวังมือไปโดนด้วยนะคะ ถ้ากลัวเปลืองไฟให้ใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแทนซึ่งกินไฟน้อยกว่าแต่ก็มีราคาเตาที่แพงกว่าค่ะ ให้มาเป็น Set พร้อมพัดลมดูดควัน ซึ่งเป็นระบบหมุนเวียนภายในห้องไม่ได้ต่อท่อออกไปด้านนอกนะคะ ถัดไปเป็นซิงค์ล้างจานยี่ห้อ Hafele พื้นที่บนเคาน์เตอร์โดยรวมมีพื้นที่พอให้วางเครื่องปรุง ส่วนผสม สำหรับปรุงอาหารได้ ส่วน Backsplash ด้านหลังติดกระจกเงาไว้ทำให้เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ซิงค์ล้างจาน 1 หลุมที่ให้มา มีขนาดพอจะใส่แก้วได้ 6 – 7 ใบ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ

ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนเป็นตู้บานเปิด 2 ตู้ซึ่งบานพับเป็นแบบ Soft close ซึ่งจะเป็นบานพับที่ต้องปิดในมุม 45 องศา เหมือนตู้ด้านล่าง Counterนะคะ ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บของตู้ละ 2 ช่องค่ะ

ถัดมาเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งซึ่งต้องนั่งแบบมุมติดกันแบบนี้นะคะ ไม่มีพื้นที่ให้วางเก้าอี้แบบนั่งตรงข้ามกันได้ต้องเลื่อนโต๊ะออกมานะคะ ซึ่งทางโครงการก็ได้เลือกโต๊ะทานอาหารที่มีข้อดีคือขยายขนาดได้ ถ้าไม่ใช้ก็พับเก็บได้ค่ะ

ถ้ากางโต๊ะออกมาอีกฝั่งหนึ่งโต๊ะทานข้าวจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เราก็สามารถเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่งแบบนี้ได้ และโต๊ะยังถูกออกแบบให้มีลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทานอาหารด้วย เช่น พวกช้อนส้อมค่ะ

Vio-Edit-11

ถัดมาฝั่งตรงข้าม Pantry ครัว มุมที่ติดประตูเป็นตู้ใส่รองเท้าแบบบานเปิดปิดซึ่งบานพับเป็นแบบ Soft Close ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บ 2 ช่อง เหนือตู้ใส่รองเท้าขึ้นไปเป็นชั้นวางของแบบ Built-in 2 ชั้น ใต้ชั้นวางของชั้นล่างจะติดตั้งสวิตซ์ไฟของ Schneider ไว้เรียบร้อยค่ะ ติดกันเป็นห้องน้ำ และถัดไปจากห้องน้ำเป็นช่องสำหรับใส่ตู้เย็นมีความกว้างของช่อง 0.66 ม. ลึก 0.7 ม. และสูง 1.87 ม. ถ้าจะซื้อตู้เย็นมาใส่ก็ต้องดูขนาดให้พอดีนะคะ ด้านบนของช่องใส่ตู้ตู้เย็นมีตู้บานเปิดสำหรับเก็บของอีกตู้หนึ่งค่ะ การมีตู้ Built-in แบบมีบานปิดมาให้หลายๆตู้นี่ดีนะคะ เพราะมีช่องเก็บของได้เยอะ และเมื่อมีบานปิดก็ทำให้ดูเรียบร้อยด้วยค่ะ

ต่อไปมาดูห้องน้ำกันบ้าง ประตูเป็นบานไม้อัดทาสีขาวทึบเต็มบานไม่ได้มีช่องระบายอากาศนะคะ จึงต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเป็นหลักค่ะ ส่วนมือจับเป็นลูกบิดธรรมดา

Vio-SH-20

พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ

ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยและขอบธรณี ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะที่แตกต่างกันคือพื้นภายในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องแบบด้าน เพื่อช่วยกันลื่นภายใน้ห้องน้ำค่ะ

ผนังด้านหลังอ่างอาบน้ำในส่วนแห้งมีข้อดีที่สามารถติดกระจกได้เต็มบานนะคะ ซึ่งจะช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ

Vio-Edit-7

อ่างล้างหน้าของ Mogen หรือเทียบเท่า มีขนาด 0.46 x 1.4 ม. และมีความลึกของตัวอ่างไม่มาก ทำให้เวลาล้างมือล้างหน้าน้ำอาจจะกระเด็นนะคะ ควรหาผ้าเช็ดเท้ามาวางที่พื้นซักผืนก็จะช่วยให้พื้นส่วนแห้งไม่เปียกได้ค่ะ ด้านข้างของอ่างล้างมือมีการติดตั้งปลั๊กไฟซึ่งมีฝาครอบปิดไว้เรียบร้อย ไว้สำหรับเสียบเครื่องโกนหนวด หรือไดร์เป่าผมนะคะ ส่วนด้านล่างอ่างล้างมือเป็นตู้เก็บของบานเปิดขนาดไม่ใหญ่ พอจะเก็บของใช้ได้นิดหน่อย และอย่าลืมเผื่อพื้นที่ไว้สำหรับซ่อมท่อน้ำหากมีการชำรุดด้วยนะคะ

Vio-Edit-8

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบ 2 ชิ้นยี่ห้อ Mogen หรือเทียบเท่า เป็น Set มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระยี่ห้อเดียวกันค่ะ ด้านข้างมีการเว้นพื้นที่พอสมควรเพื่อให้สะดวกในการหยิบทิชชู่ค่ะ

Vio-Edit-9

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ กว้าง 0.98 x 1 เมตร วัสดุพื้นปูเป็นกระเบื้องผิวด้าน พื้นที่ส่วนนี้ถูกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย ซึ่งเป็นแบบบานเปิดมีมือจับฉากกั้นแนวนอนที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ และธรณีที่ถูกยกขึ้นจากพื้นทำให้น้ำในห้องอาบน้ำไม่ไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งนะคะ

หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ ด้านข้างมีชั้นกระจกเข้ามุมเอาไว้วางของพวกสบู่ แชมพู ส่วนด้านบนขวามีการติดตั้งระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าจะซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาก็ให้มาติดตั้งบนมุมขวานี้ค่ะ

หน้าตาของฝักบัวและก๊อกเปิดปิดนะคะ มีขนาดจับได้ถนัดมือดีค่ะ

ถัดมาในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นมีการจัดวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่น มีระยะห่างประมาณ 2.7 เมตร มีขนาดทีวีที่เหมาะสมอยู่ที่ 46 นิ้ว ตู้วางทีวีที่ให้มาขนาดกำลังพอดีกับผนังสามารถวางของและเก็บของด้านล่างได้

หน้าตาของโซฟาที่ให้มาพร้อมห้องจะเต็มพื้นที่พอดี ที่ว่างด้านข้างไม่สามารถขยายได้นะคะเป็นพื้นที่สำหรับเลื่อนเก้าอี้โต๊ะทานข้าวค่ะ

Vio-Edit-1

ตู้วางทีวีเป็นตู้บานเลื่อนซึ่งจัดให้มาเต็มผนังเลยนะคะ ภายในตู้แบ่งเป็นชั้นวางของ 4 ช่องเพื่อให้เก็บเครื่องเล่น DVD หรืออุปกรณ์ต่างๆ ด้านบนตู้มีช่องสำหรับเดินสายไฟออกจากในตู้ เพื่อเก็บความเรียบร้อยไม่ให้เห็นสายไฟระโยงระยางด้านหน้า ส่วนผนังมีเดินสวิตซ์ไฟ ช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ และโทรศัพท์ไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ฝ้าด้านบนเป็นฝ้ายิปซั่มฉาบเรียบ ดวงไฟจะเป็นดาวน์ไลท์ฝังกับฝ้าดูเรียบร้อย และในส่วนของห้องนี้จะมีติดตั้ง Heat Detector ไว้ด้วยค่ะ

ติดกับกับห้องรับแขกเป็นประตูกระจกบานสไลด์ เพื่อเปิดออกไประเบียงค่ะ

Vio-Edit-10

วงกบประตูเป็นอลูมิเนียมอบขาว ตัวล็อกจะเป็นตัวล็อก 2 ชั้น คือ ล็อกที่บานประตูในภาพซ้าย และล็อกอีกตำแหน่งหนึ่งตามภาพขวาบนค่ะ ประตูติดขอบกำมะหยี่ด้วยนะคะ ซึ่งขอบนี้จะช่วยกันฝุ่นและเสียงที่จะเล็ดลอดเข้าห้องค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1 x 2.5 ม. ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า และวางราวตากผ้านะคะ ขอบระเบียงถูกกั้นราวกันตกไว้เรียบร้อย วัสดุเป็นเหล็กทาสีน้ำตาลไว้ค่ะ

ด้านขวาของระเบียงจะเป็นที่ตั้งของ Compressor แอร์ 2 ตัวซึ่งเป็นแบบแขวน ด้านล่างของที่แขวน Compressor แอร์เป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า โดยมีการเดินท่อน้ำ ติดตั้งก๊อกน้ำและสวิตซ์ไฟแบบมีฝาครอบไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ส่วนผนังอีกฝั่งหนึ่งมีเดินก๊อกน้ำลอยไว้เหมือนกัน เผื่อปลูกต้นไม้บนระเบียงก็สามารถใช้ก๊อกน้ำตรงนี้รดน้ำได้เลย ไม่ต้องเดินไปตักในห้องน้ำแล้วเดินผ่านห้องนั่งเล่นมาถ้าหกมันจะเลอะเทอะนะคะ

ติดกันกับตู้วางทีวีเป็นประตูทางเข้าห้องนอนนะคะ

Vio-Edit-2

บานประตูห้องนอนเป็นบานไม้อัดทาสีขาวแบบเดียวกับห้องน้ำค่ะ รวมถึงลูกบิดก็เป็นแบบเดียวกัน

พื้นห้องนอนจะแตกต่างจากห้องนั่งเล่นนะคะ โดยพื้นห้องนอนจะเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มล. พื้นระหว่างทั้ง 2 ห้องถูกจบด้วยตัวจบไม้เรียบร้อยดีนะคะ

ด้านในห้องนอนมีขนาดกว้างพอสมควรและถูกจัดวางFurniture ต่างๆไว้ได้ครบนะคะ ได้แก่ เตียงขนาด 5 ฟุตไว้ ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้เต็มผนังฝั่งซ้ายค่ะ

พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งซ้ายมีพื้นที่กว้างประมาณ 1.25 ม. นะคะ ซึ่งเป็นทางเดินเข้าสู่เตียง และเป็นระยะสำหรับเปิดตู้เสื้อผ้าด้วยค่ะ ด้านในสุดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือใครจะปรับเป็นโต๊ะเขียนหนังสือก็ได้ค่ะ

Vio-Edit-3

ส่วนพื้นที่ปลายเตียง ไม่มีพื้นที่เหลือให้วางชั้นวางทีวีนะคะ ถ้าจะติดทีวีในห้องนี้ต้องติดแบบแขวนค่ะ ซึ่งก็ได้มีการติดตั้งสวิตซ์ไฟและช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไว้เรียบร้อยนะคะ

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง มีพื้นที่ให้พอเดินมาขึ้นเตียงได้ บริเวณหัวเตียงมีการตั้งโต๊ะหัวเตียงไว้สำหรับวางโทรศัพท์ หรือนาฬิกาปลุกได้สบายๆค่ะ และมีการติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

จากฝั่งด้านหน้าต่างมองมาทางตู้เสื้อผ้าที่ถูก Built-in ไว้จะเป็นตู้บานเปิด 3 บาน หน้าบานของตู้แรกจะถูกกรุกระจกไว้เพื่อใช้เช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องนะคะ

ด้านในของตู้จะมีไฟด้วยนะคะทำให้สะดวกเวลาเลือกเสื้อผ้า และภายในยังมีราวแขวนผ้า ซึ่งแขวนได้ทั้งแบบเสื้อผ้าตัวสั้นและตัวยาวนะคะ และมีลิ้นชักเก็บของอีก 3 ช่อง รวมถึงช่องเก็บของด้านบน ซึ่งสามารถใช้เก็บผ้านวมผืนใหญ่ๆหรือกระเป๋าเดินทางได้เลยค่ะ

ตู้บานขวาสุดที่เห็นเป็นบานเปิดบานเดียว ภายในยังมีพื้นที่เก็บของซ่อนอยู่อีกนะคะ ตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้ให้นี่ถือว่าให้ตู้ใบใหญ่และเก็บของได้เยอะมากทีเดียวค่ะ

มือจับตู้เสื้อผ้า สามารถจับได้ถนัดมือดีค่ะ

มาดูในส่วนโต๊ะเครื่องแป้งกันบ้างเป็นโต๊ะที่มีลิ้นชัก 2 ช่องนะคะ โครงการจะ Built-in มาให้เฉพาะโต๊ะนะคะ ไม่ได้มีเก้าอี้เแถมให้ ซึ่งก็สามารถหาซื้อแบบสตูลมาวางก็ทำให้ไม่เกะกะห้องดีค่ะ เพราะเมื่อใช้เสร็จก็สามารถเก็บเก้าอี้สตูลไว้ใต้โต๊ะได้ หรือถ้าใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือ ก็มีพื้นที่ให้วางเก้าอีกทำงาแบบมีพนักได้อยู่ แต่จะเกะกะระยะเปิดของตู้เสื้อผ้าสักนิดหนึ่งค่ะ

หันกลับไปดูฝั่งที่เป็นกระจกของห้องนะคะ ซึ่งโครงการติดตั้งมาให้มีขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นบานใหญ่บานเดียวแต่ก็เป็นช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ โดยหน้าต่างกระจกใสจะเป็นบานผสมระหว่างบาน Fix และบานสไลด์ โดยจะมีบานที่สไลด์ได้ 2 บานอยู่ตรงกลาง มีระบบล็อก 2 ชั้นแบบเดียวกับประตูบานสไลด์สำหรับออกไประเบียงค่ะ

แอร์ที่โครงการให้ยี่ห้อ Daikin ขนาด 9000 BTU 1 ตัวและขนาด 12000 BTU 1 ตัวค่ะ

ฝ้าในห้องนอนจะเป็นยิปซั่มบอร์ด ดวงไฟแบบดาวน์ไลท์เช่นเดียวกับในห้องนั่งเล่นนะคะ และในห้องนอนจะมี Smoke Detector ติดตั้งไว้ด้วยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 February 2016

  • 1 Bedroom ชั้น 2 เนื้อที่ 37.27 ตร.ม. ราคา 2.823 ล้านบาท หรือ 76,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 3 เนื้อที่ 31.47 ตร.ม. ราคา 2.423 ล้านบาท หรือ 77,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 4 เนื้อที่ 35.19 ตร.ม. ราคา 2.744 ล้านบาท หรือ 78,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 5 เนื้อที่ 31.47 ตร.ม. ราคา 2.486 ล้านบาท หรือ 79,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 6 เนื้อที่ 31.47 ตร.ม. ราคา 2.517 ล้านบาท หรือ 80,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 6 เนื้อที่ 35.17 ตร.ม. ราคา 2.813 ล้านบาท หรือ 80,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 7 เนื้อที่ 31.62 ตร.ม. ราคา 2.561 ล้านบาท หรือ 81,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 8 เนื้อที่ 31.22 ตร.ม. ราคา 2.560 ล้านบาท หรือ 82,000 บาท/ตร.ม.
  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.35-2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • โปรโมชั่น จอง+ทำสัญญา 10,000 บาท
  • ฟรี ค่าส่วนกลางปีแรก
  • ฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า 3 รายการ ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – ทำเลของโครงการ Vio แครายค่อนข้างดีนะคะ อยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ซึ่งเป็นซอยที่เป็นที่อยู่อาศัยเสียส่วนใหญ่ทำให้บรรยากาศค่อนข้างสงบ และอยู่ห่างจากปากซอยเพียง  30 ม. ทำให้เดินเข้าออกได้สบายๆ ด้านความอุดมสมบูรณ์ต้องพึ่งพาร้านอาหาร 7-11 ที่ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์กัน ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งฝั่งเดียวกับโครงการ และฝั่งตรงข้ามแต่ต้องขยันเดินสักหน่อยค่ะ หรือถ้าต้องการไปศูนย์การค้า หรือ Hypermarket บนเส้นรัตนาธิเบศร์นี้มีให้เลือกทั้ง Central, Big C, Lotus, Esplanard ซึ่งอยู่ห่างไปไม่เกิน 2 กม.ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ – ซอยรัตนาธิเบศร์ 10 เป็นซอยตัน ดังนั้นจึงต้องเข้าออกผ่านถนนรัตนาธิเบศร์ทางเดียว ซึ่งตำแหน่งของซอยอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ในช่วงใกล้แยกแคราย ถ้าจะเข้าเมืองถือว่าได้เปรียบกว่าทำเลที่อยู่ซอยที่ถัดไปทางสะพานพระนั่งเกล้า เพราะประหยัดเวลารถติดอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ลงได้พอสมควร ขับรถออกจากซอยมานิดเดียวก็สามารถเข้าขวาขึ้นสะพานข้ามแยกแครายไปได้ แต่จะเสียเปรียบเวลาที่มีจากถนนงามวงศ์วานจะกลับเข้าคอนโด ต้องไปกลับรถที่เกือกม้าที่สองหน้า Grand Homemart ไม่สามารถกลับรถเกือกม้าแรกได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – มีระยะห่างจากจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรี 30 ม.ถือว่าสะดวกทีเดียว ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่ – เตาปูน ในอนาคตมีแผนจะต่อเชื่อมเข้ากับสถานีสีน้ำเงินที่บางซื่อ ซึ่งก่อนจะต่อเชื่อมกันเราจะนั่งรถไฟฟ้าไปถึงแค่เตาปูนเท่านั้น และในอนาคตยังมีแผนที่จะใช้เป็นสถานีต่อเชื่อมกับสายสีชมพูที่จะไปแจ้งวัฒนะ มีนบุรีด้วย ถ้าโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จทำเลโครงการนี้ถือว่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกทีเดียว ส่วนตัวโครงการไม่ได้ตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่มากจึงสามารถเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อเรียกรถ TAXI มอเตอร์ไซค์วินได้สะดวก รถที่ให้บริการผ่านบริเวณหน้าซอยยังมีทั้ง รถเมล์ รถตู้ รถสองแถวด้วยค่ะ

การออกแบบ – การออกแบบโครงการ สร้างเต็มที่ดินโครงการ 0-3-78 ไร่ โครงการมีรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ไม่ล้าสมัยคือสวยแบบ Modern โครงการมีอาคารเดียวเป็นรูปตัว U ในส่วนของทางเข้าโครงการจะเข้าทางใต้อาคารและจอดรถที่ลานจอดรถชั้น 1 ของโครงการ ส่วน Facilities อื่นๆจะกระจายตัวตามชั้นต่างๆ โดยสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 2 ห้องFitness อยู่ที่ชั้น 3 สวนหย่อมจะมีอยู่ที่ชั้น 4และ 7 และมีชั้นดาดฟ้าที่ต้องขึ้นบันไดจากชั้น 8 ที่สามารถไปนั่งเล่นรับลม ชมวิวได้อีกด้วย โดย Facilities ส่วนใหญ่จะถูกจัดให้อยู่ตรงกลาง โดยอาคารรูปตัว U จะล้อมสระและสวนไว้ 3 ด้าน ทำให้ห้องพักที่หันหน้าต่างเข้าด้านในโครงการจะได้วิวสระและสวนด้านใน

ส่วนวิวด้านนอกโครงการทางทิศตะวันออกจะเป็นถนนซอยและที่พักคนงานชั่วคราว ทำให้ได้วิวค่อนข้างโล่ง ไม่มีตึกบังสายตาในระยะประชิด ส่วนวิวทิศตะวันตกจะติดกับบ้าน 1-2 ชั้น ทำให้มีอาคารบล๊อกวิวในระยะประชิด ถ้าห้องบนชั้น 3 ขึ้นไปวิวจะโล่งขึ้น ทางด้านทิศเหนือจะหันเข้าด้านในซอยซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยว  1-2 ชั้น ห้องที่มีความสูงระดับชั้น  3 ขึ้นไปจะวิวที่โปร่งโล่ง รับวิวได้ไกลทีเดียว สุดท้ายทางทิศใต้จะหันไปทางถนนรัตนาธิเบศร์ ที่ดินที่ติดกับอาคารเป็นที่ดินเปล่าทำให้สามารถรับวิวไปได้ถึงถนนใหญ่เลย แต่มีห้องพักช่วงด้านหน้าของอาคารที่จะถูกบล๊อกด้วยจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าซึ่งมีความสูงประมาณ 5 ชั้น ถ้าอยู่อาศัยบนชั้น 6 ก็จะได้วิวที่โล่งขึ้นค่ะ

วัสดุ – จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ค่ะมีบางจุดีบางจุดด้อยปนๆกัน Built-in ทั้งห้อง, Top ครัวหินสังเคราะห์, ฉากกั้นส่วนอาบน้ำเป็นกระจก Tempered Glass,โต๊ะเครื่องแป้งขนาดใช้งานได้และประหยัดพื้นที่ , ตู้บานเปิดในห้องใช้บานพับแบบ Soft Close ซึ่งตู้เก็บของและตู้เสื้อผ้าที่ให้มามีจำนวนมากทีเดียว แต่น่าเสียดายเครื่องดูดควันเป็นแบบระบบหมุนเวียนทำให้กลิ่นและควันจากการทำอาหารยังคงอยู่ในห้องครัว และเตาไฟฟ้าแบบหัวขดลวดซึ่งจะทำให้กินไฟมากทีเดียวค่ะ

พื้นส่วนกลาง – ที่โครงการจัดมาให้ค่อนข้างหลากหลาย คือ สระว่ายน้ำ Fitness สวนหย่อมที่ชั้น 4, 7 และดาดฟ้า Fitness เทียบกับจำนวนห้องแล้วถือว่าใช้ได้ค่ะ ฟังก์ชั่นต่างๆของส่วนกลางอาจจะมีเล็กบ้างใหญ่บ้างคละกันไป แต่จำนวนที่เยอะและมีฟังก์ชั่นหลากหลายก็ช่วยเรื่องการอยู่อาศัยได้มาก เช่น สวนหย่อมบริเวณชั้น  4, 7และดาดฟ้า ก็ที่ช่วยให้คนที่อาศัยอยู่ในห้องเล็กหน่อยได้มีที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่อัตราส่วนของที่จอดรถยังให้มาน้อยอัตราส่วน 25 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถ้ารวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 32 % สำหรับอัตราส่วนลิฟท์ไม่มากค่ะ โดยมีอัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยรวมทั้งโครงการ 63 : 1 เท่านั้น ระบบความปลอดภัยจะมีการใช้ Key Card ตั้งแต่ในส่วนของโถงลิฟท์ซึ่งเป็นลิฟท์แบบล็อกชั้นค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 76,000 บาท/ตร.ม.,26 Feb 2016

  • ทำเล 8.5/10 – ที่ตั้งอยู่ใกล้ถนนใหญ่และจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้า 30 ม.
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 – การจราจรเข้า-ออกเมืองค่อนข้างหนาแน่น และที่จอดรถในโครงการค่อนข้างน้อย
  • ไม่ใช้รถ 8.0/10 – เดินทางไปสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการ 30 ม. แต่ปัจจุบันรถไฟฟ้าเปิดบริการถึงแค่เตาปูน ต้องรอเชื่อมต่อกับบางซื่อในอนาคตถึงจะเข้าเมืองได้สะดวกสบาย
  • วัสดุ 7.75/10 – จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เมื่อเทียบกับราคาและคู่แข่ง
  • แบบ 7.5/10 – แบบห้องเป็นสัดส่วนดี แต่ห้องครัวยังอยู่รวมกับห้องนั่งเล่นซึ่งกลิ่นจากการทำอาหารจะฟุ้งไปทั่วห้องค่ะ
  • สาธารณูปโภค 7.0/10 – ให้พื้นที่ส่วนกลางมาหลายตำแหน่ง แต่มีขนาดเล็กทำให้ความน่าใช้งานน้อยค่ะ

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 7.83 / 10.00

BOTTOM LINE

Vio แคราย เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมเข้าอยู่ชานเมืองย่านรัตนาธิเบศร์ ที่ต้องการความสงบในพื้นที่แต่อยู่ไม่ห่างจากเมืองมาก ใช้รถไฟฟ้าที่จะเปิดใหม่เป็นหลัก เป็นคนรู้จักตัวเอง ซื้อของตามความต้องการไม่ใช่ตามตลาดที่เขานิยม สนใจเนื้อ Product มากกว่าชื่อยี่ห้อ มีงบประมาณระดับ 2.4-3.5ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 16,800-24,000บาท/เดือน

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )